พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ตั้งจิต [​IMG]
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    http://www.manager.co.th/Crime/ViewN...=9510000017841

    พุทธศาสนสุภาษิต เป็นอมฤตพจนา ที่เห็นได้จริงอย่างท่องแท้ทั้งเหตุและผล ซึ่งใช้ได้ในทุกยุคทุกสมัยและทุกเทศกาลว่า "น วิสฺสเส อิตฺตรทสฺสเนน, น วิสฺสเส อวิสฺสตฺเถ,วิสฺสตฺเถปิ น วิสฺสเส, วิสฺสาสา ภยมนฺเวติ อ่านว่า "นะ วิสสะเส อิตตะระทัสสะเนนะ, นะ วิสสะเส อะวิสสัตเถ, วิสสัตเถปิ นะ วิสสะเส, วิสสาสา ภะยะมันเวติ" แปลว่า ไม่ควรไว้วางใจ เพียงด้วยเห็นกันนิดหน่อย, ไม่ควรไว้ใจในคนไม่คุ้นเคย , ถึงคนคุ้นเคย ก็ไม่ควรวางใจ, เพราะไว้วางใจ ภัยจะตามมา




    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เพื่อนกันแต่เด็ก ผมก็ได้บทเรียนมา 2 -3 ปีนี่เอง
    คือปกติเพื่อนแต่เด็กนี่เราจะรักเค้าเหมือนเดิมเลยครับ มันทำให้รู้ว่ากาลเวลาผ่านแต่ละคนได้รับการหล่อหลอมต่างกัน เมื่อเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวทำให้บางคนเปลี่ยนไปได้(cry) ว่าแต่ คุณน้องหนูกลายเป็นม้าไปแล้วหรือนี่

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ผมว่าน๊ะ อย่างที่เคยคุยกัน มิตรภาพหายากยิ่งในปัจจุบัน แต่การรักษามิตรภาพให้ยั่งยืนนานนั้น ยากยิ่งกว่ามาก

    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ตั้งจิต [​IMG]
    เป็นความรู้ใหม่จริงๆครับ ไม่ทราบว่าสร้างพิธีเดียวกันมั้ย
    ที่เป็นโลหะเมื่อก่อน อยากได้ บูชามาหลงเชื่อคนเค้า ที่ไหนได้มารู้ทีหลังว่าไม่แท้ คนเรานี่จริงๆนะครับ กับผู้ชายด้วยกันยังหลอกกันได้(deejai)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ่านแล้วนึกถึงchaipat วันที่นัดเจอกันวันแรก ผมดันไปนัดช่วงค่ำๆ ยืนรอผม ขาสั่นแล้วสั่นอีก กลัวผมจะเอาไปขายเรือประมงมั้งครับ หุหุหุ

    .
     
  3. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    อาจจะยืนฮัมเพลงแล้วสั่นขารอเหยื่อก็เป็นได้นะครับ ถึงตอนนี้อย่าเพิ่งวางใจ เป็นห่วงครับ(ping)
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://palungjit.org/showthread.php?p=952534&posted=1#post952534

    <TABLE class=tborder id=post952534 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead id=currentPost style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">1-2-2551, 09:54 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#14368 </TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]








    ขอเชิญร่วมมหากุศลเป็นเจ้าภาพผ้าป่าสามัคคี
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.oknation.net/blog/klorn/2007/09/01/entry-1

    ครู.....คืออะไร

    ครุหนักคำนี้ คือครู
    ศิษย์มิอาจลบหลู่ เรือจ้าง
    ครูสอนศิษย์ให้รู้ ทางสว่าง
    ผลิตผลที่สร้าง สะท้อน งานครู


    ครู คือ อะไร ให้ความหมายกันหลากหลาย
    บ้างเปรียบเป็นเรือพาย นาวาจ้างในวารี
    บ้างให้ครูนั้นเป็น พระคุณเด่น ปูชนีย์
    สอนศิษย์ให้ได้ดี มีความรู้ คู่คุณธรรม
    ครูนั้นนำวิณญาณ ให้ข้ามผ่านลึกถลำ
    ชี้ทางสีขาวดำ ไม่เลือกรักมักที่ชัง
    ครูเป็นทั้งพ่อแม่ เฝ้าดูแลและสอนสั่ง
    อบรมบ่มปลูกฝัง สร้างนิสัยให้ถาวร
    ผ่านไปมากหลายรุ่น เฝ้าเจือจุนและสั่งสอน
    คุณครูเอื้ออาทร ให้ศิษย์นั้นได้ดังใจ
    คุณครูของคุณครู มิอาจหลู่ศิษย์กราบไหว้
    ปาเจรา..คราใด น้ำตาไหลนึกพระคุณ
     
  6. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    พอดีลูกสาวถามเรื่องพระพุทธเจ้าออกผนวชก็เลยหาคำตอบให้ เลยเอามาฝากให้เพื่อนๆได้อ่านบ้าง เผื่อจะเป็นการตัดอาลัยในบ่วงทั้งหลาย หรืออย่างน้อยก็อาจเกิดมานะเร่งความเพียร
    โมทนาสาธุครับ


    <TABLE borderColor=#8b6914 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="80%" border=3><TBODY><TR><TD width="100%">
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" background=../bg/thaikirow.gif border=0><TBODY><TR><TD width="100%" colSpan=2 height=80>
    พระสิทธัตถะกุมารเสด็จหนีออกบรรพชา

    ครั้นพระสิทธัตถะทรงน้อมพระทัยเสด็จออกบรรพชาเช่นนั้น ก็ทรงเห็นมีทางเดียว คือ เสด็จหนีออกจากพระนคร ตัดความอาลัย ความเยื่อใย ในราชสมบัติ พระชายา และพระโอรส กับทั้งพระประยูรญาติ ตลอดราชบริพารทั้งสิ้น ด้วยหากจะทูลพระราชบิดา ก็คงจะถูกทัดทาน ยิ่งมวลพระประยูรญาติทราบเรื่อง ก็จะรุมกันห้ามปราม การเสด็จออกซึ่งหน้า ไม่เป็นผลสำเร็จได้ เมื่อทรงตั้งพระทัยเสด็จหนีเช่นนั้นแล้ว ในเวลาราตรีนั้น เสด็จบรรทมแต่หัวค่ำ ไม่ทรงใยดีในการขับประโคมด้วยดุริยางค์ดนตรีของพวกราชกัญญาทั้งหลาย ที่ประจงจัดถวายบำรุงบำเรอทุกประการ
    เมื่อพระสิทธัตถะทรงตื่นบรรทมในเวลาดึกสงัดแห่งราตรีนั้น ได้ทอดพระเนตรเห็นนางบำเรอฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคมดนตรีเหล่านั้น นอนหลับอยู่เกลื่อนภายในปราสาท ซึ่งสร้างด้วยแสงประทีป บางนางอ้าปาก กัดฟัน น้ำลายไหล บางนางผ้านุ่งหลุด บางนางกอดพิณ บางนางก่ายเปิงมาง บางนางบ่น ละเมอ นอนกลิ้งกลับไปมา[​IMG] ปรากฏแก่พระสิทธัตถะ ดุจซากศพ อันทิ้งอยู่ในป่าช้าผีดิบ ปราสาทอันงามวิจิตรแต่ไหนแต่ไรมา ได้กลายเป็นป่าช้า ปรากฎแก่พระสิทธัตถะในขณะนั้น เป็นการเพิ่มกำลังความดำริในการออกบรรพชาในเวลาย่ำค่ำเพิ่มขึ้นอีก ทรงเห็นบรรพชาเป็นทางที่ห่างอารมณ์อันล่อให้หลงและมัวเมา เป็นช่องที่จะบำเพ็ญปฏิบัติ เป็นประโยชน์ตนและผู้อื่น ทำชีวิตให้มีผลไม่เป็นหมัน ทรงตกลงพระทัยเช่นนี้ ก็เตรียมแต่งพระองค์ทรงพระขรรค์ รับสั่งเรียกนายฉันนะ อำมาตย์ ให้เตรียมผูกม้ากัณฐกะ เพื่อเสด็จออกในราตรีนั้น
    ครั้นตรัสสั่งแล้วก็เสด็จไปยังปราสาทพระนางพิมพาเทวี เพื่อทอดพระเนตรราหุลกุมาร พระโอรสพระองค์เดียวของพระองค์ เผยพระทวารห้องบรรทมของพระนางพิมพาเทวี เห็นพระนางบรรทมหลับสนิท พระกรกอดโอรสอยู่ ทรงดำริจะอุ้มพระโอรสขึ้นชมเชยเป็นครั้งสุดท้าย ก็เกรงว่าพระนางพิมพาจะทรงตื่นบรรทม เป็นอุปสรรคขัดขวางการเสด็จออกบรรพชา จึงตัดพระทัยระงับความเสน่หาในพระโอรส [​IMG]เสด็จออกจากห้องเสด็จลงจากปราสาท พบนายฉันนะเตรียมม้าพระที่นั่งไว้พร้อมดีแล้ว ก็เสด็จขึ้นประทับม้ากัณฐกะ มีนายฉันนะตามเสด็จหนึ่งคน เสด็จออกจากพระนครในราตรีกาล ซึ่งเทพยดาบรรดาลเปิดทวารพระนครไว้ให้เสด็จโดยสวัสดี เมื่อเสด็จข้ามพระนครไปแล้ว ขณะนั้นพญามารวัสวดี ผู้มีจิตบาป เห็นพระสิทธัตถะสละราชสมบัติ เสด็จออกจากพระนคร เพื่อบรรพชา จะล่วงพ้นบ่วงของอาตมาซึ่งดักไว้ จึงรีบเหาะมาประดิษฐานลอยอยู่ในอากาศ ยกพระหัตถ์ขึ้นร้องห้ามว่า ดูกร พระสิทธัตถะ ท่านอย่ารีบร้อนออกบรรพชาเสียก่อนเลย ยังอีก ๗ วันเท่านั้น ทิพยรัตนจักรก็จะปรากฏแก่ท่าน แล้วท่านก็จะได้เป็นองค์บรมจักรพรรดิ์ เสวยสมบัติเป็นอิสราธิบดี มีทวีใหญ่ทั้ง ๔ เป็นขอบเขต ขอท่านจงนิวัตนาการกลับคืนเข้าพระนครเถิด พระสิทธัตถะจึงตรัสว่า ดูกรพญามาร แม้เราก็ทราบแล้วว่า ทิพยรัตนจักรจะเกิดขึ้นแก่เรา แต่เราก็มิได้มีความต้องการด้วยสมบัติบรมจักรพรรดิ์นั้น เพราะแม้สมบัติบรมจักรพรรดิ์นั้น ก็ตกอยู่ในอำนาจไตรลักษณ์ ไม่อาจนำผู้เสวยให้พ้นทุกข์ได้ ท่านจงหลีกไปเถิด เมื่อทรงขับพญามารให้ถอยไปแล้ว ก็ทรงขับม้ากัณฐกะราช ชาติมโนมัยไปจากที่นั้น บ่ายหน้าสู่มรรคา เพื่อข้ามให้พ้นเขตราชเสมาแห่งกบิลพัสดุ์บุรี เหล่าเทพยดาก็ปลาบปลื้มยินดี บูชาด้วยบุบผามาลัยมากกว่ามาก บ้างก็ติดตามห้อมล้อมถวายการรักษาพระมหาบุรุษเจ้าตลอดไป
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เช้ามืดนี้อยู่กับคุณน้องนู๋สองต่อสอง
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 6 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 4 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">



    </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>:::เพชร:::, nongnooo </TD></TR></TBODY></TABLE>

    นำพระกรุลำพูนมาแบ่งกันชมครับ เป็นส่วนที่ยังไม่ได้นำออกให้บูชาแต่อย่างใด

    พระลือโขง หรือพระแม่จามเทวีซุ้มเรือนแก้ว พิมพ์เล็ก และพิมพ์ใหญ่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010528.jpg
      P1010528.jpg
      ขนาดไฟล์:
      324.3 KB
      เปิดดู:
      56
    • P1010529.jpg
      P1010529.jpg
      ขนาดไฟล์:
      301 KB
      เปิดดู:
      38
    • P1010538.jpg
      P1010538.jpg
      ขนาดไฟล์:
      333 KB
      เปิดดู:
      71
    • P1010530.jpg
      P1010530.jpg
      ขนาดไฟล์:
      331 KB
      เปิดดู:
      45
    • P1010531.jpg
      P1010531.jpg
      ขนาดไฟล์:
      334.9 KB
      เปิดดู:
      44
  8. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    พระลือหน้ามงคล
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010532.jpg
      P1010532.jpg
      ขนาดไฟล์:
      324.7 KB
      เปิดดู:
      54
    • P1010533.jpg
      P1010533.jpg
      ขนาดไฟล์:
      319 KB
      เปิดดู:
      43
  9. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    พระลือหน้ายักษ์ พิมพ์เล็ก และพิมพ์ใหญ่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010534.jpg
      P1010534.jpg
      ขนาดไฟล์:
      364.5 KB
      เปิดดู:
      56
    • P1010535.jpg
      P1010535.jpg
      ขนาดไฟล์:
      303.7 KB
      เปิดดู:
      44
    • P1010536.jpg
      P1010536.jpg
      ขนาดไฟล์:
      334.2 KB
      เปิดดู:
      43
    • P1010537.jpg
      P1010537.jpg
      ขนาดไฟล์:
      356.7 KB
      เปิดดู:
      33
    • P1010539.jpg
      P1010539.jpg
      ขนาดไฟล์:
      411.6 KB
      เปิดดู:
      52
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เอฟบีไอเตือน"อีการ์ดวาเลนไทน์"อาจแฝงไวรัส
    http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9510000018381
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>13 กุมภาพันธ์ 2551 17:38 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=150 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle width=150>[​IMG] </TD></TR><CAPTION align=bottom>อีการ์ดวาเลนไทน์สุดหวาน อาจแฝงมากับไวรัสตัวร้าย ขอบคุณภาพประกอบจาก funnyjunkz.com</CAPTION></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ใครที่ได้รับอีการ์ดบอกรักจากคนแปลกหน้าอย่าเพิ่งหลงดีใจ ล่าสุดสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯหรือเอฟบีไอออกแถลงการเตือนประชาชนให้ระวังไวรัสที่อาจแฝงตัวมากับอีการ์ดอวยพรเนื่องในเทศกาลวันวาเลนไทน์ โดยเฉพาะโปรแกรมสอดแนมม้าโทรจันซึ่งสามารถสร้างช่องโหว่ที่นำไปสู่การโจรกรรมข้อมูลในอนาคต

    ทุกช่วงเทศกาลสากล อีเมลขยะจะปรากฏตัวในรูปการ์ดอวยพรหลากหลายอย่างแนบเนียน เพื่อหลอกล่อให้ผู้ใช้หลงดีใจเปิดเข้าไปอ่านข้อความ ด้วยกลเม็ดนี้ผู้ใช้จำนวนไม่น้อยได้รับไวรัสฝังแน่นในเครื่องเป็นของขวัญ สร้างความเสียหายให้กับข้อมูลและทรัพย์สินมากมาย หลายฝ่ายเชื่อว่าวันแห่งความรัก 14 กพ.จะมีอีการ์ดแฝงไวรัสแพร่กระจายอย่างหนัก ทำให้เอฟบีไอต้องออกแถลงการณ์เตือนประชาชนอย่างเป็นทางการ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสียใดๆ

    "หากคุณได้รับอีการ์ดวาเลนไทน์จากคนแปลกหน้า จะต้องระวังเป็นพิเศษ" ตามแถลงการณ์ของเอฟบีไอหรือ Federal Bureau of Investigation เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคระมัดระวังอีเมลขยะแฝงซอฟต์แวร์ประสงค์ร้าย "เทศกาลวันหยุดปลายปีที่ผ่านมา หนอนคอมพิวเตอร์แพร่กระจายอย่างรวดเร็วด้วยการส่งอีการ์ดหลายล้านฉบับ เราเชื่อวันวาเลนไลน์จะเป็นเทศกาลเป้าหมายต่อไป"

    อีการ์ดลวงส่วนใหญ่ถูกส่งมาในรูปข้อความและลิงก์สำหรับให้ผู้ใช้คลิกเพื่อเปิดอีการ์ดอวยพร หากผู้ใช้รายใดหลงคลิกลิงก์ อุปกรณ์ที่แสดงหน้าเพจนั้นๆทั้งคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อินเทอร์เน็ตเคลื่อนที่ล้วนมีโอกาสติดเชื้อหนอนไฮเทค และจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการโจรออนไลน์ในลักษณะลูกโซ่ต่อไป โดยโจรออนไลน์จะสามารถออกคำสั่งให้อุปกรณ์เหล่านี้ทำงานได้ตามใจชอบ ทั้งการส่งอีเมลขยะ ไวรัส หรือแม้แต่ดึงข้อมูลส่วนตัวเช่น ข้อมูลบัตรเครดิตที่เก็บไว้ในเครื่องออกมาใช้งาน

    สำหรับคำแนะนำ เอฟบีไอเชื่อว่า ผู้ใช้ไม่ควรเปิดอีการ์ดวาเลนไลน์จากผู้ส่งนิรนาม คำแนะนำนี้อาจทำร้ายจิตใจคนขี้อายที่อยากใช้อีการ์ดเป็นเครื่องมือสารภาพรักแบบไม่เปิดเผยตัวตน

    Company Related Links :
    FBI
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บช.ออมทรัพย์เลขที่ 1890-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ

    <TABLE class=tborder id=post977595 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">เมื่อวานนี้, 07:14 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1077 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>chaipat<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_977595", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 06:41 AM
    วันที่สมัคร: Jan 2007
    ข้อความ: 766 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 10,855 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 6,134 ครั้ง ใน 776 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 703 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_977595 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->เดือนนี้ผมได้ร่วมทำบุญไปแล้ว 1,500.- บาท ใส่ซองไปแล้วครับ

    สำหรับพระสมเด็จสี คงเหลืออีก 2,500.- บาทครับ

    เดือนหน้าว่ากันใหม่ครับ

    สาธุครับ
    <!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ chaipat [​IMG]
    เดือนนี้ผมได้ร่วมทำบุญไปแล้ว 1,500.- บาท ใส่ซองไปแล้วครับ

    สำหรับพระสมเด็จสี คงเหลืออีก 2,500.- บาทครับ

    เดือนหน้าว่ากันใหม่ครับ

    สาธุครับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    โมทนาสาธุครับ

    .
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://palungjit.org/showthread.php?p=952534&posted=1#post952534

    <TABLE class=tborder id=post952534 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead id=currentPost style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">1-2-2551, 09:54 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#14368 </TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]








    ขอเชิญร่วมมหากุศลเป็นเจ้าภาพผ้าป่าสามัคคี
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  14. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    มงคลที่ ๑ ๐ มีวาจาสุภาษิต

    ปลามีชีวิตยืนยาวอยู่ได้ก็เพราะอาศัยปากเป็นสิ่งสำคัญ
    แต่ก็เพราะปากนั่นเอง ปลาจึงต้องติดเบ็ดเสียชีวิตโดยง่าย
    เช่นกัน วาจาสุภาษิตจากปาก
    จะทำให้คนเราประสบความสำเร็จ
    ได้รับความเจริญก้าวหน้าในชีวิต
    แต่ก็เพราะวาจาทุพภาษิตจากปากเพียงคำเดียว
    บางครั้งแม้แต่ชีวิตก็ยากจะรักษาไว้ได้

    วาจาสุภาษิต คืออะไร ?

    วาจาสุภาษิต หมายถึง คำพูดที่ผู้พูดได้กลั่นกรองไว้ดีแล้วด้วยใจที่ผ่องใส มิใช่สักแต่พูด อวัยวะในร่างกายของคนเรานี้ก็แปลก

    ตา มีหน้าที่ ดู อย่างเดียว ธรรมชาติให้มา ๒ ตา
    หู มีหน้าที่ ฟัง อย่างเดียว ธรรมชาติให้มา ๒ หู
    แต่ปาก มีหน้าที่ถึง ๒ อย่าง คือทั้งกินและพูด

    ธรรมชาติกลับให้มาเพียงปากเดียว แสดงว่า ธรรมชาติต้องการให้คนดูให้มาก ฟังให้มาก แต่พูดให้น้อยๆ ให้มีสติคอยระมัดระวังปาก จะกินก็กินให้พอเหมาะ จะพูดก็พูดให้พอดี ลักษณะคำพูดที่พอเหมาะพอดี เป็นคุณทั้งแก่ตัวผู้พูดและผู้ฟัง เรียกว่า วาจาสุภาษิต

    องค์ประกอบของวาจาสุภาษิต

    ๑. ต้องเป็นคำจริง ไม่ใช่คำพูดที่ปั้นแต่งขึ้น เป็นคำพูดที่ไม่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ไม่บิดเบือนจากความจริง ไม่เสริมความ ไม่อำความ ต้องเป็นเรื่องจริง จริง จริง

    ๒. ต้องเป็นคำสุภาพ เป็นคำพูดไพเราะที่กลั่นออกมาจากน้ำใจที่บริสุทธิ์ ไม่เป็นคำหยาบ คำด่า คำประชดประชัน คำเสียดสี คำหยาบนั้นฟังก็ระคายหู แค่นึกถึงก็ระคายใจ

    ๓. พูดแล้วก่อให้เกิดประโยชน์ เกิดผลดีทั้งแก่คนพูดและคนฟัง ถึงแม้คำพูดนั้นจะจริง และเป็นคำสุภาพ แต่ถ้าพูดแล้วไม่เกิดประโยชน์อะไร กลับจะทำให้เกิดโทษ ก็ไม่ควรพูด

    ๔. พูดด้วยจิตเมตตา พูดด้วยความปรารถนาดี อยากให้คนฟังมีความสุข มีความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป ในข้อนี้หมายถึงว่า แม้จะพูดจริง เป็นคำ สุภาพ พูดแล้วเกิดประโยชน์ แต่ถ้าจิตยังคิดโกรธ มีความริษยา ก็ยังไม่สมควรพูด เพราะผู้ฟังอาจรับไม่ได้ ถ้อยคำที่กล่าวด้วยจิตขุ่นมัว แม้เพียงประโยคเดียว อาจก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง อย่างไม่อาจประมาณได้

    ๕. พูดถูกกาลเทศะ แม้ใช้คำพูดที่ดี เป็นคำจริง เป็นคำสุภาพ เป็นคำพูดที่มีประโยชน์ และพูดด้วยจิตที่เมตตา แต่ถ้าผิดจังหวะ ไม่ถูกกาลเทศะ ผู้ฟังยังไม่พร้อมที่จะรับแล้ว จะก่อให้เกิดผลเสียได้ เช่น จะกลายเป็นประจาน หรือจับผิดกันไป

    - พูดถูกเวลา (กาล) คือรู้ว่าเวลาไหนควรพูด เวลาไหนยังไม่ควรพูด ควรพูดนานเท่าไร ต้องคาดผลที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วย

    - พูดถูกสถานที่ (เทศะ) คือรู้ว่าในสถานที่เช่นไร เหตุการณ์แวดล้อม เช่นไรจึงสมควรที่จะพูด หากพูดออกไปแล้วจะมีผลดีหรือผลเสียอย่างไร
    เช่น มีความหวังดีอยากเตือนเพื่อนไม่ให้ดื่มเหล้า แต่ไปเตือนขณะเพื่อนกำลังเมาอยู่ในหมู่เพื่อนฝูง ทำให้เขาเสียหน้า อย่างนี้นอกจากเขาจะไม่ฟังแล้ว เราเองอาจเจ็บตัวได้

    "คนฉลาดไม่ใช่เป็นแต่พูดเท่านั้น ต้องนิ่งเป็นด้วย คนที่พูดเป็นนั้น ต้องรู้ในสิ่งที่ไม่ควรพูด ให้ยิ่งกว่าสิ่งที่ควรพูด"


    ลักษณะของฑูตที่ดี (ฑูตสันติ)

    ๑. ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ไม่ด่วนปฏิเสธ
    ๒. เมื่อถึงคราวพูดก็สามารถทำให้ผู้อื่นฟัง
    ๓. รู้จักกำหนดขอบเขตของการพูดให้กะทัดรัด
    ๔. จำเนื้อความทั้งหมดที่จะพูด
    ๕. เข้าใจเนื้อความทั้งหมดโดยละเอียดตามความเป็นจริง
    ๖. ทำให้ผู้อื่นเข้าใจตามได้
    ๗. ฉลาดในการพูดที่เป็นประโยชน์และมิใช่ประโยชน์
    ๘. ไม่พูดชวนให้เกิดการทะเลาะวิวาท


    "ผู้ใดเข้าไปสู่บริษัทที่พูดคำหยาบคาย ก็ไม่สะทกสะท้าน ไม่ยังคำพูดให้เสีย ไม่ปกปิดข่าวสาร พูดจนหมดความสงสัย และเมื่อถูกถามก็ไม่โกรธ ผู้นั้นย่อมควรทำหน้าที่ทูต"
    วิ. จุลฺล. ๗/๔๐๐/๒๐๑

    ถ้อยคำที่ไม่ควรเชื่อถือ

    ๑. คำกล่าวพรรณนาคุณ ศรัทธา ของบุคคลผู้ไม่มีศรัทธา
    ๒. คำกล่าวพรรณนาคุณ ศีล ของบุคคลผู้ทุศีล
    ๓. คำกล่าวพรรณนาคุณ พาหุสัจจะ ของบุคคลผู้ไม่สดับ
    ๔. คำกล่าวพรรณนาคุณ จาคะ ของบุคคลผู้ตระหนี่
    ๕. คำกล่าวพรรณนาคุณ ปัญญา ของบุคคลผู้โง่
    ทั้ง ๕ ประการ จัดเป็นคำซึ่งไม่ควรฟัง ไม่ควรเชื่อถือ


    ลักษณะเสียงที่สมบูรณ์ของมหาบุรุษ

    คนที่มีวาจาสุภาษิตมาข้ามภพข้ามชาติ จะมีลักษณะเสียงที่สมบูรณ์ของมหาบุรุษ ซึ่งมีลักษณะดังนี้คือ

    ๑. แจ่มใส ไม่แหบเครือ
    ๒. ชัดเจน ชัดถ้อยชัดคำ ไม่ติดขัด
    ๓. ไพเราะ อ่อนหวาน
    ๔. เสนาะโสต
    ๕. กลมกล่อม
    ๖. ไม่แตก ไม่พร่า
    ๗. ซึ้ง
    ๘. มีกังวาน


    อานิสงส์การมีวาจาสุภาษิต

    ๑. เป็นคนมีเสน่ห์ เป็นที่รักของชนทุกชั้น
    ๒. มีความเจริญก้าวหน้าทั้งทางโลกและทางธรรม
    ๓. มีวาจาสิทธิ์ ได้รับความสำเร็จในสิ่งที่เจรจา
    ๔. ย่อมได้ยินได้ฟังแต่สิ่งที่ดีงาม
    ๕. ไม่ตกไปในอบายภูมิ
    ฯลฯ


    "วาจาสุภาษิต ไม่ว่าจะพูดด้วยสำเนียงภาษาอย่างไรก็ตาม วาจานั้นย่อมเป็นวาจาชั้นสูง ควรแก่การสรรเสริญของบัณฑิต ตรงกันข้าม วาจาทุพภาษิต แม้จะพูดด้วยภาษาใดสำเนียงดีแค่ไหน บัณฑิตก็ไม่สรรเสริญ"

    จบมงคลที่ ๑๐ มีวาจาสุภาษิต
     
  15. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ความรักนั้น คลอดมาจาก พ่อแม่ก่อน
    แล้วจึงสอน "ความเป็นคน" จนเข้มขลัง
    ลึกลงไป สู่ธรรมะ ณ พุทธัง
    จนถึงฝั่ง สู่นิพพาน ฐานความดี

    ในความดี ไม่เกษม ซึ่งเกมส์รัก
    พึงประจักษ์ ปฏิเสธ เหตุให้หนี
    หนีกิเลส เข้าหาบุญ พิสุทธิ์มี
    ธรรมะมี "มากกว่ารัก" ตระหนักดู


    <CENTER><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top bgColor=#000000 rowSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD align=left bgColor=#000000 colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

    ขอบคุณคุณ<!--MsgFrom=11-->ธนะรัตน์ เอ็กโซติก
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>น่ากลัว... ไวรัสตับอักเสบ ซี
    โดย รศ.นพ.ทวีศักดิ์ แทนวันดี
    http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9510000018383
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย Uncle fat</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>14 กุมภาพันธ์ 2551 08:36 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=320 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=320>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ไวรัสตับอักเสบ ซี ถือเป็นภัยเงียบที่คุกคามผู้คนมานานโดยไม่รู้ตัว ผู้ที่ติดเชื้อ ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการใดๆ เลย จนกว่าจะมีการเสื่อมของตับมากๆ อาจใช้เวลา 10-20 ปี หลังจากติดเชื้อ จึงเริ่มมีอาการที่สังเกตเห็นได้ชัด คือ อ่อนเพลีย ซึ่งตอนนั้นก็มักเกิดตับแข็งแล้ว ที่ร้ายอาจเป็นมะเร็งตับ แม้โรคนี้จะเพิ่งรู้จักกันไม่ถึง 20 ปี แต่ที่ฮือฮากันเพราะดาราพิธีกรเป็นโรคนี้กัน จึงทำให้ผู้คนอยากรู้จักมากขึ้น

    ปัจจุบันมีประชากรทั่วโลกราวร้อยละ 1-2 ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี คาดว่า อีก 20 ปีข้างหน้า จะมีผู้ป่วยภาวะตับแข็งเพิ่มขึ้นราว ร้อยละ 20 และอาจเกิดมะเร็งตับตามมาประมาณ ร้อยละ 3-5 ต่อปี ในบ้านเรา พบผู้ป่วยร้อยละ 1-2 หรือประมาณ 6-7 แสนคน และพบมากขึ้นในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

    ไวรัสตับอักเสบ ซี เป็น เชื้อไวรัสชนิดอาร์เอ็นเอ (RNA) เชื้อไวรัสนี้มีขนาดเล็กมาก แม้ว่าจะใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนส่องก็ไม่สามารถมองเห็นได้ มีเพียงวิธีสกัดเอาสารพันธุกรรมของไวรัสแล้วนำมาขยายเพิ่มจำนวนล้านๆ เท่าจึงจะมองเห็น ไวรัส ซี ประกอบด้วย 6 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ 1, 2, 3, 4, 5 และ 6 การแบ่งสายพันธุ์ไม่เกี่ยวกับความรุนแรงแต่เกี่ยวกับการรักษา ในจำนวนนี้ประมาณครึ่งหนึ่งเป็นสายพันธุ์ที่รักษาง่าย คือ สายพันธุ์ 2 และ 3

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=320 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=320>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> การติดต่อส่วนใหญ่ มักผ่านทางการรับเลือด และส่วนประกอบของเลือดที่ไม่ใช่การบริจาคเลือด ได้แก่ เม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดง และเกล็ดเลือด โดยจะมีระยะฟักตัวประมาณ 6-8 สัปดาห์ ผู้ป่วยน้อยกว่าร้อยละ 25 อาจมีอาการอ่อนเพลีย ส่วนน้อยอาจเป็นโรคดีซ่าน ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีผู้ป่วยเพียง ร้อยละ 15 เท่านั้น ที่สามารถกำจัดไวรัสออกไปจากร่างกายได้ ส่วนอีกร้อยละ 85 จะมีอาการเรื้อรังทำให้ตับเสื่อมเป็นตับแข็งและมะเร็งตับได้

    จากการศึกษาในผู้ป่วยโรงพยาบาลศิริราช กว่าร้อยละ 60 มีประวัติเคยได้รับเลือดก่อนปี 2533 ทำให้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี แต่ในปัจจุบัน ธนาคารเลือดของโรงพยาบาลศิริราช และสภากาชาดไทยได้มีการตรวจกรองเลือดทุกถุง ทำให้ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อน้อยลง

    ความเสี่ยงอื่นๆ ที่สำคัญ ได้แก่ ผู้ที่ติดยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้น จากการศึกษาทั้ง 4 ภาค คือ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ พบผู้บริจาคเลือดที่มีประวัติติดยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้นเกินกว่า 6 เดือน มีเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี สูงถึงร้อยละ 95 นอกจากนี้ยังพบในผู้ที่สักตามร่างกาย เจาะหู ฝังเข็มรักษาโรค หรือแม้กระทั่งการขลิบอวัยวะเพศ หากเครื่องมือไม่ได้รับการฆ่าเชื้อที่ถูกต้อง ก็อาจเป็นสาเหตุของการติดต่อได้ ในผู้ป่วยที่ฟอกเลือดล้างไตก็พบบ่อยขึ้นเช่นกัน ส่วนการติดต่อทางเพศสัมพันธ์และจากมารดาสู่ทารก พบน้อยมาก มีหลายท่านมักกังวลว่า ไวรัสตับอักเสบซี จะติดต่อโดยการดำเนินชีวิตประจำวันร่วมกันกับผู้ป่วยหรือไม่ อย่าง การกิน ใช้ห้องน้ำ ทำงาน การมีเพศสัมพันธ์ หรือแม้กระทั่งมารดาให้นมบุตร ซึ่งเรื่องเหล่านี้ขอเรียนให้สบายใจว่า พบได้น้อยมาก ไม่มีผลกระทบต่อกันแต่อย่างใด

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=320 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=320>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> การวินิจฉัยสามารถทำได้โดย ตรวจเลือดดูการทำงานของตับ หากผิดปกติ จะตรวจว่าเป็นตับอักเสบบีหรือซี ถ้าเป็นไวรัสตับอักเสบซี

    นำส่วนที่เป็นน้ำเหลืองไปตรวจหาภูมิต่อต้านไวรัสตับอักเสบ ซี หรือที่เรียกว่า “แอนติ เอช ซี วี (Anti-HCV)” โดยเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 300-400 บาท และรอผลประมาณ 1-3 วัน ในรายที่ผลเป็นบวกควรยืนยันด้วยการการตรวจไวรัสตับอักเสบซีโดยตรง โดยตรวจดูปริมาณไวรัสและสายพันธุ์ไวรัส ซึ่งการตรวจสายพันธุ์จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจต่อการรักษา เพราะอาจรักษาง่ายใช้เวลา 6 เดือน หรือเป็นปี แต่บางรายอาจต้องเอาเนื้อตับมาตรวจ เพื่อดูพยาธิสภาพของตับก่อนตัดสินใจรักษา เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการรักษาไวรัสตับอักเสบ ซี ค่อนข้างสูง คืออย่างน้อยประมาณ 2-3 แสนบาท

    การรักษาในปัจจุบันใช้คู่กันทั้งยาฉีดและยากิน โดยฉีดสัปดาห์ละ 1 เข็ม กินยาทุกวัน 6 เดือนถึง 1 ปี ผลข้างเคียงของการใช้ยารักษาอาจเกิดความอ่อนเพลียได้ แต่เมื่อหายแล้วจะหายขาดและตับก็จะดีขึ้น ดูเหมือนว่าการรักษาแพงแต่เพียงไม่กี่เดือนหากเทียบกับโรคอื่นๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันสูงต้องรักษาตลอดชีวิตและต้องเสียค่าใช้จ่ายแพงกว่ากันมากๆ เพียงแต่เหมือนผ่อนทีละน้อยๆ

    สำหรับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี สามารถใช้ชีวิต และออกกำลังกายได้ตามปกติ แต่ต้องไม่ลืมพักผ่อนให้พอเพียง ควรงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้ไวรัสแบ่งตัวมากขึ้นและตับเสื่อมเร็วขึ้น ไม่กินยาเองโดยปราศจากคำสั่งของแพทย์ และควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจระดับ AST และ ALT ว่า การอักเสบของตับอยู่ในระดับใด อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องตกใจกับระดับค่าที่วัดได้ เพราะไม่มีส่วนสัมพันธ์กับความรุนแรงของอาการอักเสบ ซึ่งโดยธรรมชาติ ไวรัสชนิดนี้จะมีระดับขึ้นๆ ลงๆ เป็นปกติอยู่แล้ว หากแพทย์พบว่าตับของท่านอักเสบต่อเนื่อง อาจพิจารณาให้การรักษา

    อย่างไรก็ตาม คาดว่า ยังมีผู้ป่วยอีกจำนวนมากที่ไม่ได้รับการรักษา อาจเพราะไม่รู้ว่าตนเองติดเชื้อ ฉะนั้นควรหมั่นตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพื่อหาทางป้องกันหรือรักษาอย่างทันท่วงทีในกรณีที่ตรวจพบความผิดปกติ


    <HR>

    ความก้าวหน้าในการรักษาไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี

    พบการรักษาผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี ในยุค 2008 ได้ในการประชุมวิชาการ “120 ปี ศิริราชสู่ศักราชใหม่แห่งการแพทย์ชั้นเลิศและนวัตกรรม” วันที่ 17 มีนาคม เวลา 13.00-14.30 น.ณ หอประชุมราชแพทยาลัย ซึ่งคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จัดขึ้นสำหรับบุคลากรทางการแพทย์จะได้รับความรู้และความก้าวหน้าทางการแพทย์ การวิจัย ตลอดจนแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ระหว่างวันที่ 17-21 มีนาคม 2551 โดยผู้สนใจสามารถลงทะเบียนหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานรองคณบดีฝ่ายวิชาการ ตึกอำนวยการ ชั้น 3 โทร.0- 2419-7680 -1
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9510000018383
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.matichon.co.th/news_scoop.php?id=121

    สาวแต่งงานแล้วเฮลั่น! กม.ประกาศแล้ว ใช้'นาง-นางสาว'ได้ตามใจ แม่หม้ายก็ได้สิทธิคืน

    <!-- จำนวนคนอ่าน 876 คน | --> วันที่ 08 กุมภาพันธ์ 2551 - เวลา 18:28:17 น.



    ประกาศใช้แล้วกฎหมายคำนำหน้านามหญิง สาวแต่งงานแล้วเฮ! เลือกใช้'นาง' หรือ'นางสาว'ได้ตามความสมัครใจ พวกเป็นหม้ายก็กลับไปชื่อ'นางสาว'ได้เหมือนเดิม
    ผู้สื่อข่าว'มติชนออนไลน์'ว่า พ.ร.บ.คำนำหน้านามหญิง พ.ศ. 2551 ประกาศใช้แล้วเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2551ซึ่ง จะทำให้หญิงซึ่งแต่งงานหรือจดทะเบียนสมรสแล้ว สามารถที่จะเลือกใช้ 'นาง' หรือ 'นางสาว' ได้ตามความสมัครใจ และหญิงซึ่งจดทะเบียนสมรสแล้ว หากต่อมาการสมรสได้สิ้นสุดลงจะใช้คำนำหน้านามว่า 'นาง' หรือ 'นางสาว' ได้ตามความสมัครใจ โดยให้แจ้งต่อนายทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการจดทะเบียนครอบครัว
    อย่างไรก็ตาม กฎหมายฉบับดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 120 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาหรือ ประมาณวันที่ 4 มิถุนายน 2551
    ส่วนเหตุผลในการประกาศใช้ พ.ร.บ.ฉบับนี้ คือ โดยที่การใช้คำนำหน้านามของหญิงที่จดทะเบียนสมรสแล้วต้องใช้คำนำหน้านามว่า'นาง'คำเดียว โดยมิอาจเลือกได้ตามความสมัครใจ ทำให้เกิดผลกระทบต่อหญิงดังกล่าวในการดำรงชีวิตประจำวันอาทิ การประกอบอาชีพ การศึกษาของบุตร และการทำนิติกรรมต่าง ๆ ส่งผลให้การใช้คำนำหน้านามในลักษณะดังกล่าวของหญิงมีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพราะเหตุแห่งความแตกต่างทางเพศ สมควรกำหนดให้หญิงมีทางเลือกในการใช้คำนำหน้านามตามความสมัครใจซึ่งเป็นการสอดคล้องกับการเลือกใช้นามสกุลตามกฎหมายว่าด้วยชื่อบุคคล
    สำหรับรายละเอียดของพ.ร.บ.ฉบับนี้มีดังนี้
    มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า 'พระราชบัญญัติคำนำหน้านามหญิง พ.ศ. ๒๕๕๑'
    มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
    มาตรา ๓ พระราชบัญญัตินี้ไม่กระทบการใช้คำนำหน้านามหญิงเป็นอย่างอื่นตามที่มีกฎหมายบัญญัติ
    มาตรา ๔ หญิงซึ่งมีอายุ ๑๕ ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสให้ใช้คำนำหน้านามว่า “นางสาว”
    มาตรา ๕ หญิงซึ่งจดทะเบียนสมรสแล้ว จะใช้คำนำหน้านามว่า 'นาง' หรือ 'นางสาว' ได้ตามความสมัครใจ โดยให้แจ้งต่อนายทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการจดทะเบียนครอบครัว
    มาตรา ๖ หญิงซึ่งจดทะเบียนสมรสแล้ว หากต่อมาการสมรสได้สิ้นสุดลงจะใช้คำนำหน้านามว่า 'นาง' หรือ 'นางสาว' ได้ตามความสมัครใจ โดยให้แจ้งต่อนายทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการจดทะเบียนครอบครัว
    มาตรา ๗ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รักษาการตามตามพระราชบัญญัตินี้
    <!-- End Program --></SPAN>
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    กุศลกรรมบถ

    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
    http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%...B8%9A%E0%B8%96

    กุศลกรรมบถ หมายถึง ทางแห่งกรรมดี,ทางทำดี, ทางแห่งกรรมที่เป็นกุศล, กรรมดีอันเป็นทางนำไปสู่ความสุขความเจริญหรือสุคติ (wholesome course of action) เป็นธรรมส่วนสุจริต 10 ประการ จึงเรียกชื่อว่า กุศลกรรมบถ 10
    กรรมบถ (อ่านว่า กำมะบด) แปลว่า ทางแห่งกรรม คือ การกระทำที่เข้าทางเป็นกรรมหรือที่นับว่าเป็นกรรม หมายถึง ทางแห่งกุศลกรรม คือการกระทำที่นับว่าเป็นความดีได้แก่
    • ที่เป็นกายกรรม มี 3 อย่าง คือ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม
    • ที่เป็นวจีกรรม มี 4 คือ ไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดเพ้อเจ้อ
    • ที่เป็นมโนกรรม มี 3 คือ ไม่โลภอยากได้ของเขา ไม่พยาบาทปองร้าย เห็นชอบตามคลองธรรม (สัมมาทิฐิ)
    กุศลกรรมบถ ก็คือสุจริตทางกาย ทางวาจา และทางใจนั่นเอง
    กุศลกรรมบถหมวดนี้ ในบาลีเรียกชื่อหลายอย่าง เช่นว่า ธรรมจริยา (ความประพฤติธรรม - righteous conduct), โสไจย (ความสะอาดหรือเครื่องชำระตัว -- cleansing), อริยธรรม (อารยธรรม, ธรรมของผู้เจริญ - virtues of a noble or civilized man), อริยมรรค (มรรคาอันประเสริฐ - the noble path), สัทธรรม (ธรรมดี, ธรรมแท้ - good law; true law),สัปปุริสธรรม (ธรรมของสัตบุรุษ - qualities of a good man)
    <TABLE class=toc id=toc summary=เนื้อหา><TBODY><TR><TD>เนื้อหา

    [ซ่อน] </TD></TR></TBODY></TABLE><SCRIPT type=text/javascript>//<![CDATA[ if (window.showTocToggle) { var tocShowText = "แสดง"; var tocHideText = "ซ่อน"; showTocToggle(); } //]]></SCRIPT>

    [แก้] ประวัติ

    มาจากพุทธสุภาษิต สุจริตธรรมดังนี้
    ธมฺมญจเร สุจริตํ น ตํ ทุจฺจริตํ จเร ธมฺมจารี สุขํ เสติ อสฺมึ โลเก ปรมฺหิ จาติฯ
    สุภาษิตนี้มีเนื้อความว่า ธมฺมญจเร สุจริตํ บุคคลพึงประพฤติธรรมส่วนสุจริตอยู่ทุกเมื่อเถิด น ตํ ทุจฺจริตํ จเร ไม่พึงประพฤติธรรมส่วนทุจริตเลย ธมฺมจารี สุขํ เสติ ผู้ประพฤติธรรมส่วนสุจริต ย่อมนอนเป็นสุข หรือเป็นสุขทุกอิริยาบท อสฺมึ โลเก ปรมฺ หิ จ ทั้งในโลกนี้ด้วย โลกเบื้องหน้าด้วย ดังนี้ฯ

    [แก้] กุศลกรรมบถ 10


    [แก้] ประพฤติดีด้วยกาย 3 ประเภท

    ประพฤติดีด้วยกาย นั้นชื่อว่า กายกรรม คือ ทำกิจการงานด้วยกายอย่าให้ทุกข์เกิดขึ้นแก่ผู้อื่น กายกรรมที่ให้เกิดทุกข์แก่ผู้อื่นนั้น มี 3 ประการ
    1. คือ อย่าเบียดเบียนร่างกายของท่าน คือ อย่าฆ่า อย่าฟัน อย่าทุบ อย่าตี ร่างกายของท่านผู้อื่นโดยที่สุด เว้นถึงสัตว์ติรัจฉานได้ยิ่งเป็นการดี ตรงภาษาบาลีที่ว่า ปาณาติปาตาเวรมณี ฯ
    2. คือ อย่าเบียดเบียนทรัพย์สมบัติข้าวของของท่านผู้อื่น คืออย่าลักขโมย อย่าฉ้อโกง อย่าเบียดบังเอาข้าวของของท่านผู้อื่น ตรงภาษาบาลที่ว่า อทินฺนาทานาเวรมณี ฯ
    3. คือ อย่าแย่งชิงลักลอบด้วยอำนาจของกายในหญิงที่ท่านหวงห้าม ตรงภาษาบาลีที่ว่า กาเมสุมิจฉาจาราเวรมณีฯ
    [แก้] ประพฤติดีด้วยวาจา 4 ประเภท

    ประพฤติดีด้วยวาจา 4 ประเภท (วจีกรรม 4 ประเภท) นั้นได้แก่
    1. คือ ให้กล่าวแต่วาจาถ้อยคำที่สัตย์ที่จริง ให้เว้นจากวาจาที่เท็จไม่จริงเสีย ตรงกับภาษาบาลีที่ว่า มุสาวาทาเวรมณี ฯ
    2. คือ ให้กล่าวแต่วาจาถ้อยคำอันสมานประสานสามัคคีให้ท่านดีต่อกัน ให้เว้นวาจาส่อเสียดยุยงเสีย ตรงกับภาษาบาลีที่ว่า ปิสุณายาวาจาเวรมณีฯ
    3. คือ ให้กล่าวแต่วาจาถ้อยคำอันอ่อนโยน ให้เกิดความยินดีแก่ผู้ฟัง ให้งดเว้นวาจาที่หยาบคายขึ้นกูขึ้นมึง บริภาษตัดพ้อหยาบๆ คายๆ ให้ผู้ฟังได้รับความเดือดร้อนต่างๆ เสีย ตรงกับภาษาบาลีที่ว่า ผรุสฺสายวาจายเวรมณี ฯ
    4. คือ ให้กล่าวแต่วาจาถ้อยคำที่เป็นไปกับด้วยประโยชน์ ให้เว้นวาจาที่เหลวไหล คือพูดเล่นหาประโยชน์มิได้เสีย ตรงกับภาษาลีที่ว่า สมฺผปฺปลาปาวาจายเวรมณี ฯ
    [แก้] ประพฤติดีด้วยใจ 3 ประเภท

    ประพฤติดีด้วยใจ 3 ประเภท (มโนกรรม 3 ประเภท) นั้นคือ
    1. คือ ให้ระวังเจตนากรรม ให้สัมประยุตต์ด้วยเมตตาอยู่เสมอ คือ ความดำริของใจ อย่าให้ลุอำนาจแห่งโลภะ คืออย่าเพ่งเอากิเลสกามและวัตถุกามของท่านผู้อื่น อันไม่สมควรแก่ฐานะของตน ตรงกับภาษาบาลีที่ว่า อนภิชฺฌา โหติฯ
    2. คือ ให้ระวังเจตนากรรมให้สัมประยุตต์ด้วยกรุณาอยู่ทุกเมื่อ อย่าให้โทสะ พยาบาท เข้าครอบงำได้ ตรงกับภาษาบาลีที่ว่า อพฺพยาปาโท โหติฯ
    3. คือ ให้ระวังเจตนากรรมให้สัมประยุตต์ด้วย มุทิตา อุเบกขา อยู่ทุกเมื่อ อย่าให้ไหลไปในทางผิด ให้เห็นตรงตามคลองธรรมทั้ง 10 นี้อยู่ทุกเมื่อ ตรงกับภาษาบาลีที่ว่า สมฺมทิฎฺฐิโก โหติฯ
    [แก้] อ้างอิง
    1. พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ป.ธ. ๙ ราชบัณฑิต พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด คำวัด, วัดราชโอรสาราม กรุงเทพฯ พ.ศ. 2548
    2. พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม ฉบับประมวลธรรม พิมพ์ครั้งที่ 12 พ.ศ. 2546
    3. พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริจนฺโท จันทร์) อัตตโนประวัติ ธรรมบรรยาย และ คิริมานนทสูตร ชมรมพุทธศาสน์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต 2531 ผู้พิมพ์ หจก. ป. สัมพันธ์พาณิชย์
    <!-- Pre-expand include size: 3411/2048000 bytesPost-expand include size: 3409/2048000 bytesTemplate argument size: 0/2048000 bytes#ifexist count: 0/500--><!-- Saved in parser cache with key thwiki:pcache:idhash:55504-0!1!0!!th!2 and timestamp 20080211084759 -->ดึงข้อมูลจาก "http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%A8%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%96".
    หมวดหมู่: กรรม | อภิธานศัพท์พุทธศาสนา
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.watthummuangna.com/board/showthread.php?p=20012#post20012

    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=alt1 width="100%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR vAlign=bottom><TD>[​IMG]</TD><TD> </TD><TD width="100%">พุทธพรหมปัญโญ </TD></TR><TR><TD class=navbar style="FONT-SIZE: 10pt; PADDING-TOP: 1px" colSpan=3>[​IMG] ข้อความจากบอร์ด </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD class=alt2 vAlign=top noWrap>ยินดีต้อนรับ คุณ sithiphong
    คุณมาครั้งล่าสุดเมื่อ เมื่อวานนี้ เวลา 10:00 AM
    ข้อความส่วนตัว: ยังไม่ได้อ่าน 0, รวม 24.
    </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- / breadcrumb, login, pm info --><!-- nav buttons bar -->
    <TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR align=middle><TD class=vbmenu_control>แผงควบคุมส่วนตัว</TD><TD class=vbmenu_control>คู่มือการใช้</TD><TD class=vbmenu_control>รายชื่อสมาชิก</TD><TD class=vbmenu_control>ปฏิทิน</TD><TD class=vbmenu_control>กล่องข้อความ</TD><TD class=vbmenu_control>ข้อความใหม่</TD><TD class=vbmenu_control id=navbar_search>ค้นหา</TD><TD class=vbmenu_control id=usercptools style="CURSOR: hand" state="false" unselectable="true">ลิงค์ที่ใช้บ่อย<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("usercptools"); </SCRIPT> [​IMG] </TD><TD class=vbmenu_control>Log out</TD></TR></TBODY></TABLE>​


    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="70%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat>ข้อความจากบอร์ด</TD></TR><TR><TD class=panelsurround align=middle>
    <!-- main error message -->
    sithiphong, you do not have permission to access this page. This could be due to one of several reasons:
    1. Your user account may not have sufficient privileges to access this page. Are you trying to edit someone else's post, access administrative features or some other privileged system?
    2. If you are trying to post, the administrator may have disabled your account, or it may be awaiting activation.


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...