พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

โรคตาที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์
โดย : คณะอนุกรรมการวิชาการ ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย
http://www.eyebankthai.com/index.asp?catid=5&contentID=10000004&getarticle=57&title=%E2%C3%A4%B5%D2%B7%D5%E8%E0%A1%D4%B4%A8%D2%A1%A1%D2%C3%E3%AA%E9%A4%CD%C1%BE%D4%C7%E0%B5%CD%C3%EC+

<STYLE type=text/css>.style1 {font-family: Georgia, "Times New Roman", Times, serif}</STYLE>

[FONT=Tahoma, Arial, Helvetica, sans-serif]โรคตาที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์ [/FONT][FONT=Tahoma, Arial, Helvetica, sans-serif]ในปัจจุบันนี้เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นที่รู้จักและใช้กันแพร่หลายไปทั่วโลก มีการใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการทำงานมากมายหลายสาขา และใช้กันทั่วไปตามบ้านจนกลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน ผู้ใช้มีตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ ในขณะที่ใช้คอมพิวเตอร์ผู้ใช้จะต้องใช้สายตาดูจอคอมพิวเตอร์ ที่เรียกว่า จอมอนิเตอร์ ตลอดเวลาจึงอาจก่อให้เกิดอาการต่างๆ ทางตาได้และคงมีผู้สงสัยว่าจอคอมพิวเตอร์นี้จะทำให้เกิดอันตรายต่อตาหรือไม่อย่างไร [/FONT]
[FONT=Tahoma, Arial, Helvetica, sans-serif][/FONT]
[FONT=Tahoma, Arial, Helvetica, sans-serif]ในปัจจุบันนี้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าจอคอมพิวเตอร์จะทำให้เกิดอันตรายโดยตรงต่อตา แต่อาจเกิดอาการไม่สบายตา เมื่อยตาได้ โดยพบมากถึง 50

 

ใช้ไฟฉุกเฉินอย่างถูกวิธี


http://hilight.kapook.com/view/25468

​

สัญญาณไฟฉุกเฉินมีไว้ใช้ในช่วงคับขันหรือสถานการณ์อันตราย แต่ถ้าขืนเปิดไฟพร่ำเพรื่ออาจสร้างปัญหา ทั้งยังพาอุบัติเหตุมาใกล้ตัว Lisa มีข้อแนะนำดีๆ มาฝาก

เมื่อขับข้ามสี่แยก แล้วต้องการตรงไป อาจทำให้ผู้ขับรถทางด้านซ้าย/ขวา เห็นเป็นแค่ไฟกะพริบมุมหน้ามุมเดียวเสมือนจะเลี้ยวไปด้านใดด้านหนึ่ง ทั้งที่จริงกำลังจะตรงไปก่อเกิดความเข้าใจผิด จนอาจไม่ระวังหรือไม่ได้ชะลอความเร็วลง ชน ...โครมเข้ากลางลำเลยก็มี วิธีปฏิบัติที่ปลอดภัยและถูกต้องคือ ให้ชะลอความเร็วลง มองซ้าย-ขวาอย่างรอบคอบ ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉินเพราะการไม่เปิดไฟเลี้ยวก็แสดงว่าต้องการตรงไปอยู่แล้ว เมื่อถนนโล่งว่างและปลอดภัยจึงตรงไป

สภาพอากาศแย่ ยามฝนตกหนัก หมอกลงจัด ทัศนวิสัยแย่มากๆ ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉิน เพราะผู้ขับรถ ที่ตามมาอาจคิดว่าเป็นรถยนต์ที่จอดนิ่งอยู่ เกิดเข้าใจผิดขึ้นได้ แม้ไฟฉุกเฉินอาจช่วยให้ผู้ขับคนอื่นมองเห็นได้ชัดเจน แต่ขณะที่เปิดไฟกะพริบทั้ง 4 มุม จะไม่มีไฟเลี้ยวใช้ หากอยากเปลี่ยนเลนอาจทำให้เกิดอันตรายได้ วิธีปฏิบัติ ควรเปิดไฟหน้าต่ำ พร้อมไฟตัดหมอก ขับชิดซ้ายสุด โดยไม่เปลี่ยนเลน แต่ถ้าสภาพอากาศแย่มากๆ ควรจอดหลบอย่างปลอดภัยและเปิดไฟฉุกเฉินไว้ด้วย

เหยียบเบรคกะทันหัน แล้วต้องจอดเป็นคันสุดท้าย เพราะกลัวผู้ขับคันหลังจะเหยียบไม่ทัน เลยเปิดไฟฉุกเฉินช่วย ซึ่งอาจใช้วิธีเหยียบเบรคซ้ำหลายๆ ครั้ง ให้ไฟเบรกค้างจะได้เป็นที่สังเกตแล้วค่อยเหยียบแป้นเบรกแช่ไว้ ถ้าไม่แน่ใจว่าผู้ที่ขับตามมาจะเบรกทันมั้ย ให้เปิดไฟฉุกเฉินขณะจอดนิ่ง เมื่อรถที่ขับตามมาเบรกทัน และจอดปลอดภัยแล้ว ก็ปิดไฟฉุกเฉินทันที

การลากรถยนต์ ถ้าจะเปิดไฟฉุกเฉินควรใช้ความเร็วต่ำ ขับชิดเลนซ้ายสุด หากต้องการเปลี่ยนเลนหรือเลี้ยว ต้องปิดไฟฉุกเฉิน และเปิดไฟเลี้ยวล่วงหน้า เพื่อให้สัญญาณตามปกติ แล้วค่อยเปลี่ยนเลนหรือเลี้ยว




ข้อมูลจาก

ภาพประกอบจาก oknation
ประจำวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.2551​

 

โมทนาสาธุครับคุณเพชร

 

http://palungjit.org/showthread.php?p=1202892#post1202892

<TABLE class=tborder id=post1202855 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">15-05-2008, 08:46 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #16546 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>:::เพชร:::<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1202855", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 05:50 PM
วันที่สมัคร: Jul 2006
อายุ: 43
ข้อความ: 3,940
Groans: 15
Groaned at 1 Time in 1 Post
ได้ให้อนุโมทนา: 3,860
ได้รับอนุโมทนา 42,557 ครั้ง ใน 4,039 โพส
พลังการให้คะแนน: 3255


</TD><TD class=alt1 id=td_post_1202855 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ยังมีพิมพ์อื่นอีกมากมายที่บางท่านไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่เคยเห็นไม่ได้หมายความว่าไม่มี แท้จริงมีมากมายกว่าที่ท่านคิดเอาไว้มาก คุณหนุ่มห้ามผม post หลายต่อหลายครั้งในหลายต่อหลายภาพแล้ว ครั้งนี้จำเป็นต้องเปิดเผยกันแล้วครับ ในหมวดพระเครื่องนี้ผมคิดว่าชื่อหมวด "พระเครื่อง" ก็ชัดเจนอยู่แล้วในตัว หากไม่ได้สนใจพระเครื่องก็คงจะไม่เข้ามากัน โดยเฉพาะกระทู้พระวังหน้านี้ ถูกโจมตีมากที่สุด ดังนั้นผมไม่สนใจว่าท่านจะมอง หรือพิจารณาพระเครื่องเป็นพุทธานุสสติหรือไม่ จะเป็นเพราะทำบุญเพราะหวังพระหรือไม่ก็ตาม ผมเชื่อว่าวันหนึ่งข้างหน้าในวาระที่เหมาะสม ท่านผู้ที่ทำบุญเพราะหวังพระเครื่องอาจจะด้วยจิตที่ผูกพันกับพระอาจารย์ หรือหลวงพ่อองค์ใดองค์หนึ่ง หรืออาจจะด้วยจิตที่ศรัทธาต่อปฏิปทาของพระองค์ใดองค์หนึ่ง วันหนึ่งเมื่อเขาผู้นั้นมีสภาวธรรมที่สูงขึ้น ผู้ที่ยึดติดกับภาพพระพุทธเจ้า ก็เป็นกำลังพุทธานุสสติ ยึดติดกับพระธรรมก็เป็นกำลังธรรมมานุสสติ ยึดติดกับพระสงฆ์องคเจ้าก็เป็นกำลังสังฆานุสสติ เมื่อพระเครื่ององค์นั้นที่เขายึดนั้นได้"โน้มนำ"ให้เขาใฝ่ในธรรม ระลึกถึงเหตุของการได้มาซึ่งพระเครื่ององค์นี้ เขาก็จะเข้าถึงกุศลทานที่เคยได้กระทำมาในอดีตที่ผ่านมา และจะโน้มนำให้เขาเข้าถึงพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ได้เอง และเมื่อภูมิธรรมสูงขึ้น เขาจะพิจารณาถึง "แก่น" ได้เองว่ามีพระเครื่องเป็นหมื่นเป็นแสนองค์ สุดท้ายก็ไม่สามารถนำไปได้แม้แต่องค์เดียว แต่เมื่อเวลานี้เขาผู้นั้นยังสนุกกับการเสาะแสวงหา"องค์พระประจำตัว"อยู่นั้นก็ไม่ได้ผิดอะไรครับ เพียงจะเสียเวลาไปเท่านั้น

ดังนั้นผู้ที่จะค้านในเรื่องของความจริงจังในความสนใจพระเครื่องก็คงต้องพิจารณาว่าประเด็นนี้อยู่ในหมวดพระเครื่อง ไม่ได้ไป post สุ่มสี่ สุ่มห้า post ในกระทู้ท่องเที่ยว และอาหารการกิน และอีกอย่างเพื่อนๆในหมวดนี้เขาก็ไม่ได้"บ้า"พระเครื่องแต่เพียงอย่างเดียว แต่ได้นำหลักธรรมคำสอนของพระสงฆ์องคเจ้าที่เขานับถือในปฏิปทามาให้อ่าน หรือทราบกัน จึงขอได้โปรดเข้าใจตามนี้ด้วยครับ เช่นกันหากเป็นหมวดกรรมฐานเราก็คงจะไม่ไปบอกเล่าเรื่องพระเครื่องในหมวดนั้น แต่ใช่ว่าจะเจริญกรรมฐานโดยไม่พิจารณาภาพพระพุทธเจ้า จะไม่ระลึกทบทวนพระธรรมคำสอน จะไม่พิจารณาภาพพระสงฆ์องคเจ้าแต่อย่างใด เพราะเหตุว่ากรรมฐานมี ๔๐ กอง ท่านจะพิจารณากองไหนก่อนก็เป็นเรื่องของคนคนนั้น

ผมได้รับพระผงองค์แรกจากคุณพ่อของผมซึ่งไปในงานศพของเพื่อนเขาเมื่อ ๓๗ ปีก่อน ปัจจุบันพระผงองค์นี้ผมก็ยังเก็บรักษาไว้อยู่ ไม่เคยได้นำมาคล้องคอเลย ด้วยความที่ไม่ใช่พระที่สวยงามอะไรเลย และพูดง่ายๆคือเป็นของวัดที่ไม่ดัง ไม่นิยม แต่ด้วยวัย ๗ ขวบนั้นผมก็นำมาส่องดู จากนั้นก็ตามอ่านเรื่องราวของพระเครื่องเท่าที่จะหาได้ จบปี ๔ ทำงานได้ครั้งแรกก็นั่งรถทัวร์ไปเหนือล่องใต้ไปตามวัดต่างๆที่ลงในหนังสือมหาโพธิ์ หรือศักดิ์สิทธิ์บ้าง ก็ไปตามเก็บตามบูชาพระเครื่องที่ลงโฆษณาในหนังสือเหล่านั้น ปัจจุบันเหลือไม่กี่วัดที่เก็บสะสมเอาไว้เพื่อทำบุญบ้าง แจกเขาบ้าง ก็มีความสุข และสนุกดี

ผมคิดว่าในเมื่อเราจะศึกษาเอาดีทางพระเครื่องนี้กัน ก็น่าจะจริงจังให้รู้กันไปเลย ว่าที่มาที่ไปมาจากไหน พยายามหาข้อมูลทั้งมวลสาร พิธี พระผู้เสก จำนวนการจัดสร้าง เมื่อก่อนผมก็เป็นประเภท"ลุยถั่ว"ครับ เก็บไปเรื่อย ทั้งถูก ทั้งแพง จนสับสนไปหมด ไม่รู้ว่าพระทั้งหมดมีที่มายังไง น้องๆเพื่อนๆลูกหลานมาถามเรา เราก็ตอบไม่ได้ คือพูดง่ายๆว่าเก็บไปเรื่อยๆ แบบนี้ไม่สนุกครับ จึงขอให้กำลังใจเพื่อนผู้สนใจศึกษาพระวังหน้าให้อดทน รอคอย หมั่นศึกษาจากข้อมูลแหล่งต่างๆ ฟังหูไว้หู อ่านให้มาก ฟังให้มาก พูดให้น้อย ต้องรู้จักขวนขวาย ลงทุนซื้อหาหนังสือหนังหาอ่านให้เข้าใจอย่างถ่องแท้กลับไปกลับมา ทดสอบความรู้ สอบถามผู้รู้(ต้องรู้ว่ารู้จริงๆ ไม่ใช่ประเภทไม่รู้ว่าตัวเองไม่รู้) ทบทวนความรู้นั้นบ่อย และแบ่งปันความรู้นั้น หากไม่แบ่งปันความรู้ใหม่ๆที่เรายังไม่รู้จะเข้ามายังไง...

ก็ขอให้สมความปรารถนาในการเสาะแสวงหาพระวังหน้า วังหลวงแท้ๆมาบูชาเป็นพุทธานุสสติซักองค์นะครับ
<!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

http://palungjit.org/showthread.php?t=22445&page=857

http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=8477&page=25

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
พระปิดตาวังหน้า สองหน้า มีหลายเนื้อ ส่วนพิมพ์ก็จะแตกต่างกันตามเนื้อ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 สร้างขึ้นที่วังหน้า นำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกที่วัดบวรสถานสุทธาวาส องค์หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า ท่านอธิษฐานจิต มีทั้งเนื้อดิน ,เนื้อปูนเพชร ,เนื้อผงยาวาสนา

ส่วนพระปิดตาบางรุ่น หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้าท่านอธิษฐานจิต ก็มีเช่นกัน

ส่วนพระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ บางรุ่นก็สร้างขึ้นที่วังหน้า หลวงปู่อิเกสาโร ท่านอธิษฐานจิต ส่วนพระพิมพ์ที่อ้างว่า เป็นพระปิดตา หลวงพ่อแก้ว วัดปากทะเล นั้นไม่มี

คงบอกให้หูตาสว่างแค่นี้ มากกว่านี้คงไม่ได้ แต่ถ้าใครมีหนังสือ"ปู่ เล่าให้ฟัง" ก็คงจะทราบดี

.


</TD></TR></TBODY></TABLE>


อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
หลักฐานจากเซียนพระสากลนิยมชื่อดังยืนยันว่าพระวังหน้ามีจริง
http://palungjit.org/showthread.php?p=1255613#post1255613

<TABLE class=tborder id=post1254216 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">เมื่อวานนี้, 08:22 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#10 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>ยายผีป่า<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1254216", true); </SCRIPT>
สมาชิก กิตติมศักดิ์
สมาชิกยอดฮิต



วันที่สมัคร: Nov 2005
สถานที่: ที่แผงหนังสือทั่วประเทศที่จำหน่ายนิตยสารพลังจิต.คอม ไปหาซื้ออ่านสิแล้วจะรู้ว่าอยู่ที่แห่งหนตำบลใด
อายุ: 40
ข้อความ: 3,980
Groans: 0
Groaned at 4 Times in 4 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 360
ได้รับอนุโมทนา 33,550 ครั้ง ใน 3,762 โพส
พลังการให้คะแนน: 3363





</TD><TD class=alt1 id=td_post_1254216 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ขอบคุณค่ะที่มาช่วยขยายความ และวันนี้มีโอกาสได้คุยกับผู้มีตำแหน่งระดับสูง ท่านทั้งสองทำงานในรั้วในวัง ท่านมีพระวังหน้าพิมพ์อื่นๆ ด้วยค่ะ และสองท่านนี้คงไม่โกหกยายผีป่า เพราะว่าท่านจะรับอุปการะลูกสาวของยายผีป่า(น้องเอริท หรือที่ใช้ชื่อสมาชิกเวบว่า ลูกสาวพระอินทร์) ให้เข้าไปเรียนในโรงเรียนของเจ้านายค่ะ จบออกมาก็ทำงานรับใช้เจ้านายท่าน บางอย่างมีหลักฐานบันทึกไว้แต่ไม่ได้แพร่กระจายเป็นวงกว้างก็ได้ค่ะ



</TD></TR></TBODY></TABLE>

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ยายผีป่า
ขอบคุณค่ะที่มาช่วยขยายความ และวันนี้มีโอกาสได้คุยกับผู้มีตำแหน่งระดับสูง ท่านทั้งสองทำงานในรั้วในวัง ท่านมีพระวังหน้าพิมพ์อื่นๆ ด้วยค่ะ และสองท่านนี้คงไม่โกหกยายผีป่า เพราะว่าท่านจะรับอุปการะลูกสาวของยายผีป่า(น้องเอริท หรือที่ใช้ชื่อสมาชิกเวบว่า ลูกสาวพระอินทร์) ให้เข้าไปเรียนในโรงเรียนของเจ้านายค่ะ จบออกมาก็ทำงานรับใช้เจ้านายท่าน บางอย่างมีหลักฐานบันทึกไว้แต่ไม่ได้แพร่กระจายเป็นวงกว้างก็ได้ค่ะ



</TD></TR></TBODY></TABLE>
พระปิดตาวังหน้า สองหน้า มีหลายเนื้อ ส่วนพิมพ์ก็จะแตกต่างกันตามเนื้อ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 สร้างขึ้นที่วังหน้า นำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกที่วัดบวรสถานสุทธาวาส องค์หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า ท่านอธิษฐานจิต มีทั้งเนื้อดิน ,เนื้อปูนเพชร ,เนื้อผงยาวาสนา

ส่วนพระปิดตาบางรุ่น หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้าท่านอธิษฐานจิต ก็มีเช่นกัน

ส่วนพระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ บางรุ่นก็สร้างขึ้นที่วังหน้า หลวงปู่อิเกสาโร ท่านอธิษฐานจิต ส่วนพระพิมพ์ที่อ้างว่า เป็นพระปิดตา หลวงพ่อแก้ว วัดปากทะเล นั้นไม่มี

คงบอกให้หูตาสว่างแค่นี้ มากกว่านี้คงไม่ได้ เพราะเหตุมีความเสี่ยงกับตัวเองสูง
ส่วนใครมีหนังสือ"ปู่ เล่าให้ฟัง" ก็คงจะทราบข้อมูลเรื่องพระปิดตาดี

ผมเองได้มีโอกาสไปเห็น พระพิมพ์ ,พระบูชา หลายหลากมากๆ ซึ่งเป็นพระพิมพ์และพระบูชา จากวังหน้าบ้าง จากวังหลวงบ้าง หรือในยุคทวาราวดีบ้าง ,ยุคอยุธยาบ้าง จากพี่ท่านนึงซึ่งได้จากวัง..... เห็นแล้วมีความอลังการอย่างมาก ผู้ที่ได้มีโอกาสไปกับผม ก็มีคุณเพชร ,คุณnongnooo ,คุณตั้งจิต และอีกสาม-สี่ท่าน ซึ่งพระพิมพ์และพระบูชาที่ได้มีโอกาสไปเห็น น้อยคนที่จะมีโอกาสได้เห็น
พี่ท่านนี้ ให้คนที่สามารถเข้าชมได้เฉพาะบางคน บางกลุ่มเท่านั้น เช่นประธานศาลฎีกา ,คณะผู้พิพากษาศาลฎีกา ,กลุ่มอัยการสูงสุด ,รัฐมนตรีบางท่าน ,นายตำรวจระดับนายพลขึ้นไปบางท่าน ฯลฯ

อย่างพระบูชาเช่น พระนาคปรก สมัยทวาราวดี หน้าตัก 39 นิ้ว ,พระนาคปรก สมัยอยุธยา (สร้างโดยพระมหาธรรมราชา) หน้าตัก 39 นิ้ว ,พระบูชา สมัยอยุธยา (สร้างโดยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช) หน้าตัก 59 นิ้ว ,พระวังหน้า หน้าตัก 30 นิ้ว และยังมีหน้าตักขนาดอื่นๆอีก พระวังหลวง หน้าตัก 30 นิ้ว ,25 นิ้ว ,20 นิ้ว ,16 นิ้ว ,14 นิ้ว ,12นิ้ว ,9นิ้ว 5 นิ้ว ฯลฯ ยังมีพระพิมพ์ที่เป็นของวังหน้าและวังหลวงอีก รวมทั้งพระปิดตา ,พระสมเด็จ ,พระที่ติดเพชร ติดพลอย ,พระทองคำ ฯลฯ อื่นๆอีกมากมาย

แถมยังมีพระบูชา ที่เป็นเนื้อหินเขียวโขง อีกหลายองค์เช่นกัน

โมทนาครับคุณยาย

.
<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig -->


</TD></TR></TBODY></TABLE>

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
อ้างอิง:


พี่....ครับ
ถ้าได้เข้ามาอ่าน ต้องขออภัยด้วย ที่นำเรื่องนี้มาลงเว็บ แต่เรื่องที่จะพาใครไป ผมรับปากกับพี่ไปแล้วว่า ผมต้องพิจารณาคนที่จะไปให้มากที่สุดครับ

.

</TD></TR></TBODY></TABLE>


ปล.หลักเมืองพุกาม ที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงไปตัดมา ก็อยุ่ที่นี่
พระนารายณ์ทรงครุฑ เดิมอยู่หน้า ธ...... ปัจจุบันก็มาอยู่ที่นี่
องค์จตุคามรามเทพ ที่เป็นพระบูชารุ่นแรก(มีจำนวน 5 องค์) ก็อยู่ที่นี่ 1 องค์
บาตรน้ำมนต์ สมัยรัชกาลที่ 5 (เมื่อตอนที่เฉลิมฉลองศิริรราชสมบัติที่ในหลวงครองราชย์ครบ 60 ปี ทางสำนักพระราชวังได้ขอยืมพี่ท่านนี้ไปใช้) ก็อยู่ที่นี่
เอ้ย เราบอกอะไรไปเนี่ย

ผมพูดมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
กลัวไม่ฉะบาย เด๋วจะไอเสียง คุ...ๆๆๆๆ

.[/quote]

อีกเรื่องที่คุณเพชร เคยโพสไว้ "วัดภูข้าว" นี่ก็แหล่งพระวังหน้า - พระวังหลวง อีกมากมาย

พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้...
พระวังหน้าฯ หน้าที่ 827
http://palungjit.org/showthread.php?t=22445&page=827

ลองไปหาอ่านกันดู จนมาถึง

พระวังหน้าฯ หน้าที่ 829
http://palungjit.org/showthread.php?t=22445&page=829
<TABLE class=tborder id=post1203822 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">16-05-2008, 08:44 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#16569 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sithiphong<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1203822", true); </SCRIPT>
สมาชิก ยอดนิยม
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 02:41 PM
วันที่สมัคร: Dec 2005
ข้อความ: 22,970
Groans: 78
Groaned at 80 Times in 44 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 7,488
ได้รับอนุโมทนา 139,942 ครั้ง ใน 19,042 โพส
พลังการให้คะแนน: 13881



</TD><TD class=alt1 id=td_post_1203822 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->คุณเพชร pm มาบอกผมว่า "นี่แค่เห็นที่วัดภูค่าว ยังตะลึง แต่ถ้าไปเห็นที่ วัดไ............. สงสัยว่า คงชักดิ้นชักงอ"

เหอๆๆๆ ผู้ที่จะไปได้ ต้องได้รับอนุมัติจากท่านพี่ที่เหมือนเป็นเจ้าอาวาสก่อนนะสิ ถ้าพี่ท่านไม่อนุมัติ ก็ไปไม่ได้ ถึงไปแล้วถ้าไม่ใช่ ผม ,คุณเพชร ,คุณnongnooo ก็ไม่สามารถเข้าไปชมได้ทุกที่เหมือนกันและผม,คุณเพชร,คุณnongnooo ก็ไม่สามารถชมบางอย่างได้เช่นกัน ได้เห็นแต่รูป หุหุหุ



</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

http://palungjit.org/showthread.php?p=1202892#post1202892

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ narin96
เรียน คุณเพชร(ผ่านคุณsithipong)
สนใจเรื่องวังหน้าครับ ผมอยู่จังหวัดติดกับกาฬสินธุ์ พอจะบอกที่ตั้งของวัดภูค่าวได้ไหมครับ อยากจะไปกราบนมัสการสักครั้งเพื่อซึมซับถึงความลี้ลับมหัศจรรย์แห่งปู่เทพโลกอุดรนะครับ
ขอบคุณ
</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE class=font_normal height=75 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=120 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR vAlign=bottom><TD class=font_data width=50 height=20>ชื่อ</TD><TD class=font_data width=350 colSpan=2 height=20>อุโบสถวัดพุทธนิมิตร (อุโบสถไม้ วัดภูค่าว)</TD></TR><TR vAlign=bottom><TD class=font_data width=50 height=20>ภาค</TD><TD class=font_data colSpan=2 height=20>ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ</TD></TR><TR vAlign=bottom><TD class=font_data width=50 height=20>จังหวัด</TD><TD class=font_data colSpan=2 height=20>กาฬสินธุ์</TD></TR></TBODY></TABLE>



สถานที่ตั้ง ตั้งอยู่บน ภูค่าว บ้านนาสีนวล ต. นาสีนวล อ. สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ อยู่บนเนินเขาเข้าสู่วัดภูค่าว ระยะทางห่างจากอำเภอสหัสขันธ์ ๘ กิโลเมตร

สิ่งดึงดูดใจ
๑. อุโบสถวัดพุทธนิมิตร เป็นอุโบสถที่ก่อสร้างแบบภาคเหนือและภาคกลางผสมผสานให้กลมกลืนกัน เป็นอุโบสถเปิดโล่งไม่มีฝาผนังปิดกั้น
๒. ระเบียงปูด้วยศิลาแลงโดยรอบตัวอุโบสถทั้งหมดก่อสร้างด้วยไม้แกะสลักลวดลายไทยเป็นภาพ ๓ มิติ ที่มีความอ่อนช้อยงดงามวิจิตรด้วยฝีมือคณะช่างที่เชี่ยวชาญชำนาญการในศิลปะการแกะสลักจากตระกูลช่างเมืองเหนือ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย อ.สันป่าตอง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ และจ.ลำปาง
๓. ภาพหลักที่ปรากฏให้เห็นจะเป็นภาพเกี่ยวกับพุทธประวัติประกอบด้วยลายไทยเครือเถา ทิวทัศน์ป่า สรรพสัตว์นานา หน้าบรรณของอุโบสถหน้าหลัง และหลังคาด้านในจะเป็นภาพพระพุทธองค์ในปางต่าง ๆ ด้วยลีลาพระอิริยาบถต่าง ๆสายพระเนตรประดุจเพ่งตรงไปยังชาวโลก ด้วยพระเมตตาห่วงใยให้พ้นทุกข์บางภาพจะเกิดจากแนวคิดของพระอาจารย์ จากการบรรยายพุทธประวัติซึ่งยังไม่เคยปรากฏมีการแกะสลักหรือภาพวาดในที่ใด ๆ มาก่อน อุโบสถด้านหน้าทางทิศตะวันออกจะมีบานไม้แกะสลักหน้าหลังเป็นภาพมหาชาติเวสสันดรชาดก กัณฑ์ต่าง ๆ ๑๖ ภาพ ด้านทิศเหนือ และทิศใต้จะเป็นภาพที่ยิ่งใหญ่ทศชาติชาดก เป็นการบำเพ็ญเพียรบารมีของพระพุทธองค์ทั้ง ๑๐ ชาติ สลับกับแนวไม้แกะสลักเกี่ยวกระหวัดพันเป็นลายดอกไม้โดยรอบอุโบสถ์ด้านหลังมีซุ้มประตู ๑๔ บาน ๑๑ ช่อง แกะสลักภาพต่อเนื่องทั้งบานร่องลึก , เชิงซ้อนหน้าหลัง เสาประตูแกะสลักเป็นลายไทยโบราณต่าง ๆ ส่วนยอดซุ้มประตูทุกบานแกะสลักเป็นพระราหูกับพญานาค ซึ่งมีความสวยงามประดุจชีวิตจริง
๔. บันไดทางขึ้นอุโบสถหน้าหลังนอกจากจะปูด้วยศิลาแลงแล้ว ที่หัวบันไดแกะสลักเป็นเทพเจ้า ประจำทิศทั้ง ๘ ทิศ แสดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่ว่าเป็นแหล่งชุมนุมเทวดาเพื่อปกปักษ์รักษาชาวโลกและฟังธรรมอันวิเศษ
๕. พื้นที่รอบอุโบสถเป็นสวนไม้ไทย ๆ ปลูกไม้ยืนต้นไว้เป็นจำนวนมาก เช่น สารภี ไม้กฤษณา โศก ลำดวน บุนนาค พันชาติ ลูกจันทน์ ฯลฯ เพื่อให้ร่มเงาแก่พุทธศาสนิกชนในการถือศีลภาวนาตามวาระโอกาสต่าง ๆ แนวรั้วรอบอุโบสถ จะมีซุ้มเรือนแก้ว ๔ ทิศ และไม้ทั้งต้นวางตามแนวของรั้วโดยตลอด

สิ่งอำนวยความสะดวก
อุโบสถ เปิดกว้าง สำหรับทุกคน ที่เข้ามาเยี่ยมชมได้จำนวนมาก ได้ศึกษาทั้งธรรมชาติและความสงบ มีบริเวณกว้างขวาง และสามารถเดินทางไปสักการะพระพุทธไสยาสน์ ถ้ำวัดภูค่าวได้ และเยี่ยมชมโบสถ์พระได้หลายอย่าง

เส้นทางเข้าสู่อุโบสถไม้วัดภูค่าว
เส้นทาง ลาดยางสะดวก จากจังหวัดกาฬสินธุ์เดินตามเส้นทางได้ ๒ สาย
๑. สายอำเภอเมือง-อำเภอสมเด็จ จากอำเภอสมเด็จ เลี้ยวซ้ายไปตามสายสมเด็จ-อ.สหัสขันธ์
๒. สายอำเภอเมือง-อำเภอสหัสขันธ์ เลี้ยวขวาไปตามทางสาย อ.สหัสขันธ์-อ.คำม่วง

http://ecurriculum.mv.ac.th/library2...sp-id=0594.htm

ทึ่งวิหารอันซีน ติดพระเครื่อง กว่า 2 แสนองค์


ทึ่งวิหารไทยประดับพระพุทธรูปและพระพิมพ์กว่า 2 แสนองค์ เป็นศูนย์รวมพระดังที่หายากจากทั่วประเทศ อาทิ พระสมเด็จรุ่นที่ 1 พระรอด พระหลวงพ่อโต ซ้ำเจ้าอาวาสยังจำวัดในโลงศพ
วิหารสังฆนิมิตร วิหารประดับพระพิมพ์และพระพุทธรูป ตั้งอยู่ภายในวัดพุทธนิมิต หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดภูค่าว อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ เป็นวิหารที่ประดับด้วยพระพุทธรูปและพระพิมพ์ทั้งหลังที่มีมากกว่า 2 แสนองค์ สร้างโดยพระอาจารย์ณรงค์ ชยมงคโล เจ้าอาวาส ที่อดีตเคยธุดงค์ผ่านมายังวัดเมื่อ 16 ปีก่อน พบว่าบริเวณนี้เป็นวัดร้าง จึงได้เข้ามาปรับปรุงบูรณะปฏิสังขรณ์ จนกลายเป็นวัดที่มีความสวยงามร่มรื่น
นอกจากนั้นยังได้ก่อสร้างวิหารสังฆนิมิตร วิหารที่ประดับประดาด้วยพระพุทธรูปและพระพิมพ์หายาก ผู้สื่อข่าวถามถึงสาเหตุของการสร้างวิหารพระสังฆนิมิตรนี้ พระอาจารย์ณรงค์ ชยมงคโล เล่าให้ฟังว่าไม่ได้ต้องการให้เป็นวัดที่มีชื่อเสียงหรือแปลกแต่อย่างใด แต่พระอาจารย์ณรงค์มีความชอบสะสมพระเครื่องและพระพุทธรูป รวมทั้งมีบุคคลที่ทราบว่าท่านชอบพระจึงนำมาถวาย
"ถ้าไม่นำมาทำให้เกิดประโยชน์ก็จะสูญเปล่าและสูญหายไปในที่สุด สิ่งที่บรรพบุรุษสร้างไว้ให้ก็ควรค่าแก่การเก็บรักษา ควรเก็บไว้ในที่ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ จึงได้นำพระที่เก็บไว้มาประดับวิหารแห่งนี้ ดีกว่าเก็บไว้ในกล่องในลัง เอามาสร้างให้เกิดประโยชน์ เพื่อให้ลูกหลานรุ่นต่อไปได้ศึกษา
พระพุทธรูปและพระพิมพ์ที่นำมาประดับประดาภายในวิหารแห่งนี้นั้น มีพระชื่อดังและพระที่หายากมากมาย อาทิ พระสมเด็จรุ่นที่ 1, พระหลวงพ่อโต, พระสมเด็จรัชกาลที่ 5, พระกริ่ง, พระรอด เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของเจ้าอาวาส และการบริจาคของผู้ที่ศรัทธา ส่วนทางด้านงบประมาณในการสร้าง เพียงแค่ด้านนอกของโบสถ์ใช้งบประมาณกว่า 5 แสนบาท แต่ในส่วนของพระพิมพ์และพระพุทธรูปที่นำมาประดับนั้นยากที่จะประเมินค่า สังเกตจากความดังและความหายากของพระที่นำมาประดับ
ผู้ที่เดินทางมาเยี่ยมชมภายในวิหารแห่งนี้ บางรายก็เป็นนักสะสมพระ โดยจะใช้เวลาทั้งวันเพื่อที่จะดูพระพิมพ์หรือพระพุทธรูปที่อยู่ภายในวิหาร หรือผู้ที่ไม่มีความรู้เรื่องพระเท่าไหร่ ก็จะเดินทางมาชมความประหลาดของวิหารแห่งนี้มากมาย โดยเฉพาะในวันเสาร์-อาทิตย์ มีผู้ที่เดินทางมาชมวิหารแห่งนี้ถึงวันละ 1,000 คน
ภายในวิหารไม่เพียงมีแค่พระพุทธรูปและพระพิมพ์ ยังมีพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุ และรูปถ่ายของพระพุทธเจ้า ซึ่งพระอาจารย์ณรงค์ ชยมงคโล บอกว่าได้มาจากผู้ใจบุญในประเทศอินเดียที่มามอบให้พระอาจารย์ประดับไว้ให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานความน่าอัศจรรย์ของวัดแห่งนี้อีกว่า พระอาจารย์ณรงค์ ชยมงคโล เจ้าอาวาสยังมีวิธีการจำวัดที่แตกต่างไปจากพระรูปอื่นทั่วๆ ไป คือจำวัดในโลงศพ ซึ่งท่านได้ให้เล่าถึงสาเหตุที่จำวัดในโลงศพว่า คนเราเกิดมาทุกคน จะยากดีมีจนมาจากไหน สุดท้ายก็ต้องลงไปนอนในที่แห่งนั้นทุกคน มิหนำซ้ำด้านหน้าของโลงศพ ซึ่งเป็นสถานที่จำวัดยังมีโลงแก้วที่บรรจุโครงกระดูกเอาไว้ เมื่อเวลาเราดูแล้วจะได้เกิดอาการปลงสังขาร ว่าสุดท้ายทุกคนต้องลงไปนอนในที่แห่งนี้ ทั้งนี้ พระอาจารย์ณรงค์ ชยมงคโล ปฏิบัติตนด้วยการจำวัดในโลงศพเช่นนี้มาตลอด 16 พรรษา ที่วัดพุทธนิมิตแห่งนี้.
http://www.kapook.com/news/07/4837.html
เมื่อออกจากสกลนครเราแวะไปกาฬสินธุ์ ชมพระพุทธไสยาสน์ตะแคงซ้าย ไม่มีพระเกตุมาลาที่วัด พุทธนิมิต(วัดภูค่าว) บ้านนาสีนวล พระพุทธรูปนี้เป็นพระนอนในท่าตะแคงซ้าย ไม่มีเกตุมาลา ต่างจากพระพุทธรูปอื่นที่จะตะแคงขวา ความยาวของพระพุทธไสยยาสน์ประมาณ 2 เมตร กว้าง 50 เซนติเมตรเป็นที่เคาระสักการะของประชาชนทั่วไป

ภายในวัดแห่งนี้มีวิหารสังฆนิมิตร ซึ่งเป็นที่เก็บพระพุทธรูปและพรเครื่องรุ่นต่างๆ ที่หายากจำนวนเรือนแสน มีไม้ที่แกะสลักสวยงาม เปิดให้ประชาชนที่สนใจเข้าชมได้ทุกวัน

ต่อมาเราไปที่ภูกุ้มข้าว วัดป่าสักกะวัน อ.สหัสขันธ์ ห่างจากวัดภูค่าวไม่มากนัก ได้เห็นการขุดพบซากฟอสซิลไดโนเสาร์ เมื่อปี 2514 โดยพระญาณวิสาลเถร (พระครูวิจิตรสหัสคุณ) เจ้าอาวาสวัดสักกะวัน ภายในมีกระดูกไดโนเสาร์ที่ขุดพบเป็นจำนวนมากในชั้นหินทราย อายุประมาณ 130 ล้านปี ประกอบด้วยไดโนเสาร์ซอโรพอด อย่างน้อย 7 ตัวพร้อมชิ้นส่วนที่สมบูรณ์

จาก ต.สหัสขันธ์ มายัง ต.ภูปอ เพื่อไปมนัสการพระพุทธรูปปางไสยาสน์ ซึ่งเป็นฝีมือช่างสมัยทวารวดีที่วัดอินทร์ประทานพร(พุทธสถานภูปอ) จำหลักบนหน้าผา 2 องค์ องค์แรกประดิษฐานอยู่บนเชิงทางขึ้นองค์ที่ 2 ประดิษฐานอยู่บนภูปอ ใช้บันไดเป็นเส้นทางในการเดินขึ้นไปบนภูปอถึง 400 ขั้น

บนยอดหุบเขาภูปอมีทิวทัศน์ที่สวยงามมากเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ
http://user.ezyplaces.com/store.php?...roductsid=7681

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="94%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top><HR>
อุโบสถไม้ วัดพุทธนิมิตร (วัดภูค่าว)
......................................................................................


วัดพุทธนิมิตร (วัดภูค่าว)
บ้านนาสีนวล ต.สหัสขันธ์
อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ 46140

พระอาจารย์ณรงค์ ชยมงฺคโล เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน

วัดพุทธนิมิตร (วัดภูค่าว) เป็นวัดที่เหมาะสำหรับเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมยิ่ง บรรยากาศของวัดมีความร่มรื่น เงียบสงบ สงบเย็น เป็นที่ประดิษฐานของ “พระพุทธไสยาสน์ภูค่าว” ซึ่งเป็นพระพุทธไสยาสน์ที่แปลกแตกต่างกับพุทธไสยาสน์ทั่วไปคือ ท่าตะแคงซ้าย ไม่มีพระเกตุมาลา ยื่นอยู่ใต้เพิงหินผนังถ้ำ ลักษณะเป็นภาพแกะสลักนูนต่ำสูงขึ้นมาจากแผ่นหิน


พระประธานในอุโบสถ และภาพแกะสลักพุทธประวัติบนฝ้าเพดาน
......................................................................................


สันนิษฐานว่าช่างผู้สร้าง “พระพุทธไสยาสน์ภูค่าว” คงไม่ได้คำนึงว่าการสร้างรูปพระนอนโดยตะแคงขวาหรือซ้ายเป็นเรื่องสำคัญ แต่คำนึงถึงทิศทางหันพระเศียรให้อยู่ค่อนไปทางทิศเหนือซึ่งเป็นทิศที่พระพุทธเจ้าปรินิพพาน พระนอนองค์นี้มีประวัติว่าสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2235 เป็นพระโมคคัลลานะ พุทธสถานแห่งนี้เป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชน และชาวบ้านทั่วไป มีการเดินทางมาปฏิบัติธรรม สักการบูชาอยู่เนืองๆ

วัดนี้ตั้งอยู่ห่างจากตลาดสหัสขันธ์ประมาณ 6 กิโลเมตร เดินทางตามทางหลวง หมายเลข 227 ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 37-38 มีป้ายบอกทางเข้า “พระพุทธไสยาสน์ภูค่าว” ผ่านบ้านโนนสมบูรณ์ ถึงทางแยกเล็กเข้าวัดพุทธนิมิต ไต่ขึ้นทางบนหลังภูค่าวจนถึงลานวัดซึ่งอยู่บนยอดภู มีป้ายบอกเดินลงมาเลียบผาประมาณ 100 เมตร


พระพุทธไสยาสน์เป็นพระนอนตะแคงซ้าย ไม่มีเกตุมาลา</TD></TR></TBODY></TABLE>
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=1712


“พระพุทธไสยาสน์ภูค่าว” องค์นี้มีที่มาที่ไม่พบการบันทึกในเวบไซด์ที่นำมาให้ชมกัน เป็นพระที่ชาวลาวได้สร้างไว้เนื่องจากคราวที่พระธาตุพนมล้มครั้งแรกได้เกิดจิตศรัทธาเดินทางไกลระดมกันมาเพื่อจะมาช่วยกันซ่อมแซมองค์พระธาตุพนม แต่เมื่อมาถึงสถานที่นี้ซึ่งเป็นครึ่งทาง ได้ทราบข่าวว่าพระธาตุพนมได้บูรณะเสร็จแล้ว ด้วยจิตศรัทธาต่อองค์พระธาตุพนมจึงได้สร้าง“พระพุทธไสยาสน์ภูค่าว” ไว้เป็นอนุสรณ์แทน

<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig -->

 

ขอบคุณคุณเพชรมากๆครับ

 

http://palungjit.org/showthread.php?p=1202892#post1202892

<TABLE class=tborder id=post1202976 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">15-05-2008, 09:32 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #16555 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>:::เพชร:::<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1202976", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 05:50 PM
วันที่สมัคร: Jul 2006
อายุ: 43
ข้อความ: 3,940
Groans: 15
Groaned at 1 Time in 1 Post
ได้ให้อนุโมทนา: 3,860
ได้รับอนุโมทนา 42,557 ครั้ง ใน 4,039 โพส
พลังการให้คะแนน: 3255


</TD><TD class=alt1 id=td_post_1202976 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ narin96
เรียน คุณเพชร(ผ่านคุณsithipong)
สนใจเรื่องวังหน้าครับ ผมอยู่จังหวัดติดกับกาฬสินธุ์ พอจะบอกที่ตั้งของวัดภูค่าวได้ไหมครับ อยากจะไปกราบนมัสการสักครั้งเพื่อซึมซับถึงความลี้ลับมหัศจรรย์แห่งปู่เทพโลกอุดรนะครับ
ขอบคุณ
</TD></TR></TBODY></TABLE>
เอ่อ ไม่ต้องผ่านผมก็ได้ครับ ถึงคุณเพชรโดยตรงได้เลย ไม่มีปัญหาใดๆ หรือถึงคุณnongnooo หรือท่านอื่นๆ ได้เช่นกัน

แต่เรื่องของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรหรือสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เพียงแค่เราศรัทธาอย่างจริงๆแล้ว หลวงปู่หรือสมเด็จโต ท่านอยู่ในใจของผู้ที่ศรัทธาท่านเสมอครับ

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
เอ่อ ไม่ต้องผ่านผมก็ได้ครับ ถึงคุณเพชรโดยตรงได้เลย ไม่มีปัญหาใดๆ หรือถึงคุณnongnooo หรือท่านอื่นๆ ได้เช่นกัน

แต่เรื่องของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรหรือสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เพียงแค่เราศรัทธาอย่างจริงๆแล้ว หลวงปู่หรือสมเด็จโต ท่านอยู่ในใจของผู้ที่ศรัทธาท่านเสมอครับ

.
</TD></TR></TBODY></TABLE>
Re: เรียนสอบถามครับ
<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ eakbordin
ผมอยากเรียนถามว่า วัดภู่ค่าว อยู่จังหวัดใดครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>
จ.กาฬสินธุ์ครับ ถือเป็นวาสนาที่ได้ไปโดยการนำของหน้าห้องของนายอำเภอครับ เดินทางไปกันให้ได้ครับ ผมเชื่อว่าหลังจากลงเรื่องราวนี้ไป จะมีผู้คนเดินทางไปชมกันที่วัดมากขึ้น จะได้ตาสว่างกัน ว่าความจริงคืออะไร ทำไมเซียนพระถึงไม่อยากให้พระวังหน้าที่มีอยู่มากมายเกิดขึ้นในทำเนียบพระ..
<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>

http://palungjit.org/showthread.php?t=22445&page=827
<TABLE class=tborder id=post1201805 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">15-05-2008, 03:04 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #16524 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>:::เพชร:::<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1201805", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 05:50 PM
วันที่สมัคร: Jul 2006
อายุ: 43
ข้อความ: 3,940
Groans: 15
Groaned at 1 Time in 1 Post
ได้ให้อนุโมทนา: 3,860
ได้รับอนุโมทนา 42,564 ครั้ง ใน 4,039 โพส
พลังการให้คะแนน: 3255


</TD><TD class=alt1 id=td_post_1201805 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร:::
บ่ายวันนี้หากมีเวลา ผมจะนำภาพพระบูชาวังหน้า วังหลวง ที่เก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑ์วัดภู่ค่าว มาให้ชมกัน ขอเวลาหาหน่อย ส่วนพระพิมพ์สมเด็จมากมายที่ติดบนเพดาน ฝ้าหลังคาทั้งศาลาที่พระอาจารย์ณรงค์ท่านจำวัดอยู่นั้น ท่านไม่อนุญาตให้ผู้หนึ่งผู้ใดถ่ายภาพ จึงขออภัยด้วยครับ

หมายเหตุ ผมตัดสินใจเปิดเผยความให้ทราบกันเพื่อให้ท่านผู้ไม่เห็นด้วยว่าพระวังหน้ามีจริง(มีจริงก็มี มีเก๊ก็มี ไม่มีจริงจะมีเก๊ได้อย่างไร?)ได้ทราบ และมีโอกาสได้รับทราบข้อมูลเหมือนผมกันบ้าง แทนที่จะเก็บเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว และหากได้กล่าววาจา(วจีกรรม) post ข้อความ(กายกรรม) มโนกรรมนั้นเกิดแต่แรกไปแล้ว ความใดๆที่เป็นการเบี่ยงเบนให้ผู้คนไขว้เขวจากความถูกต้องทั้งปวง ล้วนเป็นบาป เป็นกรรมทั้งสิ้น ....
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ตามสัญญาครับ มาชมกันเลยดีกว่า ผมขอเรียนให้ทราบว่า..

๑) ถ่ายจากสถานที่จริง ในพิพิธภัณฑ์ของวัดภู่ค่าว ในปี พ.ศ. ๒๕๔๙

๒) ภาพถ่ายบางภาพไม่ชัดเจน เนื่องจากพระบูชาทั้งหมดจัดเก็บในห้องกระจกซึ่งด้านตรงข้ามคือประตูพิพิธภัณฑ์ แสงว่างสะท้อนตรงกระจก อีกทั้งเป็นสถานที่ที่มีแสงไฟในห้องน้อยมาก การ Focus ให้ถูกต้องจึงยากมาก

๓) สามารถเดินทางไปชมของจริงกันที่วัดภูค่าวกันได้ ไปกราบพระอาจารย์ณรงค์ และอย่าได้เอ่ยเรื่องขอพระเครื่องสมเด็จจากท่าน อย่าได้ไปเพราะอยากได้ แต่ไปเพราะอยากให้...

๔) การนำภาพถ่ายมาให้ชมนี้ ครั้งหนึ่งผมเคยคิดจะเก็บไว้ทราบคนเดียว เวลานี้มีความจำเป็นต้องเปิดเผยให้ผู้ไม่ทราบเรื่องพระวังหน้า วังหลวงให้ทราบกัน เนื่องจากการการเผยแพร่ข้อมูลของบุคคลบางกลุ่ม จึงต้องนำหลักฐานมายืนยันกันว่า มีวัดใดประดิษฐานในพิพิธภัณฑ์กันบ้าง เท่าที่ผมมีโอกาสได้พบ ได้เห็น แล้วมาลองพิจารณาว่า พระอาจารย์ หลวงพ่อ หลวงพี่ท่านจะประดิษฐานของเก๊ให้สาธุชนทั่วไปที่เดินทางไกลหลายๆร้อยกิโลเมตรมากราบไหว้ได้หัวเราะเยาะกันหรือไม่ ...


<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>




</FIELDSET>
</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE class=tborder id=post1201823 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">15-05-2008, 03:07 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #16525 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>:::เพชร:::<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1201823", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 05:50 PM
วันที่สมัคร: Jul 2006
อายุ: 43
ข้อความ: 3,940
Groans: 15
Groaned at 1 Time in 1 Post
ได้ให้อนุโมทนา: 3,860
ได้รับอนุโมทนา 42,564 ครั้ง ใน 4,039 โพส
พลังการให้คะแนน: 3255


</TD><TD class=alt1 id=td_post_1201823 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ภาพชุดที่ ๒ นี้ แนะนำให้ชมบรรยากาศรอบบริเวณวัดภูค่าวกันก่อนครับ มีพระพุทธรูปสมเด็จพระสมณโคดมองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ริมผา และมณฑปประดิษฐานพระพุทธบาทจำลอง
<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>





</FIELDSET>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE class=tborder id=post1201834 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> 15-05-2008, 03:10 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #16526 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>:::เพชร:::<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1201834", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 05:50 PM
วันที่สมัคร: Jul 2006
อายุ: 43
ข้อความ: 3,940
Groans: 15
Groaned at 1 Time in 1 Post
ได้ให้อนุโมทนา: 3,860
ได้รับอนุโมทนา 42,564 ครั้ง ใน 4,039 โพส
พลังการให้คะแนน: 3255


</TD><TD class=alt1 id=td_post_1201834 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ภาพนี้คือศาลาที่จำวัด และรับแขกของพระอาจารย์ณรงค์ ท่านจะรับแขกด้วยน้ำแฮ่ม สมุนไทยที่แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ผมลองดื่มไป ๓ แก้ว

ท่านไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพของท่าน และสิ่งของใดๆภายในกุฎิ เมื่อเราเดินเข้าศาลานี้ จะได้กลิ่นผงมวลสารสร้างพระว่านชนิดต่างๆ อบอวลไปทั้งศาลา ศาลานี้ตั้งในทิศเหนือลม
<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
</FIELDSET>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

http://palungjit.org/showthread.php?t=22445&page=827
<TABLE class=tborder id=post1201863 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">15-05-2008, 03:17 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #16527 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>:::เพชร:::<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1201863", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 05:50 PM
วันที่สมัคร: Jul 2006
อายุ: 43
ข้อความ: 3,940
Groans: 15
Groaned at 1 Time in 1 Post
ได้ให้อนุโมทนา: 3,860
ได้รับอนุโมทนา 42,564 ครั้ง ใน 4,039 โพส
พลังการให้คะแนน: 3255


</TD><TD class=alt1 id=td_post_1201863 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ภาพชุดสุดท้ายนี้เป็นภาพพระวังหน้า วังหลวงบูชาที่ประดิษฐานอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์ของทางวัด ซึ่งล้อมรอบด้วยกระจกใสรอบด้าน ทั้งนี้ยังไม่นับรวมไปถึงพระสมเด็จที่มุงเพดาน รอบห้อง

เป็นการถ่ายไว้ในราวปีพ.ศ. ๒๕๔๘ ซึ่งเวลานั้นผมกับคุณสิทธิพงศ์ยังไม่ได้รู้จักพบเห็นกันมาก่อนเลย ดังนั้นประเด็นเรื่องเชียร์แขก หน้าม้า ตัดออกจากประเด็นไปได้เลย
<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>






</FIELDSET>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE class=tborder id=post1201930 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">15-05-2008, 03:37 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #16530 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>:::เพชร:::<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1201930", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 05:50 PM
วันที่สมัคร: Jul 2006
อายุ: 43
ข้อความ: 3,940
Groans: 15
Groaned at 1 Time in 1 Post
ได้ให้อนุโมทนา: 3,860
ได้รับอนุโมทนา 42,564 ครั้ง ใน 4,039 โพส
พลังการให้คะแนน: 3255


</TD><TD class=alt1 id=td_post_1201930 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ภาพชุดสุดท้ายนี้เป็นภาพพระวังหน้า วังหลวงบูชาที่ประดิษฐานอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์ของทางวัด ซึ่งล้อมรอบด้วยกระจกใสรอบด้าน ทั้งนี้ยังไม่นับรวมไปถึงพระสมเด็จที่มุงเพดาน รอบห้อง

เป็นการถ่ายไว้ในราวปีพ.ศ. ๒๕๔๘ ซึ่งเวลานั้นผมกับคุณสิทธิพงศ์ยังไม่ได้รู้จักพบเห็นกันมาก่อนเลย ดังนั้นประเด็นเรื่องเชียร์แขก หน้าม้า ตัดออกจากประเด็นไปได้เลย
<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>






</FIELDSET>
ในเมื่อท่านไม่เชื่อคุณหนุ่มสิทธิพงศ์ว่าในวัดพระแก้ว วังหน้า วังหลวงมีพระบูชาเช่นนี้อยู่ก็ไม่เป็นไร..

ท่านจะกล่าวปรามาสพระวังหน้า วังหลวงในพิพิธภัณฑ์ของสงฆ์ได้เชิญเลยครับ ขอให้โชคดี...
<!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

รู้สึกว่าไม่ดีเลยครับคุณnongnooo #336
http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=8477&page=34

 

ท่านปาทาน น้าทำผมโตะ จายหมกเลย หุ หุ

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
รู้สึกว่าไม่ดีเลยครับคุณnongnooo #336
http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=8477&page=34
</TD></TR></TBODY></TABLE>

55555****** (||)(||)(||)
พักนี้แซวใครไม่ค่อยได้ เลยต้องแซวพวกเดียวกันเอง เหอๆๆๆๆๆๆ

 

ลงรูปได้แล้ว ครับ สำหรับโลว์เทคอย่างผม คิก คิก(^)

 

ที่มา Fwd Mail ครับ

เมื่อคุณจะทำธุรกิจใดๆ ก็ตาม
หากคุณชอบและรัก และพร้อมที่จะทุ่มเทให้กับมัน
คุณจะต้องประสบความสำเร็จอย<wbr>่างแน่นอน
แต่คุณต้องลงมือศึกษาอย่างเป<wbr>็นจริงเป็นจังด้วย
------ ----- ----- ----- ----- ----- ----- ---- ชัยยุทธ กรรณสูต
อย่าลืมว่า
ในการประกอบธุรกิจ เก่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเฮงด้วย
และเก่งกับเฮงก็ใช้ไม่ได้แล<wbr>้วในสมัยนี้
ต้องมีสายสัมพันธ์ทางธุรกิจด้วย
และเรื่องนี้ผมก็สอนลูกๆ ผมอยู่เสมอ
------------------------------<wbr>--------- อุเทน เตชะไพบูลย์

ผมบอกพนักงานอยู่เสมอ
คือในโลกนี้ ไม่มีคนไหนเก่งไปตลอดกาล
วันนี้คุณอาจเก่ง แต่พรุ่งนี้ อาจมีคนเก่งกว่าคุณ
เพราะฉะนั้น คนใดก็ตามที่ภูมิใจว่า ตนเองเก่ง
จงจำเอาไว้ได้เลยว่า ความหายนะใกล้มาถึงตัวคุณแล้ว
ความโง่คืบคลานมาใกล้ตัวคุณแล้ว
------------------------------<wbr>----------- ธนินท์ เจียรวนนท์

ผมพร้อมจะเป็นน้ำนิ่ง อาจมีเขื่อนมาขวางหน้า
แต่ถ้าวันใด ที่เขื่อนนั้นเปราะบาง และโอกาสแห่งการสำแดงพลังมาถึง
ผมก็พร้อมจะกลายเป็นกระแสน้ำที<wbr>่เชี่ยวกราก
โหมกระหน่ำใส่ทุกสิ่งที่ขวางกั้น
แม้กระทั่งเขื่อนที่ครั้งหนึ<wbr>่งผมเคยสยบยอมก็ตาม
------------------------------<wbr>------------- เจริญ สิริวัฒนภักดี

ผมจะก้าวหน้าไปสักก้าว ก็ต้องเจออะไรมากระทบ
แต่เราก็พยายามที่จะก้าวใหม่ อีกย่างหนึ่ง
แบงค์กรุงเทพฯเคยถูกกระทบตลอดเวล<wbr>า และไม่เคยท้อถอย
------------------------------<wbr>-------------- ชาตรี โสภณพนิช

เจี้ย ยู่ เล้ง โจ้ว ซื่อ ยู่ โฮ้
แปลเป็นไทยได้ความว่า
กินข้าวต้องเร็วเหมือนมังกร
ทำงานต้องทำให้เหมือนเสือ
และก็ไม่แต่ผมคนเดียวเท่านั้น
ลูกๆ ทุกคนก็ปฏิบัติอย่างนี้
------------------------------<wbr>-------------- บุญยสิทธิ์ โชควัฒนา

ถ้าคุณอดทน เพื่อจะทำอะไรสักอย่างให้สำเร็จ
คุณจำเป็นอย่างมากที่จะต้องลงม<wbr>ือศึกษาเรื่องนั้นๆ อย่างเป็นจริงเป็นจัง
แต่ถ้าคุณไม่อดทน โอกาสที่คุณจะผิดพลาดก็ย่อมมีส<wbr>ูงเช่นกัน
------------------------------<wbr>------------ อนันต์ กาญจนพาสน์

จงเดินไปหาภูเขา อย่าให้ภูเขาเดินมาหาเรา
เพราะผมคิดว่า ปกติผู้บริหารทั่วไป มักจะเรียกพนักงานมาประชุมกับเรา
มันเหมือนเราย้ายพนักงานทั<wbr>้งกองทัพมาหาเรา
แต่สำหรับผมผมจะเดินไปหาเขา
ผมบอกลูกน้องของผมว่า
เราต้องเดินไปหาลูกค้า อย่าให้ลูกค้ามาหาเรา
------------------------------<wbr>------------- พรเทพ พรประภา

ในเรื่องของการพิจารณา ความดีความชอบ
ผมจะฟังเสียงตอบรับจากลูกค้าเป<wbr>็นหลักว่า
ลูกน้องแต่ละคนทำงานลงไปแล้ว
ลูกค้าพอใจแค่ไหนอย่างไร ผมจะไม่เชื่อหัวหน้าอย่างเดียว
เพราะถ้าเกิดหัวหน้าบางคนไม<wbr>่ชอบลูกน้อง
อาจเกิดกรณีหัวหน้าแกล้งลูกน<wbr>้องได้
------------------------------<wbr>------------------ ประกิต อภิสารธนรักษ์

ผมมีหลักของอาจารย์ที่สอนผมอย<wbr>่างหนึ่งว่า
มนุษย์เกิดมาไม่มีใครเก่งที่สุด ดีที่สุด
หรือแม้แต่เลวที่สุด
เพราะคนที่ดีสุดและเลวที่สุด
ได้ตายจากโลกนี้นานแล้ว
คนที่เหลืออยู่จึงเป็นเพียง ชีวิตที่มีขึ้นมีลงอย่างเดียว
------------------------------<wbr>----------------- ไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ

ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม
คุณต้องศึกษาให้รู้แจ้งเสียก่อน ก่อนที่จะลงมือทำ
และเมื่อลงมือทำแล้ว ก็ต้องทำให้จริงๆ จังๆ
ให้มันรู้ไปเลยว่า เราทำไม่ไหวแล้ว
------------------------------<wbr>----------------- ชวน ตั้งมติธรรม

มีหลักในการบริหารงาน ไม่กี่ประการ
1. ต้องลับคมอยู่เสมอ
2. ไม่กลัวงาน เมื่อคิดจะทำอะไรต้องทำทันที และ
3. ต้องรักษาคำพูด
------------------------------<wbr>-----------------คุณหญิงชนัตถ์ ปิยะอุย

เวลามีปัญหาในองค์กร ปัญหาชีวิตและสุขภาพ
จะมีทางแก้ไขปัญหาให้คลี<wbr>่คลายหลายรูปแบบ
แต่ที่สำคัญต้องมีสติ และมีความรักเป็นพื้นฐานสำคัญ
จากนั้นจึงค่อยใช้ปัญญา เพราะปัญญาช่วยให้มองเห็นหนทาง
ของการแก้ปัญหาอย่างชัดเจนที่สุด
------------------------------<wbr>----------------- ชูเกียรติ อุทกะพันธุ์

1. จงเผชิญกับความจริงอย่างที่เป<wbr>็นอยู่ มิใช่อย่างที่คุณอยากเป็น
2. จริงใจกับทุกคน
3. อย่าเป็นแค่นักบริหารแต่จงออกไปน<wbr>ำทัพ
4. จงเปลี่ยนแปลงก่อนที่เหตุการณ<wbr>์จะบังคับให้ต้องเปลี่ยน
5. ถ้าท่านไม่มีจุดแข็ง หรือข้อได้เปรียบจงอย่าแข่งก<wbr>ับเขา
6. จงคุมชะตาด้วยตนเองมิฉะนั้น ผู้อื่นจะมาคุมแทน
------------------------------<wbr>----------------ท่านผู้หญิงน<wbr>ิรมล สุริยสัตย์

ในการทำงานใดๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกจ้าง หรือนายจ้าง
ควรจะรับฟังความคิดของผู้ร<wbr>่วมงานเสมอ
การเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของผ<wbr>ู้อื่น
คือเป็นการเพิ่มประสบการณ์อื<wbr>่นเป็นความรู้
นอกเหนือจากที่ได้รับมาจากการเอา<wbr>เปรียบผู้อื่น
ไม่ใช่ความสำเร็จที่แท้จริง
------------------------------<wbr>-------------- โพธิ์พงษ์ ล่ำซำ

ที่ชอบเป็นพิเศษ คือคำพูดของซุนวู่
ที่บอกว่า รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง
ผมฟังปุ๊บ รู้สึกประทับใจทันที
และเข้าใจว่า คนเราถ้าอยู่ใกล้ใคร มักอยากเป็นแบบนั้น
ตอนนั้นจำได้ว่าผมอยากเป็นนักเข<wbr>ียนมาก แต่ที่ได้รับคำแนะนำ
ว่าถ้าคุณอยากเขียนหนังสือจงเริ<wbr>่มต้นจากสิ่งที่คุณรู้ก่อนเป็นอ<wbr>ันดับแรก
------------------------------<wbr>------------ อมรเทพ ดีโรจนวงศ์

 

ผมบอกพนักงานอยู่เสมอ
คือในโลกนี้ ไม่มีคนไหนเก่งไปตลอดกาล
วันนี้คุณอาจเก่ง แต่พรุ่งนี้ อาจมีคนเก่งกว่าคุณ
เพราะฉะนั้น คนใดก็ตามที่ภูมิใจว่า ตนเองเก่ง
จงจำเอาไว้ได้เลยว่า ความหายนะใกล้มาถึงตัวคุณแล้ว
ความโง่คืบคลานมาใกล้ตัวคุณแล้ว
----------------------------------------- ธนินท์ เจียรวนนท์

 

เรื่องที่เราไม่รู้ยังมีอีกมากครับ

สมเด็จหลังเหรียญทองคำ(เหรียญเงิน) รุ่นนี้หรือเปล่าครับ?

ความศรัทธาที่สร้างวัตถุมงคลด้วยทองคำ(หรือทองลูกบวบ)
สำหรับเจ้านายชั้นสูง น่าจะมีมากมายอยู่นะครับ
เช่น สมเด็จโต หลวงปู่ทวด หวงพ่อเงิน เป็นต้น

 

พระสมเด็จ จะเป็นเหรียญทอง(คำแท้) ส่วนเหรียญที่เป็นเหรียญเปียกทอง ต้องดูให้ดีครับ ผมไม่แน่ใจครับพี่
หลวงปู่ทวด ผมไม่เคยเห็นเลย ไม่กล้าตอบครับ ผมเห็นแต่เป็นเนื้อว่าน ที่เป็นพิมพ์เตารีด และรูปหล่อลอยองค์ที่เป็นเนื้อว่านครับ หลวงปู่ทวดยังไงก็ห้อยได้แน่นอน ต่อให้เป็นพระเก๊ เพียงอาราธนาท่านเท่านั้น หลวงปู่ท่านเร็วมาก และเป็นพระองค์เดียวที่สามารถใช้พระปลอมมาห้อยคอได้ เพียงแต่ต้องศรัทธาและอาราธนาท่านตอนขึ้นคอ
หลวงพ่อเงิน ผมก็ไม่เคยเห็นพิมพ์นี้เหมือนกันครับพี่ แต่ดูดีครับ

ผมก็เชื่ออย่างนั้นครับว่า ผมว่าเรายังไม่รู้อะไรอีกมาก เพียงแต่เราจะมีความสามารถที่จะค้นพบและตรวจสอบ(เป็น)หรือไม่ครับ

 

คุณ sithiphong ครับ ชุดพิเศษ 3 นี้ มีประเภทเครื่องราง เช่น ตะกรุดหรือเปล่าครับ..

 

นี่ก็เป็นสุดยอดของพระวังหน้าและพระวังหลวงครับ

 

โลว์จิงๆง่ะลุง ขนาดผมอยู่ขอบชายแดนยังลงได้ก่อนเลย
ว่าแต่รูปพระสวยนะ