พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  2. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 10 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 7 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>มูริญโญ่, pompe a biere, อนัตตัง </TD></TR></TBODY></TABLE>สวัสดีครับทุกๆท่าน
     
  3. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
     
  4. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    สวัสดีครับ คุณ Sithiphong ผม ได้ติดตาม และ อ่าน ข้อความใน หัวข้อพระวังหน้ามาตลอด ผมใช้วิจารณญาณ ของตัวผมเองครับ ผมเชื่อมั่นในสิ่งที่คุณ sithiphong ได้ชักชวนให้ผมและสมาชิกทุกท่านร่วมทำบุญมาตลอด ตั้งแต่ผมเริ่มเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกชมรมพระวังหน้า เพราะ วัตถุประสงค์ที่คุณSithiphong ทำเพื่อชาติและสืบต่อพระพุทธศาสนาด้วยใจบริสุทธิ์ ยกตัวอย่างเช่นคุณSithiphong เชิญชวนให้สมาชิกสมาชิกทุกท่าน ช่วยกันร่วมทำบุญช่วยผู้ประสบภัยสีนามิ ที่ญี่ปุ่น และ ช่วยผู้ประสบภัยภิบัติน้ำท่วมภาคใต้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี ที่เราจะได้ช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนจากภัยธรรมชาติ พร้อมกันนี้ คุณ Sithiphong ได้มอบพระวังหน้าให้กับผู้ร่วมทำบุญ โดยเป็นผู้รับภาระค่าจัดส่งเอง ผมขออนุโมทนาสาธุในความมีน้ำใจในเรื่องค่าจัดส่งให้โดยไม่คิดมูลค่า แค่นี้ผมก็มั่นใจในความบริสุทธิ์ของคุณ Sithiphong เพราะ เงินที่สมาชิกทุกทท่านร่วมทำบุญได้โอนเงินเข้าบัญชีสภากาชาดไทยโดยตรง ได้นำไปใช้ประโยชน์กับผู้ประสบภัยโดยตรง โดยที่คุณSithiphong ไม่ได้มีส่วนได้เสียในเงินส่วนนั้นแม้แต่บาทเดียว การที่คุณSithiphong ช่วยมาบอกให้ช่วยทำบุญ เป็นสิ่งที่น่าสรรเสริญ ครับ คุณSithiphong ทำดีอยู่แล้ว ผมสมาชิกใหม่ขอให้กำลังใจในความดีที่คุณ Sithiphong ได้ทำมาแล้ว และขอสนับสนุนให้ทำดีต่อไป ผมเชื่อมั่นในความดีที่คุณ Sithiphong ทำ และขออนุโมทนาบุญ ที่คุณ Sithiphong ได้กระทำที่ผ่านมาแล้วทุกประการ ผมชอบข้อความที่ว่าเดินหน้ามาไกลเรื่องงานบุญพระวังหน้าต่อไป จะไม่ถอยไปอีกแล้ว ผมขอให้กำลังใจครับ ใครทำอย่างไรไว้ ผลก็จะได้อย่างนั้นจริงๆ ครับ ผมเชื่อว่าบุญที่คุณ Sithiphong ได้ทำมาแล้ว และ มาบอกต่อให้สมาชิกช่วยกันร่วมทำบุญเป็นสิ่งดี ที่จะติดตัวคุณSithiphong ไปตลอด คิอบุญครับ
    ใครจะมาโจมตีอย่างไรช่างเขา ทุกคนมีวิจารณญาณครับ ผมขอสนับสนุนให้ทำดีต่อไปครับ ร่วมกันทำบุญนะครับสมาชิกทุกท่าน
     
  5. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    ขออนุโมทนาบุญ ด้วยครับ แค่ได้คิดถึงบุญที่ได้ทำผ่านมา ก็ปิติยินดีครับ คิดถึงแต่เรื่องดีๆ ดีกว่าครับ พระท่านสอนว่า คิดดี พูดดี ทำดี อะไรๆ ก็ดีไปหมดครับ คุณ Sithiphong
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มีพระภิกษุ หลายๆองค์ ท่านบอกกับผมว่า ใครทำอะไร ต้องได้เช่นนั้น

    ผมเชื่อตามนี้ครับ

    ขอบคุณสำหรับกำลังใจและคำตอบนะครับ

    .
     
  7. นายเฉลิมพล

    นายเฉลิมพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +460
    ขออนุโมทนาบุญทุกประการด้วยครับ
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 4 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 3 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong</td></tr></tbody></table>
    อรุณสวัสดิ์ยามเช้า วันจันทร์แจ่มใสครับ


    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    “ซาลาเปาสุทธิพร” ใหม่สด รสกลมกล่อม หอมกรุ่น <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">24 เมษายน 2554 16:20 น.</td></tr></tbody></table>

    [​IMG] <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> โดย : ผ่านมาแวะกิน (travel_astvmgr@hotmail.com)

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ควันลอยกรุ่นที่ด้านหน้าร้านซาลาเปาสุทธิพร</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ย่านดินแดง นับเป็นอีกหนึ่งแหล่งที่มีอาหารการกินอร่อยๆ มากมาย เริ่มตั้งแต่อาหารคาว อาหารหวาน อาหารกินเล่นไปจนถึงกินจริง เมื่อผ่านมาในละแวกนี้ “ผ่านมาแวะกิน” ก็เลยขอแวะเวียนมาชิมของดีขึ้นชื่อ ที่ลือกันว่าอร่อยนักหนาในย่านนี้เสียหน่อย ซึ่งก็คือ “ซาลาเปาสุทธิพร” ที่อยู่ใน ซ.ประชาสงเคราะห์ 2 หรือ ซ.สุทธิพร นั่นเอง

    คนที่ไม่เคยมาอาจจะสังเกตได้อยากเสียหน่อย เพราะที่ด้านหน้าร้านไม่ได้มีป้ายชื่อร้านติดไว้ใหญ่โต มีแค่รายชื่อและราคาของแต่ละเมนู แต่จะสังเกตได้ง่ายจากซึ้ง หรือลังถึงที่ตั้งเป็นชั้นๆ มีควันร้อนๆ ลอยออกมาทุกครั้งที่เปิดฝา และมีลูกค้าแวะเวียนมาซื้อกันไม่ขาดสาย

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ซาลาเปาไส้หมูสับ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> คุณประภัสสร วิชยธรรมสกุล เจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่า ซาลาเปาของที่ร้านจะเป็นสไตล์ฮ่องกง ที่เป็นสูตรดั้งเดิมมากว่า 30 ปี ซึ่งก็มีให้เลือกชิมกันทั้งหมด 4 ไส้ คือ หมูสับ หมูแดง ครีม และถั่วดำ

    ซาลาเปาไส้หมูสับ (ลูกละ 15 บาท) เป็นซาลาเปาแป้งหมัก หน้าแตก ที่จะต้องนำแป้งมาหมักไว้ถึง 3 วัน ก่อนที่จะได้เป็นตัวแป้งซาลาเปา ส่วนไส้หมูสับจะใช้เนื้อหมูและมันหมูมาปั่นรวมกันให้มีความเด้ง แล้วหมักเครื่องปรุงรสเล็กน้อย ตรงกลางไส้ซาลาเปาก็ใส่ไข่ต้มลงไปด้วย ลองชิมแล้วเนื้อแป้งนุ่มละเอียด ไส้หมูสับเด้งๆ รสชาติกลมกล่อม

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ซาลาเปาไส้หมูแดง</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ซาลาเปาไส้หมูแดง (ลูกละ 15 บาท) เป็นซาลาเปาแป้งหมักเช่นกัน ส่วนตัวไส้หมูแดงจะใช้เนื้อหมูไม่ติดมันมาปรุงรสชาติแล้วหมักทิ้งไว้ พอได้ที่แล้วก็นำไปผัดให้สุก ก่อนจะนำไปห่อแป้งแล้วนึ่งให้สุกอีกครั้ง ชิมแล้วออกรสชาติหวานๆ เค็มๆ ไม่มัน ไม่เลี่ยน

    ซาลาเปาไส้ครีม (ลูกละ 12 บาท) จะใช้แป้งยีสต์ ซึ่งเป็นแป้งสด ที่หน้าจะไม่แตกเหมือนไส้หมูแดงและหมูสับ ตัวไส้ครีมทำมาจากนม เนย และไข่ นำมาตุ๋นรวมกัน ได้เนื้อครีมที่เนียนละเอียด รสชาติหวานๆ มันๆ หอมๆ ส่วน ซาลาเปาไส้ถั่วดำ (ลูกละ 12 บาท) ก็จะเป็นแป้งยีสต์เช่นกัน ส่วนตัวไส้จะใช้ถั่วดำนำมาต้ม แล้วจึงนำไปกวนจนเนียน รสชาติไส้ถั่วดำจะไม่หวานมากนัก ลองชิมตัวแป้งยีสต์ก็จะแน่นและหนึบกว่าแป้งหมัก เรียกว่าอร่อยไปคนละแบบ ซึ่งถ้าหากเป็นในช่วงเทศกาลกินเจ ทางร้านก็จะทำซาลาเปาไส้เจออกมาขายเอาใจคนกินเจด้วยเช่นกัน

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ซาลาเปาไส้ครีม</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> นอกจากจะมีซาลาเปาที่อร่อยขึ้นชื่อเป็นของดีเขตดินแดงแล้ว ก็ยังมีอย่างอื่นให้ลองชิมอีกด้วย คือ ขนมจีบกุ้ง (กล่องละ 90 บาท มี 15 ลูก) ที่ตัวไส้นั้นใช้เนื้อกุ้งแชบ๊วยหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ผสมกับมันหมูบด นำมาปรุงรสแล้วห่อด้วยแผ่นเกี๊ยว นำไปนึ่งขึ้นมาร้อนๆ ชิมแล้วได้รสชาติหวานๆ ของเนื้อกุ้ง

    ฮะเก๋า (กล่องละ 90 บาท มี 15 ลูก) ที่ใช้แป้งข้าวเจ้ามานวด แล้วห่อกับไส้ที่มีส่วนผสมของเนื้อกุ้ง มันหมู และหน่อไม้ จากนั้นก็จับเป็นจีบแล้วนำไปนึ่งจนสุก ได้เนื้อแป้งบางๆ กับไส้นุ่มๆ รสกลมกล่อม จะกินเปล่าๆ หรือจิ้มกับจิ๊กโฉ่วเพิ่มรสชาติก็ได้

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ซาลาเปาไส้ถั่วดำ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ด้วยเหตุที่บริเวณหน้าร้านเป็นซอยแคบๆ ไม่มีที่ให้จอดรถ เลยขอแนะนำเทคนิคการซื้อสักเล็กน้อย คือถ้าหากว่าอยากจะกินอะไรก็โทรศัพท์มาสั่งล่วงหน้าก่อนจะถึงร้านสัก 10-20 นาที หรือบอกทางร้านไว้ว่าอีกกี่นาทีจะมารับของ จะได้ไม่ต้องมารออยู่ที่หน้าร้าน ส่วนถ้าเป็นช่วงเทศกาลควรจะสั่งล่วงหน้าประมาณหนึ่งอาทิตย์ และทางร้านก็ยังมีบริการรับสั่งทำ ซี่วท้อ (ลูกละ 10 บาท) สำหรับนำไปไหว้เจ้าแม่กวนอิม ซึ่งก็ต้องสั่งล่วงหน้า 3 วันเป็นอย่างน้อย

    คราวนี้ ถ้าใครนึกอยากจะกินขนมจีบ ซาลาเปาร้อนๆ ที่อบกันสดๆ ใหม่ๆ ก็ขอแนะนำให้มาลองชิมกันที่ร้าน “ซาลาเปาสุทธิพร” ได้เลย

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ขนมจีบกุ้งและฮะเก๋า</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    “ซาลาเปาสุทธิพร” ตั้งอยู่ที่ 479/6 ซ.ประชาสงเคราะห์ 2 (ซ.สุทธิพร) ถ.ประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง กทม. การเดินทางจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ให้วิ่งตรงมายังสามเหลี่ยมดินแดง ตรงไปจนถึงแยกประชาสงเคราะห์ (แยกโบสถ์แม่พระ) จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถ.ประชาสงเคราะห์ สังเกตทางขวามือจะมี ซ.ประชาสงเคราะห์ 2 (ซ.สุทธิพร) ให้เลี้ยวเข้าซอยแล้ววิ่งตรงไปเรื่อยๆ คอยสังเกตทางขวามือจะมีสุทธิพรอพาร์ตเม้นท์ ร้านจะอยู่ฝั่งตรงข้ามด้านซ้ายมือ ร้านเปิดวันอังคาร-อาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) เวลา 05.30-12.00 น. โทร. 0-2246-6749

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> คลิก!!อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน"ซาลาเปาสุทธิพร"</td></tr></tbody></table>
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 เมษายน 2554 00:10 น.

    <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="457"><tbody><tr><td align="center" valign="Top" width="457">[​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ชื่อร้าน : ซาลาเปาสุทธิพร

    ประเภทอาหาร : ขนมจีบ ซาลาเปา

    เมนูจานเด่น : ซาลาเปาไส้หมูสับ,หมูแดง,ครีม,ถั่วดำ ขนมจีบกุ้ง ฮะเก๋ากุ้ง

    บรรยากาศร้าน : ขายของด้านหน้าร้าน ไม่มีโต๊ะให้นั่ง

    ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 479/6 ซ.ประชาสงเคราะห์ 2 (ซ.สุทธิพร) ถ.ประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง กทม. การเดินทางจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ให้วิ่งตรงมายังสามเหลี่ยมดินแดง ตรงไปจนถึงแยกประชาสงเคราะห์ (แยกโบสถ์แม่พระ) จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถ.ประชาสงเคราะห์ สังเกตทางขวามือจะมี ซ.ประชาสงเคราะห์ 2 (ซ.สุทธิพร) ให้เลี้ยวเข้าซอยแล้ววิ่งตรงไปเรื่อยๆ คอยสังเกตทางขวามือจะมีสุทธิพรอพาร์ตเม้นท์ ร้านจะอยู่ฝั่งตรงข้ามด้านซ้ายมือ

    เวลาเปิด-ปิด : เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) เวลา 05.30-12.00 น.

    เบอร์โทรศัพท์ : โทร. 0-2246-6749

    .

    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000049864-

    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000049862-

    .

    http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000049864


    http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000049862




    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    “โลคอลเชงจ์” ทำ "พายุงวงช้าง” ตระกูลทอร์นาโดรุนแรงขึ้น <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">24 เมษายน 2554 23:50 น.</td></tr></tbody></table>

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">ภาพ พายุงวงช้างซึ่งเป็นพายุที่มีการเกิดแบบเดียวกับทอร์นาโด แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า ซึ่งในภาพนี้เป็นปรากฏการณ์ที่สนามฟุตบอลในโรงเรียนแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น (ภาพประกอบข่าวจากโต๊ะข่าวกีฬา) </td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">เวที เสวนาการคำนวณเพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงและภาวะล่อแหลมของการแปรปรวนทางภูมิ อากาศ (ซ้ายไปขวา) ดร.กิตติศักดิ์ ชยันตราคม จากภาควิชาคณิตศาสตร์ มหิดล ผู้ร่วมเสวนา , ดร.บริบูรณ์ นวประทีป ผู้ดำเนินการเสวนา และ ดร.วัฒนา กันบัว </td></tr></tbody></table>

    แม้ไทยไม่มีทอร์นาโดเหมือน ในสหรัฐฯ แต่พายุตระกูลเดียวกันอย่างพายุงวงช้างที่ปกติไม่ค่อยมีพิษสงอะไร เริ่มมีกำลังรุนแรงขึ้น ซึ่งนักอุตุนิยมวิทยาทางทะเลอธิบายว่าเป็นเพราะ “โลคอลเชงจ์” การเปลี่ยนแปลงในระดับท้องถิ่น ทั้งการก่อสร้าง เทปูน ลดพื้นที่ของดินและหญ้า เป็นเหตุให้อากาศร้อนยกตัวรุนแรงขึ้น

    ในขณะที่เรามัวกังวลใจต่อภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือ “ไคลเมตเชงจ์” (Climate Change) ดร.วัฒนา กันบัว ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาทะเล สำนักเฝ้าระวังและเตือนสภาวะอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ชี้ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงใกล้ตัวที่จะส่งผลกระทบต่อเรามากกว่า ที่เรียกว่า “โลคอลเชงจ์” (Local Change) หรือการเปลี่ยนแปลงในระดับท้องถิ่น อย่างเช่นไทยไม่มีพายุทอร์นาโด แต่ระยะหลังเริ่มมี "พายุงวงช้าง" ซึ่งเป็นพายุประเภทเดียวกันมากขึ้น

    พายุงวงช้างเป็นพายุประเภทเดียวกับพายุทอร์นาโด แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า แต่การเปลี่ยนแปลงในระดับท้องถิ่น ทำให้พายุงวงช้างมีความรุนแรงขึ้น ล่าสุดพายุงวงช้างได้ลากเรือชาวประมงใน จ.ระยอง ลงทะเล ซึ่งความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นนี้ ดร.วัฒนากล่าวว่า เพราะปัจจุบันมีสิ่งปลูกสร้างมากขึ้น จากเดิมพื้นที่ปกคลุมด้วยพื้นดินและพื้นหญ้า ทำให้ความร้อนจากดินยกตัวขึ้นไม่รุนแรง แต่ปัจจุบันมีสิ่งก่อสร้างและการเทปูนทับลงไป ทำให้ความร้อนยกตัวรุนแรง พายุจึงรุนแรงขึ้น

    สำหรับทอร์นาโดที่เกิดในสหรัฐฯ นั้น เป็นผลจากมวลอากาศเย็นพัดจากแคนาดามาปะทะความชื้นในเม็กซิโก แล้วเจอกับความร้อนสูง ระหว่างนั้นมีลมเฉือน (wind shear) หรือการเปลี่ยนแปลงความเร็วลมความสูงที่ทำให้เกิดลมหมุนตามแนว จึงทำให้อากาศยกตัวหมุนขึ้น

    ทั้งนี้ เป็นการเปิดเผยระหว่างการเสวนา “การคำนวณเพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงและภาวะล่อแหลมของการแปรปรวนทางภูมิ อากาศ” เมื่อวันที่ 21 เม.ย.54 ณ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ ได้ร่วมฟังการเสวนาดังกล่าวด้วย


    .

    -http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9540000049871-

    Science - Manager Online -


    http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9540000049871


    .
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    น้ำมัน...ตัวแปรสำคัญต่อศก.ของโลก <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">25 เมษายน 2554 01:12 น.</td></tr></tbody></table>


    รายงานพิเศษ
    เขมรัฐ เทพบุรี
    WORLD_SRIARIYA@HOTMAIL.COM

    "คาดหวังในสิ่งที่ดีที่สุดและเตรียมรับมือกับสิ่งที่แย่ที่สุด"

    เกิดปัญหาขึ้นทั่วโลกทั้งโลกจริงๆครับ...ตอนนี้ สำหรับปัญหาเศรษฐกิจ โดยประเทศเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐฯ กำลังเผชิญเรื่องการว่างงาน และที่ยุโรปก็กำลังยุ่งเหยิงกับแก้ปัญหาหนี้สาธารณะที่มากมาย แม้แต่ทางฟากฝั่งเอเชียเองก็เผชิญกับปัญหาภัยธรรมชาติ อย่างญี่ปุ่นในเวลานี้ รวมถึงปัญหาเงินเฟ้อที่ทะยานตัวขึ้นมากใน จีนและอินเดีย จากราคาอาหารที่เพิ่มขึ้นมา เรียกได้ว่า เป็นปัญหาที่มีผลต่อเศรษฐกิจโลกจริงๆ


    แต่เป็นประเด็นที่มีการจับตามองกันอย่างยิ่งครับในช่วงหลายสัปดาห์ ที่ผ่านมา สำหรับเรื่องราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ขยับตัวเพิ่มขึ้นไปทะลุระดับ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อันเนื่องมาจากปัญหาการประท้วงของประชาชนในประเทศกลุ่ม ตะวันออกลาง ทั้งซาอุดิอารเบีย เยเมน และในประเทศ แอฟริกาเหนืออย่าง ลิเบีย ที่ถึงขนาดมีการใช้ความรุแรงเข้าต่อสู้กัน และจนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายสัปดาห์ เหตุการณ์ความไม่สงบก็ยังไม่ได้ยุติลงแต่อย่างใด ... จนเป็นผลกระทบที่มาถึงราคาน้ำมันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ .....

    น้ำมัน ทองคำสีดำ ที่ถูกมนุษย์ขุดกระชากขึ้นมาจากใต้ดินผ่านเครื่องขุดเจาะทั้งบนบกและในทะเล เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในด้านอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อให้เศรษฐกิจของทุกประเทศขับเคลื่อน เครื่องขุดเจาะเหล่านี้ จึงเปรียบได้กับเครื่องสร้างจังหวะแห่งความหวังของเศรษฐกิจ การลงทุนและผลประโยชน์ของโลกการเงิน และน้ำมันยังซึมลึกเข้าไปสู่ระบบเศรษฐกิจของโลกอย่างขาดไม่ได้ ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่เกิดเหตุการณ์อันนำไปความกลัวว่าจะกระทบต่อปริมาณการ ผลิตน้ำมันแล้ว ย่อมสร้างความโกลาหลให้กับโลกใบนี้อย่างแน่นอน

    ล่าสุดเสียงจากลุ่มประเทศสมาชิกผู้ส่งออกน้ำมันปิโตรเลียม หรือ โอเปก อย่างประเทศ ซาอุดีอาระเบีย ออกมาระบุว่า ปัจจุบันตลาดมีปริมาณน้ำมันเพียงพอและไม่จำเป็นที่จะต้องเพิ่มกำลังการผลิต และเพิ่มปริมาณน้ำมันเข้าสู่ตลาด

    อย่างที่เรากำลังหวั่นกับเศรษฐกิจในตอนนี้ ทั้งราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ราคาอาหารที่แพงขึ้น รวมไปถึงอัตราเงินเฟ้อที่ทะยานขึ้นไป และความไม่มั่นใจต่อระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และยุโรป จนทำให้นักลงทุนหันไปลงทุนในทองคำ คอมมอดิตี้อีกประเภทหนึ่งจนราคาทองขึ้นสูงไปอยู่ที่ระดับ 1,500 เหรียญฯ ต่อออนซ์ ซึ่งสะท้อนถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจยุโรป รวมไปถึงการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรสหรัฐฯ จนทำให้เกิดการโยกย้ายเงินทุนไปสู่สินทรัพย์ที่ปลอดภัยกันอีกครั้งหนึ่ง

    จึงมีเสียงจากบรรดา บิ๊กบอสทางด้านการเงินของโลก อย่าง รอเบิร์ต เซลลิก ประธานธนาคารโลก ได้ส่งเสียงเตือนว่าวิกฤตแบบระเบิดเต็มใบอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนี้เอง อาจระเบิดได้ถ้าเศรษฐกิจโลกต้องสะดุดอีกแค่ครั้งเดียว หากสภาพปัญหาในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือแย่ลงไปอีก อาจทำการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกต้องพังลง ซึ่งหากราคาน้ำมันสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและยืดเยื้อ.. การเติบโตของโลกอาจถูกฉุดลงมา ระหว่าง 0.3% ถึง 1.2%ในปี 2011 และ 2012

    อีกเสียงหนึ่งจากไอเอ็มเอฟ โดมินิก สเตราส์-คาห์น กรรมการ ผู้จัดการ ที่บอกว่า ภาคการเงินของระบบเศรษฐกิจชั้นนำทั้งหลายยังต่องเดินหน้าซ่อมแซมแก้ปัญาหา กันต่อ รวมถึงระบบเศรษฐกิจของประเทศเกิดใหม่เกิดใหม่เติบโตร้อนแรงเกินไปหรือไม่ ขณะที่ผลกระทบจากการที่ระดับราคาอาหารและพลังงานพากันพุ่งทะยาน ก็ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงอย่างยิ่ง

    ราคาน้ำมันรวมถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีการเปลี่ยนแปลง ยังได้รับการแสดงความเป็นห่วงจาก กลุ่มประเทศทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่ อย่าง "บริคส์" ( Brazil, Russia, India And China - BRIC ) ที่ระบุว่า ความผันผวนของราคาโภคภัณฑ์ จะก่อความเสี่ยงต่อแผนฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยที่ความผันผวนอย่างรุนแรงของราคาโภคภัณฑ์ในตลาด โดยเฉพาะอาหารและพลังงานนั้น กำลังเป็นความเสี่ยงตัวใหม่

    จึงเป็นที่น่าจับตามองว่า ในยามที่เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัวขึ้นแต่กับเกิดปัญหาขึ้นมาเช่นนี้ เศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ความเสี่ยงอีกหรือไม่ เพราะหลายๆครั้งต้องบอกเลยว่าการที่น้ำมันมีราคาสูงนั้น มันส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจและการลงทุนอย่างมากเลยทีเดียว

    แน่นอนเมื่อถามถึงการเตรียมตัวที่จะรับมือต่อการลงทุนในช่วง ระยะต่อจากนี้ไปนักลงทุนต้องรับมืออย่างไรกันบ้าง ความน่าสนใจของกองทุน น้ำมันในช่วงนี้จะเป็นอย่างไร กองทุนทองคำจะน่าลงหรือไม่ ขณะเดียวกันอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้นมาตอนนี้ ตราสารหนี้จะน่าสนใจขนาดไหน

    แน่นอนครับว่าวราคาน้ำมันที่มีการขยับขึ้นมานั้น กองทุนรวมที่ลงทุนในน้ำมันต้องเป็นที่สนใจกันอย่างแน่นอน ไพศาล ครุฑดำรงชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด บอกว่า กองทุนอย่าง "กองทุนเปิดทหารไทยออยล์ฟันด์" นั้น เป็นกองทุนที่ลงทุนอยู่ในกองทุน PowerShares DB Oil Fund ที่เป็นกองทุนรวมอีทีเอฟ ที่มีนโยบายลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ซึ่งในขณะนี้นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่าราคาน้ำมันน่าจะปรับตัวสูงขึ้นไปอีกสะท้อนได้จากการเข้าซื้อสัญญาล่วงหน้าของกองทุน และยังบอกด้วยว่า "จากสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางและในลิเบีย ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น และส่งผลให้ทิศทางของราคาน้ำมันตลอดทั้งปีนี้ ไม่น่าจะลดลงไปต่ำกว่าระดับ 90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่ราคาน้ำมันอาจไม่กระโดดไปสูงหากไม่เกิดวิกฤตที่รุนแรงขึ้นอีก"

    ขณะเดียวกันอัตราดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้นนั้น ยังเป็นผลให้กองทุนตราสารหนี้มีความน่าสนใจด้วย อย่าง กองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Fund ที่ บลจ.ทหารไทย เน้นโปรโมทกับนักลงทุนอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมารวมถึงตลอทั้งปีนี้ด้วย เพราะเป็นกองทุนที่ให้ผลตอบแทนที่สูงมากเมื่อเทียบกับกองทุนตราสารหนี้อื่น ที่สำคัญยังให้ผลตอบแทน 2 เด้ง จากในส่วนของอัตราแลกเปลี่ยนด้วย รวมไปถึง กองทุนที่ลงทุนในคอมมอดิตี้อย่าง ทองคำ คือ กองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ สิงคโปร์ ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า 10% ขณะนี้จากสถานการณ์ของราคาทองคำที่สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ และมีแนวโน้มที่จะพุ่งทะยานไปอีกในปีนี้ ....

    นั่นเป็นกองทุนที่ลงทุนอยู่ในสินทรัพย์ประเภท คอมมอดิตี้ ที่ตอนนี้ให้ผลตอบแทนที่ดี แต่ก็ยังมีช่องทางการลงทุนที่น่าสนใจอยู่เสมอๆ สำหรับกองทุนรวมในบ้านเรา ล่าสุด ก็มีกองทุนประเภททาร์เก็ตฟันด์ที่เข้าไปลงทุนในสหรัฐฯ อย่าง กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล ยู เอส 10 ซีรี่ส์ 2 ที่ เน้นลงทุนกองทุนรวม (ETF) ทั้งในตราสารทุน ตราสารหนี้ เฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ส่วนที่เหลือลงทุนในตราสารทุน ตราสารหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน และเงินฝาก ซึ่งกองทุนเปิด I-US10S2 มีการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามสภาวะตลาด และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารพอร์ตการลงทุนโดยมีการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วง หน้า

    กองทุนเปิด I-US10S2 จะสามารถเลิกโครงการได้เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 11.30 บาท และตั้งเป้าหมายผลตอบแทนคืนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 11 บาทต่อหน่วยลงทุน หรือร้อยละ 10 ภายในเวลา 1 ปี แต่หากเกิน 1 ปี กองทุนจะเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถซื้อหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ และขายคืนได้ในวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์ และเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 11.10 บาทก็จะเลิกกองทุน และAuto redeem ไปยังกองทุนเปิด MM-GOV

    เช่นเดียวกับ บลจ.แอสเซท พลัส ที่ออก กองทุนเปิด แอสเซทพลัสสตาร์ (ASP-STARS) อายุ โครงการ 2 ปี พุ่งเป้าไปที่ หุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ทั้งในสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น ประมาณ 20 บริษัท และเป็นบริษัทที่เป็น Brand ระดับโลก มีการเติบโตในระดับสูง และมีราคาที่น่าลงทุนเมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าตามปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งกองทุนจะกระจายไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆทั้งตราสารหนี้ ตราสารทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนจากจังหวะการลงทุนตามภาวะเศรษฐกิจ และสถานการณ์การลงทุนในแต่ละช่วง

    และเมื่อกองทุนมีการเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุนจะรับซื้อ คืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ โดยกำหนดเป้าหมายการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนปรับขึ้นผ่าน ระดับทุก 5% ของมูลค่าหน่วยลงทุนเริ่มแรก คือ 10.50 บาท, 11.00 บาท,11.50 บาท ... เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่ลูกค้าระหว่างการลงทุน

    เป็นช่องทางการลงทุนสำหรับกองทุนรวมที่ยังมีให้เลือกหลาย หลายในช่วงนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจของโลกกำลังเผชิญกับปัญหาต่างๆ แต่โลกของการเงินการลงทุนมันยังเดินต่อไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การลงทุนพร้อมๆไปกับการบริหารความเสี่ยงยังสำคัญสำหรับนักลงทุนเสมอ...


    -http://www.manager.co.th/MutualFund/ViewNews.aspx?NewsID=9540000049759-


    .
     
  12. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    สวัสดีครับ เช้าวันจันทร์ ฝนตกไม่หนักมาก คลายร้อนได้ดีครับ
     
  13. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    วันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7452 ข่าวสดรายวัน


    เคล็ดลับเสริมสร้างสุขภาพ เมื่อโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ปัจจุบันการเดินทางของคนเมืองต้องแข่งขันกับเวลา จึงต้องมีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย และหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินเป็นประจำทุกวัน รู้หรือไม่ว่า ขณะโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินอยู่นั้นเราสามารถลดแคลอรีให้กับร่างกายได้ ด้วยเทคนิคดังต่อไปนี้

    1.การฟังเพลงเบาๆ ตลอดการเดินทาง ช่วยทำให้เรารู้สึกเพลิดเพลิน ผ่อนคลายความตึงเครียด และสุขภาพจิตดีขึ้นอีกด้วย

    2.การเดินเร็วๆ ในสถานี เป็นวิธีการ ลดน้ำหนักที่ดีอย่างหนึ่ง และยังช่วยลด ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเส้นโลหิตในสมองอักเสบ เบาหวาน มะเร็ง และโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ ได้
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=right border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    3.การใช้รถไฟฟ้า ทำให้เราไม่ต้องผจญกับแสงแดดและมลพิษ ช่วยทำให้สุขภาพผิวดี ดูอ่อนเยาว์ ไม่เสี่ยงต่อการเป็นฝ้า หรือกระ และยิ่งไปกว่านั้นทำให้เราไม่เสี่ยงต่อการเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ

    4.แขม่วหน้าท้องขณะนั่งโดยสาร นอกจากจะช่วยให้หน้าท้องของเราแบนราบโดยไม่ต้องเหนื่อยซิตอัพ ยังทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นได้อีกด้วย

    5.ข้อดีของการห้ามบริโภคน้ำ และอาหารในสถานี นอกจากจะทำให้เกิดความสะอาดภายในสถานีและไม่ก่อให้เกิดอันตรายแล้ว ยังทำให้เราไม่ทานจุกจิกขณะเดินทางจนแคลอรีพุ่งโดยไม่ รู้ตัว แถมเป็นอีกวิธีที่ช่วยลดความอ้วนได้ดีเยี่ยม
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    6.การเดินขึ้น-ลงบันไดแทนการใช้ลิฟต์หรือบันไดเลื่อน ช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ กล้ามเนื้อแข็งแรงและกระชับสัดส่วนได้ แถมใครที่อยากลดแคลลอรีใช้วิธีนี้ได้ผลดีที่สุด แถม ช่วยลดโลกร้อนได้อีกด้วย

    7.สลับมือที่ใช้โหนรถ ช่วยทำให้กล้ามเนื้อแขนแข็งแรงสม่ำเสมอ การสลับมือที่ใช้โหนนั้นยังช่วยให้ต้นแขนกระชับขึ้นได้เป็นอย่างดี

    8.ใช้กระเป๋าเป้ หรือกระเป๋าสะพายแทนดัมเบลล์ขนาดย่อม โดยการยกกระเป๋าเป้ หรือกระเป๋าสะพายขึ้น-ลง ขณะรอรถทุกวัน ทำให้คุณมีรูปร่างดีและฟิตขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ

    9.ยกเท้าขึ้น-ลง ขณะนั่งโดยสาร ทำให้กล้ามเนื้อของคุณเกิดความยืดหยุ่น และลดอาการปวดข้อเข่า และข้อเท้าได้เป็นอย่างดี

    10.การยิ้มแย้มให้กับผู้โดยสารคนอื่นๆ นอกจากจะทำให้เรามีเสน่ห์แล้ว ยังเป็นการบริหารกล้ามเนื้อใบหน้าและลดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าได้อีกด้วย
    http://www.khaosod.co.th/view_news....onid=TURNeU5nPT0=&day=TWpBeE1TMHdOQzB5TlE9PQ]
     
  14. Lee_bangkok

    Lee_bangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +4,741
    อ่านแล้วหิวจังเลยนะครับผม
     
  15. Lee_bangkok

    Lee_bangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +4,741
    วันเสาร์ตกหนักมากๆๆ แถวบ้านน้ำท่วมตลอดเลยนะ จนเลยขอบฟุตบาทมาแย้ว
     
  16. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    วันเสาร์ ลมแรงมากๆ ด้วยครับ น่ากลัว
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ทองคำขึ้น 2 รอบ ทำนิวไฮวันนี้ ทองแท่ง 21,500 บาท ทองรูปพรรณ 21,900 บาท</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>25 เมษายน 2554 13:48 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    ราคาทองคำในประเทศ ปรับขึ้น 100 บาท ทำนิวไฮ 2 รอบ เช้าวันนี้ "จิตติ" ชี้ ระดับราคาทองโลกปรับขึ้นมากว่า 80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นเรื่องที่ผิดปกติ คาดกองทุนเก็งกำไรเข้ามาปั่น ขณะที่กูรูการลงทุน เผยดอลลาร์อ่อนค่า เงินเฟ้อ ความไม่แน่นอน ศก.โลก ส่งผลให้นักลงทุนโยกเงินหนีความเสี่ยง

    สมาคมค้าทองคำ รายงานราคาทองคำในประเทศ ประจำวันที่ 25 เมษายน 2554 (วันนี้) เมื่อเวลา 11.56 น. สมาคมได้ปรับราคาทองประจำวัน โดยทองคำแท่ง รับซื้อเข้าบาทละ 21,400 บาท ขายออกบาทละ 21,500 บาท ส่วนราคาทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าบาทละ 21,087.56 บาท ขายออกบาทละ 21,900 บาท เพิ่มขึ้น 100 บาท เทียบปิดตลาดวันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2554 ที่ผ่านมา

    นายจิตติ ตั้งสิทธิภัคดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ราคาทองคำในประเทศวันนี้ ปรับสูงขึ้นอีก 100 บาท โดยช่วงเช้าวันนี้ ปรับตัวขึ้นถึง 2 รอบ ราคาขยับขึ้นครั้งละ 50 บาท ทำให้ราคาทองคำรูปพรรณและทองคำแท่งปรับสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ (นิวไฮ) ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน

    นายกสมาคมค้าทองคำ ยอมรับว่า ราคาทองที่สูงขึ้นผิดปกติ และสาเหตุน่าจะมาจากกองทุนเก็งกำไรที่ปั่นราคา เพราะตั้งต้นเดือนเมษายน 2554 จนถึงวันนี้ ราคาทองคำในตลาดโลก ปรับขึ้นมากว่า 80 ดอลลาร์ต่อออนซ์

    อย่างไรก็ตาม นายกสมาคมค้าทองคำ มองว่า ราคาทองคำไม่ควรเกิน 1,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะปรับขึ้นสูงกว่าที่ประมาณการไว้ โดยคงต้องรอดูราคาซื้อขายในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเชื่อว่าจะสะท้อนราคาที่แท้จริงมากขึ้น

    ส่วนการปรับขึ้นของราคาทองในตลาดโลก ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และจากการซื้อเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากวิกฤตการณ์เงินเฟ้อ ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่ไร้เสถียรภาพ รวมถึงสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในตะวันออกกลาง


    -http://www.manager.co.th/StockMarket/ViewNews.aspx?NewsID=9540000050590-
    .
    Stock Markets - Manager Online -

    http://www.manager.co.th/StockMarket/ViewNews.aspx?NewsID=9540000050590


    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ทองคำขึ้นไม่หยุด แรงซื้อพุ่ง-หนีดอลลาร์อ่อน แนะใจเย็นเก็บตอนราคาอ่อนตัว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>25 เมษายน 2554 09:20 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    ทองคำวิ่งไม่หยุด! โบรกเกอร์ชูปัญหาหลักดอลลาร์อ่อนค่าจัด กดดันเม็ดเงินโยกย้ายสินทรัพย์มุ่งเข้าทองคำ และตลาดหุ้นในเอเชีย ชี้หากสหรัฐฯยังไม่แก้ไขค่าเงิน แนวโน้มแตะ1,550 เหรียญ/ทรอยออนซ์มีสูง พร้อมมองระยะสั้นต้นสัปดาห์นี้มีโอกาสผันผวนปรับลงได้บ้าง แต่ภาพรวมยังขยับตัวขึ้นต่อ เตือนนักลงทุนใจเย็น ค่อยเข้าเก็บเมื่อราคาลด โดยแนวโน้มระยะยาวช่วงปลายปี มีลุ้นอาจได้เห็นทองคำแท่งแตะ 23,000 บาท ส่วนรูปพรรณมาแปลก จากเดิมยอดขายหดตัว30-40%ต่อปี แต่ช่วงสงกรานต์คนไทยแห่กันซื้อคึกคัก คาดจากเศรษฐกิจฟื้นตัว หนุนกำลังซื้อประชาชนมีเพิ่ม

    นายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ฟิวเจอร์ จำกัด ในกลุ่มแม่ทองสุก กล่าวถึงการปรับตัวของราคาทองคำในปัจจุบันว่า ปัจจัยสำคัญในขณะนี้ที่มีผลให้ราคทองคำปรับตัวสูงขึ้นมาก คือ การอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเกิดขึ้นจากการถูกปรับลดอัตราเครดิต จากสถานะปกติ เป็นสถานะติดลบ ทำให้ราคาขึ้นไปทำสถิติใหม่ยืนเหนือ1,500 เหรียญสหรัฐ/ทรอยออนซ์ โดยในประเทศไทย แม้ค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นจนหลุด 30 บาท/เหรียญสหรัฐ แต่ก็ไม่สามารถสกัดกั้นการปรับตัวของราคาทองคำได้ เห็นได้จากการปรับตัวของราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศที่อยู่ในระดับรับซื้อประมาณ 21,200 บาท และขาย 21,300 บาท

    “ตอนนี้ราคทองผ่าแนวต้านที่1,500 เหรียญไปแล้ว เป้าต่อไปที่กำลังจับตาคือแนวต้านที่1,550 -1,600 เหรียญที่มีโอกาสเช่นกัน แต่ในระยะสั้นจากราคาทองคำที่ปรับขึ้นมามาก เราพบว่าเริ่มมีแรงเทขายทำกำไรออกมาเช่นกัน จึงทำให้ราคาทองในช่วงต่อจากนี้เกิดความผันผวน ซึ่งนักลงทุนไม่ควรประมาท และทางเอ็มทีเอส ก็แนะนำให้หลีกเลี่ยงการเข้าซื้อในช่วงนี้ แต่แนะนำให้ขายทำกำไรในทองที่มีแล้ว และรอเข้าซื้อเมื่อราคาทองปรับตัวลงหลุด 1,500 เหรียญ มาอยู่แถวประมาณ 1,480 เหรียญมากกว่า ขณะที่การลงทุรนในโกลด์ฟิวเจอร์ส ก็มองว่าผู้ลงทุนสามารถเปิดสถานะShortระยะสั้นเพื่อทำกำไรได้ แต่ไม่ควรถือสัญญานานเกิน3-4 วัน”

    ทั้งนี้ เชื่อว่า หากรัฐบาลสหรัฐไม่หาวิธีแก้ไขปัญหาการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ก็จะทำให้ราคาทองยังปรับตัวสูงขึ้นต่อไป เนื่องอัตราเงินเฟ้อมีการปรับตัวขึ้นไปมาก ทำให้นักลงทุนที่ถือเงินดอลลาร์สหรัฐอยู่ ทำการแปลงสินทรัพย์มุ่งเข้าสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า หรือมีความเสี่ยงน้อยกว่าอย่างทองคำมากขึ้น โดยต่อจากนี้ต้องจับตาดูมาตรการต่างๆของรัฐบาลสหรัฐฯว่าจะเป็นเช่นไร ทั้งในเรื่องมาตรการQE2 ที่ยังต้องดำเนินการต่อเนื่อง และหลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อในประเทศสูงขึ้น และมาตรการQE3

    “ตอนนี้นอกจากทองคำแล้ว เราเห็นว่าเริ่มมีเม็ดเงินจำนวนมากไหลเข้ามาในเอเชีย รวมถึงตลาดหุ้นไทย ซึ่งดัชนีได้ปรับตัวสูงขึ้นไปมากจนทำจุดสูงสุดใหม่เช่นกัน”

    ขณะที่ ปัญหาวิกฤตหนี้สาธารณะในกลุ่มประเทศยุโรปเอง ก็ยังมีปัญหาอยู่ จึงทำให้เริ่มมีนักวิเคราะห์หลายรายมองว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และยุโรป ที่ผ่านมาไม่มีความชัดเจน ยิ่งทำให้ความต้องการโยกย้ายเม็ดเงินลงทุนไปสู่สินทรัพย์ประเภทอื่น แหล่งอื่น และทองคำมีมากขึ้น

    “สัปดาห์นี้ (25-29เม.ย.) ราคาทองคำมีโอกาสผันผวนและปรับลดลงได้ ขณะเดียวกันหากปัญหาต่างๆยังรุกลามเราก็มีโอกาสเห็นราคาขยับขึ้นไปแตะถึง 1,525 เหรียญ/ทรอยออนซ์เช่นกัน และในระยะไกลนักวิเคราะห์หลายรายก็ยังเชื่อว่าราคาทองมีโอกาสไปได้ถึง 1,600 เหรียญ ซึ่งราคาทองในประเทศน่าจะขยับขึ้นไปถึง 23,000 บาทได้”

    นายณัฐพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในฟากการซื้อขายทองคำรูปพรรณนั้น ต้องยอมรับว่าเมื่อราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นก็มีผลต่อยอดขายมาก โดยมีการปรับลดลง30-40% ต่อปี อย่างไรก็ตามในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา กลับพบว่ามีประชาชนให้ความสนใจเข้ามาซื้อทองคำรูปพรรณมากขึ้นกว่าช่วงเดิมในอดีต ทำให้ยอดขายทองรูปพรรณในช่วงเวลาดังกล่าวดีขึ้นมากกว่าที่ผ่านมา จุดนี้แสดงให้เห็นว่าเศรษบกิจของไทย ปรับตัวดีขึ้นจริง เพราะประชาชนมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นสังเกตได้จากราคาทองคำที่สูง แต่ยังได้รับความสนใจนั่นเอง

    ขณะเดียวกันเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในประเทศก็ปรับตัวสูงขึ้น และธปท.ก็ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จึงเป็นอีกปัจจัยที่สนับสนุนให้คนหันมาซื้อทองคำสะสมด้วยเช่นกัน แต่ในส่วนการขายทองคำเพื่อทำกำไรนั้น ยืนยันว่าส่วนมากยังเป็นการลงทุนและการขายทำกำไรในทองคำแท่ง มากกว่าทองรูปพรรณ

    ด้านนาย ณัฐพล คำถาเครือ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บมจ.โกลเบล็กโฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ กล่าวว่า ราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือระดับแนวต้านจิตวิทยาการลงทุนที่ระดับ 1,500 เหรียญ/ทรอยออนซ์ ได้อย่างเหนียวแน่น แม้ว่าจะมีการปรับย่อลงต่ำกว่าระดับดังกล่าวอยู่บ้างในบางเวลาก็ตาม โดยแรงหนุนสำคัญอยู่ที่การทรุดตัวลงอย่างหนักของ Dollar Index จากความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำที่ 0.00-0.25% และประกาศปกป้องการดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 2 ของตัวเองต่อไป ซึ่งทำให้ธุรกรรม Dollar Carry Trade โดยการกู้ยืมเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯที่มีต้นทุนทางการเงินต่ำ มาลงทุนในสกุลเงินหรือสินทรัพย์ลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า กลับมาเป็นปัจจัยหนุนให้ตลาดการเงินทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง ซึ่งทองคำที่มีความสัมพันธ์เชิงลบกับ Dollar Index อย่างใกล้ชิดจึงได้รับอานิสงส์เชิงบวกนี้ไปเต็มๆ

    “ปัญหาในตะวันออกกลาง วิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป และปัญหาหลังอย่างการการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาทองปรับตัวขึ้นไปมาก ระยะสั้นเราเชื่อว่ามีโอกาสได้เห็นทองคำในประเทศแตะ 21,900 -22,000 บาท ส่วนระยะไกลหรือช่วงปลายปี ก็น่าจะมีโอกาสได้เห็นราคาทองคำแตะ23,000 บาทได้เช่นกัน”

    สำหรับแนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (25 เม.ย.) นายณัฐพล กล่าวว่าให้พิจารณาที่จุดเปลี่ยนสำคัญแถวบริเวณ 1,495เหรียญ/ทรอยออนซ์ เป็นหลัก หากเปิดมาแล้วยืนเหนือได้ราคาจะปรับตัวขึ้นต่อทดสอบขอบบนของกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,515 เหรียญแต่ถ้าเปิดมาแล้วต่ำกว่า ราคาจะพักฐานในระยะสั้นทดสอบกรอบล่างแถวบริเวณ 1,475-1,485 เหรียญ ซึ่งถ้าหากพิจารณาจากข้อมูลทางสถิติในช่วงหลังเทศกาลอีสเตอร์ และปัจจัยที่เข้ามากระทบตลาดทองคำช่วงนี้ ถือว่ายังให้น้ำหนักไปในทางบวกมากกว่าทางลบ ไม่ว่าจะเป็น Dollar Index และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่ทรุดตัวลง, ราคาน้ำมันดิบที่ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง, และภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นทั่วโลก

    เพราะฉะนั้น จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ราคาทองคำจะขยับขึ้นเล่นในทางบวกไปก่อนช่วงต้นสัปดาห์ เพื่อลุ้นเก็งกำไรผลการประชุมเฟดในช่วงกลางสัปดาห์ แต่การเคลื่อนไหวในช่วงปลายสัปดาห์ยังเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะผลการประชุมเฟดที่เริ่มเสียงแตกในระยะหลัง และการเปิดเผยตัวเลขประมาณการ GDP ไตรมาส 1/2554 ครั้งที่ 1 ของสหรัฐฯที่มีแนวโน้มออกมาสดใส ตามการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงนั้นที่ออกมาค่อนข้างดี อาจเป็นปัจจัยสอดแทรกที่ทำให้ Dollar Index ฟื้นตัวกลับขึ้นมาในลำดับถัดไปได้

    โดยในเชิงกลยุทธ์การลงทุน ยังคงคำแนะนเดิมคือ ให้พิจารณที่จุดถอยบริเวณ 1,495 เหรียญเป็นหลัก หากร่วงหลุดลงมาให้ตัดใจขายทำกำไรหรือตัดขาดทุนออกมาก่อน แล้วเปิด Short Gold Futures เพื่อเก็งกำไรระยะสั้นหรือรออยู่เฉยๆ (Wait &See) หากรับความเสี่ยงได้ต่ำ แล้วซื้อกลับเมื่อราคาปรับตัวลงทดสอบแนวรับที่ระดับ1,475-1,485 เหรียญ แต่ถ้าราคายังยืนเหนือ 1,495 ได้ให้เก็งกำไรฝั่งซื้อต่อไป คาดการณ์กรอบการลงทุนที่ 1,485-1,520 เหรียญ หรือ 20,850-21,450 บาท/บาททอง


    -http://www.manager.co.th/StockMarket/ViewNews.aspx?NewsID=9540000050434-
    .


    http://www.manager.co.th/StockMarket/ViewNews.aspx?NewsID=9540000050434

    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

แชร์หน้านี้

Loading...