เรื่องเด่น มีคนไทยเคยโดนมนุษย์ต่างดาวลักพาตัวไปทำการทดลองด้วยค่ะ(ใครว่ามีแต่ฝรั่ง) Update หน้า 8

การคุยกันผ่านโทรจิต เป็นยังไงครับ คล้ายกับที่ผมจะเล่าต่อไปนี้หรือเปล่า

มี พระ 2 รูป ลูกศิษกับอาจารย์ เหตุการณ์จำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มีเหตุการณื์หนึ่งที่ผมจำแม่นมากคือ ผมอยากให้พระอาจารย์ช่วยผมมากแต่ แต่ท่านให้พระที่เป็นลูกศิษท่านช่วยผม ท่านยืนห่างจากผมราว 30 เมตร มองมาที่ผม แล้วมีเสียงของท่านมาดังบนหัวผม หลังจากได้ได้ยิน ผมก็คุยโต้ท่านในหัวผมนั่นแหละ เป็นเสียงผมกับพระองค์นั้นสนทนากัน เสียงดังบนหัว ตอบโต้กันไปมา คุยกันเรื่องประมาณว่าให้ผมปล่อยวางเรื่องบนโลกบ้างการทำสมาธิถึงจะได้ผล จำแม่นเลย มีคำพูดหนึ่งบอกว่า ขนาดไม้ขีดไฟที่ติดไฟก้านเดียวทิ้งลงแม่น้ำผมยังโศกเลย แต่ไม่เศร้านะ (งงไหม) (มันคือความฝันครับ คืนก่อนนี้เอง)
ไม่ทราบว่าการโทรจิตมันคล้ายกับที่ผมเล่ามาหรือเปล่า เผื่อจะได้ฝึกให้เป็นชิ้นเป็นอันเลย อ้อแล้ววันนี้ก็มาอ่านเจอกระทู้นี้พอดีเลย มีเรื่องโทรจิต ผมเลยจัดหนัก อ่าน หมด 13 หน้าเลย

 

รออ่านด้วยคนค่ะ น่าสนใจมาก เคย มีประสบการณ์แปลกๆ เหมือนกัน เกี่ยวกับความเชื่อที่ว่าเวลาเป็นสิ่งไม่จริง เชื่อว่า มนุษย์ต่างดาวมีจริงและสามารถหยุดเวลาได้ และเขามาพาพวกเราบางคนไปจริงๆ แต่เขาสามารถที่จะลบความทรงจำของเราได้ และอาจทำให้คล้ายกับเป็นความฝัน แต่มันเป็นฝันที่แจ่มชัดและสะดุดใจมาก และหลายเรื่องที่ฝันบ่อยๆ ซ้ำๆ
ก็ได้เกิดขึ้นจริง เป็นความบังเอิญที่เกินจะคิดว่า แค่ บังเอิญ

 

เป็นโลหะชนิดไหนนี่เค้าไม่ได้บอกมานะครับ เค้าบอกแต่เพียงว่า ยานของเค้าทำด้วยโลหะพิเศษที่สร้างที่ดาวของเค้า

สำหรับสมาชิกใหม่ของกลุ่มที่ต้องการมียานเป็นของตนเอง ก็ต้องสร้างยานขึ้นมาเอง

โดยเค้าจะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ และมีเครื่องมือให้ ส่วนวัตถุดิบ ก้เป็นวัตถุดิบธรรมดาที่หาได้ในระแวกนี้

ตอนนั้นผมคุยเรื่องความเจริญของแต่ละยุค และเรื่อง ยานบิน ค้าก็พูดมาว่า

แนวคิดในการสร้างยานของพวกเค้า ต่างจาก แนวคิดในการสร้างยานของมนุษย์

อย่างรถที่มนุษย์ใช้ขับกันทุกวันนี้ ทั้งๆที่รู้ว่าน้ำมันเครื่องที่ใส่ลงไปในเครื่องยนต์ เป็นตัวต้านพลังงาน

ทำให้พลังงานสูญเสียไปเกือบ 30% แต่มนุษย์ก็ยังคงเติมน้ำมันเครื่องลงไปในเครื่องยนต์จนถึงทุกวันนี้

และการเติมพลังงานของรถที่มนุษย์ใช้ ถ้าใช้งานเป็นประจำ อย่างน้อยก็ต้องเติม 3 วันครั่ง

ซึ่งมนุษย์ น่าจะใช้พลังงานที่ใช้ได้นานกว่านี้ ไม่อย่างนั้นมนุษย์ก็ต้องวุ่นอยู่กับการหาพลังงานมาใส่เข้าไป

อย่างเช่นเฟืองในเครื่องยนต์ มนุษย์เลือกที่จะเอามันแช่อยู่ในสารหลอลื่นที่เป็นของเหลว

แต่พวกเค้าใช้วิธีการสร้างมันด้วยวัสดุที่มีความแข็งแกร่งสูง และผิวของมันจะใช้

โมเลกุลของสารหล่อลื่น แทรกเข้าไปในโมเลกุลของโลหะ เพื้อให้ผิวมีความลื่น โดยที่ไม่ใช้สารเหลวซึ่งทำให้เกิดแรงต้าน

เทคโนโลยีในปัจจุบันของเธอ(ในขณะนั้น)อาจจะยังทำไม้ได้แต่เธอสามารถใช้การเคลือบผิวด้วยวัสดุหล่อลื่นได้

อย่างเช่นเคลือบด้วย เทปล่อน อาจไม่แข็งแรงนัก แต่ด้วยเทคโนโลยีของเธอน่าจะทำได้

ผมเลยถามว่า เอาโมเลกุลของน้ำมันหล่อลื่นยัดลงไปในเหล็กอย่างนี้เหลอครับ

เค้าตอบว่า การใส่โมเลกุลของสารชนิดหนึ่งใส่ลงไปในโมเลกุลของสารอีกชนิดหนึ่ง

บางที่ก็ทำให้เกิดสารใหม่ที่ไม่มีคุณสมบัตที่ต้องการ อันนี้เธอต้องศึกษาเองว่า

อะไรใส่กับอะไรแล้วเป็นอย่างไร ส่วนเรื่องพลังงานขับเครื่อง เราใช้การสลายธาตุเป็นพลังงาน

จะได้พลังงานที่เพียงพอและใช้ไปได้พักหนึ่ง พอใกล้จะหมด เราก็มาช่วยกันหาแหล่งพลังงานกันทีหนึ่ง

(ผมจำไม่ได้ว่า 50 หรือ 500 ปี พวกเค้าจะจัดเตรียมการหาพลังงานหนึ่งครั้ง)

ผมเลยถามว่า อย่างนี้ยานก็แข็งแรงคงทนขนาดใช้งานได้ตลอดไปโดยไม่ต้องซ่อมเลยซิครับ

พวกเค้าตอบว่า พวกเรามีการแมนเทอร์แน้น เหมือนกันนานๆครั้ง โดยส่วนใหญ่ก็ทุกรอบการเปลี่ยนพลังงานใหม่

เราจะหาสถานที่ๆไม่มีใครมารบกวน แล้วเราจะถอดมันออกเป้นชิ้นเล็กๆทุกชิ้น

คลีน แล้วก้ประกอบมันเข้าไปใหม่เหมือนเดิม ก็มีบางชิ้นที่สึกหรอไปบ้างแต่ไม่มากนัก

พวกเราเห็นว่ามันยังสามารถทำงานได้ดี พวกเราก้ประกอบกับเข้าไป เพราะเราไม่สามารถหาวัสดุนั้นได้ที่นี่

และเราก็ไม่อยากใช้วัสดอื่นทดแทนมัน จริงๆตอนนี้พวกเธอก็เรียนรู้วิธิที่จะใช้พลังงานจากการสลายของธาตุแล้ว

ทำไม่พวกเธอถึงไม่ใช้มันกับพาหนะของพวกเธอละ ถ้าพวกเธอรู้วิธีการจัดการกับรังษี และจัดการกับกากของมัน

ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีนะ แต่ยุคของเธอเป็นยุคของ ทุนนิยม พวกเค้าเลยทำอะไรที่ต้องกลับไปหาผู้ทำมันขึ้นมาบ่อยๆ

แต่พวกเธอเลือกที่จะใช้พลังานฟอสซิล กันนิ ผมถาม ฟอสซิลที่เป็นกระดูกไดโนเสาร์เหลอครับ

มนุษยืต่างดาวผู้หญิงตอบว่า เค้าหมายความถึงพลังงานที่เกิดจากการทับถมของทรากพืช และสัตว์ เช่นถ่านหิน และ น้ำมัน

คนที่เป็นหัวหน้าก้พูดต่อว่า พลังงานฟอสซิลเป็นพลังงานที่ไม่สะอาด ซึ่งต่างจากพลังงานนิวเคลีย

ซึ่งเป็นพลังงานที่สอาดในความรู้สึกของพวกเรา ผมเลยถามว่า แต่มันมีรังษี ไม่ใชเหลอ

แล้วรังสีก็อันตรายมากไม่ใช่เหลอครับ เค้าตอบว่า ถ้าเธอรู้วิธีที่จะจัดการกับมันก้ถือว่าคุ่ม

สำหรับพวกเรารังสีไม่ใช่ปัญหา พวกเราสารมารถ ป้องกัน และ ล้างมันได้

แต่พลังงานฟอสซิล ซิถ้ามีการใช้มันมากๆอาจเกิดปัญหาขึ้นกับพวกเธอก็ได้

ผมถามว่า แล้วไม่มี พลังงานอื่นที่สอาด แล้วไม่มีรังสีเหลอครับ

เค้าตอบว่า เธอหมายถึงพลังงานจากแม่เหล้กของเธอนะเหลอ(ต้อนนั้นผมมีความคิดอยากสร้างพลังงานฟรีที่หมุนตลอดกาล)

ถ้าเธอมีการจัดการที่ดี ก็สามารถทำได้ แต่พลังงานที่ได้มันน้อยมาก มันจะไม่พอที่จะใช้นะซิ

ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เธอจะใช้พลังงานน้อยๆยังไงให้พอ แต่มันอยู่ที่ เธอจะควบคุมพลังงานมหาสารอยางไรไม่ให้เกิดปัญหามากกว่า

ผมเลยถามว่า แล้วพลังงานแสงอาทิตย์ละครับ เค้าตอบว่า มันให้พลังงานน้อยถ้าเทียบกับขนาดของมัน

ถ้าให้ขับเคลื่นธรรมดาก็พอจะทำได้ แต่ถ้าเป็นยานอย่างพวกเราพลังงานจะไม่พอ

มนุาญต่างดาวที่เป็นผู้หญิงก็พูดกับหัวหน้าเค้าว่า พวกนั้นเค้าใช้วิธีการนั้นอยู่นิ

คนเป็นหัวหน้าเลยบอกผมว่า มีบางพวกเค้าใชพลังงานจากดวงอาทิตย์ขับเคลื่อนยาน

แต่เค้าทำไม่เหมือนของเรา พอพลังงานเค้าใกล้หมด เค้าก็จะเอายานเข้าไปจอดใกล้ๆดวงอาทิตเพื่อชาตพลังงาน

แต่การเดินทางของพวกเค้า ต้องหาเส้นทางที่จะต้องผ่านดาวฤก ตลอดทั้งเส้นทาง

และมันเสียเวลามาก แต่สำหรับพวกเราไม่จำเป็น ที่จะต้องหาดาวฤกเป้นหลัก

(อันนี้ผมไม่ได้สนับสนุนให้มีพลังงานนิวเคลียในบ้านเรานะครับ แต่มันเป้นสิ่งที่ผมคุยกับพวกเค้า ณ เวลานั้น)


ส่วนเรื่องโนอาร์ ต้อนที่ผมคุยกับพวกเค้ามีดังนี้ครับ

พวกเค้าบอกว่า โนอาร์ คือเพื่อนที่ดีของพวกเค้า โนอาร์จะพยายามทำทุกอย่างที่พวกเราบอกให้ทำ

และเค้าจะทำความเค้ารบพวกเราทุกครั้งที่ได้พบกับพวกเรา โดยนั่งคุกเข้าลง

โนอาร์เค้ามีอายุยืนมาก ไม่ใช่เค้าคนเดียวนะที่มีอายุยืน แต่คนที่อยู่ในช่วงนั้นมีอายุยืนกันทุกคน

พวกเค้าค่อนข้างที่จะมีนิสัยดีกันทุกคน ยกเวนบางคน (หมายถึงคนอีกกลุ่มหนึ่ง)

จริงๆแล้วเราชอบพวกเค้ามากนะ พวกเราไม่ได้ต้องการให้เกิดเหตุการนั้นขึ้นเลย

ทั้งที่พวกเค้ามีอายุไขที่ยาวนานมาก แต่เทคโนโลยีของพวกเค้ากลับไม่พัฒนาขึ้นเลย

พวกเค้ายังคงดำรงชีวิตด้วยการเษตรกรรม จนถึงวันนั้น พวกเค้าไม่มีความสามารถแม่แต่จะเขียวแปลนมันขึ้นมาเอง

แต่พวกเค้าสามารถทำมันได้ถ้าเราต้องการให้พวกเค้าทำ ตอนนั้นเราได้มอบแบบเปลนกันพวกเค้าไป

โดยที่เราเขียนแปลนที่พวกเค้าจะสามารถทำได้ และกำหนดชนิดของไม้ที่จะทำ

ที่มีในบริเวณนั้น โดยให้มีความหนาอย่างน้อย 1 ฝ่ามือ แต่ฝ่ามือเค้าใหญ่มากนะถ้าเทียบกับมนุษย์ปัจจุบัน

พวกเค้าก้ทำมันตามที่เราบอกทุกอย่าง และเมื่อใกล้ถึงวันนั้น พวกเราก็นำพลังาน และ เครื่องยนต์ไปติดตั้งให้กับพวกเค้า

และเมื่อผ่านพ้นเหตุการนั้นไปแล้ว พวกเราก็ได้ถอดพลังงาน และเครื่องยนต์นั้นกลับคืน

ผมแลยถามว่าเป้นเครื่องยนต์สำหรับขับเคลื่อนใช่หรือเปล่า พวกเค้าตอบว่า

ขับเคลื่อนก็ใช่ด้วยส่วนหนึ่ง แต่โดยความจริงแล้วมันไม่ได้เคลื่อนไปไหนไกลหรอก ส่วนใหญ่จะเป็นในเรื่องของการฟอกอากาศ

และเครื่องช่วยในการดำรงค์ชีวิตซะมากกว่า จริงๆแล้วเรือที่พวกเค้าสร้างมันไม่ได้ลอยที่ผิวน้ำ

แต่มันลอยอยู่ใต้น้ำที่หน้าผิวดิน อาจมีกระแทกกลิ้งไปมาบ้าง แต่ก็ยังดีกว่าที่จะอยู่ผิวน้ำ

อยู่ใต้น้ำจะได้รับผลกระทบน้อยกว่า ผมเลยถามว่า ถ้าถึงเวลานั้นกับผม

ท่านก็จะนำแปลนมาให้ผมสร้างใช้ใหม พวกเค้าตอบว่า เธอมีความสามารถที่จะเขียนแปลนเองได้

ถ้าเธอจะทำ เธอก็สามารถใช้แปลนที่เธอเขียนเองได้เลย ส่วนเรื่องเตรื่องยนต์

ถ้าเธอต้องการเราจะนำมาติดตั้งให้ก่อนเหตุการจะเกิดซัก 1-2วัน แต่จริงๆแล้ว

ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปที่เธอจะทำเอง อย่างเครื่องฟอกอากาศ ก็ใช้ ...(ผมจำไม่ได้) กับน้ำปูน แล้วก็ให้อากาศผ่านลงไป

เท่านั้นเอง อาจจะมีกลิ่นอับหน่อย แต่ก้สามารถดำรง์ชีวิตอยู่ได้

ส่วนวัสดุที่ใช้ ในยุคของเธอวัสดุข้อนข้างดีกว่ายุคนั้นมาก เธอใช้วัสดุที่เธอใช้ทำงานในขณะนั้นก็ได้

ให้หนาซัก 1 นิวเป็นอย่างน้อยก็น่าจะสามารถทนทานต่อแรงกระแทกได้(ปัจจุบันผมมีการใช้งานวัสดุไฟเบอร์กลาส อัดแผ่นสำเร็จจากไต้หวันครับ

ดูแล้วถ้าผมจะสร้างเรือดำน้ำด้วย ไฟเบอร์กลาสหนา 1 นิ้วนี้ ผมคงมีเงินไม่พอที่จะทำมันแน่ๆเลย กำจริงๆ)

 

น่าจะหมือนกันนะครับ พระรูปนั้น ชื่ออะไรครับ เผื่อมีโอกาศ จะแวะไปกราบซักครั้งครับ

 

ปล.เรื่องเรือดำน้ำอีกนิด ผมจำคำพูดของเค้าไดเพิ่มอีกนิด

การอยู่ใต้น้ำเธอจะได้รับผลกระทบน้อยที่สุด แต่หากเธอต้องการที่จะอยู่ผิวน้ำ

นอกจากความปันป่วนของคลื่นที่จะกระแทกเธอแล้ว เธอยังจะพบกับความปั่นป่วนความวุ่นวายของมนุษย์อีกด้วย

แล้วเธอจะอยู่ได้เหลอในสภาพแบบนั้น ทางที่ดีคือ เธอควรจะปลีกตัวให้ห่างจากผู้คนจะดีกว่า ณ เวลานั้น

 

ผมสนใจเรื่องพลังงานทดแทน และ การสร้างยานพาหนะ มากเลยครับ
แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง 555

 

มนุษย์ต่างดาวที่คุณพูดถึงนี่ มันมีวิธีการติดต่อไหมอ่ะครับ วิธีที่จะติดต่อพวกเขาได้อ่ะครับ หรือไม่ก็วิธีที่จะเห็นพวกเขาอ่ะครับ ผมอยากเจอมาก

 

อ่านที่เขียนมาแล้วนึกถึงนาโนเทคโนโลยีเลย ซักวันอาจจะทำให้น้ำมันเครื่องสามารถไปเคลืบบางๆ ที่ผิวโลหะได้ก็ได้

ส่วนเรื่องนิวเคลีย ตอนนี้เรายังไม่มีวิธีที่จะรับมือกับรังสีและวิธีทำความสะอาดทำให้เวลาเอามาใช้ต้องพิจารณาดีๆ

พูดถึงเรื่องยานบินสมัยก่อน เคยเห็นกระทู้ที่เกี่ยวกับวิมานะที่ว่าเป็นอากาศยานโบราณ http://palungjit.org/threads/วิมานะ-อากาศยานโบราณ.8123/

เรื่องนี้ถ้าเป็นจริง ก็อาจจะเป็นเรื่องราวและเทคโนโลยีในยุคก่อนๆ ก็ได้

 

ดูเขาใจดีมากทีเดียว คอยช่วยเหลือมนุษย์ อยากเจอพวกเขาบ้าง

 

ติดตามค่ะ อยากเจอเหมือนกันค่ะ แต่คิดว่าเราคงไม่ใช่คนที่ถูกเลือก

 

จิ๊กซออีกตัวครับ...ใกล้แล้ว

 

ชอบกรัทู้นี้มากๆครับ .......................

 

พี่สาวเคยเล่าให้ฟังว่า เคยถูกมนุษย์ต่างดาวจับไปตอนนอนหลับ ฟังแล้ว ก๊ากกก...555 ทันที (ตอนนั้น ) อยู่ ๆ มาไม่นานพี่เริ่มแปลก ๆ พี่เขาสนใจเรื่องดูดวง ทำนายคนโน้นคนนี้ เริ่มสนใจไพ่ยิปซี้ เชื่อว่าตัวเองมีสัมผัสพิเศษ (แรกๆผมเองก็ขำๆ) จนปัจจุบันนี้เป็น หมอดูเต็มตัวแล้ว พี่แก่อยู่บ้านเฉย ๆ มีคนมาให้ดูตลอดไม่รู้มาจากไหนเยอะแยะ แรก ๆแก่ชอบเล่าให้ฟังเรื่องสัมผัสพิเศษของแก่บ่อย ๆ ตอนแรกก็ไม่สนใจ แต่อยู่ ๆ มาหลาย ๆ ปี เรื่องที่แก่บอกไว้ในอดีต เป็นอย่างที่แก่ว่าไว้หมด อึ้ง...ครับ นานเข้า ๆ ผมย้อนความคิดว่าแก่พูดอะไรไว้บ้าง และแก่รู้ได้อย่างไร ก็นึกได้ว่าแก่เคยเล่าว่ามนุษย์ต่างดาวลักพาตัวไป ....ความสงสัยจึงเกิดเลยไปถามแก่ พี่สาวบอกว่า
" เหตุเกิดที่ห้องเช่าตอนไปทำงานที่ สมุทรปราการ แก่นอนอยู่ดีๆ แก่ตื่นมาสลึมสลือเห็นคนสี่คนกำลังเดินตรวจร่างกายแก่อยู่ เหมือนกับที่ คุณแคมปัสบอก ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน แก่ขยับตัวไม่ได้ คนสี่คนนั้นก็เหมือนที่คุณแคมปัส เล่าเลย (ผมไม่ได้ถามแก่ว่าตอนนั้นแก่ได้คุยอะไรกับมนุษย์ต่างดาวหรือเปล่า เดี๋ยวเจอจะถาม) เป็นอย่างนี้หลายคืนแก่บอก เลยถามว่าแก่รู้ได้อย่างไรว่าเป็นมนุษย์ต่างดาว แก่บอกแก่เคยอ่านในหนังสือ แล้วแก่ก็มารู้ทีหลังว่า ถ้าแก่นอนตรงทีเดิมที่แก่นอนจะโดนเอาตัวไปตลอด วันหนึ่งแก่พิสูจน์ว่าฝันหรือเปล่า แก่นอนที่เดิม แต่พยายามไม่ให้หลับ พอแก่เคลิ้ม ๆ แก่บอกว่าเหมือนมีอะไรดูดให้ตัวแก่ลอยขึ้น (แล้ว........จำไม่ได้ว่าแก่เล่าอะไรต่อ) วันหลังแก่เลยไม่นอนตรงนั้นอีกเลย ผลคือก็ไม่โดนเอาตัวไปอีก (อันนี้คิดเองว่า...แก่ไม่รู้ตัวหรือเปล่า) ตั้งแต่นั้นมา แก่เริ่มมีสัมผัสพิเศษเรื่อย ๆ แก่บอกว่ามันรู้เอง ถ้าเขาให้รู้มันจะรู้เอง แต่แก่ก็บอกว่าไม่ได้รู้ทุกอย่าง แต่สมมติว่าจะเกิดเหตุอะไรขึ้นบางเรื่องแก่จะรู้ล่วงหน้า และขอบอกแก่ดูหมอแม่นมาก ๆ ส่วนตัวผมเองเคยให้แก่ดู แต่แก่บอกว่าพี่น้องกันจิตมันไม่ว่าง ถ้ารู้อะไรแก่จะพูดมาเองโดยไม่ต้องถาม ปัจจุบันนี้แก่เลยเป็นหมอดูโดยปริยาย (ผมเลยคาดการณ์เพราะเหตุนี้แก่จึงมีสัมผัสพิเศษ...แต่ดูเหมือนแก่จะไม่รู้ตัว..อันนี้คิดเอง) ใครอ่านแล้วเชื่อหรือไม่ ไม่รู้ ส่วนตัว 99.9% (แต่ที่อยากรู้จริง ๆ คือเรื่องมนุษย์ต่างดาว เดี๋ยวเจอตัวจะถามให้หายสงสัย ตอนนี้ทำงานคนละที่กัน แล้วจะมาอัพเดท ครับ)

ปล. แก่บอกด้วยว่ามีคนรู้เรื่องด้วยว่าแก่ถูกลักพาตัวไป และมีคนกลุ่มหนึ่งพยายามติดต่อแก่ให้ไปร่วมขบวนการอะไรไม่รู้ แต่แก่ตอบปฏิเสธไป แก่กลัวไม่ได้กลับมา

 

เท่าที่ดูคำถามจากผู้ที่เข้ามาถาม เห้นมีบางท่าน บอกว่าอาจเคยมีประสบการคอนแท็กมาแล้ว

เท่าที่ผมดู เคสของพี่สาว ของคุณนี่ น่าจะเป็นเคสที่ใกล้เคียงกับผมมากเลยครับ

อาจเป็น มนุษย์ต่างดาวกลุ่มเดียวกัน หรืออาจจะเป็นยานลำเดียวกัยเลยก็ได้ ถ้าได้ข้อมูลเพิ่มเติม

เมื่อ 1-2 อาทิตย์ มานี้เหมือนจะมีแผลเป็นบางๆเกิดที่หลังแขนขวาของผม

ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าเกิดขึ้นมาได้ยังไง ไม่ใช่แผลสด แต่เป็นเหมือนเสก็ดแผลใส่บางๆ

เป็นขีดๆ ถ้าคุณได้พบกับพี่สาวลองขอดูที่หลังแขนด้านขวาดูนะครับ ว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า

ถ้ามีให้ถ่ายรูปไว้ แล้วเดียวเรามาเปิดรูปพร้อมกันครับ ถ้าใช่อย่างที่ผมคิดละก็...

 

แล้วคุณแคมปัสจะติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้อีกเมื่อไหร่ครับ

ขอทราบได้ไหม

 

คุณแคมปัสคับ คุณคุยกับมนุษย์ต่างดาวอย่างไร และใช้ภาษาอะไรในการสื่อสารกันคับ อยากทราบมากเลย ขอบคุณครับ

 

ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้ามาโพสต์เท่าไหร่ (แต่แอบอ่านทุกอัน)ขอบคุณสำหรับแบ่งปันประสบการณ์ของเพื่อนๆในนี้ทุกคนนะคะ แล้วที่สำคัญเมื่อคืนก็ฝันแปลกประหลาดเหมือนกัน ลองอ่านกันดูนะคะ เมื่อวานค่ำๆรู้สึกว่าตัวเองง่วงมากทั้งๆที่เมื่อคืนก่อนก็ไม่ได้นอนดึกหรืออดหลับอดนอนอะไรเลย พอซัก 3 ทุ่มก็เข้านอนละแล้วฝันไปว่ามีหมอผู้ชายตัวสูงๆผอมๆกับผู้ช่วยผู้หญิงอีก2คนจะพาเราไปผ่าตัดหรือทำอะไรซักอย่างนี่แล่ะ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไร(แต่รู้สึกว่าเหมือนกับจะช่วยนะ)ก็เข็นเราไปในห้องโล่งๆโปร่งๆแล้วก็เหมือนกับจะทำให้เราสลบก่อนแล้วจะทำน่ะ ในฝันกลุ่มนั้นก็จับเรานอนตะแคงซ้ายแล้วใช้คล้ายๆไขควงแบนๆเปิดเนื้อด้านสะโพกซ้ายเพื่อเอาอะไรซักอย่างเข้าไปให้เราหลับน่ะ แต่เราก็ไม่หลับมันรู้สึกเหมือนเป็นเหน็บชาที่หน้า เราก็บอกเขาไปว่าเรารู้สึกชาๆที่หน้า พวกผู้ช่วยเขาก็บอกว่าสงสัยแบบนี้คงไม่ได้ผลเพราะมันเป็นปฎิกิริยาที่บ่งบอกว่ายาใช้ไม่ได้ผล ต้องใช้ฉีดเข้าไป คือส่วนตัวแล้วเป็นคนกลัวเข็มมาก ก็บอกผู้ช่วยไปว่าช่วยเบาๆด้วยนะ แต่ที่ไหนได้หมอคนนั้นเขาก็จิ้มตอนเราเผลอ แต่ก็ไม่เจ็บนะแล้วก็รู้สึกว่าง่วงมากๆ แต่ก็ไม่หลับซะที มันเคลิ้มๆอยู่ พวกนั้นก็เหมือนจะรอให้เราหลับแล้วเขาก็คงแปลกใจว่าทำไมเราถึงไม่ยอมหลับซักที หมอคนนั้นก็เข้ามาใกล้เรา แล้วก็มองเห็นป้ายชื่อเขา ชื่อ "ฐนา" ตอนนั้นไม่รู้หรอกว่าฝัน รู้แต่ว่ามันง่วงนอนมากๆทำไมตัวเองไม่ยอมหลับซักที แล้วก็สะดุ้งตื่นก็ัยังงงว่าฝันไปเหรอเนี่ยะ แต่ที่สำคัญพอสะดุ้งตื่นมันไม่ได้เหมือนตื่นทั่วไป มันเหมือนกับตัวเองยังไม่ได้นอนหลับเลยน่ะ งง

 

ขอบคุณมากครับสำหรับเรื่องที่เล่าให้ฟังประสพการณ์ให้ฟังครับ................

 

ถามเลยครับ ถ้ารู้จะตอบครับ ถ้าไม่รู้ก็จะบอกไม่รู้ครับ