พระเนื้อขาว กระทู้เปิดตำนานหลวงปู่ทิม ฯ

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

"ให้เราคิดถึงครูบาอาจารย์ว่าเป็นผู้มีคุณค่าอยู่บนหัวใจ
หรืออยู่บนกระหม่อมจอมขวัญของเราเสมอ
อย่าได้ลืม อย่าได้ลบหลู่ดูหมิ่น
เราจะเป็นผู้เจริญในอนาคต"

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ penicillin2 อ่านข้อความ
สวัสดีครับทุกท่าน ผมขอรบกวนหน่อยนะครับ ผมอยากขอคำอาราธนาสำหรับพระเครื่อง ลูกอม พี่เสือ ของหลวงปู่ทิม หน่อยครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมว่าน่าจะพิมพ์ไว้ที่หน้าแรกด้วยนะครับ รบกวนทุกๆท่านด้วยนะครับ
ขอบพระคุณมากครับ
จริงๆแล้ววัตถุมงคลของหลวงปู่ทิมท่านไม่ค่อยเน้นอะไรมากในเรื่องของคาถา อยู่ที่จิตของเราในการอาราธนาเพื่อให้คุ้มครองไปในด้านใด หรือการมีจิตที่เรามุ่งเน้นไปแบบใด พระก็จะช่วยเสริมไปในด้านนั้น จากคำบอกเล่าจากผู้ที่นำไปใช้กัน สิ่งที่สำคัญมากคือจิตที่ศรัทธาครับ

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่



ขุนแผนเนื้อกระเบื้องโบสถ์อีกหนึ่งเนื้อหาในการสร้างทำ ซึ่งมันคงทำกันไปในแต่ละครั้งที่ไม่ได้กำหนดกฎเกณฑ์ของเนื้อหา ขุนแผนองค์นี้คงน่าจะเน้นเนื้อหาที่แก่ผงของหลวงปู่ทิมท่าน ซึ่งทุกองค์นั้นจะมีเนื้อหาของกระเบื้องโบสถ์ที่ผสมทำทุกองค์แล้วแต่มากน้อยคลุกเคล้ากันไป ลองสังเกตุดูความเก่าของเนื้อหาที่มีอายุการสร้างกว่า 43ปีมาแล้วกันนะครับ

 

สวัสดีครับ พี่ๆทุกท่าน. ขุนแผนเนื้อกระเบื้อง ดูคล้ายพระที่เค้าเรียกกันว่าพระพิมพ์กลีบบัวเลยครับ

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

พระขุนแผนเนื้อผสมกระเบื้องโบสถ์นี้ เป็นพระที่ถอดพิมพ์มาจากพระขุนแผนสุพรรณ มองดูลักษณะก็คล้ายๆพิมพ์กลีบบัวเช่นกัน ส่วนอานุภาพหลวงปู่ทิมท่านได้เอ่ยกล่าวกับนายสาย ไวยาวัจกรของวัดและลูกศิษย์ลูกหายุคเก่าที่อยู่ที่วัดว่า กระเบื้องโบสถ์ไม้เก่านี้เป็นของสูง อาจเป็นได้ที่มีเทวดาร่วมสร้างกาลในครั้งนี้ หลวงปู่ท่านจึงมีเจตนาให้สร้างพระชุดดังกล่าวขึ้นมา

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ แก้วสว่าง อ่านข้อความ
จริงๆแล้วเรื่องราวการทำเก๊หรือการอุปโลกน์วัตถุมงคลต่างๆนั้นมันมีเรื่องราวอีกหลายประเด็นที่ทำจนบางรุ่นมีการเล่นหาจนมีราคาแพง และถ้าคนที่ไม่เคยสัมผัสกันจริงๆคงจะอยากแก่ความเข้าใจ เพราะมันลื่นไหลกันไปแล้ว โดยเฉพาะพระขุนแผนที่ผมเข้าใจว่าบางท่านอาจจะงงกับพระที่เห็น และบางท่านคงอาจไม่เชื่อคิดว่าทำเก๊กันมาทีหลัง และมีบางท่านที่เชื่อเพราะ รู้ว่าพระที่เล่นหากันในทุกวันนี้มันก็ไม่ใช่ของจริง เพราะไม่มีใครยืนยันว่าเป็นของเดิมที่สร้างกันมา เพราะต่างก็ไม่มีใครอยู่ในเหตุการณ์การทำ เราเคยเห็นกันไหมจากคนที่เคยรับพระกับมือหลวงปู่ทิมว่ารูปแบบมันเหมือนกับที่เคยเห็นกันในทุกวันนี้หรือปล่าว ! คุณเชื่อกันไหมว่าข้อมูลจริงนั้นถูกปกปิดซ่อนเงื่อนไว้ ให้จำแต่ข้อมูลที่แต่งประโยคกันไปเพื่อการค้าขาย ....
จริงๆแล้วพระขุนแผนนั้นเป็นเรื่องที่ต้องศึกษากันให้ลึกและเข้าใจ ถ้าคิดจะเล่นหา จากเมื่อก่อนที่ผมเคยถือในวงการที่เล่นหากันมาก่อน เพราะยังงัยก็ต้องเอาตามหนังสือที่เขาลงกันไว้นั่น แต่พอได้ศึกษาจากบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์จริง ก็พอจะทราบเรื่องราวอย่างชัดแจ้ง ว่าเรื่องราวมันเป็นเช่นนี้เอง เหตุเพราะทำไมไม่เอาของจริงๆมาเล่น แต่เอาของเก๊มาเล่นกันจนเป็นที่ยอมรับ เพราะของจริงนั้นมันไม่เตะตา หรืออาจจะไม่สวยเอาซะเลย เล่นของเก๊ๆมันซื้อขายกันง่ายกว่า แล้วใครจะไปรู้เล่าว่าที่เล่นๆมันมีราคาแพงกันขึ้นมาในยุคปัจจุบัน เมื่อก่อนนี้ผมเองตอนเข้ามาใหม่ๆก็อยากจะหาขุนแผนที่เขาเล่นหาเหมือนกับในหนังสือ แต่เมื่อได้สัมผัสกับเรื่องราวมานานพอควร โอโฮ..มันเล่นกันแบบไหนกันดี ในเมื่อของจริงมันถูกกลบเกลื่อนไปแล้ว โดนวาระของการครอบงำข้อมูลที่ตั้งขึ้นมาใหม่ จนถกเถียงกันยังงัยก็ไม่จบสิ้นเพราะไม่มีใครกล้าชี้ขาดได้เพราะราคามันมั่นหมายไปแล้ว ผมได้คลุคลีอยู่กับโยมสายซึ่งถือว่าเป็นบุคคลที่ทราบข้อมูลเรื่องราวหลวงปู่ทิมมากที่สุด เพราะความเป็นศิษย์ใกล้ชิดและหลวงปู่ทิมท่านก็ไว้ใจแต่งตั้งให้เป็นไวยาวัจกรคนแรกและคนเดียวของวัดละหารไร่ คงตั้งแต่เริ่มตั้งวัดมา ซึ่งเรื่องราวความจริงนั้นมันยังมีอีกมากมายกับประเด็นที่สำคัญในยุคก่อน

ในยุคสมัยนั้นวัตถุมงคลของหลวงปู่ทิมนั้น ยังไม่มีราคา อาจจะมีแต่ราคาบูชามาจากวัด ยังไม่ค่อยมีการร้องเรียกหาใดๆในวงการ ยิ่งถ้าจะนับว่ากันด้วยเรื่องของขุนแผนแล้วยังไม่มีค่าเลย เอาแค่ในช่วงวินาทีสุดท้ายที่หลวงปู่จากโลกนี้ไป พระขุนแผนที่อยู่ในปิ๊ปโอเล่ให้ใครยังไม่มีใครอยากเข้าไปแย่งกันเลยเพราะยังไม่ดังและก็ไม่มีราคา แจกกันเป็นกำๆเลยคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนนั้นจะทราบดี โยมสายเป็นคนหยิบแจกให้คนละกำๆมือ เท่าที่จำได้มีหลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ หลวงพ่อติ๊ด วัดหนองสะพาน หลวงพ่อเสริฐ วัดเชิงเนิน นอกนั้นก็เป็นลูกศิษย์ลูกหาใกล้ชิดจะได้กันไปบ้าง แต่ละท่านจะได้รับอย่างละกำมือ ซึ่งมันก็หลายองค์อยู่เหมือนกัน แต่จะเป็นพิมพ์เล็กทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันหลวงพ่อต่างๆที่ได้รับก็มรณภาพกันไปแล้วทั้งหมด อาจจะตกอยู่ลูกหลานหรือลูกศิษย์ใกล้ชิดได้รับกันไป จะเห็นว่าสมัยนั้นแทบจะไม่มีราคาเลย อีกอย่างพระขุนแผนที่ทำมานั้นก็มากมาย แค่ครั้งที่นายครอกทำก็มากมายแล้ว มากขนาดลือกันว่าทางวัดรับไม่ไหว ครั้งที่นายครอกทำน่าจะเป็นในรุ่นเกือบจะท้ายๆแล้ว ซึ่งแท้จริงยังไงก็คงไม่มีใครทราบได้ เพราะคนที่อยู่ในเหตุการณ์การทำจริงก็ตายกันไปหมดแล้ว มีแต่ข้อมูลกับลูกศิษย์ยุคหลังที่คาดคะเนกันไป

ขุนแผนที่ถกเถียงกันไม่จบสิ้นนั้น ต่างคงคิดว่าแม่พิมพ์ยังอยู่ ด้วยเหตุผลที่บางคนคิดกันแค่นั้นหรือ กับเหตุการณ์ที่หลวงปู่ทิมท่านมรณภาพไปได้ไม่กี่ปีดี เมื่อมีคนถามหาอย่างเป็นราคา ถึงจะยังไม่มากมายเท่าไหร่ จากนั้นก็กำเนิดขึ้นมาด้วยเนื้อหาที่มันแปลกไปกว่าเดิม คือ แล่มกว่ามาก แต่อาจจะยังไม่ถูกใจ ต้องแต่งสรรขึ้นไปอีกหลายแบบอย่าง จนสับสนรุ่นว่าทำไมมันมีหลายแบบอย่างหาข้อยุติไม่ได้ ถามว่าเหตุการณ์จริงในตอนที่ทำปลอมมาขายนี้มีใครทราบรายละเอียดที่ชัดเจนบ้างในแต่ละครั้ง มีแต่คำร่ำลือแบบไม่รู้ความจริงว่าที่แท้มันเป็นเช่นใดกัน ถ้าปัจจุบันเซียนจุกแกยังมีชีวิตอยู่คงได้คำตอบที่คงไม่มีใครอยากหาขุนแผนมาคล้องคอกันเลยล่ะ ถ้าจะเอาตัวอย่างขุนแผนมาลงให้ดูเป็นตัวอย่างกัน ดูอย่างขนาดเฮีย จ ศิษย์ที่ว่าใกล้ชิดแกยังไม่เล่นหรือกล้าเขียนเรื่องราวขุนแผนเลยเพราะเหตุใด ถ้าตนเองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นี้ด้วย จริงหรือไม่! คนระยองเขาทราบดี

 

ช่วงนี้ไม่เห็นน้าต๋อยเข้ามาเลยครับ

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

 

ช่วงนี้ยุ่งๆ นิดหน่อยครับ อาทิตย์นี้จะนำ
พระขุนแผนกระเบื้องโบสถ์ กับพระปิดตา
มาลงในกระทู้ เดี๋ยวจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าครับ

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่



อีกแบบเนื้อหาหนึ่งของพระเนื้อขาวผสมมวลสารกระเบื้อโบสถ์ ในพิมพ์พระขุนแผนสุพรรณ หนึ่งในตำนานของวัดละหารไร่ที่สร้างมาครั้งเดียวไม่มีการตกแต่งแม่พิมพ์ใดๆทั้งสิ้น เพราะใช้วิธีการถอดแม่พิมพ์ขึ้นมาเท่านั้น องค์พระที่เห็นจึงไม่ค่อยชัดเจนกันเท่าไหร่ในเรื่องของรายละเอียด

 

น้า มีทีเด็ดอะไรที่ทำให้หายเหนื่อยมั๊ยครับ
(ไม่ยกเว้นพิมพ์นิยมนะครับ 555555)

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่



ขุนแผนรุ่นผสมเนื้อกระเบื้องโบสถ์ องค์นี้ถือว่าแก่มวลสารของกระเบื้องซึ่งมีทั้งสีแดง สีอิฐ และสีอมเหลืองๆ ในลักษณะการผสมทำที่แตกต่างกันไปในแต่ละครั้งการทำ แต่องค์นี้เนื้อพระจะกะเบาะง่าย ด้วยอายุการสร้างมานาน ประกอบกับตัวประสานเนื้อพระไม่มีกาวเป็นส่วนผสม จึงทำให้พระอาจจะไม่มีความคงทนเหมือนกับในยุคสมัยนี้

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

"พระก็มาจากคน มีเนื้อมีหนังเหมือนกัน คนก็เจ็บป่วยได้ พระก็เจ็บป่วยได้
สุดท้ายก็คือ ตาย ได้มาเห็นอย่างนี้แล้วก็จงพากันนำไปพิจารณา
เกิดมาแล้ว ก็แก่ เจ็บ ตาย แต่ก่อนจะตาย ทานยังไม่มีก็ให้มีเสีย
ศีลยังไม่เคยรักษาก็รักษาเสีย ภาวนายังไม่เคยเจริญ ก็เจริญให้พอเสีย
จะได้ไม่เสียทีที่ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา ด้วยความไม่ประมาท นั้นละจึงจะสมกับที่ได้เกิดมาเป็นคน"

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

วิชาผงพรายกุมาร ตามตำนานอาจจะถือว่าเป็นวิชาอาถรรพ์อย่างหนึ่งที่กล่าวขานกันมา แต่ในเรื่องราวความเป็นจริงหลวงปู่ทิมท่านได้แต่ใดหรือเรียนมากับอาจารย์ท่านใดนั้นไม่มีใครทราบได้เลย จะกล่าวว่าเรียนมาจากตำราหลวงปู่สังข์เฒ่าก็คงจะยากแก่การพิสูจน์เพราะไม่มีหลักฐานการบ่งบอก จะกล่าวว่าท่านได้ไปตอนสมัยธุดงค์แล้วแลกเปลี่ยนวิชากันก็อาจจะเป็นได้กัน หรืออาจจะได้ศึกษากับฆราวาสสาย อาจารย์ของหลวงปู่ที่อยู่ทางบ้านส้อง พนมสารคาม ซึ่งเป็นตำราสายเขมรที่ลื่อชื่อทางนี้ก็อาจจะเป็นได้กันทั้งนั้น ซึ่งโดยทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ได้แต่เพียงวิเคราะห์ตามรูปการณ์เท่านั้น

เราจะเห็นว่าลูกศิษย์ที่เขียนเล่ากันมาตามรูปแบบนั้น ถ้าโดยตามหลักความเป็นจริงวิชาผงพรายกุมารมันอาจจะมีส่วนผสมของผงพรายตามสูตรแขนงหนึ่ง ด้วยอานุภาพที่เห็นชัดอย่างมีเหตุผลและประสบการณ์ แต่ถ้ากล่าวตามหลักเชิงลึกอย่างมีเหตุผลที่สมประกอบนั้นมันอาจจะไม่ใช่อานุภาพของผงพรายที่ต้องไปพลีเอา แต่ด้วยเป็นวิชาอย่างหนึ่งที่มีอานุภาพคุณวิเศษอันเปรียบเหมือน จะด้วยการพิสูจน์หลักฐานที่ชัดเจนไม่ได้กับผงพรายทั้งๆที่มีประสบการณ์อย่างเป็นเอกอุ จนเป็นความเชื่อกันในทุกวันนี้

เคยมีเรื่องราวการเขียนถึงการสร้างมีดหมอของหลวงปู่ทิมในคราวว่าสร้างกัน 5 เล่ม โดยบอกว่าสร้างกันเป็นครั้งแรกเลย และบอกว่าหลวงปู่ทิมท่านพยายามศึกษาตำราการสร้าง “ผงพรายกุมาร” ด้วยความสนใจเป็นอย่างยิ่งว่าต้องทำได้ในวิชานี้ แต่ไม่มีโอกาสได้ทดลอง จนถึงปีพ.ศ.2489 หลวงปู่ท่านสร้างสร้างมีดหมอเพื่อให้ลูกศิษย์นำไปใช้ติดตัวในพิธีไสยศาสตร์ หลวงปู่ท่านจึงให้หมอเปี่ยม หมอทัต หมอแหยม ลูกศิษย์ยุคแรก เดินทางไปวัดแม่น้ำคู้เพื่อไปผ่าท้องผู้หญิงตายท้องกลม โดยจัดเครื่องเซ่นสังเวยให้นายป่าช้าและผีตายท้องกลมกิน หลังจากนั้นก็ทำพิธีกรีดท้องศพเจาะเอากะโหลกเด็กพร้อมทั้งเส้นผมจำนวนหนึ่ง หลังจากที่ได้มาหลวงปู่ท่านปลุกเสกหัวกระโหลกและเส้นผมเพื่อบรรจุในด้ามมีดหมอที่จะใช้ในการสร้างทำ

ซึ่งเรื่องราวเช่นนี้จะเห็นว่าผู้เขียนเองคงทราบดีว่าเป็นเรื่องราวที่แต่งประโยคกันขึ้นมาเอง ไม่มีมูลเหตุความจริงใดๆ ซึ่งโดยตามความเป็นจริงแล้วการทำมีดหมอทั้งห้าเล่มที่ว่านี้ก็ไม่มีเคยมีเหตุการณ์ปรากฏมาก่อนเลย เพราะไม่มีหลักฐานจากมีดหมอที่เคยเห็น ส่วนใหญ่จะเป็นมีดเก่าๆเท่านั้นที่เห็น และแม้กระทั่งตัวหมอทัต และหมอเปี่ยมก็ไม่เคยมีมีดหมออย่างที่ว่ากันเลย จะเป็นมีดที่ทำมาเองแล้วเอามาให้หลวงปู่ท่านลงอาคมให้เท่านั้น จากหลักฐานจริงที่ปรากฏและคำยืนยันจากลูกหลานของแต่ละท่านที่อายุก็มากกันแล้ว

เรื่องราวการสร้างมีดหมอนี้นายสาย แก้วสว่าง ท่านเคยกล่าวไว้เหมือนกันว่า ตั้งแต่อยู่กับหลวงปู่มานาน หลวงปู่ท่านไม่เคยมีดำหริสร้างมาก่อนเลย จะมีก็ทำกันเองแล้วเอามาลงเท่านั้น เราลองคิดดูว่าผู้เขียนทราบถึงขนาดรู้ปีพ.ศ.2489 ซึ่งมันก็ไม่มีใครทันเหตุการณ์เลยแม้แต่โยมสายเอง เรื่องแค่นี้เราก็คงน่าจะคิดออกกัน ไม่ว่าหัวกะโหลกหรือส้นผมพรายที่ว่ามันจะมีอย่างเช่นที่กล่าวกันเช่นนั้นหรือ!ถ้าไม่อุปโลกน์กันขึ้นมา เพราะในยุคนั้นไม่เคยมีใครกล่าวอ้างถึงผงพรายในการกระทำเรื่องราวอะไรกันเลย แต่ก่อนนี้ชาวบ้านจะทราบกันเพียงว่าหลวงปู่ทิมท่านเป็นพระหมอที่มีชื่อเสียง ส่วนใหญ่ท่านจะถ่ายทอดวิชาให้กับลูกศิษย์ลูกหาในเรื่องของการแพทย์แผนโบราณกันซะส่วนใหญ่ตามหลักฐานคำบอกเล่าของลูกหลานและชาวบ้านที่ทันต่อเหตุการณ์

คนที่คลุกคลีอยู่กับหลวงปู่ทิมจริงๆจะทราบว่า ในยุคแต่ก่อนนี้หรือในช่วงที่ทันต่อเหตุการณ์หลวงปู่ท่านก็ไม่ได้ใช้มีดหมออย่างที่ร่ำลืออะไรกันมาก หนังสือบางเล่มก็เขียนลือกันไปว่าหลวงปู่ได้มอบมีดหมอให้แก่ลูกศิษย์ไปกรีดท้องเอากะโหลกเด็กมาทำผงพราย ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวถ้าเรานำมาเป็นบทคิดอย่างวิเคราะห์คงจะทราบว่า หลวงปู่ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอย่างเคร่งครัด ก็คงไม่ทำแบบนั้นแน่ เพราะมันขัดต่อศีลที่พึงปฏิบัติไว้ แต่ถ้าจะกล่าวเป็นเรื่องราวการเอาผงพรายที่ต้องพลีนั้นก็คงจะหาประจักษ์หลักฐานยากเพราะไม่มีใครเห็นจริง อาจจะเพียงแค่ทราบกันเท่านั้น

อันเรื่องราวของมีดหมอที่สร้างกันจริงๆก็คงจะมีเพียงรุ่นเดียวที่เป็นมาตรฐานการยอมรับคือรุ่นไหว้ครูเมื่อปีพ.ศ.2518 ซึ่งก่อนๆนั้นมันก็มีแบบไม่มาตราฐานใดๆอยู่ที่ความเชื่อกันเท่านั้น ภายหลังก็ได้มีการทำมีดหมอในหลากหลายรูปแบบซึ่งมีทั้งอุดผงหรือธรรมดาก็ว่ากันไปในแบบการเสริมหรือการปลอมแปลง จะเห็นว่าเครื่องรางต่างๆของหลวงปู่ทิมไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเล่นหา อยู่ที่ความเชื่อและความเข้าใจอย่างมีเหตุผลโดยเฉพาะข้อมูลที่เขียนกล่าวอ้างกันขึ้นมา

 

น้อมกราบนมัสการหลวงปู่ทิม กราบลุงสายด้วยความเคารพยิ่ง
สวัสดีครับพี่โมทย์ พี่ัรัก พี่โต้ง น้าต๋อย และพี่ๆน้องๆ ลูกหลานหลวงปู่ทุกๆท่านครับ
นานมากแล้วไม่ได้เข้ามาทักทาย เนื่องจากติดภารกิจการงาน(เยอะ)แต่ก็ติดตามอยู่
เนืองๆ แต่ก็ตกขบวนเยอะเหมือนกันนะเนี่ย ขอทุกท่านรวย ๆ ไม่เจ็บ ไม่จนครับ
อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยขอทุกท่านรักษาสุขภาพด้วยนะครับ

 

เราคือใคร ทำไฉน ไม่ฉงน รู้ว่าตน เป็นเพียงคน เท่านั้นหรือ อย่างนั้นเรา ก็ไม่ต่าง จากกระบือ เพราะรู้ชื่อ และรู้แซ่ แล้วแก่ตาย จริงแล้วควร รู้แจ้งใจ ให้ถ่องแท้ จิตแน่วแน่ ทำหน้าที่ ที่มีได้ สร้างบารมี กำจัดทุกข์ ทุกวันไป วันหนึ่งไซร้ พ้นวัฎฎะ ชนะมาร

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

กฎแห่งกรรม ธรรมชาติ อำนาจใหญ่ ... สัตว์เป็นไป ตามกรรม งาม-ขัดเขิน
วิบากกรรม นำสุข ทุกข์เผชิญ ... ไม่ขาด-เกิน อย่าเพลินหลง ธำรงธรรม

ศีลรักษา วาจา-กาย ให้สะอาด ... ประสาธน์ สมาธิ สติล้ำ
ประเสริฐสาน เปิดปัญญา พิจารณาธรรม ... เห็นเงื่อนงำ จริงสัจจ์ อัธยาย์

สัตว์เวียนว่าย ในวัฏ ฏสงสาร ... ทรมาน เพราะบุพเพ กิเลสา
เกิด-เจ็บ-ตาย ไม่สุดสิ้น จินตนา ... เพราะตัณหา อุปาทาน มั่นจิตใจ

มรรคสูงส่ง มีองค์ ๘ แวดวิถี ... สัมมาทิฏฐี ปฐมบท กำหนดใส
มุ่งนิพพาน มั่นตรง จรรโลงไตร ... หยุดเวียนวัย ตาย-เกิด ประเสริฐมี

ศีลธรรม จำนง อลงกต ... กรรมหมดจด หมดมลทิน บดินทร์ศรี
สร้างศรัทธา สาธุชน เป็นคนดี ... พร้อมวิถี สันติสุข พ้นทุกข์เทอญ ฯ

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เด็ก น้อย อ่านข้อความ
ตามอ่านมาสักพักรู้แล้วเฮีย จ. คือใคร
เสียความรู้สึกเล็กน้อย ผมตามอ่านข้อมูลของเฮีย จ.ตลอดจนอยากไป. พิพิธภัณฑ์เพื่อศึกษาเลยทีเดียว
สุดท้ายขอสอบถามเรื่องลูกอมเทียนมันทรี ตกลงมีจริงหรือเปล่าครับ,ถ้ามีมีประมาณเท่าไหร
วิธีสร้างปลุกเสกจริงตามที่ข้อมูลแพร่หลายในปัจจุบันหรือเปล่าครับ๘
เฮีย.จ เป็นคนหน้าเชื่อถือมากด้วยสภาพแวดล้อมที่อลังกาลในปัจจุบัน สร้างถาวรวัตถุใหญ่โต สร้างพระเครื่อมีลูกศิษย์ก็หลายคนงานประกวดพระเครื่องก็เชิญ.ตกลงคนเรานี้ดูยากจริงๆนะครับ
ลูกอมเทียนมัทรีเป็นเครื่องรางอีกชนิดหนึ่งที่เล่นหากันยาก ด้วยข้อมูลที่ขัดแย้งความจริงหรือการสร้างข้อมูลขึ้นมาเพื่อการซื้อขายไปแบบสับสนหาที่จบลงไม่ได้ เพราะทุกวันนี้เรื่อราวต่างๆนั้นต้องมีเหตุผลอันควรที่พอจะให้เชื่อถือได้กัน เพราะอย่างน้อยต้องมีคนรับรู้รับเห็นกันบ้างในเรื่องราวที่มันเป็นจริง ไม่ได้ประกอบกันขึ้นมาเองด้วยจุดประสงค์กับผลประโยชน์ของตัวเอง หรือใครหลายๆคนที่จงใจสร้างทำมาขาย

จริงๆแล้วลูกอมเทียนมัทรีจะเล่นแค่จำกัดในวงลูกศิษย์ลูกหากันเท่านั้น คิดกันแค่นี้ก็คงจะเข้าใจ ว่าของจริงๆมันจะมีกันไม่มาก อยู่ที่ความเชื่อถือกันถ้าอยากจะหา โดยตามข้องมูลจริงจากคำบอกเล่าของชาวบ้านละหารไร่ในยุคก่อน ลูกอมเทียนมัทรีในยุคแรกๆนั้นจะมีเม็ดขนาดใหญ่ประมาณเท่าลูกหมาก และมีห่วงสำหรับห้อยคอพร้อม สมัยก่อนหลวงปู่ทิมท่านจะแจกให้กับชาวบ้านที่จะไปเสี่ยงภัยหรือถูกเกณฑ์ไปทหาร โดยหลวงปู่ท่านจะแจกให้กับมือเองทุกคน ปัจจุบันยุคแรกที่ว่านั้นหายากครับ ถ้าใครเจอหรือมีไว้ถือว่าโชคดีครับเพราะหลวงปู่ท่านทำเองกับมือ โดยใช้น้ำตาเทียนมาควั้นทำ แต่จะมีมากเท่าไหร่นั้นก็คงไม่ทราบได้แต่ก็คงไม่น่ามาก ชาวบ้านคนที่ได้เล่าว่า ลุกอมเทียนในยุคแรกนี้จะเป็นเทียนขี้ผึ้งในยุคเก่าสีขาวขุ่นๆน่าจะเกือบๆออกคล้ำ ลูกอมจะมีห่อกระดาษปิดทับไว้ข้างในอีกที ซึ่งหลวงปู่ท่านจะปั้นทำเองทั้งหมด ปัจจุบันหายากมาก ผมเองก็เพียรหากันมาเป็นปีๆก็ยังไม่เจอเลย ชาวบ้านที่เคยได้รับกันต่างก็บอกว่า หลังจากกลับมาจากทหารก็ไม่ค่อยใช้ จะเอาวางไว้บนพานกัน พอนานเข้าลุกอมเทียนมันก็แตกเป็นเม็ดๆหรือไม่บางทีพวกแมลงสาปก็มากัดแทะกินกัน และก็คงรักษาสภาพไว้ไม่ได้ก็ต้องนำไปทิ้งไว้ตามต้นไม้ให้สูญสลายกันไป ลูกอมเทียนมัทรีชุดนี้นี้ถือเป็นยุคแรกๆครับตามข้อมูลจริงที่มีกันมาอย่างเข้าใจกันหลายคน ส่วนใหญ่จะเป็นในยุคช่วงก่อนปี พ.ศ.2514ขึ้นไปตามชาวบ้านที่เคยได้รับกันมา

ผมได้นำเอาลูกอมเทียนจากลูกศิษย์ใกล้ชิดคนหนึ่งที่เชื่อถือได้ ซึ่งมีขนาดเล็กเท่าเม็ดมะยม ซึ่งสีของลูกอมเทียนนี้สีจะออกไปทางอมน้ำตาล โดยเจ้าของเดิมเอาฟรอยด์ห่อหุ้มไว้เพื่อป้องกันการแตกรานเมื่อมีอายุนานไป ลูกอมเม็ดนี้ถือว่าน่าจะเป็นในยุคต่อมา ที่อาจจะได้กันเฉพาะลูกศิษย์ลูกหา ซึ่งท่านเองก็ได้มาเม็ดเดียวเท่านั้นตอนที่หลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่ เพราะลูกอมเทียนในยุคหลวงปู่นั้นไม่มีการจำหน่ายเป็นราคาบูชาอะไร ตามข้อมูลที่ใครอาจจะเขียนกันมาขาย ของจริงต้องเป็นเทียนในยุคเก่าซึ่งอาจเป็นเทียนขี้ผึ้งแท้ ปัจจุบันมีทั้งเทียนเหลือง เทียนขาวทำมาขายกัน บางชุดก็เอามาตอกโค๊ตเพื่อความให้มีความน่าเชื่อถือกันไป ซึ่งความจริงแล้วมันก็แค่การเล่าความ แล้วความจริงใครเล่าจะรู้จะทราบข้อเท็จจริง ถ้าศิษย์บางคนไม่อุปโลกน์กันขึ้นมาขาย!

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

สิ่งที่ล่วงไปแล้ว . . . ไม่ควรทำความผูกพัน เพราะเป็นสิ่งที่ล่วงไปแล้วอย่างแท้จริง แม้กระทำความผูกพันและหมายมั่นให้สิ่งนั้นกลับมาเป็นปัจจุบันก็เป็นไปไม่ได้ ผู้ทำความสำคัญมั่นหมายนั้นเป็นทุกข์แต่ผู้เดียว โดยความไม่สมหวังตลอดไป . . .
อนาคต ที่ยังมาไม่ถึงนั้น เป็นสิ่งไม่ควรไปยึดเหนี่ยวเกี่ยวข้องเช่นกัน
อดีต . . . ปล่อยไว้ตามอดีต
อนาคต . . . ปล่อยไว้ตามกาลของมัน
ปัจจุบันเท่านั้นจะสำเร็จประโยชน์ได้เพราะอยู่ในฐานะที่ควรทำได้ไม่สุดวิสัย