พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    เตือน! 16 จังหวัด ระวังฝนตกหนัก



    [​IMG]




    ปภ.เตือน! 16 จว. ระวังฝนตกหนัก (ไอเอ็นเอ็น)

    อธิบดี ปภ. เตือน ภาคเหนือ-กลาง-ตะวันออก จำนวน 16 จังหวัด ระวังฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก

    นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยเฉพาะ บริเวณเสี่ยงภัยที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มใน 16 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา ตาก กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก พิจตร นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด เตรียมพร้อมรับภาวะฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ในระยะนี้

    ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนหมั่นสังเกตสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ เช่น น้ำในลำธารเปลี่ยนเป็นสีเดียวกับดินบนภูเขา ฝนตกหนักเกินกว่า 6 ชั่วโมง ระดับน้ำในแม่น้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หากเกิดสถานการณ์เช่นนี้ขอให้รีบอพยพออกจากพื้นที่ ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทยบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้



    [​IMG]


    -http://hilight.kapook.com/view/60421-





    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 4 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 3 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong</td></tr></tbody></table>

    อรุณสวัสดิ์ยามเช้า วันอังคารเิบิกบาน




    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    ลูกสาวนายพลยอดกตัญญู แจ้งความเจ้าหนี้นอกระบบขู่ทำร้าย <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ทีมข่าวอาชญากรรม</td> <td class="date" align="left" valign="middle">4 กรกฎาคม 2554 23:31 น.</td></tr></tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">น.ส.สุนันทา หิรัญบำรุง ลูกสาว พต.ต.เหรียญ หิรัญบำรุง อดีตเจ้ากรมแผนที่ทหาร เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ</td> </tr> </tbody></table>

    ลูกสาวกตัญญูของ "พล.ต.เหรียญ หิรัญบำรุง" อดีตเจ้ากรมแผนที่ทหาร เข้าแจ้งความหลังโดนเจ้าหนี้นอกระบบย่านโกวบ้อ ขู่ทำร้ายร่างกายตนเองและญาติหากไม่นำเงินมาคืน เจ้าตัวเผยสาเหตุที่ต้องกู้เงินเพราะนำมาเลี้ยงดูพ่อและน้องสาวที่ถูกแม่ทำ ร้ายจึงต้องย้ายที่อยู่เงินมีไม่พอ

    วันนี้(4 ก.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. น.ส.สุนันทา หิรัญบำรุง อายุ 64 ปี นักสังคมสมสงเคราะห์ ลูกสาวคนโตของ พล.ต.เหรียญ หิรัญบำรุง อดีตเจ้ากรมแผนที่ทหาร เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.สุรวุฒิ กุมภีพงษ์ พงส.(สบ3) สน.บางขุนเทียน ให้ช่วยประนอมหนี้นอกระบบ และเกรงจะไม่รับความปลอดภัยหลังจากที่โดนเจ้าหนี้นอกระบบข่มขู่จะทำร้ายร่าง กาย

    น.ส.สุนันทา ให้การว่า เมื่อประมาณปี 2550 คุณพ่อได้ถูกภรรยาน้อยนำมาทิ้งไว้ที่ย่านเทิดไท ในสภาพตาบอดแขนขาไม่มีเรี่ยวแรง ตนพาพ่อมารักษาจนปลอดภัยและได้พาพ่อไปอยู่ที่บ้านของท่านเองที่หมู่บ้าน ส.ภาณุรังสี ย่านบางพลัด แต่ไปถึงกลับพบว่าบ้านหลังดังกล่าวนั้นถูกขายทิ้งไปแล้ว จากนั้นตนจึงพาคุณไปฝากไว้ที่เนิสเซอรี่คนชราที่ย่านโชคชัย 4 ประมาณ 1 ปี แต่เนื่องจากแบกรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว จึงต้องทำให้ต้องไปกู้เงินทั้งนอกและในระบบตั้งแต่นั้นเรื่อยมา

    ลูกสาวกตัญญูกล่าวอีกว่า จากนั้นตนจึงได้พาคุณพ่อกลับมาอยู่ที่บ้านของตนย่านภาษีเจริญซึ่งตนนั้น อาศัยอยู่กับแม่และน้องสาวอีก 4 คน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่อยู่ในบ้านน้องสาวทั้ง 4 คนไม่เคยดูแลพ่อเลย หนำซ้ำแม่ยังได้ทำร้ายร่างกายพ่อเป็นประจำ จนท่านทนไม่ไหวจึงคิดฆ่าตัวตายแต่มีคนช่วยไหว้ซึ่งเป็นข่าวหน้าหนึ่งของ หนังสือพิมพ์มาแล้ว ต่อมาตนเลยพาพ่อมาเช่าคอนโดเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกแม่ทำร้าย และได้ไปกู้เงินนอกระบบมาอีกจำนวนหลายแสนบาทจากเจ้าหนี้ย่านโกวบ้อ โดยมีญาติของตนเป็นคนค้ำประกัน ซึ่งตนก็ได้ใช้ดอกเบี้ยและเงินต้นเรื่อยมาไม่เคยขาด

    น.ส.สุนันทา กล่าวต่อไปว่า แต่มีช่วงหนึ่งตนเงินขาดมือทำให้ไม่มีเงินไปจ่ายดอกกับเจ้าหนี้รายดังกล่าว ตนจึงไม่มีเงินไปชำระหนี้ และก็โดนทวงตั้งแต่นั้น เมื่อเมื่อวันที่ 22 เม.ย.54 คุณพ่อของตนได้เสียชีวิตลง และท่านเองก็ทำพินัยกรรมโดยให้ตนเป็นคนจัดการทรัพย์สินของท่าน ตนจึงมีความคิดจะนำเงินบำเน็ญตกทอดมาชดใช้หนี้สินที่ก่อขึ้น แต่เมื่อเอาพินัยกรรมที่ของคุณพ่อไปยื่นที่กระทรวงกลาโหมทางเจ้าหน้าที่ บอกว่าเอกสารนั้นใช้ไม่ได้ ตนจึงไปยื่นเรื่องที่ศาลเพ่งธนบุรี และทางศาลก็พิจารณาว่าเอกสารฉบับนี้สามารถใช้ได้ ตนจึงไปยื่นที่กระทรวงฯ อีกครั้ง เมื่อไปถามความคืบหน้าทางเจ้าหน้าที่บอกว่ากำลังเนินตามขั้นตอนอยู่ ซึ่งในระหว่างที่ตนกำลังรอเงินจากทางกระทรวงอยู่นั้น ทางเจ้าหนี้ได้ขุมขู่ผ่านทางญาติของตนมาบอกให้นำเงินมาใช้ และได้ส่งพรรคพวกมาทำร้ายร่างกายญาติของตนจนต้องย้ายที่อยู่

    “ที่มาแจ้งความในวันนี้ก็เพราะว่า ทางเจ้าหนี้ได้ข่มขู่ผ่านมาทางญาติหากไม่นำเงินมาใช้จะบุกไปทำร้ายร่างกาย และดิฉันก็กลัวว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยจึงมาแจ้งความ อยากจะอ้อนวอนไปทางเจ้าหนี้ว่า เงินบำเน็ญตกทอดของคุณพ่อนั้นยังไม่ได้รับเลยซักบาท และทรัพย์สินอื่นๆ ก็ได้นำออกมาขายชดใช้หนีไปแล้วจนเกือบหมด ซึ่งตอนนี้ไม่มีทรัพย์สินเหลือแล้ว ขอร้องว่าอย่ามาข่มขู่หรือว่าทำร้ายเลย ถ้าโทรมาข่มขู่อีกจะหนีหนี้ หากทางเจ้าหนี้อยากได้เงินคืนทั้งหมดขอให้รอก่อน รับรองว่าจะใช้เงินคืนทุกบาททุกสตางค์อย่างแน่นอน”น.ส.สุนันทา กล่าว

    เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันเอาไว้ก่อน หากเจ้าหนี้รายดังกล่าวโทรมาข่มขู่ก็จะเรียกตัวมาทำการเจรจาไกล่เกลี่ยต่อไป


    .

    -http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9540000082064-

    .
     
  4. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    สวัสดีเช้าวันอังคาร ครับ คุณ sithiphong และ สมาชิกชมรมทุกท่านครับ
     
  5. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    แอปเปิ้ลหลากสีหลากประโยชน์

    วันอังคาร ที่ 05 กรกฎาคม 2554 เวลา 0:00 น
    <SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​


    [​IMG]

    แอปเปิ้ล ผลไม้ยอดนิยม นอกจากรูปร่างจะน่ารับประทานแล้ว ยังมีประโยชน์มากมายอีกด้วย แอปเปิ้ลในท้องตลาดมีอยู่หลายสี แต่ละสีก็มีประโยชน์แตกต่างกัน หลายคนไม่ชอบทานเปลือกแอปเปิ้ล ซึ่งนั่นผิดมหันต์ เพราะจะทำให้คุณค่าจากสารอาหารที่จะได้รับจากผลไม้ชนิดนี้ ลดลงไปอย่างมาก ประโยชน์ของแอปเปิ้ลที่คุณควรรู้มีดังต่อไปนี้

    แอปเปิ้ลที่เห็นตามท้องตลาด มีทั้งเปลือกสีแดง สีชมพู สีเขียว และสีเหลือง แตกต่างกันไปตามแต่ละสายพันธุ์ แต่เนื้อข้างในก็เหมือนกันคือ เป็นเนื้อทรายละเอียดสีขาวนวล ทราบไหมว่า เมื่อรับประทานแอปเปิ้ลโดยไม่ปอกเปลือก 1 ผล จะได้รับพลังงานประมาณ 80 กิโลแคลอรี่ มีวิตามินบี 6 เท่ากับ 0.1 มิลลิกรัม และวิตามินซีมากถึง 7.9 มิลลิกรัม นอกจากนั้นยังมีสารเบต้าแคโรทีน และเส้นใยไฟเบอร์ ช่วยในเรื่องของการบำรุงหัวใจ ลดคอเลสเตอรอล ลดความดัน ควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด กระตุ้นการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ และฆ่าเชื้อไวรัส แต่ถ้าปอกเปลือกปริมาณสารอาหารดังกล่าวก็จะลดลงไปด้วย มีความเชื่อของฝรั่งกล่าวไว้ว่า การรับประทานแอปเปิ้ลวันละผล ช่วยให้ห่างไกลหมอได้ โดยแอปเปิ้ลแต่ละสีก็มีประโยชน์ต่างกันดังนี้

    แอปเปิ้ลสีแดง ประโยชน์ที่โดดเด่น คือ มีสารแอนตี้ออกซิแดนต์มากที่สุด และยังมีอิลาสตินและคอลลาเจนที่ดีต่อสุขภาพผิวอีกด้วย

    แอปเปิ้ลสีชมพู คุณค่าทางสารอาหารที่สำคัญคือ มีสารฟิโนลิกมากที่สุด ซึ่งสารตัวนี้ช่วยยับยั้งการเกิดฝ้าและชะลอความแก่ นอกจากนั้นยังมีฟลาโวนอยด์ที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินซี ทำให้ผนังหลอดเลือดฝอยแข็งแรง ลดการอักเสบ ลดไข้ รวมทั้งช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย

    แอปเปิ้ลสีเขียว มีรสเปรี้ยวอมหวาน ช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนักได้ดี เพราะมีน้ำตาลน้อย และมีสารอิลาสตินและคอลลาเจนเช่นเดียวกัน ช่วยให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่นได้ดี

    แอปเปิ้ลสีเหลือง มีสารเควอร์ซิติน ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และต้อกระจก.
    ที่มา เดลินิวส์ ออนไลน์
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สรุปไอเดีย "ลดค่าใช้จ่าย" ในยุคข้าวยากหมากแพง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>5 กรกฎาคม 2554 16:49 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>


    ได้รับความสนใจเป็นอย่างดีกับ Parent's Opinion ในหัวข้อ ไอเดียสุดประหยัด "ลดรายจ่าย" ในบ้านยุค 2011 ซึ่งมีคุณผู้อ่านเข้ามาแลกเปลี่ยนกันเป็นจำนวนมาก โดยแต่ละไอเดียนั้นสะท้อนให้เราเห็นว่า ในยุคที่สินค้าราคา และไม่มีวี่แววว่าจะลด ยังมีหลาย ๆ บ้านเล็งเห็นถึงความจำเป็นที่จะเรียนรู้เรื่องความประหยัด และหันมาหาวิธีช่วยลดค่าใช้จ่ายในบ้านกันมากขึ้น

    วันนี้ ทีมงาน Life & Family จึงไม่พลาดที่จะเลือก และหยิบนำไอเดียที่น่าสนใจเหล่านั้นมารวบรวมเป็นแนวทางลดค่าใช้จ่ายในบ้านยุค 2011 กัน ว่าแต่ว่าจะมีไอเดียเด็ด ๆ โดน ๆ อะไรบ้างนั้น ไปติดตามพร้อม ๆ กันเลยครับ

    เริ่มกันที่ ความคิดเห็นที่ 16 จากคุณแม่โหด ๆ ให้ไอเดียไว้ 5 ข้อคือ

    1. เลิกไปโรงหนัง ดูจาก youtube แทน

    2. ลดการกินข้าวนอกบ้าน เน้นทำกินเอง สะอาดแน่นอน ไม่ใส่ผงชูรสด้วย

    3. ทำบัญชีรายรับรายจ่าย เพราะตกใจเหมือนกันเมื่อรู้ตัวว่าซื้อของในซูเปอร์มาเก็ตเดือนละเป็นหมื่น ๆ แต่ก็อดไม่ได้เวลามีโปรดี ๆ อย่าง 1 แถม 1

    4. หัดทำเค้กเอง จากที่ซื้อชิ้นละร้อยกว่าบาท ตอนนี้ทำเอง เค้กทั้งก้อนขนาด 2 ปอนด์ต้นทุนไม่ถึง 300 กินได้ทั้งบ้าน (อร่อยนะ) เวลาไปร่วมงานบุญงานเลี้ยงกับใครก็ทำเค้กไปแจม เด็กๆ ชอบมาก ทำเองก็ดีนะ เลือกวัตถุดิบดีๆ ได้ และของใหม่สดชัวร์ ไม่ต้องกลัวของค้างอย่างเวลาซื้อกิน

    5. ใช้บัตรเครดิตทุกครั้งที่ทำได้ และจ่ายเต็มจำนวนก่อนถึงกำหนดเสมอ ชอบมาก ได้ส่วนลด ได้ rebate ได้แต้มสะสมแลกของรางวัล ได้ voucher แถมไม่ต้องเสีย annual fee ด้วย

    ความคิดเห็นที่ 12 จากคุณ cyberpattylovely@hotmail.com

    - ทำบัญชีรายรับรายจ่ายไว้เลยค่ะ บริหารเงิน แล้วที่สำคัญ ต้องมีสติในการเลือกซื้อของ จำเป็นจริง ๆ หรือไม่ หรือเพียงแค่อยากได้ใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

    - ซื้อของในช่วงโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม

    - ทำอาหารทานกันเอง สร้างความผูกพันในครอบครัวอีกด้วย

    - ไปเดินเล่น ออกกำลังกาย ในสวนสาธารณะ แทนการเดินห้างที่อาจทำให้เสียเงินได้

    ความคิดเห็นที่ 11 จากคุณ tacha (tachanarak สมาชิก)

    - เวลาเลือกซื้อ เสื้อผ้า จะพยายามเลือกซื้อ เสื้อผ้าที่ไม่ต้องรีด เช่น เสื้อผ้าชีฟอง เสื้อยืดที่ไม่ยับง่าย (จะได้ไม่ต้องรีด)

    - ส่วนถุงเท้า จะเน้นซื้อแบบเดียวกันยกโหล (เน้นสีดำ) เพราะถ้าเกิดข้างใดข้างหนึ่งขาด ก้อยังหาคู่ได้อยู่

    ความคิดเห็นที่ 10 จากพ่อน้องเป๋าเป่า (arch3375@hotmail.com) ให้ไอเดียไว้ 4 ข้อ คือ

    1. ใช้ของ refill เช่นน้ำยาล้างจาน น้ำยาซักผ้า ครีมอาบน้ำ และอื่น ๆ

    2. น้ำทิ้งจากการซักผ้าเอาไปรดต้นไม้

    3. ซื้อของใช้ยกแพ๊คเลย ประหยัดกว่า

    4. เก็บขวดพลาสติก กระดาษ กระป๋องโลหะขายเป็นขยะ re-cycle เอางินมาเป็นค่าขนมน้องเป๋าเป่า

    ความคิดเห็นที่ 4 จากคุณ Gingu1364@gmail.com

    ซื้อถัง หรือกะลามังที่จุประมาณ 500 ลิตร ไว้รองรับน้ำฝนแล้วใช้น้ำนั้นในการซักผ้าหรืออาบก็ได้ประหยัดมากด้วย หรือเวลาอาบน้ำให้ยืนอาบในกะลามังใบโต ๆ แล้วเอาน้ำนั้นไปรดต้นไม้อีกรอบ ประหยัดมาก ถ้าอยู่ชนบท มีเด็ก ๆ ให้ยืนที่ต้นไม้แล้วเราหิ้วน้ำใส่ถังไปอาบให้เค้า เด็ก ๆ ชอบมาก เพราะจะได้เปลียนบรรยากาศไปเรื่อย ๆ

    นอกจากนี้แล้ว เรายังมีไอเดียน่าสนใจจากท่านผู้อ่านที่เข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันบนหน้าแฟนเพจ life and Family ASTVmanager ด้วย เริ่มจาก

    คุณ Rattana Mnshang

    มีวิธีลดรายจ่ายในบ้านด้วยวิธีปฎิเสธการให้ยืม ซึ่งเป็นเรื่องรั่วไหลหลัก ๆ ของครอบครัวเลยทีเดียว ประเภทการให้ญาติพี่น้องยืม เพื่อนยืม หรือแม้แต้การค้ำประกันต่าง ๆ นี่ จะก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับตัวเรา และลูก ๆ ด้วย เพราะเงินที่ให้คนอื่นยืมไป มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะไม่ได้คืน คนที่ยืมเราไป หากเขาบริหารเงินเป็น หรือหาเงินพอใช้ คงไม่มายืมเราหรอก และขนาดหาไม่พอใช้ จะมีปัญหาหามาคืนเราหรือ

    คุณ Pream Punjasutaranon

    พยายามลดรายจ่ายในบ้านด้วยการเลือกพวกโปรโมชั่นมือถือให้ถูกลง และเหมาะกับการใช้งาน ซึ่งลดลงได้ 500 บาทต่อเดือนเลย นอกจากนี้ยังปลูกผักสวนครัวไว้เก็บกินเอง ประหยัดไม่ต้องซื้อแถมปลอดภัยไร้สารพิษ และให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อของเข้าบ้านช่วงที่มีการลดราคาครับ ส่วนใหญ่ตามห้างจะมีช่วงโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมอยู่แล้ว

    คุณ Pretty Pat

    มีการพิจารณาจากค่าใช้จ่าย และรายรับก่อน โดยกำหนดไว้เลยว่า จะออมเท่าไหร่ เอาเงินไปลงทุนให้เงินงอกเงยขึ้นเท่าไหร่ ส่วนที่เหลือจึงจะเอามาใช้จ่าย ด้านของใช้ประเภทฟุ่มเฟือย นาน ๆ ซื้อที หากปีไหนมีโบนัสก็จะเอาเงินในส่วนนั้นมาซื้อ หรือเวลาจะซื้ออะไร กินอะไร ใช้อะไร จะถามตัวเอง สามี และลูกก่อนเสมอว่าจำเป็นไหม (นั่นคือการสร้างวินัยให้แก่ครอบครัว และเป็นการฝึกเจริญสติในชีวิตประจำวัน ซึ่งจำเป็นมาก ๆ ค่ะ) ประหยัดได้แยะจริง ๆ

    ทั้งนี้ ยังให้แนวทางเพิ่มเติมในเรื่องทั่ว ๆ ไปไว้ 4 แนวทางคือ 1. ซื้อของที่จัดโปรโมชั่นอยู่ 2. กินอย่างพอเพียง 3. เปิดแอร์ ที่ 25-26 องศา ตอนนอนเท่านั้น ตรวจสอบไฟฟ้าก่อนเข้านอนทุกครั้ง 4. นำรถไปติดแก๊สค่ะ คุ้มทุนที่ 10 เดือน หลังจากนั้นจะประหยัดถึงเดือนละ 3,000 บาทเลยค่ะ

    คุณ Ruchirat Tangkavanich

    นำของเล่นลูกที่ไม่ได้เล่นแล้วแต่ยังใช้ได้ไปขายกับลูกที่ตลาดนัด แล้วนำเงินที่ได้ไปฝากให้ลูกหรือไม่ก็ให้เค้าเอาไว้ซื้อของเล่นชิ้นใหม่ได้สตางค์เพิ่มและทำให้เขารู้จักการออมด้วยค่ะ

    คุณ Lexaadd Sripun

    ซื้อของเท่าที่จำเป็น และคิดก่อนจะซื้อ เป็นการสำรวจความต้องการเบื้องต้นของตัวเอง รวมทั้งก่อนออกเดินทางศึกษาเส้นทางให้ดี เพื่อจะได้ประหยัดเงินค่าน้ำมันในการเดินทางด้วย

    เอาเป็นว่า บ้านไหนสนใจไอเดียใด ลองนำไปพิจารณา และประยุกต์ใช้กันดูนะครับ

    ปล. สำหรับไอเดียของทั้ง 10 ท่านที่ถูกคัดเลือกมานำเสนอข้างต้น จะได้รับหนังสือนิทานชุดจอมป่วนก๊วนเดอะสลัด เรื่อง "ซ่อนหาฮาเฮ" ซึ่งทีมงานจะติดต่อกลับไปทางอีเมลที่แจ้งไว้ภายหลังครับ




    -http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9540000082144-







    .
     
  7. tawatd

    tawatd เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    506
    ค่าพลัง:
    +2,020
    ยินดีในการทำบุญครั้งนี้ และขอโมทนาครับ
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    เรียนท่านประธานชมรมพระวังหน้า
    ท่านรองประธานชมรมพระวังหน้า
    ท่านผู้ช่วยเลขานุการชมรมพระวังหน้า
    ท่านสมาชิกชมรมพระวังหน้า
    ท่านผู้สนับสนุนชมรมพระวังหน้าทุกๆท่าน

    ผมส่งรายการงานบุญด่วนพิเศษไปใ้ห้ทุกๆท่านทาง Email แล้วครับ

    ขอบคุณครับ


    .
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    -------------

    ผมได้ดำเนินการโอนเงินร่วมทำบุญเรียบร้อยแล้วครับ

    รายละเอียดผู้ร่วมทำบุญ
    1.คุณธวัชและครอบครัว 1,000 บาท
    2.sithiphongและครอบครัว 1,000 บาท
    3.คุณแด๋นและครอบครัว 1,000 บาท
    4.คุณเฉลิมพลและครอบครัว 800 บาท
    5.คุณพรสว่าง_2008และครอบครัว 400 บาท
    6.คุณปฐมและครอบครัว 500 บาท
    7.คุณPinkcivilและครอบครัว 2,000 บาท
    8.พี่เปี๊ยกและครอบครัว 1,300 บาท

    รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น 8,000 บาท

    ขอโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ

    อีกเรื่อง คุณPinkcivil ได้ร่วมทำบุญถวาย Notebook 1 เครื่อง แก่หลวงพี่รูปหนึ่งที่วัดท่าซุง (การจัดหา Comp. ในการทำหนังสือของวัด เพื่อเผยแพร่ธรรมะอย่างต่อเนื่อง)

    โมทนาบุญกับคุณPinkcivil ครับ

    และขอเชิญทุกๆท่านมาร่วมโมทนาบุญกับคุณPinkcivil กันครับ

    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  10. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    สวัสดีเช้าวันพุธ ครับ คุณ sithiphong และ สมาชิกชมรมทุกท่านครับ<!-- google_ad_section_end -->
     
  11. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    ขอร่วม อนุโมทนาบุญด้วยครับ
     
  12. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    เช็ดตัวลดไข้ ใช้ 'น้ำอุ่น' หรือ 'น้ำเย็น'?

    วันพุธ ที่ 06 กรกฎาคม 2554 เวลา 0:00 น
    <SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    เมื่อเป็นไข้ ตัวร้อน หลายๆ คน จะรีบหยิบยาลดไข้มารับประทาน แต่ถ้าตัวร้อนจนรู้สึกเพลียมากๆ แม้รับประทานยาไปแล้ว อาการที่เป็นดูจะยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ ก็คงต้องเพิ่มตัวช่วยอย่างการนำผ้าชุบน้ำอุณหภูมิปกติมาประคบลงบนหน้าผาก แล้วนอนพักผ่อน

    ทว่ารู้สึกตัว ตื่นขึ้นมาอีก กลับพบว่าอาการไข้ยังมีอยู่ คงต้องเช็ดตัวลดไข้ช่วยอีกทางหนึ่ง แต่ดูเหมือนบางคนก็ใช้น้ำเย็น บางครั้งถึงกับเอาน้ำแข็งมาผสมใส่น้ำ ขณะที่บางคนกลับเลือกใช้น้ำอุ่น แล้วในความเป็นจริง น้ำเย็น หรือน้ำอุ่น กันแน่ ที่ใช้เช็ดตัวแล้วช่วยให้ไข้ลดได้

    คำตอบของข้อข้องใจนี้ ก็คือ 'น้ำอุ่น' เนื่องจากผ้าที่ชุบน้ำอุ่นแล้วบิดหมาดๆ นำมาเช็ดตามตัวให้ผิวหนังออกแดงๆ จะช่วยให้เหงื่อออก ถือเป็นการช่วยให้ร่างกายระบายความร้อนจากพิษไข้ออกมา ลดอุณหภูมิของร่างกายลงอย่างได้ผล

    เหตุที่ไม่ควรใช้น้ำเย็นมาเช็ดตัว เพราะน้ำเย็นจะยิ่งทำให้คนเป็นไข้ยิ่งรู้สึกหนาวสั่นกว่าเดิม แถมความเย็นจากน้ำ ยังทำให้กล้ามเนื้อและเส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังหดเกร็ง ถือเป็นการเพิ่มการใช้พลังงาน ทำให้ความร้อนในร่างกายเพิ่มขึ้นไปอีก

    อย่างไรก็ตาม เวลามีไข้ นอกจากการรับประทานยาลดไข้ ประคบผ้าชุบน้ำไว้ที่หน้าผาก เช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นแล้ว ยังควรดื่มน้ำอุณหภูมิห้องให้มากๆ ก็ช่วยได้เช่นกัน.

    ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>นิทานเซน : พยัคฆ์สู้มังกร</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>6 กรกฎาคม 2554 07:44 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=177 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=177>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ภาพจาก -http://pmgs.kongfz.com/</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>-
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    《进退之道》

    ณ วัดมังกรพยัคฆ์ เหล่าลูกศิษย์วัดพากันล้อมวงช่วยกันวาดภาพการต่อสู้ระหว่างมังกรและพยัคฑ์ที่อยู่บนผนังวัด โดยในภาพ มังกรกำลังตีลังกาลงมาจากก้อนเมฆ ส่วนพยัคฆ์บนยอดเขาก็กำลังเผ่นโผนโจนทะยานขึ้นไป

    ขณะนั้นอาจารย์เซนชย่าเฝิงเดินผ่านมา เหล่าศิษย์จึงขอร้องให้ท่านอาจารย์วิจารณ์ภาพดังกล่าวให้เป็นวิทยาทาน

    อาจารย์เซนชย่าเฝิงพินิจพิเคราะห์ภาพบนฝาผนังอยู่ครู่หนึ่ง จึงกล่าวว่า "โครงร่างภายนอกของมังกรและพยัคฆ์นั้นพวกเจ้าวาดได้ไม่เลว ทว่าไม่สามารถสะท้อนลักษณะเด่นของสัตว์ทั้งสองออกมาได้ดีเท่าที่ควร เนื่องเพราะโดยธรรมชาติ เมื่อมังกรตั้งท่าโจมตี ส่วนหัวจะต้องหดกลับไปด้านหลังก่อน ส่วนพยัคฆ์เมื่อเตรียมตัวกระโจน ก็ต้องย่อตัวลงต่ำก่อนเช่นกัน หากมังกรยิ่งหดหัวมากเท่าไหร่ พยัคฆ์กดลำตัวต่ำเตี้ยเรี่ยดินเพียงใด ทั้งสองก็จะสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้นและกระโจนได้สูงขึ้นมากเท่านั้น

    เมื่อเหล่าศิษย์เซนได้ฟังคำจำแนกแยกแยะของอาจารย์ล้วนยอมรับนับถือ ศิษย์ผู้หนึ่งเอ่ยปากว่า "ท่านอาจารย์วิเคราะห์ได้อย่างแจ้มแจ้ง พวกเราวาดภาพหัวมังกรยื่นเกินไป และพยัคฆ์ก็โก่งตัวสูงเกินควร เมื่อวาดเสร็จแม้งดงามแต่กลับรู้สึกว่าไม่สมบูรณ์"

    ในตอนนั้นเอง อาจารย์เซนชย่าเฝิงจึงกล่าวว่า "การศึกษาเซนก็เป็นเช่นเดียวกัน จงประเมินตนเองด้วยความอ่อนน้อมสำรวมเสียก่อน จึงจะสามารถเข้าใจธรรมมะได้ลึกซึ้งกว่าเดิม"


    ที่มา : หนังสือ 《一日一禅》, 东方闻睿 เรียบเรียง, สำนักพิมพ์ 中国电影出版史, 2004.8, ISBN 7-106-02204-7


    .

    -http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9540000082448-

    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>บัวหลวงชี้ราคาทองQ2ขึ้นอีก4.75% หลังแบงก์ชาติหลายประเทศกระจายลงทุน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>5 กรกฎาคม 2554 23:48 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>


    บลจ. บัวหลวง เผยราคาทองคำไตรมาส 2 พุ่งขึ้นอีก$1,500.35/ออนซ์ หรือ 4.75% หลังธนาคารกลางหลายประเทศกระจายลงทุนเพียบ คาดช่วงสุดท้ายของไตรมาสราคาทองคำอาจปรับลดลงอีก

    รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาส 2/2554 ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก $1,432.30/ออนซ์ มาเป็น $1,500.35/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 4.75% ซึ่งมีปัจจัยบวก ได้แก่ ความกังวลต่อปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปและเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงโดยเฉพาะสหรัฐ จนทำให้ธนาคารกลางสหรัฐยังต้องใช้นโยบายเศรษฐกิจแบบผ่อนคลายต่อไปอีก นั่นก็คือต้องตรึงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำมากๆ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำเพราะในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ นักลงทุนย่อมต้องแสวงหาทางเลือกอื่นในการลงทุน เพื่อรักษาระดับความมั่งคั่งของตนเองเอาไว้ และทองคำ นับเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ข้อนี้ได้เป็นอย่างดี

    ทั้งนี้ คุณสมบัติสำคัญอย่างหนึ่งของทองคำ คือ สามารถใช้เป็นสกุลเงินทดแทนเงินตราสกุลต่างๆ ได้โดยไม่มีการด้อยค่า ซึ่งประเด็นหลักสำหรับการลงทุนในทองคำในแง่นี้ ก็คือ ความสามารถในการทดแทนเงินกระดาษ ไม่ว่าจะเป็น สกุลเงินดอลลาร์หรือยูโรที่นับวันจะด้อยค่าลงเรื่อยๆ หรือสกุลเงินอื่นใด และทองคำยังสามารถช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ เพราะเงินเฟ้อ คือ ปัจจัยหลักที่ทำให้เงินกระดาษทุกสกุลด้อยค่า แต่การลงทุนในทองคำมักจะให้ผลตอบแทนที่เอาชนะเงินเฟ้อได้

    โดยปัจจัยบวกต่อราคาทองคำดังกล่าวข้างต้น มาจากความต้องการในทองคำของธนาคารกลางในหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะธนาคารกลางประเทศในตลาดเกิดใหม่ มีเงินทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่จะต้องบริหารให้เกิดดอกออกผลภายใต้ความเสี่ยงต่ำ ดังนั้น จากเดิมที่นำไปลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐหรือยูโรในสัดส่วนสูง ธนาคารกลางเหล่านี้ ได้ลดความเสี่ยงจากการกระจุกตัวลงทุนในค่าเงินสกุลหลัก เช่น ดอลลาร์ หรือยูโรลง แล้วกระจายการลงทุนไปยังทองคำ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะไม่มั่นใจในค่าเงินสหรัฐและยูโร อันเนื่องมาจากปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศเหล่านั้น

    ทั้งนี้ ธนาคารกลางของหลายประเทศยังมีการถือครองทองคำไม่มากและกำลังสะสมทองคำเพิ่มขึ้น จึงมีโอกาสที่ราคาทองคำจะสูงขึ้นตามความต้องการของธนาคารกลางเหล่านี้ นอกจากนี้ ความต้องการทองคำยังเพิ่มตามความร่ำรวยของประชาชนของประเทศ จีน หรือ อินเดีย ฯลฯ ที่คนนิยมเก็บออมทรัพย์สินในรูปของทองคำอีกด้วย

    ทั้งนี้ในระหว่างไตรมาส 2 ราคาทองคำขึ้นไปสูงสุดที่ $1,577.57/ออนซ์ แต่ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของไตรมาส ราคาทองคำได้ปรับตัวลดลง โดยมีปัจจัยลบ ได้แก่ 1.แรงขายทองคำตามแรงขายสินค้าโภคภัณฑ์จากความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว เนื่องจากทองคำเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ชนิดหนึ่ง 2. ความกังวลต่อปัญหาหนี้ของกรีซที่บรรเทาลงไป จึงทำให้เงินเคลื่อนออกจากทองคำไปยังสินทรัพย์อื่น และ 3. การที่เฟดไม่ต่อมาตรการ QE 3 ทำให้มีแรงซื้อเงินดอลลาร์กลับเข้ามา ส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่า มูลค่าทองคำเมื่อเปรียบเทียบกับเงินดอลลาร์จึงลดน้อยลง



    -http://www.manager.co.th/MutualFund/ViewNews.aspx?NewsID=9540000082466-

    .
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    เรียนท่านประธานชมรมพระวังหน้า
    ท่านรองประธานชมรมพระวังหน้า
    ท่านผู้ช่วยเลขานุการชมรมพระวังหน้า
    ท่านสมาชิกชมรมพระวังหน้า
    ท่านผู้สนับสนุนชมรมพระวังหน้าทุกๆท่าน

    ผมส่งรายการงานบุญด่วนพิเศษไปใ้ห้ทุกๆท่านทาง Email แล้วครับ

    ขอบคุณครับ

    .

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    -------------

    ผมได้ดำเนินการโอนเงินร่วมทำบุญเรียบร้อยแล้วครับ

    รายละเอียดผู้ร่วมทำบุญ
    1.คุณธวัชและครอบครัว 1,000 บาท
    2.sithiphongและครอบครัว 1,000 บาท
    3.คุณแด๋นและครอบครัว 1,000 บาท
    4.คุณเฉลิมพลและครอบครัว 800 บาท
    5.คุณพรสว่าง_2008และครอบครัว 400 บาท
    6.คุณปฐมและครอบครัว 500 บาท
    7.คุณPinkcivilและครอบครัว 2,000 บาท
    8.พี่เปี๊ยกและครอบครัว 1,300 บาท

    รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น 8,000 บาท

    ขอโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ

    อีกเรื่อง คุณPinkcivil ได้ร่วมทำบุญถวาย Notebook 1 เครื่อง แก่หลวงพี่รูปหนึ่งที่วัดท่าซุง (การจัดหา Comp. ในการทำหนังสือของวัด เพื่อเผยแพร่ธรรมะอย่างต่อเนื่อง)

    โมทนาบุญกับคุณPinkcivil ครับ

    และขอเชิญทุกๆท่านมาร่วมโมทนาบุญกับคุณPinkcivil กันครับ

    .
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    .

    -http://palungjit.org/threads/พระวังหน้า-ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก-ถ้าต้องการที่จะได้.22445/page-2290-

    พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....
    .<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --><!-- sig -->


    สำหรับงานบุญที่ได้ทำไป รู้สึกมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก

    ถือว่าได้ร่วมทำบุญที่ไม่ค่อยมีงานบุญในลักษณะนี้

    ครูบาอาจารย์ผม บอกผมมาว่า ให้ทำ เดี๋ยวจะมาบ่นว่า ไม่ได้ทำ

    แต่เมื่อทำแล้ว ได้เห็นหลายๆสิ่ง หลายๆอย่าง ได้ฟังหลายๆเรื่อง ยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกที่ดี และ ไม่ดี ปะปนกันไป แต่ทำอย่างไรได้ เราทำในส่วนที่เราสามารถทำได้ ทำให้ดีที่สุดครับ

    หากงานบุญเรียบร้อยแล้ว ผมจะนำมาเล่าให้ฟังในส่วนที่สามารถเล่าได้ครับ

    โมทนาบุญกับทุกๆท่านอีกครั้งครับ

    .
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 32 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 31 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เผื่ออยากเที่ยวกัน ก็เลยนำมาฝากกัน


    -------------------------------------------------

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"พีพี-เกาะเต่า-พัทยา" นำทัพ 100 ที่เที่ยวฮอตฮิตโดนใจ “Amazing Places in Thailand” </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>6 กรกฎาคม 2554 16:00 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย : ตะลอนเที่ยว (travel_astvmgr@hotmail.com)


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เกาะพีพี กับทิวทัศน์จุดชมวิว อันดับ 1 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีทรัพยากรท่องเที่ยวหลากหลายทั้ง ธรรมชาติ ท้องทะเล ป่าเขา วัดวาอาราม ศิลปวัฒนธรรม เทศกาลงานประเพณี วิถีชีวิต ฯลฯ

    และจากทรัพยากรท่องเที่ยวอันหลากหลายนี้ ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ได้จัดกิจกรรมค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมสูงสุด 100 อันดับ ภายใต้โครงการ “100 Amazing Places in Thailand”

    โดยจากการสำรวจความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวไทยในหัวข้อ “Your amazing places in Thailand that always amazes you”ที่ได้จัดทำการสำรวจผ่านทางระบบออนไลน์ไปยังนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เคยเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย จำนวน 3,389 คน จาก 68 ประเทศทั่วโลก โดยเริ่มสำรวจตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ - เมษายน 2554


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เกาะเต่า กับสีสันโลกใต้ทะเล อันดับ 2 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ผลสำรวจปรากฏออกมาว่า สถานที่ท่องเที่ยวฮอตฮิต 10 อันดับแรก มีดังนี้

    อันดับที่ 1 “หมู่เกาะพีพี” จ.กระบี่ มรกตแห่งอันดามัน ที่งดงามทั้งโลกเหนือน้ำและโลกใต้น้ำ อีกทั้งยังเป็นเกาะที่มีเอกลักษณ์ ประกอบด้วย 2 เกาะหลัก คือ เกาะพีพีเล เกาะพีพีดอน ร่วมด้วยเกาะบริวาร อย่าง เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ เกาะบิดะนอก และเกาะบิดะใน มีจุดท่องเที่ยวน่าสนใจ อาทิ อ่าวมาหยา อ่าวต้นไทร อ่าวโละดาลัม อ่าวปิเละ อ่าวโละซามะ และถ้ำไวกิ้ง เป็นต้น


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>โชว์อัลคาซาร์ อันดับ 4</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>อันดับที่ 2 คือ “เกาะเต่า” จ.สุราษฎร์ธานี เกาะอันสวยงามของท้องทะเลอ่าวไทย เป็นแหล่งดำน้ำขึ้นชื่อระดับโลก นักท่องเที่ยวส่วนมากมักมาดำน้ำชมสีสันโลกใต้ทะเล ติดกับเกาะเต่ามีเกาะ“นางยวน” อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่ติดอันดับในโครงการนี้เช่นกัน

    อันดับ 3 “หาดพัทยา” จ.ชลบุรี ชายทะเลอันแสนคึกคักไม่เคยว่างเว้นนักท่องเที่ยว กับชายหาดโค้งยาวหลายกิโลเมตร ที่รายล้อมไปด้วย โรงแรม ที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิง แสงสี และฯลฯ ของเมืองพัทยา เมืองที่ไม่เคยหลับใหล


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>หาดป่าตอง อันดับ 5</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>อันดับ 4 ยังคงอยู่กันที่พัทยากับ “อัลคาซ่า คาบาเร่ต์” โชว์สาวประเภทสองที่โด่งดังทั่วโลก กับการแสดงอันหรูเลิศอลังการทั้งลีลาการเต้น ร้องเพลง แสง สี ฉากประกอบ และไอเดียการสร้างสรรค์ ที่สำคัญคือ สาวประเภทสองบางคนสวยและตู้มจนสาวแท้ๆต้องอายม้วน

    อันดับที่ 5 ได้แก่ “หาดป่าตอง” ชายหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของภูเก็ต นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาพักผ่อนตลอดทั้งปี ซึ่งนอกจากจะโรงแรม บริษัทนำเที่ยว ร้านค้า ร้านอาหาร แล้วยังมีแหล่งบันเทิงยามค่ำคืนไว้บริการนักท่องเที่ยว ที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยว 24 ชม. เช่นเดียวกับหาดพัทยาเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังมีหาดทรายขาวละเอียด เหมาะสำหรับเล่นน้ำทะเล และกิจกรรมทางทะเลนานาชนิด


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>หมู่เกาะสิมิลัน อันดับ 7</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>อันดับที่ 6 ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลอีกเช่นกันนั้นคือ “เกาะเสม็ด” จ.ระยอง ท้องทะเลใกล้กรุงฯ ที่น่ายลไปด้วยหาดทรายชายทะเลอันสวยงาม ไม่ว่าจะเป็น หาดทรายแก้ว อ่าววงเดือน อ่าวพร้าว อ่าวไผ่ ฯลฯ นอกจากนี้บนเกาะเสม็ด ยังเพียบพร้อมไปด้วยโรงแรมรีสอร์ทมากมาย เหมาะแก่การพักผ่อนริมทะเล หรือเล่นน้ำทำกิจกรรมทางทะเล จึงมักจะคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวตลอดปี

    อันดับที่ 7 “อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน” จ.พังงา สวรรค์ของนักดำน้ำลึกซึ่งมีความงดงามติด 1 ใน 10 ของโลก ขณะที่โลกเหนือน้ำของสิมิลันนั้นก็งดงามไม่แพ้ทะเลที่ใด ไม่ว่าจะเป็นหาดทรายขาวละเอียดเดินนุ่มเท้าที่เกาะ 4 เกาะ 8 กับน้ำทะเลอันใสแจ๋ว มองลงไปเห็นฝูงปลาแหวกว่ายในทะเลได้อย่างไม่ยากเย็น นอกจากนี้สิมิลันยังมี “หินใบ”ตั้งตระหง่านบนเขาหินมองเห็นแต่ไกล เป็นดังสัญลักษณ์บอกใครต่อใครให้รู้ว่า ที่นี่คือ “สิมิลัน”


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>อ่าวมาหยา อันดับ 9 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>อันดับที่ 8 “ตลาดนัดจตุจักร” ตลาดนัดขึ้นชื่อระดับโลก มีสินค้าให้เลือกหลากหลาย ทั้งเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายตั้งแต่หัวจรดเท้า ของแต่งบ้าน ของที่ระลึก ต้นไม้ สัตว์เลี้ยง หรือแม้แต่อาหารการกินก็มีครบครัน เดินช้อปกันอย่างเพลิดเพลินได้ทั้งวันเลยทีเดียว

    อันดับที่ 9 “อ่าวมาหยา” จ.กระบี่ เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะพีพี เคยใช้เป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “The Beach” ที่นำแสดงโดย “ลีโอนาโด ดิคาปริโอ” ที่ช่วยหนุนส่งอ่าวแห่งนี้จากที่โด่งดังอยู่แล้วให้โด่งดังยิ่งขึ้น อ่าวมาหยา เป็นเวิ้งอ่าวในหน้าผาที่โอบล้อมทะเล แต่เปิดช่องธรรมชาติขนาดย่อมเชื่อมต่อกับทะเลภายนอก หาดทรายที่นี่ขาวสะอาด น้ำทะเลไล่ระดับเฉดสีจากอ่อนไปสู่เข้มดูสวยงามเป็นอย่างยิ่ง


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ปางอุ๋ง อันดับ 67 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>และอันดับที่ 10 “หาดจอมเทียน” จ. ชลบุรี หาดที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของเมืองพัทยา เนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาแสวงหาชายหาดอาบแดด และความสะดวกสบายของโรงแรมรีสอร์ทหรู รวมถึงแหล่งบันเทิงมากมายตลอดค่ำคืน

    นอกจากทอป 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแล้ว โครงการ “100 Amazing Places in Thailand” ยังมีอีก 90 สถานที่ท่องเที่ยวประทับใจ โดย“ตะลอนเที่ยว”ได้จัดแบ่งไว้เป็นภาคๆ ไม่เรียงลำดับก่อนหลัง แต่ใส่ตัวเลขบอกอันดับไว้ในวงเล็บ ซึ่งจะมีที่ไหนบ้าง ขอเชิญทัศนากันได้


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>วัดพระแก้ว อันดับ 52 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ภาคกลาง

    เริ่มกันที่เมืองหลวง กรุงเทพมหานคร ได้แก่ ถนนข้าวสาร(14),พระบรมมหาราชวัง(18),วัดอรุณฯ(21), พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน(26),พระที่นั่งอนันตสมาคม (36),วัดโพธิ์ หรือ วัดพระเชตุพนฯ(38),ศาลท้าวมหาพรหมหรือพระพรหม รร.เอราวัณ(45)

    วัดพระแก้ว หรือ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม(52),บางลำพู(63), สยามนิรมิต(84), อักษรา หุ่นละครเล็ก ณ อักษรา เธียเตอร์(85),หุ่นละครเล็กโจ หลุยส์(86), สยามพารากอน(87), โรงแรมใบหยก สกาย(94), เยาวราช(96), ภัทราวดี เธียเตอร์ (97), สำนักงานศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ : TCDC(98), หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร หรือ หอศิลป์กรุงเทพฯ ปทุมวัน(99) และย่านช้อปปิ้งสยามสแคว์ถึงชิดลม(100)


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ตลาดน้ำดำเนินสะดวก อันดับ 95 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>จ. พระนครศรีอยุธยา ได้แก่ พระราชวังบางประอิน (50), วังช้างอยุธยา แล เพนียด (64), วัดใหญ่ชัยมงคล (88), วัดพระศรีสรรเพชญ์ (92) จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้แก่ หาดหัวหิน (13), ตลาดกลางคืนหัวหิน (70), หาดเขาตะเกียบ (77), เพลินวาน (93) จ. เพชรบุรี ได้แก่ หาดชะอำ (72) และ พระราชวังมฤคทายวัน (76)

    ส่วน จ. กาญจนบุรี ได้แก่ สะพานข้ามแม่น้ำแคว (83) จ. ราชบุรี ได้แก่ ตลาดน้ำดำเนินสะดวก (95) จ.ลพบุรี ได้แก่ พระปรางค์สามยอด (34) และ จ.สมุทรสงคราม ได้แก่ ตลาดน้ำอัมพวา (44)


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เมืองเก่าภูเก็ต อันดับ 33 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ภาคตะวันออก

    จ. ชลบุรี ได้แก่ แสงสีพัทยายามราตรี (22), เกาะล้าน (31), ทิฟฟานี่ โชว์ (37), โรงละครไทยอลังการ (51), อุทยานหินล้านปีและฟาร์มจระเข้พัทยา (74), สวนนงนุช (89), เมืองจำลอง (90) จ.ตราด ได้แก่ เกาะช้าง (25) และเกาะกูด (30)


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภูเรือ อันดับ 54 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ภาคเหนือ

    จ. เชียงราย ได้แก่ ภูชี้ฟ้า(17), ดอยตุง (46) ดอยแม่สลอง (60) ด้าน จ.เชียงใหม่ ได้แก่ น้ำพุร้อนสันกำแพง (19), ดอยสุเทพ (27), ดอยอ่างขาง (47), อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (61), โครงการหลวงอ่างขาง (62), วัดพระธาตุดอยสุเทพ (65), อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง (78), เชียงใหม่ไนท์บาซาร์ (79), พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ (81), หมู่บ้านทำร่มบ่อสร้าง (82), สวนสัตว์เชียงใหม่ (91)


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>วัดพระธาตุดอยสุเทพ อันดับ 65</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ส่วน จ.แม่ฮ่องสอน ได้แก่ ปาย (53), ปางอุ๋ง (67), วัดพระธาตุดอยกองมู (73) จ.สุโขทัย ได้แก่ อุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัย (66)

    ภาคอีสาน

    จ.เลย ได้แก่ อุทยานแห่งชาติภูเรือ (54) และภูหลวง (69) จ.บุรีรัมย์ ได้แก่ อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง (55) จ.นครราชสีมา ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (57), อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย (68) และ จ.อุบลราชธานี ได้แก่ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม (75)


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย อันดับ 68</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ภาคใต้

    จ.พังงา ได้แก่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ (23), เขาตาปูในอ่าวพังงา(41) จ.กระบี่ ได้แก่ สระมรกต (16), อ่าวนาง (20), เกาะห้อง (24) และหาดไร่เลย์ (71) จ.ตรัง ได้แก่ เกาะกระดาน (56)

    สำหรับ จ. ภูเก็ต ได้แก่ น้ำตกบางแป (28), ภูเก็ตแฟนตาซี (29), หาดสุรินทร์ (32), เมืองเก่าภูเก็ต (33), แหลมพรหมเทพ (40), หาดกะรน (43), เกาะเฮ (48) และหาดกะตะ (58)


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สยามพารากอน อันดับ 87 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ส่วน จ.สุราษฏร์ธานี ได้แก่ เกาะนางยวน (11), เกาะสมุย (12), เกาะพะงัน (15), อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง (35), หาดละไม เกาะสมุย (39), หินตาหินยาย (42), หาดเฉวง เกาะสมุย (49), น้ำตกหินลาด (59), หาดบ่อผุด (80)

    และนี่ก็คือ 100 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองไทย จากผลโหวตของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เคยเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยบางแห่งบางที่ อาจผิดโผคนไทยไปบ้าง แต่นี่ก็เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าเมืองไทยนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวดีๆอยู่มากหลาย ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่คนไทยจะต้องช่วยกันอนุรักษ์ไว้ให้ตราบนานเท่านาน


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เพลินวาน อันดับ 93 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    .

    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000082960-

    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 13 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 12 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong </TD></TR></TBODY></TABLE>



    กลับบ้านแล้วครับ

    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ถึงบ้านแล้วครับ

    ขอไปทำธุระส่วนตัวครับ

    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 3 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong</td></tr></tbody></table>

    อรุณสวัสดิ์ยามเช้า วันพฤหัสรื่นเริงครับ


    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...