พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. นายเฉลิมพล

    นายเฉลิมพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +460
    สวัสดีครับคุณสิทธิพงศ์
    อยากให้อธิบายถึง อิทธิคุณ ของพระวังหน้าในแต่ละชุดว่าเด่นทางใดบ้างเพื่อเหมาะในอาชีพที่ทำอยู่ หรือความเป็นอยู่ประจำวันนะครับ

    หากเคยอธิบายไว้แล้วไม่ทราบอยู่หน้าที่เท่าไหร่ครับ ขอบคุณครับ
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อยากให้ pm มาถามมากกว่าครับ

    ส่วนที่อธิบายไว้ ผมจำไม่ได้จริงๆว่า อยู่หน้าไหนแล้วครับ

    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับงานกฐิน ของทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อาจารย์ประถม อาจสาคร

    ผมได้ส่งรายชื่อ กรรมการกฐิน ไปให้คุณปุ๊ เรียบร้อยแล้ว

    หากได้ซองกฐินมาถึงผม ผมอาจจะนัด หรือ Email หรือ โทร.ไปสอบถามเรื่องของซองกฐินว่า จะนัดพบกันอย่างไร ครับ

    โมทนาบุญทุกประการครับ
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 27 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 23 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, chantasakuldecha+, ปฐม, ผาผึ้ง </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สวัสดีตอนเที่ยงๆครับ


    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    โพสโดย พระคุณเจ้า <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->วัดบ่อเงินบ่อทอง<!-- google_ad_section_end -->

    ขอเชิญร่วมมหาอานิสงส์ รับเป็นเจ้าภาพผ้าไตรกฐิน<O:p</O:p



    เพื่อเป็นพุทธบูชา สร้างพระพุทธรูป 5 พระองค์<O:p</O:p



    เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพระภิกษุ-สามเณร ตลอดถึงอุบาสก-อุบาสิกาและมหาชน<O:p</O:p



    ทอด ณ. สำนักสงฆ์บ่อเงินบ่อทอง ต. หนองแหน อ. พนมสารคาม จ. ฉะเชิงเทรา<O:p</O:p



    ทอดกฐินสามัคคี วันอาทิตย์ ที่ 21 พฤศจิกายน 2553<O:p</O:p



    รับเป็นเจ้าภาพผ้าไตรกฐินไตรละ 1,000 บาท<O:p</O:p



    ชื่อ/นามสกุล.............................................................................................ขอรับเป็นเจ้าภาพจำนวน.............ไตร........................บาท<O:p</O:p


    โดยทางวัดเป็นผู้จัดเตรียมผ้าไตรกฐินให้ถวาย ในวันทอดส่วนปัจจัยเช่าผ้าพระกฐินนั้น จะได้ร่วมสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรม สร้างพระพุทธเจ้า 5 พระองค์เวลาถวายผ้าพระกฐิน 12.00 น.
    <O:p</O:p
    ขออานิสงส์ผลบุญในการร่วมบริจาคทรัพย์สร้างพระ พุทธรูปในครั้งนี้ ขอให้คุณโยมมีครอบครัวอันมั่นคง มีฐานะอันมั่นคง มีกิจการงานอันมั่นคง มีความร่ำรวย ๆ ๆ ๆ ในชาติปัจจุบันนี้ และเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน ในกาลเบื้องหน้านี้ เทอญ<O:p</O:p<!-- google_ad_section_end -->

    วันทอดกฐินสามัคคีของสำนักเรียนบ่อเงินบ่อทอง
    วันอาทิตย์ ที่ 21 พฤษจิกายน 2553
    โยมท่านใดจักรับเป็นเจ้าภาพผ้าไตรกฐิน ไตรละ 1,00 บาท โดยทางวัดจัดเตรียมผ้าไตรไว้ให้ถวายในวันทอด ส่วนปัจจัย 1,000 บาทนั้นได้ร่วมถวายเป็นพุทธบูชา
    สร้างพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ติดต่อได้ที่พระอาจารย์ 081-9408541 จนกว่าจะถึงวันทอด..นะ..จ๊ะ...<!-- google_ad_section_end -->


    ...........................................

    คณะครูอาจารย์ไปถวายพระพร
    [​IMG]<!-- google_ad_section_end -->



    .

    โมทนาบุญทุกประการครับ

    .



    .


    http://palungjit.org/threads/ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิต-พระเณร.21733/page-116
    .
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา pm ผม

    ข้อความส่วนตัว: สอบถามเรื่องพระที่หลางปู่เทพโลกอุดรอธิษฐานจิตยังมีให้ร่วมทำบุญอยู่หรือไม่คะ <TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] วันนี้, 03:27 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Lek2010<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Aug 2010
    ข้อความ: 42
    Groans: 0
    Groaned at 0 Times in 0 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 44
    ได้รับอนุโมทนา 154 ครั้ง ใน 27 โพส
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><CENTER>สอบถามเรื่องพระที่หลางปู่เทพโลกอุดรอธิษฐานจิตยังมีให้ร่วมทำบุญอยู่หรือไม่คะ

    </CENTER>
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>เรียนคุณสิทธิพงษ์
    ตัวดิฉันเพิ่งเข้าเว็บพลังจิตช่วงวันแม่เพราะได้ลิงค์ทำบุญซื้อที่ดินให้วัดก็เลยได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมหลายทู้และร่วมทำบุญบ้างตามโอกาสอำนวยและกำลังทรัพย์ที่จัดสรรในการทำบุญ

    ปกติตัวเองไม่ได้เล่นพระเครื่อง ไม่รู้จักว่าพระเครื่องไหนดัง รุ่นไหนแพง จำปีสรัางยังไม่ได้เลย ขนาดพระที่คุณพ่อให้มายังรู้แค่ชื่อวัดเลยปีไหนก็ไม่ทราบ พระที่ได้จากการทำบุญและมีคนเอามาให้ได้มาก็เก็บรวมๆกันได้พอสมควร แต่ที่มาถามหาพระที่หลวงปู่เทพโลกอุดรอธิษฐานจิตกับคุณสุทธิพงษ์เนื่องจากมีเหตุเกิดเมื่อประมาณสิบปีเศษได้ ตอนนั้นเพิ่งทำงานที่ต่างจังหวัดจะกลับบ้านที่กรุงเทพฯสัปดาห์ละครั้ง จำได้ว่าเย็นวันที่มาถึงกรุงเทพฯ พี่สาวอีกคนก็เพิ่งกลับจากต่างจังหวัด
    ซึ่งตัวดิฉันเองก็ไม่ทราบว่าเค้าไปจังหวัดไหนไปทำอะไรเพราะพี่สาวคนนี้เดินทางบ่อย+ไปเที่ยวบ่อยด้วย
    ซึ่งเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว พอพี่สาวกลับมาถึงก็บอกดิฉันว่ามีของมาฝาก ตัวเองตอนนั้นอยู่ๆก็หลุดปากมาเลยว่า"พระช่ายมั๊ย" พี่สาวก็งงเพราะปกติพี่เค้าจะซื้อมาฝากส่วนใหญ่เป็นของกินทั้งนั้น แต่คราวนี้เป็นพระจริงๆ
    แล้วยิ่งงงหนักเมื่อดิฉันถามอีกว่า " หลางปู่เทพโลกอุดรช่ายมั๊ย " ต้องบอกเลยว่าตัวเองหลุดชื่อนี้ออกมาได้ยังไงไม่รู้ ไม่เคยทราบมาก่อนเลยด้วยซ้ำ ประวัติเป็นไงมั่งก็ไม่เคยได้ยิน แต่หลุดปากออกมาทันทีเลย พี่สาวอึ้งไปเลยถามว่ารู้ได้ไง ก็บอกว่าไม่รู้เหมือนกัน
    เพราะก็ไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย พี่สาวเอาพระมาให้น่าจะเนื้อว่านนะคะไม่แน่ใจไม่ใช่โลหะ แต่เป็นพระใหม่ค่า
    ตอนหลังพี่สาวเล่าให้ฟังว่าไปทำบุญทอดผ้าป่า/กฐินเนี่ยแหละจำไม่ได้ทางภาคอีสานของกระทรวง ก็ไปพักที่ศาลาทั้งคณะ พอสักตี3 -ตี 4 ได้แบบยังมืดๆอยู่ก็มีคนสะกิดว่าหลวงปู่มา พี่สาวบอกเห็นแต่เงาร่างค่อนข้างสูงใหญ่แต่ไม่เห็นหน้าเพราะมืดมาก แล้วท่านก็ปาพระเครื่องลงมาให้ ก็ได้แต่ใช้มือคลำที่พื้นเอาบางคนได้บ้างไม่ได้บ้าง พี่สาวเจอข้างตัวองค์นึง พอเช้าพี่สาวเจอเพื่อนผู้ชายถือพระมา 1 องค์เค้าถามว่าพี่สาวดิฉันได้พระเมื่อคืนมั๊ย พอพี่สาวบอกว่าได้มา 1 องค์ เพื่อนเลยบอกว่างั้นองค์นี้ผมฝากให้น้องสาวแล้วกัน พี่สาวก็รับมาแต่ก็ยังงงอยู่ว่าจะให้น้องคนไหนเนื่องจากมีน้อง 2 คน คือพี่สาวอีกคน แล้วค่อยเป็นตัวดิฉันที่เป็นคนเล็ก แต่พอถึงกรุงเทพเจอดิฉันและได้ยินที่ดิฉันพูดเค้าแน่ใจแล้วว่าคงฝากมาให้ดิฉันแน่นอน

    หลังจากได้ท่านมาดิฉันเองก็อยากรู้ประวัติท่าน แต่ยิ่งอยากรู้ยิ่งหาไม่เจอ แต่มีเหตุให้ไปเที่ยวที่ไหนแล้วเลยไปทำบุญวัดในระหว่างทางที่คนพาไปแบบไม่ใช่วัดท่องเที่ยวกลับพบรูปปั้นท่านบ่อยๆ เด่วมีคนมาแจกซองกฐินวัดที่เกี่ยวข้องกับท่านตลอด หลายปี มีพี่เอาหนังศือเล่มเล็กมาให้อ่านแต่การเขียนจะเป็นเชิงเรื่องเล่าหรือนิทานที่เติมแนวโลกทิพย์อ่านแล้วก็ยังไม่เข้าใจ รูปส่วนใหญ่จะเป็นรูปนั่งของหลวงปู่องค์ที่ 4 แม้นแต่เพื่อนชวนไปนั่งสมาธิที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองจังหวัดพิษณุโลกที่มีรุปบูชาของหลวงปู่องค์ที่ 4 ดิฉันเองได้นิมนต์พระเครื่องที่ได้มาจากพี่สาวไปด้วยและอธิษฐานอยากทราบเรื่องของท่านมากขึ้น เพื่อนดิฉันบอกว่าพระอาจารย์ที่สอนวิปัสนาที่วัดนี้ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่เทพโลกอุดร เพื่อดิฉันตอนนั่งสมาธิแล้วเกิดสงสัยท่านก็พูดลอยๆเหมือนรู้และตอบปัญหา
    นั้น แต่ดิฉันนั่งสมาธิทีไรน้ำตาไหลทุกที ไหลแบบไม่ได้ร้องไห้ นั่งดูรูปนั่งของหลวงปู่องค์ที่ 4 (ตอนนั้นไม่รู้ว่ามี 5 องค์) ทำไมกลับความรู้สึกว่า หลวงปู่เทพโลกอุดรท่านน่าจะถือไม้เท้าด้วยเป็นรูปที่รู้สึกด้วยจิต ส่วนรูปนั่งเป็นรูปที่คุ้นตาจากหนังสือ ตอนนั้นก็หาคำตอบไม่ได้เพราะอะไร จะถามพระท่านก็ไม่กล้าเพราะภูมิความรู้ด้านธรรมก็น้อยนิด ประวัติหลวงปู่ก็ไม่รู้สักอย่าง ก็ได้แต่กำหนดในใจว่าหากพระท่านรู้ว่าเราสงสัยสิ่งนี้ขอให้ท่านช่วยไขทางให้ด้วย แต่สงสัยบุญคงน้อยท่านไม่ถามสักคำ เลยได้แต่เก็บข้อสงสัยต่อไป เลิกอยากรู้อยากเห็น จนเข้ามาเว็บนี้ ตอนแรกเห็นทู้นี้เหมือนกันแต่คิดว่าคงเป็นพระที่สร้างใหม่เพราะเคารพในหลวงปู่ แต่ตัวเองไม่มีความรู้เรื่องพระเครื่อง ไม่คิดจะเช่าพระดัง เก็งกำไรอะไร พุทธคุณ อิทธิคุณด้านไหนมั่งรู้บางองค์เท่านั้น เพราะลำพังพระที่ได้จากการไปวัดแล้วบูชามา หรือฝากเงินไปทำบุญแล้วเ้ค้ามอบมาให้ยังจำไม่ได้เลย เวลาระลึกถึงก็เชิญท่านทั้งหมด

    แต่พอตามไปอ่านที่ทู้ประวัติหลวงปู่ ตอนแรกก็งงๆอย่างมาก แต่พอดูรูปชัดๆถึงเข้าใจแล้ว ว่าทำไมที่ผ่านมาบางครั้งจะหลุดเรียกท่านว่าหลวงปู่ใหญ่ และทำไมจึงชอบนึกว่าต้องถือไม้เท้าอยู่เรื่อย

    เนี่ยเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องกลับมาสอบถามพระกับคุณสิทธิพงษ์นะคะ สิบปีเลยนะคะที่หาคำตอบไม่ได้สักที
    แต่ตอนนี้คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ทำให้ดิฉันเข้ามายังเว็บนี้ ดิฉันจึงได้ PM มาสอบถามเป็นการส่วนตัวเนื่องจากลงหน้าบอร์ดลงไม่เหมาะ เพราะปกติเป็นคนที่ไม่เคยเห็นอะไรด้วยตาเนื้อ ไม่ได้ปฏิบัติธรรมจนได้ญาณกับเค้า กลัวที่สุดคือการคิดไปเอง ไม่เจอกับตัวเองก็คงไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้คงถึงเวลาแล้วมังคะที่ท่านอยากให้รับรู้ ดิฉันเพียงต้องการพระที่ท่านได้อธิษฐานจิตมาบูชา ส่วนต่อไปข้างหน้าหนทางปฏิบัติธรรมจะก้าวหน้าหรือไม่ หรือจะรู้อะไรเพิ่มเติมหรือไม่ดิฉันคงไม่อยากรู้แล้วค่า เพราะเรียนรู้จากอดีตแล้วว่ายิ่งอยากรู้ยิ่งไม่พบ

    ปล่อยวางเมื่อไหร่ ได้เวลาที่เหมาะก็มาเอง

    รบกวนคุณสิทธิพงษ์ด้วยนะคะว่า
    ดิฉันต้องทำอะไรมั่ง
    แล้วต้องทำบุญให้กับโครงการไหนมั่งคะ
    ช่วยแจ้งให้ดิฉันทราบด้วยค่า
    แต่หากว่า พระที่ร่วมทำบุญหมดแล้วก็ไม่เป็นไร
    ท่านคงไม่ใช่ของเรา
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    [​IMG]

    (รูปคณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตร) ลิขสิทธิ์ของ อ.จเร แห่งบ้านดวงธรรม)
    หากจะนำไปบูชา ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ห้ามนำไปซื้อขาย และหากนำไปลงในเว็บหรือกระทู้ต่างๆ ขอให้แจ้งตามวงเล็บนี้เสมอ)

    รูปคณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตร)

    1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า
    2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า
    3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า (หลวงปู่อิเกสาโร)
    4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า (หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า หรือหลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา ลพบุรี)
    5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า (หลวงปู่หน้าปาน หรือหลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด วัดโอภาสี กรุงเทพฯ)


    โดยปกติที่เห็นหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรกันทั่วๆไปนั้น จะเป็นรูปของหลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)ครับ

    [​IMG][​IMG]
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับกระทู้ที่ผมได้อธิบายประวัติหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร ตามลิงค์ในลายเซ็นผมบรรทัดสุดท้าย หลวงปู่โลกอุดร จะเป็นกระทู้ ประวัติหลวงปู่เทพโลกอุดร http://palungjit.org/threads/ประวัติหลวงปู่เทพโลกอุดร.91379/ ซึ่งท่านอาจารย์ประถม อาจสาครเป็นผู้ที่เขียนตามนิมิตที่ได้พบ ผมเองเป็นผู้ที่เชื่อในประวัติหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร ตามที่ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร เป็นผู้ที่เขียนขึ้นเท่านั้น

    ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ตามหาหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร มานับสิบปี กว่าที่จะได้รู้ ได้ทราบ ได้เห็น เรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวข้องกับหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร ผมได้ซื้อหนังสือที่เกี่ยวข้องกับเรื่องหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดรมาอ่านหลายหลากเล่มมาก แต่สุดท้ายผมก็มาจบที่ ประวัติหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร ตามที่ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร เป็นผู้ที่เขียนขึ้นเท่านั้น

    หมายเหตุ ในคำว่า หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร ที่ผมเขียนนั้น ผมหมายถึง คณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตระ) เท่านั้น

    แต่ในความหมายของหลวงปู่เทพโลกอุดร โดยทั่วๆไป นั้นแปลได้ว่า พระภิกษุผู้อยู่เหนือโลก ซึ่งผมตีความได้ว่า หากเป็นพระอรหันต์ ก็คือโลกอุดร ผู้อยู่เหนือโลก เหนือการเกิด แก่ เจ็บ ตาย และมีอยู่เป็นจำนวนมากองค์

    ส่วนเรื่องของพระวังหน้า ที่มีการสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 และ รัชกาลที่ 5 นั้น หลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ (ในสมัยที่พระองค์ท่านดำรงตำแหน่ง พระโอรสของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า (พระองค์เจ้ายอดยิ่งยศ หรือ พระองค์เจ้ายอดยิ่งประยุรยศบวรราโชรสรัตนราชกุมาร เป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ใน พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าคุณจอมมารดาเอม) และ ดำรงตำแหน่งอุปราชวังหน้า ในสมัยรัชกาลที่ 5 ปัจจุบันท่านเป็นพระอรหันต์ และ เป็นครูฝึกในคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตระ) ซึ่งผู้ใดที่จะเรียนกับหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตระ) ทางครูฝึกจะเป็นผู้ที่สอนให้ และหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตระ) พระองค์ใดพระองค์หนึ่ง จะมาเป็นผู้ที่สอบว่า ผ่านหรือไม่ ในแต่ละครั้งของการเรียน ) มีพระบัณฑูรให้สร้างพระวังหน้า โดยผู้ที่สร้างเป็นช่างสิบหมู่แห่งวังหน้าเป็นผู้ที่ดำเนินการสร้าง และนำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่วัดบวรสถานสุทธาวาส (วังหน้า)

    รายละเอียดอื่นๆ ลองอ่านดูในกระทู้ พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้..... ดูนะครับ


    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ

    กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ (6 กันยายน พ.ศ. 2381 - 28 สิงหาคม พ.ศ. 2428 ) พระนามเดิมว่า พระองค์เจ้ายอดยิ่งยศ หรือ พระองค์เจ้ายอดยิ่งประยุรยศบวรราโชรสรัตนราชกุมาร เป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ใน พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าคุณจอมมารดาเอม
    บางตำรากล่าวว่า พระองค์เจ้ายอดยิ่งยศ ทรงพระนามว่า พระองค์เจ้ายอร์ช วอชิงตัน ตามชื่อของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนแรก จอร์จ วอชิงตัน (พ.ศ. ๒๒๗๕ - ๒๓๔๒) <SUP class=reference id=cite_ref-1>[2]</SUP>
    <TABLE class=toc id=toc sizcache="0" sizset="0"><TBODY sizcache="0" sizset="0"><TR sizcache="0" sizset="0"><TD sizcache="0" sizset="0">เนื้อหา

    [ซ่อน]
    </TD></TR></TBODY></TABLE><SCRIPT type=text/javascript>//<![CDATA[if (window.showTocToggle) { var tocShowText = "แสดง"; var tocHideText = "ซ่อน"; showTocToggle(); } //]]></SCRIPT>
    [แก้] การแต่งตั้งเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล

    เมื่อพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ไม่ได้ทรงแต่งตั้งผู้ใดขึ้นดำรงตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) เพราะในขณะนั้นพระราชโอรสพระองค์โต คือ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ยังทรงพระเยาว์เพียง ๑๒ พรรษา ทำให้เสี่ยงต่อการถูกแย่งชิงราชบัลลังก์ ฝ่ายสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ซึ่งถูกสงสัยมาตั้งแต่ครั้งพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวยังทรงพระชนม์ว่าคิดจะชิงราชสมบัติจึงได้เสนอให้ทรงแต่งตั้งพระองค์เจ้ายอดยิ่งเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล แต่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้แต่งตั้งพระองค์เจ้ายอดยิ่ง เป็น กรมหมื่นบวรวิไชยชาญ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๐ แต่ไม่ได้ตั้งให้เป็นวังหน้า
    ก่อนหน้าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจะสวรรคต ๑ วัน ได้มีการประชุมพระญาติวงศ์และขุนนาง ที่ประชุมอันมีสมเด็จเจ้าพระยามหาสุริยวงศ์ (่ช่วง บุนนาค) เป็นประธาน ตกลงที่จะแต่งตั้งกรมหมื่นบวรวิไชยชาญเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคลตามคำเสนอของพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทเวศร์วัชรินทร์ แต่เรื่องนี้ไม่เป็นมติเอกฉันท์ของที่ประชุม เพราะพระองค์เจ้าปราโมช กรมขุนวรจักรธรานุภาพ ทรงคัดค้านว่า การแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคลนั้น ตามโบราณราชประเพณีเป็นพระราชอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของที่ประชุม ซึ่งทำความไม่พอใจให้แก่สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ท่านจึงได้ย้อนถามว่า "ที่ไม่ยอมนั้น อยากจะเป็นเองหรือ" กรมขุนวรจักรธรานุภาพ จึงตอบว่า "ถ้าจะให้ยอมก็ต้องยอม" จึงเป็นอันว่าที่ประชุมเห็นสมควรที่จะแต่งตั้งกรมหมื่นบวรวิไชยชาญเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล<SUP class=reference id=cite_ref-2>[3]</SUP>
    [แก้] กรณีวิกฤตการณ์วังหน้า

    <DL><DD>ดูบทความหลักที่ วิกฤตการณ์วังหน้า
    </DD></DL>เนื่องจากสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ เป็นผู้สนับสนุนให้ได้เป็นแต่งตั้งเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ จึงทรงเกรงพระทัยสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์เป็นอันมาก
    ในช่วงต้นรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประมาณ พ.ศ. ๒๔๑๗-๒๔๑๘ ทรงริเริ่มปฏิรูปปรับปรุงการปกครองประเทศให้ทันสมัย โดย โยงอำนาจเข้าศูนย์กลาง ทรงตั้งหอรัษฎากรพิพัฒน์ (Auditing Office ปัจจุบันคือ กระทรวงการคลัง) เพื่อรวมรวมการเก็บภาษีมาอยู่ที่เดียวกัน ซึ่งกระทบกระเทือนต่อการเก็บรายได้ สร้างความไม่พอใจแก่เจ้านายและขุนนางเก่าแก่เป็นอันมาก โดยเฉพาะกรมพระราชวังบวรสถานมงคล ซึ่งเดิมมีรายได้แผ่นดินถึง ๑ ใน ๓ มีทหารในสังกัดถึง ๒๐๐๐ นาย และมีข้าราชบริพารเป็นจำนวนมาก และเกิดปฏิกิริยาโต้ตอบ มีการสะสมอาวุธ มีความขัดแย้งระหว่างวังหลวงกับวังหน้า จนเกือบจะเกิดสงครามกลางเมือง ซึ่งเรียกเหตุการณ์ขัดแย้งนี้ว่า วิกฤตการณ์วังหน้า <SUP class=reference id=cite_ref-3>[4]</SUP><SUP class=reference id=cite_ref-4>[5]</SUP>
    กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ ทรงมีความรู้ภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี และเข้าไปคบค้าสนิทสนมกับนายโทมัส น็อกซ์ กงสุลอังกฤษ ประกอบกับในสมัยนั้น อังกฤษคุกคามสยาม ถึงขั้นเรียกเรือรบมาปิดปากแม่น้ำ ทางวังหลวงจึงหวาดระแวง เชื่อว่ามีแผนการจะแบ่งดินแดนเป็นสองส่วนคือ ทางเหนือถึงเชียงใหม่ ให้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าครอง ทางใต้ให้กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญครอง นัยว่าเมื่อแบ่งสยามให้เล็กลงแล้วจะได้อ่อนแอ ง่ายต่อการเอาเป็นเมืองขึ้น
    เหตุการณ์บาดหมางเกิดขึ้นเมื่อวันหนึ่ง เกิดระเบิดขึ้นที่ตึกดินในวังหลวง ไฟไหม้ลุกลามไปถึงพระบรมมหาราชวัง ทางวังหลวงเข้าใจว่าวังหน้าเป็นผู้วางระเบิด และไม่ส่งคนมาช่วยดับไฟ ส่วนกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ ก็เสด็จหลบหนีไปอยู่ในสถานกงสุลอังกฤษไม่ยอมเสด็จออกมา เหตุการณ์ตึงเครียดนี้กินเวลาถึงสองสัปดาห์ จนกระทั่งสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์เดินทางกลับจากราชบุรี เข้ามาไกล่เกลี่ย โดยฝ่ายอังกฤษและฝรั่งเศสถือว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นการเมืองภายในของสยาม และไม่ได้เข้ามาก้าวก่าย
    กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ ทรงเป็นเจ้านายที่มีความสามารถหลายด้าน ด้านนาฏกรรม ทรงพระปรีชา เล่นหุ่นไทย หุ่นจีน เชิดหนัง และงิ้ว ด้านการช่าง ทรงชำนาญเครื่องจักรกล ทรงต่อเรือกำปั่น ทรงทำแผนที่แบบสากล ทรงสนพระทัยในแร่ธาตุ ถึงกับทรงสร้างโรงถลุงแร่ไว้ในพระราชวังบวรสถานมงคล เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๖ ทรงได้รับประกาศนียบัตรจากฝรั่งเศส ในฐานะผู้เชี่ยวชาญสาขาวิชาช่าง <SUP class=reference id=cite_ref-5>[6]</SUP>
    กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ เสด็จทิวงคตเมื่อวันศุกร์ เดือน ๙ แรม ๓ ค่ำ ปีระกา จุลศักราช ๑๒๔๗ (๒๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๒๘) พระชนมายุ ๔๘ พรรษา พระราชทานเพลิง ณ พระเมรุท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๒๙ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวไม่ได้ทรงแต่งตั้งผู้ใด ตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคลว่างลง จนถึงปีจอ พ.ศ. ๒๔๒๙ จึงทรงสถาปนาสมเด็จพระบรมโอรสธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ เป็นมกุฎราชกุมาร และยกเลิกตำแหน่งพระมหาอุปราช ตั้งแต่นั้นมา
    [แก้] พระโอรส-พระธิดา

    [แก้] ประสูติก่อนอุปราชาภิเษก

    • พระองค์เจ้าชายแฝด (ไม่มีพระนาม) (พ.ศ. ๒๔๐๐) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาหม่อมหลวงปริก เจษฎางกูร
    • พระองค์เจ้าหญิงปฐมพิสมัย (พ.ศ. ๒๔๐๕-๒๔๒๑) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดากรุด
    [แก้] ประสูติเมื่ออุปราชาภิเษกแล้ว

    • พระองค์เจ้าชายวิไลวรวิลาศ (พ.ศ. ๒๔๑๒) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเข็ม ทรงเป็นต้นสกุล วิไลยวงศ์
    • พระองค์เจ้าชายกาญจโนภาสรัศมี (พ.ศ. ๒๔๑๒-๒๔๖๓) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาปริกเล็ก ณ นคร ทรงได้รับสถาปนาเป็น กรมหมื่นชาญไชญบวรยศ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๑ ในรัชกาลที่ ๕ ทรงเป็นต้นสกุล กาญจนะวิชัย
    • พระองค์เจ้าชาย (ไม่มีพระนาม) (พ.ศ. ๒๔๑๓) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเวก
    • พระองค์เจ้าชาย (ไม่มีพระนาม) (พ.ศ. ๒๔๑๓) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาละม้าย
    • พระองค์เจ้าหญิงภัทราวดีศรีราชธิดา (พ.ศ. ๒๔๑๔-๒๔๔๒) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเลี่ยมเล็ก
    • พระองค์เจ้าชายกัลยาณประวัติ (พ.ศ. ๒๔๑๔-๒๔๗๐) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเลี่ยมใหญ่ ทรงได้รับสถาปนาเป็นกรมหมื่นกวีสุพจน์ปรีชา เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๖ ในรัชกาลที่ ๖ ทรงเป็นต้นสกุล กัลยาณะวงศ์
    • พระองค์เจ้าหญิงธิดาจำรัสแสงศรี (พ.ศ. ๒๔๑๔-๒๔๔๐) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเขียวใหญ่
    • พระองค์เจ้าหญิงฉายรัศมีหิรัญพรรณ (พ.ศ. ๒๔๑๔-๒๔๗๑) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาปุ้ย
    • พระองค์เจ้าหญิง (ไม่มีพระนาม) (พ.ศ. ๒๕๑๕) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเวก
    • พระองค์เจ้าหญิงกลิ่นแก่นจันทนารัตน์ (พ.ศ. ๒๔๑๕-๒๔๑๘) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาจั่น
    • พระองค์เจ้าชายสุทัศนนิภาธร (พ.ศ. ๒๔๑๕-๒๔๖๑) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาหม่อมหลวงนวม ปาลกะวงศ์ ทรงเป็นต้นสกุล สุทัศนีย์
    • พระองค์เจ้าชายวรวุฒิอาภรณ์ (พ.ศ. ๒๔๑๖-๒๔๕๘) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาป้อม ทรงเป็นต้นสกุล วรวุฒิ
    • พระองค์เจ้าชายโอภาสไพศาลรัศมี (พ.ศ. ๒๔๑๖-๓๕๕๐) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดากลีบ
    • พระองค์เจ้าชาย (ไม่มีพระนาม) (พ.ศ. ๒๔๑๖) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาอิน
    • พระองค์เจ้าหญิงอัปสรศรีราชกานดา (พ.ศ. ๒๔๑๖-๒๔๖๐) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาต่วน
    • พระองค์เจ้าชายรุจาวรฉวี (พ.ศ. ๒๔๑๗) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาสมบุญ สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๘ ทรงเป็นต้นสกุล รุจจวิชัย
    • พระองค์เจ้าหญิงเทวีวิไลยวรรณ (พ.ศ. ๒๔๑๘) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาสุ่นใหญ่ สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๘
    • พระองค์เจ้าชายวิบูลยพรรณรังษี (พ.ศ. ๒๔๑๙-๒๔๕๑) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเขียวเล็ก ทรงเป็นต้นสกุล วิบูลยพรรณ
    • พระองค์เจ้าชายรัชนีแจ่มจรัส (พ.ศ. ๒๔๑๙-๒๔๕๖) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเลี่ยมเล็ก ทรงได้รับสถาปนาเป็น กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๖ ในรัชกาลที่ ๖ ทรงเป็นต้นสกุล รัชนี
    • พระองค์เจ้าชายไชยรัตนวโรภาส (พ.ศ. ๒๔๑๙-๒๔๔๐) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาปริกใหญ่
    • พระองค์เจ้าหญิงวิมลมาศมาลี (พ.ศ. ๒๔๑๙-๒๔๖๔) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาจั่น
    • พระองค์เจ้าหญิงสุนทรีนาฎ (พ.ศ. ๒๔๒๓) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาสุ่นเล็ก
    • พระองค์เจ้าหญิงประสาทสมร (พ.ศ. ๒๔๒๕-๒๔๕๖) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดายิ้ม
    • พระองค์เจ้าชายบวรวิสุทธิ์ (พ.ศ. ๒๔๒๖-๒๔๕๓) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาสอาด ทรงเป็นต้นสกุล วิสุทธิ
    • พระองค์เจ้าหญิงกมุทมาลี (พ.ศ. ๒๔๒๗-๒๔๕๔) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาหม่อมราชวงศ์เชื้อ อิศรางกูร
    • พระองค์เจ้าหญิงศรีสุดสวาดิ (พ.ศ. ๒๔๒๗-๒๔๘๙) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาแข
    [แก้] อ้างอิง

    1. <LI id=cite_note-0>^ #REDIRECTuser:2T/ref/พระอนุวงศ์ชั้นหม่อมเจ้าในพระราชวงศ์จักรี <LI id=cite_note-1>^ http://www.vcharkarn.com/include/article/showarticle.php?Aid=211 <LI id=cite_note-2>^ ทิพากรวงศ์, เจ้าพระยา. พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๔ เล่ม ๒. พระนคร : โรงพิมพ์คุรุสภา, ๒๕๐๔. <LI id=cite_note-3>^ Untitled Document การแก้ไขวิกฤตชาติ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าหัว <LI id=cite_note-4>^ XREA.COM รัชกาลที่ ๕ กับการเสด็จอินเดีย พ.ศ. ๒๔๑๔ และความเข้าใจต่อการปฏิรูปแห่งรัชสมัย
    2. ^ http://www.thairath.co.th//thairath1/2548/column/bible/apr/17_4_48.php

    ที่มา กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ - วิกิพีเดีย


    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับพระวังหน้า ในปัจจุบัน ผมมอบให้กับท่านที่ร่วมทำบุญ ในกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ ซึ่งผมเองก็ไม่ได้ลงรูปพระวังหน้า

    แต่ว่า หากว่าท่านใดที่ร่วมทำบุญ ผมจะเป็นผู้ที่เลือกให้เอง

    พระวังหน้า มีการสร้างหลายๆครั้ง ผมเองแบ่งออกเป็น 2 ช่วงก็คือ

    1.สร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ. 2367 - พ.ศ.2415 (เป็นช่วงที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ยังดำรงพระชมนชีพอยู่) พระวังหน้าในช่วงนี้ จะมีทั้ง หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตระ) และหรือ สมเด็จ พระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และหรือ กลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ อธิษฐานจิต

    2.สร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ. 2416 - พ.ศ.2428 (เป็นช่วงที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ทิวงคตแล้ว) พระวังหน้าในช่วงนี้ จะมีทั้ง หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตระ) และหรือ กลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ อธิษฐานจิต ในบางพิธีมีการอาราธนาสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี มาอธิษฐานจิต(เป็นอทิสมันกาย) ก็มี

    หากมีความประสงค์ที่จะได้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร อธิษฐานจิต ก็ขอให้แจ้งผมมาว่า ต้องการในช่วงไหน ส่วนพิมพ์จะเป็นพิมพ์พระสมเด็จ หรือ รูปหล่อลอยองค์ (องค์หลวงปู่อิเกสาโร) หรือพิมพ์อื่นๆ (มีหลายร้อยพิมพ์) ผมจะเลือกให้เอง

    แต่ถ้าจะเลือกพิมพ์ที่เป็นรูปหล่อลอยองค์ (องค์หลวงปู่อิเกสาโร) ผมจะเลือกให้เอง

    เนื่องจากผมจะไม่นำรูปมาลงในเว็บครับ

    หมายเหตุ 1 ผมไม่ถ่ายรูปพระพิมพ์ลงในเว็บครับ

    หมายเหตุ พระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชานั้น เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ไม่สามารถนำไปซื้อขายในวงการพระเครื่องไทย(วงการซื้อ-ขายพระ) ได้ หากท่านต้องการพระพิมพ์(พระเครื่องที่สามารถนำไปซื้อขายในวงการพระเครื่องของเมืองไทย (วงการซื้อ-ขายพระ) ก็ไม่ต้องร่วมทำบุญและรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไป

    แต่พระพิมพ์(พระเครื่อง) ที่ผมมอบให้นั้น เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง) ที่สร้างขึ้นที่วังหน้า โดยกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ มีพระบัณฑูรให้สร้างขึ้น โดยช่างสิบหมู่แห่งวังหน้าเป็นผู้สร้าง และนำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่วัดบวรสถานสุทธาวาส (พระอุโบสถประจำวังหน้า) มีการอาราธนาคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร(คณะโสณะ-อุตระ) และ หรือ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และ หรือ กลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ (เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน , หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า , หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร , หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ เป็นต้น) อธิษฐานจิต

    แต่หากจะนำไปเพื่อเป็นพุทธานุสติ และหรือการห้อยคอเพื่อคุ้มครองตนเอง และหรือการบูชาต่างๆ เพื่อเป็นการบูชาพระคุณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกุกุกสันโธ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนาม สมณโคดม ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ( การบูชาพระคุณพระสิวลีเถระเจ้า ,พระอนุรุธเถระเจ้า ,พระอุปคุตเถระเจ้า เนื่องจากการนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกเพิ่มเติม) ,การบูชาพระคุณองค์พระมหากษัตริย์ไทยทุกๆพระองค์ ,พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ,องค์อุปราชวังหน้า รัตนโกสินทร์ทุกๆพระองค์ และทั้งช่างสิบหมู่แห่งวังหน้า ,วังหลวง ,วังหลัง ,ช่างราษฎร์ทุกๆท่านและเทพเทวาทั้ง 16 ชั้นฟ้าและที่อยู่ในองค์พระพิมพ์(พระเครื่อง)ครับ

    ซึ่งเรื่องที่ผมได้บอกนั้น เป็นความเชื่อ ,ความเห็นของผม รวมทั้งคณะของผม ซึ่งก็แล้วแต่ท่านผู้ร่วมทำบุญและท่านผู้อ่านทุกๆท่าน จะมีความคิดเห็นอย่างไร ก็สุดแล้วแต่ครับ

    โมทนาบุญทุกประการกับทุกๆท่านครับ

    [​IMG]

    หมายเหตุ หลวงปู่กลุ่มองค์อภิญญาใหญ่ หมายถึงหลวงปู่ที่อยู่ในสายหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตระ) และหรือ เป็นลูกศิษย์ของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน , หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า , หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร , หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ เป็นต้น ซึ่งหลวงปู่กลุ่มองค์อภิญญาใหญ่ ปัจจุบันอยู่ชั้นสุทธาวาส สามารถตัดเข้าสู่พระนิพพานเมื่อไหร่ก็ได้ แต่กลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ ท่านยังไปได้ไปเนื่องจาก ยังห่วงลูกหลานท่านอยู่
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ในลักษณะที่มีการ pm เข้ามาหาผม ผมคงต้องนำ pm ที่เข้ามาหาผม นำออกมาหน้าบอร์ดทุกๆครั้ง เนื่องจากประสบการณ์ที่ผ่านมา บังคับให้ผมต้องทำเช่นกัน

    ในบางครั้งเข้ามาคุย(ดีมาก)ในระยะแรกๆ แต่ไม่นาน ก็เข้ามาโจมตีผม

    และปัจจุบัน ยังมีการจ้องที่จะโจมตีผมอีก

    ในอดีต เช่น

    ชื่อกระทู้: "พระเก๊มาจากไหน"

    [​IMG]

    [​IMG]


    ผมเองก็ต้องเตรียมความพร้อมในการรับมือการโจมตีเช่นกันครับ


    .
     
  13. sittiporn.s

    sittiporn.s เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +748
    คุณหนุ่ม อย่างนี้นาสงเคราะห์ใหม? ส่งเสริมให้ได้พบของจริงตามพี่เขาไปเลย
     
  14. Lek2010

    Lek2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    8,925
    ค่าพลัง:
    +42,467
    ไปอ่านแล้วแต่ไม่จบมึนซะก่อน ปกติไม่สนใจหรือนิยมเช่าพระตามแผงพระอยู่แล้ว ถ้าจะเช่าก็จากการไปทำบุญที่วัดนั้นแล้วเช่ามาเป็นที่ระลึกในการทำบุญ ไม่เน้นแพงเพราะแพงก็ไม่รู้จะเอามาทำไม หรือเช่า/บูชาพระสร้างใหม่เพื่อร่วมทำบุญตามอัตภาพ เน้นวัตถุประสงค์การสร้างเพื่อเอาเงินนั้นไปทำบุญ หรือเห็นแล้วชอบ โดยจำนวนเงินตามอัตภาพเพราะถือว่าทำบุญได้แค่ไหนแค่นั้นโดยที่ตัวเองไม่เดือดร้อน ได้มาก็เชิญท่านเก็บไว้จนจำไม่ได้ด้วยซ้ำ

    1.ปกติหากกรณีเอาพระมาแล้วให้ร่วมทำบุญโดยโอนเข้าบ/ช ผู้นำมาร่วมทำบุญ ก็คงต้องดูประว้ติ/ความตั้งใจในการประสานงาน/ทำบุญเป็นหลัก ละร่วมในจำนวนเงินไม่ได้มากมาย ตามใจที่อยากทำบุญในวัตถุประสงค์นั้นอยู่แล้ว อาจเพิ่มนิดหน่อยหากกิเลสความอยากได้พระมีมาก แต่ถ้าต้องเพิ่มมากมายเกินความต้องการทำบุญในครั้งแรกก็คงไม่เอา ก็จะทำเท่าที่ตั้งใจไว้ก่อนหน้า เพราะส่วนที่เกินคือความอยากได้มากกว่าอยากทำบุญ ส่วนพระนั้นจะจริงหรือปลอมคงไม่ต้องการพิสูจน์หรืออยากรู้เพราะคงเก็บไปรวมเหมือนเดิม เพราะคิดว่าเงินจำนวนนั้นก็กะทำบุญอยู่แล้ว เพียงแต่จะตามเส้นทางการนำเงินที่ร่วมทำบุญไปใช้เท่านั้นว่าได้ไปทำจริงหรือไม่ผิดวัตถุประสงค์หรือเปล่ามากกว่า เพราะบางโครงการเป็นวัดเล็กๆคนทำบุญน้อยบางทีก็ร่วมทำบุญโดยไม่มีวัตถุมงคล ถึงจะเป็นจำนวนเล็กน้อยแต่ก็เป็นส่วนนึงที่ได้ทำ เพราะไม่นิยมทำอะไรมากมายเน้นทำน้อยแต่บ่อยๆฝึกจิตให้ชินกับการให้โดยไม่เสียดายและไม่หวังผลตอบแทน (อันหลังไม่หวังผลตอบแทนยังทำไม่ค่อยได้ยังโลภบุญอยู่)
    แต่หากพระที่เอามาร่วมทำบุญที่ได้มานั้นเก๊ เป็นเรื่องที่ผู้เอามาต้องเป็นผู้รับผลกรรมนั้นๆเอง หากเจตนากรรมนั้นยิ่งหนักยิ่งหลอกหลายคน ก็ยิ่งหนักมากยิ่งขึ้น ใครทำอะไรไว้ย่อมได้ผลแห่งกรรมนั้น เงินที่ได้มาเป็นเงินร้อนอยู่ได้ไม่นาน

    2. กรณีให้โอนเข้า บ/ช ขององค์กรกุศล หรือวัด อันนี้ก็ดูการนำไปใช้ประโยชน์ /หรือเพราะความอยากได้วัตถุมงคลนั้นในราคาสมควรตามอัตภาพ ไม่ดิ้นรนราคาแพงมากมายเพราะได้มาก็ทุกข์ตั้งแต่จ่ายเงินแล้ว ไหนจะห่วงเครื่องการดูแลรักษาอีก จะคล้องก็กลัวอีกว่า
    หากพระเก๊ก็นั่งเจ็บใจอีกเพราะจำนวนเงินที่มากมันเกินระดับที่ต้องการทำบุญ ส่วนที่เกินคือความอยากได้ในวัตถุมงคลมากกว่า ก็ย่อมเกิดความรู้สึกนี้เป็นธรรมดา ส่วนผู้เอาวัตถุมงคลมาร่วมให้บูชา ก้บาปหนักสองเท่าคือหลอกลวงคนที่ทำบุญ และให้วัดหรือองค์กรการกุศลนั้นได้เงินมาโดยไม่ชอบจากการเข้าใจผิดของคนที่มาทำบุญเพราะอยากได้วัตถุมงคล แต่หากเป็นพระแท้ตามที่กล่าวอ้างผู้นำมาร่วมยิ่งได้บุญหลายเท่าทั้งการให้ทาน การชักนำคนร่วมทำบุญและมีส่วนได้ทำบุญทุกๆครั้งที่มีคนเข้ามาบูชาวัตถุมงคล

    ดังนั้นในการทำบุญทุกครั้งดิฉันยึดการเต็มใจที่อยากทำ ความพอดี ไม่มากมาย ไม่เดือดร้อนเป็นหลัก ทำน้อยแต่ทำบ่อย ทำบุญเป็นวาระไม่ยึดติดกับวัดใดหรือองค์กรใดเป็นพิเศษไม่ชอบถูกตื้อให้ทำบุญ อยากทำจะทำเอง (ดังนั้นPM จากบุคคลที่ไม่เคยรู้จักไม่ต้องPM มาอยากทำเมือ่ไหร่เด่วไปหาดูในทู้เอาเอง แล้วโฆษณาสินค้าไม่ต้อง PM มาเหมือนกันเพิ่งได้รับวันนี้ ถ้าPM มาก็จะไม่ซื้อ เพราะPM คือ ข้อความส่วนตัวไม่ใช่ตลาดสำหรับขายสินค้า บรรดาท่านที่ขายของรับทราบไว้ด้วยไม่ซื้อเด็ดขาด)

    ในการทำบุญนั้นนึกเสมอว่า บุญปัจจุบันคือความสบายใจของตัวเอง บุญในอนาคตกาลจะเป็นไปยังไงไม่อาจรู้ได้ ดังนั้นหากทำบุญแล้วปัจจุบันเดือดร้อนก็คงไม่ทำ และทุกครั้งก็จะอนุโมทนาบุญกับผู้ที่นำวัตถุมงคลมาร่วมทำบุญด้วย ดังนั้นถ้าวัตถุมงคลนั้นเป็นของปลอมโดยจงใจผู้นั้นย่อมไม่ได้รับผลบุญนั้น

    ครั้งนี้อยากได้พระเนื่องจากเหตุผลส่วนตัวตามที่ได้แจ้งมา แต่หากต้องทำบุญด้วยจำนวนเงินมากมายก็คงไม่สามารถทำได้เพราะเกินกำลัง หากใช่ของที่จะได้รับก็คงได้แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่ใช่ของๆเรา ไม่ดิ้นรนที่จะตามเก็บสะสมบูชาหลายๆองค์ เพราะหากจะได้มาครอบครองย่อมมีเหตุปัจจัยชักนำเสมอ กับเรื่องที่เกี่ยวกับหลวงปู่รียนรู้มาแล้วยิ่งอยากรู้ยิ่งไม่รู้ หมดความอยากเมื่อไหร่เด่วมาเอง

    เอาเป็นว่าคุณสิทธิพงษ์ช่วยแจ้งดิฉันแล้วกันว่ากติกาการทำบุญจำนวนขั้นต่ำเท่าไหร่ เพราะอ่านทู้หลายๆอันแล้วมึน หากพิจารณาแล้วอยู่ในวิสัยและไม่เกินความต้องการที่จะทำบุญ (+ความต้องการอยากได้นิดหน่อย) ก็จะร่วมทำ แต่หากเกินกว่านั้นเป็นความอยากได้ล้วนๆก็คงจะไม่ทำ เพราะยิ่งอยากยิ่งไม่ใช่สิ่งที่ควรจะได้อันนี้จำขึ้นใจเลย
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <CENTER>มีประสบการ์ณเล่าให้ฟังครับ

    </CENTER>

    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>
    สวัสดีครับsithiphong. วันนี้นึกว่าจะไม่มีโอกาศเข้ามาอ่านกระทู้ชะแล้วละครับ ตอนเช้าวันนี้กระผมได้ไปส่งแฟนที่ทำงานหลังจากส่งลูกแล้ว ผมจะขับมอไชค์ไปเพราะสะดวกกว่ารถยนต์ ได้ตามขับตามรถสิบล้อเพราะถนนแคบ กะจะแซงด้านซ้าย ไม่รู้นึกยังไงผมได้ยินเสียงดังปังในตู้รถสิบล้อเลยกลัวของที่อยู่ในตู้จะหล่นผมเลยขับช้าๆไม่แซง

    สักพักรถสิบล้อเบรคชะลากล้อเลย รถผมเลยเบรคได้ทันพอดี เพราะขับมาช้าๆปรากฎว่าด้านขวาชนกับรถเครื่องเต็มๆหัวคนขับเกือบอยู่ใด้ล้อ ของรถสิบล้อ ตกใจลืมลงไปช่วยคนเลยผม นึกว่าสิบล้อเหยียบหัวคนขับรถมอไชค์ชะแล้ว แฟนผมตกใจหมดเลยครับเขาบอกโชคดีมากๆที่ไม่เข้าใกล้และแซงในด้านซ้ายเพราะถ้าผมแซงจังหวะนั้น รถสิบล้อจะต้องหักหลบ ชนผมกับแฟนเต็มๆเลยครับ รวมถึงรถมอไซค์คันอื่นๆด้วยแน่นนอน เพราะตามกันเป็นแถว

    โชคดีจริงๆครับsithiphong.วันนี้ผมได้ใส่พระที่sithiphong.ให้มาวันแรกเจอประสบการณ์เต็มๆเลยครับผม เหมือนกับว่าเหตุการณ์มันจะเกิดก่อนเราจะไปถึงไม่กี่วิเองนะครับ ใครไม่เจอกับตัวไม่รู้แน่เลยครับ ทุกวันนี้ต้องระมัดระวังตัวทุกวินาทีเลยนะครับsithiphong. กลับบ้านผมเลยขึ้นห้องพระไปกราบองค์สมเด็จท่านและคณะหลวงปู่และหลวงปู่โต ที่ทำให้ผมผ่านมาได้ ถ้าพระsithiphong.ใครว่าปลอม


    ผมคนนึงจะบอกถึงปลอมผมก็จะแขวนครับผมรอดปลอดภัยเพราะพระที่ห้อยนี่ละครับพูดแล้วเสียว


    -------------------------------------------------

    นำมาออกหน้าบอร์ดให้อ่านกัน แต่สงวนสิทธิ์ไม่แจ้งว่า ท่านใดส่งมาให้ครับ

    ประเด็นอยู่ที่

    1.ตัวเราต้องมีสติ อยู่ตลอด หากมีสติแล้ว ถึงเวลาขับขันสามารถที่จะแก้ปัญหาได้เป็นอย่างดี

    2.สำหรับเรื่องพระที่ห้อย เป็นส่วนหนึ่งที่ผมเชื่อว่า สามารถช่วยเหลือเราได้ในกรณีเกิดเหตุขึ้น

    3.กฎแห่งกรรม เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญมาก ต่อให้มีพระดีแค่ไหน แต่หากถึงเวลา ก็ต้องตายทุกคน เคยมีกรณีที่โจร ห้อยพระดี แต่เมื่อถึงฆาต หนีตำรวจจนมาถึงที่วัด มายังสถานที่ตาย ก็โดนยิงตาย พระอาจารย์ของโจร ก็ลงมาบอกว่า มันถึงที่ตาย เป็นที่ตายของมัน ท่านให้ขยับศพออกจากบริเวณนั้น ออกมาอีกหน่อย แล้วให้ยิง ยิงเท่าไหรก็ยิงไม่เข้า แต่พอนำศพเข้าไปบริเวณเดิม ยิงอย่างไรก็ยิงเข้าทุกนัด

    4.ยังมีเรื่องของวันเปื่อย ซึ่งเรื่องนี้ขอนำเรื่องของพี่จิ๋ว (เป็นบุตรชายของท่านอาจารย์ประถม ) มาเล่าให้ฟังว่า พี่จิ๋วห้อยพระโลกอุดร กรุแรก แต่ไปโดนหมากัน ท่านอาจารย์ประถม ท่านก็กลับมาตรวจสอบ แล้วพบว่า วันนั้น เป็นวันเปื่อย ของพี่จิ๋ว ครับ


    ที่จะขอย้ำมากๆก็คือ เรื่องของความมีสติ ครับ

    .
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    อย่างนี้ก็แล้วกัน ให้ร่วมทำบุญ แล้วแต่ศรัทธา

    ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ
    บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ


    ส่วนพระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตระ) อธิษฐานจิต ผมจะจัดส่งพระวังหน้า ที่หลวงปู่อิเกสาโร อธิษฐานจิตไปให้


    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2010
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมตอบข้อแรก

    ในเรื่องของ ปกติหากกรณีเอาพระมาแล้วให้ร่วมทำบุญโดยโอนเข้าบ/ช ผู้นำมาร่วมทำบุญ ก็คงต้องดูประว้ติ/ความตั้งใจในการประสานงาน/ทำบุญเป็นหลัก

    ผมเองก็ไม่ใช่ว่า พึ่งจะมาบอกบุญ ผมบอกบุญมานานแล้ว ในงานผ้าป่าที่ผ่านมา มีผู้ที่มาร่วมทำบุญและรับพระจากผม เป็นจำนวนเงินไม่ต่ำกว่า 300,000 บาท อย่างชุดพระกริ่งปวเรศ (ไม่มีจาร) ผมให้ร่วมทำบุญองค์ละ 20,000 บาท (มีผู้ร่วมทำบุญไป 9 ชุด) พระกริ่งปวเรศ (จารใต้ฐาน) ผมให้ร่วมทำบุญองค์ละ 40,000 บาท (มีผู้ร่วมทำบุญไป 3 ชุด)

    ถามว่า พระกริ่งปวเรศ ตามที่วงการซื้อขายพระเครื่องของเมืองไทย ยอมรับหรือไม่ว่า มีมาก ผมตอบให้ว่า ไม่ยอมรับ แต่ยังมีผู้ที่มาร่วมทำบุญและรับพระกริ่งปวเรศ จากผมไป ด้วยจำนวนเงินที่สูงพอสมควร จำนวนเงินที่ร่วมทำบุญ(เฉพาะพระกริ่งปวเรศ) รวมแล้ว 300,000 บาท ยังไม่รวมกับเงินที่ร่วมทำบุญและรับพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า , พระสมเด็จ Top of the top 4 อีกนะครับ

    ส่วนเรื่องการมอบพระ ผมเองรับผิดชอบในชีวิตใครไม่ได้ เมื่อมอบพระให้ ต้องมอบพระแท้ ผมจะบอกว่า สำหรับการห้อยพระแท้ที่ได้รับการอธิษฐานจิต องค์ผู้อธิษฐานจิตเป็นผู้ที่รับผิดชอบอยู่แล้วครับ

    ในการร่วมทำบุญ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ เดิม พระอาจารย์นิล และ พี่แอ๊ว จะให้ผมเปิดบัญชีส่วนตัวผม และให้โอนเงินเข้าบัญชีผม ผมตอบปฎิเสธไปว่า หากให้ผมทำอย่างนั้น ผมขอไม่ทำ ผมไม่ต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินทำบุญ แม้แต่ค่าจัดส่ง ผมยังไม่เคยที่จะให้ผู้ร่วมทำบุญส่งค่าจัดส่งมาให้ ผมออกของผมเอง แต่ต่อมามีพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ หลายๆท่าน มาร่วมกันออกเงินค่าจัดส่งให้ผมอีก

    เดี๋ยวมาต่อครับ
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Lek2010 [​IMG]
    ไปอ่านแล้วแต่ไม่จบมึนซะก่อน ปกติไม่สนใจหรือนิยมเช่าพระตามแผงพระอยู่แล้ว ถ้าจะเช่าก็จากการไปทำบุญที่วัดนั้นแล้วเช่ามาเป็นที่ระลึกในการทำบุญ ไม่เน้นแพงเพราะแพงก็ไม่รู้จะเอามาทำไม หรือเช่า/บูชาพระสร้างใหม่เพื่อร่วมทำบุญตามอัตภาพ เน้นวัตถุประสงค์การสร้างเพื่อเอาเงินนั้นไปทำบุญ หรือเห็นแล้วชอบ โดยจำนวนเงินตามอัตภาพเพราะถือว่าทำบุญได้แค่ไหนแค่นั้นโดยที่ตัวเองไม่เดือดร้อน ได้มาก็เชิญท่านเก็บไว้จนจำไม่ได้ด้วยซ้ำ

    1.ปกติหากกรณีเอาพระมาแล้วให้ร่วมทำบุญโดยโอนเข้าบ/ช ผู้นำมาร่วมทำบุญ ก็คงต้องดูประว้ติ/ความตั้งใจในการประสานงาน/ทำบุญเป็นหลัก ละร่วมในจำนวนเงินไม่ได้มากมาย ตามใจที่อยากทำบุญในวัตถุประสงค์นั้นอยู่แล้ว อาจเพิ่มนิดหน่อยหากกิเลสความอยากได้พระมีมาก แต่ถ้าต้องเพิ่มมากมายเกินความต้องการทำบุญในครั้งแรกก็คงไม่เอา ก็จะทำเท่าที่ตั้งใจไว้ก่อนหน้า เพราะส่วนที่เกินคือความอยากได้มากกว่าอยากทำบุญ ส่วนพระนั้นจะจริงหรือปลอมคงไม่ต้องการพิสูจน์หรืออยากรู้เพราะคงเก็บไปรวมเหมือนเดิม เพราะคิดว่าเงินจำนวนนั้นก็กะทำบุญอยู่แล้ว เพียงแต่จะตามเส้นทางการนำเงินที่ร่วมทำบุญไปใช้เท่านั้นว่าได้ไปทำจริงหรือไม่ผิดวัตถุประสงค์หรือเปล่ามากกว่า เพราะบางโครงการเป็นวัดเล็กๆคนทำบุญน้อยบางทีก็ร่วมทำบุญโดยไม่มีวัตถุมงคล ถึงจะเป็นจำนวนเล็กน้อยแต่ก็เป็นส่วนนึงที่ได้ทำ เพราะไม่นิยมทำอะไรมากมายเน้นทำน้อยแต่บ่อยๆฝึกจิตให้ชินกับการให้โดยไม่เสียดายและไม่หวังผลตอบแทน (อันหลังไม่หวังผลตอบแทนยังทำไม่ค่อยได้ยังโลภบุญอยู่)

    แต่หากพระที่เอามาร่วมทำบุญที่ได้มานั้นเก๊ เป็นเรื่องที่ผู้เอามาต้องเป็นผู้รับผลกรรมนั้นๆเอง หากเจตนากรรมนั้นยิ่งหนักยิ่งหลอกหลายคน ก็ยิ่งหนักมากยิ่งขึ้น ใครทำอะไรไว้ย่อมได้ผลแห่งกรรมนั้น เงินที่ได้มาเป็นเงินร้อนอยู่ได้ไม่นาน

    2. กรณีให้โอนเข้า บ/ช ขององค์กรกุศล หรือวัด อันนี้ก็ดูการนำไปใช้ประโยชน์ /หรือเพราะความอยากได้วัตถุมงคลนั้นในราคาสมควรตามอัตภาพ ไม่ดิ้นรนราคาแพงมากมายเพราะได้มาก็ทุกข์ตั้งแต่จ่ายเงินแล้ว ไหนจะห่วงเครื่องการดูแลรักษาอีก จะคล้องก็กลัวอีกว่า
    หากพระเก๊ก็นั่งเจ็บใจอีกเพราะจำนวนเงินที่มากมันเกินระดับที่ต้องการทำบุญ ส่วนที่เกินคือความอยากได้ในวัตถุมงคลมากกว่า ก็ย่อมเกิดความรู้สึกนี้เป็นธรรมดา ส่วนผู้เอาวัตถุมงคลมาร่วมให้บูชา ก้บาปหนักสองเท่าคือหลอกลวงคนที่ทำบุญ และให้วัดหรือองค์กรการกุศลนั้นได้เงินมาโดยไม่ชอบจากการเข้าใจผิดของคนที่มาทำบุญเพราะอยากได้วัตถุมงคล แต่หากเป็นพระแท้ตามที่กล่าวอ้างผู้นำมาร่วมยิ่งได้บุญหลายเท่าทั้งการให้ทาน การชักนำคนร่วมทำบุญและมีส่วนได้ทำบุญทุกๆครั้งที่มีคนเข้ามาบูชาวัตถุมงคล

    ดังนั้นในการทำบุญทุกครั้งดิฉันยึดการเต็มใจที่อยากทำ ความพอดี ไม่มากมาย ไม่เดือดร้อนเป็นหลัก ทำน้อยแต่ทำบ่อย ทำบุญเป็นวาระไม่ยึดติดกับวัดใดหรือองค์กรใดเป็นพิเศษไม่ชอบถูกตื้อให้ทำบุญ อยากทำจะทำเอง (ดังนั้นPM จากบุคคลที่ไม่เคยรู้จักไม่ต้องPM มาอยากทำเมือ่ไหร่เด่วไปหาดูในทู้เอาเอง แล้วโฆษณาสินค้าไม่ต้อง PM มาเหมือนกันเพิ่งได้รับวันนี้ ถ้าPM มาก็จะไม่ซื้อ เพราะPM คือ ข้อความส่วนตัวไม่ใช่ตลาดสำหรับขายสินค้า บรรดาท่านที่ขายของรับทราบไว้ด้วยไม่ซื้อเด็ดขาด)

    ในการทำบุญนั้นนึกเสมอว่า บุญปัจจุบันคือความสบายใจของตัวเอง บุญในอนาคตกาลจะเป็นไปยังไงไม่อาจรู้ได้ ดังนั้นหากทำบุญแล้วปัจจุบันเดือดร้อนก็คงไม่ทำ และทุกครั้งก็จะอนุโมทนาบุญกับผู้ที่นำวัตถุมงคลมาร่วมทำบุญด้วย ดังนั้นถ้าวัตถุมงคลนั้นเป็นของปลอมโดยจงใจผู้นั้นย่อมไม่ได้รับผลบุญนั้น

    ครั้งนี้อยากได้พระเนื่องจากเหตุผลส่วนตัวตามที่ได้แจ้งมา แต่หากต้องทำบุญด้วยจำนวนเงินมากมายก็คงไม่สามารถทำได้เพราะเกินกำลัง หากใช่ของที่จะได้รับก็คงได้แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่ใช่ของๆเรา ไม่ดิ้นรนที่จะตามเก็บสะสมบูชาหลายๆองค์ เพราะหากจะได้มาครอบครองย่อมมีเหตุปัจจัยชักนำเสมอ กับเรื่องที่เกี่ยวกับหลวงปู่รียนรู้มาแล้วยิ่งอยากรู้ยิ่งไม่รู้ หมดความอยากเมื่อไหร่เด่วมาเอง

    เอาเป็นว่าคุณสิทธิพงษ์ช่วยแจ้งดิฉันแล้วกันว่ากติกาการทำบุญจำนวนขั้นต่ำเท่าไหร่ เพราะอ่านทู้หลายๆอันแล้วมึน หากพิจารณาแล้วอยู่ในวิสัยและไม่เกินความต้องการที่จะทำบุญ (+ความต้องการอยากได้นิดหน่อย) ก็จะร่วมทำ แต่หากเกินกว่านั้นเป็นความอยากได้ล้วนๆก็คงจะไม่ทำ เพราะยิ่งอยากยิ่งไม่ใช่สิ่งที่ควรจะได้อันนี้จำขึ้นใจเลย
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    เรื่องของการ pm ผมเองไม่เคย pm ไปบอกบุญใคร ผมถือว่า ใครอยากทำ ต้องขนขวาย ใครทำใครได้ ใครกินใครอิ่ม

    วิธีการทำบุญ ยังมีเรื่องราวอีกมากมายนัก ที่หลายๆคนยังไม่รู้ ยังไม่ทราบ ปกติเท่าที่เห็น ยังไม่เคยเห็นใครทำบุญแล้วได้บุญ 100% สักคน (รวมทั้งผม) ส่วนใหญ่จะได้เพียง ไม่เกิน 50% เท่านั้น รายละเอียดบางส่วน ผมเคยลงไว้ในกระทู้พระวังหน้าฯนี้

    เรื่องของพระวังหน้า ที่มีการโจมตีว่า เก๊ หรือ ปลอม นั้น ปัจจุบันผมยังคงเหมือนเดิม คือการท้าไปสาบานที่วัดพระแก้ว และวัดโสธร หากทำตามกติกาที่ผมบอก ผมมีเงินมอบให้อีก แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าไปสาบานกับผมสักคนเดียว

    มีบางท่าน ไม่มีเงิน pm เข้ามาหาผม ขอพระวังหน้าฟรี ผมก็ให้ แต่ผมให้โดยมีเงื่อนไข มีบางท่านก็รับไปแล้ว เงื่อนไขผมก็คือ

    หากจะรับฟรี ผมมีเงื่อนไข โดยต้องตั้งจิต ตั้งสัจจะ บนเว็บครับ

    ผมให้ได้ครับ แต่ต้องมีข้อแม้ 4 ข้อคือ
    1.ต้องดูแล ช่วยเหลือ ป้องกัน ประเทศไทย ตลอดชีวิต
    2.ต้องดูแล ช่วยเหลือ ป้องกัน ศาสนาพุทธ ตลอดชีวิต
    3.ต้องดูแล ช่วยเหลือ ป้องกัน สถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดชีวิต
    4.ห้อยพระที่หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตระ) อธิษฐานจิต องค์ที่ผมได้ให้คุณ ....... ทุกวันและตลอดชีวิต ยกเว้นแต่ไม่สบาย ต้องนอนโรงพยาบาล หรือมีเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถห้อยได้เท่านั้น

    ผมขอให้ตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบานตามนี้ครับ

    "ข้าพเจ้า บุคคลที่ใช้ชื่อในเว็บพลังจิตว่า ........... ขอตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบานด้วยกาย วาจา ใจ ต่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ , พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ , พระมหาโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ ,เทพเทวาทั้ง 16 ชั้นฟ้า ,คณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะพระธรรมทูต คณะโสณะ-อุตระ) ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี , หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ และพยามัจจุราชเจ้า ว่า
    ข้าพเจ้าขอรับพระที่หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตระ) และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรมหรังสี อธิษฐานจิต ไปเพื่อสักการะบูชา ,ขอห้อยทุกวันตลอดชีวิต ยกเว้นแต่ไม่สบาย ต้องนอนโรงพยาบาล หรือมีเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถห้อยได้เท่านั้น
    และทำตามข้อแม้อีก 3 ข้อคือ
    1.ต้องดูแล ช่วยเหลือ ป้องกัน ประเทศไทย ตลอดชีวิต
    2.ต้องดูแล ช่วยเหลือ ป้องกัน ศาสนาพุทธ ตลอดชีวิต
    3.ต้องดูแล ช่วยเหลือ ป้องกัน สถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดชีวิต

    หากข้าพเจ้าทำได้ตามที่ตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบาน ขอให้ข้าพเจ้าจงประสบแต่ความสุข ความเจริญ ความสำเร็จทุกๆประการ แต่หากข้าพเจ้าทำไม่ได้ตามที่ตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบาน ขอให้ข้าพเจ้าจงประสบแต่ความทุกข์ ความเสื่อม ความล้มเหลวทุกๆประการ และขอให้มีผลโดยเร็วฉับพลันและตลอดไป

    ข้าพเจ้า ได้อ่านและเข้าใจข้อความของการตั้งจิตตั้งสัจจะและสาบานนี้โดยตลอดแล้ว และถึงแม้ว่าข้าพเจ้าไม่ได้อ่านและหรือไม่เข้าใจข้อความของการตั้งจิต ตั้งสัจจะและสาบานนี้ แต่หากว่าข้าพเจ้าได้นำข้อความการตั้งจิตตั้งสัจจะและสาบานนี้ ลงในเว็บพลังจิต ให้ถือว่าข้าพเจ้าได้เข้าใจทั้งหมดแล้วอีกทั้งยินดีในการปฎิบัติตามการตั้งจิต ตั้งสัจจะและสาบาน และนำข้อความการตั้งจิต ตั้งสัจจะและสาบานนี้ ลงในกระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....เว็บพลังจิต ในการขอรับพระวังหน้าที่หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์อธิษฐานจิต และยินดีในการปฎิบัติตามการตั้งจิต ตั้งสัจจะและสาบานนี้ และการตั้งจิต ตั้งสัจจะและสาบานนี้ มีผลในคำตั้งจิต ตั้งสัจจะและสาบานต่อข้าพเจ้าตลอดกาล"

    ผมขอให้คัดลอกข้อความในเครื่องหมาย "..." ด้านบน แล้วนำมาโพสลงในกระทู้พระวังหน้านี้ เมื่อโพสแล้วผมจะจัดส่งพระที่หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตระ)และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี อธิษฐานจิต จำนวน 1 องค์ให้ครับ

    ถามว่า ทำไมถึงต้องให้ตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบาน
    ตอบว่า ผมเองประสบกับเรื่องราวต่างๆมาอย่างมากมาย ในกระทู้พระวังหน้าฯ จึงต้องคัดเลือกการรับพระโดยต้องมีศรัทธา ,ความเชื่อ และอื่นๆ อย่างเต็มร้อย ผมจึงจะมอบให้ครับ


    เดี๋ยวมาต่อ อย่าพึ่งมึนะครับ
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Lek2010 [​IMG]
    ไปอ่านแล้วแต่ไม่จบมึนซะก่อน ปกติไม่สนใจหรือนิยมเช่าพระตามแผงพระอยู่แล้ว ถ้าจะเช่าก็จากการไปทำบุญที่วัดนั้นแล้วเช่ามาเป็นที่ระลึกในการทำบุญ ไม่เน้นแพงเพราะแพงก็ไม่รู้จะเอามาทำไม หรือเช่า/บูชาพระสร้างใหม่เพื่อร่วมทำบุญตามอัตภาพ เน้นวัตถุประสงค์การสร้างเพื่อเอาเงินนั้นไปทำบุญ หรือเห็นแล้วชอบ โดยจำนวนเงินตามอัตภาพเพราะถือว่าทำบุญได้แค่ไหนแค่นั้นโดยที่ตัวเองไม่เดือดร้อน ได้มาก็เชิญท่านเก็บไว้จนจำไม่ได้ด้วยซ้ำ

    1.ปกติหากกรณีเอาพระมาแล้วให้ร่วมทำบุญโดยโอนเข้าบ/ช ผู้นำมาร่วมทำบุญ ก็คงต้องดูประว้ติ/ความตั้งใจในการประสานงาน/ทำบุญเป็นหลัก ละร่วมในจำนวนเงินไม่ได้มากมาย ตามใจที่อยากทำบุญในวัตถุประสงค์นั้นอยู่แล้ว อาจเพิ่มนิดหน่อยหากกิเลสความอยากได้พระมีมาก แต่ถ้าต้องเพิ่มมากมายเกินความต้องการทำบุญในครั้งแรกก็คงไม่เอา ก็จะทำเท่าที่ตั้งใจไว้ก่อนหน้า เพราะส่วนที่เกินคือความอยากได้มากกว่าอยากทำบุญ ส่วนพระนั้นจะจริงหรือปลอมคงไม่ต้องการพิสูจน์หรืออยากรู้เพราะคงเก็บไปรวมเหมือนเดิม เพราะคิดว่าเงินจำนวนนั้นก็กะทำบุญอยู่แล้ว เพียงแต่จะตามเส้นทางการนำเงินที่ร่วมทำบุญไปใช้เท่านั้นว่าได้ไปทำจริงหรือไม่ผิดวัตถุประสงค์หรือเปล่ามากกว่า เพราะบางโครงการเป็นวัดเล็กๆคนทำบุญน้อยบางทีก็ร่วมทำบุญโดยไม่มีวัตถุมงคล ถึงจะเป็นจำนวนเล็กน้อยแต่ก็เป็นส่วนนึงที่ได้ทำ เพราะไม่นิยมทำอะไรมากมายเน้นทำน้อยแต่บ่อยๆฝึกจิตให้ชินกับการให้โดยไม่เสียดายและไม่หวังผลตอบแทน (อันหลังไม่หวังผลตอบแทนยังทำไม่ค่อยได้ยังโลภบุญอยู่)

    แต่หากพระที่เอามาร่วมทำบุญที่ได้มานั้นเก๊ เป็นเรื่องที่ผู้เอามาต้องเป็นผู้รับผลกรรมนั้นๆเอง หากเจตนากรรมนั้นยิ่งหนักยิ่งหลอกหลายคน ก็ยิ่งหนักมากยิ่งขึ้น ใครทำอะไรไว้ย่อมได้ผลแห่งกรรมนั้น เงินที่ได้มาเป็นเงินร้อนอยู่ได้ไม่นาน

    2. กรณีให้โอนเข้า บ/ช ขององค์กรกุศล หรือวัด อันนี้ก็ดูการนำไปใช้ประโยชน์ /หรือเพราะความอยากได้วัตถุมงคลนั้นในราคาสมควรตามอัตภาพ ไม่ดิ้นรนราคาแพงมากมายเพราะได้มาก็ทุกข์ตั้งแต่จ่ายเงินแล้ว ไหนจะห่วงเครื่องการดูแลรักษาอีก จะคล้องก็กลัวอีกว่า
    หากพระเก๊ก็นั่งเจ็บใจอีกเพราะจำนวนเงินที่มากมันเกินระดับที่ต้องการทำบุญ ส่วนที่เกินคือความอยากได้ในวัตถุมงคลมากกว่า ก็ย่อมเกิดความรู้สึกนี้เป็นธรรมดา ส่วนผู้เอาวัตถุมงคลมาร่วมให้บูชา ก้บาปหนักสองเท่าคือหลอกลวงคนที่ทำบุญ และให้วัดหรือองค์กรการกุศลนั้นได้เงินมาโดยไม่ชอบจากการเข้าใจผิดของคนที่มาทำบุญเพราะอยากได้วัตถุมงคล แต่หากเป็นพระแท้ตามที่กล่าวอ้างผู้นำมาร่วมยิ่งได้บุญหลายเท่าทั้งการให้ทาน การชักนำคนร่วมทำบุญและมีส่วนได้ทำบุญทุกๆครั้งที่มีคนเข้ามาบูชาวัตถุมงคล

    ดังนั้นในการทำบุญทุกครั้งดิฉันยึดการเต็มใจที่อยากทำ ความพอดี ไม่มากมาย ไม่เดือดร้อนเป็นหลัก ทำน้อยแต่ทำบ่อย ทำบุญเป็นวาระไม่ยึดติดกับวัดใดหรือองค์กรใดเป็นพิเศษไม่ชอบถูกตื้อให้ทำบุญ อยากทำจะทำเอง (ดังนั้นPM จากบุคคลที่ไม่เคยรู้จักไม่ต้องPM มาอยากทำเมือ่ไหร่เด่วไปหาดูในทู้เอาเอง แล้วโฆษณาสินค้าไม่ต้อง PM มาเหมือนกันเพิ่งได้รับวันนี้ ถ้าPM มาก็จะไม่ซื้อ เพราะPM คือ ข้อความส่วนตัวไม่ใช่ตลาดสำหรับขายสินค้า บรรดาท่านที่ขายของรับทราบไว้ด้วยไม่ซื้อเด็ดขาด)

    ในการทำบุญนั้นนึกเสมอว่า บุญปัจจุบันคือความสบายใจของตัวเอง บุญในอนาคตกาลจะเป็นไปยังไงไม่อาจรู้ได้ ดังนั้นหากทำบุญแล้วปัจจุบันเดือดร้อนก็คงไม่ทำ และทุกครั้งก็จะอนุโมทนาบุญกับผู้ที่นำวัตถุมงคลมาร่วมทำบุญด้วย ดังนั้นถ้าวัตถุมงคลนั้นเป็นของปลอมโดยจงใจผู้นั้นย่อมไม่ได้รับผลบุญนั้น

    ครั้งนี้อยากได้พระเนื่องจากเหตุผลส่วนตัวตามที่ได้แจ้งมา แต่หากต้องทำบุญด้วยจำนวนเงินมากมายก็คงไม่สามารถทำได้เพราะเกินกำลัง หากใช่ของที่จะได้รับก็คงได้แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่ใช่ของๆเรา ไม่ดิ้นรนที่จะตามเก็บสะสมบูชาหลายๆองค์ เพราะหากจะได้มาครอบครองย่อมมีเหตุปัจจัยชักนำเสมอ กับเรื่องที่เกี่ยวกับหลวงปู่รียนรู้มาแล้วยิ่งอยากรู้ยิ่งไม่รู้ หมดความอยากเมื่อไหร่เด่วมาเอง

    เอาเป็นว่าคุณสิทธิพงษ์ช่วยแจ้งดิฉันแล้วกันว่ากติกาการทำบุญจำนวนขั้นต่ำเท่าไหร่ เพราะอ่านทู้หลายๆอันแล้วมึน หากพิจารณาแล้วอยู่ในวิสัยและไม่เกินความต้องการที่จะทำบุญ (+ความต้องการอยากได้นิดหน่อย) ก็จะร่วมทำ แต่หากเกินกว่านั้นเป็นความอยากได้ล้วนๆก็คงจะไม่ทำ เพราะยิ่งอยากยิ่งไม่ใช่สิ่งที่ควรจะได้อันนี้จำขึ้นใจเลย
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    หลังจากผมโดนโจมตีว่า ผมนำพระปลอม มาขาย โดยอ้างงานการกุศล ก็แทบจะไม่มีผู้ที่เข้ามาร่วมทำบุญกับผมในเว็บพลังจิตอีก ถ้ามีก็จะน้อยมาก ยกเว้นแต่ผู้ที่เป็นสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า หรือ สมาชิกคณะพระวังหน้า หรือ สมาชิกกองทุนหาพระถวายวัด และ มีอีกเพียง 2 - 3 ท่านเท่านั้น

    แต่ผมเองก็ไม่ได้กังวลใดๆ เนื่องจากผู้ที่โจมตีว่า พระปลอมที่ผมนำมาขาย และแทบไม่มีผู้ที่มาทำบุญ ก็รับกันไปเอง ในเรื่องของการขวางบุญ

    พระอาจารย์นิล ท่านทุ่มเทอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นแรงกาย แรงใจ ซึ่งหลายๆท่านก็ได้เห็นกับตาของตนเอง ไม่มีความจำเป็นที่ผมจะมาบอกในเว็บว่า พระอาจารย์นิล ท่านทำอะไร อย่างไร ผมถือว่า ผมไม่สนใจว่า ใครจะรู้ ใครจะทราบ ผมสนใจแต่เบื้องบน รับรู้ รับทราบ ว่าพระอาจารย์นิลท่านทำอะไร ทำอย่างไร เพียงแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

    เช่นกันสำหรับตัวผม ผมไม่สนใจว่า ใครจะรับรู้ รับทราบในสิ่งที่ผมทำ ผมสนใจเพียงว่า เบื้องบน รับรู้ รับทราบในสิ่งที่ผมทำ มาร่วมโมทนาบุญและเป็นพยานบุญให้ผม แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

    ไม่ว่าทำอะไรก็ตาม ต้องได้รับผลของการกระทำเสมอ แม้แต่พระพุทธองค์ยังทรงหนีกรรมไปไม่พ้น
    บุพกรรมของพระพุทธองค์(เป็นลิงค์)

    โมทนาสาธุครับ
    .
     
  20. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    อิอิอิ เฟสบุ๊กเล่นครับแต่ไม่บ่อย ส่วน BB ไม่เป็นครับ
    สงสัยต้องชวนคุณหนุ่มสมัครแล้วซิครับ ของผมคนที่บ้านจัดการให้ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...