พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ขอโมทนาบุญทุกประการครับพี่ท่าน
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    “จัดหนัก” ชักชวนทำถุงพลาสติกชีวภาพไว้ “อึ” ช่วงน้ำท่วม <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody> </table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">22 ตุลาคม 2554 16:06 น.</td></tr></tbody> </table>

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr><td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">(ซ้าย) ต้นแบบถุงจัดหนักสำหรับถ่ายหนัก (ขวา) ภาพต้นแบบถุงจัดหนัก ที่มีรายละเอียดวิธีการใช้</td> </tr> </tbody> </table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">รายละเอียดวิธีการใช้ถุงจัดหนักซึ่งจะพิมพ์ไว้ข้างถุง</td> </tr> </tbody> </table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">ถุงสำหัรบถ่ายหนักที่สหประชาชาติสนับสนุนให้ใช้ในแอฟริกา </td> </tr> </tbody> </table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">ขั้นตอนการใช้ถุงพลาสติกชีวภาพและการจัดเก็บหลังถ่ายหนัก </td> </tr> </tbody> </table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">ภาพสาธิตการใช้งานและการกำจัด </td> </tr> </tbody> </table>

    การถ่ายหนักในช่วงน้ำท่วมเป็นอีก ความลำบากของผู้ประสบอุทกภัย แม้ว่า “สุขาฉุกเฉิน” จากถุงดำจะช่วยผ่อนหนักเป็นเบาแก่ผู้เดือดร้อนได้ แต่ในยามน้ำลดแล้วจะเหลือขยะปฏิกูลปริมาณมหาศาลที่จัดการยาก และไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงเกิดแฟนเพจ “ถุงจัดหนัก” ที่ส่งเสริมให้ใช้ “ถุงพลาสติกชีวภาพ” แทน พร้อมทั้งชักชวนให้โรงงานที่มีศักยภาพมาร่วมทำบุญด้วยการผลิตถุงบริจาค

    แฟนเพจ “ถุงจัดหนัก” ในเฟซบุ๊ก เป็นโครงการที่ชักชวนชาวเครือข่ายสังคมออนไลน์รวมพลังสนับสนุนให้มีการผลิต ถุงพลาสติกชีวภาพเพื่อบริจาคแก่ผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งทางเพจได้ออกแบบถุงพลาสติกชีวภาพที่สามารถใช้ระหว่างถ่ายหนักได้ โดยไม่ต้องอาศัยเก้าอี้พลาสติกหรือสวมฉุกเฉินที่ต้องใช้ “ถุงดำ” รองรับของเสียจากร่างกาย ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการผลิตถุงพลาสติกดังกล่าวบริจาคสามารถนำแบบจากแฟนเพจไปใช้ได้โดย ไม่สงวนสิทธิ

    อนุรักษ์ สุชาติ นักออกแบบผู้ชื่อเสียง และหนึ่งในผู้ก่อตั้งแฟนเพจให้สัมภาษณ์แก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ ถึงแนวคิดในการก่อตั้งแฟนเพจว่า ได้เห็นสหประชาชาตินำถุงลักษณะดังกล่าวไปใช้แก้ปัญหาห้องน้ำในแอฟริกา ซึ่งประชาชนขับถ่ายทิ้งเรี่ยราด จึงสนับสนุนให้ใช้ถุงพลาสติกชีวภาพสำหรับเก็บอุจจาระ เมื่อใช้เสร็จแล้วก็ฝังดิน ซึ่งช่วยให้ดินดีขึ้นด้วย และเห็นว่าถุงพลาสติกสำหรับขับถ่ายนี้เหมาะกับสถานการณ์ในเมืองไทยขณะนี้ อีกทั้งเหมาะแก่การใช้งานของคนหมู่มาก แม้ขาดเก้าอี้ก็สามารถใช้ได้โดยการตัดขวดน้ำมาใช้แทน และการเก็บอุจจาระไว้ในถุงนี้จะช่วยลดโรคระบาดได้ โดยเก็บรวบรวมแล้วฝังกลบหลังน้ำลด

    หลังจากอาศัยพลังของเครือขายสังคมออนไลน์ได้ 5 วัน เพื่อนของอนุรักษ์ซึ่งมีโรงงานผลิตพลาสติกได้ช่วยผลิต “ถุงจัดหนัก” จากเม็ดพลาสติกชีวภาพ 100 กิโลกรัม ซึ่งได้ถุงทั้งหมด 200,000 ใบ โดยการสนับสนุนของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและบ้านอาสาใจดี ซึ่งจะรับถุงดังกล่าวไปแจกจ่าย และทางโครงการจะผลิตเพิ่มอีก 800 กิโลกรัมจึงอยากเผยแพร่โครงการนี้ให้มากที่สุด และอยากประชาสัมพันธ์ให้บริษัทใหญ่ๆ อย่าง ปตท.และ SCG ที่มีเม็ดพลาสติกชีวภาพมาร่วมโครงการผลิตถุงพลาสติกชีวภาพสำหรับผู้ประสบ อุทกภัย

    “อาทิตย์หน้าเราคงต้องใช้แน่นอน เพราะเมื่อเกิดน้ำท่วมเราจะกดชักโครกไม่ลง และคนกรุงเทพฯ อาศัยอยู่ในคอนโด 20-30 ชั้น หากติดอยู่อยู่ 2 อาทิตย์ จะเป็นเรื่องน่ากลัวมาก สถานการณ์บีบคั้นมาก เป็นอีกปัญหาที่คนมองไม่เห็น ตอนนี้ทุกคนบริจาคถุงดำซึ่งเป็นพลาสติก HBPE ที่ไม่ย่อยสลาย ต้องเผาอย่างเดียว ถ้าจะรีไซเคิลต้องแยกออกมา ซึ่งถ้าเป็นอึจะไม่มีคนแยกเลย จึงอยากให้คนหันมาใช้ถุงพลาสติกแบบย่อยสลายได้ แม้ต้นทุนตกใบละ 50 สตางค์จะแพงกล่าวพลาสติกปกติ แต่ควรใช้ในกรณี และอนาคตเมื่อคนตระหนักตรงนี้และใช้กันมากขึ้น ราคาก็จะถูกลง” อนุรักษ์กล่าว

    ทั้งนี้ หลังจากโพสต์ข้อความในแฟนเพจแล้วมีผู้ติดต่อเข้ามาใน 2 ส่วน คือ ส่วนแรกคือผู้เสนอให้ทุน และอีกส่วนคือโรงงานผู้ผลิตพลาสติก โดยทางโครงการพยายามที่จับคู่ความต้องการทั้งสองส่วนให้ตรงกัน แต่สิ่งที่ทางแฟนเพจอยากจะเน้นคืออยากได้ผู้บริจาคเม็ดพลาสติกชีวภาพจากผู้ ประกอบการรายใหญ่ ส่วนผู้ประกอบการรายย่อยก็จะมีการกระจายกันทางเฟซบุ๊กต่อไป โดยอาจช่วยเหลือในเรื่องเงินหรือนำไปบริจาคก็ได้

    “ในอีก 1-2 อาทิตย์เราอาจต้องใช้เอง” อนุรักษ์ให้ความเห็น

    ติดตามความเคลื่อนไหวอื่นๆ ได้ที่ แฟนเพจ ถุง “จัดหนัก”



    -http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9540000134961-

    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    นายกฯ ดึง ปราโมทย์ ผู้เชี่ยวชาญแก้ น้ำท่วม ร่วมงาน


    [​IMG]

    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


    ปราโมทย์ ชี้วิธีแก้ปัญหาน้ำท่วม เพียงแค่ป้องกันไม่ให้การระบายน้ำปะทะกับคลองรังสิตและคลองหกวาได้ ผันน้ำไปทางคลองแสนแสบแทน แม้ว่าจะทำให้กรุงเทพฯ ชั้นในท่วมบ้างก็ตาม แต่คาดว่าท่วมไม่มากและไม่นาน ขณะที่ล่าสุด นายกฯ ดึง ปราโมทย์ ร่วมงานแก้ปัญหาน้ำท่วม

    หลัง จากมีหลายภาคส่วนวิจารณ์การทำงานของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบ อุทกภัย (ศปภ.) ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ซึ่งอีกหนึ่งประเด็นที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักคือ การใช้คนไม่ถูกกับงาน เช่น การใช้นักการเมืองที่เป็นพวกพ้องของตัวเอง เป็นคนวางแผนแก้ไขปัญหา แทนที่จะใช้คนที่มีความรู้ความสามารถในด้านชลประทาน ดังนั้นจึงทำให้ปัญหาน้ำท่วมไม่สามารถแก้ไขได้อย่างเด็ดขาด จนทำให้น้ำได้ทะลักเข้าประชิดพื้นที่กรุงเทพมหานครบางพื้นที่แล้ว ล่าสุด นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ทาบทามให้นายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน และเป็นผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับการวางแผนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม เข้าร่วมการวางแผนแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกับรัฐบาลและ ศปภ. แล้ว

    ขณะ ที่วันนี้ (23 ตุลาคม) นายปราโมทย์ได้แถลงว่า ประเด็นสำคัญที่สุดที่จะไม่ให้สถานการณ์น้ำท่วมย่ำแย่ไปกว่านี้คือ ต้องระบายน้ำไม่ให้ปะทะกับคลองรังสิตและคลองหกวา ซึ่งก็คือการระบายน้ำไปทางตะวันออกและทางใต้ รักษาระดับความสูงของน้ำบนถนนพหลโยธินไว้ ถ้าหากน้ำพ้นคันกั้นน้ำ ก็จะไหลเข้าคลองแสนแสบ คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิตประเวศ คลองสำโรง ส่วนการที่ระบายน้ำเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน อาจจะทำให้น้ำท่วมในระดับความสูงที่เหมาะสม ระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น

    นอก จากนี้ อดีตอธิบดีกรมชลประทานกล่าวอีกว่า น้ำท่วมในครั้งนี้ไม่น่าวิตกเหมือนปี 2538 เนื่องจากมีระบบการสูบน้ำออกที่ดี และตอนนี้ทาง กทม. กำลังป้องกันไม่ให้น้ำปะทะกันอย่างเต็มกำลังที่แนวคันกั้นน้ำ คาดว่าอีกไม่นานน้ำบริเวณอนุสรณ์แห่งชาติน่าจะลดลง



    แถลงสถานการณ์น้ำท่วมโดยศปภ ดอนเมือง 23ต ค 54


    [​IMG] ประวัตินายปราโมทย์ ไม้กลัด

    อาจารย์ปราโมทย์ ไม้กลัด เกิดเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2483 ที่บ้านแขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร บิดาชื่อ นายกฤษณา ไม้กลัด มารดาชื่อ นางปิ่น ไม้กลัด มีอาชีพทำสวน อาจารย์ปราโมทย์ ไม้กลัด ได้รับการศึกษาในระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนโรจนนิมิต ซึ่งอยู่ในเขตราษฎร์บูรณะใกล้บ้าน ต่อมาได้ย้ายไปเรียนในระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนอำนวยวิทย์ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เป็นเวลา 2 ปี แล้วจึงไปเข้าเรียนที่โรงเรียนอำนวยศิลป์ธนบุรี และโรงเรียนอำนวยศิลป์ที่เขตพญาไท ตามลำดับ เมื่อจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 8 แล้ว ได้เข้าเรียนที่คณะวิศวกรรมชลประทาน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ใน พ.ศ. 2501 จนจบปริญญาช่างชลประทานบัณฑิต (เกียรตินิยม) ใน พ.ศ. 2506

    เมื่อ เรียนจบแล้ว ได้เข้าทำงานที่กรมชลประทาน งานแรกคือ งานก่อสร้างเขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเพิ่งจะเริ่มก่อสร้าง ทำงานอยู่เพียงประมาณ 10 เดือน ก็ได้รับทุนมูลนิธิอานันทมหิดล ไปศึกษาต่อที่ University of California at Davisสหรัฐอเมริกา จบการศึกษาได้รับปริญญา Master of Engineering (Irrigation and Water Resources Engineering) และไปทำการฝึกงานจนได้รับ Certificate in Irrigation, Drainage and Ground Water Engineering จาก Bureau of Reclamation สหรัฐอเมริกา จากนั้นจึงเดินทางกลับประเทศไทยใน พ.ศ. 2511 กลับเข้ารับราชการที่กรมชลประทานตามเดิม

    ใน ระหว่างที่ทำงานอยู่ที่กรมชลประทานนั้น อาจารย์ปราโมทย์ ไม้กลัด ได้มีโอกาสเดินทางไปศึกษาดูงานในเรื่องการชลประทาน งานเขื่อน งานระบายน้ำ งานแก้ไขปัญหาน้ำเสีย งานป้องกันและบรรเทาอุทกภัย งานด้านอุทกวิทยาและจัดการทรัพยากรน้ำในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ยุโรป ออสเตรเลียและเอเชีย รวมแล้วมากกว่า 20 ประเทศ ทำให้ได้รับความรู้ และประสบการณ์ในเรื่องต่างๆ เหล่านี้อย่างดียิ่ง

    ใน หน้าที่การงานที่กรมชลประทานนั้น ได้ประสบผลสำเร็จในโครงการต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายหลายเรื่อง ทั้งโครงการขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก แต่โครงการที่อาจารย์ปราโมทย์ ไม้กลัด ภูมิใจมากที่สุดก็คือ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบ ตั้งแต่ พ.ศ. 2520 เป็นต้นมา มีโอกาสตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไปทั่วทุกภาคของประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับน้ำ ดิน และป่าไม้ และการทำมาหากินของราษฎร โครงการใหญ่โครงการหนึ่งที่อาจารย์ปราโมทย์ ไม้กลัด มีส่วนร่วมอย่างมาก และมีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งก็คือ โครงการป่าสักชลสิทธิ์ที่จังหวัดลพบุรี

    จากผลงานอันมากมายที่ อาจารย์ปราโมทย์ ไม้กลัด ปฏิบัติอย่างได้ผลดีเหล่านี้ ทำให้มีความก้าวหน้าในราชการเป็นลำดับ จนกระทั่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอธิบดีกรมชลประทานใน พ.ศ. 2540 และเป็นรองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใน พ.ศ. 2542 แต่เนื่องจากตำแหน่งหลังสุดนี้ ไม่ค่อยจะตรงกับสายงานที่ต้องการจะทำ อาจารย์ปราโมทย์ ไม้กลัด จึงได้ลาออกจากราชการ และสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาของกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2543 ซึ่งก็ได้รับเลือกตั้งสมกับความตั้งใจ

    ใน ส่วนที่อาจารย์ปราโมทย์ ไม้กลัด ได้ทำประโยชน์ให้กับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์นั้น ถึงแม้ว่าจะมีภาระหน้าที่ทางกรมชลประทาน และงานอื่นๆ จนแทบจะไม่มีเวลาว่างแล้วก็ตาม อาจารย์ปราโมทย์ไม้กลัด ก็ยังช่วยราชการมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์อย่างดีตลอดมา โดยได้กล่าวไว้ว่า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นเหมือนบ้านพ่อบ้านแม่ จึงมีความผูกพันอย่างลึกซึ้ง

    นอก จากเป็นอาจารย์พิเศษ สอนวิชาวิศวกรรมชลประทานในหลักสูตรปริญญาโทของคณะวิศวกรรมศาสตร์แล้ว อาจารย์ปราโมทย์ ไม้กลัด ยังได้รับเชิญเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาผลงานทางวิชาการของคณาจารย์ใน คณะวิศวกรรมศาสตร์ เป็นที่ปรึกษาของคณะ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นประธานคณะทำงานพิจารณาปรับปรุงแก้ไขระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการสรรหาผู้ สมควรดำรงตำแหน่งคณบดี และผู้อำนวยการ สำนัก สถาบัน ตลอดจนให้การสนับสนุนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในเรื่องของการพัฒนาแหล่งเก็บ น้ำ โดยได้อนุมัติโครงการจัดสร้างอ่างเก็บน้ำในสถานีวิจัยหลายแห่ง เช่น สถานีวิจัยดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่ สถานีวิจัยเพชรบูรณ์ สถานีวิจัยกาญจนบุรี และสถานีวิจัยสิทธิพรกฤดากร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น

    จากคุณความดีที่ อาจารย์ปราโมทย์ ไม้กลัด ได้สร้างให้แก่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และจากผลงานอันดีเด่นต่างๆ สภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงได้มีมติให้ได้รับพระราชทานปริญญาวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิศวกรรมชลประทาน เมื่อ พ.ศ. 2536 และหลังจากนั้น อาจารย์ปราโมทย์ ไม้กลัด ก็ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากอีกหลายสถาบัน ดังต่อไปนี้ คือ พ.ศ. 2537สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ พ.ศ. 2539 มหาวิทยาลัยนเรศวร พ.ศ. 2540มหาวิทยาลัยศรีปทุม พ.ศ. 2541 มหาวิทยาลัยวงศ์ชวลิตกุล พ.ศ. 2542 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

    นอกจากปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แล้ว อาจารย์ปราโมทย์ ไม้กลัด ยังได้รับการยกย่องเป็นรางวัลต่างๆ อีกมากมาย อาทิ พ.ศ. 2536 บุคคลดีเด่นของชาติสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. 2536 นิสิตเก่าดีเด่นคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พ.ศ. 2538 นิสิตเก่าดีเด่นของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์พ.ศ. 2539วุฒิบัตรกิตติมศักดิ์และเข็มแสนยาธิปัตย์ วิทยาลัยกองทัพบก พ.ศ. 2540 ครอบครัวประชาธิปไตยตัวอย่าง คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ พ.ศ. 2541 นิสิตเก่าดีเด่นแห่งทศวรรษ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์

    ใน ด้านเครื่องราชอิสริยาภรณ์นั้น อาจารย์ปราโมทย์ ไม้กลัด ได้รับพระราชทานเหรียญราชรุจิทอง เหรียญรัตนาภรณ์ชั้น 3 ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ มหาวชิรมงกุฎ และมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก

    อาจารย์ ปราโมทย์ ไม้กลัด มีครอบครัวที่อบอุ่น ได้สมรสกับคุณเตือนใจ จันทน์ล้ำเลิศ มีบุตรชาย 1 คน คือ นายปิตินันท์ ไม้กลัด ทำงานอยู่ที่ธนาคารกสิกรไทย และบุตรสาว 2 คน คือ นางสาวสุรังสี ไม้กลัด เป็นอาจารย์อยู่โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และนางสาวชไมภัค ไม้กลัด เป็นอาจารย์คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์


    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก คมชัดลึก, มติชนออนไลน์
    [​IMG][​IMG], หอจดหมายเหตุ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์




    -http://hilight.kapook.com/view/63985-

    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    โรคอันตรายถึงชีวิตที่มากับน้ำท่วม


    น้ำท่วมปีนี้มากและนานวัน ผู้ประสบอุทกภัยต้องอยู่กับน้ำนานเป็นเดือน หรือบางแห่งอาจเกินกว่านั้น และคงจะต้องอยู่นานวันขึ้นไปอีกกว่าน้ำจะลดเข้าสู่ปกติได้ ก่อให้เกิดความเดือดร้อนสูญเสียต่าง ๆมากมายทั้งทรัพย์สินและสุขภาพของร่างกาย มองในแง่ดีก็ทำให้เกิดความแข็งแกร่งของการต่อสู้ทั้งกายและจิตใจเพิ่มขึ้น เป็นประสบการณ์ของชีวิต จะทำให้มีความพร้อมในการป้องกันและเตรียมตัวสมบูรณ์ขึ้นความสูญเสียที่เกิด ขึ้นที่เป็นข่าวมาตลอด มีทั้งทรัพย์สินต่าง ๆ การขาดแคลนเรื่องอาหารการกิน ที่อยู่อาศัย ความไม่สะดวกในการเดินทาง ถูกมิจฉาชีพซ้ำเติม การงานไม่ได้ทำ ทำให้รายได้หายไป ไปจนถึงเรื่องสุขภาพ คนป่วยไปหาหมอไม่สะดวก ขาดยากินประจำ ไปพบแพทย์ตามนัดไม่ได้ ไปจนถึงเรื่องสุดท้ายที่มีอันตรายถึงชีวิต

    กระทรวงสาธารณสุข แถลงว่าได้ รีบจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ไปช่วยผู้ประสบอุทกภัยแต่เริ่มแรกออกวันละร้อย กว่าทีม ได้ 4,905 ครั้ง มีผู้ป่วยสะสม 516,748 ราย พบโรคภัยไข้เจ็บหลายรูปแบบ เสียชีวิตไปแล้ว 315 ราย

    เสียชีวิตจากจมน้ำ ได้แก่ ผู้ที่ไม่แข็งแรงพอ ผู้สูงอายุ และเด็กที่เดินไปตามกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวตกหลุม ตกบ่อ ลื่นพลาดออกไปนอกถนน จมน้ำกลับขึ้นมาไม่ได้ ช่วยตัวเองไม่ได้ ไม่มีใครเห็นได้เข้าไปช่วยทัน อีกประเภทหนึ่งเกิดจากเรือล่ม อาทิ นางแป๊ว สมสะอาด อ.เสาไห้ จ.สระบุรี พายเรือข้ามแม่น้ำป่าสักที่ไหลเชีี่ยวเพื่อมารับของแจกแล้วเรือเกิดพลิกคว่ำ กลางแม่น้ำเสียชีวิต

    เรื่องจมน้ำการป้องกันจะต้องหาชูชีพหรือภาชนะเกาะป้องกันไว้เสมอ ระยะแรก ๆชูชีพหาไม่ได้ ในช่วงหลังนี้เห็นมีการแจกกันอยู่ตลอด การมีชูชีพติดตัวไว้เกาะดีกว่าเดินตัวเปล่า การเดินตัวเปล่าในกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว แม้จะตืื้นก็อันตรายจากการลื่นหกล้มออกนอกถนนไปได้

    เสียชีวิตจากไฟฟ้าช็อต จะพบเป็นข่าวอยู่เสมอ น้ำท่วมคราวนี้ 36 จังหวัด มีคนเสียชีวิตจากการถูกไฟฟ้าช็อต 10 ราย เมื่อคราวน้ำท่วม นครศรีธรรมราช หาดใหญ่ สงขลา เสียชีวิต 15 ราย การป้องกันแบบพื้นฐาน ที่บอกเล่ากันมา หากน้ำท่วมเข้าบ้าน ถ้าเป็นชั้นเดียวก็ต้องปลดสวิตช์ใหญ่หรือสะพานไฟหลักทันที ถ้าเป็น 2 ชั้นก็ปลดสวิตช์กระแสไฟฟ้าเฉพาะชั้นล่าง รีบย้ายเครื่องใช้ไฟฟ้าให้พ้นน้ำ และถ้าพบสายไฟขาดพาดอยู่ไม่ว่าจะอยู่บนบกหรือในน้ำ อย่าเข้าใกล้หรือไปถูกเข้า

    ร่างกายที่เปียกน้ำจะเป็นสื่อกระแสไฟฟ้าอย่างดี ไม่ไปจับอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งสิ้นมีตัวอย่างผู้เสียชีวิตที่เป็นข่าวคือ บริเวณประตูนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ อ.อุทัย จ.พระนคร ศรีอยุธยา โดยผู้ตายขี่มอเตอร์ไซค์หลบน้ำแฉลบล้มเสียหลัก เอามือไปถูกโคนเสาเหล็กของโคมไฟส่องสว่างริมถนนที่มีกระแสไฟฟ้ารั่วออกมา เสียชีวิตทันที

    เสียชีวิตจากความเครียด จากสถิติของกระทรวงสาธารณสุขที่ได้ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่อาทิตย์ที่แล้วพบ คนไข้มีอาการซึมเศร้า 5,007 ราย เครียด 4,732 ราย เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย 679 คน ส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตเกิดจากความเครียด ที่เป็นข่าวคือ นางดวงใจ ทองระย้า อ.เสาไห้ ผูกคอตาย คนไข้ที่มีอาการเครียด กังวล เหล่านี้ก็ควรจะได้พบกับหน่วยจิตแพทย์เคลื่อนที่ที่ได้ออกไปบริการอยู่ตลอด

    อันตรายจากสัตว์ ที่เราพบบ่อยคือ ถูกสัตว์ แมลงกัด เช่น ตะขาบ งู งูที่มีพิษ เช่น งูเห่า งูจงอาง จะออกหนีน้ำเหมือนกัน หากถูกกัดไม่ได้รับการช่วยเหลือทันท่วงที อาจเสียชีวิตได้ อีกอย่างหนึ่งคือ จระเข้ ราว 100 กว่าตัวหลุดจากฟาร์มในเขต จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.อุทัยธานี มีทุกขนาดทั้งพ่อพันธ์ุแม่พันธ์ุ หลุดลอยไปตามน้ำและอาจขึ้นพักบนริมฝั่ง หรือคลานเข้าไปในบ้านเรือนละแวกนั้นได้ด้วยความหิว ต้องระมัดระวังไว้ด้วย

    คนไข้ขาดยา มีีคนไข้หลายรายฟังจากข่าวพบว่า คนไข้โรคหัวใจ โรคไต ความดันโลหิตสูง โรคหอบ โรคลมชัก ฯลฯ ยาหมด อาการไม่ค่อยสบาย จะออกไปพบแพทย์ด้วยความลำบากหรือยังไปไม่ได้ โรคไตจำเป็นต้องออกไปล้างไตอาทิตย์ละ 3 ครั้ง มีบางคน เช่น โรคเบาหวาน ยาหมดไปขอแบ่งกินจากผู้เป็นเบาหวานด้วยกัน ไม่รู้ว่ายาตรงกันหรือไม่ และขนาดที่กินเป็นอย่างไร ต้องรีบหาหนทางติดต่อศูนย์ช่วยเหลือ เพื่อออกไปพบหน่วยแพทย์ดีที่สุด

    โรคอันตรายถึงชีวิตระหว่างน้ำท่วม ที่พบเป็นข่าวคือ จมน้ำตาย ถูกไฟฟ้าช็อต และจากโรคเครียด ผู้ประสบอุทกภัยจึงต้องควรระมัดระวังถึงอันตรายเหล่านี้ไว้ด้วย การได้ติดต่อศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ให้บริการอยู่ตลอด คงจะช่วยให้ชีวิตอยู่รอดปลอดภัยขึ้น.

    นายแพทย์สุวิทย์ เกียรติเสวี


    -http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=531&contentId=171373-


    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    สารพัดโรคจากวิกฤติน้ำท่วม!! ลดเสี่ยงก่อนร่างกาย-จิตใจป่วย


    เมื่อเราตกอยู่ในสภาวะอุทกภัยร้ายแรงซึ่งที่ทราบกันดีว่าส่งผลให้บ้านเรือน ทรัพย์สินเสียหาย อย่างไม่เคยคาดคิดมาก่อน หลายคนเกิดความกลัวกระทั่งกลายเป็นความ
    วิตกกังวล และอาจส่งผลให้คนคนหนึ่งมีอารมณ์ความรู้สึกหลาย ๆ อย่างเกิดขึ้นจนกลายเป็นความเครียด เมื่อเครียดมาก ๆ ร่างกายก็เริ่มเจ็บป่วยด้วยโรคต่าง ๆ มากมาย ดังนั้นเราควรเตรียมพร้อมรับมือก่อนลุกลามทำให้ร่างกายและจิตใจป่วยไปพร้อม ๆ กันคงเป็นอะไรที่แย่มาก ๆ

    ทาง กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช ได้ให้ความรู้และแนวทางการป้องกันสารพัดโรคต่าง ๆ ที่อาจเกิดจากอุทกภัยน้ำท่วมว่า การจัดการกับความเครียดจากวิกฤติการณ์น้ำท่วม หรือการตอบสนองทางอารมณ์จากภัยน้ำท่วม ไม่ว่าใครก็ต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น พายุ ไฟไหม้ และภัยน้ำท่วมที่เรากำลังเผชิญกันอยู่ในขณะนี้ อาจทำให้มีความเครียดจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ทรัพย์สินเสียหาย การเจ็บป่วย การเสียคนในครอบครัว ซึ่งความเครียดที่เกิดขึ้นอาจมีผลเสียต่อสุขภาพของเราได้โดยที่เราไม่รู้ตัว

    ดังนั้นการแสดงออกทางอารมณ์ที่แสดงว่าเราเริ่มมีความเครียดที่อาจจะพบ ได้แก่ มีอาการฝันร้ายหรือฝันซ้ำ ๆ เกี่ยวกับเรื่องน้ำท่วม ไม่สามารถมีสมาธิหรือจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้ รู้สึกเฉยชา เบื่อ เหนื่อย แยกตัวออกจากสังคมหรือคนรอบข้าง มีอารมณ์ฉุนเฉียว โกรธ แสดงออกอย่างรุนแรง มีอาการไม่สบายทางกาย เช่น ปวดหัว อาหารไม่ย่อย ปวดเมื่อยตามตัว มีลักษณะที่แสดงออกถึงการระวังความปลอดภัยของคนในครอบครัวอย่างเกินเลย หลีกเลี่ยงจะจดจำเรื่องน้ำท่วม และร้องไห้โดยไม่มีสาเหตุ

    หากเรามีอาการเหล่านี้ควรจัดการกับความเครียดที่เกิดขึ้นด้วยการจำกัดการได้ รับข่าวสารที่เกี่ยวกับอุทกภัยหรือภัยธรรมชาติต่าง ๆ แต่พอควร รับข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เรียนรู้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพและความปลอดภัย ออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และพักผ่อนให้เพียงพอ หากิจกรรมทำเพื่อไม่ปล่อยให้มีเวลาว่างมากเกินไป พยายามติดต่อสื่อสารกับเพื่อน ครอบครัว หรือผู้ที่ให้ความช่วยเหลือ อาศัยหลักศาสนาเข้ามาช่วย พยายามสร้างอารมณ์ขันอยู่เรื่อย ๆ แสดงความคิดของตัวเองออกมาไม่ว่าจะเป็นการพูด การคุยและการแบ่งปันความรู้สึกของตัวเองกับคนอื่น ๆ เพื่อแบ่งเบาความเครียดและความวิตกกังวล

    นอกจากการดูแลตัวเองทางด้านจิตใจแล้ว ในด้านสุขภาพของตัวเองก็สำคัญและควรหมั่นรักษาสุขภาพให้แข็งแรงด้วย เพราะในภาวะน้ำท่วมเช่นนี้อาจมีความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ มากมาย คือ “โรคติดต่อเนื่องจากน้ำไม่สะอาด” ได้แก่ ไทฟอยด์ อหิวาต์ โรคฉี่หนู และไวรัสตับอักเสบเอ “โรคติดต่อเนื่องจากมีแมลงเป็นพาหะ” ได้แก่ ไข้มาลาเรีย ไข้เลือดออก รวมถึง “อุบัติเหตุและการบาดเจ็บต่าง ๆ” เช่น การจมน้ำ

    โดยโรคติดต่อเนื่องจากน้ำไม่สะอาด ในภาวะน้ำท่วมจะสัมพันธ์กับความเสี่ยงในการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น ยิ่งถ้าเกิดขึ้นในชุมชนใหญ่หรือขาดแคลนน้ำสะอาด เนื่องจากน้ำดื่มไม่สะอาดและติดเชื้อน้ำไม่สะอาดอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อ ได้ ไม่ว่าจะเป็นผิวหนังอักเสบ แผลติดเชื้อ ตาอักเสบ ติดเชื้อทางเดินอาหาร ซึ่งเชื้อโรคที่สามารถติดต่อทางน้ำ ได้แก่ เชื้อไวรัส เช่น เชื้อไวรัสตับอักเสบเอ หรือเชื้อโปลิโอ เชื้อแบคทีเรีย เช่น เชื้ออหิวาต์ ไทฟอยด์ เชื้อ Coliform ที่ทำให้มีอาการท้องเสีย และเชื้อโปรโต
    ซัว เช่น Cryptosporidiosum, Amebae, Giardia

    ส่วนใหญ่แล้วการติดต่อเชื้อโรคจะมาจากการดื่มน้ำไม่สะอาด แต่มีบางโรคที่สามารถระบาดได้มากโดยการติดต่อทางการสัมผัสทางผิวหนัง เช่น โรคฉี่หนู ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่สามารถติดต่อผ่านทางผิวหนังหรือเยื่อของร่าง กายที่สัมผัสกับน้ำที่ปนเปื้อนฉี่หนูหรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ติดเชื้อ หากติดเชื้อจะมีอาการไข้สูง ปวดหัวมาก ปวดเมื่อยตามตัว ถ้าเป็นรุนแรงอาจมีอาการตัวเหลือง ตับวาย ไตวายหรือระบบทางเดินหายใจล้มเหลวได้ หากมีอาการดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน

    สำหรับ โรคไวรัสตับอักเสบเอ เป็นโรคที่มีการอักเสบของตับ จากการรับประทานอาหารและน้ำดื่มที่ปนเปื้อน โดยจะมีระยะฟักตัว 15-45 วันก่อนมีอาการ จากนั้นอาการจะเริ่มต้นด้วยอาการปวดเมื่อย ไม่อยากรับประทานอาหาร คลื่นไส้ ไข้ต่ำ อุจจาระสีซีดและปัสสาวะสีเข้ม มีอาการตัวเหลืองตาเหลืองดีซ่าน หลังรับการรักษาแล้วควรหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และอาหารมัน แต่เราสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน อย่างไรก็ตามการป้องกันโรคติดเชื้อที่มาจากน้ำ คือการดื่มน้ำสะอาดและเพียงพอเพื่อป้องกันร่างกายจากการขาดน้ำ โดยน้ำสะอาดได้แก่ น้ำต้มสุกหรือผ่านคลอรีน

    นอกจากโรคติดเชื้อที่มาจากน้ำแล้วยังมีโรคอื่น ๆ อีก ได้แก่เรื่องของอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการจมน้ำ หรืออุบัติเหตุการบาดเจ็บอื่น ๆ ถ้ามีบาดแผลควรฉีดวัคซีนป้องกับาดทะยักและรับประทานยาแก้อักเสบเพื่อป้องกัน การติดเชื้อ ที่สำคัญพ่อแม่ผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด เพราะภาวะอุณหภูมิในร่างกายต่ำผิดปกติ(Hypothermia) มักพบในเด็กเล็ก หากติดอยู่ในน้ำเป็นเวลานาน ๆ อาจทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินหายใจมากขึ้น

    ความเครียดจากภัยธรรมชาติมักเป็นกันทุกคน แต่ขอให้เกิดขึ้นเพียงชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น เพราะหากเราไม่รีบตั้งสติรับมือกับมันเพื่อป้องกัน อาจทำให้สุขภาพของเราค่อย ๆ ย่ำแย่ แล้วจะแก้ไขสถานการณ์ร้ายแรงกลับมาได้อย่างไร เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่สดใสกว่าเดิม...

    เคล็ดลับสุขภาพดี ดูแลสุขภาพด้วยสมุนไพรไทยสู้ภัยน้ำท่วม

    จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศไทย นอกจากจะส่งผลเสียต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัยแล้ว ในเรื่องของสุขภาพหลายคนเริ่มจะเจ็บป่วยแล้ว รวมทั้งสภาพอากาศก็เริ่มหนาวเย็นอีกด้วย หากเราไม่รู้จักดูแลร่างกายให้ดีอาจเจ็บป่วยได้ คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ถ้าต้องเจ็บป่วยท่วมกลางสถานการณ์ที่วิกฤติเช่นนี้ วันนี้เคล็ดลับสุขภาพดีแนะนำสมุนไพรเพื่อบรรเทาทุกข์จากโรคต่าง ๆ มาฝากกัน

    ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร จากมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ให้ความรู้ว่า การเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นกับร่างกายได้แก่ โรคหวัด มีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว ไอจาม อ่อนเพลีย ปวดศีรษะเล็กน้อย เบื่ออาหาร หรือมีไข้ร่วมด้วย เราสามารถใช้สมุนไพรที่หาง่ายใกล้ตัวอย่างฟ้าทลายโจร สามารถนำมารักษาได้โดย 1. ยาชง ใช้ใบ 5-7 ใบ สดหรือแห้งก็ได้เติมน้ำเดือดลงไปจนเกือบเต็มแก้วปิดฝาทิ้งไว้ประมาณครึ่ง ชั่วโมงแล้วรินน้ำกินครั้งละ 1 แก้ววันละ 3-4 ครั้งก่อนอาหาร ยาต้ม ใช้ทั้งต้นและใบจำนวน 1 กำมือ ต้มกับน้ำ 3-4 แก้ว ให้เดือดนาน 10-15 นาที กินขณะที่ยังอุ่นอยู่ ครั้งละ 1 แก้ว วันละ 3-4 ครั้งก่อนอาหาร ซึ่งสามารถกลบรสขมได้ด้วยการกินของรสเปรี้ยว เค็มตาม

    การใช้สมุนไพรฟ้าทลายโจรให้ได้ผลดีและออกฤทธิ์ได้เร็วที่สุดในการแก้หวัดคือ ถ้าเริ่มรู้สึกว่าครั่นเนื้อครั่นตัวทำท่าว่าจะเป็นไข้ให้รีบรับประทานทันที นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณรักษาอาการท้องเสียโดยไม่ทำให้หยุดถ่ายทันที วิธีใช้คือเริ่มใช้เมื่อมีอาการโดยใช้ผสมกับผงเกลือแร่ดื่มทันที และไม่ควรรับประทานยาแก้ท้องเสียหรือยาปฏิชีวนะ ยกเว้นในรายที่ติดเชื้ออหิวาตกโรคควรรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน

    สำหรับสมุนไพรในครัว เช่น ขิงก็สามารถนำมาแก้หวัดได้ จากงานวิจัยพบว่าน้ำขิงที่ได้จากการต้ม 30 นาที ช่วยกระตุ้นการทำงานของ Macrophage ที่มีหน้าที่ในการจับกินเชื้อไวรัส H3N2 ที่เข้าไปในร่างกาย ซึ่งเราสามารถกินน้ำขิงเพื่อป้องกันหวัดได้โดยการนำขิงแก่สดล้างสะอาดทุบให้ พอบุบโดยไม่ต้องขูดเปลือกทิ้ง ประมาณ 1 ถ้วย น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำสะอาด 3 ลิตร ต้มให้เดือดแล้วลดไฟลง เคี่ยวด้วยไฟอ่อนไปเรื่อย ๆ จนน้ำขิงกลายเป็นสีเหลือง เติมน้ำตาลหรือน้ำผึ้งตามใจชอบก็จะได้น้ำสมุนไพรต้านหวัดแล้ว

    กระเทียม เป็นสมุนไพรในครัวเรือนสารพัดประโยชน์อีกหนึ่งตัว ที่เพียงรับประทานกระเทียมสดเป็นประจำก็สามารถป้องกันหวัดและลดระยะเวลาการ เป็นหวัดได้ นอกจากนี้ยังมีรายงานวิจัยของญี่ปุ่นว่ากระเทียมในรูปของ Aged Garlic Extract (AGE-การแช่กระเทียมที่หั่นหรือสับใน 15-20 เปอร์เซ็นต์ แอลกอฮอล์ แล้วทิ้งไว้นานมากกว่า 10 เดือนที่อุณหภูมิห้องก่อนนำมาทำให้เข้มข้น) มีฤทธิ์ในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ทำให้มีประสิทธิผลในการป้องกันหวัดได้ดีเท่ากับการใช้วัคซีนกระเทียมดอง ซึ่งในฤดูกาลที่มีการระบาดของหวัดควรรับประทานกระเทียมในรูปแบบต่าง ๆ เป็นประจำ

    นอกจากนี้ยังมี สมุนไพรใช้ทาภายนอก หากถูกแมลงสัตว์กัดต่อย มีอาการปวดบวมแดงร้อนบริเวณถูกกัดต่อย ควรรีบทำความสะอาดและใช้สมุนไพรที่มีความเป็นกรด เช่น มะนาว น้ำส้ม มะขามเปียกโปะไว้ ซึ่งพิษของสัตว์มีพิษทุกชนิดจะเป็นสารโปรตีนจึงถูกทำลายด้วยสารที่มีฤทธิ์ เป็นกรด และ สมุนไพรจำพวกตะไคร้หอม ใบกะเพรา ใบเสลดพังพอนตัวผู้หรือตัวเมีย นำไปตำ คั้นเอาน้ำ หรือนำไปตากในที่ร่มแล้วบดเป็นผงนำมาทาตัวเพื่อป้องกันยุงกัดได้ เพราะยุงเป็นสัตว์ที่มักมาพร้อมกับน้ำท่วมขัง และหากถูกยุงกัดใช้สมุนไพรที่มีฤทธิ์ลดการอักเสบที่นิยมคือ ปูนแดง ช่วยลดอาการอักเสบ เพียงเท่านี้เราก็สามารถใช้ภูมิปัญญาไทยดูแลรักษาสุขภาพของตนเองและครอบครัว เบื้องต้นได้ยามประสบอุทกภัยแล้ว

    หากใครต้องการสอบถามเรื่องการใช้สมุนไพรเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร โทร. 0-3721-1288-9.

    สรรหามาบอก

    - ไลฟ์เซ็นเตอร์ ขอเชิญผู้สนใจร่วมงานสัมมนาในหัวข้อ ’มีบุตรยาก...ปัญหาของใคร“ พร้อมเกร็ดง่าย ๆ ในการปฏิบัติและดูแลตนเองเพื่อให้ตั้งครรภ์ ใน วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2554 เวลา 14.00-15.30 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 4 อาคารคิวเฮ้าส์ ลุมพินี (LH Bank) สอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งล่วงหน้าฟรีได้ที่ โทร. 0-2677-7177 หรือ 08-9228-8766

    - โรงพยาบาลพญาไท 2 ร่วมกับ รักลูก @hospitals2011 โดยนิตยสารรักลูก ขอเชิญคุณแม่ตั้งครรภ์และมีลูกวัย 0-3 ขวบ ร่วมกิจกรรม ’เคล็ดลับเลี้ยงลูกให้อารมณ์ดี สมองดี“ และกิจกรรมเวิร์กช็อป “Aerobic for smart baby” ใน วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2554 เวลา 09.00-12.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 9 (Meeting) อาคารจอดรถ 1 สำรองที่นั่งได้ที่ นิตยสารรักลูก โทร. 0-2913-7555 ต่อ 3531 (ไม่มีค่าใช้จ่าย)

    และใน วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม 2554 ขอเชิญประชาชนผู้สนใจร่วมกิจกรรม ’ฉลาดกิน สิ้นคอเลสเตอรอล (สูง)“ ภายในงานมีกิจกรรมเวิร์กช็อป ทำอาหารลดคอเลสเตอรอล ในเวลา 09.00-12.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 9 (Meeting) อาคารจอดรถชั้น 1 โรงพยาบาลพญาไท 2 พิเศษสำหรับ 30 ท่านแรกที่ลงทะเบียนรับบริการตรวจคอเลสเตอรอลฟรี พร้อมรับของที่ระลึก สนใจโทร.1772 หรือ 0-2913-7555 ต่อ 4323,4512

    - โรงพยาบาลศิครินทร์ ขอเชิญคุณแม่ตั้งครรภ์และผู้สนใจทุกท่านเข้าร่วมอบรม ’การดูแลทารกแรกเกิด“ ใน วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม 2554 เวลา 09.00-12.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารศิครินทร์ 1 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สอบถามเพิ่มเติม โทร. 1728 ต่อ แผนกลูกค้าสัมพันธ์ The Offical Site of Sikarin Hospital

    ทีมวาไรตี้

    -http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=486&contentId=171370-

    .
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    เปิดภาพประเมินระดับน้ำท่วมในกรุงเทพฯ

    เปิดแบบจำลองจากภาพถ่ายดาวเทียมประเมินระดับน้ำท่วมในกทม.พบชั้นในสูง60ซม.-1เมตร รอบนอกมากกว่า 1 เมตร ด้านกทม.แก้น้ำท่วมสามเสนแล้ว


    [​IMG]

    แถบสีแทนระดับน้ำในพื้นที่ต่างๆดังนี้ น้ำตาลเข้มความสูงมากกว่า 4.09 เมตร สีฟ้าอ่อน 0.69 เมตร ส่วนสีอื่นระดับน้ำจะลดหลั่นกันลงมาดังนี้ น้ำตาลเข้ม-เหลือง-เขียว-เขียวอ่อน-ฟ้าอ่อน



    เมื่อวันที่ 23 ต.ค. สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ได้เผยแพร่ภาพถ่ายดาวเทียมประเมินค่าเฉลี่ยระดับน้ำท่วมในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล โดยระดับน้ำกทม.ชั้นในจะอยู่ที่ 60ซม.-1เมตร จากระดับน้ำทะเล ขณะที่พื้นที่รอบนอกจะมีน้ำท่วมตั้งแต่ 1 เมตรจากระดับน้ำทะเลขึ้นไป
    <ins>กทม.ระบายน้ำท่วมบริเวณสามเสนแล้ว</ins>
    ขณะที่กรุงเทพมหานครแ (กทม.)ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมในกรุงเทพฯ โดยระบุว่า สำนักการระบายน้ำได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณบางกระบือ ถนนเขียวไข่กา ซึ่งเกิดจากรั้วโรงเรียนราชินีด้านแม่น้ำเจ้าพระยาแตกได้แล้ว
    นอกจากนี้ยังพบน้ำรั่วซึมแนวป้องกันบริเวณต่างๆ อาทิ บริเวณสะพานพระราม 7 หน้า เทคโนโลยีพระนครเหนือ ซึ่งเกิดจากแนวป้องกันของบริษัทซีแพค พัง 50 -60 ซม. ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังเข้าแก้ไขแล้ว
    สำหรับน้ำที่รั่วจากคลองประปาถึงพหลโยธิน บริเวณอนุสรณ์สถาน รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ซึ่ง สำนักการระบายน้ำได้ดำเนินการเรียงแนวกระสอบทรายบริเวณอนุสรณ์สถานด้านถนน วิภาวดี และถนนพหลโยธิน
    <ins>แจ้งวัฒนะช่วงคลองประปา-ศูนย์ราชการท่วมสูง 50 ซม.</ins>
    กรณีน้ำรั่วซึมจากคลองประปาทำให้เกิดน้ำท่วมถนนแจ้งวัฒนะจากคลองประปา ถึงศูนย์ราชการ ระดับน้ำ 50 ซ.ม. ทั้ง 2 ฝั่ง จากถนนแจ้งวัฒนะถึงศรีสมาน ระดับน้ำท่วมเป็นช่วงๆ ประมาณ 20 ซ.ม. หมู่บ้านบูรพา วัดเวฬุ วัดไผ่เขียว ระดับน้ำ 50 ซ.ม. ถนนแจ้งวัฒนะหน้ากรมทหารระดับน้ำ 40 – 50 ซ.ม. ซ.แจ้งวัฒนะ 14 ระดับน้ำ 40 – 50 ซ.ม.
    สำหรับระดับน้ำคลองเปรมประชากรหน้าสน.ดอนเมืองยังอยู่ในระดับสูงใกล้ขอบ ตลิ่ง ส่วนคลองอื่นๆ ปกติ แต่ยังคงเฝ้าระวังเขตดอนเมือง หลักสี่ บางเขน สายไหม คันนายาว มีนบุรี คลองสามวา และหนองจอกอยู่ ระดับน้ำคลองสามเสนช่วงต่อเชื่อมคลองประปา ระดับต่ำกว่าสันเขื่อน 1.84 ม. และน้ำในคลองประปาไหลสู่คลองสามเสนในอัตราต่ำกว่าที่คาด
    <ins>คลองหกวาระดับน้ำสูงเพิ่ม 2 ซม.</ins>
    สำหรับการคาดการณ์น้ำทะเลหนุนสูงวันนี้ เวลา 16.19 น. ที่ระดับ 0.98 ม. สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยระดับน้ำทะเลหนุนผิดปกติประมาณ 15 – 20 ซ.ม. คาดการณ์ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาสูงสุดวันนี้ที่ปากคลองตลาดโดยกรม อุทกศาสตร์ เวลา 16.16 น. ที่ระดับ 2.18 ม.สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง ระดับน้ำทุ่งเริ่มมาถึงคลองหกวาสายล่าง ระดับน้ำเพิ่มขึ้น ประมาณ 2 ซ.ม. ต้องเฝ้าติดตามเป็นระยะๆ


    -http://www.posttoday.com/%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%A1.-%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84/%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%A1./117864/%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%AF-

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • posttoday.jpg
      posttoday.jpg
      ขนาดไฟล์:
      159.4 KB
      เปิดดู:
      1,528
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    อาจารย์ม.รังสิตโชว์คลิปแฉศปภ.หมกข้อมูล

    อาจารย์ม.รังสิตโชว์คลิปแฉศปภ.หมกข้อมูลน้ำ ระบุประตูน้ำย่านดอนเมืองรับไม่อยู่ แต่กลับถูกรายงานว่าคุมสถานการณ์ได้ ชี้ดอนเมืองใกล้เป็นเกาะกลางน้ำ


    [​IMG]

    ภาพจากคลิปวิดีโอ


    นายอัฏฐพร ชัยรัตน์ลี้ตระกูล อาจารย์ประจำคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) สนามบินดอนเมือง โดยระบุว่า ศปภ.และรัฐบาลไม่นำเสนอข้อเท็จจริงในการป้องกันปัญหาน้ำท่วม โดยเฉพาะในพื้นที่เขตดอนเมือง
    ทั้งนี้ นายอัฏฐพร ได้นำคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณช่องระบายน้ำประตูดำ เขตดอนเมือง ตรงข้ามกับวัดรังสิต เมื่อเวลา 13.00 น.ของวันที่ 23 ต.ค.ที่มีสภาพน้ำไหลบ่าอย่างรุนแรง โดยที่ประตูน้ำอยู่ในสภาพชำรุด ไม่สามารถรับปริมาณน้ำได้
    นายอัฏฐพร กล่าวว่า น้ำที่ไหลมาบริเวณดังกล่าวเป็นน้ำที่เอ่อล้นมาจากคลองรังสิต บริเวณประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ที่ไม่สามารถรับน้ำได้แล้ว ทางองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) คลองหก จ.ปทุมธานี ได้พยายามส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปซ่อมแซมช่องประตูดำตั้งแต่เมื่อช่วง 17.00 น.ของวันที่ 22 ต.ค.แต่ไม่สามารถกู้สถานการณ์ได้ เนื่องจากปริมาณน้ำมากและไหลบ่ามาอย่างรุนแรง
    อย่างไรก็ตามมีสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งรายงานตั้งแต่เมื่อเวลา 03.00 น.ของวันที่ 23 ต.ค.ว่า บริเวณดังกล่าวเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ทั้งที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ทำให้ชาวบ้านบริเวณนั้นเดือดร้อนเป็นอย่างมาก และน้ำได้ท่วมบริเวณถนนโลคัลโรด และถนนสรงประภา จนรถเล็กไม่สามารถสัญจรได้
    นายอัฏฐพรกล่าวว่า หากยังเป็นแบบนี้ต่อไปก็จะกระทบไปถึงปริมาณน้ำในคลองเปรมประชากร และทำให้เขตดอนเมืองกลายเป็นเกาะกลางน้ำในที่สุด เพราะล่าสุดตลาดตลาดวัฒนานนท์ หรือตลาดฝั่งโขง ซึ่งเป็นตัวช่วยของเขตดอนเมืองก็ใกล้จะได้รับผลกระทบแล้ว
    "ผมอยากร้องเรียนให้รัฐบาลรับฟังความเห็นของฝ่ายอื่นบ้าง โดยเฉพาะคนในพื้นที่เพื่อนำไปใช้แก้ไขปัญหา ไม่ใช่ฟังแต่ข้อมูลของคนรอบข้างที่ไม่เป็นความจริง แล้วมานำเสนอแบบผิดๆ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน และผมพยายามนำเสนอข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กกลับมีคนมาขู่ว่าผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ที่ไปดูหมิ่นหยามเกียรติคนอื่นมีโทษจำคุก 20 ปีอีกด้วย” นายอัฏฐพร กล่าว
    นายอัฏฐพร กล่าวอีกว่า ในการแก้ไขปัญหาภาพรวมอยากเสนอให้รัฐบาลรับฟัง หรือเปิดเวทีอภิปรายกับ รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา ของมหาวิทยาลัยรังสิต โดยเฉพาะการปรับถนนให้เป็นคลอง เนื่องจากขณะนี้ ถ.วิภาวดี-รังสิต ก็ถูกน้ำท่วมอยู่แล้ว หากทำให้เป็นคลองเพื่อระบายน้ำให้ไปถึงบริเวณดินแดง และลงสู่อุโมงค์ยักษ์เพื่อผันน้ำลงทะเลโดยเร็ว ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน และน้ำท่วมพื้นที่ส่วนใหญ่ของ กทม.ด้วย
    สามารถดาวน์โหลดไฟล์ได้ที่นี่ video-2011-10-23-11-42-40.mp4 - 4shared.com - การจัดเก็บแฟ้มและใช้งานร่วมกันออนไลน์ - ดาวน์โหลด


    -http://www.posttoday.com/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87/117904/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%A1-%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B9%82%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B9%81%E0%B8%89%E0%B8%A8%E0%B8%9B%E0%B8%A0-%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5-

    .
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    10 ข้อควรรู้สร้างคันดินกันน้ำให้ถูกต้อง


    10ข้อควรรู้ในการสร้างคันดินกันน้ำให้ถูกต้องตามมาตรฐานเพื่อให้สามารถป้องกันได้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    โดย...รศ.ดร. อมร พิมานมาศ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประธานคณะอนุกรรมการสาขาวิศวกรรมโครงสร้างและสะพาน วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย


    [​IMG]


    สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน ในเหตุการณ์น้ำท่วมในคราวนี้ คิดว่าหลายท่านคงต้องได้ยินเรื่องพนังกั้นน้ำพังในหลายๆจุด จนทำให้น้ำไหลทะลักเข้ามาและทำให้เกิดน้ำท่วมในนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง เกิดความเสียหายสุดคณานับ หลายคนคงอยากรู้ว่าคันดินหรือพนังกั้นน้ำนี้คืออะไร และ มีมาตรฐานการออกแบบและก่อสร้างอย่างไรจึงจะถูกต้องตามหลักทางวิศวกรรม บทความในตอนนี้ผมจะนำเรื่องนี้มาอธิบายให้ท่านได้รับทราบกันนะครับเผื่อจะ เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการป้องกันทรัพย์สินของท่านจากน้ำท่วมในคราวนี้
    ในสถานการณ์น้ำท่วมปัจจุบันยังมีความจำเป็นที่ต้องก่อสร้างกำแพงกันน้ำใน หลายๆตำแหน่ง แต่วัสดุที่นำมาใช้ในการก่อสร้าง เช่น อิฐ คอนกรีต ทราย ต่างๆ ดูจะหาซื้อไม่ได้เสียแล้ว ผมมองว่ายังไงก็ต้องใช้ดินเป็นวัสดุก่อสร้างคันดินนี่ล่ะครับที่ยังพอจะหา ได้ในสถานการณ์นี้ ดังนั้นการก่อสร้างคันดินให้ถูกต้องตามมาตรฐานทางวิศวกรรม เพื่อให้ได้คันดินที่มีความแข็งแรงจึงเป็นเรื่องที่ท่านควรจะทราบไว้กันนะ ครับ
    คันดินหรือพนังกั้นน้ำเป็นโครงสร้างทางวิศวกรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งก่อสร้างด้วยการบดอัดดินจนแน่นเป็นรูปคันดิน การก่อสร้างคันดินจะต้องทำให้ได้ตามมาตรฐานเพื่อจะให้ได้คันดินที่มีความ แข็งแรง ในบทความนี้ผมจะแนะนำหลัก 10 ประการในการก่อสร้างคันดินตามมาตรฐานของ FEMA259 ซึ่งเป็นข้อแนะนำสำหรับการก่อสร้างคันดินที่มีความสูงไม่เกิน 2 เมตร เพื่อกันน้ำที่สูงไม่เกิน 1.70 เมตร (เผื่อไว้ 30 ซม. สำหรับกันน้ำกระฉอก)
    สำหรับคันดินที่มีความสูงกว่านี้ ก็ยังคงต้องทำตามหลัก 10 ประการที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้อยู่ แต่จำเป็นจะต้องมีการวิเคราะห์ทางวิศวกรรมอย่างละเอียดโดยวิศวกรผู้เชี่ยว ชาญและมีรายการคำนวณประกอบด้วย ซึ่งผมจะไม่นำมาพูดในบทความนี้
    [​IMG]
    หลัก 10 ประการในการก่อสร้างคันดินให้ได้มาตรฐานทางวิศวกรรมมีดังนี้ครับ
    1.วัสดุที่ใช้ทำคันดินจะเป็นดินเหนียวหรือดินทรายก็ได้ แต่ใช้ดินเหนียวจะดีกว่าเนื่องจากดินเหนียวมีขนาดอนุภาคที่เล็กทำให้น้ำซึม ผ่านได้ยาก ถ้าใช้ดินทรายต้องมีตะกอนดินเหนียวปนด้วยเป็นปริมาณไม่น้อยกว่า 15% โดยน้ำหนัก
    2.การก่อสร้างคันดินจะต้องทำให้เป็นรูปปิรามิดฐานกว้างและสอบลงเมื่อความ สูงเพิ่มขึ้น การก่อสร้างคันดินจะก่อดินขึ้นไปเป็นกำแพงในแนวดิ่ง คงทำไม่ได้เพราะจะล้มได้ง่ายเมื่อโดนแรงดันจากน้ำ นอกจากนี้ วัสดุที่นำมาก่อสร้างเช่นดินเหนียวหรือดินทรายก็ไม่อาจจะก่อสร้างขึ้นไปเป็น แท่งตรงๆได้ด้วย เพราะจะเลื่อนสไลด์ลงมา
    3.หากใช้ดินเหนียวเป็นวัสดุทำคันดิน ความลาดของคันดินทั้งสองด้าน (ด้านน้ำและด้านแห้ง) เท่ากับ ระยะดิ่ง 1 ส่วน ต่อ ระยะราบ 2.5 ส่วน
    4.หากใช้ดินทรายเป็นวัสดุทำคันดิน ความลาดชั้นของดินทรายด้านน้ำเท่ากับระยะดิ่ง 1 ส่วนต่อระยะราบ 3 ส่วน และ ความลาดชันของคันดินด้านแห้งเท่ากับระยะดิ่ง 1 ส่วนต่อระยะราบ 5 ส่วน
    5.ความกว้างของส่วนบนของคันดินแปรผันตามความสูงของคัน แต่สำหรับคันดินทั่วไปที่สูงไม่เกิน 4.0 เมตร ความกว้างส่วนบนของคันดินควรกำหนดค่าอยู่ระหว่าง 2.5 เมตรถึง 3.0 เมตร
    [​IMG]
    6.การก่อสร้างคันดินต้องทำเป็นชั้นๆ ชั้นละ 30 ซม. แต่ละชั้นต้องบดอัดให้แน่นโดยรถบดเพื่อเพิ่มกำลังต้านทานแรงเฉือน มิฉะนั้นแล้วกำแพงอาจจะถูกแรงดันน้ำเฉือนจนขาด
    7.เนื่องจากตัวคันดินเองก็อาจเป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำที่อยู่ด้านในคัน ดินออกสู่ภายนอก ดังนั้นจะต้องเตรียมท่อระบายน้ำหรือระบบระบายน้ำเพื่อนำน้ำที่อยู่ด้านในออก สู่ภายนอกด้วย
    8.ก่อนสร้างคันดิน ให้ขุดร่องใต้ฐานคันดินที่บริเวณกลางคันดินโดยมีขนาดกว้างไม่น้อยกว่า 0.6 เมตร ลึกไม่น้อยกว่า 1.0 เมตร ตลอดความยาวคันดินแล้วอุดร่องดังกล่าวด้วยดินเหนียว หรือ คอนกรีต เพื่อกันการรั่วซึมของน้ำใต้ฐานคันดิน
    9.ปูผ้าใบหรือผ้าพลาสติกไปตามแนวลาดของคันดินเพื่อป้องกันการซึมผ่านของ น้ำอีกชั้นหนึ่ง แล้ววางถุงทรายบนผ้าใบหรือผ้าพลาสติกนี้ทั้งด้านบนและด้านล่างของคัน
    10.ที่ตีนคันดินฝั่งแห้งให้เตรียมพื้นที่รับน้ำ หรือ Toe drain ดังรูปเพื่อรองรับน้ำที่ซึมเข้ามาผ่านทางตัวคันดิน บริเวณที่ทำ toe drain นี้ให้เติมด้วยทรายที่ระบายน้ำได้ดีไม่มีดินเหนียวปน และ เตรียมปั๊มน้ำและท่อส่ง เพื่อนำน้ำออกนอกพื้นที่



    -http://www.posttoday.com/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%94/117906/10-%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87-


    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .



    อ่า ยิ่งเครียดมากขึ้นไปอีก

    ฮือออออออออออออออออออออออออออออ








    -------------------------------------------------------


    "เรือใบ" ยำใหญ่ "ผี" 6-1 <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">23 ตุลาคม 2554 21:26 น.</td> </tr></tbody></table>

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">"ซูเปอร์มาริโอ" กับข้อความ "ทำไมต้องเป็นผมประจำ ?" </td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">"นานี" แผลงฤทธิ์ไม่ออกในเกมนี้</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">"ใบสำคัญ" ของ "จอนนี อีแวนส์"</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">"รูนีย์" ไม่สามารถช่วยทีมได้</td> </tr> </tbody></table>


    "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี โชว์ฟอร์มเทพบุกไปไล่ถลุง "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึก "แมนเชสเตอร์ ดาร์บี แมตช์" เกมพรีเมียร์ ลีก นัดที่ 9 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (23 ต.ค.) ไปอย่างเละเทะ 6-1 โดยเกมนี้ "ซูเปอร์มาริโอ" มาริโอ บาโลเตลลี และเอดิน เซโก เบิลคนละ 2 ประตู ส่วน ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ กู้หน้ามาได้ 1 ลูก

    ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ คู่แรกประจำวันอาทิตย์ที่ 23 ต.ค. (เวลา 19.30 น.)
    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 - 6 แมนเชสเตอร์ ซิตี

    "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า ลงสนามศึกพรีเมียร์ ลีก นัดที่ 9 เปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี จ่าฝูงของตาราง โดยเกมนี้ "เฟอร์กี" อเล็กซ์ เฟอร์กูซัน จัดตัวผู้เล่นแบบเต็มสูบ นำทัพโดย เวย์น รูนีย์ ดาวซัลโวประจำทีม (9 ประตูในเกมลีก), แดนนี เวลเบ็ก หอกดาวรุ่งฟอร์มแรง รวมถึง หลุยส์ นานี ปีกตัวจี๊ดทีมชาติโปรตุเกส ส่วน "ซิตี" ทีมเยือน โรแบร์โต มันชินี เข็นสตาร์ดังหวังมาคว้าชัยให้ได้ "กุน" เซอร์จิโอ อกูเอโร รองดาวซัลโว (8 ประตู) ยืนเป็นหัวหอกคู่กับ มาริโอ บาโลเตลลี โดยมี ดาบิด ซิลบา และเจมส์ มิลเนอร์ สนับสนุนในแนวรุก ขณะที่ คาร์ลอส เตเบซ ศูนย์หน้าเจ้าปัญหาชาวอาร์เจนไตน์ น่าจะหมดอนาคตเป็นที่แน่นอนแล้ว หลังไม่มีชื่อแม้กระทั่งตัวสำรอง

    เริ่มเกมมาตั้งแต่นาทีแรก "ผีแดง" เจ้าบ้าน กลายเป็นฝ่ายคุมเกมอยู่ฝ่ายเดียว นาทีที่ 3 ไมกาห์ ริชาร์ดส์ เสียบสกัด แอชลีย์ ยัง บริเวณนอกกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ได้ฟาวล์แต่ ยัง ลุกขึ้นมาเปิดฟรีคิกได้ไม่ดีนัก จากนั้นนาที 14 "ซิ ตี" ได้โอกาสบ้าง เมื่อ ซิลบา เลื้อยผ่านกองหลัง "แมนยูฯ" เปิดบอลกระฉอกมาเข้าทาง ตูรา ใส่เต็มข้อแต่บอลยังไม่ผ่านแผงหลังยูไนเต็ดอยู่ดี และแล้วกลายก็เป็น "ทีมเยือน" ที่ยิงประตูขึ้นนำได้ก่อนในนาที 21 เมื่อ ซิลบา ลากจี้มาหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่จะป้ายบอลไปทางซ้ายให้ มิลเนอร์ เปิดเข้ากลางมาจุดนัดพบ "มาริโอ" กดหน้าปากประตูเน้นๆ บอลผ่านมือ เด เกอา เสียบมุมอย่างสวยงาม "ซิตี" ขึ้นนำ 0-1

    จากนั้น "ผีแดง" เร่งเกมอย่างหนักเพื่อหวังตีเสมอให้ได้เร็วที่สุด นาทีที่ 33 แอนเดอร์สัน ได้โอกาสยิงไกลจากจังหวะที่ โจ ฮาร์ท ปัดบอลจากลูกเตะมุม แต่ทว่านายทวารทีมชาติอังกฤษก็ไม่พลาดรับไว้แน่น ต่อมานาที 36 รูนีย์ ได้โอกาสส่องไกลบ้าง ซึ่งก็ยังไม่ดีพอที่จะผ่านมือฮาร์ท และในนาที 39 "แมน ยู" เล่นลูกสูตรจากกลูกเตะมุมฝั่งซ้าย โดยเล่นสั้นก่อนโยนมาให้ รูนีย์ ในกรอบเขตโทษฝั่งขวาผ่านบอลจ่อๆให้ อีแวนส์ แปรโล่งๆ แต่ยิงวืดไปอย่างเหลือเชื่อ จากนั้นช่วงเวลาที่เหลือไม่มีทีมใดทำอะไรกันได้จบครึ่งแรกที่สกอร์ 0-1

    ครึ่งหลังเริ่มต้นขึ้นได้เพียงนาทีเดียว (46) มาริโอ ได้โอกาสทำชิ่งกับ "กุน" หลุดเข้าไปหน้ากรอบเขตโทษ จอนนี อีแวนส์ ไม่มีทางเลือกต้องรั้งไม่หลุดไปเดี่ยวกับ เด เคอา ส่งผลให้กรรมการไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากแจก "ใบแดง" ทันที หลังจากที่ "ซิตี" ได้เปรียบตัวผู้เล่นนาที 55 มิลเนอร์ เปิดโค้งมาให้ "กุน" เข้าชาร์ต แต่แรงเกินไป บอลหลุดออกหลังไป

    ต่อมานาที 57 รู นีย์ ได้โอกาสยิงจากลูกเปิดเตะมุม ทว่าบอลพุ่งกลางประตูยังเบิกสกอร์ตีไข่แตกไม่ได้ และเมื่อได้เปรียบตัวผู้เล่น "ซิตี" ก็หนีห่าง "แมนยู" อีกครั้งนาทีที่ 60 เมื่อ ซิลบา ทำชิ่งกับ มิลเนอร์ ก่อนจะหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ และพลิกบอลกลับมาให้ มิลเนอร์ เปิดจากด้านข้างฝั่งขวาไปให้ "มาริโอ" ชาร์ตจ่อๆ สกอร์ไหลเป็น 0-2

    จากนั้นนาที 65 "เฟอร์กี้" ตัดสินใจแก้เกมโดยเปลี่ยนผู้เล่นลงมา 2 คน คือ ฟิล โจนส์ มาแทน แอนเดอร์สัน และ ชิชาริโต้ มาแทน นานี ซึ่งก็ยังไม่เป็นผล เมื่อนาที 69 "มาริโอ" ตอกส้นให้ มิลเนอร์ จ่ายออกด้านข้างให้ ริชาร์ด เปิดตัดเข้ากลางให้ "กุน" กดไม่เหลือซากช่วยให้ "ซิตี" นำห่าง 0-3 ซึ่งภายหลัง "มันชินี" ได้ตัดสินใจเปลี่ยนผู้เล่นคนแรกบ้างเช่นกัน โดยส่ง เอดิน เซโก ลงสนามแทน มาริโอ บาโลเตลี ที่วันนี้ซัลโว 2 ลูก

    ต่อมานาที 75 "ซิตี" ตัดสินใจส่ง ซาเมียร์ นาสรี มาแทน "กุน" ที่วิ่งตลอดทั้งเกม ซึ่งทีมเยือนเกือบหนีห่างครั้งในนาทีที่ 76 เมื่อ ซิลบา จ่ายบอลให้ เซโก หลุดเข้าสับไกโล่งๆ แต่ เด เกอา ใช้ขาช่วยเซฟไว้ได้ และแล้วความหวังของเจ้าถิ่นก็มาประสบความสำเร็จในนาที 80 เมื่อ เฟร็ทเชอร์ ได้กดเต็มๆ หลังทำชิ่งกับ ชิชาริโต บอลพุ่งผ่านมือ โจ ฮาร์ท เข้าไปอย่างสุดสวย "ผีแดง" ไล่ขึ้นมา 1-3

    นาที 88 มันชินี เปลี่ยน อเล็กซานเดอร์ โคราลอซ ลงมาแทน มิลเนอร์ จากนั้นนาที 89 "ซิตี" มาได้ 2 ประตูรวด จาก เอดิน เซโก ที่รับลูกเปิดส้มหล่นของ เลสคอตต์ และ ซิลบา ที่หลุดมายิงแบบเผาขน (นาที 90) เท่านั้นยังไม่พอช่วงทดเวลา เซโก เบิ้ลประตูที่สองได้สำเร็จ เมื่อหลุดมายิงผ่านมือ เด เกอา เข้าเสาแรก ส่งผลให้ "เรือใบสีฟ้า" บุกมาเกยถึงถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด 1-6 รักษาตำแหน่งจ่าฝูงต่อไป โดยแข่งขัน 9 นัดมี 25 แต้ม ขณะที่ "ผีแดง" มี 20 แต้มเท่าเดิม

    รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา, ปาทริซ เอฟรา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอนนี อีแวนส์, คริส สมอลลิง, ดาร์เรน เฟลทเชอร์, แอนเดอร์สัน, หลุยส์ นานี, แอชลีย์ ยัง, แดนนี เวลเบ็ก, เวย์น รูนีย์
    แมนเชสเตอร์ ซิตี : โจ ฮาร์ท, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, แวงซองต์ กอมปานี, โจเลียน เลสคอตต์, กาแอล กลีชี, ยายา ตูเร, แกเร็ธ แบร์รีย์, เจมส์ มิลเนอร์, ดาบิด ซิลบา, เซอร์จิโอ อกูเอโร กุน,มาริโอ บาโลเตลลี

    ผลฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก ประจำวันที่ 23 ต.ค.
    อาร์เซนอล 3 - 1 สโตก ซิตี
    [1-0 เเชร์วินโญ นาที 27], [1-1 ปีเตอร์ เคราช์ นาที 34] [2-1 โรบิน ฟาน เพอร์ซี นาที 73], [3-1 โรบิน ฟาน เพอร์ซี นาที 82]
    ฟูแลม 1 - 3 เอฟเวอร์ตัน
    [0-1 เดรนเธ นาที 3], [1-1 รุซ นาที 68], [1-2 หลุยซ์ ซาฮา นาที 90], [1-3 แจ็ค รอดเวลล์ นาที 90]


    -http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9540000135347-


    .

    ลิงค์ไปชมคลิป


    -http://football.kapook.com/news_inside.php?id=14378&key=news-


    http://football.kapook.com/news_inside.php?id=14378&key=news


    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2011
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    <table id="post" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-right: 0px">นนี้, 02:59 AM </td> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px" align="right"> </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175"> is9221
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jan 2006
    ข้อความ: 24
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> <center>พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

    </center>
    <hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1"> ตามที่ท่านได้โพสต์กระทู้.....พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....เมื่อ 23-12-2005, 06:59 AM นั้น ไม่ทราบว่ายังมีให้บูชาสัก ๒ องค์ หรือไม่ ( ขอตามรูปที่โพสต์ ) กรุณาแจ้งเงื่อนไขได้ครับ......ขออนุโมทนาบุญที่ท่านสร้างตลอดมาด้วย ครับ....is_9221@yahoo.com
    </td></tr></tbody></table>


    ถ้าเป็นพระวังหน้าตามรูป ไม่มีแล้วครับ

    แต่ถ้าจะร่วมทำบุญเพื่อรับพระวังหน้า(โดยไม่ระบุว่าจะรับเป็นพิมพ์ไหน หรือ รุ่นไหน) ก็ยังพอมีมอบให้อยู่

    การร่วมทำบุญมี 3 กรณี โดยทุกกรณีต้องร่วมทำบุญ 1,000 บาท รับพระวังหน้า 1 องค์

    1.ร่วมทำบุญช่วยเหลือน้ำท่วม โดยผ่านมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ หรือ มูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภา)ยามยาก และต้องโพสสลิปหน้าบอร์ด

    2.ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธ.กรุง ไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ และต้องโพสสลิปหน้าบอร์ด

    3.ทำบุญในกระทู้ ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิตพระเณรบช.ออมทรัพย์ 2030-06304-5 บัญชี รร.พระปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทองบมจ.ธ.กรุงไทย สาขาพนมสารคาม และต้องโพสสลิปหน้าบอร์ด


    การร่วมทำบุญเืพื่อรับพระวังหน้าในกระทู้พระวังหน้าฯและกระทู้ที่sithiphong ได้ตั้งขึ้นเพื่องานบุญทุกๆงาน

    หมายเหตุ 1 ผมไม่ถ่ายรูปพระพิมพ์ลงในเว็บครับ

    หมายเหตุ พระ พิมพ์(พระเครื่อง)ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชานั้น เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ไม่สามารถนำไปซื้อขายในวงการพระเครื่องไทย(วง การซื้อ-ขายพระ) ได้ หากท่านต้องการพระพิมพ์(พระเครื่องที่สามารถนำไปซื้อขายในวงการพระเครื่อง ของเมืองไทย (วงการซื้อ-ขายพระ) ก็ไม่ต้องร่วมทำบุญและรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไป

    แต่ พระพิมพ์(พระเครื่อง) ที่ผมมอบให้นั้น เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง) ที่สร้างขึ้นที่วังหน้า โดยกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ มีพระบัณฑูรให้สร้างขึ้น โดยช่างสิบหมู่แห่งวังหน้าเป็นผู้สร้าง และนำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่วัดบวรสถานสุทธาวาส (พระอุโบสถประจำวังหน้า) มีการอาราธนาคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร(คณะโสณะ-อุตระ) และ หรือ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และ หรือ กลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ (เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน , หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า , หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร , หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ เป็นต้น) อธิษฐานจิต ระหว่างปี พ.ศ.2400- 2428 หรือ พระที่สร้างขึ้นที่วังหลวง นำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม(วัดพระแก้ว) ปี พ.ศ.2429-2434

    แต่ หากจะนำไปเพื่อเป็นพุทธานุสติ และหรือการห้อยคอเพื่อคุ้มครองตนเอง และหรือการบูชาต่างๆ เพื่อเป็นการบูชาพระคุณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกุกุกสันโธ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนาม สมณโคดม ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ( การบูชาพระคุณพระสิวลีเถระเจ้า ,พระอนุรุธเถระเจ้า ,พระอุปคุตเถระเจ้า เนื่องจากการนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกเพิ่มเติม) ,การบูชาพระคุณองค์พระมหากษัตริย์ไทยทุกๆพระองค์ ,พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ,องค์อุปราชวังหน้า รัตนโกสินทร์ทุกๆพระองค์ และทั้งช่างสิบหมู่แห่งวังหน้า ,วังหลวง ,วังหลัง ,ช่างราษฎร์ทุกๆท่านและเทพเทวาทั้ง 16 ชั้นฟ้าและที่อยู่ในองค์พระพิมพ์(พระเครื่อง)ครับ

    ซึ่ง เรื่องที่ผมได้บอกนั้น เป็นความเชื่อ ,ความเห็นของผม รวมทั้งคณะของผม ซึ่งก็แล้วแต่ท่านผู้ร่วมทำบุญและท่านผู้อ่านทุกๆท่าน จะมีความคิดเห็นอย่างไร ก็สุดแล้วแต่ครับ

    โมทนาบุญทุกประการกับทุกๆท่านครับ


    .
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ปลอดประสพ ลั่น! ต้องบอกความจริงประชาชน



    [​IMG]
    นายปลอดประสพ สุรัสวดี


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


    ปลอด ประสพ ลั่น! ควรให้ความจริงประชาชน 100% จวก กทม. ปอดแหกเปิดประตูระบายน้ำ พร้อมเตือนประชาชนในพื้นที่มหิดล - ศาลายา ยกของขึ้นที่สูง น้ำจ่อเข้าพื้นที่

    เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวเตือนถึงสถานการณ์น้ำท่วมรอบ ๆ กรุงเทพฯ ไม่ว่าฝั่งตะวันตก หรือตะวันออกว่า ประชาชนมี 2 ทางเลือก คือ ไม่ขึ้นที่สูง ก็ต้องย้ายออกมา อย่างครอบครัวตนก็ไปอยู่พัทยาหมดแล้ว ยกเว้นตน

    ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า คิดอย่างไรที่มีคนเริ่มด่าการทำงานของ ศปภ. นายปลอดประสพ ชี้แจงว่า ในฐานะเป็นหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. ระบบการเตือนภัยที่เกี่ยวกับธรรมชาติเขาให้เชื่อว่ามันจะรุนแรง ดังนั้น ให้ความจริงกับประชาชน 100% ไม่ต้องกลัวเขาหวาดกลัว ต้องให้ข้อมูลล่วงหน้าด่วนที่สุด และแนะนำให้คนหนีไปหาที่ปลอดภัย

    ต่อข้อถามว่า แสดงว่าที่ผ่านมา ศปภ.บอกความจริงไม่หมดหรือไม่ นายปลอดประสพ เปิดเผยว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ แต่ตนบอกหมด ที่เลวร้ายที่สุดคือ กทม. ท่วมยาวประมาณเดือนเศษ ขณะนี้ประตูน้ำ รอบกรุงเทพฯ เปิดแล้ว โดยการเปิดประตูน้ำดีขึ้นมาใน 2-3 วันนี้ จากเมื่อก่อนเปิด ๆ ปิด ๆ ซึ่งทัศนะตนคิดว่าปอดไป เพราะยังทำได้มากกว่านี้ อีกทั้ง ควรจะใช้กล้องวงจรปิดของตำรวจจราจร จับตาดูกระแสน้ำด้วย อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้ถือว่าวิกฤติสุดของ กทม. หากผ่านสัปดาห์นี้ไปได้อันตรายจะลดลง แต่ความลำบากจะมีต่อไป เนื่องจากน้ำยังไม่ลด

    พร้อมกันนี้ นายปลอดประสพ ยังแจ้งเตือนให้ประชาชนพื้นที่มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา เตรียมขนของไว้ที่สูง เนื่องจากมวลน้ำกำลังจะทะลักเข้ามาในพื้นที่นี้ ส่วนความเคลื่อนไหวล่าสุดที่ ศปภ. นั้น เจ้าหน้าที่ได้เปิดรับอาสาสมัครเพื่อวางแนวกระสอบทรายบริเวณคลังสินค้า อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามความเคลื่อนไหวที่ ศปภ. อย่างใกล้ชิด รวมถึงสถานการณ์น้ำ ว่าจะไหลเข้าท่วมพื้นที่กรุงเทพมหานครชั้นในหรือไม่




    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก เดลินิวส์ และ ไอ.เอ็น.เอ็น.
    [​IMG][​IMG]


    -http://hilight.kapook.com/view/63984-

    ---------------------------------------------------


    ปิดคำสั่ง! แก้ไขปัญหาน้ำท่วมฉบับแรก ของนายกฯ



    [​IMG]



    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra


    ยิ่งลักษณ์ ลงนามแก้ไขปัญหาน้ำท่วมฉบับแรกตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตามมาตรา 31 เพื่อควบคุมการปิดประตูระบายน้ำพระอินทร์ราชา ของกรมชลประทาน บริเวณคลอง 1 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

    สถานการณ์น้ำท่วมของประเทศไทยในปีนี้นับว่าหนักที่สุดในรอบหลายปีทีเดียว เพราะนอกจากน้ำจะท่วมในหลายพื้นที่แล้ว น้ำยังได้ท่วมหนัก และได้ลามท่วมในหลายพื้นที่ รวมถึงเมืองหลวงของประเทศอย่างกรุงเทพมหานคร ก็ไม่อาจเลี่ยงได้ ถึงแม้ว่าหลายฝ่ายจะร่วมมือกันป้องกันแล้วก็ตาม

    และในการแก้ไขน้ำท่วมครั้งนี้ รัฐบาลที่นำโดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ได้มีการแต่งตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ขึ้นมาดูแลและแก้ไขน้ำท่วม แต่ดูเหมือนว่า ศปภ. จะโดนวิพากษ์วิจารณ์ถึงการแก้ไขปัญหาว่ามีความล่าช้า และข้อมูลก็ไม่ชัดเจน ทำให้ประชาชนไม่อาจที่จะเชื่อถือและไว้วางใจการให้ข้อมูลของ ศปภ. ขณะที่ พรรคประชาธิปัตย์ ก็มีการจี้ให้รัฐบาลมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย และแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้อย่างรวดเร็ว แต่รัฐบาลก็ยืนยันจะไม่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินดังกล่าว แต่ประกาศใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตามมาตรา 31 แทน และเชื่อว่าจะสามารถควบคุมสถานกาณ์ได้

    อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ลงนามฉบับแรก ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตามมาตรา 31 เพื่อควบคุมการปิดประตูระบายน้ำพระอินทร์ราชา ของกรมชลประทาน บริเวณคลอง 1 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และไม่ถูกขัดขวางจากประชาชน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 31 ประกอบมาตรา 21 (1) แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 ให้ปฏิบัติดังนี้

    1. ให้ข้าราชการกรมชลประธานผู้มีชื่อดังต่อไปนี้ คือนายชัชวาล ปัญญาวาทีนันท์ รองอธิบดีกรมชลประทานเป็นผู้ถือกุญแจควบคุมประตูระบายน้ำ และกำกับการการเปิดหรือปิดบานประตูน้ำ การสั่งการเปิดหรือปิดประตูระบายน้ำ ให้ทุกหน่วยงานรับฟังคำสั่งจากราชการผู้นี้เท่านั้น

    2. ให้พล.ต.ตคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รองผู้บัญชาการฯ รักษาราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 จัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าสนับสนุนการปฏิบัติตามข้อที่1 ป้องกันมิให้ประชาชนเข้าขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตามข้อ1 และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง ความสงบเรียบร้อยบริเวณประตูระบายน้ำพระอินทร์ราชาตลอดเวลา จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

    3. ให้อธิบดีกรมชลประทาน และ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผบ.ตร.รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ควบคุมการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตามข้อ1หรือข้อ 2. ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป



    ลงนาม นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี




    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
    springnewstv.tv




    -http://hilight.kapook.com/view/63982-




    .
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ผู้ว่าฯ กทม.แถลงด่วน สั่ง 6 เขต รับมือน้ำท่วม

    [​IMG]


    สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม

    ผู้ว่าฯ กทม. แถลงด่วน สั่งอพยพ 6 เขต ดอนเมือง หลักสี่ บางเขน บางซื่อ จตุจักร สายไหม ให้ยกสิ่งของขึ้นที่สูง หรือเคลื่อนย้ายไปยังศูนย์พักพิง ภายใน 24 ชม. ด้าน ผอ.ศปภ.ออกประกาศตามหลัง ยันพร้อมช่วยเหลือและสนับสนุน กทม.

    วานนี้ (23 ตุลาคม) เวลาประมาณ 23.15 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงสรุปสถานการณ์น้ำท่วม โดยระบุว่า จากการประเมินสถานการณ์ สรุปได้ว่า ปัญหาค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากน้ำเหนือมาเร็วเกินคาด ขณะนี้อยู่ที่บริเวณคลองรังสิต ดอนเมือง และถนนพหลโยธิน จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตดอนเมือง หลักสี่ บางเขน บางซื่อ จตุจักร และสายไหม เคลื่อนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และเคลื่อนย้ายไปยังศูนย์พักพิง หากใครที่คิดว่าไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ภายใน 24 ชม. ซึ่งในวันนี้ (24 ตุลาคม) จะมีการประเมินสถานการณ์ว่า จะต้องมีการเตือนพื้นที่ใดอีกบ้าง ทั้งนี้ ย้ำว่าสถานการณ์ขณะนี้อาจนำไปสู่ขั้นวิกฤติ

    นอกจากนี้ ยังกล่าวอีกว่า ทาง กทม. ได้มีการประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อแจ้งเตือนไปยังสถานเอกอัครราชทูต ตลอดจนคณะทูตานุทูตที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ให้ระมัดระวังและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

    ต่อมา เมื่อเวลา 00.50 น. พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) ได้ออกประกาศทางโทรทัศน์ว่า ศปภ.พร้อมให้ความช่วยเหลือและสนับสนุน กทม.ในการดำเนินการรับมือสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 6 เขต อย่างเต็มที่่และใกล้ชิด โดยทาง กทม.สามารถประสานงานกับ ศปภ.ได้ตลอด24 ชั่วโมง


    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก ไอ.เอ็น.เอ็น. และ มติชนออนไลน์
    [​IMG] [​IMG]
    [23 ตุลาคม] กทม.ห่วงหลักหกคลองประปาทะลักเขตชั้นใน

    [​IMG]



    กทม.ห่วงหลักหกคลองประปาทะลักเขตชั้นใน (ไอเอ็นเอ็น)

    ผู้ว่าฯกทม. เผย คลองเปรมฯ น้ำยังสูง สั่งเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงต่อเนื่อง รับห่วงจุดอ่อนช่วงคลองรังสิต ตัดพหลโยธิน ที่ชาวบ้านต้านทำแนวกั้น

    ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงถึง สถานการณ์และการเตรียมป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า ขณะนี้ระดับน้ำคลองเปรมประชากร บริเวณหน้า สน.ดอนเมือง ยังอยู่ในระดับสูงใกล้ขอบตลิ่ง ส่วนคลองอื่น ๆ ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ทาง กทม. ยังคงต้องเฝ้าระวัง เขตดอนเมือง หลักสี่ บางเขน สายไหม คันนายาว มีนบุรี คลองสามวา และหนองจอก

    ส่วนระดับน้ำในคลองสามเสน ช่วงเชื่อมต่อคลองประปาระดับต่ำกว่าสันเขื่อนอยู่ที่ 1.84 เมตร อีกทั้งน้ำในคลองประปายังไหลลงสู่คลองสามเสนในอัตราที่ต่ำกว่าคาด พร้อมกันนี้ยอมรับว่ายังเป็นห่วงในจุดอ่อนของ กทม.คือช่วงคลองรังสิตตัดถนนพหลโยธิน ซึ่งมีประชาชนในพื้นที่ต่อต้านภารกิจการเสริมพนังป้องกัน รวมถึงที่คลองหลักหก และคลองประปา ซึ่งหากยังมีระดับน้ำสูงขึ้น จะส่งผลต่อคลองเปรมประชากร ซึ่งจะมีผลต่อการป้องกันน้ำทะลักเข้าท่วมกรุงเทพฯ ชั้นใน ทันที

    อย่างไรก็ตาม ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ปฏิเสธข่าวที่เจ้าหน้าที่ กทม. เสียชีวิตจากการโหมงานหนัก ภายหลังบรรจุกระสอบทราย เพื่อทำงานแนวคันกั้นน้ำท่วมกรุงเทพฯ


    ไอ.เอ็น.เอ็น.
    [​IMG]


    -http://hilight.kapook.com/view/63235-

    .
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ดุสิตโพลเผย ปชช. มองแก้น้ำท่วมโยงการเมือง


    [​IMG]


    ดุสิตโพลปชช.มองแก้น้ำท่วมโยงการเมือง (ไอเอ็นเอ็น)

    ดุสิตโพล เผย คนมองน้ำท่วมโยงการเมือง พร้อมเชื่อว่า หน่วยงานที่แก้ปัญหาน้ำท่วม โดยไม่หวังผล คือ หน่วยงานที่ทำงานถวายในหลวง

    สวนดุสิตโพล เผย ผลสำรวจคนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เรื่องน้ำท่วมกับการเมือง โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 76.52เห็นว่า การแก้ปัญหาน้ำท่วมมีการเมืองมาเกี่ยวข้อง เพราะต่างฝ่ายต่างปกป้องพื้นที่ของตนเอง โดยร้อยละ 67.10 ยังเห็นว่า การที่พรรคการเมืองแทรกแซงเรื่องน้ำท่วม จะมีผลทำให้คะแนนนิยมลดลง เพราะจะกลายเป็นเรื่องผลประโยชน์ ทั้งนี้ ส่วนใหญ่ร้อยละ 70.02 เชื่อว่าการเอาการเมืองมาเกี่ยวพันกับการแก้น้ำท่วม จะทำให้แก้ปัญหาได้ยากขึ้น

    อย่างไรนั้น หน่วยงานที่ประชาชนเชื่อว่า จะแก้ปัญหาน้ำท่วมโดยไม่หวังผลทางการเมือง คือ หน่วยงานที่ทำงานถวายในหลวง ร้อยละ 31.04 และนักวิชาการ ร้อยละ 30.11





    ไอ.เอ็น.เอ็น.
    [​IMG]


    -http://hilight.kapook.com/view/63976-

    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948



    อย่าลืมครับ หากเลือกด้วยตัวคุณเอง

    แล้วเกิดเหตุภัยต่างๆขึ้น ก็อย่ามาโวยวาย




    .
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ‘อนุดิษฐ์’ เผยเหตุนายกฯ สั่งคุมประตูน้ำพระอินทร์ ปราการป้องกันน้ำเหนือทะลักเข้ากรุง

    [​IMG]

    วันที่ 23 ต.ค. น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) นำแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมซึ่งชี้ให้เห็นปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงมาสู่พื้นที่ ต่างๆใกล้กรุงเทพ และกำลังเคลื่อนเข้ากรุงเทพฯ ว่า ตอนนี้ก็พยายามที่จะป้องกันอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะบริเวณประตูน้ำพระอินทร์ราชา ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงมาก เพราะถ้าควบคุมการปิดเปิดประตูน้ำดังกล่าวไม่ได้ ก็จะทำให้น้ำทะลักเข้ากทม.ได้อย่างรวดเร็ว และเป็นเหตุผลที่นายกฯออกคำสั่งให้มีคนรับผิดชอบดูแลประตูดังกล่าวเป็นพิเศษ

    นอกจากควบคุมปริมาณน้ำที่คลอง 1 แล้ว ยังมีการปิดประตูระบายน้ำตั้งแต่คลอง 2-5 ด้วย เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่คลองรังสิตประยูรศักดิ์ เพื่อไม่ให้ไหลมาสมทบกันที่ประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ เพราะถ้าปล่อยให้น้ำจากคลองระพีพัฒน์ไหลมาสู่คลองรังสิตมายังประตูน้ำ จุฬาลงกรณ์ก็อาจทำให้ระดับน้ำที่ประตูจุฬาลงกรณ์เพิ่มขึ้นและพังได้

    หากน้ำจำนวนมากถูกทำปล่อยออกมาจากประตูน้ำพระอินทร์ราชา ไหลต่อเนื่องไปที่สู่คลอง 1 เพราะบริเวณดังกล่าวมีประตูน้ำจุฬาลงกรณ์อยู่ และหากประตูฯพังน้ำทั้งหมดก็จะทะลักเข้าสู่ดอนเมืองและกรุงเทพฯทันที ตนยืนยันว่า ขณะนี้การระบายน้ำออกไปทางด้านทิศตะวันออกของกทม. เป็นไปตามแผนที่วางไว้ซึ่งจะเห็นได้จากภาพถ่ายทางอากาศที่มีปริมาณน้ำอยู่ บริเวณจ.นครนายกมากพอสมควร


    -http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNeE9UTTJORE0yTmc9PQ==&sectionid=-

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เหอๆๆๆ ท่านพลตำรวจเอกพงศพัศ พงษ์เจริญ ท่านบอกว่า ทางเจ้าหน้าที่ำตำรวจจะดูแลความปลอดภัย ให้ท่านผู้ประสบภัยไม่ต้องกังวล ผ่านหน้าจอทีวี ไหงลูกน้องบอกแบบข้างล่างนี้หล่ะ



    --------------------------------

    รถหนีน้ำระวังโจร ตำรวจ รับ ดูแลไม่ทั่วถึง

    รถหนีน้ำระวังโจร ตร.รับดูแลไม่ทั่ว! (ไทยโพสต์)

    ตำรวจเตือน เจ้าของรถที่นำรถไปจอดหนีน้ำบนทางด่วน สะพานข้ามแยกและทางต่างระดับ หมั่นไปดูแลรถของตนเอง และควรเขียนชื่อ เบอร์โทรศัพท์เจ้าของรถติดไว้ที่กระจก กรณีมีเหตุฉุกเฉินติดต่อได้ทันที จัดสายตรวจ 191 คอยตรวจตราสร้างความอุ่นใจ

    พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบงานจราจร กล่าวถึงการดูแลปัญหาการจราจรและประชาชนในพื้นที่ กทม. หลังได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์น้ำท่วมว่า ตำรวจนครบาลจัดกำลังอำนวยความสะดวกด้านการจราจรดูแลความสะดวกกรณีรถบรรทุก วัสดุ อิฐ หิน ดิน ทราย เพื่อนำไปทำคันกั้นน้ำ รถขนสิ่งของบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัย หรือขนย้ายทรัพย์สินของประชาชนที่เดือดร้อน รวมทั้งจัดที่จอดรถให้ประชาชน และดูแลไม่ให้มีการจอดกีดขวางการจราจรตามสถานที่ต่าง ๆ

    กรณีประชาชนนำรถไปจอดบนพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ เช่น สะพานข้ามแยก ทางต่างระดับ และทางด่วน พล.ต.ต.ภาณุกล่าวว่า ที่จริงแล้วการจอดรถตามที่เหล่านี้ถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติการจราจร ทางบก พ.ศ.2522 แต่เนื่องจากเป็นภาวะฉุกเฉินที่ประสบปัญหาอุทกภัย ทางตำรวจจึงผ่อนผันให้มีการจอดได้ในบางจุดที่ไม่เป็นการกีดขวางความสะดวกและ ความปลอดภัยในด้านการจราจร โดยต้องไม่นำรถยนต์มาจอดทางขึ้นลงทางด่วนพิเศษ ทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ทุกเส้นทาง รวมถึงสะพานกลับรถและสะพานต่าง ๆ เนื่องจากเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ กีดขวางทางจราจรในการลำเลียงผู้ป่วย และลำเลียงความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ

    อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบรถที่นำไปจอดตามที่ห้ามจอด ขณะนี้พบว่ามีรถยนต์จำนวนมากจอดซ้อนคัน ส่งผลกระทบทำให้การจราจรติดขัด จึงขอให้ผู้ที่นำรถไปจอดในลักษณะดังกล่าวเคลื่อนย้ายรถของตนโดยด่วน โดยนำไปจอดในที่เหมาะสม เช่น บ้านญาติ บ้านเพื่อน จังหวัดใกล้เคียง นอกเขตพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมขัง รวมทั้งผู้ที่นำรถไปจอดแล้วไม่ได้ถูกเคลื่อนย้ายกรุณาไปดูแลรักษารถของตน อย่างสม่ำเสมอ พร้อมติดชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ไว้ที่กระจกหน้ารถด้วย เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถติดต่อกับเจ้าของรถได้ในกรณีที่มีความจำเป็นเร่ง ด่วน

    "ตอนนี้การดูแลรถของประชาชนที่นำมาจอดค่อนข้างยาก เพราะรถที่นำมาจอดไม่ค่อยเป็นระเบียบ ไม่สามารถระบุเจ้าของรถยนต์ได้ ปัญหาเรื่องการงัดแงะขโมยรถเราก็เป็นห่วง จึงส่งสายตรวจ 191 ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปตรวจเป็นระยะ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานสถิติโจรกรรมรถเหล่านี้ จึงอยากให้ประชาชนที่จะนำรถไปจอดทิ้งบนทางด่วนหรือสะพานข้ามแยกต่าง ๆ พึงระวัง เพราะนอกจากจะเสี่ยงถูกโจรกรรมแล้วยังเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุด้วย" พล.ต.ต.ภาณุกล่าว





    ขอขอบคุณข้อมูลจาก ไทยโพสต์

    [​IMG]



    -http://hilight.kapook.com/view/63995-



    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    เจ๋ง ดอกจิก กร่างใน ศปภ. ลั่นจะเอาเรือบริจาค


    [​IMG]



    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    เจ๋ง ดอกจิก เบ่งจะเอาเรือบริจาคน้ำท่วม แต่นักข่าวไม่ยอมให้ประสานไปขอ ปภ. เจ้าตัวลั่นใหญ่กว่า ปภ. เสียอีก

    เมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา บริษัท แม็กซ์ลายเนอร์ ออโต้พาร์ท จำกัด นำเรือพายสีดำ จำนวน 2 ลำ มาทยอยบริจาค จากทั้งหมดจำนวน 200 ลำ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หลังจากนั้นไม่นาน มีรายงานว่า นายยศวริศ ชูกล่อม (เจ๋ง ดอกจิก) แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้เข้ามาสอบถามเกี่ยวกับเรือลำนี้ เพราะอยากได้ แต่ทางผู้สื่อข่าวที่กำลังตรวจสอบเรืออยู่ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรือไปพร้อมถามกลับว่า มาจากหน่วยงานไหน

    นายยศวริศ ตอบว่า มาจากกระทรวงมหาดไทย ผู้สื่อข่าวจึงแนะนำว่าให้ไปติดต่อที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้โดยตรง ซึ่งนายยศวริศ ตอบกลับว่า ตนเองคุม ปภ. อยู่และใหญ่กว่า ปภ. เสียอีก

    ผู้สื่อข่าวจึงถามกลับว่าจะนำเรือไปช่วยเหลือประชาชนที่ไหน นายยศวริฐ ก็ตอบกลับว่า เป็นเรื่องส่วนตัว พร้อมสั่งให้ผู้สื่อข่าวยกเรือออก แต่ไม่มีใครปฏิบัติตาม

    ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวว่าภายในพื้นที่คลังเก็บสินค้า 1 ของท่าอากาศยานดอนเมือง มีการจัดเก็บสิ่งของที่ได้รับบริจาค สำหรับช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นจำนวนมาก ทั้งถุงยังชีพ แพไม้ไผ่ ที่ประกอบเสร็จแล้ว สุขาลอยน้ำและเรือเหล็กอีกจำนวนหนึ่ง รวมไปถึงเรือที่ได้รับบริจาคจากต่างประเทศ ซึ่งได้ส่งมอบมาตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเมื่อสอบถามสาเหตุที่ไม่นำไปใช้ในพื้นที่ประสบภัย เจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงว่า "เรือและสิ่งของทั้งหมดนั้นกระทรวงมหาดไทยได้จองไว้หมดแล้ว"



    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก ไทยโพสต์

    [​IMG]


    -http://hilight.kapook.com/view/63994-


    .--------------------------------------------------------.
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ท่านที่ประสบอุทกภัยทั้งหลาย

    หากท่านได้อ่านกระทู้พระวังหน้าฯนี้ ผมจะบอกว่า ส.ส.ที่ท่านเลือกไว้ พรรคไหนที่ท่านได้เลือกไว้ ได้กลับมช่วยเหลือท่านหรือไม่


    ในครั้งหน้า หากท่านเลือก ส.ส.คนเดิม หรือ พรรคเดิม หากเกิดเหตุภัยต่างๆ ก็ไม่ต้องร้องขอความช่วยเหลือ เพราะท่านได้เลือกเอง เลือกด้วยสมองของท่านเอง ท่านกากากบาทลงในบัตรเลือกตั้งเองด้วยมือของท่านเอง

    ไม่ว่าสีไหนๆ ลองดูครับว่า พฤติกรรมในแต่ละสี แต่ละกลุ่ม ทำอะไรกันบ้างในช่วงนี้

    จะโง่ซ้ำซากกันก็เชิญ

    ผมไม่โง่ซ้ำซากมานานแล้ว






    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ย้อนดูประวัติศาสตร์"เมืองหลวง"ของโลกจมน้ำ


    ไม่ใช่ครั้งแรกที่เมืองไทยอาจประสบปัญหา"น้ำท่วมกรุงเทพฯ" และเมืองหลวงของประเทศต่างๆ ทั่วโลกก็เคย"ถูกน้ำตีแตก"เช่นกัน
    นาที นี้ สิ่งที่สร้างความวิตกกังวลให้ชาวกรุงเทพฯ มากที่สุด คงหนีไม่พ้นข้อสงสัยว่า “กรุงเทพฯ จะเกิดน้ำท่วมหรือไม่?” เพราะสถานการณ์วิกฤติขึ้นทุกวัน บริเวณที่ถูกระบุว่า “เอาอยู่” หรือ “ไม่ต้องกังวล” ก็เห็นได้ว่าน้ำตีจนแตกพ่ายแทบทุกที่ จนวันนี้กรุงเทพฯ ประสบภาวะ “น้ำล้อมเมือง”
    แต่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เมืองหลวงของประเทศ ไทยประสบภาวะน้ำท่วม หากย้อนดูประวัติศาสตร์ กรุงเทพฯ ก็เคยประสบอุทกภัยครั้งใหญ่หลายครั้ง เช่นในปี 2485 มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดอุทกภัยในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาก็เพิ่มสูงขึ้นจนท่วมท้นกรุงเทพมหานคร บริเวณสะพานสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ วัดระดับน้ำที่ท่วมได้สูงถึง 2.27 เมตร ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ส่วนเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว ในปี 2538 ก็เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่อีกครั้ง เมื่อพายุหลายลูกพัดถล่มทางตอนบนของประเทศไทย ทำให้น้ำเหนือไหลหลากท่วมกรุงเทพฯ ระดับน้ำสูงถึง 1 เมตร นานร่วม 2 เดือน
    ที่สำคัญ ประเทศไทยก็ไม่ใช่ประเทศเดียวที่เมืองหลวงต้องเผชิญกับอุทกภัย เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ประเทศเพื่อนบ้านอย่างฟิลิปปินส์ ก็ประสบปัญหาน้ำท่วมในกรุงมะนิลา จากเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อประชากรกว่า 500,000 คน ทำให้ถนนหลายสายถูกตัดขาดเนื่องจากน้ำท่วม โรงเรียนและหน่วยงานราชการที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบต้องหยุดทำการ เที่ยวบินที่เข้าออกกรุงมะนิลาหลายเที่ยวถูกยกเลิก นอกจากนี้สถาบันการเงินต่างๆ เช่นธนาคารและตลาดหุ้นต้องหยุดทำการ ส่วนระบบรถไฟฟ้าก็หยุดให้บริการเนื่องจากไฟฟ้าไม่เพียงพอ
    ส่วนเมื่อปี 2553 กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ก็ เกิดอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบศตวรรษ เนื่องจากฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้สะพานถูกตัดขาด เกิดดินถล่มและน้ำท่วมฉับพลัน ทางตอนใต้ของกรุงโซลถูกตัดไฟฟ้า ทำให้ระบบรถไฟใช้งานไม่ได้ ขณะที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินก็กลายสภาพเป็นสระน้ำ รถยนต์เป็นพันคันต้องจมใต้บาดาล ส่วนประชากรกว่า 4,500 คนไร้ที่อยู่อาศัย

    ด้าน “จาร์กาต้า” เมืองหลวงของประเทศอินโดนีเซีย ก็ประสบปัญหาน้ำท่วมบ่อยครั้ง เนื่องจากกระแสน้ำทะเลที่ขึ้นสูงผิดปกติ แต่อุทกภัยใหญ่ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในปี 2550 เพราะฝนที่ตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมบริเวณที่ลุ่มต่ำหรือประมาณร้อยละ 70 ของเมือง สัญญาณโทรศัพท์ขัดข้อง การจราจรติดขัดเนื่องจากถนนบางส่วนถูกปกคลุมด้วยน้ำ ซึ่งต้นเหตุของอุทกภัยเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ และสิ่งก่อสร้างในเมืองที่ขวางทางน้ำไหลก็ยิ่งทำให้ปัญหานี้ร้ายแรงยิ่งขึ้น
    จาก เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 57 ราย ส่วนประชากรอีกกว่า 250,000 คนไร้ที่อยู่อาศัย หลายคนต้องไปอาศัยอยู่ใต้สะพานหรือกางเต้นท์ที่พักบริเวณสุสาน การช่วยเหลือของทางการก็ไม่ทั่วถึง ทำให้เกิดปัญหาขาดน้ำสะอาดและอาหาร
    และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประเทศโลกตะวันตกอย่างอิตาลี ก็เพิ่งเกิดน้ำท่วมในกรุงโรม เพราะพายุฝนถล่ม ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ต้นไม้หักโค่น ระบบขนส่งมวลชนขัดข้อง รถไฟใต้ดินต้องงดให้บริการและสายการบินบางเที่ยวดีเลย์ จนนายกเทศมนตรีกรุงโรมต้องออกมาประกาศภาวะฉุกเฉิน จากเหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เนื่องจากจมน้ำในชั้นใต้ดินของอพาร์ทเม้นต์ และหลังจากฝนหยุดตก การจราจรก็ยังติดขัดโดยเฉพาะบริเวณชานเมือง

    เมืองหลวงของหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่า“พัฒนาแล้ว”หรือ“กำลังพัฒนา”ก็เคยเกิด อุทกภัยเช่นกัน และถึงตอนนี้ กรุงเทพมหานครจะน้ำท่วมหรือไม่ ไม่มีใครรู้ เพราะน้ำแทรกซึมไปได้ทุกที่และคาดการณ์แทบไม่ได้ แต่สิ่งที่ทุกคนทำได้คือต้องเตรียมป้องกันและไม่ประมาท เพราะหากน้ำไม่มาก็ดีไป แต่ถ้าน้ำมาเมื่อไหร่ จะได้ลดความเสียหายที่อาจเกิดกับชีวิตและทรัพย์สิน
    ทีมเดลินิวส์ ออนไลน์


    -http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=656&contentId=171670-

    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ข้อแนะนำในการป้องกันนิคมฯและบ้านจัดสรร

    -http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1319431147&grpid=01&catid=&subcatid=-


    [COLOR=##005800]โดย ดร.สุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ [/COLOR]


    ศูนย์วิจัยและพัฒนาวิศวกรรมปฐพีและฐานราก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์



    ข้อแนะนำต่อการป้องกันน้ำ



    [​IMG]







    -http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1319431147&grpid=01&catid=&subcatid=-

    .

    ข้อแนะนำในการป้องกันนิคมฯและบ้านจัดสรร : มติชนออนไลน์

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...