พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768

    ผมคิดเห็นเหมือนคุณสมบัติครับ ว่าไม่แท้
    และกราบขอขมาฯต่้อองค์พระพิมพ์ทั้งสอง หากแม้นว่าทั้งสองเป็นพระแท้ครับ
     
  2. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 8 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 4 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>แหน่ง, sithiphong, newcomer </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ดีครับท่านเลขาฯ และคุณnewcomer

    ทานข้าวเย็นหรือยังครับ
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948


    ไว้มาเฉลยนะครับ

    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรียบร้อยแล้วครับ

    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    การจองหนังสือ "ปู่เล่าให้ฟัง"
    #33681
    #33682
    #33685

    สามารถจองได้ เล่มละ 500 บาท

    หากจองตั้งแต่ 20 เล่มขึ้นไป ผมมอบพระสมเด็จ(กลักไม้ขีด) ให้ 1 องค์

    และผมขอค่าจัดส่งหนังสือ 100 บาท (เป็นการจัดส่งแบบลงทะเบียน) หากจำนวนเงินในการจัดส่งไม่ถึง 100 บาท ผมขอนำเงินในส่วนที่เหลือสมทบทุนการจัดพิมพ์ครั้งต่อไปหรือสมทบทุนการจัดพิมพ์หนังสือวิเคราะห์พระสมเด็จและสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าครับ

    ส่วนสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า รายละเอียดการจอง ผมส่งให้ทุกๆท่านทาง Email ส่วนค่าจัดส่งไม่ต้อง เพราะเราต้องพบกันในการประชุมอยู่แล้วครับ

    ระยะเวลาตั้งแต่วันจันทร์ที่ 14 กันยายน 2552

    สิ้นสุดวันพุธที่ 30 กันยายน 2552

    การจองหนังสือ ต้องโอนเงินภายในวันที่ 30 กันยายน 2552 หากยังไม่ได้โอนเงินภายในระยะเวลาที่กำหนด ผมขออนุญาตยกเลิกการจองหนังสือ (หลังจากนั้นผมจะปิดบัญชีนี้) ครับ

    รายนามผู้จอง
    1.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->nongnooo (ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 1 เล่ม โอนเงินแล้วเมื่อ 19.92552/ จำนวน 1,000 บาท
    2.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->แหน่ง<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2434226", true); </SCRIPT> (ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 3 เล่ม ยังไม่ได้โอนเงิน
    3.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->jirautes<!-- google_ad_section_end --> จอง 1 เล่ม โอนเงินแล้ว 500 บาท และค่าจัดส่ง 100 บาท เมื่อ 19.92552/
    4.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->พรสว่าง_2008<!-- google_ad_section_end --> (ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 1 เล่ม ยังไม่ได้โอนเงิน
    5.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->psombat<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2435705", true); </SCRIPT> <!-- google_ad_section_end -->(ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 2 เล่ม มอบเงินแล้ว 19.92552/
    6.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ลุงจิ๋ว<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2435951", true); </SCRIPT> <!-- google_ad_section_end -->จอง 1 เล่ม ยังไม่ได้โอนเงิน(โอนวันที่ 28 กย 52)
    7.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Natachai<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2408238", true); </SCRIPT> จอง 1 เล่ม ยังไม่ได้โอนเงิน (ผมขอ Email ใหม่อีกครั้ง)
    8.น้องชาsira (ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 2 เล่ม ยังไม่ได้โอนเงิน
    9.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->มูริญโญ่<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --> (ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 2 เล่ม ยังไม่ได้โอนเงิน
    10.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Phocharoen<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2438846", true); </SCRIPT> (ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 5 เล่ม โอนเงินแล้วเมื่อ 23.92552/
    11.คุณเมตตา <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->(ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 10 เล่ม ยังไม่ได้โอนเงิน
    12.เจ้าของวัดไ..... จอง 5 เล่ม ยังไม่ได้โอนเงิน
    13.คุณchai wong<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT> <!-- google_ad_section_end -->จอง 1 เล่ม โอนเงินแล้ว 500 บาท และค่าจัดส่ง 100 บาท เมื่อ 26.92552/
    14.
    15.
    16.
    17.
    18.
    19.
    20.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->sithiphong (ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง ....... เล่ม ยังไม่ได้โอนเงิน

    รวมจำนวน 33 เล่ม

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]


    โมทนาสาธุครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    <!-- google_ad_section_end -->
    หมายเหตุ มาสอบถามท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้าทุกๆท่าน

    หากชมรมจะบริจาคในการจัดพิมพ์ครั้งนี้ ทุกๆท่านคิดเห็นอย่างไร และควรจะบริจาคเท่าไหร่ ยอดเงินในบัญชีปัจจุบันมีอยู่จำนวน 15,732.34 บาทครับ
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เคล็ดลับง่ายๆ ป้องกันมะเร็งเต้านม

    คอลัมน์ สรรหามาเล่า

    โดย raikorn@hotmail.com

    ˹ѧ��;������Ԫ�����ѹ : ˹ѧ��;�����س�Ҿ ����ͤس�Ҿ�ͧ������

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>เบรสต์ แคนเซอร์ (Breast cancer) หรือ มะเร็งเต้านม เป็นโรคหนึ่งที่ผู้หญิงกลัว เพราะเดี๋ยวก็ได้ยินว่า คนนั้นก็เป็น คนนี้ก็เป็น แต่วันนี้มี "ข่าวดี" ค่ะ เป็นผลการศึกษาจากหมอในสหรัฐอเมริกา ที่บอกว่า ผู้หญิงเราสามารถ "ป้องกัน" ตัวเองให้ห่างไกลจากโรคมะเร็งเต้านมได้

    ด้วยการปฏิบัติตัวง่ายๆ โดยพยายามควบคุมน้ำหนักตัว อย่าให้อ้วนจนเป็นอันตราย ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ให้น้อยๆ หน่อย หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ ส่วนผู้หญิงที่มีลูกอ่อน ก็เลี้ยงลูกด้วยนมแม่

    เพียงเท่านี้ ก็สามารถช่วยป้องกันโรคมะเร็งเต้านมได้พอสมควรเลยล่ะ หากจะว่ากันตามผลการศึกษาของ ดอกเตอร์มาร์ติน ไวส์แมน จากสถาบันวิจัยมะเร็งของอเมริกา และกองทุนวิจัยมะเร็งโลก ที่คุณหมอเล่าว่า จากการที่คุณหมอได้ศึกษาข้อมูลในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา คุณหมอพบว่ามีผู้ป่วยเกือบ 40% สามารถไม่เป็นโรคนี้ ถ้าหากพวกเธอสามารถปฏิบัติตัวใช้ชีวิตได้อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    "ตอนนี้เรายิ่งมั่นใจมากขึ้นกว่าครั้งก่อนๆ ที่จะบอกว่า การพยายามควบคุมน้ำหนักตัวให้มีสุขภาพที่ดี การออกกำลังกาย และจำกัดการดื่มเหล้า ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ช่วยลดอัตราเสี่ยงการเป็นมะเร็งเต้านมในผู้หญิงอย่างเห็นได้ชัด"

    ในผลการศึกษาของคุณหมอที่ได้ตรวจสอบดูรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ 81 ราย เพื่อดูว่ารูปแบบการกินอยู่ การใช้ชีวิตของคนไข้ ส่งผลต่อการเป็นมะเร็งเต้านมหรือไม่ พบว่า เฉพาะในสหรัฐอเมริกา ลำพังประเทศเดียว แต่ละปีมีผู้ป่วยมะเร็งเต้านมถึง 70,000 ราย ที่สามารถไม่ตกเป็นเหยื่อของโรคนี้ ถ้าหากรู้จักป้องกันตัว ปฏิบัติตัวได้ดังกล่าว

    สำหรับผลการศึกษานี้ ซึ่งมีโพสต์ในเว็บ Food, Nutrition, Physical Activity and the Prevention of Cancer: a Global Perspective - online ได้แนะนำถึงการออกกำลังกายว่า ต้องออกให้ได้อย่างน้อยวันละ 30 นาที ผู้ชายควรลดการดื่มเหล้าให้เหลือสักวันละ 2 แก้ว ส่วนผู้หญิงควรจะเหลือแค่วันละ 1 แก้ว แต่ใครที่ไม่ดื่มเลย นั่นแหละดีที่สุด

    ทั้งนี้ ในสหรัฐอเมริกา โรคมะเร็งเต้านมได้คร่าชีวิตผู้หญิงไปปีละประมาณ 40,000 คน แต่หากนับรวมทั่วโลก โรคนี้ก็คร่าชีวิตผู้หญิงไปราวปีละ 400,000 ราย ส่วนผู้ชายที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเต้านมก็มีนะ แต่มีปีละไม่กี่รายเท่านั้น

    อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติตัวดังกล่าว รวมทั้ง การเลือกรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำสามารถช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้ เฉพาะในผู้ป่วยที่เป็นมะเร็ง เพราะการกินอยู่ การใช้ชีวิต แต่ไม่เกี่ยวกับผู้ป่วยมะเร็งที่เกิดจากความผิดปกติของยีน หรือหน่วยทางพันธุกรรมแต่อย่างใดนะคะ

    ใครที่อยากห่างไกลจากมะเร็งเต้านม และโรคร้ายอีกหลายโรค ก็ลองนำไปปฏิบัติกันดู ซึ่งเราว่าไม่ยากเลย
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    หลอดเลือดดำขอด...ต้องรักษา!!
    Daily News Online > เสาร์สปอร์ต > แรงงาน-สาธารณสุข > หลอดเลือดดำขอด...ต้องรักษา!!

    หลาย ๆ คนคงเคยเห็นเส้นเลือดที่ปูด และขดไปมาตามขา ซึ่งหลายคนก็มักจะเรียกกันว่า “เส้นเลือดขอด” แต่ในทางการแพทย์จะเรียกกันว่า “ภาวะหลอดเลือดดำขอด”

    นี่ก็เป็นอีกโรคหนึ่งที่แฟนคอลัมน์ถามไถ่กันเข้ามาจำนวนมาก อยากทราบถึงสาเหตุการเกิด วิธีการรักษา และโอกาสที่จะหายขาดจากอาการเส้นเลือดปูดออกมาตามขา บางคนรู้สึกเกิดความกังวล ไม่มั่นใจกับสภาวะที่เกิดขึ้นกับตนเอง โดยเฉพาะกับคุณผู้หญิง ที่มักจะประสบกับปัญหานี้ จนกระทั่งต้องแก้ปัญหาด้วยการสวมถุงน่องบดบังไว้ ฉะนั้น หมอรามาฯ จะมาไขปัญหาสุขภาพในเรื่องนี้ให้กระจ่างกัน

    ภาวะหลอดเลือดดำขอด คืออะไร

    ภาวะหลอดเลือดดำขอด เป็นภาวะความผิดปกติของหลอดเลือดดำใต้ผิวหนังของขา ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นในแบบ 3 มิติ ทำให้มองเห็นเป็นหลอดเลือดดำที่ขดงอคล้ายตัวหนอนที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกกันว่า “เส้นเลือดขอด” นั่นเอง หลอดเลือดดำของคนเรามีหลายขนาด ทำให้หลอดเลือดดำขอดที่เราพบเห็นมีได้ตั้งแต่หลอดเลือดดำฝอยจนถึงหลอดเลือดดำที่มีขนาดใหญ่ ขดไปมาคล้ายหนอนตัวใหญ่

    แล้วเกิดขึ้นได้อย่างไร

    ก่อนอื่นขออธิบายเป็นพื้นฐานเพื่อ ความเข้าใจกันก่อนว่า หลอดเลือดดำบริเวณขาของคนเรามีหน้าที่นำเลือดดำจากปลายเท้าไหลเวียนขึ้นสู่หัวใจ โดยเฉพาะเมื่อเวลาคน เราอยู่ในท่านั่งหรือยืน กระแสเลือดดำก็ไม่ ไหลย้อนกลับไปปลายเท้าอีกเพราะหลอด เลือดดำมีลิ้น (valve) ทำหน้าที่ควบคุมให้กระแสเลือดไหลสู่หัวใจทางเดียวและป้องกันไม่ให้กระแสเลือดไหลย้อนกลับไปปลายเท้า

    ผู้ป่วย ที่มีปัญหาหลอดเลือดขอดที่ขา มักเกิดจากมีความผิดปกติของลิ้นหลอดเลือดดำเสียสภาพ ทำให้กระแสเลือดดำไหลย้อนกลับไปปลายเท้า และจะมีภาวะรุนแรงมากขึ้น เมื่อผู้ป่วยอยู่ในท่านั่งหรือยืน ซึ่งในความเป็นจริง คนเราอยู่ในท่าดังกล่าวนานเกือบ 3 ใน 4 ของวัน สภาพที่เลือดไหลย้อนไปที่ปลายเท้าอยู่นานเป็น ปี ๆ เช่นนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดดำที่มีขนาดใหญ่ขึ้นจนขดไปมา และมองเห็นได้ง่าย

    ใครเสี่ยงที่จะเกิดหลอดเลือดดำขอดบ้าง

    ภาวะหลอดเลือดดำขอด พบได้ทั่วไปในประชากรโลก ทุกชาติ ทุกภาษาไม่แตกต่างกัน และพบได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิงใกล้เคียงกัน แต่เชื่อ ว่าผู้หญิงจะมีความกังวลกับภาวะนี้มากกว่า จึงมาพบแพทย์บ่อยกว่า เนื่อง จากการเปลี่ยนแปลงขนาดของหลอดเลือดดำที่ผิดปกติดังกล่าวข้างต้น และมีการดำเนินไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป จึงปรากฏภาวะนี้บ่อยขึ้นตามอายุที่มากขึ้น

    นอกจากนี้มีการศึกษาพบว่าการตั้งครรภ์ กรรมพันธุ์ คนอ้วน และอาชีพที่ต้องยืนนาน ๆ เป็นปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดภาวะนี้บ่อยกว่าคนทั่วไป ซึ่งจะเห็นได้ว่าบางปัจจัยอาจแก้ไขได้ นอกจากนี้ยังมีหลายคนเข้าใจผิดว่าการออกกำลังกายจะทำให้เกิดเป็นหลอดเลือดดำขอด ซึ่งจากการศึกษานั้นไม่พบความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกัน

    หากไม่รักษาปล่อยทิ้งไว้จะมีผลอย่างไร

    เป็นอีกคำถามหนึ่งที่พบบ่อย ต้องอธิบายให้สบายใจว่าปัญหา หลอดเลือดดำขอดนั้น ไม่ทำให้ชีวิตสั้นลง หรือทำให้ขาข้างนั้นมีอันที่จะ ต้องถูกตัดขาเหมือนเช่นโรคของหลอดเลือดแดงตีบตัน แต่อย่าเพิ่งวางใจ ไป เพราะภาวการณ์ดำเนินโรคนี้ มักค่อยเป็นค่อยไปจึงทำให้เกิดความรำคาญ ทุกข์ทรมานและเรื้อรังในภายหลัง

    ส่วนภาวะหลอดเลือดฝอยขอด นั้นก็จะทำให้ผู้ป่วยกังวลในเรื่องความสวยงามโดยเฉพาะคุณผู้หญิง กรณีหลอดเลือดขอดของหลอดเลือดดำใต้ผิวหนังที่มีขนาดใหญ่ จะเห็นเป็นขด ๆ คล้ายตัวหนอน นอกจากไม่สวยงามแล้ว อาการมักรุนแรงมาก ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ หลายปีต่อมาจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง ทำให้มีสีคล้ำขึ้น เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังก็จะเกิดแข็งหนา เป็นแผลได้ง่าย และแผลเหล่านี้เองก็จะหายได้ยาก ต้องรักษากันนานหลายเดือน ที่สำคัญจะเป็นซ้ำแล้วซ้ำอีก

    การรักษาทำได้อย่างไร

    การรักษาขึ้นกับว่าเป็นหลอดเลือดแบบใด และที่สำคัญเกิดจากสาเหตุใด เช่น ถ้าเป็นหลอดเลือดดำฝอยขอดสามารถรักษาให้หายด้วยการใช้แสงเลเซอร์ หรือการฉีดยาเข้าที่หลอดเลือดดำฝอยขอด เพื่อทำให้หลอดเลือดดำฝอยนั้นตีบตันไป ส่วนกรณีหลอดเลือดดำขอดขนาดใหญ่ การรักษาให้หายจำเป็นต้องผ่าตัดหลอดเลือดดำขอดนั้นออก

    แต่ในปัจจุบันมีการรักษาแบบใหม่โดยใช้เลเซอร์ที่เรียกว่า “เอ็นโดวาสคูลาเลเซอร์” (endovascular laser) ที่สามารถใช้ทดแทนการผ่าตัดแบบเดิม ข้อดีคือ บาดแผลมีขนาดเล็กเพียง 2-3 มิลลิเมตร ไม่ต้องดมยาสลบ หรือบล็อคหลัง และไม่ต้องนอนพักในโรงพยาบาล ทำให้ผู้ป่วยสะดวกสบายขึ้น หากผู้ป่วยมาพบแพทย์ด้วยหลอดเลือดดำขอดที่มีภาวะแทรกซ้อนแล้ว เช่น ขาบวม ผิวหนังที่ขามีสีเทาคล้ำหรือมีแผล ก็จำเป็นต้องตรวจพิเศษเพิ่มเติม ด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ก่อนวางแผนการรักษา

    โรคนี้มีโอกาสหายขาดหรือไม่

    คำถามนี้ตอบได้ค่อนข้างยาก เพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่เราแก้ไขไม่ได้ เช่น เรื่องของกรรมพันธุ์ ฮอร์โมนเพศ หรือตั้งครรภ์ อีกทั้งกว่าจะมีอาการแสดงให้เห็นก็มักจะสายเกินไปกว่าที่จะทำให้หลอดเลือดดำนั้นกลับคืนสู่สภาพเดิม การรักษาโดยทั่วไป มักจะเป็นการกำจัดหลอดเลือดดำที่เสียสภาพแล้วทิ้งไป และมีการศึกษาว่าผู้ป่วยเหล่านี้หลังการรักษามักมีหลอดเลือดขอดแบบใดแบบหนึ่งซ้ำในขาข้างเดิมหรือขาอีกข้างได้บ่อยกว่าประชาชนทั่วไป

    ปัจจุบันการนำถุงน่องมาขายในท้องตลาด ถุงน่องที่เหมาะสมกับ ผู้ป่วยเหล่านี้ ควรเป็นถุงน่องที่ถูกออกแบบให้แก้ไขความผิดปกติของภาวะนี้ โดยควรมีการรัดที่ปลายเท้าด้วยความดันประมาณ 20-30 มม.ปรอท และลดหลั่นน้อยลงจนถึงต้นขาช่วยทำให้กระแสเลือดดำไหลสู่หัวใจได้ดีขึ้น การเลือกใช้ควรศึกษาจากคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์หรือปรึกษาแพทย์

    การดูแลเมื่อรู้ว่าเป็นหลอดเลือดดำขอดต้องทำอย่างไร

    ควรปรึกษาศัลยแพทย์ใกล้บ้าน ในปัจจุบันยังไม่มียารับประทาน ชนิดใดที่ช่วยให้ภาวะนี้หายได้อย่างชัดเจน การออกกำลังกายเพื่อฝึก กล้ามเนื้อน่องมีส่วนช่วยให้ภาวะเลือดคั่งจากหลอดเลือดดำขอดดังกล่าว ลดลงได้.

    รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ
    ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
    Daily News Online > เสาร์สปอร์ต > แรงงาน-สาธารณสุข > หลอดเลือดดำขอด...ต้องรักษา!!
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สุขสมเปื้อนคราบน้ำตา 'เจ้านายบ้ากาม'

    Daily News Online > หน้าการเมือง > สกู๊ปหน้า 1 > สุขสมเปื้อนคราบน้ำตา 'เจ้านายบ้ากาม'

    คนหื่น 'พันธุ์อุบาทว์'

    "อยากวอนให้ผู้เกี่ยวข้องพิจารณาให้ความสำคัญด้วย เพราะเหตุลักษณะนี้เกิดขึ้นเยอะ แต่ผู้ถูกกระทำไม่กล้าออกมาเปิดเผย เนื่องจากกลัวถูกกลั่นแกล้ง ทำร้ายร่างกาย”

    ...นี่เป็นส่วนหนึ่งจากการระบุของ ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช ในฐานะนายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข หลังจากรับดำเนินการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับ “ข้าราชการหญิง” รายหนึ่ง ที่ร้องเรียนว่า “ถูกผู้บังคับบัญชาล่วงละเมิดทางเพศ” โดยเธอต้องรับสภาพมายาวนานกว่า 4 ปี ถูกข่มขู่สารพัด ซึ่งกับกรณีดังกล่าวนี้ข้อเท็จจริงจะเป็นเช่นไร ? และที่สุดแล้วเรื่องราวจะจบลงอย่างไร ? ก็คงต้องติดตามดูกันต่อไป...

    ที่แน่ ๆ เรื่อง “เจ้านายหัวงู” นั้นมิใช่เรื่องใหม่ในสังคมไทย

    เป็นเรื่องฉาวเรื่องเก่าที่เกิดขึ้นในสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง !!

    ทั้งนี้ เจ้านายหัวงูใช้อำนาจอิทธิพลในหน้าที่คุกคามข่มขู่เพื่อมีเพศสัมพันธ์กับลูกน้องนั้น ในสังคมไทยเกิดขึ้นมานานแล้ว ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน อีกทั้งระยะหลัง ๆ นอกจากกรณีเจ้านายผู้ชายกระทำต่อลูกน้องผู้หญิงแล้ว กับกรณีเจ้านายผู้หญิงกระทำต่อลูกน้องผู้ชายก็มีข่าว แต่กรณีเหยื่อเป็นผู้หญิงก็ย่อมจะเสียหายมากกว่า

    และหากจะเทียบระหว่างหน่วยงานภาคเอกชนกับภาครัฐ กรณีเจ้านายใช้อำนาจหน้าที่คุกคามข่มขู่เพื่อมีเพศสัมพันธ์กับลูกน้อง ในระบบงานภาครัฐก็ย่อมเอื้อให้กับผู้กระทำมากกว่าภาคเอกชน ซึ่งสืบเนื่องจากข่าวที่เพิ่งเกิดล่าสุด ทางนายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวฯ ก็เรียกร้องให้มีกฎหมายเกี่ยวกับผู้บังคับบัญชาข่มเหงทางเพศลูกน้อง

    ณ ปัจจุบันนี้ บรรดาลูกน้องทั้งหลายที่เป็นเป้าหมายถูกเจ้านายคุกคามทางเพศ ก็ยังต้องพยายามปกป้องตัวเองกันไปเท่าที่พอจะทำได้ ท่ามกลางความหวาดหวั่นว่าอาจมีผลกระทบต่อหน้าที่การงาน !!

    ศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง เคยให้ข้อมูลผ่าน “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ไว้ว่า... จากที่ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหานี้ พอจะจำแนกพฤติกรรมของ “เจ้านายหื่น” ได้ 3 กลุ่มคือ.....

    กลุ่มที่ 1 พวกใช้ฟอร์มสุภาพบุรุษ เช่น ชวนทานข้าว พาไปประชุมสัมมนาหรือออกงานด้วย หากรู้ว่าฝ่ายหญิงอยู่ระหว่างเรียนรู้งานใหม่ก็จะวางท่าเป็นผู้ใหญ่ที่ปรารถนาดี ช่วยสอน อธิบายให้ฟัง เพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ สร้างความน่าเชื่อถือ เมื่อฝ่ายหญิงตายใจก็อาจพลาดพลั้งในที่สุด, กลุ่มที่ 2 พวกเจตนาลวนลาม พฤติกรรม ก็เช่น เรียกสั่งงานสองต่อสอง แล้วถือโอกาสทำลีลาหมาหยอกไก่ หรือจับมือ, จับก้น, จับหน้าอก, จับของสงวน แบบหน้าด้าน ๆ, กลุ่มที่ 3 พวกใช้กำลัง-ใช้อำนาจหน้าที่ข่มขู่บังคับ กันเลย พวกนี้จะเอาเรื่องการงานมาบังคับขู่เข็ญ ลวนลาม ข่มขืน โดยไม่สนใจแม้ว่าฝ่ายหญิงจะมีสามี-มีลูกแล้ว ซึ่งกลุ่มนี้คงจะต้องเรียกว่า...ยิ่งกว่าอุบาทว์ !!

    ส่วนกับการจะหลีกเลี่ยงมิให้เป็นเหยื่อคนพวกนี้ อีกหนึ่งองค์กร คือ มูลนิธิผู้หญิง เคยระบุผ่าน “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ไว้ว่า... เท่าที่พอจะทำได้ก็คงต้องสังเกตพฤติกรรมเจ้านายจอมหื่นกันแต่แรก ซึ่งพวกนี้เริ่มแรกมักจะมองแบบผิดสังเกต บางครั้งก็อาจ ลวนลามด้วยสายตา แม้จะยังพูดจาด้วยแบบธรรมดาทั่วไปอยู่ พวกนี้มักจะเรียกใช้ให้ทำโน่นทำนี่แบบใกล้ชิด หรือเรียกเข้าไปในห้องทำงานสองต่อสองบ่อย ๆ ซึ่งเมื่อเริ่มรู้สึกผิดสังเกตก็ต้องหาวิธีเลี่ยง

    เพราะหลาย ๆ รายนั้น เมื่อถึงระดับหนึ่งก็จะถึงเนื้อถึงตัว โอบกอด ลุกลามไปจับของสงวน เพราะคิดว่าลูกน้องผู้หญิงส่วนใหญ่จะต้องอาย ไม่กล้าบอกใคร ดังนั้นก็มักจะถือโอกาสทำพฤติกรรมเช่นนี้บ่อย ๆ จนหนักเข้าก็ชักชวนหรือบังคับข่มขู่ให้ไปร่วมหลับนอน แม้ว่าตัวเองและผู้หญิงจะมีครอบครัวอยู่แล้วก็ตาม

    ถามว่าแล้วจะให้เลี่ยงอย่างไร ? เพราะเรื่องงานค้ำคออยู่

    ก็จริง-ก็ใช่-ก็ไม่ง่าย...เป็นเรื่องยากที่จะหนีคนเลวพวกนี้ !!

    อย่างไรก็ดี ข้อแนะนำของทางมูลนิธิผู้หญิงก็คือ... นอกจากให้หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับคนที่จะกระทำแล้ว ควรจะบอกให้ผู้กระทำรู้ว่าเราอึดอัด-เรารู้สึกอย่างไร บอกไปว่าไม่อยากให้กระทำอีก ซึ่งเวลาพูดก็ต้องควบคุมอารมณ์ไม่ให้โกรธ และควรปรึกษาเพื่อนร่วมงานที่สนิทและไว้ใจได้ เพื่อที่หากเกิดคับขันขึ้นมาจะได้ขอความช่วยเหลือได้ทัน

    “ผู้หญิงที่เป็นเหยื่อส่วนใหญ่จะอึดอัด ขยะแขยง แต่ก็อาย และไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่เก็บความรู้สึก เพราะไม่กล้าเสี่ยงกับการสูญเสียหน้าที่การงาน ต้องกลายเป็นคนเก็บกด สูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง ไม่กล้าสู้หน้าลูกและสามี” ...ทางมูลนิธิผู้หญิงระบุไว้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่ากระตุกจิตสำนึกจอมหื่นได้แค่ไหน

    ทั้งนี้ ณ ที่นี่ก็สะท้อนคำถามจากสังคมไปถึงเจ้านายจอมหื่นทั้งหลายว่า... ถ้าการตกเป็นเหยื่อหื่นเกิดขึ้นกับภรรยาของคุณ ถ้า เกิดขึ้นกับลูกสาว-หลานสาวของคุณ ถ้าเกิดขึ้นกับญาติมิตรของคุณ “คุณจะรู้สึกเช่นไร ?”

    ส่วนกับผู้คนในสังคมทั่วไปที่อาจรู้สึกเคลือบแคลงเมื่อได้ยินข่าวแบบนี้ โดยเฉพาะกรณีที่เหตุเกิดขึ้นต่อเนื่องหลายครั้ง-หลายปี ทางศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรีก็เคยระบุไว้ว่า... “จะพูดว่าผู้หญิงยอม หรือไม่ยอม ไม่ได้ เพราะผู้หญิงที่เป็นเหยื่อมักจะตกอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถปฏิเสธได้” และ “เจ๊เบียบ” ก็เพิ่งกล่าวเมื่อวันก่อนว่า.....

    “เพราะสิ่งที่เกิดเป็นเรื่องเสียหาย ผู้หญิงทุกคนไม่อยากเปิดเผย แต่เมื่อถึงจุดที่ทนไม่ไหว จึงต้องออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม !!”.
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อาหารจีนแต้จิ๋วโบราณ

    [​IMG]

    รสถูกลิ้นที่ ภัตตาคารเล่งหงษ์

    “ภัตตาคารเล่งหงษ์” ภัตตาคารเก่าแก่ มีชื่ออาหารจีนสูตรแต้จิ๋วโบราณนาน 46 ปี ตอนนี้ขยายสาขาจากพระราม 2 มาเพิ่มตรงทำเลสุขุมวิท 62 ที่สะดวกทั้งการเดินทางและที่จอดรถพร้อมเปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น.

    ถ้าเป็นลูกค้าเก่าแก่ หากเอ่ยชื่อภัตตาคารเล่งหงษ์ จะนึกถึงเมนูเด่นสูตรเด็ดเฉพาะอย่าง ไก่แช่เหล้า เป็นอันดับแรก เพราะเป็นอาหารจานเด่นสร้างชื่อให้ภัตตาคารมาตั้งแต่เริ่มกิจการ กระทั่งวันนี้ สิบปากว่าไม่เท่ากับได้สัมผัสรสด้วยตัวเอง บอกตามจริง ติดใจตรงเนื้อไก่เย็นนุ่มแน่น เนียนลิ้น มีกลิ่นเหล้าจีนเจือขึ้นจมูก ถึงจะเป็นไก่แช่เหล้า แต่มีคนอำกันเล่น ๆ บนโต๊ะว่า กินเท่าไหร่ก็ไม่เมา จิ้มน้ำจิ้มแบบสุกี้ได้รสชาติเผ็ดนำ ถูกปากคนชอบรสชาตินี้แน่นอน

    เป็ดปักกิ่ง เมนูเก่าแก่ โดดเด่นตรงแผ่นแป้งกลม ๆ นึ่งได้นิ่มกำลังดี ยิ่งห่อเข้ากับหนังเป็ดแล่บาง ๆ แทบไม่มีมันติดหนัง ใส่พริกชี้ฟ้าหั่น แตงกวา และต้นหอมเข้าไปอย่างละนิด แล้วราดน้ำจิ้มพันม้วนเข้าด้วยกัน กัดจนแผ่นแป้งนุ่ม ๆ ขาดทะลุ โดนหนังเป็ดกรอบ ๆ แตงกวาสดกรอบ คลุกเคล้ากับน้ำจิ้มออกหวานนิดออกเค็มหน่อย ได้ความกลมกล่อมลงตัว ถ้าลงโต๊ะเมื่อไหร่ให้รีบโซโล่เลย อย่ารีรอ ขืนปล่อยไว้แผ่นแป้งคืนรูป หายนิ่ม ความอร่อยจะจางไปด้วย ตอนนี้เฉพาะที่สาขาสุขุมวิท 62 มีโปรโมชั่นหั่นราคาปกติ 600 บาท ลดเหลือ 480 ทุกวัน ส่วนช่วงเย็นตั้งแต่วันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 17.00-19.00 น. มีช่วงแฮปปี้ มื้อเย็น หั่นราคาจาก 600 บาท เหลือ 380 บาท

    ผัดโป๊ยเซียน อาหารแต้จิ๋วโบราณรสคลาสสิกอีกหนึ่งเมนู ที่ทำมาได้น่าทานสุด ๆ เพราะมีกุ้งสด ปลาหมึก กระเพาะหมู ตับหมู เซ่งจี๊ ผัดเข้ารสแล้วตักมาเสิร์ฟแบบอลังการบนจาน ข้างใต้มีถั่วงอกเด็ดหัวและรากออกซ่อนอยู่ ต้องบอกว่าจานนี้รสชาติกลมกล่อม ตัวกุ้ง ปลาหมึกสดดีจริง ตัวถั่วงอกกรอบไม่มีเหม็นเขียว ยิ่งทานตอนร้อน ๆ อร่อยลิ้น

    ปลาเก๋านึ่งซีอิ๊ว น้ำซีอิ๊วหอม เนื้อปลานุ่ม มีความสด เข้ารสกับซีอิ๊วสูตรเด็ดของร้าน ที่มีความหอมและเข้มข้น ความอร่อยของหัวปลาต้มเผือก ยังโดนลิ้นไม่หาย เนื้อปลาจีนนุ่มหอม ถึงเจอก้างเยอะหน่อย ไม่มีแคร์ ค่อย ๆ เคี้ยว ได้รสชาติปลาที่มีน้ำซุปซึมเข้าเนื้อกลมกล่อมหอม มัน

    หอยเชลล์นึ่งฮ่องกง เด่นตาด้วยวุ้นเส้นโรยด้วยกระเทียมเจียว ม้วนคลุมบนตัวหอยเชลล์ที่มาเป็นฝา วุ้นเส้นนุ่มหอมซีอิ๊วขาว ตัวหอยเชลล์สดได้ที่

    ปิดท้ายด้วยของหวาน คู่หูคู่เฮง ของหวาน อร่อยสุดฮิตของร้าน ที่ใครมาต้องติดใจทุกรายโดยเฉพาะเผือกทองคำ เป็นเผือกกวนมารวมกับเมล็ด แตงโม เวลาเคี้ยวเจอความนุ่มหอมของเผือกกวนก่อน จากนั้นได้เพลินปากกับความกรุบกรอบหอมมันของเมล็ดแตงโมต่อ ส่วนบัวลอยไส้งาดำเคลือบด้วยงาขาว รสชาติดี ถึงได้ชื่อว่าเป็นของหวาน แต่รสชาติไม่หวานมาก อยู่ในระดับพอดี ๆ

    อาหารที่ภัตตาคารเล่งหงษ์ สาขาสุขุมวิท ยังมีให้สั่งแบบอาหารชุด มั่งมี ศรีสุข ที่มีทั้งออร์เดิร์ฟ หูฉลามแผ่นน้ำแดง เป็ดปักกิ่ง เป๋าฮื้อเย็น แฮ่กึ๊นสดทอด ปลากระพงนึ่งซีอิ๊ว ไก่ดำตุ๋น 3 เซียน หมี่ฮกเกี้ยนและคู่หูคู่เฮง พร้อมแถมหอยเชลล์นึ่งฮ่องกงให้อีกหนึ่ง

    อยากลิ้มรสอาหารจีนสูตรแต้จิ๋วโบราณ สำรองที่นั่งภัตตาคาร เล่งหงษ์ สาขาสุขุมวิท 62 พร้อมสอบถามรายละเอียดได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2311-6155-6.

    เรื่อง : แม่พลอย/ภาพ : ภมร มานะพรชัย

    Daily News Online > เสาร์สปอร์ต > อาฟเตอร์เวิร์ก > อาหารจีนแต้จิ๋วโบราณ
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สธ.เผยปี 51 พบชายขายบริการ-นศ.ติดเชื้อเอดส์เพิ่มขึ้น
    สธ.เผยปี 51 พบชายขายบริการ-นศ.ติดเชื้อเอดส์เพิ่มขึ้น - ข่าวไทยรัฐออนไลน์


    กระทรวงสาธารณสุข เผยผลสำรวจความชุกการติดเชื้อเอชไอวีประจำปี 2551 ในประชากร 8 กลุ่ม พบส่วนใหญ่มีแนวโน้มลดลง ยกเว้นชายขายบริการและนักศึกษาที่มาบริจาคโลหิตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

    นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าววันนี้ (26 ก.ย.) ว่า สำนักระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข ได้เฝ้าระวังสถานการณ์การติดเชื้อเอชไอวีของประเทศ โดยวิธีการสุ่มสำรวจในประชากรกลุ่มต่างๆ ทั่วประเทศ ได้แก่ กลุ่มผู้บริจาคโลหิต ผู้ติดยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้น หญิงฝากครรภ์ ชายที่มาตรวจรักษากามโรค และหญิงขายบริการทางเพศ เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการวางแผนพัฒนาการป้องกันควบคุมแก้ไขปัญหา ทั้งในระดับจังหวัด ระดับเขตและระดับประเทศ ในปี 2551 ได้สำรวจในกลุ่มผู้บริจาคโลหิตทั้งหมด 77,791 ตัวอย่าง ผู้ติดยาเสพติด 202 ตัวอย่าง หญิงฝากครรภ์ 62,601 ตัวอย่าง ชายที่มาตรวจรักษากามโรค 1,071 ตัวอย่าง หญิงขายบริการทางเพศตรง 4,932 ตัวอย่าง และหญิงขายบริการทางเพศแฝง 10,551 ตัวอย่าง

    นอกจากนี้ ยังขยายผลไปยังกลุ่มที่มีพฤติกรรมเสี่ยงติดเชื้อกลุ่มใหม่ๆ ได้แก่ ชายขายบริการทางเพศ ชาวประมง และแรงงานต่างชาติด้วย

    นายแพทย์สุพรรณ กล่าวต่อว่า ผลการเฝ้าระวังพบกลุ่มหญิงที่มาฝากครรภ์ ติดเชื้อเอชไอวีร้อยละ 0.72 ลดลงจากปีที่ผ่านมา แต่พบว่าหญิงตั้งครรภ์ในภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนล่าง และภาคใต้ตอนล่าง ยังมีการติดเชื้อสูงกว่าภาพรวมของประเทศ ในกลุ่มหญิงขายบริการทางเพศตรง ติดเชื้อลดลงเป็นร้อยละ 4.67 หญิงขายบริการทางเพศแฝง ลดลงเป็นร้อยละ 2.64 โดยภาคเหนือพบหญิงขายบริการทางเพศตรงติดเชื้อมากสุด ร้อยละ 6.06 และภาคกลางพบหญิงขายบริการทางเพศแฝงติดเชื้อมากสุด ร้อยละ 3.12

    ส่วนกลุ่มผู้บริจาคโลหิต แม้จะพบการติดเชื้อลดลงเป็นร้อยละ 0.18 แต่ในกลุ่มผู้บริจาคที่เป็นนักศึกษา พบว่ามีการติดเชื้อร้อยละ 0.5 เพิ่มขึ้นกว่าปี 2550 ถึง 2 เท่า และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับกลุ่มชายขายบริการทางเพศ ที่มีแนวโน้มติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 12.21 ซึ่งสูงเป็นลำดับ 2 รองจากกลุ่มผู้ติดยาเสพติด
    ประเด็นที่น่าสังเกตคือ ในกลุ่มหญิงขายบริการทางเพศ ขณะนี้มีการขายบริการที่ไม่ได้อยู่เฉพาะในสถานบริการเท่านั้น (หญิงขายบริการทางเพศแฝง)

    ทั้งนี้ จากการวิจัยของศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐ ด้านสาธารณสุข พบว่ากลุ่มหญิงขายบริการทางเพศแฝงมีการติดเชื้อเอชไอวีสูงกว่ากลุ่มที่สังกัดสถานบริการ โอกาสถ่ายทอดเชื้อไปสู่ชายนักเที่ยวสูง นำไปสู่การติดเชื้อในหญิงมีครรภ์และส่งผลกระทบต่อครอบครัวได้ในที่สุด จึงควรส่งเสริมมาตรการการใช้ถุงยางอนามัย 100 เปอร์เซ็นต์ในการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงขายบริการ ส่วนกลุ่มชายขายบริการทางเพศ ควรเร่งรัดป้องกันมากยิ่งขึ้น โดยอาศัยกลุ่มเครือข่าย ผู้ที่สามารถเข้าถึงและเข้าใจประชากรกลุ่มนี้มาช่วยดำเนินการในเชิงรุกเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงการจัดบริการให้เหมาะสมตามสภาวะปัจจุบัน

    สำหรับกลุ่มที่แนวโน้มการติดเชื้อคงที่ ได้แก่ กลุ่มแรงงานต่างชาติ พบร้อยละ 1.24 กลุ่มชาวประมง พบร้อยละ 2.5 และกลุ่มผู้ติดยาเสพติดชนิดฉีด พบร้อยละ 48.15 ซึ่งแม้จะพบการติดเชื้อคงที่แต่เป็นอัตราที่สูงมากเป็นอันดับ 1 โดยสถานการณ์โรคเอดส์ตั้งแต่ พ.ศ. 2527-สิงหาคม 2552 มีผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 354,000 ราย เสียชีวิต 94,848 ราย ผู้ป่วยร้อยละ 63 อายุ 25-39 ปี ในรอบ 8 เดือนปี 2552 นี้มีรายงานป่วย 1,980 ราย เสียชีวิต 425 ราย
     
  11. newcomer

    newcomer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,317
    ค่าพลัง:
    +3,934
    ขอบคุณ ครับ
    วันนี้อิ่มบุญไปทั้งวันเลย ตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้วครับ
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 10 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 7 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, newcomer+, nongnooo+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ่า คุณnongnooo ที่ผมส่งให้ทาง Email เมื่อสักพักนี้ ดีป่าวครับ แรงป่าวครับ เหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
     
  13. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    อ่า.....ไม่ทราบครับทราบแต่งดงามมากครับ หุ หุ
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 13 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 11 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, psombat+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ดีป่าวครับ แรงป่าวครับ คุณpsombat
     
  16. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    เอ...ดูไปดูมาจากภาพใหญ่ แม้จะไม่ค่อยชัดเท่าไรนัก คิดว่าเป็นพระวังหน้าแท้นะครับ แต่ยอมรับว่าไม่เคยพบเห็นมาก่อน จึงตอบว่าไม่แท้ไว้ก่อนอะนะ

    วันนี้ช่วงเย็นไปไหว้พระที่วัดโพธิคุณ(ห้วยเตย) บนดอย ก่อนถึงศาลเจ้าพ่อพะวอ ข้างล่างโบสถ์พระกับผู้ปฎิบัติธรรมกะลังสวดมนต์น่าจะถวายในหลวงเพราะมีบทโพชฌังคะปะริตตัง ... ผมขึ้นไปไหว้พระกับนั่งสมาธิต่อหน้าพระประธานข้างบน โบสถ์สวยสดงดงาม พระประธานก็งาม ผมว่าน่าจะเป็นรองแต่หลวงพ่อพระพุทธชินราชเพียงองค์เดียวนะ ไว้จะ Load รูปให้ชมกันครับ ... อ่อ พรุ่งนี้วันพระ ว่าจะไปถวายฉลากภัต (ไม่รู้พิมพ์ถูกเปล่า) ซะหน่อยครับ ..

    ท่านเลขาฯ เห็นแล้วครับ งามสมคำเล่าลือ หุหุ ...:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กันยายน 2009
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ตอนที่ 25 เรื่องสลากภัตร
    �͹��� 25 ����ͧ��ҡ�ѵ�

    ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม ไปจนกระทั่งถึงเดือนตุลาคม เป็นช่วงที่ชาวบ้านว่างเว้นจากการทำนา เพราะต้องรอให้ต้นข้าวออกรวง จึงจะถึงฤดูเก็บเกี่ยว ในช่วงที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวผลผลิตจากการทำนานี้ ถือเป็นช่วงที่อดอยากของชาวบ้านค่ะ เพราะข้าวเปลือกที่เก็บไว้ในยุ้งฉางใกล้จะหมด หรือบางบ้านอาจจะหมดไปแล้ว คนที่มีข้าวเปลือกก็จะเก็บไว้กินจนกว่าจะเก็บเกี่ยวข้าวใหม่ได้ในปีต่อไป ส่วนคนที่ซื้อข้าวสารกินก็จะหาซื้อยากและมีราคาแพง ในเมื่อคนทั่วไปอดอยากก็พลอยให้นึกไปถึง ผู้ที่เป็นญาติพี่น้องที่ตายจากไปแล้วว่าคงจะไม่มี เครื่องอุปโภค บริโภคเช่นเดียวกัน จึงได้เกิดเป็นประเพณี ในการทำบุญครั้งใหญ่ประจำปีขึ้น ในช่วงเดือน 10 ถึง เดือน 12 ของทางเหนือเรา เรียกว่า ประเพณีการทำบุญสลากภัตร หรือที่เราคุ้นหูกันในประเพณี ตานก๋วยสลาก บางที่ก็เรียกตานสลาก ซึ่งที่จริงแล้วคือความหมายเดียวกันค่ะ แต่เรียกแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่นเท่านั้นเอง ซึ่งวันนี้เราได้รับเกียรติจาก อาจารย์ สนั่น ธรรมธิ ผู้ดำเนินรายการ มรดกล้านนา ทางสถานีวิทยุเสียงสื่อสารมวลชน มาอธิบายถึงความเป็นมา และที่มาของคำว่า ตานก๋วยสลาก ค่ะ ว่าแท้จริงแล้วหมายถึงอะไร

    <TABLE align=center border=1><TBODY><TR><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​


    “ตานนี่นะครับ มันจะมีตานสลาก ตานก๋วยสลาก แต่ถ้าหากบางท้องที่ใช้คำว่ากิ๋น กิ๋นสลากก็มีก กิ๋นเข้าสลากก็มี ซึ่งทั้งตาน นำหน้าหรือกิ๋นนำหน้า หรือว่ามีก๋วยบ่มีก๋วย หรือว่าบ่มีเข้า ความหมายของมันทั้งหมดก็คือ งานสลากถัตต์ ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้วนะครับ ชื่อที่มันแตกต่างกันออกไปก็เป็นเรื่องของการใช้ภาษาต่างกัน ที่ว่าตานก๋วยสลากก็เพราะว่ามันมีตะกร้า ถ้าเป็นภาคกลางคือกระชุ สำหรับใส่ของไว้บริโภค นั่นคือ ของกิ๋นทั้งหลายแหล่ ก็เลยบอกว่า ก๋วยสลาก กิ๋นในที่นี้บ่ได้หมายความว่าคนตานจะกิน แต่หมายถึง คนที่มาฮับ วิญญาณก็ดี หรือว่าสิ่งที่อุทิศส่วนกุศลไปฮื้อเนี๊ยะ เปิ้นจะได้มากิ๋น มาบริโภค เลยฮ้องว่าก๋นสลาก กิ๋นก๋วยสลาก แล้วในภาษาบาลีก็ใช้คำว่าตาน ก็คือ การให้ทานก็ใช้คำว่าตานก๋วยสลาก ตานสลากก็มี”
    <O:p</O:p
    สำหรับวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการทำบุญนั้น จะเป็นอย่างไร เป็นการทำบุญเพื่อให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว จริงหรือเปล่า หรือแท้จริงแล้วเป็นการทำบุญเพียงเพื่อ สร้างบุญกุศลให้กับตัวเองเท่านั้น ในเรื่องนี้อาจารย์สนั่น ธรรมธิ อธิบายว่า
    <O:p</O:p
    “วัตถุประสงค์ก็เป็นไปตามความเชื่อพุทธศาสนา ว่าคนที่เกิดมาแล้ว เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป คนที่ยังบ่ดับไป ก็ต้องสร้างกุศล ผลบุญต่อไป อันนี้เป็นการตานเพื่อตัวเอง คนที่จากไปแล้วคนตางหลังก็ยังลำลึกถึง ก็เลยอาศัยพิธีกรรม เป็นพิธีที่ส่งส่วนบุญ ส่วนกุศลไปหาคนที่ตาย ทีนี้มันก็เป็นเรื่องของ กตัญญุตาธรรม ตานไปหาผู้มีพระคุณ อาจจะเป็นบรรพบุรุษ อาจจะเป็นสัตว์สิ่ง ตานไปหาวัว ควาย ก็มี รวมไปถึงเทพผู้มีคุณทั้งหลายแหล่ เทวบุญ เทวดา นี่ก็คือวัตถุประสงค์ เพื่อที่จะทำบุญแล้ว หื้อไปถึงสิ่งที่เฮารำลึก นึกถึง พร้อมกับสิ่งที่นึกว่าเป็ญบุญ กุศลต่อไปชาติหน้า”


    <TABLE align=center border=1><TBODY><TR><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE></B>​
    <O:p</O:p
    ในการทำบุญสลากภัตรนั้น เป็นการจัดข้าวปลา อาหาร ของกิน ของใช้ ไปถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ โดยในการทำบุญนั้น จะไม่จำเพาะเจาะจงว่าจะถวายแด่พระสงฆ์รูปใด รูปหนึ่ง จึงได้ทำสลาก เขียนคำอุทิศลงในสลาก แล้วนำไปรวมปะปนกัน ให้พระภิกษุสามเณร จับสลาก หากภิกษุหรือสามเณรรูปใด จับสลากได้ก๋วยสลาก หรือภาชนะที่บรรจุเครื่องไทยทานอันไหน ก็ยกถวายแก่รูปนั้น ค่ะ
    <O:p</O:p
    การจับสลากภัตรนั้น มี 2 วิธีด้วยกัน คือแบบจับเส้น และจับเบอร์ การจับเส้นนั้นเป็นวิธีเก่า คือเขียนข้อความการทำบุญสลาก และชื่อผู้ศรัทธาลงในแผ่นกระดาษแข็ง ใบตาล หรือใบลาน ให้เท่ากับจำนวนของไทยทาน เพื่อเป็นการอุทิศส่วนบุญ ส่วนกุศลแก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว และเพื่อเป็นบุญกุสลแก่ตนเอง โดยจะนำไปกองรวมกันในโบสถ์ หรือวิหารที่จัดไว้ แล้วจึงให้พระเณรมาจับตามจำนวนที่กำหนด ส่วนสลากที่เหลือ ก็จะถวายแก่พระพุทธ จากนั้นชาวบ้านจึงถวายของตามชื่อเส้น ขอตนเอง หลังจากพระให้ศีล ให้พรแล้วจึงรับเส้นของตนไปเผา พร้อมทั้งกรวดน้ำ อุทิศส่วนบุญกุศลให้กับผู้ตาย เป็นอันเสร็จพิธีค่ะ
    <O:p</O:p
    ส่วนวิธีจับสลากนั้น เป็นวิธีที่นิยมมากกว่าการจับเส้นนะคะ วิธีในการจับก็คือ ทำสลากของไทยทานให้เท่ากับจำนวนของพระและสามเณร แล้วจึงจับสลากเช่นเดียวกับการจับแบบเส้น ทำเป็นธงให้เจ้าภาพจับ เมื่อจับได้แล้วก็นำไปเสียบไว้ที่ไทยทานของตนเอง แล้วทำสลากอีกส่วนหนึ่งลงเลขจำนวนตรงกันกับที่ให้เจ้าภาพจับไปแล้วม้วนเป็นชิ้นเล็ก ๆ ให้ภิกษุสามเณรจับ ถ้ารูปใดจับได้ตรงกับเลขของใคร ก็ให้นำไปถวายแก่พระรูปนั้น


    <TABLE align=center border=1><TBODY><TR><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​

    <O:p</O:p
    พิธีการการถวายไทยทาน ของแต่ละท้องถิ่นนั้นก็มีความแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับ ประเพณีดั้งเดิมของแต่ละท้องถิ่นนั้น ว่ายึดถือปฏิบัติกันมาอย่างไร แม้แต่ทางภาคเหนือของเรา ประเพณีในแต่ละจังหวัดก็แตกต่างกันออกไปด้วยค่ะ
    <O:p</O:p
    “ตางเจียงฮาย เมืองแพร่ เมืองน่าน ลำปางเปิ้นเน้นของกิ๋น แล้วก็ไปเน้น ก๋วยตี้ว่าเนี๊ยะ บ่ปอใคร่เน้นเครื่องอุปโภคสักเต่าใด เป็นไปเน้นสามัคคีธรรมระหว่างวัด คือแต่ละวัดเนี๊ยะ จะต้องแห่ คล้าย ๆ กับปอยหลวงของเจียงใหม่ แล้วก็หื้อความสำคัญกับหงส์ หงส์นี๊ยะจะเป็นตัวตี่ปาเอากุศล คัวตาลทั้งหลายไปสู่จุดหมายปลายทางไปหน้า เพราะฉะนั้นจะมีรูปหงส์เต็มไปหมดเลย”
    <O:p</O:p
    ส่วนของจังหวัดเชียงใหม่และลำพูนนั้น มีรูปแบบที่แตกต่างออกไปจากจังหวัดที่กล่าวมา ทั้งรูปแบบของเครื่องไทยทานที่นำมาถวาย ซึ่งจะเน้นที่เครื่องอุปโภค และของใช้มากกว่า รวมไปถึงสัญลักษณ์ที่ใช้แทน ก็ไม่ใช่รูปหงส์เหมือนที่นิยมกันในจังหวัดอื่น ๆ
    <O:p</O:p
    “ตางเจียงใหม่ ละปูน ส่วนใหญ่จะหื้อความสำคัญกับสิ่งของ คือของกิ๋น ก็มีอยู่พ่อง แต่ว่าไปเน้นเครื่องอุปโภคบริโภค ที่ไว้ภายหน้า หรือว่าตานไปหาคนตาย และจะเน้นที่พาหนะ ตะกี้เป็นหงส์ อันนี้เป็นสำเภา ล้านนาเปิ้นฮ้องว่าสะเปา เป็นตัวแทน มันจะเริ่มหายไปนัก ส่วนใหญ่จะเป็นต้น เป็นต้นครัวตาน แป๋งเป็นต้นฟาง ขึ้นไปละก็เสียบดอก เสียบเครื่องใช้ โดยเฉพาะที่หละปูน คนใดเป็นสาวขึ้นมาแล้ว ก่อนจะแต่งงานจะต้องตานสลาก ย้อมเตี่อ นึ้ง สลากย้อมก็คือ ต้นสลากใหญ่
    <O:p</O:p
    ใส่ของเต็มไปหมด อันนั้นเป็นสลากโชค ตุ้จ้าตนใดจับใดสลากอันนั้น ก็จะเป็นโชค ชาวหละปูนเปิ้นฮื้อความสำคัญ มีตึงเครื่องอุปโภค และบริโภค แต่ทางเชียงใหม่และหละปูนจะเน้นเครื่องอุปโภค ขอวกิ๋นมีน้อยกว่าเครื่องใช้ นี่คือสิ่งที่แตกต่างกั๋น


    <TABLE align=center border=1><TBODY><TR><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    <O:p</O:p
    ในวันงานทำบุญสลากภัตรนั้น ชาวบ้านจะนัดหมายตกลงวันที่ทำพิธีกัน โดยงานจะมี 2 วันด้วยกัน คือ วันแรกจะเป็นวันแต่งดา หรือวันสุกดิบ และวันต่อมาจะเป็นวันถวายทาน ในวันแต่งดา ทุกหลังคาเรือนจะจัดหาวัตถุของกิน ของใช้ตามกำลังศรัทธา และจะมีญาติพี่น้องที่รู้ข่าวมาช่วย และร่วมบริจาคจตุปัจจัย สบทบ ในการทำบุญตามสายญาติของตน
    <O:p</O:p
    “ญาติพี่น้องนี่จะมาช่วยกันกิ๋น ช่วยกันฮอม เอาสตางค์มาช่วย เอาของมาช่วย ในอดีตก็มีอาหารการกินมาช่วยกั๋น หื้อมันเป็นการฮ่วมบุญ ฮ่วมกุศล ชาติหน้าเกิดมาจะได้เกิดมาใต้ร่มพระศาสนาเหมือนกัน
    <O:p</O:p
    ในประเพณีทำบุญสลากภัตรนี้ บางท้องถิ่นจะจัดให้มีการถวายทาน รักษาศีล เพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศล ให้แก่ญาติที่ตายไปแล้ว นอกจากนี้ยังจัดให้มีการฟังเทศน์ ตลอดทั้งวันอีกด้วย โดยเรื่องที่นำมาเทศน์ส่วนมาก เป็นเรื่องวรรณกรรมท้องถิ่น และมีอิทธิพลต่อความเชื่อของท้องถิ่น ในลักษณะของการขัดเกลาจิตใจ และเร่งเร้าให้ทำความดีในรูปแบบต่าง ๆ เช่นเรื่องมโหสถ เรื่องพระเจ้าสิบชาติ เป็นต้น
    <O:p</O:p
    แม้พิธีการในการทำบุญสลากภัตร จะดูยุ่งยากอยู่บ้าง แต่ก็ตรงตามความหมาย ของคำว่าสลากภัตร และถือเป็นความสนุกสนานของคณะ เจ้าภาพด้วยเพราะเป็นการประกวดประขันกันในตัว และถือได้ว่าการถวายสลากภัตรนี้เป็นการทำบุญแบบถวายสังฆทานโดยแท้ เพราะตัวเจ้าภาพก็ไม่ได้รู้จักพระเณรที่จะถวายไทยทานให้ พระเณรเองก็ไม่รู้จักเจ้าภาพมาก่อน จะรู้ก็ต่อเมื่อพระมานั่งตรงสลากของตน ถือได้ว่า ประเพณีการทำบุญสลากภัตรนี้ เป็นประเพณีที่ดีงาม ที่ควรจะได้รับการสนใจ และประพฤติปฏิบัติ สืบสานกันต่อไปตราบนานเท่านานค่ะและรายการรักษ์ล้านนาวันนี้ขอเป็นอีกแรงหนึ่ง ในการร่วมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมที่ดีงามแบบนี้นะคะ สำหรับวันนี้ลากันไปก่อน สวัสดีค่ะ
     
  18. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    หุหุ ไม่รู้ซีครับ ขนาดยังไม่สักยันต์ยังแรงดีไม่มีตก แต่นี่ลายรอบเลยอ่ะ ก็อย่างว่า ... สิบปากว่า ไม่เท่านำมาอาราธนานะคร๊าบ ...
     
  19. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    [​IMG]

    เออ นี่แหละครับ ตานก๋วยสลาก (ทางเหนือ) ทางบ้านผมเรียกว่าบุญข้าวสากครับ :) ขอบคุณครับท่านเลขาฯ สำหรับข้อมูลจานร้อน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กันยายน 2009
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ผีบดหม้อ 2-0 ขึ้นฝูง หงส์ตบฮัลล์ 6-1 เชลซีพ่ายนัดแรก
    Sport - Manager Online

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>26 กันยายน 2552 22:57 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>“ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกอัด “ช่างปั้นหม้อ” สโตก ซิตี 2-0 ขึ้นนั่งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังจากที่ เชลซี บุกปราชัย วีแกน แอธเลติก 1-3 ขณะที่ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดรังไล่จิกเอาชนะ ฮัลล์ ซิตี 6-1

    ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
    สโตก ซิตี 0-2 แมนฯ ยูไนเต็ด



    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"เบอร์บาตอฟ" แปเน้นๆ ให้ผีออกนำ 1-0</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กลับมาใช้ทัพใหญ่ “ผีแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมเยือนบริทานเนีย สเตเดียม โดยปราการด่านสุดท้ายไว้วางใจ เบน ฟอสเตอร์ แม้มีผิดพลาดให้เห็นบ่อยครั้ง กองหน้าเลือกใช้บริการ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เสริมงาน เวย์น รูนีย์ ด้าน โทนี พูลิส ประสบปัญหาจัดทีม “ช่างปั้นหม้อ” สโตก ซิตี พอสมควรโดยเฉพาะแดนหน้าที่มาไร้ ริคาร์โด ฟูลเลอร์ ไปอีกคน ทำให้ต้องใช้ เดฟ คิตสัน ยืนหน้าเป้า ได้รับการสนับสนุนจากตัวริมเส้นอย่าง เลียม ลอว์เรนซ์ และ แม็ทธิว เอเธอร์ริงตัน


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=200 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"วิดิช" ขึ้นโขกกับ "คิตสัน"</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>เริ่มเกมการแข่งขัน แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายเดินเกมรุกเข้าใส่และก็ได้ลุ้นแต่หัววัน หลุยส์ นานี เปิดบอลแฉลบ ไรอัน ชอว์ครอสส์ เข้าทางให้ เวย์น รูนีย์ ตวัดยิงบอลข้ามคานไป ทีมเยือนลุยต่อเนื่อง พอล สโคลส์ ได้ซัดบอลไปติดข้อศอก เลียม ลอว์เรนซ์ แต่ผู้ตัดสิน ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ ยังเฉยๆ นาทีที่ 8 “ผีแดง” พลาดออกนำอย่างเหลือเชื่อเมื่อ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ปั๊มบอลได้จาก ชอว์ครอสส์ หลุดเข้าไปชิปบอลผ่าน โธมัส โซเรนเซน แต่ลูกหนังหลุดเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย

    ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก สโตก ซิตี เริ่มตั้งเกมสู้กับแชมป์เก่าได้อย่างสูสีมากขึ้นเป็นลำดับ แต่พอเข้าสู่ช่วงท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มโหมเกมอีกครั้งจากทางริมเส้นซ้ายขวา โดย นานี คอยหลอกล่อเล่นงาน โรเบิร์ต ฮูธ เป็นระยะๆ แต่จังหวะเปิดบอลให้ รูนีย์ หรือ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เข้าทำยังมีไม่มากนัก ช่วงท้าย นานี ลากตัดจากซ้ายเข้ามายิงด้วยขวาเป็นลูกเก่งแต่ โซเรนเซน บินปัดออกไปได้ จบ 45 นาทีแรกสกอร์ยังตรึงอยู่ที่ 0-0

    ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง สโตก พลิกโผกล้าลุยใส่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก่อนหลังจากที่ครึ่งแรกไม่มีโอกาสยิงเข้ากรอบเลย เลียม ลอว์เรนซ์ ลองชิปบอลลักไก่แต่ เบน ฟอสเตอร์ ถอยไปรับได้ไม่มีปัญหา เมื่อเกมไม่ดีขึ้น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ปรับหมากใส่ ไรอัน กิกส์ ลงมาเติมความเก๋าในแผงกลางพร้อมกับถอด นานี ออกมา และนาทีที่ 62 ก็เป็น กิกส์ หลุดขึ้นไปไหลใส่พานให้ เบอร์บาตอฟ แปนิ่มๆ ไม่เหลือส่งต้นสังกัดนำ 1-0


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=200 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"กิกส์" ลงมาเปลี่ยนเกมให้ผีแดง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>แต่นาทีถัดมาแฟนๆ “ช่างปั้นหม้อ” โห่เชิ้ตดำ เว็บบ์ เกรียว เนื่องจากเห็น สโคลส์ ยกมือบังจังหวะเปิดของ ลอว์เรนซ์ แม้ผู้ตัดสินเป่าให้ฟาล์วแก่เจ้าถิ่น แต่ปฏิเสธให้ใบเหลืองที่สองแก่มิดฟิลด์ตัวเก๋า เข้าสู่ช่วง 20 นาทีท้าย โทนี พูลิส ปรับเอา ตุนกาย ซานลี กับ เจมส์ บีทตี มาเสริมเกมรุกพร้อมกับถอด คิตสัน และ ดีน ไวท์เฮด ออกหลังไป ทว่านาทีที่ 77 กลายเป็น “ผีแดง” เฮนำ 2-0 เมื่อได้ลูกฟรีคิก กิกส์ เปิดเข้าไปให้ จอห์น โอเชีย สอดขึ้นมาขวิดไม่เหลือ

    นาทีถัดมา แมนฯ ยูไนเต็ด น่าได้ประตูตอกฝาโลงเป็นอย่างยิ่งเมื่อ สโคลส์ ยกบอลให้ กิกส์ หลุดโล่งเมื่อ ฮูธ เสียตำแหน่งไป ทว่าอดีตกัปตันทีมชาติเวลส์งัดบอลข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย จากนั้น ท่านเซอร์ ถอดเอา รูนีย์ และ สโคลส์ ออกมาพักไว้รอเจอ โวล์ฟสบวร์ก ในแชมเปียนส์ ลีก กลางสัปดาห์ พร้อมกับส่ง ไมเคิล โอเวน กับ ไมเคิล คาร์ริค มายืนเส้นยืดสาย ครบ 90 นาทีผู้มาเยือนประคองตัวเก็บชัย มีเพิ่มเป็น 18 คะแนนจากการเตะ 7 นัด ขึ้นจ่าฝูงเพราะมีประตูได้-เสียเหนือเชลซี 10 คนที่บุกพ่าย วีแกน แอธเลติก 1-3

    รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
    สโตก : โธมัส โซเรนเซน , โรเบิร์ต ฮูธ , ไรอัน ชอว์ครอสส์ , อับดุลลาย ฟาย , แดนนี คอลลินส์ , เลียม ลอว์เรนซ์ , เกล็น วีแลน , ดีน ไวท์เฮด , รอรี ดีแลป , แม็ทธิว เอเธอร์ริงตัน , เดฟ คิตสัน

    แมนฯ ยูไนเต็ด : เบน ฟอสเตอร์ , จอห์น โอเชีย , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , เนมันยา วิดิช , ปาทริซ เอฟรา , อันโตนิโอ วาเลนเซีย , พอล สโคลส์ , ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ , หลุยส์ นานี , ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ , เวย์น รูนีย์


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"ตอร์เรส" ซัดแฮตทริกใส่ฮัลล์</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์

    ปอร์ทสมัธ 0-1 เอฟเวอร์ตัน
    [0-1 : หลุยส์ ซาฮา (น.43)]

    เบอร์มิงแฮม ซิตี 1-2 โบลตัน วันเดอเรอร์ส
    [0-1 : ทาเมียร์ โคเฮน (น.10) , 1-1 : เควิน ฟิลลิปส์ (น.84) , 1-2 : ลี ชุง ยอง (น.86)]

    แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 2-1 แอสตัน วิลลา
    [0-1 : กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ (น.3) , 1-1 : คริสโตเฟอร์ แซมบา (น.24) , 2-1 : เดวิด ดันน์ (จุดโทษ น.89)]

    ลิเวอร์พูล 6-1 ฮัลล์ ซิตี
    [1-0 : เฟร์นานโด ตอร์เรส (น.12) , 1-1 : โจวานนี (น.15) , 2-1 : เฟร์นานโด ตอร์เรส (น.28) , 3-1 : เฟร์นานโด ตอร์เรส (น.47) , 4-1 : สตีเวน เจอร์ราร์ด น.61) , 5-1 : ไรอัน บาเบล (น.88) , 6-1 : ไรอัน บาเบล (น.90)]

    สโตก ซิตี 0-2 แมนฯ ยูไนเต็ด
    [0-1 : ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ (น.62) , 0-2 : จอห์น โอเชีย (น.77)]

    ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 5-0 เบิร์นลีย์
    [1-0 : ร็อบบี คีน (จุดโทษ น.18) , 2-0 : เจอร์เมน จีนัส (น.32) , 3-0 : ร็อบบี คีน (น.73) , 4-0 : ร็อบบี คีน (น.77) , 5-0 : ร็อบบี คีน (น.87)]

    วีแกน แอธเลติก 3-1 เชลซี
    [1-0 : ไตตัส บรัมเบิล (น.16) , 1-1 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา (น.47) , 2-1 : ฮูโก โรดาเยกา (จุดโทษ น.53) , 3-1 : พอล ชาร์เนอร์ (น.90)]

    ฟูแลม 0-1 อาร์เซนอล
    [0-1 : โรบิน ฟาน เพอร์ซี (น.52)]

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...