พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อันตรายและโรคของ ′สังคมก้มหน้า′ที่คุณควรรู้ไว้ ?

    -http://campus.sanook.com/1373249/%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B9%89/-


    โรค′เท็กซ์เนค′ อาการของ′สังคมก้มหน้า′

    โดย ไพรัตน์ พงศ์พานิชย์ pairat@matichon.co.th

    อันที่จริงเรื่อง "เท็กซ์เนค" ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่พูดถึงกันมา 2-3 ปีแล้ว ที่ผมหยิบกลับมาเล่าสู่กันฟังอีกครั้งเป็นเพราะว่าตอนนี้มันกำลังกลายเป็น "โกลบอล ซินโดรม" คือออกอาการกันแพร่หลายไปทั่วโลก ตามการแพร่ระบาดของอุปกรณ์พกพาสารพัดตั้งแต่ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เรื่อยไปจนถึงอีบุ๊กรีดเดอร์

    ทั้งหลาย

    ก่อนหน้านี้อุปกรณ์เหล่านี้ถูกจำกัดการใช้งานด้วยการเชื่อมต่อแต่ตอนนี้เมื่อสามารถเชื่อมต่อได้ทุกที่ทุกเวลาเนื้อหาที่มากับหน้าจอก็หลากหลายมากขึ้น ดึงดูดใจมากขึ้น ทั้งไลน์ ทั้งเกม ทั้งอีบุ๊กสารพัด สัดส่วนการใช้งานต่อวันก็เพิ่มขึ้นมากมายมหาศาล ไปไหนมาไหนก็เจอแต่ผู้คนก้มหน้าลงหาจออิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นบนรถไฟฟ้า รถประจำทาง ร้านอาหาร

    หนักๆ เข้าเดินไปไหนมาไหน ยังไปในลักษณะ "ก้มหน้า" จนผู้ใหญ่ท่านหนึ่งค่อนแคะให้เข้าหูว่าสังคมยุคนี้กลายเป็น "สังคมก้มหน้า" ไปแล้ว

    "เท็กซ์เนค" เป็นคำที่ นายแพทย์ดีน ฟิชแมน แพทย์กายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญด้านบำบัดอาการของกระดูกสันหลังชาวอเมริกัน คิดขึ้นเพื่อใช้เรียกกลุ่มอาการของโรคที่เกิดขึ้นจากการ "ก้มหน้า" บ่อยๆ ซ้ำๆ และนานเกินปกตินี้ อาการที่เกิดขึ้นมีตั้งแต่ การปวดกล้ามเนื้อบริเวณไหล่ กล้ามเนื้อคอ ปวดศีรษะเรื้อรัง ปวดทุกวัน หนักเข้าก็อาจพาลไปถึงเกิดการอักเสบของข้อต่อกระดูกสันหลังส่วนบน ซึ่งถือว่าสาหัสเลยทีเดียวครับ

    ที่น่ากังวลก็คือ การก้มหน้าในลักษณะนี้บ่อยๆ นานๆ จะส่งผลต่อบุคลิกท่าทาง และการเติบโตของร่างกายในเด็กและวัยรุ่นให้ออกมาบิดเบี้ยวโค้งงอจนต้องมาหาทางแก้กันยุ่งยากในภายหลัง

    ที่มาของโรคนี้คือการก้มนั่นแหละครับในทางการแพทย์เขาบอกว่าเพียงแค่การก้มศีรษะลงไปข้างหน้า ผิดจากท่าปกติตามธรรมชาติ (คือเมื่อหูของเราอยู่ในแนวเดียวกับไหล่) เพียงแค่นิ้วเดียว น้ำหนัก

    ของศีรษะก็จะทำให้ กล้ามเนื้อ เอ็น กระดูกและเส้นประสาทในบริเวณไหล่ คอ ต้องแบกรับภาระหนักเพิ่มขึ้นมากแล้ว น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นด้วยการถ่วงไปข้างหน้าจะไปดึงรั้งกล้ามเนื้อเส้นเอ็นทั้งหมดให้ต้องแบกรับภาระมากขึ้นตามไปด้วยอาการตึงจะเกิดขึ้นตามมาถ้าทำซ้ำๆ หลายๆ ครั้งก็จะเกิดการบาดเจ็บขึ้นได้ทั้งกับกล้ามเนื้อ เอ็น และเส้นประสาทในบริเวณดังกล่าว

    ดร.ฟิชแมนเคยแสดงให้เห็นฟิล์มเอกซเรย์ของวัยรุ่นอเมริกันที่แสดงชัดเจนว่ากระดูกสองสามชิ้นบริเวณข้อต่อกระดูกสันหลังส่วนบนโค้งงอไปด้านหน้าแบบผิดธรรมชาติเพราะเหตุนี้มาแล้ว

    ข้อมูลที่ได้จากผลการศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งเมื่อปี2000ระบุว่า โดยเฉลี่ยแล้วศีรษะของคนเราจะหนักประมาณ 5 กิโลกรัม การก้มไปข้างหน้าทุกๆ 2 เซนติเมตร จะทำให้ไหล่ต้องแบกรับน้ำหนักมากขึ้น 100 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น ถ้าก้มลงไป 6 เซนติเมตร น้ำหนักของศีรษะที่ไหล่ คอ และกระดูกสันหลังที่ต้องรองรับนั้นจะเพิ่มมากขึ้นเป็น 20 กิโลกรัม

    น้ำหนักขนาดนั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมการก้มนานๆ ซ้ำๆ อยู่ทั้งวันถึงก่อให้เกิดอาการได้มากขนาดนั้น

    คำแนะนำของแพทย์เพื่อการป้องกันไม่ให้เราตกเป็นเหยื่อของเท็กซ์เนคอย่างง่ายๆก็คือ ละสายตาจากจอ เปลี่ยนท่าจากการก้มหน้า ปล่อยให้ศีรษะกลับคืนสู่ท่าธรรมชาติในทุกๆ 15 นาที เงยหน้าขึ้น เหลียวไปรอบๆ ถ้ายังจำเป็นต้องจ้องจออยู่ก็ยกมันให้ขึ้นมาอยู่ในระดับสายตา เพื่อลดการแบกรับน้ำหนักของคอลงเป็นระยะๆ

    ถ้าเป็นไปได้ก็ควรออกกำลังกาย ในแบบที่จะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณคอและไหล่ได้ผ่อนคลาย จะเป็นโยคะก็ได้ หรือจะเป็นกายบริหารแบบพิลาทีสที่มุ่งเน้นไปที่การทำให้ร่างกายของเราอยู่ในท่าทางที่ถูกต้องก็ได้ ทำให้ได้ทุกวันจะป้องกันปัญหานี้ได้

    ใครที่ใช้มาตรการประดานี้แล้วยังไม่ได้ผล แสดงว่า เท็กซ์เนคของคุณค่อนข้างไปทางรุนแรงแล้ว ควรไปพบแพทย์ อย่างน้อยๆ ก็อาจต้องใช้ยาจำพวกคลายกล้ามเนื้อช่วย แต่ถ้าอาการเกิดไปกระทบทำให้กลุ่มประสาทในบริเวณดังกล่าวถูกบีบ กดอยู่นานๆ จนเกิดอาการปวดประสาท ก็จัดอยู่ในขั้นต้องให้แพทย์ที่เชี่ยวชาญดูแลเป็นการเฉพาะจะดีที่สุด

    แล้วก็ต้องลดการตกไปเป็นส่วนหนึ่งของ"สังคมก้มหน้า"ลงให้เหลือน้อยที่สุดแล้วละครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • u21.png
      u21.png
      ขนาดไฟล์:
      224.3 KB
      เปิดดู:
      52
    • u22.png
      u22.png
      ขนาดไฟล์:
      245.7 KB
      เปิดดู:
      56
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มหันตภัยไวรัส SMS
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 สิงหาคม 2557 04:51 น.

    -http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000098681-



    [​IMG]
    ระบบข้อความสั้น (SMS) กำลังถูกใช้เป็นช่องทางกระจายไวรัสที่ชาวฮัลโหลทุกคนต้องระวังตัว

    ถึงยุคที่ไวรัสไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลอีกต่อไปแล้ว เพราะล่าสุด การแพร่กระจายของไวรัส ที่เป็นมัลแวร์ได้กระจายผ่านผู้ใช้สมาร์ทโฟนกลุ่มหนึ่ง ผ่านการส่งต่อลิงก์ทางระบบข้อความสั้น (SMS) เพื่อให้เข้าไปดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่เป็นไวรัสมาติดตั้งในเครื่องต่อไป

    ด้วยขั้นตอน และวิธีการที่เรียบง่าย แต่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ใช้งานที่ประมาท และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้แอปพลิเคชันดังกล่าวถูกกดดาวน์โหลดไปถึง 19,056 ครั้ง และเมื่อมีการติดตั้งแล้วตัวสมาร์ทโฟนก็จะส่ง SMS ไปยังรายชื่อที่บันทึกไว้ในเครื่อง ทำให้แพร่กระจายต่อไปอีก

    วิธีการหลอกลวงของ SMS ที่ไม่ซับซ้อนโดยสร้างการรับรู้ต่อผู้รับว่า มีความใกล้ชิดนั้นเกิดขึ้นจากตัวแอปสามารถเข้าถึงชื่อ และเลขหมายที่จะส่งต่อ จึงทำการส่งข้อความโดยนำชื่อเข้ามาประกอบไว้ในข้อความด้วย ส่งผลให้ผู้รับคิดว่าเป็นการส่งข้อความมาจริงๆ ทำให้กดลิงก์เข้าไปดูได้อย่างง่ายดาย

    สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ การที่ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนจะเสียค่าบริการส่งข้อความสั้นหาบุคคลที่อยู่ในรายชื่อ ถ้ามีปริมาณรายชื่อเยอะ ค่าบริการก็ยิ่งสูงตามไปด้วย ทั้งๆ ที่ภัยร้ายของมัลแวร์ตัวนี้แท้ที่จริงคือ การให้ผู้ที่ติดเข้าไปสมัครไอดีเกมออนไลน์แห่งหนึ่งในประเทศมาเลเซีย รวมทั้งการติดตั้งแอปนี้ในสมาร์ทโฟน ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ข้อมูลสำคัญในเครื่อง หรือข้อมูลส่วนตัวจะไม่เป็นความลับอีกต่อไป

    ***ติดเฉพาะแอนดรอยด์โฟน

    ด้วยการที่ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถติดตั้งแอปพลิเคชันที่มีนามสกุลไฟล์ .apk จากภายนอก เพลย์โสตร์ได้ ทำให้กลายเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้มิจฉาชีพใช้ช่องโหว่ดังกล่าวในการหลอกลวงให้ติดตั้งแอป แม้ว่าด้วยตัวระบบจะมีการป้องกันโดยผู้ใช้ต้องไปกดอนุญาตให้ติดตั้งแอปจากแหล่งที่ไม่รู้จักก็ตาม

    อีกประการหนึ่งคือ ด้วยปริมาณของแอนดรอยด์โฟนในท้องตลาดที่มีมากกว่าระบบปฏิบัติการอื่นหลายเท่าตัว ทำให้มิจฉาชีพมุ่งเป้าในการกระจายไวรัสสู่วงกว้าง มากกว่าระบบปฏิบัติการอื่นอย่าง iOS ที่ผู้ใช้ไม่สามารถติดตั้งแอปจากภายนอกแอปสโตร์ได้ หรือถ้าจะทำได้ก็จะมีวิธีการที่ซับซ้อนกว่า เช่นเดียวกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟน ดังนั้น ผลกระทบที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่จึงอยู่กับผู้บริโภคที่ใช้งานแอนดรอยด์โฟนเป็นหลัก

    ***ย้อนรอยไวรัส SMS

    ไทย เซิร์ต (ThaiCERT) หรือศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย ได้รับแจ้งการเผยแพร่ไฟล์มัลแวร์ “แจ้ง.apk” เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นจึงได้รับแจ้งข้อมูลอีกครั้ง ถึงการเปลี่ยนลิงก์เป็นไฟล์มัลแวร์ที่ชื่อว่า “รับทราบ.apk” ในวันที่ 21 สิงหาคม และได้มีการปิดกั้นลิงก์ดังกล่าวอีกครั้ง หลังจากนั้นก็ปรากฏลิงก์ใหม่อีกครั้งในวันที่ 22 สิงหาคม

    สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ ยังมีการพยายามเปลี่ยนลิงก์ หลังจากโดนปิดกั้นอยู่เรื่อยๆ ซึ่งหากผู้ใช้งานท่านใดพบลิงก์มัลแวร์ที่เปลี่ยนแปลงไป สามารถแจ้งเข้าไปยังไทยเซิร์ตเพื่อให้ดำเนินการปิดกั้นการเข้าถึงได้ทันที


    [​IMG]
    ขั้นตอนการโจมตีของไวรัส SMS

    สำหรับการทำงานของลิงก์มัลแวร์ดังกล่าว เมื่อคลิกตามลิงก์เข้าไปจะ Redirect ไปยังเว็บไซต์ Dropbox ที่เป็นเว็บฝากไฟล์สาธารณะ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์มัลแวร์ชื่อ “รับทราบ.apk” มาติดตั้ง โดยการตรวจสอบข้อมูลไฟล์ .apk ดังกล่าวโดยใช้เว็บไซต์ Virustotal พบว่าเป็นโทรจันที่มีความสามารถในการขโมยข้อมูล SMS เป็นหลัก เช่น การอ่านรายชื่อผู้ติดต่อ อ่าน แก้ไข และรับส่งข้อความ SMS รวมถึงเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เป็นต้น

    โดยมีลักษณะที่คล้ายกับมัลแวร์ที่มีเป้าหมายเพื่อโจมตีผู้ใช้งานระบบธุรกรรมออนไลน์ต่างๆ เช่น e-Banking ด้วยการขโมย SMS มาใช้ในการทำธุรกรรมออนไลน์ ตามที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต และเมื่อมีการนำไฟล์มัลแวร์ทั้งหมดมาทำการ Decompile พบว่าซอร์สโค้ดของไฟล์มัลแวร์ “แจ้ง.apk” (พบในวันที่ 13 สิงหาคม 2557) ไฟล์มัลแวร์ “รับทราบ.apk” (พบในวันที่ 21 สิงหาคม 2557) ไฟล์มัลแวร์ “รับทราบ.apk” (พบในวันที่ 22 สิงหาคม 2557) มีการทำงานเหมือนกันทุกประการ

    จากการวิเคราะห์ไฟล์ .apk ไทยเซิร์ตพบว่า แอปพลิเคชันดังกล่าวมีการร้องขอสิทธิการทำงาน (Permission) ที่น่าสงสัย ซึ่งการขอสิทธิในลักษณะนี้ แอปพลิเคชันสามารถขโมยข้อมูล หรือทำให้ผู้ที่ติดตั้งแอปพลิเคชันดังกล่าวเสียเงินค่าส่ง SMS เป็นจำนวนมากได้ นอกจากนี้ แอปพลิเคชันยังมีการร้องขอสิทธิ Device administration ในการล็อกหน้าจอ ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าการร้องขอสิทธิดังกล่าวอาจมีจุดประสงค์ที่ไม่ดีอื่นๆ อีกด้วย


    [​IMG]
    ลักษณะข้อความ SMS แฝงภัยร้าย

    ***กสทช. เรียก 5 ค่ายหารือป้องกันภัย SMS

    เพื่อรับมือต่อภัยร้ายทาง SMS นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. ได้เรียกผู้ประกอบการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือทั้ง 5 ค่าย คือ เอไอเอส ดีแทค ทรูมูฟ เอช ทีโอที และ กสท เข้ามาหารือเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ซึ่งทั้ง 5 รายให้การตอบรับ และมีการเตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดี

    นายฐากร ระบุว่าปัจจุบันมีผู้บริโภคที่เข้ามาร้องเรียนแล้วไม่กี่ราย โดยแบ่งเป็น ทรูมูฟ เอช 7 ราย ส่วนทางเอไอเอส และดีแทค ไม่มีการเปิดเผยข้อมูล ส่วนทาง กสท มี 1 ราย และทีโอที ไม่มีผู้ร้องเรียน ซึ่งถ้าเกิดมีค่าใช้จ่ายในเรื่องนี้เกิดขึ้น ทางผู้ประกอบการทั้ง 5 ค่าย ยินดียกเว้นค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด

    รวมถึงแนะนำให้ผู้ใช้งานในระบบรายเดือนตรวจสอบค่าบริการ หรือสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในสมาร์ทโฟน อย่างการส่งข้อความออกไปหาผู้อื่นทั้งๆ ที่ไม่ได้กด ส่วนผู้ใช้งานในระบบเติมเงิน ถ้าสงสัยว่าทำไมเงินที่เติมเข้าไปหมดเร็วก็สามารถเช็กกับทางผู้ให้บริการ เพื่อตรวจสอบและขอคืนได้เช่นเดียวกัน

    สิ่งสำคัญที่สุดคือ ผู้บริโภคต้องรู้เท่าทันภัยคุกคามเหล่านี้ ด้วยขั้นตอนเบื้องต้นง่ายๆคือ ตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างชัดเจน ไม่คลิกลิงก์ย่อที่ไม่แน่ใจ และอย่าติดตั้งแอปพลิเคชันจากแหล่งที่มาที่ไม่รู้จัก

    ***ดีแทครับมือปิดกั้นมัลแวร์ SMS

    ในการรับมือต่อปัญหาดังกล่าว ดีแทค ให้ข้อมูลว่า ได้รับทราบปัญหาจากผู้ใช้งานตั้งแต่วันที่ 13สิงหาคมที่ผ่านมา และได้มีการปิดกั้นการดาวน์โหลดจาก SMS ที่มีมัลแวร์นี้อย่างรวดเร็วในวัน เดียวกัน จากลิงก์ http://goo.gl/AjT773, http://goo.gl/YzeUVx , Google URL Shortener , http://goo.gl/q87XnM ,http://goo.gl/npd8sd , http://goo.gl/WhVvXT , http://googl/AjTXXXX , http://goo.gl/INFLXN , http://goo.gl/pbS3Tj , http://goo.gl/Y , http://googl/AjT773 รวมทั้งปิดการส่ง SMS ที่แพร่กระจายจากมัลแวร์ดังกล่าว หลังจากการแก้ไขโดยปิดกั้น การดาวน์โหลดจากเซิฟเวอร์อย่างรวดเร็วทันสถานการณ์นี้ จึงทำให้เกิดผลกระทบต่อลูกค้าดีแทคน้อยมาก


    [​IMG]
    ไฟล์มัลแวร์ 'แจ้ง.apk'

    อย่างไรก็ตาม ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว ดีแทคได้ดำเนินการติดต่อลูกค้าในรายที่ติดมัลแวร์ถึงวิธีที่จะแก้ไข ลบ (uninstall) มัลแวร์ที่ถูกติดตั้งในตัวเครื่อง และแนะนำการป้องกันเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานมากยิ่งขึ้น

    สำหรับลูกค้าในช่วงแรกที่ได้รับผลกระทบนั้น ทางดีแทคได้ปรับส่วนลดยอดค่าใช้บริการ SMS ที่เกิดขึ้นจากมัลแวร์นี้เพื่อให้ลูกค้าสบายใจ และไม่ได้รับภาระค่าใช้จ่าย SMS ที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ และทีมงานดีแทคจะเฝ้าระวัง และอัปเดตมัลแวร์เพื่อป้องกันและปิดกั้นการดาวน์โหลดต่อไป รวมถึงจะดำเนินการแจ้งเตือนลูกค้ารายอื่นๆ ให้ทราบผ่านช่องทางสื่อสารต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัย

    ***เอไอเอส ออกแอป AIS Malware Remover

    นายปรัธนา ลีลพนัง รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวว่า จากการที่ช่วงนี้ได้เกิดกรณี SMS Virus ที่เป็นลักษณะของข้อความที่มีลิงก์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ เมื่อลูกค้ากดลิงก์ดังกล่าวแล้วจะเท่ากับเป็นการติดตั้งแอป ที่ส่งผลให้มือถือทำการส่ง SMS ไปยังหมายเลขโทรศัพท์อื่นๆ ที่ถูกบันทึกอยู่ในเครื่องทันที อันทำให้เกิดค่าใช้จ่ายตามมา

    [​IMG]
    การทำงานของแอปพลิเคชัน'AIS Malware Remover'

    นอกเหนือจากการแนะนำให้ลูกค้าไม่กดเข้าไปที่ลิงก์ดังกล่าว และช่วยดูแลลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากกรณีไวรัส SMS ที่เกิดขึ้นแล้ว เพื่อเป็นการแก้ปัญหานี้อย่างทันท่วงทีให้แก่ลูกค้าแอนดรอยด์ ทีมเทคนิคของเอไอเอส จึงได้พัฒนาแอปพลิเคชัน “AIS Malware Remover” สำหรับผู้ใช้มือถือแอนดรอยด์ขึ้น เพื่อช่วยลบแอปที่ติด SMS Virus ดังกล่าวได้ทันทีแบบ 100%

    โดยผู้ใช้งานแอนดรอยด์ทุกรายสามารถเข้าไปดาวน์โหลด แอป “AIS Malware Remover” ผ่านลิงก์ตรงจากเอไอเอส คือ AIS Malware Remover หรือกดลิงก์จากแบนเนอร์ AIS Malware RemoverบนAIS Line Official ได้ฟรี และทำการติดตั้ง หากสมาร์ทโฟนติด SMS Virus หน้าจอจะแสดงผล และแอป AIS Malware Remover จะลบแอป SMS Virus ออกทันทีส่วนผู้ที่ไม่ติดมัลแวร์ดังกล่าว แอปพลิเคชันก็จะแสดงหน้าจอว่าเครื่องปลอดภัย

    ถึงแม้ครั้งนี้ กสทช. และค่ายมือถือจะมีมาตรการป้องกันไวรัส SMS อย่างรวดเร็วและทันการณ์ แต่ประชากรมือถือเองคงต้องหาทางระวังตัวเอง โดยต้องตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างชัดเจน ไม่คลิกลิงก์ย่อที่ไม่แน่ใจ และอย่าติดตั้งแอปพลิเคชันจากแหล่งที่มาที่ไม่รู้จัก รวมทั้งต้องตรวจสอบความผิดปกติของค่าบริการที่เกิดขึ้น หากไม่อยากเป็นเหยื่อโจรไซเบอร์
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ลูกหนี้เฮ มติลบประวัติลูกหนี้ 6 แสนราย พ้นเครดิตบูโร
    -http://money.kapook.com/view97813.html-

    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    ที่ประชุมคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลบัตรเครดิต มีมติเห็นชอบให้ลบประวัติลูกหนี้เอ็นพีแอล ออกจากเครดิตบูโร จำนวน 6 แสนราย

    วันที่ 5 กันยายน 2557 นายรณดล นุ่มนนท์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลบัตรเครดิต เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลบัตรเครดิต มีมติเห็นชอบให้ลบข้อมูลลูกหนี้รายย่อยที่ค้างชำระเกิน 90 วัน หรือ ลูกหนี้เอ็นพีแอล ออกจากฐานข้อมูลเครดิตบูโร

    ทั้งนี้เนื่องจากทั้งหมดเป็นลูกหนี้ตั้งแต่ปี 2540 ที่มีมูลค่าหนี้ต่ำ ธนาคารพาณิชย์ก็จะไม่มีการฟ้องร้องเพราะไม่คุ้มกับค่าใช้จ่าย โดยเป็นไปตามประกาศใหม่ของเครดิตบูโรที่จะเก็บข้อมูลไว้ 8 ปี จากเดิมที่จะเก็บจนกว่าจะชำระหนี้หมด ทำให้ลูกหนี้สามารถทำธุรกรรมใหม่ได้ และเกิดการกู้ยืมนอกระบบน้อยลง

    อย่างไรก็ตามยังมีการเปิดให้ สหกรณ์และชุมชนสหกรณ์ทุกประเภท สามารถเป็นสมาชิกเครดิตบูโรได้ เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาสินเชื่อของสหกรณ์ด้วย


    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
    -http://www.mcot.net/site/content?id=54097adfbe0470299f8b4573#.VApTbmMzSZT-


    [​IMG]

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ng35.png
      ng35.png
      ขนาดไฟล์:
      207.8 KB
      เปิดดู:
      240
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]



    ขอไม่แจ้งองค์ผู้อธิษฐานจิต
    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .



    รูปนี้ ผมทำขึ้นจากรูปที่ผมไปกราบพระตามวัดต่างๆ ผมนำเรื่อง บุญกริยาวัตถุ 10 นำมาลงไว้ด้วยครับ


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • z01.png
      z01.png
      ขนาดไฟล์:
      177.4 KB
      เปิดดู:
      186
    • z02.png
      z02.png
      ขนาดไฟล์:
      167.7 KB
      เปิดดู:
      174
    • z03.png
      z03.png
      ขนาดไฟล์:
      178.6 KB
      เปิดดู:
      175
    • z04.png
      z04.png
      ขนาดไฟล์:
      345 KB
      เปิดดู:
      238
    • z05.png
      z05.png
      ขนาดไฟล์:
      357.9 KB
      เปิดดู:
      222
    • z06.png
      z06.png
      ขนาดไฟล์:
      172.1 KB
      เปิดดู:
      270
    • z07.png
      z07.png
      ขนาดไฟล์:
      311.9 KB
      เปิดดู:
      213
    • z08.png
      z08.png
      ขนาดไฟล์:
      374.3 KB
      เปิดดู:
      216
    • z09.png
      z09.png
      ขนาดไฟล์:
      362.1 KB
      เปิดดู:
      209
    • z10.png
      z10.png
      ขนาดไฟล์:
      388.3 KB
      เปิดดู:
      232
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พยานบุญ-พยานบาปที่สำนักท่านพระยายมราช

    "..วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2531 เวลา 10.30 น. ทำกรรมฐานเรื่อยมาแต่ตอนเช้า คิดจะไหว้พระจึงออกจากร่าง พบท่านย่า(แม่) และท่านพรรณวดี คุยกับท่านเล็กน้อย ท่านลุงพุฒิ(พระยายมราช)มา นุ่งโสร่งมีผ้าขาวม้าคาดพุง ท่านบอกว่า "เวลาพอมีไปที่สำนักงานท่านก่อนดีกว่า" จึงหันไปชวนท่านท้าวมหาราชทั้ง 4 และเทวดาบริวารของท่าน จากนั้นท่านลุงนำหน้าพวกเราเดินตาม เมื่อเข้าเขตสำนักงานพระยายมราช เห็นคนยืนเป็นกลุ่ม ๆ รูปไม่สวย ผิวดำ หน้าไม่สบาย มีด้วยกัน 11 หมู่ แต่ละหมู่มีจำนวนมากนับเป็นพัน ๆ หมู่หนึ่ง ๆ ก็มีเจ้าหน้าที่รูปร่างใหญ่กว่าพวกนั้นมาก สูงกว่ามาก ยืนถืออาวุธคุมอยู่หมู่ละ 1 คน จึงเฉียดเข้าไปดูถามท่านลุงว่า "พวกนี้เป็นใคร" ท่านบอกว่า "พวกนี้รอการสอบสวน ถ้านึกถึงบุญได้ก็ไปสวรรค์ นึกถึงบุญไม่ได้ก็ไปนรก แต่ละกลุ่มมีบาปไม่เหมือนกัน มีกรรมบถ 10 เป็นหลัก" ดังนี้คือ

    1) กลุ่มนี้หนักในทางละเมิดศีลข้อที่ 1 ฆ่าสัตว์
    2) กลุ่มนี้หนักในทางลักทรัพย์
    3) กลุ่มนี้หนักในทางเจ้าชู้
    4) กลุ่มนี้หนักในทางมุสาวาท
    5) กลุ่มนี้หนักในทางดื่มสุราเมรัย
    6) กลุ่มนี้หนักในทางกล่าวคำหยาบ
    7) กลุ่มนี้หนักในทางนินทา
    8) กลุ่มนี้หนักในทางขาดสติพูด พูดไร้ประโยชน์
    9) กลุ่มนี้หนักในทางคิดอยากได้ทรัพย์คนอื่น (อยากโกง)
    10) กลุ่มนี้หนักในทางอยากทำร้ายผู้อื่น
    11) กลุ่มนี้ไม่เชื่อพระธรรมวินัย ไร้เหตุผล

    พวกนี้ทั้ง 11 กลุ่มมีหวังลงนรก ยากที่จะเป็นอิสระ เพราะพยานมาคอยพร้อมแล้ว

    พยานบาป

    ท่านลุงชวนเดินไปผ่านอาคารสอบสวนไปทางทิศตะวันออก มองเห็นไก่ เป็ด หมู วัว ควายและสัตว์ต่าง ๆ ที่มนุษย์กิน อยู่กันเป็นกลุ่มใหญ่ มีไก่นับเป็นแสน เป็ดนับเป็นแสนเหมือนกัน หมู วัว ควาย ก็เป็นแสนเหมือนกัน ถามว่า "มารวมกันทำไมมากมายอย่างนี้" พวกนั้นตอบว่า "มาเป็นพยานให้พระยายมราช เมืิ่อท่านเรียกผู้ฆ่าสัตว์มาสอบสวน พวกนี้ก็จะเข้าไปรายงานว่าคนนี้ฆ่า จับให้เชือดหรือสั่งฆ่า เป็นต้น"

    เป็นอันว่าวันนี้เป็นวันที่ 26 สิงหาคม 2531 เป็นวันไหว้สาร์ทของชาวจีนพอดี เลยทำให้คิดว่าสาร์ทจีนทั่วโลกต้องฆ่าสัตว์นับล้านตัว

    พยานบุญ

    เมื่อเดินเลยไปอีก ก็มีคน มีสัตว์อีกจำนวนมาก แต่ไม่มากเท่าพยานบาป พวกนี้มาเป็นพยานบุญที่เขาเคยช่วยเหลือไว้ เมื่อพระยายมราชถามถึงบุญที่เขาทำ ถ้าเขานึกไม่ออก พวกนี้ก็จะเข้าไปรายงานว่าเขาเคยช่วยชีวิตไว้ เมื่อท่านพระยายมราชรับฟังแล้ว ก็จะให้ไปสวรรค์ก่อน ชมมาถึงแค่นี้ใกล้เวลาจะเพลจึงกลับ

    ดังนั้นขอให้ระลึกไว้เสมอว่า จะทำดีหรือทำชั่ว มีพยานคอยเราอยู่แล้วที่สำนักท่านพระยายมราช.."

    *คัดลอกจากหนังสือ ตายไม่สูญ...แล้วไปไหน เรื่องที่ 76 หน้า 182 โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอเชิญร่วมทำบุญ งานกฐินตกค้างพระราชทานไปที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

    [​IMG]



    [​IMG]



    หากท่านใดมีความประสงค์ที่จะร่วมทำบุญ สามารถร่วมทำบุญ
    แต่ผมไม่สะดวกในการขอใบอนุโมทนาบัตรให้ เพราะว่าจะต้องจัดส่งให้กับท่าน ต้องขออภัย

    และหากท่านใดคิดว่า การบอกบุญของผมในครั้งนี้ ไม่น่าเชื่อถือ ท่านไม่ต้องทำบุญครับ

    [​IMG]




    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...