พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    กิน “ยา” แบบไหน ให้มีคุณภาพ
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 ตุลาคม 2556 17:13 น.
    -http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9560000130083-

    เวลาป่วยแล้วต้องกินยา บางครั้งก็มียาหลายขนานมาให้กิน ทั้งก่อนอาหาร หลังอาหาร บางครั้งก็มียาก่อนนอน ซึ่งยาที่จะต้องกินเหล่านี้ก็มีกำหนดเวลาที่จะต้องกินตามที่แพทย์สั่ง เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพของยานั้นทำงานได้อย่างเต็มที่ ช่วยรักษาอาการป่วยต่างๆ ได้ดี

    แต่หลายคนคงจะสงสัยอยู่เหมือนกันว่า ยาก่อนอาหารนั้นต้องกินก่อนอาหารนานแค่ไหน แล้วหลังอาหารจะกินอย่างไร ยาก่อนนอนนั้นกินแล้วต้องนอนเลยหรือไม่ “108 เคล็ดกิน” ได้ไปหาคำตอบมาให้จาก คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

    ยาก่อนอาหาร เป็นยาที่กินในช่วงที่ท้องว่าง คือ กินยาก่อนกินอาหารอย่างน้อย 30 นาที (จะกินก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง 2 ชั่วโมงก็ได้) เนื่องมาจากการกินยาประเภทนี้ในช่วงที่ท้องว่าง จะทำให้ประสิทธิภาพของยาไม่ลดลง เนื่องจากกรดในกระเพาะอาหาร อาหาร และส่วนประกอบอื่นๆ อาจจะไปลดการดูดซึมยาเข้าสู่ร่างกาย แต่ถ้าหากลืมกินยาก่อนอาหาร ก็ให้กินอาหารไปก่อนได้เลย แล้วรอให้กระเพาะย่อยให้เสร็จก่อน (ประมาณ 2 ชั่วโมง) จึงค่อยกินยานั้นทีหลัง

    ยาหลังอาหาร สามารถกินได้พร้อมกับอาหาร หรือก่อนกินอาหารคำแรก หรือกินหลังอาหารทันทีก็ได้ แต่ไม่ควรกินหลังอาหารเกิน 15 นาที เนื่องจากว่ายาชนิดนี้ต้องการกรดในกระเพาะไปช่วยในการดูดซึมตัวยา สำหรับใครที่ลืมกินยาหลังอาหาร ควรจะรอกินหลังอาหารในมื้อถัดไป หรืออาจจะกินอาหารว่างไปรองท้องก่อนแล้วค่อยกินยาตามก็ได้

    ยาก่อนนอน ควรกินก่อนนอนประมาณ 15-30 นาที เนื่องจากยาชนิดนี้มีผลข้างเคียงทำให้ง่วงนอนหรือเวียนหัวมากๆ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที จึงจะออกฤทธิ์

    ยารับประทานเวลามีอาการ ก็ควรจะกินเวลาที่มีอาการจริงๆ เท่านั้น โดยในฉลากยามักระบุไว้ว่า ให้กินยาทุก 4-6 ชั่วโมง หรือทุก 8 ชั่วโมง เวลามีอาการ ซึ่งเมื่อมีอาการก็สามารถกินยาได้เลยโดยไม่ต้องคำนึงถึงมื้ออาหาร สามารถกินยาซ้ำได้หากยังมีอาการอยู่โดยมีระยะเวลาห่างกันตามที่ฉลากระบุไว้ และเมื่อหายจากอาการแล้วสามารถหยุดยาได้เลย

    แต่ที่สำคัญ ไม่ว่าจะกินยาชนิด หรือประเภทไหนก็ตาม เมื่อได้รับการแจกยามาแล้วควรสอบถามวิธีการกินยาชนิดนั้นๆ จากเภสัชกรอย่างละเอียด เพราะยาบางชนิดอาจมีวิธีการกินนอกเหนือไปจากยาทั่วไป เพื่อจะให้การกินยาแต่ละเม็ดนั้นได้ประสิทธิภาพสูงสุด

    Food - Manager Online -
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ธรรมวิธีลดเคราะห์บรรเทากรรม

    -http://horoscope.sanook.com/1395077/%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1/-


    สิทธิการิยะ พระอาจาริยเจ้าได้ถ่ายทอดธรรมวิธีเพื่อโปรดสัตว์ให้มีสุข พ้นทุกข์พอสรุปได้ความดังนี้


    เรื่องบุญเรื่องบาปกรรมกำหนดที่พุทธศาสนา กล่าวไว้เป็นเรื่องจริง เพราะถ้าไม่มีบุญไม่มีบาปแล้ว มนุษย์เราต้องเกิดมาเหมือนกันหมด แต่เพราะมีบุญมีบาป จึงเป็นเช่นนั้น มีดี, ชั่ว, สุข, ทุกข์, รวย, จน, มีโชค, มีเคราะห์ ฯลฯ

    ดังอธิบายในเบื้องต้นว่าสุข ทุกข์ เกิดจากบุญ บาป กรรมดี กรรมชั่ว ดังนั้นการที่จะหลีกพ้นจากทุกข์โทษเวรภัยเคราะห์ร้ายทั้งหลาย ก็ด้วยพลังของความดีที่ตนเองได้สร้างเป็นหลักแล้ว ยังสามารถพึ่งพระรัตนตรัย ตลอดจน เทวฤทธิ์ รวมพลังบุญศักดิ์เป็นแสงสว่างแก่ชีวิทเป็นย่อเกิดความปห่งความดีงามของตนและคนอื่น

    แก้ววิเศษ มี่ค่ามหาศาลประมาณค่ามิได้ เป็นที่พึ่งได้จริง คือ พระรัตนตรัย ได้แก่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จึงให้ตั้งนะโม นมัสการบูชาพระ ถึงไตรสรณคมณ์ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สัฃฆัง สะระณัง คัจฉามิ หางศรัทธามั่งคงย่อมเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นแก้วสูงสุดในสามโลก

    ศีลรักษาให้มีกายวาจาเป็นปรกติ ศีลล่งผลให้เกิดในที่สุขติ เทวดารักษา ไม่ไปในทางเสื่อม บางท่านบอกว่าศีลรักษายาก แต่จริงๆแล้ว ทุกท่านสามารถรักษาได้ อย่างน้อยข้อไดข้อหนึ่งก็ยังดี บางท่านมีปัญญา ก่อนนอนรักษาศีล8 ตื่นนอนรักษาศีล5 อย่างน้อยก็มีกำไรเพราะตอนนอนย่อมรักษาศีลได้อย่างแน่นอน ช่วยชำระกิเลสให้เบาบางลง ปละเป็นบุญสำคัญที่จะรองรับความดีนังให้เจริญยิ่งๆขึ้นไป

    ทานส่งผลให้มีทรัพย์ ทานมีหลายระดับแตกต่างกัน ตั้งแต่สัตว์เดรัจฉาน มนุษย์ พระอริยะเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระ พุทธเจ้า ย่อมมีอนิสงค์แตกต่างกันไปจนถึงสังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน และ จนถึงที่สุดคือ อภัยทาน ถ้าบำเพ็ญอยู่เสมอย่อมยังผลให้เกิดความคล่องตัว ทุกคนสามารถทำได้ง่ายๆ คือ หาถาชนะอันสมควรตั้งในที่บูชา แล้วนำเงินไปใส่ไว้ในภาชนะนั้น สวดมนต์ใหว้พระ เจริญพระคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า สะสมไว้จนเต็มหรือมีโอกาศก็นำไปทำบุญ ทำทุกวันเห็นผลทั้งทางโลกและทางธรรม (พระคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า และพระคาถาอื่นๆจะนำลงในเว็บภายหลัง)

    การเจริญภาวณาก็เป็นบุญกุศลมหาศาล เพราะสามารถปราบกิเลสได้หลายตัว ตั่งแต่เริ่มตั้งตาการสวดมนต์สามารถบำเพ็ญได้ครบทั้งกาย วาจา ใจ เช่น กายพนมมือ นอบน้อม ปากสวดมนต์สรรเสริญคุณพระ ใจระลึกถึงคุณพระ ผุ้ที่สวดด้วยความเคารพตั้งใจเลื่อมใส ยังให้มีบุญประมาณมิได้ ทั้งยังเกิดสวัสดิมงคล

    ผู้ที่ฆ่าสัตว์ใหญ่ ฆ่ามนุษย์ โดยเฉพาะทำแท้ง เป็นบาปก่อให้เกิดทุกข์อุปสรรคทั้งหลายในชีวิตนานา ประการ ให้ทำบุญด้วยพระพุทธรูปหน้าตัก 5 นิ้วขึ้นไป ผ้าขาว หรือไตรจีวรไร้อมอาหารถวายเป็นสังฆทาน อนิษฐานขอบุญพระพุทธเจ้า บุญศักดิ์สิทธิ์ นำพาดวงจิตไปวิมานบุญ ขออโหสิกรรมนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขอให้มีความสุขด้วยพุทธบารมีธรรม (หรืออาจจะสร้างพระพุทธรูปหน้าตัก 5 นิ้ว อนิษฐานเป็นพระพุทธรูปบูชาอโหสิกรรมพิเศษของเราโดยเชิญดวงจิตของบุตรมาเป็นเทพรักษาประจำองค์พระ ทำการอัญเชิญด้วยการสวดพุทธคุณและพระคาถาต่างๆ ขอบุญพรพุทธเจ้าส่องนำทางขอให้อโหสิกรรมซึ่งกันและกัน) หมั่นสวดมนต์แพร่เมตตามากๆเพื่อชำระให้จิตใจให้ใสสะอาด

    ผู้ที่เบียดเบียนฆ่าสัตว์ ตัดชีวิต มีผลให้เกิดโรคถัยไข้เจ็บอายุสั้น ควรทำบุญด้วยการช่วยชีวิตสัตว์อนิษฐานแพร่เมตตาอโหสิกรรม ทำบุญด้วยยารักษาโรค หรือ ทำบุญกับโรงพยาบาลสงฆ์ หรือ ด้านการแพทย์ บำรุงพระเณรปฏิบัติ ผู้อาพาธ เจ็บป่วย

    ผู้ที่สมบัติฉิบหายด้วยเหตุต่างๆ จงทำใจอย่าเสียดายกับทรัพย์นั้นๆ ทำใจให้เป็นบุญมาแทนที่ให้ อนิษฐานสมบัติทั้งหลายที่สูญไปทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต ขอพิจารณาบูชาแก่พระไตรลักษณะญาณ พระ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ขอสมบัติทั้งหลายทั้งทางโลก ทางธรรมหลั่งไหลเข้ามาเป็นหมื่นเท่าทวีคูณ และควรให้ทานตามโอกาส

    บางท่านที่เป็นหนี้สงฆ์ หนี้สินทรัพย์ หนี้สิน หนี้เวรหนี้กรรม กับผู้หนึ่งผู้ได ทั้งชาติก่อน ชาตินี้ ให้อนิษฐานสร้างพระชำระหนี้ ถวายในพระศาสนา อาจจะเป็นพระพุทธรูปตั้งแต่ 5 นิ้วขึ้นไปจนถึง 4 ศอกหรือ มากกว่านั้น อนิษฐานชำระหนี้ และปิดทองคำแท้ที่องค์พระ ตั้งแต่ 3 แผ่นขึ้นไปหรือทั้งองค์ก็ยิ่งดี พร้อมปัจจัยศรัทธา เขียนหน้าซองถวายชำระหนี้สงฆ์ หนี้สินทรัพย์ หนี้สิน หนี้เวรหนี้กรรม ขอให้หมดหนี้มีสินด้วยพระพุทธรัตนไตร เป็นแก้ววิเศษประมาณมิได้

    ทุกข์เพราะความรัก เพราะเคยทำชั่วเรื่องความรักไว้ ให้ตั้งใจรักษาศีลถือบวชแล้วเจริญปัญญาให้มากๆ ความรักไม่ได้ทำให้ผู้ไดทุกข์ แต่ ทุกข์เพราะการยึดติด ไม่ปล่อยวางปรารถณาที่จะครอบครองจึงเป็นทุกข์ ดังนั้นจึงควรรู้จักให้รู้จักรักโดยไม่หวังผลตอบแทน และที่สำคัญจงรักตนเองให้มากๆ ทำชีวิตให้มีคุณค่าเพื่อตนเองและคนที่เรา

    ทุกข์เรื่องคู่ครอง ให้พิจรณาว่าอาจจะมีหนี้เวรหนี้กรรม ต้องชดใช้ ให้จุดเทียน 1 คู่ ธูป 5 ดอก ดอกไม้5สี (ถ้าเป็นดอกกุหลาบได้ก็ดี) อนิษฐานบูชาพระ หากแม้นมีหนี้เวรหนี้กรรม ขอให้อโหสิกรรมซึ่งกันและกัน น้อมจิตระลึกถึงบุญกุศลทีเคยสร้างร่วมกันชักนำดวงจิตให้คิดดีต่อกัน แล้วแผ่เมตตาให้มากมาก ย่อมเกิดผลดี ตลอดทั้งให้พิจารณา สิ่งที่สัมพันธ์เกี่ยวเนื่องซึ่งกันและกัน อะไรควรไม่ควร แก้ไขตามเหตุผลไม่ใช้อารมณ์ ต้องแก้ด้วยสติปัญญา

    ผู้ถูกหลวงลวง เพราะเคยทำกรรมชั่วทางวาจา ให้ตั้งใจรักษาสัจจะในสิ่งที่ดีงามเรื่องไดเรื่องหนึ่งเช่นตั้งสัจจะว่าจะสวดมนต์ทุกวันก็ทำให้ได้ พูดแต่สิ่งที่ดีงาม

    ผู้สติไม่ดี อาจจะเพราะกรรมชั่วในสิ่งที่มึนเมา จึงให้งดของมึนเมาทั้งหลายเพื่อสร้างสติ อนิษฐานว่าจะดื่มใจจะสูบให้น้อยลงและเลิกละ หากทำได้ก็ชนะตัวเอง

    ผู้เลี้ยงลูกหลานไม่ได้ดี ควรสั่งสมกตัญญูกตเวทิตาธรรม อธิษฐานขอพร พระแจกหนังสือธรรมะ เพื่อสั่งสอนคนให้เป็นคนดี ควรป้อนข้อมูลดีๆ ไม่ควรแช่งด่าลูกหลาน ถ้าใครแช่งด่าไว้มากมากควรสวดมนต์ ขอถอนคำแช่งด่า เปลี่ยนคำอธิษฐานในทางที่ผิดเป็นในทางที่ดี

    บางท่านที่อยู่อาศัยเป็นทุกข์ ก็ให้ตั้งขันน้ำที่หน้าพระเจริญพระพุทธมนต์ต่างๆ จุดเทียนทำน้ำมนต์ เวลาดับเทียนก็ขอให้ดับความทุกข์เร่าร้อนทั้งหลาย และแพร่เมตตาพรหมวิหาร อุทิศบุญกุศลให้กับระภูมิเจ้าที่ เทวดา สรรพชีวิตทั้งหลาย อนิษฐานขอน้ำพุทธบารมีไปประพรมให้ทั่วบริเวณบ้าน ขอบันดาลให้สิ่งที่ร้ายกลายเป็นดี

    บางท่านอายุถึงเบญจเพศดวงไม่ดี เนื่องจากสาเหตุไดๆก็ตามไม่ว่า ราหูเข้า พระเสาร์แทรง เราอาจจะทำพอธีบูชารับส่งรวมกันทุกพระองค์พร้อมกันทีเดียวก็ได้ โดยหาเทียนใหญ่พอประมาณ ปิดทองคำแท้ อนิษฐานเป็นเทียนเสริมดวงเสริมสิริมงคล ดวงชะตาชีวิต ให้แต่งดอกไม้ธูปเทียนภาวนา สวดอิติปิโสนพเคราะห์ เต็มสูตร บูชาเทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาดวง ขอให้กลับร้ายกลายเป็นดี ที่ดีแล้วก็ให้ดียิ่งขึ้นไป อาจสวดมนต์พระคาถาต่างจนหมดเล่ม หรือ นั่งสมาธิต่อด้วยก็ยิ่งดี

    กิจการค้าขายไม่ประสบสำเร็จ ให้พิจารณาแก้ไขตามเหตุอันสมควร หรือจะใช้วิธีช่วย คือ ธูปอนิษฐาน ให้เอาธูปที่ใช้ทั้งห่อมาทำพิธีสวดอิติปิโสนพเคราะห์และพระคาถาต่างๆ แล้วอนิษฐานขอให้เป็นธูปสารพัดดี เวลาใช้ให้จุดปักกลางแจ้งโดยใช้จำนวนตามกำลังวัน และสวดคาถาบูชาประจำวัน ตามด้วยพระคาถาอื่นๆขอในสิ่งที่ดีงาม ธูปนี้สามารถใช้บูชาพระสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้เป็นอย่างดี (ดูหัวข้อ ทานส่งผลให้มีทรัพย์ ประกอบ)

    บางท่านมีคนทักว่ามีองค์ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์รักษา ไปรับขันธ์รับพานมาปรากฏว่าไม่ดีขึ้น แย่ลงกว่าเดิม หรือถูกหลอกลวง ให้เสียเงินเสียทองอันนี้ให้พิจารณาให้ดี มีอีกวิธีหนึ่งให้จัดธูป 5 ดอก เทียน 5 เล่ม ดอกบัว 5 ดอก (ดอกอะไรก็ได้ที่หาได้) ตั้งขันธ์บูชาถึง พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาตน องค์ครูบาอาจารย์ทั้ง 108 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์เป็นมิ่งเคารพ ให้ตั้งขันธ์ 5 นี้ในวันดี เช่น วันพฤหัสบดี โดยตั้งชุมนุมเทวดา สมาทานศีล สวดมนต์บูชา และแพร่เมตตา

    การกินมังสวิรัติ การงดเว้นเนื้อสัตว์นอกจากให้ใจเบากายเบา ย่อมช่วยปริมาณการฆ่าสัตว์ได้ ร่างกายสะอาด เทวดาย่อมรักษา ให้พิจารณาเป็นเพียงธาตุ แพร่เมตตา เพื่อไม่ให้เป็นเวรเป็นกรรมต่อกัน

    ก่อนนอนสวดมนต์ไหว้พระ ก่อนนอนอย่างสวดมนต์ภาวนา แพร่เมตตา จะยังผลให้จิตใจสบายให้นอนหลับสนิท

    ผู้ที่นอนผันร้าย แก้ด้วยพระคาถา ดังนี้ ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญ จะโยขามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตังพุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุฯฯ


    ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ให้เลือกใช้ตามโอกาส ย้อมสะเดาะเคราะห์ เสริมบารมี มงคลชีวิตได้ ทุกสิ่งในโลกเป็นอนิจจังทั้งหมด อย่ามองแต่ภายนอกให้มองภายในใจของเราบ้าง พระท่านว่าการให้ธรรมทานชนะการให้ทานทั้งปวง มีอานิสงค์สูงสุด การสร้างหนังสือธรรมทุก1ตัวอักษรเปรียบเสมือนการสร้างพระ 1องค์ ย่อมมีเทวดามารักษา กำจัดโรคเวรโรคกรรม บรรเทาหนี้กรรมได้ทำให้เจริญรุ่งเรื่อง อนิษฐานในทางชอบธรรม จะสำเร็จสมปราถณา


    ขอบคุณข้อมูลจาก www.dandham.com
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พิพิธภัณฑ์ธงชาติไทย แนะวิธีลดธงครึ่งเสาที่ถูกต้อง
    -http://hilight.kapook.com/view/92734-

    [​IMG]



    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก พิพิธภัณฑ์ ธงชาติไทย

    พิพิธภัณฑ์ธงชาติไทย แนะวิธีลดธงครึ่งเสาที่ถูกต้อง เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนที่ต่างสงสัยว่า การลดธงครึ่งเสา คือ การลดธงลงมาครึ่งเสาตามภาษาพูดจริงหรือไม่

    สืบเนื่องจากประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีที่ให้หน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจลดธงลงครึ่งเสา 3 วัน เพื่อไว้อาลัยแด่การสิ้นพระชนม์ของ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

    ทางด้านเฟซบุ๊ก พิพิธภัณฑ์ ธงชาติไทย ก็โพสต์ข้อมูลเรื่อง "วิธีการลดธงครึ่งเสา" อย่างถูกต้อง ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า การลดธงครึ่งเสาที่ถูกวิธี คือ ในเวลา 08.00 น. ให้ชักธงชาติถึงยอดเสา และหลังจากที่จบเพลงชาติ จึงลดธงชาติลงมาที่ความสูง 1 ใน 3 ของเสา ไม่ใช่ลดธงลงมาที่ตำแหน่งครึ่งเสาอย่างในภาษาพูด

    ส่วนในเวลา 18.00 น. ให้ชักธงชาติขึ้นจนสุดยอดเสาก่อนเพลงชาติเริ่มต้น และลดธงลงจากเสาตามปกติจนจบเพลงชาติ จึงปลดธงชาติแล้วพับวางบนพาน นำไปเก็บที่อันสมควร


    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
    -http://www.thaiflag.org/-
    -https://www.facebook.com/photo.php?fbid=593994120667082&set=a.103840809682418.6548.100001694983517&type=1&relevant_count=1-
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันนี้เป็นวันที่พิเศษ

    มีกฐิน(ตกค้าง)พระราชทานที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

    วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2556

    ซึ่งผมและคณะ ได้ร่วมทำบุญไปเรียบร้อยแล้ว

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    โมทนาบุญทุกประการ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • kateen 2556.png
      kateen 2556.png
      ขนาดไฟล์:
      47.4 KB
      เปิดดู:
      701
    • piss.png
      piss.png
      ขนาดไฟล์:
      48.1 KB
      เปิดดู:
      712
    • kuson.jpg
      kuson.jpg
      ขนาดไฟล์:
      161.5 KB
      เปิดดู:
      737
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ความเป็นมา "พระสังฆราช"ประเทศไทย และ ลำดับอาวุโสพระเถระ
    -http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1382763897&grpid=01&catid=&subcatid=-

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    ในความหมายของคำว่า "สังฆราช" แปลว่า ราชาของสงฆ์ ราชาของหมู่คณะ หมายถึง พระมหาเถระผู้เป็นใหญ่สูงสุดในสังฆมณฑล มักเรียกกันสั้นๆ ว่า "สมเด็จพระสังฆราช" ตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช มีมานานแล้วตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย ตามที่มีหลักฐานปรากฏบนศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ว่า "สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก" เป็นตำแหน่งสมณศักดิ์สูงสุดฝ่ายพุทธจักรของคณะสงฆ์ไทย ทรงเป็นประธานการปกครองคณะสงฆ์ ตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชนั้นนำแบบอย่างมาจากลัทธิลังกาวงศ์

    ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ได้เพิ่มตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช เป็น "สกลมหาสังฆปริณายก" มีอำนาจว่ากล่าวออกไปถึงหัวเมือง มีพระสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เจ้าคณะใหญ่ฝ่ายคามวาสี เป็นสังฆราชขวา และสมเด็จพระวันรัต เจ้าคณะใหญ่ฝ่ายอรัญวาสี เป็นสังฆราชซ้าย องค์ใดมีพรรษายุกาลมากกว่าก็ได้เป็นพระสังฆราช

    ต่อมาปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา พระอริยมุนี ได้ไปสืบอายุพระพุทธศาสนาที่ลังกาทวีป จนมีความชอบ เมื่อกลับมาได้รับสมณศักดิ์สูงขึ้นตามลำดับจนเป็นสมเด็จพระสังฆราช พระเจ้าเอกทัศน์มีพระราชดำริให้คงราชทินนามนี้ไว้ จึงทรงตั้งราชทินนามสมเด็จพระสังฆราชเป็น "สมเด็จพระอริยวงศาสังฆราชาธิบดี" และมาเป็น "สมเด็จพระอริยวงษญาณ" ในสมัยกรุงธนบุรี และใช้ต่อมาจนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงเปลี่ยนเป็น "สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ" ใช้พระนามนี้จนถึงปัจจุบัน

    เมื่อย้อนกลับตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 9 รัชกาลปัจจุบัน มีพระมหาเถระได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช แล้ว 19 พระองค์ ประกอบด้วย สมเด็จพระมหาสมณเจ้า 3 พระองค์, สมเด็จพระสังฆราชเจ้า 2 พระองค์ และสมเด็จพระสังฆราช 14 พระองค์ โดยจะมีพระนามสองอย่าง หากเป็นเจ้านายเชื้อพระวงศ์จะมีคำนำหน้าพระนามว่า "สมเด็จพระสังฆราชเจ้า" หรือ "สมเด็จพระมหาสมณเจ้า" หากเป็นสามัญชนมีคำนำหน้าว่า "สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ" ดังรายละเอียดดังนี้

    1.สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ศรี) วัดระฆังโฆสิตาราม ปี 2325-2337 ดำรงสมณศักดิ์ 12 ปี

    2.สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ศุข) วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ฯ ปี 2337-2359 ดำรงสมณศักดิ์ 23 ปี



    3.สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (มี) วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ฯ ปี 2359-2362 ดำรงสมณศักดิ์ 3 ปีเศษ

    4.สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (สุก ญาณสังวร) วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ฯ ปี 2363-2365 ดำรงสมณศักดิ์ 1 ปีเศษ

    5.สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ด่อน) วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ฯ ปี 2365-2385 ดำรงสมณศักดิ์ 19 ปีเศษ

    6.สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (นาค) วัดราชบูรณะ (วัดเลียบ) ปี 2386-2392 ดำรงสมณศักดิ์ 5 ปีเศษ

    7.สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส (พระองค์เจ้าวาสุกรี สุวณฺณรํสี) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ปี 2394-2396 ดำรงสมณศักดิ์ 1 ปีเศษ

    8.สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ (พระองค์เจ้าฤกษ์ ปญฺญาอคฺคโต) วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2434-2435 ดำรงสมณศักดิ์ 11 เดือนเศษ

    9.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (สา ปุสฺสเทโว) วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม ปี 2436-2442 ดำรงสมณศักดิ์ 6 ปีเศษ

    10.สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส (พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ มนุสฺสนาโค) วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2453-2464 ดำรงสมณศักดิ์ 10 ปีเศษ

    11.สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ (หม่อมเจ้าภุชงค์ ชมพูนุท สิริวฑฺฒโน) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ปี 2464-2480 ดำรงสมณศักดิ์ 16 ปีเศษ

    12.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว) วัดสุทัศนเทพวราราม ปี 2481-2487 ดำรงสมณศักดิ์ 6 ปีเศษ

    13.สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (หม่อมราชวงศ์ชื่น นภวงศ์ สุจิตฺโต) วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2488-2501 ดำรงสมณศักดิ์ 13 ปีเศษ

    14.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปลด กิตฺติโสภโณ) วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ปี 2503-2505 ดำรงสมณศักดิ์ 2 ปีเศษ

    15.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทโย) วัดสระเกศฯ ปี 2506-2508 ดำรงสมณศักดิ์ 2 ปีเศษ

    16.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฏฐายี) วัดมกุฏกษัตริยาราม ปี 2508-2514 ดำรงสมณศักดิ์ 6 ปีเศษ



    17.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณฺณสิริ) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ปี 2515-2516 ดำรงสมณศักดิ์ 1 ปีเศษ

    18.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ปี 2517-2531 ดำรงสมณศักดิ์ 14 ปีเศษ และ

    19.สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑฺฒโน) วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร ปี 2532-2556 นอกจากทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราช ที่มีพระชนมายุยาวนานที่สุด และดำรงสมณศักดิ์ยาวนานในประวัติศาสตร์แล้วนั้น

    เมื่อครั้งสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) สิ้นพระชนม์ เมื่อปี 2531 ตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชว่างลง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ สถาปนาพระองค์ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในราชทินนามเดิม "สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก"

    โดยราชทินนามดังกล่าวนับเป็นราชทินนามพิเศษ เนื่องจากสมเด็จพระสังฆราชที่มิได้เป็นพระบรมวงศานุวงศ์ ตามปกติจะใช้ราชทินนามว่า สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ

    ดังนั้น นับเป็นอีกหนึ่งครั้งที่มีการใช้ราชทินนาม สมเด็จพระญาณสังวร สำหรับสมเด็จพระสังฆราช เพื่อเป็นพระเกียรติคุณทางวิปัสสนาธุระของพระองค์ และเป็นสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชพระองค์แรกของประเทศไทย


    ลำดับอาวุโสพระเถระ

    พระพรหมเมธี กรรมการและโฆษกมหาเถรสมาคม (มส.) กล่าวถึงการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ว่า "การสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ใหม่ เป็นพระราชอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง จนกว่าจะเสร็จสิ้นพิธีพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก อย่างไรก็ตาม ตามราชประเพณี เมื่อตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชว่างลง ให้นายกรัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม เสนอนามสมเด็จพระราชาคณะ ผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช และในกรณีที่สมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคมเสนอนามสมเด็จพระราชาคณะรูปอื่น ผู้มีอาวุโสโดยสมณศักดิ์รองลงมาตามลำดับ และสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช"

    ปัจจุบัน ตำแหน่งสมเด็จพระราชาคณะ มี 7 รูป แบ่งเป็นฝ่ายมหานิกาย 3 รูป คือ 1.สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ อายุ 88 ปี ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะ เมื่อปี 2538 2.สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสุทัศน์เทพวราราม อายุ 83 ปี ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะเมื่อปี 2553 และ 3.สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ วัดพิชยญาติการาม อายุ 72 ปี ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะ เมื่อปี 2554

    ฝ่ายธรรมยุต 4 รูป คือ 1.สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดสัมพันธ์วงศ์ อายุ 95 ปี ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะ เมื่อปี 2544 2.สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ วัดราชบพิธฯ อายุ 86 ปี ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะ เมื่อปี 2552 3.สมเด็จพระวันรัต วัดบวรฯ อายุ 77 ปี ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะ เมื่อปี 2552 กับสมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดเทพศิรินทราวาส อายุ 66 ปี ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะ เมื่อปี 2553

    เพราะฉะนั้นสมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ คือ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ จากฝ่ายมหานิกาย ปัจจุบันทำหน้าที่ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เนื่องจากได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะตั้งแต่ปี 2538

    นอกจากนั้น การที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สิ้นพระชนม์ ทำให้ตำแหน่งสมเด็จพระราชาคณะว่างลงอีก 1 ตำแหน่ง ก่อนหน้านี้ก็ว่างลง 1 ตำแหน่งหลังการมรณภาพของสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ เท่ากับว่าขณะนี้ ตำแหน่งสมเด็จพระราชาคณะว่างลงถึง 2 ตำแหน่ง โดยเป็นของฝ่ายมหานิกาย 1 ตำแหน่ง ส่วนอีก 1 ตำแหน่ง หากมีการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชจากฝ่ายมหานิกาย จะทำให้ตำแหน่งสมเด็จพระราชาคณะของฝ่ายมหานิกายว่างลงอีก 1 ตำแหน่งด้วย เช่นเดียวกัน หากมีการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชจากฝ่ายธรรมยุต ก็จะทำให้ตำแหน่งสมเด็จพระราชาคณะของฝ่ายธรรมยุตว่างลงอีก 1 ตำแหน่ง

    (ที่มา:มติชนรายวัน 26 ต.ค.2556)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    งานกฐินสามัคคีประจำปี 2556

    วัดบ่อเงินบ่อทอง

    เงินกฐิน ประมาณ 2.7 ลบ.

    ขอโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ

    และไปกราบหลวงพ่อโสธรมาครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    รูปจากเว็บ ขอเชิญร่วมสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทอง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สังเกตก่อนใช้...ตู้เอทีเอ็มปลอดภัย ไร้เครื่องสกิมเมอร์ฉกข้อมูล
    -http://hilight.kapook.com/view/93328-



    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    บ่อยครั้งที่เราได้ยินข่าวมิจฉาชีพลอบติดตั้งเครื่องสกิมเมอร์ในตู้เอทีเอ็ม เพื่อขโมยข้อมูลในบัตรเอทีเอ็มของผู้ใช้งานแล้วกดเงินออกไปใช้เอง ซึ่งที่ผ่านมาก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องสูญเงินไปฟรี ๆ อย่างน่าเจ็บใจ แต่ถ้าเราลองสังเกตดูตู้เอทีเอ็มที่เราจะเข้าไปใช้ทำธุรกรรมสักนิด ก็อาจพอช่วยป้องกันไม่ให้เราตกเป็นเหยื่อของกลุ่มโจรไฮเทคเป็นรายต่อไปได้ แน่นอนว่ากระปุกดอทคอมมีคำแนะนำมาฝากกันด้วย


    ก่อนอื่นมารู้จักเครื่องที่มีชื่อว่า "สกิมเมอร์" (Skimmer) กันก่อน

    สกิมเมอร์ เป็นเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ชิ้นเล็ก ๆ ที่คนร้ายสร้างขึ้นด้วยการนำแถบแม่เหล็กวงจรถอดรหัส และวงจรหน่วยความจำมาประกอบเข้าด้วยกัน สามารถพกพาได้ และใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ จากนั้นนำไปติดตั้งไว้ที่ช่องรูดบัตรของตู้เอทีเอ็ม

    เมื่อมีคนนำบัตรเอทีเอ็ม หรือบัตรเครดิตมารูด หรือสอดบัตรเข้าช่องเสียบบัตร แล้วกดรหัส ตัวแถบแม่เหล็กของสกิมเมอร์ก็จะบันทึกข้อมูลแล้วส่งไปเก็บไว้ในหน่วยความจำ หรืออาจส่งข้อมูลต่อไปถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ของมิจฉาชีพเลยก็ได้ จากนั้นหน้าจอเอทีเอ็มอาจแสดงข้อความว่า "ขออภัย เครื่องไม่สามารถทำรายการได้" หรือ "ท่านทำรายการเรียบร้อยแล้ว กรุณารับเงิน" ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับประเภทของเครื่องอ่านบัตรปลอมที่ใช้

    เมื่อมิจฉาชีพขโมยข้อมูลจากบัตรเอทีเอ็มและรหัสผ่านไปแล้ว ก็จะนำข้อมูลนั้นไปสร้างบัตรปลอมที่มีข้อมูลในแถบแม่เหล็กเหมือนกับบัตรจริง ซึ่งสามารถนำไปกดเงิน หรือรูดซื้อสินค้าได้เหมือนบัตรจริงทุกประการ ทั้งนี้ คนร้ายบางคนอาจไม่นำข้อมูลไปทำบัตรปลอม แต่นำข้อมูลไปขายต่อในอินเทอร์เน็ตอีกทอดก็มี


    แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรล่ะว่าตู้เอทีเอ็มตู้ไหนปลอดภัย ไร้สกิมเมอร์?

    เนื่องจากมิจฉาชีพมักซ่อนเครื่องสกิมเมอร์ไว้อย่างแนบเนียนมาก ดังนั้น การตรวจสอบอาจทำได้ไม่ง่ายนัก แต่อย่างน้อยก็มีแนวทางที่จะช่วยให้เราสังเกตเบื้องต้น เพื่อดูว่าตู้เอทีเอ็มนั้นเสี่ยงต่อการใช้งานหรือไม่ นั่นก็คือ

    ตรวจดูสิ่งผิดปกติรอบตู้เอทีเอ็มก่อนใช้งาน เพื่อดูว่ามีกล้องตัวเล็กซุกซ่อนอยู่หรือไม่ โดยมิจฉาชีพอาจติดกล่องใส่ใบปลิวไว้บริเวณเครื่อง เพื่อใช้ซ่อนกล้อง ถ้าพบเห็นกล่องใส่ใบปลิวแปลก ๆ ไม่ควรใช้เครื่องดังกล่าว และควรแจ้งให้ธนาคารทราบทันที

    ตรวจสอบบริเวณที่สอดบัตร หรือตรงแป้นกดตัวเลขว่ามีอุปกรณ์แปลกปลอมติดอยู่หรือไม่ หากสังเกตเห็นอุปกรณ์แปลกปลอม ให้รีบแจ้งให้ธนาคารทราบ

    ลองขยับหรือโยกอุปกรณ์ต่าง ๆ ของตู้เอทีเอ็มดู เพราะหากมีตัวสกิมเมอร์ติดอยู่ การโยกอาจจะทำให้ตัวสกิมเมอร์หลุดออกมาได้ เนื่องจากปกติแล้ว คนร้ายจะไม่ติดตั้งเครื่องนี้ไว้อย่างแน่นหนาเท่าใดนัก เพราะต้องถอดเครื่องสกิมเมอร์ไปใช้ติดตั้งตู้อื่น ๆ ด้วย

    หากเครื่องเอทีเอ็มเกิดขัดข้อง และบัตรติดอยู่ในเครื่อง ให้รีบแจ้งธนาคารเพื่ออายัดบัตรทันที เพราะการที่เครื่องขัดข้องอาจเป็นเล่ห์กลของคนร้ายที่ใช้เศษไม้ หรือไม้จิ้มฟันใส่เข้าไปในช่องอ่านบัตร เพื่อให้บัตรของผู้ใช้บริการติดอยู่ที่เครื่อง แล้วจะทำทีเข้ามาช่วยเหลือกดรหัสให้

    หากใส่บัตรไปในเครื่องแล้วไม่มีไฟกะพริบรอบช่องเสียบบัตร ควรเปลี่ยนไปใช้ตู้อื่น เพราะตู้นั้นอาจมีการติดตัวสกิมเมอร์ไว้ดูดข้อมูล


    นอกจากนี้ เพื่อเป็นการป้องกันตัวเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ลองมาดูวิธีการใช้เครื่องเอทีเอ็มอย่างปลอดภัยกัน โดยเราควรจะต้อง...

    ตรวจสอบบริเวณเครื่องเอทีเอ็มที่จะเข้าไปใช้ว่ามีบุคคลต้องสงสัยอยู่หรือไม่ หากพบ ให้เปลี่ยนไปใช้เครื่องอื่น

    ใช้มือบังแป้นกดรหัสส่วนตัวขณะทำรายการ เพื่อไม่ให้ใครที่อยู่ข้าง ๆ หรือกล้องที่มิจฉาชีพแอบติดตั้งไว้มองเห็นรหัสส่วนตัวของเรา

    ใช้ลำตัวบังหน้าจอ ยืนประชิดกับตัวเครื่อง ขณะทำรายการ เพื่อไม่ให้คนที่ต่อแถวอยู่ข้างหลังมองเห็น

    พยายามใช้เครื่องเอทีเอ็มเครื่องที่เคยใช้เป็นประจำ เพราะหากเกิดความผิดปกติขึ้นเราจะสังเกตเห็นทันที

    พยายามเลือกใช้เครื่องเอทีเอ็มที่ตั้งอยู่ในที่ปลอดภัย มีคนพลุกพล่าน ในที่มีแสงสว่าง ไม่ใช่ที่เปลี่ยว เช่น ในสาขาของธนาคาร หรือตามร้านค้าที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง เพราะสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านจะทำให้คนร้ายยากที่จะนำกล้องมาติดตั้งเพื่อแอบดูรหัสส่วนตัว

    หากพบความผิดปกติของเครื่อง ให้กดปุ่ม "ยกเลิก" เพื่อยุติการทำธุรกรรมนั้นทันที แล้วเปลี่ยนไปใช้เครื่องอื่น

    หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องเอทีเอ็มที่มีข้อความ หรือป้ายที่แจ้งเตือนว่า ข้อความแนะนำการใช้เครื่องมีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อข้อความถูกติดเหนือช่องรับบัตร เนื่องจากธนาคารไม่มีนโยบายที่จะติดข้อความหรือป้ายประกาศใด ๆ บนเครื่อง โดยเฉพาะกรณีที่มีการดัดแปลงเครื่อง

    เก็บสลิปข้อมูลการใช้บัตรเอทีเอ็มทุกครั้ง เพื่อไว้ใช้เปรียบเทียบกับรายการเดินบัญชีประจำเดือนของคุณ

    ไม่ควรรีบร้อนทำธุรกรรม ควรเก็บบัตรและธนบัตรเข้ากระเป๋าเงิน หรือกระเป๋าถือให้เรียบร้อยก่อนเดินออกจากบริเวณเครื่อง

    หลีกเลี่ยงการใช้รหัสบัตรเอทีเอ็มที่เดาง่าย เช่น เลขตอง เลขสวย เลขที่เรียงกัน รวมทั้งเลขที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขวันเกิด ทะเบียนรถ อายุ ฯลฯ ควรตั้งรหัสให้เดายาก โดยทั้ง 4 หลัก ไม่ควรจะเป็นเลขซ้ำกัน เพื่อให้การสุ่มหมายเลขรหัสบัตรทำได้ยากขึ้น

    ควรเปลี่ยนรหัสบัตรเอทีเอ็มเป็นประจำ และให้รีบเปลี่ยนรหัสบัตรทันทีเมื่อมีบุคคลอื่นทราบรหัสบัตรของคุณ เพราะคุณไม่ควรให้ใครรู้รหัสเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน หรือตำรวจ

    ควรจำกัดวงเงินการถอนในแต่ละวันไว้ โดยแจ้งไปยังธนาคาร เพื่อที่หากมิจฉาชีพได้นำบัตร หรือรหัสของคุณไปกด จะยังคงรักษาเงินไว้ได้บางส่วน

    ลองจดจำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ จะได้ปลอดภัยจากมิจฉาชีพในยุคไอที !


    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
    เดลินิวส์
    -http://www.dailynews.co.th/Content.do?contentId=193379-

    , ธนาคารกรุงเทพ
    -http://www.bangkokbank.com/BangkokBankThai/WebServices/YourSecurityFirst/Howyouprotectyourself/Pages/HowtosafeguardyoursecuritywhenusingATM.aspx-

    , ธนาคารกสิกรไทย
    -http://www.kasikornbank.com/TH/ServicesChannel/SearchServiceChannel/ElectronicMachines/Pages/KATM.aspx-

    -------------------------------------------------------------------------

    แนะนำวิธีสังเกตตู้เอทีเอ็มที่ต้องสงสัยว่าจะมีเครื่องสกิมเมอร์ติดตั้งอยู่ เพื่อเฝ้าระวังภัยก่อนเงินของเราจะเกิดการสูญหาย
    วันศุกร์ 8 พฤศจิกายน 2556 เวลา 11:24 น.
    -http://www.dailynews.co.th/Content.do?contentId=193379-

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]




    เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ภายหลังจากมีคนร้ายชาวต่างชาติติดตั้งเครื่องสกิมเมอร์ในตู้เอทีเอ็ม ก่อนลักข้อมูลบัตรไปกดเงินจนเสียหายไปเป็นเงินหลายแสน แต่ยังมีหลายคนที่ไม่รู้จักเจ้าเครื่องดังกล่าวว่ามีวิธีการทำงานอย่างไร จึงเสนอข้อมูลไว้ให้เป็นประโยชน์ รวมทั้งวิธีสังเกตุสิ่งผิดปกติก่อนจะเสียบบัตรที่ตู้เอทีเอ็ม

    วิธีสังเกตในการใช้บริการตู้เอทีเอ็ม คือก่อนใช้บริการทุกครั้ง ควรตรวจสิ่งดูผิดปกติ เช่น มีกล่องประชาสัมพันธ์ กล่องใส่ใบปลิว ติดที่หน้าตู้ ซึ่งเป็นการโฆษณาอื่นที่ไม่ใช่ของธนาคารหรือไม่ เพราะอาจจะมีกล้องตัวเล็กถูกซุกซ่อนไว้แอบถ่ายอยู่ จากนั้นก็ลองขยับหรือโยกอุปกรณ์ของตู้ได้ ถ้าไม่เป็นมาตรฐานของธนาคารมันจะหลุดออกมา เนื่องจากปกติมิจฉาชีพจะไม่ติดตั้งให้แน่นแบบถาวร เนื่องจากต้องถอดเครื่องสกิมเมอร์ไปที่ตู้อื่นด้วย

    แต่ผู้มาใช้บริการบางรายอาจจะมาทำธุรกรรมที่ตู้ด้วยความเร่งรีบจนลืมระมัดระวัง ดังนั้นวิธีที่ง่ายที่สุดที่พอจะช่วยสังเกตุถึงความผิดปกติได้คือ ตู้เอทีเอ็มของทุกธนาคาร ก่อนที่จะเสียบบัตรจะต้องมีไฟกะพริบล้อมรอบช่องเสียบบัตรทุกครั้ง ดังนั้นถ้าไม่มีไฟกะพริบปรากฏให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจมีเครื่องดูดข้อมูล จึงควรเปลี่ยนไปใช้ตู้อื่น เพื่อความปลอดภัย

    สำหรับ เครื่องสกิมเมอร์ (skimmer เครื่องดูดหรือกวาดข้อมูล) นั้น เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่คนร้ายสร้างขึ้น โดยนำเครื่องอ่านแถบแม่เหล็ก วงจรถอดรหัส และวงจรหน่วยความจำมาประกอบเข้าด้วยกัน สกิมเมอร์มีหลายขนาดตั้งแต่เท่ากับกล่องใส่รองเท้าไปจนถึงขนาดเท่าซองบุหรี่ที่คนร้ายซ่อนไว้ในอุ้งมือได้ ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่จึงสามารถพกพาได้สะดวก เมื่อนำบัตรเครดิต (หรือบัตรเดบิตเช่นบัตร ATM) มารูด สกิมเมอร์จะอ่านข้อมูลจากแถบแม่เหล็กและนำไปเก็บไว้ในหน่วยความจำ สกิมเมอร์ที่มีหน่วยความจำน้อยจะเก็บข้อมูลบัตรเครดิตได้ 50 ใบ ส่วนสกิมเมอร์ที่มีหน่วยความจำมากอาจเก็บข้อมูลได้หลายหมื่นใบ และเมื่อลักลอบดูดข้อมูลจากบัตรเครดิตไปแล้ว คนร้ายก็จะนำไปสร้างบัตรปลอมซึ่งมีอยู่ 2 แบบ แบบแรกเรียกว่า “บัตรสี” เป็นบัตรเครดิตปลอมที่มีสี มีลวดลาย และมีตัวพิมพ์นูนเหมือนของจริงทุกอย่าง รวมทั้งมีข้อมูลในแถบแม่เหล็กอย่างถูกต้องอีกด้วย บัตรแบบนี้สามารถนำไปใช้ได้ทุกแห่งเช่นเดียวกับบัตรจริง บัตรปลอมอีกแบบเรียกว่า “บัตรขาว” เป็นบัตรพลาสติกสีขาวมีเพียงแถบแม่เหล็กเก็บข้อมูล ซึ่งเพียงพอที่จะนำไปใช้ในหลายๆ แหล่ง เช่นนำไปกดเงินสดจากตู้ ATM หรือนำไปใช้กับร้านค้าที่ทุจริต คนร้ายบางคนไม่ทำบัตรปลอม แต่นำข้อมูลบัตรของเราไปขายในอินเตอร์เน็ตก็มี
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    “น้ำผัก” สไตล์ชาวบ้าน คนตราดกินอาหารเป็นยา ไม่ใช่กินยาเป็นอาหาร
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 พฤศจิกายน 2556 19:24 น.
    -http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9560000137922-


    [​IMG]


    “108 เคล็ดกิน” ได้เดินทางไปเที่ยวที่ “ชุมชนบ้านห้วยแร้ง” อ.เมือง จ.ตราด ชุมชนดีเด่นด้านการท่องเที่ยว จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ปี 2550 ซึ่งหากใครมาเที่ยวที่นี่ก็จะได้รับความรู้มากมาย อย่างเช่นที่ได้นำมาฝากกันวันนี้ เป็น “น้ำผัก” สไตล์ชาวบ้าน ที่มีส่วนผสมจากผักต่างๆ ถึง 12 ชนิด ดังนี้

    ใบย่านาง หรือ เถาวัลย์เขียว สรรพคุณช่วยแก้ปวดข้อ ปวดเข่า แก้กรดยูริค

    ใบเตย ช่วยบำรุงหัวใจ ขับปัสสาวะ ควบคุมน้ำตาลในเลือด

    ใบตำลึง ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็ง หัวใจขาดเลือด บำรุงกระดูก

    ผักบุ้ง มีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา ถอนพิษ ช่วยระบบขับถ่าย

    ฮว่านง็อก ช่วยลดความดัน รักษาเบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือด

    แป๊ะกำปึง ช่วยลดเบาหวาน ปวดท้องประจำเดือน ลดความดันโลหิตสูง-ต่ำ

    เสลดพังพอน แก้ร้อนใน ถอนพิษ แก้ลมพิษ งูสวัด

    วอเตอร์เครส ช่วยเพิ่มพลัง ล้างพิษจากตับและไต ฟอกเลือด ล้างของเสียออกจากร่างกาย

    ว่านกาบหอย ช่วยบำรุงเลือด แก้อาเจียน

    หญ้าปักกิ่ง ช่วยต้านมะเร็ง

    ใบบัวบก ช่วยบำรุงหัวใจ แก้ปวดไมเกรน ร้อนใน

    อ่อมแซบ บำรุงเลือด บำรุงกำลัง

    ผักที่ได้มาทั้งหมดนี้ ให้นำมาโขลกรวมกันพอหยาบๆ จากนั้นใส่น้ำเปล่าลงไปแล้วบีบ-คั้น ให้น้ำสีเขียวๆ ค่อยๆ ไหลออกมา แล้วนำไปกรองเอาแต่น้ำ ใช้ดื่มสดๆ ทันที สรรพคุณต่างๆ ที่ได้จากผักแต่ละชนิดก็ยังคงมีคุณค่า ช่วยบำรุงร่างกายของเรา

    แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด ควรเลือกใช้ผักที่เราปลูกเองที่บ้าน จะได้มั่นใจว่าไม่มีสารเคมี หากมีไม่ครบทั้ง 12 ชนิด ก็เลือกใช้เฉพาะผักที่สามารถหาได้ เท่านี้ก็จะได้น้ำผักเพื่อสุขภาพเอาไว้ดื่มกันง่ายๆ แล้ว
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เผย 10 อันดับสถานที่ที่รถหายมากที่สุด
    -http://car.kapook.com/view76884.html-


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร - บก.02

    ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจรเผย 10 อันดับสถานที่ที่รถหายมากที่สุด ลานจอดรถการเคหะร่มเกล้า มาเป็นอันดับ 1

    เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร ได้เปิดเผยข้อมูล 10 อันดับสถานที่ที่รถหายมากที่สุดจาก สตช. โดยอันดับ 1 คือ ลานจอดรถการเคหะร่มเกล้า อันดับ 2 ลานจอดรถการเคหะคลองจั่น อันดับ 3 ลานจอดรถสนามหลวง 2 สำหรับอันดับสถานที่ที่รถหายมากที่สุดทั้ง 10 อันดับนั้นมีดังนี้

    อันดับ 10. ลานจอดรถ Fashion Island
    อันดับ 9. ลานจอดรถ Future Park รังสิต
    อันดับ 8. ซอยปรีดีพนมยงค์
    อันดับ 7. ซอยลาดพร้าว 101
    อันดับ 6. ลานจอดรถตลาดไท
    อันดับ 5. ลานจอดรถเซียร์ รังสิต
    อันดับ 4. ลานจอดรถ คอนโดเมืองทอง
    อันดับ 3. ลานจอดรถสนามหลวง 2
    อันดับ 2. ลานจอดรถการเคหะคลองจั่น
    อันดับ 1. ลานจอดรถการเคหะร่มเกล้า

    ทั้งนี้ ทางศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจรยังได้เปิดเผยข้อมูลอีกว่า จากสถิติรถหายนั้น จาก 100 คันได้คืนเพียงไม่ถึง 5 คันเท่านั้น โดยถ้าหากมีรถยนต์หาย สามารถแจ้งได้ที่โทรสายด่วนเบอร์โทร. 1192
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ไหว้พระ 9 วัดเสริมสิริมงคลต้อนรับปีใหม่ 2557

    -http://horoscope.sanook.com/944157/%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B09%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%882557/-



    สำหรับปีใหม่ 2557 ปีมะเมียนี้ ใครที่อยากเสริมเป็นสิริมงคลแก่ตนเองการไหว้พระ 9 วัด ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คุณสามารถทำได้ค่ะ และวันนี้ทาง Sanook! Horoscope ได้รวบรวมวัดทั้ง 9 รวมไปถึงวิธีการลักการะบูชา การเดินทาง มาไว้ให้ชาว สนุก!ดูดวงได้เตรียมให้พร้อมก่อนไปทำบุญสักการะไหว้พระ 9 วัดกันค่ะ

    [​IMG]

    1. ศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร (เวลาเปิด-ปิด 05.30 - 19.30 น.)

    ไปสักการะ "เทพารักษ์ทั้ง 5" คือ พระเสื้อเมือง, พระทรงเมือง, พระกาฬไชยศรี, เจ้าพ่อเจตคุปต์, เจ้าพ่อหอกลอง เพื่อ "ตัดเคราะห์ ต่อชะตา เสริมวาสนาบารมี" ไหว้ เสาหลักเมืององค์จำลอง ด้วยธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม ผ้าแพร 3 สี ดอกบัว และไหว้องค์จริงด้วยพวงมาลัย

    สถานที่ตั้ง อยู่บริเวณหัวมุมสวนหลวง ข้างพระบรมมหาราชวัง ถนนหลักเมือง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร
    การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทาง สาย 1, 3, 9, 15, 25, 30, 32, 33, 39, 43, 44, 47, 53, 64, 80, 82, 91,201, 203 รถปรับอากาศ สาย 503,508, 512

    [​IMG]

    2. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว(เวลาเปิด-ปิด 08.30 - 16.00 น.)

    ไหว้พระแก้วมรกต พระพุทธรูปสำคัญในภูมิภาคเอเชีย เป็นศูนย์กลางความศรัทธาไทย - ลาว เพื่อความเป็นสิริมงคล "ไหว้พระแก้วมรกต แก้วแหวน เงินทองไหลมาเทมาตลอดปี" ด้วยธูป เทียน ดอกบัวคู่

    สถานที่ตั้ง อยู่ในพระบรมมหาราชวัง ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร
    การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทาง สาย 1, 3, 9, 15, 25, 30, 32, 33, 39, 43, 44, 53, 59, 64, 80, 82,91,201, 203 รถปรับอากาศ สาย 501, 503, 508, 512

    [​IMG]

    3. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ (เวลาเปิด-ปิด 08.00 - 16.00 น.)

    นมัสการพระพุทธไสยาสน์อันศักดิ์สิทธิ์ (ที่ฝ่าพระบาททั้งสองข้างประดับมุก ลวดลายภาพมงคล 108 ประการ) เพื่อความเป็นสิริมงคล "ไหว้พระนอนวัดโพธิ์ ร่มเย็นเป็นสุข อยู่ดีกินดีตลอดปี" ด้วยธูป 9 ดอก เทียนแดงคู่ ทองคำเปลว 11 แผ่น

    สถานที่ตั้ง หลังพระบรมมหาราชวัง ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร
    การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทาง สาย 1, 3, 6, 9, 12, 25, 43, 44, 47, 53, 60, 82, 91, 123,รถปรับอากาศ สาย 501, 508

    [​IMG]

    4. ศาลเจ้าพ่อเสือ (เวลาเปิด-ปิด 08.00 - 16.00 น.)

    ไปสักการะ เจ้าพ่อเสือ เจ้าพ่อกวนอู เจ้าแม่ทับทิม ฯลฯ เพื่อเสริม "อำนาจบารมี" ด้วยธูป 18 ดอก ปัก 6 กระถาง เทียนแดง 1 คู่ พวงมาลัย 1 พวง "ศาลเจ้าเก่าแก่ของลัทธิเต๋า" หนึ่งในสามมหาสถานของพระนครที่ชาวจีนต้องสักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล "เสริมอำนาจบารมี"

    สถานที่ตั้ง ถนนตะนาว แขวงเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร
    การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทาง สาย 10, 12, 19, 35, 42, 56, 96

    [​IMG]

    5. วัดสุทัศน์เทพวราราม (เวลาเปิด-ปิด 08.00 - 16.00 น.)

    ไหว้พระองค์ประธาน (พระศรีศากยมุณี) ที่เก่าแก่ ซึ่งอดีตเคยประดิษฐานอยู่ที่วิหารหลวงวัดมหาธาตุของกรุงสุโขทัย เพื่อความเป็นสิริมงคล "ไหว้พระวัดสุทัศนฯ มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีเสน่ห์แก่บุคคลทั่วไป" ด้วยธูป 3 ดอก เทียน 2 เล่ม ดอกบัวหรือพวงมาลัย

    สถานที่ตั้ง บริเวณเสาชิงช้า ตรงข้ามศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
    การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทาง สาย 10, 12

    [​IMG]

    6. วัดชนะสงคราม (เวลาเปิด-ปิด 08.00 - 16.00 น.)

    ต้องไปสักการะ "พระประธาน" ในพระอุโบสถ และ "สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท (บุญมา)" ผู้นับถือความซื่อสัตย์ ด้วย ธูป 5 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกบัว 1 ดอก มีความเชื่อว่า "จะมีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง" "ไหว้พระวัดชนะสงคราม อุปสรรคร้ายพ่ายแพ้"

    สถานที่ตั้ง ถนนจักรพงษ์ แขวงบางลำพู เขตพระนคร
    การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทาง สาย 3, 6, 9, 15, 30, 32, 33, 43, 53, 64, 65, 82, 123 รถปรับอากาศ สาย ปอ. 6, 509

    [​IMG]

    7. วัดระฆังโฆษิตาราม (เวลาเปิด-ปิด 08.00 - 16.00 น.)

    สักการะสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) และพระประธานที่วัดระฆัง อ่านคาถาชินบัญชร เพื่อความเป็นสิริมงคล "ไหว้พระวัดระฆัง มีชื่อเสียงโด่งดังตลอดปี" ด้วยธูป 3 ดอก เทียนคู่ ทองคำเปลว 3 แผ่น หมากพลู

    สถานที่ตั้ง ถนนอรุณอัมรินทร์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย
    การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทาง สาย 19, 57, 83 ท่าเรือ เรือด่วนเจ้าพระยา ลงท่ารถไฟหรือท่าวังหลังก็ได้ หรือลงเรือข้ามฟากจากท่าช้างไปท่าวัดระฆัง

    [​IMG]

    8. วัดอรุณราชวราราม หรือ วัดแจ้ง (เวลาเปิด-ปิด 08.00 - 16.00 น.)

    ไหว้พระปรางค์วัดอรุณฯ เพื่อความเป็นสิริมงคล "ไหว้พระวัดอรุณ ชีวิตโรจน์รุ่ง ทุกวันคืน" ต้องไปสักการะ "พระประธาน" ด้วยธูป 3 ดอก เทียนคู่ และต้องไปเดินทักษิณาวัตรรอบ "พระปรางค์" อีก 3 รอบ เพื่อ "ชีวิตรุ่งโรจน์"

    สถานที่ตั้ง ข้างกองทัพเรือ ถนนอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกใหญ่
    การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทางสาย 19, 57, 83 ทางเรือ ลงเรือข้ามฟากที่ท่าเตียนขึ้นที่ท่าวัดอรุณ

    [​IMG]

    9. วัดกัลยาณมิตร หรือวัดซำปอกง (เวลาเปิด-ปิด 08.00 - 16.00 น.)

    ไหว้หลวงพ่อซำปอกง (พระพุทธไตรรัตนนายก) พระโตริมน้ำตามตำนาน กรุงศรีอยุธยา ณ วัดกัลยาณมิตร เพื่อความเป็นสิริมงคล "ไหว้หลวงพ่อซำปอกง โชคดีมีชัยปลอดภัยตลอดปี" ด้วยธูป 3 ดอก เทียนแดงคู่

    สถานที่ตั้ง แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี
    การเดินทาง โดยรถประจำทาง สาย 3, 4, 7, 7ก, 9, 21, 37, 56, 82 รถปรับอากาศ สาย ปอ. 7, 21, 82 (นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างจากโรงเรียนศึกษานารี เข้ามาที่วัดเพราะรถ ประจำทางเข้าไม่ถึง) ทางเรือ ลงเรือข้ามฟากที่ท่าปากคลองตลาดขึ้นท่าวัดกัลยาณมิตร เพื่อความสะดวกควรเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง หรือบริการขนส่งสาธารณะ เนื่องจากสถานที่จอดรถมีจำกัดมาก


    การได้ไปนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองนั้นไม่จำเป็นต้องไปในวันพิเศษทางศาสนาเท่านั้น หากสามารถไปนมัสการได้ทุกเมื่อ ซึ่งการไปนมัสการนี้ ไม่เพียงจะก่อให้เกิดความสบายใจเท่านั้น หากยังเป็นกุศโลบายที่สร้างความเชื่อมั่นในการพาชีวิตก้าวเดินต่อไปในอนาคต ด้วยสัญญาใจที่ให้ไว้กับตัวเอง และถ้าไม่มุ่งมั่นในการโกย "มงคล" เกินไป เวลานั้นน่าจะเป็นเวลาทองที่ได้ซึมซับความสงบสุข ความศรัทธาอันยิ่งใหญ่ได้อีกด้วย



    ขอบคุณข้อมุลและภาพประกอบจาก wikipedia
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ข้าพระพุทธเจ้า ขอถวายพระพรองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน

    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
    ข้าพระพุทธเจ้า ชมรมพระวังหน้า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • amrufo-1.jpg
      amrufo-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      835.9 KB
      เปิดดู:
      17,595
    • e9d2dc51bd.jpg
      e9d2dc51bd.jpg
      ขนาดไฟล์:
      201.1 KB
      เปิดดู:
      6,312
    • avatar.org.jpg
      avatar.org.jpg
      ขนาดไฟล์:
      44 KB
      เปิดดู:
      2,628
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ทำไมดอกพุทธรักษา จึงเป็นดอกไม้ประจำวันพ่อ

    -http://guru.sanook.com/pedia/topic/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2_%E0%B8%88%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD/-


    ชื่อวิทยาศาสตร์: Canna spp. and hybrid

    ชื่อวงศ์: Cannaceae

    ชื่อสามัญ: Indian shot, Canna

    ชื่อพื้นเมือง: พุทธศร ดอกบัวละวง

    [​IMG]

    ลักษณะทั่วไป:
    ต้น เป็นพรรณไม้ล้มลุก เนื้ออ่อน อวบน้ำ ลำต้นมีความสูงประมาณ 1-2 เมตร มีลำต้นอยู่ใต้ดินเรียกว่า เหง้า มีการเจริญเติบโตโดยแตกหน่อเป็นกอคล้ายกับกล้วย ลักษณะหน่อที่เจริญเป็นต้นเหนือพื้นดินนั้นมีลักษณะกลมแบนสีเขียวขนาดลำต้นโตประมาณ 2-4 เซนติเมตร
    ใบ ใบมีขนาดใหญ่สีเขียวโคนใบและปลายใบรีแหลม ขอบใบเรียบ กลางใบเป็นเส้นนูนเห็นได้ชัดโคนใบมีก้านใบซึ่งยาวเป็นกาบใบหุ้มลำต้นซ้อนสลับกัน ขนาดใบกว้างประมาณ 10-15 เซนติเมตรยาวประมาณ 25-35 เซนติเมตร
    ดอก สีแดง แสด เหลือง ชมพู ขาว ออกดอกเป็นช่อแบบช่อกระจะที่ปลายกิ่ง ทยอยบานทีละ 1-3 ดอก ช่อดอกยาว 15- 20 เซนติเมตร ช่อละ 8-10 ดอก กลีบเลี้ยง 3 กลีบ ขนาดเล็กสีเขียวอ่อน กลีบดอก 3 กลีบ ดอกบานเต็มที่กว้าง 8-9 เซนติเมตร มีเกสรตัวผู้ซึ่งเปลี่ยนรูปร่างไปเหมือนกลีบดอกมีขนาดใหญ่
    ฝัก/ผล ผลแห้งแตก ทรงกลม
    เมล็ด เมล็ดทรงกลม ขนาด 2-6 เซนติเมตร ผิวขรุขระ จำนวนหลายเมล็ด

    ฤดูกาลออกดอก: ตลอดปี
    การปลูก: ปลูกในแปลงปลูก และปลูกในกระถาง
    การดูแลรักษา: ชอบแสงรำไร หรือแสงแดดจัดกลางแจ้ง ชอบดินเหนียวชุ่มชื้นและมีอินทรียวัตถุสูง หรือที่ระดับน้ำ 10-20 เซนติเมตร
    การขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด แยกหน่อ แยกเหง้า

    การใช้ประโยชน์:
    - ไม้ประดับ
    - สมุนไพร
    สรรพคุณทางยา:
    - ดอก ตำพอกห้ามเลือด รักษาแผลหนอง
    - ใบ แก้อาการจุกเสียด แก้ท้องเสีย แก้อาเจียน

    “พุทธรักษา”
    หมายถึง พระพุทธเจ้าทรงปกป้องคุ้มครอง ให้มีแต่ความสงบสุขร่มเย็น ซึ่งเรียกกันมากว่า 200 ปี และสีเหลืองอันเป็นสีประจำวันพระราชสมภพขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ของปวงชนชาวไทยการมอบดอกพุทธรักษาให้กับพ่อ จึงเหมือนกับการบอกถึง ความรักและเคารพบูชาพ่อ ผู้สร้างความสงบสุขร่มเย็นให้แก่ครอบครัว คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นพุทธรักษาไว้ประจำบ้านจะช่วยปกป้องคุ้มครอง ไม่ให้มีเหตุร้ายหรืออันตรายเกิดแก่บ้านและผู้อาศัย เพราะพุทธรักษาเป็นพรรณไม้ที่เชื่อกันว่า มีพระเจ้าคุ้มครองรักษาให้มีความสงบสุข คือเป็นไม้มงคลนามนั่นเอง
    วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันพ่อแห่งชาติ กำหนดขึ้นครั้งแรก ในปี 2523 และกำหนดให้ ดอกพุทธรักษาสีเหลือง เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ประจำวันพ่อ


    รูปภาพจาก : bcnnv.ac.th
    ข้อมูลจาก : tlcthai.com
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พระราชดำรัส “ในหลวง“ ขอให้คนไทยตระหนักทำหน้าที่เพื่อชาติ

    -http://news.sanook.com/1352619/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%94%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%AA-%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87/-

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกท้องพระโรง ศาลาราชประชาสมาคม วังไกลกังวล จ.ประจวบคีรีขันธ์ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบรอบ 86 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2556

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราชดำรัสตอบ พระบรมวงศานุวงศ์ คณะรัฐมนตรี ข้าราชการ ทหารทุกหมู่เหล่า และประชาชนที่มาเฝ้ารับเสด็จ ความว่า

    ขอขอบพระทัย และขอบใจท่านทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง ที่มีไมตรีจิตพรั่งพร้อมกันมาให้พร รวมทั้งให้คำมั่นสัญญาด้วยประการต่างๆ ข้าพเจ้าขอแสดงสนองพรและไมตรีจิตทั้งนั้นด้วยใจจริงเช่นกัน

    บ้านเมืองของเราเป็นสุขสืบมาช้านาน เพราะเรามีความเป็นปึกแผนในชาติ และต่างบำเพ็ญกรณียกิจตามหน้าที่ให้สอดคล้องเกื้อกูลกัน เพื่อประโยชน์ของชาติ คนไทยทุกคนจึงควรตระหนักในข้อนี้ให้มาก และตั้งใจประพฤติตัวปฎิบัติงานให้สมฐานะและหน้าที่ เพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวมคือความมั่นคงปลอดภัยของชาติบ้านเมืองไทย

    ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงคุ้มครองรักษาท่านทุกคนให้มีแต่ความสุขความเจริญตลอดไป
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    โอบามา ส่งสานส์ถวายพระพรชัยมงคลแด่ในหลวง

    -http://news.sanook.com/1352497/%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B2-%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%8C%E0%B8%96%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87/-

    [​IMG]

    ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐฯ ได้ส่งสานส์ถวายพระพร เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. 56 โดยใจความในสานส์ระบุว่า ในนามของพสกนิกรชาวอเมริกัน ข้าพระพุทธเจ้าปลื้มปิติและน้อมถวายพระพรแด่พระองค์ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช ดั่งที่ข้าพระพุทธเจ้าได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเมื่อปีที่แล้ว และสำนึกว่าประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศไทยเป็นมหามิตรที่ดีต่อกัน โดยในปีนี้สหรัฐฯ และไทยได้เฉลิมฉลอง 180 ปีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เนื่องในโอกาสครบรอบการลงนามในสนธิสัญญาไมตรีและการพาณิชย์ เมื่อปีพุทธศักราช 2376 โดยในสนธิสัญญาฉบับดังกล่าว ในอารัมภบทได้ระบุไว้ว่า มิตรภาพระหว่างสหรัฐฯ และไทย จะมีอำนาจควบคุมความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศชั่วฟ้าดินสลาย และเจตนารมณ์เช่นนั้นจะคอยชี้นำความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ และไทย ซึ่งมีความลึกซึ้งและไม่มีการสั่นคลอน

    ในการนี้ สหรัฐฯ และไทยจะกระชับความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องทั้งในด้านความมั่นคง การค้า และการลงทุน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยข้าพระพุทธเจ้าเชื่อว่า อนาคตของทั้งสหรัฐฯ และไทยจะโชติช่วงและเจิดจ้า ข้าพระพุทธเจ้าขอถวายพระพรชัยมงคลแด่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท และอำนวยพรให้แก่ปวงชนชาวไทย เนื่องในวโรกาสสำคัญเช่นนี้

    -http://www.springnewstv.tv/home-

    .
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    “ลูกปัดอู่ทอง” ยอดของดีแห่งสยาม ความงามเหนือกาลเวลา/ปิ่น บุตรี
    โดย ปิ่น บุตรี 12 ธันวาคม 2556 16:49 น.

    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000152657-


    โดย : ปิ่น บุตรี(pinn109@hotmail.com)

    “ลูกปัดอู่ทอง” ยอดของดีแห่งสยาม ความงามเหนือกาลเวลา/ปิ่น บุตรี

    [​IMG]
    ลูกปัดอู่ทองหนึ่งในศิลปวัตถุล้ำค่าแห่งสยามประเทศ
    “...ข้าพเจ้าไม่เคยพบบรรดาลูกปัดที่มีสีเฉพาะถิ่นในที่อื่นๆ มากมายเท่าในเขตปริมณฑลของเมืองอู่ทอง...”

    บางส่วนจากบทความ “อู่ทอง กับลูกปัดอู่ทอง สองที่สุดของเมืองไทย” ในหนังสือ “อู่ทองหลักฐานพระพุทธศาสนาแรกเริ่มและรอยลูกปัด” โดย รศ.ศรีศักร วัลลิโภดม นักโบราณคดีนามอุโฆษ ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงคุณค่าและความสำคัญของ “ลูกปัดอู่ทอง” ที่ถือเป็นหนึ่งในศิลปวัตถุอันทรงคุณค่าแห่งสยามประเทศ

    [​IMG]
    ลูกปัดคือหนึ่งในหลักฐานสำคัญที่ยืนยันความเป็นเมืองท่าโบราณของอู่ทอง

    ย้อนรอยลูกปัดอู่ทอง

    “เมืองโบราณอู่ทอง” ที่ปัจจุบันอยู่ใน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ถือเป็นเมืองสำคัญแห่งดินแดนสุวรรณภูมิ ทั้งการเป็นเมืองท่า เมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจการค้า การคมนาคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุค“ทวารวดี”(ราวพุทธศตวรรษที่ 12-16) เมืองอู่ทองเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก

    สำหรับโบราณวัตถุที่เป็นหลักฐานสำคัญยืนยันความเป็นเมืองท่าโบราณของอู่ทองที่มีการสร้างความสัมพันธ์ ติดต่อ เชื่อมโยง กับอาณาจักรสำคัญภายนอก เช่น อินเดีย โรมัน อาหรับ ก็คือ “ลูกปัด”ชนิดต่างๆที่มีการค้นพบเป็นจำนวนมากในเมืองอู่ทองและบริเวณใกล้เคียง

    ลูกปัดโบราณเหล่านั้นเดินทางผ่านมาทางชาวต่างชาติที่เข้ามาติดต่อค้าขายกับอู่ทอง ก่อนจะเดินทางผ่านกาลเวลากลายเป็นลูกปัดอู่ทองมรดกทรงคุณค่าของเมืองไทย โดยหลังมีการขุดค้นพบลูกปัดอู่ทอง(จากการบุกเบิกของอ.ชิน อยู่ดี)และถูกเปิดตัวให้โลกรู้จัก ชื่อเสียงของลูกปัดอู่ทองก็โด่งดังไปไกล โดยเฉพาะในช่วงประมาณ พ.ศ. 2510 หรือ เกือบ 50 ปีที่แล้ว

    ยุคนั้นในพื้นที่อำเภออู่ทองมีการพบลูกปัดเยอะมากและสามารถพบได้ไม่ยาก บางจุดแค่ฝนตกชะหน้าดินก็สามารถพบลูกปัดได้แล้ว นั่นจึงทำให้เกิดปรากฏการณ์ตื่นลูกปัดขึ้นในอู่ทอง ทั้งชาวบ้านในพื้นที่และคนต่างถิ่นต่างแห่กันขุดค้นหาลูกปัดกันเป็นจำนวนมากอย่างกับมีเทศกาลสำคัญ

    [​IMG]
    ความหลากหลายของลูกปัดอู่ทอง

    มนต์เสน่ห์แห่งลูกปัดอู่ทอง

    นพ.บัญชา พงษ์พานิช เลขานุการมูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาสอินทปัญโญ ผู้เชี่ยวชาญด้านลูกปัดในเมืองไทย ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับลูกปัดอู่ทองผ่านบทความ “ลูกปัดอู่ทอง(เท่าที่สืบค้นได้ใน พ.ศ.นี้)กับข้อเสนอเพื่อการพัฒนาที่อู่ทอง”ในหนังสือ “อู่ทองหลักฐานพระพุทธศาสนาแรกเริ่มและรอยลูกปัด” สรุปความได้ว่า

    ...ลูกปัดอู่ทอง เป็นลูกปัดเก่าแก่ที่ถูกค้นพบในเมืองโบราณอู่ทองและปริมณฑลราว 20-30 กิโลเมตร มีการสืบเนื่องต่อกันมาอย่างน้อย 3 ยุค คือ ยุคเหล็ก ฟูนัน และทวารวดี กินระยะเวลาประมาณ 1,500 - 2,000 ปี ตั้งแต่ต้นพุทธกาลเมื่อประมาณ 2,500 ปีที่แล้ว โดยลูกปัดอู่ทอง แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลักๆได้แก่

    1. ลูกปัดที่ทำจากดินเผา กระดูกสัตว์ และเปลือกหอย เช่น หอยมือเสือ หอยสังข์ ลูกปัดกลุ่มนี้พบเห็นได้น้อยมาก

    [​IMG]
    ลูกปัดชวาวุ้น

    2. ลูกปัดที่ทำจากหินชนิดต่างๆ มีทั้งหินสีมีค่า อาทิ คาร์เนเลียน อะเกต หินแก้วผลึก หินเขี้ยวหนุมาน(ควอตซ์) และลูกปัดที่ทำจากหินสีเขียวชนิดต่างๆหรือที่นิยมเรียกว่าหยก ลูกปัดกลุ่มนี้มีหลายรูปทรง มีทั้งแบบเรียบ สีเดียว และผสมสี รวมไปถึงลูกปัดหินเนื้อใสที่เรียกว่า “ลูกปัดทวารวดีวุ้น” หรือ “ลูกปัดชวาวุ้น”

    3. ลูกปัดที่ทำจากแก้ว มีทั้งลูกปัดแก้วสีเดียวหรือที่นิยมเรียกกันว่า“ลูกปัดอินโดแปซิฟิก” ลูกปัดแก้วอำพัน ลูกปัดแก้วหลายสี ลูกปัดแก้วลายแถบหรือที่นิยมเรียกว่า “สแลน” เป็นต้น

    4. ลูกปัดที่ทำจากโลหะ ส่วนใหญ่เป็นลูกปัดที่ทำจากทองคำ...

    [​IMG]
    ลูกปัดอู่ทองหลากหลายรูปแบบ

    นอกจากนี้ลูกปัดอู่ทองยังได้ชื่อว่าเป็นยอดของลูกปัดในเมืองไทย ซึ่งหนึ่งในผู้หลงใหลลูกปัดอู่ทองและได้เก็บสะสมลูกปัดไว้เป็นจำนวนมากอย่าง “กัลยารัตน์ ศักดิ์ขจรภพ” หรือเจ๊กัลยา แห่งร้านกัลยาในตลาดอู่ทองได้พูดถึงจุดเด่นและเสน่ห์ของลูกปัดอู่ทองว่า ลูกปัดอู่ทองมีความสวยงามแตกต่างจากที่อื่นๆ เพราะมันดูมีน้ำมีนวล มีความเลื่อม มันวาว อีกทั้งยังมีความเหนียวไม่แตกง่าย จึงเป็นที่ต้องการของนักสะสม นักเล่นของเก่า นักเล่นลูกปัด นั่นจึงทำให้ลูกปัดอู่ทองมีราคาสูงกว่าที่อื่นๆตั้งแต่ 3 -10 เท่าเลยทีเดียว


    [​IMG]
    เจ๊กัลยา แห่งร้านกัลยาในตลาดอู่ทอง

    สำหรับจุดหลักในการชมลูกปัดอู่ทองของนักท่องเที่ยวและผู้สนใจทั่วไปในอำเภออู่ทองนั้นก็คือที่ ”พิพิธภัณฑถานแห่งชาติ อู่ทอง” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งรวบรวมลูกปัดแห่งใหญ่ของเมืองไทยนับเป็นร้อยๆเส้น ลูกปัดที่นี่เป็นลูกปัดอู่ทองที่ได้มาจากการขุดค้นพบ การขุดแต่งทางโบราณคดี การบริจาค และการรับซื้อจากชาวบ้าน นักสะสม มีทั้งที่เป็น หิน แก้ว หิน จัดแบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ


    [​IMG]
    ส่วนจัดแสดงลูกปัดในพิพิธภัณฑ์อู่ทอง

    -ลูกปัดหินคาร์เนเลียน อะเกต สมัยก่อนประวัติศาสตร์ราว 3,000 - 3,500 ปีที่แล้ว เช่น สร้อยลูกปัดหินคาร์เนเลียนสีส้มแดง สร้อยลูกปัดหินอะเกตรูปทรงต่างๆ

    -ลูกปัดหินสีมีค่าและลูกปัดแก้ว ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ – ทวารวดี มีอายุราว 1,500 – 2,500 ที่แล้ว เช่น ลูกปัดหินแก้วผลึก ลูกปัดควอตซ์ ลูกปัดหินคาร์เนเลียนกับโกเมน


    [​IMG]
    ลูกปัดหลากหลายที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์อู่ทอง

    -ลูกปัดแก้วอินโดแปซิฟิก สมัยทวารวดี อายุราว 1,400 – 1,500 ปีที่แล้ว เช่น ลูกปัดแก้วอินโดแปซิฟิกสีฟ้า น้ำเงิน มีสองเส้นทรงหลอดยาวเรียกว่า “ก้านผักบุ้ง” สร้อยลูกปัดแก้วสีเดียว เป็นต้น

    -ลูกปัดทองคำ ลูกปัดหิน และเครื่องประดับ เช่น สายสร้อย จี้ แหวน ที่ทำจากโลหะต่างๆ โดยมีไฮไลท์ที่ทางพิพิธภัณฑ์ภูมิใจนำเสนอ คือ ลูกปัดทองคำพร้อมจี้ทองคำฝังพลอยอันเหลืองอร่ามสวยงาม

    [​IMG]
    ลูกปัดทองคำ

    นอกจากนี้ที่นี่ยังมีประติมากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับลูกปัด เช่น หัวเสาโบราณแกะสลักเป็นรูปสร้อยสังวาลร้อยลูกปัด รูปบุคคลที่มีสายสร้อย ต่างหูลูกปัดประดับตกแต่ง ซึ่งผู้สนใจสามารถไปชมได้ที่พิพิธภัณฑ์ฯอู่ทองที่ถือเป็นอีกหนึ่งแหลงรวมศิลปวัตถุอันทรงคุณค่าที่น่าสนใจยิ่งของเมืองไทย


    [​IMG]
    รูปบุคคลที่มีสายสร้อยแสดงถึงการนิยมในลูกปัดของคนโบราณ

    วิถีลูกปัด วิถีอู่ทอง

    ลูกปัดในความรับรู้ของคนทั่วไปคือเครื่องประดับอันสวยงาม แต่คนสมัยโบราณยังให้คุณค่าและความหมายของลูกปัดที่กว้างไกลกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็น เครื่องรางของขลัง, สิ่งของที่ใช้ในพิธีกรรม,เป็นของมีค่าใช้แลกเปลี่ยนเสมือนเงินตรา,เป็นสินค้าของสะสม, เป็นเครื่องหมายบอกอำนาจ-ใครมีลูกปัดมากมีอำนาจมาก เป็นเครื่องประดับแสดงฐานะ ชนชั้นทางสังคม-ลูกปัดมีการแบ่งระดับของมันในตัวจากความหายากและความสวยงามของวัสดุ


    [​IMG]
    ลูกปัดนอกจากเป็นเครื่องประดับแล้วยังมีคุณค่าในอีกหลากหลายด้าน

    สำหรับลูกปัดอู่ทองนั้นถือว่ามีความผูกพันกับชาวเมืองอูทองไม่น้อย ซึ่ง “นิธิศักดิ์(สมศักดิ์)-จิราพัทธ์ อภินันท์ธนากร” สองสามี-ภรรยา แห่ง“ร้านเจนภักดี”ร้านทำลูกปัดเจ้าดังบนถนนปากทางเข้าเขาพระ เล่าให้ฟังว่า คนอู่ทองสมัยก่อนจะนิยมสวมลูกปัดเป็นเครื่องประดับกันเป็นจำนวนมาก ทั้งสายสร้อย กำไล


    [​IMG]
    จิราพัทธ์ อภินันท์ธนากร กับลูกปัดที่สะสม

    “มาวันนี้แม้จะไม่เป็นที่นิยมเท่าเมื่อก่อน แต่คนอู่ทองส่วนหนึ่งก็ยังนิยมกันอยู่ คนรุ่นใหม่ วัยรุ่นก็ยังใส่กันอยู่ ดูได้จากคนในอู่ทองที่มาให้ทางร้าน(เจนภักดี)ทำลูกปัด ซึ่งมีทั้งคนที่มาซื้อลูกปัดที่ร้าน หรือนำลูกปัดที่เก็บสะสมมาให้ทางร้านออกแบบตกแต่งให้ใหม่”

    นิธิศักดิ์ช่างทำทอง ทำลูกปัดมือดีแห่งอู่ทองเล่าให้ฟัง พร้อมกับเชิญชวนให้ดูลูกปัดสีอำพันทองอันสวยงาม ซึ่งเขาบอกว่า มีเพียงหนึ่งเดียวในสุพรรณ


    [​IMG]
    ลูกปัดอู่ทองผูกพันกับวิถีชาวอู่ทองมาแต่ช้านาน

    ขณะที่จิราพัทธ์ที่สวมใส่ลูกปัดสีสวยอยู่บนคอกล่าวว่า ชาวอู่ทองหลายคนมีความเชื่อว่าถ้าสวมลูกปัดอู่ทองจะช่วยเพิ่มความโชคดี ความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต แต่เรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ใครจะเชื่อไม่เชื่อก็สุดแท้แต่

    ลูกปัดอู่ทอง เชื่อมอดีต-ปัจจุบัน

    ด้วยคุณค่าและความสำคัญของลูกปัดอู่ทอง ทาง “องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” หรือ อพท. ที่ได้คัดสรรเมืองโบราณอู่ทองเป็นหนึ่งในพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ด้วยแนวคิด “เมืองสร้างสรรค์การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตดั้งเดิม” ได้จัดทำหนังสือ “อู่ทองหลักฐานพระพุทธศาสนาแรกเริ่มและรอยลูกปัด” เพื่อเป็นที่แหล่งอ้างอิงข้อมูลและเป็นคู่มือสำหรับผู้สนใจ


    [​IMG]
    ลูกปัดสีอำพันทองที่หาไม่ได้ง่ายๆในเมืองไทย

    นอกจากนี้ทางอพท.ยังได้นำเรื่องราวของลูกปัดมาผนวกเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมการท่องเที่ยว เรียนรู้ เพื่อให้เกิดการมอง“ย้อนอดีต” เชื่อมโยงสู่ “ปัจจุบัน” พร้อมให้ชุมชนได้ตระหนักถึงความสำคัญอดีตอันรุ่งโรจน์ของอู่ทอง เพื่อนำไปสู่การอนุรักษ์ ฟื้นฟู และพัฒนาเมืองเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังชูลูกปัดเป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่แสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของเมืองโบราณอู่ทอง เพื่อให้คนในพื้นที่นำไปต่อยอดพัฒนาเป็นสินค้าของที่ระลึกต่อไป

    และนี่ก็คือเสน่ห์มนต์ขลังของศิลปวัตถุที่อยู่เหนือกาลเวลานามว่า “ลูกปัดอู่ทอง”

    สิ่งเล็กๆที่มีคุณค่ามากมายเกินตัว


    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000152657-

    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .




    ขอเชิญร่วมมหากุศลเป็นเจ้าภาพผ้าป่ามหาพุทธบูชา “วิสาขปุรณมี”
    จำนวน 1,500 กอง กองละ 1,000 บาท หรือร่วมบุญตามกำลังศรัทธา
    ทอดถวาย ณ พระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง สำนักสงฆ์ผาผึ้ง

    ต.ตลาดแร้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ
    ตามที่สำนักสงฆ์ผาผึ้ง ร่วมกับท่านพุทธบริษัททั้งหลาย
    ดำเนินการจัดสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง จนแล้วเสร็จ
    และได้มีการจัดสมโภชเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2554 นั้น
    ในการนี้ ประธานการสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง (พระอาจารย์นิล)
    ได้ปรารภการติดตั้งระบบไฟส่องสว่างจากพลังงานแสงอาทิตย์
    โดยรอบองค์พระเจดีย์ และอาณาบริเวณโดยรอบ
    จึงขอเชิญชวนท่านพุทธบริษัททั้งหลาย
    ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพในมหางานบุญมหากุศลครั้งนี้
    เพื่อน้อมถวายอานิสงค์ทั้งหมดเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา
    กำหนดการ วันที่ 13 พฤษภาคม 2557 เวลา 10.00 น.
    ถวายระบบดวงประทีปส่องสว่าง และถวายปัจจัยทอดผ้าป่าสามัคคี




    หมายเหตุ พระ พิมพ์(พระเครื่อง)และธนบัตร(โภคทรัพย์และนำโชค)
    ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชานั้น เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)
    ที่ไม่สามารถนำไปซื้อขายในวงการพระเครื่องไทย(วง การซื้อ-ขายพระ) ได้


    หากท่านต้องการพระพิมพ์(พระเครื่องที่สามารถนำไปซื้อขายในวงการซื้อ-ขายพระเครื่อง
    ก็ไม่ต้องร่วมทำบุญและรับพระพิมพ์(พระเครื่อง) )และธนบัตร(โภคทรัพย์และนำโชค)ไป




    แต่ พระพิมพ์(พระเครื่อง) ที่ผมมอบให้นั้น เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง) ที่สร้างขึ้นที่วังหน้า
    โดยกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ มีพระบัณฑูรให้สร้างขึ้น โดยช่างสิบหมู่แห่งวังหน้าเป็นผู้สร้าง
    และนำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่วัดบวรสถานสุทธาวาส (พระอุโบสถประจำวังหน้า)
    มีการอาราธนาคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร(คณะโสณะ-อุตระ) และ หรือ
    สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และ หรือ กลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่
    (เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน , หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
    , หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร , หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ เป็นต้น) อธิษฐานจิต
    ระหว่างปี พ.ศ.2400- 2428 หรือ พระที่สร้างขึ้นที่วังหลวง
    นำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม(วัดพระแก้ว) ปี พ.ศ.2429-2434
    ,ธนบัตรโภคทรัพย์ ผมได้ขอความเมตตาพระอาจารย์นิล ไปขอพระเมตตาจากหลวงปู่สุภา
    อธิษฐานจิตเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2554
    และและธนบัตรนำโชค ผมได้ไปกราบขอพระเมตตาจากหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน
    และ หลวงปู่เยี่ยม วัดประดู่ทรงธรรม อธิษฐานจิตเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2553


    แต่ หากท่านร่วมทำบุญและขอรับพระวังหน้า / ธนบัตรนำโชคและธนบัตรโภคทรัพย์
    ไปเพื่อเป็นพุทธานุสติ และหรือการห้อยคอเพื่อคุ้มครองตนเอง ผมยินดีมอบให้ครับ
    และหรือขอรับไปเพื่อการบูชาต่างๆ เพื่อเป็นการบูชาพระคุณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์
    ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกุกุกสันโธ
    ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนาม สมณโคดม
    ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
    ( การบูชาพระคุณพระสิวลีเถระเจ้า ,พระอนุรุธเถระเจ้า ,พระอุปคุตเถระเจ้า
    เนื่องจากการนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกเพิ่มเติม)
    ,หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน ,หลวงปู่เยี่ยม วัดประดู่ทรงธรรม ,หลวงปู่สุภา กันตสีโล
    ,การบูชาพระคุณองค์พระมหากษัตริย์ไทยทุกๆพระองค์
    ,พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
    ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
    ,องค์อุปราชวังหน้า รัตนโกสินทร์ทุกๆพระองค์
    และทั้งช่างสิบหมู่แห่งวังหน้า ,วังหลวง ,วังหลัง ,ช่างราษฎร์ทุกๆท่าน
    และเทพเทวาทั้ง 16 ชั้นฟ้าและที่อยู่ในองค์พระพิมพ์(พระเครื่อง)ครับ
    ซึ่ง เรื่องที่ผมได้บอกนั้น เป็นความเชื่อ ,ความเห็นของผม รวมทั้งคณะของผม
    ซึ่งก็แล้วแต่ท่านผู้ร่วมทำบุญและท่านผู้อ่านทุกๆท่าน จะมีความคิดเห็นอย่างไร ก็สุดแล้วแต่ครับ

    โมทนาบุญทุกประการกับทุกๆท่านครับ




    .

    <!--[if gte mso 9]><xml> <o:OfficeDocumentSettings> <o:AllowPNG/> </o:OfficeDocumentSettings> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:TrackMoves/> <w:TrackFormatting/> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:DoNotPromoteQF/> <w:LidThemeOther>EN-US</w:LidThemeOther> <w:LidThemeAsian>X-NONE</w:LidThemeAsian> <w:LidThemeComplexScript>TH</w:LidThemeComplexScript> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> <w:SplitPgBreakAndParaMark/> <w:EnableOpenTypeKerning/> <w:DontFlipMirrorIndents/> <w:OverrideTableStyleHps/> </w:Compatibility> <m:mathPr> <m:mathFont m:val="Cambria Math"/> <m:brkBin m:val="before"/> <m:brkBinSub m:val="--"/> <m:smallFrac m:val="off"/> <m:dispDef/> <m:lMargin m:val="0"/> <m:rMargin m:val="0"/> <m:defJc m:val="centerGroup"/> <m:wrapIndent m:val="1440"/> <m:intLim m:val="subSup"/> <m:naryLim m:val="undOvr"/> </m:mathPr></w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" DefUnhideWhenUsed="true" DefSemiHidden="true" DefQFormat="false" DefPriority="99" LatentStyleCount="267"> <w:LsdException Locked="false" Priority="0" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Normal"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="heading 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 7"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 8"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 9"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 7"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 8"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 9"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="35" QFormat="true" Name="caption"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="10" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Title"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="1" Name="Default Paragraph Font"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="11" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtitle"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="22" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Strong"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="20" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Emphasis"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="59" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Table Grid"/> <w:LsdException Locked="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Placeholder Text"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="1" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="No Spacing"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Revision"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="34" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="List Paragraph"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="29" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Quote"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="30" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Quote"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="19" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtle Emphasis"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="21" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Emphasis"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="31" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtle Reference"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="32" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Reference"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="33" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Book Title"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="37" Name="Bibliography"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" QFormat="true" Name="TOC Heading"/> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-priority:99; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin-top:0cm; mso-para-margin-right:0cm; mso-para-margin-bottom:10.0pt; mso-para-margin-left:0cm; line-height:115%; mso-pagination:widow-orphan; font-size:11.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Calibri","sans-serif"; mso-ascii-font-family:Calibri; mso-ascii-theme-font:minor-latin; mso-hansi-font-family:Calibri; mso-hansi-theme-font:minor-latin; mso-bidi-font-family:"Cordia New"; mso-bidi-theme-font:minor-bidi;} </style> <![endif]-->
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:TrackMoves/> <w:TrackFormatting/> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:DoNotPromoteQF/> <w:LidThemeOther>EN-US</w:LidThemeOther> <w:LidThemeAsian>X-NONE</w:LidThemeAsian> <w:LidThemeComplexScript>TH</w:LidThemeComplexScript> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> <w:SplitPgBreakAndParaMark/> <w:EnableOpenTypeKerning/> <w:DontFlipMirrorIndents/> <w:OverrideTableStyleHps/> </w:Compatibility> <m:mathPr> <m:mathFont m:val="Cambria Math"/> <m:brkBin m:val="before"/> <m:brkBinSub m:val="--"/> <m:smallFrac m:val="off"/> <m:dispDef/> <m:lMargin m:val="0"/> <m:rMargin m:val="0"/> <m:defJc m:val="centerGroup"/> <m:wrapIndent m:val="1440"/> <m:intLim m:val="subSup"/> <m:naryLim m:val="undOvr"/> </m:mathPr></w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" DefUnhideWhenUsed="true" DefSemiHidden="true" DefQFormat="false" DefPriority="99" LatentStyleCount="267"> <w:LsdException Locked="false" Priority="0" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Normal"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="heading 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 7"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 8"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 9"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 7"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 8"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 9"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="35" QFormat="true" Name="caption"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="10" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Title"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="1" Name="Default Paragraph Font"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="11" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtitle"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="22" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Strong"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="20" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Emphasis"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="59" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Table Grid"/> <w:LsdException Locked="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Placeholder Text"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="1" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="No Spacing"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Revision"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="34" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="List Paragraph"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="29" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Quote"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="30" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Quote"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="19" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtle Emphasis"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="21" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Emphasis"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="31" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtle Reference"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="32" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Reference"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="33" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Book Title"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="37" Name="Bibliography"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" QFormat="true" Name="TOC Heading"/> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-priority:99; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin-top:0cm; mso-para-margin-right:0cm; mso-para-margin-bottom:10.0pt; mso-para-margin-left:0cm; line-height:115%; mso-pagination:widow-orphan; font-size:11.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Calibri","sans-serif"; mso-ascii-font-family:Calibri; mso-ascii-theme-font:minor-latin; mso-hansi-font-family:Calibri; mso-hansi-theme-font:minor-latin; mso-bidi-font-family:"Cordia New"; mso-bidi-theme-font:minor-bidi;} </style> <![endif]-->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 เมษายน 2014
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    น้องการ์ตูน เด็กหญิง 6 ขวบ ถูกลักพาตัว ชาวเน็ตร่วมแชร์ภาพช่วยตามหา

    -http://hilight.kapook.com/view/94805-

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]



    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา

    น้องการ์ตูน เด็กหญิงวัย 6 ขวบ ถูกลักพาตัวขณะไปเที่ยวงานวงดนตรีลูกทุ่งกับครอบครัวย่านซอยแบริ่ง บางนา ชาวเน็ตร่วมแชร์ภาพตามหา น้องการ์ตูน หวังพบเบาะแสช่วยเหลือ

    ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ได้เผยแพร่ภาพประกาศตามหา น้องการ์ตูน ด.ญ.อธิตยา เพ็ชรดอน อายุ 6 ขวบ ซึ่งถูกลักพาตัวไปขณะไปเที่ยวงานวงดนตรีลูกทุ่งกับครอบครัวย่านซอยแบริ่ง บางนา เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2556 เวลาประมาณ 23.40 น. โดยระบุข้อมูลของ น้องการ์ตูน ว่า เป็นเด็กหญิง สูง 120 ซม. น้ำหนัก 16 กก. รูปร่างเล็ก ขณะหายตัว น้องการ์ตูนใส่เสื้อสีเขียว กางเกงขาสั้นสีดำแดง พร้อมขอให้ช่วยกันแชร์ภาพและตามหาเบาะแสของน้องการ์ตูนเพื่อเร่งดำเนินการช่วยเหลือด้วย ซึ่งก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นใจ และแชร์ภาพดังกล่าวออกไปเป็นจำนวนมาก

    โดยล่าสุด (13 ธันวาคม 2556) ได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบนสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งจับภาพได้ขณะน้องหายตัวไปบริเวณลานจอดรถสถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง เมื่อเวลาประมาณ 23.10-00.15 น. โดยผู้ก่อเหตุเป็นชายวัยประมาณ 30-45 ปี สูงประมาณ 165 ซม. ผมบางตรงกระหม่อม สวมเสื้อสีดำ กางเกงขาสั้นสีครีม คาดกระเป๋าสะพายที่บ่า ลักษณะคล้ายกระเป๋าเก็บเงินของแม่ค้า สวมรองเท้าแตะหนีบ ทั้งนี้ หากใครพบเห็นหรือทราบข้อมูลของชายคนดังกล่าวตามภาพ หรือพบเห็นเบาะแสของน้องการ์ตูน โปรดแจ้ง มูลนิธิกระจกเงา โทร. 0807752673

    นอกจากนี้ ยังมีรายงานเด็กหาย 4 ราย (รวมน้องการ์ตูน) ซึ่งหายตัวไปในรอบเดือนนี้ ซึ่งทางศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ได้ลงประกาศเผยแพร่ไว้ด้วย ดังนี้

    (ซ้ายบน) น้องแม็กซ์ เด็กชายศรัณย์ อินแถลง อายุ 7 ขวบ หายตัวไปในงานบุญกฐินที่วัดศรีอุดมวงศ์ อ.วังสะพุง จ.เลย เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2556 ลักษณะน้องแม็กซ์ สูง 120 ซม. หนัก 20 กก. รูปร่างเล็ก ตาชั้นเดียว สวมเสื้อยืดสีแดง กางเกงขาสั้นสีเขียว รองเท้าแตะสีเขียว

    (ขวาบน) ด.ญ.อธิตยา เพ็ชรดอน (การ์ตูน) อายุประมาณ 6 ขวบ พลัดหลงหายตัวไปขณะไปเที่ยวงานวงดนตรีลูกทุ่งกับครอบครัวย่านซอยแบริ่ง บางนา เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น.ของวันที่ 6 ธันวาคม 2556 น้องการ์ตูน สูง 120 ซม. หนัก 16 กก. รูปร่างเล็ก ขณะที่น้องหายตัว น้องใส่เสื้อสีเขียว กางเกงขาสั้นสีดำแดง

    (ซ้ายล่าง) เด็กชายจักรินทร์ อินทรา (น้องโจ้) อายุ 10 ขวบ หายตัวไปขณะกำลังเดินทางไปโรงเรียนที่ย่านพระประแดง สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2556 น้องโจ้ สูง 130 ซม. หนัก 25 กก. รูปร่างเล็ก ตัดผมทรงนักเรียน วันที่หายไปสวมชุดนักเรียนสีขาว กางเกงนักเรียนสีน้ำตาล รองเท้าผ้าใบสีน้ำตาล

    (ขวาล่าง) เด็กหญิงณัฐภา ทับเเก้ว หรือน้องเดียร์ อายุ 6 ขวบ หายออกจากบ้านที่ชุมชนโคกโตนด ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อประมาณ 4 โมงเย็นของวันที่ 6 ธันวาคม 2556 ขณะหายไปน้องสวมเสื้อสีชมพู กางเกงขาสั้นสีเทา ลักษณะผมหน้าม้า ยาวประบ่า สูง120 ซม. น้ำหนัก 16 กก.

    ผู้ใดพบเห็นเด็กลักษณะดังกล่าว โปรดแจ้ง มูลนิธิกระจกเงา โทร. 0807752673
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948


    .

    [size=24pt]
    ไม่เข้าใจ จับเป็นทำไม อยู่ไปก็รกแผ่นดิน
    [/size]



    ----------------------------------------------------------------

    ข่าวน้องการ์ตูน เด็กหาย คนร้ายสารภาพลักพาตัวเพื่อข่มขืน ก่อนฆ่าปิดปาก

    -http://hilight.kapook.com/view/94830-


    [​IMG]


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา, รายการ เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์

    ความคืบหน้าคดีลักพาตัว น้องการ์ตูน เด็กหายจากย่านซอยแบริ่ง บางนา ล่าสุดคนร้ายสารภาพ ลักพาตัว น้องการ์ตูน เพื่อกระทำชำเรา และบีบคอฆ่าปิดปาก

    ข่าวเด็กหาย กลายเป็นประเด็นที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในตอนนี้ หลังมีข่าว น้องการ์ตูน เด็กหญิงวัย 6 ขวบ ถูกลักพาตัวไปขณะเที่ยวงานวงดนตรีลูกทุ่งกับครอบครัวย่านซอยแบริ่ง บางนา เมื่อกลางดึกวันที่ 6 ธันวาคม 2556 โดยล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (15 ธันวาคม 2556) ได้มีการพบกางเกงของน้องการ์ตูนและกะโหลกศีรษะเด็กหญิงวัย 6-8 ขวบ บริเวณป่ารกบนที่ดินร้างติดกับ BTS แบริ่ง โดยยังไม่มีการยืนยันว่าใช่น้องการ์ตูนหรือไม่ ตามที่ได้รายงานไปแล้วก่อนหน้านี้ (อ่านข่าวเก่า คลิก) ก่อนที่ในช่วงสาย เวลาประมาณ 10.00 น. ได้มีการค้นหาเพิ่มเติม ก่อนจะพบเสื้อน้องการ์ตูน และกระจุกเส้นผมในจุดใกล้เคียงกับที่พบกะโหลกเด็ก

    ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. วันนี้ (15 ธันวาคม 2556) ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับตัวคนร้ายที่ลักพาตัวน้องการ์ตูนได้แล้ว ที่ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย หลังมีพลเมืองดีดูรายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ และแจ้งเบาะแสมายังเบอร์สายด่วนมูลนิธิกระจกเงา เมื่อมีการตรวจสอบข้อมูลแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานงานกันจนทางตำรวจหนองคายเชิญผู้ต้องสงสัยมาสอบถาม จากนั้นผู้ต้องสงสัยรับสารภาพว่าเป็นคนลักพาตัวน้องการ์ตูนไป พร้อมเผยว่า เคยต้องโทษในคดีพรากผู้เยาว์มาก่อน ซึ่งทางตำรวจ สน.บางนา อยู่ระหว่างเดินทางไปรับตัวผู้ต้องหา

    ล่าสุด เมื่อเวลา 16.14 น. วันนี้ ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ระบุว่า ได้รับการยืนยันจาก สารวัตรสืบสวน สน. บางนา และ สารวัตรสืบสวน นครบาล 5 ว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ลักพาตัวน้องการ์ตูน เพื่อกระทำชำเรา และบีบคอฆ่าปิดปาก นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า คนร้ายที่ลักพาตัว น้องการ์ตูน คือ คนงานในคณะดนตรีชื่อดังที่จัดการแสดงในวันนั้น ชื่อเล่น คือ นายหนุ่ย อายุ 32 ปี เป็นชาวขอนแก่น


    ทั้งนี้ กระปุกดอทคอม ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว น้องการ์ตูน ด้วยนะคะ อนึ่ง หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม จะนำมารายงานให้ทราบกันต่อไปค่ะ


    **หมายเหตุ : แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2556 เวลา 17.03 น.


    INN News
     

แชร์หน้านี้

Loading...