พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอบใจมากครับ

    เงินพี่จะนำไปทำบุญนะครับ

    เท่าที่คิดไว้ จะไปทำบุญทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ , จะฝากเงินพี่ใหญ่ไว้ เผื่อพี่ใหญ่จะไปทำบุญที่ไหน จะได้ให้พี่ใหญ่ทำบุญให้ อีกส่วนหนึ่ง พี่ขอดูสถานที่ทำบุญก่อนครับ

    อย่าลืมส่งรายชื่อคุณพ่อ , คุณแม่ มาด้วย ส่วนชื่อผบทบ.ท่านน้องปฐม พี่จำได้แล้ว จะได้เขียนไว้ที่หน้าซองทำบุญครับ

    โมทนาบุญทุกประการครับ
    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พลิกวิกฤตน้ำท่วม "หล่อเรือไฟเบอร์" สร้างรายได้หลายหมื่นบาทต่อวัน
    -http://www.manager.co.th/SMEs/ViewNews.aspx?NewsID=9540000137285-
    </TD><TD vAlign=baseline align=right width=102>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD height=40><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>27 ตุลาคม 2554 18:42 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เรือที่หล่อจากไฟเบอร์กลาส </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ในขณะนี้ ส่งผลให้สินค้าหลายตัว เป็นที่ต้องการของตลาด โดยเฉพาะเรือ ประเภทของเรือมีหลากหลาย แต่ที่ดูเหมือนจะได้รับความนิยม และหาซื้อได้ง่าย สะดวกแก่การใช้งาน ก็ต้องยกให้กับเรือพลาสติก และเรือหล่อจากไฟเบอร์กลาส

    และถ้าเป็นเรือพลาสติกแหล่งผลิตก็มาจากโรงงานพลาสติก สามารถผลิตออกมาได้ครั้งละจำนวนมาก น้ำหนักเบา ดูแลรักษาง่าย แต่สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยแล้ว เรือที่ทำได้เรือไม้ เรือเหล็กและ เรือไฟเบอร์กลาส ซึ่งถ้าใครผ่านไปผ่านมาในย่านถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี แถวๆ สนามบินน้ำ ก็จะได้เห็นว่า มีการหล่อเรือไฟเบอร์กลาสกันริมถนนให้เห็นกันจะจะ เรียกได้ว่าจอดรถข้างทางไม่ต้องลงจากรถก็สั่งซื้อเรือกลับบ้านไปใช้กันได้เลย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>นายอนุชา หงษ์ทอง เจ้าของเรือไฟเบอร์ </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> สำหรับเรือที่หล่อขึ้นมาจากไฟเบอร์กลาส เป็นทางเลือกหนึ่งที่คนให้ความนิยม เพราะแข็งแรง ทนทาน และน้ำหนักไม่มาก แต่สำหรับผู้ประกอบการแล้ว การทำเรือออกขายในช่วงนี้ ไม่เป็นเรือเหล็ก หรือไม่ก็ต้อง เรือไฟเบอร์กลาส เพราะ ไม่ต้องใช้เครื่องไม้ เครื่องมือ หรือ เครื่องจักร เพียงแค่มีพื้นที่โล่งๆ และวัตถุดิบ อุปกรณ์ ก็สามารถทำเรือออกมาขายได้แล้ว และ “นายอนุชา หงษ์ทอง” อดีตเจ้าของอู่แต่งรถ เอ.เอช. หงษ์ทอง ไฟเบอร์พาส ผลิตอุปกรณ์แต่งรถจากไฟเบอร์ และพลาสติก เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการรายย่อยที่อาศัยวิกฤตช่วงนี้หันมาผลิตเรือไฟเบอร์กลาส

    นายอนุชา เล่าว่า จากวิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้ ทำให้ธุรกิจอุปกรณ์แต่งรถหยุดชะงักลงทันที รถที่เคยเข้ามาใช้บริการต่อวันไม่ต่ำกว่า 10 คันหายไปพร้อมกับน้ำ และด้วยเหตุนี้ วิกฤต กลายเป็นโอกาส เมื่อลูกค้าที่เคยมาทำรถกับเราเกิดปัญหาน้ำท่วม และหาซื้อเรือไม่ได้ และเห็นว่าเราหล่อไฟเบอร์กลาสได้ จึงได้ขอให้เราช่วยทำเรือไฟเบอร์ให้ แรกๆ ตั้งใจจะทำเพื่อบริการลูกค้าที่เคยมาทำรถกับเราเท่านั้น แต่ด้วยความบังเอิญเราออกมาทำริมถนน คนผ่านไปผ่านมาในย่านนั้น ได้เห็นบางคนก็เป็นผู้เดือดร้อนที่น้ำท่วมแล้ว บางคนก็เตรียมไว้เพื่อรองรับสถานการณ์น้ำท่วม ต่างก็ต้องการเรือ และมาขอให้ทำให้บ้าง เพราะเราก็พยายามจะทำออกมาและขายในราคาที่ไม่แพงมาก เพื่อช่วยเหลือคนที่เขาเดือดร้อน โดยตั้งราคาขายไว้ที่ลำละ 6,500 บาท

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>คนงานกำลังลงน้ำยาผสมสีฟ้าสียอดนิยม </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> โดยเริ่มทำมาได้ประมาณ 2 สัปดาห์ ปรากฏว่าผลตอบรับออกมาดีมาก ทำออกมาเท่าไหร่ก็ไม่พอขาย โดยในแต่ละวันมีคนสนใจมาสั่งเรือไม่ต่ำกว่า วันละ 30-40 ลำ ในขณะที่เราสามารถผลิตเรือออกมาได้เพียงวันละ 10 ลำถึง 15 ลำเท่านั้น เรียกได้ว่าทำออกมาเท่าไหร่ก็ขายหมด ดังนั้น ในช่วงนี้ อาศัยว่า ต้องสั่งทำล่วงหน้า และมารับเรือในวันถัดไป ถ้ามาซื้อเรือหน้าร้านเลยจะไม่มี

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=375 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=375>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>คนงานกำลังหุ้มใยแก้วหนึ่งในขั้นตอนการทำเรือไฟเบอร์ </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> นายอนุชา กล่าวว่า วิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้ เป็นโอกาสให้กับผมเลยที่เดียว เพราะกำไรที่ได้เป็นกอบเป็นกำ โดยยอดขายต่อวันได้วันละ 50,000 บาท ถึง 60,000 บาท กำไรที่ได้มากกว่า 50% การลงทุนเพียงแค่ซื้อวัตถุดิบที่ต้องซื้อทุกวัน ในขณะที่ราคาวัตถุดิบในช่วงนี้ไม่ได้ปรับราคาขึ้น การลงทุนครั้งแรกประมาณ 20,000 บาท ส่วนคนงานก็เป็นคนงานที่ทำงานชุดอุปกรณ์แต่งรถ ซึ่งมีความรู้เรื่องของการหล่อไฟเบอร์อยู่แล้ว ปรับมาทำเรือแทน ถ้าเราไม่ทำตรงนี้ และในขณะที่การทำชุดอุปกรณ์แต่งรถก็ไม่มีออร์เดอร์เข้ามาสุดท้ายปัญหาที่ตามมา คือ คนงานก็จะไม่มีงานทำ ผมเองก็ไม่มีรายได้ แต่พอมาทำเรือ คนงาน 12 คนก็มีงานทำตามปกติ แถมตัวผมเองก็มีรายได้มากกว่าการทำรถเสียอีก

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ขัดเพื่อให้เกิดความเรียบและสวยงาม</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ทั้งนี้ จากการทำเรือไฟเบอร์ ขายครั้งนี้ ยังช่วยให้ผมได้ปลดหนี้ ที่มีอยู่หลายแสนบาท จากการลงทุนทำชุดอุปกรณ์แต่งรถอยู่ให้หมดลงไปอีกด้วย จากวิกฤต กลายเป็นโอกาสเลยก็ว่าได้ จากเดิมผมทำอยู่ที่รังสิตคลอง 9 ด้วย ซึ่งที่นั่นก็ขายดีมากเช่นกัน เพราะเป็นเขตพื้นที่น้ำท่วม แต่ตอนหลังพื้นที่ที่เราทำก็โดนน้ำท่วมด้วยทำให้ทำงานไม่ได้ จึงได้ย้ายมารวมและทำกันที่สนามบินน้ำนี้เพียงแห่งเดียว ซึ่งพื้นที่ตรงนี้น้ำยังไม่ท่วม และอยู่ในเขตพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมเช่นกัน ยอดขายจึงไม่ได้ตกลงไปเลย ประกอบกับในช่วงนี้ เรือมีราคาแพง ขายกันในท้องตลาดอยู่ที่ลำละ 9,000 บาท แต่เราขายเพิ่งลำละ 6,500 บาท ลูกค้าจึงหันมาซื้อจากเรามาขึ้น

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>คว่ำตากแดดรอจำหน่าย </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ส่วนรูปแบบของเรือนั้น ตอนนี้มีแบบเดียว เพราะมีต้นแบบเพียงแบบเดียว ซึ่งเป็นแบบมาตรฐานที่ใช้กันทั่วไป และเป็นแบบที่ลูกค้านิยม เพราะเรือกว้าง บรรทุกคนได้ 4 คน และสิ่งของได้พอสมควร

    โทร. 08-7259-7102</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>


    .

    -http://www.manager.co.th/SMEs/ViewNews.aspx?NewsID=9540000137285-
    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ลูกค้ามาหาผมตอนเช้า มาเล่าให้ฟังว่า

    เมื่อวานนี้ตอนเช้า ญาติโทร.มา ต้องการหาเรือ ก็ไปติดต่อที่สร้างเรือแถวมหาชัย สอบถามราคา ในเวลานั้น ราคา 7,000 บาท (ก่อนหน้าเหตุอุทกภัย ร้านนี้ขายลำละ 3,500 บาท) ลูกค้าก็เลยโทร.ไปหาญาติ บอกว่า ราคา 7,000 บาท ญาติบอกว่า ขอคิดดูก่อน (เพราะว่าแพงมาก)

    ต่อมาตอนบ่าย ญาติบอกว่า แพงก็เอา ต้องการใช้ ลูกค้าผมไปที่ร้านจะไปซื้อ ปรากฎว่า ราคาเพิ่มเป็น 12,000 บาท ลูกค้าผมก็เลยโทร.ไปบอกญาติว่า ไม่ต้องซื้อแล้ว เพราะราคาลำละ 12,000 บาท

    พวกที่หากินบนความเดือนร้อน เงินที่ได้ไปเป็นเงินร้อน อยู่ได้ไม่นานหรอก แย่จริงๆ


    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    รู้ทันน้ำ คู่มืออุทกภัย เตรียมรับมือน้ำท่วม

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    รู้ทันน้ำ คู่มืออุทกภัย เตรียมรับมือน้ำท่วม รู้ทันน้ำ
    รายการทาง TPBS เปิด facebook ให้ ประชาชนได้มีโอกาศ โพสต์ถามได้
    และโทรถามได้ถึง สถานการณ์น้ำท่วม 2554 ครั้งนี้
    และยังมี เรื่องราวดีๆเช่น คู่มืออุทกภัย คู่มือรับมืออุทกภัย น้ำท่วม ให้เราได้ศึกษาเตรียมตัวรับมือ น้ำท่วม ได้ทันท่วงทีอีกด้วย

    ขอบคุณรูปจาก เฟสบุ๊ค รู้ทันน้ำ
    http://www.facebook.com/pages/รู้ทัน น้ำ/228732653857680


    -http://play.kapook.com/photo/show-118964-

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • save1.jpg
      save1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.2 KB
      เปิดดู:
      73
    • save2.jpg
      save2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      20.9 KB
      เปิดดู:
      64
    • save3.jpg
      save3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      67 KB
      เปิดดู:
      110
    • save4.jpg
      save4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      62.5 KB
      เปิดดู:
      67
    • save5.jpg
      save5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.5 KB
      เปิดดู:
      60
    • save6.jpg
      save6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45.9 KB
      เปิดดู:
      69
    • save7.jpg
      save7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      57.4 KB
      เปิดดู:
      60
    • save8.jpg
      save8.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.6 KB
      เปิดดู:
      69
    • save9.jpg
      save9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52.6 KB
      เปิดดู:
      81
    • save10.jpg
      save10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      55.4 KB
      เปิดดู:
      62
    • save11.jpg
      save11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      46.2 KB
      เปิดดู:
      62
    • save12.jpg
      save12.jpg
      ขนาดไฟล์:
      63.1 KB
      เปิดดู:
      70
    • save13.jpg
      save13.jpg
      ขนาดไฟล์:
      64.3 KB
      เปิดดู:
      57
    • save14.jpg
      save14.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.5 KB
      เปิดดู:
      70
    • save15.jpg
      save15.jpg
      ขนาดไฟล์:
      55.8 KB
      เปิดดู:
      81
    • save16.jpg
      save16.jpg
      ขนาดไฟล์:
      44.4 KB
      เปิดดู:
      63
    • save17.jpg
      save17.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.2 KB
      เปิดดู:
      79
    • save18.jpg
      save18.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.7 KB
      เปิดดู:
      66
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    แนะเส้นทางหลีกเลี่ยงน้ำท่วม เดินทางออกต่างจังหวัด <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">26 ตุลาคม 2554 16:40 น.</td> <td align="left" valign="middle">


    </td></tr></tbody></table>

    กรมทางหลวง เตือนประชาชนเลี่ยง 77 สายทาง ใน 15 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม พร้อมแนะนำเส้นทางเลี่ยงขึ้นเหนือ-อีสาน ด้านถนนสายเอเชียช่วงนครสวรรค์-ชัยนาท กลับมาใช้เส้นทางได้เป็นปกติ และศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร แจ้งการปิดเส้นทางการจราจรในกรุงเทพฯ 7 สาย และนนทบุรี 7 สาย อีกทั้งกรมทางหลวงเปิดสายด่วน 1586 ตลอด 24 ชั่วโมง ให้ข้อมูลข่าวสารสภาพเส้นทาง การจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือ

    วันชัย ภาคลักษณ์ รักษาการอธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยปัจจุบันยังส่งผลให้เส้นทางการจราจรทางบกบางส่วนถูกน้ำ ทะลักเข้าท่วม จนไม่สามารถใช้สัญจรไปมาตามปกติ ทั้งนี้ เพื่อให้การเดินทางของผู้ใช้รถใช้ถนนที่จำเป็นต้องสัญจรบนถนนทางหลวงในเขต พื้นที่ประสบอุทกภัยคล่องตัว และปลอดภัยยิ่งขึ้น กรมทางหลวง ขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนหลีกเลี่ยงที่ประสบปัญหาอุทกภัย และเส้นทางที่เจ้าหน้าที่กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งห้ามใช้เส้นทาง แล้วใช้เส้นทางที่เจ้าหน้าที่แนะนำ เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทาง

    จากสรุปรายงานการเกิดอุทกภัย กรมทางหลวง ประจำวันที่ 26 ตุลาคม 2554 มีสภาวะน้ำท่วมพื้นที่ 20 จังหวัด จำนวน 99 สายทาง ทั้งนี้ เพื่อให้การเดินทางของผู้ใช้รถใช้ถนนที่จำเป็นต้องสัญจรบนถนนทางหลวงในเขต พื้นที่ประสบอุทกภัยคล่องตัว และปลอดภัยยิ่งขึ้น กรมทางหลวง ขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนหลีกเลี่ยงเส้นทาง 77 สายทางที่ผ่านไม่ได้ ในพื้นที่ 15 จังหวัด เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางโดยประชาชนที่จะเดินทางไปยังภาค เหนือและตะวันออกเฉียงเหนือสามารถสามารถใช้ทางหลวงหมายเลข 305 รังสิต-นครนายก-สระบุรี เป็นเส้นทางเลี่ยงขึ้น/ล่อง ภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือและทางหลวงหมายเลข 9 ทางแยกต่างระดับบางปะอิน-คลองระพีพัฒน์(วงแหวนตะวันออก) ท้องที่อำเภอพยอม ที่กม. 0-4 ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 305 รังสิต-ธัญบุรี-นครนายก-ทางหลวงหมายเลข ย 3222 บ้านนา- แก่งคอย เป็นเส้นทางเลี่ยงขึ้น/ลงภาคเหนือ/ตะวันออกเฉียงเหนือ

    ส่วนประชาชนที่ไม่สามารถใช้ทางหลวงหมายเลข 9 ลาดหลุมแก้ว-ทางแยกต่างระดับบางปะอิน (วงแหวนตะวันตก) ท้องที่อำเภอลาดหลุมแก้ว ที่กม. 62-81 ได้ ให้ใช้ วงแหวนตะวันตกหมายเลข 9 บางบัวทอง-ตลิ่งชัน-ทางหลวงหมายเลข 338 ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี -ทางหลวงหมายเลข 4 นครชัยศรี-นครปฐม แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 321 นครปฐม-กำแพงแสน เป็นเส้นทางเลี่ยงขึ้น/ลงภาคเหนือแทน นอกจากนั้นหาก ทางหลวงหมายเลข 305 รังสิต-นครนายก ท้องที่อำเภอธัญบุรี ที่กม. 0-3 ใช้ไม่ได้ ให้ใช้ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์สาย 7) -บางปะกง-ใช้ทางหลวงหมายเลข 314 บางปะกง-ทางหลวงหมายเลข 304 ฉะเชิงเทรา-พนมสารคาม-กบินทร์บุรี- ปักธงชัย เป็นเส้นทางเลี่ยงขึ้น/ลงภาคตะวันออกเฉียงเหนือแทนได้

    ด้านประชาชนในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ที่ไม่สามารถใช้ทางหลวงหมายเลข 9 บางบัวทองบริเวณหน้าหมู่บ้านสมบัติบุรี-ปทุมธานี ท้องที่อำเภอบางบัวทอง ที่ กม. 45-50 เนื่องจากมีน้ำท่วมให้เลี่ยงไปใช้ถนนวงแหวนตะวันตกหมายเลข 9 บางบัวทอง-ตลิ่งชัน-ทางหลวงหมายเลข 338 ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี-ทางหลวงหมายเลข 4 นครชัยศรี-นครปฐม แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 321 นครปฐม-กำแพงแสน เพื่อเป็นเส้นทางเลี่ยงขึ้น/ลงภาคเหนือแทน และหากประชาชนที่เคยใช้เส้นทางทางหลวงหมายเลข 340 บางบัวทอง-ลาดบัวหลวง ท้องที่อำเภอบางบัวทอง ที่กม. 25-31 และขณะนี้ไม่สามารถใช้เส้นทางดังกล่าวได้เนื่องจากน้ำท่วมปริมาณมากนั้น ให้เปลี่ยนมาใช้ถนนวงแหวนตะวันตกหมายเลข 9 บางบัวทอง-ตลิ่งชัน-ทางหลวงหมายเลข 338 ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี-ทางหลวงหมายเลข 4 นครชัยศรี-นครปฐม แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 321 นครปฐม-กำแพงแสน เป็นเส้นทางเลี่ยงขึ้น/ลงภาคเหนือแทน ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางของผู้ใช้รถใช้ถนน ที่จำเป็นต้องสัญจรบนถนนทางหลวงในเขตพื้นที่ประสบอุทกภัย ขอให้โปรดใช้ความระมัดระวังในการใช้เส้นทางเพิ่มขึ้นด้วย และให้สอบถามเส้นทางก่อนเดินทางอย่างน้อย 1 ชั่วโมง หรือทุกระยะในการเดินทาง

    กู้สายเอเชียกลับมาเป็นปกติช่วงนครสวรรค์-ชัยนาท

    สำหรับสภาพการจราจรบริเวณสี่แยกสะพานเดชาติวงศ์ ถนนสายเอเชีย หลังเปิดใช้ได้เป็นปกติแล้วทั้ง 2 ฝั่ง ปริมาณรถหนาแน่น ทำให้การจราจรติดขัดบางช่วง แต่เคลื่อนตัวได้ตามสัญญาณไฟ ขณะที่เทศบาลนครสวรรค์ เร่งเก็บกวาดขยะจากน้ำท่วม โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจหลักของเมือง ทำให้การค้าขายและการดำเนินธุรกิจ กลับมาเดินหน้าต่ออีกครั้ง

    ส่วนระดับน้ำท่วมถนนชัยนาท-ตาคลี จ.ชัยนาท ลดลงกว่า 50 เซนติเมตร ทำให้สามารถใช้เส้นทางดังกล่าวได้แล้ว แต่ยังต้องให้ทางรถที่สวนมาเป็นระยะ เนื่องจากมีเต็นท์ผู้ประสบภัยอยู่บนถนน

    ปิดเส้นทางการจราจรในกรุงเทพฯ และนนทบุรี

    ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) รายงานว่าในวันนี้(26ต.ค.)มีถนนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำเป็นต้องปิดการจราจรรวม 7 เส้นทาง เนื่องจากเกิดน้ำท่วมขังหลายสาย แบ่งเป็นทางด้านทิศเหนือ 5 สาย ส่วนด้านทิศตะวันตกมี 2 สาย ได้แก่ 1. ถนนวิภาวดี-รังสิต จากสุดเขตกรุงเทพมหานคร ถึงสะพานกลับรถแยกหลักสี่ 2. ถนนพหลโยธิน จากสุดเขตกรุงเทพมหานคร ถึงตลาดสะพานใหม่ 3. ถนนกำแพงเพชร 6 จากสุดเขตกรุงเทพมหานคร ถึงสถานีรถไฟดอนเมือง 4. ถนนสรงประภา จากแยกวัดสีกัน ถึงแยกประชาอุทิศ 5. ถนนเวฬุวนาราม เชื่อมต่อซอยแจ้งวัฒนะ 14 ตลอดเส้นทาง 6. ถนนจรัญสนิทวงศ์ ขาเข้า ตั้งแต่ซอยจรัญสนิทวงศ์ 84-72 ขาออกจากซอยจรัญสนิทวงศ์ 75/1-89 7. ถนนสิรินธร ขาเข้าจากต่างระดับสิรินธร ถึงซอยสิรินธร 2 ขาออกตั้งแต่ซอยสิรินธร 7 บริเวณห้างตั้งฮั่วเส็ง ถึงต่างระดับสิรินธร

    ด้านสำนักงานบำรุงทางนนทบุรี แจ้งว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมหนักใน อ.บางใหญ่ บางบัวทอง บางกรวย และไทรน้อย ทำให้ถนนหลายสาย รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ สำนักงานบำรุงทางนนทบุรี กรมทางหลวง จึงได้ปิดการจราจร 7 เส้นทาง ประกอบด้วย ถนนบางคูวัด - บางบัวทอง ตั้งแต่แยกบางคูวัด - บางบัวทอง ทางหลวงหมายเลข 346 ตอน กม. 20 + 480 - (ต่อเขตแขวงฯปทุมธานี) - ทางหลวงหมายเลข 340 ระหว่าง กม. 20 + 480 - กม. 32 + 537 ถนนปทุมธานี - บางเลน ตั้งแต่ต่างระดับลาดหลุมแก้ว - แยกนพวงศ์ ทางหลวงหมายเลข 3215 ตอน ต่อทางของอำเภอบางกรวย - ต่อเขตเทศบาลตำบลราษฎร์นิยม ระหว่าง กม.21 + 560 - กม. 28 + 000 (สะพานคลองเจ๊ก) ถนนบางกรวย - ไทรน้อย ตลอดทั้งสาย ทางหลวงหมายเลข 3901 ทางขนานฝั่งขาออก ถนนกาญจนาภิเษก ทางหลวงหมายเลข 3902 ทางขนานฝั่งขาเข้า ถนนกาญจนาภิเษก

    ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ตอน กม. 30 + 600 (ต่อเขตสำนักงานบำรุงทางธนบุรี)-บางบัวทอง ระหว่าง กม.30 + 600-กม. 58 + 869 ถนนกาญจนาภิเษก ตั้งแต่คลองมหาสวัสดิ์ — ต่างระดับลาดหลุมแก้ว ทางหลวงหมายเลข 340 ตอนบางบัวทอง (กม.25 + 659) - กม. 54 + 100 (ต่อเขตแขวงฯ กาญจนบุรี - สุพรรณบุรีที่ 2 ) ระหว่าง กม. 25 + 659 - กม.54 + 100 ถนนบางบัวทอง - สุพรรณบุรี ตั้งแต่บางบัวทอง - สี่แยกนพวงศ์ ทางหลวงหมายเลข 345 ตอน สะพานนนทบุรี - บรรจบทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 (บางบัวทอง) ระหว่าง กม. 0 + 000 - กม. 10 -547

    เบอร์โทร. สอบถามเส้นทางการจราจร

    สำหรับประชาชนที่ต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง การจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถโทรศัพท์ไปได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง ตลอด 24 ชั่วโมง 1586 ตำรวจทางหลวง ตลอด 24 ชั่วโมง 1193 สำนักงานประชาสัมพันธ์ กรมทางหลวง 0-2354-6530, 0-2354-6668-76 ต่อ 2014, 2031 ศูนย์บริหารงานอุบัติภัย สำนักบริหารบำรุงทาง 0-2354-6551 ศูนย์บริการข้อมูลทางหลวงพิเศษ 0-2533-6111 หน่วยกู้ภัย มอเตอร์เวย์ กรุงเทพ - ชลบุรี (สายใหม่) 0-3857-7852 - 3 หน่วยกู้ภัยวงแหวนรอบนอกด้านตะวันออก (บางปะอิน - บางพลี) 0-2509-6832ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) 1111 กด 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) 1784 สายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146 สายด่วนกรมชลประทาน 1460


    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000136724-

    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    จราจรแจ้งปิดถนน 14 เส้นทางน้ำท่วมขัง! <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ทีมข่าวอาชญากรรม</td> <td class="date" align="left" valign="middle">28 ตุลาคม 2554 13:42 น.</td></tr></tbody></table>

    กองบังคับการตำรวจจราจร ประกาศแจ้งปิดการจราจรถนนใน กทม.ที่มีน้ำท่วมขังเพิ่มอีก 4 เส้นทาง ถนนเลียบคลองสอง ถนนจันทรุเบกษาทั้งขาเข้าขาออก และถนนศาลาธรรมสพน์ตลอดสาย โดยจากเดิมแจ้งปิดถนนไปแล้ว 10 เส้นทาง รวมทั้งสิ้น 14 เส้นทาง

    วันนี้ (28 ต.ค) กองบังคับการตำรวจจราจร กองบัญชาการตำรวจนครบาล ประกาศปิดเส้นทางในกรุงเทพฯ เพิ่มเติม รวมทั้งสิ้น 14 เส้นทาง โดยเส้นทางที่ปิดเพิ่มอีก 4 เส้นทาง จากเดิมปิดแล้ว 10 เส้นทาง คือ ถนนเลียบคลองสอง ตั้งแต่แยกพลาธิการกองทัพอากาศ ถึงแยกสะพานปูน ทั้งขาเข้า-ออก ถนนจันทรุเบกษา ตั้งแต่แยกโรงเรียนนายเรืออากาศ ถึงแยกจันทรุเบกษา ทั้งขาเข้า-ออก ถนนอุทยาน ปิดตั้งแต่แยกอุทยานถึงแยกพุทธมณฑลสาย 3 ทั้งขาเข้า-ออก และถนนศาลาธรรมสพน์ ตลอดสาย

    ส่วนเส้นทางที่ปิดไว้เดิม 10 เส้นทาง มีการขยายจุดปิดเนื่องจากน้ำเอ่อท่วมเพิ่มขึ้น ได้แก่ ถนนพหลโยธิน ปิดถึงหน้าห้างบิ๊กซีสะพานใหม่ ถนนกำแพงเพชร 6 ปิดถึงแยกเคหะทุ่งสองห้อง ถนนสงค์ประภา ตั้งแต่แยกศรีสมานถึงแยก กศบ. ถนนจรัญสนิทวงศ์ ตั้งแต่แยกบางพลัดถึงสะพานพระราม 7 ถนนบรมราชชนนี ตั้งแต่เชิงสะพานพระปิ่นเกล้าถึงต่างระดับสิรินธร และถนนบรมราชชนนี ตั้งแต่แยกพุทธมณฑลสาย 3 ถึงแยกพุทธมณฑลสาย 4

    สำหรับเส้นทางที่ปิดเหมือนเดิม ได้แก่ ถนนวิภาวดีรังสิต ปิดตั้งแต่แยกหลักสี่ ถนนเวฬุวนาราม เชื่อมต่อซอยแจ้งวัฒนะ 14 ตลอดสาย ถนนสิรินธร ตั้งแต่แยกบางพลัดถึงต่างระดับสิรินธร และถนนอรุณอัมรินทร์ ตั้งแต่แยกอรุณอมรินทร์ถึงโรงพยาบาลศิริราช


    -http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9540000137535-

    .
     
  8. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ขอบพระคุณครับพี่ท่าน ขอโมทนาบุญทุกประการครับพี่ท่าน
     
  9. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    อุทกภัยรึภัยพิบัติทั้งหลายคงไม่ร้ายแรงไปกว่ากิเลสที่มันอยู่ในตัวคนหรอกครับพี่ท่าน มันไม่มีความปราณี มันไม่มีคำว่าน้ำใจ มันไม่มีคำว่าเมตตา
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ผ่าเส้นทาง"ตะวันตก" ภารกิจผันน้ำ4พันล."ฝืด"

    [​IMG]


    หมายเหตุ - เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม จากสถานการณ์มวลน้ำระลอกล่าสุด คาดว่ามีปริมาณราว 400 ล้านลูกบาศก์เมตร บริเวณพื้นที่รังสิต-ดอนเมือง กำลังจ่อทะลักเข้าพื้นที่ใจกลางของกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นศูนย์กลางของธุรกิจ การค้า และการบริหารราชการของประเทศ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) เร่งผันน้ำลงสู่อ่าวไทย 3 เส้นทางหลัก คือ 1.แม่น้ำเจ้าพระยา 2.ฝั่งตะวันตกด้านแม่น้ำท่าจีน 3.ฝั่งตะวันออกด้านแม่น้ำบางปะกง

    ทีมข่าว "มติชน" เกาะติดการแก้วิกฤตน้ำท่วมครั้งใหญ่ในรอบ 5 ทศวรรษ ด้วยการตะลุยดูเส้นทางผันมวลน้ำก้อนมหึมาที่จ่ออยู่เหนือกรุงเทพมหานครทาง ด้านประตูระบายน้ำ และสถานีสูบน้ำฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเส้นทางการระบายน้ำไปยังแม่น้ำท่าจีนลงสู่ทะเลด้าน จ.สมุทรสาคร

    ทีมข่าว "มติชน" ใช้เส้นทางด่วนพระราม 2 เข้าถนนเอกชัย สู่ตัวเมืองมหาชัย ผู้คนที่นั่นยังใช้ชีวิตเป็นปกติ ตลาดอาหารทะเลยังคงเปิดขาย โรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งเดินเครื่องผลิตสินค้า ไม่พบเห็นการก่อกระสอบทรายหรือคันดินกั้นบ้านเรือนเหมือนชาว กทม.

    สอบถาม "จรินทร์ สงวนทรัพย์" ชาวมหาชัย ได้ความว่า รู้ข่าวจะมีการผันน้ำมาทางสมุทรสาคร คิดว่าถ้าน้ำมาคงต้องยอม เพราะจะให้น้ำท่วมกรุงเทพฯไม่ได้

    "ถ้า น้ำท่วมที่มหาชัยอาจสูงแค่ระดับหัวเข่าหรือน่อง ไม่นานก็ลดลง เพราะอยู่ติดทะเลระบายน้ำได้ง่าย ผมคิดว่าควบคุมสถานการณ์ได้ สำหรับตัวเองไม่ได้ตื่นตัวหรือกลัวอะไรแต่ก็ไม่ประมาท เตรียมพร้อมรับมือโดยขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงประมาณ 1 เมตร สำหรับน้ำท่วมเมืองมหาชัย เกิดขึ้นเป็นปกติตามสถานการณ์น้ำขึ้นน้ำลง แต่ท่วมขังไม่นานเท่าไหร่" จรินทร์กล่าว

    ทีมข่าว "มติชน" สำรวจประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำคลองมหาชัย ซึ่งมีประตู 6 บานสำหรับระบายน้ำ และเครื่องสูบน้ำขนาด 3 ลบ.ม.ต่อวินาที จำนวน 12 เครื่อง

    จากนั้นเดินทางทวนแม่น้ำท่าจีน โดยใช้ถนนสวนส้มเลียบคลองสวนส้ม มาถึงตัว อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีสูบน้ำคลองภาษีเจริญ พบว่าเจ้าหน้าที่กำลังประชุมอย่างเคร่งเครียดเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ และจากการสำรวจพบว่าน้ำในคลองภาษีเจริญตอนนี้ยังอยู่ในระดับปกติ ต่ำกว่าตลิ่ง 1.5 เมตร เนื่องจากน้ำทางเหนือยังผันมาไม่ถึง อย่างไรก็ตาม มีการเตรียมพร้อมผันน้ำออกแม่น้ำท่าจีน มีเครื่องสูบน้ำ 3 ลบ.ม./วินาที จำนวน 6 เครื่อง และติดตั้งเพิ่มอีก 5 เครื่อง รวมทั้งสิ้น 11 เครื่อง


    "พิสิษฐ์ พิบูลย์สิริ" ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสมุทรสาคร กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในสมุทรสาครตอนนี้ ประเมินสถานการณ์เป็น 3 ระดับ คือ 1.เฝ้าระวัง-รับฟังข่าวสาร 2.ยกของขึ้นที่สูง และ 3.การอพยพ สำหรับในพื้นที่คลองภาษีเจริญ ช่วง อ.กระทุ่มแบน ตอนนี้อยู่ในขั้นที่ 2 โดยเริ่มมีการผันน้ำจากทางเหนือเข้าสู่คลองแล้ว เป็นน้ำที่รับออกมาจากคลองมหาสวัสดิ์ ผ่านคลองทวีวัฒนา โดยจะผันน้ำออกได้หลายเส้นทาง อาทิ ลงสู่แม่น้ำท่าจีน, คลองสี่วาตากล่อม, คลองแคลาย, คลองบางน้ำจืด, คลองน้อย, คลองมะเดื่อ ฯลฯ รวมแล้วกว่า 30 สายที่จะลงสู่คลองมหาชัย และจะผันออกสู่แม่น้ำท่าจีนตรงปากคลองมหาชัยอีกที

    "สำหรับ สถานการณ์น้ำท่วมที่ชาวกระทุ่มแบนเป็นห่วง ตอนนี้ได้ประสานงานกับทางเทศบาลรายงานให้ทราบ คิดว่าน่าจะระบายน้ำทั้งระบบได้ทัน แต่อยากให้ประชาชนช่วยเฝ้าระวังสถานการณ์ ขอความร่วมมือละเว้นการทิ้งสิ่งปฏิกูลลงคลอง เพราะอาจขวางทางน้ำ หากน้ำท่วมจริงคิดว่าสามารถระบายน้ำได้เร็ว เพราะว่าอยู่ติดปากอ่าวไทย" พิสิษฐ์กล่าว

    ทีมข่าว "มติชน" สำรวจในตัว อ.กระทุ่มแบน พบว่าที่ทำการเทศบาลเมืองกระทุ่มแบน มีประชาชนและเจ้าหน้าที่กำลังกรอกทรายใส่กระสอบ สำหรับเตรียมรับน้ำท่วม นอกจากนี้ ในตลาดกระทุ่มแบน ยังพบว่าร้านค้าหลายร้านการก่อกำแพงอิฐบล็อก และกระสอบทรายสูงเกือบ 50 เซนติเมตร เพื่อปิดทางน้ำ ชาวกระทุ่มแบนตื่นตัวกับสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง

    เมื่อสอบถามจาก "พยงค์ เข็มวัน" ชาวสวนในกระทุ่มแบน กล่าวว่า ติดตามข่าวสารน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง รู้สึกกลัวมาก เนื่องจากเป็นบ้านสวนชั้นเดียวอยู่ติดคลอง จึงทำแนวกระสอบทรายกั้นรอบบ้านและยกของขึ้นที่สูง นอกจากนี้ยังมีเรือเตรียมไว้ด้วย ที่บ้านอยู่กันสามคน พ่อ แม่ ลูกวัย 5 ขวบ มีการตุนอาหารไว้เหมือนกัน นอกจากนี้เริ่มมีการฝากสิ่งของไว้ที่โรงเรียนต่างๆ โดยจะมีเจ้าหน้าที่เฝ้าทรัพย์สินให้ และทางเทศบาลยังประกาศสถานการณ์น้ำให้ทราบทุกวันๆ ละ 3 รอบ ทั้งยังเดินเคาะบอกถึงประตูบ้านอีกด้วย

    "สำหรับตัวเอง รู้สึกกลัวมาก เพราะเป็นบ้านชั้นเดียว ก็คุยกันกับแฟนว่าถ้าน้ำสูงมากก็คงเอาชีวิตรอดไว้ก่อน" พยงค์กล่าวด้วยสีหน้าเศร้าสลด

    ขณะที่ทีมข่าว "มติชน" กำลังเดินทางออกจากกระทุ่มแบน ปรากฏว่ามีฝนตกหนัก โดยใช้เส้นทางถนนพุทธมณฑลสาย 4 ผ่านหน้ามหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสายศาลายา พบว่าบนถนนมีน้ำท่วมขัง การจราจรติดขัด นอกจากนี้ทางมหาวิทยาลัยสร้างคันดินกั้นโดยรอบพื้นที่มหาวิทยาลัยสูงกว่า 2 เมตร

    ทีมข่าว "มติชน" เดินทางไปยังโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระพิมล ต.ลานตากฟ้า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีสูบน้ำขนาดใหญ่ของคลองมหาสวัสดิ์ โดยใช้ถนนเลียบทางรถไฟ ซึ่งก่อนเข้าสู่โครงการมีน้ำขังถนนความสูง 30 เซนติเมตร เป็นระยะทางยาว

    "ชัยพร พรหมสุวรรณ" ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระพิมล เปิดเผยว่า ระดับน้ำในพื้นที่ของโครงการ โดยเฉพาะในคลองมหาสวัสดิ์ตอนนี้ เป็นมวลน้ำที่เอ่อล้นมาจาก อ.สามโคก จ.ปทุมธานี และ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ไหลมารวมกันเข้าสู่คลองมหาสวัสดิ์ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา และระดับน้ำยังสูงขึ้นเรื่อยๆ เฉลี่ยวันละ 15 เซนติเมตร กระทั่งตอนนี้ ระดับน้ำสูงเท่ากับคันกั้นน้ำของ กทม.แล้ว อีกทั้งมวลน้ำนี้ยังทำให้คันกั้นน้ำแตก 2 จุดตามที่เป็นข่าวคือ บริเวณสถานีรถไฟศาลาธรรมสพน์ และวัดปุรณาวาส จนทำให้ชุมชนแถวนั้นได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม

    "สำหรับน้ำจาก ฝั่งตะวันตกของ กทม. ที่อยู่เหนือคลองมหาสวัสดิ์ตอนนี้ สามารถระบายออกสู่ทะเลได้ 3 ทาง คือ 1.ลงสู่แม่น้ำท่าจีน ที่สถานีสูบแห่งนี้ ซึ่งมีเครื่องสูบน้ำ 3 ลบ.ม/วินาที จำนวน 6 เครื่อง และติดตั้งเพิ่มอีก 5 เครื่อง 2.เปิดประตูระบายน้ำฉิมพลี เพื่อให้น้ำจากคลองมหาสวัสดิ์ ไหลลงสู่คลองทวีวัฒนา ไหลต่อสู่คลองภาษีเจริญ แล้วระบายให้ทางมหาชัยทำการผันน้ำลงสู่อ่าวไทยต่อไป โดยตอนนี้เปิดประตูสูง 1.8 เมตรแล้ว และน้ำไหลแรงมาก เพราะระดับต่างกันกว่า 1 เมตร และ 3.ทางแม่น้ำเจ้าพระยา" ชัยพรกล่าว

    ชัยพรกล่าวอีกว่า สำหรับน้ำที่ระบายจากคลองมหาสวัสดิ์สู่คลองทวีวัฒนาและสู่คลองภาษีเจริญ ตอนนี้มีการเร่งระบายน้ำให้เร็วที่สุด ด้วยการติดเครื่องผลักดันน้ำ 4 จุด และเรือผลักดันน้ำของกองทัพเรืออีก 2 ลำ ช่วยดันน้ำ สำหรับ แนวคันกั้นน้ำของคลองมหาสวัสดิ์ที่พังลงตอนนี้ ทางเจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมอย่างเต็มที่ เพื่อให้น้ำกลับมาไหลตามระบบ แต่เนื่องจากมีมวลน้ำปริมาณมากเหลือเกิน

    สถานการณ์น้ำตอนนี้ ชัยพรคาดว่าจะกลับมาเป็นปกติหลังจากผ่านปีใหม่ไปแล้ว

    ระบบ ระบายน้ำทางด้านตะวันตก มีปัญหาหลายประการ เช่น น้ำที่ผันลงสู่แม่น้ำท่าจีนไม่สามารถระบายสู่อ่าวไทยได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเเม่น้ำท่าจีนมีความคดเคี้ยวมาก อีกทั้งบางตอนยังตื้นเขิน นอกจากนี้ยังไม่มีคลองระบายน้ำที่เชื่อมกับคลองมหาสวัสดิ์ ดึงน้ำลงไปทางใต้ มีคลองเพียงเส้นเดียวเท่านั้นคือ คลองทวีวัฒนา แต่ก็พบปัญหาอีกว่า ตอนปลายของคลองทวีวัฒนาที่เชื่อมกับคลองภาษีเจริญที่อยู่ในเขต กทม.นั้น มีประชาชนรุกล้ำพื้นที่คลองจนทำให้ปลายทางของคลองแคบและตื้นเขิน น้ำไม่สามารถระบายได้อย่างที่ต้องการ ต่างกับช่วงต้นและกลางของคลองมหาสวัสดิ์ที่มีความกว้างค่อนข้างมาก

    ชัยพรกล่าวทิ้งท้ายว่า สถานการณ์ น้ำท่วมครั้งนี้จะเป็นบทเรียนให้ทุกคนได้คิดถึงระบบการระบายน้ำและความสำคัญ ของคลองสาขาต่างๆ ที่สามารถช่วยผันน้ำ ปกติน้ำทางแม่น้ำท่าจีนไม่เคยเอ่อท่วมอย่างนี้ เพราะสามารถไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้ แต่ตอนนี้ชุมชนและโรงงานอุตสาหกรรมต่างสร้างขวางทางน้ำ จึงเกิดสถานการณ์อย่างที่เป็นอยู่

    สำหรับการผันน้ำออกสู่ทะเล ทางฝั่งตะวันตกของ กทม. มวลน้ำที่อยู่ทางเหนือ กระจายอยู่ตามที่ต่างๆ ทั้งปทุมธานีและนนทบุรีมีประมาณ 4,000 ล้าน ลบ.ม. จากเว็บไซต์ของกรมชลประทานเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ระบุไว้ว่า ศักยภาพในการผันน้ำลงสู่อ่าวไทยทั้งระบบทางฝั่งตะวันตกทั้งลงแม่น้ำท่าจีน แม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ที่ 32.18 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน

    "ชาว กทม.นนทบุรี-ปทุมธานี ที่จมมิดใต้บาดาลอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งคนกรุงฝั่งธนบุรีที่น้ำกำลังจ่อคิวท่วม ลองบวกลบคูณหารเอาเองแล้วกันว่าจะต้องใช้เวลาผันน้ำก้อนใหญ่ขนาดนี้กี่วัน!"




    [FONT=Tahoma,]หน้า 2,มติชนรายวัน ฉบับวันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม 2554[/FONT]

    -http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1319774061&grpid=01&catid=&subcatid=-

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    แนวตลิ่งริมเจ้าพระยาเสี่ยงพังทลาย


    [​IMG]


    [​IMG]




    นักวิจัยปฐพีฯชี้แนวตลิ่งริมเจ้าพระยาเสี่ยงพังทลาย จากบางเขนถึงพระโขนง

    เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ศ.สุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ จากศูนย์วิจัยและพัฒนาวิศวกรรมปฐพีและฐานราก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แจ้งผลการวิเคราะห์ความแข็งแรง และแนวตลิ่งที่เสี่ยงต่อการพังทลาย สูง ถึง สูงมาก ในแนวตลิ่งด้านตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ช่วงคลองบางเขน ไล่มาจนถึง คลองพระโขนง โดยแบ่งออกเป็น 5 ช่วง ได้แก่ 1. แนวคลองบางเขน ถึง เทเวศร์ 2. แนวสะพานกรุงเทพ ถึง สะพานพระราม 9 3. แนวสะพานพระราม 9 ถึง คลองพระโขนง 4. แนวสะพานสาธร ถึง สะพานกรุงเทพ 5. แนวเทเวศร์ถึงสะพานสาทร
    ศ.สุทธิศักดิ์ กล่าวว่า ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กับประชาชนที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้กับแนวตลิ่งที่วิเคราะห์มาแล้วว่ามีความ เปราะบาง และเสี่ยงสูงที่จะเกิดพังทลาย จนอาจเกิดน้ำบ่าเข้าท่วมพื้นที่อย่างรวดเร็วจากมวลน้ำมหาศาล เตรียมตัวที่จะพร้อมรับสถานการณ์ และอพยพ รวมถึงการเตรียมแผนในการซ่อมแซมแก้ไข ซึ่งจากประสบการณ์การพังทลายของเขื่อนหรือแนวป้องกันน้ำ ทั้งที่บริเวณโรงเรียนราชินีบน บริเวณจรัญสนิทวงศ์ ทางด้านตะวันตก พบว่ากระแสน้ำแรงมาก ซ่อมแซมแก้ไขได้ยาก และเกิดผลกระทบวงกว้าง

    ทางด้านศ.นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติกล่าวว่า สภาวิจัยฯจะนำข้อมูลนี้เสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยตรงด้วย



    -http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=354&contentID=172700-

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • bangkan.jpg
      bangkan.jpg
      ขนาดไฟล์:
      129.9 KB
      เปิดดู:
      649
    • sathon.jpg
      sathon.jpg
      ขนาดไฟล์:
      110.4 KB
      เปิดดู:
      634
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    ฝั่งธนฯ ฝั่งตะวันออก ทำใจ น้ำท่วมไม่น้อยกว่า 1 เดือน <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">28 ตุลาคม 2554 23:45 น.</td> <td align="left" valign="middle">


    </td></tr></tbody></table>

    ศปภ. เผยถ้ารักษา กทม.ชั้นในไว้ได้ น้ำจะท่วม 0-1 เมตร นาน 15 วัน ถ้าคันกั้นน้ำทางเหนือแตกจะท่วม สูง 0.5-1.5 เมตร นาน 15-30 วัน ถ้าคันกั้นแม่น้ำเจ้าพระยาแตก จะท่วมสูง 0.5-2.5 เมตร นาน 15-30 วัน ส่วนฝั่งธนฯ และฝั่งตะวันออกต้องทำใจ น้ำจะท่วมนาน 1 เดือน ถึง 1 เดือนครึ่ง

    เมื่อเวลา 22.30 น. ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. เผยแพร่ผ่านเว็ปไซต์ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เรื่อง กรณีศึกษาแนวโน้มระดับน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร โดย คณะผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำของศปภ. กรณีที่กั้นน้ำสำเร็จเป็นไปตามแผน กทม.ชั้นใน น้ำจะท่วมสูง 0-1 เมตร นาน 15 วัน กรณีคันกั้นน้ำตอนเหนือแตก กทม.ชั้นใน น้ำจะท่วมสูง 0.5-1.5 เมตร นาน 15-30 วัน กรณีคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาแตก กทม.ชั้นใน น้ำจะท่วมสูง 0.5-2.5 เมตร นาน 15-30 วัน

    ทั้งนี้ ไม่ว่าเกิดกรณีใด ฝั่งตะวันตก (13 เขต ฝั่งธนบุรี) ระดับน้ำอาจสูง 0.5-1.5 เมตร ท่ามนาน 30 วัน ขณะที่ฝั่งตะวันออกของกทม. ระดับน้ำอาจสูง 1.0-2.0 เมตร ท่วมนาน 30-45 วัน

    [​IMG]


    กรณีที่ 1 – กรณีที่มาตรการในการกั้นน้ำของรัฐบาลสำเร็จลุล่วง และเป็นไปตามที่วางไว้ และ มวลน้ำในเขตพระนครศรีอยุธยา (วังน้อย บางปะอิน) ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

    ฝั่งตะวันตก (13 เขต ฝั่งธนบุรี) ระดับน้ำอาจสูงประมาณ 0.5-1.0 เมตร ระยะเวลาท่วมประมาณ 30 วัน สำหรับเขตที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ระดับน้ำอาจสูงประมาณ 1.0-1.5 เมตร

    ฝั่งตะวันออกของกทม. นอกแนวคันกั้นน้ำตามโครงการพระราชดำริ 4 เขต ระดับน้ำอาจสูงประมาณ 1.0-1.5 เมตร ระยะเวลาท่วมประมาณ 30-45 วัน สำหรับเขตที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ระดับน้ำอาจสูงประมาณ 1.5-2.0 เมตร

    กทม. ชั้นในแนวคันกั้นน้ำตามโครงการพระราชดำริ ระดับน้ำอาจสูงประมาณ 0.0-0.5 เมตร ระยะเวลาท่วมประมาณ 15 วัน สำหรับเขตที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ระดับน้ำอาจสูงประมาณ 0.5-1.0 เมตร


    [​IMG]

    กรณีที่ 2– กรณีคันกั้นน้ำตอนเหนือแตก (ได้แก่คันกั้นน้ำบริเวณเทศบาลหลัก 6, คลองหกวาตอนล่าง, คลองรังสิตคลองที่ 1 ถึงคลองที่ 6, และบริเวณหลัก 6 คูคด)

    ฝั่งตะวันตก (13 เขต ฝั่งธนบุรี) ระดับน้ำอาจสูงประมาณ 0.5-1.0 เมตร ระยะเวลาท่วมประมาณ 30 วัน สำหรับเขตที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ระดับน้ำอาจสูงประมาณ 1.0-1.5 เมตร

    ฝั่งตะวันออกของกทม. นอกแนวคันกั้นน้ำตามโครงการพระราชดำริ 4 เขต ระดับน้ำอาจสูงประมาณ 1.0-1.5 เมตร ระยะเวลาท่วมประมาณ 30-45 วัน สำหรับเขตที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ระดับน้ำอาจสูงประมาณ 1.5-2.0 เมตร

    กทม. ชั้นในแนวคันกั้นน้ำตามโครงการพระราชดำริ ระดับน้ำอาจสูงประมาณ 0.5-1.0 เมตร ระยะเวลาท่วมประมาณ 15-30 วัน สำหรับเขตที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ระดับน้ำอาจสูงประมาณ 1.0-1.5 เมตร


    [​IMG]

    กรณีที่ 3 – กรณีคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาแตก

    ฝั่งตะวันตก (13 เขต ฝั่งธนบุรี) ระดับน้ำอาจสูงประมาณ 0.5-1.0 เมตร ระยะเวลาท่วมประมาณ 30 วัน สำหรับเขตที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ระดับน้ำอาจสูงประมาณ 1.0-1.5 เมตร

    ฝั่งตะวันออกของกทม. นอกแนวคันกั้นน้ำตามโครงการพระราชดำริ 4 เขต ระดับน้ำอาจสูงประมาณ 1.0-1.5 เมตร ระยะเวลาท่วมประมาณ 30-45 วัน สำหรับเขตที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ระดับน้ำอาจสูงประมาณ 1.5-2.0 เมตร

    กทม. ชั้นในแนวคันกั้นน้ำตามโครงการพระราชดำริ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ เขตที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ระดับน้ำอาจสูงประมาณ 1.5-2.5 เมตร เขตอื่นๆในกทม.ชั้นใน ระดับน้ำอาจสูงประมาณ 0.5-1.0 เมตร ระยะเวลาท่วมประมาณ 15-30 วัน




    -http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000137747-

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • manager1.jpg
      manager1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      49.6 KB
      เปิดดู:
      514
    • manager2.jpg
      manager2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.6 KB
      เปิดดู:
      559
    • manager3.jpg
      manager3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      49.7 KB
      เปิดดู:
      540
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ตุลาคม 2011
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    29 ต.ค. ตอนเช้าน้ำขึ้นสูง 2.50 เมตร ตอนเย็นน้ำขึ้นสูง 2.34 เมตร <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">28 ตุลาคม 2554 21:48 น.</td> <td align="left" valign="middle">


    </td></tr></tbody></table>


    กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ แจ้งสภาวะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ ประจำวันที่ 29 ตุลาคม 2554 ดังนี้
    1. เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2554 น้ำขึ้น 2 ครั้ง เมื่อเวลา 08.00 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 2.47 เมตรและ เมื่อเวลา 18.00 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 2.31 เมตร
    2.ในวันที่ 29 ตุลาคม 2554 น้ำขึ้น - ลง 2 ครั้ง น้ำลงเต็มที่เวลา 03.07 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 1.48 เมตร ขึ้นเต็มที่เวลา 09.09 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 2.50 เมตร น้ำลงเต็มที่เวลา 14.06 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 2.14 เมตร และน้ำขึ้นเต็มที่เวลา 18.30 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 2.34 เมตร
    3.จากปริมาณการระบายน้ำในปัจจุบัน คาดว่าในช่วงน้ำทะเลหนุนสูง ในวันที่ 30-31 ตุลาคม 2554 จะสูงกว่าระดับทะเลปานกลางประมาณ 2.45-2.50 เมตร
    4.ระดับน้ำที่ให้ไว้เป็นระดับซึ่งรวมระดับน้ำทะเลหนุนและอิทธิพลอื่น ๆ ไว้แล้ว หากมีการเปลี่ยนแปลงการระบายน้ำ หรือ มีปริมาณน้ำฝนที่ผิดปกติ ระดับน้ำอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงจากนี้ได้


    -http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9540000137718-

    .
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คลิปนาทีชีวิต!แม่หย่อนลูก6เดือนลงตึก3ชั้นหนีเปลวเพลิง <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">29 ตุลาคม 2554 04:24 น.</td> </tr></tbody></table>

    [​IMG] <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">

    เดลิเมล์ - สื่อต่างประเทศเผยแพร่คลิปวินาทีชีวิต ภาพหวาดเสียวที่คุณแม่รายหนึ่งตัดสินใจหย่อนลูกๆลงทางหน้าต่างชั้น 3 ท่ามกลางเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำ และเคราะห์ดีที่เด็กปลอดภัยและไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ

    แอชลีย์ บราวน์ จากสโตน เมาเทน มลรัฐจอร์เจีย สหรัฐฯ บอกเธอคิดอยู่อย่างเดียวว่าต้องช่วยลูกๆ 2 คนให้ได้ระหว่างที่ไฟกระพือตรงชั้นล่างของตึกและค่อยๆลุกลามขยายวงขึ้น จนทำให้เธอและลูกๆติดอยู่ภายใน

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="468"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="468"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ภาพวิดีโอเผยให้เห็นว่าคุณแม่วัย 23 ปีรายนี้กำลังหาทางช่วยลูกสาวออกจากตึก หลังจากเพิ่งหย่อนลูกชายตัวน้อยๆวัย 6 เดือนสู่อ้อมอกของคนแปลกหน้าไปแล้ว

    นางบราวน์บอกว่าการหย่อนลูกลงมาเป็นสิ่งที่ตัดสินใจยากลำบากที่สุดใน ชีวิต พร้อมเผยว่า "บางคนตะโกนให้หย่อนเขาลงมา บางคนก็บอกอย่า" จากนั้นคุณแม่รายนี้ก็ตัดสินใจหย่อน เจมส์ ลงมาก่อนและเขาก็ลงสู่อ้อมกอดของเจ้าหน้าที่หน่วยช่วยเหลืออย่างปลอดภัย

    จากนั้นเธอก็ใช้เชือกมัดรอบตัวลูกสาววัย 3 ขวบและหย่อนลงสู่ฝูงชนที่อยู่เบื้องล่างผ่านหน้าต่างของอาคาร

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="468"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="468"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> สำนักข่าวท้องถิ่นรายงานว่าเจ้าหน้าที่ยังสามารถช่วยเหลือผู้หญิงอีก 2 คนที่พักอาศัยอยู่บนชั้น 3 เช่นกัน ขณะที่แมวตัวหนึ่งก็รอดชีวิตหลังจากถูกจับโยนลงไปข้างล่าง

    ทั้งนี้มีผู้ที่ต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทั้งหมด 4 คน ในจำนวนนั้นรวมไปถึงเด็กทั้งคู่ แต่นางบราวน์บอกในเวลาต่อมาว่าลูกๆของเธอไม่ได้เป็นอะไรมาก
    </td></tr></tbody></table>

    -http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000137774-

    .
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    [FONT=Tahoma,]สธ.แนะเลี่ยงกินปลาร้าสุกๆ ดิบๆ



    ขอนแก่น - นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย รอง ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานการจัดงาน 'ปลาร้าต้ม ส้มตำอร่อย' โดยมีน.พ.วิฑิต สฤษฎีชัยกุล นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ร่วมกับตลาดสดบางลำพู เทศบาลนครขอนแก่น ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ขอนแก่น สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 ร่วมกันจัดงาน

    น.พ.วิฑิตกล่าวว่า เมนูส้มตำได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งส่วนประกอบถือว่ามีคุณค่าทางโภชนาการ มีวิตามินสูง ไขมันต่ำ และหาซื้อได้โดยทั่วไป แต่กระบวนการทำส้มตำหากเลือกวัตถุดิบที่ไม่สะอาดและถูกสุขวิทยาของผู้ปรุง ประกอบอาหาร อาจทำให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบตามมาได้ โดยเฉพาะส่วนประกอบสำคัญของการทำส้มตำอย่างปลาร้า ถ้าใช้ปลาร้าที่หมักไม่ได้ตามระยะเวลาหรือไม่ผ่านการต้มสุก อาจทำให้ผู้บริโภคได้รับไข่พยาธิ หรือหนอนพยาธิใบไม้ในตับ ซึ่งจะส่งผลให้ป่วยเป็นโรคมะเร็งท่อน้ำดี เพราะจากการศึกษาวิจัยพบว่ามีประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเสียชีวิตด้วย มะเร็งท่อน้ำดีสูงถึงปีละ 28,000 คน เฉลี่ยวันละ 76 คน ดังนั้น จึงจัดงานครั้งนี้ขึ้น เพื่อให้ผู้ค้าส้มตำใช้วัตถุดิบที่สะอาด รวมถึงใช้ปลาร้าที่ต้มสุก และรณรงค์ให้เลิกรับประทานอาหารที่ปรุงจากปลาสุกๆ ดิบๆ เพื่อให้สุขภาพของ ผู้บริโภคแข็งแรงและปราศจากโรคที่อาจตามหลังจากการรับประทานที่ไม่ถูก สุขลักษณะเข้าไป อีกทั้งเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีให้กับผู้ค้าขายอาหารในพื้นที่
    [/FONT]


    -http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd2NtOHdOREk1TVRBMU5BPT0=&sectionid=TURNeE13PT0=&day=TWpBeE1TMHhNQzB5T1E9PQ==-


    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    รบ.ไต้หวัน"ไถ่บาป"จ่ายเงินชดเชยประหารเหยื่อชายถูกปรักปรำข่มขืนฆ่าเด็กหญิง



    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 28 ต.ค.ว่า กระทรวงกลาโหมไต้หวันได้ประกาศจะจ่ายเงินชดเชียเป็นเงินจำนวน 4.4 ล้านดอลลาร์ ให้แก่ญาติของนายเชียง เกา ชิง เจ้าหน้าที่กองทัพอากาศรายหนึ่ง ซึ่งถูกตัดสินประหารชีวิตในข้อหาข่มขืนฆ่าเด็กหญิงวัย 5 ปี เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ ศาลทหารไต้หวันได้พลิกคำตัดสินคดี ตัดสินว่านายเชียงเป็นผู้บริสุทธิ์ในคดีนี้ และว่า นายเชียงยังถูกทรมานระหว่างถูกไต่สวน ด้วย


    [​IMG]

    รายงานระบุว่า ในคดีนี้ นายเชียงได้ทำงานในฐานทัพอากาศไต้หวันเมื่อปี 1996 ซึ่งเป็นจุดพบศพเหยื่อเด็กหญิงวัย 5 ขวบเสียชีวิตอยู่ และภายหลังนายเชียงถูกสั่งประหาร ครอบครัวของเขาได้ใช้เวลาหลายปีเพื่อรณรงค์มุ่งลบล้างมลทินให้แก่เขา ต่อมา ภายหลัง ทางการไต้หวันได้ฟื้นคดีนี้ และเจ้าหน้าที่พบว่า ไม่มีหลักฐานที่พบว่า นายเชียงอยู่ในที่เกิดเหตุร้าย และต่อมามีการจับกุมชายรายหนึ่งที่มีประวัติด้านการล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิง

    ด้านทนายความของมารดานายเชียงบอกว่า ครอบครัวยอมรับเงินค่าชดเชยที่รัฐบาลเสนอให้ ขณะที่ประธาานธิบดีหม่า ยิง เจียว ได้กล่าวคำขออภัยต่อครอบครัวนายเชียง ส่วนกระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า กระทรวงได้เรียนรู้ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และจะไม่ปล่อยให้เหตุการณ์ผิดพลาดเช่นนี้เกิดขึ้นอีก


    -http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1319778401&grpid=01&catid=&subcatid=-

    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ดูตัวอย่างดีๆ โปสเตอร์รณรงค์ไม่กักตุนสินค้าช่วงญี่ปุ่นประสบสึนามิ


    จาก เว็ปประชาไท

    [​IMG]



    โปสเตอร์ฉบับแปลไทย "เราทำได้เมื่อเราแบ่งปัน" (What we can do when we share) ชวนประชาชนไม่กักตุนสินค้าในช่วงที่ญี่ปุ่นประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อมีนาคมที่ผ่านมา



    โปสเตอร์ชวนประชาชนไม่กักตุนสินค้า "เราทำได้เมื่อเราแบ่งปัน" (What we can do when we share) ในช่วงที่ญี่ปุ่นประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่าน มา


    โดยฉบับแปลอย่างไม่เป็นทางการนี้แปลโดยทีมข่าวต่างประเทศประชาไท ซึ่งแปลจากฉบับแปลภาษาอังกฤษใน @kikkimayo (16 มี.ค. 54) ซึ่งแปลมาจากฉบับภาษาญี่ปุ่นอีกทีใน @lifecanvasies (16 มี.ค. 54)


    [​IMG]

    เวอร์ชั่น ภาษาอังกฤษ


    [​IMG]

    เวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่น

    -http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1319792888&grpid=01&catid=&subcatid=-

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    เครดิตบูโร ประสานสถาบันการเงินผ่อนระเบียบการบันทึกประวัติค้างชำระ และ NPL


    ตามที่ได้เกิดเหตุภัยพิบัติจากอุทกภัยในหลายพื้นที่รวม ทั้งกรุงเทพมหานคร จนเป็นเหตุให้ประชาชนทั่วไป ผู้ประกอบการอยู่ในสภาพที่ยังไม่สามารถชำระหนี้ตามเวลาที่กำหนดโดยเฉพาะใน ช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายนและลูกหนี้ต่างมีความกังวลว่าสถานะทางบัญชีสินเชื่อของตนเองจะเป็น หนี้เสีย (NPL) หรือติด Black list กับเครดิตบูโร จนทำให้การขอสินเชื่อหลังน้ำลดเพื่อการเยียวยา แก้ไข ฟื้นฟู หรือเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนนั้นจะทำได้ยาก และจะเป็นเหตุไม่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อ
    นางสาวสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือ เครดิตบูโร กล่าวว่า ตามที่ได้เกิดเหตุภัยพิบัติจากอุทกภัยในหลายพื้นที่รวมทั้งกรุงเทพมหานคร จนเป็นเหตุให้ประชาชนทั่วไป ผู้ประกอบการอยู่ในสภาพที่ยังไม่สามารถชำระหนี้ตามเวลาที่กำหนดโดยเฉพาะใน ช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายนและลูกหนี้ต่างมีความกังวลว่าสถานะทางบัญชีสินเชื่อของตนเองจะเป็น หนี้เสีย (NPL) หรือติด Black list กับเครดิตบูโร จนทำให้การขอสินเชื่อหลังน้ำลดเพื่อการเยียวยา แก้ไข ฟื้นฟู หรือเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนนั้นจะทำได้ยาก และจะเป็นเหตุไม่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อ


    ขณะนี้ กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทยตลอดจน สถาบันการเงินต่างๆ ต่างเห็นพ้องต้องกันที่จะให้การช่วยเหลือในการร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว คือ


    • เมื่อลูกหนี้ได้เข้ามาติดต่อกับสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ และสถาบันการเงินได้พิจารณาและอนุมัติให้แก้ไขหรือปรับโครงสร้างหนี้แล้ว ก็ให้ถือว่าบัญชีสินเชื่อนั้นมีสถานะปกติทันทีในฐานข้อมูลเครดิตบูโร โดยไม่ต้องรอให้มีการปฏิบัติชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไขติดต่อกัน 3 เดือนก่อน


    • ในการพิจารณาว่าจะผ่อนผัน ผ่อนปรน หรือการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกหนี้นั้นให้พิจารณาครอบคลุมทั่วประเทศ ไม่กำหนดเฉพาะจังหวัดที่มีอุทกภัย เพราะกิจการหรือ SME ที่ทำธุรกิจต่างมีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกัน (Supply chain)ทั้งการเป็นผู้กระจายสินค้า หรือเป็นแหล่งวัตถุดิบ หรือเป็นลูกค้าของผู้ประกอบการนั้น เมื่อเกิดปัญหาที่รายหนึ่งรายใดย่อมส่งผลต่อ Supply chain ทั้งกระบวนการ การปรับโครงสร้างหนี้จึงต้องทำให้ทั้งลูกหนี้และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด


    • สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีหนี้บัตรเครดิตนั้น เกณฑ์ผ่อนผันจำนวนเงินที่ชำระหนี้ขั้นต่ำจากเดิมที่กำหนดไว้อย่างต่ำ 10%ของหนี้บัตรเครดิตที่ค้างในเดือนนั้นๆให้พิจารณาตามความสามารถในการชำระ หนี้ของลูกหนี้และสถาบันการเงินผู้ออกบัตรจะพิจารณาต่ำกว่า 10%ก็ได้ มาตรการนี้จะลดผลกระทบได้มาก เพราะลูกหนี้ผู้ถือบัตรสามารถทำได้ตามความเป็นจริงและสถานะบัญชีในฐานข้อมูล ของเครดิตบูโรจะเป็นบัญชีปกติ ไม่มีการค้างชำระแต่อย่างใด


    “ขอย้ำว่าทั้งผู้ถือบัตรเครดิต , ผู้ประกอบการ, SME และผู้ที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกันจะได้รับการพิจารณาอย่างเป็นธรรม เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากความไม่มีวินัยในการชำระหนี้ แต่เกิดจากปัญหาภัยพิบัติที่ไม่สามารถควบคุมได้ จึงอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหนี้-ลูกหนี้ได้เข้าใจตรงกันว่า มาตรการทั้ง 3 นี้จะช่วยรักษาประวัติของลูกหนี้ผู้ประสบภัย ไม่ให้มีประวัติค้างชำระ หรือ NPL ในระบบของสถาบันการเงินและในฐานข้อมูลเครดิตบูโรอย่างแน่นอน” นางสาวสุภา กล่าว



    -http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1319818139&grpid=&catid=05&subcatid=0500-

    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ใช้ไฟ-กั้นน้ำ..ห้ามมั่ว'โดยประมาท'ทำคนตาย'ติดคุก!'


    "เพิ่มโทษในช่วงน้ำท่วม จากเดิมข้อหาลักทรัพย์มีความผิดตามมาตรา 334 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ถ้าหากลักทรัพย์ในช่วงบ้านเมืองกำลังประสบปัญหาอุทกภัย รวมถึงทำลายคันกั้นน้ำ จะมีโทษคือจำคุกระหว่าง 1-5 ปี และปรับ 2,000-10,000 บาท แต่ถ้าหากเป็นการกระทำผิดมากกว่า 2 องค์ประกอบ มีโทษจำคุก 1-7 ปี และปรับ 20,000-24,000 บาท” ...นี่เป็นการแถลงเมื่อวันก่อนของทางฝ่ายตำรวจ พวกหัวขโมยที่ซ้ำเติมทุกข์น้ำท่วมจำใส่หัวไว้

    อย่าคิดว่า น้ำท่วม...ตำรวจที่ไหนจะมาตรวจ-มาจับ

    เพราะตำรวจก็ถูกชาวบ้านกดดัน...ต้องเอาจริงแน่…

    ทั้งนี้ ว่ากันถึงกฎหมาย การลงโทษผู้กระทำความผิดในช่วงน้ำท่วม ทาง “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ก็ขอเตือนเรา ๆ ท่าน ๆ ทั้งหลายว่า ’ช่วงน้ำท่วมก็ต้องระวังจะตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าคนตายโดยประมาท!!“ โดยมีองค์ประกอบของคดีคือ ’กระแสไฟฟ้า“ และ ’วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้สร้าง-ใช้ในการป้องกันน้ำท่วม“

    สำหรับกรณีกระแสไฟฟ้า “ไฟช็อต-ไฟดูด” ในช่วงที่เกิดน้ำท่วม กับน้ำท่วมครั้งใหญ่ปีนี้ทาง “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” เป็นสื่อแรก ๆ ที่เตือนให้ระวังกัน และก็เตือนซ้ำอีกหลายครั้ง แต่กระนั้นก็น่าสลดใจที่มีคนตายเพราะกระแสไฟฟ้าในช่วงน้ำท่วมไปแล้วหลายราย ทั้งในบ้านเรือนของตนเองและตามถนนหนทางที่เกิดน้ำท่วม ซึ่ง ณ ที่นี้ก็ขอย้ำเตือนกันอีกว่าเรื่องนี้ไม่ระวังไม่ได้ โดยเฉพาะกับน้ำท่วมในเขตเมืองและไม่ได้มีการตัดกระแสไฟฟ้า

    นอกจากต้องกลัวว่าตนเองจะถูกไฟช็อต-ไฟดูดแล้ว การใช้กระแสไฟฟ้าในช่วงน้ำท่วม ไม่ว่าจะเป็นการใช้ไฟตามปกติในบ้านในบริษัทในหน่วยงานตนเอง หรือใช้กับอุปกรณ์สู้น้ำท่วมต่าง ๆ ก็ยังต้องระวังกระแสไฟฟ้าดูด-ช็อตคนอื่นด้วย ขณะที่ การใช้วัสดุต่าง ๆ มาสร้าง ป้องกันการถูกน้ำท่วม ต้องทำให้มั่นคงแข็งแรง ไม่เพียงในแง่การป้องกันน้ำท่วม แต่ ต้องไม่สุ่มเสี่ยงต่อการพังทลายจนก่ออันตราย ทั้งกับตนเองและผู้อื่น

    กับกรณีการตกเป็นผู้ต้องหา โดยมีองค์ประกอบคดีคือกระแสไฟฟ้าหรือวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันน้ำท่วมนั้น ว่ากันทางหลักกฎหมาย ทาง อ.วันชัย สอนศิริ เลขานุการคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค ให้ความรู้ความเข้าใจว่า... กรณีน้ำท่วมบ้านน้ำท่วมพื้นที่ ในเบื้องต้นเจ้าของบ้าน เจ้าของพื้นที่จะต้องตัดไฟฟ้า ซึ่งนอกจากจะเพื่อความปลอดภัยของตัวเองแล้ว ยังเป็นการป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดต่อชีวิตของผู้อื่นด้วย กรณีที่ประมาท ทำให้เกิดไฟฟ้าช็อตคนอื่นเสียชีวิต เจ้าของบ้าน เจ้าของพื้นที่มีความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 291 ที่ระบุไว้ว่า ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท

    อีกทั้ง ญาติผู้เสียชีวิต หรือผู้เกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต สามารถฟ้องร้องทางแพ่งต่อเจ้าของบ้าน เจ้าของพื้นที่ต้นเหตุ ได้ด้วย โดยกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 ระบุไว้ว่า ผู้ใดจงใจประมาทเลินเล่อทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมาย ให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่งก็ดี ผู้นั้นทำละเมิด จำเป็นต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทน

    อ.วันชัย ชี้ต่อไปว่า... นอกจากระหว่างเอกชนกับเอกชนแล้ว กรณีต้นเหตุเกิดจากหน่วยงานรัฐ ซึ่งรวมถึงหน่วยงานที่ดูแลการตัดกระแสไฟฟ้า ถ้าปล่อยปละละเลยเรื่องไฟฟ้าจนเป็นเหตุให้บุคคลเสียชีวิต ก็สามารถจะถูกฟ้องร้องความผิดทางแพ่งให้รับผิด ร่วมรับผิด ตามมาตรา 420 ของกฎหมายแพ่งได้เช่นกัน

    กรณี วัสดุต่าง ๆ ในการป้องกันการถูกน้ำท่วม พังหรือถล่ม ทำให้คนอื่นบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ทาง อ.วันชัย แยก 2 กรณีคือ ถ้าเป็นเหตุที่เกิดจากภัยพิบัติธรรมชาติซึ่งควบคุมไม่ได้จริง ๆ ให้ถือเป็นเหตุสุดวิสัย แต่ถ้าเป็นเหตุที่เกิดจากการสร้างไม่ได้มาตรฐาน มีคนเสียชีวิต เจ้าของผู้สร้างต้องรับโทษอาญา มาตรา 291 จำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท และญาติหรือผู้เกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิตก็ฟ้องร้องทางแพ่งตามมาตรา 420 ให้จ่ายค่าสินไหมทดแทนได้ ซึ่งก็เช่นเดียวกับกรณีละเลยเรื่องไฟฟ้า

    ทั้งนี้ เลขานุการคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนฯ ยังบอกด้วยว่า... วิกฤติน้ำท่วม อย่าตื่นตระหนกจนขาดสติ อย่าตื่นตูมตามข่าวลือ ในภาวะแบบนี้ทุกคนควรแบ่งปันความทุกข์ ความลำบาก ความไม่สะดวกสบาย และควรถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน การเห็นแก่ตัว ยิ่งในภาวะไม่ปกติยิ่งไม่ควรทำ ใครเอาแต่สบายหรือเอาตัวรอดแล้วคนอื่นเดือดร้อนหมด สุดท้ายคนนั้นก็อยู่ไม่ได้ เพราะคนอื่นอยู่ไม่ได้ ซึ่งนี่ก็รวมถึงเรื่องการขโมยกระสอบทราย ทำลายคันดิน ขูดรีดค้ากำไรเกินควรซึ่งเป็นการซ้ำเติมทุกข์ประชาชนในวิกฤติน้ำท่วม ซึ่งทั้งเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำเพราะทำให้คนอื่น ๆ เดือดร้อนกันทั่ว และเป็นการกระทำความผิด มีโทษตามประมวลกฎหมาย

    ช่วง “น้ำท่วม” จะต้อง “ระวังฆ่าคนตายโดยประมาท” ด้วย

    และช่วยกันจับตา มีใครหาประโยชน์โดยมิชอบหรือไม่??

    มีใคร ’โกงกินบนทุกข์น้ำท่วมของคนไทย“ หรือไม่?????.


    -http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=23&contentId=172625-

    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...