พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    [FONT=Tahoma,]ชาวบ้านอ่วมราคาข้าวถุงจ่อพุ่ง



    นาย สมเกียรติ มรรคยาธร นายกสมาคมข้าวถุงไทย เปิดเผยถึงทิศทางราคาข้าวถุงในปี 2555 ว่า ยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้น แต่การขึ้นจะเป็นลักษณะทยอยปรับราคามากกว่า โดยจะไม่ขึ้นรุนแรง เนื่องจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลไม่ได้มีผลต่อราคาข้าวเปลือกในตลาด ปรับตัวขึ้นรุนแรงเหมือนอย่างที่คาดการณ์กันไปก่อนหน้า และช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่เปิดโครงการจำนำ ส่งผลให้ราคาข้าวขยับสูงขึ้นไปบ้าง ราคาข้าวถุงก็ปรับขึ้นตามไปเฉลี่ย 3-5 บาทต่อถุง

    "การปรับราคาช่วงที่ผ่านมาไม่กระทบกับผู้บริโภคมากนัก เพราะว่าช่องทางการขายคือ กลุ่มห้างค้าปลีกสมัยใหม่มีการแข่งขันกันสูงมาก จึงจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้า ซึ่งข้าวถุงเป็นหนึ่งในสินค้าหลักที่ทางห้างนำมาลดราคา ด้วยการแข่งขันกันสูงขึ้นทางห้างจึงยอมที่จะดูดซับราคาข้าวที่ปรับสูงขึ้นไป ในระดับหนึ่ง โดยยินยอมที่จะลดมาร์จิ้นของตนเองลง" นายสมเกียรติกล่าว

    อย่างไรก็ตาม ราคาข้าวถุงโดยธรรมชาติมีการปรับขึ้นและลงตามราคาตลาดอยู่แล้ว หากในระยะต่อไปโครงการรับจำนำข้าวสามารถเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีผลผลักดันให้ราคาสูงขึ้นไปตามเป้าหมายของรัฐบาลได้คือ ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 15,000 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลิ 20,000 บาท ก็จะมีผลต่อราคาข้าวถุงให้ต้องปรับขึ้นไปอีกไม่ต่ำกว่า 10-20 บาทต่อถุง โดยข้าวขาวน่าจะปรับสูงขึ้นเพราะผลผลิตน้อย ส่วนข้าวหอมมะลิทรงตัว

    สำหรับสาเหตุที่ราคาข้าวเปลือกยังไม่ขยับสูงตามเป้าหมายของรัฐบาล เนื่องจากขั้นตอนการจำนำที่มีความยุ่งยาก ทำให้เกษตรกรและโรงสีไม่เข้าร่วมโครงการ อีกทั้งการจ่ายเงินมีความล่าช้า เกษตรกรที่ต้องการใช้เงินและได้รับเงินในทันทีจึงยินยอมที่จะขายข้าวให้กับ โรงสีในราคาที่ถูกกว่า แต่ได้รับเงินเร็วกว่า อย่างไรก็ตาม คงต้องรอดูอีก 2 เดือนที่เหลือของโครงการว่าทิศทางจะเป็นอย่างไร

    ด้านนายเปล่งศักดิ์ ประกาศเภสัช นายกสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจเกษตรกรไทย กล่าวว่า ปุ๋ยเป็นเพียงปัจจัยการผลิตหนึ่งในอีกหลายๆ ปัจจัยต่อผลผลิตพืช ซึ่งส่วนใหญ่ประเทศไทยยังต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศเป็นหลัก ที่ผ่านมาราคาปุ๋ยปรับขึ้นต่อเนื่องจากทิศทางของตลาดโลกตามปริมาณผลผลิตและ ความต้องการ การจะไปควบคุมหรือกำหนดราคาเองจึงทำได้ยาก และแนวโน้มในระยะยาวก็ยังคงสูงขึ้นตามความต้องการของโลก ทั้งนี้ ภาคเกษตรของไทยใช้ปุ๋ยปีละ 175 ล้านตัน ซึ่งราคาในขณะนี้เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านถือว่าต่ำกว่ามาก เช่นที่ สปป.ลาว และเขมร ราคาปุ๋ยสูงกว่าในประเทศไทยกว่า 20% จึงมีการส่งออกปุ๋ยจากไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้านปีละกว่า 5.4 ล้านตัน กลายเป็นว่าในไทยมีการกดราคาปุ๋ยให้ต่ำลงเพื่อไปเลี้ยงประเทศเพื่อนบ้านด้วย
    [/FONT]


    -http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURObFkyOHdNVEF5TURFMU5RPT0=&sectionid=TURNd05RPT0=&day=TWpBeE1pMHdNUzB3TWc9PQ==-

    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    สมเด็จพระเทพฯ พระราชทานพรปีใหม่ 2555
    <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
    </td> <td class="date" align="left" valign="middle">25 ธันวาคม 2554 22:03 น.</td></tr></tbody></table>

    [​IMG]


    [​IMG] “กระต่ายน้อยลอยคอตามน้ำไหล ไดอารี่ไม่มีให้ดังแต่ก่อน
    ยามยากมีแต่สมุดคำอวยพร แสดงความอาทรเอื้ออนันต์
    ปีมะโรงผ่านพ้นอุปสรรค จงประสบสิ่งดีนักสุขครบสรรพ์
    ของูใหญ่ให้ลาภเราทุกวัน รื่นเริงกันเริ่มศกใหม่พร้อมชัยเอย”



    [​IMG]


    พร้อมกันนี้พระราชทานภาพฝีพระหัตถ์พญานาค 2 ตัวกำลังว่ายอยู่บนผิวน้ำ

    นอกจากนี้ มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ได้จัดทำสมุดบันทึกลายพญานาค ภาพฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี


    สมุดบันทึกดังกล่าว มี 208 หน้า แบ่งเป็น2 ขนาด เล่มเล็ก 8.5 x 12 เซนติเมตร เล่มใหญ่ 12 x 17 เซนติเมตร ปก 4 สี หุ้มแลคซีน ปั๊มฟอยล์สี ลายพญานาค ภาพฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมลายพระหัตถ์พระราชทานพรปีใหม่
    โดยสมุดบันทึกทั้งสองเล่มนี้ บรรจุในกล่องลายลูกฟูก จำหน่ายในราคาชุดละ 240 บาท ติดต่อสั่งซื้อได้ที่

    มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า วังสระปทุม (โทร. 0-2252-9137 ,0-2251-3999ต่อ 201 , 202 โทร สาร 0 -2257-0941) มีจำหน่ายที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป ร้านนายอินทร์ทุกสาขา และที่กองราชเลขานุการในพระองค์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รายได้สมทบทุนการดำเนินงานของพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสา -อัยยิกาเจ้า และกิจกรรมสาธารณประโยชน์ต่างๆ ของมูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า


    -http://www.manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9540000163315-


    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    .

    เรียน พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ และท่านสมาชิกชมรมพระวังหน้าทุกๆท่าน

    ท่านใดว่าง พบกันวันเสาร์ที่ 7 มกราคม 2555 ประมาณ 8.30 น. ด้านหน้าที่วังหน้าครับ


    .
    </td> </tr> </tbody></table>

    *__________________*__________________*
    *__________________*__________________*


    สำหรับท่านสมาชิกชมรมพระวังหน้า ไปพบกันวันเสาร์ที่ 7 มกราคม 2555 ในวันที่จะเข้าไปกราบพระกันที่วังหน้า

    ผมมีพระพิมพ์หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง และ พิมพ์หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ แจก

    [​IMG]


    [​IMG]



    ผมเองมีน้อย หมดแล้วก็เลิกแจกครับ


    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มกราคม 2012
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    [​IMG]

    พิมพ์หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง

    หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า และ หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง อธิษฐานจิต


    (หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้าครับ)

    [​IMG]



    พิมพ์หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์


    หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า อธิษฐานจิต



    ทั้งสองพิมพ์ ต้นฉบับจริงๆ คือ พิมพ์ของวังหน้าครับ



    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    .


    [​IMG]

    พิมพ์หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง

    หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า และ หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง อธิษฐานจิต


    (หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้าครับ)

    [​IMG]



    พิมพ์หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์


    หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า อธิษฐานจิต



    ทั้งสองพิมพ์ ต้นฉบับจริงๆ คือ พิมพ์ของวังหน้าครับ



    .
    </td> </tr> </tbody></table>

    ยังมีพิมพ์ต่างๆอีกมากมายหลายพิมพ์เป็นอย่างมาก ที่ต้นฉบับจริงๆ มาจากวังหน้า

    ยังมีพิมพ์ของวังหน้าบางพิมพ์ ที่เป็นพิมพ์โบราณ บางพิมพ์มาจากสุโขทัย บางพิมพ์มาจากกำแพงเพชร ฯลฯ



    .
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    ยังมีเรื่องราวที่หากได้ยิน ได้ฟัง ในบางเรื่อง ก็อาจจะตกตะลึง


    ซึ่งผู้อ่าน อ่านแล้ว อาจจะมีเป็นจำนวนมาก (คิด)เห็น(เอง)ว่า คงเป็นไปไม่ได้


    แต่ผมจะบอกว่า นั่นเป็นความ(คิด)เห็น(เอง)ของท่าน


    แต่ก็ยังมีผู้ที่เชื่อในข้อมูล รีบตามหา รีบไขว่ขว้า ต้องการที่จะได้ สัก 1 องค์ก็พอ


    เช่น มีบางรุ่น มวลสารในการใช้สร้างพระรุ่นนั้น เป็นชนวนที่เหลือจากการหล่อองค์พระพุทธชินราช (ที่ตามเรื่องราวการสร้างแจ้งว่า ส่วนที่เหลือสร้างเป็นองค์พระเหลือทั้งหมด) เรื่องนี้ ผู้อ่านจะเชื่อหรือไม่ ไม่สำคัญ สำคัญที่ผู้เชื่อตามหากันมาก ปัจจุบันผมไม่เคยพบเห็นและพบเจออีกเลยครับ




    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    .


    ยังมีเรื่องราวที่หากได้ยิน ได้ฟัง ในบางเรื่อง ก็อาจจะตกตะลึง


    ซึ่งผู้อ่าน อ่านแล้ว อาจจะมีเป็นจำนวนมาก (คิด)เห็น(เอง)ว่า คงเป็นไปไม่ได้


    แต่ผมจะบอกว่า นั่นเป็นความ(คิด)เห็น(เอง)ของท่าน


    แต่ก็ยังมีผู้ที่เชื่อในข้อมูล รีบตามหา รีบไขว่ขว้า ต้องการที่จะได้ สัก 1 องค์ก็พอ


    เช่น มีบางรุ่น มวลสารในการใช้สร้างพระรุ่นนั้น เป็นชนวนที่เหลือจากการหล่อองค์พระพุทธชินราช (ที่ตามเรื่องราวการสร้างแจ้งว่า ส่วนที่เหลือสร้างเป็นองค์พระเหลือทั้งหมด) เรื่องนี้ ผู้อ่านจะเชื่อหรือไม่ ไม่สำคัญ สำคัญที่ผู้เชื่อตามหากันมาก ปัจจุบันผมไม่เคยพบเห็นและพบเจออีกเลยครับ




    .
    </td> </tr> </tbody></table>
    .


    ยังมีเรื่องราวอีกมากมาย ที่ผมเองได้ทราบ ได้เรียนรู้มาจากครูบาอาจารย์ ยังไม่เคยโพสลงบอร์ดเลยก็มีมากเรื่อง

    แต่มาย้ำครับว่า ผมเสกพระไม่เป็น หรือ ผมอธิษฐานจิตพระเครื่องต่างๆไม่เป็น

    ผมแจ้งแล้วน๊ะครับ ถ้าหากว่า อ่านในกระทู้พระวังหน้าฯนี้ แล้วไปหลงเชื่อ ก็ช่วยไม่ได้ โง่เองครับ


    .
     
  8. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    โอ้โห แบบนี้ต้องรีบขอฝากเนื้อฝากตัวเรียนวิชาจากท่านอาจารย์หนุ่มเสียแล้วละครับ เดียวจะไม่ทันคนอื่น
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ปฐม [​IMG]
    โอ้โห แบบนี้ต้องรีบขอฝากเนื้อฝากตัวเรียนวิชาจากท่านอาจารย์หนุ่มเสียแล้วละครับ เดียวจะไม่ทันคนอื่น
    </td> </tr> </tbody></table>

    วิชาดูพระก็พอได้

    ดูว่า เป็นพระ หรือเป็นเณร

    พอบอกได้ว่า องค์ไหน รูปไหน เป็นพระ หรือ เป็นเณร

    แต่ถ้าวิชานี้ดูง่้าย ดูว่าเป็นพระ หรือเป็นแม่ชี

    บอกได้ง่ายหน่อย อิอิ

    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  11. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    ผมเลือก พิมพ์หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ครับ อนุโมทนาบุญทุกประการครับ
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    โพลเผย ปาร์ค จี ซอง ซิวนักกีฬาแห่งปีของเกาหลีใต้


    [​IMG]


    โพลเผย ปาร์ค จี ซอง ซิวนักกีฬาแห่งปี (ไอเอ็นเอ็น)

    ผลการสุ่มสำรวจทั่วประเทศเกาหลีใต้ปรากฏว่า ปาร์ค จี ซอง กองกลางแมนฯ ยูไนเต็ด ได้รับเลือกให้เป็นนักกีฬาแห่งปี ประจำปี 2554 ศูนย์แกลลัพโคเรีย สอบถามความเห็นคนเกาหลีใต้อายุ 13 ปีขึ้นไปจำนวน 1,728 คน ระหว่างวันที่ 18 พฤศจิกายน - 6 ธันวาคม พบว่า

    [​IMG] อันดับ 1 ร้อยละ 57.6 เลือก ปาร์ค จี ซอง เป็นสุดยอดนักกีฬาแห่งปีครั้งแรกในรอบ 6 ปี ส่วน

    [​IMG] อันดับ 2 ร้อยละ 55.9 เป็นของ คิม ยู นา นักสเก็ตน้ำแข็งสาวสวย ที่ตามมาติด ๆ หลังเคยครองอันดับหนึ่ง ปี 2550 - 2552 และเมื่อปีที่แล้วอยู่อันดับสอง อีกทั้ง คิม ยู นา เป็นนักกีฬาหญิงเพียงคนเดียวใน 10 อันดับนักกีฬาแห่งปี

    [​IMG] อันดับ 3 ร้อยละ 26 เลือก ปาร์ค แต ฮวาน นักกีฬาว่ายน้ำแชมป์โลกที่ครองอับดับหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว

    ส่วนนักกีฬาเกาหลีใต้คนอื่น ๆ ที่ติดอันดับได้แก่ ลี แท โฮ นักเบสบอล ครองอันดับ 4 ที่ร้อยละ 6.5 , ปาร์ค จู ยอง ที่ย้ายมาอาร์เซนอล ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปีนี้รั้งอันดับที่ห้า

    สำหรับ ปาร์ค จี ซอง วัย 30 ปี เจ้าของตำแหน่งนักกีฬาแห่งปีคนล่าสุด มีส่วนช่วยให้เกาหลีใต้ คว้าอันดับที่สาม ในฟุตบอลเอเชียนคัพ ที่กาตาร์ เมื่อเดือนมกราคม และทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ได้ฉลองถ้วยแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษ สมัยที่ 19 มากที่สุดในประวัติศาสตร์



    ไอ.เอ็น.เอ็น.

    [​IMG]


    -http://hilight.kapook.com/view/66053-

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • gaioavdb.jpg
      gaioavdb.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.4 KB
      เปิดดู:
      192
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    [FONT=Tahoma,]ไขปริศนาอภิมหาข่าวลือ สิ้นปี "55โลกแตก(อีกแล้ว!?)



    [​IMG]ขึ้น ปีใหม่ทีไร ไม่ว่ามนุษย์ในพื้นที่ทวีปใดของโลกเชื่อว่าล้วนแล้วแต่หนีไม่พ้น ′ข่าวลือ′ สารพัดเรื่องเกี่ยวกับวันโลกแตก วันโลกาวินาศ วันสิ้นโลก วันมหาวินาศ อภิมหาเหตุร้าย-ภัยธรรมชาตินอกเหนือความคาดหมาย ฯลฯ ทั้งเรื่องที่พอมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์รองรับ หรือบางทีก็มั่วนิ่ม แต่งนิยายขึ้นมาดื้อๆ

    วันนี้ ′ข่าวสดหลาก&หลาย′ รวบรวมข้อมูลจากผู้รู้ ได้แก่ ′วิมุติ วสะหลาย′ แห่งสมาคมดาราศาสตร์ไทยมาไขปริศนาความหวาดหวั่นวันโลกแตก ค.ศ.2012 (พ.ศ.2555) รวมหาคำตอบถึงประเด็น ′คำทำนายเด็กชายปลาบู่ กรณีเขื่อนภูมิพลแตก′ ซึ่งร้อนแรงเละเทะดีเหลือเกินในโลกไซเบอร์ จนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยต้องเสียเวลาอธิบายขนานใหญ่!



    1.ปฏิทินมายาทำนายว่า ปีค.ศ.2012 เป็นวาระสุดท้ายของโลก?

    ปฏิทิน มายามีหลายแบบ แบบหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับปีค.ศ.2012 คือแบบที่เรียกกันว่า ปฏิทินรอบยาว (long count) ระบุวันด้วยชุดของตัวเลข ตัวเลขชุดนี้แทนวันที่ได้ยาวนาน 5,126 ปี เทียบกับวันที่ตามระบบปฏิทินสากลตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 3114 ปีก่อนคริสตกาลไปจนสุดจำนวนเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ.2012

    การสิ้นสุดของตัวเลขปฏิทินมายา หรือการครบจำนวนสูงสุดที่กำหนดไว้ในระบบนับวันระบบใดระบบหนึ่ง จะแสดงถึงการสิ้นสุดของโลกเชียวหรือ

    คอมพิวเตอร์ สมัยก่อนก็มีระบบปฏิทินในตัวเครื่องที่แสดงวันเดือนปีได้จนถึงสิ้น ค.ศ. 1999 อันเป็นที่รู้จักกันในนามของปัญหา Y2K แต่เมื่อสิ้นสุด ค.ศ.1999 โลกก็ไม่ได้แตกระบบนับวันของคอมพิว เตอร์

    ระบบบอกพิกัดจีพีเอสก็มี ระบบนับสัปดาห์เป็นของตัวเอง ซึ่งตัวเลขจะสุดจำนวนที่วันที่ 21 สิงหาคม 2542 ทำนองเดียวกับ Y2K ของคอมพิวเตอร์ แต่เมื่อสิ้นวันที่ 21 สิงหาคม 2542 โลกก็ไม่ได้แตกตามระบบจีพีเอส

    ทำนองเดียวกัน โลกก็จะไม่แตกสลายเพราะว่าสุดตัวเลขปฏิทินมายาหลังวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ.2012 ปฏิทินมายาก็จะเริ่มนับรอบใหม่



    2.ดาวนิบิรุ กับ Planet X เป็นดวงเดียวกันหรือไม่?

    บทความ หรือทฤษฎีที่เกี่ยวกับโลกแตกปี 2012 มักกล่าวว่า ′นิบิรุ′ และ ดาวเคราะห์เอ็กซ์ (Planet X) เป็นวัตถุดวงเดียวกัน แต่ความจริงต่างกันโดยสิ้นเชิง

    ดาวเคราะห์เอ็กซ์เป็นดาวเคราะห์ที่ยังหาไม่พบ แต่เชื่อว่ามีจริงและมีการค้นหาอยู่ <table style="BORDER-RIGHT: #FFFFFF 1px dotted; BORDER-LEFT: #FFFFFF 1px dotted;BORDER-TOP: #FFFFFF 1px dotted;BORDER-BOTTOM: #FFFFFF 1px dotted;" align="right" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="360"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="#ffe9ff" valign="top">[​IMG]</td></tr></tbody></table>

    ส่วน ดาวนิบิรุ เป็นดาวในตำนานที่ยังขาดหลักฐานที่ดีพอที่จะบอกได้ว่ามีอยู่จริง ว่ากันว่าเป็นดาวตามทฤษฎีของ ′เซชาเรีย ซิตชิน′ ซึ่งอ้างว่าถอดความมาจากจารึกของชาวสุเมเรียน ทฤษฎีนี้กล่าวว่าดาวนิบิรุเป็นดาวที่มีสิ่งมีชีวิตที่มีอารย ธรรมอาศัยอยู่และเคยมาเยือนโลกเมื่อนานมาแล้ว

    แม้เรื่องดาวนิบิรุ จะได้รับความนิยมในหมู่ผู้ชื่นชอบเรื่องลึกลับ เรื่องจานบิน เรื่องมนุษย์ต่างดาว แต่เนื่องจากทฤษฎีนี้มีหลักฐานอ่อนมาก และตั้งอยู่บนจินตนาการมากกว่าเหตุผล เรื่องนี้จึงไม่ได้รับการยอมรับในวงกว้างในวงการวิทยาศาสตร์รวมถึงนัก วิชาการด้านสุเมเรียนด้วย



    3.Planet X (ดาวเคราะห์เอ็กซ์) เป็นดาวเคราะห์ล้างโลกจริงหรือ?

    ดาวเคราะห์แต่ละดวงมีวงโคจรของตัวเอง มีรัศมีวงโคจรต่างกัน

    วงโคจรมีเสถียรภาพดี ไม่ใช่สิ่งที่จะมาชนกันได้ง่ายๆ

    ตาม ความรู้และข้อมูลที่นักวิทยาศาสตร์มีอยู่ เชื่อว่าหากมีการค้นพบดาวเคราะห์ดวงใหม่ในระบบสุริยะจริง (ซึ่งจะได้ชื่อว่าเป็นดาวเคราะห์เอ็กซ์) ดาวเคราะห์ดวงนี้ก็น่าจะอยู่พ้นวงโคจรของดาวเนปจูนออกไปอีก

    แล้วดาวเคราะห์ที่มีวงโคจรใหญ่โตอยู่ไกลปืนเที่ยงขนาดนั้นจะมาชนโลกได้อย่างไร

    ดาวเคราะห์เอ็กซ์คือสิ่งที่นักดารา ศาสตร์ถวิลหา

    และการค้นพบจะเป็นข่าวน่ายินดี

    หากวันหนึ่งคุณเห็นข่าวพาดหัวว่าค้นพบดาวเคราะห์เอ็กซ์แล้ว ก็อย่าไปแตกตื่นให้อายใครเขา



    4.ปี 2012 ดวงอาทิตย์จะเกิดซูเปอร์แฟลร์ ส่งผลถึงขั้นทำอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตบนโลก?

    ไม่ จริง, ซูเปอร์แฟลร์เป็นปรากฏการณ์คล้ายกับแฟลร์ (การลุกจ้า) บนดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดพายุสุริยะ แต่ซูเปอร์แฟลร์รุนแรงมากกว่าแฟลร์ปกติหลายเท่า นักดาราศาสตร์พบการเกิด ซูเปอร์แฟลร์มาแล้วในดาวฤกษ์ดวงอื่น ความรุนแรงของซูเปอร์แฟลร์ที่พบนั้น หากเกิดขึ้นบนดวงอาทิตย์จะรุนแรงถึงขั้นทำลายบรรยากาศของโลก ทำลายระบบนิเวศบนโลกจนถึงขั้นเกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ทีเดียว

    อย่าง ไรก็ตาม ไม่มีหลักฐานว่าเคยเกิดซูเปอร์แฟลร์ขึ้นบนดวงอาทิตย์ หรือในระบบสุริยะของเรามาก่อน และนักดาราศาสตร์ไม่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ นี้เพราะ ซูเปอร์แฟลร์จะเกิดในระบบที่มีวัตถุสนามแม่เหล็กเข้มข้นอยู่ใกล้กัน เช่น มีดาวเคราะห์ยักษ์แบบดาวพฤหัสบดี หรือใหญ่กว่าโคจรอยู่ใกล้ดาวฤกษ์ <table style="BORDER-RIGHT: #FFFFFF 1px dotted; BORDER-LEFT: #FFFFFF 1px dotted;BORDER-TOP: #FFFFFF 1px dotted;BORDER-BOTTOM: #FFFFFF 1px dotted;" align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="360"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="#ffffe8" valign="top">[​IMG]</td></tr></tbody></table>

    แต่ ระบบสุริยะของเราไม่มีลักษณะเช่นนั้น แม้ดาวพฤหัสบดีจะมีสนามแม่เหล็กเข้มข้น แต่ก็อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์มาก ส่วนดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ก็มีสนามแม่เหล็กอ่อนเกินกว่าจะทำให้ เกิดซูเปอร์แฟลร์ได้



    5. วันที่ 21 ธ.ค. 2012 ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะจะเรียงเป็นแนวเดียวกัน?

    ไม่จริง, วันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ.2012 ดาวเคราะห์แต่ละดวงอยู่กันคนละทิศคนละทาง ไม่ได้เรียงกันเป็นเส้นตรง และไม่ได้ใกล้เคียงด้วย

    เรื่อง ที่ควรทราบอย่างหนึ่งคือ ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะไม่มีวันเรียงเป็นแนวเดียวกัน ความเป็นไปได้อย่างมากก็แค่ใกล้เคียงเท่านั้น แต่แม้จะสมมติว่ามีวันที่ดาวเคราะห์ทั้งหมดมาเรียงเป็นแนวเดียวกันจริงก็ไม่ ต้องห่วงว่า ′แรงดึงดูด′ ของดาวเคราะห์แต่ละดวงจะส่งผลร้ายแรงใดๆ ต่อโลก



    6.ปี 2012 จะเกิดปรากฏการณ์ pole shift จริงหรือ?

    Pole shift (โพลชิฟต์) คือการเลื่อนขั้วแกนหมุนของโลก ทำให้ขั้วเหนือและใต้ของโลกเปลี่ยนตำแหน่งไป เกิดขึ้นจากการที่สัณฐานของโลกไม่กลมสมบูรณ์

    ปรากฏการณ์นี้เชื่อว่าเคยเกิดขึ้นจริงกับโลก รวมถึงดาวเคราะห์และดวงจันทร์ของดาวเคราะห์ดวงอื่นด้วย

    ไม่ มีหลักฐานใดที่บ่งชี้ว่าจะเกิดปรากฏการณ์นี้ในปี 2012 และแม้จะเกิดก็จะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตเนื่องจากการเลื่อนนี้เกิดขึ้นในอัตรา ที่เชื่องช้ามาก

    ความไม่แน่นอนของขั้วโลกยังมีอีกหลายแบบ เช่น ขั้วแม่เหล็กโลกเลื่อนตำแหน่ง การเปลี่ยนตำแหน่งของขั้วอันเกิดจากการเลื่อนของแผ่นทวีป การเปลี่ยนตำแหน่งของดาวเหนืออันเกิดจากการส่ายของขั้วโลก แต่การเปลี่ยนแปลงจากสาเหตุเหล่านี้มีชื่อเรียกอย่างอื่น ไม่ได้เรียกว่า pole shift



    7. ปี 2012 สนามแม่เหล็กโลกจะเปลี่ยนตำแหน่งจริงหรือ?

    จริง แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ และไม่ใช่กำลังจะเกิดในค.ศ.2012 หากแต่เกิดขึ้นตลอดเวลา แม้แต่ตอนนี้ก็เกิด

    นัก วิทยาศาสตร์ทราบว่าขั้วแม่เหล็กโลก ′เคลื่อนที่′ ตั้งแต่ที่ค้นพบขั้วเหนือแม่เหล็กโลกเมื่อกว่าศตวรรษก่อนแล้ว การเคลื่อนที่นี้เกิดขึ้นอย่างช้าๆ ด้วยอัตราเฉลี่ยประมาณ 1 องศาต่อ 1 ล้านปี หรืออาจเร็วกว่านั้น

    การสำรวจในช่วงไม่กี่ปีมาพบว่า ขั้วเหนือแม่เหล็กโลกเคลื่อนที่เร็วขึ้น แต่ความเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าโลกใกล้จะสลับขั้วหรือกำลังวิปริต เพราะอัตราการเคลื่อนที่มีขึ้นมีลงอยู่เสมอ



    8.′ด.ช.ปลาบู่′ทำนายเขื่อนภูมิพลพัง

    การ ไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ยืนยันว่าเขื่อนภูมิพลมีความมั่นคงแข็งแรง และปลอดภัย เนื่องจากเขื่อนภูมิพลถูกออกแบบให้ทนต่อการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้ถึง 7.5 ริกเตอร์ โดยที่เขื่อนไม่ได้ตั้งอยู่ในแนวรอยเลื่อนหลักที่จะเกิดแผ่นดินไหว และปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนลดลงอย่างต่อเนื่อง

    เหตุผลหลักที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง-ปลอดภัยของตัวเขื่อนมี 3 ประการ ได้แก่

    1. เรื่องแผ่นดินไหว

    2. เรื่องปริมาณน้ำมากหรือน้ำหลาก

    3. การก่อวินาศกรรม

    เหตุผล ประการแรก เรื่องแผ่นดินไหว เขื่อนภูมิพลเป็นเขื่อนคอนกรีตโค้งขนาดใหญ่ที่ออกแบบ และก่อสร้างให้มีความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล โดยบริษัทผู้ออกแบบและก่อสร้างเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ สูง เป็นบริษัทเดียวกันกับที่สร้าง ′เขื่อนฮูเวอร์′ ของสหรัฐ ฉะนั้น จึงมีความมั่นใจได้ในเรื่องเทคโนโลยีการก่อสร้างที่แข็งแรง ส่วนทำเลที่ใช้วางตัวเขื่อนก็เหมาะสมกับสภาพทางธรณีฐานรากและแรงกระทำจาก แผ่นดินไหว

    ประการที่ 2 เรื่องปริมาณน้ำมากหรือน้ำหลาก เขื่อนภูมิพลออกแบบให้สามารถรับน้ำได้เต็มพิกัดที่ 100 เปอร์เซ็นต์

    ที่ ผ่านมาเขื่อนภูมิพลผ่านการเก็บกักน้ำที่ระดับสูงสุดและน้ำหลากถึง 4 ครั้ง ในปี 2518, 2545, 2549 รวมทั้งในปี 2554 นี้ เก็บกักอยู่ที่ระดับ 99-100 เปอร์เซ็นต์ เป็นเวลายาวนานติดต่อกันมากกว่า 2 เดือน และจากการคำนวณคาดการณ์วันที่ 31 ธ.ค. 2554 ระดับน้ำจะลดลงอยู่ประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ของระดับกักเก็บสูงสุด ดังนั้น แรงกดดันของน้ำที่กระทำต่อตัวเขื่อนก็จะลดลง

    ประการที่ 3 การก่อวินาศกรรม เขื่อนภูมิพลปฏิบัติตาม พ.ร.บ.รักษาความปลอดภัยแห่งชาติปี 2552 โดยมีแผนรองรับตามระดับความรุนแรงของเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง

    ดัง นั้น หากพิจารณาด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ จึงมีโอกาสน้อยมากที่เขื่อนจะพัง ขอวิงวอนให้พี่น้องประชาชนมั่นใจในความแข็งแรงของเขื่อนภูมิพล อย่าได้วิตกกังวลตามกระแสข่าวลือ ซึ่งข่าวลือประเภทนี้เคยมีมาแล้วหลายครั้ง แต่เขื่อนก็ยังทำหน้าที่ของเขื่อนได้ดีเช่นเดิม
    [/FONT]


    -http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dNVEF6TURFMU5RPT0=&sectionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1pMHdNUzB3TXc9PQ==-

    .
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    อ่วม! เบี้ยประกันน้ำท่วมพุ่งเท่าตัวโยนลูกค้ารับกรรมค่าใช้จ่ายบานฉ่ำ

    วันอังคารที่ 3 มกราคม 2555 เวลา 00:00 น.


    [​IMG]






    “ประกันภัย” นับเป็นหนึ่งธุรกิจที่ถูก ’ภัยธรรมชาติ” พลิกผัน “วิถีการดำเนินธุรกิจ” แทบสิ้นเชิง หลังจากพบว่าภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั่วโลกตลอดปี 54 ได้สร้างสถิติมูลค่าความเสียหายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 350,000 ล้านดอลลาร์ โดยเหตุการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่นสร้างความเสียหายมากที่สุด รองลงมาคือ แผ่นดินไหวที่นิวซีแลนด์ เฮอริเคนไอรีนพัดถล่มสหรัฐ และมหาอุทกภัยครั้งใหญ่ในไทย!!

    ที่สำคัญ นับวันแนวโน้มการเกิดภัยธรรมชาติมีสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้อุตสาหกรรมการผลิตต้องหยุดชะงัก ซัพพลายเชนถูกตัดขาด สร้างความเสียหายรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลก และแน่นอนว่า ธุรกิจประกันภัยอ่วมอรทัยไปตาม ๆ กัน จากที่ต้องแบกรับความสูญเสียเหล่านี้ รวมทั้งต้องเก็บค่าเบี้ยประกันภัยด้านภัยพิบัติทั่วโลกสูงขึ้นตามไปด้วย

    กลับมาดูเฉพาะมหาอุทกภัยในไทย ที่รมว.คลัง ’ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล” ยอมรับว่า ธนาคารโลกได้ประเมินความเสียหายทางทรัพย์สินที่เกิดขึ้นถึง 640,000 ล้านบาท แต่กรณีที่เป็นบริษัทนั้น ธุรกิจส่วนใหญ่จะได้รับคืนเป็นค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย ขณะที่ความเสียหายด้านการผลิตสูงถึง 710,000 ล้านบาท ส่งผลให้จีดีพีปี 54 หายไป 2% หรือเป็นเงิน 200,000 ล้านบาท

    จากข้อมูลสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จนถึงวันที่ 15 พ.ย.54 พบว่าวิกฤติน้ำท่วมครั้งนี้ส่งผลกระทบถึง 63 จังหวัด 651 อำเภอ มีผู้เสียชีวิต 427 ราย สูญหาย 2 ราย สร้างความเสียหายต่อครัวเรือนถึง 3.16 ล้านครัวเรือน กระทบต่อประชาชนกว่า 9 ล้านคน

    พร้อมกันนี้ ได้ประเมินความเสียหายเบื้องต้นคร่าว ๆ ในด้านอุตสาหกรรม มีทุนประกัน 688,926 ล้านบาท เสียหาย 138,000-200,000 ล้านบาท ภาคครัวเรือนมีทุนประกัน 56,472 ล้านบาท เสียหาย 11,000-16,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็น รถยนต์ บ้าน ร้านค้าพาณิชย์ เมื่อรวมทั้งภาคอุตสาหกรรม ภาคครัวเรือนแล้ว มีทุนประกันรวม 745,398 ล้านบาท เสียหาย 149,000-216,000 ล้านบาท

    จึงไม่น่าแปลกใจที่ภาคครัวเรือนแทบทุกบ้าน ตื่นตัวในเรื่องการทำประกันภัยน้ำท่วมเต็มที่ หลังจากที่ผ่านมาคนไทยไม่ค่อยให้ความสำคัญ โดยดูจากความเสี่ยงแล้วจะเน้นเฉพาะการทำประกันอัคคีภัยเป็นหลัก แต่จากนี้ไป เมื่อข้อมูลข่าวสารจากทั่วสารทิศระบุว่า น้ำท่วมอาจเกิดขึ้นอีกและเกิดขึ้นบ่อยครั้งใน 1-2 ปีข้างหน้า จากเดิมที่เป็นช่วง 10 หรือ 50 ปี

    แต่สถานการณ์ของธุรกิจประกันภัยไทยขณะนี้ ยังถือว่าลูกผีลูกคน เมื่อการรับประกันภัยต่อ (รีอินชัวร์เรอร์) ทำท่าว่าจะไม่รับงานประกันภัยน้ำท่วมรวมถึงภัยธรรมชาติอื่น ๆ จากไทยไว้ก่อน เพราะไม่มั่นใจกับรัฐบาลไทยในการบริหารจัดการน้ำ!!

    ต่างชาติส่งสัญญาณชัดเจนขนาดนี้ทำใจได้ว่า แม้สุดท้ายได้ต่อสัญญาให้ แต่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัวไปอีกไม่น้อยกว่า 2 ปี จากปัจจุบันแน่
    แม้ว่าการทำประกันอัคคีภัยอาจรับประกันโดยคิดค่าเบี้ยประกันเท่าเดิม แต่ภัยธรรมชาติอื่น คงต้องแยกสัญญาแนบท้ายกันออกไปแต่ละภัยเลยทีเดียวและนี่อาจยังไม่รวม เงื่อนไขจุกจิกแนบท้ายสัญญาอีกมากมาย

    จากปกติแล้ว วิถีการทำธุรกิจประกันภัยในไทยนั้น ที่ผ่านมาส่วนใหญ่มักเสนอให้ทำประกันคุ้มครองทุกภัย เช่น บ้านราคา 1 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยจะอยู่ที่ปีละ 2,000 บาทเท่านั้น ถือว่าต่ำมาก แต่จากนี้ไป บริษัทประกันภัยคงไม่ทำตลาดคุ้มครองทุกภัยรวมกันในสัญญาเดียว แต่จะแยกเป็นรายสัญญา เช่น ประกันอัคคีภัย ประกันภัยน้ำท่วม ประกันภัยลมพายุ รวมทั้งราคาแพงขึ้นเท่าตัวตามที่รีอินชัวร์เรอร์จะรับประกันภัยต่อ

    และนี่จะกลายเป็นข้ออ้างหลังของบริษัทประกันภัยไทย เพื่อผลักภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นนี้ไปให้ลูกค้ารับภาระแบบจัดเต็ม!!

    แม้ว่าทีมงานจากรัฐบาลไทย นำโดย ’วีรพงษ์ รามางกูร” เป็นแม่ทัพใหญ่ นำภาคประกันภัยเดินสายแจงบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างชาติทั้งในอังกฤษ-ญี่ปุ่น ให้เข้าใจสถานการณ์ แต่ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าจะต่อสัญญาให้ ท้ายที่สุด หากต่อสัญญา ยังไงก็ต้องควักเงินจ่ายค่าเบี้ยประกันที่แพงขึ้นกว่าเดิมแน่

    แม้รัฐบาลจะตั้งกองทุนมหันตภัย 50,000 ล้านบาท เพื่อเตรียมรับมือกับการที่รีอินชัวร์รันต์ไม่รับประกันภัย และต้องเสียค่าเบี้ยประกันแพงขึ้น แต่นี่ยังไม่ทำให้เอกชนมั่นใจ

    ขณะที่การปรับตัวของผู้ประกอบการธุรกิจประกันภัยไทยในปีมะโรงนั้น ’จีรพันธ์ อัศวะธนกุล” กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ในฐานะนายกสมาคมประกันวินาศภัย ฟันธงว่า ธุรกิจประกันภัยน้ำท่วมจะโตแบบก้าวกระโดดเป็น 3 เท่าตัวจากปัจจุบันทั้งประกันบ้านเรือน โรงงานเอสเอ็มอี โดยเฉพาะพื้นที่เขตน้ำท่วม ค่าเบี้ยประกันจะแพงกว่าพื้นที่ที่ไม่ถูกน้ำท่วมแน่นอน

    สมาคมฯกำลังเร่งหารือกับสมาชิก เพื่อกำหนดเขตพื้นที่น้ำท่วม น้ำไม่ท่วม เพื่อกำหนดโซน แล้วคิดค่าเบี้ยประกันใหม่ออกมา ซึ่งปกติมีค่าเบี้ยขั้นต่ำสุด-สูงสุดไว้แล้ว แต่จากนี้ไปคงขยับขึ้นอีกโข

    “เบี้ยประกันภัยน้ำท่วมจะสูงขึ้น เพราะความเสี่ยงภัยธรรมชาติมีมากกว่าเดิม ซึ่งเชื่อว่าธุรกิจประกันภัยรับมือได้แต่ลูกค้าอาจได้รับผลกระทบโดยเฉพาะภาค ครัวเรือนและรายย่อยอาจรับภาระไม่ไหว เนื่องจากเบี้ยแพงขึ้นมาก ส่วนภาคอุตสาหกรรมคงไม่มีปัญหา แต่ต้องบริหารจัดการเพื่อลดความเสี่ยงในพื้นที่ให้ดีซึ่งพื้นที่อุตสาหกรรม แห่งใดที่ถูกจัดเป็นแก้มลิงหรือที่พักน้ำอาจต้องจ่ายค่าเบี้ยสูงกว่าปกติ”

    สอดคล้องกับ ’พันธ์เทพ ชัยปริญญา“ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสินไหมทดแทน บริษัท วิริยะประกันภัย ในฐานะประธานชมรมสินไหมยานยนต์ ที่ส่องกล้องประกันภัยยานยนต์ปีมะโรง ว่าจะกลับมาคึกคักไม่แพ้ปีที่ผ่านมา ประชาชนจะให้ความสำคัญในการทำประกันภัยภาคสมัครใจชั้น 1 มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ทำประกันภัยชั้น 2 และชั้น 3 อยู่ เพราะจะได้รับความคุ้มครองครบทุกกรณี แม้ว่าลูกค้าต้องควักกระเป๋าจ่ายเพิ่มขึ้นอีก 3,000-4,000 บาท แต่ถือว่าคุ้มค่า

    แต่ที่แน่ ๆ ทิศทางประกันภัยบ้านเรือนนั้น ’วชิระ ช่วยชู” รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้ากลุ่มธุรกิจ บริษัท ไทยพาณิชย์สามัคคีประกันภัย มองว่า เติบโตโชติช่วงชัชวาลมากกว่าปีที่ผ่าน ๆ มา แม้ว่าค่าเบี้ยประกันแพงขึ้น แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคทำให้ลูกค้าทำประกันลดลง เพราะเบี้ยที่จัดเก็บปัจจุบันเป็นอัตราที่ต่ำมาก

    ปี 55 นี้ค่าเบี้ยประกันภัยจะสูงขึ้น เพราะความเสียหายน้ำท่วมมีมูลค่าถึง 1 ล้านล้านบาท ขณะที่เหตุการณ์สึนามิอยู่ที่ 100,000 ล้านบาท นอกจากนี้การทำตลาดของบริษัทประกันต้องปรับเปลี่ยนเงื่อนไขใหม่ให้สอดคล้อง กับสถานการณ์ เบื้องต้นประเมินว่าอาจต้องเพิ่มเบี้ยประกันอีก 30%

    ณ วันนี้สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงทำให้เกิดภัยธรรมชาติอย่างที่ไม่คาดคิด สึนามิ น้ำท่วม และไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีแผ่นดินไหว ลมพายุอีกหรือไม่ จึงเป็นเรื่องที่ประชาชนต้องให้ความสำคัญ

    ต้องยอมรับความจริงว่า รูปแบบการรับประกันภัยธรรมชาติจะเปลี่ยนไปตามภัยพิบัติที่เกิดขึ้น โดยแยกภัยออกจากประกันภัยเดิม เพื่อให้สอดคล้องความเป็นจริงอาจทำให้ต้องจ่ายเบี้ยสูงขึ้น แต่ถ้าเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคตที่ไม่อาจคาดเดาได้ ถือว่าเป็นการซื้อปกป้องความเสี่ยงล่วงหน้าที่คุ้มค่าทีเดียว

    เมื่อผู้ทำธุรกิจประกันภัยเร่งปรับตัวเพื่อความอยู่รอดแล้ว ในแง่ของลูกค้าต้องคิดให้มากขึ้น บทเรียนที่ผ่านมาเป็นแบบทดสอบให้เห็นแล้วว่า ต้องแยกทำประกันภัยตามความเสี่ยงใดบ้าง เช่น ความคุ้มครองทรัพย์สิน ต้องสำรวจดูว่าบริเวณบ้าน หรือทำเลที่อยู่นั้นมีความเสียหายอะไรเกิดขึ้นบ้าง นอกจากอัคคีภัย ด้านความคุ้มครองต่อตัวบุคคลหรือเจ้าของบ้าน ถ้ามีความเสี่ยงต่อชีวิตและร่างกาย อาจซื้อประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันสุขภาพ ด้านความคุ้ม ครองต่อธุรกิจ อาจทำประกันความเสียหายจากการไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ เป็นต้น

    แต่เหนืออื่นใด ต้องซื้อประกันกับตัวแทน นายหน้า และบริษัทประกันภัยที่น่าเชื่อถือ มีฐานะการเงินที่ดี และสร้างความมั่นใจได้ว่าจะจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนความเสียหายให้ได้ เมื่อเกิดภัยขึ้น รวมทั้งเสียสละเวลาอ่านสัญญาให้ละเอียด ถี่ถ้วน อย่าให้กลายเป็นว่า ซื้อประกันภัยน้ำท่วมแล้ว แต่เมื่อเกิดน้ำท่วม ประกันภัยไม่จ่ายเพราะในรายละเอียดสัญญาไม่ได้ระบุถึงภัยน้ำหลาก แต่ระบุว่าน้ำที่เข้าบ้านเรานั้นเป็นน้ำหลาก ไม่ใช่น้ำท่วม มันน่าเจ็บใจกว่าการไม่ได้ทำประกันเลย...

    ไม่ว่ารูปแบบการทำประกันภัยจะเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน บริษัทประกันภัยยังคงมี ’ลูกเล่น” เยอะเหมือนเดิม!!.
    สุกัญญา สังฆธรรม / ณัฐธินี มณีวรรณ
    ..................................................................
    สถิติผลการรับประกันภัย ปี 2551-2553 สิ้นสุด ณ 30 กันยายน 2554 หน่วย : ล้านบาท
    ลำดับที่ ประเภทการรับประกันภัย 2551 2552 2553
    1อัคคีภัย (Fire) เบี้ยรับโดยตรง 7,502 7,786 7,839

    อัตราเพิ่ม (ลด) 5.7% 3.8% 0.7%

    เบี้ยฯ ถือเป็นรายได้ 5,234 5,547 5,712

    อัตราค่าสินไหมทดแทน 14.4% 18.6% 19.3%
    ..................................................
    2ทะเล (Marine) เบี้ยรับโดยตรง 4,196 3,634 4,324

    อัตราเพิ่ม (ลด) 9.7% (13.4%) 19.0%

    เบี้ยฯ ถือเป็นรายได้ 2,579 2,082 2,365

    อัตราค่าสินไหมทดแทน 23.2% 26.6% 27.3%
    ..................................................
    3รถยนต์ (Motor) เบี้ยรับโดยตรง 64,132 65,429 74,593

    อัตราเพิ่ม (ลด) 4.5% 2.0% 14.0%

    เบี้ยฯ ถือเป็นรายได้ 59,651 60,461 65,903

    อัตราค่าสินไหมทดแทน 56.3% 57.0% 58.0%
    3.1 ภาคบังคับ เบี้ยรับโดยตรง 10,735 10,928 11,175

    (Compulsory) อัตราเพิ่ม (ลด) (4.4%) 1.8% 2.3%

    เบี้ยฯ ถือเป็นรายได้ 10,430 10,335 8,953

    อัตราค่าสินไหมทดแทน 40.6% 40.6% 60.2%
    3.2 สมัครใจ เบี้ยรับโดยตรง 53,398 54,501 63,418

    (Voluntary) อัตราเพิ่ม (ลด) 6.5% 2.1% 16.4%

    เบี้ยฯ ถือเป็นรายได้ 49,222 50,126 56,950

    อัตราค่าสินไหมทดแทน 59.7% 60.4% 57.7%
    ..................................................
    4เบ็ดเตล็ด เบี้ยรับโดยตรง 30,408 33,191 38,179
    (Miscellaneous) อัตราเพิ่ม (ลด) 6.7% 9.2% 15.0%

    เบี้ยฯ ถือเป็นรายได้ 12,065 13,597 15,928

    อัตราค่าสินไหมทดแทน 47.6% 45.4% 52.5%
    ..................................................
    5รวมทั้งสิ้น (Total) เบี้ยรับโดยตรง 106,239 110,041 124,936

    อัตราเพิ่ม (ลด) 5.4% 3.6% 13.5%

    เบี้ยฯ ถือเป็นรายได้ 79,529 81,686 89,908

    อัตราค่าสินไหมทดแทน 51.2% 51.7% 53.8%
    ..................................................
    6เบี้ย (Non Motor) เบี้ยรับโดยตรง 42,106 44,611 50,343
    อัตราเพิ่ม (ลด) 6.8% 6.0% 12.9%
    เบี้ยฯ ถือเป็นรายได้ 19,878 21,225 24,005
    อัตราค่าสินไหมทดแทน (L/R) 35.7% 36.5% 42.1%




    -http://www.dailynews.co.th/businesss/5751-

    .
     
  16. TrainSSS

    TrainSSS สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +4
    ผมจะขอไปร่วมด้วยได้ไหมครับ
    เทรน
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  18. TrainSSS

    TrainSSS สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +4

    ขอความเมตตาพี่สิทธิพงษ์ ให้ความรู้แนะนำด้วยครับ

    เทรน
     
  19. TrainSSS

    TrainSSS สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +4
    ผมลืมรหัสชื่อเดิม ทางเวปไม่เห็นส่งPasswordให้ที่เมล์ จึงสมัครใหม่ครับ พอดีเครื่องที่เคยเข้าเป็นของแฟน(เขาใช้งาน) ที่ว่าเข้าไม่ได้ผมลองลงวินโดเวอร์ชั่นเก่า ก็หายครับใช้งานได้ครับ

    เทรน
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ train@sss [​IMG]
    ขอความเมตตาพี่สิทธิพงษ์ ให้ความรู้แนะนำด้วยครับ

    เทรน
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ train@sss [​IMG]
    ผมลืมรหัสชื่อเดิม ทางเวปไม่เห็นส่งPasswordให้ที่เมล์ จึงสมัครใหม่ครับ พอดีเครื่องที่เคยเข้าเป็นของแฟน(เขาใช้งาน) ที่ว่าเข้าไม่ได้ผมลองลงวินโดเวอร์ชั่นเก่า ก็หายครับใช้งานได้ครับ

    เทรน
    </td> </tr> </tbody></table>
    .

    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 23 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 19 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong, somlatri, อนัตตัง, train@sss</td></tr></tbody></table>

    .

    ผมโดนมาเยอะมาก

    มาหลายหลากรูปแบบ หนักที่สุดก็บอกว่า ผมเป็นผู้มีพระคุณบ้าง เป็นครูบาอาจารย์บ้าง พอไม่ได้ดั่งใจหวัง ก็แทงข้างหลังผมจนเหวอะหวะครับ


    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...