พระเครื่อง/เครื่องรางทั่วไป

หลวงปู่ทวด ปี2524

บล๊อคนิยม 3 จุด เขยื้อน พระรุ่นนี้ราคาขยับขึ้นเรื่อยๆครับ

บูชา 3,500 บาท

 

พระแก้วมรกตเนื้อผงใบลาน พิมพ์เล็กหลังเรียบ

วัดศีลขันธาราม จัดสร้าง เจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์อธิษฐานจิต พศ.2513
พระชุดนี้เจ้าคุณนรฯอธิฐานจิตในวาระสุดท้ายให้เจ้าอาวาสวัดศีลขันธาราม จ.อ่างทอง เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๑๓โดยมีหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ปลุกเสกในภายหลังให้อีกครั้ง
พิมพ์นี้ค่อนข้างเจอน้อย เลีายมพร้อมบูชา เก่าถึงยุค

บูชา 500 บาท

 

ตะกรุดสาริกา หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน

ดอกนี้เจ้าของเดิม ได้รับมาจากคนพื้นที่โดยตรง จากคำบอกเล่าคือ เดิมเป็นตะกรุดสาริกาเนื้อตะกั่วถักเชือกลงรัก ยาว2.5 นิ้ว แต่ หักออกเป็น2 ชิ้น จึงใส่ใว้ในหลอดสแตนเลสบูชามา เนื้อตะกั่วเก่าจริงๆ อ่อน ลายถักชัดเจน มีรักให้เห็น ไม่ยัดเกจิ
หักเป็น 2 ชิ้น ยาวพอๆกัน คือ นิ้วกว่า ๆ เผื่อท่านใดอยากได้ไปบูชา ผมแบ่งให้1 ชิ้น ได้ไปแล้ว ดู ไม่เก่าตามที่บอกกล่าว คืนได้เลยครับ บูชาแบบนี้ถึงจะหัก แต่ผมมั่นใจว่า พุทธคุณเกิน100 แน่นอนครับ เพราะตามประวัติเคยมีการบอกเล่าเกี่ยวกับตะกรุดโทนท่านมาบ้างแล้วว่า พ่อเคยหักตะกรุดแบ่งให้ลูก 2 คน เพราะเขามั่นใจในพุทธคุณในตะกรุดของหลวงพ่อปานแท้ๆ ที่หายากกว่าเขี้ยวเสือท่านที่ปัจจุบันแพงเป็นล้านๆ แถมจะแท้จริงหรือเปล่าก็ไม่อาจจะมั่นใจได้

บูชา 2,500 บาท

หลวงพ่อปาน บางเหี้ย(วัดคลองด่าน) เป็น 1 ใน 10 คณาจารย์ผู้มีพลังจิตสูงในปี พ.ศ.2452 ที่จังหวัดนครปฐมได้มีการชุมนุมพระอาจารย์จากสำนักต่างๆ ทั่วประเทศไทย มีการทดสอบวิทยาคม และพลังจิตจากพระอาจารย์ทั่วประเทศที่ได้รับนิมนต์มาร่วมในพิธีกว่า 100 องค์ ซึ่งแต่ละจังหวัดได้จัดให้พระอาจารย์ที่โด่งดัง และเก่งเรื่องสมาธิจิตในจังหวัดของตนเองเดินทางไปร่วมในงานพิธี โดยมีการทดสอบพระอาจารย์ต่างๆ ครั้งละ ๑๐ องค์ มีสมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ที่บริเวณ วัดพระปฐมเจดีย์ ในการทดสอบครั้งนั้นมีกติกาว่าให้เอาท่อนไม้มา 1 ท่อน วางบนม้า 2 ตัว แล้วเอากบไสไม้วางไว้บนท่อนไม้ แล้วประธานฝ่ายสงฆ์จึงบอกกติกาว่า อาจารย์องค์ใดสามารถทำกบไสไม้ให้วิ่งไสไม้ไปกลับได้โดยกบไม่หล่นทำการทดสอบกันถึง 3 วัน 3 คืน พระอาจารย์ส่วนมากสามารถใช้จิตบังคับให้กบวิ่งไปได้ แต่กลับไม่ได้ ที่ทำให้กบไสไม้ไปกลับได้ มีด้วยกัน 10 รูป ในสิบรูปนั้นมีหลวงพ่อกลั่นเป็น 1 ใน 10 นั้นด้วย และในพระคณาจารย์ที่มีจิตญาณวิเศษสูงส่งทั้ง 10 ท่านที่กล่าวถึงคือ 1.หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ 2.หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว 3.หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า 4.หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง 5.หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน 6.หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก 7.หลวงพ่อทอง วัดเขากบทวาศรี นครสวรรค์ 8.หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย(วัดคลองด่าน) 9.หลวงปู่ยิ้ม หนองบัว 10.หลวงพ่อจอน วัดดอนรวบ ชุมพร


ลักษณะของตะกรุดหลวงพ่อปาน เท่าที่พบเห็นส่วนใหญ่ จะเป็น "ตะกรุดเนื้อตะกั่ว" ชนิดตะกั่วเคี่ยว หรือตะกั่วทุบ เนื้อตะกั่วจะนิ่มกว่าตะกั่วของพระเกจิทั่วไป สภาพเดิมๆ จะต้องมีการถักเชือก โดยขึ้นเชือกถักลายหนึ่ง แบบเดียวกับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค แต่ต้องพิจารณาถึงอายุ เอกลักษณ์ วิถี กลิ่นไอ เรียกว่า ต้องมีประสบการณ์ตรงในการเช่าหาตะกรุดเก่าๆ จึงจะแยกแยะได้ออก

กฤติคุณของหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ยนั้น เก่งขนาดไหน? ก็ต้องขอคัดลอกบทความบันทึก ในนิราศของสมเด็จพระปิยะมหาราช พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ มาให้อ่านกัน ดังนี้

ทรงมีรับสั่งกับพระปานว่า “ได้ยินชื่อเสียง และกิตติคุณมานาน เพิ่งเห็นตัววันนี้” แล้วรับสั่งถามต่อไปว่า “ที่แจกเครื่องรางเป็นรูปเสือมีความหมายอย่างไร ?”

หลวงพ่อปานทูลตอบว่า “ได้ไปรุกขมูลธุดงค์ในป่า พบเสือใหญ่หลายครั้ง ได้สังเกตดูเห็นว่า “เสือ” เป็นสัตว์ปราดเปรียว ฉลาด ว่องไว เฉียบขาด มีตบะ และอำนาจ สามารถที่จะใช้ตาสะกดสัตว์อื่นให้อยู่ในอำนาจได้ คนทั่วไปเรียกผู้ร้ายใจฉกรรจ์ว่า “ไอ้เสือ” ก็คือเอาความเก่งกาจของเสือมานั่นเอง การที่ทำเครื่องรางรูปเสือ มิใช่จะสนับสนุนให้คนกลายเป็น "อ้ายเสือ" เพียงแต่ต้องการเอาลักษณะของเสือจริงในป่า ที่ปราดเปรียว ว่องไว เฉลียวฉลาด เฉียบขาดมาเป็นตัวอย่างเท่านั้น”

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ทรงพอพระทัยในคำตอบของพระปานยิ่งนัก (ด้วยท่านมิได้ โอ้อวดว่า เครื่องรางของท่านดีเด่น แต่ประการใด) ท่านทรงพระราชทานผ้าไตร และผ้ากราบ (ต่อมาได้พระราชทานสมณศักดิ์ เป็น “พระครูพิพัฒน์นิโรธกิจ”)

พระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่อง "เสด็จประพาส มณฑลปราจิณ" ได้เล่าถึงพระปานไว้ว่า

“พระครูปานมาหาด้วย พระครูปานรูปนี้นิยมกันในทางวิปัสสนา และธุดงควัตร มีพระสงฆ์วัดต่างๆ ไปธุดงค์ด้วยสองร้อยสามร้อย แรกลงไปประชุมที่วัดบางเหี้ย มีสัปบุรุษที่ศรัทธาเลื่อมใสช่วยกันเลี้ยง กินน้ำจืดที่มีไว้เกือบจะหมดแล้วก็ออกเดิน ทางที่เดินนั้น ลงไปบางปลาสร้อย แล้วจึงเวียนกลับขึ้นไปปราจิณ นครนายก ไปพระบาท แล้วเดินลงมาทางสระบุรี ถ้ามาตามทางรถไฟ แต่ไม่ขึ้นรถไฟ เว้นแต่พระที่เมื่อยล้าเจ็บไข้ ผ่านกรุงเทพฯ กลับลงไปบางเหี้ย ออกเดินทางอยู่ในแรมเดือนยี่ กลับไปวัดอยู่ในราวเดือนห้าเดือนหก ประพฤติเป็นอาจิณวัตรเช่นนี้มา ๔๐ ปีแล้ว

คุณวิเศษที่คนเลื่อมใสคือ “ให้ลงตะกรุด” ด้ายผูกข้อมือ รดน้ำมนต์ ที่นิยมกันมากคือ เขี้ยวเสือแกะเป็นรูปเสือ เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ข่าวที่ร่ำลือกันว่า เสือนั้นเวลาจะปลุกเสก ต้องใช้หมู ปลุกเสกเป่าไปข้อไร"

ไม่ได้พิมพ์ผิด แต่เป็นคำจากตำนานในพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่มีการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร คือ "ต้องใช้หมู ปลุกเสกเป่าไปข้อไร เสือนั้นกระโดดลงไปในเนื้อหมูได้ "น่าจะหมายความว่า พอปลุกเสกได้ที่ เสือจะกระโดดกัดเนื้อหมู เป็นอันใช้ได้" ตัวพระครูเองเห็นจะได้ความลำบาก เหน็ดเหนื่อยในการที่ใครๆ กวนให้ลงโน่นลงนี่ เขาว่าบางทีก็หนีไปอยู่ในป่าช้า ที่พระบาทฯ (สระบุรี) ก็หนีไปอยู่บนเขาโพธิ์ลังกา คนก็ยังตามไปกวนไม่เป็นอันหลับอันนอน แต่บริวารเห็นจะได้ผลประโยชน์ ในการทำอะไรๆ ขาย เวลาแย่งชิงก็ขึ้นไปถึง ๓ บาท ว่า ๖ บาทก็มี ได้รูปเสือนั้นแล้วจึงไปให้พระครูปลุกเสก สังเกตดูอัธยาศัยเป็นคนแก่ใจดี มีกิริยาเรียบร้อย อายุ ๗๐ แล้วยังไม่แก่มาก รูปร่างล่ำสันใหญ่โต เป็นคนพูดน้อย มีคนมาช่วยพูด"

จะเห็นว่า ในพระราชนิพนธ์ “เสด็จประพาสเมืองปราจิณ” ได้เล่าถึง “พระปาน” อย่างละเอียด สิ่งสำคัญยิ่งก็คือ เครื่องรางเขี้ยวเสือที่ทำเป็นรูปเสือ ในขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่ ราคาเช่าซื้อตัวละ ๑ บาทบ้าง ๓ บาทบ้าง ๖ บาทบ้าง ซึ่งเป็นราคาที่สูงมาก (ในสมัยนั้น กาแฟถ้วยละ ๑ สตางค์ ก๋วยเตี๋ยวชามละ ๓ สตางค์ ข้าวผัดจานละ ๕ สตางค์) หลังจากเสร็จสิ้นพระราชกรณียกิจ ก่อนที่ท่านจะเสด็จกลับเมืองหลวง พระองค์มีรับสั่งกับหลวงพ่อปานว่า “ฟ้าไปก่อน แล้วให้พระท่านไปทีหลัง”

พระราชดำรัสนี้ทำให้ทุกคนพิศวง เพราะไม่เข้าใจความหมาย (ยกเว้นหลวงพ่อฯ) แต่หลังจากนั้นไม่กี่ปี พระองค์ท่านก็เสด็จสวรรคต และต่อจากนั้นไม่ถึงปี หลวงพ่อปานก็มรณภาพลงเช่นกัน จึงสันนิษฐานว่า พระองค์อาจจะรู้ด้วยญาณ ว่าท่านและหลวงพ่อปาน อีกไม่กี่ปีก็คงจะถึงเวลาที่จะละสังขารแล้ว และในเวลาที่ไม่ห่างกัน

นอกจากท่านเจ้าคุณเฒ่า วัดหนัง ที่พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงให้ความสำคัญ มีการบันทึกถึงไว้ในตอนเสด็จประพาส เมืองฝรั่งเศส และท่านให้ความเคารพ กราบไหว้ บูชาแล้ว ก็ยังมีหลวงพ่อปาน แห่งวัดคลองด่านนี้อีกหนึ่งองค์ ที่เสด็จพ่อ รัชกาลที่ ๕ ให้ความสำคัญ ถึงขนาดมีการบันทึกถึงไว้ในพระราชนิพนธ์อีกเช่นกัน เป็นความรู้ที่ควรค่าต่อการศึกษา และจดจำ

ครับ เขี้ยวเสือของท่านที่ว่า "หายาก" แล้ว ตะกรุดของท่านนั้น "หายากกว่า

 

พระผงปรกโพธิรุ่นแรกครูบาพรหมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า ปี 2515 ลงทองแจกกรรมการ หายาก

ถือเป็นพระหลักของท่านที่ หายากครับ รับประกันแท้สากล

บูชา 1,500 บาท

พระผงรุ่นแรกพิมพ์พระประธานลงทองแจกกรรมการครูบาพรหมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า ปี 2515

พระสุพรหมยานเถร (พรหมา พฺรหฺมจกฺโก) หรือที่รู้จักกันดีในนาม “ครูบาพรหมา” หรือบ้างก็เรียก “ครูบาพรหมจักร” ท่านเปรียบดั่ง “เจ้าคุณนรแห่งล้านนา” ด้วยความมั่นคงในพระวินัย จริยาวัตรอันเรียบร้อยสงบเสงี่ยม เมตตาอันล้ำเลิศ ไม่ผิดพลาดไปจากพระธรรมแม้สักนิด อีกทั้งยังมีจิตที่ทรงฤทธิ์ ถึงขนาดเหยียบหินให้เป็นรอยเท้าได้ ถึงขนาดที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยนักบุญแห่งล้านนาไท ยังต้องนัดขอดูตัวด้วยความชื่นชม และท่านยังเป็นอาจารย์ของครูบาชัยวงศาพัฒนาผู้มีฤทธิ์ยอดยิ่งอีกต่างหากด้วย
ประวัติ
วัยเด็ก
ท่านมีนามเดิมว่า พรหมา พิมสาร กำเนิดวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2441 ที่บ้านป่าแพ่ง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เป็นบุตรของ นายเป็งกับนางบัวถา พิมสาร มีพี่น้องร่วมกัน 13 คนท่านครูบาพรหมมาได้เรียนหนังสืออักษรลานนาและไทยกลางที่บ้านจากพี่ชายที่ได้บวชเรียน
บรรพชาและอุปสมบท
ครูบาเจ้าบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 15 ปี เมื่อวันจันทร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2455 เวลา 15.00 น. ณ วัดป่าเหียง ตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง มีเจ้าอธิการแก้ว ขัตติโย เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้หมั่นศึกษาเล่าเรียน ปฎบัติธรรม และประพฤติในศีลาจารวัตรอย่างเคร่งครัด
ท่านอุปสมบทเมื่ออายุได้ 20 ปี ที่วัดเดิมเมื่อวันที่ 16 ม.ค. พ.ศ. 2461 เจ้าอธิการแก้ว ขัตติโย (ครูบาขัตติยะ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ฮอน โพธิโก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์สม สุวินโท เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “พรหมจักโก” กระทั่งพรรษาที่ 4 ท่านได้เริ่มต้น เข้าสู่วิถีแห่งการปฏิบัติธรรมอย่างเอาจริงเอาจัง ท่านได้ออกธุดงค์ไปตามป่าเขาต่างๆ ทั้งเขตประเทศไทย พม่า และลาว กระทั่งในปีพ.ศ.2491 ท่านจึงได้มาจำพรรษา ณ วัดพระพุทธบาทตากผ้า และได้พัฒนาวัดจนมีชื่อเสียงเป็นศาสนสถานที่มีความสำคัญทางศาสนาแห่งหนึ่งของจังหวัดลำพูน และด้วยการสั่งสมบุญบารมี คุณงามความดีของท่านนี้เองทำให้ ท่านได้รับความเคารพศรัทธาจากพุทธบริษัทโดยทั่วไป
ละสังขาร
ครูบาเจ้าพรหมาได้ดับขันธ์ (มรณภาพ) ในท่านั่งสมาธิภาวนา เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2527 เวลา 06.00 น.อายุ 87 ปี 67 พรรษา คณะศิษยานุศิษย์ได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 3 ปี ได้รับพระราชทานเพลิงศพ วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2531 ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จมาพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงครูบาเจ้าพรหมาด้วยพระองค์เอง หลังจากพระราชทานเพลิงเสร็จสิ้นแล้วได้เก็บอัฐิ ปรากฏว่าอัฐิของครูบาเจ้าพรหมาได้กลายเป็นพระธาตุ มีวรรณะสีต่างๆ หลายสี
คำสอน
ครูบาพรหมาท่านได้แสดงธรรมโอวาทไว้มากมาย
“การทำบาปหรือการทำบุญ จะทำในที่ลับหรือในที่แจ้ง หรือใครไม่รู้ไม่เห็น ก็ตัวของเรา ใจของเรารู้เห็นเอง เมื่อเป็นเช่นนี้ก็กล่าวได้ว่าที่ลับไม่มีในโลกนี้ แม้ว่าจะลับตาลับหูคนอื่น แต่เราก็รู้ เราก็เห็นคนเดียว”
“ทุกๆคน จึงควรรีบขวนขวาย ซึ่งความงามความดี ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นเด็กก็อย่าได้เกียจคร้านในการเรียนหนังสือ จงตั้งจิตตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ให้มีความรู้ความเฉลียวฉลาดความสามารถ เป็นผู้ใหญ่แล้วก็จงตั้งตัวตั้งตนให้ดี ให้มีความขยัน มีความประหยัด ให้คบแต่คนดี ให้รู้จักประมาณในการใช้จ่าย ถ้าเป็นผู้เฒ่าผู้แก่แล้ว ก็เตรียมตัวเพื่อคุณงามวามดีให้ยิ่งๆกว่าเด็กและคนหนุ่มทั้งหลาย”
“คนเราทุกคนมีความปรารถนาดี ปรารถนาหาความสุข ความปรารถนาหาที่ผึ่งในวัฏฏะสงสาร ท่านเปรียบเหมือนเราที่ตกอยู่ในกลางทะเลอันเวิ้งว้างกว้างไกลทุกคนก็มีความใฝ่ฝันหาที่ผึ่ง เพื่อที่จะได้อาศัยพักพิงไปยังฝั่งเบื้องหน้า”
คำไหว้บูชาพระธาตุของครูบาพรหมา พรหมจักโก
อะหัง วันทามิ พรหมจักกะธาตุโย อะหัง วันทามิ สัพพะโส ฯ
จัดเป็นพระผงรุ่นแรกของท่านครูบาพรหมา ทาทองสวย

ในส่วนของพระผงยุคแรกของครูบานั้นมีอยู่ 3 รุ่นที่สร้างในยุคแรกๆ คือ

1.พระผงครูบาพรหมจักรพิมพ์ พิเศษ
2.พระผงพิมพ์พระพุทธสิหิงค์
3.พระผงพิมพ์พระประธาน

ขอบคุณข้อมูลดีๆจากเจ้าของเดิมทุกท่านด้วยครับ

 

ปิดครับ

 

เขี้ยวเสืออาคมรุ่น 2 ปี 2552 หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน

สร้างน้อย 500 เขี้ยว อกะจากเขี้ยวเสือแท้ๆ เขี้ยวหมายเลข 121 ครับ กล่องเดิมๆ เลี่ยมพร้อม รับประกัน

บูชา 7,500 บาท

 

พระประจำวันrาแกะ สามส่วนหลังนางกวัก

หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ ตัวจริง

ชิ้นนี้ ลงรักถักเชือกมา เก่าจริงๆ ใครได้ไปแล้วบอกว่าไม่เก่า ไม่ใช่ คืนเต็มครับ

บูชา 6,000 บาท ราคานี้เลยครับ

 

เปิดดูไฟล์ 6401412

โชว์ พระปิดตาวัดสะพานสูง หลังอุ ปี2535 มีเกศา

พระปิดตาพิมพ์ชลูดรุ่นนี้สร้างก่อนรุ่น 100 ปี รุ่นนี้เก่า พิธีใหญ่ รวมเกจิสายนนท์สายปากเกร็ด พระรุ่นนี้สมเด็จพระสังฆราชเสด็จในงานบูรณะพระเจดีย์หลวงปู่เอี่ยม ของวัดสะพานสูงด้วยนะครับ ใช้ บูชาแทนพระปิดตาหลักล้าน ของหลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม ได้เลยครับ พุทธคุณดีเหมือนกันทุกรุ่น เพราะเจตนาการสร้างของวัดชัดเจนครับ บารมีหลวงปู่เอี่ยม ท่านคุ้มครอง พระปิดตาผงกรุพระเจดีย์รุ่นนี้ สร้างโดยวัดสะพานสูงโดยตรง และเข้าพิธีใหญ่งานบูรณะพระเจดีย์ในปี 2535 และได้เข้าพิธี 100 ปี ปี 2539 อีกครั้ง ซึ่งทั้งสองพิธีถือว่าเป็นพิธีใหญ่ของวัดสะพานสูง

ขอบคุณข้อมูลจากท่าน nungfino ด้วยครับ

 

เหรียญหลวงพ่อกวย แจกแม่ครัว ปี2521

มีรอยปั๊มแตกที่ด้านหน้า รับประกันพระแท้สากล สภาพนี้ช่วงก่อนๆ ต้องมี 50,000ขึ้นแน่นอน

บูชา 35,000 บาท

 

เหรียญหลวงพ่อกวย นะโมบล็อก 2 ตอกโค๊ต อ.เฒ่า ปี2515

ของดีราคาจับต้องได้ รับประกันสากล

บูชา 1*,***

คำอธิบายเพิ่มเติม : หรียญรุ่นสอง บล๊อคสอง ข้อมูล อาจารย์เฒ่า สุพรรณ
เหรียญรุ่นสอง บล๊อค สอง นี้ ที่เรา ได้ กัน มา หากได้ มาจาก เฒ่าสุพรรณ ท่าน จะ ตอกโค๊ต ไว้ ที่ ด้านขวามือ ขององค์ หลวงพ่อ เป็น สัณญลักษ์ มี สอง แบบ คือ เหรียญ ทองแดง เฉยๆ กับ เหรียญทองแดง ที่นำไป จุ่มลัก ( สีดำ ) บางองค์ สภาพเดิมๆ จะสังเกตได้ว่า เหรียญจุ่มลัก นี้ มีผงสีขาว ขุ่น ติด อยู่ทั่วเหรียญ เหรียญรุ่นสอง บล๊อคสอง ที่ ว่า ดี ดี มีพุทธคุณ คุ้มครอง ป้องกันภัย ได้ ยอดเยี่ยม นี้ มั่นใจได้ ว่า ป้องกันภัยได้ จริง จริง ครับ ผม มา อนุมาณ เอาเอง ว่า ท่าน อาจจะ หยิบ ขึ้นมา จุ่มลัก แล้ว เสก ทีละเหรียญ ลักยางไม้ นี้ แห้งช้า มาก หลายวัน หรือ บางครั้ง ก็ หลายเดือน จึง จะแห้ง สนิท จะ เหนียว หนึดๆ อยู่ อย่างนั้น

 

ปิดครับ


เปิดดูไฟล์ 6401716

พระชุดกรรมการวัดหัวเด่น

ขาดเหรียญกลมเนื้อฝาบาตรหลวงพ่อกวย 1 องค์
สุดยอดวัตถุมงคลย้อนยุคหลวงพ่อกวย รุ่นฉลองวิหารแก้วสารพัดนึก ปี 2541 ออกวัดหัวเด่น ชุดกรรมการ 9 องค์ ทั้งพระผงพระเหรียญ

บูชา 1,700 บาท

 

มีดหมอปากกา รุ่นทรัพย์มงคลหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ

ด้ามนี้ ไม่มีปลอกครับ ปีที่แล้ว ราคาแพงหลายๆ พัน

บูชา 1,500 บาท

ยุคแรก สร้าง1,199ด้าม ปี2543 ด้ามอุดจีวร เกศา ชานหมากหลวงปู่ พกติดตัวสะดวก ป้องกันของ ภูติผี คุณไสย ไล่อัปมงคล เมตตา แคล้วคลาดปลอดภัยดีมาก
สุดยอดอิทธิมงคลวัตถุของท่าน หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ ป็นวิชาเฉพาะหลวงปู่ เพียงองค์เดียวเพราะได้จากกรรมฐาน และไม่มีลูกศิษย์คนใดที่ได้รับถ่ายทอดวิชานี้ไปแม้แต่คนเดียว หลวงปู่ ฯ ท่าน มักจะกล่าวถึงอาณุภาพของวัถุมงคลต่าง ๆ ว่าใช้อะไรได้บ้าง แต่ก็มักจะใช้ได้ 108 ประการ ตามแต่ผู้บูชาตั้งจิตอธิฐานขอเอา
แต่หลวงปู่ บอกว่าใช้ได้ 1000 ประการ มีอานุภาพมากมายสุดที่จะประมาณ อาจจะบูชาแทน มีดหมอ หวายครู ตะกรุด ฯลฯ
วิธีบูชาคือ
เมื่อทำกิจใดแล้วมีอุปสรรคขัดข้องให้เอาปากกาออกมาถือแกว่งไปมา พร้อมท่องคาถา นะเมติและนึกอธิษฐานในสิ่งที่ต้องการ อุปสรรคทั้งปวงจะหายไป หลวงปู่รับรองความศักดิ์สิทธิ์ ขนาดว่าคนถือปืนจะยิงเรานี่ มือตก ยิงเราไม่ได้ เราสามารถเดินไปเก็บปืนจากมือได้เลย
ถ้าถูกศัตรูล้อมแม้จะหนีออกมา ให้เอาปากกาวางบนศีรษะ ท่อง นะเมติ ระลึกถึงหลวงปู่ให้แน่วแน่ จะเป็นมหากำบังคนมองไม่เห็นตัว
หาก ต้องการน้ำมนต์ ให้จุดธูป 5 ดอก และเทียน 1 คู่ สบง 1 ผืน กรวยดอกไม้ 1กรวย หมากธรรม (ก้านกล้วย ตกแต่งด้วยก้านมะพร้าวและ หมาก) ธูปเทียน อย่างละมัด จากนั้นตั้ง นะโม 3 จบ เอาปากกาวางบนปากขันหรือภาชนะที่ใส่น้ำมนต์ ถ้าภาชนะใหญ่ จะวางข้างๆก็ได้ และท่อง นะเมติ 9จบ ถ้าได้108 จบยิ่งดี รอจนธูปหมดดอก หรือสักพักหนึ่งจึงขอน้ำมนต์มาใช้ได้ และภาชนะใส่น้ำมนต์มีจำนวนมากก็ไม่เป็นไร เอามาตั้งไว้ใกล้ๆ กับเทียน 1 คู่นั้น ไม่ว่าจะมีกี่ขันกี่ตุ่มในบริเวณนั้น เมื่อแสงเทียนส่องรัศมี คลอบคลุมไปสิ้นสุดตรงไหน น้ำที่อยู่ในรัศมีความสว่างนั้นจะเป็นน้ำมนต์ทรงอานุภาพทั้งหมด
ถ้าจะทำ ของขลังแจกเพื่อน หรือลูกหลาน เช่นเราจะแจกวัตถุมงคลแก่ทหาร หลวงปู่บอกว่าให้หาปากกามาเป็นพลาสติกหรือโลหะได้ทั้งนั้น หรือจะเป็นก้อนหินก้อนกรด หรืออะไรก็ได้ให้เอาปากกาด้ามครู (ด้ามที่หลวงปู่ฯ ท่านจาร)มัดติดกับปากกาที่จะทำ เช่น ทหารมีจำนวน 1 ล้านคน ก็เอาปากกา 1 ล้านด้าม มัดให้ติดกัน หรือเป็นก้อนหินก็เอาวางบนก้อนหิน เอาปากกาด้ามครูวางทับข้างบนสวด นะเมติ ให้ได้ 108 จบ ห้ามขาดเมื่อท่องจบปากกา 1 ล้านด้ามนั้น หินทั้งหลายเหล่านนั้นก็จะล้วน จะมีอานุภาพอธิฐานได้แล้วแต่จะปรารถนา ดุจเดียวกับด้ามครูทุกประการ แต่จะเอาปากกาด้ามต่อมานั้นไปต่อด้ามอื่นๆ อีกไม่ได้ คงขลังอยู่เฉพาะตัวเอง เท่านั้น
ถ้ามี เรื่องทุกข์ใจหนัก ต้องการถามเทวดาที่รักษาปากกา ให้จุดธูป 5 ดอก และเทียน 1 คู่ และตั้งขันธ์ 8 มีสบง 1 ผืน กรวยดอกไม้ 1กรวย หมากธรรม (ก้านกล้วย ตกแต่งด้วยก้านมะพร้าวและ หมาก) ธูปเทียน อย่างละมัด เอาปากกาวางบนพาน ปูผ้าขาวท่องนะเมติไปเรื่อย จนกว่าปากกาในพานจะลุกขึ้นตั้งได้เอง จากนั้นเราจะถามสิ่งใด ปากกาจะตอบเราหมดสิ้น เป็นไปด้วยอำนาจครูบาอาจารย์ที่มาสงเคราะห์เรา หลวงปู่ย้ำว่าเป็นไปได้จริงๆ ไม่โกหก มีคนทำได้ผลมาแล้ว แต่อย่าทดลองทำเล่นนะ

 

เบี้ยแก้ แร่บางไผ่ หลวงปู่จันทร์ วัดโมลี

ถักเชือกลงรัก เฉพาะแร่บางไผ่ก็ว่าหายากแล้ว นี่คือ หลวงปู่จันทร์ ท่านนำมาทำเป็นเบี้ยแก้อีก หายากสุดๆ ครับ รักเก่าถึง100ปีครับ แบบนี้ รับประกัน

บูชา 57,000 บาท

 

ปิดครับ



เขี้ยวเสือดาว เครื่องรางมหาอำนาจ

เครื่องรางมหาอำนาจ แคล้วคลาดปลอดภัย“เสือ” เป็นสัตว์ที่ทรงพลังอำนาจ มีสัญชาตญาณของการเป็นนักล่าและการเอาตัวรอดได้ดี อวัยวะต่างๆของเสือที่ตายแล้ว จึงถูกนำมาใช้เป็นเครื่องรางเพื่อให้เกิดอานุภาพด้านมหาอำนาจ แคล้วคลาด ป้องกันภัย โดยเฉพาะ “เขี้ยวเสือ” นั้น ได้รับความนิยมอย่างมากไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบัน จะเห็นว่ามีการนำเขี้ยวเสือมาทำเป็นเครื่องรางป้องกัน

บูชา 4,500 บาท

 

เหนียวจนตำรวจขอให้เลิกสร้าง!!!”

“ตะกรุดมหารูด” (ยุคต้น) หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม จ.นครปฐม ตะกรุดมหารูดดอกนี้ เป็นตะกรุดยุคต้นๆ เนื้อตะกั่ว ถักเชือกปอป่านลงรัก ลายมาตราฐาน ขนาดความยาว ๓ นิ้ว แท้ดูง่ายๆ รับประกันทุกสนามเอาไปให้ใครดูแล้วบอกไม่ใช่ไม่แท้ คืนเต็มครับ

บูชา 6,500 บาท

”ตะกรุดมหารูด” พุทธคุณ ด้านแคล้วคลาด คงกระพัน หนังเหนียว ยิงไม่ออก ฟันแทงไม่เข้า จึงเป็นที่นิยมมากในบรรดาลูกศิษย์ของหลวงพ่อเต๋ ตามตำราระบุไว้ว่า 'ใครที่จะต่อสู้เพื่อให้ได้ชัยชนะต้องเอาตะกรุดนี้ไว้ข้างหน้า วิ่งหนีภัยวิบัติก็ให้เอาตะกรุดไว้ข้างหลัง จะเดินทางไปหาเจ้าหานายให้มีเมตตาก็ให้เอาตะกรุดนี้ไว้ได้ทั้งขวา เดินทางไปหาอิสตรีให้มีเมตตามหาเสน่ห์ให้รูดตะกรุดนี้มาทางซ้ายครับ

 

สมเด็จองค์ปฐมวัดโพธิ์เมืองปักษ์ลงทองแจกเฉพาะบุคคล

บูชา 1,200 บาท

เป็นพระลูกศิษย์หลวงปู่ดู่ (พระอาจารย์สุทิน) ที่นับถือหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ทำถวายหลวงพี่ถวัลย์ โดยใส่ผงหลวงของหลวงปู่ดู่ และนำเข้าพิธีสมเด็จองค์ปฐมทุกพิธีตั้งแต่พิธี รุ่น 1 รุ่น 2 รุ่น 3 ครับ โดยหลวงพี่ติงลี่เป็นผู้นำเข้าพิธีครับ ซึ่งก่อนหน้าจะนำมาถวายองค์หลวงพ่อฤาษี ได้ผ่านการอธิษฐานจิตจากหลวงปู่ดู่เรียบร้อยแล้วครับ

ได้มาพร้อม มักการีผล ชาย/หญิง ที่ตามคำบอกกล่าวจากเจ้าของเดิมคือ มีคนนำไปให้หลวงพ่อฤาษีท่านดูว่า ดีใหม อะไร ประมาณนี้ ท่านบอกสิ่งนี้เป็นของที่เกิดจากธรรมชาติ มีอานุภาพแล้วแต่จะขอเอา จึงเก็บบูชามานาน เผื่อท่านใดสนใจครับ ไม่ใช่ของทำขายตามสนามพระแน่นอน

 

บูชา 4,500 บาท

 

เหรียญกลมหลังยันต์ ย้อนยุครุ่นแรก หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท ปี 2539

ปี2539 มี 2 แบบ คือ หลังหนุมาน ตอนนี้เช่าหากันที่ 15,000 บาทขึ้น ครับ เหรียญหลังยันต์ ราคายังเบาๆ 2-3,000 บาท แล้วแต่สภาพ

เหรียญนี้ตัดหู แกะจากเลี่ยมกรอบมา รับประกัน

บูชา 1,800 บาท

 

กรมหลวงชุมพร เนื้อว่านหลังเรียบ รุ่นหมอน้อม

บูชา 900 บาท

ขออนุญาตเจ้าของข้อมูล คนวันศุกร์ เเละขอขอบคุณ Pornchai Changchai ทีส่งข้อมูลให้ครับ
รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่ สุดยอดพุทธคุณ ราคาไม่เเรง สุดยอดครับ

#ตีแผ่เรื่องจริง!!!
สำหรับพระเนื้อว่านกรมหลวงรุ่นนี้ มีชื่อเรียกว่ารุ่น "หมอน้อม" มีประสพการณ์เกิดขึ้นมากมายกับรุ่นนี้ วันนี้จะนำเรื่องราวบางส่วนมาเปิดเผยให้ทราบกัน
สำหรับการสร้างรุ่นนี้ ดำเนินการสร้างโดยหมอน้อมและกรรมการเพื่อหาทุนทรัพย์ ก่อสร้างและปรับปรุง "สำนักสงฆ์หาดทรายรี" ที่หมอน้อมเป็นผู้ริเริ่มและก่อสร้าง (วัดเขตรอุดมศักดิ์)ในเวลาต่อมาโดยได้ดำเนินการสร้างโดยได้ติดต่อขอเนื้อหามวลสารหลักคือ เนื้อว่านที่จัดสร้างหลวงพ่อทวดจากวัดบางนอน ดินขุยปู ตะไบจากพระกรุเก่าโบราณ และว่านยาต่างๆที่เก็บสะสมและมีผู้นำมามอบให้ ทำการกดพิมพ์พระภายในศาลเดิม(ศาลล่าง)และที่สำนักสงฆ์หาดทรายรี โดยในวันงานมีการตั้งบวงสรวง มีการตั้งศาลแบบสี่เสา พร้อมเครื่องสังเวย ในวันพิธีมีการนิมนต์พระมาสวด ชัยมงคลคาถา ไม่มีการปลุกเสกใดๆโดยในขณะที่กำลังอ่านโองการและอัญเชิญเทวดา "ตาเสือ"ร่างทรงของท่าน จู่ๆก็ได้วิ่งขึ้นมาจากทะเลโดยไม่มีใครทราบว่ามาอย่างไร วิ่งมาถึงก็วิ่งไปนั่งบนถ้วยจานที่วางสักการะโดยที่ไม่มีถ้วยไหนหกหรือแตกเลย และกระโดดขึ้นไปนั่งบนศาลสี่เสา(คล้ายศาลเพียงตา) โดยที่ศาลนั้นมีขนาดเล็กและไม่แข็งแรงนัก แต่ตาเสือสามารถขึ้นไปนั่งได้ โดยในขณะทรง ได้ใช้มือกวนในบาตร(กรมหลวงใส่ในบาตรพระตั้งไว้) แล้วเรียกให้ตำรวจหรือผู้มีปืนนำปืนออกมายิง โดยมือซ้ายจะกำพระไว้แล้วใช้มือขวายิงไล่ตั้งแต่บริเวณหัวไหล่ซ้าย ลงไปจนสุดมือที่กำพระไว้ ปรากฏเสียงดังเพียง เปรี้ย. เปรี้ย เท่านั้น เมื่อยิงสุดมือจะหันกระบอกขึ้นฟ้า จะดังทุกนัด สร้างความประหลาดใจกับทุกคนโดยเฉพาะตำรวจที่ไปอยู่ในพิธีหลายท่าน เพราะใครที่พกปืนไปจะถูกสั่งให้ยิงหมดทุกคน น่าแปลกที่ว่า แล้วร่างทรงตาเสือรู้ได้อย่างรัยว่าใครพกปืนไป เพราะตาเสือสามารถชี้นายตำรวจท่านนึงได้อย่างถูกต้องว่าทำไมยังไม่ยิง(จ่า นิพนธ์ ฐินะกุล)ขออนุญาติเอ่ยนาม. มาทราบภายหลังว่า ที่ท่านไม่ยิงด้วยพกกระสุนไปเพียง 2 นัด แต่แปลกที่ตาเสือชี้มาและบอกให้ว่ามีเท่าไรยิงเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมากๆและปรากฏว่าก็ยิงไม่ออกเหมือนกัน สำหรับจำนวนการสร้างประมาณ 10,000 องค์ เพราะให้ทำบุญเพียงองค์ละ 10บ.แต่สามารถรวบรวมเงินได้นับแสนบาทในสมัยนั้น ซึ่งเรื่องนี้ไม่เคยมีใครได้ทราบมากนัก เลยนำมาเล่าสู่กันฟัง และขอขอบพระคุณ คุณแม่ บุญนาค เขียนเล่ง ซึ่งเล่าเหตุการณ์ในงานพิธีมาโดยละเอียด เพราะท่านเป็นบุตรสาวของหมอน้อม และในวันพิธีรับหน้าที่ทำขนมโคเพื่อใช้ในพิธีสักการะ จึงเห็นเหตุการณ์มาโดยตลอด และกรุณาหยิบกรมหลวงรุ่นนี้ที่ได้มาในวันงานให้ถ่ายรูป จึงนำมาให้เรียนรู้กัน by คน วันศุกร์

 

ล็อกเก็ตขนาดจัมโบ้ หลวงพ่อผินะ วัดสนมลาว จ.สระบุรี ปี2549 หลังอุดผงเก่า ฝังแร่กันฟ้าผ่า และพระสูตรพิมพ์จิ๋ว


ล็อกเก็ตรุ่นนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็น ที่ระลึกงานเททอง หล่อรูปเหมือนหลวงพ่อผินะ ขนาดเท่าคนจริง เมื่อวันที่ ๙-๑๐ มิถุนายน 2549 หลังจากที่ท่านมรณะภาพไปแล้ว แต่ทางผู้สร้างได้ขอความเมตตาจาก พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ จ.ปัตตานี อธิษฐานจิตล็อคเก็ตเปล่าให้ และนำกลับมาบรรจุผง กับพระสูตรพิมพ์เล็กและเม็ดกริ่งกันฟ้าผ่า ที่วัดพระสนมลาว ซึ่งของที่ฝังทั้งหมด เป็นของที่ทัน หลวงพ่อผินะทุกอย่าง และทางวัดได้จัดพิธีพุทธาภิเศกเป็นเวลาสองวันสองคืน ส่วนภาพที่นำมาทำนี้ เป็นภาพขณะที่ท่านนั่งสมาธิลืมตา ละสังขารแล้ว ไม่ค่อยเจอละครับ

บูชา 1,600 บาท