พระเครื่อง/เครื่องรางทั่วไป

แหวนนะโมพุทธายะ

เนื้อทองแดงเก่า เชื่อมเงิน ไม่ทราบเกจิ เก่า วงเล็ก

บูชา 500 บาท

 

ปิดครับ




เหรียญเสมารุ่นแรกรุ่นเดียว หลวงปู่มหาเจิม ปญฺญาพโล
วัดสระมงคล จ.นครปฐม

บูชา 3,000 พร้อมเลี่ยมเงิน
จัดเป็นสุดยอดวัตถุมงคลของท่านที่อนุญาตให้จัดสร้างเพียงวาระเดียว

จัดสร้างขึ้นเมื่อปี2549 ในโอกาสครบรอบ 90 ปี กระเกจิที่ร่วมปลุกเสกมีหลวงปู่มหาเจิม,หลวงปู่แผ้ว,หลวงปู่ท่อน,หลวงปู่ เหรียญ,หลวงปู่บุญเพ็ง,หลวงปู่บุญหลาย,หลวงปู่อ่อนสา,หลวงปู่จันทร์แรม ร่วมปลุกเสก หลวงปู่มหาเจิม วัดสระมงคล เป็นพระอริยสงฆ์อีกองค์ตามที่หลวงตามหาบัวเคยบอกครับ

----------------------------

>>>ปัจจุบันหลวงปู่ท่านได้ละสังขารแล้ว อัฐิของท่านกลายเป็นพระธาตุดังภาพ<<<

>>>ข้อมูลการจัดสร้างเท่าที่รวบรวมมาได้จากท้องที่<<<
-เหรียญหันข้างกับเสมาเล็ก หลักหมื่น
-พระปิดตาเนื้อผงผสมเกษา 500 องค์
-รูปหล่อ 500 องค์
-ล๊อกเก็ตกลาง 299 ลูก

>>>หลวงปู่มหาเจิม ท่านได้อนุญาตให้จัดสร้างวัตถุมงคลของท่านเป็นกรณีพิเศษ เมื่อปี พ.ศ.2549
แต่ให้จัดสร้างเพียง ***ครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย*** และนับเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว ที่หลวงปู่ได้อนุญาตให้จัดสร้าง <<<
โดยได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษก
ณ อุโบสถวัดสระมงคล
โดยหลวงปู่พระมหาเจิมเป็นประธานจุดเทียนชัย
อธิษฐานจิตภาวนาร่วมกับ พระเกจิคณาจารย์ดังสายกรรมฐานของวัดป่า อาทิ
หลวงปู่พระมหาเจิม วัดสระมงคล จ.นครปฐม,
หลวงปู่ท่อน วัดศรีอภัยวัน จ.เลย,
หลวงปู่แผ้ว ปวโร วัดกำแพงแสน จ.นครปฐม,
หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ วัดเกาะแก้วธุดงคสถาน จ.บุรีรัมย์,
หลวงปู่บุญเพ็ง กัปโป วัดป่าวิเวกธรรม จ.ขอนแก่น,
หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร วัดประชาชุมพลพัฒนาราม จ.อุดรธานี
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญบรรพต จ.หนองคาย,
หลวงพ่อมาลัย อุทโย วัดบางหญ้าแพรก,
หลวงพ่อสุพจน์ ฐิตพฺพโต วัดห้วงพัฒนา จ.ตราด,
หลวงปู่บุญหลาย อัคคจิตโต วัดโนนทรายทอง จ.อำนาจเจริญฯ
หลวงปู่มหาเจิม วัดสระมงคล เป็นพระอริยสงฆ์อีกองค์ตามที่หลวงตามหาบัวเคยบอกครับ
ที่มา: นสพ. คม ชัด ลึก วันอังคารที่ 28 กพ 2555

 

เหรียญพลาสติกหลวงพ่อกบ+หลวงพ่อโอภาสี เคลือบทอง

สนใจทัก

รุ่นนี้ สร้างประมาณปี 2495 วัดเขาสาริกา จ.ลพบุรี พลาสติกสีออกงาช้างเคลือบทองแบบนี้ไม่ต้องกลัวเสริม รุ่นนี้หลวงพ่อชื้น (สมัยยังเป็นอาจารย์ชื้น) และนางสำลี ธรรมชัย ภรรยา เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้าง วัตถุประสงค์เพื่อให้เช่าบูชาหาทุนพัฒนาวัดเขาสาริกา แล้วนำไปให้ หลวงพ่อกบ ปลุกเสกที่วัดเขาสาริกา ซึ่งปกติหลวงพ่อกบไม่ค่อยปลุกเสกอะไรง่าย ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นหลวงพ่อโอภาสีปลุกเสกแทนเกือบทั้งหมด

นางเฉลียง สุนทราคม ลูกสาวคนโตของหลวงพ่อชื้น ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดเล่าว่า รุ่นนี้ จัดทำแค่ 200 องค์ เอาไปให้หลวงพ่อกบปลุกเสกให้ที่วัดเขาสาริกา ท่านเอามือคนๆ เขย่า 2-3 ทีแล้วก็คืนมาบอกว่า "เสร็จแล้ว" แต่คุณพ่อ คุณแม่ ก็ท้วงไปว่า "หลวงพ่อเสกแค่นี้ ลูกศิษย์จะเชื่อมั่นได้ยังไง" หลวงพ่อกบก็เลยเอาไปเก็บไว้ในกุฏิ ปลุกเสกให้ทุกๆวันนานร่วม 1 ปี จากนั้นค่อยนำออกมาให้เช่าบูชาองค์ละ 5 บาท วันเดียวหมด ดังนั้นรุ่นนี้เป็นรุ่นเดียวที่ หลวงพ่อกบ ปรมาจารย์กสิณไฟปลุกเสกเอง เป็นรุ่นเดียวที่ปลุกเสกนานที่สุดเป็นประวัติการณ์และสร้างน้อยมาก และหลวงพ่อโอภาสีก็ปลุกเสกให้อีกครั้ง จึงนิยมกันมาก ไม่ค่อยเจอง่ายๆครับ

Cr.ขอขอบคุณข้อมูลทั้งหมดจาก คุณหมูมหาเวทย์

 

รูปหล่อหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ปี2535

บูชา 2,000 บาท


จัดเป็นรูปเหมือนเข่ากว้างหลังเต็มรุ่น 2 ของวัดช่องแค เป็นรุ่นที่มีประสบการณ์มากในพื้นที่ สร้างเมื่อราวปี พ.ศ.2535 โดยพระครูนิวิฐปัญญากร (พระอาจารย์อ๋า) เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันของวัดช่องแคเป็นผู้สร้างขึ้น โดยนำเนื้อทองระฆังที่หลวงพ่อพรหมอธิษฐานจิตมาผสมด้วย มีทั้งตอกโค๊ดเลข ๒ ที่ด้านข้างเข่าขวาขององค์พระ และไม่ตอกโค๊ด (ที่ตอกโค๊ดพบน้อย ส่วนใหญ่จะพบแบบไม่ตอกโค๊ด)

พระเกจิอาจารย์ที่ปลุกเสกพระรุ่นนี้ได้แก่ หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่, หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ, หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม, หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ, หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก, หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง, หลวงพ่อบัวเผื่อน วัดหลังเขา เป็นต้น พร้อมกล่องเดิมๆ จากวัดครับ

 

ปิดครับ




เหรียญหลวงพ่อกวย มนต์พระกาฬ ปี2558

ออกวัดหนองเฒ่า เนื้ออัลปาก้า

บูชา 700 บาท

 

ปิดหมดแล้วครับ




รูปหล่อหลวงพ่อเงิน วัดท่าบัวทอง ปี2515

พิธีเดียวกับทั้ง 6 วัด ที่ปลุกเสกพร้อมกัน กับของวัดบางคลานที่ราคาทะลุแสน ไปแล้วครับ ของดีราคาเบาๆ ได้มาจากเจ้าของเดิมที่ บอกว่าทันเห็นหลวงพ่อสิทธิ์ปลุกเสกจนไฟลุกท่วมบาตร จึงเก็บเพราะศรัทธา ได้มา 5 องค์ สนใจทักครับ

บูชา องค์ละ 700 บาท

วัดท่าบัวทอง ตั้งอยู่เลขที่ ๑๙๘ บ้านท่าบัวทอง หมู่ ๒ ต.โพธิ์ประทับช้าง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร หลวงพ่อสิทธิ์ อดีตเจ้าอาวาสได้จัดสร้างขึ้นมาด้วยเนื้อทองระฆังเก่าสมัยหลวงพ่อเงิน ชนวนรูปหล่อหลวงพ่อเงินรุ่นแรกและแผ่นยันต์พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณใน จ.พิจิตร ในยุคนั้น เข้าร่วมพิธีใหญ่ของวัดบางคลานในปี ๒๕๑๕ โดยพระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณทั่วประเทศ ๗๔ รูป เสร็จพิธีที่วัดบางคลานแล้วหลวงพ่อสิทธิ์ได้นำกลับมาทำพิธีปลุกเสกเดี่ยวที่อุโบสถวัดท่าบัวทอง ปรากฏการณ์มหัศจรรย์ไฟลุกท่วมบาตรที่บรรจุรูปหล่อหลวงพ่อเงินรุ่นนี้ ทุกองค์ตอกโค้ด ๑๔/๑๕ แบบเดียวกับวัดบางคลาน

 

รูปหล่อหลวงพ่อเดิม รุ่น ๒๙ จัดสร้างโดยหลวงพ่อเปลื่อง วัดบางคลาน ปี 2529

เป็นพระรูปหล่อหลวงพ่อเดิมที่หลวงพ่อเปรื่อง วัดบางคลาน จัดสร้างขึ้น เนื้อทองเหลืองผสมมวลสารออกสัมฤทธิ์และมวลสารผสมชนวนรูปหล่อเก่าหลวงพ่อเงินเนื้อทองระฆังเก่า และแผ่นชนวนยันต์ ๑๐๘ นะปถมัง ๑๔ ผิวออกสีเหลืองคล้ำเนื่องจากมีมวลสารมากมาย

ประกอบพิธีเททองและพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดบางคลาน ปี 2529 โดยพระเกจิดังในยุคนั้นคับคั่ง
รูปหล่อหลวงพ่อเดิม รุ่น ๒๙ พิมพ์ทรงเหมือนรุ่นแรกมาก ปลุกเสกพิธีใหญ่ ปี 2529 โดยหลวงพ่อเปรื่อง และเกจิดังในยุคนั้นหลายท่าน กล่องเดิมองค์นี้สวยและหายาก ไม่ค่อยพบเห็น

พลเอก ชวลิต ยงใจยุทร ประธานจุดเทียนชัยฝ่ายฆราวาส
หลวงพ่อเงินวัดบางคลานรุ่นปี29อภินิหารแทบไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ก็ได้เกิดขึ้นกล่าวคือก่อนที่จะประกอบพิธีจุดเทียนชัยนั้นท้องฟ้าเหนือบริเวณวัดบางคลานปลอดโปร่งแจ่มใสไม่มีเมฆหมอกมาบดบังแต่เมือถึงเวลาจุดเทียนชัยจู่ๆก็มีกลุ่มเมฆอันหนาทึบมาบดบังพระอาทิตย์พร้อมกันนั้นสายฝนอ่อนๆก็โปรยปรายมาเสมือนรุกขเทวดาประพรมน้ำพุทธมนต์ให้ได้รับความร่มเย็นโดยทั่วกันยังความปลาบปลื้มปิติยินดีแก่ผู้ที่มาร่วมงานเป็นอย่างยิ่ง เพราะต่างก็นึกไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์อภินิหารเช่นนี้
หลังจากจุดเทียนชัยเสร็จสิ้นลงพระคณาจารย์ชื่อดังทั้งศิษย์สาย หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน และศิษย์สายหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ เช่น หลวงปู่โอน วัดโคกเดื่อ , หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม , หลวงพ่อรอด วัดนองตม , หลวงพ่อสุเทพ วัดถ้ำแสงดาว , หลวงพ่อทวี วัดโรงช้าง , หลวงพ่อเสถียร วัดโคกหม้อ และ หลวงพ่อเปรื่อง วัดบางคลาน เป็นต้น ได้นั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคล หลวงพ่อเงิน รุ่น ปี 29ซึ่งแต่ละพระอาจารย์ได้ประจุพลังจิตอันแข็งกล้าด้วยอำนาจบารมีที่ได้บำเพ็ญปฎิบัติธรรมมาอย่างเคร่งครัดลงไปในพระเครื่องวัตถุมงคลดังกล่าว
ในขณะขณะเดียวกันได้มีนายทหารชั้นผู้ใหญ่จากกองทัพภาคที่3ร่วมนั่งสมาธิในพิธีนั้นด้วยจนกระทั่งหมดเวลาและประธานฝ่ายสงฆ์ได้ทำการดับเทียนชัยเมื่อเวลา15.50น.ขณะนั้นเองเหตุการณ์อภินิหารก็ได้เกิดขึ้นอีกคือฝนได้ตกลงมาตรงกับเวลาดับเทียนชัยพอดีทำให้ประชาชนที่ร่วมอยู่ในงานต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานาเช่นบางคนก็พูดว่าเป็นเพราะบารมีของหลวงพ่อเงินและหลวงพ่อเดิมที่ดลบันดาลทำให้ฝนตกลงมาถึง2ครั้ง2คราเพื่อแสดงให้เห็นถึงการรับรู้ของท่านทั้งสองจึงนับว่าเป็นนิมิตอันดีที่ไม่เคยเกิดปรากฎการณ์เช่นนี้มาก่อนเลยตั้งแต่จัดพิธีพุทธาภิเษกขึ้นที่วัดบางคลานแห่งนี้

พระที่ผ่านพิธีปลุกเสก วัดบางคลาน ไม่ว่าจะเข้าพิธีเดียวกันกับหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ทุกรุ่น แม้ว่าจะเป็นพระสร้างใหม่...วัดไหนก็ตาม...ล้วนเอกอุด้วยประสบการณ์ ดีทางด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดจากภัยทั้งปวง เมตตามหานิยม โชคลาภ และค้าขายดีมาก ผู้ที่ศรัทธาต่างประจักกันทั่วหน้า

 

พระยอดขุนพลบุเรงนอง หลวงพ่ออุตตมะ ปี2508

จักรพรรดิ์พระเครื่องคู่บัลลังก์หงสาวดี พระดีที่หายากยิ่งแห่งลุ่มน้ำอิระวดี ประวัติความเป็นมาโดยสังเขป ของพระยอดขุนพลบุเรงนองรุ่นเก่า ซึ่งปัจจุบันเป็นสุดยอดวัตถุมงคลที่หาได้ยากยิ่ง จากคำบอกเล่าของพระเดชพระคุณหลวงพ่ออุตตมะ แห่งวัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยหลวงพ่ออุตตมะท่านได้เคยอ่านพบใน " ตำราโบราณ " ที่อดีตโบราณาจารย์ฝ่ายพม่ารามัญ ได้จดบันทึกไว้สืบต่อกันมานานนับเป็นร้อย ๆ ปี มีดังนี้


พระยอดขุนพลบุเรงนองของเก่าแก่ดั้งเดิมนั้น เป็นพระพิมพ์ดินดิบผสมว่านยาวิเศษ โดยได้จำลองพุทธลักษณะจาก " พระมหามัยมุนี " เป็นพระเครื่องที่พระเจ้าบุเรงนอง บรมกษัตริย์ผู้มีพระเดชานุภาพมากแห่งกรุงหงสาวดี ได้โปรดให้พระมหาฤาษี ภูภูอ่อง ผู้เป็นพระราชครูผู้ใหญ่ ประจำพระราชสำนักแห่งพระเจ้าบุเรงนอง ซึ่งได้สำเร็จมหิทธิฤทธิ์ขั้นสุดยอดด้วยองค์คุณ 4 ประการ คือ ยา ยันต์ ปรอท และ ประคำ จนมีฤทธิ์ มีเดชสูงส่งอย่างยิ่งยวด เป็นผู้จัดสร้างและปลุกเสกขึ้น เพื่อทรงพระราชทานแก่ข้าราชบริพาร และเหล่าทหารหาญ เพื่อใช้ในการศึกสงครามโดยทั่วไป โดยแกะพิมพ์จำลองพุทธลักษณะของพระมหามัยมุนี พระพุทธรูปสำคัญ อันเป็นที่เคารพสักการะสูงสุดของชาวพม่า ที่มีอายุการสร้างเกือบ 2,000 ปี ที่เดิมประดิษฐานอยู่ที่เมืองยะไข่ แต่ต่อมาได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่เมืองมัณฑเลย์ ตราบจนกระทั่งถึงปัจจุบัน


ซึ่งพระยอดขุนพลบุเรงนองนี้ปรากฎพุทธคุณอันยอดเยี่ยมดีเด่นในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นในทางเมตตา แคล้วคลาดแต่จะหนักไปในแนว " อิทธิฤทธิ์ " คือทางด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี มหาอุด มหาอำนาจ เป็นหลักใหญ่ จนกระทั่งกองทัพของพระเจ้าบุเรงนอง สามารถปราบปรามหัวเมืองใหญ่น้อยในทุกหนแห่ง จนราบคาบอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในพงศาวดาร ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุให้พระเจ้าบุเรงนองได้รับพระสมัญญานามอีกพระนามหนึ่งว่า " ผู้ชนะสิบทิศ " ในเวลาต่อมา


โดยพระบุเรงนองนี้ พระฤาษีภูภูอ่องได้บรรจุไว้ที่ถ้ำแถวเมืองมะละแหม่ง ใกล้ชายแดนไทย-พม่า อยู่ 2 ถ้ำด้วยกัน คือถ้ำผาบง และ ถ้ำผาพะ แต่ก็ไม่มีผู้ใดทราบว่าถ้ำทั้งสองแห่งนี้อยู่ที่ไหนกันแน่

อนึ่ง พระมหาฤาษีภูภูอ่องนั้น แต่เดิมเคยบวชเป็นพระภิกษุในบวรพระพุทธศาสนา มีนามว่า " ญาณรังสี " แต่ต่อมาพระญาณรังสีพิจารณาเห็นว่าการที่พระภิกษุอยู่ในป่า บางครั้งก็มีเหตุให้จำต้องล่วงอาบัติของพระพุทธองค์อยู่เนือง ๆก็ให้รู้สึกไม่สะดวกใจ ด้วยเกรงจะเป็นบาปเป็นกรรม พระญาณรังสีจึงลาสิกขาออกมาถือพรตเป็นฤาษี พร้อมตั้งใจประพฤติพรหมจรรย์ รักษาศีล 8 ได้เป็นอย่างดีจนบรรลุอภิญญาสมาบัติขั้นสูงสุด จนได้สำเร็จฤทธิ์อภินิหารอันยอดยิ่งด้วยเหตุถึง 4 สถาน คือ



1. ยา ( รอบรู้ในตัวยาสมุนไพร และว่านยาที่มีฤทธิ์ทุกประเภทอย่างเจนจบ )



2. ยันต์ ( ปรีชาในอักขระคาถายันต์อันศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวง )



3. ปรอท ( สำเร็จในการเรียกและใช้ปรอท ธาตุกายสิทธิ์ที่มีฤทธิ์กว่าธรรมดา จนถึงขั้นเหาะเหินเดินอากาศได้ )



4. ประคำ ( เครื่องช่วยกำหนดจิตภาวนาให้บังเกิดสมาธิจิต อันเป็นบาทฐานแห่งอภิญญาฤทธิ์ ซึ่งเป็นของมีมาเก่าแก่สืบทอดมาแต่โบราณกาลนับเป็นพัน ๆ ปี )


สำหรับเหตุที่หลวงพ่ออุตตมะได้พระยอดขุนพลบุเรงนองมานั้น ต้องเท้าความไปตั้งแต่เมื่อครั้งที่หลวงพ่ออุตตมะยังเดินธุดงค์อยู่ มีเด็กชายชาวกะเหรี่ยงคริสต์คนหนึ่ง ( ซึ่งต่อมาได้เป็นหัวหน้ากะเหรี่ยง ) ซึ่งอยู่ในเขตประเทศพม่า ได้ป่วยเป็นโรคร้าย จนเพื่อนบ้านต่างพากันทอดทิ้ง ไม่มีใครกล้ามาดูแล และบังเอิญหลวงพ่ออุตตมะได้ธุดงค์มาพบเข้าด้วยความเมตตาหลวงพ่อจึงได้ช่วยรักษาจนหาย ทำให้เด็กชายคนนี้นับถือหลวงพ่ออุตตมะเป็นอย่างยิ่ง กาลต่อมาหัวหน้ากะเหรี่ยงคริสต์รายนี้ได้มาเล่าให้หลวงพ่ออุตตมะฟังว่า ( ตอนนั้นหลวงพ่อมาอยู่เมืองไทยใหม่ ๆ ราวปี พ.ศ. 2490 กว่า ) วันหนึ่งขณะที่พวกตนถูกพวกพม่าตามไล่ล่า จนกระทั่งหนีเข้าไปหลบซ่อนในถ้ำ ๆ หนึ่ง แถวเมืองมะละแหม่ง พวกทหารพม่าได้ใช้ปืนกล และอาวุธสงครามยิงกรอกปากถ้ำ เพื่อฆ่าพวกตนให้ตายคาถ้ำ นับเป็นพัน ๆ หมื่น ๆนัด จนพวกทหารพม่าคิดว่าพวกกะเหรี่ยงที่อยู่ในถ้ำคงจะตายกันไปหมดแล้ว จึงได้ถอยทัพกลับไป ครั้นพอรุ่งเช้าพวกบรรดากะเหรี่ยงที่ไม่ได้รับอันตรายใด ๆ เลยแม้แต่น้อย ก็ออกจากที่ซ่อนในถ้ำมาสังเกตุการณ์ เห็นปลอกกระสุน และลูกปืนตกกระจายอยู่เต็มไปหมด แต่ไม่มีกระสุนแม้แต่เพียงนัดเดียว ที่จะวิ่งผ่านเข้ามาถึงข้างในที่พวกตนซ่อนอยู่ได้ ก็แปลกใจ เลยคิดว่าถ้ำแห่งนี้คงต้องมีของดีของวิเศษอยู่แน่ ๆ เลยสำรวจในถ้ำดูว่ามีอะไรดี จึงได้เจอกับ กองพระขนาดย่อม ๆ ที่วางกองกันไว้อยู่ในถ้ำนั้น แต่พวกตนเป็นกะเหรี่ยงคริสต์จึงไม่ทราบว่าคืออะไร จึงได้นำมาให้หลวงพ่ออุตตมะดู เมื่อได้พิจารณาดูหลวงพ่อก็ทราบทันทีว่านี่คือ พระยอดขุนพลบุเรงนอง ที่เคยได้ยินเรื่องราวมานั่นเอง จึงได้สั่งให้หัวหน้ากะเหรี่ยงคนนี้พาคนไปช่วยกันขนพระออกมาจากถ้ำ และนี่เองคือปฐมเหตุแห่งการ แตกกรุ ของพระยอดขุนพลบุเรงนอง


สำหรับพระยอดขุนพลบุเรงนองนี้ ปัจจุบันได้กลายเป็นของดีที่หาได้ยากเป็นอย่างยิ่ง อันเป็นที่ใฝ่ฝันสำหรับบรรดาศิษย์ใกล้ชิดของหลวงพ่ออุตตมะ รวมทั้งผู้ที่รู้ประวัติความเป็นมา เพราะนอกจากผู้ที่รู้ความเป็นมาที่แท้จริง ต่างก็พากันหวงสุด ๆ แล้ว ด้วยระยะเวลาที่ล่วงเลยมาเนิ่นนานถึง 400 กว่าปีมาแล้ว พระบุเรงนองที่สร้างด้วยเนื้อดินผสมว่านได้ชำรุดแตกหักไปเป็นอันมาก จึงทำให้มีน้อยคนนักที่จะได้ครอบครองพระยอดขุนพลที่นับเป็นจักรพรรดิ์พระเครื่องแห่งลุ่มแม่น้ำอิระวดีอย่างแท้จริง พระบุเรงนองจะมีด้วยกันหลายพิมพ์ทรง ซึ่งจะมีความแปลกอยู่ที่ว่าแต่ละองค์นั้นจะไม่มีองค์ไหนเหมือนกันเลย จะมีความแตกต่างกันไปเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

 

ปิดครับ

 

ปิดครับ



พระสมเด็จหลังพระสิวลี หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ด้านหน้าเป็นพิมพ์พระสมเด็จสามชั้น ด้านหลังได้นำบล็อคพระสีวลีองค์จ้อยพิมพ์มีย่ามมาปั๊ม เป็นชุดมาตรฐาน ปี 2515 สภาพผิวสวย ยังเห็นคราบแป้งติดอยู่ตามซอกองค์พระ เนื้อแก่น้ำมัน ผิวเดียวกับสมเด็จหลังพระสิวลีพิมพ์คะแนน พระมีรานนิดๆ ตามจุด ตามอายุพระ รับประกันแท้สากล พิมพ์นี้แทบไม่ค่อยเจอตามสนามพระครับ

บูชา 2,800 บาท

ข้อมูลจากอาจารย์เฒ่าสุพรรณ กล่าวไว้ว่า " หลวงพ่อกวยท่านใช้ดินสอพองซื้อจากสาวพรหมจารี #หลวงพ่อทำผงปถมัง ผงมหาราช ผงอิทธิเจ ผงนะร้อยแปด ท่านทำเองทั้งหมด #นอกจากนั้นยังมีผงของครูบาอาจารย์ของท่าน ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 พี่ชายหมอเฉลียว เดชมา #มาเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ ได้พักที่วัดระฆังโฆสิตาราม ได้พบผงของสมเด็จโตประมาณ 1 บาตร พระสมเด็จเกือบ 10 องค์ ได้นำผงมาถวายหลวงพ่อพร้อมพระสมเด็จ 2 องค์ #หลวงพ่อได้นำผงของสมเด็จโตผสมกับผงของท่านพระสมเด็จ เวลาผสมทำ ท่านชุมนุมเทวดา อัญเชิญพระอรหันต์ ปรากฏว่าคนมากันเต็มไปหมด พระก็จะทำ คนก็จะมา ยุ่งไปหมด ท่านได้พูดว่า " #ผงสมเด็จโตนี่ก็สำคัญเหมือนกัน ผสมทำพระไม่ได้เลย คนคอยจะมา #แต่กูสิชักจะรำคาญแล้วไม่เป็นอันทำอะไรได้เลย " ผงเก่าของสมเด็จโตนี้มีพุทธคุณสูงมาก #จนหลวงพ่อถึงกับออกปากกับศิษย์ ภายหลังท่านเปลี่ยนชื่อวัดเพื่อระลึกถึงสมเด็จโต จากเดิมชื่อวัดบ้านแค #เป็นวัดโฆสิตารามมาจนปัจจุบัน ♦️ คำกล่าวของหลวงพ่อจรูญ วัดเฉลิมอาสน์ ( หลวงพ่อตาทิพย์ ) " #หลวงพ่อกวยท่านเป็นศิษย์พระสีวลี " " พระสีวลีของหลวงพ่อกวย #เป็นหนึ่งไม่มีสองรองใครในแผ่นดิน หมั่นสวดบูชาพระสีวลีให้ดีสม่ำเสมอ #รู้จักถวายทานทำบุญกุศลอย่าให้ขาด ไม่นานจะเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน ชีวิตก็จะร่มเย็นเป็นสุขพระท่านเสกมาดีแล้ว บูชาให้ดีจะเจริญ " " #ดีที่สุดต้องพระเนื้อผง ทั้งสร้างยากเสกยาก ต่อไปจะหาได้ยาก "เพราะคนเขาเอาไปบูชาแล้วร่ำรวย #และเกิดผลจริงต่างหาบูชากันจนหมด " " การที่หลวงพ่อท่านมีความรู้สึกผูกพันต่อสมเด็จโตมาก #เกิดจากท่านได้พบสมเด็จโตมาชี้แนะสั่งสอนให้ทางนิมิต ไม่ว่าหลวงพ่อกวยทำการใด ๆ ท่านมักบอกกล่าวอัญเชิญสมเด็จโตทุกครั้งไป #ท่านทั้งสองมีความเกี่ยวเนื่องกันมาแต่อดีตชาติ เป็นเรื่องที่หลวงพ่อกวยท่านไม่ได้เล่าให้ผู้ใดฟัง แต่ท่านรับรู้อยู่ภายในจิตใจของท่านเสมอมา #ท่านจึงชอบสร้างพระสมเด็จบำเพ็ญตนเช่นพระโพธิสัตว์ ด้วยท่านเป็นผู้ปรารถนาพระโพธิญาณเฉกเช่นท่านสมเด็จโต" " ของที่หลวงพ่อกวยเสกก็เหมือนสมเด็จโตเสก พระหลวงพ่อกวยมีพลัง 2 ต่อ #คือได้รับการเสกจากทั้งสมเด็จโตและหลวงพ่อกวย ถือเป็นของดีของสูงค่าพุทธคุณ ไม่ต้องไปสอบหาพระสมเด็จวัดระฆังราคาแพง #ให้มาแขวนพระหลวงพ่อกวยมีคุณเหมือนกัน

 

จองแล้ว



พระคมชัดทุกมิติ มวลสารครบสูตร มีจารด้วยดินสอหลวงปู่ดู่แล้ว ที่เศียรท่าน เหมือนมีการหวีผมไปด้านหลังชัดเจน

#บล๊อคหวีผม

 

พระขุนแผนเจ้าชู้พรายตำลึงมหาเสน่ห์ หลวงปู่จันทร์ วัดซับน้อย เพชรบูรณ์

พระขุนแผนเจ้าชู้พรายตำลึง รุ่นแรก ที่หลวงปู่สร้าง ขุนแผนพราย ใช้ดินพรายกากยายักษ์ที่กลิ่นแรง กลิ่นตรงไหนแรง ดินตรงนั้นอาถรรพ์หนักเมตตาฟุ้งมาก ยังพลี ดินพรายเจ้าป่า ดินพรายเจ้าทุ่ง ดินพรายเจ้าท่า ที่อาถรรพ์แรง มหาเสน่ห์จึงแรงมากเป็นเงาตามตัว ยังต้องหาใบตำลึงตายพราย 5 สถาน ใบตำลึงยอดถ้ำ ใบตำลึงปากแม่น้ำ ใบตำลึงยอดระฆัง ใบตำลึงยอดเกศพระ ใบตำลึงยอดหอฉัน ยังไม่พอ ยังเพิ่ม ใบรัก ใบหลง ใบมะยม ใบคูน ใบมะรุม ใบสวาท ใบสาเก ใบกาหลง ใบยอ จากนั้นแหละเอาทั้งหมดนี้มาตากแห้งตำบดผสมกับยางรักป่า ปูนเปลือกหอย ใบเถาวัลย์หลงดง ดินตีนแห เข้าว่านยาอีก 108 ชนิด แร่เขาอึมครึม แร่เขาเขียว เป็นต้น สร้างเป็นพระขุนแผนเจ้าชู้พรายตำลึง พิมพ์ทรงโบราณ ขุดกรุ สวยงามสะดุดตา น่าใช้ยิ่งนัก เรื่องพุทธคุณขุนแผนนี้ไม่ต้องพูดมาก เพราะแค่ชนวนมวลสารที่ยังไม่เสกก็แรงจมหูแล้ว พอได้เข้าเครื่องว่านยาครันครบสูตร จึงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณ ยิ่งหลวงปู่จันทร์ ผู้สร้างตะโพนมหาเสน่ห์จนโด่งดัง ทำพิธีปลุกเสก ยิ่งเด่นและมีอานุภาพครบแรง โดยเฉพาะทางเมตตามหานิยม แรงไม่มีใครเปรียบ เข้าหาเจ้านาย คนรัก ติดต่อนายหน้า นายประกัน ใช้ได้ดีทั้งหมด ขุนแผนเจ้าชู้ ยิ่งแรงด้วยเมตตา มาด้วยเสน่ห์ฟุ้งออกใบหน้า แรงมากแรงน้อยคนห้อยเท่านั้นที่จะรู้ได้ หลวงปู่ บอกแบบนี้ ด้านหลังเป็นยันต์มหาจักร ยอดมหานิยม ล้อมด้วยยันต์เมตตา มหาเสน่ห์และ ยันต์ชั้นสูง ยอดยันต์ทั้งหลายนี้ เน้นเมตตามหานิยมเป็นที่สุด ทั้งผู้หญิง ทั้งผู้ชาย ใช้ได้หมด คนที่เราถวิลหาอาวรณ์นอนฝันถึง ใบหน้าลอยเด่นมานักต่อนักแล้ว

บูชา 600 บาท

 

พระสมเด็จปรกโพธิ์กิ่ง เนื้อผงน้ำมัน หลวงพ่อกวย ชุตินธโร วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท

พระมาตรฐานสากลของหลวงพ่อกวยเนื้อผงน้ำมัน ด้านหลังเรียบ

บูชา 3,500 บาท

 

ปิดครับ



พระผงรูปเหมือนสมเด็จโต หลวงปู่นาค วัดระฆัง

องค์นี้เนื้อจัดมากๆ เหมือนสมเด็จวัดระฆังเลย ฝังตะกรุดเงินสา้างด้วย มวลสารผสมผงเก่า ปี 2495 รุ่นนี้เป็นพิมพ์มาตรฐานสากล

หลวงปู่นาค โสภโณ วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ พระเนื้อผงรุ่นแรก สร้างปี 2485 ประกอบด้วยพิมพ์ทรงเทวดาอกตัน-อกร่อง เทวดาขัดเพชร และพิมพ์สามเหลี่ยม
พระเนื้อผงรุ่นสอง สร้างปี 2495 ประกอบด้วยพิมพ์สมเด็จโต นั่งบริกรรม พิมพ์ปรกโพธิ์ ฝังและไม่ฝังตะกรุด พิมพ์พระประธาน ฝังและไม่ฝังตะกรุด นางพญา คะแนนฐานสิงห์ รูปหล่อ เหรียญโล่ และเหรียญข้าวหลามตัด นอกจากนี้ยังมีอีกหลายรุ่น สร้างในปี พ.ศ.2499,2500,,2504,2507,2509 และรุ่นสุดท้ายคือรุ่นแซยิด 7 รอบ ปี 2511 พุทธคุณที่เล่าสืบทอดกันมา คือเด่นในเรื่องเมตตามหานิยม แคล้วคลาด

บูชา 3,500 บาท

 

จองแล้วครับ



หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว พระกลีบบัวรัศมีข้าง หลังยันต์ เนื้อเมฆพัตร พระหล่อโบราณ ตัดช่อ ตัวจริง รอภาพสตู

สนใจทัก *,***

หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว(สร้างปี2390-2478)
องค์นี้เป็นพิมพ์พระกลีบบัว รัศมีข้าง เนื้อเมฆพัตร หนึ่งในพิมพ์ยอดนิยมที่มีการปลอมแปลงยากที่สุด****พิมพ์อื่นจะเป็นพระโรงงานซึ่งแยกยาก ตามสนามพระราคาจึงขายกันแค่หลักร้อยหลักพัน**** องค์นี้เจ้าของเดิมเลี่ยมนาคจับขอบ ใช้มามีคราบสกปรกเกาะติดองค์พระ กลายเป็นหนึ่งจุดที่ทำให้ดูแท้ได้ง่าย อีกความแห้งสนิทของเนื้อเมฆพัตรเป็นอีกองค์ประกอบในการพิจารณาได้ง่าย

****พระในตำนานหาชมได้ยาก***

 

ผงรูปเหมือน เนื้อผงยา นั่งสมาธิ อาจารย์โง้วกิมโคยหรือเซียนแ ปะโรงสี ปทุมธานี ปี2520

สนวจทัก 1*,***

 

พระผงวัดปากน้ำ

รุ่น 2 เลี่ยมพลาสติกใช้มานานจนพระแตก ละเอียด เอาใว้ใช้พุทธคุณอย่างเดียวครับแบบนี้

 

พญาครุฑ เนื้อผงมหาจักรพรรดิ หลวงตาม้า

บูชา 400 บาท
พระผงมหาจักรพรรดิ หลวงตาม้า สร้างจากเนื้อผงพุทธคุณผสมผงกรรมฐานต่างๆกว่าพันรายการ ผงว่านเกษร 108 ชนิด ผงดอกไม้บูชาพระ ผงมหาจักพรรดิ์ที่หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านลบไว้สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ผงเถ้าอังคารของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และผงปูนซีเมนต์ขาว สร้างและปลุกเสกโดยพระอาจารย์วรงคต (หลวงตาม้า) วิริยธโร วัดพุทธพรหมปัญโญ ถ้ำเมืองนะ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ หลวงตาม้าท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ดู่โดยตรงเวลาหลวงตาม้าสร้างวัตถุมงคลจึงมีผงกรรมฐานมหาจักพรรดิ์ของหลวงปู่ดู่ผสมอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก และหลวงตาม้าเองยังได้ลบผงกรรมฐานมหาจักพรรดิ์ของท่านเองอีกด้วย ผสมกับผงของหลวงปู่ดู่ พระของหลวงตาม้าที่สร้างจึงขึ้นพระธรรมธาตุและมีพุทธคุณเหมือนกับพระที่หลวงปู่ดู่สร้างและปลุกเสกทุกประการ หากหาพระของหลวงปู่ดู่บูชาไม่ได้เพราะของปลอมเยอะมากๆ ก็บูชาพระที่หลวงตาม้าสร้างและเสกขึ้นคอแทนหลวงปู่ดู่ได้ครับ

 

พระพุทธชินราช เนื้อผงน้ำมัน ลพ.กวย วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท ปี2518

พระพิมพ์นี้องค์นี้ หลวงพ่อกวย ถอดพิมพ์มาจาก พระพิมพ์ของวัดราชนัดดาที่ออกปี2512 ของวัดนี้ด้านหลังจะเป็นอกเลา

หลวงพ่อกวยท่านถอดพิมพ์และสร้างออกวัดบ้านแคโดยตรง ส่วนนึงนำไปร่วมบุญกับวัดดอนประดู่ น้อยคนจะรู้ข้อมูลนี้

องค์นี้เนื้อผงน้ำมันเก่าถึงยุคปี2515 แน่นอนเพราะผิวพระขึ้นฝ้าให้เห็น บูชาได้สนิทใจ ไม่ต้องกลัวยัดวัดยัดเกจิ

บูชา 1,*** บาท

 

พระปิดตาหลังยันต์น้ำเต้าวัดบ่อวิน ปี ๒๕๑๖

เนื้อผงใบลานดำ เลี่ยมพร้อมบูชา มวลสารชัดเจน

บูชา 1,700 บาท

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่เสก พิมพ์ใหญ่ หายากมาก พระชุดนี้ หลวงปู่ทิมได้มอบมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ให้คุณมาโนช เหล่าขวัญสถิตย์ เจ้าของร้านนาวาชายหาด ศิษย์ก้นกุฎิ นำไปผสมสร้างโดยเฉพาะ เมื่อคุณมาโนชไปขอของดีเพื่อนำมาผสมสร้างพระชุดนี้ หลวงปู่ได้มอบหมอนหนุนนอนที่ใช้หนุนมาตั้งแต่บวชใหม่ๆ และบอกว่า นี่แหละของดี เพราะหมอนมีความหมายถึงการหนุนดวง สำหรับคนดวงตก หมายถึงการค้ำดวง พระชุดนี้ถูกจัดสร้างขึ้นในปี ๒๕๑๖ ที่วัดศรีมหาราช อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งคุณมาโนชนั้นได้นำไปให้เกจิต่างๆ ร่วมปลุกเสกอีกมากมายหลายวาระ และหลวงปู่ทิมยังมีเมตตาอย่างมาก ปลุกเสกเดี่ยวให้นานกว่า ๙ เดือน ๒๐ วันอีกด้วย ถือว่าเป็นพระของหลวงปู่ที่มีประวัติการปลุกเสกชัดเจน มวลสารที่ใช้ในการจัดสร้าง เนื้อผงพุทธคุณต่างๆ, ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม, จีวร, เกศาของหลวงปู่ทิม, หมอนหนุนหัว ของหลวงปู่ทิม (หมอนที่ใช้หนุนมาตั้งแต่บวชใหม่ๆ และบอกว่า นี่แหละของดี เพราะหมอนมีความหมายถึงการหนุนดวง สำหรับคนดวงตก หมายถึงการค้ำดวง รายชื่อพระอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกพระชุดวัดบ่อวิน ( ต่างเวลาปลุกเสก ) หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ หลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล พระอาจารย์วัน วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม หลวงปู่ดูลย์ วัดบูรพาราม หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง พระเครื่องพิมพ์ต่างๆ นั้นแบบพิมพ์ถูกแกะมาอย่างมีเอกลักษณ์ บางพิมพ์ล้อมาจากพิมพ์พระเครื่องของเกจิดัง ๆ เช่นพิมพ์ปิดตาซุ้มตัน พิมพ์จะคล้าย ของหลวงปู่เฮี้ยง วัดป่า แต่ไม่เหมือนกันซะทีเดียว ต้องสังเกตด้านหลังให้ดี เพราะด้านหลังขององค์พระพิมพ์อื่นๆ ก็จะมีความแตกต่างกันเช่น บางองค์มียันต์จม บางองค์มีปั้มตรายางยันต์ห้า และเขียนว่าปลุกเสกโดยหลวงปู่ทิม บางองค์ปั้มตัว “ก” ซึ่งหมายถึงอาจาร์ย กิม ที่มีศักดิ์เป็นหลานเขยหลวงปู่ทิม ผู้จัดสร้าง บางองค์มีเส้นเกศา บางองค์มีคราบกาวด้านหลัง บางองค์มีคราบกรุ อีกทั้งเนื้อหาก็หลากหลาย มีทั้งเนื้อผงขาว มีทั้งเนื้อผงผสมใบลาน เนื้อผงคลุกยางรัก แต่ทั้งนี้ พระชุดนี้ทุกพิมพ์ทรง จะมีมวลสารหลักที่หลวงปู่ทิมมอบให้มาผสมอยู่ด้วยทุกองค์ อีกหนึ่งของดีที่ ราคา ยังเบาๆ ทันหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ปลุกเสกเป็นมาตรฐานสากลนิยม