พระเครื่อง/เครื่องรางทั่วไป

ปิดครับ



พระพุทธชินราชเนื้อแก้ว หลวงพรหมโยธี วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พิษณุโลก 2493 สีเขียวเหนี่ยวทรัพย์

( อุ่ณห์ แต้กุล ) พ่อค้าวานิชนักประดิษฐ์หัวน้ำหอมแห่งสยามประเทศ โดยสั่งตรงจากโรงงานJapan ประเทศญี่ปุ่น โดยถวายท่านเจ้าคุณศรี (สนธ์) วัดสุทัศน์เทพวราราม กทม. แล้วจึงนำไปประกอบพิธีพุทธาภิเษกใหญ่อีกครั้ง ณ พระวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ จ.พิษณุโลก พิธีจักรพรรดิ์มหาพุทธาภิเษก ปี 2515 (จัดสร้างวาระเดียวกับรูปหล่อพระพุทธชินราช เนื้อทองผสม)

พิธีจักรพรรดิ์มหาพุทธภิเศก เมื่อปี พ.ศ. 2515 ณ วิหารพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษนุโลก ออกแบบโดย นายช่างสำเนียง หมัดมอญ กรุงเทพฯ
พิธีมหาพุทธภิเศก เป็นเวลา 2 วันเต็ม นับจากวันที่ 19 – 20 ม.ค. 2515 พระคณาจารย์บริกรรมปลุกเสก 109 รูป

ประวัติการจัดสร้างพิธีจักรพรรดิ์มหาพุทธภิเศก
ดำเนินการ ณ พระวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 20 มกราคม พ.ศ.2515 โดยพุทธสมาคมพิษณุโลก เพื่อนำวัตถุมงคลที่จัดสร้างขึ้นเข้าพิธีปลุกเสก วัตถุมงคลในรุ่นนี้มี พระพุทธชินราชจำลอง พระชัยวัฒน์ พระกริ่งนเรศวรวังจันทน์ พระพิมพ์ และเหรียญมหาจักรพรรดิ์ ฯลฯ พิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก เป็นพิธีที่ใหญ่มาก
ยากแก่การดำเนินการหาเจ้าพิธี ตลอดจนตำรับพระคาถา และพระภิกษุเจริญพระคาถาได้ ตามประวัติ ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์

พิธี "จักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก" นี้ ครั้งแรกได้กระทำพิธีในสมัยรัชกาลที่ 1 และได้มีการกระทำพิธีนี้อีก เมื่อวันที่ 20 มกราคม พ.ศ.2515 ในสมัยรัชกาลที่ 9 หลังนั้นก็ไม่ปรากฏว่ามีการกระทำพิธีฯ นี้อีกเลย ในพิธีนี้ พระอาจารย์ผ่อง จินดา วัดจักรวรรดิราชาวาส กทม. และ อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ซึ่งเป็นเจ้าพิธีได้กำหนด และควบคุมดำเนินการประกอบพิธี "จักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก" ครบถ้วนตามแบบฉบับของโบราณกาลพิธีทุกประการ

คณะกรรมการพิธีฯ
สมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นประธานจุดเทียนชัย ศาสตราจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ นายกพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานในพิธีจุดเทียนบูชาพระรัตนตรัย พระครูศรีพรหมโสภิต (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี เป็นประธานบริกรรมปลุกเสก
กรรมการฝ่ายเจ้าพิธี
พระอาจารย์ผ่อง จินดา วัดจักรวรรดิราชาวาส อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร อาจารย์มาโนช มาโสภาศ
กรรมการอุปถัมป์ฝ่ายสงฆ์
พระสุวรรณวิสุทธิคุณ เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก พระพิษณุบูราจารย์ เจ้าอาวาส วัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ จ.พิษณุโลก ฯลฯ
กรรมการอุปถัมภ์ฝ่ายฆราวาส
นายพ่วง สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.ท.สำราญ แพทยกุล แม่ทัพภาคที่ ๓ สมาคมนักเรียนเก่าพิษณุโลกพิทยาคม ฯลฯ
กรรมการดำเนินงาน
คณะกรรมการพุทธสมาคม จ.พิษณุโลก
กรรมการที่ปรึกษา
นายประชุม กาญจนวัน์ นายสุฉันท์ โพธิสุวรรณ ฯลฯ

พิธีมหาพุทธภิเศก เป็นเวลา 2 วันเต็ม นับจากวันที่ 19 – 20 ม.ค. 2515 พระคณาจารย์บริกรรมปลุกเสก 109 รูป
รายนามพระคณาจารย์ที่ร่วมบริกรรมปลุกเสก อาทิ
1. หลวงพ่อทอง (พระครูวิริยะโสภิต) วัดพระปรางค์ จ.สิงห์บุรี
2. หลวงพ่อเงิน (พระราชธรรมมาภรณ์) วัดดอนยาหอม จ.นครปฐม
3. หลวงพ่อนาค (พระครูจันทรโสภณ) วัดนรนาถสุนทริการาม กรุงเทพฯ
4. หลวงพ่อแดง (พระครูญาณวิลาศ) วัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี
5. หลวงพ่อหอม (พระครูภาวนาณุโยค) วัดซากหมากป่าเรไร จ.ระยอง
6. หลวงพ่อสุข วัดโพธิ์ทรายทอง จ.บุรีรัมย์
7. หลวงพ่อสด (พระครูวิจิตนชัยการ) วัดหางน้ำ จ.ชัยนาท
8. หลวงพ่อชื่น (พระครูนนทกิจวิมล) วัดตำหนักเหนือ จ.นนทบุรี
9. หลวงพ่อบุญ (พระครูประดิษฐ์นวการ) วัดวังมะนาว จ.ราชบุรี
10. หลวงปู่ทองอยู่ (พระครูสุตาธิการี) วัดใหม่หนองพระองค์ จ.สมุทรสาคร
11. หลวงพ่อกรับ (พระครูธรรมสาคร) วัดโกรกกราก จ.สมุทรสาคร
12. หลวงพ่อเจริญ (พระครูปัญญาโชติ) วัดทองนพคุณ จ.เพชรบุรี
13. หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู จ.ลพบุรี
14. หลวงพ่อชื่น วัดคุ้งท่าเลา จ.ลพบุรี
15. พระครูสนิทวิทยการ วัดท่าโขลง จ.ลพบุรี
16. พระครูปิยะธรรมโสภิณ (หลวงพ่อคำ) วัดบำรุงธรรม จ.สระบุรี
17. พระครูกิตพิจารณ์ (หลวงพ่อผัน) วัดราฎร์เจริญ จ.สระบุรี
18. พระครูพุทธฉายาภิบาล วัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี
19. พระครูสุวรรณวุฒาจารย์ (หลวงพ่อมุ่ย) วัดดอนไร่ จ.สุพรรณบุรี
20. พระวินัยรักขิตาวันมุนี (หลวงพ่อถิร) วัดป่าเลไลย์ จ.สุพรรณบุรี
21. พระวิบูลเมธาจารย์ วัดดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี
22. หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว จ.สุพรรณบุรี
23. หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง จ.นนทบุรี
24. หลวงพ่อเผือก วัดสาลีโข จ.นนทบุรี
25. พระครูประกาศสมาธิคุณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ฯกรุงเทพฯ
27. พระเทพโสภณ (สมเด็จพระมหาธีราจารย์) (นิยม ฐานิสฺสโร) วัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ
28. หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม จ.นครปฐม
29. พระครูสาธุกิจวิมล (หลวงพ่อเล็ก) วัดหนองดินแดง จ.นครปฐม
30. หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ จ.กาญจนบุรี
31. พระครูอุดมสิทธาจารย์ (หลวงพ่ออุตตมะ) วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี
32. พระครูจันทสโรภาส (หลวงพ่อเที่ยง) วัดม่วงชุม จ.กาญจนบุรี
33. พระครูโกวิทยาสมุทคุณ (หลวงพ่อเนื่อง) วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม
34. พระครูศรีพรหมโสภิต (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี
35. พระอาจารย์ผ่อง (จินดา) วัดจักรวรรคิ์ราชาวาส กรุงเทพฯ
36. พระครูศรีปริยานุรักษี วัดพันอ้น จ.เชียงใหม่
37. พระครูวิรุฬห์ธรรมโกวิทย์ วัดเจดีย์สถาน จ.เชียงใหม่
38. พระครูมงคลคุณาธร วัดหม้อตองคำ จ.เชียงใหม่
39. หลวงพ่อบุญมี วัดท่าสต๋อย จ.เชียงใหม่
40. หลวงพ่อแสน วัดท่าแหน จ.ลำปาง
41. หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน จ.ลำปาง
42. หลวงพ่อชุบ วัดเกาะวาลุการาม จ.ลำปาง
43. หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง
44. หลวงพ่อเงิน วัดเขาสาก จ.ลำปาง
45. หลวงพ่อบุญสม วัดหัวข่วง จ.ลำปาง
46. พระวิบูลวชิรธรรม วัดท่าพุทรา จ.กำแพงเพชร
47. หลวงพ่อจ้อย วัดศรีอุทุมพร จ.นครสวรรค์
48. หลวงพ่อพรหม ถาวโร วัดช่องแค จ.นครสวรรค์
49. หลวงพ่อโอด (พระครูนิสัยจริยคุณ) วัดจันเสน จ.นครสวรรค์
50. หลวงพ่อคัด วัดท่าโบสถ์ จ.ชัยนาท
51. หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม จ.ชัยนาท
52. หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม จ.สิงห์บุรี
53. หลวงพ่อดวง วัดทอง จ.สิงห์บุรี
54. พระครูอาทรสิกขการ (หลวงพ่อโต๊ะ) วัดเกศไชโย จ.อ่างทอง
55. พระครูสันทัดธรรมคุณ (หลวงพ่อออด) วัดท่าช้าง จ.อยุธยา
56. พระครูประภาสธรรมคุณ (หลวงพ่อแจ่ม) วัดวังแดง จ.อยุธยา
57. พระครูประสาทวิทยาคม (หลวงพ่อนอ) วัดกลางท่าเรือ จ.อยุธยา
58. พระครูพิพิธวิหารการ (หลวงพ่อเทียม) วัดกษัตราธิราช จ.อยุธยา
59. พระครูสาธรพัฒนกิจ (หลวงพ่อลมูล) วัดเสด็จ จ.ปทุมธานี
60. พระครูวิเศษมงคลกิจ (หลวงพ่อมิ่ง) วัดกก กรุงเทพฯ
61. พระครูอนุกูลวิทยา (หลวงพ่อเส็ง) วัดน้อยนางหงษ์ กรุงเทพฯ
62. พระครูพิริยกิจติ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ
63. พระครูภาวณาภิรมย์ วัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
64. พระครูโสภณกัลป์ยานุวัฒน์ (หลวงพ่อเส่ง) วัดกัลยาณ์ กรุงเทพฯ
65. พระครูพินิจสมาจารย์ (หลวงพ่อโด่) วัดนามะตูม จ.ชลบุรี
66. หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง
67. พระครูวชิรรังษี วัดมฤคทายวัน จ.ประจวบคีรีขันธ์
68. พระครูวชิรคุณาญาณ วัดในกลาง จ.ประจวบคีรีขันธ์
69. หลวงพ่อเกตุ วัดเกาะหลัก จ.ประจวบคีรีขันธ์
70. พระครูอุดมศีลจารย์ (พ่อท่านเย็น) วัดโคกสะท้อน จ.พัทลุง
71. พระครูพิศาลพัฒนกิจ (พ่อท่านพระครูปลัดบุญรอด) วัดประดู่พัฒนาราม จ.พัทลุง
72. พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ วัดดอนศาลา จ.พัทลุง
73. หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน จ.พัทลุง
74. หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย จ.ชุมพร
75. หลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต จ.ขอนแก่น
76. หลวงปู่จันทร์ วัดสำราญ จ.อุบลราชธานี
77. หลวงพ่ออ่อน วัดประชานิยม จ.กาฬสินธุ์
78. หลวงพ่อครูบาวัง วัดบ้านเด่น จ.ตาก
79. หลวงพ่อครูบาตัน วัดเชียงทอง จ.ตาก
80. หลวงพ่อเกตุ วัดศรีเมือง จ.สุโขทัย
81. หลวงพ่อปี้ วัดบ้านด้านลานหอย จ.สุโขทัย
82. พระครูคีรีมาสธรรมคุณ วัดวาลุการาม จ.สุโขทัย
83. พระครูพิลาศธรรมคุณ วัดธรรมปัญญาราม จ.สุโขทัย
84. พระครูไกรลาศสมานคุณ วัดกงไกรลาศ จ.สุโขทัย
85. พระอาจารย์พวง วัดสว่างอารมณ์ จ.สุโขทัย
86. พระอาจารย์ฉลอง วัดสว่างอารมณ์ จ.สุโขทัย
87. พระครูพินิจธรรมภาณ วัดวังแดง จ.พิจิตร
88. พระครูธรรมมานิสิทธิ์ วัดบ้านไร่ จ.พิจิตร
89. พระอาจารย์ชัย วัดกลาง จ.อุตรดิตถ์
90. หลวงพ่อบุญ วัดน้ำใส จ.อุตรดิตถ์
91. หลวงพ่อจันทร์ วัดหาดสองแคว จ.อุตรดิตถ์
92. พระพิษณุบุราจารย์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก
93. พระสมุห์ละมัย (พระวรญาณมุนีวัดอรัญญิก) วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก
94. พระครูศีลสารสัมบัน (สำรวย สัมปันโน) วัดสระแก้วปทุมทอง จ.พิษณุโลก
95. พระครูอภัยจริยาภรณ์ วัดใหม่อภัยยาราม จ.พิษณุโลก
96. พระครูวินัยธรสุเทพ วัดแสงดาว จ.พิษณุโลก
97. พระอาจารย์ถนอม วัดนางพญา จ.พิษณุโลก
98. พระครูประภาสธรรมมาภรณ์ (หลวงปู่แขก) วัดสุนทรประดิษฐ์ จ.พิษณุโลก
99. พระครูศรีรัตนาภรณ์ (หลวงพ่อไช่) วัดศรีรัตนาราม จ.พิษณุโลก
100. หลวงพ่อเปรื่อง วัดคูหาสวรรค์ จ.พิษณุโลก
101. พระอาจารย์พิมพ์ วัดคูหาสวรรค์ จ.พิษณุโลก
102. หลวงพ่อเฉลิม วัดโพธิญาณ จ.พิษณุโลก
103. หลวงพ่อเปรื้อง วัดโพธิญาณ จ.พิษณุโลก
104. พระอาจารย์ชุ่ม วัดกรมธรรม์ จ.พิษณุโลก
105. พระอาจารย์โต วัดสมอแข จ.พิษณุโลก
106. พระครูประพันธ์ (หลวงพ่อพัน) วัดบางสะพาน จ.พิษณุโลก
107. พระครูวิจารณ์ศุภกิจ (อาจารย์ทองม้วน) วัดวังทอง จ.พิษณุโลก
108. พระอาจารย์นวล วัดนิมิตธรรมาราม จ.พิษณุโลก
109. พระอาจารย์ธงชัย วัดวชิรธรรมราชา จ.พิษณุโลก
และจากจังหวัดต่างๆทั่วประเทศรวม 109 รูป พุทธคุณของพระชุดนี้ กล่าวขวัญมากโดยเฉพาะด้านแคล้วคลาดและเหนียวสุดๆครับ น่าบูชาเป็นอย่างยิ่งนับแต่นั้นมา ยังมีการชุมนุมของพระเกจิอาจารย์ครั้งไหน จะยิ่งใหญ่เท่านี้อีก
สำหรับน้ำพระพุทธมนต์ที่แช่พระกริ่งเข้าพิธี ใช้น้ำที่วัดตูม เป็นน้ำที่ออกจากพระเศียรพระพุทธรูปที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เคยใช้ในพิธีชุบพระแสงและเครื่องศัตราวุธ รวมกับน้ำในบ่อน้ำพระพุทธมนต์ วัดพระพายหลวง (บ่อพระร่วง) เมืองเก่าสุโขทัย

 

ปิดครับ



เหรียญพระปางลีลา วัดนางพญา ปี14

เหรียญนี้กะไหล่เงิน สวยมากๆ


เหรียญพระปางลีลา มีพุทธลักษณะพระวรกายที่อ่อนช้อย พระพักตร์งดงามเป็นยิ่งนัก ด้านหลังแกะเป็น พระพิมพ์นางพญา พิมพ์เข่าโค้งขนาดเล็ก พร้อมจารึกคาถาหัวใจพระสีวลีมหาลาภ (นะ ชา ลี ติ) โดยปฏิมากรฝีมือเอกแห่งยุค ฝีมือช่างชั้นครูคือ 'ช่างเกษม มงคลเจริญ' ได้บรรจงออกแบบแกะพิมพ์และปั๊มอย่างงดงามประณีต พิธีนี้เป็นอภิมหาพิธีพุทธาภิเษกที่ยิ่งใหญ่มากในยุคนั้น โดยนิมนต์ยอดเกจิอาจารย์จากทั่วประเทศ 108 รูป มาร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษก อาทิเช่น
-หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม
-หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ธนบุรี
-หลวงปู่ฝั้น อาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำขาม สกลนคร
-หลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขตต์ จ.ขอนแก่น
-หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่
-ครูบาพรหมจักรสังวร วัดพระพุทธบาทตากผ้า ลำพูน
-หลวงพ่อทบ วัดช้างเผือก เพชรบูรณ์
-หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง
-หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว สุพรรณบุรี และเกจิฯอื่นๆปลุกเสกอีกมากมาย

 

ตะกรุดตะกั่ว หลวงปู่โต๊ะ สร้างปี 2510 เนื้อตะกั่วสร้างน้อยมากๆ

บูชา 36,000 บาท พร้อมบัตรรับรองสมาคม

ความเป็นมา: หลวงปู่โต๊ะ ได้ออกธุดงค์จาริกไปทั้วทุกภาคในประเทศไทย ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ ท่านได้ไปศึกษาพระปริยัติธรรม โดยได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ จ.สมุทรสาคร เรียนวิชาพุทธาคม (เครื่องรางของขลัง) ลักษณะ: เป็นแผ่นโลหะ จารโดยหลวงปู่โต๊ะแล้วม้วนเป็นทรงกลม ด้านหน้า เนื้อเงินมีโค๊ต "ต" และ "ปพ" เนื้อทองแดงมีโค๊ต "ต" ล้อมรอบด้วยดอกจัน เนื้อตะกั่วมีโค๊ต "ต" ล้อมรอบด้วยดอกจัน ด้านหลัง เป็นรอยม้วนของแผ่นโลหะ

จำนวนสร้าง: มีทั้งหมด 3 เนื้อ จำนวนการสร้างไม่แน่ชัด(สร้างน้อย)
1. เนื้อเงิน
2. เนื้อทองแดง
3. เนื้อตะกั่ว

*** ตะกรุดทุกดอกมีรอยจารของหลวงปู่โต๊ะ **

 

ปิดครับ




เหรียญปืนไขว้ หลวงพ่อพุฒ วัดกลางบางพระ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เนื้อทองแดงรมดำ ปี 2533


เหรียญรุ่นนี้จัดเป็นเหรียญรุ่นหกของท่าน เป็นเหรียญเสมาหลวงพ่อเต็มองค์นั่งทับปืนและลูกระเบิด ซึ่งเป็นเหรียญยอดนิยมที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “เหรียญปืนไขว้” หรือ “เหรียญนั่งทับปืน” สร้างเมื่อ พ.ศ.2533มีทั้งตอกโค็ตด้านหน้า และไม่ตอกโค็ต นับเป็นอีกหนึ่งเหรียญสุดยอดประสบการณ์ ที่กำลังมาแรงอย่างเงียบๆในช่วงนี้ ส่วนเหรียญนี้ สภาพสุดคลาสสิค ผิวหิ้ง หายากน่าเก็บน่าใช้

**พระครูสุนทรวุฒิคุณ(พุฒ สุนฺทโร)วัดกลางบางพระ นครปฐม ท่านมีศักดิ์เป็นหลานของหลวงพ่อน้อยวัดศรีษะทอง เจ้าตำหรับวัวธนูอันโด่งดัง และยังเป็นหนึ่งในศิษย์เอกของหลวงพ่อแช่มวัดตาก้อง แต่เป็นศิษย์รุ่นน้องของหลวงพ่อเต๋อีกทีครับ ท่านเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อพูลแห่งวัดไผ่ล้อม ในด้านสายวิชาปลุกเสกสายเครืองรางฯ เป็นพระสันโดษ เงียบๆ คนไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไร เครื่องรางและวัตถุมงคลต่างๆหลวงพ่อมีสร้างเอาไว้บ้างครับ เอาไว้แจกลูกศิษย์ พระเครื่องรุ่นต่างๆที่ท่านสร้างเอาไว้ล้วนมีประสบการณ์มาก -เหรียญรุ่นแรก สร้างเมื่อ พ.ศ.2505 แจกเปิดโรงเรียนวัดกลางบางพระ เมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ.2509 เป็นเหรียญรูปทรงเสมาหลวงพ่อหน้าตรงครึ่งองค์ เห็นสังฆาฏิทำด้วยสตางค์แดงผสมทองแดง และอีกชนิดหนึ่งทำด้วยทองเหลืองฝาบาตร ซึ่งเป็นพิมพ์เดียวกัน หน้าเหรียญเขียนว่า “พระอธิการพุฒ สุนทรโร” ซึ่งในปัจจุบันทั้งสองชนิดหายากพอสมควร -เหรียญรุ่นสอง สร้างเมื่อ พ.ศ.2513 เมื่อครั้งรับพระราชทานเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี เป็นเหรียญเต็มองค์นั่งขัดสมาธิ เขียนใต้ฐานว่า “พระครูสุนทรวุฒิคุณ” บนเขียนว่าวัดกลางบางพระ -เหรียญรุ่นสามเป็นเหรียญเสมา สร้างเมื่อ พ.ศ.2522 เป็นเหรียญรูปหล่อหลวงพ่อครึ่งองค์ สร้างเป็นที่ระลึกในงานฉลองพระครูสัญญาบัตรชั้นโท -เหรียญรุ่นสี่ เป็นเหรียญกลมหลวงพ่อครึ่งองค์ด้านหลังเป็นหนังสือ สร้างเมื่อ พ.ศ.2528 -เหรียญรุ่นห้า เป็นเหรียญเสมารูปหลวงพ่อเต็มองค์ นั่งถือไม้เท้า ด้านหลังเขียน “ที่ระลึกในงานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นชั้นเอก” สร้างเมื่อ พ.ศ. 2533 -เหรียญรุ่นหกเป็นเหรียญเสมาหลวงพ่อเต็มองค์นั่งทับปืนและลูกระเบิด ซึ่งเป็นเหรียญยอดนิยมที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “เหรียญปืนไขว้” หรือ “เหรียญนั่งทับปืน” สร้างเมื่อ พ.ศ.2533 -เหรียญรุ่นเจ็ดเป็นเหรียญเสมารูปหลวงพ่อครึ่งองค์ด้านหน้าเขียนว่า “หลวงพ่อพุฒ อายุ 80 ปี” สร้างเมื่อ พ.ศ.2533 -เหรียญรุ่นแปดเป็นเหรียญรูปไข่หลวงพ่อนั่งเต็มองค์ถือไม้เท้า ด้านหลังเขียนว่า “ที่ระลึกในงานฉลองพระเกตุจุฬามณี” สร้างเมื่อ พ.ศ. 2534 -เหรียญรุ่นเก้าเป็นเหรียญเสมาหล่อปืนไขว้ “นั่งทับปืน” มีทั้งเนื้อเงิน เนื้อนวะ และเนื้อทองแดง สร้างเมื่อ พ.ศ.2533 -เหรียญรุ่นสิบเป็นเหรียญกงจักรหลวงพ่อนั่งทับปืน สร้างเมื่อ พ.ศ. 2533 -นอกจากนี้ยังมีวัวธนูบูชาและห้อยคอ ราหูอมจันทร์ แกะจากกะลาตาเดียวทั้งที่เป็นลูกและห้อยคอ พระผงรุ่นต่าง ๆ ตะกรุดสี และอื่น ๆ อีกมากมายที่หลวงพ่อท่านได้สร้างไว้ ล้วนแต่สุดยอดประสบการณ์และหายาก

 

ปิดครับ



พระกริ่งศรีศากยมุนี วัดสุทัศน์ ปี๑๖

องค์นี้พิมพ์เล็ก เนื้อโลหะผสม กริ่งขัด

บูชา 1,700 บาท

พระกริ่งศรีศากยมุนี สร้างขึ้นในสมัยเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์เสงี่ยม จัดสร้างโดยมูลนิธิ อัฏมราชานุสรณ์

พิธีจัดขึ้นที่อุโบสถวัดสุทัศน์โดยมีคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมร่วมนั่งอธิษฐาน จิตบริกรรมภาวนา จำนวน 49 รูป

1 หลวงพ่อ แพ วัดพิกุลทอง
2 หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ ฉิมพลี
3 หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช
4 หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
5 หลวงพ่อ กี๋ วัดหูช้าง
6 หลวงพ่อ ถิร วัดป่าเลย์ไลย์
7 หลวงพ่อรอด วัดประดู่พัฒนาราม นครศรีธรรมราช
8 หลวงพ่อ หอม วัดชานหมาก
9 หลวงพ่อชื่น วัดตำนักเหนือ
10 พระญาณโพธิ เข็ม วัดสุทัศน์
11 เจ้าคุณศรีประหยัด วัดสุทัศน์
12 พระพุทธมงคลวราจารย์ สุพจน์ วัดสุทัศน์
13 พระมหาอำนวย วัดสุทัศน์
14 พระปรมาจารย์ ผ่อง วัดสามปลื้ม
15 พระมงคลทิพมุณี วัดพระเชตุพน
16 พระคูรพิทักษ์วิหารกิจ วัดราชนัดดา
17 หลวงพ่อเส่งวัดกัลยา
18 หลวงพ่อฉาย วัดศรีสาคร
19 หลวงพ่อเนื่อง วัดท่าแหน ลำปาง
20 พระอาจารย์แสน วัดท่าแหน ลำปาง
21 พระคุณพรหมจักรสุนทร วัดธรรมจักร ลำปาง
22 หลวงพ่อ มี วัดสิงห์ บางขุนเทียน
23 หลวงปู่ทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง สมุทรสาคร
24 หลวงพ่อ พล วัดหนองคณฑี สระบุรี
25 พระคูรสาทรพัฒนากิจ วัด เสด็จ
26 หลวงเที่ยง วัดม่วงชุม กาญจนบุรี
27 หลวงพ่อ ไผ่ วัดพันอ้น เชียงใหม่
28 หลวงพ่อ มุม วัดปราสาทเยอร์
29 หลวงพ่อชื้น วัดญาณเสน
30 หลวงพ่อ พริ้ง วัดโบศถ์
31 พระอาจารย์ใหญ่ วัดถ้ำใหญ่คูหาสวรรค์
32 พระคูรใบฏีกา ฐานธัมโม วัดถ้ำเขาเงิน ชุมพร
33 หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย
34 พระคูรวิมลคุณาทร วัดประสาท นิกร ชุมพร
35 พระคูรญาณที วัดขันเงิน
36 หลวงพ่อ จรัล วัดอัมพวัน สิงห์บุรี
37 หลวงพ่อ ดำวัดตุยง ปัตตานี
38 หลวงพ่อสัมฤทธิ์ วัดอู่ทอง
39 หลวงพ่อสา วัดสองพี่น้อง ปทุมธาณี
40 หลวงพ่อ คง วัด วังสรรพรส
41 หลวงพ่อนคร วัดอิติสุตโต ประจวบ
42 หลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต ขอนแก่น
43 หลวงพ่อถีร์ ขอนแก่น
44 พระราชมุณีปทุมวรนาราม กทม
45 พระอาจารย์สมพล วัดปทุมคงคา
46 หลวงพ่อเกตุ วัดเกาะหลัก
47 พระอาจารย์ นำ วัดดอนศาลา
48 พระครูอมร ธุตคุณ วัดศิลาชลเขต
49 หลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ เพชรบุรี

 

ปิดครับ





พระปิดตามหาลาภ หลวงพ่อ ชม วัดเขาดิน อยุธยา

พระสวย สมบูรณ์ ในกล่องเดิมๆ จากวัด

บูชา 400 บาท

ข้อมูล แบบเต็ม ๆ เวอร์ชั่น จาก ลานโพธิ์ครับ

https://lanpothai.blogspot.com/2018/11/blog-post_22.html


เครดิต ข้อมูลจากลานโพธิ์ ครับ

 

ปิดแล้วครับ



พระธาตุพนม" สถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวเมืองนครพนม เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 62 เหรียญพระธาตุพนมได้แผ่บารมีคุ้มครอง รองผกก.สภ.นาแก พ.ต.ท.ณัฐพล ต้องเดช ให้รอดปลอดภัยอย่างปาฏิหาริย์ จากอุบัติเหตุรถยนต์วิ่งชนเสาไฟฟ้าขาด 2 ท่อน เมื่อเห็นสภาพรถทุกคนต้องบอกว่ารอดยาก สภาพรถพังยับชนิดที่มองแล้วไม่มีช่องว่างให้ ให้ร่างกายของรองผกก.รอดซุกอย่างปลอดภัย แต่กลับรอดได้อย่างน่าอัศจรรย์ และมีบาดแผลเพียงเล็กน้อย ชาวบ้านนครพนมเชื่อว่าเป็นเพราะบารมีของเหรียญนครพนมที่ รองผกก.พกติดตัว ซึ่งมีพุทธคุณแคลัวคลาดปลอดภัย เหรียญที่ให้ชมเป็นเหรียญเนื้อเงิน สร้างในปี 2519 ที่หลายคนอยากมีไว้บูชา เป็นเหรียญหายาก...และเป็นเหรียญนิยมของชาวเมืองนครพนม มีพกติดตัวแล้วจะอุ่นใจ
รุ่นนี้หลวงปู่คำพันธ์ ,หลวงพ่อผาง และอีกหลายคณาจารย์ร่วมปลุกเสก

บูชา 900 บาท

 

ปิดครับ




เหรียญหลวงปู่แหวน รวมใจ ปี2518

รุ่นประสบการณ์ 5 นัด

บูชา 800 บาท

 

ปิดครับ




พระผงรุ่นมหากุศล อย.ปี2532

องค์นี้ พิเศษ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ใช้แป้งเจิมและแผ่นทองคำเปลว แปะ ติดด้านหน้าให้

บูชา 1,500 บาท

รุ่นมหากุศล อย.
นี้ คุณสุธันย์ สุนทรเสวี
จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๒
วัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ในการพัฒนา
สถานีอนามัยวัดน้อยแสงจันทร์ สมุทรสงคราม

โดยวัตถุมงคลชุดนี้สร้างจากมวลสารอันศักดิ์สิทธิ์มากมาย
โดยนำจีวรของหลวงพ่อเกษม
และเกศาหลวงพ่อเกษมมาติดยังองค์พระเป็นพิเศษด้วย
(ติดเกศาและจีวรปั๊มยันต์แจกกรรมการ)

ซึ่งพิธีอธิษฐานจิตจัดขึ้นเมื่อวันวิสาขบูชา
ตรงกับวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๓๒
ในพิธีมหากุศลของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
กระทรวงสาธารณสุข เมื่อเวลาประมาณ ๒ ทุ่ม ๙ นาที

หลวงพ่อเกษมได้เมตตาอธิษฐานจิตให้อย่างยาวนานเป็นที่สุด
เกือบหนึ่งชั่วโมงเต็ม และในขณะเดียวกัน
หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อยุธยา
ก็ได้เริ่มเดินญาณส่งจิตมายังมณฑลพิธี
เพื่อร่วมอธิษฐานจิตครั้งนี้
ตามที่คุณสุธันย์ สุนทรเสวี ได้กราบนิมนต์ไว้


พระผงหลวงพ่อเกษม เขมโก รุ่น มหากุศล อย.ปี 32

***(สุดยอดมวลสาร สุดยอดพระอริยสงฆ์คู่แผ่นดินสยาม อธิษฐานจิต)***

พระรุ่นนี้จัดสร้างโดย คุณสุธันย์ สุนทรเสวี เมื่อปี 2532 ทั้งนี้ปัจจัยที่ได้จากการบูชาวัตถุมงคลนี้ได้ยกให้เป็นประโยชน์ในการพัฒนา สถานีอนามัยวัดน้อยแสงจันทร์ สมุทรสงคราม (วัตถุประสงค์ชัดเจน)

จัดขึ้นเมื่อวันวิสาขบูชา ตรงกับวันที่ 19 พฤษภาคม 2532
ในพิธีมหากุศลของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข

มวลสารของพระผงรุ่นนี้ประกอบด้วย
- เส้นเกศา หลวงพ่อเกษม เขมโก
- จีวร หลวงพ่อเกษม เขมโก
- ผงพุทธคุณ หลวงพ่อเกษม เขมโก
- ข้าวก้นบาตร หลวงพ่อเกษม เขมโก
- ดอกมะลิ
- แผ่นทองบูชาสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี วัดอินทรวิหาร และวัดระฆังโฆษิตาราม กรุงเทพมหานคร
- น้ำพระพุทธมนต์จากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ จำนวน 359 วัด
- ผงพุทธคุณ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา
- และผงพุทธคุณอีกหลายเกจิอาจารย์ ฯลฯ

***พระผงรุ่นนี้ หลวงพ่อเกษม เขมโก ให้ดำเนินการจัดสร้างและกดพิมพ์ทั้งหมด ณ สุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง
โดยได้โยงสารสิญจน์จากกุฏิของหลวงพ่อเกษม ไปที่เครื่องกดพิมพ์พระ เพื่อความเข้มขลังตลอดการจัดสร้างพระชุดนี้

จำนวนการจัดสร้าง 84,000 องค์

***โดยที่พิเศษ สำหรับพระเครื่องรุ่นนี้ ผู้จัดสร้างได้อารธนา หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา พระอริยสงฆ์ผู้มากบารมี ร่วมทำสมาธิ ส่งจิตตภาวนา มาร่วมอธิษฐานจิต ตลอดพิธี ของพระเครื่องชุดนี้ด้วย

***หลวงพ่อเกษมได้เมตตาอธิษฐานจิตให้อย่างยาวนาน เกือบหนึ่งชั่วโมงเต็ม และในขณะเดียวกัน หลวงปู่ดู่ วัดสะแก จ.อยุธยา ก็ได้เริ่ม เดินญาณส่งจิตมายังมณฑลพิธีเพื่อร่วมเสกด้วย***

***จัดเป็นวัตถุมงคลที่พระอริยสงฆ์ 2รูป แห่งยุค ได้ร่วมอธิษฐานจิต อย่างเข้มขลัง อีกทั้งมวลสารอันศักดิ์สิทธิ์(ซึ่งหาไม่ได้อีกแล้ว) วัตถุประสงค์การจัดสร้างดีและชัดเจนมาก

 

เหรียญหลวงหลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา

นิยมสุด เลข ๑ 4 ตัว เหรียญปั๊ม คมชัด ดูง่ายสุดๆ หายากมากๆครับ

สนใจทัก *,***


เหรียญบรมครู " หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา " จ.ลพบุรี ทองหนึ่ง ( ๑๑๑๑ สี่ตัว นิยม ) เหรียญประสบการณ์ดี หายากมาก

เหรียญรุ่นนี้ยุคแรกๆเป็นเหรียญเนื้อทองแดงรมดำจะทันหลวงพ่อเขาสาริกา (หลวงพ่อกบ) สร้างประมาณ 2495-96 แต่อย่างที่บอกไว้ครับ หลวงพ่อกบท่านไม่ค่อยปลุกเสกอะไรง่าย ๆ รุ่นนี้จึงให้หลวงพ่อโอภาสีปลุกเสกแทน ซึ่งมีทั้งแบบเลข ๑ จำนวน 3 ตัวและ 4 ตัว (ดูจากด้านหลังเหรียญ)

เหรียญหลวงพ่อกบ วัดช่องสาลิกา เหรียญนี้คาดว่า สร้างประมาณปี 2499 เม่าที่พบเห็นจะมีด้วยครับ 2 บล็อค 2 แบบปั๊มคือ
1.เหรียญปั๊มยุคเก่า แบบข้างกระบอก
2.เหรียญปั๊ม แบบตัวตัด

 

ปิดครับ



เหรียญรัชกาลที่ 5 หลังนารายณ์ทรงครุฑวัดแหลม แค จ.ชลบุรี สร้า งปี พ.ศ.2534 เนื้อเงิน

สำหรับ วัตถุมงคลที่เป็นพระรูปของรัชกาลที่ 5 มีสร้างอยู่มากมายหลายวัดในช่วงปี 2530-2536 นับเป็นปีที่ประชาชนให้ความนิยมมากที่สุด แทบทุกวัดในสมัยนั้น ต้องมีการจัดสร้างให้คนมาบูชา แต่มีอยู่วัดหนึ่งที่จัดสร้างเหรียญ รัชกาลที่ 5 ทำพิธีอย่างยิ่งใหญ่และเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมมาก คือเหรียญรัชกาล ที่ 5 ของวัดแหลมแค อำเภอพานทอง ชลบุรี "เจ้าประคุณสมเด็จธงชัย ท่านเคยพูด เล่าเรื่องนี้ให้คณะศิษย์ฟังในกุฏิท่านหลังเดิม เนื่องด้วยวัดแหลมแค เป็นวัดบ้านเกิดของท่านเจ้าประคุณสมเด็จธงชัย
จัดสร้างโดยท่านเจ้าประคุณสมเด็จธงชัย วัดไตรมิตรฯมีวัตถุประสงค์เพื่อสมทบทุนซื้อที่ดินและสร้างโรงเรียนวัดแหลมแค ในปี2534 เหรียญรุ่นนี้ด้านหน้า เป็นพระรูปรัชกาลที่ 5 ด้านหลังเป็นเทพพระนารายณ์ทรงครุฑ ยุดนาค พุทธคุณ เหรียญรุ่นนี้ไม่ธรรมดาเพราะมีพระบารมีแห่งในหลวงรัชกาลที่ 5 (พระปิยะมหาราช)ยังผสานพลังแห่งมหาเทพคือพระนารายณ์ พญาครุฑ ที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จธงชัยอัญเชิญมาประทับหลังเหรียญรุ่นนี้
เหรียญนี้จึงดีเด่นด้าน ป้องกันอันตราย เสริมดวงชาตา มหาอำนาจ มีเมตตามหานิยม ที่สำคัญท่านเจ้าประคุณสมเด็จธงชัย เมื่อจัดงานพิธีมังคลาภิเษก

เหรียญรัชกาลที่5 วัดแหลมแค ปี 2534 เนื้อทองแดง สภาพสวยมาก เดิมๆบ้านๆ พระดีพิธีใหญ่ อริยสงฆ์และเกจิสายตะวันออกร่วมปลุกเสกมากมาย เกจิชื่อดังมากมายถึง 108 องค์ ซึ่งมีของปลอม ของเลียนแบบมากมาย หลากหลายฝีมือ เช่าหาโปรดระวัง

วัตถุประสงค์การจัดสร้าง สมทบทุนซื้อที่ดินและ สร้างโรงเรียนวัดแหลมแค

ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ.สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 4 ภาค (108 คณาจารย์ดัง.) ดังมีรายการต่อไปนี้

ภาคกลาง ณ.พระอุโบสถวัดหน้าพระเมรุ จ.อยุธยา พระคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒินั่งปรกเสก 52 รูป อาทิ
- ลพ.เปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม
- ลพ.เจือ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม
- ลพ.สาคร วัดหนองกลับ จ.ระยอง
- ลพ.อุตตะมะ วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี
- ลพ.จ้อย วัดศรีอุทุมพร จ.นครสวรรค์ เป็นต้น…

ภาคเหนือ ณ.พระอุโบสถวัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่ พระคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒินั่งปรกเสก 18 รูป อาทิ
- ครูบาเจ้าเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง
- ครูบาชัยวงศา วัดพระบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน
- ครูบาบุญชุ่ม วัดพระธาตุดอยเรือง ประเทศพม่า
- ครูบาบุญเทือง วัดบ้านเด่น จ.เชียงใหม่ เป็นต้น…

ภาคอีสาน ณ.พระอุโบสถวัดพระธาตุพนม จ.นครพนม พระคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒินั่งปรกเสก 18 รูป อาทิ
- ลพ.คูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา
- ลพ.บุญมี วัดสระประสานสุข จ.อุบลราชานี
- ลป.ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง จ.ร้อยเอ็ด
- ลป.คำพัน วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม เป็นต้น…

ภาคใต้ ณ.พระอุโบสถวัดพระมหาธาตุ จ.นครศรีธรรมราช พระคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒินั่งปรกเสก 20 รูป อาทิ
- พ่อท่านนอง วัดทรายขาว จ.ปัตตานี
- ลพ.แดง วัดศรีมหาโพธิ์ จ.ปัตตานี
- ลพ.ศรีเงิน วัดดอนศาลา จ.พัทลุง
- ลพ.กาชาด วัดดอนศาลา จ.พัทลุง
- พ่อท่าสังข์ วัดดอนตรอ จ.นครศรีธรรมราช เป็นต้น

 

ปิดแล้ว



เบี้ยแก้หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ ตัวจริง รับประกันทุกสนาม

เสียดายแผ่นทองทองหลุด บูชา 9,500 บาท


***ในยุคแรกๆ หลวงพ่อคำท่านจะซื้อตัวหอยเบี้ยมาจากร้านขายยา แต่หลังจากปี พ.ศ.2493 เบี้ยแก้ของท่านเป็นที่นิยมกันมาก ต้องไปหาซื้อมาจากจังหวัดแถวชายทะเล ส่วนชันโรงได้มาจากจอมปลวกในป่า ในตอนหลังๆ มีไม่พอใช้ท่านจึงเปลี่ยนมาใช้ชันยาเรือแทน เบี้ยแก้ของหลวงพ่อคำนับว่าแปลกจากเบี้ยแก้อื่นๆ คือ ท่านจะเคี่ยวตะกั่วในกระทะให้ละลายแล้วนำตะกั่วที่หลอมละลายมาเทลงในกระบอกไม้ไผ่ ซึ่งตัดเป็นท่อนๆ แบบกระบอกข้าวหลาม จากนั้นจึงนำผ้ามาปิดปากกระบอกแล้วเขย่าโดยเร็ว ให้ตะกั่วแตกตัวเป็นเม็ดกลมๆ เล็กๆ เพื่อนำไปเลี้ยงเป็นอาหารของปรอท จึงทำให้เป็นลักษณะพิเศษของเสียงปรอท เวลาเขย่าจะมีดังแซ็กๆ คล้ายเสียงของเม็ดทราย แต่ไม่ใช่ทรายอย่างที่หลายคนเข้าใจ..หลังจากนั้นหลวงพ่อจะใช้วิธีเรียกปรอทบรรจุลงในตัวเบี้ยด้วยการบริกรรมคาถา โดยนำเบี้ยวางลงบนถาดแล้วเอาหญ้าคาพาดปรอทจากนั้นจึงบริกรรมคาถาไปเรื่อยๆ จนปรอทวิ่งเข้าไปในตัวเบี้ยทั้งหมด หลังจากนั้นจึงอุดใต้ท้องเบี้ยด้วยชันโรง และเอาแผ่นทองแดงที่จารอักขระปิดทับลงไป (เคยมีลูกศิษย์ของท่านได้แอบดูตอนปรอทวิ่งเข้าตัวเบี้ย จะเห็นมีแสงสว่างเหมือนแสงไฟนีออน)..เบี้ยแก้หลวงพ่อคำ จะมีแผ่นทองแดงให้เห็นทุกตัว จากนั้นหลวงพ่อจึงนำเบี้ยไปปลุกเสกในกุฏิด้วยตัวท่านเองทุกครั้ง ชันโรงที่ปิดใต้ท้องเบี้ยมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ คือ 1.ชันโรงยุคแรก 2.ชันยาเรือ และ 3.ชันยาเรือผสมผงอิทธิเจ(ซึ่งอย่างหลังนี้พบน้อยมาก ) ในสมัยที่หลวงพ่อคำยังมีชีวิตอยู่นั้นท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้หลายอย่างด้วยกัน เช่น สมเด็จหู / เหรียญทำบุญอายุครบ60ปี / สมเด็จปรกโพธิ์เก้าชั้น / พระเนื้อว่านหลายพิมพ์ / ผ้ายันต์ / ตะกรุด / รูปถ่าย และเบี้ยแก้ แต่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดก็เห็นจะเป็นเบี้ยแก้นี่แหละครับ

***เบี้ยแก้หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ จ.อ่างทอง ถูกจัดอันดับให้อยู่1ใน5เบญจภาคีเบี้ยแก้ของเมืองไทยอันประกอบไปด้วย
1. เบี้ยแก้หลวงปู่รอด วัดนายโรง กทม.
2. เบี้ยแก้หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม หรือ(เบี้ยแก้หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม)
3. เบี้ยแก้หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน จ.อ่างทอง
4. เบี้ยแก้หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ จ.อ่างทอง
5. เบี้ยแก้หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ จ.อ่างทอง

***เบี้ยแก้ คือ เครื่องรางชนิดหนึ่งที่ขึ้นชื่อในการแก้และกันสิ่งชั่วร้าย ภูติผีปีศาจ ป้องกันไข้ป่าพิษจากสัตว์ร้าย ทั้งยังดีทางเมตตามหานิยม ค้าขายรุ่งเรือง คงกะพันแคล้วคลาดปลอดภัย อาราธนาทําน้ำมนต์ป้องกันสิ่งต่างๆ ได้ดี บางตํารายังถือว่าแก้และกันดวงชะตาตกต่ำได้ เป็นเครื่องรางที่มีสรรพคุณมากมายที่จะหาเครื่องรางชนิดอื่นเสมอเหมือนได้ยาก สร้างจากหอยเบี้ยนํามาบรรจุปรอทและปิดทับด้วยชันโรง

ของขลังที่ควรคู่กาย เบี้ยแก้หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ จังหวัดอ่างทอง

โดย ศาล มรดกไทย

ตั้งแต่อดีตปรมาจารย์ทางด้านศึกษาสะสมพระเครื่องโดยเฉพาะเครื่องรางของขลังมักจะกล่าวไว้เสมอว่า “หนึ่งในเครื่องรางที่ควรมีคู่กายพุทธคุณชั้นเลิศ กันและแก้ได้ในทุกๆ สิ่ง ต้องมีเบี้ยแก้แท้ๆ ไว้ติดตัว” ซึ่งเบี้ยแก้นับเป็นเครื่องรางของขลังที่เกจิอาจารย์ยุคเก่าที่เชี่ยวชาญวิชาอาคมมักนิยมสร้างให้ศิษย์เอาไว้บูชาติดตัว ที่เด่นๆ และมีชื่อเสียงต้องยกให้เบี้ยแก้หลวงปู่รอด วัดนายโรง เบี้ยแก้หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เบี้ยแก้หลวงพ่อพัก วัดโบสถ์ ด้วยเบี้ยแก้ทั้งสามหลวงพ่อหาได้ยากและมีราคาสูง ทําให้เบี้ยแก้ที่กําลังได้รับความนิยมในขณะนี้เป็นที่ต้องการด้วยมีพุทธคุณสูงล้ำบูชาติดตัวได้อย่างเชื่อมั่นเป็นที่รู้จักมานาน คือเบี้ยแก้ของสองสหธรรมิกแห่งเมืองอ่างทองหลวงพ่อนุ่ม วัดนางในและหลวงพ่อคํา วัดโพธิ์ปล้ำ สองพระเกจิอาจารย์วิชาอาคมขลังอันดับต้นๆ ของจังหวัดอ่างทองที่มีศิษย์เคารพนับถือทั่วทั้งประเทศตั้งแต่อดีตจนมาถึงปัจจุบันนี้


ประวัติหลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน
หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน ถือกําเนิดเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ.2426 ที่บ้านสามขุ่น ตําบลวังน้ำชัย อําเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี หลังจากเติบโตจนเริ่มเรียนหนังสือได้ไปอยู่กับพระอธิการพ่วงซึ่งเป็นพระพี่ชายของท่านที่วัดสามจุ่นในหมู่บ้านจนเมื่อมีอายุครบบวชไปอุปสมบท ที่วัดปลายนา ตําบลบ้านปลายนา อําเภอศรีประจันต์ ในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2446 มีพระครูธรรมสารรักษา (อ้น) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากนั้นท่านได้กลับไปอยู่ที่วัดสามจุ่นธุดงค์ศึกษาวิชาอาคมตามสถานที่ต่างๆ กับพระเกจิอาจารย์ที่เชี่ยวชาญในสมัยนั้นหลายๆ องค์

จนถึงปี พ.ศ.2469 ท่านได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดนางใน ตําบลศาลเจ้าโรงทอ อําเภอวิเศษไชยชาญ จังหวัดอ่างทอง ซึ่งในขณะนั้นวัดมีสภาพทรุดโทรมมากท่านได้ร่วมกับชาวบ้านที่ให้ความศรัทธาจนเป็นวัดที่ใหญ่โตสวยงามที่สุดวัดหนึ่งในสมัยนั้น ด้วยชื่อเสียงในด้านวิชาอาคม พระเครื่องรวมถึงเครื่องรางของขลังของท่านที่ขึ้นชื่อหลายอย่างโดยเฉพาะเบี้ยแก้ที่ได้รับความนิยม มีศิษย์เดินทางมาร่วมทําบุญขอบูชา เบี้ยแก้ของท่านจนทําให้สร้างวัดได้รุ่งเรืองต่อมาจนถึงทุกวันนี้ หลวงพ่อนุ่มได้มรณภาพในวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ.2497 สิริอายุได้ 71 ปี 51 พรรษา


ประวัติหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ
หลวงพ่อคํา วัดโพธิ์ปล้ำ ถือกําเนิดในปี พ.ศ.2432 เมื่อมีอายุครบบวชได้อุปสมบทที่วัดโพธิ์ โดยมีพระญาณไตรโลก (อาจ) วัดศาลาปูน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูวินญาณนุโยค วัดกษัตราธิราช เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการจั่น วัดทํานบ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อเป็นพระภิกษุท่านได้อยู่ประจําที่วัดโพธิ์ซึ่งเป็นวัดใกล้บ้าน โดยได้สนใจศึกษาวิชาอาคมจากพระอาจารย์หลายๆ รูป ทั้งยังค้นพบสมุดข่อยที่ซ่อนอยู่ภายในต้นโพธิ์ที่วัดจนมีความเชี่ยวชาญในวิชาอาคม ซึ่งในอดีตบิดามารดาของท่านนับว่าเป็นคนมีฐานะเมื่อยกมรดกให้ท่านแล้ว หลวงพ่อได้จําหน่ายนําเงินมาก่อสร้างวัดจนรุ่งเรืองเป็นปึกแผ่น

ในสมัยที่ท่านปกครองวัดโพธิ์ปล้ำท่านเป็นที่สนิทสนมกับพระเกจิอาจารย์ชื่อดังๆ หลายๆ องค์ไม่เพียงแต่หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน ยังมีหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงพ่อพัก วัดโบสถ์ หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก ฯลฯ โดยมีการไปมาหาสู่กันเป็นประจําซึ่งหลวงพ่อคําได้สร้างพระเครื่อง เครื่องรางของขลังแจกให้ศิษย์ที่มาร่วมทําบุญกับท่าน โดยเฉพาะเบี้ยแก้ของหลวงพ่อจะได้รับความนิยมมากที่สุด ไม่เป็นรองพระองค์ใดในจังหวัดอ่างทองสมัยนั้น หลวงพ่อคําเป็นที่พึ่งของบรรดาลูกศิษย์ที่ให้ความเคารพศรัทธาได้รับสมณศักดิ์ที่ “พระครูวิตถารสมณกิจ” จนถึงปี พ.ศ.2503วันที่ 25 มิถุนายน ท่านจึงได้มรณภาพลง สิริอายุได้ 72 ปี 52 พรรษา




เบี้ยแก้ คือ เครื่องรางชนิดหนึ่งที่ขึ้นชื่อในการแก้และกันสิ่งชั่วร้าย ภูติผีปีศาจ ป้องกันไข้ป่าพิษจากสัตว์ร้าย ทั้งยังดีทางเมตตามหานิยม ค้าขายรุ่งเรือง คงกะพันแคล้วคลาดปลอดภัย อาราธนาทําน้ำมนต์ป้องกันสิ่งต่างๆ ได้ดี บางตํารายังถือว่าแก้และกันดวงชะตาตกต่ำได้ เป็นเครื่องรางที่มีสรรพคุณมากมายที่จะหาเครื่องรางชนิดอื่นเสมอเหมือนได้ยาก สร้างจากหอยเบี้ยนํามาบรรจุปรอทและปิดทับด้วยชันนะโรง

ซึ่งหลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน และหลวงพ่อคํา วัดโพธิ์ปล้ำ ท่านสร้างเบี้ยแก้มาจากตําราเดียวกันทําให้เบี้ยของทั้งสองท่านจะมีลักษณะที่ใกล้เคียงกันมาก แตกต่างตรงที่ถ้าเป็นเบี้ยเปลือยยังไม่ได้เลี่ยมทับจะเห็นตรงชันนะโรงซึ่งเป็นชันนะโรงผสมมวลสารหรือผสมชันยาเรือคล้ายๆ กัน หลวงพ่อนุ่มจะไม่ได้มีแผ่นยันต์ปิดทับ ส่วนของหลวงพ่อคําจะเห็นแผ่นทองแดงจารยันต์ด้านในแผ่นเล็กๆ ปิดทับติดแน่นอยู่ใต้ท้องเบี้ย ตรงที่มีชันนะโรงปิดอยู่ แต่ถ้าเป็นเบี้ยที่เลี่ยมแล้วไม่ว่าจะเลี่ยมจากทองคํา นาก หรือเงิน ซึ่งนําไปเลี่ยมที่ร้านทองหลายๆ ร้านในสมัยนั้น จะสังเกตุได้ยากเพราะถ้าจะดูตรงเสียงเขย่าที่ดังเหมือนมีเม็ดทรายอยู่ด้านใน (ผู้เชี่ยวชาญบางท่านบอกว่าน่าจะเป็นเสียงลมที่เข้าไปข้างในตอนบรรจุปรอทและ ปิดทับด้วยชันนะโรง) ของหลวงพ่อทั้งสองก็จะได้ยินเหมือนๆ กันในเบี้ยแก้บางตัว

เบี้ยแก้ของหลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน และเบี้ยแก้ของหลวงพ่อคํา วัดโพธิ์ปล้ำ นับเป็นเบี้ยแก้ของสายจังหวัดอ่างทองที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาคู่กัน แถมยังนิยมบูชาติดตัวทั้งหญิงและชายสมัยก่อนผู้หญิงที่ใส่ผ้าถุงยังนิยมพกติดตัวเบี้ยของหลวงพ่อองค์ใดองค์หนึ่งเอาไว้ที่เข็มขัดได้ แสดงถึงความเข้มขลังในเบี้ยของทั้งสองหลวงพ่อที่พกติดตัวบูชาได้ง่าย เป็นหนึ่งในเครื่องรางที่น่าบูชาที่สุดชนิดไปไหนไปกันได้มั่นใจจริงๆ


พระเครื่องล้ำค่า ปีที่ 13 ฉบับ 156 สิงหาคม 2558 หน้า 30-31

 

ปิดครับ



เสือหลวงพ่อสาย วัดคลองด่าน ตัวจริง

เสือหลวงพ่อสายตัวจริง ต้องเป็นกระดูกแกะ จาร ใต้ฐาน เป็นเอกลักษณ์ชัดเจน ของเลียนแบบมี แต่สามารถ แยกได้

เสือหลวงพ่อปาน เป็นล้าน ของหลวงพ่อสาย ตัวจริง หาได้ไม่ง่ายครับ

รับประกันทุกสนาม บูชา *,*** บาท

 

ปิดครับ



ลูกอมมณีนพรัตน์ (หรือ ลูกแก้วสารพัดนึก) หลวงปู่ดู่ วัดสะแก

เลี่ยมเงินพร้อมบูชา รับประกันสากล

บูชา 3,800 บาท

วัตถุประสงค์ในการจัดสร้างลูกอม หรือลูกแก้วสารพัดนึกเพื่อใช้แทน #ลูกแก้วของหลวงปู่ทวด และให้ลูกศิษย์ได้ใช้อาราธนาห้อยเพื่อป้องกันอันตราย หรือใช้กำเวลาปฏิบัติสมาธิ /// ประวัติความเป็นมาของลูกอมหรือลูกแก้วมณีนพรัตน์ หลวงปู่ท่านให้นำพุทธคุณต่าง ๆ หลายชนิด มาผสมกันและปั้นเป็นลูกกลม ๆ ใหญ่บ้างเล็กบ้าง ผงที่หลวงปู่ให้มานั้นท่านบอกว่าเป็นผงมหาราช ผงตรีนิสิงห์เห ผงปัตถมัง ผงกรรมฐาน ผงมหาจักรพรรดิ และผงศักดิ์สิทธิ์อีกหลายชนิด /// ลูกศิษย์ที่อยู่ใกล้ชิดท่านเรียนถามหลวงปู่ว่า ทำไมหลวงปู่ใช้ผงมากขนาดนี้ครับ ท่านบอกว่า ถ้าทำเป็นพระก็ไม่ต้องใช้ผงมาก เพราะคนจะเห็นคุณค่าของพระอยู่ในตัว แต่นี้ข้าให้ไปทำเป็นลูกกลม ๆ คนอื่นเขาจะไม่รู้ค่าจึงจำเป็นต้องทำให้มีพุทธคุณมาก ๆ ใว้เรียกว่าศักดิ์สิทธิ์ที่สุดเลยแหละแก หลวงปู่ท่านว่า... ข้าอธิษฐานเป็นแก้วมหาจักรพรรดิ เรียกว่า แก้วมณีนพรัตน์ เป็นสมบัติของพระพุทธเจ้า แม้ผู้ใดนำไปใช้ก็จะเกิดประโยชน์ใหญ่มีพุทธานุภาพมาก แล้วแต่จะอธิษฐานเอา /// หลวงปู่ท่านเมตตาตอบว่า... ให้นำแก้วมณีนพรัตน์ไปแขวนคอไว้ แล้วภาวนาไตรสรณคมณ์ ตลอดเวลาหรือภาวนามาก ๆ ถ้ากรรมไม่หนักพุทธานุภาพของไตรสรณคมณ์ก็จะช่วยได้...อยู่ที่ว่าตั้งใจภาวนามาก น้อยเพียงไร /// พุทธคุณ แก้วมหาจักรพรรดิ์ครอบจักรวาล แล้วแต่เจ้าของจะนำไปใช้ให้ สำเร็จได้ตามจิตหมาย

 

ปิด



เหรียญหลวงพ่อกวย หลังหนุมาน ปี2556

บล๊อค1 ขีด เลี่ยมเงินสั่งทำ เหรียญหลวงพ่อกวย ปี2556 หายากเข้าไปทุกที ราคาตอนนี้ยังน่าเก็บ อนาคตไม่ต้องคิดครับ

บูชา 4,800 บาท

 

บูชา 400 บาท

 

จองเหรียญพระธาตุพนม/เหรียญร 5

 

ขอบคุณครับผม

 

ปิด




กวางเล็ก หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี รุ่นแรก

พระพุทธนฤมิตโชคประทานพร รุ่นแรก ปี2511 เป็นพระเนื้อดินเผาผสมมวลสารโสฬสมงคล มีเคลือบ เลี่ยมเดิมจากวัด รับประกันสากล มือใหญ่เปิด 20,000 ขึ้นครับ

สนใจทัก 1*,***

 

เหรียญ หลวงพ่อโต วัดหัวกระบือ กรุงเทพ ปี2521

หลวงปู่โต๊ะปลุกเสก เนื้อทองแดง

บูชา 600 บาท