พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ไม่สนซ้ำเติมอุทกภัย คลังลั่นขึ้นภาษีดีเซล เดินหน้ารถคันแรก



    ไม่สนซ้ำเติมอุทกภัย คลังลั่นขึ้นภาษีดีเซล เดินหน้ารถคันแรก (ไทยโพสต์)


    ธีระชัย ลั่น ม.ค.2555 ขึ้นภาษีดีเซลแน่ ไม่สนซ้ำเติมวิกฤติน้ำท่วม อ้างรัฐต้องหารายได้เพิ่ม แต่ยังดันทุรังเดินหน้าคืนเงินรถยนต์คันแรก

    นาย ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.การคลัง กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการปฏิบัติงานและการจัดเก็บภาษีแก่คณะ ผู้บริหารของกรมสรรพสามิต ว่า ในเดือน ม.ค.2555 กระทรวงการคลังจะเริ่มปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลแน่นอน หลังจากมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซลที่ขยายเวลาออกไปจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค.2554 แต่จะปรับขึ้นอย่างไร ยังไม่สามารถเปิดเผยได้

    ส่วนจะเป็นการซ้ำเติมประชาชนที่ถูกน้ำท่วมหรือไม่ ยืนยันว่ารัฐบาลมีความจำเป็นต้องหารายได้เข้ามา นอกจากนี้ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างคิดสูตรการปรับโครงสร้างภาษีน้ำมันให้มีราคาแตก ต่างกัน ระหว่างแก๊สโซฮอล์กับน้ำมันชนิดอื่น

    นายธีระชัยกล่าวว่า ยังได้มอบให้กรมสรรพสามิต ศึกษาและเตรียมการปรับปรุงโครงสร้างภาษีสรรพสามิตทั้งหมดใน 2-3 เดือนข้างหน้า เพราะประเทศที่มีการพัฒนาขึ้น ภาษีฐานการบริโภคจะมีสัดส่วนมากขึ้นมาแทนที่ภาษีฐานรายได้ โดยต้องมีการปรับอัตราจัดเก็บภาษีให้ภาระไปตกกับคนฐานะดีมากขึ้น

    ส่วน จะต้องปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่หรือไม่ เป็นเรื่องที่กรมสรรพสามิตต้องไปคิดว่าการเก็บภาษีคาร์บอนจะต้องเก็บจากอะไร บ้าง ส่วนจะปรับปรุงมาตรการคืนเงินรถยนต์คันแรกเพื่อนำเงินภาษีมาช่วยรถยนต์ที่ ถูกน้ำท่วมหรือไม่นั้น มองว่าปัจจุบันมาตรการดังกล่าวยังไม่ได้มีผลกระทบต่อภาษี และสำหรับผู้ที่รถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมก็ไม่ใช่ผู้ที่จะได้สิทธิ์รถยนต์คันแรก เพราะมีรถยนต์เป็นคันที่ 2 คันที่ 3 แล้ว

    นางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ได้ประเมินผลกระทบเบื้องต้นต่อภาษีสรรพสามิตจากอุทกภัยในสินค้าประเภทน้ำมัน รถยนต์ สุรา เบียร์ ยาสูบ เครื่องดื่ม และสินค้าอื่นๆ โดยคาดว่าภาษีสรรพสามิตจะหายไปประมาณ 1.23 หมื่นล้านบาทต่อเดือน ซึ่งผลกระทบส่วนใหญ่คงเป็นในรอบเดือน พ.ย. ส่วน ต.ค.ยังไม่ได้รับผลกระทบนัก และประเมินว่าผลกระทบน่าจะกินเวลาประมาณ 3 เดือน

    ทั้งนี้ กรมเตรียมเสนอกระทรวงการคลังให้อนุมัติขยายเวลายื่นแบบเสียภาษี เพื่อช่วยผู้ประกอบการที่ถูกน้ำท่วม ทั้งในเขตนิคมอุตสาหกรรมและนอกเขตที่ประสบภัย



    ขอขอบคุณข้อมูลจาก

    [​IMG]


    -http://www.thaipost.net/news/221011/46947-

    -http://hilight.kapook.com/view/63949-

    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จาก pm ผม



    ท่านพี่ sithiphong เจ้าขา แม่......ขอร้อง
    ยามนี้ เวลานี้ พวกเรามาช่วยกันนำพาควบคุมสติ รักษาสถานการณ์มิให้ทุกคนทุกฝ่ายก่อเกิดอารมณ์ใจขุ่นมัว ตำหนิติเตียนกันเลยนะคะ เพราะเหตุนัั้นจะนำไปซึ่ง การกอกองไฟ ความร้อนในสารพางค์กายขันธ์ของแต่ละดวงจิต ทั้งจะเป็นช่องทางให้อสูตรหม่มารเข้าแทรกแฝงกายขันธุ์กันได้

    ปกติ แม่.....จะพยายามรักษากาย วาจา ใจ ไม่ก้าวล่วงกรรมใครๆ ตั้งใจหมั่นฝึกเพียรตนตามกำลัง เรียนรู็ที่จะเข้าถึงจิตละเอียดปราณีต หากยามนี้ ขณะนี้ ภัยพาลเข้าถึง จึงอดไม่ได้ออกเข้ามาซุกซน และพยายามใช้ศักยภาพ (ราคจริต) ตนเอง ปรับแปรส่งสื่อสารมงคลธรรม หวังตั้งใจดึงอยาตนะเป็นรูปธรรมสื่อสายตา/โสตมาสู่พวกเราๆ ผู้ยังมีความจำเป็นครองขันธุ์

    ด้วยความคารวะ ที่ผ่านมาได้เสพสื่อติดตามสาระจากท่านพี่ ด้วยความเคารพยิ่ง .... หากเมื่อยามนี้ เวลานี้ แม่......ขอโอกาสเร่งรัดชวนกันมาสร้างสรรค์ ส่งเสริมการเกิดก่ออารมณ์จิตที่สงบเย็น เกิดความเป็นมงคลของทุกดวงจิตกันดีกว่านะจ๊ะ ท่านพี่ แม่.......กราบค่ะ



    ---------------------------------------------

    ขอบคุณครับ

    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    อัพเดท!รายชื่อหมู่บ้านจมน้ำท่วม กทม.-ปริมณฑล บ้านหรูแค่ไหนก็ไม่เหลือ...


    เว็บไซต์ Think of Living (thinkofliving.com) ได้รวบรวมข้อมูลหมู่บ้านต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม จากห้อง WAR ROOM ของโครงการต่างๆและเครือข่ายสังคมออนไลน์ไว้ดังนี้


    มากที่สุด รถเล็กวิ่งไม่ได้ (40 cm+)
    มาก น้ำท่วมประมาณแข้ง (20-40 cm)
    ปานกลาง น้ำท่วมขัง (<20 cm)
    น้อย น้ำท่วมไม่ถึง 1 วันแล้วสามารถสูบออกไปได้


    (ลำดับที่ แบรนด์ ชื่อหมู่บ้าน ทำเล ระดับความเสียหาย)

    1 มั่นคงเคหะการ ชวนชื่นการ์เด้นวิลล์ ทางหลวง 307 มากที่สุด
    2 มั่นคงเคหะการ ชวนชื่นฟลอร่าวิลล์ ทางหลวง 307 มากที่สุด
    3 มั่นคงเคหะการ ชวนชื่นกอล์ฟ อเวนิว ทางหลวง 307 มากที่สุด
    4 Property Perfect มณีรินทร์ ท่าอิฐ มากที่สุด
    5 Property Perfect มณีรินทร์ ทางหลวง 345 มากที่สุด
    6 Property Perfect มณีรินทร์ บางพูน รังสิต มากที่สุด
    7 Property Perfect The Villa รัตนาธิเบศร์ ท่าอิฐ ปานกลาง
    8 Property Perfect The Villa บางบัวทอง บางบัวทอง มากที่สุด
    9 ปริญสิริ เดอะ นอร์ธเธิร์น ทาวน์ รังสิต พหลโยธิน คลอง 1 มากที่สุด
    10 Q.House คาซ่า วิลล์ 1 ราชพฤกษ์ รัตนาธิเบศร์ มากที่สุด (สูบออกหมดแล้ว)
    11 Q.House คาซ่า วิลล์ 2 ราชพฤกษ์ รัตนาธิเบศร์ มากที่สุด (สูบออกหมดแล้ว)
    12 Q.House คาซ่า วิลล์ ราชพฤกษ์ แจ้งวัฒนะ ชัยพฤกษ์ มากที่สุด
    13 Q.House ลัดดารมย์ ราชพฤกษ์ รัตนาธิเบศร์ ราชพฤกษ์ รัตนาธิเบศร์ มาก
    14 Q.House ลัดดารมย์ ชัยพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ มากที่สุด
    15 KC KC รามอินทรา ซ.พระยาสุเรนทร์ 40 ปานกลาง
    16 แสนสิริ ฮาบิเทีย ราชพฤกษ์ ทางหลวง 345 มากที่สุด
    17 แสนสิริ เศรษฐสิริ ชัยพฤกษ์ มากที่สุด
    18 แสนสิริ ฮาบิเทีย บางใหญ่ บางใหญ่ ปานกลาง
    19 แสนสิริ V-Village นวนคร น้อย
    20 แสนสิริ เศรษฐสิริ วงแหวน รามอินทรา น้อย
    21 แสนสิริ บุราสิริ ราชพฤกษ์ แจ้งวัฒนะ ชัยพฤกษ์ มากที่สุด
    22 บ้านซื่อตรง บ้านซื่อตรง บางบัวทอง บางบัวทอง มากที่สุด
    23 Land & Houses ปาริชาต ทางหลวง 345 มากที่สุด
    24 Land & Houses ชัยพฤกษ์ ทางหลวง 345 มากที่สุด
    25 Land & Houses พฤกษ์ลดา ติวานนท์ ราชพฤกษ์ ทางหลวง 345 มากที่สุด
    26 Land & Houses ชัยพฤกษ์ รัตนาธิเบศร์ วงแหวน ปานกลาง
    27 Land & Houses ชัยพฤกษ์ บางบัวทอง บางกรวย ไทรน้อย มากที่สุด
    28 Land & Houses ชลลดา บางบัวทอง บางบัวทอง มากที่สุด
    29 Land & Houses ชัยพฤกษ์ ราชพฤกษ์ แจ้งวัฒนะ ชัยพฤกษ์ มาก
    30 Land & Houses มัณฑนา แจ้งวัฒนะ ราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ มากที่สุด
    31 Land & Houses นันทวัน แจ้งวัฒนะ ราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ มากที่สุด
    32 - เฟื่องสุข 2 บางบัวทอง-ลำโพ มากที่สุด
    33 พฤกษา ภัสสร ราชพฤกษ์-ติวานนท์ ทางหลวง 345 มากที่สุด
    34 พฤกษา บ้านพฤกษา 50 กรุงเทพ-ปทุมธานี มาก
    35 พฤกษา บ้านพฤกษา 12 รังสิต คลอง 3 มากที่สุด
    36 พฤกษา บ้านพฤกษา 44 รังสิต คลอง 2 มาก
    37 พฤกษา บ้านพฤกษา 25 กันตนา มาก
    38 พฤกษา พฤกษาวิลล์ 16 รังสิต คลอง 3 มากที่สุด
    39 พฤกษา ภัสสร 2 รังสิต คลอง 3 มากที่สุด
    40 พฤกษา ภัสสร 4 รังสิต-นครนายก ปานกลาง
    41 พฤกษา ภัสสร 12 รังสิต คลอง 3 ปานกลาง
    42 พฤกษา พฤกษาวิลล์ 22 พระราม 5-2 น้อย
    43 พฤกษา บ้านพฤกษา นารา อยุธยา มากที่สุด
    44 พฤกษา บ้านพฤกษา 39 แก้วอินทร์ บางใหญ่ ปานกลาง (สูบออกหมดแล้ว)
    45 พฤกษา บ้านพฤกษา 49 แก้วอินทร์ บางใหญ่ ปานกลาง (สูบออกหมดแล้ว)
    46 พฤกษา บ้านพฤกษา 19 วัดลาดปลาดุก ปานกลาง
    47 พฤกษา พฤกษาวิลล์ 28 บางใหญ่ ปานกลาง
    48 พฤกษา พฤกษาวิลเลจ 7 ประชาอุทิศ น้อย
    49 พฤกษา พฤกษาวิลเลจ 11 รัตนาธิเบศร์ ราชพฤกษ์ มากที่สุด
    50 พฤกษา บ้านพฤกษา 41 กันตนา ปานกลาง
    51 พฤกษา บ้านพฤกษา 31 พุทธมณฑล สาย 4 มากที่สุด
    52 พฤกษา บ้านพฤกษา 30 วัดลาดปลาดุก มากที่สุด
    53 พฤกษา บ้านพฤกษา 33 วัดลาดปลาดุก มากที่สุด
    54 วังทอง วราบดินทร์ รังสิต บางพูน มากที่สุด
    55 พรทวีวัฒน์ พรทวีวัฒน์ คลองหลวง มากที่สุด
    56 - รัตนโกสินทร์ 200 ปี รังสิต มากที่สุด
    57 - เศราณี บ้านกล้วย-ไทรน้อย มากที่สุด
    58 - บุศรินทร์ บ้านกล้วย-ไทรน้อย มากที่สุด
    59 - White House รังสิตคลอง 1 มากที่สุด
    60 - สินบดี ราชพฤกษ์ ตลาดบางบัวทอง มากที่สุด
    61 - ดิ เอมเมอรัล ราชพฤกษ์ ตลาดบางบัวทอง มากที่สุด
    62 - ภัทรไพรเวท 3 บางบัวทอง มากที่สุด
    63 Q.House ลัดดารมย์ ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ 2 ราชพฤกษ์ มากที่สุด
    64 Q.House พฤกษ์ภิรมย์ Regent ราชพฤกษ์ ปานกลาง
    65 Q.House พฤกษ์ภิรมย์ ราชพฤกษ์ ปานกลาง
    66 Land & Houses สีวลี สุวรณภูมิ น้อย
    67 ลภาวัน ลภาวัน 12 บางบัวทอง มากที่สุด
    68 บัวทอง Property บัวทอง 4 บ้านกล้วย-ไทรน้อย มากที่สุด
    69 มนรดา มนรดา 1 บางกรวย-ไทรน้อย มากที่สุด
    70 ลภาวัน ลภาวัน 15 ราชพฤกษ์ มากที่สุด
    71 บัวทอง บัวทองธานีพาร์ค บางบัวทอง มากที่สุด
    72 แสนสิริ สราญสิริ ราชพฤกษ์ มากที่สุด
    73 แสนสิริ ฮาบิเทีย บางใหญ่ น้อย
    74 แสนสิริ สราญสิริ รังสิต คลอง 2 มาก
    75 Property Perfect Perfect Park บางบัวทอง มากที่สุด
    76 - กานต์มณี บางบัวทอง มากที่สุด
    77 Asian Property The city พระราม 5 – ราชพฤกษ์ น้อย
    78 มั่นคงเคหะการ ชวนชื่นบรู๊คไซด์ ทางหลวง 307 มากที่สุด
    79 เหรียญ เหรียญ เนเชอรัลโฮม1 คลองหลวง มากที่สุด
    80 มั่นคงเคหะการ เหรียญ เนเชอรัลโฮม 2 คลองหลวง มากที่สุด
    81 อริสรา อริสรา 1 บางบัวทอง-ลำโพ มากที่สุด
    82 อริสรา อริสรา 2 บางบัวทอง-ลำโพ มากที่สุด
    83 - ขจีนุช ทางหลวง 345 มากที่สุด
    84 - วนาสิริ ทางหลวง 345 มากที่สุด
    85 - หงส์ประยูร บางบัวทอง มากที่สุด
    86 Property Perfect Perfect Park รังสิต มากที่สุด
    87 พฤกษา ภัสสร 7 บางพูน รัตนาธิเบศร์ มากที่สุด
    88 พฤกษา พฤกษาวิลเลจ 30 ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ น้อย
    89 พฤกษา พฤกษา 3 บางบัวทอง ปานกลาง
    90 - สินทร บางพูน มากที่สุด
    91 - มนวดี เอ็กซ์คลูซีฟ บ้านกล้วย-ไทรน้อย มากที่สุด
    92 Property Perfect Perfect Masterpiece รัตนาธิเบศร์ มากที่สุด
    93 - รัตนาธิเบศร์ รัตนาธิเบศร์ มากที่สุด
    94 บุศรินทร์ บุศรินทร์ บางบัวทอง มากที่สุด
    95 - แสงชัยนิเวศน์ ศาลากลางปทุม มากที่สุด
    96 กฤษดานคร กฤษดานคร 19 พหลโยธิน รังสิต มากที่สุด
    97 - มณียา ท่าอิฐ มากที่สุด
    98 Property Perfect Perfect Place ท่าอิฐ มากที่สุด
    99 ซื่อตรง ซื่อตรง บางใหญ่ มากที่สุด
    100 ภัทรารมย์ ภัทรารมย์ 2 ลาดหลุมแก้ว มากที่สุด
    101 - Sweet Home บางกรวย-ไทรน้อย มากที่สุด
    102 Land & Houses ลดาวัลย์ รังสิต ปทุม มากที่สุด
    103 - ฟลอร่าวิลล์ พาร์คซิตี้ สุวินทวงศ์ มากที่สุด
    104 บัวทอง บัวทองแลนด์ บางกรวย-ไทรน้อย มากที่สุด
    105 บัวทอง บัวทองเคหะ บางกรวย-ไทรน้อย มากที่สุด
    106 นันทิชา บางบัวทอง มากที่สุด
    107 พฤกษา พฤกษาวิลล์ 16/1 รังสิต คลอง 3 มากที่สุด
    109 Q.House คาซ่าแกรนด์ ราชพฤกษ์ รัตนาธิเบศร์ ปานกลาง
    110 - อักษรา ราชพฤกษ์ ตลาดบางบัวทอง มากที่สุด
    111 พฤกษา พฤกษาวิลล์ 15 บางบัวทอง วัดไผ่เหลือง มากที่สุด
    112 - อุบลชาติ 2 สี่แยกนพวงศ์ ลาดหลุมแก้ว มากที่สุด
    113 เปี่ยมสุข เปี่ยมสุข บ้านกล้วย-ไทรน้อย น้อย
    114 - ฟลอร่าวิลล์ สุวินทวงศ์ มากที่สุด


    หรือติดตามสถานการณ์จากห้อง WAR ROOM ของหมู่บ้านแต่ละแห่ง ดังนี้:

    Sansiri
    Land & Houses
    Q.House
    Pruksa
    SC ASSET
    Asian Property
    Property Perfect
    มั่นคงเคหะการ

    .








    .

    -http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1319168782&grpid=01&catid=&subcatid=-

    .
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    สัญญาณชัดกทม.ไม่รอดวอนอพยพ


    "สธ." ยอมรับสภาพน้ำท่วมกรุงเทพฯ แน่ ห่วงหมอไม่พอลงพื้นที่ วอนประชาชนให้ย้ายมาอยู่ศูนย์อพยพแทน แต่เบื้องต้นขอให้เตรียมอาหารและน้ำดื่มมาเองด้วย "กรมสุขภาพจิต" เตือนซ้ำผู้เลือกเสี่ยงอยู่ในบ้านไม่อพยพ อาจเกิดภาวะเครียด-โดดเดี่ยว เร่งระดมจิตแพทย์ทั่วประเทศดูแลสุขภาพจิตผู้ประสบภัย
    นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความพร้อมในการให้บริการประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมว่า ที่ผ่านมา สธ.ได้เตรียมพร้อมมาตลอด แต่ขณะนี้จะต้องเตรียมการเพิ่มเติมในเขตปริมณฑล โดยเฉพาะจังหวัดนนทบุรีและปทุมธานี ซึ่งวันนี้จะตั้ง รพ.สนามที่บางพูนโดยมีบุคลากรพร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อให้การรักษาพยาบาลประชาชนในเบื้องต้นก่อนส่งต่อไปยัง รพ.ขนาดใหญ่ได้ทันที
    "ขอให้ประชาชนอย่าตกใจ เพราะศูนย์กลางมอนิเตอร์ด้านการแพทย์ รพ.ราชวิถี ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่อยู่แล้ว” นายวิทยากล่าวและว่า ขอให้ประชาชนสำรองอาหารและน้ำดื่มเพื่อดูแลตัวเองในเบื้องต้นด้วย เพราะการจราจรเริ่มมีปัญหาทำให้การเข้าไปช่วยเหลือยากลำบาก
    อย่างไรก็ ตาม ทางด้าน สธ.ได้เตรียมการในพื้นที่ของ สธ.อย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน โดยมีการเสริมกระสอบทรายให้สูงกว่าระดับน้ำ นอกจากนี้ ตนยังต้องหารือร่วมกับผู้บริหาร สธ. อีกครั้ง เพื่อจัดหาสถานที่ที่เหมาะสมมารองรับการอพยพของประชาชน รวมถึงข้าราชการ สธ.เพิ่มเติม เนื่องจากสถานที่ที่จัดเตรียมไว้รองรับผู้อพยพกว่า 1,000 คนนั้น ขณะนี้มีประชาชนเข้ามาอยู่จนเต็มหมดแล้ว ขณะเดียวกันต้องจัดการระบบบริหารงานเพื่อให้หน่วยงานอื่นๆ สามารถเข้ามาทำงานร่วมกันได้
    ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าขณะนี้เราไม่มีบุคลากรทางการแพทย์เพียงพอ ที่จะเข้าไปดูแลประชาชนที่ยังอยู่ตามบ้านเรือนได้ เพราะบุคลากรส่วนใหญ่ได้ไปตั้ง รพ.สนามเพื่อให้บริการประชาชนที่ศูนย์อพยพต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ทำให้ขณะนี้มีเพียงหน่วยแพทย์ฉุกเฉินที่สามารถเข้าพื้นที่ไปอพยพผู้ป่วยออก มาเท่านั้น ดังนั้น ตนจึงอยากให้ประชนย้ายออกมาอยู่ที่ศูนย์อพยพที่ทางการเตรียมไว้ให้จะดี กว่า
    ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ในส่วนของผู้ที่ไม่อพยพและเลือกที่จะอยู่ชั้น 2 ของบ้านในช่วงสถานการณ์น้ำท่วมนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ, ผู้ที่เป็นห่วงทรัพย์สิน และความไม่มั่นใจในความปลอดภัยที่ต้องออกมาอยู่ข้างนอก คนกลุ่มนี้เมื่อติดอยู่ในบ้านคนเดียวหรือสองคน เบื้องต้นจะรู้สึกโดดเดี่ยว เพราะมองไปทางไหนจะมีแต่น้ำไม่มีอะไรทำ และต้องรอคอยความช่วยเหลืออย่างเดียว ถูกตัดขาดไม่มีน้ำไม่มีไฟฟ้า
    ทั้ง นี้ หากติดอยู่เพียง 1-2 สัปดาห์ก็พอไหว แต่หากติดนานกว่านั้นก็จะเกิดอาการจิตตกและมีปัญหาได้ แตกต่างกับการอยู่ที่ศูนย์อพยพที่จะมีกิจกรรมให้ทำ ได้พูดคุยกับผู้อื่นเพื่อแลกเปลี่ยนปัญหาช่วยทำให้สภาพจิตใจที่สูญเสียดี ขึ้น เป็นการเปลี่ยนตนเองจากผู้รอรับการช่วยเหลือมาเป็นผู้กอบกู้วิกฤติแทน ดังนั้น จึงอยากให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมย้ายมาอยู่ที่ศูนย์อพยพมากกว่า
    "ไม่ เกิน 2 สัปดาห์ ผู้ประสบภัยที่เลือกอยู่ในบ้านกลุ่มนี้จะเกิดปัญหาสุขภาพจิต เนื่องจากถูกทิ้งโดดเดี่ยว และบางรายอาจเจ็บป่วยได้ สภาพจิตใจขึ้นอยู่สถานการณ์น้ำท่วม หากน้ำท่วมมิดบ้านก็ส่งผลต่อจิตใจมาก และระยะเวลาของน้ำที่ท่วมขัง หากยิ่งยาวนานก็ส่งผลต่อจิตใจมากขึ้น" รองอธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าว.


    -http://www.thaipost.net/news/221011/46938-



    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    กลืนกทม.1เดือน ปลอดปูดท่วมถัวเฉลี่ย1เมตร‘ปู’ตื่นรวบอำนาจแก้ปัญหา!


    "ปลอดประสพ" เปิดข้อมูลอินไซด์ น้ำท่วมกรุง 1 เมตร นาน 1 เดือน ท่าจะหนัก กลาโหมส่งซี 130 จอดที่ดอนเมือง เตรียมอพยพผู้คน "ปู" เพิ่งรู้นายกฯ มีอำนาจสั่งการ เหนียม! ขอติดหนวดครึ่งเดียว งัดมาตรา 31 พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กำราบผู้ว่าฯ กทม.และครอบคลุม 21 จังหวัด แต่ไม่ตอบโจทย์ชาวบ้านทะเลาะกันเรื่องคันกั้นน้ำ "ยิ่งลักษณ์" เตือนอีกที ชาว กทม.ยกของขึ้นที่สูง นอภ.ปากเกร็ดดับเครื่องชน "การุณ" แฉเป็นคนแอบพาแบ็กโฮทำลายคันกั้นน้ำที่คลองประปา ในขณะที่ปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลที่ไหลลงมาจากจังหวัดปทุมธานีออกันอยู่ บริเวณรังสิต และเริ่มยกตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ หน้าคันกั้นน้ำของ กทม. มีการคาดการณ์ว่าการระบายน้ำโดยคูคลองนั้นไม่อาจทำได้ทัน และมีความเป็นไปได้สูงที่คันกั้นน้ำจะพังลงมา ส่งผลให้น้ำไหลทะลักเข้าร่วม กทม.ในทันที โดยเฉพาะเขตดอนเมือง หลักสี่ และสายไหม
    ขณะที่น้ำซึ่งทะลักลงคลองประปานั้นได้พุ่งตรงเข้าท่วมพื้นที่กทม.หลาย จุดแล้ว โดยย่านถนนแจ้งวัฒนะ มีน้ำหลากเพิ่มระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะที่กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ซึ่งอยู่ติดคลองประปา และหลากท่วมถนนแจ้งวัฒนะทั้งขาเข้าและขาออกเต็มพื้นที่ตลอดสาย ตั้งแต่แยกคลองประปาจนถึงหน้าโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ระดับน้ำสูงครึ่งล้อ ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก ขณะที่เมืองทองธานีบางส่วนถูกน้ำเข้าท่วมแล้ว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 18.00 น. วันศุกร์ ฝนได้ตกลงมาอย่างหนักที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ดอนเมือง ท่ามกลางกระแสข่าวว่าน้ำจะท่วม กทม.แน่นอนในไม่กี่วันข้างหน้านี้ สอดรับกับสิ่งที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการ ศปภ. กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ให้ชาว กทม.ทำใจ เมื่อน้ำท่วมทุกจังหวัดจำนวนมาก และน้ำกำลังไหลลงมาเข้า กทม. ตนเห็นใจที่ประชาชนเดือดร้อน แต่ศปภ.จะทำให้ดีที่สุด คาดว่าน้ำจะท่วม กทม.ในระดับ 50 ซม.-1 เมตร และอาจใช้เวลาระบายน้ำ 1 เดือน สถานการณ์จึงจะกลับสู่ภาวะปกติ
    "ขอให้ชาว กทม.สบายใจ เพราะทุกเขตน้ำจะท่วม บางแห่งอาจจะไม่ท่วมเพราะอยู่สูง บางแห่งอาจจะท่วมเยอะเพราะอยู่ต่ำ แต่ระบบไฟฟ้าจะใช้ได้ น้ำประปาจะมีให้ใช้ แม้สีกับกลิ่นอาจจะมีความขุ่นและมีกลิ่นบ้าง เพราะจำเป็นที่ต้องเพิ่มคลอรีนลงไป แต่ยืนยันว่าน้ำประปาใช้อุปโภคบริโภคได้ อาหารเเละการช่วยเหลือจะมีแน่นอน
    ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า อยากให้พี่น้องประชาชน กทม.ทุกส่วนเตรียมเคลื่อนย้ายสิ่งของให้สูงขึ้น เป็นการเตรียมตัวพร้อมไว้ก่อน เราพยายามจะประเมินสถานการณ์ให้เร็ว และแจ้งให้ทราบ
    ถามว่า ถึงเวลาพิจารณาประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อจะได้มีอำนาจสั่งการได้เต็มที่หรือยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบว่า ก็จะไปพิจารณาดู แต่จริงๆ แล้วต้องเรียนว่าการสั่งการวันนี้เชื่อว่าทุกหน่วยงานมีใจช่วยเหลือ ประเทศไทยวันนี้เราไม่อยากเห็นภาวะเช่นนี้ เพราะจะทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีปัญหาอยู่แล้ว ขอให้ประชาชนทุกคนร่วมใจกันเถอะ ทำงานที่จะกู้ภาวะวิกฤตินี้
    ไม่ฉุกเฉินกลัวต่างชาติหนี
    "ถ้ายิ่งประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ยิ่งทำให้ความมั่นใจของต่างชาติเห็นว่าประเทศไทยดูแลกันเองไม่ได้ ซึ่งจริงๆ วันนี้เราต้องนำสิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นความสามัคคีปรองดองที่เราจะทำงานร่วมกัน อย่างในส่วนของเหล่าทัพ เราได้รับความร่วมมือจากทุกเหล่าทัพอย่างดี ก็ไม่แน่ใจว่าการที่จะประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้นจะช่วยให้ดีขึ้นหรือไม่ถ้าใจของคนเราไม่ได้รวมกัน"
    วันเดียวกันนี้ นายกฯ เรียกผู้นำเหล่าทัพประชุมร่วมกับ ศปภ. ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ในการระบายน้ำเพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ขอให้ทุกฝ่ายทำงานมีความสัมพันธ์และมีเอกภาพมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือกับทุกหน่วยงานและทางกองทัพ ที่ให้ความร่วมมือกับ ศปภ.และรัฐบาลเป็นอย่างดี และเพื่อให้การทำงานมีเอกภาพมากยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องมีการกำหนดการออกคำสั่งในการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติป้องกันบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 มาตรา 31 ที่ระบุว่า ในการกำหนดคณะบุคคลรับผิดชอบเป็นลายลักษณ์อักษรในการเข้าแก้ไขปัญหาน้ำท่วม
    น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า การรักษาสถานที่สำคัญ ขอให้ทุกหน่วยงานที่ดูแลในทุกจังหวัดที่มีน้ำท่วมขัง รวมถึง กทม. ให้เฝ้าระวังสถานที่สำคัญ ดังนี้ สถานที่ผลิตไฟฟ้า การประปาฯ สำนักพระราชวัง โรงพยาบาลศิริราช สนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งสถานที่ทั้งหมดนี้ต้องแน่ใจว่าจะได้รับการดูแลให้ปลอดภัยที่สุด เพราะหากเสียหายก็จะป้องกันได้ยาก ซึ่งหลังจากการประชุมจะมอบหมายให้ พล.ต.อ.ประชา เป็นผู้ประสานกับทุกหน่วยงานเพื่อขอรายชื่อผู้รับผิดชอบ เพื่อให้มีแผนการทำงานที่มีความชัดเจน
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์มีคำสั่งที่ 17/2554 ว่าด้วยเรื่อง กำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ที่เกิดสาธารณภัยร้ายแรง อาศัยอำนาจตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 เพื่อให้แก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบที่สอดคล้องกันนายกรัฐมนตรี จึงมีคำสั่งนี้
    1.ให้กำหนดพื้นที่ตามบัญชีรายชื่อจังหวัดแนบท้ายคำสั่งนี้เป็นพื้นที่ ที่เกิดสาธารณภัยร้ายแรงตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550
    2.ให้ศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) เป็นหน่วยประมวลข้อมูลสถานการณ์ สนับสนุน และเสนอแนะให้ความเห็น เพื่อประกอบการพิจารณาในการดำเนินการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยต่อนายก รัฐมนตรี
    และ 3.ให้ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) เป็นหน่วยบัญชาการตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี และเป็นศูนย์กลางในการสั่งการ กำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ประสบสาธารณภัย รวมถึงมีอำนาจสั่งการการใช้ทรัพยากร การระดมสรรพกำลังทั้งทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน พนักงานส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชน ทั้งนี้ ให้ผู้บัญชาการ ผู้อำนวยการ หน่วยงานของรัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่ง ดำเนินการตามคำสั่งของ ศปภ. และดำเนินการในกรณีที่เห็นสมควรเพื่อแก้ไขปัญหาหรือเยียวยาความเสียหายโดย เร่งด่วน ตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค.เป็นต้นไป
    ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรี ให้ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบหรือเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง แล้วแต่กรณี
    ครอบคลุม 21 จังหวัด
    ยังมีคำสั่งแนบท้าย ที่ 17/2554 ว่าด้วยเรื่องบัญชีรายชื่อจังหวัดที่เกิดสาธารณภัยร้ายแรง โดยมีจังหวัดทั้งหมด 21 จังหวัด ดังนี้ 1.สุโขทัย 2.พิจิตร 3.พิษณุโลก 4.นครสวรรค์ 5.อุทัยธานี 6.ชัยนาท 7.สิงห์บุรี 8.อ่างทอง 9.พระนครศรีอยุธยา 10.ปทุมธานี 11.นนทบุรี 12.ลพบุรี 13.สระบุรี 14.นครนายก 15.ปราจีนบุรี 16.ฉะเชิงเทรา 17.สุพรรณบุรี 18.นครปฐม 19.กำแพงเพชร 20.ตาก และ 21.กรุงเทพมหานคร
    มีรายงานจากที่ประชุม ศปภ.ว่า ก่อนหน้าที่จะมีการนำเรื่องนี้มาคุยกัน ฝ่ายรัฐบาลโดยเฉพาะรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ได้มีการหารือกับฝ่ายกฎหมายในพรรคเพื่อไทย คือ นายพิชิต ชื่นบาน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคเพื่อไทย ที่เป็นทีมทนายของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ไปดูข้อกฎหมายมาให้ก่อน
    พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า นายกฯ ได้สั่งการว่าต่อไปนี้ต้องมีการรายงานประจำวันเกี่ยวกับเหตุฉุกเฉิน และต้องมีหัวข้อระเบียบการรายงาน เพราะที่ผ่านมาอาจไม่ค่อยเป็นระบบเท่าไหร่
    เมื่อถามว่า มีแผนที่จะอพยพประชาชนไปในต่างจังหวัดหรือไม่ รมว.กลาโหมกล่าวว่า ยังไม่มี เพราะขณะนี้ทางทหารและมหาดไทยได้เตรียมพื้นที่ไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วน ทางกระทรวงสาธารณสุขก็ได้เตรียมโรงพยาบาลทหารและทุกส่วนที่จะเข้าไปเสริมไว้ เรียบร้อยแล้ว ตลอดจนได้เตรียมเครื่องบินซี 130 ที่ได้ส่งมาช่วยอยู่ 3 ลำ และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนการขนย้ายผู้ป่วยไปโรงพยาบาลในพื้นที่ต่าง จังหวัดได้ด้วย ซึ่งขณะนี้เครื่องบินซี 130 จอดอยู่ที่ดอนเมืองแล้ว
    ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงความจำเป็นในการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่าการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อก้าวไปสู่การยึดอำนาจ ผบ.ทบ.กล่าวว่า “ก็แล้วแต่ท่านจะคิด ใครจะมายึดอะไรได้ตอนนี้ น้ำท่วมถึงคอแล้ว คงไม่มีใครโง่ไปทำ ตอนนี้มีอย่างเดียวต้องช่วยประชาชนให้ได้มากที่สุด ไม่สนใจ การเมืองก็คือการเมือง ไม่เกี่ยวกับการทหาร แต่อย่าให้ร้ายทหาร ที่เหน็ดเหนื่อย เครียด ทุกกองทัพช่วยกันทำงานทั้งหมด ทหารไม่ได้กลับบ้านกลับช่อง คึกดื่นเที่ยงคืนก็อยู่กับประชาชนมาโดยตลอด ขอร้องอย่ากล่าวพาดพิงให้เสียกำลังใจกัน เราคงทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ ข้าราชการ"
    ถามว่าในส่วนของสวนจิตรลดา จะมีการป้องกันน้ำอย่างไร ผบ.ทบ.กล่าวว่า ตอนนี้พยายามสร้างแนวกั้นน้ำที่คลองประปาและ คลองเปรมประชากรให้ได้มากที่สุด เพราะน้ำสามารถเข้ามาทางส่วนนี้ได้ ขณะนี้พยายามเบี่ยงน้ำออกไปข้างนอก ทาง กทม.กำลังวางแผนอยู่ กองทัพพยายามปกป้องให้ได้มากที่สุด ถ้าไม่ได้ก็คือไม่ได้ แต่ต้องเตรียมแผน อย่าตื่นตระหนก และเตรียมความพร้อม
    ผบ.ทบ.รับ กทม.มีสิทธิ์จมน้ำ
    ซักว่าน้ำจะเข้าพื้นที่ชั้นในของ กทม.หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ถ้าน้ำขึ้นมากก็มีสิทธิ์ คือถ้าน้ำที่คลองหลักหกกั้นไม่อยู่ หรือน้ำที่คลองรังสิตล้นและพนังกั้นน้ำพังมากกว่านี้
    ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ภายหลังจากนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้มีคำสั่งให้ข้าราชการในรัฐสภาเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วม ที่จะเกิดขึ้นในเขตกรุงเทพมหานครชั้นใน ปรากฏว่าตลอดทั้งวัน ทางเจ้าหน้าที่และข้าราชการได้มีการขนย้ายสิ่งของและอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งได้ย้ายเครื่องตรวจวัตถุอาวุธที่บริเวณประตูทางเข้าอาคารรัฐสภา 1 ขึ้นไปไว้บนประตูทางเข้าชั้น 2 อาคารรัฐสภา เพื่อเตรียมพร้อมรับน้ำท่วมในช่วงวันหยุด อีกทั้งยังได้เตรียมถุงกระสอบทรายจำนวนหนึ่งวางกั้นเป็นแนวตลอดแนวรั้วรอบๆ บริเวณรัฐสภา ทั้งนี้ ในบางจุดรอบๆ บริเวณจุดเสี่ยงได้มีการก่ออิฐบล็อก ในส่วนของที่จอดรถก็ได้มี ส.ส.และ ส.ว. รวมถึงข้าราชการได้นำรถส่วนตัวเข้ามาจอดไว้ในบริเวณที่จอดรถชั้น 2 เพื่อหนีน้ำท่วมได้มาจอดกันเต็มหมดแล้ว
    ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.)แถลงสถานการณ์น้ำว่า ขณะนี้เริ่มมีสัญญาณเตือนจากน้ำเหนือที่จะน้ำเข้ามาถึงกรุงเทพฯ โดยสัญญาณเตือนที่ 1 คือน้ำเริ่มเข้าทุ่งที่บริเวณคลองสอง โดยระดับน้ำด้านในประตูระบายน้ำอยู่ที่ 1.20 เมตร และรับน้ำภายนอกอยู่ที่ 2.09 เมตร แม้จะมีการเปิดประตูเพิ่มขึ้นจาก 1.20 เมตรเป็น 1.30 เมตร แต่ระดับน้ำกลับเพิ่มขึ้นอีก 4 ซม. แสดงสัญญาณชัดเจนว่าน้ำเหนือมาแล้ว
    สัญญาณเตือนที่ 2 คือ ที่ถนนพหลโยธินตัดคลองรังสิต จ.ปทุมธานี ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง น้ำได้เพิ่มสูงขึ้นประมาณ 15 ซม. ทำให้คันกั้นน้ำที่ กทม.ไปสร้างไว้ไม่สามารถกั้นได้ น้ำเริ่มเข้ามาถนน ทาง กทม.ได้ประสานไป ศปภ.แล้ว แต่ยังไม่มีการปฏิบัติการตรงนี้ กทม.ไม่สามารถรอได้ จึงได้ส่งทรายและกระสอบไปเสริมคันกั้นน้ำที่มีอยู่ตรงนั้น และจะประสาน ศปภ.ต่อไปให้ดูแลพื้นที่ตรงนี้ เพราะตรงนี้เป็นด่านสำคัญ หากน้ำหลุดเข้ามาได้จะเข้าถนนวิภาวดีฯ และจะเข้าดอนเมือง ซึ่งจะเกิดปัญหาหนัก
    ส่วนสาเหตุการประกาศ พ.ร.บ.ป้องกันฯ นั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ทราบว่าเป็นเพราะอะไร ต้องไปถามรัฐบาล แต่ยืนยันว่า กทม.เปิดประตูระบายน้ำมาโดยตลอด แต่อาจเปิดได้ไม่เต็มที่
    "ผมมีหน้าที่รับผิดชอบต่อชาว กทม. ไม่ใช่รับผิดชอบต่อคนทั้งชาติ หากถามความรู้สึกผม ถ้าจะให้ทำอะไรก็พร้อมทำทุกอย่าง ผมถวายชีวิตให้คน กทม.แล้ว แค่กฎหมายนี้ทำไมผมจะยอมรับไม่ได้"
    ผู้ว่าฯ กทม.เผยว่า กทม.ได้เปิดประตูระบายน้ำกว้างกว่าปกติ โดยประตูระบายน้ำคลอง 2 กว้างกว่า 1.10 เมตร ขณะที่คลองทวีวัฒนาเปิด 1 เมตร อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้เปิดประตูกว้างขึ้นในพื้นที่ที่สามารถเปิดได้ ยืนยันว่าได้ร่วมมือเต็มที่กับรัฐบาล ส่วนประตูระบายน้ำฝั่งตะวันออกที่ยังไม่ได้เปิด ไม่ได้เป็นของ กทม. แต่เป็นของกรมชลประทาน
    ด้านนายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กทม. กล่าวว่า การที่กรมชลประทานไม่สามารถเปิดประตูระบายน้ำบางแห่งได้ เช่น ประตูระบายน้ำช่วงคลองประเวศและหนองจอก ทำให้ไม่สามารถผันน้ำออกสู่ทะเลได้อย่างเต็มที่ สาเหตุเนื่องจากเกิดปัญหากับมวลชนในพื้นที่ ซึ่งกรมชลประทานควรใช้อำนาจสั่งการให้เด็ดขาดมากขึ้น
    วันเดียวกันนี้ คณะของพรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายกรณ์ จาติกวณิช และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรค เดินทางไปยังการประปานครหลวงบางเขน เพื่อตรวจสอบคุณภาพน้ำและสอบถามถึงปัญหาการทำงานของการประปา โดนมีนายเจริญ ภัสระ ผู้ว่าการการประปานครหลวงบางเขน และผู้บริหาร ให้ข้อมูลที่ทำให้น้ำจากคลองเชียงรากไหลเข้าคลองประปาว่าเกิดจากการมีรอยแตก เกิดขึ้นบริเวณไซฟ่อนคลองรังสิต ทำให้น้ำไหลเข้าในช่องทางดังกล่าวสู่คลองประปา
    การประปาเฉ่ง ศปภ.มือไม่ถึง
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำชี้แจงของผู้บริหารการประปาฯ ทำให้เห็นถึงความอึดอัดต่อการทำงานของ ศปภ. ถึงขนาดนายมานิตย์ พงษ์เฉลิมพร ผอ.ฝ่ายโรงงานผลิต ระบุว่า ศปภ.ไม่มีความรู้เรื่องนี้ ไม่มีการจัดบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านน้ำมาช่วยแก้ปัญหา ทำให้การบริหารจัดการน้ำไม่มีประสิทธิภาพ และขณะนี้กลายเป็นว่าการประปาถูกชาวบ้านตำหนิว่าเป็นคนทำให้น้ำท่วม ทั้งที่หน้าที่ของเราคือรักษาคลองประปาไว้ ส่วนการแก้ปัญหาน้ำท่วมเป็นของ ศปภ.
    ขณะที่นายวิสิษฐ์ พวงเพชร นายอำเภอปากเกร็ด จ.นนทบุรี กล่าวในรายการเก็บตกจากเนชั่น ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเนชั่นแชนแนล ถึงกรณีที่มีการพังคันดินกั้นน้ำบริเวณกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ บริเวณหัวมุมถนนแจ้งวัฒนะ และถนนเลียบคลองประปา อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ว่าถูกพังทลายไปแล้วเป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา อำเภอปากเกร็ดได้มีการทำคันดินบริเวณดังกล่าวจนแล้วเสร็จ แต่ชาวบ้านเขตดอนเมือง กรุงเทพฯ ไม่พอใจ จึงเข้ามาประท้วงให้รถแบ็กโฮหยุดทำงาน โดยอ้างว่าน้ำได้ท่วมเขตดอนเมืองด้วย ก็เลยหยุดการทำคันดินและเจรจา โดยมีนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.เขตดอนเมือง พรรคเพื่อไทย และนายมนตรี ตั้งเจริญถาวร ส.ส.นนทบุรี เขต 4 พรรคเพื่อไทย เดินทางมาด้วย
    ทั้งนี้ ผลการเจรจาได้ข้อยุติว่า ให้รถแบ็กโฮของอำเภอปากเกร็ดกว่า 10 คัน แบ่งไปช่วยกันทำคันดินให้เขตดอนเมือง 5 คัน และทำในเขต อ.ปากเกร็ด 5 คัน แต่เนื่องจากเขตดอนเมืองไม่สะดวกที่จะทำคันดิน เนื่องจากต้องเอาแบ็กโฮลอยน้ำเข้าไปในคลองประปา ถึงจะทำคันดินได้ นายมนตรีจึงจัดหารถแบ็กโฮและรถเครนยักษ์มาให้เพื่อยกรถแบ็กโฮ ทั้งนี้ มีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รมว.มหาดไทย และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้เข้าร่วมเจรจาและแถลงข่าวเรียบร้อย จนชาวบ้านเขตดอนเมืองพอใจ แยกย้ายกันกลับบ้าน และนำรถแบ็กโฮข้ามฝั่งไปทำคันดินที่เขตดอนเมือง ซึ่งตนได้แยกย้ายกลับบ้านประมาณ 1 ทุ่ม
    กระทั่งเวลา 02.00 น. วันที่ 21 ต.ค. ได้รับแจ้งว่าได้มีการพังคันดินหมดแล้ว โดยมีนายการุณเป็นคนนำรถแบ็กโฮพังคันกั้นน้ำเอง ช่วงเที่ยงคืนเศษ น้ำได้ลงไปด้านล่างซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำ มีความยาวกว่า 1 กิโลเมตร ผลกระทบจากการพังคันดินน้ำได้ไหลเข้าท่วมทั้งสองฝั่งเหมือนเดิม แต่ในส่วนของ อ.ปากเกร็ด น้ำจากคลองประปาได้ไหลเข้าไปที่ถนนศรีสมาน ซึ่งตนเข้าไปแก้ปัญหาไม่ได้ เพราะถูกขู่ว่าจะถอนรถแบ็กโฮ ขณะนี้น้ำยังไหลไม่ถึงถนนติวานนท์ แต่ระดับน้ำขณะนี้รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ คิดว่าถ้าน้ำท่วม อ.ปากเกร็ด ก็คงต้องท่วม แต่ถ้าท่วมไปถึงคันดินกั้นแม่น้ำเจ้าพระยาที่ทำเอาไว้ กรุงเทพมหานครโดยเฉพาะเขตดอนเมืองและเขตหลักสี่ก็จะไม่เหลือ เพราะน้ำจะเข้าท่วมประมาณ 2 เมตร ซึ่งปริมาณน้ำในคลองประปาขณะนี้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
    ขณะที่ รศ.ดร.ทวีวงศ์ ศรีบุรี กรรมการผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในรายการคมชัดลึก ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเนชั่นแชนแนล ตอนหนึ่งว่า เราจะส่งเด็กเราเข้าไปทำงานใน ศปภ. เขาบอกว่าให้ใส่เสื้อสีแดงเข้ามา แค่นี้ก็ต้องเรียกเด็กกลับแล้ว อันนี้คือเหตุการณ์ที่เราเจอ
    "นี่คือคำถามที่ถามว่าเราต้องการจะไปช่วยเขาเวลาเขาเดือดร้อน แต่พอเจอเวลาถ้าจะเข้ามาก็ต้องใส่เสื้อสีแดงมาด้วย มันหมายความว่าไง มันเป็นวิกฤติ ซึ่งเรากำลังจะเข้าไปช่วย แต่เขาพูดแค่คำนี้ออกมาเราก็บอกไม่รู้จะช่วยยังไงแล้ว มันเหมือนถูกแบ่งชั้นวรรณะ แล้วพวกเราจะทำยังไงกันล่ะ" รศ.ดร.ทวีวงศ์กล่าว
    สถานการณ์ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ยังมีระดับน้ำท่วมสูงมากขึ้น ประชาชนที่อาศัยอยู่ย่านบางบัวทองในขณะนี้เร่งขนของและย้ายกันออกจากพื้นที่ ออกมาสู่ด้านนอกกันอย่างต่อเนื่อง
    ขณะ อ.บางใหญ่ มีน้ำเข้าท่วมขยายวงกว้างขึ้น ทำให้หลายหมู่บ้าน อาทิ หมู่บ้านพฤกษาวิลเลจ 5, หมู่บ้านพฤกษา 21, หมู่บ้านชัยพฤกษ์, หมู่บ้านศุภาลัย เป็นต้น และยังคงมีประชาชนนับพันคนติดอยู่ในพื้นที่.


    -http://www.thaipost.net/news/221011/46956-


    .
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มีสติ ใช้ปัญญาในการอ่านข้อมูลเรื่องราวต่างๆ

    เพื่อนำไปใช้ในโอกาสต่อๆไป

    รวมทั้งดูเรื่องของการช่วยเหลือของบรรดาพรรคการเมืองต่างๆ ดูการช่วยเหลือของกลุ่ม ส.ส. , หรือ นักการเมืองท้องถิ่น จะได้ไว้ดูว่า ผู้ที่เราเลือกเขาเข้าไปทำงาน เขาได้ทำงานจริงหรือไม่

    หากประชาชนคนไทย ฉลาดคิด ฉลาดเลือก ฉลาดทำ กันให้มากๆ (ให้ปฎิบัติตามพระราชดำรัสต่างๆของในหลวง) และมีความสามัคคี จะพาประเทศไทยรอดพ้นวิกฤติไปได้


    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เหอๆๆๆ

    แทบไม่มีใครยอมพูดความจริงกันเลย

    แต่ละพรรค สร้างภาพกันทั้งนั้น บางพรรคยิ่งเห็นแต่ตัวมาก



    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    กทม. เผยหลายจุดระดับน้ำสูงต้องเฝ้าระวัง


    กทม. เผยหลายจุดระดับน้ำสูงต้องเฝ้าระวัง (ไอเอ็นเอ็น)

    กรุงเทพมหานคร สรุปสถานการณ์น้ำรอบวัน หลายจุดยังมีระดับน้ำท่วมสูง ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ขณะที่น้ำท้ายเขื่อนมีปริมาณลดลง

    สำนัก การระบายน้ำ รายงานสถานการณ์น้ำ ประจำวันที่ 22 ตุลาคม โดยปริมาณน้ำฝน สูงสุด 6 ช.ม. ที่ผ่านมาไม่มีปริมาณน้ำฝนรวม ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-22ต.ค. รวม 2,193 มากกว่าค่าเฉลี่ยร้อยละ 44.4 ส่วนมวลอากาศเย็น อยู่ที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน น้ำเหนือไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา และพระราม 6 รวม 4,100 ลบ.ม.ต่อวินาที ลดลง 34 ลบ.ม.ต่อวินาที ปริมาณน้ำผ่าน อ.บางไทร 3,448 ลบ.ม.ต่อวิาที ลดลงจากเมื่อวาน 169 ลบ.ม.ต่อวินาที น้ำทะเลหนุนสูงสุดวันนี้ เวลา 15.48 นาที ระดับ +0.97 ม. รทก. น้ำทุ่งไหลลงคลองหกวาสายล่าง ตลอด 24 ช.ม. ที่ผ่านมา ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 9 ซ.ม. ระดับน้ำคลองเปรมประชากร หน้า สน.ดอนเมือง ขึ้นสูงใกล้ขอบตลิ่ง

    อย่างไรก็ตาม สำหรับ ภาพรวมสถานการณ์น้ำใน กทม. ต้องเฝ้าระวังน้ำทุ่งเป็นระยะ พื้นที่เฝ้าระวังประกอบด้วย ดอนเมือง หลักสี่ บางเขน สายไหม ลาดกระบัง คันนายาว มีนบุรี คลองสามวา หนองจอก ระดับน้ำคลองสามเสน ช่วงต่อเชื่อมคลองประปา ระดับต่ำกว่าสันเขื่อน 1.84 ม. น้ำในคลองประปาไหลสู่คลองสามเสน ในอัตราที่ต่ำกว่าที่คาด กรณีน้ำรั่วซึมจากคลองประปา เกิดน้ำท่วมถนนแจ้งวัฒนะ จากคลองประปา ถึงบิ๊กซี ระดับน้ำ 40-50 ซ.ม. ทั้ง 2 ฝั่ง ถนนเลียบคลองประปาจากแยกพงษ์เพชร ถึงถนนแจ้งวัฒนะ ระดับน้ำ 5 ซ.ม. จากถนนแจ้งวัฒนะ ถึงศรีสมาน ระดับ น้ำท่วมเป็นช่วงๆ ประมาณ 20 ซ.ม. หมู่บ้านเวฬุ วัดไผ่เขียว ระดับน้ำ 50 ซ.ม.ถนนแจ้งวัฒนะ หน้ากรมทหาร ระดับน้ำ 40-50 ซ.ม. ซ.แจ้งวัฒนะ 14 ระดับน้ำ 40-50 ซ.ม.


    น้ำจ่อทะลักกรุงฯ หน้าเซียร์รังสิต 40 ซ.ม. แล้ว

    สถานการณ์ น้ำท่วมล่าสุด บริเวณย่านรังสิตใน ขณะนี้ทางด้านเซียร์รังสิต ได้มีการปิดถนนเส้นที่จะมุ่งหน้าสู่ถนนพหลโยธินสายเหนือ - อีสาน โดยห้ามรถเล็กวิ่งผ่าน ซึ่งระดับน้ำสูงประมาณ 30 - 40 ซ.ม. ประชาชนเร่งสร้างคันกระสอบทรายรวมถึงเจ้าหน้าที่มาอำนวยความสะดวกให้แก่ ประชาชนและควบคุมการจาราจร โดยการจรจรในขณะนี้ ได้เปิดเส้นทางให้รถวิ่งสวนกันบนถนนวิภาวดี - รังสิต ขาออกเลี่ยงเส้นทาง ที่ปริมาณน้ำท่วมสูงมาก ส่วนทางด้านบริเวณหมู่บ้านเมืองเอก จนถึงสะพานข้างแยกรังสิตถนนวิภาวดี - รังสิต ขาออกไปปทุมธานี - นวนคร ปริมาณน้ำสูงขึ้นอีกประมาณ 50 ซ.ม.

    ส่วนทางด้านตลาดรังสิต โรงพยาบาลปทุมเวชและหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี ประชาชนต้องนำเรือออกมาใช้เดินทาง เนื่องจากระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ทั้งนี้ ห้างสรรพสินค้าย่านนี้ เมเจอร์รังสิต ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต และโลตัสรังสิต ปิดให้บริหารทั้งหมด รวมถึงท่ารถต่างจังหวัดในขณะนี้ ไม่มีรถให้บริการแล้ว

    [​IMG] ไอ.เอ็น.เอ็น.

    -http://hilight.kapook.com/view/63235-

    .
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผู้ว่าฯ กทม. เผย คลองหกวาน้ำสูงต่อเนื่อง


    ผู้ว่าฯ กทม. เผย คลองหกวาน้ำสูงต่อเนื่อง (ไอเอ็นเอ็น)

    ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผย ระดับน้ำคลองหกวาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะประชาชนเร่งสร้างแนวคันกั้นน้ำ ยันไม่มีปัญหารัฐบาลออกพ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

    ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากการสำรวจแนวคันกั้นน้ำริมคลองหกวา เขตสายไหม ระยะทาง 6 กิโลเมตร พบว่า ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ประชาชนนอกแนวคันกั้นน้ำบางส่วน ได้อพยพมายังศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัยที่ กทม. เตรียมเอาไว้ในพื้นที่สายไหม นอกจากนี้ กทม. ยังคงระดมบุคลากรเสริมคันกั้นน้ำริมคลองทั้งสองฝั่งคลองให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ส่วนสาเหตุที่เสร็จล่าช้าจากกำหนดเดิม เนื่องจากปัญหาการจราจรติดขัดเมื่อคืนที่ผ่านมา

    ส่วนกรณีรัฐบาลได้ตัดสินใจออกคำสั่งนายกรัฐมนตรี ภายใต้ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยปี 2550 มาตรา 31 ในการเตือนภัยพิบัติร้ายแรง โดยให้ทุกหน่วยงานขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อการทำงานที่เป็นเอกภาพนั้น กทม. ก็ต้องทำตามข้อบังคับดังกล่าว โดยจะให้ข้อมูล ข้อคิดเห็น และปฏิบัติงานตามที่กทม.สามารถปฏิบัติได้ ยืนยันว่าการทำงานภายใต้รัฐบาลไม่มีปัญหาอะไร



    [​IMG]


    -http://hilight.kapook.com/view/63861-

    .
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .



    ชาวฝั่งธนฯ เตรียมตัว!!! รับน้ำตลบกลับใน 3-4 วันนี้



    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    นัก วิชาการเตือนชาวทวีวัฒนา ตลิ่งชัน พุทธมณฑล เตรียมพร้อมรับน้ำจากบางใหญ่จะหลากใน 3-4 วัน คาดอาจท่วมขังสูง 1 เมตร ขณะที่ย่านสายไหม เฝ้าระวังน้ำล้นคลองหกวา 4-5 วันนี้

    เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผอ.ศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้คาดการณ์สถานการณ์อุทกภัยที่จะเกิดขึ้นที่ฝั่งธนบุรี ผ่านรายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ทางช่อง 3 ว่า ขณะ นี้ น้ำที่ท่วม อ.บางเลน อ.ลาดหลุมแก้ว อ.ไทรน้อย กำลังเดินทางมายังคลองทวีวัฒนาแล้ว เพื่อจะระบายออกสู่แม่น้ำท่าจีน แต่ยังโชคดีที่เหนือคลองประปาที่ขนานกับคลองทวีวัฒนามีคันกั้นน้ำอยู่ ทำให้น้ำที่มาจากบางกรวย-ไทรน้อย จะมาติดคันกั้นอยู่พักหนึ่ง แต่ในไม่ช้าก็คงจะล้นคันคลอง เพราะคลองประปาคงรับไม่ไหว ทำให้น้ำทั้งหมดไหลข้ามมาลงคลองทวีวัฒนา ขณะเดียวกัน กทม.ได้เปิดประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา ทำให้น้ำเข้าเขตทวีวัฒนาแล้ว แต่สถานการณ์ตอนนี้ยังควบคุมได้

    อย่างไรก็ตาม รศ.ดร.เสรี ได้แสดงความเป็นห่วงว่า คลองทวีวัฒนาจะต้องรับน้ำที่มาจาก อ.ไทรน้อย อ.บางเลน อ.บางบัวทอง ซึ่งมีปริมาณมาก ในที่สุดก็จะล้นข้ามไปยังคลองมหาสวัสดิ์ ดังนั้น ที่ต้องเฝ้าระวังคือ แถบตลิ่งชัน พุทธมณฑล ทวีวัฒนา ฝั่งธนทั้งหลายมีปัญหาแน่นอน โดยน้ำจะเจิ่งนองเต็มทุ่งเหนือประตูน้ำทวีวัฒนา ก่อนจะล้นตลบกลับเข้าฝั่งธนบุรี กรุงเทพมหานคร

    "แถว ๆ พุทธมณฑล และศาลายา คงต้องเตรียมรับมือกับน้ำท่วมภายใน 3-4 วันนี้ หลังจากนั้น ถ้าประตูน้ำยิ่งปิด บริเวณนี้ก็จะยิ่งหนัก ดังนั้น ต้องพิจารณาว่าจะเปิดประตูน้ำในระดับใด ซึ่งขึ้นอยู่กับว่า แม่น้ำท่าจีนน้ำจะสูงขนาดไหน หากเปิดประตูระบายน้ำไป แม่น้ำท่าจีนสูง น้ำตรงฝั่งธนฯ ก็จะลงไม่ได้อีก ดังนั้น ตรงนี้ต้องจับตาและเฝ้าระวัง สถานการณ์ข้างหน้ายากที่จะคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำ เพราะน้ำไม่ได้มาตามทาง แต่หลากมาเป็นทุ่ง" รศ.ดร.เสรี กล่าว

    ทั้ง นี้ รศ.ดร.เสรี ยังระบุด้วยว่า อย่างไรเสียน้ำก็ต้องลงมาท่วมแถวฝั่งธนบุรีแน่นอน ภายใน 3-4 วันนี้ โดยคาดการณ์ว่า ระดับน้ำที่ท่วมในเขตทวีวัฒนาน่าจะต่ำกว่า 1 เมตร เพราะบริเวณนี้เป็นที่สูง ต่างกับบางบัวทองซึ่งเป็นที่ต่ำมาก และเป็นแอ่ง น้ำจึงท่วมสูงถึง 2-3 เมตร แต่ฝั่งธนบุรีเป็นที่สูงกว่า น้ำจึงไม่น่าจะท่วมสูงมากนัก

    เมื่อถามถึงสถานการณ์ของน้ำเหนือที่จะเข้ามายังคลองหกวา ทางฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานครนั้น รศ.ดร.เสรี ระบุว่า ขณะนี้น้ำเหนือที่ปล่อยมาจากคลองระพีพัฒน์เข้ามาถึงแล้ว โดยมีคลองหกวาสายล่างรับน้ำก้อนใหญ่อยู่ และต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะเต็มคลอง ก่อนจะค่อย ๆ เอ่อล้นท่วมทุ่งบริเวณนั้น ซึ่งกว่าจะเต็มทุ่งก็ใช้เวลาประมาณ 4-5 วัน

    "หลังจากนี้ 4-5 วัน ให้เฝ้าระวังเลยว่า หากน้ำเต็มทุ่งเมื่อไหร่ คลองหกวาสายล่างจะปล่อยน้ำลงคลองแสนแสบยากมาก เพราะระดับมันสูง ทีนี้น้ำจะเอ่อล้นคันกั้นน้ำที่ กทม.ทำไว้ เพราะฉะนั้นจากนี้ไป 4-5 วัน จะส่งผลต่อชาวเขตสายไหมทันที ซึ่งตอนนี้ยังพอมีเวลา หากน้ำเข้ามาได้ น้ำจะท่วมสูงประมาณ 1 เมตร" รศ.ดร.เสรี กล่าว


    -http://hilight.kapook.com/view/63958-


    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    เปิดแนวคิดเขื่อน 2 ชั้น ช่วยโรงงานมินิแบร์พ้นน้ำท่วม




    [​IMG]


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก [ame="http://www.youtube.com/watch?v=JKCNcnK1JbI"]youtube.com โพสต์โดย Seub2010[/ame]

    คงทราบกันแล้วว่า ขณะนี้มีนิคมอุตสาหกรรมถึง 7 แห่งที่จมน้ำเสียหายระดับหมื่นล้าน โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในจังหวัดพระนครอยุธยาที่จมน้ำเสียหายทั้ง หมด แม้ว่าก่อนหน้านี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เสริมคันกั้นน้ำหลายชั้นไว้อย่างแน่นหนา แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถต้านทานพลังน้ำมหาศาลไว้ได้

    แต่ใช่ว่าโรงงานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจะจมบาดาลเสียทั้งหมด เพราะจากการตรวจสอบพบว่า ยังมีโรงงานเอ็น เอ็ม บี มินิแบ อีก 1 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากนิคมอุตสาหกรรมนวนครที่ยังไม่ถูกน้ำท่วม แม้ว่าภายนอกรอบ ๆ จะถูกปกคลุมไปผืนน้ำทั้งหมดแล้ว

    และสาเหตุที่ทำให้โรงงานเอ็น เอ็ม บี มินิแบไทย จำกัด ยังคงรอดพ้นจากน้ำท่วม เป็นเพราะทางโรงงานได้สร้างแนวป้องกันน้ำของตัวเองมานานกว่า 1 เดือนแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่น้ำจะมาถึง โดยคันกั้นน้ำของโรงงานนั้นถูกสร้างขึ้นรอบโรงงานทั้งหมด ให้เป็นเขื่อน 2 ชั้น พร้อมกับนำดินมาถมทับกระสอบทราย จากนั้นจึงคลุมด้วยผ้าใบพลาสติกขนาดใหญ่อีกชั้นหนึ่ง เพื่อไม่ให้น้ำไหลซึมเข้าไปได้ จึงสามารถป้องกันมวลน้ำมหาศาลได้จนถึงทุกวันนี้

    ทั้งนี้ วิธีป้องกันโรงงานมินิแบร์นั้น สอดคล้องกับสูตรดันน้ำ ของคุณอภิชาติ สุทธิศิลธรรม ที่ได้เสนอแนวทางป้องกัน และจัดการน้ำท่วมกรุงเทพมหานครไว้ในคลิปที่ถูกเผยแพร่ในเว็บไซต์ยูทูปเรื่อง [ame="http://www.youtube.com/watch?v=JKCNcnK1JbI"]"แนวทางป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ"[/ame] รวมทั้งใน เฟซบุ๊ก mtaneewong ซึ่งอธิบายวิธีการป้องกันไม่ให้กรุงเทพมหานครจมน้ำมิดทั้งเมืองไว้ได้น่าสนใจเป็นอย่างมาก


    [​IMG]


    [​IMG]


    โดยคุณอภิชาติ อธิบายถึงกรณีที่ 1 สาเหตุที่ทำให้น้ำท่วมภายในนิคมอุตสาหกรรมนั้น เป็นเพราะเรามีความพยายามจะทำให้น้ำภายในนิคมอุตสาหกรรม ภายในโรงงานแห้ง ซึ่งมันไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะเขื่อนที่สร้างขึ้นมา เป็นเพียงแค่คันกั้นน้ำชั่วคราว ต่างจากเขื่อนคอนกรีต ยิ่งน้ำสูง เราก็ยิ่งต่อคันกั้นน้ำให้สูงขึ้นไปเรื่อย ๆ เป็นเหตุให้แรงดันน้ำจากภายนอกที่สูงกว่าจะค่อย ๆ ดันน้ำซึมเข้ามาภายในซึ่งไม่มีน้ำเรื่อย ๆ และในที่สุด แรงดันน้ำมหาศาลก็จะดันจนคันกั้นน้ำแตก น้ำไหลทะลักเข้ามาในโรงงานอย่างรวดเร็ว นี่คือจุดอ่อนที่ทำให้นิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ถูกน้ำท่วมสูงเสียหายหนัก

    คุณ อภิชาติ ระบุว่า วิธีที่จะช่วยป้องกันสภาวะนี้ได้ก็คือ การสร้าง "เขื่อน 2 ชั้น" คือ ยอมนำน้ำบางส่วนเข้ามาอยู่ในเขื่อนเลย แล้วกั้นน้ำข้างนอกที่มีระดับสูงกว่าไว้ เพื่อให้น้ำภายในเขื่อนกับภายนอกเขื่อนดันกันเอง ทีนี้แรงดันภายนอกจะลดลง น้ำภายนอกจะซึมเข้ามาน้อยลง และคันกั้นน้ำก็จะไม่พัง ส่วนน้ำที่อยู่ในเขื่อนตรงกลางอาจจะมีซึมเข้ามาถึงเขื่อนชั้นในสุดบ้าง แต่ตรงนี้เราสามารถสูบน้ำกลับออกไปได้ จึงไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด และเขื่อนก็จะไม่พังแน่นอน

    "หัวใจคือทำอย่างไรไม่ให้เขื่อนพัง เพราะถ้าเขื่อนพังแล้ว มวลน้ำข้างนอกจำนวนมหาศาลจะไหลเข้าท่วมข้างในระดับเดียวกันทั้งหมด ดังนั้นต้องใช้น้ำดันน้ำกันเอง น้ำจะซึมได้น้อยลง อย่างน้ำที่ไหลท่วมนิคมนวนคร นครสวรรค์ ชัยนาท อ่างทอง อยุธยา เพราะมีเขื่อนชั้นเดียวที่เอาน้ำระดับ 2-3 เมตรไม่อยู่" นักวิชาการ กล่าว


    [​IMG]


    มาดูกรณีที่ 2 กันบ้าง ซึ่งเป็นกรณีที่กำลังเกิดขึ้นกับโรงงาน และมหาวิทยาลัยที่อยู่นอกเมือง เช่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพ โดยคุณอภิชาติ อธิบายว่า หากอยากจะสามารถต้านทานน้ำไว้ได้ ต้องสร้างเป็น "เขื่อน 2 ชั้น" เหมือนกับกรณีที่ 1 คือ สร้างคันกั้นน้ำขนาดใหญ่ไว้หน้าประตูทางเข้าอาคาร เพื่อกั้นน้ำภายนอก แต่ต้องปล่อยให้น้ำส่วนหนึ่ง (ประมาณครึ่งหนึ่งของความสูงของน้ำภายนอก) เข้ามาอยู่ระหว่างหลังคันกั้นน้ำขนาดใหญ่กับประตูทางเข้าด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เขื่อนพังเช่นกัน และที่บริเวณประตูทางเข้าอาคารควรก่ออิฐขึ้นมากั้น พร้อมกับเสริมกระสอบทรายไว้อีกชั้นด้วย เพื่อป้องกันน้ำที่จะไหลซึมเข้ามา วิธีนี้จะช่วยรักษาภายในตัวอาคารไว้ได้ เพราะแรงดันของน้ำจะลดลงมาก ส่วนเขื่อนตรงกลางที่เรายอมปล่อยให้น้ำท่วมบ้างก็จะเสียหายไม่มากเมื่อเทียบ กับเขื่อนพังแล้วน้ำทะลักเข้าตัวอาคารทั้งหมด

    "เราอย่าไปเอาชนะน้ำ ต้องยอมแพ้มัน ให้น้ำไหลเข้ามาครึ่งเดียว เพื่อมารักษากำแพงกั้นน้ำภายนอกไว้" นักวิชาการ กล่าว


    [​IMG]


    มาถึงกรณีที่ 3 ที่จะช่วยป้องกันกรุงเทพมหานครไว้ได้ ด้วยการสร้าง "เขื่อน 2 ชั้น" เช่นกัน โดย คุณอภิชาติ ได้อธิบายว่า ตอนนี้ กทม.สร้างเขื่อนกั้นไว้ที่คลองหกวา ซึ่งในที่สุดน้ำจะเซาะใต้เขื่อนจนเขื่อนพังเช่นกัน และระดับน้ำในกรุงเทพมหานครจะสูงเป็น 2-3 เมตร เช่นเดียวกับระดับน้ำภายนอกที่จะไหลมา

    ดังนั้นต้องรีบแก้ไขจุดอ่อนนี้ โดยสร้างเขื่อนไว้รอบ ๆ กรุงเทพมหานครชั้นนอก ไม่ว่าจะเป็นเขตสายไหม ดอนเมือง ฯลฯ แล้วยอมปล่อยให้น้ำนอกคันกั้นน้ำบางส่วนเข้ามาภายในเขื่อนที่บริเวณกรุงเทพ มหานครชั้นนอก เพื่อรักษากรุงเทพมหานครชั้นในเอาไว้ เพราะแรงดันน้ำภายนอกกับในกรุงเทพมหานครชั้นในจะช่วยดันกันไว้ ไม่ให้กรุงเทพมหานครชั้นกลางกับชั้นในได้รับผลกระทบมากนัก

    [​IMG]

    ทั้งนี้ ก่อนที่จะปล่อยน้ำเข้ามาในกรุงเทพมหานครชั้นนอก ต้องรีบแจ้งให้ประชาชนรับทราบจะได้มีเวลาเตรียมการขนย้าย และป้องกันตัวเอง โดยน้ำอาจจะขังอยู่นานหลายวัน หรือเป็นเดือน และในพื้นที่ชั้นนอกอาจจะท่วม 1.50-2 เมตร เพราะมวลน้ำจากภาคกลางมหาศาลมาก ส่วนพื้นที่สูงหน่อยอาจจะท่วมแค่ 50 เซนติเมตร หากซึมเข้ามามากก็ปั๊มออกได้

    "มันต้องมีคนยอมเสีย มันต้องมีคนกล้าถูกด่า ผมยอมถูกด่า ต้องปล่อยให้น้ำเข้ามา ต้องทำให้ประชาชนเชื่อว่าคันกั้นน้ำมันพังแน่ มันท่วมแน่ เพราะที่ผ่านมามันพังมาหมดแล้ว และไม่สามารถอุดได้ด้วย กว่าจะอุดได้ น้ำก็ไหลเข้ามาหมดแล้ว ต้องรีบตัดสินใจทำภายในวันสองวันนี้เลย ถ้าบอกว่าไม่อยากให้ท่วมเลยสักคน มันก็จะท่วมทุกคนแน่นอน แล้วใครจะมาช่วยเรา..."

    คุณอภิชาติ ยังเสนอแนวคิดด้วยว่า หากกรุงเทพมหานครทำตามวิธีการเขื่อน 2 ชั้น รัฐบาล หรือผู้ว่าฯ กทม. ต้องประกาศเก็บภาษีคนชั้นในที่ถูกไม่น้ำท่วมเพิ่มขึ้น เพื่อมาช่วยคนกรุงเทพมหานครชั้นนอกที่ยอมถูกน้ำท่วม เพราะคนชั้นนอกได้รับความเสียหาย ต้องได้รับการชดเชยจากคนชั้นในอย่างน้อย 70-80% ของความเสียหายที่เกิดขึ้น พร้อมกับขอให้รัฐบาลต้องกล้าตัดสินใจโดยเร็ว

    ทั้งนี้ คุณอภิชาติ ยังได้ยกตัวอย่างโรงงานมินิแบร์ ซึ่งเป็นโรงงานเดียวในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ยังไม่ถูกน้ำท่วมด้วยว่า เป็นเพราะทางโรงงานทำคันกั้นน้ำไว้ 2 ชั้นเช่นกัน แม้ว่าจะหมดเงินกับการป้องกันครั้งนี้ไปถึง 100 ล้านบาท แต่ก็สามารถป้องกันกิจการภายในไม่ให้ต้องสูญเสียไปกว่า 50,000 ล้านบาทได้สำเร็จ และที่อื่น ๆ ควรนำแนวคิดนี้ไปทำเป็นตัวอย่าง

    สำหรับใครที่สนใจติดตามการวิเคราะห์เรื่องอุทกภัยของ คุณอภิชาติ สุทธิศิลธรรม สามารถเข้าไปติดตามได้ใน เฟซบุ๊ก mtaneewong ซึ่งคุณอภิชาติได้เขียนบทความวิเคราะห์ไว้อย่างน่าสนใจหลายเรื่องเลยทีเดียวค่ะ เพื่อจะได้ช่วยกันรับมืออุทกภัยครั้งนี้ได้ทันท่วงที




    คลิป แนวทางป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ ของคุณอภิชาติ สุทธิศิลธรรม



    -http://hilight.kapook.com/view/63954-

    .

     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    น่าชื่นชมมาก ขอปรบมือให้ดังๆ สำหรับเด็กนักเรียนเทคนิคอุตรดิตถ์

    ควรนำไปเป็นแบบอย่าง เป็นไอดอลสำหรับเด็กนักเรียนเทคนิค



    -------------------------------------------------------------------------

    เทคนิคอุตรดิตถ์ระดมกำลังสร้าง "เรือ-สุขาลอยน้ำ" ช่วยภัยน้ำท่วม <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">22 ตุลาคม 2554 11:44 น.</td> </tr></tbody></table>

    [​IMG]


    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="left" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>

    [​IMG] [​IMG]


    อุตรดิตถ์ - ครู-นักเรียนเทคนิคอุตรดิตถ์ระดมกำลังสร้างเรือโลหะ-สุขาลอยน้ำเตรียมส่งไป ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่ภาคกลาง ผอ.เผยงานชุดแรกเรือ 9 ลำ สุขาลอยน้ำ 5 หลัง เตรียมทำให้เสร็จ 23 ต.ค.นี้ก่อนส่งต่อไปพิษณุโลก พร้อมประกาศผู้ที่สนใจสามารถร่วมบริจาสนับสนุนการสร้างเรือและสุขาลอยน้ำได้

    นายสุวัฒน์ชัย ศรีสุพัฒนะกุล ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคอุตรดิตถ์ นายจิระพงษ์ แสงวณิช รองผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคอุตรดิตถ์ นายดำเนิน สอนสารี ครูชำนาญการ หัวหน้าแผนกวิชาช่างกลโรงงาน พร้อมทั้งนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคอุตรดิตถ์ สาขาแม่พิมพ์โลหะและสาขาเทคนิคการผลิต พร้อมด้วยคณาจารย์จำนวนกว่า 70 คนได้ร่วมกันสร้างเรือโลหะกว้าง 1 เมตร ยาว 3 เมตร ซึ่งสามารถบรรทุกคนได้ 3-5 คนรับน้ำหนักได้ 150-300 กิโลกรัมขึ้น รวมทั้งได้สร้างสุขาลอยน้ำ ขนาดความกว้าง 2 เมตร สูง 2 เมตร เพื่อนำส่งไปให้กับผู้ประสบปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคกลาง

    นายสุวัฒน์ชัย กล่าวว่า จากการที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคกลางหลายจังหวัด ทางสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) โดย ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้มอบนโยบายให้สถานศึกษาในสังกัดออกไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้อง ต้น และให้สถานศึกษาที่ไม่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยระดมกำลังนักศึกษาอาชีวศึกษา ให้ความช่วยเหลือประชาชนในรูปแบบต่างๆ ที่สามารถทำได้ ซึ่งทางวิทยาลัยเทคนิคอุตรดิตถ์ได้มอบหมายให้นักศึกษาแผนกวิชาช่างกลโรงงาน เร่งจัดทำสุขาแบบลอยน้ำ จำนวน 5 หลัง และเรือ จำนวน 9 ลำ เพื่อนำไปมอบให้ผู้ประสบภัย

    ทั้งนี้ ทางวิทยาลัยเทคนิคอุตรดิตถ์จะเร่งสร้างทั้งเรือและสุขาลอยน้ำให้เสร็จสิ้น ภายในวันที่ 23 ต.ค. และในสัปดาห์หน้าจะนำเรือและสุขาลอยน้ำทั้งหมดไปรวบรวมไว้ที่สำนักงาน อาชีวศึกษาภาคเหนือจังหวัดพิษณุโลก เพื่อนำส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคกลางต่อไป

    พร้อมกันนี้วิทยาลัยเทคนิคอุตรดิตถ์ยังขอรับบริจาคเงินเพื่อสนับสนุน ในการสร้างเรือและสุขาลอยน้ำ โดยเรือที่จะสร้างราคาลำละ 5,000 - 8,000 บาท สุขาลอยน้ำหลังละ 12,000 บาท-15,000 บาท ผู้ที่สนใจที่สามารถบริจาคได้ที่ วิทยาลัยเทคนิคอุตรดิตถ์ หมายเลขโทรศัพท์ 055-412917 หรือที่ติดต่อสอบถามนายสุวัฒน์ชัย ศรีสุพัฒนะกุล ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคอุตรดิตถ์ หมายเลขโทรศัพท์ 089-4362765 ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

    -http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000134844-



    .

    http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000134844


    .
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ปิดถนนเส้นรังสิต-นครนายก <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">22 ตุลาคม 2554 15:28 น.</td> <td align="left" valign="middle">


    </td></tr></tbody></table>

    กรมทางหลวงปิดถนน เส้น รังสิต- นครนายก หลังน้ำท่วมถนนเส้นคู่ขนาน

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้กรมทางหลวงได้ปิดถนนเส้นรังสิต - นครนายกมุ่งหน้าไปทางเหนือที่บริเวณรังสิตทั้งทางปกติและทางยกระดับ โดยบังคับรถขาเข้ากรุงเทพฯ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนวิภาวดีรังสิตและโทลเวย์เท่านั้น เนื่องจากน้ำท่วมถนนเส้นคู่ขนานบริเวณถนนพหลโยธินตั้งแต่หน้าสนามกีฬา ธุปเตมีย์ยาวไปถึงบริเวณมหาวิทยาลัยกรุงเทพ


    -http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9540000134943-

    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    เรียน ท่านประธานชมรมพระวังหน้า , ท่านรองประธานชมรมพระวังหน้า ,ท่านสมาชิกชมรมพระวังหน้า , ท่านผู้สนับสนุนชมรมพระวังหน้า และท่านผู้ที่เคยร่วมทำบุญกับผมทุกๆท่าน

    ผมขอแจ้งวาระงานบุญ กฐินตกค้าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี 2554

    จากจดหมายของพี่แอ๊วส่งมาให้ผมและคุณPinkcivil

    เรียนคุณหนุ่ม และ คุณPinkcivilค่ะ
    :p

    พี่ ส่งรายละเอียดงานบุญใหญ่มาให้ค่ะ ต้องขอโทษด้วยที่ล่าช้า ตามสภาพค่ะตอนนี้ ต้องคอยเช็คสถานการณ์น้ำเป็นระยะๆ เพราะบ้านอยู่ในเขตเสี่ยงเช่นกัน
    :p
    ปี นี้ผู้คนลำบากกันมาก พระสงฆ์ก็ยิ่งลำบากใหญ่ แต่ถึงฤดูกาลกฐิน จะมากจะน้อยอย่างไรก็คงต้องดำรงคงไว้ในฐานะที่เป็นพุทธศาสนิกชนนะคะ เราก็เลือกทำบุญที่มีอานิสงส์มากก็แล้วกันค่ะ:p
    :p

    ปี นี้มีมหากฐินโดยเสด็จพระราชกุศลมาให้พวกเราได้ร่วมบุญกันเหมือนปีที่แล้วค่ะ คือกฐินที่ไม่มีเจ้าภาพจองใน 3 จว.ชต. และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถท่านได้เป็นองค์อุปถัมภ์อยู่:p
    :p

    ถือ ว่าเราได้ทำบุญอันยิ่งใหญ่กันนะคะ ปีนี้มีวัดตกค้างอยู่ 84 วัด ( เท่าพระชนมายุของในหลวงพอดีเลยนะคะ ) วัดทั้งหมดมีพระจำพรรษาครบ 5 รูป และพระสงฆ์อยู่ครบไตรมาส ถือว่าถวายกฐิน:p
    :p

    เป็น การสืบต่องานพระพุทธศาสนาตามพระธรรมวินัยนะคะ พระที่ท่านจำพรรษาอยู่ใน 3 จว.ชต. นี้ถือว่าท่านต้องมีกำลังใจสูงมาก เพราะเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อชีวิต และขาดแคลนไปทุกสิ่งทุกอย่าง:p
    :p

    เพราะ คนเข้าไปทำบุญได้ยาก ปีหนึ่งก็คงมีโอกาสที่จะได้รับปัจจัยไทยธรรมสักครั้งให้สมบูรณ์แบบ เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์เป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าภัตตาหารตลอดทั้งปี รวมทั้งค่ายารักษาโรคด้วย:p
    :p

    พี่ ขอรบกวนคุณหนุ่ม ในการบอกกล่าวข่าวบุญนี้ไปยังพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ทั้งหลายนะคะ เหลือเวลาร่วมบุญแค่ประมาณ 10 วันเท่านั้นเองค่ะ !!!!:p
    :p

    กราบอนุโมทนา สาธุนะคะ

    ------------------------------------------------------------

    ขอเชิญร่วมมหากุศลเป็นเจ้าภาพร่วมโดยเสด็จพระราชกุศลทอดกฐินตกค้างจำนวน ๘๔ วัด ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้
    :p
    ด้วย ในกาลกฐินประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๔ นี้ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้ทรงมอบหมายให้กรมราชองครักษ์ดำเนินการสำรวจวัดที่ยังไม่มีเจ้าภาพจองทอด กฐิน ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ซึ่งพบว่ามีวัดจำนวนทั้งสิ้น ๘๔ วัดยังไม่มีเจ้าภาพจองทอดกฐินในปีนี้ อันเป็นผลกระทบจากการก่อความไม่สงบในพื้นที่ดังกล่าว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐิน จำนวน ๘๔ ไตร พร้อมพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวนหนึ่ง ให้กรมราชองครักษ์ คณะทำงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาในบวรพุทธศาสนา อัญเชิญไปถวายวัดทั้ง ๘๔ วัด ซึ่งมีพระสงฆ์จำพรรษาครบจำนวน ๕ รูป และอยู่ครบถ้วนไตรมาส:p
    :p

    ใน การนี้พระครูปภัสสรวรพินิจ เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และพระธวัชชัย ชาครธัมโม ( พระอาจารย์นิล ) ได้รับเป็นเจ้าภาพร่วมในการอัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทาน และการจัดจตุปัจจัยไทยธรรมถวายแด่วัดทั้ง ๘๔ วัด เพื่อร่วมโดยเสด็จพระราชกุศลในครั้งนี้ด้วย :p
    :p

    จึง ขอเรียนเชิญท่านพุทธศาสนิกชนทั้งหลายร่วมเป็นเจ้าภาพมหากุศลครั้งนี้ โดยผู้รับเป็นเจ้าภาพสามารถรับเป็นเจ้าภาพได้ทั้ง ๘๔ วัด โดยร่วมบุญตามกำลังศรัทธา หรือ รับเป็นเจ้าภาพกองกฐินกองละ ๓,๐๐๐ บาท จำนวน ๕๐๐ กอง โดยในเบื้องต้น ทางวัดห้วยมงคลจะได้จัดปัจจัยถวายแต่ละวัด วัดละ ๑๐,๐๐๐ บาท พร้อมผ้าไตรจีวร หากมีผู้ทำบุญมาเกินกว่าจำนวนที่ได้ตั้งไว้ ทางวัดจะจัดปัจจัยเฉลี่ยเท่าๆกันถวายแด่วัดทั้งหมดจำนวน ๘๔ วัด ทั้งนี้เจ้าภาพสามารถร่วมทำบุญโดยเสด็จพระราชกุศลในการร่วมถวายผ้าพระกฐิน พระราชทาน และถวายผ้ากฐินสำหรับทุกวัดด้วย:p
    :p

    สำหรับรายละเอียดและกำหนดการทอดกฐินมหากุศลในครั้งนี้ มีดังนี้
    :p
    :p
    1. วันอาทิตย์ที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๔ :p
    เวลา ๐๙.๓๐ น. ถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดวังโต้ อ. นาทวี จ. สงขลา จำนวน ๒๐ วัด:p
    เวลา ๑๓.๐๐ น. ถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดมุจลินทร์ จ. ปัตตานี จำนวน ๓๐ วัด:p
    :p

    2. วันจันทร์ที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๔:p
    เวลา ๐๙.๓๐ น. ถวายผ้าพระกฐินที่วัดเขากง จ. นราธิวาส จำนวน ๓๔ วัด

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    รายชื่อวัด (ตามไฟล์แนบ ผมได้มาเพียง 80 วัดครับ)


    -------------------------------------------

    บัญชีที่ผมใช้สำหรับงานบุญนี้ ผมใช้บัญชีส่วนตัวผม

    ดังนั้น หากท่านผู้อ่านที่เคยร่วมทำบุญพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง มีความลังเล , สงสัย , เคลือบแคลง , ไม่มั่นใจ , ไม่แน่ใจ และกลัวว่าผมจะมีส่วนได้ส่วนเสียในเงินร่วมทำบุญนี้ ก็ไม่ต้องทำบุญครับ

    สำหรับท่านผู้อ่านที่เคยร่วมทำบุญพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ผมให้สิทธิในการร่วมทำบุญ แต่ผมขอให้อยู่ในดุลยพินิจของผมว่า จะให้ร่วมทำบุญได้หรือไม่ หากท่านใดที่ผมอนุญาตให้ร่วมทำบุญ ผมจะให้ท่านแจ้ง ชื่อ - นามสกุล และที่อยุ่มาให้ผมก่อน แล้วผมจะส่งหมายเลขบัญชีที่จะให้โอนเงินร่วมทำบุญไปให้อีกครั้งครับ

    ระยะเวลาในการร่วมทำบุญ สิ้นสุดในวันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2554 เวลา 18.00 น.ครับ

    โมทนาบุญทุกประการ

    sithiphong.20/10/2554

    . :p
    </td> </tr> </tbody></table>





    ผมได้แจ้งหมายเลขบัญชีที่ร่วมทำบุญกฐินตกค้าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้คุณอนัตตัง เรียบร้อยแล้วครับ

    .
     
  18. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    น้ำท่วมห่วงเด็ก วิธีป้องกันภัยจมน้ำ
    วันศุกร์ ที่ 21 ตุลาคม 2554 เวลา 14:17 น
    เนื้อหาข่าว รูปภาพ


    ช่วงนี้หลายจังหวัดของประเทศไทยประสบกับปัญหาน้ำท่วมอย่างรุนแรง คนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องดูแลเด็กๆ ให้ห่างไกลภัยอันตรายที่เกิดจากน้ำท่วม โดยเฉพาะการจมน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปี เสียชีวิตสูงเป็นอันดับหนึ่ง และสูงกว่าการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรถึง 2 เท่า โดยในแต่ละปีมีเด็กจมน้ำเสียชีวิตถึงเกือบ 1,500 คนหรือเฉลี่ยวันละ 4 คน ซึ่งช่วงที่พบมากมักเป็นช่วงที่ตรงกับการปิดเทอมซึ่งตรงกับช่วงนี้ ร่วมกับการมีน้ำท่วม

    ทุกปีกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดให้วันเสาร์แรกของเดือนมีนาคมของทุกปีเป็นวันรณรงค์ป้องกันเด็กจมน้ำ และมีคำขวัญว่า เด็กทั่วไทย ปลอดภัย ไม่จมน้ำ โดยมีนโยบายเร่งป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยจัดอบรมครูสอนทักษะการว่ายน้ำเพื่อเอาชีวิตรอด และวางแผนจะเผยแพร่ไปทุกจังหวัด ตั้งเป้าหมายว่าภายใน 10 ปี เด็กที่อายุ 6 ปีขึ้นไป ต้องว่ายน้ำเป็นครบ 100 เปอร์เซ็นต์

    พญ.พิมพ์ภัค ประชาศิลป์ชัย ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เผยว่า "จริงๆแล้วแค่เพียงระดับน้ำเพียง 1-2 นิ้ว ก็สามารถทำให้เด็กเล็กๆจมน้ำได้แล้ว และเด็กส่วนมากมักจมน้ำบริเวณแหล่งน้ำใกล้บ้าน ดังนั้นพ่อแม่ควรดูแลเด็กๆ อย่างใกล้ชิด ไม่ควรปล่อยให้เด็กไปเล่นน้ำ จับปลา พายเรือ หรือว่ายน้ำตามลำพัง และควรให้เด็กๆยืนห่างจากขอบแหล่งน้ำเพื่อป้องกันการลื่นตกด้วย รวมถึงไม่ควรให้อยู่ในน้ำเป็นเวลานาน เพราะความเย็นของน้ำจะทำให้เด็กเป็นตะคริวจมน้ำได้ โดยเฉพาะในสถานการน้ำท่วมแบบนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ ถ้าต้องเดินทางทางเรือก็ควรสวมเสื้อชูชีพให้เด็กๆตลอดเวลา"

    กรณีที่มีเหตุจมน้ำเกิดขึ้น พญ.พิมพ์ภัค ระบุว่า ควรสอนไม่ให้เด็กลงไปช่วยเหลือกันเอง ควรบอกให้ผู้ใหญ่ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงช่วยเหลือแทน ขณะที่วิธีการช่วยเหลือเด็กจมน้ำ ถ้าเด็กรู้สึกตัวดี และหายใจเองได้ ควรเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เด็ก และรีบเช็ดตัวเด็กให้แห้ง เพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย

    แต่ถ้าเด็กหายใจเองไม่ได้หรือหัวใจหยุดเต้น ให้รีบทำการปฐมพยาบาลในเบื้องต้น และรีบเปิดทางเดินหายใจ โดยให้เด็กนอนราบกดหน้าผากและเชยคางขึ้นเบาๆ ถ้าเด็กยังไม่หายใจแต่ชีพจรยังเต้นอยู่ ให้ทำการเป่าปากต่อเพียงอย่างเดียว โดยทำ 20 ครั้ง/นาที และให้รีบนำเด็กส่งโรงพยาบาล ห้ามจับอุ้มพาดบ่า กระโดด หรือวิ่งรอบสนาม เพราะจะทำให้ขาดอากาศหายใจนานยิ่งขึ้น

    ที่สำคัญแม้ว่า เด็กๆจะว่ายน้ำเป็น ผู้ปกครองก็ไม่ควรปล่อยให้เด็กๆอยู่ตามลำพัง เพราะเด็กอาจได้รับอันตรายจากสัตว์มีพิษที่อาศัยอยู่ใต้น้ำ และถ้าเกิดอันตรายในระหว่างการเล่นน้ำ เด็กจะไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้อย่างทันท่วงที

    พญ.พิมพ์ภัค บอกด้วยว่า อุบัติเหตุอื่นๆ ที่พบบ่อยในช่วงน้ำท่วม ได้แก่ ไฟดูด อุบัติเหตุจากการเหยียบของมีคม อันตรายจากสัตว์มีพิษ เช่น งู ตะขาบ แมงป่อง ซึ่งหนีน้ำมาหลบในบริเวณบ้าน การป้องกันง่ายๆทำได้โดยไม่ให้เด็กๆเดินเท้าเปล่า ถอดปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้า สับคัทเอาท์ตัดไฟฟ้าในบ้าน ก่อนที่น้ำจะท่วมถึง และเก็บกวาดขยะ วัตถุแหลมคม ในบริเวณบ้าน

    ถ้ามีบาดแผลที่เกิดจากของมีคม ควรล้างแผลด้วยสบู่และน้ำสะอาด แล้วไปปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องและต้องตรวจเช็คว่าเด็กได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักครบแล้วหรือยัง.

    ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
     
  19. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    น้ำท่วมห่วงเด็ก วิธีป้องกันภัยจมน้ำ
    วันศุกร์ ที่ 21 ตุลาคม 2554 เวลา 14:17 น
    เนื้อหาข่าว รูปภาพ


    ช่วงนี้หลายจังหวัดของประเทศไทยประสบกับปัญหาน้ำท่วมอย่างรุนแรง คนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องดูแลเด็กๆ ให้ห่างไกลภัยอันตรายที่เกิดจากน้ำท่วม โดยเฉพาะการจมน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปี เสียชีวิตสูงเป็นอันดับหนึ่ง และสูงกว่าการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรถึง 2 เท่า โดยในแต่ละปีมีเด็กจมน้ำเสียชีวิตถึงเกือบ 1,500 คนหรือเฉลี่ยวันละ 4 คน ซึ่งช่วงที่พบมากมักเป็นช่วงที่ตรงกับการปิดเทอมซึ่งตรงกับช่วงนี้ ร่วมกับการมีน้ำท่วม

    ทุกปีกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดให้วันเสาร์แรกของเดือนมีนาคมของทุกปีเป็นวันรณรงค์ป้องกันเด็กจมน้ำ และมีคำขวัญว่า เด็กทั่วไทย ปลอดภัย ไม่จมน้ำ โดยมีนโยบายเร่งป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยจัดอบรมครูสอนทักษะการว่ายน้ำเพื่อเอาชีวิตรอด และวางแผนจะเผยแพร่ไปทุกจังหวัด ตั้งเป้าหมายว่าภายใน 10 ปี เด็กที่อายุ 6 ปีขึ้นไป ต้องว่ายน้ำเป็นครบ 100 เปอร์เซ็นต์

    พญ.พิมพ์ภัค ประชาศิลป์ชัย ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เผยว่า "จริงๆแล้วแค่เพียงระดับน้ำเพียง 1-2 นิ้ว ก็สามารถทำให้เด็กเล็กๆจมน้ำได้แล้ว และเด็กส่วนมากมักจมน้ำบริเวณแหล่งน้ำใกล้บ้าน ดังนั้นพ่อแม่ควรดูแลเด็กๆ อย่างใกล้ชิด ไม่ควรปล่อยให้เด็กไปเล่นน้ำ จับปลา พายเรือ หรือว่ายน้ำตามลำพัง และควรให้เด็กๆยืนห่างจากขอบแหล่งน้ำเพื่อป้องกันการลื่นตกด้วย รวมถึงไม่ควรให้อยู่ในน้ำเป็นเวลานาน เพราะความเย็นของน้ำจะทำให้เด็กเป็นตะคริวจมน้ำได้ โดยเฉพาะในสถานการน้ำท่วมแบบนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ ถ้าต้องเดินทางทางเรือก็ควรสวมเสื้อชูชีพให้เด็กๆตลอดเวลา"

    กรณีที่มีเหตุจมน้ำเกิดขึ้น พญ.พิมพ์ภัค ระบุว่า ควรสอนไม่ให้เด็กลงไปช่วยเหลือกันเอง ควรบอกให้ผู้ใหญ่ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงช่วยเหลือแทน ขณะที่วิธีการช่วยเหลือเด็กจมน้ำ ถ้าเด็กรู้สึกตัวดี และหายใจเองได้ ควรเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เด็ก และรีบเช็ดตัวเด็กให้แห้ง เพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย

    แต่ถ้าเด็กหายใจเองไม่ได้หรือหัวใจหยุดเต้น ให้รีบทำการปฐมพยาบาลในเบื้องต้น และรีบเปิดทางเดินหายใจ โดยให้เด็กนอนราบกดหน้าผากและเชยคางขึ้นเบาๆ ถ้าเด็กยังไม่หายใจแต่ชีพจรยังเต้นอยู่ ให้ทำการเป่าปากต่อเพียงอย่างเดียว โดยทำ 20 ครั้ง/นาที และให้รีบนำเด็กส่งโรงพยาบาล ห้ามจับอุ้มพาดบ่า กระโดด หรือวิ่งรอบสนาม เพราะจะทำให้ขาดอากาศหายใจนานยิ่งขึ้น

    ที่สำคัญแม้ว่า เด็กๆจะว่ายน้ำเป็น ผู้ปกครองก็ไม่ควรปล่อยให้เด็กๆอยู่ตามลำพัง เพราะเด็กอาจได้รับอันตรายจากสัตว์มีพิษที่อาศัยอยู่ใต้น้ำ และถ้าเกิดอันตรายในระหว่างการเล่นน้ำ เด็กจะไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้อย่างทันท่วงที

    พญ.พิมพ์ภัค บอกด้วยว่า อุบัติเหตุอื่นๆ ที่พบบ่อยในช่วงน้ำท่วม ได้แก่ ไฟดูด อุบัติเหตุจากการเหยียบของมีคม อันตรายจากสัตว์มีพิษ เช่น งู ตะขาบ แมงป่อง ซึ่งหนีน้ำมาหลบในบริเวณบ้าน การป้องกันง่ายๆทำได้โดยไม่ให้เด็กๆเดินเท้าเปล่า ถอดปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้า สับคัทเอาท์ตัดไฟฟ้าในบ้าน ก่อนที่น้ำจะท่วมถึง และเก็บกวาดขยะ วัตถุแหลมคม ในบริเวณบ้าน

    ถ้ามีบาดแผลที่เกิดจากของมีคม ควรล้างแผลด้วยสบู่และน้ำสะอาด แล้วไปปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องและต้องตรวจเช็คว่าเด็กได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักครบแล้วหรือยัง.

    ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    เปิดเส้นทางเลี่ยงหนีน้ำขึ้นเหนือ-อีสาน



    [​IMG]
    ข่าวน้ำท่วม เส้นทางน้ำท่วม



    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    สำหรับ ผู้ที่จะเดินทางไปยังจังหวัดในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต้องตรวจสอบเส้นทางให้ดี เพราะในเส้นทางหลัก สายพหลโยธิน และสายมิตรภาพ ถูกน้ำท่วมหลายจุด เราจึงมีเส้นทางเลี่ยง เพื่อจะเดินทางไปยังภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาบอก ดังนี้

    [​IMG] เส้นทาง "เชียงใหม่-กรุงเทพฯ" ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 11 พหลโยธิน ลำปาง-ตาก- กำแพงเพชร ก่อนถึงนครสวรรค์มีทางเลือก 2 ทางที่ "แยกหนองเบน"

    [​IMG] เส้นทางแรก จากหนองเบนไปตามทางหลวงหมายเลข 1 เข้าจังหวัดนครสวรรค์ ผ่านสะพานเดชาติวงศ์ แต่การจราจรติดขัด ถนนเป็นคอขวด ตรงไปถนนสายเอเชีย หมายเลข 32 เข้าสิงห์บุรี เลี้ยวขวาเข้าบางระจัน ถึงแยกนางบวชเลี้ยวซ้ายไปทางสุพรรณบุรี เข้าถนนหมายเลข 340 จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 321 เข้า อ.อู่ทอง ผ่านกำแพงแสนมุ่งหน้านครปฐม เกาะเส้นทางหมายเลข 4 เข้านครชัยศรี ทะลุถึงกรุงเทพฯ

    [​IMG] เส้นทางที่ 2 จากหนองเบนเลี้ยวขวาเข้า อ.ลาดยาว ทางหลวงหมายเลข 1072 ไปทาง อ.สว่างอารมณ์ ทัพทัน หนองฉาง เข้าทางหลวงหมายเลข 333 ผ่าน อ.บ้านไร่ เข้าสุพรรณบุรี ที่ อ.ด่านช้าง จากนั้นมุ่งหน้าเข้า อ.ดอนเจดีย์ ผ่านอู่ทอง วิ่งเกาะทางหลวงหมายเลข 321 ถนนมาลัยแมน ผ่านกำแพงแสน เข้านครปฐม ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 มุ่งหน้านครชัยศรี ทะลุกรุงเทพฯ

    [​IMG] เส้นทาง "น่าน-กรุงเทพฯ" ใช้ ทางหลวงหมายเลข 101 ผ่านแพร่ เด่นชัย ใช้ทางหลวงหมายเลข 11 ผ่านอุตรดิตถ์ อ.วังทอง จ.พิจิตร อ.หนองบัว ตากฟ้า เลี้ยวขวาเข้าตาคลี ถึงทางหลวงหมายเลข 32 สายเอเชีย เลี้ยวซ้ายไปอินทร์บุรี สิงห์บุรี เข้าสุพรรณบุรี เข้านครปฐม นครชัยศรี เดินทางต่อถึงกรุงเทพฯ

    [​IMG] เส้นทาง "เลย-กรุงเทพฯ" เริ่มต้น ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 203 เข้าเพชรบูรณ์ เกาะทางหลวงหมายเลข 21 ผ่าน อ.บึงสามพัน ชัยบาดาล เฉลิมพระเกียรติ ใช้ทางเลี่ยงเมืองสระบุรี เข้าทางหลวงหมายเลข 1 พหลโยธิน ไป อ.หนองแค ถึงแยกหินกองเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 33 วิหารแดง บ้านนา นครนายก ตัดเข้าทางหลวงหมายเลข 305 นครนายก องครักษ์ รังสิต ธัญบุรี ลำลูกกา เข้ากรุงเทพฯ

    [​IMG] เส้นทาง "หนองคาย-กรุงเทพฯ"หนองคายมุ่งหน้าโคราช จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 304 โคราช ปักธงชัย กบินทร์บุรี ฉะเชิงเทรา เข้ากรุงเทพฯ

    [​IMG] เส้นทาง "บุรีรัมย์-กรุงเทพฯ" ใช้ทางหลวงหมายเลข 218 บุรีรัมย์ นางรอง เข้าโนนดินแดง วัฒนานคร เลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 33 สระแก้ว กบินทร์บุรี เลี้ยวซ้ายเข้าหมายเลข 304 มุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ

    [​IMG] หรือจากบุรีรัมย์ใช้ถนนหมายเลข 218 บุรีรัมย์ นางรอง จากนั้นเข้าหมายเลข 24 นางรอง ปักธงชัย เลี้ยวซ้ายเข้าถนนหมายเลข 304 โคราช มุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ



    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก มติชนออนไลน์ และ ไอ.เอ็น.เอ็น.

    [​IMG] [​IMG]


    -http://hilight.kapook.com/view/52934-

    .

    http://hilight.kapook.com/view/52934

    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...