พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,097
    อ่านสรุปเรื่องของผู้ตายอีกครั้งตามนี้ครับ ให้รู้ว่ามันโหดขนาดไหน และผู้ตายควรเคียดแค้นอย่างไร(b-angry)

    http://www.matichon.co.th/khaosod/v...T0=&day=TWpBd055MHhNUzB5TXc9PQ==target=_blank
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มอบพระบรมสารีริกธาตุในการร่วมสร้างสมเด็จองค์ปฐมเนื้อเรซิ่นบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

    http://palungjit.org/showthread.php?t=88315&page=16

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    หากยังจำได้ว่า..พระเครื่องวังหน้าชุดที่ ๒ ของคุณหนุ่มที่ได้อาราธนาขอพระบารมีจากพระผู้เสกในครั้งนั้น(วันอาทิตย์ที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐) โดยผ่านพระอาจารย์รูปหนึ่งหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง ๕ พระองค์ และพระอรหันต์เถรเจ้าอีก ๓ องค์ได้สงเคราะห์นั้น มีพระอนุรุทธอรหันต์เถรเจ้า พระสิวลีอรหันต์เถรเจ้า และพระอุปคุตอรหันต์เถรเจ้านั้น ครั้งนั้นผมบังเอิญอัญเชิญพระธาตุสิวลีอรหันต์เถรเจ้าไปร่วมในพิธีโดยไม่ทราบมาก่อน การได้รับพระธาตุอนุรุทธอรหันต์เถรเจ้า และนำมอบให้เพื่อนๆพร้อมพระบรมสารีริกธาตุสัณฐานที่พระพุทธกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้าอธิษฐานจิตไว้ ก็ได้มาด้วยความบังเอิญอีกเช่นกัน ก็ไม่ทราบว่าเป็นไปได้หรือที่ในวาระถัดไป..พระธาตุอุปคุตอรหันต์เถรเจ้าจะมาด้วยความบังเอิญอีกครั้งหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น จะเป็นความบังเอิญถึง ๓ ครั้ง ๓ คราวหรือ???....

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    โดยปกติแล้ว องค์พระอรหันต์ท่านจะไม่มาในลักษณะนี้ ยกเว้นไว้แต่องค์พระอรหันต์พระองค์ท่านเห็นสมควร หรือเป็นเรื่องที่เบื้องบนให้ดำเนินการเท่านั้น

    นอกจากเรื่องที่คุณเพชรได้แจ้งนั้น ยังเป็นโชคดีอย่างมากที่ได้มีโอกาสฟังธรรมจากสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
    จึงเป็นโชคดีของคณะที่ไปกันในวันนั้น

    สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่านให้รับไตรสรณคมก่อนทุกครั้ง (ในความคิดเห็นของผม พระองค์ท่านให้ยึดในพระพุทธ ,พระธรรม และพระสงฆ์เป็นหลัก)

    ขอกราบพระบาทองค์พระอนุรุทธเถระเจ้า ,องค์พระสิวลีเถระเจ้า ,องค์พระอุปคุตเถระเจ้า องค์สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เป็นอย่างสูงครับ

    .
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.matichon.co.th/khaosod/v...T0=&day=TWpBd055MHhNUzB5TXc9PQ==target=_blank

    วันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 17 ฉบับที่ 6203 ข่าวสดรายวัน


    คำสารภาพแก๊งทมิฬ ฆ่าสาวนักเคมีหมกป่า ล้างแค้น-ชิงทรัพย์พรางคดี


    คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

    นิราช ทิพย์ศรี เรื่อง/ภาพ



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>"พวกผมฆ่าเธอเอง ทำไปเพราะแค้นที่ถูกขวางเรื่องธุรกิจจึงวางแผนอุ้มฆ่าปลดทรัพย์และขโมยรถไปขายเพื่ออำพรางคดี แต่ระหว่างทางดันเกิดอุบัติเหตุขึ้นเสียก่อน แถมยังทำกระเป๋าเงินหล่นในรถอีกต่างหาก เลยถูกตำรวจตามมาจับกุมถึงที่"

    คือคำรับสารภาพของนายทวีศักดิ์ แกล้วทนงค์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/161 หมู่ 4 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี 1 ในแก๊งคนร้ายที่ลงมือสังหารน.ส.ชณัญธิฎา โสภณ อายุ 36 ปี สาวนักเคมีบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ทิ้งศพที่เหลือเพียงโครงกระดูกหมกพงหญ้าในไร่มันสำปะหลังกลางเมืองชลบุรี มีคนไปพบศพในตอนเย็นวันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา

    เป็นคดีฆ่าอย่างน่าสยดสยอง

    นายทวีศักดิ์บอกว่านอกจากตนเองแล้ว ยังมีนายฉัตรชัย แกล้วทนงค์ อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายตนเองร่วมงานด้วย มีนายอานนท์ อีดิน อายุ 35 ปีเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายวิทยา พิมาตร์ อายุ 23 ปีกับนายนพรัตน์ จันทร์คาน อายุ 21 ปี ร่วมทีมฆ่า ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของนายอานนท์ ที่มีความขัดแย้งกับน.ส.ชณัญธิฎาซึ่งเคยทำงานร่วมกัน

    เมื่ออยู่ร่วมกันไม่ได้สุดท้ายจึงวางแผนฆ่า!!



    ย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 เดือนกันยายน น.ส.ชณัญธิฎา หายตัวไปจากบ้านซึ่งอยู่ที่ต.เชิงเนิน อ.เมืองระยอง อย่างลึกลับพร้อมกับรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีน้ำเงิน ทะเบียน วฉ 2771 กทม. ขณะขับรถไปงานศพคนรู้จักที่วัดแห่งหนึ่งในตัวเมืองระยอง หลังจากที่เธอหายไปญาติพยายามออกตามหาแต่ไม่พบ จึงทำได้เพียงเข้าแจ้งความไว้ที่โรงพักเมืองระยองไว้เป็นหลักฐาน

    หลังจากวันนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นเธออีกเลย!??

    แต่หลังจากนั้น 2 วัน ตำรวจเมืองระยองก็ได้รับการประสานจากตำรวจจ.ราชบุรี ว่าพบรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีน้ำเงิน ทะเบียน วฉ 2771 กทม. ของน.ส.ชณัญธิฎา ไปประสบอุบัติเหตุพุ่งชนต้นไม้พังเสียหายยับเยิน เหตุเกิดที่บริเวณถนนสายเจดีย์หัก-เขางู หมู่ 5 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี โดยอุบัติเหตุครั้งนี้ไม่พบใครเลยแม้แต่คนขับรถหรือผู้โดยสาร พบเพียงกระเป๋าตังค์ของนายทวีศักดิ์ แกล้วทนงค์ ซึ่งในกระเป๋ามีหลักฐานบัตรประชาชนและเอกสารอื่นๆ อยู่ข้างในเสร็จสรรพ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ดังนั้น คนที่จะเป็นกุญแจสำคัญก็คือนายทวีศักดิ์ซึ่งจะต้องรู้ว่าน.ส.ชณัญธิฎาเจ้าของรถหายไปไหน แล้วใครเป็นคนเอารถคันนี้มาใช้จนเกิดอุบัติเหตุขึ้นในท้องที่จ.ราชบุรี

    "ทวีศักดิ์"ตกเป็นเป้าตำรวจทันที



    เรื่องนี้โชยกลิ่นไม่ดีมาตั้งแต่การเจอรถของ "ชณัญธิฎา" แต่ไม่เจอเจ้าของ พ.ต.อ.สมนึก บุรมิ ผกก.สภ.เมืองระยอง ในฐานะเจ้าของท้องที่รับคนหาย จึงมอบหมายให้พ.ต.ท.วิทยา สมานุพัฒน์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองระยอง พ.ต.ท.สมชาติ สังข์เงิน สวส. รีบประสานตำรวจราชบุรีเพื่อหารายละเอียดในที่เกิดเหตุ และขอข้อมูลเจ้าของกระเป๋าตังค์ที่พบในรถนำมาขยายผล

    เจ้าหน้าที่ประมวลเหตุการณ์ดูแล้วมั่นใจว่าเกิดเหตุร้ายขึ้นกับน.ส.ชณัญธิฎาแน่ๆ เพราะญาติน.ส.ชณัญธิฎาไม่มีใครรู้จักนายทวีศักดิ์ เจ้าของกระเป๋าตังค์ใบนี้ เมื่อมั่นใจว่านายทวีศักดิ์น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของ "ชณัญธิฎา" ตำรวจจึงรวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดระยองออกหมายจับในข้อหาชิงทรัพย์ไว้ก่อน

    เมื่อทุกอย่างเริ่มชี้ชัดไปที่การชิงทรัพย์รถเก๋งผู้สูญหาย น.ส.วิจิตรา โสภณ พี่สาวของน.ส.ชณัญธิฎา จึงเข้าร้องทุกข์ต่อพล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ประจำสำนักงานผบ.ตร. ให้ช่วยติดตามคดีอีกทาง ซึ่งพล.ต.ท.ฉลองสั่งการให้กองปราบปรามเข้าร่วมคลี่คลายและตามล่าตัวนายทวีศักดิ์อีกทางหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ข่าวมาว่านายทวีศักดิ์หนีไปกบดานอยู่ที่จ.สตูล <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    การตามล่าตัวนายทวีศักดิ์จึงเริ่มขึ้น



    วันที่ 17 พ.ย. ตำรวจกองปราบปรามภายใต้การนำของพ.ต.อ.วิชิต ปักษา ผกก.2ป. พ.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ สว.กก.2ป. นำกำลังไปควบคุมตัวนายทวีศักดิ์ไว้ได้โดยละม่อม ซึ่งเจ้าตัวให้การรับสารภาพว่าร่วมกับนายฉัตรชัยพี่ชายของตนเอง นายอานนท์ นายวิทยาและนายนพรัตน์วางแผนฆ่าชิงรถผู้ตาย โดยมีนายอานนท์ซึ่งรู้จักกันและเคยทำงานอยู่กับผู้ตายเป็นคนวางแผนชักชวนให้มาทำงานอุ้มฆ่า โดยสัญญาจะแบ่งเงินให้ ส่วนสาเหตุเกิดจากการที่ก่อนหน้านี้นายอานนท์ แอบตั้งบริษัทเพื่อรับเหมาประมูลงานขยะเก่าในแผนก และจะต้องเสนองานไปยังผู้ตายซึ่งเป็นหัวหน้าแผนกเพื่อขออนุมัติ แต่ปรากฏว่าผู้ตายกลับไม่อนุมัติ และยังนำเรื่องดังกล่าวไปบอกกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ซึ่งเป็นการทำผิดระเบียบพนักงาน จึงมีคำสั่งไล่นายอานนท์ออกจากงานจึงเก็บความแค้นไว้ กระทั่งนายอานนท์มาชักชวนให้ไปฆ่าล้างแค้นโดยมีทรัพย์สินของผู้ตายเป็นรางวัลให้

    โดยในวันเกิดเหตุไปดักรอผู้ตายอยู่ที่ถนนใกล้บ้าน ทำทีโบกรถขอโดยสารไปลงที่ตัวเมืองระยองด้วย โดยที่ผู้ตายไม่ได้ระแวงแต่อย่างใด หลังจากนั้นจึงชักปืนจี้ก่อนพามายิงทิ้งกลางไร่มันสำปะหลังจ.ชลบุรี ก่อนขับรถหนีไปทางจ.ราชบุรี แต่ดันมาประสบอุบัติเหตุเสียก่อน จึงทิ้งรถและพากันแยกย้ายหลบหนี

    งานนี้โชคไม่เข้าข้างเพราะดันทำกระเป๋าตังค์หล่นในรถเลยถูกตำรวจตามจับได้

    เจ้าหน้าที่พาตัวนายทวีศักดิ์ไปชี้จุดทิ้งศพทันที

    โดยนายทวีศักดิ์พาไปดูจุดฆ่าและจุดทิ้งศพในป่ากลางไร่มันสำปะหลังหมู่ 2 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งพอไปถึงก็พบศพน.ส.ชณัญธิฎา ถูกฆ่าอยู่ตรงนั้นจริงๆ โดยสภาพศพเหลือแต่โครงกระดูกกับเสื้อผ้าที่สวมใส่เท่านั้น

    เป็นอันว่าเจ้าหน้าที่สามารถสืบรู้ทุกอย่างได้หมดสิ้น!!



    วันถัดมาตำรวจสามารถจับกุมนายฉัตรชัยพี่ชายนายทวีศักดิ์ไว้ได้อีกราย จึงนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณที่เกิดเหตุ

    โดยจุดแรกคือที่หน้าบ้านน.ส.ชณัญธิฎา เลขที่ 199/1 ม.1 ต.เชิงเนิน อ. เมือง จ.ระยอง โดยผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ขับรถปิกอัพนิสสัน สีเขียว หมายเลขทะเบียน 3829 ระยอง มาจอดรอที่หน้าบ้านพัก จนกระทั่งเห็นผู้ตายเดินออกจากบ้านมาขึ้นรถจึงขออาศัยไปด้วย พอสบโอกาสนายวิทยาได้เข้าล็อกคอและผลักผู้ตายเข้าไปนั่งเบาะหลัง และนายนพรัตน์นั่งประกบพร้อมกับใช้ปืนจี้บังคับไม่ให้ขัดขืน

    จากนั้นนายอานนท์ทำหน้าที่เป็นโชเฟอร์ ขับมาได้ประมาณ 500 เมตร จึงเปลี่ยนให้นายฉัตรชัยขับต่อ โดยมีนายทวีศักดิ์ขับรถปิกอัพติดตาม

    ระหว่างทางแก๊งคนร้ายได้ยึดบัตรเอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาระยอง ของผู้ตายและขู่บังคับให้บอกรหัส แต่เมื่อนายวิทยาถือไปกดปรากฏว่าบัตรถูกตู้เอทีเอ็มยึดไป จากนั้นแก๊งคนร้ายขับรถเก๋งของน.ส.ชณัญธิฎามาถึงพื้นที่ม.2 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง ซึ่งเป็นพงหญ้าสูงรกทึบจึงใช้อาวุธปืนยิงน.ส.ชณัญธิฎาและทิ้งศพไว้ตรงนั้น

    สำหรับนาทีสังหารเริ่มจากนายวิทยา ลากตัวน.ส.ชณัญธิฎาลงจากรถ โดยมีนายทวีศักดิ์และนายฉัตรชัยเดินตามไป จากนั้นนายทวีศักดิ์ใช้อาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. จ่อยิงบริเวณท้ายทอย 1 นัด ถูก "ชณัญธิฎา" ทรุดฮวบขาดใจตายทั้งๆ ที่เหยื่อวิงวอนขอชีวิต ก่อนที่นายฉัตรชัยจะปลดสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท และนาฬิกาแล้วพากันเดินขึ้นรถเก๋งหนีไป ส่วนรถเก๋งของผู้ตายมีนายทวีศักดิ์กับนายฉัตรชัยขับเอาไปขายที่จ.ระนอง แต่รถมาประสบเหตุกลางทางเสียก่อน

    ในที่สุดก็ต้องจนมุมแบบกรรมตามสนอง

    ************************************************

    ในยุคพระพุทธศาสนาหลังจากนี้ไป ก็คงมีในลักษณะนี้มากขึ้นมากขึ้น อายุของคนหลังจากนี้ อายุก็จะน้อยลงไปเรื่อยๆ ตามพุทธดำรัสองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จวบจนถึงพระศาสนาครบ 5,000 ปี

    เราทำบุญให้เขา เราก็ได้บุญและสร้างบารมีเช่นกัน ขอโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ

    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ

    http://palungjit.org/showthread.php?p=827218#post827218


    <TABLE class=tborder id=post827218 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead id=currentPost style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 08:56 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1015 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>dharma<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_827218", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 09:11 AM
    วันที่สมัคร: Jul 2007
    ข้อความ: 55 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 616 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 197 ครั้ง ใน 40 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 30 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_827218 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ขอร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งด้วยครับ
    23/11/2550 โอนเงินร่วมทำบุญให้แล้วครับ
    และขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ร่วมในกุศลครั้งนี้ครับ...สาธุ
    [​IMG]<!-- / message --><!-- attachments -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ktb_1.jpg
      ktb_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      7.8 KB
      เปิดดู:
      382
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วิจิตรตระการตาผลงาน “ศิลป์แผ่นดิน”
    http://www.manager.co.th/MetroLife/ViewNews.aspx?NewsID=9500000138375

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>วิจิตรตระการตาผลงาน “ศิลป์แผ่นดิน”</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 พฤศจิกายน 2550 19:59 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ แถลงข่าวงาน “ศิลป์แผ่นดิน ครั้งที่ 5” เนื่องในมหามงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีพุทธศักราช 2549 และมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา พุทธศักราช 2550 ในวันที่ 18 ธ.ค. 50-13 ม.ค. 51 ณ พระที่นังอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 50


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>พระธรรมจักรคร่ำเงินคร่ำทอง, สัปคับพระคชาธาร, รอยพระพุทธบาทถมทอง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ท่านผู้หญิงอรนุช อิศรางกูร ณ อยุธยา ผอ.ฝ่ายจัดจำหน่าย มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ กล่าวถึงการประมูลผลงานโรงฝึกศิลปาชีพ สวนจิตรลดา ว่า ผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพ 81 ชิ้น ล้วนคัดสรรเป็นพิเศษจากฝีมือสมาชิกของโรงฝึก เช่น พระกรัณฑ์ถมตะทอง กระเป๋าราตรีถมทอง กระเป๋าย่านลิเภา ผ้าแพรวา เป็นต้น โดยจะเปิดให้ผู้สนใจร่วมประมูลเข้าชมในวันที่ 14 ธ.ค. 50 ส่วนงานประมูลจะจัดขึ้นในวันที่ 15 ธ.ค. 50 ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม

    “ผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพแต่ละชิ้นเป็นผลงานจากความตั้งใจทุ่มเททั้งยังต้องการให้เห็นฝีมือของชาวไร่ ชาวนาที่เป็นสมาชิกของมูลนิธิซึ่งสามารถสร้างสรรค์ผลงานฝีมือได้อย่างประณีต สวยงาม และอ่อนช้อยซึ่งสมเด็จพระบรมราชินีนาถทรงแนะนำสั่งสอน ด้วยพระองค์ทรงมีสายพระเนตรเล็งเห็นถึงความเป็นศิลปิน และความรักในศิลปะของชาวนา ชาวไร่ที่สามารถถ่ายทอดฝีมือลงในผลงานอันวิจิตรให้คนไทยทุกคนได้ประจักษ์ ซึ่งผลงานทุกชิ้นที่นำมาประมูลได้ผ่านการทอดพระเนตรจากสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถทุกชิ้น และพระองค์รับสั่งให้ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นให้สวยงามที่สุด”

    สำหรับไฮไลต์พิเศษเป็นผ้าไหมแพรวา 3 ผืน สีเขียวไพร สีเทา สีน้ำเงิน ฝีมือชาวภูไท จ.กาฬสินธุ์ ทอถวายสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ซึ่งพระองค์ทรงโปรดมากที่สุด จากนั้นนำผ้าไหมแพรวามาปักอัญมณีต่างๆ อาทิ โรสควอทช์ ไพลิน โกเมน เป็นต้น โดยใช้เวลาปัก 7 เดือน และมีช่างปักเพียง 2 คน แต่ก็ได้มีพระราชเสาวณีย์ให้นำมาประมูล เพราะพระองค์ทรงต้องการให้ผู้อื่นที่เห็นคุณค่าของผ้าไหมแพรวา และชื่นชอบฝีมือการปักผ้าอย่างประณีตได้ครอบครองงานศิลปะชิ้นนี้


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บุษบกมาลา,เรือสำเภาพระมหาชนก,สุพรรณเภตรา</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ท่านผู้หญิงสุภรเพ็ญ หลวงเทพ รองราชเลขานุการในสมเด็จพระบรมราชินีนาถ กล่าวถึงการจัดแสดงนิทรรศการผลงานโรงฝึกศิลปาชีพ ว่า สมเด็จพระบรมราชินีนาถ องค์ประธานมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ จะเสด็จพระราชดำเนินเปิดงานในวันที่ 18 ธ.ค. 50 และจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค. 50-13 ม.ค. 51 เวลา 10.00-18.00 น. ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม บัตรราคา 100 บาทสำหรับบุคคลทั่วไป และราคา 50 บาทสำหรับนักเรียน นักศึกษาในเครื่องแบบ ผู้เข้าชมควรแต่งกายสุภาพ สุภาพสตรีนุ่งกระโปรงหรือผ้าซิ่นและงดถ่ายภาพทุกประเภท

    นอกจากผลงานที่เคยจัดแสดงในงานศิลป์แผ่นดินครั้งที่ผ่านมาแล้ว ยังมีการจัดแสดงผลงานชิ้นเอก 10 ชิ้น ที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่องานนี้ ได้แก่ พระที่นั่งพุดตานถมทอง พระที่นั่งพุดตานคร่ำทอง สีวิกากาญจน์ เรือพระที่นั่งจำลองศรีสุพรรณหงส์ บุษบกห้ายอดไม้แกะสลัก ฉากผ้าปักป่าหิมพานต์ ฉากไม้แกะสลักตำนานเพชรรัตน์ ฉากเขียนสุเรนทรจรจักรวาล ห้องปีกแมลงทับ และม้านิลมังกรไม้แกะสลักแต่งอัญมณี

    อีกทั้งยังมีผลงานชิ้นเอกที่สมาชิกศิลปาชีพฯ พร้อมใจทำถวายเพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ "ธรรมจักรคร่ำเงิน คร่ำทอง" ด้านหนึ่งว่าด้วยเรื่องทศชาติของพระพุทธเจ้าอีกด้านหนึ่งแสดงถึงสิบโครงการในพระราชดำรัสของพระองค์ ซึ่งหมายความถึงวงล้อของพระพุทธศาสนาและโครงการในพระองค์ที่หมุนไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=600>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ผลิตภัณฑ์เครื่องถมทอง ,ท่านผู้หญิงอรนุช,ท่านผู้หญิงสุภรเพ็ญ กับผลงานจากสมาชิกศิลปาชีพฯ ,นายแบบโชว์เสื้อผ้าซึ่งตัดจากผ้าไหม นางแบบกับผ้าไหมแพรวาชิ้นพิเศษ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> สหัส บุญญาวิวัฒน์ ผช.เลขาธิการสำนักพระราชวัง ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ กล่าวถึงรายละเอียดของการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และผลิตผลทางการเกษตรจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ที่เวทีใหม่และเวทีเก่า สวนอัมพรว่า มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพจากสมาชิกทั่วทุกภาค อาทิ ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าไหมแพรวา ผ้าชาวเขาเผ่าต่างๆ ผ้าฝ้ายทอมือสีต่างๆ เสื้อสำเร็จรูปจากผ้าไหมและผ้าฝ้าย ภาพวาด ภาพปัก ย่านลิเภา เสื่อกระจูด จักสานไม้ไผ่ เครื่องปั้นดินเผา ไม้แกะสลัก ดอกไม้ประดิษฐ์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆอีกมากมาย

    ไม่เพียงเท่านี้ยังมีการจำหน่ายผลิตผลทางการเกษตรจากฟาร์มตัวอย่าง สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง และหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงทั่วประเทศ เช่น แฮมจากหมูจินหัว เป็ดอี้เหลียงรมควัน ข้าวชนิดต่างๆ ผัก ผลไม้สดปลอดสารพิษ เป็นต้น

    นอกจากนี้ โรงฝึกศิลปาชีพ สวนจิตรลดา ยังร่วมกับ บจก.ไปรษณีย์ไทย ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต นำภาพผลิตภัณฑ์ชิ้นสำคัญ อาทิ บุษบกมาลา สัปคับพระคชาธาร เรือสุพรรณหงส์ เรืออนันตนาคราช ฯลฯ มาจัดพิมพ์เป็นแสตมป์ชุดพิเศษ จำหน่ายในงานอีกด้วย ดูรายละเอียดได้ที่ www.artsofkingdom.com


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR vAlign=baseline><TD vAlign=top width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD class=hit align=left height=19>ข่าวล่าสุด ในหมวด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD align=left height=19>บันทึกเรื่องราวตามแนวที่ราบสูง ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์เจ้าฟ้าสิรินธร</TD></TR><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD align=left height=19>ชื่นชมความน่ารักของสุนัขทรงเลี้ยง “ในร่มเงาวังสระปทุม”</TD></TR><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD align=left height=19>ความในใจ "ดาโต๊ะ" สื่อผ่านนาฬิกาเทิดพระเกียรติ </TD></TR><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD align=left height=19>เจ้าหญิงองค์ดีไซเนอร์ ทรงส่งต่อการเรียนรู้สู่สาธารณชน</TD></TR><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD align=left height=19>เสน่ห์แห่ง “แจ็ซ” สานสัมพันธ์สองแผ่นดิน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. นายสติ

    นายสติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    910
    ค่าพลัง:
    +4,284
    เมื่อ 2 วันก่อนได้อ่านเจอข่าวที่เซียนพระ ท่าพระจันทร์โดนฆ่าตายอย่าง
    โหดเหี้ยม ในตัวพบพระสมเด็จเก๊ ตั้ง 10 กว่าองค์ ในคอห้อยพระปิดตา
    หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง อ่านแล้วก็สลดใจ นี่ขนาดห้อยพระที่วงการเล่นหากันแต่ผมว่าคงต้องมานั่งวิเคราะห์กันใหม่ว่าพระที่ห้อยนะเป็นพระแท้หรือเปล่าเพราะถ้าเป้นพระปลอม(เก๊)ก็คงช่วยอะไรไม่ได้ แต่ถ้าเป็นพระแท้ก็คงเป็นเพราะถึงคราวตาย(หมดอายุ)อย่างนี้จะไปโทษพระท่านไม่ได้หนา

    แต่ที่แน่ๆไม่ว่าจะห้อยพระที่วงการเล่นหาหรือพระนอกสารบบ เมื่อถึงที่ตายก้ต้องตายทั้งนั้นๆที่แหละของจริงที่เป็นสัจจธรรมและเป็นไปตามกฎแห่งกรรม ไม่มีใครหลีกเลี่ยงพ้น
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.banfun.com/culture/loykrathong.html

    ประเพณีลอยกระทง
    <TABLE style="LINE-HEIGHT: 150%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=580>เทศกาลลอยกระทง


    </TD><TD style="FONT-SIZE: 16pt; FONT-FAMILY: CordiaUPC" vAlign=top width=100 rowSpan=19></TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580 bgColor=#eaffea>
    ประวัติความเป็นมา


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580>คติที่มาเกี่ยวกับวันลอยกระทงมีอยู่หลายตำนาน ดังนี้
    1. การลอยกระทง เพื่อขอขมาแก่พระแม่คงคา
    2. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระผู้เป็นเจ้าตามคติพราหมณ์ คือบูชาพระนารายณ์ซึ่งบรรทมสินธุ์อยู่ในมหาสมุทร
    3. การลอยกระทง เพื่อต้อนรับพระพุทธเจ้า ในวันเสด็จกลับจากเทวโลก เมื่อครั้งเสด็จไปจำพรรษาอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อทรงเทศนาอภิธรรมโปรดพระพุทธมารดา
    4. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระพุทธบาท ของพระพุทธเจ้า ที่หาดทรายริมแม่น้ำนัมมทานที เมื่อคราวเสด็จไปแสดงธรรมโปรดในนาคพิภพ
    5. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระจุฬามณีบนสวรรค์ ซึ่งเป็นที่บรรจุพระเกศาของพระพุทธเจ้า
    6. การลอยกระทง เพื่อบูชาท้าวพกาพรหม บนสวรรค์ชั้นพรหมโลก
    7. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระอุปคุตตะเถระ ซึ่งบำเพ็ญเพียรบริกรรมคาถาอยู่ในท้องทะเลลึกหรือสะดือทะเล


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580 bgColor=#eaffea>
    ประวัติการลอยกระทงในเมืองไทย


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580>การลอยกระทงในเมืองไทย มีมาตั้งแต่ครั้งสุโขทัย เรียกว่า การลอยพระประทีป หรือ ลอยโคม เป็นงานนักขัตฤกษ์รื่นเริงของประชาชนทั่วไป ต่อมานางนพมาศหรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์สนมเอกของพระร่วง ได้คิดประดิษฐ์ดัดแปลงเป็นรูปกระทงดอกบัวแทนการลอยโคม การลอยกระทงหรือลอยโคมในสมัยนางนพมาศ กระทำเพื่อเป็นการสักการะรอยพระพุทธบาทที่แม่น้ำนัมมทานที ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหนึ่งอยู่ในแคว้นทักขิณาบถของประเทศอินเดีย ปัจจุบันเรียกว่า แม่น้ำเนรพุททา



    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580 bgColor=#eaffea>
    การลอยกระทงเพื่อบูชารอยพระพุทธบาท


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580>รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า ที่ไปปรากฏอยู่ริมฝั่งแม่น้ำนัมมทานที มีความเป็นมาเกี่ยวข้องกับพุทธประวัติ คือ ครั้งหนึ่งพญานาคทูลอาราธนาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้เสด็จไปแสดงธรรมโปรดในนาคพิภพ เมื่อพระองค์จะเสด็จกลับ พญานาคทูลขออนุสาวรีย์ไว้กราบไหว้บูชา พระพุทธองค์จึงทรงประดิษฐานรอบพระพุทธบาทไว้ที่หาดทราย ริมฝั่งแม่น้ำนัมมทานที เพื่อให้บรรดานาคทั้งหลายได้สักการะ บูชา
    การลอยกระทงที่มีความเป็นมาเกี่ยวข้องกับพุทธประวัติ ยังมีอีก 2 เรื่อง คือ
    1. การลอยกระทงเพื่อบูชาพระจุฬามณีบนสวรรค์ และ
    2. การลอยกระทงเพื่อต้อนรับพระพุทธองค์ในวันที่เสด็จกลับจากเทวโลก


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580 bgColor=#eaffea>
    ตำนานการลอยกระทงเพื่อบูชาพระจุฬามณี


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580>เมื่อครั้งที่เจ้าชายสิทธัตถะ เสด็จออกจากพระนครกบิลพัสดุ์ในเวลากลางคืนด้วยม้ากัณฐกะ พร้อมนายฉันทะมหาดเล็กผู้ตามเสด็จ ครั้นรุ่งอรุณก็ถึงฝั่งแม่น้ำอโนมานที เจ้าชายทรงขับม้ากัณฐกะกระโจนข้ามแม่น้ำไปโดยสวัสดี
    เมื่อทรงทราบว่าพ้นเขตกรุงกบิลพัสดุ์แล้ว เจ้าชายสิทธัตถะจึงเสด็จลงประทับเหนือหาดทรายขาวสะอาด ตรัสให้นายฉันทะนำเครื่องประดับและม้ากัณฐกะกลับพระนคร ทรงตั้งพระทัยปรารภจะบรรพชา โดยเปล่งวาจา "สาธุ โข ปพฺพชฺชา" แล้ว จึงทรงจับพระเมาลีด้วยพระหัตถ์ซ้าย พระหัตถ์ขวาทรงพระขรรค์ตัดพระเมาลี แล้วโยนขึ้นไปบนอากาศ พระอินทร์ได้นำผอบทองมารองรับพระเมาลีไว้ และนำไปบรรจุยังพระจุฬามณีเจดียสถานในเทวโลก
    พระจุฬามณีตามปกติมีเทวดาเหาะมาบูชาเป็นประจำแม้พระศรีอริยเมตไตรยเทวโพธิสัตว์ซึ่งในอนาคต จะมาจุติบนโลกและตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งก็ยังเสด็จมาไหว้ การลอยกระทงเพื่อบูชาพระจุฬามณี จึงถือเป็นการไหว้บูชาพระศรีอริยไตรยด้วย


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580 bgColor=#eaffea>
    ตำนานการลอยกระทง เพื่อต้อนรับพระพุทธเจ้าเสด็จกลับจากเทวโลก


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580>เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกบวชจนได้บรรลุธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว หลังจากเผยพระธรรมคำสั่งสอนแก่สาธุชนโดยทั่วไปได้ระยะหนึ่ง จึงเสด็จไปจำพรรษาอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อทรงเทศนาธรรมโปรดพระพุทธมารดา ครั้งจำพรรษาจนครบ 3 เดือน พระองค์จึงเสด็จกลับลงสู่โลกมนุษย์ เมื่อท้าวสักกเทวราชทราบพุทธประสงค์ จึงเนรมิตบันไดทิพย์ขึ้น อันมี บันไดทอง บันไดเงิน และบันไดแก้ว ทอดลงสู่ประตูเมืองสังกัสสนคร บันไดแก้วนั้นเป็นที่ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จลง บันไดทองเป็นที่สำหรับเทพยดาทั้งหลายตามส่งเสด็จ บันไดเงินสำหรับพรหมทั้งหลายส่งเสด็จ
    ในการเสด็จลงสู่โลกมนุษย์ครั้งนี้ เหล่าทวยเทพและประชาชนทั้งหลาย ได้พร้อมใจกันทำ การสักการบูชาด้วยทิพย์บุปผามาลัย การลอยกระทงตามคตินี้ จึงเป็นการรับเสด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจากดาวดึงส์พิภพ (เป็นตำนานเดียวกับประเพณีการตักบาตรเทโวรับเสด็จพระพุทธองค์ลงจากดาวดึงส์)

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580 bgColor=#eaffea>การลอยกระทง เพื่อบูชาพระนารายณ์บรรทมสินธุ์

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580>ยังมีพิธีการลอยกระทงตามคติพราหมณ์อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งกระทำเพื่อบูชาพระผู้เป็นเจ้า คือ พระนารายณ์ที่บรรทมสินธุ์อยู่ในมหาสมุทร นิยมทำกันในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 หรือ วันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 เป็น 2 ระยะ จะทำในกำหนดใดก็ได้



    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580 bgColor=#eaffea>
    ตำนานการลอยกระทง เพื่อบูชาท้าวพกาพรหม


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580>นิทานต้นเหตุเกี่ยวกับอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ เป็นนิทานชาวบ้าน กล่าวถึงเมื่อครั้งดึกดำบรรพ์ มีกาเผือกสองตัวผัวเมียทำรังอยู่บนต้นไม้ในป่าหิมพานต์ใกล้ฝั่งแม่น้ำ วันหนึ่งกาตัวผู้ออกไปกากินแล้วหลงทานกลับรังไม่ได้ ปล่อยให้นางกาตัวเมียซึ่งกกไข่อยู่ 5 ฟองรอด้วยความกระวนกระวายใจ จนมีพายุใหญ่พัดรังกระจัดกระจาย ฟองไข่ตกลงน้ำ แม่กาถูกลมพัดไปทางหนึ่ง
    เมื่อแม่กาย้อนกลับมามีรังไม่พบฟองไข่ จึงร้องไห้จนขาดใจตาย ไปเกิดเป็นท้าวพกาพรหมอยู่ในพรหมโลก ฟองไข่ทั้ง 5 นั้นลอยน้ำไปในสถานที่ต่างๆ บรรดาแม่ไก่ แม่นาค แม่เต่า แม่โคและแม่ราชสีห์ มาพบเข้า จึงนำไปรักษาไว้ตัวละ 1 ฟอง ครั้งถึงกำหนดฟักกลับกลายเป็นมนุษย์ทั้งหมดไม่มีฟองไหนเกิดมาเป็นลูกกาตามชาติกำเนิดเลย กุมารทั้ง 5 ต่างเห็นโทษภัยในการเป็นฆราวาสและเห็นอานิสงส์ในการบรรพชา จึงลามารดาเลี้ยงไปบวชเป็นฤาษีทั้ง 5 ได้มีโอกาสพบปะกันและถามถึงนามวงศ์และมารดาของกันและกัน จึงทราบว่าเป็นพี่น้องกัน ฤาษีทั้ง 5 มีนามดังนี้
    คนแรก ชื่อ กกุสันโธ (วงศ์ไก่)
    คนที่สอง ชื่อ โกนาคมโน (วงศ์นาค)
    คนที่สาม ชื่อ กัสสโป (วงศ์เต่า)
    คนที่สี่ ชื่อ โคตโม (วงศ์โค)
    คนที่ห้า ชื่อ เมตเตยโย (วงศ์ราชสีห์)
    ต่างตั้งจิตอธิษฐาน ว่าถ้าต่อไปจะได้ไปเกิดเป็นพระพุทธเจ้า ขอให้ร้อนไปถึงมารดา ด้วยแรงอธิษฐาน ท้าวพกาพรหมจึงเสด็จมาจากเทวโลก จำแลงองค์เป็นกาเผือก แล้วเล่าเรื่องราวแต่ทนหลังให้ฟัง พร้อมบอกว่าถ้าคิดถึงมารดา เมื่อถึงเพ็ญเดือน 11 เดือน 12 ให้เอาด้ายดิบผูกไม้ตีนกา ปักธูปเทียนบูชาลอยกระทงในแม่น้ำ ทำอย่างนี้เรียกว่าคิดถึงมารดา แล้วท้าวพกาพรหมก็ลากลับไป
    ตั้งแต่นั้นมา จึงมีการลอยกระทงเพื่อบูชาท้าวพกาพรหม แล้วเพื่อบูชารอยพระบาท ซึ่งประดิษฐานอยู่ริมฝั่งแม่น้ำนัมมทานที ส่วนฤาษีทั้ง 5 ต่อมาได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ดังนี้
    ฤาษีองค์แรก กกุสันโธ ได้แก่ พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า พระกกุสันโธ
    ฤาษีองค์ที่สอง โกนาคมโน ได้แก่ พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า พระโกนาคมน์
    ฤาษีองค์ที่สาม กัสสโป ได้แก่ พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า พระกัสสปะ
    ฤาษีองค์ที่สี่ โคตโม ได้แก่ พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า พระสมณโคดม
    ฤาษีองค์ที่ห้า เมตเตยโย ได้แก่ พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า พระศรีอาริยเมตไตรย
    พระพุทธเจ้า 3 พระองค์แรก ได้มาบังเกิดบนโลกแล้วในอดีตกาล พระพุทธเจ้าองค์ที่ 4 คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน พระพุทธเจ้าองค์ที่ 5 คือ พระพุทธเจ้าที่จะมาบังเกิดบนโลกในอนาคต ได้แก่ พระศรีอาริยเมตไตรย


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580 bgColor=#eaffea>
    ตำนานการลอยกระทง เพื่อบูชาพระอุปคุตต์


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580>การลอยกระทงเพื่อบุชาพระอุปคุตต์นี้ เป็นประเพณีของชาวเหนือและชาวพม่า พระอุปคุตต์เป็นพระอรหันต์เถระหลังสมัยพุทธกาล โดยมีตำนานความเป็นมาดังนี้
    เมื่อพระเจ้าอโศกมหาราช ทรงมีพระราชศรัทธาในพระพุทธศาสนา ได้โปรดให้สร้างพระสถูปเจดีย์และพุทธวิหารขึ้นทั่วชมพูทวีป มหาวิหารที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ "อโศการาม" ซึ่งตั้งอยู่ในเขตแคว้นมคธ หลังจากที่สร้างพระสถูปเจดีย์ถึง 84,000 องค์สำเร็จแล้ว พระเจ้าอโศกทรงมีพระราชประสงค์จะนำพระบรมสารีริกธาตุของสัมมาสัมพุทธเจ้า ไปบรรจุในในพระสถูปต่างๆ และบรรจุในพระมหาสถูปองค์ใหญ่ที่สร้างขึ้นใหม่มีความสูงประมาณครึ่งโยชน์ และประดับประดาด้วยแก้วต่างๆ ประดิษฐานอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคงคาให้ปาฎลีบุตร อีกทั้งต้องการให้มีการเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่เป็นเวลา 7 ปี 7 เดือน 7 วัน
    แต่ด้วยเกรงว่าพญามารจะมาทำลายพิธีฉลอง มีเพียงพระอุปคุตต์ที่ไปจำศีลอยู่ในสะดือทะเลเพียงท่านเดียวเท่านั้น ที่จะสามารถปราบพญามารได้ เมื่อพระอุปคุตต์ปราบพญามารจนสำนึกตัวหันมายึดเอาพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งแล้ว พระอุปคุตต์จึงลงไปจำศีลอยู่ในสะดือทะเลตามเดิม
    พระอุปคุตต์นี้ไทยเรียกว่า พระบัวเข็ม ชาวไทยเหนือหรือชาวอีสานและชาวพม่านับถือพระอุปคุตต์มาก ชาวพม่าไม่ว่าจะมีงานอะไรเป็นต้องนิมนต์มาเช้าพิธีด้วยเสมอ ไทยเราใช้บูชาในพิธีขอฝนหรือพิธีมงคล ฯลฯ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.banfun.com/culture/loykrathong2.html

    <TABLE style="LINE-HEIGHT: 150%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=580>เทศกาลลอยกระทง


    </TD><TD style="FONT-SIZE: 16pt; FONT-FAMILY: CordiaUPC" vAlign=top width=100 rowSpan=19></TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580 bgColor=#eaffea>
    การลอยกระทงของชาวเหนือ (ยี่เป็ง)


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580>การลอยกระทงของชาวเหนือ นิยมทำกันในเดือนยี่เป็ง (คือเดือนยี่หรือเดือนสอง เพราะนับวันเร็วกว่าของเรา 2 เดือน) เพื่อบูชาพระอุปคุตต์ซึ่งเชื่อกันว่าท่านบำเพ็ญบริกรรมคาถาอยู่ในท้องทะเลลึก หรือสะดือทะเล ตรงกับคติของชาวพม่า



    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580 bgColor=#eaffea>
    การลอยกระทงของชาวอีสาน (ไหลเรือไฟ)


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580>การลอยกระทงในภาคอีสาน เรียกว่าเทศกาลไหลเรือไฟจัดเป็นประเพณียิ่งใหญ่ในจังหวัดนครพนม โดยการนำหยวกกล้วยหรือวัสดุต่างๆ มาตกแต่งเป็นรูปพญานาคและรูปอื่นๆ ตอนกลางคืนจุดไฟปล่อยให้ไหลไปตามลำน้ำโขงดูสวยงามตระการตา
    นอกจากนี้ยังมีประเพณีลอยกระทงในประเทศต่างๆ เช่นที่เขมร จีน อินเดีย โดยมีคติความเชื่อและประวัติความเป็นมาตรงกันบ้างแตกต่างกันไปบ้าง


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580 bgColor=#eaffea>
    การลอยกระทงในปัจจุบัน


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580>การลอยกระทงในปัจจุบัน ยังคงรักษารูปแบบเดิมเอาไว้ได้ตามสมควร เมื่อถึงวันเพ็ญพระจันทร์เต็มดวงในเดือน 12 ชาวบ้านจะจัดเตรียมทำกระทงจากวัสดุที่หาง่ายตามธรรมชาติ เช่น หยวกกล้วยและดอกบัว นำมาประดิษฐ์เป็นกระทงสวยงาม ปักธูปเทียนและดอกไม้เครื่องสักการบูชา ก่อนทำการลอยในแม่น้ำก็จะอธิษฐานในสิ่งที่มุ่งหวัง พร้อมขอขมาต่อพระแม่คงคา
    ตามคุ้มวัดหรือสถานที่จัดงานหลายแห่ง มีการประกวดกระทง ประกวดนางนพมาศ และมีมหรสพสมโภชในตอนกลางคืน นอกจากนั้นยังมีการจุดดอกไม้ไฟ พลุ ตะไล ซึ่งในการเล่นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
    วัสดุที่นำมาใช้กระทง ควรเป็นของที่สามารถย่อยสลายได้ง่ายตามธรรมชาติ

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580 bgColor=#eaffea>เทศกาลเผาเทียนเล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580>งานลอยกระทงที่ยิ่งใหญ่จัดขึ้นที่จังหวัดสุโขทัยเป็นงานระดับประเทศ เรียกว่า เทศกาลเผาเทียนเล่นไฟ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศไปร่วมสนุกสนานกันเป็นประจำมากทุกปี



    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580 bgColor=#eaffea>
    พิธีจองเปรียงเทศกาลลอยกระทงของสุโขทัยในสมัยโบราณ


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580>ในหนังสือตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์ ได้กล่าวถึงพิธีจองเปรียงไว้ดังนี้
    พอถึงการพระราชพิธีจองเปรียงในวันเพ็ญเดือน 12 เป็นนักขัตฤกษ์ชักโคมลอยบรรดาประชาชนชายหญิงต่างตกแต่งโคมชักโคมแขวนโคมลอยทุกตระกูลทั่วทั้งพระนคร แล้วก็ชวนกันเล่นมหรสพสิ้นสามราตรีเป็นเยี่ยงอย่าง แต่บรรดาข้าเฝ้าฝ่ายราชบุรุษนั้น ต่างทำโคมประเทียบบริวารวิจิตรด้วยลวดลายวาดเขียนเป็นรูปสัณฐานต่างๆ ประกวดกันมาชักมาแขวนเป็นระเบียบเรียบราบตามแนวโคมชัยเสาระหงตรงหน้าพระที่นั่งชลพิมาน ถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงพระราชอุทิศสักการพระมหาเกศธาตุจุฬามณีในชั้นดาวดึงส์
    ฝ่ายพระสนมกำนัลก็ทำโคมลอยร้อยด้วยบุปผชาติเป็นรูปต่างๆ ประกวดกันถวายให้ทรงอุทิศบูชาพระพุทธบาทซึ่งประดิษฐานยังนัมมทานทีแลข้าน้อย(นางนพมาศ) ก็กระทำโคมลอยคิดตกแต่งให้งามประหลาดกว่าโคมพระสนมกำนัลทั้งปวง
    ครั้นเวลาพลบค่ำ สมเด็จพระร่วงเจ้าเสด็จลงพระที่นั่งชลพิมานพร้อมด้วยอัครชายา พระบรมวงศ์และพระสนมกำนัลนางท้าวชาวชะแม่ทั้งปวง พราหมณ์ก็ถวายเสียงสังข์อันเป็นมงคล ชาวพนักงานก็ชักสายโคมชัยโคมประเทียบบริวารขึ้นพร้อมกัน เพื่อจะให้ทรงพระราชอุทิศสักการบุชาพระจุฬามณี ฝ่ายนางท้าวชาวชะแม่ก็ลอยโคมพระราชเทพี พระวงศานุวงศ์โคมพระสนมกำนัล ก็เป็นลำดับกันลงมา ถวายให้ทอดพระเนตรและทรงพระราชอุทิศ
    ครั้นถึงโคมรูปดอกกระมุทของข้าน้อย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทอดพระเนตร พลางทางตรัสชมว่าโคมลอยอย่างนี้วามประหลาด ยังหาเคยมีไม่ เป็นโคมของผู้ใดคิดกระทำ ท้าวศรีราชศักดิโสภาก็กราบบังคมทูลว่าโคมของนพมาศธิดาพระศรีมโหสถ..... ครั้นสมเด็จพระร่วงเจ้าทรงสดับ ก็ดำรัสว่าข้าน้อยนี้มีปัญญาฉลาดสมกับที่เกิดในตระกูลนักปราชญ์..... จึงมีพระราชบริหารบำหยัดสาปสรรว่า แต่นี้สืบไปเบื้องหน้า โดยลำดับกษัตริย์ในสยามประเทศ ถึงการกำหนดนักขัตฤกษ์วันเพ็ญเดือน 12 พระราชพิธีจองเปรียงแล้วก็ให้กระทำโคมลอยเป็นรูปดอกกระมุทอุทิศ สักการบูชาพระพุทธบาทนัมมทานทีตราบเท่ากัลปาวสาน อันว่าโคมลอยรูปดอกกระมุท (ดอกบัว) ก็ปรากฏมาจนเท่าทุกวันนี้.......

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580 bgColor=#eaffea>บทส่งท้าย

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580>ประเพณีการลอยกระทง น่าจะเป็นคติของชนชาติที่ประกอบกสิกรรม ซึ่งต้องมีน้ำเป็นปัจจัยสำคัญ เมื่อพืชพันธุ์ธัญญาหารเจริญงอกงามอุดมสมบูรณ์ จึงมีการลอยกระทงไปตามกระแสน้ำ เพื่อขอบคุณพระแม่คงคาหรือเทพเจ้าแห่งน้ำ อีกทั้งเป็นการแสดงความคารวะขออภัยที่ได้ลงอาบ หรือปล่อยสิ่งปฏิกูลลงน้ำ ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม รวมทั้งเป็นการบูชาเทพเจ้าตลอดจนรอยพระพุทธบาท พระเจดีย์จุฬามณีฯลฯ ตามคติความเชื่อ
    หลังจากทำพิธีลอยกระทงแล้ว ก็จัดให้มีการละเล่นรื่นเริงสนุกสนาน เช่น การละเล่นพื้นเมือง การเล่นเพลงเรือ รำวงฯลฯ อันเป็นธรรมเนียมประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่ครั้งโบราณ

    ความมุ่งหมายของการลอยกระทงมีอยู่หลายประการ เช่น การขอขมาต่อพระแม่คงคาการบูชารอบพระพุทธบาท การลอยเคราะห์โรคภัยและทุกข์โศกให้ไหลไปกับสายน้ำ ฯลฯ กิจกรรมดังกล่าวนี้จะจัดขึ้นในเดือน 12 โดยนับวันตามจันทรคติ หรือราวเดือนพฤศจิกายน
    กิจกรรมต่างๆ ที่ควรปฏิบัติในวันลอยกระทง
    1. นำกระทงไปลอยตามแม่น้ำลำคลอง หรือตามแหล่งน้ำที่มีการจัดพิธี
    2. ให้การสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ในวันลอยกระทง เช่น การประกวดกระทง ประกวดนางนพมาศ การละเล่นพื้นเมือง เช่น รำวง เพลงเรือ เพื่อสืบสานวัฒนธรรมไทย
    3. จัดนิทรรศการ หรือพิธีการลอยกระทง เพื่อเผยแพร่และอนุรักษ์ประเพณีไทย
    4. จัดรณรงค์ให้มีการใช้วัสดุจากธรรมชาติมาทำกระทง เพื่อไม่ให้เกิดมลภาวะแก่แม่น้ำลำคลอง


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580 bgColor=#eaffea>
    สรุปเหตุผลในการลอยกระทง

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=580>1. เพื่อขอขมาแก่พระแม่คงคา เพื่อบูชารอยพระพุทธบาทและบูชาเทพเจ้า ตามคติความเชื่อ
    2. เพื่อรักษาขนบธรรมเนียมของไทยไว้ มิให้สูญหายไปตามกาลเวลา
    3. เพื่อรู้ถึงคุณค่าของน้ำหรือแม่น้ำลำคลอง อันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.banfun.com/buddha/kama.html


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780><TBODY><TR><TD width=620>คำขอขมาพระรัตนตรัย

    </TD><TD width=80 rowSpan=2></TD></TR><TR><TD width=620>นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุท ธัสสะฯ
    ( ว่า ๓ จบ )

    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต
    อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต
    อุกาสะ ขะมามิ ภันเต ฯ

    ( ถ้าหลายคนว่า.... ขะมะตุ โน ภันเต, ฯลฯ,....
    ขะมะตุ โน ภันเต, อุกาสะ ขะมามิ ภันเต ฯ )
    <CENTER></CENTER>หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยทางกาย หรือทางวาจาก็ดี และด้วยเจตนา หรือไม่มีเจตนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดอดโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่นิพพานด้วยเทอญ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.banfun.com/buddha/rattanatri.html

    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="100%" bgColor=#ccffff colSpan=2>
    คำบูชาพระรัตนตรัย ​
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%"> </TD><TD vAlign=top width="50%"></TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%">
    • อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ. (กราบ)
    • สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, ธัมมังนะมัสสามิ. (กราบ)
    • สุปะฏิปปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สังฆัง นะมามิ. (กราบ)
    </TD><TD vAlign=top width="50%">
    • พระผู้มีพระภาคเจ้า, เป็นพระอรหันต์ดับเพลิงกิเลสเพลิงทุกข์สิ้นเชิง ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
      ข้าพเจ้าขออภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้า, ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน (กราบ)
    • พระธรรมเป็นธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้า, ตรัสไว้ดีแล้ว , ข้าพเจ้าขอนมัสการ พระธรรม (กราบ)
    • พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า, ปฏิบัติดีแล้ว ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระสงฆ์ (กราบ)
    </TD></TR><TR><TD width="100%" bgColor=#ccffff colSpan=2>
    บทสวดนมัสการนอบน้อมบูชาพระพุทธเจ้า ​
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%"> </TD><TD vAlign=top width="50%"></TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%">
    • นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต, อะระหะโต, สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ )
    </TD><TD vAlign=top width="50%">
    • ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้น ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส เป็นผู้ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง โดยชอบ (กราบ)
    </TD></TR><TR><TD width="100%" bgColor=#ccffff colSpan=2>
    บทสวดพุทธานุสสติ ​
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%"> </TD><TD vAlign=top width="50%"></TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%">
    • อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ, วิชชาจะระณะสัมปันโน, สุขโต โลกะวิทู, อนุตตะโร ปุริสสะทัมมะสาระถิ,สัตถา เทวะมะนุสสานัง, พุทโธ ภะคะวาติ (กราบ)
    </TD><TD vAlign=top width="50%">
    • เพราะเหตุอย่างนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นเป็นผู้ไกลจากกิเลส และตรัสรู้ด้วยพระองค์เองโดยชอบ
      เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะเป็นผู้ไปแล้วด้วยดี เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง
      เป็นผู้สามารถผฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า
      เป็นครูผู้สอนของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานด้วยธรรม เป็นผู้มีความเจริญ เป็นผู้จำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์ดังนี้.
    </TD></TR><TR><TD width="100%" bgColor=#ccffff colSpan=2>
    บทสวดสรรเสริญพระพุทธคุณ ทำนองสรภัญญะ ​
    </TD></TR><TR><TD width="100%" colSpan=2>
    <CENTER><TABLE width="80%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width="50%"> (นำ) องค์ใดพระสัมพุทธ (รับพร้อมกัน)
    ตัดมูลเกลศมาร
    หนึ่งในพระทัยท่าน
    ราคี บ พันพัว
    องค์ใดประกอบด้วย
    โปรดหมู่ประชากร
    ชี้ทางบรรเทาทุกข์
    ชี้ทางพระนฤพาน
    พร้อมเบญจพิธจัก-
    เห็นเหตุที่ใกล้ไกล
    กำจัดน้ำใจหยาบ
    สัตว์โลกได้พึ่งพิง
    ข้าขอประณตน้อม
    สัมพุทธการุญ-
    </TD><TD vAlign=top width="50%">สุวิสุทธสันดาน
    บ มิหม่นมิหมองมัว
    ก็เบิกบานคือดอกบัว
    สุวคนธกำจร
    พระกรุณาดังสาคร
    มละโอฆกันดาร
    และชี้สุขเกษมสานต์
    อันพ้นโศกวิโยคภัย
    ษุจรัสวิมลใส
    ก็เจนจบประจักษ์จริง
    สันดานบาปแห่งชายหญิง
    มละบาปบำเพ็ญบุญ
    ศิรเกล้าบังคมคุณ
    ญภาพนั้นนิรันดร (กราบ)</TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>​
    </TD></TR><TR><TD width="100%" bgColor=#ccffff colSpan=2>
    บทสวดธัมมานุสสติ ​
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%"> </TD><TD vAlign=top width="50%"></TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%">
    • สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, สันทิฏฐิโก, อะกาลิโก, เอหิปัสสิโก, โอปะนะยิโก, ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหี ติ (กราบ)
    </TD><TD vAlign=top width="50%">
    • พระธรรม ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติพึงเห็นได้ด้วยตนเอง
      เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ และให้ผลได้ ไม่จำกัดกาล เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกับผู้อื่นว่าท่านจงมาดูเถิด
      เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว เป็นสิ่งที่ผู้รู้พึงรู้ได้เฉพาะตน ดังนี้
    </TD></TR><TR><TD width="100%" bgColor=#ccffff colSpan=2>
    บทสวดสรรเสริญพระธรรมคุณ ทำนองสรภัญญะ ​
    </TD></TR><TR><TD width="100%" colSpan=2>
    <CENTER><TABLE width="80%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width="50%"> (นำ) ธรรมะคือคุณากร</TD><TD vAlign=top width="50%">(รับพร้อมกัน) ส่วนชอบสาธร </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%">ดุจดวงประทีปชัชวาล</TD><TD vAlign=top width="50%"></TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%"> แห่งองค์พระศาสดาจารย์ </TD><TD vAlign=top width="50%">ส่องสัตว์สันดาน </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%">สว่างกระจ่างใจมล</TD><TD vAlign=top width="50%"></TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%"> ธรรมใดนับโดยมรรคผล </TD><TD vAlign=top width="50%">เป็นแปดพึงยล </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%">และเก้านับทั้งนฤพาน</TD><TD vAlign=top width="50%"></TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%"> สมญาโลกอุดรพิสดาร </TD><TD vAlign=top width="50%">อันลึกโอฬาร</TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%">พิสุทธิ์พิเศษสุกใส</TD><TD vAlign=top width="50%"></TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%"> อีกธรรมต้นทางครรไล</TD><TD vAlign=top width="50%">นามขนานขานไข</TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%">ปฏิบัติปริยัติเป็นสอง</TD><TD vAlign=top width="50%"></TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%"> คือทางดำเนินดุจครอง</TD><TD vAlign=top width="50%">ให้ล่วงลุปอง</TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%">ยังโลกอุดรโดยตรง</TD><TD vAlign=top width="50%"></TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%"> ข้าขอโอนอ่อนอุตมงค์ </TD><TD vAlign=top width="50%">นบธรรมจำนง</TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%">ด้วยจิตและกายวาจาฯ (กราบ)
    </TD><TD vAlign=top width="50%"></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>​
    </TD></TR><TR><TD width="100%" bgColor=#ccffff colSpan=2>
    บทสวดสังฆานุสสติ ​
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%"> </TD><TD vAlign=top width="50%"></TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%">
    • สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
      ยะทิทัง, จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐปุริสปุคคะลา, เอสะ ภะคะวะโต สาวะกสังโฆ อาหุเนยโย,
      ปาหุเนยโย, ทักขิเนยโย, อัญชะลีกะระณีโย, อนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ (กราบ)
    </TD><TD vAlign=top width="50%">
    • พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า หมู่ใด, ปฏิบัติดีแล้ว
      พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า หมู่ใด, ปฏิบัติตรงแล้ว
      พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า หมู่ใด, ปฏิบัติธรรมเป็นเครื่องออกจากทุกข์แล้ว
      พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า หมู่ใด, ปฏิบัติสมควรแล้ว
      ได้แก่ บุคคลเหล่านี้คือ คู่แห่งบุรุษ ๔ คู่ นับเรียงตัวบุรุษได้ ๘ บุรุษ นั่นแหละพระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ท่านเป็นผู้ควรแก่สักการะที่เขานำมาบูชา เป็นผู้ควรแก่สักการะที่เขาจัดไว้ต้อนรับ
      เป็นผู้ควรรับทักษิณาทาน เป็นผู้ที่บุคคลทั่วไปควรทำอัญชลี เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ดังนี้ (กราบ)
    </TD></TR><TR><TD width="100%" bgColor=#ccffff colSpan=2>
    บทสวดสรรเสริญพระสังฆคุณ ทำนองสรภัญญะ ​
    </TD></TR><TR><TD width="100%" colSpan=2>
    <CENTER><TABLE width="80%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width="50%"> (นำ) สงฆ์ใดสาวกศาสดา </TD><TD vAlign=top width="50%">(รับพร้อมกัน) รับปฏิบัติมา</TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%">แต่องค์สมเด็จภควันต์ </TD><TD vAlign=top width="50%"></TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%"> เห็นแจ้งจตุสัจเสร็จบรร- </TD><TD vAlign=top width="50%">ลุทางที่อัน</TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%">ระงับและดับทุกข์ภัย </TD><TD vAlign=top width="50%"></TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%"> โดยเสด็จพระผู้ตรัสไดร </TD><TD vAlign=top width="50%">ปัญญาผ่องใส</TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%">สะอาดและปราศมัวหมอง </TD><TD vAlign=top width="50%"></TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%"> เหินห่างทางข้าศึกปอง </TD><TD vAlign=top width="50%">บ มิลำพอง</TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%">ด้วยกายและวาจาใจ </TD><TD vAlign=top width="50%"></TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%"> เป็นเนื้อนาบุญอันไพ- </TD><TD vAlign=top width="50%">ศาลแด่โลกัย</TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%">และเกิดพิบูลย์พูนผล </TD><TD vAlign=top width="50%"></TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%"> สมญาเอารสทศพล </TD><TD vAlign=top width="50%">มีคุณอนนต์</TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%">อเนกจะนับเหลือตรา </TD><TD vAlign=top width="50%"></TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%"> ข้าขอนพหมู่พระศรา- </TD><TD vAlign=top width="50%">พกทรงคุณา-</TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%">นุคุณประดุจรำพัน </TD><TD vAlign=top width="50%"></TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%"> ด้วยเดชบุญข้าอภิวันท์ </TD><TD vAlign=top width="50%">พระไตรรัตน์อัน</TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%">อุดมดิเรกนิรัติศัย </TD><TD vAlign=top width="50%"></TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%"> จงช่วยขจัดโพยภัย </TD><TD vAlign=top width="50%">อันตรายใดใด</TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%">จงดับและกลับเสื่อมสูญ (กราบ)
    </TD><TD vAlign=top width="50%"></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>​
    </TD></TR><TR><TD width="100%" bgColor=#ccffff colSpan=2> </TD></TR><TR><TD width="100%" colSpan=2>
    <CENTER><TABLE width="80%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width="50%"> กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา,
    พุทเธ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง,
    พุทโธ ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง,
    กาลันตะเร สังวะริตุง วะ พุทเธ,</TD><TD vAlign=top width="50%"> ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี กรรมน่าติเตียนอันใดที่ข้าพเจ้ากระทำแล้ว
    ในพระพุทธเจ้า, ขอพระพุทธเจ้า จงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น เพื่อสำรวมระวัง ในพระพุทธเจ้าในกาลต่อไป.
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%"> กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา,
    ธัมเม กุกัมมัง ปะกะตัง มายา ยัง,
    ธัมโม ปฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง,
    กาลันตะเร สังวะริตุง วะ ธัมเม</TD><TD vAlign=top width="50%"> ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี กรรมน่าติเตียนอันใดที่ข้าพเจ้ากระทำแล้ว
    ในพระธรรม, ขอพระธรรม จงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น เพื่อสำรวมระวัง ในพระธรรมในกาลต่อไป.
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%"> กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา,
    สังเฆ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง,
    สังโฆ ปฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง,
    กาลันตะเร สังวะริตุง วะ สังเฆ</TD><TD vAlign=top width="50%"> ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี กรรมน่าติเตียนอันใดที่ข้าพเจ้ากระทำแล้ว
    ในพระสงฆ์, ขอพระสงฆ์ จงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น เพื่อสำรวมระวัง ในพระสงฆ์ในกาลต่อไป.
    </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>​
    </TD></TR><TR><TD width="100%" bgColor=#ccffff colSpan=2> </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ้างอิง สวดมนต์แปล วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) อ.เมือง จ.อุทัยธานี, 2535.
    ประเพณี พิธีมงคล และวันสำคัญของไทย.
    กรุงเทพฯ : ชมรมเด็ก, 2539.
     
  11. นายสติ

    นายสติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    910
    ค่าพลัง:
    +4,284
    เมื่อ 2 วันก่อนได้อ่านเจอข่าวที่เซียนพระ ท่าพระจันทร์โดนฆ่าตายอย่าง
    โหดเหี้ยม ในตัวพบพระสมเด็จเก๊ ตั้ง 10 กว่าองค์ ในคอห้อยพระปิดตา
    หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง อ่านแล้วก็สลดใจ นี่ขนาดห้อยพระที่วงการเล่นหากันแต่ผมว่าคงต้องมานั่งวิเคราะห์กันใหม่ว่าพระที่ห้อยนะเป็นพระแท้หรือเปล่าเพราะถ้าเป้นพระปลอม(เก๊)ก็คงช่วยอะไรไม่ได้ แต่ถ้าเป็นพระแท้ก็คงเป็นเพราะถึงคราวตาย(หมดอายุ)อย่างนี้จะไปโทษพระท่านไม่ได้หนา

    แต่ที่แน่ๆไม่ว่าจะห้อยพระที่วงการเล่นหาหรือพระนอกสารบบ เมื่อถึงที่ตายก็ต้องตายทั้งนั้นๆที่แหละของจริงที่เป็นสัจจธรรมและเป็นไปตามกฎแห่งกรรม ไม่มีใครหลีกเลี่ยงพ้น

    อย่ามานั่งถกเถียงกันหรือเสาะแสวงหากันเลยเรื่องพระในวงการหรือนอกวงการ เพราะไม่สามารถช่วยให้พ้นทุกข์หรือหนีความตายพ้น

    ทางที่ดีควรเสาะแสวงหาพระที่อยู่ในตัวเอง(จิตเดิม)ของเราด้วยการ
    นั่งสมาธิกำหนดที่ลมหายใจเข้าและออกที่ปลายจมูกเรานี่แหละก็จะทำให้จิตของเราสงบ เมื่อจิตสงบก็จะเกิดฌานและปัญญาอันถูกต้อง เป็นการเสาะแสวงหาที่ไม่ต้องใช้เงินไปลงทุนมากมายหามาเลยเพราะลมหายใจมีอยู่ทุกคนอยู่แล้ว นี่แหละของแท้ของจริงที่ช่วยให้พ้นทุกข์พ้นตาย(ไม่ต้องมาเกิดอีก)

    ไม่ต้องกลัวตายหรอกกลัวการเกิดดีกว่า พระเครื่องเป็นแค่สมบัติภายนอกเราตายไปก้ไม่ใช่ของเราอีก จิตของเราต่างหากที่เป็นสมบัติภายในที่มีค่าล้ำค่ากว่าสมบัติภายนอกมากมายนักและจะอยุ่กับเราไปตลอดกาล

    ขอขอบพระคุณท่านอ.ประถมและพี่ใหญ่ที่ช่วยสั่งสอน /ชี้แนะทางสว่างอันเป็นอรืยมรรคและสมบัติภายในให้

     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มหาโมทนาสาธุครับ

    .
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรียนท่านที่ได้จองหนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทุกๆท่าน

    ช่วงนี้ผมยุ่งๆหลายๆเรื่อง ที่ผมเคยแจ้งว่าจะจัดส่งให้ แต่ยังไม่ได้จัดส่งเลยครับ ขอเวลาอีกนิดนะครับ แล้วจะรีบจัดส่งหนังสือไปให้

    ส่วนคุณthanyaka ผมจะจัดส่งพระสมเด็จ(ปีระกาป่วงใหญ่) และผ้ายันต์ที่คุณguawn ฝากไว้ จะจัดส่งไปให้พร้อมกันนะครับ

    ขอโทษทุกๆท่านอีกครั้ง

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://palungjit.org/showthread.php?p=827373#post827373

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    วันนี้(19/11/2550 เวลา 8.47 น.) ได้โอนเงินจำนวน 2000.22 บาท เข้าบัญชีบมจ.ธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 007-2-50224-8 เรียบร้อยแล้วครับ

    เหรียญเบญจพิทักษ์ ปลุกเสกโดยท่านอภิชิโต ชาญณรงค์ ศิริสมบัติศิษย์ในดงของหลวงปู่ใหญ่ พี่รบกวนให้กวงนำมาให้พี่ด้วยน๊ะ

    ส่วนของคุณ nongnooo 2 เหรียญ (โอนแล้ว)
    ,คุณ pondkantana 5 เหรียญ
    ,พี่แอ๊ว 2 เหรียญ
    ,คุณ aries2947 1 เหรียญ (โอนแล้ว)
    ,คุณ chaipat 1 เหรียญ
    ,คุณ คุณ กุ้งมังกอน 1 เหรียญ
    ,คุณ ตั้งจิต 3 เหรียญ
    ,คุณ sira 1 เหรียญ
    ,คุณ thanyaka 1 เหรียญ

    ถ้าจะนำมาฝากพี่ ก็ฝากได้น๊ะ

    โมทนาบุญครับ

    .

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    เรียนคุณ nongnooo ,คุณ pondkantana ,พี่แอ๊ว
    ,คุณ aries2947 ,คุณกุ้งมังกอน ,คุณ ตั้งจิต ,คุณ sira ,คุณ thanyaka

    น้องกวง นำเหรียญมาให้ผมแล้วทั้ง 8 ท่าน ผมจะจัดส่งไปพร้อมกับพระที่ได้จองกันไว้นะครับ

    คุณthanyaka ผมรบกวนส่งชื่อ นามสกุล และที่อยู่มาให้ผมอีกครั้งนะครับ ผมจะจัดส่งไปพร้อมกับพระสมเด็จ(ปีระกา) 1 องค์

    ส่วนของน้องchaipat มีความประสงค์ที่จะร่วมทำบุญ 300 บาท และไม่รับเหรียญ ขอโมทนาบุญด้วยครับ ส่วนอีก 700 บาท ผมทำบุญและขอรับเหรียญนี้เองครับ

    โมทนาสาธุครับ

    .
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    วันนี้(23 พฤศจิกายน 2550 เวลา 10.25น.) ได้โอนเงินจำนวน 700 บาท ไปยังบัญชี 007-2-50224-8 ชื่อบัญชี คุณกฤตพล เกิดผล บมจ.ธนาคารกสิกรไทย เรียบร้อยแล้ว

    วันนี้(23 พฤศจิกายน 2550)ข้าพเจ้า,ภรรยา และครอบครัว ได้ ร่วมทำบุญ บูรณะพระอุโบสถวัดทองที่ชำรุดทรุดโทรมและร่วมสร้างทานบารมี จัดสร้างพระพิมพ์ถวายหลวงพ่อสิริ สิริวัฒโน เพื่อให้หลวงพ่อนำแจกเป็นทานแก่ผู้ทำบุญ ในงานกฐินปี 2551 และงานบุญต่างๆ<O:p</O:p
    <O:p</O:pขออาราธนาพระบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ , คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้งหมด ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์,พระมหาโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ ,คุณพระศรีรัตนตรัย ขอให้ คุณบิดา มารดา และทั้ง ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน ผู้มีพระคุณ ญาติกาครูอุปัชฌาย์อาจารย์ ญาติสี่สกุลเจ็ดชั่วโคตรของข้าพเจ้า เจ้ากรรมนายเวร ปู่ ย่า ตา ยาย เทวดาประจำตัวข้าพเจ้า ,เทวดาประจำองค์พระพิมพ์ทุกองค์ ,พระบารมีพระมหากษัตริย์ทุกๆพระองค์ ,พระบารมีสมเด็จพระนเรศวรมหาราช,พระบารมีสมเด็จพระเอกาทศรถ,พระบารมีสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, พระบารมีพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบารมีพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ,พระบารมีพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบารมีกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ,พระยาพิชัยดาบหัก ,พระบารมีกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ,พระบารมีกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ,พระบารมีพระสยามเทวาธิราช ,พระภูมิ-เจ้าที่ที่บ้านข้าพเจ้า ,แม่ย่านางรถของข้าพเจ้า,ผู้ที่เสียสละให้กับแผ่นดินไทยทุกท่าน ,องค์ผู้อธิษฐานจิตพระพิมพ์ที่ข้าพเจ้ามีอยู่ทุกพระองค์ ,เจ้าของและผู้สร้างพระพิมพ์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร-พระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่าทุกท่าน-พระพิมพ์ของวังหน้า,พระกรุวัดพระแก้วและวัตถุมงคลหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทุกประเภทที่ข้าพเจ้ามีอยู่ ทุกท่าน, เพื่อนสนิทมิตรสหายทั้งหลาย เพื่อนสาราสัตว์น้อยใหญ่ เจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณี แม่พระคงคา พระเพลิง พระพาย แม่พระโพสพ พระภูมิ-เจ้าที่ พระมหาฤาษีและพระฤาษีทุกๆตน พระพิรุณ พยายมราช นายนิริยบาล ทั้งท้าวจตุโลกะบาลทั้งสี่ ศิริพุทธอำมาตย์ ชั้นจาตุมะหาราชิกาเบื้องบนจนถึงที่สุด พรหมาเบื้องต่ำตั้งแต่มนุษย์โลก โดยรอบสุดขอบจักรวาลอนันตะจักรวาล และเทพยดาทั้งหลายตลอดทั้งอินทร์ พรหม ยม ยักษ์ คนธรรพ์ นาคา ขอให้มาอนุโมทนาในบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้ทำในครั้งนี้ด้วยเทอญ

    อิมินาปุญญะกัมเมนะ ด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าพเจ้า,ภรรยา และครอบครัว ได้ ร่วมทำบุญ บูรณะพระอุโบสถวัดทองที่ชำรุดทรุดโทรมและร่วมสร้างทานบารมี จัดสร้างพระพิมพ์ถวายหลวงพ่อสิริ สิริวัฒโน เพื่อให้หลวงพ่อนำแจกเป็นทานแก่ผู้ทำบุญ ในงานกฐินปี 2551 และงานบุญต่างๆ
    <O:p</O:pขอน้อมถวายบุญกุศลแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้งหมด ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ ,พระมหาโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ ,คุณพระศรีรัตนตรัย<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ขอถวายบุญกุศลแด่คุณบิดา มารดา ,องค์ผู้อธิษฐานจิตพระพิมพ์ที่ข้าพเจ้ามีอยู่ทุกพระองค์ ,เจ้าของและผู้สร้างพระพิมพ์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร-พระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่าทุกท่าน-พระพิมพ์ของวังหน้า,พระกรุวัดพระแก้วและวัตถุมงคลหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทุกประเภทที่ข้าพเจ้ามีอยู่ ,ตัวข้าพเจ้าและทั้ง ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน ผู้มีพระคุณ ญาติกาครูอุปัชฌาย์อาจารย์ ญาติสี่สกุลเจ็ดชั่วโคตรของข้าพเจ้า เจ้ากรรมนายเวร ปู่ ย่า ตา ยาย เทวดาประจำตัวข้าพเจ้า ,เทวดาประจำองค์พระพิมพ์ทุกองค์ ,พระมหากษัตริย์ทุกๆพระองค์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช,สมเด็จพระเอกาทศรถ,สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ,พระยาพิชัยดาบหัก ,กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ,กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ,พระสยามเทวาธิราช <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ขอถวายบุญกุศลแด่พระภูมิ-เจ้าที่ที่บ้านข้าพเจ้า ,แม่ย่านางรถของข้าพเจ้า,ผู้ที่เสียสละให้กับแผ่นดินไทยทุกท่าน , เพื่อนสนิทมิตรสหายทั้งหลาย เพื่อนสาราสัตว์น้อยใหญ่ เจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณี แม่พระคงคา พระเพลิง พระพาย แม่พระโพสพ พระภูมิ-เจ้าที่ พระมหาฤาษีและพระฤาษีทุกๆตน พระพิรุณ พยายมราช นายนิริยบาล ทั้งท้าวจตุโลกะบาลทั้งสี่ ศิริพุทธอำมาตย์ ชั้นจาตุมะหาราชิกาเบื้องบนจนถึงที่สุด พรหมาเบื้องต่ำ และเทพยดาทั้งหลายตลอดทั้งอินทร์ พรหม ยม ยักษ์ คนธรรพ์ นาคา <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ขออุทิศส่วนบุญกุศล ตั้งแต่อเวจีขึ้นมาจนถึงมนุษย์โลก โดยรอบสุดขอบจักรวาลอนันตะจักรวาล ท่านทั้งหลายที่ต้องทุกข์ ขอให้พ้นจากทุกข์ ท่านทั้งหลายที่ท่านได้สุข ขอให้สุขยิ่งๆขึ้นไป <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าพเจ้าน้อมถวาย ,ถวายและอุทิศไปให้นี้ จงเป็นอุปนิสัยปัจจัยให้ถึงพระนิพพานในปัจจุบันและอนาคตเบื้องหน้าโน้นเทอญ ฯ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ด้วยเดชะบุญแห่งข้าพเจ้าน้อมถวาย ,ถวายและอุทิศนี้ไปให้ทุกๆพระองค์ ,ทุกๆองค์ ,ทุกๆท่าน “ขอความคล่องตัว จงมีแก่ตัวข้าพเจ้า และความไม่มีจงอย่าได้เกิดกับข้าพเจ้าจนกว่าข้าพเจ้าจะเข้าสู่พระนิพพาน” และหากยังมาเกิดอีก ขอให้ทุกๆภพทุกๆชาติหลังจากทำบุญแล้วขอให้อธิษฐานว่า “ขอความคล่องตัว จงมีแก่ตัวข้าพเจ้า และความไม่มีจงอย่าได้เกิดกับข้าพเจ้าจนกว่าข้าพเจ้าจะเข้าสู่พระนิพพาน” จนกว่าข้าพเจ้าจะเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ

    พุทธังอนันตัง ธัมมังจัรวาลัง สังฆังนิพพานัง ปัจจโยโหนตุ

    มหาโมทนาสาธุ
    มหาโมทนาสาธุ
    มหาโมทนาสาธุ
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ตอนนี้ผมหยุดมอบพระพิมพ์ให้กับผู้ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งก่อน หลังปีใหม่แล้วจะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

    ประมาณเดือนธันวาคม ผมและคณะจะทำทุนนิธิเรื่องสงฆ์อาพาท จะมีพระมอบให้ ติดตามในกระทู้พระวังหน้าและกระทู้ที่จะตั้งขึ้นใหม่นะครับ


    ส่วนที่ สนส.บ่อเงินบ่อทอง ผมยุติการมอบพระพิมพ์ให้กับผู้ร่วมทำบุญแล้ว แต่ว่าสามารถไปทำบุญได้เองที่ สนส.บ่อเงินบ่อทองครับ

    โมทนาสาธุครับ
     
  16. wichitt

    wichitt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    898
    ค่าพลัง:
    +4,132
    อนุโมทนา สาธุ และขอขอบคุณในคำสอนที่ได้ให้ไว้ครับ
     
  17. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    [​IMG]
     
  18. sira

    sira เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    239
    ค่าพลัง:
    +1,331
    สิรเชษฐ์ ลีละสุนทเลิศ ขอร่วมทำบุญถวายสังฆทานด้วยครับ

    วันที่ เวลา ที่โอนเงินเข้าเครื่องฝากเงินอัตโนมัติครับ
    23/11/07 12:32

    TRANSFER 100.00
    To A/C KANYA
    ฝาก เข้าเครื่อง KBNK CDM04757

    โมทนาบุญกับทุกๆๆท่านครับผม
     
  19. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,782
    ค่าพลัง:
    +16,097
    บุญสังฆทาน จำนวนเงินคร่าวๆ ตามที่ได้รับแจ้งทางเวบ และโทรศัพท์มีประมาณ 4,000.- (สี่พันบาท) ครับ กำหนดปิดพรุ่งนี้ประมาณช่วงเที่ยงครับ รายชื่อที่เตรียมมอบให้พี่ใหญ่ตาม file แนบครับ (หากมีรายชื่อใดพิมพ์ผิดช่วยแจ้งทาง pm ด้วยครับ)

























     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤศจิกายน 2007
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คุณกุ้งมังกอน ฝากแจ้งว่า ได้โอนเงินเพื่อร่วมทำบุญเรียบร้อยแล้ว โดยเข้าบัญชีเลขที่ 359-2-19395-6 จำนวนเงิน 500 บาท

    โดยแบ่งเป็นทำบุญสังฆทานจำนวน 300 บาท

    และชำระหนี้สงฆ์จำนวน 200 บาท

    ขอโมทนาบุญกับคุณกุ้งมังกอนด้วยนะครับ

    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...