พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    บอกว่า ให้หยุดเพ้อฝันที่จะไปบอลโลกเถอะ

    เพียงแค่ให้พัฒนาฟุตบอลไทย ไม่ให้ลาวและกัมพูชา ตามมาทันแค่นั้นก็พอแล้ว



    -----------------------------------------------------------------------


    ไทยสุดต้านบุกพ่ายซาอุ 0-3 <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">12 พฤศจิกายน 2554 01:35 น.</td> </tr></tbody></table>

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">สินทวีชัย ออกมาตัดบอลก่อนถึงหัว โมฮัมเหม็ด นอร์</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">นิเวส ศิริวงค์ ดวลกลางอากาศกับ นาอีฟ ฮาซาซี</td> </tr> </tbody></table>
    [​IMG]


    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> </td> <td align="center" background="/images/linedot_vert.gif" valign="middle" width="1">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="right" height="1" valign="top" width="1">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/linedot_hori.gif" height="1" valign="top">[​IMG]</td> <td align="left" height="1" valign="top" width="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="body" align="center" valign="baseline">สุรี สุขะ ออกอาการเซ็งหลังจากไทยเสียประตู</td> </tr> </tbody></table>

    "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ต้านทานความแข็งแกร่งของ "เศรษฐีน้ำมัน" ซาอุดีอาระเบีย ไม่ไหวเสียสามประตูในครึ่งแรกจนพ่ายไป 0-3 ในฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสาม นัดที่ 4 กลุ่มดี เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

    ผลฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสาม กลุ่มดี
    ซาอุดิอาระเบีย 3 - 0 ไทย

    ทีมชาติไทย ซึ่งมี 4 แต้มจากสามนัดที่ผ่านมา เดินทางบุกเยือน ซาอุดิอาระเบีย ที่สนามคิง ฟาฮัด อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดียม ในกรุงริยาดห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยหวังอย่างน้อยหนึ่งแต้มเพื่อรักษาโอกาสผ่านเข้าสู่รอบต่อไป สำหรับสภาพทีมนัดนี้ "ช้างศึก" มีปัญหาตรงที่ขาด ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าตัวเก่งจากเมืองทองฯ ยูไนเต็ด จึงเป็นโอกาสของ กีรติ เขียวสมบัติ ดาวยิงจากบุรีรัมย์ พีอีเอ ยืนเป็นหัวหอกตัวเดียว ประสานทำเกมรุกร่วมกับ ดัสกร ทองเหลา เพลย์เมกเกอร์จาก "กิเลนผยอง" ที่จะคอยปั้นเกม

    เปิดฉากครึ่งแรก เจ้าถิ่นเป็นฝ่ายครองเกมดีกว่า ผ่านมาถึงนาที 8 ก็มีโอกาสลุ้นประตูก่อนจากจังหวะที่ โมฮัมหมัด อัล ชาฮูบ เปิดบอลจากกราบซ้ายเข้ามาในเขตโทษ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล นายด่านของ ไทย ออกมาตัดบอลไม่ดีปัดเข้าทาง ไทเซียร์ อัล จาสซัม โหม่งสวนแต่โชคดีหลุดเสาออกไป

    อีก 2 นาทีถัดมา ฮัสซัน ฟัลลาตาห์ เก็บตกบอลได้บนเส้นเขตโทษ ก่อนปั่นไซด์ก้อยด้วยขวา บอลโค้งกำลังจะเสียบเสา แต่ สินทวีชัย โชว์ซูเปอร์เซฟปัดทิ้งปลายมือออกหลังไป ขณะที่ ไทย พยายามทำเกมสู้เจ้าบ้าน แต่ขาดความแม่นยำในจังหวะสุดท้ายจึงยังหาโอกาสส่องประตูแบบจะแจ้งไม่ได้

    เกมผ่านมาถึงนาที 24 ซาอุดิอาระเบียมีลุ้นอีกครั้ง โมฮัมเหม็ด นอร์ กองหน้าตัวเก่งและกัปตันทีมได้บอลหน้าเขตโทษ ก่อนแตะหลบกองหลังไทย แล้วสับไกยิงด้วยซ้ายถูก สินทวีชัย ล้มตัวรับไว้ได้ อีก 4 นาทีถัดมา นอร์ ก็ได้ขึ้นโหม่งบอลจากลูกฟรีคิกหลุดกรอบประตูนิดเดียว

    เจ้าถิ่นบุกกดดันต่อเนื่อง ในนาที 34 อัล ชาฮูบ เติมเกมบุกขึ้นมาทางริมเขตโทษด้านซ้ายอีกครั้ง ก่อนเปิดบอลมาให้ นอร์ ซัดในเขตโทษ แต่หลุดเสาออกหลังเหมือนเดิม อีก 2 นาทีถัดมา ไทย เจอปัญหาเมื่อ อภิภู สุนทรพนาเวศ มีอาการบาดเจ็บถูกเปลี่ยนตัวออก พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ลงสนามมาแทน

    ไทย มีโอกาสลุ้นแบบชัดเจนครั้งแรกในนาที 41 เมื่อแนวรับของเจ้าถิ่นส่งบอลพลาดหน้าเขตโทษ กีรติ ตัดบอลได้ก่อนจ่ายให้ จักรพันธ์ แก้วพรมแก้วพรม แต่ยิงไปติดกองหลัง นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ซาอุดิอาระเบียมีโอกาสอีกครั้งจากลูกยิงของ นอร์ แต่ก็ติดบล็อกผู้เล่น ไทย เช่นกันทำให้จบเกม 45 นาทีแรกกินกันไม่ลงเสมอ 0-0

    เกมครึ่งหลัง ซาอุดิอาระเบีย ยังเป็นฝ่ายบุกมากกว่า กระทั่งเกมผ่านมาถึงนาที 59 ก็ทำประตูออกนำ 1-0 ได้สำเร็จ นอร์ วางบอลเข้าไปในเขตโทษให้คู่ขาแดนหน้าอย่าง นาอีฟ ฮาซาซี โหม่งเสาแรก สินทวีชัย พยายามป้องกันแต่ไม่สามารถปัดบอลออกมาได้

    วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือชาวเยอรมันเห็นเกมของ ไทย ไม่ดีขึ้นจึงต้องปรับเปลี่ยนทีมในนาที 68 ส่ง สุรชาติ สารีพิมพ์ แทนที่ กีรติ และ พิภพ อ่อนโม้ ลงมาแทน พิชิตพงษ์ ที่เพิ่งถูกเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งแรก

    ต่อมาอีก 2 นาทีเป็นโอกาสของ "ช้างศึก" เมื่อ พิภพ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางขวา ก่อนวางบอลไปให้ สุรชาติ วอลเลย์ในเขตโทษ แต่วางเท้าไม่ดีเหินข้ามคานไปไกล ขณะที่เจ้าถิ่นตอบโต้กลับในนาที 74 อาห์เหม็ด อัล ฟราอิดี พยายามชิพบอลหวังให้ข้ามหัว สินทวีชัย แต่นายด่านจาก ชลบุรี ยังยอดเยี่ยมปัดทิ้งออกไปอีกครั้ง

    ซาอุดิอาระเบีย ทำเกมบุกต่อเนื่องจนถึงนาที 80 ก็ขยับสกอร์หนี 2-0 ฮาซาซี ได้บอลทางริมเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจ่ายย้อนมาให้ อัล ฟราอิดี แตะหลบกองหลัง ไทย 1-2 คน แล้วซัดเต็มข้อหมดสิทต่อธิ์ที่ สินทวีชัย จะป้องกันทัน

    ต่อมานาที 87 ธีราทร บุญมาทัน ไปทำฟาวล์ นอร์ ล้มลงในกรอบ 18 หลาเสียจุดโทษ และกัปตันทีมเจ้าถิ่นก็ลุกขึ้นมาสังหารจุดโทษเองไม่พลาดให้ ซาอุดิอาระเบีย ทะยานหนี 3-0 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บผู้เล่นทั้งสองทีมมีปัญหากัน ก่อนที่ ธีราทร ถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม หลังจากนั้นกรรมการเป่านกหวีดยาวจบเกมทำให้ ไทย แพ้ไปด้วยสกอร์ดังกล่าว

    ขณะที่ผลการแข่งขันอีกคู่ของกลุ่มดี โอมาน เปิดบ้านพลิกล็อกเอาชนะ ออสเตรเลีย 1-0 โดยตารางคะแนนปัจจุบัน ออสเตรเลีย เป็นทีมนำด้วยการมี 9 แต้มจากการลงสนาม 4 นัด ตามมาด้วย ซาอุดิอาระเบีย อันดับสองมี 5 แต้ม ขณะที่ ไทย และ โอมาน มี 4 แต้มเท่ากัน แต่ ไทย ประตูได้-เสียดีกว่ารั้งที่ 3 ของกลุ่ม

    รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
    ซาอุดิอาระเบีย : วา ลีด อาลี, โอซามา เฮาซาวี, โอซามา อัล ฮาร์บี, โมฮัมเหม็ด นอร์, นาอีฟ ฮาซาซี, โมฮัมหมัด อัล ชาฮูบ, ฮัสซัน ฟัลลาตาห์, ซาอัด คารีรี, อาห์เหม็ด อัล ฟราอิดี, ไทเซียร์ อัล จาสซัม, อับดุลลา อัล ดอสซารีย์

    ไทย : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล, นิเวส ศิริวงค์, ชลทิตย์ จันทคาม, ธีราทร บุญมาทัน, จักรพันธ์ แก้วพรม, อภิภู สุนทรพนาเวศ, สุเชาว์ นุชนุ่ม, อดุล หละโสะ, ดัสกร ทองเหลา, สุรี สุขะ, กีรติ เขียวสมบัติ

    ผลฟุตบอลโลก2014 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ประจำวันที่ 11 พ.ย.
    กลุ่มเอ
    อิรัก ชนะ จีน 1-0
    จอร์แดน ชนะ สิงคโปร์ 2-0

    กลุ่มบี
    ยูเออี แพ้ เกาหลีใต้ 0-2
    คูเวต แพ้ เลบานอน 0-1

    กลุ่มซี
    ทาจิกิสถาน แพ้ ญี่ปุ่น 0-4
    อุซเบกิสถาน ชนะ เกาหลีเหนือ 1-0

    กลุ่มดี
    โอมาน ชนะ ออสเตรเลีย 1-0
    ซาอุดีอาระเบีย ชนะ ไทย 3-0

    กลุ่มอี
    บาห์เรน เสมอ อิหร่าน 1-1
    กาตาร์ ชนะ อินโดนีเซีย 4-0


    -http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9540000144364-


    ---------------------------------------------------------------------


    แข้งไทยถล่ม 4-0 เขี่ยกัมพูชาร่วงซีเกมส์ <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">11 พฤศจิกายน 2554 19:07 น.</td></tr></tbody></table>

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">รณชัย รังสิโย กัปตันทีมมีโอกาสหลุดเดี่ยวบ่อยครั้ง</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">ณธฤษภ์ ธรรมรสโสภณ (14) ทำประตูแรก</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">อรรถพงศ์ หนูพรหม ซัดเบิ้ลให้ทีม</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">กองเชียร์ทีมชาติไทย</td> </tr> </tbody></table>

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> </td> <td align="center" background="/images/linedot_vert.gif" valign="middle" width="1">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="right" height="1" valign="top" width="1">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/linedot_hori.gif" height="1" valign="top">[​IMG]</td> <td align="left" height="1" valign="top" width="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="body" align="center" valign="baseline">ทีมชาติไทย เขี่ย ทีมชาติกัมพูชาตกรอบแรกซีเกมส์ 4-0</td> </tr> </tbody></table>


    นักเตะทีมชาติไทยกู้หน้าได้สำเร็จหลังเขี่ย กัมพูชา ตกรอบซีเกมส์ ครั้งที่ 26 "อิเหนาเกมส์" เป็นทีมแรก ด้วยการถล่ม 4-0 จากการซัดเบิ้ลของ อรรถพงศ์ หนูพรหม ร่วมกับ ณธฤษภ์ ธรรมรสโสภณ และ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ เพิ่มขวัญกำลังใจก่อนดวลเจ้าภาพ อินโดนีเซีย ในวันที่ 13 พ.ย.นี้

    เมื่อเวลา 17.00 น. วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2554 ที่สนามเกโลรา บุงการ์โน หรือเสนายัน ทีมชาติไทย ลงทำศึกฟุตบอลซีเกมส์ครั้งที่ 26 ของสายเอ พบกับ ทีมชาติกัมพูชา ที่ยังไร้แต้มใน 2 นัดที่ผ่านมา โดยเกมนี้ ขุนพลช้างศึก หลังจากที่พ่ายนัดประเดิมสนามให้แก่ มาเลเซีย แชมป์เก่า 1-2 "บิ๊กกาเซ็ม"ได้สั่งพัก เฉลิมศักดิ์ แก้วสุขแท้ และ สุจริต จันทกล เนื่องจากอาการบาดเจ็บเพื่อเก็บไว้ดวลนัดเจอกับเจ้าภาพ ส่วนรายของ วีระวุฒิ กาเหย็ม ต้องถูกพักรักษาตัวอย่างน้อย 2-3 เดือนหลังถูกผู้เล่นมาเลย์เหยียบจนเอ็นข้อเท้าอักเสบ แต่ยังยึดแดนกลางวาง สารัช อยู่เย็น ปั้นเกมร่วมกับ ปกเกล้า อนันต์ ส่วนคู่หัวหอกส่ง "กัปตันแซม" ทะลวงตาข่ายกับ อดิศักดิ์ ไกรษ ด้าน อี เท ฮุน กุนซือแดมโสมของทีมชาติกัมพูชา ส่ง ซอก ริธีย์ สวมปลอกกัปตันทีมแทน ควน ลาโบลาวี ที่ติดโทษแบน

    เริ่มการแข่งขันทั้งสองทีมต่างผลัดกันเขี่ยบอลจนนาทีที่ 11 ไทยสร้างจังหวะเสียวจาก รณชัย รังสิโย ที่จิ้มบอลหน้ากรอบทว่าน้ำหนักเบาจน อัม วิเชษฐ์ นายทวารกัมพูชาอุ้มรับสบาย จากนั้นนาทีที่ 18 ขุนพลช้างศึก ได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 เมื่อ อรรถพงศ์ หนูพรหม เปิดให้ ณธฤษภ์ ธรรมรสโสภณ ผู้ที่ตีเสมอในนัดที่พ่าย "เสือเหลือง" กดซ้ายหน้าหัวกะโหลกผ่านมือ วิเชษฐ์ เสียบเสาแรกอย่างรวดเร็ว

    โอกาสลุ้นครั้งแรกของกัมพูชาในนาทีที่ 25 เมื่อ ซอก สานา หลุดเดี่ยวก่อนตะบันหน้าแข้งทว่า อุกฤษณ์ ก้มรับอย่างสบาย เกมผ่านไปครึ่งชั่วโมงไทยมีโอกาสลุ้นเพิ่มจาก "กัปตันแซม" หลุดเดี่ยวก่อนจะยิงด้วยซ้ายแต่ นายทวารกัมพูชา แอ่นอกรับได้ทัน ไทยยังเป็นฝ่ายครองบอลได้มากว่านาทีที่ 39 สารัช อยู่เย็น ได้ตะบันฟรีคิกระยะ 10 หลา ทว่าลอยโด่งข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย ทดเวลาการแข่งขันครึ่งแรก 2 นาที ไทยลุ้นฟรีคิกจาก ณธฤษภ์ ปั่นซ้ายทว่าโดนกำแพงกัมพูชาโหม่งสกัดออกมาก่อนหมดเวลาการแข่งขันครึ่งแรก ไทย นำ กัมพูชา 1-0

    เกมเข้าสู่ครึ่งหลังกัมพูชาถอด แก้ว ไซง่อน นักเตะสังกัดสมุทรสาคร เอฟซี ลีกดิวิชั่น 2 ของเมืองไทยออกแล้วส่ง ซอก เพ้ง ทำหน้าที่แทน ถัดมา 3 นาที โชอุน รับบทซัดฟรีคิกหน้ากรอบทว่าบอลโด่งเกินลุ้น นาทีที่ 57 ณธฤษภ์ ธรรมรสโสภณ เกือบเป็นฮีโร่อีกครั้งเมื่อโขกบอลพุ่งชนคานเด้งลงพื้นก่อนที่ ปกเกล้า อนันต์ จะซัดซ้ำทว่าไม่มีโอกาสเป็นประตู จากนั้น "โค้ชเหม่ง" ได้เปลี่ยน นฤพล อารมณ์สวะ ออกแล้วส่ง เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ลงสนามแทน

    นาทีที่ 66 กัมพูชา เกือบเจาะไข่แตกเมื่อ ซอก เพ้ง กระโดดสะบัดบอลจากลูกเตะมุมโชคดีที่ อุกฤษณ์ ชกออกได้ทัน จากนั้น "ช้างศึก" ได้ถอด ณธฤษภ์ ธรรมรสโสภณ ออกแล้วส่ง อดิศักดิ์ ไกรสร ทำหน้าที่แทน ก่อนที่ อดิศักดิ์ จะมีโอกาสลุยเดี่ยวซัดเต็มข้อระยะ 15 หลา ทว่าชนคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

    "ขุนพลช้างศึก" ตุนเพิ่มเป็น 2-0 ใน นาทีที่ 71 จากการเปิดของ ซีเกต หมาดปูเต๊ะ โยนให้ อรรถพงศ์ หนูพรหม ล้มตัวโหม่งพาบอลกระแทกตาข่ายอย่างรวดเร็ว ถัดมา 4 นาที ทีมชาติไทย ทิ้งห่างเป็น 3-0 จากการชิงบอลทางด้านขวาก่อนที่ อดิศักดิ์ ไกรสร จะซัดเต็มข้อหน้ากรอบแล้วชนคานกระดอนอออกมาเข้าเท้า เกริกฤทธิ์ ซัดซ้ำอย่างเฉียบคม

    ทีมชาติไทยรุกใส่กัมพูชาไม่หยุดหย่อนจนเก็บเพิ่มเป็น 4-0 เมื่อ "กัปตันแซม" พักบอลที่อกก่อนโยนบอลเข้าเท้า อรรถพงศ์ ปั่นซ้ายอย่างรวดเร็วเกินที่ วิเชษฐ์ จะต้านทัน ก่อนหมดเวลา กัมพูชา ได้จังหวะลุ้นฟรีคิกจาก แมนี อุดม อัดย้อยเกือบเป็นประตูทว่า นายทวารแดนสยาม ชกออกได้ทัน

    หมดเวลาการแข่งขันปรากฏว่า ทีมชาติไทย ชนะ ทีมชาติกัมพูชา 4-0 ส่งผลให้ทีมชาติกัมพูชาตกรอบแรกไปโดยปริยายเนื่องจากแข่งมา 3 นัดแต่ยังไร้แต้ม ส่วนทีมชาติไทยที่เก็บเพิ่มเป็น 3 แต้ม เตรียมพบก้างชิ้นโตในวันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน ด้วยการพบกับเจ้าภาพ อินโดนีเซีย เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 9

    รายชื่อ 11 คนแรกของทีมชาติไทย
    อุกฤษณ์ วงศ์มีนา, ณธฤษภ์ ธรรมรสโสภณ , อรรถพงศ์ หนูพรหม, เอกสิทธิ์ ฉาวบุตร, คมกฤช คำโสกเชือก, ธนพล อุดมลาภ, ซีเกต หมาดปูเต๊ะ, นฤพล อารมณ์สวะ, สารัช อยู่เย็น, ปกเกล้า อนันต์, รณชัย รังสิโย (กัปตันทีม)


    -http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9540000144271-

    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    แผนที่ทหารเผยกทม.16 เขต รอดน้ำท่วม <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">12 พฤศจิกายน 2554 01:58 น.</td></tr></tbody></table>

    [​IMG]



    แผนที่ของกรมแผนที่ทหาร ระบุมีมวลน้ำขนาดใหญ่พุ่งตรงเข้าหาถ.พระราม 2 อีกทั้งยังมีมวลน้ำหลายเส้นทางทั้งเล็กและใหญ่ มุ่งสู่ "นิคมบางชัน - ลาดกระบัง" อีกด้วย ส่วนกทม.ที่น้ำไม่ผ่าน โอกาสรอดสูงมาก ได้แก่เขต "บางซื่อ ดุสิต วังทองหลาง ห้วยขวาง ราชเทวี ปทุมวัน บางรัก สาทร ห้วยขวาง วัฒนา คลองเตย บางคอแหลม ยานนาวา คลองสาน พระโขนง บางนา"

    วันนี้ 12 พ.ย. เมื่อเวลา 00.05น. ทาง "เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ" ได้ระบุว่า แผนที่ของ"กรมแผนที่ทหาร "ประกอบด้วยข้อมูลจาก 2 หน่วยงาน คือ ข้อมูลเกี่ยวกับน้ำที่กำลังท่วม เป็นข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียมของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิ สารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA กับข้อมูลความสูงภูมิประเทศ และข้อมูลแผนที่กรุงเทพฯของกรมแผนที่ทหาร

    แผนที่ฉบับนี้เป็นการนำข้อมูลน้ำล่าสุดมาทาบซ้อนกับข้อมูลที่กรม แผนที่ทหารมีอยู่ เพื่อประเมินทิศทางน้ำว่าจะไหลไปทางไหน โดยแบ่งน้ำไหลลูกศรขนาดใหญ่ แสดงถึงมวลน้ำใหญ่ และลดระดับกันไปตามปริมาณน้ำ ขณะที่สีฟ้าคือพื้นที่น้ำท่วมขัง

    จากแผนที่อัพเดท 11 พ.ย.พบว่าถนนพระรามสอง มีมวลน้ำขนาดใหญ่ไหลพุ่งตรงเข้ามา สองทิศทาง มาจากทั้งบางแค และหนองแขม ขณะเดียวกันยังมีน้ำก้อนใหญ่จากภาษีเจริญ จอมทอง มุ่งตรงสู่ดาวคะนอง

    ขณะที่ทางฝั่งตะวันออกของเจ้าพระยา คาดว่าจะมีมวลน้ำที่ผ่าน ศปภ.มาแล้วอาจจะไหลเข้ามาถึงคลองสามเสน ขณะเดียวกันจะมีน้ำจากลาดพร้าว และ บึงกุ่มมุ่งสู่เดอะมอลล์บางกะปิ นอกจากนั้น ยังคาดว่าอาจจะมีน้ำไหลมุ่งสู่มังคลาอีกด้วย

    รายงานข่าวแจ้งว่า ระบบระบายน้ำบริเวณมังคลาและถนนรามคำแหงในปีนี้ มีประสิทธิภาพ เนื่องจากสามารถดึงเข้าสู่อุโมงค์ยักษ์ที่พระราม9 จึงทำให้หลายฝ่ายประเมินว่า แม้น้ำจะไหลเข้าสู่รามคำแหง แต่โอกาสท่วมจะน้อยเพราะระบบระบายน้ำ มีประสิทธิภาพ

    ส่วนสถานการณ์ 2 นิคมอุตสาหกรรม บางชันและลาดกระบัง หากพิจารณาจากแผนที่ทหารแล้ว พบว่ามีมวลน้ำหลายเส้นทางทั้งเล็กและใหญ่ มุ่งสู่ 2 นิคมฯดังกล่าว

    อย่างไรก็ตามหากพิจารณาจากแผนที่เส้นทางน้ำ จะพบว่ากทม.ชั้น ในหลายเขตที่คาดว่าน้ำจะไม่ไหลผ่าน ซึ่งนั้นเท่ากับว่าโอกาสรอดน้ำท่วมมีสูงมาก ไม่ว่าจะเป็น เขตบางซื่อ ดุสิต วังทองหลาง ห้วยขวาง ราชเทวี ปทุมวัน บางรัก สาทร ห้วยขวาง วัฒนา คลองเตย บางคอแหลม ยานนาวา คลองสาน พระโขนง บางนา

    ดาวน์โหลดแผนที่

    -http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9540000144366-


    -------------------------------------------------------------

    เปิด!แผนที่ทหาร'เขตไหนน้ำไม่ผ่าน'-มวลใหญ่มุ่งตรงพระราม2

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


    แผนที่ทหารบ่งชี้ เขตไหนน้ำไม่ผ่าน และเส้นทางนำไหล พบมวลใหญ่ถล่มพระรามสอง ขณะบางชันและนิคมลาดกระบังมวลน้ำหลายเส้นมุ่งตรง ราชมังฯจ่อโดน

    แผนที่ของ"กรมแผนที่ทหาร "ประกอบด้วยข้อมูลจาก 2 หน่วยงาน คือ ข้อมูลเกี่ยวกับน้ำที่กำลังท่วม เป็นข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียมของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิ สารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA กับข้อมูลความสูงภูมิประเทศ และข้อมูลแผนที่กรุงเทพฯของกรมแผนที่ทหาร

    แผนที่ฉบับนี้เป็นการนำข้อมูลน้ำล่าสุดมาทาบซ้อนกับข้อมูลที่กรมแผนที่ทหารมี อยู่ เพื่อประเมินทิศทางน้ำว่าจะไหลไปทางไหน โดยแบ่งน้ำไหลลูกศรขนาดใหญ่ แสดงถึงมวลน้ำใหญ่ และลดระดับกันไปตามปริมาณน้ำ ขณะที่สีฟ้าคือพื้นที่น้ำท่วมขัง
    จากแผนที่อัพเดท 11 พ.ย.พบว่า ถนนพระรามสอง มีมวลน้ำขนาดใหญ่ไหลพุ่งตรงเข้ามา สองทิศทาง มาจากทั้งบางแค และหนองแขม ขณะเดียวกันยังมีน้ำก้อนใหญ่จากภาษีเจริญ จอมทอง มุ่งตรงสู่ดาวคะนอง
    ขณะ ที่ทางฝั่งตะวันออกของเจ้าพระยา คาดว่าจะมีมวลน้ำที่ผ่าน ศปภ.มาแล้วอาจจะไหลเข้ามาถึงคลองสามเสน ขณะเดียวกันจะมีน้ำจากลาดพร้าว และ บึงกุ่มมุ่งสู่เดอะมอลล์บางกะปิ นอกจากนั้น ยังคาดว่าอาจจะมีน้ำไหลมุ่งสู่มังคลาอีกด้วย
    รายงานข่าวแจ้งว่า ระบบระบายน้ำบริเวณมังคลาและถนนรามคำแหงในปีนี้ มีประสิทธิภาพ เนื่องจากสามารถดึงเข้าสู่อุโมงค์ยักษ์ที่พระราม9 จึงทำให้หลายฝ่ายประเมินว่า แม้น้ำจะไหลเข้าสู่รามคำแห่ง แต่โอกาสท่วมจะน้อยเพราะระบบระบายน้ำ มีประสิทธิภาพ

    ส่วนสถานการณ์ 2 นิคมอุตสาหกรรม บางชันและลาดกระบัง หากพิจารณาจากแผนที่ทหารแล้ว พบว่ามีมวลน้ำหลายเส้นทางทั้งเล็กและใหญ่ มุ่งสู่ 2 นิคมฯดังกล่าว
    อย่างไรก็ตามหากพิจารณาจากแผนที่เส้นทางน้ำ จะพบว่ากทม.ชั้นในหลายเขตที่คาดว่าน้ำจะไม่ไหลผ่าน ซึ่งนั้นเท่ากับว่าโอกาสรอดน้ำท่วมมีสูงมาก ไม่ว่าจะเป็น เขตบางซื่อ ดุสิต วังทองหลาง ห้วยขวาง ราชเทวี ปทุมวัน บางรัก สาธร ห้วยขว้าง วัฒนา คลองเตย บางคอแหลม ยานนาวา คลองสาน พระโขนง บางนา


    -http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/politics/20111112/418942/%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94!%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%95%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A12.html-

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    เปิด!แผนที่ทหาร'เขตไหนน้ำไม่ผ่าน'-มวลใหญ่มุ่งตรงพระราม2

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



    -http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/politics/20111112/418942/%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94!%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%95%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A12.html-

    .

    แผนที่ทหารบ่งชี้ เขตไหนน้ำไม่ผ่าน และเส้นทางนำไหล พบมวลใหญ่ถล่มพระรามสอง ขณะบางชันและนิคมลาดกระบังมวลน้ำหลายเส้นมุ่งตรง ราชมังฯจ่อโดน

    แผนที่ของ"กรมแผนที่ทหาร "ประกอบด้วยข้อมูลจาก 2 หน่วยงาน คือ ข้อมูลเกี่ยวกับน้ำที่กำลังท่วม เป็นข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียมของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิ สารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA กับข้อมูลความสูงภูมิประเทศ และข้อมูลแผนที่กรุงเทพฯของกรมแผนที่ทหาร

    แผนที่ฉบับนี้เป็นการนำข้อมูลน้ำล่าสุดมาทาบซ้อนกับข้อมูลที่กรมแผนที่ทหารมี อยู่ เพื่อประเมินทิศทางน้ำว่าจะไหลไปทางไหน โดยแบ่งน้ำไหลลูกศรขนาดใหญ่ แสดงถึงมวลน้ำใหญ่ และลดระดับกันไปตามปริมาณน้ำ ขณะที่สีฟ้าคือพื้นที่น้ำท่วมขัง
    จากแผนที่อัพเดท 11 พ.ย.พบว่า ถนนพระรามสอง มีมวลน้ำขนาดใหญ่ไหลพุ่งตรงเข้ามา สองทิศทาง มาจากทั้งบางแค และหนองแขม ขณะเดียวกันยังมีน้ำก้อนใหญ่จากภาษีเจริญ จอมทอง มุ่งตรงสู่ดาวคะนอง
    ขณะ ที่ทางฝั่งตะวันออกของเจ้าพระยา คาดว่าจะมีมวลน้ำที่ผ่าน ศปภ.มาแล้วอาจจะไหลเข้ามาถึงคลองสามเสน ขณะเดียวกันจะมีน้ำจากลาดพร้าว และ บึงกุ่มมุ่งสู่เดอะมอลล์บางกะปิ นอกจากนั้น ยังคาดว่าอาจจะมีน้ำไหลมุ่งสู่มังคลาอีกด้วย
    รายงานข่าวแจ้งว่า ระบบระบายน้ำบริเวณมังคลาและถนนรามคำแหงในปีนี้ มีประสิทธิภาพ เนื่องจากสามารถดึงเข้าสู่อุโมงค์ยักษ์ที่พระราม9 จึงทำให้หลายฝ่ายประเมินว่า แม้น้ำจะไหลเข้าสู่รามคำแห่ง แต่โอกาสท่วมจะน้อยเพราะระบบระบายน้ำ มีประสิทธิภาพ

    ส่วนสถานการณ์ 2 นิคมอุตสาหกรรม บางชันและลาดกระบัง หากพิจารณาจากแผนที่ทหารแล้ว พบว่ามีมวลน้ำหลายเส้นทางทั้งเล็กและใหญ่ มุ่งสู่ 2 นิคมฯดังกล่าว
    อย่างไรก็ตามหากพิจารณาจากแผนที่เส้นทางน้ำ จะพบว่ากทม.ชั้นในหลายเขตที่คาดว่าน้ำจะไม่ไหลผ่าน ซึ่งนั้นเท่ากับว่าโอกาสรอดน้ำท่วมมีสูงมาก ไม่ว่าจะเป็น เขตบางซื่อ ดุสิต วังทองหลาง ห้วยขวาง ราชเทวี ปทุมวัน บางรัก สาธร ห้วยขว้าง วัฒนา คลองเตย บางคอแหลม ยานนาวา คลองสาน พระโขนง บางนา



    แผนที่ตามไฟล์แนบครับ

    news_attach_418942_1.pdf

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    แม่น้ำบางปะกงเริ่มเน่า "กระเบนราหู" - สัตว์น้ำลอยตายเกลื่อน


    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="295"><tbody><tr><td width="100%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="3" width="100%"><tbody><tr><td align="left" valign="top">
    [​IMG]
    </td></tr></tbody></table> </td> <td background="images/line_right.gif">
    </td> </tr> <tr> <td height="21" width="21">[​IMG]</td> <td background="images/line_bottom.gif">
    </td> <td height="21" width="21">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="295"> <tbody><tr> <td height="21" width="21">[​IMG]</td> <td background="images/line_top.gif">
    </td> <td height="21" width="21">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td background="images/line_left.gif">
    </td> <td width="100%"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="3" width="100%"><tbody><tr><td align="left" valign="top">
    [​IMG]
    </td></tr></tbody></table> </td> <td background="images/line_right.gif">
    </td> </tr> <tr> <td height="21" width="21">[​IMG]</td> <td background="images/line_bottom.gif">
    </td> <td height="21" width="21">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="295"> <tbody><tr> <td height="21" width="21">[​IMG]</td> <td background="images/line_top.gif">
    </td> <td height="21" width="21">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td background="images/line_left.gif">
    </td> <td width="100%"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="3" width="100%"><tbody><tr><td align="left" valign="top">
    [​IMG]
    </td></tr></tbody></table> </td> <td background="images/line_right.gif">
    </td> </tr> <tr> <td height="21" width="21">[​IMG]</td> <td background="images/line_bottom.gif">
    </td> <td height="21" width="21">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="295"><tbody><tr> <td height="21" width="21">[​IMG]</td> <td background="images/line_top.gif">
    </td> <td height="21" width="21">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td background="images/line_left.gif">
    </td> <td width="100%"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="3" width="100%"><tbody><tr><td align="left" valign="top">
    [​IMG]
    </td></tr></tbody></table> </td> <td background="images/line_right.gif">
    </td> </tr> <tr> <td height="21" width="21">[​IMG]</td> </tr></tbody></table>


    วันที่ 11 พ.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานจาก จ.ฉะเชิงเทรา ว่า นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางสุมิตรา ศรีสมบัติ นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นายศักดิ์สิทธิ์ วิบูลสุข ประมงจังหวัดฉะเชิงเทรา นายสุวิทย์ คำดี นายอำเภอบางคล้า ลงพื้นที่บริเวณท่าน้ำวัดสาวชะโงก อำเภอบางคล้า หลังได้รับแจ้งว่า น้ำใน แม่น้ำบางปะกง เริ่มเน่าเสียและมีสัตว์น้ำลอยตายเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากการสังเกตสภาพน้ำบริเวณท่าน้ำพบว่า มีสีออกน้ำตาลและเริ่มส่งกลิ่นเหม็น ริมแม่น้ำมีปลาลอยตายไหลตามน้ำเป็นจำนวนมาก และจากการใช้ชุดตรวจวัดออกซิเจนภาคสนามระบบดิจิตอล วัดคุณภาพน้ำบริเวณท่าน้ำหน้าวัดสาวชะโงก สามารถวัดค่าได้ 1.1 มิลลิกรัมต่อลิตรเท่านั้น

    หลังจากนั้นคณะของนางฐิติมา ลงเรือล่องลำน้ำบางปะกงไปทางอำเภอบางคล้า ก็พบสัตว์น้ำลอยตายมากขึ้น ซึ่งเมื่อผ่านบริเวณหน้าวัดสามร่ม ในอำเภอคลองเขื่อนไปเล็กน้อย พบ "ปลากระเบน" ขนาดใหญ่ ลอยตายอยู่ริมแม่น้ำ ลำตัวมีความกว้างประมาณ 1.80 เมตร ยาวประมาณ 3.50 เมตร คาดว่าตายมาแล้วประมาณ 2 วัน ห่างกันไปราวอีก 1 ก.ม. พบปลากระเบนตายลอยน้ำอีก 1 ตัว ตัวใหญ่ประมาณ 1.50 เมตร ยาวประมาณ 3.20 เมตร คาดว่าตายในเวลาไม่ห่างกันมากนัก จุดนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจวัดคุณภาพน้ำอีกครั้งพบว่า มีค่าเพียง 1.00 มิลลิกรัมต่อลิตร

    จากนั้นคณะขึ้นจากเรือที่ท่าน้ำวัดคุ้งกร่าง และตรวจวุดคุณภาพน้ำอีกครั้ง พบว่ามีค่าเฉลี่ยเพียง 0.72 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งตลาดระยะทางที่ล่องเรือสังเกตริมแม่น้ำบางปะกง ยังพบว่ามีต้นไม้จำนวนมากซึ่งยืนต้นตาย ขณะที่บางส่วนใบไม้เริ่มแห้งเฉาแล้ว

    จาก การสอบถามชาวบ้านที่อาศัยอยู่หน้าวัดคุ้งกร่าง ในตำบลคลองเขื่อน บอกว่า น้ำเริ่มเน่าเสียมาหลายวันแล้ว ส่งผลให้สัตว์น้ำลอยตายเป็นจำนวนมาก ทั้งขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก โดยเฉพาะกุ้งก้ามกราม ชาวบ้านได้จับสัตว์น้ำเหล่านั้นไปบริโภค ส่วนหนึ่งนำไปขายในท้องตลาด

    นาง ฐิติมา กล่าวว่า จากการล่องเรือตามลำแม่น้ำบางปะกง เมื่อล่องลึกเข้าไปก็พบว่าคุณภาพน้ำเริ่มต่ำลง ซึ่งน่าจะมีปัจจัยมาจากน้ำที่ถูกระบายมาจากทั้งแม่น้ำนครนายก แม่น้ำปราจีนบุรี จากปทุมธานีที่ผ่านมาทางคลองหกวาสายล่าง ลงแม่น้ำบางปะกง ที่ประตูน้ำสมบูรณ์ จากกรุงเทพมหานครที่ระบายจากคลองแสนแสบออกแม่น้ำบางปะกงที่ประตูน้ำบางขนาก และน้ำในคูคลองต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราเอง ส่วนแนวทางการแก้ไขคงจะต้องระบายน้ำดีจากด้านบนปล่อยลงมาเจือจาง ปัญหานี้ต้องเริ่มแก้ไข โดยจะรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ ส่วนพื้นที่ปากอ่าวแม่น้ำบางปะกง ซึ่งเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงปลากะพงในกระชังใหญ่ที่สุด ซึ่งมีมากกว่า 180 ราย มีกระชังปลากว่า 7,000 – 8,000 กระชัง ซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบ จึงขอให้เจ้าของกระชังปลาได้รีบคัดไซส์ของปลาที่สามารถจับขายได้ให้รีบขาย

    นาย ศักดิ์สิทธิ์ วิบูลสุข ประมงจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ปลากระเบนที่พบเป็นกระเบนน้ำจืด หรือเรียกว่ากระเบนราหู หรือ กระเบนเจ้าพระยา เป็นชนิดที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองของโลก รองมาจากปลากระเบนแมนต้า ที่พบได้ในทะเลโดยสามารถหนักได้ถึง 600 กิโลกรัมกว้างได้ถึง 2.5-3 เมตรเป็นปลากระเบนที่อยู่ในวงศ์ปลากระเบนธง (Dasyatidae) ซึ่งเป็นปลากระเบนชนิดที่มีหางเรียวยาวเหมือนแส้ ได้ชื่อว่า ราหู" เนื่องจากขนาดลำตัวที่ใหญ่เหมือนราหูอมจันทร์ตามคติของคนโบราณ มีลักษณะส่วนปลายหัวแหลม ขอบด้านหน้ามนกลมคล้ายใบโพ ลักษณะตัวเกือบเป็นรูปกลม ส่วนหางยาวไม่มีริ้วหนัง มีเงี่ยงแหลมที่โคนหาง 2 ชิ้น ซึ่งในปลาขนาดใหญ่อาจยาวได้ถึง 8-10 นิ้วเมื่อหักไปแล้วสามารถงอกขึ้นได้ กลางหลังมีเกล็ดเป็นตุ่มหยาบ ๆ ด้านบนของปีกและตัวเป็นสีเทาหรือน้ำตาลนวล หางสีคล้ำ ด้านล่างของตัวมีสีขาวนวล ที่ขอบปีกด้านล่างเป็นด่างสีดำ อาศัยในแม่น้ำสายใหญ่ ๆ จนถึงบริเวณใกล้ปากแม่น้ำ พบครั้งแรกในแม่น้ำเจ้าพระยา จึงถูกตั้งชื่อ ว่า "เจ้าพระยา" (chaophraya) และยังพบในแม่น้ำสายอื่น ๆ เช่น แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำบางปะกง


    -http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNeU1UQXdNVE16TXc9PQ==&sectionid=-

    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    "สมิทธ" ชี้น้ำท่วมครั้งนี้เพราะความประมาท-การเมือง แนะเตือนภัยล่วงหน้า3เดือน

    วันที่11พ.ย. นายสมิทธ ธรรมสโรช คณะกรรมการวางยุทธศาสตร์น้ำ กล่าวถึงปริมาณน้ำเหนือในขณะนี้ว่า มีปริมาณกว่า 9,000 ล้านลบ.ม. ทั้งนี้ หากหน่วยงานต่างๆ ยังทะเลาะกันอยู่ อาจจะทำให้การระบายน้ำต้องใช้เวลานานกว่า 1 เดือน เช่นเดียวกับการตัดสินใจที่ไม่มีการรวมศูนย์ ต่างฝ่ายต่างทำ ทำให้มหันตภัยครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะความประมาทเกินไป และนำเรื่องน้ำมาเป็นเรื่องการเมือง ดังนั้น ต้องนำบทเรียนครั้งนี้ไปปรับเปลี่ยนแนวคิดและการทำงานของทุกฝ่ายว่า จะต้องร่วมมือกันเพื่อมองอนาคตของประเทศ หากไม่มีแนวทางชัดเจนกทม.ก็หายไปจากแผนที่โลก เพราะน้ำท่วมหมดไม่เกิน 10 ปีข้างหน้า จากน้ำทะเลหนุนสูงเพิ่มขึ้นอีก 1 - 1.50 เมตร ฉะนั้น จะต้องมีการเตือนภัยระยะไกล และคาดการณ์ล่วงหน้าก่อนเกิดภัยถึง 3 เดือน เหมือนต่างประเทศที่เขาใช้กัน ซึ่งประเทศไทยต้องปรับข้อมูลทั้งหมดมารวมกันเป็นข้อมูลกลางให้ได้ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดเหมือนอุทกภัยครั้งนี้


    -http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1321004443&grpid=&catid=03&subcatid=0305-

    .
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    'ฟ้าหญิง'ทรงแนะอธิษฐานจิต'ในหลวงทรงมีพลานามัยดี'




    [​IMG]




    "ฟ้าหญิง" ทรงขอประชาชนอธิษฐานให้ "ในหลวง" ทรงพระสุขภาพพลานามัยดี นอกจากนี้ทรงแนะผู้ประสบอุทกภัยอดทน มีระเบียบวินัย เหมือนคนญี่ปุ่นที่ประสบปัญหาสึนามิไม่กักตุนของจนทำให้คนอื่นลำบาก

    เมื่อเวลา 9.45 น. วันที่ 11 พฤศจิกายน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวผู้ประสบอุทกภัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ จังหวัดนนทบุรี ทรงเยี่ยมราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน โดยศูนย์ฯแห่งนี้มีผู้เข้าพัก 1,673 คน มีหน่วยงาน และอาสาสมัครมาทำอาหารเลี้ยงผู้ประสบภัยทุกวัน นอกจากนี้ มีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่มาให้บริการตรวจรักษาผู้ที่เจ็บป่วย


    จากนั้นสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระราชทานถุงยังชีพแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี และผู้ประสบอุทกภัย พร้อมกับพระราชทานของเล่นแก่เด็ก ในการนี้พระราชทานกำลังใจให้ผู้ประสบอุทกภัยมีจิตใจที่เข้มแข็ง ทรงเข้าพระทัยราษฎรที่สูญเสียบ้านที่เคยอยู่ เพราะก็ทรงประสบปัญหาเช่นเดียวกัน

    สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ตรัสถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวความว่า "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประชวรอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราชมาเป็นเวลา 2 ปีเศษ โดยที่อาการแรกรับเมื่อ 2 ปีนั้นเป็นเพราะว่าปอดอักเสบและพอรักษาปอดอักเสบหาย ก็ปรากฏว่าทรงพระดำเนินหรือทรงเดินไม่ได้ ตอนแรกคิดว่ากล้ามเนื้อลีบหรือฝ่อ ก็ทำกายภาพบำบัดหลายอย่าง จนกระทั่งแพทย์ตรวจอีกครั้งพบว่าน้ำในพระสมองมีมากเกินไปซึ่งจะไปกดระบบ ประสาททำให้การเคลื่อนไหวไม่สะดวก ก็ถวายผ่าตัดเพื่อเอาน้ำออกจากสมอง โดยการเจาะจากไขสันหลัง ดูดน้ำออกจากสมองออกบางส่วนไปทิ้งในช่องท้อง และพระองค์ก็ทรงพระสำราญมาเรื่อยๆ จนกระทังเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้

    ข้าพเจ้าตอนนั้นไปเยี่ยมคนที่ประสบอุทกภัยที่ จ.พระนครศรีอยุธยาพอกลับมา พยาบาลก็รีบมาตามตัวข้าพเจ้าให้รีบไปดูพระเจ้าอยู่หัวหน่อย ว่าพระเจ้าอยู่หัวถ่ายเป็นเลือดประมาณ 800 ซีซี ความดันตกมาก อยู่ในภาวะทรงช็อคไม่รู้สึกพระองค์ ตอนนั้นแพทย์ก็กำลังถายเลือดและสารอาหารทางเส้น

    อันนี้ที่เลือดออกจากในกระเพาะและลำไส้ แพทย์สันนิษฐานว่าเป็นเพราะทรงกังวล ข้าพเจ้าจึงถามพยาบาลว่าทรงทำอะไรบ้างในวันสองที่ผ่านมา ก็ปรากฏว่าพระองค์ทอดพระเนตรข่าวน้ำท่วม อัน นี้แสดงให้เห็นว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงรักประชาชนเหมือนลูกเหมือนหลาน ทรงเป็นห่วงเป็นใย พระองค์ไม่ค่อยรับสั่ง รับสั่งน้อย แต่อาการที่แสดงออกคือทางร่างกาย พอเพียบขึ้นมาก็เกิดอาการเลือดออกในกระเพาะ และลำไส้ แต่ขณะนี้แพทย์ได้ถวายการรักษาจนทรงเป็นปกติแล้ว แต่ที่มาเล่าให้ฟังนี่ ข้าพเจ้าเองยังซาบซึ้งเลยว่าพระองค์ป่วยอยู่ยังห่วงราษฎรถึงเพียงนี้

    สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถก็เช่นกัน ทรงตื้นตันทรงห่วงราษฎรตลอดเวลา ทรงติดตามข่าวทั้งทางโทรทัศน์ ทั้งทางวิทยุ อยู่เสมอ และทรงถามข้าพเจ้าเรื่องที่ข้าพเจ้าออกมาเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยต่างๆ จะเห็นได้ว่า ทั้งสองพระองค์ประทับอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราชก็จริง แต่พระทัยอยู่กับราษฎรทุกคน ถ้าใครรู้สึกซาบซึ้งในน้ำพระทัย ก็ขอเพียงแต่ให้อธิษฐานในใจเท่านั้นว่า ขอให้พระเจ้าอยู่หัวทรงพระชนยืนและทรงพระสุขภาพพลานามัยดี แค่คิดแค่นี้ ข้าพเจ้าถือว่ากำลังใจของท่านทุกคนจะถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และจะทรงได้กำลังใจจากพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก"

    นอกจากนี้ ยังทรงย้ำให้ราษฎรที่ประสบอุทกภัยมีความอดทน มีระเบียบวินัย โดยทรงยกตัวอย่างที่ดีของคนญี่ปุ่นที่ประสบปัญหาสึนามิและไม่กักตุนของจำ เป็นจนคนอื่นลำบาก

    จากนั้น ทรงเยี่ยมราษฎรที่ประสบอุทกภัยและหน่วยแพทย์พระราชทานที่โปรดให้ออกตรวจ รักษาประชาชน เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา ประกอบด้วย มูลนิธิ พอ.สว.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, มูลนิธิจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์, โรงพยาบาลศิริราช, และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยมีผู้มารับบริการ 55 ราย

    ในการนี้ ทรงเยี่ยมและมีพระปฏิสันถารกับคณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่มาตรวจรักษาสัตว์เลี้ยงที่ผู้ประสบอุทกภัยนำมาด้วย ตามโครงการสัตวแพทย์สัญจรซึ่งเป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว

    โอกาสนี้ ทอดพระเนตรบริเวณท่าน้ำนนทบุรี ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม เนื่อง จากทางจังหวัดมีการวางแผนป้องกันอุทกภัยไว้เป็นอย่างดี สำหรับจังหวัดนนทบุรี มี 8 อำเภอ โดยเกิดอุทกภัยมาตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน ปัจจุบันรวมระยะเวลา 71 วัน โดยมีพื้นที่ประสบภัยรวม 6 อำเภอ 52 ตำบล มีผู้ประสบภัย 623,789 คน พื้นที่การเกษตร, ชุมชนได้รับความเสียหายจำนวนมาก


    -http://www.komchadluek.net/detail/20111111/114743/%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%B5.html-

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    พท.-ปชป.โยนกันวุ่น'โกงของบริจาค'

    สภาเริ่มเดือด พท.-ปชป. โยนกันวุ่นใครโกงของบริจาคช่วยชาวบ้าน ปชป. ซักฟอกซื้อเรือ "ไฟเบอร์กล๊าส" ลำละ 250,000 ใช้ ขรก. ซี 8 เซ็นแทนอธิบดี

    11พ.ย.2554 ผู้สื่อข่าวรายงานการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติกรณีปัญหาภัยพิบัติอันเนื่องมาจาก อุทกภัยว่า บรรยากาศในช่วงบ่ายที่ผ่านมาเริ่มดุเดือดขึ้น โดยน.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายถึงการบริหารสิ่งของบริจาค ภายใต้การดูแลของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาอุทกภัย (ศปภ.) พร้อมกับแสดงภาพถ่ายบริเวณ ศปภ.ดอนเมือง ให้เห็นขั้นตอนการแจกจ่ายว่ามีส.ส.-ส.ก.ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเชื่อได้ว่ามีแอบอ้างของบริจาคเป็นของตนเองก่อนนำไปให้ผู้ประสบภัย อาทิ การติดป้ายจองแสดงความเจ้าของบริเวณชั้นวางสินค้า การติดป้ายบนรถขนส่ง การขึ้นป้ายให้เห็นว่าของทั้งหมดมาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้บริจาค

    น.ส.รังสิมา กล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้ไปซื้อสินค้าและนำมาเปรียบเทียบกับของบริจาคของศปภ.พบว่า สิ่งของที่นำไปให้กับผู้ประสบภัยนั้น มีราคาแพงกว่าปกติและไม่รู้ที่มาชัดเจน อาทิ ข้าวสารถุงที่ของศปภ.ไม่มีชื่อยี่ห้อ แต่ราคาถุงละ 195 บาท ขณะที่ยี่ห้อมาบุญครอง ซึ่งมีมาตรฐานและมีที่มาชัดเจนกลับราคาเพียง 130 บาทต่อถุง ทั้งนี้พฤติกรรมดังกล่าวทำให้ศปภ.ไม่มีความน่าเชื่อถือ ยอดบริจาคจึงลดลง พร้อมกับที่ประชาชนและองค์กรต่างชาติเลือกจะไปบริจาคให้หน่วยงานอื่นแทน อาทิ ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ได้ไปมอบเงินบริจาคให้กับสภากาชาด 62 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเมื่อมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนกลับไม่พบความผิด ดังนั้นเรื่องดังกล่าวควรจะมีองค์กรอิสระเป็นผู้ตรวจสอบ และศปภ.เองก็ต้องชี้แจงข้อเท็จจริง

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่น.ส.รังสิมา ได้อภิปรายนั้น นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ซึ่งมีชื่อปรากฏอยู่ในรูปถ่ายได้ลุกขึ้นชี้แจงโดยระบุว่า สิ่งของที่มีการติดจองไว้นั้นเป็นสิ่งของที่มีเศรษฐีที่เป็นเสื้อแดงราย หนึ่งได้บริจาค และให้ตนเองเป็นตัวกลางเพื่อส่งมอบให้กับประชาชนอีกทอดหนึ่ง แตกต่างจากสมัยพรรคประชาธิปัตย์ที่มีการทุจริตจากกรณีการแจกปลากระป๋องเน่า จนทำให้รัฐมนตรีต้องลาออก

    เมื่อถึงช่วงนี้นายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตรัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสังคมเพื่อความมั่นคงของมนุษย์ ได้ชี้แจงว่า ตนลาออกเพื่อให้เกิดกระบวนการตรวจสอบและเป็นบรรทัดฐานของนักการเมืองที่ดี ไม่เกี่ยวข้องกับการทุจริตแต่อย่างใด ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวก็ได้มีคณะกรรมการอิสระที่มาจากทุกฝ่ายได้สอบสวนข้อ เท็จจริงแล้ว

    ปชป.ซักฟอกซื้อเรือ"ไฟเบอร์กล๊าส"


    นายวิลาศ จันทรพิทักษ์ ส.ส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายต่อว่า ตนอยากเปลี่ยนชื่อจากถุงยังชีพเป็นถุงปลิดชีพ และตนไม่มั่นใจว่า หลังจากนี้จะมี รมต. ต้องถูกปรับออกกี่คน หรือมีข้าราชการต้องออกจากราชการกี่คน ทั้งนี้ตามที่นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงวันที่ 10 พ.ย.ว่าที่ถุงยังชีพมีราคาแพงเพราะต้องส่งของหลายจุด แต่จากการตรวจสอบก็พบว่าได้ไปส่งที่ ศปภ. จุดเดียว และที่ชี้แจงเรื่องที่อยู่ของบริษัท "เอื้อธนภัทร" ซึ่งไม่ตรงระหว่างใบส่งของและใบเสนอราคา จากการตรวจสอบของตนที่อยู่ที่ระบุในใบส่งของว่า เป็นเลขที่ 78 หมู่ 4 นั้น เป็นที่อยู่ของบริษัทที่จดทะเบียนเป็นกิจการเช่าโกดังสินค้า คนเป็นรองนายกน่าจะตอบให้มีหลักเกณฑ์กว่านี้ส่วนที่สองบริษัทซื้อสินค้าราคา เดียวกันคงเป็นไปไม่ได้ ต้องมีการฮั้วกัน

    นายวิลาศยังอภิปรายอีกว่า การที่ ศปภ. ซื้อเรือช่วยประชาชนโดยนำเงินจากสองทางคือเงินบริจาคและเงินเหลือจ่ายจากปี 2554 และซื้อสองครั้ง ครั้งที่ 1 เป็นการซื้อโดยเงินบริจาค ที่ซื้อเรือไฟเบอร์กล๊าส 30 ลำ ลำละ 250,000 บาท จากการตรวจสอบพบว่าได้ซื้อที่บริษัทที่ขายถุงยังชีพ 60,000 ถุง และผู้อนุมัติในใบสั่งซื้อไม่ใช่อธิบดีหรือรองอธิบดี เพราะจากการสอบถามไม่มีใครกล้าเซ็น แต่คนเซ็นเป็นเจ้าหน้าที่ จ.ปทุมธานี ระดับซี 8 โดยระบุว่า ปฏิบัติหน้าที่แทนอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติหรือไม่ เป็นไปได้หรือที่จะให้ข้าราชการ ซี 8 มาปฏิบัติหน้าที่แทนอธิบดี นอกจากนี้ยังมีเงินเหลือจ่ายจากปี 2554 ก็ได้นำไปซื้อเรือไฟเบอร์กล๊าสอีก 100 ลำ ลำละ 198,000 บาท ซึ่งมีหลายคนบอกว่าซื้อจริงๆไม่น่าเกิน 60,000 บาท เพราะซื้อไปไม่นานก็แตก และจัดซื้อจากบริษัทเดียวกัน

    นายวิลาศกล่าวต่อว่า ส่วนสุขากระดาษ หรือ "ส้วมมือถือ" นั้น ที่อ้างว่าราคา 245 บาท เพราะใยกระดาษดีกว่าของบริษัทปูนซีเมนต์ไทย และรับน้ำหนักได้ 100 กิโลกรัม ตนมีเพื่อนเป็นวิศวกรหลายคน ยืนยันว่าคุณภาพไม่ต่างกัน และสั่งซื้อจากบริษัทที่ได้จดทะเบียนเป็นบริษัทซ่อมบำรุงเครื่องบำบัดน้ำ เสียจำนวนสามหมื่นชุด และจากการตรวจสอบของตนพบว่าที่อยู่ดังกล่าวเป็นทาวน์เฮาส์ที่มีน้ำท่วมอยู่ และมีการจดซื้อของทั้งหมดกว่า 100 ล้านบาท จึงอยากถามว่าทำเพื่อใครหรือไม่ 3-4 บริษัทนี้มีผู้ถือหุ่นนามสกุล "วิชัยดิษฐ์ "หรือไม่ และอยากฝากนายกฯ ว่าหากอยากได้ข้อมูลอีกก็ให้เปิดอภิปรายวันอาทิตย์อีกหนึ่งวันเพราะยังมี เรื่องเต๊นท์ และเป็นเหตุที่จะใช้ ปรับ ครม. ได้


    -http://www.komchadluek.net/detail/20111111/114723/%E0%B8%9E%E0%B8%97.%E0%B8%9B%E0%B8%8A%E0%B8%9B.%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%84.html-

    .------------------------------------------------------------------.



    ส.ส.หญิงรุมอัดรบ.ช่วยน้ำท่วมไม่ทั่วถึง

    ส.ส.หญิงรุมอัดรัฐบาลกระจายความช่วยเหลือไม่ทั่วถึง ด้าน"วิทยา" โต้ทันควันเหตุนิคมฯโรจนะน้ำท่วมเพราะนิคมแก้ปัญหาผิดพลาดมาก่อน "เฉลิม"ยันรัฐบาลเดินมาถูกทางใช้พ.ร.บ.สาธารณภัยแทนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส.ส.ปชป.เสนอจ่ายชดเชยน้ำท่วมตามความเดือดร้อนจริง

    11พ.ย.2554 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในการประชุมร่วมรัฐสภาเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมว่า ตนผิดหวังกับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล เพราะขณะนี้เขตบางพลัดและบางกอกน้อย กทม.ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลเป็นส้วมลอยน้ำและเรือ เพียง 3 หลัง ทั้งนี้ในเขตดังกล่าวมีระดับน้ำท่วมสูงถึงอกมานาน 2 สัปดาห์แล้ว หากรัฐบาลให้ความช่วยเหลือเพียงเท่านี้อย่าเรียกว่าเป็นการช่วยประชาชน ส่วนตัวนั้นมีความเห็นว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตัดสินใจแก้ปัญหาช้า


    น.ส.นริศา อดิเทพวรพันธุ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า การบริหารของรัฐบาล ผิดพลาดมาตลอด เช่น เมื่อวันที่ 9 ต.ค. พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ฐานะผู้อำนวยการ ศปภ.แถลงว่าสามารถควบคุมน้ำที่จะเข้านิคมอุตสาหกรรมโรจนะได้แล้ว แต่วันเดียวกันก็ทะลักเข้าท่วมทั้ง 3 เฟส เสียหาย 1.8 หมื่นล้าน มีผู้เสียชีวิตจำนวน 4 คน หลังจากนั้นก็เกิดซ้ำรอยทั้ง นวนคร ไฮเทค รัฐบาลปฏิเสธความผิดพลาดไม่ได้

    นางมัลลิกา จิรพันธุ์วาณิช ส.ส.ลพบุรี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่า พื้นที่ลพบุรีได้รับน้ำท่วมเสียหายหลายตำบล แต่ไม่เคยได้รับถุงยังชีพจากรัฐบาลเลย

    นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า สำหรับนิคมโรจนะ ที่ตนได้รับมอบหมายให้ดูแล พบว่า การป้องกันส่วนแรกเป็นของภาคเอกชน แต่ที่พบความบกพร่องคือรอยท่อน้ำทิ้งทำให้เกิดการพังของผนังกั้นน้ำ เป็นความผิดพลาดทางเทคนิคของนิคมเอง ส่วนการเสียชีวิตนั้นเกิดนอกนิคม มีคนขี่รถจักรยานยนต์อยู่ด้านนอกแล้วถูกไฟดูดเสียชีวิตไม่ใช่น้ำเข้านิคม แล้วคนตาย การบอกว่าน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมแล้วมีคนตาย 4 คนโดยไม่บอกสาเหตุให้ชัด จะทำให้เข้าใจผิดว่ารัฐบาลไม่มีปัญญาและดำเนินการให้เกิดความเสียหาย สำหรับนิคมอุตสาหกรรมใน จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนประกอบ จึงไม่มีเรื่องของสารเคมี และผลการตรวจสอบนิคมไฮเทคและโรจนะไม่พบสารปนเปื้อนในน้ำ แต่ห่วงใยบางนิคมซึ่งส่งทีมงานไปตรวจสอบแล้วแต่ผลยังไม่ออก

    “สำหรับการป้องกันโรคที่มากับน้ำท่วม อย่าง โรคฉี่หนู กระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการรองรับ โดยจัดหน่วยแพทย์เฝ้าระวังประจำทุกศูนย์พักพิงพร้อมจัดเรือลาดตระเวน 200 กว่าลำทั่ว กทม.ร่วมกับเรือพื้นที่ ซึ่งมี 6 จังหวัดที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ สมุทรสาคร นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี พระนครศรีอยุธยาและกทม.” นายวิทยา กล่าว


    ส.ส.ปชป.เสนอจ่ายชดเชยน้ำท่วมตามความเดือดร้อนจริง


    นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนการดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ใน อัตราครัวเรือนละ 5,000บาท เนื่องจากเกณฑ์ดังกล่าวไม่มีความเป็นธรรม เพราะบางพื้นที่มีน้ำท่วมขังนานกว่า 2 เดือน และได้รับความเสียหาย เป็นทรัพย์สินจำนวนมากหรือเป็นบ้านทั้งหลัง แต่ได้รับเงินชดเชยจำนวน 5,000บาท ต่อครัวเรือน เท่ากับพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายหรือมีน้ำท่วมขังเพียง 7 วัน ดังนั้นตนจึงอยากเสนอหลักเกณฑ์ว่าควรจะมีการพิจารณาเป็นขั้นบันได โดยเริ่มต้นจากที่เงินจำนวน 5,000 บาท และพิจารณาให้ค่าชดเชยตามระดับน้ำ เวลาที่น้ำท่วม และระดับความเสียหาย ทั้งนี้ในส่วนของพื้นที่ที่จ่ายเงินชดเชยไปแล้วนั้นก็ถือว่าดำเนินการไป ไม่จำเป็นต้องมีการทบทวนย้อนหลังอีก


    "เฉลิม"ระบุรัฐบาลมาถูกทางใช้พ.ร.บ.สาธารณภัย


    ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ชี้แจงหลังจากที่ถูกพาดพิงว่าพื้นที่ถนนบางบอน 5 หลังบ้านของตนมีด่านตำรวจตั้งด่านรีดไดประชาชนเป็นเงินหลายหมื่นบาท ว่า ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าพื้นที่ของตนมีสน. 3 สถานี คือหนองแขม แสมดำ และบางบอน บ้านพักของตนห่างซอยบางบอน 5 ประมาณ 1 กม. ทั้งนี้ได้ตรวจสอบไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับคำยืนยันว่าเมื่อวันที่ 24 ต.ค. ไม่มีการตั้งด่านเคลื่อนที่ แต่เพื่อให้ความเป็นธรรมขอให้ผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อดำเนินคดีต่อไป

    ร.ต.อ.เฉลิม ยังชี้แจงด้วยว่าเหตุที่รัฐบาลได้เลือกใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 แทน พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) เนื่องจากภัยที่เกิดขึ้น ต้องใช้หลักความเป็นธรรมเจรจากับผู้ปราบภัย และหากเจ้าหน้าที่รัฐไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของนายฯ เท่ากับว่าปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เท่ากับเป็นการผิดวินัยร้ายแรง ส่วน พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น ให้อำนาจทหารและตำรวจเป็นผู้ดูแล และมีบทลงโทษที่ใช้กับประชาชน โดยโทษสูงสุดคือ จำคุก 2 ปี

    “ผมเป็นคนคัดค้าน ไม่ให้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เนื่องจากน้ำเป็นภัยธรรมชาติ เราไปรบไม่ได้ และผมใช้สติปัญญาอันน้อยตคิด ใคร่ครวญ ความต่างระหว่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นัยยะการออกกฎหมายคือ มีเจตนารมย์แก้ไขปัญหาความมั่นคงของรัฐ ความไม่สงบของประเทศ เพื่อรักษาความมั่นคง ปลอดภัยของประชาชน ซึ่งได้ออกมาใช้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา เพื่อลดขั้นตอนของกฎหมายในการจับกุม หรือตรวจค้นผู้ต้องสงสัย วันนี้ผมยืนยันรัฐบาลเดินมาถูกทางที่ไม่ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน “ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว


    เด็กกำพร้าบ้านราชวิถีอพยพหนีน้ำท่วมมาอยู่วัดที่ราชบุรี


    นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ปฎิบัติหน้าที่แทนผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกษียณอายุราชการ ได้เดินทางไปที่วัดถ้ำสิงโตทอง ต.รางม่วง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมเด็กกำพร้าจากสถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี ที่อพยพหนีน้ำท่วมมาอยู่ที่วัดแห่งนี้จำนวน 417 คน เมื่อวันที่ 3 พ.ย.54 ที่ผ่านมา ซึ่งเด็กพร้าที่มาอยู่นั้นเป็นเด็กผู้หญิงทั้งหมดมีอายุตั้งแต่ 5 -18 ปี โดยมีนางสุวรรณา ปิ่นแก้ว ผู้อำนวยการสถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี มาคอยดูแล และมีเจ้าหน้าที่ของศปภ.จ.ราชบุรี แพทย์ พยาบาลรวมทั้งเจ้าหน้าที่ อสม. ตำรวจ และกำนัน ผู้ใหญ่บ้านมาคอยดูแลจัดเตรียมอาหารและอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆพร้อมทั้ง จัดกิจกรรมให้กับเด็กๆได้มีส่วนร่วม

    นายณรงค์ ได้ร่วมพูดคุยกับเด็กและเตรียมจัดรถพาเด็กๆไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยว ต่างๆในจ.ราชบุรี เพื่อไม่ให้เด็กเกิดความเครียดและเป็นกังวล


    ชุมชนจัดคาราวาน14จว.ใต้ช่วยผู้ประสบภัย



    นางลิตา บุญช่วย ผู้นำชุมชน จ.สงขลา เปิดเผยว่า เครือข่ายสภาองค์กรชุมชนสภาองค์กรชุมชนภาคใต้ 14 จังหวัด ร่วมกับสำนักงานปฏิบัติการภาคใต้ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) จัดขบวนคาราวานออกจากเดินจากพื้นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาค ตะวันตก กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยระดมทุนและสิ่งของอาทิ ข้าวสารกว่า 4,000 กิโลและอาหารแห้ง , สินค้า OTOP เช่น กล้วยเล็บมือนาง สัปปะรด ปลาแห้ง ปลาเค็ม ไข่เค็ม , ผักพื้นบ้าน เช่น ผักเหลียง , อาหารทะเลทั้งสดและแห้ง ,เงินบริจาค รวมทั้งเรือติดเครื่องยนต์ จำนวน ๕ ลำ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยและช่วยงานที่ศูนย์ประสานของชุมชนกว่า 10 ศูนย์ในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานีและนครปฐม

    ผู้นำชุมชน จ.สงขลา กล่าวว่า นอจากทีมงานจะช่วยงานในศูนย์ต่างๆ ตามแผนที่กำหนดแล้ว ขบวนองค์กรชุมชนจากภาคอีสานจะมารับช่วงช่วยพี่น้องที่ประสบภัยต่อไป ทั้งนี้พื้นที่เสี่ยงภัยทุกตำบลในภาคใต้กำลังดำเนินการทำแผนเพื่อรองรับภัย พิบัติ ขณะที่บางพื้นที่ของจังหวัดสงขลา และนครศรีธรรมราช ได้ทำแผนป้องกันเสร็จแล้ว

    นางทิพย์รัตน์ นพลดารมย์ ผู้อำนวยการพอช. กล่าวว่า ได้อนุมัติงบประมาณเบื้องต้น 100 ล้าน เพื่อแก้ปัญหาภัยพิบัติน้ำท่วมในครั้งนี้ ทั้งนี้มีองค์กรชุมชนไม่น้อยกว่า 250,000 องค์กร ในพื้นที่ประสบอุทกภัย 30 จังหวัด มีกองทุนสวัสดิการ 1,005 กองทุน มีสภาองค์กรชุมชน 528 สภาและ มีองค์กรชุมชนไม่น้อยกว่า 12,000 องค์กร ทุกๆฝ่ายต้องช่วยกันเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ เครือข่ายองค์กรชุมชนจัดการภัยพิบัติทั้งระยะเตรียมการ เผชิญหน้า ฟื้นฟูหลังประสบภัยด้วยตนเองและจัดการให้เครือข่ายที่ไม่ประสบภัยไปช่วย เหลือเครือข่ายองค์กรชุมชนอื่นๆ


    "สมิท"ชี้น้ำท่วมครั้งนี้เพราะความประมาท-การเมือง



    นายสมิท ธรรมสโรช คณะกรรมการวางยุทธศาสตร์น้ำ กล่าวถึงปริมาณน้ำเหนือในขณะนี้ว่า มีปริมาณกว่า 9,000 ล้านลบ.ม. ทั้งนี้ หากหน่วยงานต่างๆ ยังทะเลาะกันอยู่ อาจจะทำให้การระบายน้ำต้องใช้เวลานานกว่า 1 เดือน เช่นเดียวกับการตัดสินใจที่ไม่มีการรวมศูนย์ ต่างฝ่ายต่างทำ ทำให้มหันตภัยครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะความประมาทเกินไป และนำเรื่องน้ำมาเป็นเรื่องการเมือง

    ดังนั้น ต้องนำบทเรียนครั้งนี้ไปปรับเปลี่ยนแนวคิดและการทำงานของทุกฝ่ายว่า จะต้องร่วมมือกันเพื่อมองอนาคตของประเทศ หากไม่มีแนวทางชัดเจนกทม.ก็หายไปจากแผนที่โลก เพราะน้ำท่วมหมดไม่เกิน 10 ปีข้างหน้า จากน้ำทะเลหนุนสูงเพิ่มขึ้นอีก 1 - 1.50 เมตร ฉะนั้น จะต้องมีการเตือนภัยระยะไกล และคาดการณ์ล่วงหน้าก่อนเกิดภัยถึง 3 เดือน เหมือนต่างประเทศที่เขาใช้กัน ซึ่งประเทศไทยต้องปรับข้อมูลทั้งหมดมารวมกันเป็นข้อมูลกลางให้ได้ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดเหมือนอุทกภัยครั้งนี้


    -http://www.komchadluek.net/detail/20111111/114717/%E0%B8%AA.%E0%B8%AA.%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%9A.%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87.html-

    .
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .



    โต้ดร.สมิทธยันเขื่อนศรีนครินทร์แข็งแรง

    กฟผ.โต้ดร.สมิทธยันเขื่อนศรีนครินทร์ แข็งแรง ปลอดภัยใช้เป็นที่พักพิงได้

    จากกรณีที่นายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ในฐานะ คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบบริหารทรัพยากรน้ำ (กยน.) ได้ออกมาแสดงความเห็นาเป็นห่วงเกี่ยวกับรอยเลื่อนแผ่นดินไหวในพื้นที่ กาญจนบุรีนั้น เมื่อเวลา 20.30 น. ของวันที่ 11 พฤศจิกายน 2554 นายวีรชัย ไชยสระแก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายบำรุงรักษาโยธา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กฟผ. ให้ความสำคัญกับงานด้านความปลอดภัยของเขื่อนมาก มีหน่วยงานที่ดูแลด้านนี้โดยเฉพาะคือฝ่ายบำรุงรักษาโยธา เพื่อให้รับผิดชอบงานด้านตรวจสอบความมั่นคง การบำรุงรักษา ซ่อมแซมเขื่อนและอาคารประกอบ โดยได้วางระเบียบปฏิบัติในด้านการตรวจสอบ และประเมินความปลอดภัยของเขื่อน เพื่อให้การดำเนินการด้านความปลอดภัยเขื่อนทุกเขื่อน เป็นมาตรฐานเดียวกัน

    อีกทั้งยังมีการจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินความปลอดภัยของเขื่อน ขึ้น ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญในงานที่เกี่ยวข้องหลากหลายสาขาอาชีพ ไม่ว่าจะเป็น ด้านก่อสร้าง ด้านวิศวกรรมโยธา ด้านเครื่องกล ด้านไฟฟ้า โดยในปัจจุบัน ได้นำเอาระบบตรวจวัดข้อมูลแบบอัตโนมัติ มาติดตั้งใช้งานที่เขื่อน โดยเป็นระบบตรวจวัดข้อมูล ที่ครอบคลุมข้อมูลด้านพฤติกรรมเขื่อน ข้อมูลอุตุ-อุทกวิทยา และข้อมูลแผ่นดินไหว ระบบนี้ จะสามารถประมวลผลข้อมูลเบื้องต้น แสดงผลเป็นรูปกราฟ และหากมีข้อมูลที่ผิดปกติ ก็สามารถแจ้งเตือนให้ตรวจสอบได้ทันที นับเป็นการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ ด้านการสื่อสารข้อมูลมาประยุกต์ใช้อย่างได้ผล เพื่อจะช่วยให้งานด้านความปลอดภัย สำหรับเขื่อนต่างๆของ กฟผ. มีประสิทธิภาพ ทัดเทียมมาตรฐานสากล

    ผอ.ฝ่ายบำรุงรักษา กฟผ. ได้เปิดเผยต่อว่า นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจาก Prof.Loren R. Anderson ซึ่งเป็นที่รู้จักของนานาชาติในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมินความมั่นคง แข็งแรงของเขื่อน ได้ร่วมตรวจสอบเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรีด้วย โดยหลังจาก Prof.Loren R. Anderson ได้ตรวจสอบเขื่อนศรีนครินทร์แล้ว ให้ความเห็นว่า กฟผ.มีขั้นตอนการตรวจสอบเขื่อน (DAM SAFTY MANAGEMENT) มีขั้นตอนที่สมบูรณ์แบบด้านความปลอดภัยของเขื่อนมีแผนการตรวจสอบและบำรุง รักษาของเขื่อนทำได้ดีมาก ผลการตรวจวัดดีกว่าหลายเขื่อนในต่างประเทศ ส่วนอาคารระบายน้ำล้น สภาพดี มีเสถียรภาพเขื่อนดีมาก และไม่พบความผิดปกติ เขื่อนยังอยู่ในสภาพที่มั่นคง นอกจากนี้จากการตรวจสอบผลการศึกษาของ ม.เกษตรศาสตร์ เรื่องการเกิดแผ่นดินไหว เขื่อนศรีนครินทร์มี เสถียรภาพที่ปลอดภัย หลายๆ วิธีการได้ถูกนำมาศึกษาอย่างครบถ้วน จากประสบการณ์ผลการศึกษา เขื่อนที่จะเกิดพังทลายจากแผ่นดินไหวมีน้อยมาก โดยเฉพาะลักษณะของเขื่อนศรีนครินทร์ ที่เป็นเขื่อนแบบหินทิ้งแกนดินเหนียว จะมีเสถียรภาพมาก เพราะจะมีการปรับสภาพได้ดี

    นายวีรชัย กล่าวย้ำท้ายสุดว่า จากข้อมูลทางวิชาการของ อาจารย์ปริญญา พุทธาภิบาล มีข้อมูลเกี่ยวกับผลการศึกษาเรื่องการเกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่จังหวัด กาญจนบุรี จากการศึกษาทางสภาพธรณีวิทยา และการตรวจสอบน้ำพุร้อนในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ทำให้วิเคราะห์ว่า โอกาสเกิดแผ่นดินไหวเกินกว่า 5 ริกเตอร์ ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ทำให้วางใจได้ว่า จะไม่เกิดผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่ และไม่เกิดผลกระทบต่อเขื่อนศรีนครินทร์ จากการดำเนินการตรวจสอบ และบำรุงรักษาเพื่อความปลอดภัยของเขื่อนอย่างมีระบบและต่อเนื่องตลอดมา ทำให้มั่นใจได้ว่า เขื่อนศรีนครินทร์มีความมั่นคงปลอดภัยในการใช้งานเสมอ สำหรับท่านที่ต้องการดูสภาพเขื่อนศรีนครินทร์แบบปัจจุบันสามารถดูได้จาก Index page

    -http://www.komchadluek.net/detail/20111111/114749/%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%94%E0%B8%A3.%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%82%E0%B9%87%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87.html-

    .---------------------------------------------------------------.


    คนที่พูดอะไรออกมา ต้องรับผิดชอบ

    หากไม่มีความรับผิดชอบในการพูด

    วงศ์ตระกูลคนที่พูดแล้วไม่มีความรับผิดชอบในคำพูดของตนเอง รกแผ่นดิน


    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .



    ต้องปรบมือให้กับตัวอย่างของเยาวชนไทย


    ไอ้พวกนักเรียนที่ตีกัน พวกรกแผ่นดิน ลองอ่านดู


    ------------------------------------------------------

    เรือฝีมือราชมงคลอีสานส่งช่วยกรุง!

    ผู้ว่าฯ ขอนแก่น นำทีมทดสอบเรือฝีมือ นศ.ราชมงคลอีสาน จังหวัดขอนแก่น ควักงบให้ผลิต ส่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ กทม. เผยใช้ได้ดี มีคุณภาพ ราคาไม่แพง

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ย.54 นายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย รอง ผู้ว่าฯ และคณะ ได้ทดสอบนั่งเรือท้องแบน ที่ทางจังหวัดขอนแก่น สั่งให้ทาง ม.เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น ผลิต ก่อนที่จะส่งเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ กทม.

    หลังจากการทดสอบนั่งเรือ นายสมบัติ เปิดเผยว่า ทางจังหวัดได้ควักงบประมาณจำนวนหนึ่งให้กับทาง ม.เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น ดำเนินการผลิตเรือ เพื่อส่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ กทม. จากการทดสอบ เรือท้องแบนที่ผลิตโดยอาจารย์ -นศ. ม.เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ปรากฎว่า เรือมีคุณภาพดี ขณะที่ราคาไม่แพง จังหวัดได้สั่งไปจำนวนทั้งสิ้น 40 ลำ ใช้วัสดุเป็นเหล็ก ทำให้มีความแข็งแรงทนทาน เครื่องยนต์ขนาด 6.5 แรงม้า สามารถบรรทุกคนได้ 6-8 คน หรือน้ำหนักรวม 800-900 กิโลกรัม ไม่ใหญ่ หรือเล็กจนเกินไป มีขนาดที่เหมาะกับสภาพการจราจรในถนน และในซอย ก่อนหน้านี้จังหวัดได้สั่งต่อเรือขนาด 12 ที่นั่ง ซึ่งขนาดไม่เหมาะกับสภาพเมืองกรุง ที่บางช่วงแคบหักเลี้ยวยาก ส่วนราคาเฉลี่ย ตกลำละประมาณ 4.5 หมื่นบาทเท่านั้น ขณะที่ราคาทั่วไป หรือราคาขายตามท้องตลาด น่าจะไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสนบาท ซึ่งถือว่าเป็นจิตอาสา ระดมทำงาน โดยไม่หวังผลกำไร หรือผลตอบแทนแต่อย่างใด ของกลุ่มอาจารย์นักศึกษา เพราะนอกจากจะทำงานเสร็จเร็วแค่ 7 วัน เท่านั้น บางคนยังควักกระเป๋าสมทบ เพื่อจะช่วยกันต่อเรือไปช่วยเหลือผู้ที่กำลังประสบภัยน้ำท่วม โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร ที่กำลังขาดแคลนเรืออย่างหนักอยู่ในขณะนี้ โดยจะนำส่งมอบให้กับ ศปภ. ในวันอาทิตย์ที่ 13 พ.ย.ที่จะถึงนี้

    -http://www.komchadluek.net/detail/20111111/114725/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%9D%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87!.html-

    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ธีระขอรับผิดวิกฤตน้ำท่วม


    ธีระ ประกาศกลางสภาขอรับผิดวิกฤตน้ำท่วมเพียงคนเดียว อย่าโทษรัฐบาลนี้
    นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตร ชี้แจง ยืนยันการจัดการน้ำในเขื่อนเป็นไปตามเกณฑ์กติกาเกณฑ์เก็บกักระหว่างระดับสูง สุดและต่ำสุด ถ้าในฤดูฝนเราบริหารน้ำไม่ให้เกินเกณฑ์สูงสุด แต่ขึ้นกับสถานการณ์ แต่เราจะเอาข้อมูลกักน้ำในแต่ละปีมาเทียบกันมันไม่ใช่วิธีการ และช่วงที่น้ำเกินเก็บกักในช่วงปลาย แม้จะเกินระดับไปบ้าง เราก็ต้องยอม เพราะต้องดูว่าล่างเขื่อนมีการทำอะไร คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำพื้นที่กทม.และปริมณทล มีทั้งตัวแทนกรมชลประทาน กรมอุตุนิยมวิทยา กรมอุกทกศาสตร์ กฟผ. กรมทรัพยากรน้ำ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธาณภัยกทม. มีหน้าที่ประสานงานแลกเปลี่ยนข้อมูลติดตามน้ำฝนน้ำท่า เพื่อบริหารจัดการน้ำเวลาไหนจะระบายเท่าไห่ เช่น บางครั้งน้ำเกินเกณฑ์สูงสุดแล้ว แต่ถ้าด้านล้างฝนตกหนัก น้ำท่วมอยู่ ก็ปล่อยไม่ได้ ทั้งนี้ ช่วงเดือนตุลาคมที่ต้องระบายน้ำเพราะเป็นช่วงของพายุเนสาดที่ทำน้ำท่วม เชียงใหม่ น้ำจึงไหลลงเขื่อนภูมิพล 2-3 ร้อยล้าน ลบ.ม. จึงต้องระบาย

    “พอสียทีครับ เรื่องนี้ไม่มีใครผิด ทั้งกรมชล กฟผ. รัฐบาลที่แล้วก็ไม่ผิดไม่ได้กักน้ำไว้เกิน รัฐบาลนี้ก็ไม่ผิด แต่เราต้องให้เครดิตเขื่อนภูมิพลบ้าง สร้างมาหลายสิบปีลองหลับตาดูว่าปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนปี 2554 มากเป็น 2 เท่า ถ้าไม่มีเขื่อนภูมิพล จะเกิดอะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศ น้ำถูกดูถูกเหยียดหยามว่าเป็นเรื่องต่ำ เพราะน้ำไหลจาดสูงลงต่ำ แต่น้ำเป็นส่วนปะกอบถึง 3 ใน 4 ของโลก เรื่องบริหารจัดการน้ำผมอยากให้ยุติกันเสียทีว่าใครผิดถูก เพราะไม่มีใครผิดถูก แต่ถ้าผิดก็ผิดที่ผม เพราะผมคือพญานาค 1 ตรากระทรวงเกษตรฯ คือพระพิรุณทรงนาค จึงผิดที่ผมไม่สามารถเป็นเหมือนขงเบ้ง ที่จะคาดการได้ถูกหมด”รมว.เกษตรกล่าว

    -http://www.posttoday.com/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87/121278/%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1-

    .
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ฮือปิดพระราม2ขัดแย้งปิดกั้นน้ำ


    ชาวบ้านหลายร้อยคน ฮือปิด “ถ.พระราม 2”ขาเข้าหน้าไฟฟ้าบางขุนเทียน หลังตกลงเรื่องปิดกั้นน้ำไม่ได้
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.00 น. ได้มีชาวบ้านจากเคหะชุมชนธนบุรี 2 และ ชุมชนเคหะการไฟฟ้า จำนวนหลายร้อยคน ได้รวมตัวกันปิด ถ.พระราม 2 ฝั่งขาเข้า บริเวณหน้าการไฟฟ้าบางขุนเทียน เนื่องจากตกลงกันไม่ได้เรื่องการปิดกั้นน้ำในพื้นที่ โดยทางเคหะชุมชนธนบุรี 1 ได้นำกระสอบทรายมาปิดกั้นคลองระบายน้ำ ทำให้น้ำเอ่อล้นไปทางเคหะชุมชนธนบุรี 2 ชาวบ้านจึงไม่พอใจอยากให้เจ้าหน้าที่รื้อกระสอบทรายออกไป
    อย่างไรก็ตาม จากการชุมนุมทำให้การจราจรทั้งขาเข้า-ออกติดขัดหลายกิโลเมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งเจรจานานกว่า ครึ่งชั่วโมง จนได้ข้อสรุปรื้อกระสอบทรายออก
    สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ปรากฏว่าสำนักงานเขตบางขุนเทียน ได้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ ถ.พระราม 2 ที่น้ำเริ่มใกล้เข้าท่วมถนนเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่บ้านวีเค บิวสิเนสแลนด์ ซึ่งด้านหลังติดกับคลองรางโพธิ์ และมีน้ำผุดท่อท่วมสูงกว่า 30 เซนติเมตรแล้ว และน้ำกำลังจะล้นมาถึงปากซอยที่ติดกับ ถ.พระราม 2 อาจเป็นจุดแรกที่น้ำจะท่วมถึงถนนใหญ่ ขณะที่จุดเฝ้าระวังอีกแห่งอยู่ที่ ถ.บางขุนเทียน ตั้งแต่แยกบางบอน มีน้ำท่วมสูงรถเล็กไม่สามารถผ่านได้


    [​IMG]



    [​IMG]


    -http://www.posttoday.com/%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%A1.-%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84/%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%A1./121271/%E0%B8%AE%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A12%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3-

    ------------------------------------------------------


    น้ำทะลัก 3 หมู่บ้านแถวพระราม2


    ถ.พระราม 2 น้ำยังแห้ง แต่น้ำเริ่มประชิดทางบางขุนเทียน บางบอน ล่าสุด 3 หมู่บ้านถูกน้ำท่วมเต็มพื้นที่แล้ว ขณะที่ เพชรเกษม ยังวิกฤติ น้ำสูงต่อเนื่อง
    พ.ต.ท.นิวัฒน์ เทียนศิริ สวป.สน.ท่าข้าม เปิดเผยว่า ขณะนี้ ถ.พระราม 2 น้ำยังไม่ท่วม แต่น้ำได้ไหลเข้าใกล้และประชิดเข้ามาทาง ถ.บางขุนเทียน บางบอน โดยบางจุด มีระยะห่างเพียง 100 เมตร เท่านั้น ส่วนน้ำผุดตามท่อ ยังไม่พบแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน ล่าสุด ในพื้นที่ สน.ท่าข้าม มี 3 หมู่บ้าน ที่ถูกน้ำท่วมเต็มพื้นที่แล้ว เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ประกอบด้วย 1.หมู่บ้าน DK น้ำท่วมทั้งหมู่บ้าน ระดับน้ำสูงกว่า 30-40 ซ.ม.
    2.ชุมชนเคหะธนบุรี โครงการ 1 น้ำไหลทะลักเข้าท่วม ทั้งหมู่บ้าน ระดับน้ำสูง 30 ซ.ม. ซึ่งในจุดนี้เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ( 11 พย.) ได้มีปัญหาความขัดแย้งกันขึ้นของชาวบ้านการเคหะบางบอน จำนวน 200 กว่าคน ปิดถนนบริเวณคู่ขนานพระราม 2 ขาเข้า บริเวณหน้าการไฟฟ้าบางขุนเทียน เนื่องจาก ไม่พอใจชาวบ้านการเคหะธนบุรี (เคหะไฟฟ้า) ซึ่งอยู่หลังโลตัสพระราม 2 นำกระสอบทรายไปวางขวางทางน้ำไหล บริเวณคลองรางแก้ว จนทำให้น้ำท่วมสูงบริเวณเคหะบางบอน โดยในเช้าวันนี้จะมีการเจราจรกันอีกครั้ง โดยส่วนตัวเห็นว่า ไม่มีประโยชน์แล้ว เพราะน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วม ส่วนชาวบ้านส่วนใหญ่ เตรียมตัวไม่ทัน ทางตำรวจได้จัดรถและเรือ สำหรับช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว และ 3.ชุมชนเคหะบางบอน น้ำสูง กว่า 50 ซ.ม. ท่วมสูงขึ้นอีก
    เพชรเกษม ยังวิกฤติ น้ำสูงต่อเนื่อง
    ด้าน พ.ต.อ.ธนวัฒน์ ตั้งวงศ์เจริญ ผกก.สน.หนองแขม เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วม บน ถ.เพชรเกษม ระดับน้ำ ยังชะลอตัวและเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น พื้นที่ ถ.เพชรเกษม ขาเข้าออก ซอยคู่และคี่ ระดับน้ำสูง 20-80 ซ.ม. น้ำในคลองภาษีเจริญ ยังสูงมากและเอ่อล่นตลิ่งเข้ามท่วมบ้านเรือนประชาชน ทั้ง 2 ฝั่ง โดยเบื้องต้น สน.หนองแขม ได้มอบหมายให้ ตำรวจ ออกตรวจตราและช่วยเหลือประชาชนเต็มที่ โดยให้ ตำรวจ เข้าไปประจำการในจุดที่เข้าออกลำบาก และให้ไปเรียนขับเรือหางยาว เรือยนต์ หลังจากที่ ตอนนี้ ทาง บช.น. ได้มอบเรือมาให้จำนวน 10 ลำ ซึ่งเพียงพอในการทำงาน มีวิธีขับเคลื่อนป้องกันไม่ให้เสียหาย
    ผกก.สน.หนองแขม กล่าวว่า ในส่วนของ หมู่บ้านเศรษฐกิจ ถ.เพชรเกษม เขตบางแค ถึงกาญจนาภิเษก น้ำยังสูง 80 ซ.ม. ใกล้กับ คลองทวีวัฒนา พุทธมณฑลสาย 4 น้ำยังลึกมาก และต้องใช้เวลาอีกนาน กว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ สิ่งที่ลำบากมากในขณะนี้ คือการคมนาคม เนื่องจาก ต้องใช้เรือและรถยกสูงเป็นหลัก รวมถึง น้ำดื่มยังขาดแคลน

    [​IMG]



    -http://www.posttoday.com/%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%A1.-%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84/%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%A1./121304/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81-3-%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%96%E0%B8%A7%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A12-


    .
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    สุเมธ ผู้เชิญพระราชดำริ




    แต่อีกประเด็นที่สื่อมองข้าม นั่นคือ บทบาทหน้าที่ของบุคคลที่ทำงานใกล้ชิดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเหมือนเป็นตัวสื่อสารข้อเสนอแนะถึงรัฐบาล
    โดย....ทีมข่าวการเมือง

    โค้ชดี มันก็สำเร็จ

    ในภาวะบ้านเมืองระส่ำระสายจากมหาอุทกภัย การเฝ้าดูแต่ความทุกข์ระทม กล่าวหาซ้ำเติมโทษกันไปกันมา ว่าหน่วยงานนั้นหน่วยงานนี้บริหารงานล้มเหลว ปล่อยน้ำท่วมเมือง ก็คงจะไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นหากแต่จะต้องใช้วิกฤตเป็นโอกาส เดินหน้าสร้างบ้านแปลงเมืองกันใหม่ ซึ่งน่าจะเป็นความโชคดีของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มีบุคลากรชั้นนำของประเทศ ตอบรับร่วมเป็นกรรมการระดับชาติเพื่อฟื้นฟูประเทศ ตั้งแต่คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) ที่มี ดร.วีรพงษ์ รามางกูร เป็นประธาน

    ขณะที่อีกชุดหนึ่ง คือ คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.)โดยตั้งที่ปรึกษา กยน.ชื่อ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา สำคัญกว่านั้น เป็นผู้ถวายงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    ทำไมตัดสินใจรับตำแหน่งกุนซือบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ จึงเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย เพราะทันทีที่มีชื่อ ดร.สุเมธ ปรากฏ สื่อบางสำนักที่ถนัดมองแต่มิติข่าวความขัดแย้งทางการเมืองออกมาวิจารณ์ทันที ว่า คงมาเป็นตัวช่วยกู้ภาพลักษณ์รัฐบาลที่กำลังจะจมน้ำ บ้างวิเคราะห์ไปถึงตัวตนคนละขั้วสี ไม่น่าร่วมงานกันได้
    แต่อีกประเด็นที่สื่อมองข้าม นั่นคือ บทบาทหน้าที่ของบุคคลที่ทำงานใกล้ชิดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเหมือนเป็นตัวสื่อสารข้อเสนอแนะถึงรัฐบาล
    "สื่อวิจารณ์ผมไปแต่งหน้ารัฐบาล ผมไม่แคร์ ใครจะคิดอย่างไรนะ บางคนก็ว่าผมไปร่วมทำไมเหรอ เสียชื่อ ไม่หรอก ถ้าคนคิดอย่างนั้น บ้านเมืองฉิบหายไปนานแล้ว ในแง่ของพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ท่านไม่มีสีพระองค์ท่านคือ แดง ขาว น้ำเงิน ขาว แดง สีไหนทุกคนรู้กันหมด ผมก็ต้องถ่ายทอดพระองค์กลับมาอย่างนี้ ภารกิจนี้คืออะไร ภารกิจนี้คือช่วยชาติบ้านเมือง" ดร.สุเมธ เปิดใจ
    เบื้องหลังรับตำแหน่งที่ปรึกษา กยน. ดร.สุเมธ เปิดเผยว่า นายกฯ ยิ่งลักษณ์ โทร.มาขอร้องโดยตรง จากนั้น กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ก็ติดต่อมาอีกครั้งเพื่อขอคำยืนยัน
    "ผมไม่ลังเลนะที่จะตอบรับ และผมรู้ว่าถ้าผมเป็นเลขาฯ หรือประธานจะไม่มีทางสำเร็จ เราคิดว่าทำหน้าที่ที่ปรึกษาได้ โดยเฉพาะการขีดวงไปในการทำงานเพราะในเรื่องทางเทคนิคมีผู้เชี่ยวชาญเยอะอยู่ แล้วเช่น ปราโมทย์ ไม้กลัด แต่เมื่อต้องการคอนซัลในแง่แนวทางพระราชดำริของพระเจ้าอยู่หัว ผมก็โอเคหน้าที่ผมมีแค่นี้ แต่จะให้รับผิดชอบมากไปกว่านั้นรับไม่ได้ เพราะผมรู้ตัวเองดีว่ารับได้แค่ไหน ผมอายุ 72 ปีเป็นข้าราชการเกษียณพอแล้ว"

    ดร.สุเมธ เชื่อว่าเหตุผลหลักที่นายกฯ ต้องการให้เขามาเป็นที่ปรึกษา เพื่อต้องการสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแนะนำเอาไว้เกี่ยวกับแผน บริหารจัดการน้ำ เนื่องจากเป็นผู้ถวายงานมานาน จึงพอจะถ่ายทอดสิ่งต่างๆ ถึงรัฐบาลได้

    "ยามนี้มันเป็นเรื่องที่เราต้องช่วยกันแล้ว ผมถวายงานให้พระเจ้าอยู่หัวอยู่แล้ว ผมเลือกไม่ได้หรอก ผมเลือกได้เฉพาะชาติบ้านเมือง อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง เป็นสิ่งที่ใครก็ตามจะปฏิเสธไม่ได้ ถ้าปฏิเสธก็แย่แล้ว แสดงว่าไม่รับผิดชอบ"


    แม้รัฐบาลจะสามารถระดมมันสมองของประเทศมาเป็นกรรมการ เพียงชื่อชั้นตัวบุคคลยังมิอาจบ่งบอกถึงความสำเร็จ แต่ความสำเร็จจะเกิดขึ้นต่อเมื่อมีความร่วมมือจากทุกระดับ ทุกภาคส่วนเดินไปพร้อมกัน
    ดร.สุเมธ ให้ข้อแนะนำไว้อย่างน่าสนใจ "แต่ละคนเขามีข้อจำกัดเหมือนกับผม จะให้ปราโมทย์ทำอะไร จะให้รอยัลเสรีทำอะไร เขาเอาหัวมาอย่างเดียว ไม่มีเงินไม่มีอะไร ไม่ใช่บริษัทรับเหมา แต่ว่าเราไม่ทำเอางั้นเหรอ ถ้าไม่ทำผมก็ถูกด่าอีก บ้านเมืองเสียหาย เป็นผู้ถวายงานพระเจ้าอยู่หัวกลับไม่ช่วยเลย อ้าวตกลงจะให้ผมทำอะไรเนี่ย สื่อบางคนต้องเข้าใจผมนะ รับก็ด่าผม พอไม่รับก็บอกว่าผู้รับสนองงานพระเจ้าอยู่หัวซะเปล่า พอบ้านเมืองคับขันไม่เอาเลยถึงบอกสื่อต้องช่วยหน่อยเถอะ สร้างกระแสความรับผิดชอบร่วมกัน"

    "โดยเฉพาะกินความไปถึงนักการเมือง เขาไม่กลัวเราหรอก ไม่กลัวสุเมธหรอก แต่เขากลัวสื่อ เพราะฉะนั้นสื่อต้องบีบฝ่ายการเมืองให้อยู่ในช่องที่ยอมรับได้ ต้องช่วยผลักดันเป็นกระบอกเสียงของประชาชน และอย่ามาอ้างประชาชนผิดๆ ถูกๆ ต้องกระแสจริงๆ เป็นกระแสนำด้วยซ้ำต้องดันให้สำเร็จ เพราะงานทุกอย่างผมเกือบมองเห็นแล้วนะ ประชาชนต้องเอาด้วย เช่น ถ้าจะปลูกต้นไม้รักษาป่า ถ้าไม่รักมันก็ตัด ตำรวจ ป่าไม้ก็รับเงินไป สื่อต้องปลุกจิตสำนึกประชาชน"

    ดร.สุเมธ ย้ำว่า ภารกิจนี้ต้องเล่นกันตั้งแต่ตัวบุคคลถึงระดับชาติ เกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง กฎหมาย พื้นที่งบประมาณ องค์กรเกี่ยวข้อง ทั้งส่วนกลาง ท้องถิ่น ประชาชนต้องเข้าร่วมเป็นเรื่องใหญ่โตมโหฬาร ไม่ทำไม่ได้บ่อยครั้งที่มีปัญหาภัยธรรมชาติมักจะมีการพูดกันถึงการปรับปรุง โครงสร้างราชการถึงขั้นตั้งเป็นกระทรวงทรัพยากรน้ำ วิธีคิดแบบนี้ ดร.สุเมธ ไม่เห็นด้วย

    "ผมไม่ค่อยศรัทธานะขอพูดจริงๆคุณจะตั้งอะไร มันเกี่ยวกับหน้าที่ว่าต้องทำ ทำหรือเปล่า ถ้าตั้งขึ้นมาแล้วทำร่วมกันไม่ค่อยประสานผลก็เท่าเดิมผมว่าเอาภารกิจก่อน ส่วนใครทำเรื่องเล็ก ให้กระจาย รวมกันทำก็ทำได้ทำไมในยามสงครามก็ไม่ได้อยู่ร่วมกันทัพบก อากาศ ประชาชน ยังรวมกันได้เพื่อเผชิญหน้าอะไรสักอย่าง เพราะฉะนั้นองค์กรนั้นอย่าได้คิด เราปรับปรุงกี่ครั้งมันดีขึ้นไหม ในฐานะเป็นข้าราชการเก่าไม่ค่อยสนใจนะ ป่วยการ"

    ดร.สุเมธ ประเดิมให้คำปรึกษาถึงรัฐบาลผ่านแทบลอยด์โพสต์ทูเดย์ก่อนเลยว่า ลำดับแรก เอาแผนออกมาให้ได้ ตามด้วยภารกิจออกมาให้ได้งบประมาณแต่ละปีออกมาให้ได้ และวางคนให้ถูก จะอยู่ที่กระทรวงไหนไม่สำคัญ เดี๋ยวเอามาจัดวาง

    "เหมือนทีมฟุตบอล คนมาจากบ้านเดียวกันหรือ เดี๋ยวนี้มาจากประเทศไหนก็ไม่รู้ แต่มารวมเป็นทีมและเล่นได้ ชนะไม่ชนะก็ว่าอีกทีเพราะฉะนั้นอย่าไปสนใจ ขอให้สนใจแต่องค์กรที่จับมารวมกันแล้วดูโค้ชเก่งจริงหรือเปล่า ให้คนคุมทีมจริงๆมันคุมทีมได้หรือเปล่า ให้เล่นตามแผนนี้นะ ตรงนั้นสำคัญกว่า"
    หากพิจารณาโครงสร้าง กยน.กำหนดให้นายกฯ เป็นประธาน ดังนั้น"โค้ช" ตามความหมายของ ดร.สุเมธคือ "นายกฯ ยิ่งลักษณ์" หรือไม่ เห็นทีต้องไปไขรหัสความสำเร็จกันต่อไป
    เปิดแผนบริหารน้ำระดับชาติ

    การบริหารจัดการน้ำไม่ใช่เรื่องใหม่ มีการจัดทำแผนเสนอกันมาหลายฉบับหลายรัฐบาล กอปรกับแนวพระราชดำริที่พระองค์รับสั่ง จึงอยู่ที่จะดำเนินการอย่างจริงจังหรือไม่อย่างไร
    ที่ปรึกษา กยน. บอกว่า ควรจะเข้าไปอยู่ในแผนของชาตินานแล้ว ในแง่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอด 30 ปีที่ตนเองถวายงานอยู่พระองค์ทรงแนะนำตลอดเวลา ถ้าจะให้ประมวลทั้งหมดมา คงสรุปได้ว่าต้องบริหารจัดการ จะปล่อยอะไรเป็นไปตามยถากรรมไม่ได้

    [​IMG]

    สำหรับข้อแนะนำรัฐบาล ดร.สุเมธ สรุปไว้ดังนี้ พระองค์ทรงแนะนำว่า น้ำไหลลงจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ เพราะฉะนั้นต้องเริ่มบริหารตั้งแต่ที่สูงฟื้นฟูป่าอนุรักษ์หรือป่าโซนหนึ่ง ซึ่งรัฐบาลทุกสมัยพยายามกำหนดเป็นเขตหวงห้าม ต้องรักษาของที่อยู่ให้ได้ ฟื้นฟูภูเขาหัวโล้นต้องทำอย่างจริงจังการกระจายอำนาจองค์กรท้องถิ่น เพราะถ้าประชาชนเจ้าของพื้นที่ไม่เอาด้วยก็เป็นไปได้ยาก อบต. อบจ. และส่วนกลางของจังหวัดต้องระดมกันรักษาสมบัติตรงนี้เอาไว้ให้เหมือนรักษา สมบัติส่วนตัว ตรงนี้ต้องทำเป็นกิจกรรมหลักหนอง คลอง บึงที่มีอยู่ในธรรมชาติต้องบูรณะฟื้นฟูให้อยู่ในสภาพรองรับน้ำได้ อะไรที่เสื่อมโทรมไปต้องฟื้นฟู งบประมาณเท่าไหรต้องจัดหาให้จงได้ ธรรมชาติที่มีอยู่แล้วห้ามรุกล้ำ

    "โฉนดควรเลิกออกได้แล้ว มันออกมากลางบึงมาให้เห็นกันตำตากันอยู่ ผมไม่ได้หาเรื่องน่ะ แต่เห็นมาตลอดชีวิตที่เป็นราชการ จนถึงเกษียณแล้ววันนี้ก็ยังเห็นกันอยู่"

    กรณีลำน้ำ พระองค์รับสั่งไว้นานแล้ว คือ เรื่องแก้มลิงต้องมี ส่วนเรื่องเขื่อนใหญ่ ตอนนี้มีเกือบครบทุกร่องน้ำแล้ว แต่ปัญหาที่ตามมา คือ ลุ่มน้ำที่ยังไม่ได้บริหารจัดการ จะเล็กจะใหญ่ไม่เป็นไร แต่ขอให้ดูตามความเหมาะสมมาประกอบกับความต้องการของประชาชนและชาวบ้าน ตรงไหนสมควรสร้างก็ต้องสร้าง เพราะปล่อยให้ร่องน้ำเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่มีอะไรดีขึ้น มีส่วนหนึ่งที่พระองค์ทรงเตือนไว้ คือ การก่อสร้างโครงสร้างต่างๆ เช่น ทางรถไฟ ถนน มักจะไม่มีการศึกษาเรื่องทางไปขวางทางน้ำบ้าง
    สำหรับชั้นในเมือง ดร.สุเมธ ให้คำปรึกษาว่า เมืองไทยขึ้นชื่อว่าเป็นเวนิซตะวันออก หนอง คลอง บึงที่ช่วยระบายน้ำอยู่ในสภาพอย่างไร วันนี้คำตอบมันมีอยู่แล้วใช่ไหม บ้านเรือนปลูกเข้าไป ไม่มีการควบคุมขยะ ทั้งหมดนี้ต้องจัดระเบียบ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด กรณีที่หาดใหญ่น้ำท่วมมโหฬาร พระองค์มีพระราชดำริบริหารคลองที่หาดใหญ่ จัดระเบียบคูคลอง น้ำไหลผ่านสะดวก

    ข้อเสนอแนะอีกประการตามที่พระองค์ตรัส คือ การสร้างฟลัดเวย์เป็นทางที่ให้น้ำไป "เรา พบว่าแนวฟลัดเวย์ถูกกำหนดตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เป็นพื้นที่สีเขียว เรานึกว่าเป็นพื้นที่ปลูกต้นไม้ต้นไร่ คำว่ากรีนเบลส์คือเป็นนาข้าวก็ได้ ทีมงานเคยไปดูงานที่มิสซิสซิปปี เป็นทุ่งนาใหญ่ ปลูกข้าวสาลีได้ แต่พอน้ำขึ้นรัฐบาลขอใช้ปล่อยน้ำเข้าตรงนี้เลย มันก็มีพื้นที่แทนที่จะวิ่งบนถนน แล้วก็มีการชดเชยกันไปตามระเบียบ จ่ายค่าเช่าประจำปีให้เขา"

    ดร.สุเมธ บอกว่า แต่ความยากลำบากของฟลัดเวย์เกิดขึ้น คือ ถูกหมู่บ้านจัดสรรสร้างขวางทางหมด บทบาทฟลัดเวย์หมดไป พระองค์ท่านจึงรับสั่งหาทางสิ ซึ่งตนเองตอบไม่ได้ตรงไหนควรจะทำ จะเป็นพื้นที่ไหนเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องไปดำเนินการ

    ถามว่า เป็นความผิดพลาดของกลไกราชการปล่อยให้บุกรุกเข้าไปครอบครองพื้นที่ที่กำหน ดฟลัดเวย์ ดร.สุเมธ ย้อนถามว่า "ผมไม่รู้ วังน้ำเขียวเขากำหนดไว้เปล่า ริมคลองที่มีสลัมเกิดขึ้นเขากำหนดเป็นเขตชลประทานหรือเปล่า คุณตอบเองแล้วกัน ผมไม่ตอบ ขี้เกียจขึ้นหน้าหนึ่ง"

    สุดท้ายคือธรรมชาติ ตอนนี้กัดฟันกันเอาไว้ ไม่มีใครสู้ธรรมชาติได้พระองค์ให้ไปตามธรรมชาติ เพราะฉะนั้นรอน้ำทะเลถอยเมื่อไหร่ลากน้ำมหาศาลลงไปด้วย หลังจากนั้นก็ฟื้นฟู

    "ให้ผมเป็นที่ปรึกษา ผมก็จะให้คำปรึกษาอย่างนี้ ผมไม่ใช่หน่วยปฏิบัติ" ที่ปรึกษา กยน. ย้ำ"สื่อวิจารณ์ผมไปแต่งหน้ารัฐบาล ผมไม่แคร์ ใครจะคิดอย่างไรนะ บางคนก็ว่าผมไปร่วมทำไมเหรอ เสียชื่อ ไม่หรอกถ้าคนคิดอย่างนั้น บ้านเมืองฉิบหายไปนานแล้ว..."

    สาปส่งการเมือง

    ครบ 72 ปี เมื่อเดือน ส.ค. แม้จะต้องทำบอลลูนหัวใจถึงสองเส้น แต่ไม่ได้บ่งบอกถึงความอ่อนล้าในการทำงานเพื่อประเทศชาติดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนายังคงขึ้นเหนือล่องใต้ถวายงานโครงการพระราชดำริใน พื้นที่ทุรกันดาร

    ยิ่งสถานการณ์มหาอุทกภัยสร้างความทุกข์ระทมให้กับพี่น้องประชาชนทุกหัว ระแหง การทำงานในฐานะเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนาจึงต้องเร่งเตรียมแผนการฟื้นฟูที่ พักอาศัย อาชีพให้กับพี่น้องประชาชน

    [​IMG]

    เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา บอกว่า การช่วยเหลือประชาชนขณะนี้เป็นหน้าที่ของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ จากนั้นหลังน้ำลดเป็นหน้าที่ของมูลนิธิชัยพัฒนาเข้าไป ซ่อมแซมบ้าน ฟื้นฟูอาชีพ จัดหาเมล็ดพันธุ์ข้าวให้กับพี่น้องเกษตรกรที่เดือดร้อน

    "คำว่าเหนื่อยไม่ได้อยู่ในสารบบ งานนี้ไม่ง่ายแต่อย่าถอย แค่งานมูลนิธิก็ปวดหัวแล้ว ไม่ใช่งานชุ่ยๆ นะ" ดร.สุเมธ อธิบายถึงการทำงานหลัก ก่อนที่จะต้องมาช่วยงานรัฐบาลในฐานะที่ปรึกษากรรมการระดับชาติอีกยิ่งใกล้ ฐานอำนาจการเมืองมากขึ้น ถือโอกาสถามข้อสงสัยในอดีตที่ผ่านมาเวลาหาตัวคนเป็นนายกฯ ไม่ได้ก็มักมีข่าวถูกทาบทามให้เป็นนายกฯ หรือแม้แต่นายกฯ พระราชทานดร.สุเมธ บอกไม่รู้เหมือนกัน แต่ยืนยัน ณ วันนี้พื้นที่นี้ สาปส่งการเมือง และจะไม่รับตำแหน่งการเมืองเด็ดขาด

    "ผมลูกนักการเมืองนะ ไม่มีใครรู้นะ พ่อผมเป็น สส.โคราช 5 สมัย และเป็น รมช.กระทรวงสหกรณ์ (อารีย์ ตันติเวชกุล เป็นคนสุดท้ายของกระทรวงสหกรณ์สมัยนั้นในรัฐบาลจอมพลถนอม) พอเป็น รมช.กระทรวงสหกรณ์เสร็จหมดตัวพอดี แต่แปลกนะนักการเมืองสมัยก่อนสำเร็จในชีวิตหมดตัว แต่เดี๋ยวนี้ทำไมกระโดดจากรถกระบะขึ้นรถเบนซ์ ตั้งแต่นั้นผมสาปส่งการเมือง ไม่เอาเลย ใครจะติดต่อทาบทาม มาเยอะหลายคน ถ้าผมเปลี่ยนเป็นเยสคำเดียว ผมก็เป็นอะไรต่อมิอะไรตามที่เขาว่ากันแล้ว ไม่เอา ไม่อยู่ในสมอง"

    "ผมแฮปปี้ดี แค่เนี่ย เป็นอย่างเงี้ย มีเพื่อนเยอะด้วย ดูคนในมูลนิธิเจ้าทำงานยิ่งกว่าไพร่อีก ทำงานนี่มีเงินเดือนสักบาทไหมไม่มี ถ้าจะให้ รับไม่ได้ ผมมีเงินเดือนบำนาญ 4 หมื่นกว่าบาท ชีวิตก็แค่นี้จะเอาอะไร"

    ทุกถ้อยคำตรงไปตรงมาเป็นบทสรุปในตัวของผู้เสียสละทำงานเพื่อแผ่นดิน
    ผมแฮปปี้ดี แค่เนี่ย เป็นอย่างเงี้ย มีเพื่อนเยอะด้วย ดูคนในมูลนิธิเจ้าทำงานยิ่งกว่าไพร่อีกทำงานนี่มีเงินเดือนสักบาทไหมไม่มี ถ้าจะให้ รับไม่ได้ ผมมีเงินเดือนบำนาญ 4 หมื่นกว่าบาทชีวิตก็แค่นี้จะเอาอะไร

    พระองค์ทรงเครียด
    เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี รับสั่งถึงพระอาการทรงพระประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่ามีพระอาการเครียด พระโลหิตออก เนื่องจากรับชมข่าวราษฎรประสบอุทกภัยนานถึง 5 ชั่วโมง ข่าวคราวนี้ ในฐานะผู้ถวายงานใกล้ชิด ต้องการสื่อสารไปถึงทุกฝ่ายว่า พระเจ้าอยู่หัวคือพระเจ้าแผ่นดิน ท่านดูแลแผ่นดิน ดูแลประชาชน แผ่นดินทุกข์ร้อนประชาชนทุกข์ร้อน ท่านนิ่งเฉยได้หรือ

    "ไม่รู้นะ ผมไม่ได้นั่งอยู่ในพระทัยพระองค์ท่าน ถวายงานมานี้ ท่านอยู่ไม่ติดหรอก แต่ตอนนี้จะทำอย่างไรเดินไม่ถนัด พระองค์ทรงเครียด และหน้าที่ท่านแนะให้กำลังใจชี้ทางเหมือนพระเทศนาทำความดีนะ เหมือนกับผมเป็นที่ปรึกษา เนี่ยผมกำลังทำหน้าที่ที่ปรึกษาแทนท่าน เขาทำไม่ทำจะว่าอย่างไร หรือจับให้เขาชนกับท่านมันไม่พึงควรกระทำอย่างนั้นตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ต้องมองข้ามสิ่งต่างๆ ให้หมดใครคิดแฝงอย่างไร ไม่เกี่ยว ผมหลับตา ทำหน้าที่เฉพาะส่วนของเราให้ดีที่สุด"


    -http://www.posttoday.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B9%8C/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9/121307/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%98-%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%8D%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%94%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%B4-



    .
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    น้ำท่วม...อย่าให้ใครต้องถูกไฟดูด


    คู่มือแนะนำ ข้อควรปฏิบัติการใช้ไฟฟ้าก่อนน้ำท่วม ขณะน้ำท่วม และหลังน้ำท่วมจากการไฟฟ้านครหลวง

    เรื่อง...ชลธาร

    สถานการณ์น้ำท่วมในประเทศไทยก่อนถึงวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา มีคนที่ถูกไฟฟ้าชอร์ตประมาณ 10 คน แต่ ณ วันนี้ 10 กว่าวันผ่านไป เพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 40 กว่าคนแล้ว เป็นเรื่องไม่น่าจะเกิดขึ้นอย่างยิ่ง หลายคนตายโดยไม่ควรตาย เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ คิดไม่ถึง และไม่ทันระวังตัว

    สิ่งที่น่ากลัวและเป็นกังวลในสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้ “ไฟฟ้า” เป็นหนึ่งในนั้นที่คนเราจะต้องมีสติระมัดระวังอย่างยิ่ง หลายคนออกจากบ้านตอนที่น้ำท่วมกำลังมา พาพ่อ แม่ พี่ น้อง และสัตว์เลี้ยงออกไปก่อน แต่ตอนกลับเข้ามาน้ำท่วมแล้ว ก็เดินเข้าไปในบ้านโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ คัตเอาต์ไฟก็ยังไม่ได้เอาลงเดิน เฉียดไปตรงปลั๊กไฟแช่น้ำอยู่ก็โดนไฟฟ้าดูดเสียชีวิต หรือบางคนที่ตัวเปียก มือเปียก รีบไปเปิดสวิตช์ไฟ หรือเสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าก็อาจถูกไฟดูดจากไฟฟ้ารั่วได้ การเสียชีวิตจากไฟฟ้าดูดเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ความไม่ทันระวังจึงไม่ควรที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะครอบครัวของใครทั้งสิ้น จะเป็นลูก พ่อแม่ ญาติพี่น้อง ก็ไม่สมควรเกิด

    ดังนั้น เพื่อระวังภัยจากไฟฟ้าในช่วงน้ำท่วม เรามีคู่มือแนะนำ ข้อควรปฏิบัติการใช้ไฟฟ้าก่อนน้ำท่วม ขณะน้ำท่วม และหลังน้ำท่วมจากการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) มาฝาก แล้วอย่าลืมที่จะปฏิบัติตามนะครับ


    <ins>เตรียมตัวก่อนน้ำท่วม </ins>

    1.ให้เคลื่อนย้ายเครื่องใช้ไฟฟ้าไปติดตั้งในจุดที่ปลอดภัยที่น้ำท่วมไม่ ถึง และติดตั้งให้มั่นคง ป้องกันการตกหล่นลงน้ำขณะใช้งาน ไม่ว่าจะพัดลม หม้อหุงข้าวไฟฟ้า กาต้มน้ำร้อนไฟฟ้า เป็นต้น

    2.ตัดวงจรไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ติดตั้งอยู่กับที่ที่ไม่สามารถเคลื่อน ย้ายหนีน้ำได้ เช่น เครื่องปั๊มน้ำ เครื่องซักผ้า โดยการถอดปลั๊กออก

    3.ยกระดับปลั๊กไฟให้สูงขึ้นจากพื้นที่คิดว่าจะถูกน้ำท่วมประมาณ 1-1.20 เมตร หรือถ้าไม่สามารถยกระดับปลั๊กได้ ให้ตัดวงจรไฟฟ้าเต้ารับที่น้ำท่วมถึง โดยให้ช่างไฟฟ้าดำเนินการตัดวงจรไฟฟ้าให้ ไม่ควรตัดเอง

    4.ตัดวงจรไฟฟ้า โคมไฟฟ้าที่รั้วบ้าน โคมที่สนามหญ้า ไฟกริ่ง และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ที่เดินสายไฟฝังใต้ดิน และอย่าลืมติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่วที่แผงเมนสวิตช์

    <ins>ขณะน้ำท่วมยิ่งต้องระวัง</ins>

    เมื่อยืนอยู่ในน้ำหรือตัวเปียกน้ำ ไม่เปิดสวิตช์หรือเสียบปลั๊กอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งนี้อุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ย้ายหนีน้ำต้องจัดวางให้อยู่ในที่ที่ มั่นคง ป้องกันการตกหล่นลงน้ำ เช่น ปลั๊กพ่วง พัดลม หม้อหุงข้าว ฯลฯ นอกจากนี้ถ้าพบเห็นสายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าแช่อยู่ในน้ำ ห้ามเข้าใกล้หรือจับต้องเป็นอันขาด ส่วนบ้านใครที่ใช้เครื่องสูบน้ำไฟฟ้าสูบน้ำออกจากบ้าน จะต้องมิลืมที่จะติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่วป้องกันไฟฟ้าดูด

    <ins>การปฏิบัติหลังน้ำท่วม</ins>

    อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่แช่อยู่ในน้ำที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ก่อน น้ำท่วม เช่น เครื่องซักผ้า เครื่องปั๊มน้ำ เต้ารับ ฯลฯ ก่อนนำมาใช้งานต้องตรวจสอบและบำรุงรักษาโดยช่างไฟฟ้าที่ชำนาญเท่านั้น พร้อมการตรวจสอบอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าตามลำดับการตรวจดังนี้

    ลำดับแรก ให้ตรวจสอบสภาพสายไฟฟ้าว่ามีสภาพสมบูรณ์ ไม่แตกร้าว ไม่บวม และไม่เปียกชื้น หรือไม่ถูกรัดหรือบาดกับโลหะ อันดับที่ 2 แผงสวิตช์ ตรวจสอบคัตเอาต์ คาร์ตริดจ์ฟิวส์ หรือเซอร์กิตเบรกเกอร์มีสภาพสมบูรณ์ ไม่แตกร้าว และไม่เปียกชื้นหรือไม่

    จากนั้นตรวจสอบขั้วต่อสายเข้าคัตเอาต์ และเข้าคาร์ตริดจ์ฟิวส์ต้องแน่น ขั้วต่อสายเข้าเซอร์กิตเบรกเกอร์ วงจรเมนและวงจรย่อยต้องแน่น สายต่อลงดินมีสภาพสมบูรณ์ ไม่ชำรุดหรือหลุดจากหลักดิน

    ในห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก อย่าลืมตรวจสภาพสายไฟฟ้า ไฟฟ้าแสงสว่าง เต้ารับ เต้าเสียบ สายพ่วงอุปกรณ์ เครื่องเสียงวิทยุ เครื่องโทรทัศน์ โดยดูที่สายไฟฟ้าก่อนว่าสภาพสายไฟมีสภาพสมบูรณ์ ไม่แตกร้าว ไม่บวม ไม่เปียกชื้น สายไฟไม่บาดกับโลหะจับยึดสายไฟ การเดินสายไฟ สายต่อพ่วงโคมชนิดเคลื่อนที่ได้ สายวิทยุโทรทัศน์ไม่วางกีดขวางทางเดินในห้อง

    ตรวจสอบเครื่องใช้และอุปกรณ์ไฟฟ้า ตู้โชว์ ว่าหลอดไฟมีสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชิ้นในห้องมีสภาพสมบูรณ์ไม่เปียกชื้น เต้ารับและสวิตช์ชนิดติดตั้งบนผนังมีสภาพสมบูรณ์ ไม่เปียกชื้น หรือแตกเสียหายและแห้งสนิท ไม่มีน้ำขังในรูปลั๊ก

    ในห้องครัวก็ต้องตรวจสอบสภาพสายไฟฟ้า ไฟฟ้าแสงสว่าง เต้ารับ เต้าเสียบ สวิตช์ สายอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในครัว รวมถึงในห้องน้ำ ห้องเก็บของ ก็ต้องตรวจสอบด้วย

    ส่วนไฟฟ้านอกบ้าน ตรวจสอบสภาพสาย ท่อร้อยสายไฟ ท่อเกาะผนังหรือท่อฝังดินไม่ชำรุดแตกร้าว การเดินสายไฟ สายต่อพ่วงดวงโคมชนิดเคลื่อนที่ได้ ไม่วางกีดขวางทางเดิน เต้ารับและสวิตช์ชนิดติดตั้งภายนอกอาคาร มีสภาพสมบูรณ์ ไม่แตก ไม่เปียกชื้น

    <ins>ขั้นตอนการช่วยชีวิตผู้ถูกไฟดูด</ins>

    การปฏิบัติการช่วยชีวิตโดยการเป่าปาก-นวดหัวใจ กรณีผู้บาดเจ็บเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งวิธีการนี้สามารถช่วยเหลือผู้หมดสติจากการประสบอันตรายจากไฟฟ้าและการจม น้ำได้

    ขั้นตอนที่ 1 ประเมินความรู้สึกตัวของผู้ประสบอันตรายด้วยการเรียก ปลุก เขย่าตัว

    ขั้นตอนที่ 2 ขอความช่วยเหลือ ถ้าไม่มีการตอบสนอง และรีบช่วยตามขั้นตอนที่ 3 ต่อไป (ให้ขอความช่วยเหลือทันที เช่น โทรศัพท์เรียกรถพยาบาลที่หมายเลข 1669 เพราะสิ่งที่ต้องการคือเครื่องกระตุ้นหัวใจ)

    ขั้นตอนที่ 3 เปิดทางเดินหายใจ โดยให้ใช้สันมือกดหน้าผาก และใช้ 2 นิ้วแตะขากรรไกรผู้ประสบเหตุยกขึ้นให้หน้าแหงน ซึ่งการเปิดทางเดินหายใจวิธีนี้ ใช้ได้กับผู้บาดเจ็บทุกกรณี

    ขั้นตอนที่ 4 ตรวจการหายใจ เพื่อดูว่ามีการหายใจปกติหรือไม่ โดยใช้ตาดู หูฟัง แก้มสัมผัส โดยใช้เวลาตรวจ 10 วินาที

    ขั้นตอนที่ 5 ถ้าไม่หายใจให้เป่าปาก จะช่วยการหายใจ โดยการเป่าปาก 2 ครั้ง ซึ่งการเป่าปากต้องเห็นทรวงอกกระเพื่อมขึ้นทุกครั้ง ถ้าทรวงอกไม่กระเพื่อมขึ้นในการเป่าปากครั้งที่ 1 แก้ไขโดยการเปิดทางเดินหายใจใหม่ แล้วจึงเป่าปากครั้งที่ 2

    ขั้นตอนที่ 6 ช่วยการไหลเวียนโลหิต ด้วยการกดหน้าอก โดยตำแหน่งมืออยู่เหนือกระดูกลิ้นปี่ 2 นิ้วมือแล้วใช้สันมือสองข้างซ้อนกันกดลงจำนวน 30 ครั้ง ความลึกอยู่ที่ 1.5-2 นิ้วฟุต ความเร็วในการกดอยู่ที่ 100 ครั้งต่อนาที ทั้งนี้ผู้ช่วยเหลือทำการกดหน้าอกและเป่าปากต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จนกว่าผู้ป่วยจะรู้สึกตัว หรือเมื่อมีบุคลากรทางการแพทย์มารับช่วงต่อ

    ในกรณีที่เป็นเด็ก 1-8 ขวบ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปลอดภัย กฟน. แนะนำว่า หลักการทั่วไปทำคล้ายกับในกรณีของผู้ใหญ่ แต่ในการกดจะใช้มือ 1 ข้าง หรือ 2 ข้างซ้อนกันกดลงไปตรงกึ่งกลางหน้าอกประมาณราวนม 30 ครั้ง ความลึกอยู่ที่ 2 นิ้วฟุตโดยประมาณ ไม่กดไปซ้ายและขวา เพราะกระดูกซี่โครงอาจหักไปทิ่มปอดได้ ทั้งนี้น้ำหนักการกดต้องดูความหนาบางของเด็กด้วย เพราะเด็กมิใช่ผู้ใหญ่ กรณีเด็กทารก 1-8 เดือน ใช้นิ้วกลางและนิ้วนางกดบริเวณสูงกว่าราวนมขึ้นมานิด ความลึกอยู่ที่ 1.5 นิ้วฟุต

    นี่คือวิธีในการช่วยเหลือเบื้องต้นในกรณีที่ถูกไฟฟ้าดูดยามคับขัน พร้อมอย่าลืมโทร.ไปที่ 1669 ทีมแพทย์ฉุกเฉินจะรีบมาช่วยคุณ



    -http://www.posttoday.com/%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%9F%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B9%8C/%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%9F%E0%B9%8C/120942/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1-%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%83%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%94-

    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    ................................



    .
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    แสดงความรับผิดชอบอย่างไร

    ต้องรอดูครับ

    และให้ดูพรรคที่สังกัดด้วย



    .
     
  16. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ต้องจับนักการเมืองผู้เกี่ยวข้องที่สร้างบ้านแปลงเมืองไปเล่นเกมนี้ ให้เด็กๆที่เป็นแชมป์เกมนี้บริหารบ้านเมือง ผมคิดว่าน่าจะทำได้ดีกว่า..อายเด็กมัน วันนี้จัดหนักครับ สำหรับผู้ใหญ่ที่ทำตัวไม่เป็นผู้ใหญ่

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=EEPtvRFFbvc&feature=related"]SimCity 4 World Cities - Region Earth - YouTube[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=JSlGGJuZmGk&NR=1"]Sim City 4 - Realistic City Part 1 - YouTube[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=Tv_Rn_bXc3A&feature=related"]Sim City 4 - Realistic City Part 2 - YouTube[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=5Yae82orHxY&feature=related"]Sim City 4 - Realistic City Part 3 - YouTube[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤศจิกายน 2011
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    .

    คำพูดที่ออกมาพูดกัน ใช้เอกสารทั้งนั้น แทบไม่เคยลงพื้นที่จริงๆกันเลย

    เมื่อสักพักนี้ ผมขับรถไปถนนพระราม 2

    คลองต่างๆ เท่าที่เห็นหลายๆคลอง ผมว่าไม่ใช่คลอง เพราะว่า มีพืชขี้นเต็มพื้นที่

    ผมไม่เขัาใจว่า ข้าราชการประจำและข้าราชการการเมืองที่มีส่วนเกี่ยวข้อง คงนั่งแต่โต๊ะ

    มานั่งกินเงินภาษีอากรทำไม




    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    เจ้าฟ้าหญิง ตรัส ในหลวง ทรงประชวร ติดตามข่าวน้ำท่วม


    ฟ้าหญิงตรัสในหลวงประชวรติดตามข่าวน้ำท่วม (ไอเอ็นเอ็น)

    เจ้าฟ้าหญิงฯ ตรัสในหลวงทรงพระประชวร เลือดออกในกระเพาะ หลังทอดพระเนตรข่าวน้ำท่วม

    สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวผู้ประสบอุทกภัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ จังหวัดนนทบุรี ทรงเยี่ยมราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน โดยศูนย์ฯ แห่งนี้ มีผู้เข้าพัก 1,673 คน มีหน่วยงาน และอาสาสมัครมาทำอาหารเลี้ยงผู้ประสบภัยทุกวัน นอกจากนี้ มีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ มาให้บริการตรวจรักษาผู้ที่เจ็บป่วย

    ใน การนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอฯ ทรงตรัส ด้วยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลังจากที่ทอดพระเนตรสถานการณ์น้ำท่วม เห็นพสกนิกรได้รับความเดือดร้อนทำให้ทรงพระประชวร โดย คณะแพทย์ถวายการตรวจพระวรกาย ล่าสุด พบว่า ทรงเลือดออกในกระเพาะและลำไส้ ความดันตกมาก อยู่ในภาวะทรงเครียด ซึ่งขณะนี้ทางคณะแพทย์ได้ถวายการรักษาจนเป็นปกติแล้ว


    ไอ.เอ็น.เอ็น.
    [​IMG]



    -http://hilight.kapook.com/view/64677-

    http://hilight.kapook.com/view/64677

    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    10 คำถามต้องคิด!!! จะเจออะไรบ้าง...หลังน้ำท่วม



    เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม

    เชื่อว่าในขณะนี้ คนไทยทุกคนที่ไม่ว่าจะเป็นผู้ประสบภัย หรือไม่ใช่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ก็คงอยากจะเห็นน้ำลด สถานการณ์คลี่คลายกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว เพราะน้ำท่วมที่แผ่ขยายเป็นวงกว้างไปจนถึงกรุงเทพมหานครเช่นนี้ ล้วนส่งผลให้การกิน การอยู่ การดำเนินชีวิตประจำวัน แม้กระทั่งการสัญจรไปไหนมาไหน ทำได้ยากลำบากเป็นอย่างยิ่ง และสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้คนนับล้าน ๆ ชีวิต

    อย่าง ไรก็ตาม แม้ทุกคนปรารถนาจะเห็นน้ำลดระดับลง แต่หลายคนกลับลืมนึกต่อไปว่า แล้วหลังน้ำลดล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นกับคนไทย และประเทศไทยบ้าง??? เพราะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ได้สร้างความเสียหายอย่างมหาศาล โดยเฉพาะกับภาคเกษตรกรรม และภาคอุตสาหกรรม ที่จะส่งผลกระทบต่อเนื่องกันไปเป็นลูกโซ่ ไม่เว้นแม้แต่พวกเราเอง

    ลองมาตั้งคำถามไปพร้อม ๆ กับการวิเคราะห์สถานการณ์หลังน้ำลด ใน "10 คำถามหลังน้ำท่วม น้ำลดเราจะเจอกับอะไรในระยะสั้นและระยะกลาง?" จาก เว็บไซต์ Siam Intelligence เว็บไซต์ ข่าวและบทวิเคราะห์ รวมถึงการสัมภาษณ์บุคคลที่โดดเด่นในสาขาต่าง ๆ ที่น่าสนใจ เพื่อจะได้พร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับอนาคต...

    10 คำถามหลังน้ำท่วม น้ำลดเราจะเจอกับอะไรในระยะสั้นและระยะกลาง?

    1. เราจะทำอย่างไรสิ่งที่จำเป็นในยามน้ำท่วม แต่ไม่จำเป็นในยามปรกติ เช่น ทรายจำนวนมหาศาล ที่ถูกนำมาใช้ทำกระสอบทรายกั้นน้ำ และทรายนั้นมีทั้งทรายน้ำจืดและทรายน้ำเค็ม ทรายน้ำเค็มนั้นไม่สามารถนำไปใช้ในการก่อสร้างได้ หรือสุขาลอยน้ำหลักหมื่นหลัง?

    2. การทำความสะอาดและฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยที่มีวงกว้างมากขนาดนี้ จะทำอย่างไรให้สามารถใช้แรงงานในการแก้ไขสถานการณ์ได้โดยจะใช้ทรัพยากรในชุมชนและความร่วมมือของชุมชนเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหา?

    3. เราจะต้องรับมือกับสภาวะความขาดแคลนความมั่นคงทางอาหารในระยะสั้น อย่าง น้อยอีก 4 - 6 เดือนจนกว่าพื้นที่เพาะปลูกจะถูกฟื้นฟูและผลิตผลผลิตได้อย่างเพียงพอ เมื่อสินค้าขาดแคลนเราจะต้องพบกับปัญหาเงินเฟ้อตามมา รัฐบาลจะดำเนินนโยบายอย่างไรต่อไป?

    4. ภาคแรงงานจะทำอย่างไรเมื่อโรงงานจะต้องฟื้นฟูนิคมและเครื่องจักร อีกอย่างน้อย 2 - 4 เดือน ถ้า หากเอกชนแบกรับที่จะต้องจ่ายเงินเดือนไม่ไหว อาจจะนำไปสู่ปัญหาการเลิกจ้าง นำไปสู่ปัญหาอัตราการว่างงานแตะหลักแสนคน รวมไปถึงนักศึกษาที่จะจบการศึกษาในภาคการศึกษานี้จะมีตำแหน่งงานรองรับเพียง พอหรือไม่?

    5. การฟื้นฟูความเชื่อมั่นระหว่างประเทศ โดย เฉพาะภาคบริการธุรกิจท่องเที่ยวไทยซึ่งเป็นรายได้หลักจะทำอย่างไร ญี่ปุ่นหลังจากเหตุการณ์สึนามิที่ผ่านมายังไม่สามารถกระตุ้นการท่องเที่ยว ให้มาอยู่ได้ในระดับเดิม รวมไปถึงการขอความช่วยเหลือในการฟื้นฟูจากต่างประเทศจะประกอบด้วยด้านใด บ้าง?

    6. ปัญหาโรคติดต่อที่มาจากน้ำ ประเทศ เฮติเคยประสบปัญหาโรคติดต่อที่มาจากภัยพิบัติมาแล้วหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว แพทย์ไทยมีจำนวนเพียงพอหรือไม่ และมีนโยบายส่งเสริมให้ประชาชนดูแลสุขภาพด้วยตนเองอย่างไร?

    7. การฟื้นฟูเยียวยาสภาพจิตใจของผู้ประสบภัย จะมีมาตรการอย่างไรเมื่อครั้งนี้เหมือนฝันร้ายที่หลอกหลอนประชาชนเกินหลักล้านคน?

    8. ปัญหาสภาวะแวดล้อมทางธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไปซึ่งมีผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชุมชน จะทำอย่างไร เช่น กรณีน้ำเน่าที่ไหลลงทะเล น้ำจืดที่รุกพื้นที่น้ำเค็มที่กระทบต่อชาวประมง และรวมไปถึงสารเคมีที่จะถูกนำไปใช้ในการทำความสะอาดจำนวนมากและมีโอกาสไหลลง คูน้ำ หนอง และบึงต่าง ๆ?

    9. ปัญหาความขัดแย้งและความเหลื่อมล้ำของแต่ละพื้นที่ ที่เกิดการบาดหมางในช่วงน้ำท่วมและอาจนำไปสู่ "จุดแตกหัก" ทางสังคมจะรองรับอย่างไร ทั้งกรณี คนชนบท-คนเมือง หรือ คนกรุงฯ-คนฝั่งธนฯ?

    10. การสืบสวน สอบสวน ถึงต้นตอของปัญหา และถอดบทเรียนเพื่อวางแนวทางการป้องกัน แก้ไข และปรับปรุงในอนาคตจะทำอย่างไร ไม่ให้ทุก ๆ เรื่องจบไปกับสายน้ำ?

    นี่อาจเป็นเพียงบางส่วนของคำถามที่ผู้มีส่วนรับผิดชอบจะต้องถูกถามหลังจากน้ำลด SIU ทำหน้าที่เพียงรวบรวมคำถามที่จะ "ถามแทน" จากการรับฟังและมีส่วนร่วมกับการเข้าไปทำงานกับภาคประชาชนในช่วงแก้ไขปัญหา น้ำท่วม เป็นคำถามที่ถามด้วยความปรารถนาดีและให้กำลังใจกับผู้เกี่ยวข้องทุกคนที่จะ ต้องมารับโจทย์เหล่านี้ไปตอบ



    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
    Siam Intelligence


    -http://hilight.kapook.com/view/64665-

    .

    http://hilight.kapook.com/view/64665

    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    กปน. แนะ 7 ข้อ ใช้น้ำประปาในช่วงน้ำท่วม


    ข้อแนะนำการใช้น้ำประปาในภาวะน้ำท่วม (กปน.)

    ปัญหาน้ำประปาขุ่น เหลือง มีกลิ่น ยังคงเป็นเรื่องร้องเรียนในหลายพื้นที่ เพราะความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทำให้ประชาชนไม่มั่นใจในคุณภาพน้ำประปาในการใช้อุปโภคบริโภค ด้วยความห่วงใย ทางการประปานครหลวง (กปน.) จึงได้แนะนำการใช้น้ำประปาในภาวะน้ำท่วม 7 ข้อ ดังนี้

    [​IMG] 1. กรณีที่พักอาศัยของท่าน มีถังพักน้ำใต้ดินและถูกน้ำท่วม ควรหยุดใช้น้ำจากถังพักน้ำชั่วคราว แล้วเปลี่ยนไปใช้น้ำประปาจากท่อภายในที่ต่อตรงจากหลังมาตรวัดน้ำแทน เนื่องจากน้ำที่ท่วมขังอาจไหลลงไปปะปน หรือซึมเข้าไปในถังพักน้ำ ทำให้น้ำมีสภาพไม่เหมาะสมต่อการใช้ หากน้ำยังท่วมไม่ถึงถังพักน้ำของท่าน ควรเตรียมป้องกันถังพักน้ำไว้ล่วงหน้า

    [​IMG] 2. ควรระมัดระวังไม่ใช้เครื่องสูบน้ำ (ปั๊มน้ำ) จากระบบท่อที่จมอยู่ใต้น้ำเพราะหากมีท่อแตกรั่วซึ่งมองไม่เห็น เครื่องสูบน้ำ (ปั๊มน้ำ) จะดูดสิ่งสกปรกเข้าสู่ระบบท่อได้

    [​IMG] 3. กรณีก๊อกจมอยู่ในน้ำ สามารถใช้สายยางที่สะอาดต่อจากก๊อกแล้วยกแขวนให้สูงขึ้น จะสามารถใช้น้ำได้ตามปกติ

    [​IMG] 4. น้ำประปาที่ กปน.ผลิตและสูบจ่ายเข้าสู่ระบบท่อประปา ได้ผ่านการตรวจสอบจากนักวิทยาศาสตร์ของ กปน. และสถาบันที่เชื่อถือได้ โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตน้ำท่วม หน่วยงานด้านสาธารณสุข อาทิ กรมอนามัย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำการตรวจสอบคุณภาพน้ำดิบและน้ำประปา และยืนยันว่าน้ำประปาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานน้ำดื่มขององค์การอนามัยโลก ไม่เป็นอันตรายเพราะไม่มีสารพิษและเชื้อโรค

    [​IMG] 5. ขณะนี้ กปน. ได้เพิ่มปริมาณคลอรีนเพื่อฆ่าเชื้อโรค จึงอาจมีกลิ่นคลอรีนในน้ำประปาที่บ้าน ท่านสามารถลดกลิ่นคลอรีนได้โดยรองน้ำประปาใส่ภาชนะเปิดฝาและตั้งทิ้งไว้ ประมาณ 30 นาที กลิ่นคลอรีนจะระเหยไป หรืออาจนำไปต้มก่อนดื่ม

    [​IMG] 6. กรณีจำเป็นต้องอพยพออกจากที่พักอาศัย โปรดปิดประตูน้ำ (วาล์ว) ที่มาตรวัดน้ำเพื่อป้องกันกรณีท่อรั่วภายในบ้าน ทำให้สูญเสียน้ำประปาโดยไม่จำเป็น

    [​IMG] 7. ท่านสามารถแจ้งและขอรับคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่ “ศูนย์บริการประชาชน” โทร.1125 ตลอด 24 ชั่วโมง




    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    [​IMG]



    แนะวิธีง่าย ๆ แก้ปัญหาน้ำประปาขุ่นเบื้องต้น


    [​IMG]


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    ณ เวลานี้ หลายพื้นที่ในจังหวัดน้ำท่วม ต้องประสบปัญหาน้ำประปามีสีเหลืองขุ่น มีตะกอน และกลิ่นที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม ส่งผลให้ผู้ใช้น้ำเดือดร้อนจำนวนมาก บางส่วนไม่มั่นใจกับมาตรฐานความสะอาดของน้ำดื่มน้ำใช้ และมีคนจำนวนไม่น้อยที่ใช้น้ำประปาเปลี่ยนสีแล้วรู้สึกว่า มีผื่นคันขึ้นตามตัว และมีสิวขึ้น ขณะที่บางคนมีอาการท้องร่วง ท้องเสีย โดยเชื่อว่าสาเหตุเกิดจากการรับประทานน้ำประปาที่ไม่สะอาดเข้าไป

    ทั้งนี้ สาเหตุที่น้ำประปาเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนั้น อาจเกิดจากการที่การประปาฯ ต้องเร่งผลิตน้ำ เนื่องจากน้ำล้นเข้าคลองประปา ทำให้ระยะเวลาในการพักน้ำและตกตะกอนลดลง ส่วนกลิ่นที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากสภาพน้ำที่สกปรกขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้วน้ำประปาที่สะอาดตามองค์การอนามัยโลกจะต้องมีคลอรีนอยู่ที่ ประมาณ 2-5 ppm แต่น้ำประปาในช่วงนี้พบว่า มีคลอรีนหลงเหลืออยู่ในน้ำน้อยมาก หรือแทบไม่มีเลย

    อย่างไรก็ตาม นายเจริญ ภัสระ ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) ก็ได้ออกมายืนยันว่า น้ำประปานั้นยังอยู่ในระดับมาตรฐาน และมีความปลอดภัยเหมือนเดิม ซึ่งไม่เป็นอันตรายกับผู้บริโภคอย่างแน่นอน ทั้งนี้ อาจมีการเติมคลอรีนมากกว่าปกติเล็กน้อย ซึ่งหากใครยังไม่มั่นใจก็สามารถนำน้ำประปาไปเข้าเครื่องกรองน้ำ หรือน้ำไปต้มก่อนบริโภคก็ได้

    ว่าแล้วเราลองมาเช็กคุณภาพของน้ำประปาในเขตแถวบ้านคุณกันดูเลย โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ wqconline.mwa.co.th แล้วตรวจสอบดูว่า บ้านของคุณอยู่ละแวกไหน ได้รับน้ำประปาที่ส่งมาจากสถานีสูบน้ำแห่งใด และตรวจสอบตัวเลขที่ปรากฏตามภาพ โดยตัวเลขสีเขียว หมายถึง ปริมาณคลอรีนอิสระที่หลงเหลือ (โดยค่ามาตรฐานต้องอยู่ที่ประมาณ 0.2-0.5 มิลลิกรัมต่อลิตร) ส่วนตัวเลขสีเหลือง หมายถึงความขุ่น ต้องมีค่ามาตรฐานไม่เกิน 5 NTU

    ทั้งนี้ สำหรับใครที่ตรวจสอบแล้ว น้ำประปายังมีคุณภาพดี แต่ยังคงกังวลใจเรื่องคุณภาพอยู่ล่ะก็ วันนี้เราได้รวบรวมวิธีแก้ปัญหาน้ำประปาเบื้องต้น มาฝากกันค่ะ


    [​IMG] ใช้สารส้มแกว่ง ให้รองน้ำใส่ถังแล้วพักไว้ 30 นาที จากนั้นหยดสารฆ่าเชื้อคลอรีนชนิดน้ำ (หยดทิพย์) 2% แล้วใช้สารส้มแกว่ง รอสักพัก แล้วตักน้ำใส ๆ ลงถังอีกใบหนึ่ง ...ทางที่ดีควรพักน้ำไว้อย่างน้อย 1 คืนก่อนนำไปใช้

    [​IMG] ใช้ด่างทับทิมละลายในน้ำ เพื่อฆ่าเชื้อโรค แต่ด่างทับทิม ทำลายเชื้อโรคได้เพียงบางชนิด และต้องใช้เวลานานนับชั่วโมง

    [​IMG] นำน้ำที่ได้จากขั้นตอนข้างต้นไปต้มก่อนนำมาใช้ดื่ม หรือประกอบอาหาร

    [​IMG] สำหรับใครที่ผิวแพ้ง่าย เกิดผื่นขึ้นตามตัวหรือบนใบหน้า ก็แนะนำให้นำน้ำไปต้ม เพื่อล้างหน้าและอาบน้ำในช่วงนี้แทนไปก่อนจ้า


    -http://health.kapook.com/view32701.html-

    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...