พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สิ่งที่เมื่อก่อน เคยเตือนกันไว้ แต่ผมเองไปเห็นในเว็บอื่นๆ บางเว็บก็ตั้งตนเป็นผู้รู้ ผู้เก่งกล้า แต่ผมดูแล้ว อ่า จะบอกว่า มีของเทียมแทรกในของจริง มีความเข้าใจผิดระหว่างพระวังหน้า , พระวังหลวง ,พระวังหลัง และพระที่ขุนนางชั้นผู้ใหญ่และ/หรือเป็นพระราชวงศ์เป็นผู้ที่ให้สร้าง กันมาก

    ที่สำคัญ ดูเป็นแต่รูป(เนื้อหาทรงพิมพ์)อย่างเดียว

    เมื่อทั้งมีอัตตาในตนเองว่า ข้านี่แน่ ข้านี่เก่ง และ ดูรูป(เนื้อหาทรงพิมพ์) เพียงอย่างเดียว โดยไม่มีการตรวจสอบพลังพุทธคุณหรือพลังอิทธิคุณ ก็จบครับ

    ส่วนเรื่องที่ผมเตือนเรื่องของพระปลอม(พระเก๊)อยู่บ่อยๆ จนผมรู้สึกว่าท่านผู้อ่านคงจะเบื่อ ทำไมผมต้องเตือนบ่อยๆ และประสบปัญหาบางเรื่องในเว็บพลังจิต ทำให้ผมหยุดการเตือนในเรื่องนี้ไป บางครั้งท่านผู้อ่านที่เข้ามาใหม่ ก็มักจะดูแต่หน้าท้ายๆ ไม่เคยเข้าไปดูในกระทู้ในหน้าที่ลึกๆเลย ผมเองก็ปล่อย ไม่เตือนอีก ถือว่า แล้วแต่วาสนา บารมีของแต่ละท่าน พระท่านเลือกคน เป็นคำพูดที่ผมยืนยันได้ว่า ถูกต้อง ครับ
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    ใช่แล้ว เขานำไป Modify กันจริงๆ หุหุหุ

    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่แน่ๆ เห็นกันแล้ว เข่าอ่อน เดินกันไม่ค่อยเป็นเลย

    พระวังหน้าแท้ๆ มีมากมาย

    แต่ที่ปลอมกันขึ้นมาใหม่ ก็มีมากมายอีกเช่นกัน


    ฝากบอกคนที่ทำปลอมด้วยว่า ทำให้เนียนกว่านี้หน่อย ตอนนี้ผมยังจับได้อยู่ว่า คุณทำปลอม เหอๆๆๆ

    สงสารแต่เพียงคนรุ่นใหม่ ที่สนใจพระวังหน้า แต่หาท่านผู้รู้จริงสอนไม่ได้ สุดท้ายเมื่อใจไม่รักจริงและแกร่งพอ ก็จะล้มเลิกในเรื่องพระวังหน้าไป
     
  4. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    บางครั้ง ผมจะนำเณรไปจัดแสงเงาให้ดูดี แล้วก็เข้าใจกันว่าเป็นพระก็มี 55555
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมขอขอบคุณเจ้าของวัดไ...... ที่ได้ให้หนังสือผมมาเรียบร้อยแล้ว

    ส่วนเรื่องพระกริ่งปวเรศ ท่านผู้อ่านจะเชื่อหรือไม่ ก็สุดแล้วแต่

    แต่ผมและคณะ เชื่ออย่างสนิทใจ และเริ่มมีประสบการณ์มาแล้ว

    สำหรับข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวกับพระกริ่งปวเรศ หากเป็นข้อมูลที่ผู้ที่น่าเชื่อถือเป็นผู้เขียน เช่น กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ระบุว่า มีการสร้างกี่องค์ กี่รุ่น รูปร่างลักษณะของพระกริ่งเป็นอย่างไร มีการลงรูปให้เห็นอย่างชัดเจน ข้อมูลนี้ต้องเชื่อถือได้ แต่หากว่าคนเขียนในยุคปัจจุบันที่ระบุว่า เป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ เป็นการระบุเพื่อการสร้างมูลค่าให้สูงมากๆเท่านั้น
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอขอบพระคุณพี่แอ๊วเป็นอย่างมาก สำหรับเค๊กวันเกิดที่ส่งมาเซอร์ไพรส์ผม

    แต่ของขวัญที่ผมจะมอบให้พี่แอ๊ว ไว้วันงานใหญ่ผมจะไปมอบให้กับพี่ในงานนะครับ


    [​IMG]
    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 041120092101.jpg
      041120092101.jpg
      ขนาดไฟล์:
      114 KB
      เปิดดู:
      52
    • sa.JPG
      sa.JPG
      ขนาดไฟล์:
      69.4 KB
      เปิดดู:
      45
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    [​IMG]

    ผมได้แจ้งความประสงค์กับเจ้าของวัดไ...... แล้วว่า จะขออนุญาตนำสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า เข้ากราบพระพุทธรูป ที่วัดไ...

    ท่านเจ้าของวัดไ.... บอกกับผมว่า ขอตัดสินใจก่อน แล้วจะแจ้งให้ผมทราบอีกครั้งครับ

    รูปที่นำมาลง เป็นองค์พระสยามเทวาธิราช เป็นการสร้างและนำเข้าพิธีพุทธาภิเษก ที่วัดเทพศิรินทราวาส ปี พ.ศ.2495 ครับ
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ซานเซิงโหย่วซิ่ง :โชคดีทั้งสามชาติ
    China - Manager Online

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 พฤศจิกายน 2552 17:32 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>三生有幸

    三生 (sān shēng)อ่านว่า ซานเซิง แปลว่า สามชาติ (หมายถึงความเชื่อเรื่องชาติก่อน ชาตินี้ และชาติหน้า ทางพระพุทธศาสนา)
    (yǒu) อ่านว่า โหย่ว แปลว่า มี
    (xìng) อ่านว่า ซิ่ง แปลว่า โชคดี


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ที่มา auction.sc001.com.cn</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ในสมัยราชวงศ์ถัง ยังมีนักบวชรูปหนึ่ง ฉายา หยวนเจ๋อ ได้บวชเรียนศึกษาพระธรรมจนเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ถึงขอบเขตขั้นสูง

    นักบวชหยวนเจ๋อมีสหายสนิทนามว่า หลี่หยวนซ่าน วันหนึ่งทั้งสองออกเดินทางท่องเที่ยวไปด้วยกัน เมื่อผ่านไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง พบหญิงสาวกำลังตักน้ำอยู่ริมลำธาร หญิงผู้นั้นท้องใหญ่โต เห็นได้ชัดว่ากำลังตั้งครรภ์

    นักบวชหยวนเจ๋อชี้มือไปยังหญิงตั้งครรภ์ พร้อมทั้งกล่าวกับหลี่หยวนซ่านผู้เป็นสหายสนิทว่า “หญิงผู้นั้นตั้งครรภ์มานานกว่า 3 ปีแล้วเพราะรอให้ข้าไปจุติในท้องของนาง เนื่องจากตามชะตา ในชาติหน้าข้าต้องเกิดเป็นลูกของนาง แต่ข้าพยายามบ่ายเบี่ยงมาตลอด แต่บัดนี้เมื่อได้พบหน้ากันแล้ว จึงทราบว่าไม่อาจยื้อเวลาได้อีกต่อไป
    “จากนี้อีก 3 วัน หลังจากที่หญิงผู้นี้คลอดบุตร ท่านจงเดินทางไปยังบ้านของนางเพื่อเยี่ยมทารก หากทารกยิ้มให้ท่าน นั่นแสดงว่าเป็นตัวข้าพเจ้า จงให้รอยยิ้มเป็นเสมือนคำสัญญา และจากนั้นอีก 13 ปี ในคืนวันไหว้พระจันทร์ ข้าจะรอท่าน ณ วัดอินเดียในเมืองหางโจว วันนั้นเราจะได้พบกันอีกครั้ง” กล่าวจบทั้งสองจึงร่ำลาและแยกย้ายกันไป

    ในคืนนั้นเอง นักบวชหยวนเจ๋อก็ถึงแก่กรรม เป็นเวลาเดียวกันกับที่หญิงท้องแก่ให้กำเนิดบุตรชาย หลังจากนั้นอีก 3 วัน เมื่อหลี่หยวนซ่านเดินทางไปเยี่ยมทารก ทารกนั้นยิ้มให้เขาจริงๆ จากนั้น 13 ปีให้หลัง เมื่อถึงวันไหว้พระจันทร์ หลี่หยวนซ่านเดินทางไปยังวัดอินเดีย ณ เมืองหางโจวตามสัญญา เมื่อถึงประตูวัด เขาพบเด็กเลี้ยงวัวผู้หนึ่ง นั่งอยู่บนหลังวัวพลางร้องเพลง

    “วิญญาณทั้ง 3 ชาติสลักแน่นบนศิลา
    ผ่านพบสิ่งใดมามิต้องเอ่ย
    อาจมากมายจนละอายเมื่อถามไถ่
    แม้รูปกายเปลี่ยนไป แต่จิตใจยังเป็นเช่นเดิม”

    เมื่อได้ฟังเพลงดังกล่าว หลี่หยวนซ่านก็รู้ชัดว่า ในที่สุดเขาได้มาพบสหายที่พลัดพรากกันไปอีกครั้ง

    สำนวนดังกล่าว มักใช้เปรียบเปรยกับพรหมลิขิตบันดาลชักพา หรือใช้ในกรณีที่มิตรสหายมาพบกันโดยบังเอิญ หรือคนที่ได้รู้จักกันในสถานการณ์พิเศษแล้วกลายมาเป็นผู้รู้ใจ

    สำนวนนี้ใช้ในตำแหน่งภาคแสดง มักใช้เพื่อขอบคุณ หรือแสดงไมตรี

    ตัวอย่างประโยค
    久闻大名, 今天相见 , 真是三生有幸 !
    ได้ยินชื่อเสียงมานาน วันนี้ได้พานพบ นับว่า ~ จริงๆ


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    นำมาฝากสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้าครับ
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เผยฤดูหนาวปีนี้ มาเร็วไปเร็ว กทม.ไม่เย็นมาก

    �������˹�� Ĵ�˹�� �չ�� ������������ ���.��������ҡ


    [​IMG]


    เผยฤดูหนาวปีนี้ มาเร็วไปเร็ว กทม.ไม่เย็นมาก (ไทยรัฐ)

    ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านภัยพิบัติฯเผยปีนี้ หน้าหนาวมาเร็ว ไปเร็ว แถมไม่เย็นมาก กรุงเทพฯต่ำสุดแค่ 19 องศาฯ เตือนระวังพายุฤดูหนาวกระหน่ำภาคใต้ พฤศจิกายน - ธันวาคม

    นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านภัยพิบัติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิ อากาศ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวถึงสภาพอากาศหนาวเย็นในพื้นที่กรุงเทพฯ ช่วง 1 - 2 วันที่ผ่านมา ว่า จริง ๆ ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยมวลอากาศเย็นจากตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ได้พัดเข้ามาทางภาคเหนือและภาคอีสานตอนบน ทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีอุณหภูมิเย็นลงมากกว่าพื้นที่อื่น อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ถือว่าฤดูหนาวมาเร็วกว่าปีที่ผ่านมา โดยปกติการเข้าสู่ฤดูหนาวจะอยู่ประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งปีที่ผ่านมา หน้าหนาวของไทยเริ่มต้นเดือนพฤศจิกายน และยาวนานถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่ปีนี้ ไม่น่าหนาวเย็นและยาวนานเท่าปีที่แล้ว คาดว่าฤดูหนาวปีนี้จะสิ้นสุดก่อนเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่อุณหภูมิก็ไม่ลดลงมากนัก ​

    "สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ คาดว่า อากาศจะไม่หนาวเย็นมาก จากข้อมูลต่าง ๆ เชื่อว่า อุณหภูมิต่ำสุดจะอยู่ที่ประมาณ 19 - 20 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่า เป็นอุณหภูมิปกติในช่วง 20 - 30 ปีที่ผ่านมา ไม่หนาวเย็นมากที่สุด ขณะที่ภาคเหนือ อย่าง จ.เชียงใหม่ อุณหภูมิน่าจะอยู่ที่ประมาณ 10 องศาเซลเซียส แต่บริเวณยอดเขาสูงอาจอุณหภูมิต่ำกว่านั้น" นายอานนท์ กล่าว ​

    นายอานนท์ กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญในช่วงฤดูหนาวต้องระวังเรื่องพายุ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนจนถึงต้นเดือน ธันวาคม ถือเป็นช่วงที่เริ่มฤดูพายุของพื้นที่ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม แม้พายุในรอบ 5 - 6 ปีที่ผ่านมา จะไม่มีพายุเข้ามาในพื้นที่ภาคใต้ แต่ยังคงวางใจไม่ได้ เพราะไทยเคยประสบปัญหาอย่างหนักกับพายุมุยฟ้า และพายุลินดา ดังนั้น จึงต้องระวังเป็นพิเศษ โดยพื้นที่ที่มีโอกาสเสี่ยง อาทิ จ.นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ส่วน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และสงขลา รวมทั้งจังหวัดในแถบอ่าวไทยตอนบน อย่างเพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร หรือแม้แต่พื้นที่กรุงเทพฯ ก็มีโอกาสเจอกับพายุเช่นเดียวกัน​


    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
    [​IMG]

     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ศาลฎีกาตัดสินจำคุก 5 ปี "โกวิท ประวาลพฤกษ์" อดีตเลขาฯศช. รับเงินเอื้อบ.เอกชน

    Matichon Online: ˹ѧ��;������Ԫ��͹�Ź� : ˹ѧ��;�����س�Ҿ ����ͤس�Ҿ�ͧ������

    ศาลฎีกาพิพากษายืน สั่งจำคุก 5 ปี "โกวิท ประวาลพฤกษ์ " อดีตเลขาฯคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ทุจริตรับเงินกว่า 2 แสน บริษัทเอกชน จัดซื้อสื่อการเรียนการสอน ส่วนเจ้าตัวหนีฟังคำพิพากษา


    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>[/FONT]
    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 4 พฤศจิกายน ที่ห้องพิจารณาคดี 905 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาคดีหมายเลขดำที่ 3423/44 ที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายโกวิท ประวาลพฤกษ์ อายุ 58 ปี เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (ศช.) กระทรวงศึกษาธิการ (ขณะนั้น) เป็นจำเลยในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจัดซื้อสื่อการเรียนการสอนโดยทุจริต [/FONT]

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]ฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2544 ระบุความผิดจำเลยสรุปว่าเมื่อระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน2539 – 2 กรกฎาคม2540 ต่อเนื่องกัน จำเลย ได้ทุจริตต่อหน้าที่โดยสั่งซื้อสื่อการเรียนการสอนโรงเรียนเอกชนการกุศล ระดับอนุบาลจากบริษัท โฟรเบล เอ็ดดูเคชั่นเซ็นเตอร์ จำกัด รวม 3 รายการ เป็นเงิน 1,991,850 บาท โดยวิธีพิเศษตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 ข้อ 23 (6) อ้างว่า บริษัท โฟรเบลฯ เป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย อันเป็นการเอื้อประโยชน์แก่บริษัทโฟรเบลฯ ทั้งที่จำเลยรู้อยู่แล้วว่า การจัดซื้อครั้งนี้ไม่อยู่ในเงื่อนไขการจัดซื้อด้วยวิธีพิเศษ [/FONT]

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]การกระทำของจำเลยเป็นการแสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้ และก่อให้เกิดความเสียหายแก่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชนต้องจ่ายเงินงบประมาณเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมจำนวน 680,627 บาท โดยจำเลยได้ค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวน 256,445 บาท ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90,151,157 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 และมาตรา28 จำเลยให้การปฏิเสธ [/FONT]

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]คดีนี้ศาลชั้นต้นพิเคราะห์พยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่า จำเลยไม่มีความผิด พิพากษายกฟ้อง อัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์ [/FONT]

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]ศาลอุทธรณ์ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง เป็นความผิดกรรมเดียวผิด กฎหมาย หลายบทให้ลงโทษบทหนักสุดตามมาตรา 151 พิพากษากลับให้จำคุกจำเลยไว้ 5ปี จำเลยยื่นฎีกา และใช้เงินสดจำนวน 5 แสนบาทประกันตัวไประหว่างฎีกา [/FONT]

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า ข้อต่อสู้จำเลยเป็นข้ออ้างลอย ๆ ไม่หลักฐานอื่นมาสนับสนุน มีข้อพิรุธไม่มีน้ำหนักมาหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ จึงรับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน [/FONT]

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้เป็นการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาลับหลังจำเลยตามกฎหมาย เนื่องจากเมื่อวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมาศาลอาญา ได้นัดฟังคำพิพากษาของศาลฎีกา แต่จำเลยไม่มาฟังคำพิพากษา ศาลจึงออกหมายจับ ปรับนายประกัน และนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้อีกครั้ง[/FONT]

    Matichon Online: ˹ѧ
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูฝนพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เป็นเครื่องทรงฤดูหนาว
    ˹ѧ��;������Ԫ�����ѹ : ˹ѧ��;�����س�Ҿ ����ͤس�Ҿ�ͧ������


    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯแทนพระองค์ ทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูฝนพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต เป็นเครื่องทรงฤดูหนาว ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    โอกาสเสี่ยง"มะเร็งจากมลพิษทางอากาศ"

    ˹ѧ

    โอกาสเสี่ยง"มะเร็งจากมลพิษทางอากาศ"

    http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01lif01041152&sectionid=0132&day=2009-11-04

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จฯทรงเป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการโรคมะเร็งแห่งชาติ ครั้งที่ 10 หัวข้อ "ผสมผสานทีมมะเร็งอย่างสมดุลเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า (Harmonization of Cancer Teams for a Better Cancer Care) ซึ่งจัดโดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 2-4 พฤศจิกายน 2552 เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 พฤศจิกายน ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น โดยมีนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ. นพ.เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ นพ.ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ และข้าราชการ เฝ้าฯรับเสด็จ

    ศ.ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ มีพระดำรัสว่า โรคมะเร็งเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญยิ่งของประเทศ เนื่องจากเป็นโรคร้ายแรงที่ทำลายชีวิตมนุษย์และเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลในแต่ละปีจำนวนมาก จึงถือว่าเป็นการบั่นทอนเศรษฐกิจของประเทศชาติไม่น้อย การป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งให้ได้ผลดีนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือทั้งจากประชาชน ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิ และบุคลากรทางการแพทย์ หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ ปัจจุบันในแต่ละประเทศล้วนตระหนักถึงเรื่องนี้ จึงก่อตั้งสถาบัน หรือสมาคมเพื่อดำเนินการค้นคว้าวิจัยและต่อต้านโรคมะเร็งกันอย่างจริงจัง สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ (CRI) ศูนย์วิจัยศึกษาและบำบัดโรคมะเร็ง สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ (CCC) ก็เป็นองค์กรหนึ่งที่จัดตั้งขึ้นเช่นกัน เพื่อประสานความร่วมมือกับนักวิจัยระดับชาติและนานาชาติในการค้นคว้าวิจัย เพื่อต่อสู้กับโรคมะเร็งให้กับประชาชนชาวไทยและประเทศชาติ

    จากนั้น สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ ทรงบรรยายพิเศษเรื่อง โอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งจากมลพิษทางอากาศ (Cancer Risk from Exposure to Air Pollution) ว่า มลพิษทางอากาศ เป็นปัญหาสำคัญของสิ่งแวดล้อม องค์การอนามัยโลกคาดประมาณว่า มลพิษทางอากาศเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตมากกว่า 8 แสนคนทั่วโลกในทุกๆ ปี และ 2 ใน 3 ของจำนวนการตายนั้นเกิดขึ้นในประเทศที่กำลังพัฒนาในทวีปเอเชีย โดยผลกระทบต่อสุขภาพเป็นทั้งแบบเฉียบพลันและแบบเรื้อรัง ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเฉียบพลัน โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง โดยในประเทศใหญ่ๆ ของเอเชีย อากาศเป็นพิษในชุมชนส่วนใหญ่มาจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ รวมทั้งการเผาไหม้ของธูป ซึ่งจะมีสารก่อมะเร็งปะปนอยู่ เช่น Polycyclic aromatic hydrocarbons (PAHs) เบนซิน และ 1,3 -บิวทาไดอีน (butadiene) ได้ศึกษาการได้รับสารก่อมะเร็งในกลุ่มเด็กนักเรียน ตำรวจจราจร คนเดินถนนและคนทำงานในวัด โดยตรวจหาเครื่องหมายโมเลกุล พบว่า คนเหล่านี้ได้รับสารก่อมะเร็งในปริมาณสูง โดยเฉพาะเด็กที่อยู่ในเมือง และตำรวจจราจร

    ทั้งนี้ การศึกษาวิจัยในสาขาดังกล่าว สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ ทรงรับการถวายรางวัล 2009 Ramazzini ซึ่งเป็นรางวัลที่ได้รับการคัดเลือกจากนักวิทยาศาสตร์นานาประเทศ โดยได้ลงมติมอบแก่นักวิทยาศาสตร์ที่มีบทบาทโดดเด่นในระดับนานาชาติทั้งด้านงานวิจัยและงานวิชาการในการป้องกันรักษาสุขอนามัยสาธารณชน

    ขณะนี้ ประเทศไทยโรคมะเร็งมีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ซึ่งมีมะเร็งมากกว่า 100 ชนิดที่สามารถเกิดขึ้นกับอวัยวะในร่างกาย โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ติดต่อกันมา 7 ปี ในปี 2550 มีคนไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งทุกชนิด 53,434 ราย คิดเป็นร้อยละ 14 ของผู้เสียชีวิตทุกสาเหตุ มีผู้ป่วยรายใหม่ปีละ 120,000 ราย มะเร็งที่พบในผู้ชายมากที่สุดได้แก่ มะเร็งลำไส้ใหญ่/ทวารหนัก ร้อยละ 17 รองลงมาคือ มะเร็งปอด ร้อยละ 16 และมะเร็งตับ ร้อยละ 11 พบมากที่สุดในอายุ 65-69 ปี ส่วนในผู้หญิงพบมะเร็งเต้านมมากที่สุด ร้อยละ 43 รองลงมา มะเร็งปากมดลูก ร้อยละ 16 และมะเร็งลำไส้ใหญ่ ร้อยละ 9 พบมากในอายุ 50-54 ปี กระทรวงสาธารณสุขจึงต้องพัฒนาองค์ความรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการป้องกันซึ่งเป็นการลงทุนที่ให้ผลคุ้มค่าที่สุด เนื่องจากร้อยละ 40 สามารถป้องกันได้ โดยการป้องกันจะเน้นที่การรณรงค์ปรับพฤติกรรม 4 เรื่องใหญ่ ได้แก่ ลดการสูบบุหรี่ เหล้า กินอาหารสุขภาพ เพิ่มผักผลไม้ให้ได้วันละครึ่งกิโลกรัม ออกกำลังกายให้ได้วันละ 30 นาที
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    แห่ซื้อทองคำราคาพุ่งทุบสถิติ

    นักลงทุนไม่เชื่อมั่นเศรษฐกิจแนวโน้มผันผวนตามดอลลาร์

    นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ราคาทองคำในประเทศทำสถิติใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์หลังจาก ราคาทองคำในตลาดโลกปรับขึ้นทำสถิติอยู่ที่ 1,065 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งในประเทศช่วงเช้าปรับเพิ่มขึ้นบาทละ 150 บาท ทำให้ราคารับซื้ออยู่ที่บาทละ 16,750 บาท และขายออกอยู่ที่บาทละ 16,850 บาท จากเดิมรับซื้อบาทละ 16,000 บาท และขายออกบาทละ 16,700 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 16,514 บาท และขายออกบาทละ 17,250 บาท จากเดิมรับซื้อบาทละ 16,364 บาท และขายออกบาทละ 17,100 บาท

    สำหรับสาเหตุที่ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น เพราะนักลงทุนยังไม่มั่นใจภาวะเศรษฐกิจโลกว่าจะฟื้นตัว และไม่เชื่อมั่นค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่สถาบันการเงินสหรัฐมีการปิดกิจการเพิ่มขึ้นทำให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงมากขึ้น

    ทั้งนี้เห็นว่าสถานการณ์ราคาทองคำในช่วงนี้ค่อนข้างผันผวน เพราะเป็นช่วงปรับฐาน โดยคาดว่าราคาทองคำในตลาดโลกมีโอกาสสูงสุดอยู่ที่ 1,085 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และราคาต่ำสุดอยู่ที่ 1,020 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนแนวโน้มราคาทองคำในช่วงนี้ยังมีทิศทางไม่ชัดเจนต้องติดตามภาวะตลาดอย่างต่อเนื่อง แต่เชื่อว่าราคาทองคำ อยู่ในช่วงขาขึ้นมากกว่าขาลง

    “นักลงทุนจะต้องระมัดระวังการลงทุน และต้องดูทิศทางการลงทุนให้ชัดเจนก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน ซึ่งหากไม่แน่ใจให้ชะลอไว้ก่อน เพราะราคาผันผวนมาก โดยช่วงเช้าราคาปรับเพิ่มขึ้นบาทละ 150 บาท แต่ช่วงบ่ายราคาในตลาดโลกลดลงมาอยู่ที่ 1,062 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทำให้ปรับราคาทองคำแท่งและทองรูปพรรณลงบาทละ 50 บาท”

    ส่วนกรณีที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ขายทองคำจำนวน 200 ตัน ให้ธนาคารกลางอินเดียนั้น จะไม่ส่งผลให้ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลดลง เนื่องจากปริมาณทองคำที่ขายไม่ได้เข้ามาหมุนเวียนในตลาด เพราะธนาคารกลางอินเดียจะซื้อทองคำเก็บไว้เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ

    นายโกสินทร์ เจือศิริภักดี ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทจีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า การขายทองคำของไอเอ็มเอฟ ไม่มีผลต่อราคาทองคำในตลาดล่วงหน้าในตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทย (ทีเฟ็กซ์) เนื่องจากเป็นไปตามคาดการณ์ของตลาด เพราะไอเอ็มเอฟขายให้ธนาคารกลางอินเดีย ยกเว้นว่ากระจายทองคำเข้าสู่ตลาดอาจทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงได้

    ส่วนทองคำที่ไอเอ็มเอฟจะนำออกขายอีก 200 ตันเชื่อว่าจะมีคนซื้อชัดเจนอย่างครั้งนี้เช่นกัน.

    Daily News Online > หน้าเศรษฐกิจ > แห่ซื้อทองคำราคาพุ่งทุบสถิติ
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ใช้พยานเอกสาร-บุคคล ขอใบรับรอง 'ความโสด'

    Daily News Online > หน้ากทม. > ใช้พยานเอกสาร-บุคคล
    ขอใบรับรอง 'ความโสด'


    สาวทั่วประเทศต้องการใบรับรอง'ความโสด'สั่งทะเบียนตรวจเข้มหลังหย่าใช้ น.ส.ทำสับสน

    นายยศศักดิ์ คงมาก ผู้อำนวยการสำนักงานปกครองและทะเบียน กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติเพิ่มเติม ในการออกหนังสือรับรองให้กับบุคคลที่ร้องขอเพื่อแสดงว่าตนเองไม่มีคู่สมรส หรือที่เรียกว่าหนังสือรับรองความเป็นโสด เพื่อให้สำนักทะเบียนท้องถิ่นทั่วประเทศ รวมถึง 50 สำนักงานเขตของ กทม. ใช้ปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเดิมในการออกหนังสือรับรองความโสด กระทรวง มหาดไทยได้กำหนดแนวทางไว้ตามหนังสือที่ มท 0404/ว98 ลงวันที่ 21 มกราคม 2529 เพื่อนำไปใช้ในการติดต่อทำนิติกรรมต่าง ๆ รวมถึงการสมรสด้วย อย่างไรก็ตามหลังมีการแก้ไขกฎหมายที่ให้ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วหรือหย่าสามีสามารถใช้คำนำหน้าชื่อว่า น.ส.ได้ ทำให้เกิดความสับสนในการตรวจสอบอีกทั้งแม้จะมีระบบคอมพิวเตอร์ออน ไลน์ตั้งแต่ปี 2539 แต่ก่อนหน้านั้นข้อมูลทางทะเบียนใช้วิธีการจดบันทึก และไม่ได้นำลงคอมพิวเตอร์ ทำให้ตรวจเช็กข้อมูลเก่ายาก รวมทั้งกรณีสาวไทยไปจดทะเบียนกับคนต่างชาติในต่างประเทศ ข้อมูลของไทยก็ไม่สามารถเช็กได้ เพราะไม่ได้ออนไลน์เชื่อมต่อกัน ขณะที่หญิงไทยที่จะเดินทางไปต่างประเทศเพื่อสมรสนั้น เมื่อจะจดทะเบียนในต่างประเทศปัจจุบันเกือบทุกประเทศกำหนดให้มีเอกสารการรับรองความเป็นโสด แม้กระทั่งในประเทศไทยเองในเรื่องการทำนิติกรรมต่าง ๆ ก็ใช้เอกสารรับรองความโสด เช่น กรมที่ดินใช้ในเรื่องการโอนหรือขายที่ดิน

    นายยศศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากปัญหาที่เกิดขึ้นดังนั้น กรมการปกครองจึงกำหนดแนวทางปฏิบัติเพิ่มเติม ในการออกหนังสือรับรองที่เข้มงวดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ต้องสอบถามผู้ร้องว่าต้องการหนังสือรับรอง ไปใช้เกี่ยวกับเรื่องใด เช่น หากผู้ร้องนำไปใช้เป็นหลักฐานในการสมรสกับบุคคลต่างชาติ ก็ต้องมีคุณสมบัติเข้าเงื่อนไขการสมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ รวมทั้งต้องตรวจสอบพยานเอกสารและพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยผู้ร้องขอนอกจากนำหลักฐานเอกสารส่วนตัวเช่นบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านไปด้วยแล้ว ต้องมีการนำพยานบุคคล 2 คนไปอ้างอิงที่ให้ปากคำและข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ทะเบียนซึ่งต้องลงชื่อเป็นพยานด้วยข้อมูลจริง หากเป็นพยานเท็จ ภายหลังมีการตรวจสอบทั้งผู้ร้องและพยานต้องถูกดำเนินคดีอาญามีโทษทั้งจำทั้งปรับ.
     
  16. mod_x-ray

    mod_x-ray เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    536
    ค่าพลัง:
    +2,686
    ขอบูชาพระวังหน้า พอจะมีให้บูชาอีกไหมครับ ช่วยแจ้งทาง pm ด้วยครับ
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ภาพวาดฝีพระหัตถ์ 'เสือจับค้างคาว'
    Daily News Online > หน้าสตรี > ภาพวาดฝีพระหัตถ์ 'เสือจับค้างคาว'

    ให้คนไทยโชคดี-มีวาสนาในปีขาล

    ถือฤกษ์ดีในโอกาสเปิดร้านภูฟ้าสาขาที่ 11 โซนอไลฟ์พาร์ค ศูนย์การค้าฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต “ร้านภูฟ้า” ร่วมฉลองศักราชใหม่ปี 2553 ด้วยการเปิดตัวคอลเลกชั่น เสื้อประจำปีขาล “เสื้อโชคดีปีขาล” ซึ่งอัญเชิญภาพวาดฝีพระหัตถ์ “เสือจับค้างคาว” ใน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งได้รับพระราชทานมาจัดทำเป็นเสื้อหลากรูปแบบ และสินค้าอื่น ๆ อีกมากมาย ทรงวาดภาพ เสือจับค้างคาวเพื่อให้ประชาชนคนไทยทุกคนมีโชคดีและมีวาสนาในปีขาล เนื่องจากคำว่า “ค้างคาว” ภาษาจีนเสียงพ้องกับคำว่า “ฮก” มีความหมายแทนถึง โชค ลาภ วาสนา

    ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ยังร้านภูฟ้าสาขาที่ 11 ทรงตัดริบบิ้นเปิดร้านภูฟ้าสาขาใหม่อย่างเป็นทางการ และทรงลงพระนามาภิไธยในภาพวาดฝีพระหัตถ์ประจำปีขาล “เสือจับค้างคาว” ก่อนทรงพระดำเนินทอดพระเนตรสินค้า ต่าง ๆ และทอดพระเนตรซุ้มจัดวางสินค้าร้านภูฟ้า รวมถึงคอลเลกชั่นจัดแสดงเสื้อเสือจับค้างคาวทั้งหมดบริเวณโซนอไลฟ์พาร์ค

    ศ.คุณหญิงสุชาดา กีระนันทน์ ประธานคณะทำงานร้านภูฟ้า กล่าวว่า สำหรับเสื้อภาพวาดฝีพระหัตถ์ ปีขาล “เสือจับค้างคาว” มาจากแนวพระราชดำริใน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ใคร ๆ บอกว่าปีขาลเป็นปีเสือดุ จึงทรงเปลี่ยนให้เป็นเสือจับค้างคาว เพื่อให้มีโชค วาสนา ถือเป็นพรปีใหม่ของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในปีหน้า แต่ละปีที่ผ่านมามีแต่เสื้อโปโล แต่คอลเลกชั่นนี้มีทั้งเสื้อยืด เสื้อคาร์ดิแกน (เสื้อยืดคลุมผ่าหน้า) สำหรับใส่หน้าหนาว รวมถึงเสื้อเลดี้ลายเสือ สำหรับเสื้อโปโลนั้น มีวางจำหน่าย 6 สี ได้แก่ สีครีม สีเขียว สีฟ้า สีม่วง สีอิฐ และ เสื้อสีชมพูอมม่วง สีชมพูสื่อแทนถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สีม่วงสื่อแทนถึง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี.

    คอลเลกชั่น “เสื้อโชคดีปีขาล” ได้แก่ เสื้อโปโล 6 สี ราคา 350 บาท, เสื้อยืดสีน้ำเงินและสีน้ำตาลอ่อน ราคา 300 บาท, เสื้อเลดี้ลายเสือสีฟ้าและสีน้ำตาล ราคา 380 บาท, เสื้อคลุมผ่าหน้าสีครีมและสีเทาราคา 600 บาท รวมถึงคอลเลกชั่นสินค้าภาพวาดฝีพระหัตถ์อีกมากมาย อาทิ แก้วกาแฟ กระติกน้ำ สมุดบันทึก ปากกา นาฬิกาแขวน ฯลฯ มีจำหน่ายที่ร้านภูฟ้า ทั้ง 11 สาขา นับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2552 เป็นต้นไป
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ยังมีอยู่ครับ

    มีทั้งพระสมเด็จ วังหน้า , พิมพ์พระปิดตาวังหน้าสองหน้า , พระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า ( รักสมุ(รักสีน้ำเงิน) ,ชาด (รักสีแดง) ) และพิมพ์ของวังหน้าอีกหลายๆพิมพ์ ให้ร่วมทำบุญในกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่189-0-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปรีชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ

    โดยทำบุญ 500 บาท รับพระวังหน้า 1 องค์ครับ

    .
     
  19. mod_x-ray

    mod_x-ray เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    536
    ค่าพลัง:
    +2,686
    ขอบคุณมากครับ
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง
    ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ


    [​IMG]
    <O:p</O:p
    ด้วยสำนักสงฆ์ผาผึ้ง ร่วมกันพุทธบริษัท ได้ดำเนินโครงการจัดสร้าง “พระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และบูชาผู้มีพระคุณทั้งหลายที่มีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มาตั้งแต่ชาติต้นจนถึงปัจจุบัน โดยจะจัดสร้าง พระเจดีย์ ณ ผลาญหินบนเนินสูงสุดของสำนักสงฆ์ ซึ่งมีหลักฐานบางประการปรากฏอยู่ว่าสถานที่แห่งนี้เคยเป็นพระเจดีย์เก่า ซึ่งมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ภายใต้ และจากปรากฏการณ์ซึ่งมีดวงแก้วสุขสกาวสว่างไสว เสด็จขึ้นเหนือสถานที่นี้เป็นอัศจรรย์ คณะพุทธบริษัทจึงเห็นสมควรให้มีการก่อสร้างพระเจดีย์ขึ้น ครอบไว้ตรงจุดที่ดวงแก้วเสด็จขึ้นมา เพื่อทำให้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ได้รับความเคารพสักการบูชาอย่างถูกต้องสืบไป

    จึงได้บอกข่าวบุญนี้มายังผู้มีจิตใจอันประเสริฐ ปรารถนาความดีทุกคน เพื่อร่วมกันสร้างพระเจดีย์ให้สำเร็จ น้อมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และบูชาผู้มีพระคุณทั้งหลายที่มีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์มาตั้งแต่ชาติต้นจนถึงปัจจุบัน<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ขออำนาจอันศักดิ์สิทธิ์แห่งคุณพระศรีรัตนตรัยอันมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ ,พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ ,พระอรหันต์เจ้าทุกๆพระองค์และครูบางอาจารย์ผู้ทรงพระคุณทั้งหลาย รวมทั้งอานิสงส์ผลบุญที่ท่านได้ร่วมในบุญอันประเสริฐครั้งนี้ ขอเป็นพลปัจจัยส่งผลให้ท่านถึงพร้อมด้วยความเจริญรุ่งเรือง สมบูรณ์พลูผลในมนุษย์สมบัติทุกๆด้าน และสมประสงค์ในสิ่งที่ปรารถนาไว้ทุกประการ จนกว่าจะเข้าถึงซึ่งพระนิพพานในอนาคตอันใกล้นี้เทอญ นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ประธานอุปถัมภ์ หลวงพ่อประสงค์ จันทสุวรรโน<O:p</O:p
    ประธานฝ่ายสงฆ์ พระธวัชชัย ชาครธัมโม (พระอาจารย์นิล)<O:p</O:p
    ประธานฝ่ายฆราวาส คุณวิชชัย ธรรมประดิษฐ์

    การบริจาค
    สำหรับหมายเลขบัญชีที่จะใช้ในการโอนเงินเพื่อร่วมทำบุญ<O:p</O:p
    บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 <O:p</O:p
    บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 <O:p</O:p
    ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปรีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ


    ผมมีพระพิมพ์มามอบให้ผู้ร่วมบริจาคทำบุญ เพื่อเป็นที่ระลึกถึงความเมตตาที่ท่านได้ช่วยกันร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งกันครับ

    เมื่อโอนแล้วแจ้งยอดเงินและชื่อที่อยู่เพื่อจัดส่งไว้ในกระทู้ หรือส่งข้อความส่วนตัวมาที่ผมหรือคุณนักเดินทาง(แล้วแต่ชุดของพระพิมพ์) แล้วผมหรือคุณนักเดินทางจะจัดส่งพระพิมพ์หรือวัตถุมงคลให้ครับ

    [​IMG]

    อานิสงส์การสร้างพระเจดีย์<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    1.ย่อมเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะ ไม่เป็นผู้มัวเมาในชีวิต<O:p</O:p
    2.ย่อมเป็นที่รักของมนุษย์ และเทวดาทั้งหลาย<O:p</O:p
    3.เมื่อใกล้ดับขันธ์ ย่อมไม่หลงลืม<O:p</O:p
    4.ย่อมได้เกิดในประเทศที่เหมาะสม สำหรับการสร้างบารมีในพระพุทธศาสนา<O:p</O:p
    5.ย่อมไปบังเกิดในสวรรค์ เมื่อยังไม่หมดกิเลส<O:p</O:p
    6.ย่อมได้ดวงตาเห็นธรรม บรรลุมรรคผล นิพพานได้โดยง่าย<O:p</O:p


    ขอขอบพระคุณและโมทนาสาธุกับทุกท่านที่เมตตาครับ<O:p</O:p
     

แชร์หน้านี้

Loading...