พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 132 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 131 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>psombat </TD></TR></TBODY></TABLE>
    สวัสดียามบ่ายแก่ๆครับ :)

    ขอบคุณท่านแหน่งมาก งามมั่ก ...
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มีเรื่องมาเล่าให้ฟัง

    เมื่อก่อน คุณnongnooo ได้ร่วมทำบุญกับพี่ จำไม่ได้ว่าจำนวนเงินเท่าไหร่ โดยต้องทำบุญให้ครบตามจำนวนแล้วพี่จะให้ไม้ครู คุณnongnooo ได้ร่วมทำบุญมาจนครบจำนวน

    วันที่นัดพบกันของคณะพระวังหน้า วันนั้นได้นิมนต์พระอาจารย์นิลท่านมาฉันเพลด้วย พี่เองนำไม้ครู(ประมาณ 39 ด้าม) ไปถวายท่านเพื่อบรรจุที่พระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง และพี่นำไม้ครูไปมอบให้กับคุณnongnooo อีก 1 ด้ามด้วย

    ปรากฎว่า เมื่อคุณnongnooo รับไม้ครู(ซึ่งได้รับเพียง 1 ด้าม) แล้วก็นำไปถวายพระอาจารย์นิล เพื่อบรรจุในพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งทันที

    พี่จะบอกว่า ในวันนั้น งานบุญที่ถวายไม้ครูนั้น คุณnongnooo ได้บุญเยอะกว่าพี่มาก เนื่องจากคุณnongnooo มีเพียง 1 ด้าม แต่ยังถวายเพื่อบรรจุในพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ซึ่งต่างจากพี่ที่พี่นำไม้ครูไปหลายด้ามและพี่เองยังมีอยู่ที่บ้านอีกหลายด้ามเช่นกัน

    โมทนาบุญกับคุณnongnooo และน้องpsombat ด้วยนะครับ
    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    หากเว็บพลังจิตเข้าไม่ได้ ผมจะเข้าไปที่กระทู้ พระวังหน้า , ชมรมรักษ์พระวังหน้า และ คณะพระวังหน้า นะครับ

    ที่กระทู้ พระวังหน้า , ชมรมรักษ์พระวังหน้า และ คณะพระวังหน้า จะเป็นบ้านหลังที่สาม นอกเหนือจากเว็บพลังจิต และอกาลิโก บอร์ด(อยู่ระหว่าปรับปรุง)ครับ

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 63 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 62 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สวัสดีตอนดึกไม่มากครับ

    .
     
  8. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431

    ถาม : คนที่ดูหมิ่นในความสามารถของบุคคลอื่น ในทางโลกที่ผู้ถูกดูถูกเป็นคนธรรมดา เป็นคนมีศีล เป็นคนที่เจริญฌาน เป็นผู้ที่มีจิตใจเมตตา บำเพ็ญทานรักษาศีล หรือผู้บำเพ็ญตนในวิปัสสนาญาณปรารถนาพระนิพพาน หรือคนที่ได้โมทนาบุญจากบุคคลทุกท่าน และพระทั้งหมดทั้งนิพพาน

    ตอบ:  คนดูถูกนี้ซวยแน่ๆ สรุปแค่นั้นพอ ความดีของท่านมีผลมหาศาล ตัวอย่างที่ง่ายที่สุดก็คือ นางขุชชุตตรา ท่านไม่ทราบว่าเพื่อนท่านเป็นภิกษุณีอรหันต์แล้ว ได้ขอให้เพื่อนช่วยหยิบเครื่องแต่งตัวให้หน่อยเท่านั้นเอง ต้องไปเกิดเป็นคนใช้เขา ๕๐๐ ชาติ ท่านที่ทรงความดีอยู่ก็เหมือนอย่างกับไฟ ถ้าเราปฏิบัติถูกต้องก็เป็นคุณอนันต์ ถ้าปฏิบัติผิดก็โทษมหันต์ ความดีท่านยิ่งสูงเท่าไหร่ ถ้าเราทำไม่ดีกับท่านก็ยิ่งโดนตอบแทนคืนมาแรงเท่านั้น ท่านไม่ได้ถือโทษโกรธเคืองอะไรหรอก แต่ว่ากฎของกรรมกับสิ่งที่เราทำมันจะเล่นเราเอง

    เพราะฉะนั้นสรุปได้ว่าไม่ต้องให้ถึงขนาดที่ว่ามาหรอก ขอให้คนที่มีความดีอยู่บ้างถ้าเราไปล่วงเกินเข้า มีโอกาสก็ขอขมาเสีย ไม่อย่างนั้นเกิดโทษกับตัวแน่ๆ

    ถาม : ถึงแม้จะเป็นเรื่องทั่วๆ ไปหรือครับ

    ตอบ:  เรื่องทั่วๆ ไปไม่ว่าจะอะไรก็ตาม พระอรหันต์มีคุณอนันต์ก็มีโทษมหันต์ ดังนั้นฆราวาสที่เป็นอรหันต์ท่านเลยต้องจำเป็นให้ตัดให้ตาย อยู่นานไม่ได้หรอก คนไม่รู้ไปล่วงเกินเข้าเป็นโทษแน่ๆ อย่างเช่นว่าอาจจะเคยเป็นเพื่อนฝูง เป็นลูกไล่กันมาก่อน เตะตูดเขกกบาลเล่นได้ แต่ถ้าเป็นพระอรหันต์ไปแล้วเราไปทำอย่างนั้นเราก็ซวยไม่จบ หากท่านอยู่ต่อไปจะเป็นทุกข์เป็นโทษกับคนอื่น

    ถาม : การโต้ตอบกับบุคคลที่ด่าเรา ทำไมเราจึงเลวกว่าเขาสองเท่า และถ้าเราไม่ได้ตอบ คนที่ด่าเราจะได้กลับสองเท่าหรือไม่ ?

    ตอบ:  อันนั้นต้องถามอักโกสกพราหมณ์ ที่ไปด่าพระพุทธเจ้าว่าแย่งชิงลูกศิษย์ท่านไป พระพุทธเจ้าก็นั่งฟังด่าจนจบ หายเหนื่อยแล้วใช่ไหม คราวนี้ก็ถามว่า ดูก่อนพราหมณ์ บุคคลที่มาเยือนถึงเคหาของท่านๆ ย่อมนำเอาของเคี้ยวของฉัน ตลอดจนถึงน้ำท่ามาให้เขา ถ้าเขาไม่กินไม่ใช้ ของเหล่านั้นจะตกแก่ใคร อักโกสกพราหมณ์ก็บอกว่าย่อมเป็นของข้าพเจ้าอยู่ พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า นั่นแหละที่ท่านด่ามาว่ามา ตถาคตไม่รับเสียอย่างแล้วจะตกอยู่กับใคร อักโกสกพราหมณ์ได้ฟังก็เลยได้คิด ยอมกราบพระพุทธเจ้า และกล่าวว่า ดูก่อน พระสมณโคดม ภาษิตของท่านแจ่มเจ้งยิ่งนัก เหมือนอย่างกับหงายของที่คว่ำขึ้นมา เหมือนอย่างกับประทานแสงไฟให้ผู้ที่อยู่ในความมืดอย่างนี้ แล้วท่านก็ปฏิญาณตนถึงพระรัตนตรัย นี่เป็นตัวอย่างที่เห็นชัดเจนมาก เอาตัวอย่างนี้ไปใช้ก็แล้วกัน


    [​IMG]

    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนมกราคม ๒๕๔๖(ต่อ)
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

    LINK เพิ่ม : ผลของการปรามาสหรือดูหมิ่นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2010
  9. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 61 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 60 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>psombat </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สวัสดี ... ฝันดี ... ขอให้สงบเร็วๆนะครับ
     
  10. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    ขอบคุณครับที่นำผมมาเปรียบกับท่านรองฯnongnooo ซึ่งเหตุการณ์การถวายไม้ครูดังกล่าวนั้นผมยังยอมรับนับถือมาจนปัจจุบันและจักเอาเป็นแบบอย่าง อันตัวผมเองยังห่างไกลท่านรองฯnongnooo มากครับ โมทนาสาธุบุญอีกหลายๆรอบ :)

    พูดถึงเรื่องนี้ก็ทำให้นึกถึงคุณ MEA ที่นำพระกริ่งปวเรศบรรจุกรุ รู้สึกกล่องนี้พิเศษหน่อยผมก็เลยอัญเชิญไปบรรจุไกลตัวผมหน่อย (อยู่ใต้ฐานพระ) หุหุ
     
  11. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 68 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 66 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>psombat, sithiphong+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ราตรีสวัสดิ์ครับ ขอให้ไทยสงบเร็วๆ
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    งานบุญกองทุนหาพระถวายวัด

    ได้รับแจ้งจากพี่ชนิดา ซึ่งวันนี้พี่ชนิดาจะมาอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม กกุสันโธ (จำนวน 2 ชุด) , พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม โกนาคมน (จำนวน 2 ชุด) , พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม กัสสปะ (จำนวน 2 ชุด) , พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม (จำนวน 2 ชุด) ,พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า (จำนวน 2 ชุด) ,พระธาตุพระอรหันต์ พระนาม พระสารีบุตรเถระเจ้า (จำนวน 1 ชุด) , พระธาตุพระอรหันต์ พระนาม พระโมคคัลลานะเถระเจ้า (จำนวน 1 ชุด) , พระธาตุพระอรหันต์ พระนาม พระราหุลเถระเจ้า (จำนวน 1 ชุด) , พระธาตุพระอรหันต์ พระนาม พระอุปคุตเถระเจ้า (จำนวน 1 ชุด)


    เรียนคุณหนุ่ม
    1 วันเสาร์ที่ 24 เมษายน 2553 เวลา 10.00 น พี่ชนิดาจะอัญเชิญพระบรมฯ ของชมรมรักษ์พระวังหน้าไปถวายหลวงปู่โสบิน โสปาโกโพธิ ที่วัดศิริพงศ์ธรรมนิมิต ซอยวัชรพล ถนนรามอินทรา หลวงปู่ท่านจะนำพระบรมฯไปบรรจุไว้ที่ พระเจดีย์พุทธคยาจำลอง วัดพุทธเมตตาสว่างรังษี (วัดวังปลาโด) หมู่ที่ 7 ต วังใหม่ อ บรบือ จ มหาสารคาม

    ------------------------------------------------

    ด้วยวัย 75 ปี (เมื่อปี พ.ศ.2549) ของ ‘หลวงตาโสบิน โสปาโกโพธิ’ ในวันนี้หากผู้ที่ไม่รู้จักมักคุ้น หรือไม่รู้ภูมิหลังของท่านแล้ว ก็จะเห็นท่านเป็นเพียงหลวงตาแก่ๆ รูปหนึ่ง ที่ทำหน้าที่รักษาการเจ้าอาวาสวัดเมตตาสว่างรังษี (วัดวังปลาโด) ต.วังใหม่ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม
    ทว่าเรื่องราวความเป็นมาแต่หนหลังของหลวงตาโสบินนั้นไม่ธรรมดา เพราะในอดีตท่านเคยเป็นหัวหน้าคณะสงฆ์ไทยเดินทางไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา ในฐานะพระธรรมทูต และได้ริเริ่มสร้างวัดไทยในนครลอสแองเจลิส มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งถือเป็นวัดไทยแห่งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกา และนอกจากนี้ยังเป็นผู้บุกเบิกสร้างวัดพุทธวราราม นครเดนเวอร์ รัฐโคโรราโด และด้วยความสามารถที่มีอยู่มาก ท่านจึงได้รับคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกาเป็นรูปแรกด้วย
    ตลอด 33 ปีในเพศบรรพชิตที่ท่านได้เอาใจใส่ศึกษาทั้งคันถธุระและวิปัสสนาธุระ จนได้เปรียญธรรม 4 ประโยค พร้อมกับความชำนาญในการฝึกฝนด้านวิปัสสนากรรมฐาน จนกระทั่งได้เป็นพระอาจารย์สอนปริยัติธรรมและวิปัสสนากรรมฐานหลายแห่ง
    จวบจนกระทั่งได้มีโอกาสไปเผยแผ่ธรรมในฐานะพระธรรมทูต ในสหรัฐอเมริกา และได้เปิดสอนวิปัสสนากรรมฐานให้แก่ชาวตะวันตกเป็นครั้งแรก ณ วัดพุทธวราราม จนประสบความสำเร็จ มีชาวตะวันตกให้ความสนใจมาศึกษาปฏิบัติกันอย่างมากมาย
    แต่แล้วด้วยเหตุผลในแวดวงสงฆ์ที่ท่านบอกว่า “ไม่อยาก รื้อฟื้น” ก็ทำให้ท่านต้องลาสิกขา ในวัยย่าง 50 ปี มาใช้ชีวิตในเพศฆารวาสที่ต่างแดน ด้วยการไปเป็นอาจารย์สอนวิปัสสนาให้กับลูกศิษย์ลูกหาชาวตะวันตกที่เคารพนับถือท่านมาแต่ครั้งยังเป็นบรรพชิต
    ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเผยแผ่ธรรมที่มีอยู่เต็มหัวใจ ทำให้ระยะเวลา 20 ปีในเพศฆารวาส ผ่านพ้นไปพร้อมกับการทำงานหนักในการสอนตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในอเมริกาและแคนาดา รวมทั้งเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการจัดตั้งศูนย์และสมาคมทางด้านวิปัสสนากรรมฐานอีกหลายแห่งในต่างแดน แต่สุดท้ายท่านก็ได้หวนคืนสู่ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้งหนึ่ง เมื่ออายุย่างเข้า 70 ปี ด้วยเหตุผลว่าอยากโปรดญาติพี่น้องลูกหลาน ญาติโยม ที่จังหวัดมหาสารคาม อันเป็นบ้านเกิด เพื่อให้พระพุทธศาสนาได้เป็นหลักยึดของเด็กๆ ของอนุชนรุ่นหลัง
    เราได้มีโอกาสพบกับหลวงตาโสบิน โสปาโกโพธิ หลังจากที่ท่านได้เสร็จสิ้นการอบรมวิปัสสนากรรมฐานให้กับพุทธศาสนิกชนที่สนใจ ซึ่งโครงการผู้จัดการสุขภาพจัดขึ้น ณ บ้านเจ้าพระยา ถ.พระอาทิตย์ จึงได้นิมนต์ท่านมาที่ ‘ห้องสนทนา’ ครั้งนี้ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับ ประสบการณ์การสอนปฏิบัติธรรมให้กับชาวต่างชาติ

    • ชาวต่างชาติที่มาฝึกปฏิบัติธรรมส่วนใหญ่อายุเท่าไหร่คะ
    ประมาณ 30 ปี ขึ้นไป ส่วนวัยรุ่นก็มีพวกนักศึกษารุ่นใหม่ ศาสนาพุทธกำลังจะบูมในต่างประเทศ อาศัยว่าพวกฝรั่งเขาไปสอนกันเองบ้าง และพยายามจะโปรโมทให้คนรู้จักพุทธศาสนามากขึ้น เขาไปศึกษาพุทธศาสนาจากเมืองไทย ศรีลังกา ประเทศไหนๆ เขาบอกว่ามันมีแต่คอมพิวเตอร์ มีแต่ประเพณี หาแก่นแท้ของศาสนาจริงๆ ยาก เขาสงสัยว่าแก่นแท้จริงๆ อยู่ตรงไหนกันแน่ เขาจึงไม่เชื่อว่าคนไทยหรือชาวพุทธทางเอเชียจะเข้าถึงหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า เขามาเมืองไทยเห็นคนไทยทำบุญให้ทานกัน เขาก็บอกว่ารู้สึกดีใจคนไทยมีบุญแต่ว่าไม่มีวาสนาเลย เขาตอบตรงๆ นะ เขาบอกว่าอุตสาห์เกิดที่เมืองไทยแต่ว่าเอาแต่เรื่องให้ทาน เอาแต่ประเพณี เอาแต่เรื่องเปลือก แต่เขาเกิดเมืองคริสต์กลับได้รับผลประโยชน์จากพุทธมากกว่า โดยเข้าไปสัมผัสสัจธรรมของพระพุทธเจ้า เขาจึงบอกว่าเขาไม่มีบุญ
    • มีไหมคะที่ชาวต่างชาติซึ่งไม่ได้นับถือพุทธ แต่เข้ามาเรียนรู้ปฏิบัติ
    มีทุกศาสนามีทุกรูปแบบ เขามาเพื่อพิสูจน์ว่ามีอะไรบ้าง ที่พอจะไปกันได้ มีอะไรที่เหนือกว่าเขาบ้าง หรือมันมีอะไรที่พิเศษจริงๆ อย่างบางคนเขาก็มาจำนนต่อเหตุผลหลักธรรมของพระพุทธเจ้า ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ตั้งใจจะมาฟัง พอเขามาฟังมาถามปัญหาเขายอมรับแล้วว่าคำสอนนี้สมบูรณ์ด้วยเหตุด้วยผล ถึงจะไม่มีศรัทธามันก็ต้องยอมรับ บางคนถึงกับเปลี่ยนศาสนา บางคนก็ยอมรับว่าเขาไม่นึกว่าเขาจะเป็นพุทธ แต่พอมาฟังคำสอนของพระพุทธเจ้ามันเป็นหลักสัจธรรมมันเป็นความจริง เขาต้องยอม เขาเป็นคริสต์มานานตั้งแต่บรรพบุรุษก็ได้แต่เชื่อพระเจ้าทั้งนั้น แล้วพระเจ้าอยู่ไหนจริงๆ หรือว่าช่วยชีวิตของเขาได้จริงไหมเขายังไม่รู้ แต่คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นจริงเป็นสัจจะที่ว่ามันเป็นเรื่องที่เราสร้างขึ้นเอง ไม่ใช่ว่าพระเจ้าที่ไหนจะมาสร้างโลก และแม้แต่พระพุทธเจ้าท่านก็ไม่ได้สอนให้เชื่อท่าน
    • ส่วนใหญ่พวกฝรั่งที่มาฟังธรรมปฏิบัติธรรม มีลักษณะอาการเหมือนคนไทยหรือเปล่าที่ว่าต้องให้เกิดทุกข์เสียก่อนจึงจะหันหน้าเข้าวัด
    จริงๆ แล้วฝรั่งทุกข์มากกว่าคนไทยอีก เพราะชีวิตต้องวิ่งตามเข็มนาฬิกา ทุกอย่างต้องทันเวลาอยู่ตลอด ทำให้ชีวิตเขาไม่มีเวลารีแล็กซ์ เพราะชีวิตมันต้องดิ้นรนถึงทำให้ชีวิตและประเทศชาติเจริญ ทำให้ทุกคนไม่นอนหลับทับสิทธิ์จะไม่มีนิ่งนอนใจ เมื่อเป็นเช่นนี้ทำให้ชีวิตมีความทุกข์ เพราะว่าหาเวลาเป็นตัวของตัวเองไม่ได้ เพราะฉะนั้นพวกรีไทร์เขาต้องไปท่องเที่ยวใช้ชีวิตบั้นปลาย เนื่องจากช่วงหนุ่มๆ จะไม่มีเวลา เขาจึงอยากมีโอกาสที่จะสงบมีโอกาสพักผ่อนบ้าง เรื่องมรรคผลอย่าไปพูด เพราะเขาไม่เชื่อว่าอนาคตข้างหน้ามันมีหรือไม่มีไม่รู้ ขอให้ปัจจุบันนี้ฉันรับประโยชน์จากการปฏิบัติให้เกิดความรู้ให้มีความสงบ
    • ระหว่างคนไทยกับฝรั่ง พวกไหนสอนง่ายกว่ากันคะ
    ฝรั่งสอนง่ายกว่าคนไทย เพราะเขาไม่มีแบคกราวด์เกี่ยวกับอุปาทานอะไรมากในเรื่องปฏิบัติ คนไทยเรารู้มากเลยสอนยาก และคิดว่าฝรั่งจะกลับมาสอนศาสนาพุทธในเมืองไทยในอนาคตข้างหน้า ฉันเชื่ออย่างนั้น
    • คำถามที่ฝรั่งมักจะถามบ่อยที่สุดเวลาที่พระอาจารย์ไปสอน เป็นคำถามเกี่ยวกับอะไรคะ และเขาอยากรู้อะไรในศาสนาพุทธบ้าง
    ถามบ่อยที่สุดก็คงเป็นว่าศาสนาพุทธสอนเกี่ยวกับเรื่องอะไร และจะปฏิบัติอย่างไรให้เข้าใจเรื่องกรรม หรือกรรมเท่านั้นที่จะเป็นผู้บันดาลอะไรต่ออะไร ก็เป็นเรื่องทำนองนี้ อันนี้ยากหน่อยต่อการตอบ เราก็ต้องให้เขามาปฏิบัติก่อน ให้เขาค่อยๆ เข้าใจว่าศาสนาเราสอนละเอียด พูดง่ายๆ ปฏิบัติเพื่อให้กรรมที่ทำไว้นั้นให้ผลอย่างใดอะไร ก็ต้องใช้เวลาอธิบาย แต่ส่วนมากเขาจำนนต่อความเป็นจริงมากกว่า

    • แล้วหลวงตามีวิธีสอนหรืออธิบายเรื่องกรรมให้พวกเขาเข้าใจได้ง่ายๆ อย่างไรคะ
    ไม่ต้องไปอ้างพระพุทธเจ้า ไม่ต้องไปอ้างพระเจ้า มีในศาสนา แต่บอกว่ายูเท่านั้นเป็นคนสร้างนรก สวรรค์ สร้างนิพพาน ให้ยูเอง คือถ้ายูไม่ต้องการสร้างความทุกข์ในชีวิต ก็ต้องปฏิบัติตัวยูเอง อย่าเกิดมาซะซิ ทำอย่างไรถึงจะไม่เกิดอีก เพราะเมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว ยูจะกลัวตายยังไงก็หนีตายไม่พ้น เบื้องต้นเราไม่แตะเรื่องศาสนาและเราก็ไม่พยายามเอาเรื่องพระพุทธเจ้าไปยุ่ง พยายามเน้นให้เขายอมรับ ยกตัวอย่างว่าเราต้องการพิสูจน์ความจริงเกี่ยวกับอะไรถ้าเกี่ยวกับรูปเกี่ยวกับวัตถุ มันมีที่ไหนที่จะสิ้นสุด ถ้าเราจะมาพิจารณาในเรื่องสังขารร่างกายมันมีอันเป็นไปเปลี่ยนแปลงไป แล้วมันจะได้อะไรจากการพิจารณาเหล่านี้ ถ้าเราจะมาพิสูจน์เรื่องจิต ใจมันก็ไม่มีอะไรพิสูจน์ได้ แม้แต่หลักวิทยาศาสตร์ก็พิสูจน์ได้แต่รูป
    แต่หลักของการปฏิบัติธรรม เราบอกว่าให้รับรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันจะมีปัจจัยสืบเนื่องกันให้มันเป็นวัฏจักรให้มันเป็นวงจรของชีวิตของสรรพสิ่งในโลกนี้ ไม่ว่าทางรูปธรรมมันก็ต้องอิงอาศัยซึ่งกันและกัน อย่างในธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ มันจะเป็นมิตรกันอยู่ ธาตุดินกับธาตุน้ำมันอาศัยกัน ถ้าไม่มีน้ำดินก็อยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีดินน้ำก็อยู่ไม่ได้ ไฟกับลมก็คู่กัน แต่ในธาตุทั้ง 4 เหล่านี้มันจะเบียดเบียนกันอยู่ในตัว ธาตุไฟเป็นศัตรูกับธาตุน้ำ ธาตุลมเป็นศัตรูกับธาตุดิน เป็นวิทยาศาสตร์ที่เขาเข้าใจได้ เราก็อธิบายให้เขาเข้าใจ เขาเรียกว่าเหตุปัจจัย เพราะมันมีนี้มันถึงมีนั้นเพราะอันนั้นเกิดเพราะอันนี้

    • มีไหมคะที่ฝรั่งฟังแล้วได้ข้อคิดอะไรมากขึ้น ก็จะไปชวนเพื่อนๆ มา เหมือนคนไทยที่พอมาวัดนี้พระท่านสอนดีก็จะชวนเพื่อนๆ มากันอีก
    ก็มีเหมือนกันนะ แต่ถ้าเพื่อนเขาไม่มีอุปนิสัย ก็คิดว่ายูไปเถอะถ้ายูเห็นว่าดี
    • การไปสอนธรรมให้ชาวต่างชาตินั้น เป็นพระสงฆ์กับเป็นฆารวาสแตกต่างกันไหม
    อันนี้รู้สึกว่าอยู่ในเพศฆราวาสคล่องตัวกว่านะ เพราะฉะนั้นเลยทำให้พวกมหายานเขาไปได้ดี เพราะหนึ่งนะความรู้สึกของพวกชาวต่างชาติเขาจะไม่มีความตะขิดตะขวงใจในการไปคุยไปสนทนาหรือว่าไปหาผู้สอนที่เป็นฆารวาส แต่ถ้าเขามาหาพระเราเนี่ยระเบียบมันจัด เรื่องมันเยอะ ต้องให้เขานั่งพับเพียบบ้าง พระบางรูปที่เรียกว่าไปอยู่ใหม่ๆ ถ้านั่งแบบฝรั่งก็บอกว่าไม่สวย ไม่เรียบร้อย ไม่เคารพไม่อะไรต่อไร พอไปแสดงออกอย่างนั้นฝรั่งบางคนก็คิดว่า ยูเป็นใครยูก็คนเหมือนกัน ปกติเขาก็หาว่าคนเอเซียเป็นกะเหรี่ยงอยู่แล้วใช่ไหม แล้วยังไปบอกให้เขาทำตามอีก
    • ถ้าอย่างนั้นอยู่ในเพศบรรพชิตจะได้รับความเคารพนับถือดีกว่าหรือเปล่า
    ไม่เชิง แต่เขาก็ให้เกียรติเรื่องยูนิฟอร์ม เขาจะถือเป็นประเพณีเขา ในความหมายของฝรั่งเขาไม่ถือว่าเราอยู่ในเพศบรรพชิตแล้วต้องปฏิบัติให้เคร่งให้บรรลุมรรคผลนิพพาน เขาจะไม่สนใจจุดนั้น เขาสนว่าเมื่อมาบวชในทางศาสนาของเราแล้วควรจะอยู่ในขอบเขต ส่วนจุดที่ว่าเราเหนือกว่าเขาในความรู้สึกของไทยว่าอยู่ในผ้ากาสาวพัสตร์ไม่มีสำหรับเขา เขาจะคิดว่าเป็นเครื่องแต่งตัวแบบหนึ่ง เป็นเครื่องหมายของนักบวชชาวพุทธเท่านั้นเอง
    เขาคิดว่าเราก็ยังเป็นคนแต่ทำไมยกตนขึ้นให้สูงนัก และทำไมพระจะต้องพิเศษกว่าชาวบ้าน เขาเข้ามาหาเราแล้วเราจะเอาประเพณีไปบอกไปสั่งให้เขาทำอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ได้ ฝรั่งมีความรู้สึกว่าอีโก้ เขาต้องเหนือกว่าเพราะเขาเป็นประเทศที่เจริญเรื่องอารยธรรมมาก่อนเรา ถ้าจะพูดกันไปเราก็ยังเป็นอะไรที่ด้อยพัฒนาอยู่ที่จะไปสอนเขา ถ้าเขาไม่ยอมรับความสามารถความรู้จริงเขาจะไม่ถือว่าเป็นอาจารย์เขา
    • แสดงว่าส่วนใหญ่พระที่อยู่ต่างประเทศมักเอาประเพณีคนไทยไปสอนฝรั่ง
    90 % เลย เพราะส่วนใหญ่คิดว่าตัวเองเป็นพระมีทิฐิพระ ต้องสั่งให้เขาทำตาม ยิ่งไปสอนฝรั่งอยากจะโชว์อ๊อฟ ไปใช้เขาทำโน่นทำนี่ แต่ฝรั่งคิดว่าเขาไม่ได้มาอาสาเป็นคนงานของยูนะ นี่คือความเคยตัวของพระไทยเรา ฝรั่งส่วนมากเขาจะมาพิสูจน์ดูว่าคำสอนของพระพุทธเจ้าจะช่วยเขาได้อย่างไร ส่วนเรื่องมรรค ผล นิพพาน เขาจะไม่ติดใจจุดนั้น เขาถือว่าเป็นเรื่องของผลของศาสนายู ดังนั้นพอเราไปพูดเรื่องปริยัติเขาบอกเขาอ่านตำราก็รู้แล้ว เขาไม่สนใจ
    ต้องดูว่าธรรมที่เอาไปเผยแผ่ให้เขานี่เขาต้องการไหม มันเป็นแนวปฏิบัติหรือเป็นหลักปริยัติหรือเป็นธรรมประเภทที่จะใช้ได้ผลในชีวิตประจำวันของเขาแค่ไหนอย่างไร ส่วนนี้ที่เขาต้องการจากเรามาก เราสนองเขาได้ไหม
    • มีไหมคะที่พระบางรูปปฏิบัติตัวไม่เหมาะสมจนทำให้ชาวต่างชาติเสื่อมศรัทธา
    มันก็มีเป็นธรรมดา เป็นช่วงที่จะให้ศาสนาเสื่อมมันก็เอาแต่จุดที่บกพร่องมาตีแผ่กัน มันก็เป็นไปตามยุคตามสมัย เพราะพระที่ท่านไปท่านก็ไปตามรูปแบบไปตามที่อบรมพระธรรมทูตบ้าง ยกตัวอย่างง่ายๆ จะไปเปิดร้านอาหาร ถ้าไปเรียนปรุงอาหารไม่กี่วันมันจะไปมีความชำนาญเหมือนกับที่เขาเป็นแม่ครัวพ่อครัวประจำได้ไง มันเป็นแบบนั้น แต่ไม่ใช่โจมตีท่านที่ไปกันทุกองค์ เพราะส่วนใหญ่ก็เสียสละต่อสู้กับอากาศหนาวบ้างอะไรบ้าง
    แต่ว่าส่วนที่มุ่งที่จะเอาไปฝากเขามันยังไม่พร้อม ยังไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ อย่างที่พูดไปว่าอยากให้เขาเข้ามาวัดแล้วมาทำแบบคนไทยเราให้มากราบพระ ให้มานอบน้อมพระสงฆ์ให้มาอะไรต่ออะไร เขายอมรับไม่ได้ แต่เราก็ต้องใช้เวลา ถ้าเขาเข้าใจแล้วเขาก็ให้เกียรติเรา ฝรั่งถึงว่าสอนง่าย ถ้าถูกเขาก็ยอมรับว่าถูก ถ้าผิดเขาก็ว่าผิด ถ้าเยสก็เยส ถ้าโนก็ไม่ต้องพูดอีก มันไม่เอาทั้งนั้น

    • เรื่องการทำบุญในกิจกรรมต่างๆ ที่พระไทยอาจจะบอกบุญกับญาติโยมได้ เพราะคนไทยชอบทำบุญอยู่แล้ว แต่ไปบอกบุญลักษณะอย่างนี้กับฝรั่งเขาจะทำไหมคะ
    ส่วนมากเขาทำนะ ถ้าเราไปอธิบายเหตุผลให้เขาฟัง พวกฝรั่งไม่ชอบให้ทานโดยไม่มีเหตุไม่มีผล อย่างที่ตอนนี้ฉันกำลังจะสร้างเจดีย์พุทธคยาจำลอง และพระพุทธรูปหยกขาว ที่วัดวังปลาโด ฉันก็บอกไปว่าจะสร้างไว้ให้เป็นประวัติศาสตร์ให้เป็นอนุสรณ์ ภายในเจดีย์จะเป็นแบ่งเป็นห้องปฏิบัติกรรมฐาน ห้องสำหรับผู้ที่จะอยู่ปฏิบัตินานๆ ได้ ห้องบรรยายธรรม และห้องที่ประดิษฐานพระพุทธเมตตาที่ทำจากหยกขาวที่ว่านี่แหละ เท่ากับว่าสร้างเจดีย์บนตึกให้มันได้ประโยชน์ให้มันได้ใช้
    • จุดมุ่งหมายในชีวิตสุดท้ายแล้วก็คือการสร้างเจดีย์ให้สำเร็จหรือว่ามีอะไรมากกว่านี้อีกไหมคะ
    เจดีย์เป็นเพียงวัตถุที่จะให้ลูกหลานเหลนได้กราบได้ไหว้ ได้ใช้ประโยชน์เท่านั้น แต่ในใจจริงๆ ที่ฉันกลับเข้ามาบวชครั้งนี้คิดว่าเพื่อเตรียมตัวตายอย่างเดียว ไม่เอาอะไรแล้ว ผ่านมาหมดแล้ว สร้างวัดมาหลายวัดแล้ว สอนคนมาตั้ง 40 กว่าปีแล้ว ทุกอย่างมันก็ควรจะพอ อายุป่านนี้แล้ว คิดว่าพอทีสำหรับประโยชน์ส่วนรวม เอาประโยชน์ส่วนตนบ้าง
    ประโยชน์ส่วนตนในที่นี้ก็คือในเมื่อเราเป็นครูเขาเราก็ได้แต่เป็นผู้แนะเป็นผู้สอน แต่ก็ปฏิบัติเหมือนกัน แต่ยังไม่ได้ปฏิบัติจนถึงกับว่าสอนให้เขาทำ เป็นผู้นำทำให้เขาดู เพราะฉะนั้นเลยอยากจะนั่งกรรมฐานจนตายให้คนดูในความหมายจริงๆ นะ คือพอเสร็จเจดีย์นี้จะสร้างวิหารหลังหนึ่ง ตั้งใจไว้อย่างนั้น จะนั่งอยู่ตรงนั้นเป็นหรือตายก็อยู่ตรงนั้น นี่คือความรู้สึกส่วนลึก แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงแล้วแต่เหตุปัจจัยแล้วแต่บุญบารมี แต่ว่าวางแผนไว้อย่างนั้น

    แม้จะลงหลักปักฐานที่วัดวังปลาโดแล้ว แต่ทุกวันนี้หลวงตาโสบินยังคงต้องเดินทางไปเยี่ยมเยือนศูนย์ปฏิบัติธรรมในอเมริกาที่ท่านได้ริเริ่มก่อตั้งไว้ว่าเจริญงอกงามไปเพียงใด ส่วน เจดีย์พุทธคยาจำลอง ก็กำลังเดินหน้าก่อสร้างไปเรื่อยๆ พุทธศาสนิกชนท่านใดที่ประสงค์อยากจะร่วมบุญกับหลวงตา ก็ติดต่อไปได้ที่ โทร. 043-727-182 และ 08-1975-7439

    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 10 กรกฎาคม 2549 11:46 น.
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    งานบุญกองทุนหาพระถวายวัด

    ได้รับแจ้งจากพี่ชนิดา ซึ่งวันนี้พี่ชนิดาจะมาอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม กกุสันโธ (จำนวน 2 ชุด) , พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม โกนาคมน (จำนวน 2 ชุด) , พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม กัสสปะ (จำนวน 2 ชุด) , พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม (จำนวน 2 ชุด) ,พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า (จำนวน 2 ชุด) ,พระธาตุพระอรหันต์ พระนาม พระสารีบุตรเถระเจ้า (จำนวน 1 ชุด) , พระธาตุพระอรหันต์ พระนาม พระโมคคัลลานะเถระเจ้า (จำนวน 1 ชุด) , พระธาตุพระอรหันต์ พระนาม พระราหุลเถระเจ้า (จำนวน 1 ชุด) , พระธาตุพระอรหันต์ พระนาม พระอุปคุตเถระเจ้า (จำนวน 1 ชุด)

    2 วันอังคารที่ 27 เมษายน 2553 พี่ชนิดาได้กราบเรียน พระอาจารย์โอภาสธรรมโชติ ว่าจะอัญเชิญพระบรมฯของชมรมรักษ์พระวังหน้า ไปถวายวัดเขาเพิ่มศรีสว่าง ต เขาเพิ่ม อ บ้านนา จ นครนายก เรียนเชิญสมาชิกทุกท่านด้วยนะคะ ขอบคุณคะ

    สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดนครนายก
    แห่งที่ ๑๑ วัดเขาเพิ่มศรีสว่าง
    พระครูโอภาสธรรมโชติ
    เจ้าอาวาสวัดเขาเพิ่มศรีสว่าง และเจ้าคณะตำบลบ้านนา
    เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดนครนายก แห่งที่ ๑๑
    ประธานศูนย์สงเคราะห์ ผู้อยากเลิกยาเสพติดทุกประเภท
    โทร.๐๘๑-๙๔๒๖๓๕๒
     
  14. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    งานบุญกองทุนหาพระถวายวัด

    ได้รับแจ้งจากพี่ชนิดา ซึ่งวันนี้พี่ชนิดาจะมาอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม กกุสันโธ (จำนวน 2 ชุด) , พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม โกนาคมน (จำนวน 2 ชุด) , พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม กัสสปะ (จำนวน 2 ชุด) , พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม (จำนวน 2 ชุด) ,พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า (จำนวน 2 ชุด) ,พระธาตุพระอรหันต์ พระนาม พระสารีบุตรเถระเจ้า (จำนวน 1 ชุด) , พระธาตุพระอรหันต์ พระนาม พระโมคคัลลานะเถระเจ้า (จำนวน 1 ชุด) , พระธาตุพระอรหันต์ พระนาม พระราหุลเถระเจ้า (จำนวน 1 ชุด) , พระธาตุพระอรหันต์ พระนาม พระอุปคุตเถระเจ้า (จำนวน 1 ชุด)


    เรียนคุณหนุ่ม
    1 วันเสาร์ที่ 24 เมษายน 2553 เวลา 10.00 น พี่ชนิดาจะอัญเชิญพระบรมฯ ของชมรมรักษ์พระวังหน้าไปถวายหลวงปู่โสบิน โสปาโกโพธิ ที่วัดศิริพงศ์ธรรมนิมิต ซอยวัชรพล ถนนรามอินทรา หลวงปู่ท่านจะนำพระบรมฯไปบรรจุไว้ที่ พระเจดีย์พุทธคยาจำลอง วัดพุทธเมตตาสว่างรังษี (วัดวังปลาโด) หมู่ที่ 7 ต วังใหม่ อ บรบือ จ มหาสารคาม

    ................................................................................
    โมทนาสาธุครับ
     
  15. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 50 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 48 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>psombat, sithiphong+ </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><THEAD><TR><TD class=tcat colSpan=2>[​IMG] (View-All) สมาชิกที่ได้อ่านกระทู้นี้แล้ว : 703 (Set) </TD></TR></THEAD><TBODY></TBODY></TABLE>

    ผมไม่ค่อยได้ท่องกระทู้อื่นๆมากนัก ไม่ทราบว่า...มีกระทู้ไหนที่มีคนอ่านมากถึง 703 หรือเปล่าท่านพี่?
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรียน ท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า , สมาชิกคณะพระวังหน้า และ สมาชิกกองทุนหาพระถวายวัดทุกๆท่าน

    ในวันประชุมชมรมรักษ์พระวังหน้า ผมจะอัญเชิญพระธาตุ หลวงปู่พระอุตระเถระเจ้า ไปมอบให้กับทุกๆท่าน ขอให้ทุกๆท่านนำผอบไปด้วย

    หากท่านใดไม่นำผอบไป ผมขอไม่มอบให้นะครับ

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มี หลายกระทู้ครับ

    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“สุเมธ” อัญเชิญพระราชดำรัสฯพีระมิดหัวกลับ ใครมีอะไรก็เทใส่ท่าน
    Politics - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>23 เมษายน 2553 16:18 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>สุเมธ ตันติเวชกุล</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เลขามูลนิธิชัยพัฒนา เผย ในหลวงไม่ยอมทำผิดกฎหมาย วอนทุกฝ่ายเลิกกดดัน ระบุ พระองค์ท่านเห็นอย่างไรจะมีพระราชวินิจฉัยเอง ชี้ แม้ทรงเป็นต้นแบบสุดยอดความอดทน และนั่งอยู่บนยอดพีระมิดหัวกลับ แต่น่าสังเวชใจที่คนไทยมีอะไรก็เทใส่ท่าน มองต้นตอปัญหามาจากความอยาก กระหาย แต่กลับเลี่ยงบาลีอ้างประชาธิปไตย สิทธิ ด้านพระราชวิจิตรปฏิญาณ เทศนา “จิ๋ว” ยื่นพึ่งพระบารมีไม่บังควร วอนทุกคนรู้จักเสียสละ เลิกแอบอ้างสถาบันหาประโยชน์ ขณะที่ประธานผู้ตรวจฯ บอกคนไทยอย่าดีแต่รักชาติ และในหลวงแค่คำพูด แต่การกระทำสวนทาง

    วันนี้ (23 เม.ย.) ในโอกาสครบรอบ 10 ปีผู้ตรวจการแผ่นดิน นายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา และประธานกรรมการมูลนิธิประเทศไทยในสะอาด ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “การเสริมสร้างคุณธรรมและจริยธรรมเพื่อสังคมไทยใสสะอาด” ว่า ตนพูดเรื่องคุณธรรมจริยธรรมไปเยอะในหน่วยงานต่างๆ แต่ก็ยังไม่หยุด แต่ดูผลลัพธ์ที่ออกมาแล้วไม่เป็นไปตามที่หวัง ซึ่งทำไมเราจึงมาถึงจุดนี้ ตนพูดคุยกับหลายคนก็บอกว่าสุดปัญญาจริงๆ ไม่รู้จะทำอย่างไร เรากำลังอยู่ในสภาพแวดล้อมของวัตถุนิยมคนสมัยนี้ไม่คิดเรื่องความดี จริยธรรม เพราะมันกินไม่ได้ จึงปลุกไม่ขึ้น เงินมีอิทธิพลต่อทุกสิ่งทุกอย่างในโลก ซื้อได้ทั้งเกียรติยศ ตำแหน่งความดี ก็ยังซื้อได้ด้วยเงิน เมื่อวานอ่านหนังสือพิมพ์เห็นข่าวเศรษฐีเสียใจเอาหลานเข้าโรงเรียนดังไม่ได้ เพราะจ่ายเงินไม่ถึงล้าน คิดดูว่า อนาคตของเด็กยังต้องจ่ายเงินซื้อเลย หน่วยราชการก็พูดว่าห้ามจ่ายเป็นความผิด แต่ถามว่าห้ามได้หรือไม่

    วันนี้โลกทั้งโลกไม่มีแล้ว ทุนนิยม เสรีนิยม สังคมนิยม หรือคอมมิวนิสต์ เพราะทั้งโลกถูกครอบด้วยระบบบริโภคนิยม แม้ประเทศที่ยังมีกลิ่นอายของคอมมิวนิสต์อย่างจีน ก็แทบไม่เหลือร่องรอย บริโภคนิยมจึงเป็นต้นตอของหายนะโลกด้วย ฉะนั้น โลกกำลังจะแตกดับ เพราะสิ่งที่เราใช้เป็นการระดมทรัพยากรจากโลกทั้งสิ้น แม้นั่งเฉยก็ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ทุกอย่างที่เราเอามาจากดินน้ำลมไฟ แต่เราไม่เคยแคร์สิ่งที่เป็นเจ้าของชีวิต เราพูดกันแต่โลกร้อน ภัยพิบัติที่เกิดกำลังขึ้นทั่วโลก ขณะนี้ถือว่าโลกกำลังเตือนเราอยู่ อย่างเรื่องน้ำก็เตือนเราด้วยสึนามิ ลมไทยเราก็เฉียดพายุนาร์กีสไปนิดเดียว ดินก็แผ่นดินไหวที่เฉิงตู และชิงไห่ ไฟก็ภูเขาไฟระเบิดที่ไอซ์แลนด์ ทำให้นึกถึงคำที่พระเจ้าอยู่หัวที่บอกว่า พวกเราชอบรังแกธรรมชาติ ระวังนะธรรมชาติเขาจะโกรธเอา

    เวลานี้เรามองต้นไม้ไม่ได้มองแบบมีปัญญา ว่า ต้นไม่ให้ก๊าซออกซิเจนให้ร่มเงา แต่เรามองว่าลูกบาศก์เมตรละเท่าไหร่และชอบไปลักลอบตัดต้นไม้ สิ่งที่พูดมาทั้งหมดถือเป็นตอของปัญหาจริยธรรมคุณธรรม เราจะมีจริยธรรมเมื่อเราควบคุมกิเลสตัณหาได้ เวลานี้สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเราไม่ใช่เพราะความกระหาย หรือความอยากได้หรือ ดังนั้น อย่ามาเลี่ยงบาลีว่าเป็นเรื่องประชาธิปไตย เรื่องสิทธิเลย เพราะจริงๆไม่ใช่ ตนมาอยากพูดแล้ว พูดแล้วป่วยการเวลานี้บ้านเมืองกำลังตึงเครียด ไม่อยากเติมไฟเข้าไปอีก เพราะไฟจะย้อนมาเผาตัวเอง

    นายสุเมธ กล่าวว่า การที่เราคำนึงถึงเรื่องการเจริญเติบโตของประเทศมาก ทำให้เราขายทุกสิ่งทุกอย่างในประเทศจนหมด ทั้งดินน้ำลมไฟและสุดท้ายก็ขายคน จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้ปัญหาที่เราเผชิญทั้งหมดเกี่ยวข้องกับคนไม่ว่าเป็นวิกฤตวัฒนธรรม เยาวชน ยาเสพติด หรือการเมือง ล่าสุดเขาประกาศตำแหน่งทรงเกียรติให้ประเทศเป็นรองแชมป์คอร์รัปชั่น โดยมีอันดับรองจากอินโดนีเซียน แต่ชนะเขมร อนาถใจไหม เชื่อว่าต้นตอของปัญหานี้มาจากอะไรทุกคนรู้หมด ถึงขนาดในหลวงออกมาแช่งนานแล้วว่าใครทุจริตขอให้มีอันเป็นไป แต่เวลานี้การคอร์รัปชั่นเข้าครอบทุกแห่ง ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะต้องทำอะไร ในหลวงเคยรับสั่งเรื่องความดีตั้งแต่ปี 2525 ว่า ความดีทำยากแต่จำเป็นต้องทำ หาไม่ความชั่วจะเข้าครอบงำ

    เรามักจะมีคำสองคำ คือ คนเก่งแล้วต้องเป็นคนดีด้วย เพราะถ้าเก่งอย่างเดียวจะบกพร่องในเรื่องความคิดพิจารณาที่กว้างไกล เนื่องจากจะเป็นคนใจร้อนเชื่อมั่นตัวเองสูง บกพร่องในความนับถือและเกรงใจผู้อื่น คิดแต่ว่าตัวเก่ง จึงไม่ต้องนับถือคนอื่น และจะบกพร่องในเรื่องมัธยัสถ์ พอเหมาะในการกระทำ คิดแต่อยากจะก้าวหน้าอยากเลื่อนขั้นเร็วๆ และบกพร่องในจริยธรรม เพราะมุ่งแต่จะหาประโยชน์เฉพาะตัว ที่เกิดขึ้นเวลานี้จับกันแทบไม่ได้ ฉะนั้น เก่งจึงยังไม่พอ เราจึงต้องเน้นในเรื่องของจริยธรรมคุณธรรม ซึ่งจะว่าไปทุกองค์กรเน้นจนจะกลายเป็นแฟชั่นแล้ว แต่ก็ยังต้องเน้นให้มากๆ โดยเรื่องคุณธรรม ในหลวงเน้นให้รักษาคุณธรรม 4 ประการ 1.รักษาความสัตย์ แต่วันนี้เปิดทีวีเห็นแต่โกหกกัน เรื่องเดียวกัน กลับพูดกันคนละอย่าง ถามว่า แล้วจะเอาความสัตย์มาจากไหน สันติอหิงสาพูดกัน ถามว่า ตอนนี้ตายกันไปกี่คน อย่าไปเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ปัจจุบันเลย เชิญทำกันตามสบายเถิด 2.ต้องรู้จักข่มใจมีตบะ การจะเอาชนะกิเลสได้ ต้องมีตบะ มีความเพียร ปรารถนาอย่างแรงกล้า 3.ความอดทนอดกลั้นอดออม ไม่ประพฤติล่วงในความสัตย์สุจริต

    “ซึ่งเรื่องความอดทนมีความสำคัญ บางอย่างไม่ต้องไปแก้ ควรอดทนรอ เพราะเวลาจะจัดการตัวของมันเอง อย่างพระเจ้าอยู่หัว ท่านเป็นต้นแบบของสุดยอดความอดทน ท่านรับสั่งว่าฉันเป็นพระเจ้าอยู่หัวนั่งอยู่บนยอดปิรามิด แต่อย่าลืมว่าปิรามิดเมืองไทยเป็นปิรามิดหัวกลับ ยอดปิรามิดไปอยู่ก้นกรวย ใครมีอะไรก็จะเทใส่ฉัน เวลานี้เขาก็เทใส่ท่านอยู่ น่าสังเวชใจไหม ผมพูดแค่นี้”

    4.ให้ละวางความชั่ว ความทุจริต รู้จักละประโยชน์ส่วนน้อยของตน เพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่ของบ้านเมือง มีคนเคยยกตนเป็นวีรบุรุษ เพราะเคยร่วมสู้รบในสงครามเมื่อปี 17 ตนก็บอกว่าคำนี้ใช้กับคนที่ตายไปแล้ว และบอกว่าไม่ใช่ตนคนเดียวที่ทำให้บ้านเมืองอยู่รอด มีคนอื่นที่เสียสละให้บ้านเมืองมากกว่า ตนเป็นเพียงเศษหนึ่งส่วนหกสิบสองล้านของประเทศไทย และที่ทำก็เพื่อตัวเองที่อยากอยู่ในประเทศนี้ ไม่อยากเป็นคนอพยพ เพราะลูกเมียเราอยู่ที่นี่ ถามว่าคุ้มไหมตนว่าคุ้ม ถ้าทุกคนคิดอย่างนี้บ้านเมืองก็รอด แต่ที่เป็นอยู่ไม่คิดอย่างนี้ไม่เสียสละกัน แต่ยังทำร้ายกันอีก คนไทยด้วยกันทั้งนั้นไม่ใช่ศัตรูต่างชาติสักคน ถ้าตนพูดว่าคนไทยฆ่ากันมานานแล้ว ก็อาจจะถูกด่า แต่ถามว่า เราไปปราบปรามอย่างคนไทยภูเขา เขาก็เป็นคนไทย วันนี้ยังจะเดินซ้ำร้อยกันอีกหรือ เสียของไม่เท่าไหร่ แต่เสียชีวิตคนคำนวณไม่ได้หรอก

    นายสุเมธ กล่าวอีกว่า สุดท้ายอยากฝากง่ายๆ คือ ขอให้ทุกคนยึดหลักทศพิธราชธรรมของพระองค์ท่านในการปฏิบัติตน บางคนก็ตอบได้ แต่บอกไม่ได้ว่าประกอบด้วยอะไรบ้าง ซึ่งข้อที่สำคัญมาก คือ ข้อสุดท้าย อวิโรธนัง คือ การไม่ยอมทำผิด ในหลวงท่านไม่ยอมทำผิดในทุกเรื่อง ทั้งเรื่องวัฒนธรรม ประเพณี กฎหมายต่างๆ ในหลวงจะปฏิบัติอย่างไร ท่านจะมีพระราชวินิจฉัยเอง ท่านถือมากท่านไม่ยอมทำผิด จำได้ไหม เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ท่านพูดว่า rule of law ท่านบอกว่า ถ้าท่านทำท่านก็ทำผิดกฎหมาย แต่ทำไมเราชอบพูดว่าทำไมท่านไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้ เราคิดกันไปเอง ท่านจะทำอะไรท่านจะมีพระราชวินิจฉัยเอง ผมพูดได้แค่นี้ ไปคิดต่อกันได้ ผมขันติ ชินชาแล้ว

    ด้าน พระราชวิจิตรปฏิญาณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวราราม กล่าวบรรยายธรรม ตอนหนึ่งในหัวข้อ คุณธรรมและจริยธรรม ว่า คำว่ายุติธรรมมีในโลก แต่ความเป็นธรรมไม่มีในโลก สถานการณ์ตอนนี้ การที่มีคนที่เป็นถึงอดีตนายกฯ และเป็นประธานพรรค ออกมาพูดเรื่องขอเข้าเฝ้าฯในหลวง ทันทีที่ออกมาพูด ก็ถูกอดีตนายกฯ คนอื่นๆ คัดค้าน การพูดอย่างนี้ก็ถือเป็นการไม่บังควรแล้ว มันไม่ใช่หน้าที่ เพราะมันมีอีกฝ่ายหนึ่ง และอีกฝ่ายหนึ่ง ถ้าออกมาก็แย่ หากถามพวกเราให้เดาใจพระองค์ท่านว่าจะออกมาไหม ไม่ใช่การเดาใจในหลวง แต่เดาใจในฐานะนักปกครอง เพราะคนมาขอก็เป็นอดีตนายกฯ ประธานพรรค และไปขึ้นเวทีเสื้อแดง พระองค์ท่านครองราชย์มา 60 ปี พระบารมีสูงส่ง จึงไม่วายมีคนแอบอ้างเอาไปหาประโยชน์ ทั้งนี้ อยากให้ทุกฝ่ายหยุดการอ้างถึงสถาบัน ขอให้มีคนเสียสละ ยอมกัน

    ขณะที่ นายปราโมทย์ โชติมงคล ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า เหตุความไม่สงบในกรุงเทพฯเกิดขึ้น เพราะการขาดไร้จริยธรรม ปากพูดว่าทำเพื่อประเทศชาติ ทำเพื่อพระเจ้าแผ่นดิน แต่การกระทำกลับสวนทางคิดถึงแต่ตัวเอง ทั้งนี้ โดยส่วนตัวมองว่ารัฐธรรมนูญเป็นเพียงกระดาษ จึงไม่จำเป็นต้องแก้ไข หากปลูกฝังให้ประชาชนผู้ใช้รัฐธรรมนูญเป็นคนดีมีคุณธรรมจะเป็นทางออกให้กับประเทศไทย หากทุกคนมีจิตสำนึกก็คงกลับบ้าน เพื่อให้รัฐบาลแก้ปัญหา ขณะนี้ความเห็นของผู้ชุมนุมกับรัฐบาลก็ตรงกัน เห็นด้วยกับการยุบสภาฯแต่ติดขัดที่เงื่อนเวลา ดังนั้นจึงต้องมานั่งพูดคุยกันและยอมกันให้ได้ จะพูดเอามันหรือเอาแพ้ชนะกันไม่ได้ อย่าต้องให้คนไทยช่วยกันสร้างความย่อยยับให้กับบ้านเมือง เชื่อว่า ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองรู้ว่าอะไรดีอะไรไม่ดี แต่ไม่ช่วยกันแก้สิ่งที่ทำเหมือนเป็นการยุให้เกิดปัญหา

    สำหรับผลการดำเนินงานของผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่า ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบันได้รับเรื่องร้องเรียนจำนวน 21,837 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ 20,632 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 95 โดยหน่วยงานที่ถูกร้องเรียนมากที่สุดคือกระทรวงมหาดไทย 6,396 เรื่อง รองลงมาคือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2,912 เรื่อง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1,478 เรื่อง ประเด็นที่ถูกร้องเรียนส่วนมากเป็นเรื่องการกลั่นแกล้งดำเนินคดี การดำเนินคดีล่าช้า เจ้าหน้าที่ไม่รับแจ้งความ ปัญหากรรมสิทธิ์ในการถือครองที่ดิน ออกโฉนดโดยมิชอบ และการจัดซื้อจัดจ้างไม่โปร่งใส
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สภากาชาดไทยขาดเลือดสำรองวอนคนบริจาค

    http://hilight.kapook.com/view/47996




    [​IMG]

    สภากาชาดไทยขาดเลือดสำรองวอนคนบริจาค (ไอเอ็นเอ็น)

    สภากาชาดไทยขาดเลือดสำรอง วอนประชาชนบริจาค เตรียมพร้อมให้ผู้บาดเจ็บเหตุการณ์ชุมนุมและกรณีฉุกเฉิน

    พญ.สร้อยสอางค์ พิกุลสด ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ เปิดเผยว่า สถานการณ์การรับบริจาคโลหิตในช่วงสัปดาห์นี้ มีผู้เดินทางมาบริจาคโลหิตที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ถนนอังรีดูนังต์ จำนวนลดลงมาก เนื่องจากอยู่ใกล้กับบริเวณที่มีการชุมนุม ส่งผลให้ยอดรับบริจาคโลหิตโดยรวมไม่ถึงวันละ 1,500 ยูนิต เกรงว่าหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป จะทำให้โลหิตสำรองในคลังเลือดไม่เพียงพอสำหรับผู้ป่วย อีกทั้งจะต้องเตรียมความพร้อมหากเกิดกรณีฉุกเฉินต้องการโลหิตอย่างเร่งด่วน จำนวนมากอีกด้วย

    จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมกันบริจาคโลหิตได้ที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ถ.อังรีดูนังต์ วันนี้ เปิดเวลา 08.00-16.30 น. หรือหากไม่สะดวกเดินทางมาบริจาคโลหิตได้ สามารถไปบริจาคได้ที่ หน่วยเคลื่อนที่รับบริจาคโลหิต ได้แก่

    [​IMG] เดอะมอลล์ บางแค เปิดเวลา 12.00-18.00 น.

    [​IMG] บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด ถ.รัชดาภิเษก เปิดเวลา 09.00-15.00 น.

    [​IMG] บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ บริเวณลานอเนกประสงค์ ชั้น 2 เปิดเวลา 09.00-15.00 น.

    [​IMG] บริษัทในกลุ่มสมบูรณ์ ถ.บางนา-ตราด กม.15 เปิดเวลา 09.30-15.00 น.

    [​IMG] บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด อาคารเมืองทอง-ภัทรคอมเพล็กซ์ ถ.รัชดาภิเษก เปิดเวลา 09.00-15.00 น.

    [​IMG] บริษัท ทีวีไดเร็ค จำกัด ซอยวัชรพล ถ.รามอินทรา เปิดเวลา 09.00-15.00 น.

    ผู้บริจาคโลหิตสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ฯ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ โทร. 0 2256 4300, 0 2263 9600-99 ต่อ 1101, 1760



    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...