พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    นักการเมืองแห่เสริมบารมี หวัง"พึ่งทางใจ"สู้ศึกเลือกตั้ง

    วันพุธ ที่ 08 มิถุนายน 2554 เวลา 0:00 น
    <SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD><TD id=ext-gen16 style="WIDTH: 57px">รูปภาพ</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    [​IMG]



    [​IMG]

    หนึ่งของการเลือกตั้ง คือ การเรียกความมั่นใจ ของผู้สมัครพรรคต่าง ๆ ที่มีวี่แววมาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง โดยที่พึ่งทางใจที่ว่านี้ คงหนีไม่พ้น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามวัดวาอาราม โดยแต่ละคนก็จะมีวิธีการเรียกความมั่นใจในแบบที่แตกต่างไปตามความเชื่อของแต่ละคน สิ่งเหล่านี้ไม่ได้จำกัดอยู่ในบรรดาผู้สมัครระดับท้องถิ่น แต่นักการเมืองระดับชาติเองก็หันมาพึ่งพิงไม่ต่างกัน

    พระครูสมุห์ อุเทน สิริสาโร เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ จ.สมุทรสาคร ให้ความเห็นว่า นักการเมืองเริ่มมาที่วัดมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่มีการรัฐประหาร 19 กันยา 2549 และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงเลือกตั้ง เหตุที่นักการเมืองมามากเพราะ ไม่รู้จักการดับทุกข์ จึงต้องพยายามให้เขาเข้าใจว่าชีวิตทุกคนมีขึ้นมีลง

    ส่วนใหญ่นักการเมืองที่มาจะให้ช่วยทำพิธีกรรมด้านเสริมบารมี เฉลี่ยนักการเมืองมาเดือนละ 10-15 คน มีทุกช่วงวัย และมีทั้งนักการเมืองระดับประเทศและท้องถิ่น แต่สิ่งที่เห็นจากนักการเมืองที่มาคือ ความไม่เต็มร้อย เนื่องจากหลายคำถามแย้งต่อการกระทำ เพราะธรรมชาติของมนุษย์จะมีความเป็นกลางอยู่ในตัวเอง แต่คนที่มายังไม่มีความเป็นกลาง โดยส่วนใหญ่มนุษย์สมัยนี้พอได้ก็จะรับไว้ แต่พอเสียก็ไม่อยากรับ หรือจะเริ่มรับกับความจริงที่ตนเจอไม่ได้

    ด้วยภาวะความไม่นิ่งของนักการเมืองทำให้เริ่มหันหาพระมากขึ้น หลายคนมาหาอาตมาก็หวังอยากให้ทำพิธีเพราะจิตใจขาดที่พึ่ง บางคนถามอาตมาด้วยความขาดสติว่า จะทำอย่างไรให้ฝ่ายตรงข้ามแพ้ อาตมาได้แต่บอกว่าเราทั้งประเทศมีแต่จะแพ้ ถ้ายังไม่ดับความแค้นของตนให้ได้เสียก่อน

    อาตมาพยายามแนะนำนักการเมืองว่าให้มานั่งสมาธิเจริญจิตภาวนาเพื่อให้จิตใจนิ่งเสียก่อน อาจารย์อาตมาบอกเสมอว่าถ้าเราไม่มีปัญญา ไม่มีการศึกษา ไม่มีการปรับเปลี่ยนตัวเอง เราก็ไม่สามารถพัฒนาตนเองได้ อย่าว่าแต่ให้คนอื่นเขานับถือเพราะจิตใจตัวเองก็ยังไม่นิ่งพอ

    “ความเป็นผู้นำของนักการเมืองที่เห็นและได้สัมผัสยังมีน้อย เพราะนิยามความเป็นผู้นำต้องเสียสละสูง เว้นเรื่องส่วนตัวของตัวเองให้น้อยที่สุด ขณะเดียวกันต้องยอมรับถึงคำตำหนิของประชาชนที่เป็นเหมือนกระจกสะท้อนกลับมายังตนเองให้เห็นข้อผิดพลาด ไม่ใช่ว่ามองคนที่ไม่เห็นด้วยเป็นศัตรู ถ้านักการเมืองมีภาวะผู้นำ คนอีก 60 ล้านคนจะสบายกว่านี้ นักการเมืองมาหาจะให้ช่วยอาตมาบอกได้โดยชี้ให้เห็น ส่วนการกระทำ ตัวเองเป็นผู้กำหนด ทำสิ่งใดมันจะเป็นตัวกำหนดกรรมดีหรือชั่วที่จะออกมา”

    นักการเมืองบางคนมาเพื่อให้อาตมาแก้กรรม บ่อยครั้งไม่ทำให้เพราะทำไปก็เท่านั้น อยากให้พวกเขาหันมามองการสร้างบารมีโดยมีศีล ทาน สมาธิ ถ้าแก้กรรมแล้วทุกอย่างหมดได้จริง คนจะมีแต่ทำชั่ว ไม่ใช่ว่าการแก้กรรมให้คนเหล่านั้นแล้วดี แต่พวกคนเหล่านั้นจะกลับไปทำชั่วที่หนักกว่าเดิม ยิ่งการทำกรรมโดยการคอร์รัปชั่นยิ่งบาปใหญ่ เพราะผิดอาญาแผ่นดินเป็นเสมือนความร้ายแรงขั้นสูง

    พระพุทธเจ้าตรัสถึงมนุษย์ในโลกนี้ว่า แย่งถิ่นกันอยู่ แย่งคู่กันนอน แย่งกันกิน แย่งกันเป็นใหญ่ ปัจจุบันบ้านเมืองเราตกอยู่ในภาวะนี้ ซึ่งนักการเมืองเองต้องเป็นคนแก้สิ่งต่าง ๆ ที่ได้กระทำไว้ อย่าเห็นแก่พวกพ้องต้องมองความสามัคคีเป็นหลัก

    นักการเมืองหน้าใหม่ถือเป็นเรื่องยากเพราะยังไม่มีชื่อและผลงานปรากฏ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้เพื่อตั้งสติ มีคุณธรรม ทำเพื่อประชาชน เมื่อทำความดีคนส่วนใหญ่จะเห็นผลงาน และสิ่งดี ๆ จะตามเข้ามา แต่ที่ผ่านมานักการเมืองบางส่วนเข้าไปเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง ขณะมีบางกลุ่มที่เข้าไปเพื่อชื่อเสียงหน้าตาของวงศ์ตระกูล และยังยึดถือการทำงานแบบพวกใครพวกมัน ซึ่งนักการเมืองรุ่นใหม่ไม่ควรเอาอย่าง เพราะถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปประเทศชาติคงยากจะเจริญก้าวหน้า

    “นักการเมืองต้องลดความเป็นตัวกูของกูกันบ้าง เพื่อให้ก้าวต่อไปได้ ด้านประชาชนเองต้องมีสติในการเลือกตั้งดูคนที่ดีจริง ๆ โดยดูจากนโยบายและการ กระทำที่ผ่านมาเป็นหลัก” เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ ทิ้งท้าย

    ไม่ต่างจาก พระสุธีพรหมคุณ (หลวงพ่อตึ๋ง วาจาสิทธิ์) เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อปากแดง จ.นครนายก กล่าวว่า ที่ผ่านมามีนักการเมืองหลายระดับไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองท้องถิ่นหรือนักการเมืองระดับชาติมากราบไหว้ขอพรหลวงพ่อปากแดง จากนั้นก็จะมาให้เจิมที่หน้าผากพร้อมกับลงนะโภคทรัพย์ที่ฝ่ามือและรับวัตถุมงคล

    ส่วนปัจจุบันนี้ก็ยังมีนักการเมืองท้องถิ่นและนักการเมืองระดับชาติทั้งในพื้นที่และต่างจังหวัดก็ยังมากราบไหว้ขอพรหลวงพ่อปากแดงเพื่อเป็นสิริมงคลในการเลือกตั้ง

    ถือเป็นอีกสีสันหนึ่งก่อนวันเลือกตั้งเพื่อชี้ชะตาประเทศไทย อย่างไรก็ตามความเชื่อและความศรัทธาไม่ควรก้าวล้ำสู่ความงมงายหรือต้องเสียเงินทองมากมายจนเกินควร.

    "พุทธทาสภิกขุ"
    กับแนวทางการเมือง

    อิสรภาพ 4 ขั้นตอนนี้ ถือเป็นหลักยึดถือในการคิดและปฏิบัติในการทำงานด้านการเมืองได้ดีแนวทางหนึ่ง อันประกอบไปด้วย 1. อิสรภาพในการรวบรวมมาวินิจฉัย หมายถึง การไม่ด่วนผูกมัดตนเองกับลัทธิการเมือง แต่ต้องพยายามศึกษาอย่างรอบด้าน ประมวลแนวทางทั้งหลายมาเท่าที่กระทำได้ เพื่อพิจารณาเปรียบเทียบ ไม่ว่าจะเป็นจากประสบการณ์ในอดีต แนวทางร่วมสมัย รวมทั้งจากแหล่งที่ท่านให้ความสำคัญอย่างยิ่งคือ “ข้อเท็จจริงของธรรมชาติทั้งหลาย...เป็นการเมืองที่ธรรมชาติจัดให้ตามระบบของธรรมชาติ”

    2. อิสรภาพในการวินิจฉัย “เราจะมีความเป็นอิสระแก่ตัวเอง ของตัวเอง ทำการวินิจฉัย” ไม่สยบต่อความน่ายำเกรง ที่ติดมากับแนวคิดและวิถีต่าง ๆ ไม่ว่าจะมาจากขนบประเพณี ความนิยมของโลก หรือการตัดสินของอำนาจใด ๆ นอกจากนี้ อิสรภาพในข้อนี้ ยังรวมถึง อิสรภาพในการตั้งประเด็นและแง่มุมเพื่อพิจารณาชนิดที่หลุดจากกรอบหรือแง่มุมอันจำกัด ตามที่มักร่ำเรียนยึดถือกันมาด้วย กล่าวคือ “ไม่จำเป็นที่จะต้องเอาตามที่เขาเขียนให้เราเรียน”

    3. อิสรภาพในการเลือก ท่านอธิบายว่า “เมื่อเราวินิจฉัยมันไปทุกอย่างทุกแง่ทุกมุมแล้ว เราจะเลือกอันไหน แง่มุมไหน เราก็จะต้องเป็นอิสระด้วยเหมือนกัน” กล่าวอีกนัยหนึ่ง การเลือกแนวทางทางการเมืองนั้น ไม่จำเป็นต้องติดอยู่ในกรอบของลัทธิใดลัทธิหนึ่ง แต่ควรจะมีเสรีภาพในการ “เลือก” มาผสมผสาน หรือสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ ตามที่ “มันเหมาะแก่ปัญหาของเรา หรือมันเหมาะแก่เรา”

    4. อิสรภาพในการปฏิบัติ การตระหนักถึงความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ ไม่ต้องยึดติดว่า เมื่อสมาทานลัทธิหรือแนวทางหนึ่งแนวทางใดแล้วจะต้องทำตาม อย่างที่เขานิยมยึดถือกันมา ดังนั้น “เราต้องมีอิสระในการปฏิบัติเท่ากับที่เราได้เลือก อยู่ที่ความสามารถของเรา แล้วเราต้องรู้จักตัวเราให้ดี ว่าเรามันอยู่ในสภาพอย่างไร มีความสามารถเท่าไร แล้วจะได้ปฏิบัติพอดีกับความสามารถ”
    (ข้อมูลจาก เว็บไซต์ ฐานข้อมูลชีวิตและผลงาน พุทธทาสภิกขุ | เพื่อศึกษาและสืบสานความเป็น "พุทธทาส" อย่างถูกตรง)
     
  2. Lee_bangkok

    Lee_bangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +4,741
    ขอเชิญร่วมอนุโมทนาบุญครับ
    ส่งแผ่นทองเหลือง ซึ่งได้รับจากคุณหนุ่ม และของตัวผมเองด้วยไปร่วมสร้างพระประธาน ที่จัดหวัดหนองคาย พระพุทธเมตตาโพธิญาณ และ พระพุทธรูปปางลีลา จังหวัดนนทุบรี
    นอกจากนี้ยังได้ทำบุญที่ รพ สงฆ์ผ่านทุนนิธิอาจารย์ปฐมครับ ตามเอกสารแนบ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    คุณ lee_bangkok ชื่อท่านอาจารย์ปู่เขียนผิดครับ ท่านชื่อประถม ครับ
     
  4. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ขอบพระคุณพี่เพชรเป็นอย่างสูงนะครับ สำหรับความรู้และสาระดีๆ มามอบให้เสมอ
     
  5. ซึ้งบน

    ซึ้งบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +377
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    ผมทราบข่าวจากพี่แอ๊ว

    จะมีงานผ้าป่าสามัคคีครับ

    วัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน

    น่าจะเป็นวันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม 2554 นี้

    รายละเอียด ผมจะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้งครับ


    .
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สำหรับงานผ้าป่า ผมจะนำพระวังหน้า ไปให้ร่วมทำบุญเช่นเดิม

    เท่าที่คุยกับพี่แอ๊ว จะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับงานพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ก็คือ การสร้างฉัตรถวายหลวงปู่พระอุปคุต(อยู่กลางสระบัว) , งานบุญต่างๆที่เกี่ยวข้องกับพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง และ งานบุญการสร้างโล่ห์กันกระสุนให้กับกองกำกับการตำรวจตะเวณชายแดนที่ 44 และ/หรือ 43

    สำหรับพระวังหน้าที่ผมจะนำไปให้ร่วมทำบุญ เท่าที่คิดไว้จะเป็นพระสมเด็จ Tott 1 , พระสมเด็จ Tott 4 ,พระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า และพิมพ์อื่นๆ

    สำหรับพระสมเด็จ Tott 1 และ พระสมเด็จ Tott 4 นั้น เท่าที่คิดไว้ ผมจะให้ร่วมทำบุญองค์ละ 2,000 บาท ส่วนพิมพ์อื่นๆ ให้ทำบุญองค์ละ 500 บาท (ยกเว้นพิมพ์แม่นางกวัก และ พิมพ์พระแม่ธรณี ซึ่งผมจะให้ร่วมทำบุญ ชุดละ 1,000 บาท คือต้องร่วมทำบุญโดยรับไปทั้งสององค์)

    หากท่านใดเป็นสมาชิกชมรมพระวังหน้า ( ไม่ใช่สมาชิก กลุ่ม/ชมรมพระวังหน้าในเว็บพลังจิต ) ผมให้ร่วมทำบุญองค์ละ 100 บาท

    แต่หากเป็น สมาชิก กลุ่ม/ชมรมพระวังหน้า เว็บพลังจิต ให้ร่วมทำบุญเท่ากับบุคคลภายนอก

    โมทนาสาธุครับ

    .<!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)


    ขอถามเรื่องงานผ้าป่าสามัคคี วัดพระศรีมหาธาตุฯ

    ถ้าจะร่วมทำบุญถวายผ้าป่าสามัคคี โอนเงินเข้า บ/ช คุณพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา

    ได้มั้ยครับ แล้วถ้าต้องการบูชาองค์พระที่คุณสิทธิพงษ์ นำมาร่วมทำบุญงานถวาย

    ผ้าป่าฯ ผมโอนเงินเข้า บ/ช ได้เมื่อไรครับ
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ไว้ผมจะมาแจ้งอีกครั้ง หลังจากได้รายละเอียดจากพี่แอ๊วแล้วครับ

    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    โมทนาบุญทุกประการครับ

    .
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ่า ต้องรีบมาฝากเนื้อฝากตัวกับท่านน้องปฐมแล้ว อิอิ


    .
     
  10. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    อ่าพี่หนุ่ม ผมนะฝากตัวไว้กับพี่ท่านก่อนแล้วนะครับ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างได้มากจากพี่ท่านละครับ พี่หนุ่มมักบอกเสมอว่าไม่มีความสามารถสอนใครได้ แต่อย่างว่าละครับ ครูดีไม่ต้องบอกใครว่าเป็นครู เจอแล้วสอนได้เลย สอนแล้วมีคนจำนำไปเป็นแบบอย่าง สำหรับผมนั่นละครับครูที่ดีจริงๆ ถ้าไม่ดีจริงใครจะไปตามละครับ 555
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    บิณฑบาตกลางไฟใต้ ธรรมดาวัตรปฏิบัติที่ไม่ธรรมดา


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    คมชัดลึก : ความเศร้าโศกสลดในวงการผ้าเหลืองชายแดนภาคใต้ยังไม่ทันจางหาย จากเหตุการณ์ที่เกิดกับ “พระอภิไชย สีลเตโช” พระวัดศรีมหาโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ซึ่งถูกคนร้ายกระหน่ำกระสุนปืนใส่จนมรณภาพขณะบิณฑบาต ในช่วงเช้าตรู่เมื่อ ๕ มีนาคมที่ผ่านมา


    ล่าสุดเช้าตรู่วันที่ ๑๖ พฤษภาคม วงการสงฆ์ในดินแดนปลายด้ามขวานต้องตกอยู่ภวังค์แห่งความสูญเสียอีกครั้ง เมื่อคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ ๑๔ ขณะออกรักษาความปลอดภัยพระสงฆ์ออกบิณฑบาต ที่หมู่ ๘ ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา จนเป็นเหตุให้ “พระสมุห์ชาตรี กันคะโต” รักษาการเจ้าอาวาส “วัดสวนแก้ว” (ปูแล) และพระวีระพงษ์ เขมวีโร พระลูกวัด ที่ร่วมออกปฏิบัติศานกิจในรุ่งอรุณ ต้องถึงแก่มรณภาพ และที่สำคัญนี่คือพระสองรูปสุดท้ายที่จำวัด ณ ศาสนสถานแห่งนี้
    เหตุการณ์ครั้งล่าสุดนี้ได้สร้างแรงกระเพื่อมทางสังคมจนเกิดความเปลี่ยน แปลงต่อวัตรปฏิบัติของเหล่าสมณเพศในดินแดนแห่งนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะการออกรับบิณฑบาตที่ ไม่สามารถก้าวย่างไปตามเส้นทางไปตามปกติ เพราะทั้งความหวาดระแวง ความหวาดผวา ได้เข้ามามีอิทธิพลต่อความรู้สึกของผู้ครองตนในผ้าเหลือง และเหล่าญาติโยม
    จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้มีการเรียกประชุมคณะสงฆ์ใน อ.ยะหา ซึ่งมีวัดจำนวน ๔ แห่ง ประกอบด้วย วัดยะหาประชาราม, วัดสวนแก้ว, วัดวงกตบรรพต และวัดปาละ เพื่อหาแนวทางในการรักษาความปลอดภัยพระภิกษุสามเณรขณะออกปฏิบัติศาสนกิจนอกวัด โดยเบื้องต้นได้มีการทำความตกลงร่วมกันทุกวัดด้วยการงดบิณฑบาตนอกวัดชั่วคราว เนื่องจากสถานการณ์ยังมีความล่อแหลมและสุ่มเสี่ยงต่ออันตราย
    พระครูสถิตธีรธรรม เจ้าอาวาสวัดยะหาประชาราม อ.ยะหา จ.ยะลา บอกว่า เหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดพระภิกษุสงฆ์วัดสวนแก้ว ซึ่งเป็นวัดที่ตั้งอยู่ห่างจากวัดยะหาประชาราม ประมาณ 2 กิโลเมตร ส่งผลให้มีพระมรณะภาพ ๒ รูป ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนต่อขวัญและกำลังใจของบรรดาพุทธศาสนิกชน และกระทบต่อความรู้สึกของวงการสงฆ์ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้อย่างมาก เนื่องจากต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์ความสูญเสียกับพระภิกษุสงฆ์ขณะออกบิณฑบาตในใน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี มาแล้ว
    สิ่งที่ต้องการฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ นับจากนี้คือการงดบิณฑบาตนอกวัดชั่วคราวของพระวัด ใน อ.ยะหา เพื่อความปลอดภัยนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องขอให้มีการสนับสนุนเรื่องของการถวายภัตตาหาร ภิกษุสามเณรที่วัด เนื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่มีความรุนแรงชาวบ้านอาจจะต้องประสบความยากลำบาก มากขึ้นในการเดินทางมาทำบุญ ดังนั้นอยากให้หน่วยงาน หรือผู้เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยในเรื่องนี้แก่ชาวพุทธในการมาทำบุญที่วัดด้วย
    เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมาภาพที่ปรากฏอย่าง ชัดเจนว่าพุทธศาสนาในดินแดนแห่งนี้อยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง เห็นได้จากการบิณฑบาตจะต้องมีทหารคอยเดินตาม รปภ.เป็นขบวน ในขณะที่บางวัดแทบจะออกบิณฑบาตไม่ได้ อีกทั้งศาสนกิจหรือพิธีทางศาสนาก็ต้องดำเนินไปอย่างรวบรัดเพื่อความปลอดภัยมากที่สุด
    เจ้าอาวาสวัดยะหาประชารามพูดไว้อย่างน่าคิดว่า “วันนี้ที่วัดเหลือพระเพียง ๔ รูป ความสำคัญของการบิณฑบาต ที่เป็นมากกว่าวัตรปฏิบัติของสงฆ์ที่ละไม่ได้ ดังนั้นหากหยุดปฏิบัติกิจนี้จะยิ่งส่งผลต่อขวัญกำลังใจชาวพุทธที่เหลืออยู่ เพียงหยิบมือเดียวในพื้นที่ปลายด้ามขวาน ณ เวลานี้ หากมีความชัดเจนในมาตรการรักษาความปลอดภัยต่างๆ แล้ว คณะสงฆ์ในพื้นที่ก็พร้อมปฏิบัติกิจตามปกติเพื่อให้เป็นขวัญกำลังใจแก่ญาติ โยมและเป็นการธำรงค์ไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาในดินแดนแห่งนี้”
    ในขณะที่วัดศรีมหาโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี แม้นจะผ่านเรื่องเลวร้ายมาได้ไม่นาน แต่เหล่าภิกษุจากศาสนสถานแห่งนี้ ก็ได้บิณฑบาตตามปกติ แม้นจะรู้ดีว่าสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจมากนักก็ตาม โดย “พระครูโสภิตโพธิคุณ” เจ้าอาวาสวัดศรีมหาโพธิ์ จ.ปัตตานี สะท้อนความรู้สึกว่าหลังพระทุก รูปของวัดแห่งนี้ ก็ยังยืนหยัดปฏิบัติศาสนกิจตามปกติ และไม่เคยปล่อยให้ความหวาดกลัวมาทำลายความมุ่งมั่นในการทำหน้าที่ เพียงแต่ต้องเพิ่มสติ และมีสมาธิมากขึ้นเพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าสังหาร
    ด้าน “พระเลิศศักดิ์ โชติปัญโญ” พระวัดศรีมหาโพธิ์ กล่าวว่า วันนี้ยังคงพร้อมและออกบิณฑบาตตามปกติ แม้ว่าวันเกิดเหตุคนร้ายยิงพระมรณภาพ ในจุดที่ไม่ไกลวัดมากนัก แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคบั่นทอนกำลังในการปฏิบัติศาสนกิจแต่อย่างใด กลับมุ่งมั่นมากกว่าเดิม เพราะวันนี้ยังมีชาวบ้านและญาติโยมจำนวนไม่น้อยได้ออกมาทำบุญตักบาตรในตอน เช้าตรู่ตามปกติ ชาวบ้านยังออกมาตักบาตร แล้วในฐานะสงฆ์จะงดได้อย่างไร ดังนั้นจะต้องออกไปทำหน้าที่ตามกิจของสงฆ์ และที่สำคัญนี่คือหนึ่งในแนวทางที่จะช่วยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนตราบนานเท่านาน
    เช่นเดียวกับ “พระสิริชัย สุขสีทอง” พระวัดศรีมหาโพธิ์ อีกรูปที่ออกปฏิบัติกิจของสงฆ์ด้วยการรับบิณฑบาตตั้งแต่ เช้าตรู่ตามปกติ แม้นจะเพิ่งผ่านพ้นเหตุสลดในวงการสงฆ์เมืองโคกโพธิ์มาไม่นาน แต่ความสลดใจยังไม่จางหาย พร้อมทั้งยืนยันว่าหากมีญาติโยมออกมาใส่บาตรเพียงคนเดียวในฐานะภิกษุก็จะ ต้องออกไปทำหน้าที่ตามวัตรปฏิบัติ
    พ่อเมืองทำบุญตักบาตรทุกเช้า
    สิ่งที่ยังทำให้วัตรปฏิบัติของภิกษุ สามเณรในจังหวัดชายแดนใต้ยังคงดำเนินอยู่ได้ในเวลานี้ ปฏิเสธมาได้ว่า “แรงศรัทธา” ของเหล่า “คฤหัสถ์” มีส่วนและเป็นแรงกระตุ้นที่สำคัญอย่างยิ่ง
    นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ที่มักจะออกมาทำบุญตักบาตรทุกเช้าในย่านกลางเมืองยะลา บอกว่า หากมีโอกาสและว่างเว้นจากภารกิจราชการ โดยนอกเหนือจากการร่วมทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาแล้ว สิ่งที่ต้องการคือการเป็นแบบอย่างให้ชาวบ้านออกมาทำบุญใส่บาตรให้เหมือนปกติเมื่อครั้งวันวาน
    “เราได้ร่วมกับตำรวจ ทหาร วางแผนดูแลพระภิกษุสงฆ์ในพื้นที่ โดยได้ประสานกับเจ้าคณะจังหวัดและคณะกรรมการวัด ในเขตเทศบาลนครยะลา และขอความร่วมมือทางวัด เวลาที่พระจะออกไปรับบิณฑบาต หรือออกนอกวัด เพื่อให้การทำบุญตักบาตรอบอวลไปด้วยความอิ่มเอมของการทำบุญมากที่สุด” พ่อเมืองยะลา กล่าว
    ในขณะที่นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า แม้นส่วนตัวจะเป็นอิสลามมิกชน แต่ยินดีให้การสนับสนุนกิจกรรมทางศาสนาอย่างเท่าเทียมกันเพื่อให้สังคมแห่ง นี้อยู่ร่วมกันย่างสันติสุข โดยเฉพาะช่วงเวลานี้ที่ชาวพุทธและวงการสงฆ์ในพื้นที่เต็มไปด้วยความกังวลใจ ในมาตรการความปลอดภัย ซึ่งขอยืนยันว่าจังหวัดจะทำหน้าที่ดูแลสวัสดิภาพของพระภิกษุ สงฆ์ สามเณร และชาวบ้านที่ออกมาตักบาตรในช่วงเช้าให้ดีที่สุดเพื่อให้ภาพอันงดงามของ บรรยากาศยามเช้าแห่งเมืองปัตตานีที่เปี่ยมไปด้วยความหลากหลายทางศาสนาและ วัฒนธรรมกลับมาอยู่ในความรู้สึกของสังคมไทยอีกครั้ง
    "ความสำคัญของการบิณฑบาต ที่เป็นมากกว่าวัตรปฏิบัติของสงฆ์ที่ละไม่ได้ ดังนั้นหากหยุดปฏิบัติกิจนี้จะยิ่งส่งผลต่อขวัญกำลังใจชาวพุทธที่เหลืออยู่ เพียงหยิบมือเดียวในพื้นที่ปลายด้ามขวาน"


    เรื่อง.."สุพิชฌาย์ รัตนะ"
    ภาพ.."ศูนย์ภาพเนชั่น"




    .


     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ยังไงก็ไม่กล้ารับครับ

    ยังไม่มีความสามารถเป็นครูใครได้ครับ


    .
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรื่องของโครงการ Refinance Credit Card พูดกันง่ายดี แต่เวลาที่ไปขอกู้จริงๆแล้ว ธนาคารพิจารณาสินเชื่อให้ ก็ไม่ผ่านกัน

    และยังมีเรื่องของกลุ่มสินเชื่อบุคคลอีก(ที่ไม่ได้เข้าร่วมในโครงการ)

    เรื่องเหล่านี้ มีปัจจัยประกอบกันหลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบุคคลที่ใช้เงินเกินตัว ใช้สิ่งของฟุ่มเฟือย , เรื่องของสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่ทำให้คนในประเทศไม่มีรายได้ที่มากเพียงพอ , เรื่องของการศึกษาที่มีการแข่งขันกันสูงมากในการเข้าเรียน และ มาตรฐานของสถานศึกษาที่ยังคงมีความเหลื่อมล้ำกันอย่างมาก , เรื่องของการทุจริตและคอร์รับชั่นที่ยังคงมีอยู่อย่างมาก รวมถึงการไม่มีจริยธรรมของคนที่มีอำนาจในเรื่องต่างๆ

    ท่านผู้อ่านต้องช่วยเหลือตัวเอง ในการดำรงชีพในปัจจุบัน สิ่งไหนควรใช้ สิ่งไหนไม่ควรใช้ ผมแนะนำให้ไปอ่านเรื่องของเงินๆทองๆ ศึกษาไว้ เพื่อประโยชน์ในการคิดและวิเคราะห์ในการใช้เงินของตนเองให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

    ที่เว็บ ใต้ร่มธรรม ( 108 โทรโข่ง - การเตือนภัยสังคมและกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ ) กระทู้ ระวังถูกหลอกและเรื่องเกี่ยวกับเงินๆ ทองๆ ของใกล้ตัว



    <LI class="">ใต้ร่มธรรม » <LI class=" iehover">Forum » <LI class="">ประชาสัมพันธ์ » <LI class="">108 โทรโข่ง » <LI class=last>การเตือนภัยสังคมและกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ
    (ผู้ดูแล: Pure+, มดเอ๊กซ, ลิโพ, แก้มโขทัย, ฐิตา, แปดคิว, sithiphong)




    .

    ส่วนกระทู้ ชมรมพระวังหน้า เพื่อพระวังหน้าและงานบุญต่างๆ

    จะอยู่ที่

    <LI class="">ใต้ร่มธรรม » <LI class="">Forum » <LI class=" iehover">ประชาสัมพันธ์ » <LI class="">108 โทรโข่ง » <LI class=last>ประชาสัมพันธ์ทางธรรม
    (ผู้ดูแล: มดเอ๊กซ, ลิโพ)






    .







    .
     
  14. Lee_bangkok

    Lee_bangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +4,741
    ขอบคุณครับที่ทักนะครับ สำหรับการเขียนที่ถูกต้องนะครับผม
    ดียามเช้านะครับ เมื่อวานมีโอกาสกราบหลวงปู่ท่อน คนเยอะพอสมควรนะครับ ท่านดูแข็งแรงหน้าตาผ่องใสมากๆครับ อารมรณ์ดียิ่งครับ ท่านแจกตลอดครับคนที่ไปหาท่าน นอกจากจะได้ธรรมะและคำอวยพร น้ำมนต์แล้วนะครับ บางคนก็ได้พระบ้าง ชานหมาก และที่สีฟันพระกรรมฐานบ้าง ครั้งก่อนที่ไปและขอเกสาหลวงปู่กับพระที่คอยดูแลท่าน ท่านก็เมตตาบอกว่าให้มาเอาวันหลัง อิอิ พอไปอีกทีเมื่อวาน ท่านบอกว่าหมดแล้ว มีคนมาขอไปหมดแล้ว อิอิอิ
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อยากจะบอกว่า ขอสิ่งนอกกาย อย่าลืมขอธรรมะมาด้วยครับ


    .
     
  16. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    กำจัดกลิ่นกระเทียม

    วันพฤหัสบดี ที่ 09 มิถุนายน 2554 เวลา 0:00 น
    <SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    กระเทียมเครื่องปรุงอาหารกลิ่นแรง เวลาประกอบอาหารหรือทานกลิ่นจะติดมือติดปาก ทำอย่างไรก็ไม่หาย วันนี้มีวิธีกำจัดกลิ่นกระเทียมมาฝาก

    เวลาทำอาหารที่ต้องใช้กระเทียมเป็นส่วนประกอบ ทั้งปลอกทั้งหั่นจนกลิ่นติดมือ ล้างแล้วก็ไม่หาย ให้ลองวิธีดังต่อไปนี้ดู

    - ใช้แปรงสีฟันพร้อมยาสีฟันถูที่นิ้วมือและซอกเล็บ วิธีเดียวกับที่แปรงฟันนั่นแหละ นี่เป็นวิธีที่จะสามารถกำจัดกลิ่นกระเทียมติดมือได้แน่นอน

    - แต่ถ้าทำแบบด้านบนดูยุ่งยากไปล่ะก็ มีวิธีที่ง่ายกว่านั้น ให้ถูมือกับอุปกรณ์สแตนเลสในครัวเรือน เช่น ช้อนสแตนเลส มีดสแตนเลส หรือแม้กระทั่งอ่างล้างจาน กลิ่นกระเทียมจะทำปฏิกิริยาทางเคมีกับสแตนเลส จนกลิ่นหายไปอย่างน่าอัศจรรย์เลยทีเดียว

    - ลองใช้เกลือ หรือ เบกกกิ้ง โซดา เพียงเล็กน้อย มาถูมือ ก็ได้ผลเช่นกัน

    - ให้จุ่มมือลงในน้ำมะนาว หรือ น้ำส้มสายชูประมาณ 5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นและสบู่ ก็สามารถกำจัดกลิ่นกระเทียมได้

    ส่วนในกรณีไม่ได้ทำแต่ชอบทานกระเทียมจนมีกลิ่นติดปากเป็นที่น่าอับอายแล้วล่ะก็ ให้ลองฝานมะนาวชิ้นบาง ๆ นำมาจิ้มเกลือ แล้วทาน น้ำมันจากเปลือกมะนาวและเกลือจะช่วยกำจัดกลิ่นกระเทียมได้ แต่ถ้าหาไม่ได้ ให้ลองดื่มนม โดยเฉพาะนมจืดที่มีไขมัน จะได้ผลกว่านมพร่องมันเนย ยิ่งถ้าดื่มไปพร้อมมื้ออาหารด้วยแล้ว จะได้ผลดีมากกว่าดื่มหลังอาหารเยอะเลย.





    ที่มา เดลินิวส์ ออนไลน์
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width=850 bgColor=#eaeaea><TBODY><TR bgColor=#ffffff><TD class=font9 align=middle><TABLE height=105 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" background=../../templates/temp3/images/mainnews.jpg border=0><TBODY><TR><TD height=2></TD><TD class=font9 align=right></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD class=font9 align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#ffffff><TBODY><TR><TD class=font9 style="PADDING-RIGHT: 10pt; PADDING-LEFT: 10pt; PADDING-BOTTOM: 10px; PADDING-TOP: 10px">“จุรินทร์”เผยผลตรวจอโวคาโดที่นำเข้าจากยุโรป เบื้องต้นพบเชื้ออี.โคไล แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นเชื้อที่ทำให้เกิดสารพิษหรือไม่ ต้องใช้เวลาในการตรวจอีก 3-5วันจึงจะทราบผล

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>


    ย้ำการพบเชื้ออี.โคไลปนเปื้อนในผักผลไม้ เป็นเรื่องปกติทั่วไป ประชาชนไทยไม่ต้องวิตกกังวล ยังรับประทานผักผลไม้ได้ตามปกติ แต่ก่อนรับประทาน ต้องล้างน้ำให้สะอาดก่อน

    วันนี้(9 มิถุนายน 2554)นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้า การตรวจเชื้อแบคทีเรียอี.โคไลชนิดรุนแรง โอ 104 (Enterohaemorrhagic E.coli O104) จากตัวอย่างผัก ผลไม้นำเข้าจากยุโรป ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่า หลังจากที่ด่านอาหารและยา ประจำท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิได้สุ่มเก็บ อโวคาโด จำนวน 2 กิโลกรัม ส่งตรวจเพาะเชื้อที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2554 ขณะนี้ทราบผลการตรวจในเบื้องต้น พบเชื้ออี.โคไล แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นเชื้ออี.โคไลชนิดใด ทำให้เกิดสารพิษหรือไม่ จะต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจวิเคราะห์สายพันธุ์อีกประมาณ 3-5 วันจึงจะทราบผล ส่วนกะหล่ำปลีปม จะทราบผลตรวจเบื้องต้นในเช้าวันพรุ่งนี้ (10 มิถุนายน 2554)


    นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า การตรวจพบเชื้ออี.โคไลในอโวคาโดครั้งนี้ จัดเป็นเรื่องปกติ ประชาชนไทยไม่ต้องวิตกกังวล เนื่องจากโดยทั่วไป เชื้ออี.โคไล มีหลายชนิด และเป็นเชื้อที่มีอยู่ทั่วไปในผลิตภัณฑ์การเกษตร ผัก ผลไม้ ไม่เป็นอันตรายสำหรับประชาชน ยังสามารถรับประทานผัก ผลไม้ต่อไปได้ตามปกติ โดยก่อนที่จะนำมารับประทาน ควรล้างน้ำให้สะอาดก่อนหลายๆ ครั้ง โดยให้คลี่ใบถูให้สะอาดในกรณีที่เป็นผักที่มีกาบใบห่อ ซึ่งวิธีการล้าง อาจล้างด้วยการเปิดน้ำไหลจากก๊อกแรงพอประมาณ ให้ไหลผ่านผักสด ผลไม้นานอย่างน้อย 2 นาที หรือใช้สารละลายอื่นๆในการล้างควบคู่ด้วย เช่น น้ำส้มสายชู , เกลือ เป็นต้น หรือลอกหรือปอกเปลือกชั้นนอกของผักสดหรือผลไม้ทิ้งไป เพื่อลดสิ่งปนเปื้อน


    ส่วนการรับประทานผักโดยปรุงผ่านความร้อน รวมทั้งผักลวก จะปลอดภัย เนื่องจากเชื้อแบคทีเรียจะตายเมื่อถูกความร้อน 70 องศาเซลเซียสขึ้นไป นายจุรินทร์กล่าว


    ........................... 9 มิถุนายน 2554





    .


    http://www.moph.go.th/ops/iprg/include/admin_hotnew/show_hotnew.php?idHot_new=39019
    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  19. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    สาธุครับพี่หนุ่ม ดูช่วงนี้พี่ท่านงานหนักนะครับ ขอพี่ท่านดูแลสุขภาพร่างกายพักผ่อนมากๆนะครับผม
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 8 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 6 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, อนัตตัง </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สวัสดีตอนเช้า วันศุกร์แห่งชาติครับ

    ให้ทุกท่านมีความสุข(ใจในใต้ร่มธรรม)กันครับ

    .


    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...