หมดแล้ว ((พระเครื่องทั่วไทย ลป.ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ จ.ระยอง มงคลดีๆที่ส่งผ่านมาถึงลูกหลานทั่วไทย ))

ขอบพระคุณผู้ใหญ่ใจดี ท่าน นิติทอง ปิดเสมา 2 เหรียญครับ ขอให้รวยๆๆๆๆๆเด้อ

 

ผมจองเหรียญเสมาสีฟ้าและสีแดงตามนั้นครับ
ผมโอนประมาณวันที่1ครับ

 

ได้โอนเงินร่วมบุญ๒๒๐๐๐บาทเมื่อ๒๙สค.เวลา๑๑.๐๖น.เป็นค่าบูชาพระ ๕.รายการ ที่อยู่ดูในกล่องข้อความครับ

 

ได้รับรูปหล่อ ลพ.เงิน แล้วครับครู คราบกรุหนามากเลยครับ มีวิธีล้างมั้ยครับ รอสมสมเด็จกรุบางลายใต้อยู่ครับ

 

...รับทราบทุกประการครับ...เน็ตอื๊ดอืดๆๆๆ...ฝนตกทุกวันครับผม...

 

รับทราบครับ...ขอให้รวยๆๆๆๆ

 

เล่าสู่กันฟังครับ

ประวัติเหตุการณ์สำคัญที่ควรรู้

ประวัติสำคัญๆ ที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในการใช้วิเคราะห์ เรียนรู้พระสมเด็จวัดระฆัง ของ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒจารย์ (โต พรหมรังสี) ว่าท่านน่าจะสร้างพระเครื่องของท่าน ตั้งแต่เมื่อใด สร้างอย่างไร? ใช้วัตถุมงคลอะไรบ้าง? อย่างนี้เป็นต้น

ประวัติของสมเด็จพระพุฒจารย์ (โต พรหมรังสี) หนังสือพระเครื่องต่างๆ ได้ถ่ายทอดสู่วงการพระเครื่องมากมาย ทุกฉบับก็ได้รับคำบอกเล่าหรือคำบันทึกในหลายๆแหล่ง ทุกแหล่งจะมีลักษณะใกล้เคียงกันทั้งสิ้น ชมรมผู้จัดทำหนังสือทำเนียบสมเด็จฯ จึงช่วยกันวิเคราะห์สรรหาเหตุการณ์สำคัญๆ ที่น่าจะมีประโยชน์ และมีส่วนช่วยให้ผู้ที่กำลังศึกษาพระสมเด็จหรือผู้ที่ศึกษาแบบเรียนลัด ได้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมมากขึ้น รู้ลึก เข้าใจมากขึ้น เหตุการณ์สำคัญๆ ดังกล่าวคือ

เหตุการณ์สำคัญ 1 ปี พ.ศ.2354 ได้เดินทางไปเยี่ยมญาติที่ จ.กำแพงเพชร และได้พบแผ่นใบลานเงิน มีคำจารึกไว้ในใบลานนั้นถึงวิธีการสร้างพระเครื่อง ตลอดถึงผงวิเศษทางพุทธาคมมีอะไรบ้าง และท่านโตได้ไปดูองค์เจดีย์เก่าที่พังแล้ว พบว่ามีพระเล็กๆ เต็มคอเจดีย์แต่ไม่มีคนเอา ท่านโตจึงบอกให้นายมาเก็บพระที่หักๆ หาบเอามากองไว้ที่ลานบ้านเต็มไปหมด แล้วท่านโตก็เอาพระที่หักล่องแพลงมาทางคุ้งสำเภา จนถึงพระนครศรีอยุธยา ณ วัดพิตเพียน เพื่อพักแรม รุ่งขึ้นก็ต่อเรือจากอยุธยาถึงกรุงเทพฯ ขณะนั้นมีอายุ 24 ปี พอมาถึงกรุงเทพฯ แล้ว ก็มาสอนนักธรรมอย่างเดิม ท่านได้สะสมผงเกสรดอกไม้ที่ญาติโยมนำมาใส่แจกันถวายพระ พอดอกไม้เหี่ยวแห้งก็จะเก็บเอาเกสรแห้งๆ มาบดเป็นผงเก็บสะสมเกสรดอกไม้จำนวนหลายบาตร

เหตุการณ์สำคัญ 2 ปี พ.ศ.2358 ท่านโตได้ออกธุดงค์ครั้งแรก ถึงอยุธยาแวะที่วัดพิตเพียนมอบตัวเป็นลูกศิษย์อาจารย์คง เรียนวิชาในทางคงกระพันชาตรี ก่อนจำพรรษา ท่านจะลากลับกรุงเทพฯ เพื่อมาจำพรรษาที่วัดเดิมทุกปี ต่อมาอีก 3 ปี คือ พ.ศ.2361 ท่านโตได้เรียนวิชาอาคมจากอาจารย์แสง แห่งลพบุรี และได้เรียนวิชาจากอาจารย์ขอม แห่งนครสวรรค์ ท่านอาจารย์ขอมเก่งกล้าในทางอาคมขลัง มีวาจาสิทธิ์ ท่านได้จำพรรษาอยู่กับอาจารย์ขอม 1 พรรษา ได้เรียนรู็ต่างๆจนหมด การธุดงค์เรียนวิชาอาคมของท่านโตรวมแล้วหลายปี จึกกลับมาเป็นครูสอนนักธรรมตามเดิม

เหตุการณ์สำคัญ 3 ปี พ.ศ.2384 ท่านโตมีอายุ 54 ปี โยมมารดาได้ถึงแก่อนิจกรรมท่านโตได้แบ่งทรัพย์มรดกของโยมมารดาให้แก่บรรดาญาติและหลานๆทั่วกัน ส่วนที่เหลือเป็นเงินทองก็ได้เอาทรัพย์นั้นมาถึง อ.ป่าโมก ณ วัดขุนอินทร์ประมูล ท่านก็เอาทรัพย์นั้นสร้างพระนอนไว้หนึ่งองค์ มีลักษณะพุทธศิลป์อย่างงดงาม

เหตุการณ์สำคัญ 4 ปี พ.ศ.2386 อายุ 56 ปี ได้รับโปรดฯเกล้าสมณศักดิ์เป็นพระราชปัญญาภรณ์ ปี พ.ศ.2390 อายุ 60 ปี ได้เป็นพระเทพกวีศรีวิสุทธินายก ในรัชสมัยสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.3) ปี พ.ศ.2395 อายุ 65 ปี ได้รับพระราชโองการโปรดเกล้าฯ สมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะที่พระธรรมกิติโสภณ เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม (รัชสมัยสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.4) และต่อมา ปี พ.ศ.2407 อายุ 77 ปีท่านพระธรรมกิติโสภณ (โต) ได้รับสถาปนาสมณศักดิ์ขึ้นเป็น สมเด็จพุฒาจารย์

เหตุการณ์สำคัญ 5 ปี พ.ศ. 2408 คุณหลวงวิจารณ์ เจียรนัย ซึ่งเป็นช่างทองในวัง ได้ข้ามไปหาท่านเจ้าประคุรสมเด็จฯ ที่วัดระฆังอยู่ บ่อยๆและได้เห็นพระพิมพ์ชิ้นฟัก คุณหลวงฯ เห็นว่าองค์พระที่ได้สร้างไว้ แม่พิมพ์ ตลอดถึงการตัดของของพระองค์ ไม่สวยเท่าที่ควร คุณหลวงฯ ท่านเลยแกะแม่พิมพ์ด้วยหินอ่อนไปถวายให้ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จฯ 2 พิมพ์ พร้อมทั้งแนะวิธีการตัดขอบขององค์พระ เพื่อให้ได้สัดส่วนและสวยงามยิ่งขึ้น จนมีตำนานบันทึกไว้ทุกแหล่งประวัติสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน ว่าพระพิมพ์ของคุณหลวงวิจารณ์ เจียรนัย มีความสวยงามที่สุด
เจ้าประคุณสมเด็จฯ จึงได้จัดเตรียมสร้างพระโดยใช้แม่พิมพ์ของคุณหลวงวิจารณ์ เจียรนัย ที่นำมาถวายทั้ง 2 พิมพ์ คุณหลวงวิจารณ์ รู้ว่าเจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้นำพระพิมพ์ของท่านมากดพิมพ์พระ จึงได้ข้ามฟากมาวัดระฆังเพื่อดูผลงานแม่พิมพ์ของท่าน เมื่อเห็นพระที่ทำสำเร็จแล้วกำลังผึ่งให้แห้งอยู่ จึงหยิบขึ้นมาดูและวิจารณ์แล้ว เห็นว่าเนื้อพระไม่ค่อยประสานกันเท่าไร จึงเรียนให้ท่านเจ้าประคุณฯ ทราบว่า องค์พระเมื่อแห้งแล้วหักชำรุดได้ง่าย เข้าใจว่าน้ำตาลอ้อยเคี่ยว เที่ยวนี้คงเคี่ยวไม่ได้ที่ ไม่เหนียวพอและได้เรียนว่า น่าจะใช้น้ำมันตั้งอิ้วเป็นตัวประสานแทนน้ำอ้อยเคี่ยวจะดีและแน่นกว่า ท่านเจ้าประคุณฯจึงให้ศิษย์นำพระพิมพ์เสร็จแล้ว กำลังผึ่งลมให้แห้งอยู่ทั้งหมด นำไปจุ่มหรือชุบในน้ำมันตั้งอิ้ว ที่คุณหลวงฯ มาจัดถวาย น้ำมันตั้งอิ้วถูกดูดซึมเข้าประสานในเนื้อพระมากบ้างน้อยบ้าง สุดแต่ความแห้งของพระแต่ละองค์ ทำให้บนผิวองค์พระจึงแลดูเงามัน เพราะมีน้ำมันตั้งอิ้วเคลือบอยู่ เนื้อพระที่สร้างรุ่นนี้ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้นำผงวิเศษและมวลสารมงคลต่างๆ มากอย่างมากชนิด ใส่ผสมลงไป มวลสารแลดูค่อนข้างหยาบ ศิษย์ของท่านในขณะนั้น เห็นเนื้อพระมีส่วนผสมคล้ายขนมกระยาสารทมาก จึงตั้งชื่อเรียกกันว่า "เนื้อกระสารท" และเป็นตำนานเล่าขานสืบทอดต่อๆ กันมาจากทุกสายประวัติจนถึงปัจจุบัน

เหตุการณ์สำคัญ 6 หลังจากสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.4) เสด็จสวรรคต เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุญนาค) ท่านเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินอยู่ในตำแหน่ง 5 ปี เมื่อพระสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงบรรลุนิติภาวะ ว่าราชการแผ่นดินได้แล้ว ท่านจึงพ้นหน้าที่ และได้พระพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ได้รับยศศักดิ์ที่ "สมเด็จพระบรมมหาศรีสุริยวงค์" ท่านเป็นคนใจบุญเลื่อมในบวรพระพุทธศาสนา ใกล้ชิดสนิทสนมกับท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ เป็นอย่างมากและขณะ ที่ท่านดำรงตำแหน่งเป็นผู้สำเร้จราชการ มีความซื่อสัตย์สุจิตต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ร.5) อย่างแท้จริง แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อมีคนรักมาก ย่อมมีคนชังปะปนอยู่บ้าง จนมีข่าวลือว่าท่นจักทรยศต่อแผ่นดิน ความได้ทราบถึงท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ท่านจึงได้จุดใต้กลางวันและเดินเข้าไปในวังเจ้าพระยาสุริยวงศ์ พร้อมพูดกับผู้สำเร้จราชการว่า "จะเป็นเพียงข่าวลือหรือเท็จจริงอย่างไร" อาตมาขอบิณฑบาตเสีย และท่านผู้สำเร็จราชการก็อนุโมทนา ในทันที ด้วยความเป็นผู้สนิทสนมกับ

เจ้าประคุณสมเด็จฯท่านผู้สำเร็จราชการ จึกมักจะอาราธนาท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ไปแสดงพระธรรมเทศนาอยู่เนืองๆ การไปไหนมาไหนท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ก็มักจะติดพระสมเด็จชิ้นฟักไปแจกให้ญาติโยมเสมอ พระพิมพ์บางแบบพิมพ์ ถ้าพิจารณาละเอียดถี่ถ้วน แล้วจะรู้สึกว่าเป็นพิมพ์ทรงที่แฝงด้วยคติธรรมอันลึกซึ้ง อย่างเช่นพระพิมพ์ทรงองค์หนึ่งได้พบอยู่ในบ้านของตระกูลใหญ่ที่เก่าแก่ เมื่อได้พินิจวิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วนไม่ว่าจะเนื้อหามวลสารผิวพรรณวรรณะสวยงามลึกซึ้งมาก จึงได้ขออนุญาตเจ้าของพระจัดบันทึกไว้เพื่อให้ได้ชมกันอย่างทั่วถึง เพื่อเป็นวิทยาทานความรู้เพิ่มขึ้นอีก (ท่านผู้อ่านชมและพิจารณากันเองนะครับ) เพราะได้บันทึกเป็นบล็อคแม่พิมพ์ที่ 1 ใน หนังสือ ทำเนียบพระสมเด็จวัดระฆัง เล่มแรก ที่ออกเผยแพร่ในปี พ.ศ.2540 ปัจจุบันได้พบอีก 1องค์ สวย สมบูรณ์สุดๆ เช่นกัน ประสงค์จะขอชมองค์จริงเจ้าของก็ยินดี ทั้ง 2 องค์เป็นองค์ที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยพบเห็นมา

ประวัติสำคัญๆ ทั้ง 6 เหตุการณ์ เมื่อท่านที่กำลังศึกษาพระสมเด็จวัดระฆังของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ อยู่ ถ้าท่านพินิจวิเคราะห์อย่างละเอียดตามความเป็นจริง ท่านจะมีความเข้าใจเพิ่มขึ้นแน่นอนเช่นท่านจะรู้ว่า............
1.) ท่านเจ้าประคุณฯ มีความคิดริเริ่มในการสร้างพระเครื่อง ตั้งแต่เมื่อใด?
2.) ท่านเจ้าประคุณฯ เก่งกล้าในวิชาอาคมต่างๆ ท่านต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ถ่ายทอดจากอาจารย์หลายท่านและเป็นเวลากี่ปี กว่าจะสำเร็จตามความประสงค์
3.) ท่านเจ้าประคุณฯ น่าจะมีการสร้างพระองค์เล็กตั้งแต่ปีไหน ในเมื่อปี 2384 อายุ 54 ปีท่านได้สร้างพระนอนองค์ใหญ่ไว้
4.) ท่านเจ้าประคุณฯ ได้รับโปรดเกล้าฯ สมณศักดิ์เป็น พระธรรมกิติโสภณ พร้อมทั้งเป็นเจ้าอาวาสมาปกครองวัดระฆังโฆสิตาราม ในปี พ.ศ.2395 อายุ 65 ปี ในปีดังกล่าวนี้ท่านได้เป็นเจ้าอาวาสวัดระฆัง พระสมเด็จที่ท่านได้สร้างขึ้นใน ปี พ.ศ. 2395 อายุ 65 ปี จนถึงในปี จนถึงในปี พ.ศ.2407 อายุ 77 (รวม 12 ปี)พระที่ท่านสร้างในช่วงนี้ สมควรเรียกว่า พระของพระธรรมกิติโสภณ (โต) วัดระฆังหรือน่าจะเรียกว่าพระสมเด็จวัดระฆังของสมเด็จพระพุฒจารย์ (โต พรหมรังสี)
5.) ณ เมื่อวันพฤหัส เดือน 10 ขึ้น 9 ค่ำ ปีชวด พ.ศ. 2407 ได้รับโปรดเกล้า สถาปนาเป็นสมเด็จพระพุฒจารย์ ต่อมาอีกปี 1 ปี คือปี 2408 คุณหลวงวิจารณ์ เจียรนัย ได้แกะพิมพ์พระมาถวายเจ้าประคุณสมเด็จฯ และแนะนำเรื่องของการใช้น้ำมันตั้งอิ๊วแทนน้ำมันอ้อยเคี่ยวซึ่ง "พระเนื้อกระยาสารท" นับเป็นพิมพ์แรก เนื้อแรก ที่ได้นำไปจุ่มชุบน้ำมันตั้งอิ๊วทั่วทั้งองค์ (เพราะพระได้ทำเสร็จหมดแล้ว กำลังวางตากผึ่งลมให้แห้งอยู่) จุดสำคัญๆนี้ ทำให้ได้มีการบันทึกเป็นประวัติเล่าสืบทอดต่อกันมาจนถึงปัจจุบันเป็นสาเหตุให้เรา ได้รู้ปี พ.ศ. จุดกำเนิดของ พระพิมพ์เนื้อกระยาสารท และเมื่อท่านได้ศึกษาจากหลักฐานที่ปรากฏชัดเจนอยู่ในองค์พระย่อมทำให้ผู้ที่ศึกษาพระสมเด็จสามารถพิจารณาวิเคราะห์และรู้ในแง่มุมอื่นๆ อีกมากมายหลายอย่าง เช่น

1.) การตัดขอบขององค์พระ ว่าตัดจากหน้าไปหลัง หรือหลังไปหน้ากันแน่
2.) มวลสารชนิดต่างๆ นั้นจริงๆลักษณะเป็นอย่างไร?
3.) พระที่สร้าง ก่อนปี 2408 และหลังควรแตกต่างกันอย่างไร?
4.) แม่พิมพ์ที่สร้าง ก่อนปี 2408 และหลังควรแตกต่างกันอย่างไร?
5.) ก่อนปี 2408 สิ่งที่นำมากดพิมพ์พระ เช่นแผ่นไม้กระดาน กับหลัง 2408 ซึ่งได้พัฒนาวิธีการกดพิมพ์พระแล้ว ด้านหลังพระจึงดูเรียบและสวยขึ้น การแตกต่างควรเป็นแบบไหนบ้าง
6.) ทำให้รู้ว่า พระที่สร้างมาก่อนปี 2408 การตัดขอบองค์พระได้ดูจากเส้นของบกระจกเป็นหลักในการตัด ส่วนพระที่สร้างหลังจากคุุณหลวงวิจารณ์ได้เข้ามามามีส่วนถวายพัฒนาการสร้างพระแล้ว พระทุกองค์ไม่ว่าจะมีความหนายางและการตัดขอบทั้ง 4 ด้านขององค์พระจะต้องมีความเรียบร้อย ซึ่งคงต้องมีเครื่องมือไม่ฉากเป็นที่บังคับ แทนการดูจากขอบกระจกเป็นหลัก ฉะนั้นถ้าเป็นพระพิมพ์เดียวเนื้อเดียวกัน พระทุกองค์จะต้องมีขนาดความหนาขององค์พระ ขนาดความสูงและความกว้าง จะต้องมีขนาดเท่ากันหมด นี่แหละความสวยที่กล่าวขานมาแต่โบราณ
7.) ทำให้รู้ว่าน้ำมันตั้งอิ๊ว ที่จุ่มเคลืออยู่บนผิวพระของเนื้อกระยาสารทเป็นอย่างไร? ทำให้รู้คราบน้ำมันตั้งอิ๊วได้อย่างขัดเจนและแน่นอนยิ่งขึ้น
8.) ทำให้รู้ว่าพระที่ผ่านการใช้ และพรที่ไม่ได้ผ่านการใช้ มีผิวพรรณแตกต่างกันอย่างไร?

ท่านผู้อ่านที่เคารพครับ ถ้าท่านต้องการศึกษาดูพระสมเด็จวัดระฆังของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯให้เป็นและเก่ง ขอแนะนำให้ท่านต้อง พยายามหาดูพระสมเด็จองค์แท้ๆมากๆองค์ได้ยิ่งดี เพราะจะทำให้พิจารณา วิเคราะห์ง่ายขึ้น พร้อมทั้งศึกษาประวัติความเป็นจริงต่างๆ ไปพร้อมกันด้วย ไม่ยากหรอกครับที่ท่านจะเป้นนักดูพระสมเด็จวัดระฆังที่มีความชำนาญอย่างแท้จริง
กลุ่มอนุรักษ์พระสมเด็จฯ(คลิก)

 

++พรุ่งนี้ผมจะเปลี่ยนความแรงของสัญญาณอินเตอร์ใหม่++ไมเกรนขึ้นแล้ววันนี้++โพสต์ละ 1 นาทีไหวป่าววันนี้++

 

ร่วมบุญจอง สมเด็จช่อฟ้า ๑ องค์ครับครู

 

รับทราบบุญนี้ครับพี่ชาย...บุญที่ 5 แล้ววววววว..กฐินอีกครับรวบ 2 วัดเล้ย...เดี๋ยวลงรายละเอียด...ปีนี้ผมไม่ขออะไรมาก ขอฉลองโฉมใหม่ของล็อตเตอร์รี่เมืองไทย ขอสัก 6 ล้านก็เจ๋งแล้วววว พี่ชาย 555

 

ขอให้สมหวังบุญบันดาลนะครับท่านเจ้ากรม

 

ร่วมบุญสมเด็จช่อฟ้าองค์ที่ 1 ค่ะ

 

ขอจอง สมเด็จหลังอักษรจีน 1 องค์ครับ

 

ร่วมบุญ สมเด็จช่อฟ้า 5 องค์
สมเด็จหลังอักษรจีน 5 องค์ครับ

 

ร่วมบุญจองสมเด็จพิมพ์เกศไชโย 7 ชั้น 2 องค์

 

++มาชมความงามกันต่อครับ"สมเด็จหลังหนังสือ"++

 

ตามนี้ครับ...พี่ๆสายตรงให้มา...มันมีหลายแบบนะครับ

 

..ผมทักขอข้อมูลที่เป็นหนังสือไปทางอาจารย์ที่เคารพนับถือ เชี่ยวชาญ และศึกษาทางนี้โดยเฉพาะอยู่ครับผม..น่าจะได้รับความมตตาส่งมาให้ศึกษาเร็วๆนี้ครับ

 

++ศึกษาร่วมกันนะครับ++

คว้านหาไม่เจอแล้วครับตอนนี้...เชื่อผมสิ

ราคาขยับแรงทุกวันขอบอก...พิมพ์เกศไชโย...ข่าวมะคืนเขาบูชาแตะที่หมื่นล่ะ..เรื่องจริงนะจ๊ะ...

 

ไม่ผิดหวังดอก...เพราะสวยงามทุกองค์...เสน่ห์ของเขาคือลายงา..คราบไข..ท่านอยู่ที่สูงจึงไม่มีคราบกรุ เนื้อจึงออกแกร่งๆ มะก่อนผมจับดูแห้งมือมากกว่านี้ แต่ตอนนี้นุ่มมือนุ่มตาขึ้นเยอะครับ