พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

.

<table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 14 คน ( เป็นสมาชิก 6 คน และ บุคคลทั่วไป 8 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong, อนัตตัง, lap.decha, มูริญโญ่, ชวภณ ศ.+, da2496</td></tr></tbody></table>

สวัสดีตอนดึกน้อยๆครับ

ผมไปพักผ่อนก่อน งานเยอะทุกวันครับ


ราตรีสวัสดิ์ครับ


.

 

พักผ่อนเยอะๆ รักษาสุขภาพนะครับ คุณ sithiphong

 

.
<table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 4 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 3 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong</td></tr></tbody></table>

อรุณสวัสดิ์ยามเช้า วันพุธสุขใจครับ

.

 

มาแล้วครับ วันนี้ผมไปเจอมา ๒ คัมภีร์ แต่ไม่ใช่ของเขาอ้อ แต่เป็นของเมืองนคร ดูแล้วเป็นคัมภีร์การสร้างบ้านส่วนหนึ่ง เป็นยาส่วนหนึ่ง ยังไม่ปิ๊งเท่าไหร่ เลยตัดใจไม่เอาครับ หวนนึกถึงตำรายาที่วัดทุ่งหลวงที่หลวงปู่ครูบาธรรมชัยท่านจารึกเอาไว้ตรงกำแพง ผมก็บันทึกภาพไว้ทุกกำแพง อันนั้นตรงประเด็นกว่า พี่ท่านหนึ่งคุณปู่มอบใหมาตับหนึ่ง ภายหลังได้มอบให้คนอื่นไป แต่ก็เหมือนต้องคำสาปมีบุคคลในครอบครัวได้เสียชีวิตลง เลยนำคัมภีร์ยามาคืนให้พี่ท่านนี้ ผมเลยใจฝ่อเกินจะขอมาเก็บไว้ ก็เลยสอบถามพี่เขาว่า แล้วมีทางป้องกันการดูคัมภีร์ต้องคำสาปเหล่านี้หรือไม่ พี่ท่านนี้ก็บอกคาถากันคำสาปเอาไว้ กันการกระทำ อ้อ! ไม่ใช่"สัมปจิตฉามิ"ครับ...

trip นี้ก็เป็นครั้งที่ ๔ แล้ว เมืองกระบี่นี่เสน่ห์แรงไม่เบา เช้านี้ผมตะลอนไปตามถนนเส้นหนึ่ง เรียกถนนช้าง อินทรี สิงห์ คนโบราณ ถนนเส้นนี้มีเอกลักษณ์ ลองชมกันครับ

 

เลียบไปตามถนนเส้นนี้ แล้วไปU-Turn ตรงหัวถนนสิงห์ ก็จะพบร้านเก่าแก่ร้านหนึ่งชื่อ"ฮกกี่เหลา" ได้ทานติ๋มซำรสชาดดีหน้าตาแบบนี้ครับ เข่งละ ๑๕ บาทเท่านั้น โกอ้วน เจ้าของร้านบอกว่า ไปเรียนทำสูตรติ๋มซำจากที่ตรัง เดี๋ยวนี้หาคนทำยาก โดยเฉพาะ"บะกุ๊ดเต๋กระดูกอ่อน" ชามนี้รสชาดกลิ่นหอมของยาจีนดีมากๆ ต่างจากร้านอื่นๆมาก ตรงที่เขาไม่ได้ใช้เครื่องเทศอื่นใด นอกจากยาจีน และน้ำของหล่อฮั้งก้วย ท่านใดที่มีปัญหาด้านระบบเลือดทานไปเรื่อย เม็ดเลือดแดงจะดีขึ้นครับ กระดูกหมูอ่อนจริงๆ และเนื้อมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่มันเลย ชามนี้ ๖๐ บาท

 

เหอๆๆๆ เห็นแล้วหิวอ่ะ

ฝากทานเผื่อ 1 ชุดด้วยครับ

.

 

สวัสดี เช้าวันพุธ ครับ ทุกๆ ท่าน

 

คุณเพชร ได้ลิ้มลองโรตี ยามค่ำคืน ตรงแยกห้างโว๊กที่กระบี่ยังอะครับ คนเข้าคิวกันยาวอะครับ

 

'ข่อย'ไม้ประดับสมุนไพร

วันพุธ ที่ 13 กรกฎาคม 2554 เวลา 0:00 น

​

<TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen4 style="LEFT: 0px; POSITION: relative; TOP: 0px; webkit-border-horizontal-spacing: 2px; webkit-border-vertical-spacing: 2px" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY style="VERTICAL-ALIGN: middle"><TR id=ext-gen3><TD class=" on" id=ext-gen9 style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 2px; FONT-SIZE: 12px; PADDING-BOTTOM: 0px; WIDTH: 72px; PADDING-TOP: 0px; FONT-FAMILY: Verdana, Geneva, Arial, Helvetica, sans-serif">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

"ต้นข่อย" คนทั่วไปรู้จักกันว่าเป็นไม้ประดับชนิดหนึ่ง นิยมปลูกและตัดแต่งให้เป็นรูปร่างต่าง ๆ แต่ทราบไหมว่าต้นไม้ชนิดนี้ก็เป็นสมุนไพรได้ด้วย

ต้นข่อยเป็นไม้ยืนต้น ไม่ผลัดใบ สูง 5-15 เมตร แตกกิ่งก้านสาขา ขึ้นเป็นพุ่มทรงกลม เปลือกมีสีเทาอ่อน ข้างในลำต้นและกิ่งจะมีน้ำยางสีขาวข้น ใบมีขนาดเล็ก ขอบใบเรียบโคนใบมนแหลม ปลายใบแหลม คล้ายรูปไข่ กว้างประมาณ 3.5 ซม. ยาว 4-7 ซม. เนื้อใบหนาและสากคล้ายกระดาษทราย ทั้ง 2 ด้าน ดอกออกเป็นช่อ สีเหลืองอ่อน ออกตามปลายกิ่ง รวมกันเป็นกระจุก ผลทรงกลมเล็ก ๆ เมื่อสุกมีสีเหลืองสด รสหวาน

นอกจากจะเป็นไม้ประดับตกแต่งแล้ว ยังสามารถใช้ส่วนต่าง ๆ ของต้นข่อย มาเป็นสมุนไพรได้ด้วย เช่น คนโบราณนำกิ่งข่อยมาใช้ในการแปรงฟันแทนแปรงสีฟัน แต่ต้องทุบให้นิ่มก่อน 'ใบ' เมื่อนำไปปิ้งให้กรอบ ใช้ชงกับน้ำ รับประทานเป็นยาระบายอ่อน ๆ หรือนำไปคั่ว แล้วชงกับน้ำแก้ปวดประจำเดือนได้ 'เปลือก' สามารถนำมารักษาแผล แก้ท้องร่วง แก้โรคผิวหนัง 'ราก' ก็นำมาใช้รักษาแผลได้เช่นกัน 'เมล็ด' ทำให้เจริญอาหาร เป็นต้น

ต้นข่อยมีชื่อเรียกพื้นเมืองแตกต่างกันออกไป เช่น ภาคเหนือเรียกกักไม้ฝอย จ.ร้อยเอ็ดเรียกส้มพอ เขมรเรียกสะนาย เป็นต้น คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นข่อยไว้ประจำบ้านจะทำให้เกิดความมั่นคง ช่วยป้องกันศัตรูจากภายนอกได้ เพื่อความเป็นสิริมงคล ผู้อาศัยควรปลูกต้นข่อยไว้ทางทิศตะวันออก และปลูกในวันเสาร์ ถ้าปลูกในแปลงใช้หลุมขนาดประมาณ 50x50x50 ซม. ส่วนการปลูกใส่กระถางใช้กระถางทรงสูงขนาด 12-24 นิ้ว และควรเปลี่ยนกระถาง 2-3 ปีต่อครั้ง ต้นไม้ชนิดนี้ชอบแสงแดดจัดและดินร่วนซุย ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรค นิยมขยายพันธุ์โดยวิธีเพาะเมล็ด และปักชำ.





ที่มา เดลินิวส์ ออนไลน์

 

วันพุธ ที่ 13 กรกฎาคม 2554 เวลา 0:00 น

​

<TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen4 style="LEFT: 0px; POSITION: relative; TOP: 0px; webkit-border-horizontal-spacing: 2px; webkit-border-vertical-spacing: 2px" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY style="VERTICAL-ALIGN: middle"><TR id=ext-gen3><TD class=" on" id=ext-gen9 style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 2px; FONT-SIZE: 12px; PADDING-BOTTOM: 0px; WIDTH: 72px; PADDING-TOP: 0px; FONT-FAMILY: Verdana, Geneva, Arial, Helvetica, sans-serif">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

อุบัติเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่เว้นแม้แต่ตอนออกกำลังกาย ซึ่งโอกาสบาดเจ็บยิ่งเพิ่มสูงขึ้นหากไม่รู้จักอบอุ่นร่างกายและยืดคลายกล้ามเนื้อ ก่อนและหลังออกกำลัง

สำหรับการอบอุ่นร่างกาย หรือวอร์ม อัพ ก่อนออกกำลังกายนั้น ถือเป็นการเตรียมความพร้อมให้ร่างกาย โดยเลือดจะถูกส่งไปยังกล้ามเนื้อและสร้างความยืดหยุ่นให้เอ็นกล้ามเนื้อ ส่วนการยืดคลายกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ โดยเฉพาะหลังออกกำลังกายแล้ว จะสามารถยืดเหยียดกล้ามเนื้อได้มากขึ้น จึงไม่ควรละเลยการยืดเอ็นกล้ามเนื้อด้วยเช่นกัน

อย่างที่กล่าวไว้ในตอนต้น อุบัติเหตุขณะเล่นกีฬามักเกิดขึ้นกับผู้ที่ไม่มีการวอร์ม อัพ และยืดคลายกล้ามเนื้อ นพ.วิญญู รัตนไชย ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ กล่าวไว้ในนิตยสาร Better Health ว่า อาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย อาจมีทั้งเกิดบาดแผล ตะคริว ข้อแพลง กล้ามเนื้อฉีก ข้อหลุด กรณีที่มีอาการปวดบวมนั้นเกิดจากการที่มีเลือดไหลออกจากกล้ามเนื้อที่ฉีกขาด สามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นโดยยึดหลัก RICE ที่มี 4 ขั้นตอน

เริ่มจาก R หรือ Rest ให้รีบพักกล้ามเนื้อบริเวณที่เจ็บปวดบวม ตามด้วย I หรือ Ice ใช้การประคบเย็นเข้าช่วย ไม่ควรประคบร้อน เพราะยิ่งทำให้เลือดออกมากขึ้น

จากนั้น C หรือ Compression เป็นการกดเพื่อให้เลือดหยุด กรณีที่กดไม่สะดวกให้ใช้ผ้าพัน โดยพันจากส่วนปลายขึ้นไปส่วนต้นของบริเวณที่มีบาดแผล แต่ต้องระวังอย่าพันแน่นจนเกินไป สุดท้าย E หรือ Elevation ให้ยกส่วนที่บาดเจ็บให้สูงขึ้น จะสามารถลดอาการบวมได้

หลักปฏิบัติ RICE ทั้ง 4 ข้อ หากทำแล้วจะช่วยลดปวดบวม และหยุดเลือดไว้ได้ ทว่าอาการไม่รุนแรง หลังปฐมพยาบาลแล้วอาจไม่ต้องเข้าพบแพทย์ก็ยังได้ แต่ถ้ายังรู้สึกปวดมาก เลือดไหลออกมาก ควรพบแพทย์เพื่อรักษาจะปลอดภัยยิ่งกว่า.

ทีมเดลินิวส์ออนไลน์

 

ช่วงนี้ยุ่งๆนะครับ งานมีพายุเข้า โดนไปหลายดอก วันนี้เริ่มสงบบ้างแล้วครับ มาทักทายทุกท่านนะครับ หวังว่าคงสบายดีนะครับ
ไม่ทราบว่างานที่ใหม่คุณหนุ่มเป็นเช่นไรครับผม

 

ไปมาแล้วครับ ร้านนี้ทานเป็นประจำ พรุ่งนี้ว่าจะไปทานร้านน้องโจ๊ก คราวก่อนยังติดใจอยู่เลย อาหารปรุงได้แปลกตา รสชาดก็ดี ราคาก็ย่อมเยาสั่งไป 4-5 อย่างแปดร้อยกว่าบาท ขนาดเมนูมีปลาเต๋าเต้ยแบบที่คุณหนุ่มชอบนะ วันนี้เพิ่งกลับจากเกาะห้อง ลุ้นตั้งแต่เมื่อวานว่าจะได้ไปหรือเปล่า เพราะช่วงนี้มรสุมเข้าเขาไม่ได้ออกเรือมา ๒ วัน สงสัยเพราะสมเด็จอศจร. วันนี้ฟ้าเปิดแต่เช้า พอกลับจากเกาะปั๊บ ฝนก็ตกเลย คืนนี้เอาภาพเกาะห้องมาฝากกันครับ ได้พัก ๓-๔ วัน ก็เรียนหนักอีกแล้ว...

 

โอ๊วน่าอิจฉาพี่เพชรจริงๆเลยนะครับ

 

ช่วงนี้ ก็สบายขึ้นนิดนึง เนื่องจากรอการประชุมจัดสรรงานครับ

แต่ก็ทำงานตลอด ไม่มีเวลาว่างมากนักครับ

.

 

อิจฉาครับ ได้ทานของอร่อยๆ

เดี๋ยวต้องโทร.หาก๊วนแล้วครับ

ก๊วนนี้ มีการลงขันกัน เงินกองกลางยังอยู่ที่ผม ผมเป็นผู้ที่ดูแล และทำบัญชีให้ ต้องชวนไปทานปลาเต๋าเต้ยอีกดีกว่า

.

 

.
ตะลึง พบ"โรคโกโนเรีย"สายพันธุ์ใหม่ดื้อยาไม่สามารถรักษาได้ หวั่นแพร่ระบาดรวดเร็วในอนาคต




สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ว่า นักวิทยาศาสตร์สวีเดนได้ค้นพบเชื้อโกโนเรียสายพันธุ์ใหม่ ในญี่ปุ่น ซึ่งเชื่อว่าได้ใช้เวลานับสิบปีกลายพันธุ์ดื้อยาปฎิชีวนะในโลกปัจจุบัน โดยดร.แม็กนุส ยูเนโมะ เปิดเผยว่า การค้นพบนี้เป็นเรื่องที่ต้องตื่นตัว เนื่องจากที่ผ่านมายาปฎิชีวนะที่เคยกลายเป็นพื้นฐานของการรักษาโรคโกโนเรีย นับตั้งแต่ปี 1940 แต่ขณะนี้เชื้อแบคทีเรียของโรคโกโนเรียได้แสดงศักยภาพอันน่าทึ่งในการพัฒนา กลไกการดื้อยาทุกชนิดประเภท

นอกจากนี้ เขายังกล่าวว่า แม้ว่าจะเป็นการเร็วเกินไปที่จะประเมินว่า โกโนเรียสายพันธุ์ใหม่จะแพร่ระบาด แต่จากประวัติศาสตร์องการดื้อยาใหม่ในเชื้อโรค ชี้ว่า มันอาจแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วหากวงการแพทย์ยังไม่สามารถผลิตยาใหม่ และพัฒนากระบวนการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพขึ้นมาได้

ด้านดร.เดวิด ลิเวอร์มอร์ แห่งสำนักงานคุ้มครองสุขภาพ บอกว่า สิ่งน่าวิตกขณะนี้ก็คือ วงการแพทย์จะได้เห็นว่า โรคโกโนเรียจะเริ่มยากที่จะรักษาในอีกช่วง 5 ปีข้างหน้า

รายงานระบุว่า โรคโกโนเรียสายพันธุ์ใหม่ที่ค้นพบมีชื่อทางการแพทย์ว่า HO41 ถูกพบที่ญี่ปุ่น โดยแพทย์ต่างไม่สามารถหายามาต่อสู้กำจัดมันได้ นอกจากนี้ แพทย์วิตกว่า ชายหญิงที่ติดเชื้อโรคนี้และไม่รักษา อาจมีปัญหาด้านการเจริญพันธุ์ และหากเป็นอันตรายถึงชีวิต หากเชื้อร้ายได้แพร่เข้าสู่เลือดและข้อต่อ


-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1310542080&grpid=&catid=09&subcatid=0902-

ตะลึง พบ"โรคโกโนเรีย"สายพันธุ์ใหม่ดื้อยาไม่สามารถรักษาได้ หวั่นแพร่ระบาดรวดเร็วในอนาคต
.

 

.
'ข่อย'ไม้ประดับสมุนไพร






"ต้นข่อย" คนทั่วไปรู้จักกันว่าเป็นไม้ประดับชนิดหนึ่ง นิยมปลูกและตัดแต่งให้เป็นรูปร่างต่าง ๆ แต่ทราบไหมว่าต้นไม้ชนิดนี้ก็เป็นสมุนไพรได้ด้วย

ต้นข่อยเป็นไม้ยืนต้น ไม่ผลัดใบ สูง 5-15 เมตร แตกกิ่งก้านสาขา ขึ้นเป็นพุ่มทรงกลม เปลือกมีสีเทาอ่อน ข้างในลำต้นและกิ่งจะมีน้ำยางสีขาวข้น ใบมีขนาดเล็ก ขอบใบเรียบโคนใบมนแหลม ปลายใบแหลม คล้ายรูปไข่ กว้างประมาณ 3.5 ซม. ยาว 4-7 ซม. เนื้อใบหนาและสากคล้ายกระดาษทราย ทั้ง 2 ด้าน ดอกออกเป็นช่อ สีเหลืองอ่อน ออกตามปลายกิ่ง รวมกันเป็นกระจุก ผลทรงกลมเล็ก ๆ เมื่อสุกมีสีเหลืองสด รสหวาน

นอกจากจะเป็นไม้ประดับตกแต่งแล้ว ยังสามารถใช้ส่วนต่าง ๆ ของต้นข่อย มาเป็นสมุนไพรได้ด้วย เช่น คนโบราณนำกิ่งข่อยมาใช้ในการแปรงฟันแทนแปรงสีฟัน แต่ต้องทุบให้นิ่มก่อน 'ใบ' เมื่อนำไปปิ้งให้กรอบ ใช้ชงกับน้ำ รับประทานเป็นยาระบายอ่อน ๆ หรือนำไปคั่ว แล้วชงกับน้ำแก้ปวดประจำเดือนได้ 'เปลือก' สามารถนำมารักษาแผล แก้ท้องร่วง แก้โรคผิวหนัง 'ราก' ก็นำมาใช้รักษาแผลได้เช่นกัน 'เมล็ด' ทำให้เจริญอาหาร เป็นต้น

ต้นข่อยมีชื่อเรียกพื้นเมืองแตกต่างกันออกไป เช่น ภาคเหนือเรียกกักไม้ฝอย จ.ร้อยเอ็ดเรียกส้มพอ เขมรเรียกสะนาย เป็นต้น คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นข่อยไว้ประจำบ้านจะทำให้เกิดความมั่นคง ช่วยป้องกันศัตรูจากภายนอกได้ เพื่อความเป็นสิริมงคล ผู้อาศัยควรปลูกต้นข่อยไว้ทางทิศตะวันออก และปลูกในวันเสาร์ ถ้าปลูกในแปลงใช้หลุมขนาดประมาณ 50x50x50 ซม. ส่วนการปลูกใส่กระถางใช้กระถางทรงสูงขนาด 12-24 นิ้ว และควรเปลี่ยนกระถาง 2-3 ปีต่อครั้ง ต้นไม้ชนิดนี้ชอบแสงแดดจัดและดินร่วนซุย ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรค นิยมขยายพันธุ์โดยวิธีเพาะเมล็ด และปักชำ.


-http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=424&contentId=150706-


Daily News Online > โทรโข่ง > หน้าเกร็ดความรู้ > 'ข่อย'ไม้ประดับสมุนไพร

.

 

สวัสดีครับ
หน้าตาอาหาร+ราคา น่าไปลิ้มลองอย่างยิ่งครับ

 

ไปกินข้าวต้มปลาเต๋าโต๊ยที่ถนนจันทร์ก่อนไหมครับพี่ (ping)

 

ขอให้ Happy กับที่ทำงานใหม่นะครับ