พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วิธีสังเกตธนบัตร

    -http://www.bot.or.th/Thai/Banknotes/production_and_security/Pages/identify.aspx-


    ธนบัตรเป็นสิ่งพิมพ์มีค่าประเภทหนึ่ง มีความพิเศษแตกต่างจากสิ่งพิมพ์มีค่าประเภทอื่น เพราะนอกจากลักษณะต่อต้านการปลอมแปลงที่ต้องบรรจุไว้ในพื้นที่พิมพ์อันจำกัดแล้ว ลวดลายในธนบัตรยังต้องมีคุณค่าทางศิลปะ มีความประณีตสวยงาม และเน้นเอกลักษณ์ความเป็นไทย ดังนั้น เพื่อคงไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือสมเป็นสื่อกลางสำหรับใช้ในการแลกเปลี่ยน ธนบัตรต้องมีลักษณะพิเศษที่ยากต่อการปลอมแปลง แต่ประชาชนสามารถสังเกตจดจำได้ดี และแยกแยะความแตกต่าง ด้วยวิธีสังเกตง่าย ๆ ๓ วิธี ได้แก่ สัมผัส ยกส่อง และพลิกเอียง

    อย่างไรก็ดี เพื่อความมั่นใจจึงควรสังเกตจุดสำคัญต่าง ๆ บนธนบัตรอย่างน้อย ๓ จุด ขึ้นไป สำหรับธนบัตรแบบที่ใช้ในปัจจุบัน มีรายละเอียดการสังเกต ดังนี้

    [​IMG]

    [​IMG]


    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    [​IMG]



    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • z01.png
      z01.png
      ขนาดไฟล์:
      682.6 KB
      เปิดดู:
      324
    • z02.png
      z02.png
      ขนาดไฟล์:
      637.7 KB
      เปิดดู:
      51
    • z03.png
      z03.png
      ขนาดไฟล์:
      684.8 KB
      เปิดดู:
      52
    • z04.png
      z04.png
      ขนาดไฟล์:
      1.3 MB
      เปิดดู:
      291
    • z05.png
      z05.png
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      330
    • z06.png
      z06.png
      ขนาดไฟล์:
      648.9 KB
      เปิดดู:
      47
    • z07.png
      z07.png
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      253
    • z08.png
      z08.png
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      51
    • z09.png
      z09.png
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      47
    • z10.png
      z10.png
      ขนาดไฟล์:
      1.5 MB
      เปิดดู:
      46
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มาเล่าสู่กันฟัง

    เรื่องของพระวังหน้า

    ่หลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ท่านมีเจตนาในการสร้างพระวังหน้าขึ้นเพื่อชาติ เพื่อศาสนาพุทธ ไม่ได้มีเจตนาในการสร้างเพื่อการค้า หรือพุทธพาณิชย์

    ดังนั้น เจตนาในการให้สร้างขึ้น เป็นเจตนาที่ยิ่งใหญ่ หากใครนำไปเป็นสินค้าในการค้าขาย กรรมหนัก ผมเองเห็นมาแล้ว กรรมหนักและเร็วครับ




    [​IMG]


    [​IMG]


    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • s001.png
      s001.png
      ขนาดไฟล์:
      637.4 KB
      เปิดดู:
      531
    • s002.png
      s002.png
      ขนาดไฟล์:
      711.4 KB
      เปิดดู:
      51
    • s003.png
      s003.png
      ขนาดไฟล์:
      682.2 KB
      เปิดดู:
      50
    • s004.png
      s004.png
      ขนาดไฟล์:
      632.2 KB
      เปิดดู:
      43
    • s005.png
      s005.png
      ขนาดไฟล์:
      655.5 KB
      เปิดดู:
      43
    • s006.png
      s006.png
      ขนาดไฟล์:
      663.2 KB
      เปิดดู:
      49
    • s007.png
      s007.png
      ขนาดไฟล์:
      608.2 KB
      เปิดดู:
      51
    • s031.png
      s031.png
      ขนาดไฟล์:
      664.2 KB
      เปิดดู:
      50
    • s032.png
      s032.png
      ขนาดไฟล์:
      510.4 KB
      เปิดดู:
      44
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วิธีผูกเนคไทแบบง่ายๆ ทำตามได้ไม่ยาก


    -http://men.kapook.com/photo/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B9%84%E0%B8%97_32239.html-


    วิธีผูกเนคไทแบบง่ายๆ How To Tie a Necktie เรื่องของผูกเนคไทก็เป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งจัดว่าเป็นสากลนิยมมาก ๆ เพราะช่วยให้ผู้สวมใส่ดูสุภาพเรียบร้อยและเป็นทางการมากขึ้น จนกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในหลาย ๆ สถานที่หลาย ๆ หน่วยงานที่ยึดถือกันมานาน

    (ภาพประกอบจาก fearlessmen, themetapicture)

    โพสโดย: aitakira
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อันนี้ควร save เก็บไว้ครับเพราะเป็นกันเยอะ

    ใครมีอาการ...ลองเอาไปใช้ดูครับ

    ท่ายืดกล้ามเนื้อท้ายทอย -
    ท่ายืดกล้ามเนื้อท้ายทอย - YouTube

    ท่ายืดกล้ามเนื้อบ่าและต้นคอ -
    ท่ายืดกล้ามเนื้อบ่าและต้นคอ - YouTube

    ท่ายืดกล้ามเนื้อสะบัก -
    ท่ายืดกล้ามเนื้อสะบัก - YouTube

    ท่ายืดกล้ามเนื้อคอด้านหน้า -
    ท่ายืดกล้ามเนื้อคอด้านหน้า - YouTube

    ท่านั่งแบบสมดุล สำหรับคนปวดหลัง -
    ท่านั่งแบบสมดุล สำหรับคนปวดหลัง - YouTube

    ท่ายืดกล้ามเนื้อใต้ขาพับ -
    ท่ายืดกล้ามเนื้อใต้ขาพับ - YouTube

    สัญญานอันตรายของคนปวดหลัง -
    สัญญาณอันตรายของคนปวดหลัง - YouTube

    --------------------------------------------



    อันนี้ควร save เก็บไว้ครับเพราะเป็นกันเยอะ

    ใครมีอาการ...ลองเอาไปใช้ดูครับ

    ท่ายืดกล้ามเนื้อท้ายทอย -
    -http://youtu.be/mkLzLY0Hdjs-

    ท่ายืดกล้ามเนื้อบ่าและต้นคอ -
    -http://youtu.be/IjjadrM8-ZA-

    ท่ายืดกล้ามเนื้อสะบัก -
    -http://youtu.be/xXfvy9N-pyo-

    ท่ายืดกล้ามเนื้อคอด้านหน้า -
    -http://youtu.be/eITtsSDJV_o-

    ท่านั่งแบบสมดุล สำหรับคนปวดหลัง -
    -http://youtu.be/XAspVSaqtOo-

    ท่ายืดกล้ามเนื้อใต้ขาพับ -
    -http://youtu.be/c9SYYYL309g-

    สัญญานอันตรายของคนปวดหลัง -
    -http://youtu.be/sUB96DVpV2w-
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    นี่ก็มารศาสนา

    -------------------------------------------------------------------


    ว่อนเน็ต ! ชายอ้วน อ้างตัวเป็นร่างทรงหลวงปู่เงิน วัดบางคลาน จังหวัดพิจิตร

    วันนี้(15 ส.ค.) ชาวสังคมออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพชายอ้วน อ้างตัวเป็นร่างทรง หลวงปู่เงิน วัดบางคลาน โดยภาพดังกล่าวถูกแชร์มาจากเพจ FuckGhost ฟักโกสต์ : สมาคมต่อต้านสิ่งงมงาย ซึ่งในภาพเป็นชายร่างอ้วนคนหนึ่งนั่งบนธรรมมาสน์สงฆ์ นุ่งขาว ห่มขาว บนใบหน้าและแขนมีทองคำเปลวติดอยู่ด้วย

    [​IMG]

    โดยชายคนดังกล่าวอ้างตัวว่าเป็นร่างทรงของหลวงปู่เงิน พุทธโชติ เกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดบางคลาน จังหวัดพิจิตร ซึ่งมีผู้เคารพนับถือเป็นจำนวนมาก

    ทั้งนี้ชาวสังคมออนไลน์ได้มีการเรียกร้องให้สำนักงานพระพุทธศาสนาหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวเพราะทำให้พุทธศาสนามัวหมองและเป็นการเอาพุทธศาสนามาหากินกับความเชื่อซึ่งขัดกับหลักคำสอนของศาสนาพุทธ

    MThai news


    [​IMG]

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ชาวเน็ตสับเละลูก 6 คนจบสูง!ทิ้งพ่อ-แม่ยามแก่เฒ่า

    -http://www.dailynews.co.th/Content/crime/259741/%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%95%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81+6+%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%87!%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD-%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%92%E0%B9%88%E0%B8%B2-



    [​IMG]

    สังคมออนไลน์จวกลูกทรพี ทิ้งพ่อวัย 82 เผชิญชีวิตกลางถนน พ่อขับรถแท็กซี่หาเงินซื้อยารักษา แม่วัย 78 ป่วยเป็นอัมพาต เผยชีวิตใกล้ฝั่งต้องทำตัวให้แข็งแรง แม้มีลูก 6 คนส่งเรียนจบสูง แต่ไม่เคยเหลียวแล
    วันเสาร์ 16 สิงหาคม 2557 เวลา 00:59 น.

    เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกของสื่อสังคมออนไลน์ หรือ โซเชียลมีเดีย ได้มีการโพสต์ภาพพร้อมข้อความร้องขอความช่วยเหลือ ชายชราขับรถแท็กซี่รายหนึ่งจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Coral Mbk" โพสภาพและข้อความส่วนตัวเล่าถึง คุณลุง "วีรยุทธ์ พรหมมณี" ชาวจ.พระนครศรีอยุธยา วัย 82 ปี ที่ต้องออกมาขับรถแท็กซี่เพื่อหาเงินไปรักษาภรรยาวัย 78 ปี ที่นอนป่วยเป็นอัมพาต หลังส่งเสียลูกทั้ง 6 คนจนจบการศึกษาแต่ไม่เคยหันกลับมาดูแลพ่อแม่แม้แต่น้อย ทำนองว่า

    "เมื่อวานเรียกรถแท๊กซี่ไป รพ จุฬา เปิดประตูมาเจอคุณลุงท่านนี้ ลุงบอกว่าวิ่งมาตั้งนานเพิ่งได้ลูกค้า ตอนแรกกะจะไม่ไปแล้ว ลุงจะขับรถไหวหรอเนี้ยะ ตั้งแต่นั่งแท๊กซี่มาเจอลุงอายุมากสุด ลุงอายุ 82 ปี ผอม ไม่มีฟันแล้ว นั่งกุมพวงมาลัยชิดเลย เอาวะขึ้นก้อขึ้น สงสารลุงไปก้อไปแบบใจตุ้ม ๆ ต๋อม ๆ เลยถามลุงว่าลูกมีไหม ทำไมอายุมากแล้วยังมาขับอีก ลุงบอกว่ามีลูก 6 คน แต่หายไปไม่ติดต่อมาเลย ลูกมีการศึกษาได้เรียนหนังสือสูง ๆ กันทุกคน (ยังคิดว่าความรู้ไม่ได้ช่วยให้จิตใจคนเรียนสูงขึ้นตาม)

    "ทุกวันนี้อยู่กะยาย อายุ 78 ปี เป็นอัมพาต ต้องเช็ดฉี่เช็ดอึให้ ต้องหาเงินมาเพื่อซื้อยาหม้อให้ยายกิน แกบอกว่าสามสิบบาทไม่ได้รับคนไข้อัมพาต อย่างดีก้อได้ยามากินแล้วไล่กลับบ้าน น่าสงสารลุงมาก เพราะว่าบางวันขับรถขาดทุนสองคนตายายต้องกินข้าวต้มกับซีอิ้ว อาหารดี ๆ ไม่เคยได้กินมาหลายปีแล้ว เห็นลุงเล่าไปแล้ว เลยช่วยค่าข้าวลุงไป เพราะลุงบอกว่ามีผู้โดยสารให้เงินเดือนหรือรับไปอยู่ด้วย ลุงยังบอกว่าเกรงใจเค้า ไม่ใช่ลูกใช่หลานเรายังคิดเอยปากช่วยเหลือ ลุงไม่ขอรบกวนใครหรอก ก่อนลงจากรถ หลังจากให้ค่าข้าวลุงไปกินข้าว สามร้อย ลุงก็อวยพรให้ เลยบอกลุงว่า เงินมี ข้าวมี สุขภาพไม่ดี จะมีค่าอะไร ลุงคือผู้ที่รวยมากเลยนะ ลุงรวยสุขภาพไม่เป็นโรคอะไรเลย และลุงรวยความรักที่มีให้กลับภรรยา"

    นอกจากนี้เจ้าของเฟซบุ๊ก ยังระบุอีกว่า "ลุงวีรยุทธ์ไม่มีมือถือ ไม่มีบัญชีธนาคาร อ่านหนังสือออกบ้างไม่ออกบ้าง ตอนนี้อยู่บ้านเช่าในกรุงเทพฯ ค่าเช่าเดือนละ 1,600 ซึ่งโพสต์ดังกล่าวได้เรียกความสงสารและเสียงวิพากษ์ณืวิจารณ์อย่างมากถึงกรณีที่ลูกไม่เคยกลับมาดูแลพ่อแม่ที่อยู่ในวัยชรา ที่ควรจะได้พักผ่อนในยามนี้ แต่กลับต้องออกมาทำมาหากินอย่างยากลำบาก แถมยังเสี่ยงอันตรายบนท้องถนนด้วย".
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    .

    ทำได้ 30 คะแนนครับ


    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 17061  30.png
      17061 30.png
      ขนาดไฟล์:
      57.8 KB
      เปิดดู:
      77
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    แชร์คลิปเตือนภัยไม่ถึง 30 วินาที โจรชิงรถดื้อๆ
    วันเสาร์ 16 สิงหาคม 2557 เวลา 17:47 น.

    -http://www.dailynews.co.th/Content/regional/259840/%E0%B9%81%E0%B8%8A%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87+30+%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5+%E0%B9%82%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%86-


    เมื่อวันที่ 16 ส.ค. เตือนภัยสำหรับผู้ขับรถในเวลาค่ำคืน หลังจากผู้ที่ใช้ชื่อเพจว่า @อย่าขี้โม้ดีกว่า โพสต์คลิปเหตุการณ์ชิงทรัพย์ โดยเป็นภาพที่หนุ่มสาวซึ่งคาดว่าเป็นแฟนกันกำลังจอดรถเก๋งส่วนตัวบริเวณริมฟุตปาธ โดยฝ่ายหญิงเป็นคนขับ ส่วนฝ่ายชายนั่งข้าง จากนั้นหลังจอดเสร็จทั้งคู่ได้เปิดประตูลงมาจากรถ ทันใดนั้นเหตุร้ายก็เกิดขึ้น เมื่อคนร้าย 2 ราย ได้ขับรถยนต์พุ่งเข้ามาประชิดตัวหญิงสาวอย่างกะทันหัน ก่อนคนร้ายที่นั่งข้างคนขับลักษณะสวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้าจะเปิดประตูรถและปรี่ชักมีดขึ้นมาข่มขู่หญิงสาวให้ส่งกุญแจรถ ด้วยความตกใจทำให้เหยื่อทำกุญแจรถตกพื้น

    จากนั้นคนร้ายได้หยิบและรีบนำไปสตารืทเครืองขับหนีไปอย่างง่ายดาย ใช้เวลาไม่ถึง 30 วินาที โดยคนร้ายอีกคนที่จอดรถรออยู่จะรีบขับหนีตามไป ซึ่งช่วงที่โดนก่อเหตุหญิงสาวมีท่าทางตื่นกลัวแต่ก็สียดายรถจึงพยายามขอความเห็นใจจากคนร้าย ทำให้แฟนหนุ่มที่เกรงว่าแฟนจะโดนทำร้ายต้องเข้าดึงตัวห้ามปรามไว้ กระทั่งจำเป็นต้องปล่อยให้รถถูกชิงไปต่อหน้าต่อตา แม้จะมีรถพลเมืองดีขับติดตามไป แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งคลิปดังกล่าวมีการแชร์ไปอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ระมัดระวังเตือนภัยใกล้ตัว พร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นถึงวิธีการป้องกันหรือการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ถูกต้องกันไปต่างๆนานา ตามวิจารณญาณของแต่ละคน.


    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=IQ-DB7EnYjc#]เตือนภัย ชิงรถดื้อๆ[/ame]
    -http://www.youtube.com/watch?v=IQ-DB7EnYjc-

    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    กลับบ้านตรงเวลา... ไม่ทุ่มเทให้กับงาน ?

    -http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1408180959#-

    คอลัมน์ เอชอาร์ คอร์เนอร์ ธำรงศักดิ์ คงคาสวัสดิ์ -http://tamrongsakk.blogspot.com-

    พนักงานที่ทำงานแล้วกลับบ้านดึก ๆ เป็นคนทุ่มเทให้กับงานจริงหรือครับ ?

    หัวหน้างานหลายคนมักจะนำเรื่องนี้มาเป็นเรื่องสำคัญในการพิจารณาช่วงขึ้นเงินเดือนประจำปี หรือจ่ายโบนัสเสียด้วยสิ

    หลักคิดก็ไม่ซับซ้อนอะไรมาก ใครกลับดึกคนนั้นอุทิศตัวให้กับงาน ใครกลับเร็ว (หมายถึงพอถึงเวลาเลิกงานแล้วสักพักก็กลับบ้าน
    ไม่ได้หมายถึงกลับก่อนเวลาเลิกงานนะครับ) ก็แสดงว่าคนคนนั้นไม่สู้งาน ไม่ขยัน ไม่ทุ่มเทให้กับงาน ฯลฯ แล้วแต่สารพัดข้อหาจะยัดเยียดให้

    หัวหน้าหลายคนที่มีความคิดทำนองนี้มักจะเรียกลูกน้องประชุมช่วงใกล้ ๆ จะเลิกงานอยู่เป็นประจำ
    เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกน้อง (บางคน) กลับบ้านเร็วเกินไป
    และการประชุมก็มักจะลากยาวไปจนค่ำ ๆ เสียด้วย

    ท่านเคยเจอหัวหน้างานทำนองนี้บ้างไหมครับ ?

    ผมว่าปัญหาทำนองนี้เป็นปัญหาในเรื่องของวิธีคิดแบบเชื่อมโยงตรรกะที่อาจจะจริง หรือไม่จริงก็ได้
    ซึ่งความคิดทำนองนี้ก็เลยทำให้เกิดค่านิยมบางอย่างในตัวคนขึ้นมา ยิ่งถ้าคนคนนั้นได้เป็นหัวหน้า
    หรือเป็นผู้บริหารแล้วยังมีวิธีคิดแบบรวบยอดที่อาจจะไม่ถูกต้องทำนองนี้ ย่อมจะทำให้คนที่เป็นลูกน้องอึดอัดหาวเรอ เผลอ ๆ นั่งเซ็งกันได้เป็นธรรมดา

    ส่วนลูกน้องที่ "ทำงานเป็น" รู้ว่าหัวหน้าชอบคนกลับดึก ๆ ก็มักจะดึงเชิงในช่วงเวลางาน คือในชั่วโมงทำงานก็ทำแบบเนียน ๆ เรื่อย ๆ
    จะได้มีอะไรเอาไว้ทำตอนหลังเลิกงาน บางคนอาจจะคิดว่ากลับค่ำ ๆ ดึก ๆ หน่อยก็ดี รถจะได้ไม่ติดมาก ก็นั่งเล่น Facebook ไปตอนที่หัวหน้าไม่ได้เดินมาตรวจงาน
    พอหัวหน้าเดินมาก็ทำเป็นเอางานขึ้นมาทำ ฯลฯ ก็แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคน

    เรามาลองดูอีกมุมหนึ่งไหมครับว่า การมีค่านิยมให้ลูกน้องกลับบ้านดึก ๆ ทั้ง ๆ ที่ลูกน้องก็เคลียร์งานหมดแล้ว บริษัทจะเกิดความเสียหายอะไรบ้าง

    1.ต้องจ่ายค่าล่วงเวลา ในกรณีที่หัวหน้าสั่งให้ลูกน้องทำงานหลังเวลาทำงานปกติ ซึ่งบริษัทก็จะมีค่าใช้จ่ายในเรื่องนี้

    2.ค่าน้ำ, ค่าไฟฟ้า, ค่าโทรศัพท์ ที่บริษัทต้องจ่าย เพราะการที่พนักงานอยู่หลังเวลางาน หน่วยงานนั้น ๆ ยังต้องเปิดไฟแสงสว่าง,
    เปิดแอร์, พนักงานยังต้องไปเข้าห้องน้ำใช้น้ำใช้กระดาษทิสชู, ใช้เครื่องถ่ายเอกสาร, เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ (แต่อาจเล่น Facebook ส่วนตัว),
    โทรศัพท์คุยกับคนที่บ้าน ฯลฯ ลองให้ฝ่ายบัญชีเก็บข้อมูลค่าใช้จ่ายของแต่ละฝ่ายหลังเวลางานดูสิครับว่า วัน ๆ หนึ่งหรือเดือน ๆ หนึ่งคิดเป็นเงินกี่บาท ปีละกี่บาท

    3.พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่แย่ลง "Work Life Balance" ที่ต้องเสียไป กว่าจะกลับถึงบ้านกี่โมง
    หลายคนต้องมีครอบครัวต้องดูแล การพักผ่อนน้อย ไม่ได้ออกกำลังกายทำให้เสียสุขภาพในระยะยาว
    บริษัทอาจจะมีคนขี้โรคเพิ่มมากขึ้นจากการไม่สมดุลชีวิตกับการทำงาน คนนะครับไม่ใช่เครื่องจักร (ขนาดเครื่องจักรยังต้องมีการพักซ่อมบำรุงเลย)
    ต้องมีการพักผ่อนให้เหมาะสมด้วย ไม่ใช่โหมงานดึกทุกวันทุกเดือนตลอดทั้งปี

    4.จากผลกระทบข้อ 3 พนักงานบางคนมีปัญหาครอบครัว เช่น ภรรยา (บางคนที่ทำตัวเป็นฝ่ายสืบสวน)
    จะคอยซักถามว่าทำไมสามีกลับบ้านดึก มีกิ๊กหรือเปล่า แล้วก็ทะเลาะกัน หรือลูกไม่มีใครดูแลทำให้เป็นเด็กติดเกม ฯลฯ
    ซึ่งปัญหาครอบครัวเหล่านี้หลายครั้งจะกลับมาเป็นปัญหาในเรื่องงาน

    เพราะเมื่อพนักงานเครียดเรื่องครอบครัวก็เลยทำให้เซ็ง เบื่อ ไม่อยากทำงานไปเลยก็มี
    อย่าลืมว่าแต่ละคนล้วนมีครอบครัว มีญาติพี่น้อง ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวในโลก หรือมีแต่เรื่องงานเพียงอย่างเดียว
    จึงจำเป็นต้องมีชีวิตส่วนตัวและครอบครัวด้วยนะครับ

    5.พนักงานที่รับแนวคิดทำนองนี้ไม่ได้ (โดยเฉพาะพนักงานรุ่นใหม่ไฟแรงพวก Gen Y)
    จะมองว่าหัวหน้าเป็นพวกบริหารเวลาไม่ดี ครอบครัวมีปัญหา โลกแคบเพราะมีแต่ที่ทำงานไม่รู้จักไปสังคมสังสรรค์ซะบ้างเลย ฯลฯ
    ก็เลยลาออกไปอยู่ที่อื่นดีกว่า บริษัทก็จะต้องเสียเวลามาสัมภาษณ์หาคนมาแทนกันอีก

    ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการหาคนมาทดแทน แถมเมื่อได้คนมาแทนแล้วอีกไม่นานก็มีแนวโน้มจะทำให้พนักงานใหม่ลาออกอีกเช่นเคย
    เพราะรับค่านิยมแบบนี้ไม่ได้ ยิ่งบางแห่งทำงานสัปดาห์ละ 6 วันแล้วต้องกลับดึก ๆ ทุกวันจะพบว่าอัตราการลาออกสูงเพราะสาเหตุนี้แหละครับ

    ที่ผมพูดมาข้างต้นนี้ไม่ได้หมายความว่าผมสนับสนุนให้ท่านทำงานกันไปวัน ๆ โดยคอยจ้องนาฬิกาว่าพอถึงเวลาเลิกงานก็รีบกระโจนไปรูดบัตรออกจากบริษัททันทีนะครับ !

    เพียงแต่อยากจะให้ข้อคิดว่า ในการทำงานนั้นเขาให้เวลาทำงานกัน 8 ชั่วโมงต่อวัน เราก็ควรจะทำให้เต็มประสิทธิภาพหรือเต็มที่กับมัน
    บริหารเวลาให้ดี ทำงานให้เสร็จสิ้นตามที่ได้รับมอบหมาย หรือควบคุมดูแลงานของเราให้ดีในแต่ละวัน
    และมีเวลาหลังเลิกงานในการสังสรรค์กับเพื่อนร่วมงานบ้าง, ออกกำลังกายบ้าง, พักผ่อนบ้าง ฯลฯ เพื่อสมดุลชีวิตไม่ให้บ้างาน (Workaholic มากจนเกินไป)

    แต่ถ้าช่วงไหนที่มีงานด่วน งานเร่ง งานฉุกเฉินที่ต้องรับผิดชอบ อาจจะต้องอยู่ดึกดื่นเพื่อเคลียร์งานด่วนเหล่านั้น
    อย่างนี้ก็ยังพอรับได้เพราะเป็นงานที่จำเป็นเร่งด่วน ซึ่งคงไม่ใช่การทำงานเกินเวลาแบบเป็นประจำทุกวัน วันละเกิน 12 ชั่วโมงไปอย่างนี้ตลอดทั้งปี
    และติดต่อกันหลายปี แถมเมื่อมีพนักงานใหม่เข้ามาทำงานก็ต้องทำงานกันตามค่านิยมอย่างนี้แหละถึงจะอยู่ด้วยกันได้

    ถ้ามีแนวคิดอย่างนี้ละก็ ผมว่าคงไม่สมเหตุสมผลแล้วละครับ !

    ก็ในเมื่อถ้าพนักงานทำงานเสร็จสิ้นตามที่ได้รับมอบหมาย ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ จะมีเหตุผลอะไรอีกที่หัวหน้าจะต้องให้อยู่ดึก ๆ ทุกวันล่ะ

    คงมาสรุปกันตรงที่หลักพระพุทธองค์ท่านเคยสอนไว้ก็คือ การเดินสายกลาง ไม่สุดโต่งไปทางใดทางหนึ่งน่ะ น่าจะเป็นทางที่ดีที่สุด

    เพียงแต่หัวหน้างานหันกลับมาใช้คติ "Work Life Balance" ให้ดีทั้งตัวเองและลูกน้อง จะได้มีความสุขทั้งในงานและชีวิตส่วนตัว จะได้ Win-Win ไม่ดีกว่าหรือครับ
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วิธีเล่นหุ้นด้วยตัวเอง มือใหม่หัดเล่นหุ้นต้องรู้เลย

    -http://money.kapook.com/view93881.html-



    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาความรู้ตลาดทุน

    เล่นหุ้นเริ่มต้นอย่างไร ใครกำลังเป็นมือใหม่หัดเล่นหุ้น ก่อนลงสนามจริงต้องศึกษาข้อมูลเบื้องต้นไว้ก่อนเลย

    หลายคนมีความคิดอยากเล่นหุ้น แต่ในใจยังกล้า ๆ กลัว ๆ และไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากตรงไหน ต้องเปิดบัญชีอย่างไร ใช้เงินแค่ไหน แล้วซื้อขายอย่างไรล่ะ ถ้ากำลังมึน ๆ กับเรื่องหุ้นอยู่ล่ะก็ ขอให้ตามกระปุกดอทคอมมาเลย เพราะเราได้รวบรวมข้อมูลพื้นฐานสำหรับมือใหม่ที่อยากเล่นหุ้นด้วยตัวเองมาบอกให้รู้แล้วล่ะ

    รู้จักสักนิด หุ้น คืออะไร

    หุ้น (Stock) ก็คือตราสารทุนที่บริษัทนั้นออกและเสนอขายให้ประชาชนทั่วไป เพื่อระดมทุนนำเงินที่ได้ไปลงทุนในกิจการของบริษัทนั้น ทั้งนี้ เมื่อเราลงทุนไปในหุ้นของบริษัทใด เราจะมีฐานะเป็น "เจ้าของกิจการ" ของบริษัทนั้น ถ้าบริษัทดำเนินไปได้ดี เราก็จะได้กำไร แต่ถ้าบริษัทมีปัญหา เราก็ประสบปัญหาขาดทุนได้ นี่ก็คือความเสี่ยงที่ได้จากการลงทุนในหุ้น ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงสูงกว่าการลงทุนในรูปแบบอื่น เช่น พันธบัตร หุ้นกู้ แต่ก็เป็นทางเลือกที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงเช่นกัน


    วิธีเล่นหุ้นด้วยตัวเอง มือใหม่หัดเล่นหุ้นต้องรู้เลย


    ทำความเข้าใจกับขั้นตอนการเล่นหุ้น

    ไม่ว่าคุณอยากจะเล่นหุ้นเพื่อเก็งกำไร หรือลงทุนในหุ้นระยะยาว ก่อนจะก้าวเข้าสู่ตลาดหุ้นก็ต้องเริ่มจากขั้นตอนต่อไปนี้

    1. เปิดบัญชีหุ้น

    การจะเล่นหุ้นได้ ขั้นแรกต้องเปิดบัญชีหุ้นเสียก่อน โดยยื่นเอกสารสมัครได้ที่บริษัทหลักทรัพย์ หรือที่นักลงทุนเรียกว่า "โบรกเกอร์" (Broker) ซึ่งมีอยู่หลายบริษัทให้เลือก (ตรวจสอบบริษัทหลักทรัพย์ทั้งหมดได้ที่นี่)

    แต่ถ้าใครมีบัญชีเงินเดือนอยู่ธนาคารไหน สามารถเข้าไปสมัครที่ธนาคารสาขาต่าง ๆ ได้เลย แล้วธนาคารจะส่งเรื่องต่อไปยังบริษัทหลักทรัพย์ของตนเองอีกที เช่น บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ของธนาคารกรุงเทพ, บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ของธนาคารกรุงศรีฯ

    นอกจากนี้ บางธนาคารยังสามารถสมัครทางออนไลน์ได้เลย เช่น บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ของธนาคารกสิกรไทย ฯลฯ ที่แค่กรอกข้อมูลและส่งเอกสารผ่านทางออนไลน์ก็สามารถเปิดบัญชีได้ โดยไม่ต้องไปสมัครถึงธนาคาร

    สำหรับเอกสารที่ต้องใช้ประกอบการสมัคร ทั่ว ๆ ไปก็คือ

    สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน

    สำเนาทะเบียนบ้าน

    สำเนาใบแจ้งรายการบัญชีผ่านธนาคาร หรือสำเนาสมุดคู่ฝากบัญชีออมทรัพย์ย้อนหลัง 6 เดือน

    ค่าอากรแสตมป์ 30 บาท

    อย่างไรก็ตาม ควรติดต่อสอบถามจากบริษัทหลักทรัพย์ที่คุณจะสมัครอีกครั้ง เพราะแต่ละแห่งเรียกขอเอกสารไม่เหมือนกัน และที่ต้องรู้อีกข้อก็คือ ผู้ที่จะเปิดบัญชีหุ้นได้ต้องมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปเท่านั้น ถ้าอายุต่ำกว่า 18 ปี ต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองก่อน

    2. เลือกให้ดีจะเปิดบัญชีแบบไหน

    ในการเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นนั้น เราต้องเลือกด้วยว่าจะเปิดบัญชีแบบบัญชีเงินสด (Cash Account), บัญชีเงินฝาก (Cash Balance) หรือบัญชีเงินกู้ยืม (Credit Balance Account) ซึ่งแต่ละบัญชีแตกต่างกันตามนี้

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]



    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]




    จากข้อมูลข้างต้น มือใหม่ควรเปิดบัญชีแบบ บัญชีเงินฝาก (Cash Balance) มากที่สุด เพราะเราจะต้องโอนเงินเข้าบัญชีก่อน จึงจะซื้อหุ้นได้ในวงเงินที่เรากำหนดไว้เอง วิธีนี้จะช่วยให้เราไม่ซื้อหุ้นเกินวงเงินของตัวเอง ส่วนบัญชีเงินกู้ยืม (Credit Balance Account) นั้นไม่แนะนำ เพราะมือใหม่ยังขาดความรู้และประสบการณ์ในตลาดหุ้น เสี่ยงต่อการเป็นหนี้สูงมาก

    3. ศึกษาโปรแกรม Streaming Pro สำหรับเล่นหุ้น

    เมื่อได้รับอนุมัติเปิดบัญชีแล้ว เราจะได้เลขที่บัญชี และรหัสผ่านเพื่อล็อกอินเข้าไปในหน้าเว็บของโบรกเกอร์ เมื่อเข้าไปแล้วเราจะรู้จักกับโปรแกรมที่ชื่อว่า Streaming Pro ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ให้เราใช้ส่งคำสั่งซื้อขายเรียลไทม์ สามารถใช้เองได้ไม่ยากเลย

    4. ทำความเข้าใจคำศัพท์สำคัญในโปรแกรม Streaming Pro

    ในโปรแกรมจะมีคำศัพท์ภาษาอังกฤษอยู่หลายตัว แต่ศัพท์สำคัญที่เราจำเป็นต้องรู้ เพื่อใช้ในการส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นก็คือ

    Market จะเป็นส่วนแสดงข้อมูลภาพรวมของตลาดแบบเรียลไทม์

    Portfolio ส่วนแสดงพอร์ตการลงทุนของเรา ว่าได้กำไรหรือขาดทุนเท่าไร

    Account No. คือ หมายเลขบัญชีของเรา

    Credit Line คือ วงเงินอนุมัติจากทางบริษัท เราจะสามารถซื้อหุ้นได้ไม่เกินมูลค่า Credit ที่ปรากฏ

    Line Available คือ อำนาจซื้อที่แท้จริง ณ ขณะนั้น ๆ หมายถึงเราสามารถซื้อหุ้นได้เพิ่มเติมอีกไม่เกินมูลค่า Line ที่ปรากฏ เช่น หากโอนเงินเข้าบัญชี 10,000 บาท มูลค่า Line ตั้งต้นจะเท่ากับ 10,000 บาท เมื่อเราสั่งซื้อหุ้นไป 3,000 บาท มูลค่า Line จะถูกหักออก 3,000 บาท เท่ากับเรามีอำนาจซื้อเพิ่มเติมได้อีกไม่เกิน 7,000 บาท

    Cash คือ มูลค่าเงินสดที่อยู่ในบัญชีของเรา ณ ขณะนั้น ซึ่งมูลค่านี้จะไม่อัพเดทแบบเรียลไทม์ เพราะกระบวนการชำระราคาในการซื้อขายหุ้นจะใช้เวลา 3 วันหลังการซื้อขาย (T+3) ดังนั้น หากซื้อหุ้นวันนี้ 20,000 บาท มูลค่า Cash จะยังไม่ปรับลดลงทันที แต่จะลดลงในวันที่ 3 หลังวันทำการ (T+3)

    ทั้งนี้ หากต้องการถอนเงินจากบัญชีหุ้น โดยโอนกลับเข้าบัญชีเงินเดือน ต้องรอให้ช่อง Cash อัพเดทเท่ากับ Line Available เสียก่อน จึงจะทำการถอนตามจำนวนที่ขายหุ้นออกไปได้ และเพื่อความสะดวกในช่วงเริ่มต้น แนะนำให้ใช้ บลจ.ธนาคารเดียวกับบัญชีเงินเดือนของคุณ จะสามารถระบุให้โอนเข้าบัญชีออนไลน์ได้ทันที

    T+3 คือ วันทำการที่ 3 นับจากวันซื้อขายหลักทรัพย์ โดยไม่นับรวมวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดของสถาบันการเงินตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น หากซื้อหุ้นวันศุกร์ ให้นับไปอีก 3 วันทำการ เงินจะตัดจากบัญชีในวันพุธ เช่นเดียวกับการขายหุ้น เงินจะเข้าบัญชีในอีก 3 วันทำการเช่นกัน

    ทั้งนี้ หากเป็น T+1, T+2 หรือตัวเลขอื่น ๆ ที่มักใช้ในการซื้อขายกองทุน ตัวเลขด้านหลังก็คือกี่วันทำการนั้น ๆ เหมือนกับ T+3

    Volume คือ ปริมาณของหุ้นที่ซื้อขาย หรืออธิบายง่าย ๆ ก็คือ จำนวนหุ้นที่ซื้อขายกันในวันนั้น

    Value คือ มูลค่าการซื้อขายของหุ้น หรือ ในวันนั้นมีการซื้อขายเป็นเงินเท่าไร

    Buy คือ ต้องการซื้อหุ้นเข้า Port ของเรา

    Sell คือ ต้องการขายหุ้นของเราออกไป

    Opened หรือ Queuing (SX) คือ คำสั่งซื้อขายที่รอการจับคู่ หรือมีการจับคู่ได้บางส่วนแต่ยังจับคู่ได้ไม่หมด

    Matched คือ คำสั่งซื้อขายได้รับการจับคู่แล้ว

    Approved คือ คำสั่งซื้อขายที่ไม่อนุมัติ อาจเกิดจากจำนวนเงินไม่เพียงพอในการซื้อขาย

    Bid คือ ราคาเสนอซื้อเข้ามาสูงสุด ณ ขณะนั้น

    Offer คือ ราคาเสนอขายเข้ามาสูงสุด ณ ขณะนั้น


    เพื่อให้เข้าใจคำว่า Bid และ Offer ลองมาดูตัวอย่างกัน


    [​IMG]

    [​IMG]

    หุ้น KTB (ธนาคารกรุงไทย)

    Bid คือราคาที่เสนอซื้อเข้ามาสูงสุด ณ ขณะนั้น โดยราคาสูงสุดอยู่ที่ 22.00 บาท มีคนรอซื้อราคา อยู่จำนวน 2,236,700 หุ้น (ตรงช่อง Volume) ส่วนคนที่รอซื้อราคา 21.90 บาท มีอยู่ 5,207,900 หุ้น

    หากเราต้องการซื้อหุ้น KTB ที่ราคา 22.00 บาท เมื่อเราเคาะราคาไป เราจะยังไม่ได้หุ้นในทันที เราต้องรอให้คนที่เสนอซื้อ 2,236,700 หุ้นก่อนหน้าเรา ซื้อได้หมดก่อน จึงจะถึงคิวของเรา

    * ข้อสังเกต เมื่อส่งคำสั่งซื้อ จะมีคำว่า Queuing ในขั้นตอนนี้หากส่งคำสั่งผิด สามารถ Can cell ได้ แต่หากมีคำว่า Match แล้วแสดงว่าคุณได้หุ้นตัวนั้นเรียบร้อยแล้ว ยกเลิกไม่ได้

    ส่วน Offer ราคาเสนอขายที่สูงสุด ณ ขณะนั้น อยู่ที่ 22.10 บาท มีคนรอขายจำนวน 8,532,700 หุ้น ส่วนราคา 22.20 บาท จำนวน 9,395,000 หุ้น ไล่เรียงกันไป

    ทั้งนี้ หากเราไม่อยากรอคิวซื้อที่ราคา 22.00 บาท เราอาจจะเสนอซื้อที่ราคา 22.10 บาท ซึ่งจะทำให้เราได้หุ้นทันที เพราะมีคนเสนอขายเราที่ราคา 22.10 บาทอยู่แล้ว จำนวน 8,532,700 หุ้น

    สำหรับตัวหนังสือที่เป็นสีต่าง ๆ นั้นคือ

    สีเขียว แสดงว่าราคานั้นสูงกว่าราคาหุ้นที่ปิดตลาดเมื่อวาน

    สีแดง แสดงว่าราคานั้นต่ำกว่าราคาหุ้นที่ปิดตลาดเมื่อวาน

    สีเหลือง แสดงว่าราคานั้นเท่ากับราคาหุ้นที่ปิดตลาดเมื่อวาน

    ในที่นี้ หุ้น KTB ณ ขณะนี้ราคา 22.00 บาท บวกเพิ่มจากราคาปิดเมื่อวาน 0.20 บาท แสดงว่าเมื่อวานราคาปิดอยู่ที่ 21.80 บาท Volume คือ ปริมาณการซื้อขายในขณะนี้ อยู่ที่ 50,353,400 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า (Value) 1,109,668 ล้านบาท


    วิธีเล่นหุ้นด้วยตัวเอง มือใหม่หัดเล่นหุ้นต้องรู้เลย


    5. โอนเงินเข้าบัญชีเพื่อเตรียมซื้อหุ้น

    สำหรับมือใหม่ อาจทดลองเล่นหุ้นด้วยเงินจำนวนไม่มากก่อน ซึ่งขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท ก็สามารถเล่นหุ้นได้ (โปรดตรวจสอบกับแต่ละบริษัทหลักทรัพย์ที่คุณสมัครก่อนอีกครั้ง ซึ่งเรียกได้อีกชื่อหนึ่งว่า "โบรกเกอร์")

    จากนั้นทำตามขั้นตอนนี้

    5.1 โอนเงินเข้าบัญชีโบรกเกอร์ (ตรวจสอบเลขที่บัญชีได้จากโบรกเกอร์ที่สมัครไว้)

    5.2 เมื่อโอนเงินแล้วจะต้องแจ้งวันเวลาที่โอนเงิน จำนวนเงินที่โอนกับโบรกเกอร์ โดยสามารถโทรศัพท์แจ้งกับเจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์) ของโบรกเกอร์นั้น หรือแจ้งทางระบบอินเทอร์เน็ตก็ได้ (ขึ้นอยู่กับระบบของแต่ละโบรกเกอร์เอง)

    5.3 ตรวจสอบยอดเงินในโปรแกรม Streaming Pro ว่ายอดเงินตรงกับที่เราโอนเข้าไปหรือไม่

    6. ทดลองซื้อขายหุ้น

    ถ้าเราคิดว่าตัวเองพร้อมแล้ว อยากลองเสี่ยงดู ก็เริ่มซื้อขายหุ้นได้เลย โดยอาจเลือกซื้อขายหุ้นในราคาต่ำ ๆ เช่น 1-5 บาท และปริมาณน้อย ๆ ก่อน โดยขั้นต่ำของการซื้อหุ้นแต่ละครั้งคือ 100 หุ้น เพื่อทดลองลงทุนดู แต่ถ้าใครยังกลัว ๆ ไม่กล้าเสี่ยง ก็ควรศึกษาปัจจัยต่าง ๆ หาความรู้ก่อนลงทุนจริง

    และนี่ก็คือภาพรวมของการเล่นหุ้น ซึ่งไม่ยากอย่างที่คิด ขั้นต่อไปก็ถึงเวลาเติมความรู้ให้ตัวเองมากขึ้น ติดตามข่าวสารทั้งในและต่างประเทศ ทั้งเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่อาจมากระทบต่อตลาดหุ้นในบ้านเราได้ นอกจากนี้ มือใหม่ก็ควรลองฟังข้อมูลการวิเคราะห์ของสถาบันต่าง ๆ หรือคลิปวิธีเล่นหุ้นเบื้องต้น เพื่อพิจารณาประกอบการตัดสินใจซื้อขายทุกครั้ง

    ติดตามบทความสำหรับนักลงทุนมือใหม่ได้ที่ money.kapook.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • q1_49.jpg
      q1_49.jpg
      ขนาดไฟล์:
      118.5 KB
      เปิดดู:
      546
    • q2_51.jpg
      q2_51.jpg
      ขนาดไฟล์:
      123.6 KB
      เปิดดู:
      415
    • q3_48.jpg
      q3_48.jpg
      ขนาดไฟล์:
      133.5 KB
      เปิดดู:
      388
    • zzzz.jpg
      zzzz.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.9 KB
      เปิดดู:
      472
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล (๔ กรกฎาคม ๒๕๕๔)

    -http://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=4317-

    สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล

    คำว่า สำเนียง หมายถึง เสียง, น้ำเสียง, หางเสียง หรือวิธีออกเสียง. สำเนียงส่อภาษา
    จึงหมายถึง การออกเสียงที่ทำให้รู้ว่าเป็นคนถิ่นใดหรือมาจากถิ่นใด
    เช่นพูดภาษาไทยแต่ออกเสียงเป็นจีน เป็นแขก เป็นฝรั่ง
    หรือออกเสียงเป็นคนสุพรรณ คนเมืองเพชร คนเมืองจันท์ เป็นต้น.
    ส่วนคำว่า กิริยา หมายถึง มารยาท, อาการที่แสดงออกมาด้วยกายหรือการกระทำ.
    กิริยาส่อสกุล จึงหมายถึง มารยาทหรือการกระทำของบุคคลที่แสดงถึงระดับการศึกษาอบรมที่ได้รับมาจากครอบครัว

    สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล หรือ สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อตระกูล เป็นคำพังเพยที่กล่าวเตือนให้บุคคลตระหนักถึงการใช้คำพูด
    และการกระทำว่าสำเนียงภาษาที่พูดและมารยาทที่แสดงออกมาสู่สาธารณชนนั้นจะทำให้ผู้อื่นวิเคราะห์ได้ถึงเชื้อชาติ สัญชาติ
    รวมทั้งประเมินได้ถึงการศึกษาอบรมของผู้แสดงกิริยาวาจานั้น ๆ ว่าเป็นผู้ได้รับการอบรมเลี้ยงดูหรือได้รับการศึกษามาในระดับใด
    มักใช้ในทางตำหนิ เมื่อผู้นั้นพูดหรือแสดงกิริยาไม่สมควร เช่น เขาพูดหยาบคายในที่สาธารณะได้อย่างไร
    สงสัยไม่ได้รับการอบรม สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุลแท้ ๆ เชียว

    ที่มา : บทวิทยุรายการ "รู้ รัก ภาษาไทย" ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
    เมื่อวันที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ เวลา ๗.๐๐-๗.๓๐ น.
     

แชร์หน้านี้

Loading...