พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. jirautes

    jirautes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +575
    สวัสดีครับวันนี้ผมร่วมบริจาคส่งเงินเข้าชมรมรักษ์พระวังหน้า
    จำนวน1,100บาท (25/12/52 เวลา 09:57 น.)
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ปีใหม่ ท่านใดที่ไม่ได้ออกไปฉลองข้างนอกบ้าน

    ผมนำสูตรก๋วยเตี๋ยวมาฝากกัน ทำทานกันทั้งบ้าน อิ่มและอร่อยกันทั้งบ้านครับ

    --------------------------------------------------------

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น" ซดน้ำอุ่นๆอุดมด้วยสมุนไพร / กุ๊กเล็ก
    Travel - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>24 ธันวาคม 2552 16:34 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> โดย : กุ๊กเล็ก

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> สำหรับหน้าหนาว ยามเช้าหรือในช่วงเย็นมักมีสายลมเย็นๆพัดกระทบผิวกาย การหาอะไรอุ่นๆซดดื่มกินจึงเป็นการดีไม่น้อย มื้อนี้ "กุ๊กเล็ก" ขอแนะนำเมนู "ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น" ที่ได้สูตรวิธีการทำมาจาก "ห้องอาหารบางกอกสกาย โรงแรมใบหยก สกาย" ให้มาทำซดน้ำก๋วยเตี๋ยวอุ่นๆรสชาติกลมกล่อมอุดมด้วยสมุนไพร รายละเอียดมีดังนี้เลย

    ส่วนผสมน้ำซุปหมูตุ๋น

    เนื้อหมู 200 กรัม
    รากผักชี 50 กรัม
    ข่าบด 50 กรัม
    กระเทียม 50 กรัม
    หอมแดงบด 50 กรัม
    ตระไคร้บด 50 กรัม
    น้ำตาลทรายแดง 150 กรัม
    ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
    อบเชย 50 กรัม
    เกลือ 2 ช้อนชา
    น้ำซุป 200 กรัม


    เครื่องก๋วยเตี๋ยว

    ถั่วงอก 20 กรัม
    เส้นเล็ก 50 กรัม
    ต้นหอม,ผักชี 20 กรัม
    ลูกชิ้น
    เส้นก๋วยเตี๋ยว

    เมื่อตระเตรียมส่วนผสมครบสูตรแล้วก็เริ่มลงมือทำโดยขั้นแรกนำเนื้อหมูมาหั่นเป็นชิ้นๆ ตุ๋นพร้อมเครื่องปรุงทุกอย่าง 1-2 ชั่วโมง (ให้หมูพอเปื่อย) จากนั้นก็ลวกเส้นพร้อมถั่วงอก จะเส้นจะเป็นเส้นใหญ่ เส้นเล็ก เส้นหมี่ เส้นมาม่า หรือเส้นอื่นๆก็ตามแต่จะถูกปาก ลวกเส้นและถั่วงอกใส่ถ้วยแล้วก็ตักน้ำซุปใส่เส้นก๋วยเตี๋ยว โรยต้นหอม ผักชี ใส่หมูตุ๋น ตกและลูกชิ้นแต่งสวยงามดูน่ากิน เท่านี้ก็เรียบร้อย
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สวัสดีครับวันนี้ผมร่วมบริจาคส่งเงินเข้าชมรมรักษ์พระวังหน้า
    จำนวน1,100บาท (25/12/52 เวลา 09:57 น.)

    โพสโดยคุณjirautes
    http://palungjit.org/threads/พระวัง...โลกอุดรเสก-ถ้าต้องการที่จะได้.22445/page-1786

    กระทู้พระวังหน้า หน้าที่ 1786 โพสที่ 35710

    ------------------------------------------

    โมทนาสาธุครับ
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระพรปีใหม่ 2553 แด่พุทธศาสนิกชนชาวไทย
    Quality of Life - Manager Online

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>25 ธันวาคม 2552 15:41 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=260 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=260> [​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงประทานพระพรปีใหม่ 2553 ให้แก่ประชาชนชาวไทย ความว่า


    “โลกจะมีสันติภาพเพราะเมตตายิ่ง
    ปีใหม่แล้ว ทุกคนขอให้เริ่มแก้ที่ตัวเองก่อน
    แก้ที่ใจวุ่นวาย เร่าร้อนด้วยอำนาจจิตของกิเลส
    ให้กลับเป็นใจที่สงบเย็นบางเบาจากกิเลส
    ที่เคยโลภมาก ก็ให้ลดลงเสียบ้าง
    ที่เคยโกรธแรง ก็ขอให้โกรธเบาลง
    ที่เคยหลงจัด ก็ขอให้พยายามใช้สติปัญญา
    ตนเองจะเป็นผู้สงบเย็นก่อน
    ซึ่งจะเป็นเหตุให้เกิดความสงบเย็น
    กว้างขวางออกไป อย่างไม่ต้องสงสัยเลย
    โลกเย็น เพราะเมตตายิ่ง
    โลกร้อน เมตตาหย่อน
    นี้เป็นความจริงที่ควรยอมรับและควรแก้ไข
    อันการแก้นั้นก็ต้องไม่ไปแก้ผู้อื่น
    ต้องแก้ที่ตัวเอง แก้ตัวเองให้ยิ่งด้วยเมตตา
    หรือให้มีเมตตายิ่งขึ้นนั่นเอง
    เมื่อมีเมตตาอย่างจริงใจแล้ว จะเป็นเหตุให้เกิดผลงานมากมาย
    เป็นคุณทั้งแก่ผู้รับ และเป็นคุณทั้งแก่ผู้ให้"

    ขออำนวยพร
    วัดบวรนิเวศวิหาร

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 12 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 11 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สวัสดีครับ

    ยังไม่นอนกันอีกหรือครับ

    หรือว่า อยู่ต่างประเทศครับ
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 5 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 3 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, yen-jit </TD></TR></TBODY></TABLE>

    หรือว่าทำงานรอบกลางคืนหรือเปล่าครับ

    .
     
  7. tawatd

    tawatd เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    506
    ค่าพลัง:
    +2,020
    สวัสดีครับ ทุกๆท่าน
     
  8. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    ขอบคุณมากครับ...
    เป็นที่ทราบกันว่าเรื่องไม้นี่เป็นเรื่องที่อ่อนไหวมากๆ ... ขอยืนยันว่าเรื่องที่คนทั่วไปบอกว่ายากส์ กลับเป็นเรื่องที่ง่าย ราบรื่น สำหรับเราชาวรักษ์พระวังหน้าอย่างน่าอัศจรรย์ครับ โมทนาสาธุครับ!
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สมยอมกันหย่า

    สามีและน้องแต่งงานจดทะเบียนสมรส แต่สามีชอบเล่นการพนันและมีหนี้สินหลายราย ขณะนี้ได้รับหมายศาลให้ไปศาลในคดีหนึ่งกลางปีหน้า และน้องยังไม่ทราบว่าจะมีคดีอื่นตามมาอีกหรือไม่ ถ้าน้องจะจดทะเบียนหย่ากับสามีในตอนนี้แต่ยังอยู่ร่วมกัน จะมีผลในทางกฎหมายที่จะไม่ให้ เจ้าหนี้ฟ้องเอาทรัพย์สินที่สามีซื้อมาแต่เป็นชื่อน้องเพื่อชำระหนี้ได้หรือไม่

    กรรณิการ์

    ทรัพย์สินที่ได้มาในระหว่างสมรสไม่ว่าจะเป็นชื่อของคู่สมรสคนใด กฎหมายจะให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นสินสมรส ดังนั้นการที่สามีภริยาไม่ประสงค์จะหย่า แต่ต้องการแสดงเจตนาลวงโดยสมรู้ร่วมกันเพื่อหลบหนีการที่จะถูกบังคับคดีให้ชำระหนี้ มีหลายคดีที่ศาลถือว่ายังไม่มีการหย่า ตัวอย่างคดีเช่น คดีตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3628/2524 เป็นเรื่องของสามีภริยาตกลงหย่ากัน โดยได้ทำหนังสือข้อตกลงหย่าและจดทะเบียนหย่า แต่เมื่อเป็นการหย่าที่แสดงเจตนาลวงโดยสมรู้ระหว่างกันกระทำขึ้น หรืออีกนัยหนึ่งเป็นการกระทำขึ้นโดยสมยอม จึงไม่ผูกพันบุคคลภายนอก

    คดีนั้นเจ้าหนี้ฟ้องสามีโดยได้นำยึดทรัพย์สินซึ่งเป็นสินสมรสที่สามีและภริยามีกรรมสิทธิ์ร่วมกัน ฝ่ายภริยามาร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่เจ้าหนี้นำยึด โดยอ้างว่าได้จด ทะเบียนหย่ากันแล้ว ทรัพย์สินที่เจ้าหนี้นำยึดจึงไม่ใช่สินสมรส ขอให้ศาลมีคำสั่งปล่อยทรัพย์ที่นำยึด ซึ่งศาลได้วินิจฉัยว่าผู้ร้องไม่มีอำนาจร้องขอให้ปล่อยทรัพย์

    หรือคดีตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2353/2536 หย่ากันโดยยกบ้านและที่ดินซึ่งเป็นสินสมรสแก่ภริยาอันเป็นการสมยอมเพื่อหลีกเลี่ยงมิให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ ที่ดินและบ้านพิพาทจึงไม่ตกแก่ภริยาเพียงผู้เดียว เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิฟ้องเพิกถอนนิติ กรรมการยกทรัพย์ที่เป็นสินสมรสที่ให้เป็นของภริยาผู้เดียวได้ ดังนั้นการหย่ากันแล้วยังอยู่ด้วยกันและใช้ชีวิตอย่างปกติสุขฉันสามีภริยา ก็เป็นพยานหลักฐานอย่างหนึ่งที่เจ้าหนี้จะนำสืบพิสูจน์ให้เห็นได้ว่าเป็นการสมยอมกันหย่าเพื่อหนีหนี้ มิได้ตกลงที่จะจดทะเบียนหย่ากันจริง ๆ.
    Daily News Online > หน้าสตรี > คลินิกกฎหมาย > สมยอมกันหย่า
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ความยินยอมของคู่สมรส ในการทำนิติกรรม

    ผมทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กำลังจะแต่งงานกับคนรัก ถ้าผมจดทะเบียนสมรสแล้ว ในการทำสัญญาต่าง ๆ ซึ่งต้องขอความยินยอมจากภริยานั้น มีวิธีการอย่างไรบ้าง ถ้าผมจะให้ภริยาทำหนังสือให้ความยินยอมล่วงหน้าไว้ได้หรือไม่

    กรณีที่ไม่มีความยินยอมผลในทางกฎหมายเป็นอย่างไร ถ้าคู่สมรสที่ไม่ยินยอมฟ้องขอเพิกถอนสัญญา จะเพิกถอนได้ทั้งหมดหรือเฉพาะส่วนที่เขาเป็นเจ้าของ รวมทั้งกำหนดเวลา

    ธีระชัย

    วิธีการในการที่สามีหรือภริยาจะให้ความยินยอมในการจัดการสินสมรสนั้นไม่มีรูปแบบพิเศษ การที่คู่สมรสได้ลงลายมือชื่อเป็นพยานในนิติกรรมหรือสัญญาถือเท่ากับว่าคู่สมรสรับรู้การทำนิติกรรมหรือสัญญานั้นแล้วเท่ากับว่าได้ให้ความยินยอมในการทำนิติกรรมหรือสัญญานั้นแล้ว เช่น การที่สามีจำนองที่ดินกับธนาคารโดยให้ภริยาลงชื่อเป็นพยานในสัญญาจำนอง ถือว่า ภริยาให้ความยินยอมในการจำนองแล้ว

    การจัดการสินสมรสที่กฎหมายกำหนดว่าให้มีเพียงหลักฐานเป็นหนังสือ คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งจะให้ความยินยอมด้วยวาจาก็ได้ แต่ถ้าเป็นการจัดการสินสมรสประเภทที่กฎหมายกำหนดว่าต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ความยินยอมของคู่สมรสจะต้องทำเป็นหนังสือด้วย เช่น กรณีที่สามีให้ผู้อื่นเช่าอสังหาริมทรัพย์เกินกว่า 3 ปี ซึ่งกฎหมายกำหนดว่าการเช่าเกินกว่า 3 ปี ต้องทำเป็นหนังสือ และจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่นั้น ความยินยอมของคู่สมรสในการให้เช่าเกิน 3 ปี ต้องเป็นหนังสือ เป็นต้น

    นอกจากนี้ศาลได้เคยวางบรรทัดฐานคำวินิจฉัยไว้ว่า ความยินยอมไม่จำเป็นต้องทำกันต่อหน้าพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ก็ได้ คดีตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3693/2532 ความยินยอมของสามีหรือภริยาเพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งทำนิติกรรมนั้น ไม่ต้องทำหน้าเจ้าพนักงาน ดังนั้นการที่ผู้ร้องซึ่งเป็นภริยารับว่าหนังสือความยินยอมเป็นหนังสือของผู้ร้องที่ถูกต้องแท้จริงที่มีการนำไปจดทะเบียนจำนองที่ดิน จึงไม่ตกเป็นโมฆะ

    Daily News Online > หน้าสตรี > คลินิกกฎหมาย > ความยินยอมของคู่สมรส ในการทำนิติกรรม

    ส่วนปัญหาที่ถามว่า ความยินยอมล่วงหน้าและตลอดไปทำได้หรือไม่นั้น มีคดีที่เคยมีการพิพาทฟ้องร้องกันและศาลได้วินิจฉัยวางบรรทัดฐานในคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3186/2538 ว่า ความยินยอมให้ทำนิติกรรมไม่มีกฎหมายบังคับว่าต้องเป็นความยินยอมเฉพาะเรื่องเฉพาะราย จะให้ความยินยอมเป็นการล่วงหน้าและตลอดไปก็ได้

    เมื่อหนังสือให้ความยินยอมมีข้อความว่า ภริยายินยอมให้สามีทำนิติกรรมกู้เงิน กู้เบิกเงินเกินบัญชี ค้ำประกัน ฯลฯ หรือทำนิติกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องได้ โดยภริยามีเจตนาตกลงให้ความยินยอมในการกระทำนั้นตลอดไป ย่อมแสดงให้เห็นว่า ภริยามีเจตนาให้ความยินยอมในการที่สามีทำนิติกรรมที่ระบุในหนังสือให้ความยินยอมและนิติกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับโจทก์ผู้ฟ้องคดีได้ตลอดไป ดังนั้นการที่สัญญาค้ำประกันเป็นเรื่องที่สามีทำกับโจทก์เพื่อค้ำประกันหนี้ของลูกหนี้คนหนึ่งที่มีต่อโจทก์ จึงมีผลใช้บังคับได้โดยชอบ ภริยาจึงไม่อาจจะขอให้เพิกถอนสัญญาค้ำประกันได้

    ในการจัดการสินสมรสที่กฎหมายกำหนดไว้ว่าเป็นกรณีที่สามีและภริยาจะต้องจัดการร่วมกันนั้น ถ้าคู่สมรสฝ่ายใดจัดการไปโดยไม่ได้รับความยินยอมจากคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่ง ตราบใดที่ยังไม่มีการฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนให้นิติกรรมนั้น สัญญาดังกล่าวย่อมยังมีผลใช้บังคับได้ตามกฎหมาย (คำพิพากษาฎีกาที่ 3735/ 2546) ผลจึงมีเพียงว่าทำให้คู่สมรสฝ่ายที่ไม่ได้ให้ความยินยอมสามารถฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนนิติกรรมนั้นในภายหลัง

    การขอให้เพิกถอนต้องเพิกถอนนิติกรรมทั้งหมด จะเพิกถอนเฉพาะบางส่วนหรือเฉพาะส่วนของตนนั้นไม่ได้ (คำพิพากษาฎีกาที่ 7378/2542) และคู่สมรสที่ไม่ได้ให้ความยินยอมในการทำนิติกรรมนั้นจะต้องฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมนี้เสียภายในกำหนด หนึ่งปีนับแต่วันที่รู้ว่าได้มีการทำนิติกรรมอันเป็นวันที่รู้เหตุที่เป็นมูลเหตุให้เพิกถอน หรืออย่างช้าภายในสิบปีนับแต่วันที่ได้ทำนิติกรรมนั้น มิฉะนั้นคดีต้องห้ามมิให้นำคดีมาฟ้องเพราะเป็นคดีขาดอายุความ.
    Daily News Online > หน้าสตรี > คลินิกกฎหมาย > ความยินยอมของคู่สมรสในการทำนิติกรรม
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สิงห์ป้อนเหยื่อ

    คอลัมน์ พันธุ์แท้พระเครื่อง

    ราม วัชรประดิษฐ์

    ˹ѧ

    สิงห์ป้อนเหยื่อ

    คอลัมน์ พันธุ์แท้พระเครื่อง

    ราม วัชรประดิษฐ์

    http://www.khaosod.co.th/view_news....ionid=TURNd053PT0=&day=TWpBd09TMHhNaTB5Tnc9PQ==

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
    [​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>"สิงห์ป้อนเหยื่อ" เป็นฉายาของพระเครื่องพิมพ์หนึ่งของอำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ชาวบ้านมักเรียกกันว่า "ฝักไม้ดำ" และ "ฝักไม้ขาว"

    พระเครื่องพิมพ์นี้ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้างที่แน่ชัด มีเพียงเรื่องเล่าขานกันต่อมาถึงที่ไปที่มาว่า...

    "ประมาณปี พ.ศ. 2482 มีพระภิกษุรูปหนึ่งพายเรือมาขึ้นที่ตลาดอำเภอบางระกำ พอถึงก็นำถังเหล็กขนาดใหญ่ความจุราว 200 ลิตร ที่อยู่ในเรือขึ้นมา ปรากฏว่าภาย ในถังบรรจุพระเครื่องอยู่เต็ม ท่านจึงนำพระทั้งหมดไปฝากไว้กับคหบดีอำเภอบางระกำ แล้วบอกว่า "ขอฝากพระทั้งหมดนี้ไว้ก่อน แล้วจะมารับคืนในภายหลัง"

    ท่านคหบดีได้เก็บรักษาพระเครื่องทั้งหมดไว้นานถึง 3 ปี แต่พระภิกษุรูปนั้นก็หาได้กลับมารับพระคืนไม่ ท่านจึงตัดสินใจขนย้ายพระทั้งหมดไปเก็บรักษาไว้ที่วัด ซึ่งน่าจะเป็นการสมควรกว่า โดยฝากไว้กับพระครูสุนทรประดิษฐ์ เจ้าอาวาสวัดสุนทรประดิษฐ์ในสมัยนั้น ประมาณปี พ.ศ. 2485 ท่านพระครูก็ได้นำพระไปเก็บไว้ในบริเวณพระอุโบสถ และในปีนั้นเองได้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่น้ำท่วมอุโบสถ จึงทำให้พระเครื่องที่เก็บไว้ถูกน้ำท่วมไปด้วย เมื่อน้ำลดลงจึงปรากฏคราบตะกอนดินจับเต็มองค์พระ แต่ไม่ใช่ในลักษณะคราบกรุ

    พระเครื่องเหล่านั้นเริ่มปรากฏสู่สายตาภายนอกเมื่อพ่อค้าไม้รายหนึ่งเดินทางไปทำงาน แล้วแวะที่อุโบสถวัดสุนทรประดิษฐ์ จึงนำพระออกมาให้เช่าที่ จ.พิษณุโลก ในสนน ราคาที่สูงพอสมควรในสมัยนั้น ปรากฏว่าผู้ที่เช่าบูชาไปประจักษ์ในพุทธานุภาพ ความต้อง การจึงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จำนวนพระเริ่มร่อยหรอลง ท่านเจ้าอาวาสจึงได้นำพระส่วนหนึ่งเก็บซ่อนไว้ แต่ก็ถูกขโมยไปจนหมดในที่สุด"

    "ฝักไม้ดำ" ลักษณะเป็นพระพิมพ์ใหญ่ เนื้อผง มีหลายสี ทั้งสีดำ น้ำตาล ขาว และเขียว ด้านหน้าพระประธานแสดงปางลีลา ล้อมรอบด้วยอักขระขอมที่แสดงถึงพระพุทธคุณมากมาย มุมทั้ง 4 ขององค์พระอ่านว่า "นะ มะ พะ ทะ" ส่วนด้านหลังด้านบนมีอักขระขอมว่า "มะ อุ อะ" ตอนกลางมีองค์พระประทับนั่ง 3 องค์ ซ้ายสุดปางสมาธิ องค์กลางปางมารวิชัย และขวาสุดประทับนั่งประนมมือ ถัดลงมาเป็นอักขระขอมว่า "นะ ปะ ทะ อะ ระ หัง" ล่างสุดเป็นรูป "สิงห์ป้อนเหยื่อให้เสือ" อันอาจเป็นที่มาของฉายา "สิงห์ป้อนเหยื่อ" ก็เป็นได้

    "ฝักไม้ขาว" จะเป็นพระที่มีขนาดย่อมลงมา ส่วนใหญ่จะมีคราบผิว เนื้อฟู และบางส่วนแตกปริจากการถูกน้ำท่วม พุทธลักษณะขององค์พระมีหลายแบบ ทั้งประทับนั่งและประทับยืน

    พิจารณาจากอักขระขอมที่ผู้สร้างบรรจงสร้างสรรค์ลงในองค์พระ ย่อมเป็นที่ประจักษ์ถึงความเพียบพร้อมครบครันของ "ฝักไม้ดำ" และ "ฝักไม้ขาว" ทั้งเจริญรุ่งเรือง เมตตามหานิยม แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี แม้ราชสีห์ที่ว่าโหดร้ายยังศิโรราบต่อเมตตาธรรมยอมป้อนเหยื่อให้กับเสือซึ่งเป็นศัตรู จึงนับเป็นที่แสวงหาของนักนิยมสะสมอย่างมาก ยิ่งในสมัยนั้นเหล่าบรรดาทหารหาญต่างพากันดั้นด้นไป อ.บางระกำ เพื่อแสวงหาไว้เป็นเกราะเพชรคุ้มภัยต่างๆ ซึ่งการเดินทางก็เรียกได้ว่า "ระกำ" สมชื่อจริงๆ

    แม้แต่ท่านจอมพล ป.พิบูลสงคราม ยังนำ "สิงห์ป้อนเหยื่อ" มาบรรจุตลับฝังเพชรและอาราธนาติดตัวตลอดเวลาครับผม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ธันวาคม 2009
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จับแล้ว นักศึกษา โจร ฉกวัตถุโบราณ พิพิธภัณฑ์ขอนแก่น





    [​IMG]


    จับแล้วนศ.โจร ฉกพิพิธภัณฑ์ คดีดังขอนแก่น รูป"ข่าวสด"ช่วย (ข่าวสด)

    จับแล้ว! มือฉกของล้ำค่าในพิพิธภัณฑ์ขอนแก่น ที่แท้เป็น นศ.หนุ่ม ม.ขอนแก่น สารภาพนำของไปขายให้เซียนพระ"เล็ก นาดูน" ในกรุงเทพฯ เผยจนมุมเพราะภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด ซึ่ง"ข่าวสด"นำลงเป็นหน้า 1 กระทั่งมีเสี่ยร้านทองเห็นและจำได้ ขณะ นศ.โจรเข้ามาซื้อทอง รีบแจ้งเบาะแสตำรวจ เทียบภาพใบหน้าชัด ๆ จากกล้องในร้านทอง กระทั่งรู้ชื่อที่อยู่ตามไปล็อกตัวได้กลาง ม.ขอนแก่น สารภาพเป็นคนลงมือฉกของล้ำค่าไปเอง ตำรวจตามยึดคืนได้เกือบครบแล้ว เร่งล่าผู้เกี่ยวข้อง และร้านรับซื้อ

    จากเหตุการณ์มีคนร้ายบุกโจรกรรมโบราณวัตถุเก่าแก่กว่า 1,000 ปี ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น ทั้งพระพิมพ์ดินเผาจากกรุพระธาตุนาดูน อ.นาดูน จ.มหาสารคาม พระพิมพ์ดินเผาจากเมืองฟ้าแดดสงยาง จ.กาฬสินธุ์ พระพุทธรูปสำริดสมัยทวารวดีประทับยืน ปางเสด็จจากดาวดึงส์ เทวรูปสำริดสมัยลพบุรี พระโพธิสัตว์สำริดสมัยลพบุรี และแผ่นทองคำจากกรุพระธาตุนาดูน รวมทั้งหมดเกือบ 100 รายการ เหตุเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 4 ธ.ค. ต่อเนื่องวันที่ 5 ธ.ค. ต่อมาตำรวจได้ภาพจากกล้องวงจรปิดและภาพถ่ายจากพลเมืองดีนำมาแจกจ่ายสื่อมวลชนโดย "ข่าวสด" ลงตีพิมพ์เป็นภาพหน้า 1 เพื่อให้ประชาชนช่วยชี้เบาะแส โดยตำรวจตั้งรางวัลนำจับจำนวน 200,000 บาท ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

    ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. พล.ต.ต. ศักดา เตชะเกรียงไกร รองผบช.ภาค 4, พ.ต.อ. ยรรยง เวชโอสถ ผกก.สส.1 สส.ภาค 4 พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนภาค 4 ร่วมกับฝ่ายสืบสวนภูธรจังหวัดขอนแก่น นำกำลังเข้าจับกุมนายมงคลเดช ศูนย์จันทร์ อายุ 22 ปี ชาว อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ได้ภายในมหาวิทยาลัย ขอนแก่น ถนนมิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ในข้อหาลักทรัพย์

    ทั้งนี้ สืบเนื่องจากพล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รองผบตร. นำภาพผู้ต้องสงสัยจากกล้องวงจรปิดมอบให้หนังสือพิมพ์"ข่าวสด" แพร่ภาพเพื่อแจ้งเบาะแสผู้ต้องสงสัยเป็นชายรูปร่างสูง ผิวขาว ที่เข้าไปโจรกรรมโบราณวัตถุทั้งพระพุทธรูป เทวรูปพระพิมพ์ดินเผาเก่าแก่อายุกว่าพันปี ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น ที่กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้

    ต่อมาวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีเจ้าของร้านค้าทองภายใน จ.ขอนแก่น พบตัวชายต้องสงสัยเข้ามาในร้านเพื่อขอซื้อทองรูปพรรณ โดยชายคนดังกล่าวได้ห้อยพระนาดูน จึงขอชมแต่ชายคนดังกล่าวแสดงท่าทางพิรุธไม่ยอมให้ดูจนผิดสังเกต รวมทั้งรูปพรรณหน้าตาคล้ายกับภาพชายต้องสงสัยจากกล้องวงจรปิดที่หนังสือพิมพ์ลงเอาไว้ จึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่รับทราบทันที

    ต่อมาเจ้าหน้าที่เดินทางมายังร้านค้าทองดังกล่าว แต่ปรากฏว่าไม่พบตัวชายที่ต้องสงสัย จึงนำภาพกล้องวงจรปิดจากร้านมาตรวจสอบพบว่าเป็นคนเดียวกันที่ได้จากกล้องวงจรปิดในพิพิธภัณฑ์ จึงนำไปตรวจสอบภาพจากกองทะเบียนราษฎรเพื่อตรวจดูหน้าตาของบุคคลดังกล่าว กระทั่งพบชื่อคือ นายมงคลเดช มีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร จากนั้นชุดสืบสวนได้แบ่งหน้าที่กันเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเกิด ไม่พบตัวอยู่บ้าน ทราบว่าได้มาศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ปี 3 คณะศึกษาศาสตร์ จึงส่งกำลังอีกชุดเข้าเฝ้ารอที่มหาวิทยาลัย กระทั่งพบนายมงคลเดช กำลัง เดินทางเข้ามาจึงแสดงตัวเข้าจับกุมได้ในที่สุด

    นายมงคลเดช ให้การรับสารภาพเป็นคนเดียวกับภาพวงจรปิดที่สามารถจับภาพไว้ได้ที่เข้าไปโจรกรรมวัตถุโบราณภายในพิพิธภัณฑ์ดังกล่าว ส่วนของกลางที่โจรกรรมมาได้นำไปขายที่กรุงเทพฯ โดยมีเซียนพระชื่อดัง "เล็ก นาดูน" เป็นผู้รับซื้อ ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถติดตามนำของกลางที่ถูกโจรกรรมกลับคืนมา 50-60 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลตามตัวเล็ก นาดูนผู้รับซื้อเพื่อนำตัวมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป


    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
    [​IMG]

    ล่า4องค์สำคัญ "พระกรุนาดูน"

    http://www.khaosod.co.th/view_news.p...MHhNaTB5Tnc9PQ==

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    โจรพิพิธภัณฑ์ - นายมงคลเดช ศูนย์จันทร์ น.ศ.ม.ขอนแก่น ทำแผนโจรกรรมพระเครื่องโบราณในพิพิธภัณฑŒฯขอนแก่น หลังตำรวจตามรวบได้พร้อมนายประดิษฐ์ ปะวะภูตา หรือ"เล็ก นาดูน" เซียนพระคนรับซื้อ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ตำรวจขอนแก่นแถลงจับนักศึกษาผู้ต้องหาลักพระกรุนาดูน และ "เล็ก นาดูน" เซียน พระชื่อดังคนรับซื้อ เผยผู้ต้อง หาลอบเข้าพิพิธภัณฑ์ขอนแก่น แล้วซ่อนตัวอยู่ภายในจนถึงเวลาปิด พอปลอดคนก็ออกมางัดตู้ขโมยพระไปขาย ตำรวจตามของกลางคืนได้ 87 จาก 91 รายการ ยังเหลือชิ้นสำคัญคือพระเครื่องดินเผากรุนาดูนอีก 4 รายการต้องตามคืน

    เวลา 10.00 น. วันที่ 26 ธ.ค. ที่ห้องประชุมบก.ภ.จว.ขอนแก่น พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร ผบช.ภาค 4 พล.ต.ต.ศักดา เตชะเกรียงไกร รองผบช.ภาค 4 พล.ต.ต.พัฒนี ศิริวัฒนี ผบก.ภ.จว. ขอนแก่น พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา ผบก.ศสส. ภาค 4 พ.ต.อ.คัชชา ธาตุศาสตร์ รองผบก.ภ.จว. ขอนแก่น พ.ต.อ.ยรรยง เวชโอสถ ผกก.สส.1 บก.สส.ภาค 4 พ.ต.อ.สุจินต์ นิจพานิชย์ ผกก. สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจ แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาร่วมกันลักทรัพย์พระพุทธรูป และวัตถุโบราณที่เก็บไว้เป็นสมบัติของชาติในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น และรับของโจร พร้อมของกลางพระโบราณเก่าแก่ พระพิมพ์ดินเผา กรุพระธาตุนาดูน จ.มหาสารคาม พระพุทธรูปสมัยทวารวดี และสมัยลพบุรี อายุไม่ต่ำกว่า 1,000 ปี รวมทั้งหมด 91 รายการ

    สำหรับผู้ต้องหาประกอบด้วย นายมงคลเดช ศูนย์จันทร์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123/2009 หมู่ 16 บ้านสามเหลี่ยม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น นักศึกษาชั้นปีที่ 3 เอกศิลปะ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และนายประดิษฐ์ ปะวะภูตา หรือ "เล็ก นาดูน" เซียนพระชื่อดัง อยู่บ้านเลขที่ 125/1 หมู่ 3 ต.พระธาตุ อ.นาดูน จ.มหาสารคาม โดยมีของกลางที่ตามยึดได้จากนายมงคลเดช เป็นพระเครื่องนาดูน และเทวรูปโบราณ 71 รายการ และตามยึดจาก "เล็ก นาดูน" เป็นพระเครื่องกรุนาดูน 10 รายการ พร้อมกับเสื้อ 1 ตัว กางเกง 1 ตัว รองเท้าผ้าใบ 1 คู่ กระเป๋าเป้ใช้สะพายหลัง อุปกรณ์งัดแงะ จำนวนหนึ่ง

    ทั้งนี้ จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายมงคลเดชเข้าไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น เมื่อใกล้ถึงเวลาปิด นายมงคลเดชหลบซ่อนตัวอยู่ด้านหลังฉาก ชั้น 1 จนกระทั่งถึงเวลา 19.30 น. จึงใช้เหล็กแหลมงัดตู้โชว์พระเครื่องและวัตถุโบราณ เอาทรัพย์สินใส่กระเป๋าสะพายเป้ไปได้รวม 91 รายการ

    ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจนทราบว่า นายมงคลเดชนำพระเครื่องกรุนาดูน 20 ราย การ ไปขายให้กับ "เล็ก นาดูน" เซียนพระชื่อดัง ในราคา 130,000 บาท โดยติดต่อดูสินค้าที่ตลาดเจ๊พร หลังมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้เงินมาสองครั้ง คือ 100,000 บาท และ 30,000 บาท เมื่อได้เงินแล้วนายมงคลเดชได้นำไปใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย โดยพาแฟนสาวไปซื้อสร้อย ทองคำหนัก 1 บาท ที่ร้านขายทองภายในมหา วิทยาลัย ผู้ขายจดชื่อ-นามสกุล-ที่อยู่ไว้ชัดเจน พร้อมกับเบอร์โทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้เจ้า ของร้านทองยังพบว่า นายมงคลเดชห้อยพระเครื่องกรุนาดูน 1 องค์ จึงขอดู แต่นายมงคลเดชแสดงอาการมีพิรุธ นอกจากนี้ยังมีรูปพรรณสัณฐานคล้ายคลึงกับภาพถ่ายที่หนังสือพิมพ์ข่าวสดตีพิมพ์เผยแพร่ ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจกให้สื่อมวลชน จึงรีบแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ

    พล.ต.ท.สันติกล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุมีเพื่อนนักศึกษาของนายมงคลเดชเห็นพฤติกรรมเปลี่ยน แปลงไปมาก มีเงินใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เที่ยวสถานบันเทิงทุกคืน เจ้าหน้าที่จึงนำมาประมวลกับเบาะแสที่ได้จากเจ้าของร้านทอง ออกภาพสเกตช์ และภาพถ่ายบุคคลต้องสงสัยมาให้ผู้เสียหายดู พบว่าเป็นไปตามรูปภาพ และภาพสเกตช์ จึงไปเชิญตัวนายมงคลเดชขณะเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยขอนแก่นมาสอบปากคำ ซึ่งนายมงคลเดชรับสาร ภาพตลอดข้อกล่าวหา และพาเจ้าหน้าที่ไปตรวจค้นหอพักบ้านคุณป้า ห้องหมายเลขบี 10 หลังมหาวิทยาลัย พบพระเครื่องกรุนาดูนและเทวรูปโบราณ จำนวน 71 รายการอยู่ในกระเป๋าเป้สะพาย บางองค์อยู่บนที่นอน บางองค์วางอยู่ในกล่องกระดาษแบบไม่มีคุณค่า

    จากนั้นเจ้าหน้าที่ขยายผลไปยัง "เล็ก นาดูน" เซียนพระ ตามที่นายมงคลเดชซัดทอดว่าเป็นผู้รับซื้อพระเครื่องกรุนาดูนไปแล้ว 20 รายการ โดยตามจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 125/1 หมู่ 3 ต.พระธาตุ อ.นาดูน จ.มหาสารคาม พบของกลาง พระเครื่องกรุนาดูนที่โจรกรรมไปจากพิพิธ ภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น 10 รายการ อีกส่วนหนึ่งให้ผู้อื่นเช่าซื้อไปแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังติดตามกลับคืนมา

    ภายหลังแถลงข่าว เจ้าหน้าที่นำนายมงคลเดชไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่พิพิธภัณฑ สถานแห่งชาติขอนแก่น โดยมีพระครูโสภณเจติยาภิรักษ์ เจ้าคณะอำเภอนาดูน นายชัยยุทธ นียากร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนาดูน นายจรัญ แทนหลาบ ส.อบจ.มหาสารคาม เขต อ.นาดูน ร่วมสังเกตการณ์ด้วย ใช้เวลาทำแผนประมาณ 30 นาที ระหว่างนั้นมีชาวบ้านนาดูนพยายามเข้าประชาทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ต้องป้อง กันนายมงคลเดชไว้ ก่อนนำตัวมาควบคุมที่สภ.เมืองขอนแก่น

    ด้านน.ส.อัจฉรา แข็งสาริกิจ ผอ.พิพิธภัณฑ สถานแห่งชาติขอนแก่น เปิดเผยว่า ดีใจมากที่ตำรวจจับกุมคนร้าย และได้โบราณวัตถุ พระเครื่องกรุนาดูนคืนมาจำนวนมากเกือบเท่ากับที่หายไป ที่ผ่านมาได้บนบานศาลกล่าวเจ้าที่เจ้าทางหลายอย่างให้เจ้าหน้าที่จับกุมคนร้าย และติดตามโบราณวัตถุมาคืนพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น ตอนนี้ของทุกอย่างที่ได้มา 80 รายการอยู่ในสภาพเดิม มีบางองค์ชำรุดบ้าง แต่ก็เป็นสิ่งมีค่าที่ไม่สามารถประเมินเป็นทรัพย์สินได้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ต้องติดตามของคืนอีก 11 รายการ

    พล.ต.ต.ศักดากล่าวว่า หลังจากสมบัติของชาติหายไปจากพิพิธภัณฑ์ โดยใช้เวลาสืบสวน 20 วันจนได้ผู้ต้องหา 2 คน ของกลาง 80 รายการ เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามของกลางกลับคืนมาให้ได้ทั้งหมด สำหรับนายประดิษฐ์ หรือ "เล็ก นาดูน" เป็นเซียนพระเครื่องชื่อดังระดับประเทศ พ่อเป็นเจ้าของที่ดินในอ.นาดูน ซึ่งขุดโบราณวัตถุ และพระเครื่องกรุนาดูนได้จำนวนมาก และนำมาเก็บรักษาไว้ในพิพิธ ภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น โดยผู้ต้องหาทั้งสองคนรู้จักกันทางโทรศัพท์ แล้ว "เล็ก นาดูน" ได้เสนอให้นายมงคลเดชเข้าไปโจรกรรมมาขายให้ในราคาหลักแสนบาท

    ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในช่วงบ่ายของวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามของ กลางจากผู้ต้องหาได้อีก 7 รายการ รวมได้ของกลางทั้งสิ้น 87 รายการ

    ด้านนายมงคลเดช ให้การว่า ส่วนตัวชอบโบราณวัตถุ และวาดภาพศิลปะของวัตถุโบราณ โดยเฉพาะพระพุทธรูป และได้รู้จักกับ "เล็ก นาดูน" ทางโทรศัพท์มือถือ โดยเซียนพระชื่อดังมาเอาพระเครื่องกรุนาดูน 10 รายการ ที่ตลาดด้านหลังมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้เงินมา 30,000 บาท เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. "เล็ก นาดูน" มาหาครั้งที่สอง เอาพระเครื่องกรุนาดูนไปอีก 10 รายการ ได้เงินมา 100,000 บาท จนกระทั่งถูกจับกุม

    ต่อมาเวลา 14.30 น. นายเข็มชาติ เทพไชย รองอธิบดีกรมศิลปากร เดินทางมาที่พิพิธภัณฑ สถานแห่งชาติขอนแก่น เพื่อตรวจสอบโบราณวัตถุที่ถูกโจรกรรมไป 87 รายการ ซึ่งบางชิ้นแตกหักแต่ซ่อมแซมได้ ส่วนมากอยู่ในสภาพดี ซึ่งได้ตรวจรับและนำมาเก็บไว้ในห้องคลังของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น ซึ่งทางพิพิธภัณฑสถานฯ จะต้องรีบซ่อมแซมโบราณวัตถุที่ชำรุดให้เร็วที่สุด พร้อมกับหามาตรการป้องกันการโจรกรรม โดยตู้โชว์ต้องให้แข็งแรงยากต่อการขโมย มีกล้องวงจรปิดประจำแต่ละตู้ ประตูทางเข้าออกต้องมีการปรับปรุงใหม่ให้มีสภาพคนร้ายเข้ามายากขึ้น และมีออดร้องบอกเจ้าหน้าที่ให้ทราบได้ทันที อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ของโบราณวัตถุประเภทพระเครื่องดินเผากรุนาดูน สมัยศิลปะทวารวดี 4 องค์ ยังไม่ได้คืนมา เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามมาคืนต่อไป<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --><!-- sig -->
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    หนี้ของคู่สมรส

    การที่สามีไปก่อหนี้โดยภริยาไม่ทราบ ภริยาจะต้องรับผิดร่วมด้วยหรือไม่

    เรวดี

    ก่อนอื่นต้องแยกหนี้ออกเป็น 2 ประการ ว่าเป็นหนี้ที่ต้องรับผิดเป็นส่วนตัว หรือว่าเป็นหนี้ร่วมคือ ถ้าเป็นหนี้ส่วนตัวของคู่สมรสฝ่ายที่ก่อหนี้คนใด ไม่ว่าจะก่อหนี้เกิดขึ้นก่อนหรือเกิดภายหลังสมรสให้ชำระหนี้ด้วยสินส่วนตัวของคู่สมรสฝ่ายที่ก่อหนี้ก่อน ถ้าไม่พอจึงจะให้ชำระด้วยสินสมรสที่เป็นส่วนของฝ่ายที่ก่อหนี้ ดังนั้นกรณีหนี้ที่สามีหรือภริยาต้องรับผิดเป็นส่วนตัวนั้น เมื่อเจ้าหนี้ยึดสินส่วนตัวของฝ่ายนั้นชำระหนี้ได้ไม่พอ ก็นำสินสมรสที่เป็นส่วนของฝ่ายที่ก่อหนี้ชำระหนี้ได้เท่านั้น จะยึดสินสมรสในส่วนของคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้

    หนี้ส่วนตัวนั้นถ้าศาลมีคำพิพากษาแล้ว ในทางปฏิบัติหากมีการยึดสินสมรส คู่สมรสฝ่ายที่มิได้เป็นคนก่อหนี้ไม่มีอำนาจที่จะขอให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาถอนการยึดทรัพย์สินได้ ต้องไปร้องขอกันส่วนของตนในฐานะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมออกมา เช่น มีการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่นำยึด และบางครั้งถ้าเป็นหนี้ส่วนตัวที่มีการบังคับคดีเอากับทรัพย์สินที่อยู่ในสภาพไม่อาจแบ่งแยกได้ เจ้าหนี้ไม่จำเป็นจะต้องฟ้องคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งเป็นจำเลยร่วมก็สามารถนำยึดทรัพย์สินนั้นได้เพราะเป็นทรัพย์ของลูกหนี้โดยตรง คู่สมรสฝ่ายที่ไม่ได้ก่อหนี้ต้องไปขอกันส่วนคือ ร้องขอแบ่งเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดในส่วนของตน

    แต่ถ้าเป็นหนี้ร่วมคือ สามีภริยาเป็นลูกหนี้ร่วมกัน ให้ชำระหนี้นั้นจากสินสมรสและสินส่วนตัวของทั้งสองฝ่าย คำว่าหนี้ร่วมถ้าอธิบายง่าย ๆ คือ การก่อหนี้ดังกล่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์ของครอบครัวหรือไม่ เช่น กู้เงินเพื่อใช้จ่ายในครัวเรือนหรือทำธุรกิจของครอบครัว หนี้เงินกู้ดังกล่าวจะเป็นหนี้ร่วม และถ้าเป็นหนี้ร่วมแม้คู่สมรสฝ่ายใดจะไม่ได้เป็นฝ่ายก่อหนี้ สามีหรือภริยาจะร้องขอแบ่งส่วนของตนจากการบังคับคดีไม่ได้

    อย่างไรก็ตาม หนี้ที่สามีหรือภริยาต้องรับผิดนั้นอาจมิใช่หนี้ที่ตนเป็นผู้ก่อ แต่เป็นหน้าที่ที่จะต้องรับผิดใช้หนี้เพราะกฎหมายกำหนดก็ได้ เช่น ฝ่ายชายมีบ้านที่ซื้อโดยการผ่อนชำระกับธนาคาร ซึ่งก็คือนำทรัพย์ไปจำนองไว้กับธนาคาร ต่อมาสามีแต่งงานและได้ทำพินัยกรรมยกบ้านหลังนี้ให้แก่ภริยา ถ้าสามีตาย บ้านที่ภริยาได้รับตกเป็นสินส่วนตัวของภริยาก็ตาม แต่ผู้รับพินัยกรรมหรือผู้รับมรดกจะต้องรับผิดตลอดถึงหนี้สินด้วย ดังนั้นเมื่อบ้านนี้ยังมีหนี้จำนองธนาคารอยู่ ภริยาจึงต้องรับผิดในหนี้จำนองที่ได้รับมาด้วย เพียงแต่ผู้รับพินัยกรรมหรือรับมรดกไม่ต้องรับผิดเกินส่วนที่ตนได้รับมา เป็นต้น

    ในกรณีชายหญิงอยู่กินฉันสามีภริยาโดยไม่จดทะเบียนสมรส ซึ่งไม่ใช่เป็นสามีภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย กรณีหนี้ส่วนตัวของฝ่ายใดที่ได้มีการบังคับคดีจากทรัพย์สินที่ชายหญิงเป็นเจ้าของร่วมกัน ซึ่งเจ้าหนี้มีสิทธิบังคับคดีเอาจากทรัพย์ที่ลูกหนี้เป็นเจ้าของเพื่อนำมาชำระหนี้ได้ ฝ่ายที่ไม่ได้ก่อหนี้ไม่มีสิทธิที่จะร้องขัดทรัพย์หรือเพิกถอนการบังคับคดี ต้องไปร้องขอกันส่วนของตนในฐานะเจ้าของร่วมเท่านั้น.
    Daily News Online > หน้าสตรี > คลินิกกฎหมาย > หนี้ของคู่สมรส
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรียนท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า

    เรื่องของพระกริ่ง เม็ดกริ่งที่เรียกว่า ....

    ผมได้นำลงให้แล้วในไฟล์แนบนี้ ส่วนรหัสเปิดไฟล์ ให้โทร.มาสอบถามผมนะครับ

    [​IMG] เม็ดกริ่ง-sithiphong.doc

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ข่าวประชาสัมพันธ์
    วันที่ 2 ตุลาคม 2552

    ICT รุกอัดเว็บร้าย ตัดตอนสูญเสียนับหมื่นล้านบาท

    กระทรวง ICT รุกหนักปราบปรามเว็บผิดกฎหมาย ระดมคนไทยทั่วประเทศ แจ้งเบาะแสง่ายๆ ผ่านสายด่วน 1212 เชื่อเว็บร้ายตายสนิท ก่อนชาติสูญเงินนับหมื่นล้านบาท

    ร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า กระทรวง ICT มีนโยบายที่จะปราบปรามเว็บไซต์ที่เป็นภัยต่อเศรษฐกิจ สังคม และประเทศชาติอย่างเด็ดขาด เพื่อเป็นการขยายผลการดำเนินการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยจะใช้มาตรการด้านกฎหมายสูงสุดกับเว็บไซต์ที่แอบแฝงผิดกฎหมายในปัจจุบัน ขณะเดียวกันก็ยังเป็นการตักเตือนและตัดตอนเว็บไซต์ที่กำลังจะนำความเสียหาย และเสื่อมเสียเข้ามาในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศไทย
    ปัจจุบันเว็บไซต์ผิดกฎหมายได้ส่งผลเสียหายและสูญเสียทั้งระบบเศรษฐกิจ สังคม และประเทศชาติ อาจคิดเป็นมูลค่าประมาณหมื่นล้านบาทต่อปี แม้จะมีการป้องกันปราบปรามมาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาได้ปิดเว็บร้ายไปแล้วกว่า 19,000 URL แยกเป็นเว็บที่กระทบต่อความมั่นคง 10,578 URL เว็บที่เผยแพร่ข้อมูลเข้าข่ายลามกอนาจาร-ขายยาไม่ได้รับใบอนุญาต 8,474 URL และเว็บเกี่ยวกับการพนัน 72 URL ซึ่งหลังจากที่สายด่วน 1212 และอีเมล์ 1212@mict.mail.go.th ได้เปิดให้บริการตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ปรากฏว่ามีผู้ให้ความร่วมมือแจ้งเบาะแสเว็บอันตรายเข้ามามากกว่า 500 ราย และกระทรวงฯ ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ร้องเรียนอีกกว่า 100 รายที่เผชิญภัยอินเทอร์เน็ต ทำให้สามารถดำเนินการในการปิดกั้นเว็บผิดกฎหมายและพัฒนาการต่อสู้กับเว็บไซต์ที่เป็นภัยต่อประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ยังต้องอาศัยเวลาเพื่อขจัดเว็บไม่หวังดีที่ยังมีอยู่ เพราะจะมีการใช้เทคนิครูปแบบใหม่ ๆ แอบแฝงเข้ามาเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับนานาประเทศ

    ดังนั้น กระทรวง ICT จึงได้จัดทำโครงการร่วมพลังคนไทยแจ้งภัยร้ายทางอินเทอร์เน็ตผ่านสายด่วน 1212 ขึ้น เพื่อระดมความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเร่งปราบปรามเว็บอันตรายให้หมดสิ้นไปจากสังคมไทย ด้วยการจัดกิจกรรมรณรงค์ “สร้างสรรค์โลกออนไลน์ หยุดเว็บร้ายโทร 1212” ไปตามสถานศึกษาในเขตกรุงเทพฯ และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ประชาชนเกิดความตระหนักรู้และร่วมสร้างสังคมออนไลน์ของประเทศไทยให้เป็นสังคมที่ปลอดจากเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมต่อไป

    “การปราบปรามจะสำเร็จลุล่วงไปได้นั้น ส่วนสำคัญคือ การร่วมมือร่วมใจของคนไทยทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ที่จะช่วยทำหน้าที่ตรวจสอบ แจ้งเบาะแสมายังกระทรวง ICT โดยเราจะเร่งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศเกี่ยวกับช่องทางการแจ้งเบาะแสเว็บร้ายผ่านสายด่วน 1212 เพื่อกระจายการรับรู้ให้มากที่สุด ซึ่งนับเป็นปรากฏการณ์ทีดีที่ทุกคนจากทุกภาคส่วนจะเข้ามามีส่วนร่วมต่อบทบาทสำคัญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของไทย อันเป็นประโยชน์อย่างมากต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และประเทศชาติ” ร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ กล่าว

    ***************************************​

    ที่อยู่ใหม่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
    120 หมู่ 3 ชั้น 6-9 (โซนทิศเหนือ) อาคาร B ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550
    ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 โทรศัพท์ 02 141 6747 โทรสาร 02 143 8046
    I CT Ø?˹ѡ?Ò???é҂
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สธ.เตือนระวังโรคพิษสุนัขบ้าระบาดฤดูหนาว

    สธ.เตือนระวัง "หมาเดือนสิบสอง"ช่วงติดสัตว์ เสี่ยงโรคพิษสุนัขบ้า หลังพบคนถูกหมากัดพุ่งกว่า 4 แสนรายต่อปี โดยปี 51 มีคนตายจากโรคกลัวน้ำถึง 9 ราย ...

    เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.52 นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้า (Rabies) ว่า จากการประเมินในปี 2552 นี้พบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคนี้เพิ่มขึ้นมากกว่าปี 2551 ตั้งแต่เดือนมกราคม 2552 จนถึงขณะนี้ ทั่วประเทศพบผู้ป่วย 24 รายใน 10 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี 4 ราย ราชบุรี 2 ราย สุพรรณบุรี 2 ราย ระยอง 2 ราย นนทบุรี ปราจีนบุรี สมุทรสาคร ตาก จังหวัดละ 1 ราย กรุงเทพมหานคร 7 ราย สงขลา 3 ราย เนื่องจากไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันหลังถูกสุนัขที่มีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้ากัด ในขณะที่ปี 2551 มีผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า 9 ราย

    นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีประชาชนบางส่วนเข้าใจผิดว่า โรคพิษสุนัขบ้าจะเกิดในฤดูร้อนเท่านั้น แท้จริงแล้วพบได้ทุกฤดูกาล โดยเฉพาะในฤดูหนาวจัดเป็นฤดูกาลแพร่โรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์ เนื่องจากเป็นฤดูผสมพันธุ์ของสุนัขโดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม โดยสุนัขตัวผู้จะได้รับเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าจากการต่อสู้แย่งชิงตัวเมีย เชื้อจะออกมาทางน้ำลาย และติดต่อสู่คนโดยการกัด ข่วนหรือเลีย คนติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าจะแสดงอาการป่วยประมาณ 4 วันจนถึง 3-4 ปีก็ได้ แต่ส่วนใหญ่ไม่เกิน 1 ปี และจะเสียชีวิตทุกราย เพราะโรคนี้ไม่มียารักษา
    จึงได้เร่งสั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เผยแพร่ความรู้โรคพิษสุนัขบ้าให้ประชาชนทราบเพื่อป้องกันการเสียชีวิต

    ด้าน นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคติดต่อจากสัตว์มาสู่คนที่มีความรุนแรงมาก อาการโรคนี้คือมีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว คันบริเวณรอยแผลที่ถูกสัตว์กัด อาการคันลามไปที่อื่น ต่อมาจะหงุดหงิด น้ำลายไหลมาก กล้ามเนื้อคอกระตุกเกร็ง บางรายอาจมีอาการแขนขาอ่อนแรง มักป่วยประมาณ 2-6 วัน และเสียชีวิตทุกราย การป้องกันที่ได้ผลที่สุด คือ เลี้ยงสุนัขอย่างรับผิดชอบ นำสุนัขที่เลี้ยงทุกตัวไปรับการฉีดวัคซีน ลดพฤติกรรมเสี่ยงต่อการถูกสุนัขกัด โดยอย่าแหย่ อย่าเหยียบ อย่าหยิบจับ อย่ายุ่ง อย่าหยอก กับสุนัขแปลกหน้า หากถูกกัดให้กักสุนัขไว้เพื่อสังเกตอาการ รีบล้างแผลใส่ยา และพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนจนครบ ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเฉลี่ยปีละกว่า 400,000 ราย

    อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สุนัขทุกวัยมีโอกาสเป็นโรคพิษสุนัขบ้า ในลูกสุนัขจะได้รับเชื้อมาจากแม่ขณะเลียปากลูก สุนัขที่เป็นโรคนี้ จะมีอาการทั้งชนิดซึมและชนิดดุร้าย ชนิดซึมสุนัขมักจะหลบซุกตัวในมุมมืด ถ้าถูกรบกวนอาจจะกัด บางตัวอาจมีอาการคล้ายมีกระดูกติดคอ เจ้าของจึงเข้าใจผิดพยายามใช้มือล้วงปากสุนัขเพื่อหาเศษกระดูก ทำให้ติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าได้ ส่วนชนิดดุร้าย สุนัขจะมีอาการทางประสาท กระวนกระวาย หงุดหงิด ดุร้าย กัดทุกสิ่งที่ขวางหน้า ในระยะสุดท้ายสุนัขจะมีขากรรไกรแข็ง ปากอ้า ลิ้นห้อย น้ำลายไหล วิ่งไม่มีจุดหมาย เป็นอัมพาต และตายในที่สุดและว่าขณะนี้วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในคนมีความปลอดภัยสูง ฉีดเพียง 5 เข็ม และไม่ต้องฉีดทุกวัน

    อย่างไรก็ตามวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ก็คือการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้แก่สุนัข โดยเริ่มฉีดครั้งแรกเมื่อสุนัขอายุตั้งแต่ 2 เดือน และฉีดซ้ำทุกปี หากโดนกัด ขอให้รีบล้างแผลด้วยน้ำกับสบู่หลาย ๆ ครั้ง ล้างให้ลึกถึงก้นแผล ใส่ยาฆ่าเชื้อเช่น ทิงเจอร์ไอโอดีน แอลกอฮอล์ แล้วรีบพาไปพบแพทย์โดยเร็ว

    สธ.เตือนระวังโรคพิษสุนัขบ้าระบาดฤดูหนาว - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 27 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 25 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, nongnooo+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สวัสดีครับท่านรองฯ วันนี้ที่ได้รับจากผมไป ดีป่าวครับ แรงป่าวครับ อิอิ
     
  19. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ผมก็ตามเพื่อนอ่ะครับ เพื่อนผมบอกดีผมก้ว่างั้นครับ หุ หุ
     
  20. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ได้ส่องลงไปเนื้อหาแปลกดีนะครับ หนึบนุ่ม หุ หุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...