พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><THEAD><TR><TD class=tcat colSpan=2>มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง?</TD></TR></THEAD><TBODY><TR><TD class=thead colSpan=2>[​IMG] คน Online อยู่บนบอร์ดในขณะนี้: 38936 ( เป็นสมาชิก 358 คน และ บุคคลทั่วไป 38578 คน and 22 Spiders) </TD></TR></TBODY><TBODY id=collapseobj_forumhome_activeusers><TR><TD class=alt2>[​IMG]</TD><TD class=alt1 width="100%">สถิติที่เคยมีคน online พร้อมกันมากที่สุด 38,936 คน, เมื่อ วันที่วันนี้ เวลา 09:40 PM.


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    -----------------------------------------------------

    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 197 คน ( เป็นสมาชิก 6 คน และ บุคคลทั่วไป 191 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, dragonlord+, newcomer+, nongnooo+, มูริญโญ่, chantasakuldecha+ </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead colSpan=2>[​IMG] คน Online อยู่บนบอร์ดในขณะนี้: 39720 ( เป็นสมาชิก 371 คน และ บุคคลทั่วไป 39349 คน and 22 Spiders) </TD></TR></TBODY><TBODY id=collapseobj_forumhome_activeusers><TR><TD class=alt2>[​IMG]</TD><TD class=alt1 width="100%">สถิติที่เคยมีคน online พร้อมกันมากที่สุด 39,720 คน, เมื่อ วันที่วันนี้ เวลา 09:51 PM.

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 202 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 200 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, dragonlord+ </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ไปนอนแล้วครับน้องอุ้ม พรุ่งนี้ต้องไปทำงาน ราตรีสวัสดิ์ครับ

    .
     
  3. dragonlord

    dragonlord เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +1,541
    ราตรีสวัสดิ์คะ

     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แม่ผัว - ลูกสะใภ้...กับปัญหาทรัพย์สินที่ตามมาหลังการหย่า
    Life & Family - Manager Online

    / มังกรซ่อนกาย

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>20 สิงหาคม 2552 06:52 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=344 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=344>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> แม่สามีกับลูกสะใภ้ถ้าบ้านไหนรักกันดีก็ดูจะทำให้โลกน่าอยู่ขึ้นมาก แต่ก็มีไม่น้อยที่แม่สามี กับลูกสะใภ้อยู่ในสภาพขิงก็ราขาก็แรงที่นำความหนักอกหนักใจมาสู่คุณสามีอยู่ไม่น้อย แล้วถ้าแม่สามีเกิดขัดแย้งกับลูกสะใภ้ทรัพย์สินเงินทองที่แม่สามีออกให้มาแต่แรกนั้น ใครจะมีสิทธิได้ไปเมื่อลูกชายแยกทางกับลูกสะใภ้

    ข้อเท็จจริงมีอยู่ว่า นายดี และนางสวยแต่งงานจดทะเบียนสมรสกันถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อแต่งงานแล้วนายดีก็พานางสวยมาอยู่บ้านพ่อแม่ของนายดีที่จังหวัดกระบี่จนมีบุตรด้วยกัน 1 คนชื่อ เด็กหญิงฉลาด อยู่มาวันหนึ่งพ่อแม่ของนายดีเห็นว่านายดีและนางสวย บุตรชายและลูกสะใภ้มีความจำเป็นต้องใช้รถยนต์ในการเดินทางไปทำงาน ประกอบกับนายดีและนางสวยอยากมีรถยนต์ใช้ในครอบครัว พ่อแม่ของนายดีจึงออกเงิน 10,000 บาท ให้นายดีและนางสวยไปจองรถยนต์ 1 คัน ราคา 500,000 บาท ต่อมามีการวางเงินดาวน์จำนวน 240,000 บาท พ่อแม่ของนายดีได้ออกเงินดาวน์ให้อีก 180,000 บาท ส่วนเงินดาวน์ที่เหลืออีก 60,000 บาทนายดีและนางสวยช่วยกันออกจนครบ ส่วนเงินค่ารถยนต์อีก 260,000 บาทได้มีการผ่อนชำระเป็น 22 งวด งวดละ 11,818 บาท ในการผ่อนชำระเงินค่างวดทั้ง 22 งวดนั้น

    นายดีและนางสวยได้ช่วยกันผ่อนชำระโดยในระหว่างการผ่อนชำระนั้นทั้งนายดีและนางสวยก็ยังคงอาศัยอยู่ที่บ้านพ่อแม่ของนายดีมาตลอด รถยนต์คันดังกล่าวก็ได้ใช้เพื่อประโยชน์ของครอบครัวทั้งนายดีนางสวย และพ่อแม่ของนายดีด้วย โดยตลอดมาพ่อแม่ของนายดีก็ไม่ได้ว่ากล่าวทวงถามถึงเงินที่ตนได้ช่วยค่าจองและเงินดาวน์บางส่วนแก่นายดีและนางสวยแต่อย่างใด และยังให้ความช่วยเหลือนายดีและนางสวยในเรื่องอื่นๆในระหว่างที่ทั้งสองอยู่ด้วยกันที่บ้านพ่อแม่ของนายดีตลอดมา

    อีก 2 ปีต่อมา นางสวยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับแม่ของนายดี นางสวยจึงได้ย้ายกลับไปอยู่บ้านของตนที่จังหวัดตรังโดยได้พาเด็กหญิงฉลาดไปอยู่กับตนด้วย นายดีก็ไม่ได้ติดตามนางสวยไปที่จังหวัดตรังเพราะไม่พอใจที่นางสวยมีเรื่องทะเลาะกับมารดาของตนเองและนายดียังเอารถยนต์ไปโอนให้ นางสาวดาว น้องสาวของตนในระหว่างนั้นอีกด้วย ส่วนนางสวยที่พาเด็กหญิงฉลาดมาอยู่ที่จังหวัดตรังได้ไปกู้ยืมเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรเพื่อนำมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการเรียนและค่าเล่าเรียนของเด็กหญิงฉลาด และเพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือนจำนวน 30,000 บาท

    เมื่อนายดีและนางสวยแยกกันอยู่ได้ 3 ปีกว่า นายดีก็มาฟ้องหย่านางสวย และนางสวยให้การว่าไม่ติดใจเรื่องการหย่าแต่ขอฟ้องแย้งให้นายดีแบ่งเงินค่าโอนขายรถให้ครึ่งหนึ่งโดยอ้างว่าเป็นสินสมรสและให้นายดีร่วมชดใช้เงินที่นางสวยไปกู้ยืมมาจากธนาคารฯมาเพื่อใช้จ่ายในครัวเรือนหลังจากที่ตนได้ออกมาอยู่ที่จังหวัดตรังด้วย ในเรื่องนี้ใครจะมีสิทธิอย่างไร?

    ตามปัญหาดังกล่าว ประเด็นเรื่องการหย่าไม่เกิดปัญหาอย่างไรขึ้นเพราะถือว่าทั้งคู่สมัครใจหย่าขาดจากกันแต่ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ ปัญหาเรื่องทรัพย์สิน ซึ่งเห็นได้ว่าการเช่าซื้อรถยนต์ทำขึ้นในระหว่างที่นายดีและนางสวยเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แม้ว่าจะมีกรณีที่พ่อแม่ของนายดีช่วยออกเงินจองให้ 10,000 บาทและออกเงินดาวน์ให้ 180,000 บาท ก็ยังคงถือว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นรถยนต์ที่นายดีและนางสวยออกเงินมาบางส่วนด้วย ส่วนเงินที่พ่อแม่นายดีออกให้มาดังกล่าวในภายหลังไม่ปรากฏว่าได้มีการทวงถามให้นายดีและนางสวยชำระหนี้ส่วนนี้แต่ประการใด แสดงว่าพ่อแม่ของนายดีมีเจตนาที่จะออกเงินค่ารถยนต์ส่วนนี้ให้แก่ทั้งนายดีและนางสวย

    ดังนั้นรถยนต์คันดังกล่าวจึงเป็นทรัพย์สินของนายดีและนางสวยที่ได้มาในระหว่างสมรส จึงเป็นสินสมรส ตามปพพ.มาตรา 1474 (1) สิทธิตามสัญญาเช่าซื้อรถยนต์จึงเป็นสินสมรส

    การที่นายดีโอนสิทธิการเช่าซื้อรถยนต์ไปให้แก่นางสาวดาวในระหว่างที่นายดีและนางสวยยังคงเป็นสามีภรรยากันอยู่ โดยที่นางสวยมิได้ทราบเรื่องจึงเป็นการจำหน่ายจ่ายโอนสิทธิการเช่าซื้อรถยนต์อันเป็นสินสมรสโดยมีเจตนาทำให้นางสวยได้รับความเสียหายซึ่ง ตาม ปพพ.มาตรา 1534 ให้ถือเสมือนหนึ่งว่าทรัพย์สินนั้นยังคงมีอยู่เพื่อการจัดแบ่งสินสมรสตาม ปพพ.มาตรา 1533

    เมื่อนายดีและนางสวยหย่ากันจึงต้องแบ่งสินสมรส คือเงินที่ได้จากการโอนรถยนต์คันดังกล่าวที่เป็นสินสมรสนั้นให้แก่นายสวยด้วยกึ่งหนึ่ง นายดีจึงต้องชดใช้เงินที่ได้มาจากการโอนรถยนต์นั้นให้กับนางสวยด้วยกึ่งหนึ่ง ส่วนเงินกู้ที่นางสวยกู้ยืมมาจากธนาคารหลังจากที่นางสวยแยกมาอยู่กับเด็กหญิงฉลาดที่จังหวัดตรังนั้น จะเห็นได้ว่าการที่นางสวยนำลูกมาเลี้ยงดูด้วยก็จะทำให้มีภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพื่อการเลี้ยงดูบุตรด้วยซึ่งเงินในส่วนนี้นายดีบิดาก็ต้องมีส่วนที่ให้การอุปการะเลี้ยงดูเด็กหญิงฉลาดด้วยเช่นกัน และการกู้ยืมของนางสวยดังกล่าวก็ทำไปเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ของบุตรและใช้ในครัวเรือนอันเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในครอบครัวและเป็นหนี้ที่นางสวยก่อขึ้นในระหว่างการสมรส จึงเป็นหนี้ที่นายดีและนางสวยต้องร่วมกันรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม ตาม ปพพ.มาตรา 1490 นายดีจึงต้องร่วมรับผิดในหนี้ที่นางสวยค้างชำระกับธนาคารฯจำนวน 30,000 บาทด้วยกึ่งหนึ่ง (เทียบเคียงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6244/2550)

    มังกรซ่อนกาย
    hiddendragon2552@gmail.com
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ในหลวงทรงย้ำ ความร่วมมือ บ้านเมืองไม่จม

    ����ǧ �ç��Ӥ���������� ��ҹ���ͧ�����


    [​IMG]


    ในหลวงทรงย้ำ ความร่วมมือ บ้านเมืองไม่จม (ไทยรัฐ)

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสกับเลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ รับสั่งบ้านเมืองกำลังยุ่ง ประเทศกำลังจม เพราะว่าต่างคนต่างทำ อาศัยผู้ที่มีความรู้ร่วมมือกันสร้างบ้านเมืองให้เจริญ

    วันนี้ (21 ส.ค.) เวลา 18.08 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี นำนายอานนท์ บุณยะรัตเวช เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ และคณะเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาททูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสิทธิบัตรฝนหลวง ซึ่งออกโดยสำนักสิทธิบัตรของประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป จำนวน 10 ประเทศ กับสิทธิบัตรฝนหลวง ซึ่งออกโดยสำนักสิทธิบัตรเขตบริหารพิเศษฮ่องกง และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายจดหมายเหตุสิทธิบัตรฝนหลวง ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติจัดทำขึ้น โดยรวบรวมการดำเนินการจดทะเบียนสิทธิบัตรฝนหลวง ระหว่างพุทธศักราช 2545 ถึง 2550 พร้อมทั้งขอพระราชทานพระราชดำริ เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงาน

    โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสความว่า ข้าพเจ้าได้เห็นมานานแล้วว่า การทำความก้าวหน้านั้นไม่ใช่ง่ายๆ โดยมากถ้าทำความก้าวหน้าต้องมีคนที่มีความรู้ มีคนที่มีทุน เราไม่มีทุนอะไร แต่ถ้าทำได้ ตั้งใจทำ เอาความรู้แต่ละคนนำมาใช้ ทางกระทรวงเกษตรฯ ทางกระทรวงมหาดไทย ทางกระทรวงอื่นๆ ทางประชาชนมาร่วมมือกันโดยไม่นึกเอาเปรียบกัน อันนี้สำคัญที่สุด เชื่อว่า จะทำให้บ้านเมืองก้าวหน้าดี บ้านเมืองจะสามารถพัฒนาขึ้นมาดี

    โดยเฉพาะระยะนี้ บ้านเมืองกำลังยุ่ง ไม่รู้จะไปไหน ไปอย่างไร แต่ว่าไปดูที่นั่น บอกได้ว่า บ้านเมืองไม่ยุ่ง เราก็รู้สึกเป็นห่วง ว่าประเทศไทยกำลังจม แต่ว่ามีการพัฒนาอย่างดี บ้านเมืองก้าวหน้า และประชาชนมีความเจริญ เรามีความหวัง มีความรู้สึกว่าบ้านเมืองจะไม่ล่มจม ซึ่งเมื่อระยะเวลาที่ผ่านมา รู้สึกว่าบ้านเมืองของเรากำลังล่มจม เพราะว่าต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างแย่งกัน ต่างคนต่างไม่เข้าใจว่าทำอะไร เพราะทุกคนกำลังทำ อาศัยผู้ที่มีความรู้อย่างท่านทั้งหลายที่ได้มาร่วมมือกัน มีความรู้ต่างๆ กัน ขอยืนยันว่าถ้าทุกคนที่มีความรู้ มีความตั้งใจดี สามารถที่จะสร้างบ้านเมืองให้เจริญ เจริญโดยแท้จริง และขอให้ท่านช่วยกันทำ


    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
    [​IMG]


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“ในหลวง” ทรงรับการทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบัตรฝนหลวง
    Manager Online

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 สิงหาคม 2552 20:42 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>“ในหลวง” ทรงรับการทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบัตรฝนหลวง มีผลคุ้มครอง 30 ประเทศ ในกลุ่มสหภาพยุโรป พร้อมทรงมีพระราชดำรัส ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจกันพัฒนาบ้านเมือง ทรงห่วงประเทศกำลังล่มจม เพราะมีแต่คนแก่งแย่งชิงกัน ขอให้ผู้มีความรู้พาบ้านเมืองรอดพ้นภัย สร้างความเจริญก้าวหน้าอย่างแท้จริง

    คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสถึงความร่วมมือร่วมใจกันทำงานเพื่อพัฒนาประเทศ

    วันนี้ (21 ส.ค.) เมื่อเวลา 18.08 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯออก ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี นำ นายอานนท์ บุณยะรัตเวช เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ และคณะ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาททูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสิทธิบัตรฝนหลวง ซึ่งออกโดยสำนักสิทธิบัตรของประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป จำนวน 10 ประเทศ กับสิทธิบัตรฝนหลวง ซึ่งออกโดยสำนักสิทธิบัตรเขตบริหารพิเศษฮ่องกง และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายจดหมายเหตุสิทธิบัตรฝนหลวง ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติจัดทำขึ้น โดยรวบรวมการดำเนินการจดทะเบียนสิทธิบัตรฝนหลวงระหว่างพุทธศักราช 2545-2550 พร้อมทั้งขอพระราชทานพระราชดำริ เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินสิทธิบัตรฝนหลวง ที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายครั้งนี้

    สืบเนื่องจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ดำเนินการขอรับสิทธิบัตรในพระปรมาภิไธย โดยมีสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนินการ และได้ยื่นขอจดทะเบียนสิทธิบัตรฝนหลวงในพระปรมาภิไธย ต่อสำนักงานสิทธิบัตรยุโรปในชื่อเรื่อง Weather Modification by Royal Rainmaking Technology ซึ่งสำนักงานสิทธิบัตรยุโรป ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสิทธิบัตรนี้แล้ว โดยสิทธิบัตรดังกล่าว มีผลคุ้มครองครอบคลุมประเทศต่างๆ ในกลุ่มสหภาพยุโรป จำนวน 30 ประเทศ แต่มี 10 ประเทศ ที่ออกเป็นสิทธิบัตรแยกแต่ละประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐไซปรัส ราชอาณาจักรเดนมาร์ก สาธารณรัฐฝรั่งเศส ราชรัฐโมร็อกโก ประเทศโรมาเนีย สาธารณรัฐตุรกี สาธารณรัฐแอลเบเนีย สาธารณรัฐลิทัวเนีย สาธารณรัฐมาซิโดเนีย ราชอาณาจักรกรีซ

    สำหรับสิทธิบัตรที่ออกโดยสำนักสิทธิบัตรเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ได้รับการขยายความคุ้มครองมาจากสิทธิบัตรของสำนักงานสิทธิบัตรยุโรปเช่นกัน โอกาสนี้มีพระราชดำรัสถึงความร่วมมือร่วมใจกันทำงานเพื่อพัฒนาประเทศ

    “ข้าพเจ้าได้เห็นมานานแล้ว ว่า การทำความก้าวหน้านั้นไม่ใช่ง่ายๆ โดยมากถ้าทำความก้าวหน้าต้องมีคนที่มีความรู้ มีคนที่มีทุน เราไม่มีทุนอะไร แต่ถ้าทำได้ ตั้งใจทำ เอาความรู้แต่ละคนนำมาใช้ ทางกระทรวงเกษตรฯ ทางกระทรวงมหาดไทย ทางกระทรวงอื่นๆ ทางประชาชนมาร่วมมือกันโดยไม่นึกเอาเปรียบกัน อันนี้สำคัญที่สุด เชื่อว่า จะทำให้บ้านเมืองก้าวหน้าดี บ้านเมืองจะสามารถพัฒนาขึ้นมาดี โดยเฉพาะระยะนี้ บ้านเมืองกำลังยุ่ง ไม่รู้จะไปไหน ไปอย่างไร แต่ว่าไปดูที่นั่น บอกได้ว่า บ้านเมืองไม่ยุ่ง เราก็รู้สึกเป็นห่วง ว่า ประเทศไทยกำลังจม แต่ว่ามีการพัฒนาอย่างดี บ้านเมืองก้าวหน้า และประชาชนมีความเจริญ เรามีความหวัง มีความรู้สึกว่าบ้านเมืองจะไม่ล่มจม ซึ่งเมื่อระยะเวลาที่ผ่านมา รู้สึกว่า บ้านเมืองของเรากำลังล่มจม เพราะว่าต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างแย่งกัน ต่างคนต่างไม่เข้าใจว่าทำอะไร เพราะทุกคนกำลังทำ อาศัยผู้ที่มีความรู้อย่างท่านทั้งหลายที่ได้มาร่วมมือกัน มีความรู้ต่างกัน ขอยืนยันว่า ถ้าทุกคนที่มีความรู้ มีความตั้งใจดี สามารถที่จะสร้างบ้านเมืองให้เจริญโดยแท้จริง ขอให้ท่านช่วยกันทำ”

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Royal.jpg
      Royal.jpg
      ขนาดไฟล์:
      9.6 KB
      เปิดดู:
      342
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    1 กันยายนนี้ ดีเดย์จับปรับ ทิ้งขยะบนที่สาธารณะ

    ������駢�� �����繷�� 1 �ѹ��¹ �������Ѻ��Ѻ


    [​IMG]

    ปัญหาขยะ​



    ทิ้งขยะบนที่สาธารณะรอบ สนามหลวง หลังพบสกปรกขยะเรี่ยราดทัศนียภาพแย่ (เดลินิวส์)

    นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังการประชุมหารือการจัดระเบียบพื้นที่สนามหลวง โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานเขตพระนคร สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักเทศกิจ เข้าร่วมการประชุม ว่า กทม.มีแนวคิดที่ต้องการจัดระเบียบพื้นที่สนามหลวง และบริเวณโดยรอบ เนื่องจากที่ผ่านมาในพื้นที่สนามหลวงนั้นเป็นพื้นที่สำคัญของกรุงเทพฯ และมีประชาชนเข้ามาใช้บริการและเป็นทางผ่านจำนวนมากทำให้เกิดขยะในพื้นที่เป็นจำนวนมาก ​

    โดยในเบื้องต้น กทม.จะดำเนินการทำความสะอาดบริเวณท้องสนามหลวง ในวันที่ 1 กันยายน 2552 ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป และจะเริ่มใช้มาตรการ ทิ้ง-จับ-ปรับ กับประชาชนที่ทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทาง ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด พ.ศ. 2535 ที่มีอยู่แล้ว โดยในระยะแรกจะทำการตักเตือนก่อน และจับทำประวัติ จากนั้นเปรียบเทียบปรับเป็นเงินตั้งแต่ 100 - 1,000 บาท ทั้งนี้ กทม.จะดำเนินการประสานงานหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย (มท.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ศาลฎีกา ททท. สถาบันการศึกษา ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อร่วมเป็นพันธมิตรในการดูแลพื้นที่บริเวณสนามหลวงต่อไป

    ด้าน นายเสือชนะ สุดเจริญ ผอ.เขตพระนคร กล่าวว่า การเริ่มดีเดย์ในวันที่ 1 กันยายน นั้นเนื่องจากเป็นวันสถาปนาสำนักเทศกิจ ซึ่งถือเป็นจุดที่จะเริ่มดำเนินการ ก่อนที่จะขยายผลไปในมาตรการเรื่องอื่นๆ เช่น การแก้ปัญหาคนเร่ร่อน ปัญหาแผงค้า เป็นต้น ทั้งนี้มาตรการการทิ้ง จับ ปรับ นั้นจะเป็น มาตรการในการร่วมปลูกฝังวินัยให้แก่ประชาชนเช่นเดียวกับข้อบังคับในเรื่องการข้ามทางม้าลาย ที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ 1 สิงหาคม ซึ่งการจับปรับผู้ทิ้งขยะนี้จะช่วยทำให้สามารถลดขยะได้ประมาณ 10 ล้านชิ้น ทั้งนี้เมื่อเริ่มในพื้นที่เขตพระนครแล้วก็จะขยายผลไปยังพื้นที่เขตอื่นต่อไป


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    [​IMG]
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ecurriculum.mv.ac.th
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 26665399.jpg
      26665399.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.5 KB
      เปิดดู:
      1,900
  7. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583

    ลองทำตามวิธีการที่คุณหนุ่มบอกไว้ตรับ ยังไม่รู้ว่าผลจะเป็นยังไง
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สาหร่าย สาหร่ายปลอม อย.เก็บตัวอย่าง สาหร่ายอบแห้ง จีนตรวจ เตือนหยุดบริโภคก่อน

    ������� ������»��� ��.��纵�����ҧ �������ͺ���� �ҡ�չ ��Ǩ ���͹��ش��������͹


    [​IMG]

    สาหร่าย สาหร่ายปลอม​

    อย.เก็บตัวอย่างสาหร่ายอบแห้งจีน ส่งกรมวิทยาศาตร์ฯตรวจ อันตรายหรือไม่ เตือนหยุดบริโภคก่อน (มติชนออไลน์)

    อย.ตรวจร้านค้าตลาดชายแดนไทย-พม่า เก็บตัวอย่างสาหร่ายอบแห้งจีน ส่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจอันตรายหรือไม่ ขอผู้บริโภคหยุดกินชั่วคราว รอผลก่อน

    เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่บริเวณย่านการค้าสายลมจอย และตลาดดอยเวาชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย นพ.พงธ์พันธ์ วงค์มณี รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และกลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค จ.เชียงราย ออกตรวจสินค้าตามแนวชายแดนไทย-พม่า หลังจากมีประชาชนร้องเรียนว่าพบสาหร่ายทะเลแห้งนำเข้าจากประเทศจีนปนเปื้อนพลาสติคและมีสารอันตรายผสม จากการสุ่มตรวจตามร้านค้ากว่า 200 ร้าน พบว่ายังมีการนำสาหร่ายทะเลแห้งทั้งแบบสำเร็จรูปพร้อมกินและสำหรับประกอบอาหาร จำหน่ายชิ้นละ 20 บาท 3 ชิ้น 50 บาท หรือแพ็คละ 40-50 บาท

    นพ.พงธ์พันธ์กล่าวว่า สาหร่ายที่วางขายตามแนวชายแดนยังไม่สามารถระบุว่าเป็นอันตราย ด้วยการมองรูปลักษณะ หรือนำมาทดสอบโดยการแช่น้ำหรือเผาไฟ แม้จะมีลักษณะเหมือนพลาสติคก็ตาม แต่ต้องตรวจสอบด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ จากการสำรวจพบว่าสาหร่ายที่วางจำหน่ายตามแนวชายแดนมี 8 ชนิด ซึ่งจัดเก็บตัวอย่างของสินค้าทั้งหมด ส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบอย่างละเอียดว่าเป็นอันตรายหรือไม่ แต่ในระยะนี้ผู้ปริโภคควรงดบริโภคไปก่อน เพราะไม่ทราบว่ายี่ห้อใดเป็นอันตรายบ้าง หากจะรับประทานจริงควรเลือกที่มี ตรา อย.รับรอง จะลดความเสี่ยงในการบริโภค สำหรับสาหร่ายที่นำเข้าจากประเทศจีนเหล่านี้จะวางจำน่ายอยู่ตามแนวชายแดนเท่านั้น

    นพ.สุรินทร์ สุมนาพันธุ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เชียงราย กล่าวว่า เชียงรายมีพื้นที่เสี่ยงในการนำเข้า 3 จุด คือด่านพรมแดน อ.แม่สาย อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ เพราะมีรอยต่อแนวชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านเช่น สปป.ลาวและพม่า ที่เชื่อมต่อไปยังประเทศจีนซึ่งเป็นแหล่งผลิต เบื้องต้นยังไม่มีรายงานสาหร่ายที่มีพลาสติคปนเปื้อนนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย

    "สาหร่ายที่วางจำหน่ายส่วนใหญ่เป็นสาหร่ายสำเร็จรูปที่ผลิตจากไทยและมีตรา อย. รับรอง ส่วนที่เป็นพลาสติคน่าจะเป็นสาหร่ายแห้งที่ไม่มีบรรจุภัณฑ์ แต่เพื่อความไม่ประมาทได้ประสานทุกฝ่ายร่วมกันสอดส่องดูแล้ว ขณะที่ประชาชนผู้ปริโภคเองควรสังเกตให้ดี หากไม่มีตรา อย.รับรอง ก็ควรหลีกเลี่ยงการรับประทาน" นพ.สุรินทร์กล่าว

    นายอิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สาหร่ายอบ ชื่อดัง เปิดเผยว่า จากกระแสข่าวพบสาหร่ายปลอม ที่ระบุว่ามาจากประเทศจีนนั้น ขณะนี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทแต่อย่างใด ยังมียอดขายในอัตราปกติ และคาดว่าสิ้นปีจะสามารถทำยอดได้เติบโตตามเป้าที่ตั้งไว้ราว 30% เนื่องจากผู้บริโภคมีความเชื่อถือในตัวสินค้า ประกอบกับผลจากที่ช่วงก่อนหน้านี้มีกระแสเรื่องไข่ปลอมจากประเทศจีน ส่งผลให้ผู้บริโภคเลือกหาสินค้าที่เชื่อถือได้ จึงถือเป็นโอกาสในการทำตลาดของเถ้าแก่น้อย

    นายอิทธิพัทธ์กล่าวว่า หากกระแสสาหร่ายปลอมรุนแรงขึ้นอาจต้องทำประชาสัมพันธ์เพื่อทำความเข้าใจกับผู้บริโภค ทั้งนี้เถ้าแก่น้อยนำเข้าวัตถุดิบจากประเทศเกาหลีเป็นส่วนใหญ่ คิดเป็นสัดส่วน 90% และประเทศญี่ปุ่น 10% เดิมจะนำเข้าสาหร่ายจากประเทศจีน แต่ปัจจุบันลดการนำเข้าลงแล้ว เนื่องจากมีปัญหาสินค้าปลอมและไม่มีคุณภาพ




    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
    [​IMG]
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เตือนโรคร้าย หมัดหนูพาหะ รุนแรงถึงตาย

    หมัดหนู พาหะนำโรค ริกเก็ตเซีย โรคร้าย ช่วงหน้าฝน-หนาว


    [​IMG]

    [​IMG]

    หมัดหนู - หนู


    เตือนโรคร้าย หมัดหนูพาหะ รุนแรงถึงตาย (ไทยรัฐ)

    อธิบดีกรมการแพทย์เตือน หน้าฝน-หนาว ระวังโรค ริกเก็ตเซีย ระบาดหนักอาการรุนแรงถึงตายได้ ชี้มี หมัดหนู เป็นพาหะ เร่งทุกบ้านทำความสะอาด หวั่นคนไทยติดเชื้อ...

    นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า โรคติดเชื้อริกเก็ตเซียเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน ซึ่งมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ สครับไทฟัส โดยไรอ่อนเป็นพาหะนำโรค และเชื้อมิวรีนไทฟัส มีหมัดหนูเป็นพาหะนำโรค โดยมีสัตว์ฟันแทะเป็นแหล่งรังโรคโดยเฉพาะหนูเป็นส่วนใหญ่ มักจะระบาดมากในช่วงฤดูฝนจนถึงต้นฤดูหนาว และพบแทบทุกภาคของประเทศ ดังนั้นกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์พิษณุโลก จึงได้ทำการศึกษาความเสี่ยงของการเกิดโรคและการเฝ้าระวังโรคทางห้องปฏิบัติการ โดยการตรวจวินิจฉัยโรคติดเชื้อริกเก็ตเซียด้วยวิธี Indirect Immunofluorescence Assay (IFA) จากซีรั่มของผู้ป่วยที่ส่งมาจากโรงพยาบาลต่าง ๆ จำนวน 7 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร ตาก น่าน พิจิตร เพชรบูรณ์ พิษณุโลก และสุโขทัย ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2549 - พฤษภาคม 2552 จำนวน 318 ราย

    อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ผลการศึกษาพบผู้ติดเชื้อริกเก็ตเซีย 65 ราย คิดเป็นร้อยละ 20.44 แยกเป็นสครับไทฟัส 56 ราย มิวรีนไทฟัส 7 ราย และพบติดเชื้อร่วมกันทั้งสครับไทฟัสและมิวรีนไทฟัส 2 ราย โดยจะพบในผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก และพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง สำหรับอาการที่สำคัญ ได้แก่ ปวดศีรษะอย่างรุนแรงบริเวณขมับและหน้าผาก ตัวร้อนจัด มีไข้สูง 40-40.5 องศาเซลเซียส หนาวสั่น เพลีย ปวดเมื่อยตัว ปวดกระบอกตา มีอาการไอแห้งๆ ไต ตับ ม้ามโต และผู้ป่วยร้อยละ 30-40 จะพบแผลคล้ายบุหรี่จี้ (eschar) ที่บริเวณที่ถูกไรอ่อนกัด มีสีแดงคล้ำเป็นรอยบุ๋ม ไม่คัน ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของโรคนี้ โดยผู้ป่วยประมาณร้อยละ 20-50 อาจจะมีอาการแทรกซ้อน ได้แก่ การอักเสบที่ปอด สมอง ในรายที่อาการรุนแรง อาจทำให้หัวใจเต้นเร็วมาก ความดันโลหิตต่ำ อาจถึงขั้นช็อก เสียชีวิตได้

    นพ.มานิต กล่าวด้วยว่า แนวทางในการป้องกันไม่ให้เกิดโรคดังกล่าวนั้นประชาชนควรหมั่นดูแลและทำความสะอาดบ้านเรือนเพื่อควบคุมและ กำจัดหนู โดยเฉพาะนักเดินทางที่นิยมท่องเที่ยงธรรมชาติ หรือเด็กนักเรียนที่ทำกิจกรรมเข้าค่ายในป่า ควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงโดยเฉพาะบริเวณทุ่งหญ้าชายป่า หรือบริเวณที่แสงแดดส่องไม่ถึง ซึ่งเป็นพื้นที่อาศัยของสัตว์พาหะหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรทายากันแมลงกัด หรืออาบน้ำให้สะอาดหลังออกจากป่า พร้อมนำเสื้อผ้าที่สวมใส่มาซักให้สะอาดทันที ทั้งนี้หากพบผู้ป่วยที่มีอาการน่าสงสัยว่าจะเกิดโรค เช่น มีไข้ขึ้นสูงปวดศรีษะ หลังจากกลับจากบริเวณพื้นที่เสี่ยงประมาณ 2 สัปดาห์ ควรรีบปรึกษาแพทย์ และเล่าประวัติการเข้าไปสัมผัสแหล่ง ก่อโรคโดยทันที เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตรวจวินิจฉัยของแพทย์ซึ่งจะช่วยลดอัตราความเสี่ยง และอันตรายจากโรคได้





    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
    [​IMG]
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ปอดบวม-นิวโมคอคคัส คร่าเด็ก15 วินาทีต่อคน

    ˹ѧ��;������Ԫ�����ѹ : ˹ѧ��;�����س�Ҿ ����ͤس�Ҿ�ͧ������


    วันที่ 21 สิงหาคม ศ.พญ.ลูลู บราโว่ ประธานองค์กรพันธมิตรร่วมป้องกันโรคปอดบวมจากเชื้อนิวโมคอคคัส (ASAP) เปิดเผยระหว่างการประชุมระดมสมอง "วัคซีนแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก" (Asian Vaccine Conference) ที่เมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา ว่า การประชุมครั้งนี้ประเทศในกลุ่มเอเชียแปซิฟิกจะมีการลงนามในปฏิญญาร่วมกัน เพื่อหาแนวทางควบคุมอุบัติการณ์โรคปอดบวม และโรคติดเชื้อนิวโมคอคคัส เพราะจากสถิติทุกๆ 15 วินาที จะมีเด็กเล็กเสียชีวิตด้วยโลกปอดบวม 1 คน หรือคิดเป็นอัตราการเสียชีวิตกว่าปีละ 2 ล้านคนทั่วโลก หรือประมาณ 15 วินาทีต่อคน จากการศึกษาพบว่าร้อยละ 50 เกิดจากเชื้อนิวโมคอคคัส ซึ่งเป็นโรคติดเชื้อรุนแรงที่ก่อให้เกิดโรคติดเชื้ออื่นๆ เช่น โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคติดเชื้อในกระแสเลือด โรคไซนัสอักเสบ และหูน้ำหนวก ทั้งๆ ที่กลุ่มโรคติดเชื้อเหล่านี้มีวัคซีนป้องกัน แต่การได้รับวัคซีนป้องกันโรคกลับกลายเป็นเรื่องยาก แม้จะเป็นสิทธิทางสังคมอันชอบธรรมของเด็กทุกคนทั่วโลก

    ด้าน ศ.พญ.อุษา ทิสยากร กรรมการสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งโลก และเลขาธิการสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งเอเชีย กล่าวว่า การติดเชื้อที่ปอดอาจจะทำให้ระบบทางเดินหายใจล้มเหลวได้ จากการศึกษาพบว่า โรคปอดบวมเป็นโรคแทรกซ้อนที่สำคัญที่ทำให้อัตราการตายของเด็กเล็กทั่วโลกสูงขึ้น โดยเฉพาะการติดเชื้อซ้ำโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคไข้หวัด โรคหอบหืด เป็นต้น ทำให้อาการรุนแรงขึ้น และรักษาได้ยากขึ้น สูญเสียเวลาและงบประมาณในการรักษาเพิ่มมากขึ้น
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อยากสวยทานผักผลไม้ 7 ชนิด!
    :: INN online .- ʴ

    ผักผลไม้ 7 ชนิด เพื่อสุขภาพพลานามัยที่ดีของคุณสาวๆ
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD height=5></TD></TR>



    <!-- Show Image -->
    [​IMG]


    <!-- End Show Image -->

    </TBODY></TABLE>


    เพื่อสุขภาพพลานามัยที่ดีของคุณสาวๆ ขอแนะนำผักผลไม้ 7 ชนิด สำหรับคุณผู้หญิงที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า มีสารที่เป็นประโยชน์แก่หญิงทุกวัย ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งงดงาม และยังช่วยชะลอความชราได้อีกด้วย ดังนี้

    • ลูกพรุน (Prunes)
    ลูกพรุนเป็นแหล่งที่ดีของโปแตสเซียม เหล็กและไฟเบอร์ที่สำคัญพรุนช่วยทำให้ผิวพรรณมีเลือดฝาด ผู้หญิงเรา เมื่อผ่านช่วงสดใสของชีวิต คือวัยยี่สิบห้า ร่างกายก็จะเริ่มเสื่อมโทรม ไขมันเริ่มเข้าสะสมตามที่ต่างๆ มากมาย ใบหน้าที่เคยอวบอิ่มด้วยเลือดฝาดก็เริ่มหมองคล้ำ ผิวพรรณจะเป็นสีชมพู-ระเรื่อหรือซีดโทรม เกิดได้หลาย สาเหต

    เช่นผิวมีความหนามากขึ้นตามวัยจนมองไม่เห็น เลือดฝาด หรือเลือดไม่มีให้ฝาดคือเป็นโรคโลหิตจาง นั่นเอง พรุนเป็นแหล่งธาตุเหล็กที่ดี พรุนแห้งหนึ่งขีดมีธาตุเหล็ก 2.78มิลลิกรัมและมีวิตามิน ซี ซึ่งช่วยในการ ดูดซึมธาตุต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นหากคุณผู้หญิงอยากมีร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์ริมฝีปากแดงสดเหมือน สตรอเบอรี่ แก้มแดงใสเหมือนลูกเชอรี่โดยไม่ต้องใช้เครื่องสำอางดูเป็นคนที่มีสุขภาพดีสมบูรณ์ด้วยเลือดฝาด ลองรับประทานลูกพรุนสดๆ หรือลูกพลัมดูสิค่ะไม่เลวเลยทีเดียว

    ถั่ว
    ผู้หญิงทุกคนอยากมีหุ่นสวยเพรียว ไม่มีไขมันส่วนเกินสะสม “ถั่วช่วยคุณได้ค่ะ” ถั่วเป็นอาหารที่อุดมไปด้วย โปรตีน เหล็ก วิตามินบี นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์ยังค้นพบว่าเมื่อคุณรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์ ชนิดที่ ละลายน้ำได้ (ซึ่งถั่วมีอยู่แล้วมากมาย) ไฟเบอร์จะเคลือบผิวกระเพาะทำให้รู้สึกอิ่มเร็วและอิ่ม-นานความอยาก อาหารจะลดลง ซึ่งแน่นอนว่ามีประโยชน์กับคุณสุภาพสตรีที่ต้องการลดความอ้วนเป็นอย่างมาก

    • บรอคโคลี่
    เป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคุณสุภาพสตรีทั้งหลายเพราะบรอคโคลี่เป็นแหล่งซีลีเนียมตาม ธรรมชาติซึ่งเจ้าตัวซีลีเนียมนี้แหละค่ะ ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ (ซีลี-เนียมจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง จึงทำให้ผิวดูอ่อนวัยนุ่มนิ่ม มีน้ำมีนวลเหมือนหนุ่มสาว) แถมยังช่วยลบริ้วรอยเหี่ยวย่นอีกด้วย

    • กล้วยไข่
    กล้วยทุกชนิดดีต่อสุขภาพแต่กล้วยไข่ดีเป็นพิเศษ ในเรื่องของสารต้านอนุมูลอิสระที่เรารู้จักกันดี คือ เบต้าแคโรทีนโดยธรรมชาติ เมื่อเราอายุพ้นยี่สิบสองไปแล้วความเจริญเติบโตของร่างกายจะเริ่มหยุดชะงัก ความเสื่อมในส่วนต่างๆของร่างกายก็จะเริ่มมาเยือนอย่างช้าๆ ขณะนั้นเองมีสองสิ่งที่สำคัญเกิดขี้นในร่างกาย ของเรา ซึ่งก็คือสิ่งแรก เซลล์ในร่างกายทุกเซลล์จะผลิตอนุมูลอิสระมากขึ้นสิ่งที่สองความสามารถในการ ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายจะลดลงเรื่อยๆพร้อมกันนั้นความสามารถในการจำกัดอนุมูลอิสระ (Detoxification) ก็ลดลงอย่างน่าตกใจเช่นกันดังนั้น กลยุทธ์ที่คุณจะสู้กับความแก่ด้วยตนเองก็คือคุณต้อง รับประทานอาหารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระให้มากซึ่งสารนี้เรารู้จักในชื่อที่ เรียกว่า แอนตี้ออกซิแดนท์ (Antioxidants) ซึ่งในกล้วยไข่ 1 ขีด มีสารเบต้าแคโรทีนถึง 492 มิลลิกรัม

    • ฝรั่ง
    คุณผู้หญิงทั้งหลายทราบหรือไม่คะว่าฝรั่ง 1 ขีดมีวิตามินซีสูงถึง180 มิลลิกรัม วิตามินซีมีบทบาทในการสร้าง คอลลาเจนที่ทำให้ผิวพรรณบนใบหน้าของคุณเต่งตึงไม่แก่ก่อนวัยวิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเจ้าตัว
    สารต้านอนุมูลอิสระนี้เองที่ทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินเสื่อมสภาพผิวหนังแห้งเหี่ยว เกิดริ้วรอยตีนกาวิตามินซี มีความสำคัญต่อการสร้าง และบำรุงเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน(ConnectiveTissue) เซลล์นับล้านๆตัวเกาะเกี่ยวกัน เป็นร่างกายได้ด้วยเนื้อเยื่อที่เรียกว่า คอลลาเจนมันคือคอลลาเจนตัวเดียวกันกับคอลลาเจนที่ทำให้ผิวพรรณบน ใบหน้าของคุณผู้หญิงทั้งหลายเต่งตึงนั่นเอง และเพราะฝรั่งอุดมไปด้วยวิตามินซีนั่นเอง คุณๆ ทั้งหลายที่อยาก คงความเป็นหนุ่มเป็นสาวให้แก่ผิวสวยไว้นานๆน่าจะลองหันมารับประทานฝรั่งเป็นประจำนะคะ

    • แอปเปิ้ล
    มีสารสำคัญ คือ เบต้าแคโรทีน วิตามินซีและเส้นใยไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ ที่ชื่อ “เพคติน” แต่ที่น่าสนใจสำคัญ คุณผู้หญิงทั้งหลายคือ เจ้าตัว “เพคติน” นี้มีคุณสมบัติช่วยลดความอยากอาหาร ลดน้ำหนักและลด โคเลสเตอรอล หากคุณหิวจนตาลาย แต่ยังไม่ถึงเวลาอาหารแอปเปิ้ลสักลูกจะช่วยลดความหิวได้เพราะ
    แอปเปิ้ลมีแป้งและน้ำตาลในรูปของน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวถึง 75 %ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมน้ำตาลพิเศษ ชนิดนี้ได้รวดเร็วและนำไปใช้ประโยชน์ได้ ในเวลาไม่เกิน 10 นาที ดังนั้นความอยากอาหารจึงลดลงทำให้คุณ
    ไม่รู้สึกหงุดหงิด หรืออ่อนเพลีย แอปเปิ้ล 2-3 ผลต่อวันช่วยลดปริมาณโคเลสเตอรอลในกระแสเลือดได้ เพราะแอปเปิ้ลมีเพคตินซึ่งเป็นไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ ผลจากการวิจัยชี้ว่าเมื่อกรดในทางเดินอาหารย่อย สลายไขมันและแยกโคเลสเตอรอลออกมาเสร็จสิ้นแล้ว เพคตินจากแอปเปิ้ลจะไปคอยดักจับโคเลสเตอรอล
    เหล่านั้นและพาไปทิ้งก่อนที่จะถูกดูดกลับเข้าร่างกาย

    • ส้ม
    แหล่งวิตามิน เกลือแร่ และเส้นใยธรรม-ชาติการรับประทานส้มโดยไม่คายกากจะช่วยคุมน้ำหนักได้อีกวิธีหนึ่ง เพราะจะทำให้รู้สึกอิ่มท้องเร็วเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักได้อย่างดีทีเดียวค่ะนอกจากนี้ หากรู้สึกหิวก่อนเวลา แทนที่จะนึกถึงเค้กก้อนโต หรือโดนัทชิ้นใหญ่ให้ลองหยิบส้มสักลูกเข้าปากแทนจะได้ ประโยชน์มากกว่าในราคาที่ถูกกว่าด้วยนะคะ

    ผักและผลไม้ทั้ง 7 ชนิดที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นเพียงแนวทางเบื้องต้นสำหรับคุณๆผู้หญิงทุกท่านที่ต้องการ รักษาสุขภาพ นอกจากผักผลไม้ทั้งเจ็ดนี้แล้วผักและผลไม้อื่นๆ ก็มีคุณประโยชน์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันสถาบัน โภชนาการแห่งชาติอเมริกาจึงได้แนะนำขนาด-ในการรับประทานผักผลไม้ในแต่ละวันว่า ควรจะรับประทาน รวมกันให้ได้วันละครึ่งกิโล หรือ 5 ขีดจะช่วยให้คุณๆทั้งหลายมีสุขภาพแข็งแรง แจ่มใส ปราศจากโรคภัย ไข้เจ็บมารบกวนค่ะ

    ที่มา หนังสือเภสัชโภชนา โดย ภก. สรจักร ศิริบริรักษ์
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    8วีธีแก้โรคนอนไม่หลับฉมัง!
    :: INN online .- ʴ�ѹ�շ���բ��� ::


    เหมือนตกนรก!เวลานอนไม่หลับ เพราะเครียด หรือสาเหตุอื่น มาดูเทคนิคให้นอนหลับอย่างสบายใจ....



    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD height=5></TD></TR>


    <!-- Show Image -->
    [​IMG]



    <!-- End Show Image -->


    </TBODY></TABLE>


    การนอนหลับเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด เมื่อถึงเวลาเข้าหลับนอนยามหัวถึงหมอนเมื่อไรแล้ว หลับทันทีเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา น่าอิจฉาคนที่นอนหลับได้อย่างง่ายดายเมื่อเข้านอน บางคนการนอนให้หลับเป็นสิ่งที่แสนน่าเบื่อ ทรมานทุกทีเมื่อล้มตัวลงนอน แม้จะนอนบนที่นอนนุ่ม ๆ สบาย ๆ แต่ก็ยังพลิกตัวแล้วพลิกตัวอีกก็ไม่หลับสักที บางคนอาจจะใช้หลาย ๆวิธีแบบโบราณอย่างเช่นนับหนึ่งถึงร้อย หรือนับแกะจนแกะแทบจะหมดฟาร์มก็ยังนอนไม่หลับ สุดท้ายบางคนต้องพึ่งยานอนหลับจากร้านค้า ยานอนหลับอาจจะทำให้หลับได้จริง แต่นั่นไม่ใช่เป็นวิธีที่ดีที่สุดมันส่งผลบั่นทอนสุขภาพอีกด้วย มีวิธีที่จะทำให้นอนหลับง่าย ๆ ดังนี้​

    1. เข้านอนเป็นเวลา การเข้านอนและตื่นนอนเป็นเวลาเดียวกันทุกวันเป็นประจำ จะเป็นการจัดระบบแบบแผนการนอนหลับที่ดีให้แก่ร่างกาย ช่วยให้ร่างกายได้หลับพักผ่อนเต็มที่ในเวลาที่ต้องการ​

    2. เข้านอนเมื่อรู้สึกง่วง เมื่อรู้สึกง่วงนอนควรหยุดทำทุกอย่าง แล้วเข้านอนพักผ่อน แต่ถ้าเมื่อเข้านอนแล้วยังไม่หลับ ควรหากิจกรรมเบา ๆทำ เช่น อ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์เมื่อรู้สึกง่วงแล้วค่อยเข้านอน จะช่วยให้หลับสบายได้ง่ายขึ้น ​

    3. เลือกเสียงเพลงขับกล่อม การสร้างบรรยากาศที่ดีเลือกด้วยการเสียงเพลงที่ฟังแล้วจรรโลงใจทำให้จิตสงบผ่อนคลายบรรเลงเบา ๆ ขณะเข้านอน เสียงเพลงนั้นจะขับกล่อมให้คุณเคลิ้มหลับได้ไม่ยาก และยังช่วยเร่งการนอนหลับให้เร็วขึ้น​

    4. หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และคาเฟอีน เพราะสิ่งเหล่านี้มันจะไปรบกวนระบบการนอนปรกติของคุณสามารถปลุกให้ตื่นกลางดึกได้ สิ่งที่ควรทำหลังรับประทานอาหารมื้อเที่ยงคือ งดมันทุกชนิด รวมทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเย็น​

    5. ปรับม่านรับแสง การจัดสิ่งแวดล้อมก่อนเข้านอนมีผลต่อการหลับอย่างหนึ่งได้เช่นกันโดยทั่วไปแสงสว่างจะปลุกให้ตื่นโดยอัตโนมัติ ถ้าคุณเป็นคนทำงานกลางคืนต้องนอนกลางวันควรปรับม่านรับแสงให้แสงสว่างเล็ดลอดเจ้าห้องนอนน้อยที่สุด จะช่วยให้คุณนอนหลับได้สบายขึ้น​

    6. ดื่มเครื่องดื่มอุ่น ๆ ก่อนนอน ตามหลักกายภาพอธิบายว่าเครื่องดื่มอุ่น ๆ จะสามารถเข้าไปปรับอุณหภูมิในร่างกายให้สูงขึ้น ทำให้เกิดอาการง่วงนอนได้อย่างรวดเร็ว หากคุณนอนไม่หลับจริง ๆ นมอุ่นๆ หรือเครื่องดื่มอุ่น ๆ ที่ไม่ใช่กาแฟ สักแก้ว อาจจะช่วยให้หลับสบายขึ้น​

    7. ตรวจสอบยาที่รับประทานก่อนนอน ยาหลายชนิดเป็นสาเหตุสำคัญของการนอนไม่หลับ จึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ทุกครั้งเมื่อคุณได้รับยาที่ต้องรับประทานก่อนนอน​

    8. อย่าซื้อยานอนหลับมารับประทานเอง แม้ว่ายานอนหลับจะช่วยให้คุณหลับได้จริง แต่มันส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพในระยะยาว ยานอนหลับมีฤทธิ์เป็นสารเสพติดอย่างอ่อน และทำให้ง่วงเหงาหาวนอนในระหว่างวันด้วย ทางที่ดีแทนที่คุณจะใช้ยานอนหลับ คุณควรหากิจกรรมทำในช่วงเย็น เช่น ออกกำลังกายให้ร่างกายได้ใช้แรงบ้าง น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า​

    การนอนไม่หลับไม่ได้เกิดกับทุกคน แต่หลายคนที่ต้องเผชิญกับอาการนอนไม่หลับที่แสนจะทรมาน ย่อมไม่ปรารถนาที่จะเจอ เพราะเมื่อนอนไม่หลับ ตื่นขึ้นมาร่างกายอ่อนเพลีย รู้สึกเฉื่อยชา ไม่อยากจะทำอะไร อารมณ์ก็พลอยหงุดหงิดไปด้วย บั่นทอนสุขภาพกายและสุขภาพจิต คิดอะไรสมองก็ไม่ปลอดโปร่ง วิธีง่าย ๆ 8 วิธี ดังกล่าวมาแล้ว จะช่วยให้คุณนอนหลับพักผ่อนฝันหวาน การนอนหลับจะช่วยให้ร่างกายที่ทำงานล้ามาตลอดทั้งวันได้พักผ่อน พร้อมทั้งจิตใจและสมองที่คุณใช้ความคิดมาทั้งวันก็จะได้พักด้วย เรียกได้ว่านอนหลับฝันหวานสบาย ๆ ไม่ต้องคิดอะไร ตื่นขึ้นมาก็จะพบกับความสดชื่น สมองปลอดโปร่ง อารมณ์ดี ร่างกายพร้อมจะทำงาน ประสิทธิภาพในการทำงานก็ดีตามมา ทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับคนอื่นก็เป็นไปอย่างมีความสุข​

    ที่มา โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์​
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    รู้ไหม...ทำบุญแบบไหนได้บุญอย่างไร?

    :: INN online .- ʴ


    อานิสงส์จากการทำบุญไม่เหมือนกัน

    การทำบุญด้วยการถวายที่ดิน​

    ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายที่ดินแด่พระสงฆ์ นับว่าเป็นการสร้างบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ จะได้เป็นใหญ่เป็นโต เป็นผู้ปกครองแผ่นดินหรือบริหารประเทศ
    ความที่เป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่จึงมีคนพากันยกย่องสรรเสริญจำนวนมาก ในเรื่องของความมั่นคงทางกายและใจ ไม่มีปัญหาอะไรเลยเพราะเป็นผู้ที่หนักแน่น ทำการใดก็เจริญและได้รับการยอมรับอยู่ตลอด จะมีความสุขทั้งชีวิตเลยทีเดียว​

    การทำบุญด้วยการทำความสะอาดเจดีย์​

    ผู้ที่ทำบุญด้วยการทำความสะอาดเจดีย์ นับว่าได้รับอานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน เพราะจะทำให้ชีวิตมีแต่ความสงบราบรื่น คิดจะทำสิ่งใดก็ไร้อุปสรรค
    หากตายไปแล้วก็จะได้ไปจุติในแดนสวรรค์ มีผู้คนและบริวารห้อมล้อมและปรนนิบัติตลอด นับว่าจะได้รับอานิสงส์นี้ทุกชาติๆ ไปเลยทีเดียว
    จิตใจนั้นก็ค่อนข้างดีงาม พ้นจากกิเลส ใครๆ ก็อยากอยู่ใกล้เสมอ เพราะมีแต่ความเมตตานั่นเอง​

    การทำบุญด้วยการถวายไม้เท้าค้ำยัน​

    ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายไม้เท้าค้ำยันแด่พระสงฆ์ ผลบุญนี้จะทำให้ได้รับความสบายใจในการครองชีวิต ไม่ต้องพบเจอกับปัญหาอุปสรรค จะมีคนคอยปกป้องรักษาให้แคล้วคลาดจากภยันตรายต่างๆ
    จะมีลูกก็จะพึ่งพิงได้ ลูกจะดี ไม่นำเรื่องหนักใจมาให้
    จะเป็นคนที่มีชีวิตที่มั่นคง เหมือนไม้เท้าคอยค้ำยันไว้ กล้าหาญในการทำกิจต่างๆ ทำให้คนรอบข้างที่คิดร้ายหวาดกลัวและพ่ายแพ้ไปในที่สุด
    โดยส่วนใหญ่แล้วผลบุญนี้จะส่งผลให้เป็นคนดวงแข็ง​

    การทำบุญด้วยการไหว้พระพุทธรูปด้วยจิตศรัทธา​

    ผู้ที่ทำบุญด้วยการไหว้พระพุทธรูปด้วยจิตที่ศรัทธานั้นจะได้รับอานิสงส์ คือ อานิสงส์นี้จะไปเสริมดวงให้เป็นที่เคารพนับถือ
    ชีวิตครอบครัวก็จะสุขสบาย เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงและน่าสรรเสริญ
    ปราศจากศัตรูที่คิดร้าย คนคิดร้ายก็จะสำนึกในความดีต่างๆ แล้วพ่ายแพ้ไป
    เส้นทางชีวิตมีแต่ความสุข สงบ พบเจอแต่เรื่องดีๆ ในชีวิต จะมีสติดี ทำให้ประสบความสำเร็จในเรื่องที่หวังได้ง่าย​

    การทำบุญด้วยดอกไม้ ธูปเทียน​

    ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายดอกไม้ ธูปเทียน จะได้รับอานิสงส์ผลบุญในส่วนของการมีสติปัญญาที่ฉลาดปราดเปรื่อง รู้จักแก้ไขปัญหาจัดการเรื่องต่างๆ กับชีวิตของตนได้เป็นอย่างดี หากคิดจะวางแผนก็เป็นนักวางแผนตัวสำคัญ
    ในเรื่องของรูปร่างหน้าตาก็สง่างาม เป็นหญิงอย่างกุลสตรี เป็นชายก็สมชายชาตรี ใครเห็นก็รักใคร่ชอบพอกันทุกคน
    ส่วนใหญ่แล้วอานิสงส์นี้จะผลักดันให้ผู้ที่ทำบุญพบกับความสำเร็จ ชื่อเสียงโด่งดัง จนเป็นที่ยอมรับของคนทุกเพศทุกวัย นับเป็นบุญกุศลที่สูงส่งยิ่ง​

    การทำบุญด้วยกรรไกรตัดเล็บ​

    ผู้ที่ทำบุญด้วยกรรไกรตัดเล็บนั้น จะได้รับผลบุญส่งให้ชีวิตของคุณพบกับความบริสุทธิ์ ปราศจากความเศร้าหมองใดๆ อันตรายต่างๆ ที่จะเข้าใกล้ก็จะไม่กล้ำกราย ชีวิตจะมีแต่ความสุข อานิสงส์นี้ยังส่งผลถึงครอบครัวให้ได้รับความสุขมากขึ้นด้วย
    นอกจากนี้ยังจะเป็นผลดีในส่วนของการได้รับความช่วยเหลือเกื้อกูลจากผู้ใหญ่ที่เขาเอ็นดูคุณเป็นอย่างดี ในยามที่ตกต่ำ ไม่นานจะกลับมามีชีวิตสดใสได้ทุกครั้ง นับว่าเป็นบุคคลที่โชคดีมากคนหนึ่ง​

    การทำบุญด้วยการถวายมีดโกน​

    ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายมีดโกนแด่พระภิกษุสงฆ์ อานิสงส์ที่ได้รับจะส่งผลต่อการดำรงชีวิต เพราะจะเป็นผู้ที่มีสมาธิ ทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างละเอียดรอบคอบ
    จะเป็นผู้ที่ขยันขันแข็ง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขทั้งหลาย ทำให้ประสบความสำเร็จในบั้นปลาย
    สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยได้ง่ายๆ
    มีจิตใจที่ผ่องแผ้ว สุขทั้งกายและใจ อุปสรรคที่ต้องเผชิญก็มลายหาย​

    การทำบุญด้วยการถวายตะเกียง​

    ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายตะเกียงแด่พระสงฆ์จะได้รับอานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่ จะเป็นผู้ที่มีชีวิตที่ราบรื่น เหมือนมีไฟส่องทางให้ ทำให้ไม่พบเจอปัญหาหรืออุปสรรคที่ยากจะผ่านไปได้
    การเรียนหรือการทำงานก็จะเป็นเลิศ เพราะสติปัญญาดีมาก หัวไว และแก้ปัญหาต่างๆ ได้ดี แม้ศึกษาธรรมก็จะรู้ได้อย่างแตกฉาน
    เป็นผู้ที่วางตัวดี คนรอบข้างเคารพและเชื่อถือในคำพูด
    ทำดีจะเห็นผลเร็ว มีชีวิตที่รุ่งโรจน์ไม่มีตก​

    ทำบุญด้วยการถวายตู้ใส่พระไตรปิฎก​

    ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายตู้ใส่พระไตรปิฎก จะได้รับอานิสงส์ผลบุญอย่างมากมายในเรื่องของความพร้อมด้านรูปโฉม และความเจริญทางด้านสติปัญญา จะเป็นผู้ที่มีไหวพริบ ชาญฉลาด สามารถหาทางออกที่ดีให้กับชีวิตได้ตลอด
    ความงดงามทางรูปร่างหน้าตา ทำให้เป็นคนที่มีเสน่ห์ เป็นที่รักและชื่นชมของคนทั่วไป นอกจากนี้แล้วการทำบุญด้วยวิธีนี้ จะช่วยส่งเสริมให้ชีวิตของคุณไม่โดดเดี่ยว จะมีคนมาอยู่ใกล้ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนฝูงหรือว่าญาติ ทั้งในยามทุกข์และสุข จะไม่มีวันตกต่ำอย่างแน่นอน
    นับว่าการทำบุญด้วยวิธีนี้ เป็นกุศลที่ยิ่งใหญ่อย่างหนึ่งทีเดียว​

    การทำบุญด้วยการสร้างพระพุทธรูป​

    ผู้ที่ทำบุญด้วยการสร้างพระพุทธรูป ให้เป็นที่สักการบูชาจะเป็นผู้ที่ได้รับอานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะไม่ว่าจะเกิดในชาติใดก็ตาม จะเป็นผู้ที่พร้อมด้วยทรัพย์ สติปัญญา และรูปโฉม
    ทำสิ่งใดก็ตามจะมีบริวาร ผู้คอยช่วยเหลือ และสนับสนุนเป็นอย่างดียิ่ง ในด้านของจิตใจนั้น จะเป็นผู้ที่มีจิตใจดีงาม ยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนเป็นอย่างดี หากเป็นผู้นำในเรื่องใดก็จะสำเร็จและพาลูกน้องพบกับความสุขได้เสมอ
    การวางแผนก็จะเป็นนักคิดที่แยบคาย รู้ทันเหตุการณ์ต่างๆ เป็นอย่างดี อานิสงส์นี้จะทำให้คุณใช้ชีวิตสุขสบายอย่างมาก​

    การทำบุญด้วยการสร้างกุฏิ​

    ผู้ที่ทำบุญด้วยการสร้างกุฏิถวายแด่พระสงฆ์ จะได้รับอานิสงส์กลับคืนมาในเรื่องของความเป็นอยู่ จะมีชีวิตที่สุขสบายไม่ลำบาก ครอบครัวก็จะรักใคร่ปรองดองกัน มีความมั่นคงในชีวิต
    ด้านร่างกาย ก็จะเป็นผู้ที่มีความรู้ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเรียนทางด้านใดก็จะเรียนรู้ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
    บุคคลที่คิดร้ายก็จะต้องแพ้ภัยตนเอง จะปลอดภัยจากสัตว์ร้ายและอาวุธต่างๆ มีอายุยืนยาว​

    การทำบุญด้วยการบูรณะพระพุทธรูป​

    ผู้ที่ทำบุญด้วยการบูรณะพระพุทธรูปแด่พระสงฆ์ จะได้รับอานิสงส์อันแรงกล้า สุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย ร่างกายสมบูรณ์ครบอาการ 32 ผิวพรรณงามเปล่งปลั่ง ไม่แก่เร็ว
    ความเป็นอยู่ดี มั่งคั่ง ทำมาค้าขึ้น มักจะได้ลาภลอยอยู่บ่อยๆ
    ไปไหนก็มักจะเป็นที่ต้องตาต้องใจของผู้พบเห็น ใครเห็นใครก็รัก พูดจาอะไรก็จะเป็นที่เชื่อถือ เป็นที่นับหน้าถือตา
    ชาติหน้าก็จะเป็นผู้ที่สวยทั้งรูปกายและรูปสมบัติ​

    การทำบุญด้วยการถวายภาชนะต่างๆ​

    ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายภาชนะต่างๆ แด่พระภิกษุสงฆ์ บุคคลผู้นั้นจะได้รับอานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่ ชีวิตพรั่งพร้อมไปด้วยบริวาร มีแต่คนอาสาที่จะช่วยเหลือ หากประสบปัญหาใดก็ตาม บริวารจะเป็นที่รับฟังและเป็นที่ปรึกษาที่ดีอย่างยิ่ง
    ในการติดต่อ เจรจา จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะเป็นผู้ที่มีทักษะในการพูดเป็นเลิศ
    เรียนด้านใดก็มักจะได้ดีกว่าผู้อื่น หัวไว และมีพรสวรรค์ในทุกๆ ด้าน เมื่อมุ่งไปทางใดแล้วก็จะทำได้ดี
    ยามแก่เฒ่าก็จะมีคนดูแล ชีวิตไม่ขัดสน​

    การทำบุญด้วยการสร้างสะพาน​

    ผู้ที่ทำบุญด้วยการสร้างสะพาน จะได้รับอานิสงส์ในผลบุญนั้นอย่างสูงส่ง คือในยามยาก็มีผู้เข้ามาช่วยเหลือ จะมีแต่คนหยิบยื่นน้ำใจให้อยู่เสมอ เป็นที่รักของคนรอบข้าง
    การงานก็จะมีความมั่นคง ถึงเริ่มกระทำสิ่งใดไม่นาน ก็จะมีผู้ใหญ่เห็นความตั้งใจ และหยิบยื่นตำแหน่งหน้าที่ที่สูงขึ้นให้
    ชีวิตครอบครัวก็เหมือนกับสะพาน ซึ่งแข็งแกร่ง มั่นคง อานิสงส์นี้ส่งผลให้เห็นทางสว่างทุกครั้งที่มืดมนเหมือนมีคนมาชี้ทางให้​

    การทำบุญด้วยการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ​

    ผู้ที่ทำบุญด้วยการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ จะเป็นผู้ที่ได้รับอานิสงส์อย่างแรงกล้า การบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ถือเป็นการบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อานิสงส์ผลบุญดังกล่าวจะส่งผลให้ผู้ที่ทำบุญด้วยวิธีนี้มีอำนาจ บุญวาสนามีสูง ทำการงานก็สำเร็จเจริญก้าวหน้าอย่างไร้อุปสรรค
    ชีวิตของคุณจะมีชื่อเสียง มีผู้คนยอมรับนับถือ ทำอะไรก็ตามจะมีคนสนับสนุนส่งเสริมเป็นอย่างดี หากชีวิตมีเคราะห์ ก็จะผ่านพ้นและกลับมาพบกับความสำเร็จได้อีกครั้ง ชีวิตทั้งโลกนี้และโลกหน้าก็จะพบแต่ความสุขสดชื่นเสมอ​

    การทำบุญด้วยการถวายเชิงรองก้นบาตร​

    ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายเชิงรองก้นบาตร จะได้รับอานิสงส์ในเรื่องของการมีคนอุปถัมภ์เกื้อหนุน ไม่ว่าจะเดินทางไปที่แห่งใดก็จะมีคนคอยแนะนำ ยามใดที่พลาดพลั้งก็ไม่มีวันที่อยู่โดดเดี่ยว เพื่อนและญาติมิตรจะอยู่ร่วมกันอย่างอบอุ่น
    คนรอบข้างจะเป็นคนที่ไว้ใจได้ เขาจะมอบแต่ความจริงใจให้และจะช่วยแบ่งเบาภาระของคุณได้เป็นอย่างดี
    นอกจากอานิสงส์ของการอุปถัมภ์แล้ว จะส่งผลให้ผู้ทำบุญจิตใจสงบ จะทำสิ่งใดก็คิดออกและเกิดความผิดพลาดน้อย​

    การทำบุญด้วยการสร้างศาลาโรงฉัน​

    ผู้ที่มีจิตศรัทธาทำบุญด้วยการสร้างศาลาโรงฉันถวายพระสงฆ์นั้น จะได้รับอานิสงส์ผลบุญทั้งชาตินี้และชาติหน้า คุณจะเป็นผู้พรั่งพร้อมสมบูรณ์ด้วยเครื่องอุปโภค บริโภคครบครัน ครั้นเกิดในชาติภพหน้าก็จะเกิดในตระกูลที่มั่งคั่ง ไม่มีวันที่จะตกต่ำ
    สุขภาพร่างกายจะแข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน จิตใจก็จะสมบูรณ์ ไม่มีเรื่องเดือดร้อนกายและใจ เมื่อร่างกายและจิตใจพร้อมแล้ว อายุของคุณก็จะยืนยาว อยู่เป็นหัวหน้าครอบครัวจนประสบความสำเร็จสูงสุดได้อย่างง่ายดาย
    ชีวิตของผู้ที่ทำบุญด้วยวิธีนี้นั้น จะคิดอ่านทำสิ่งใดก็ไม่มีอุปสรรคเลย ซึ่งนับเป็นอานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่อย่างยิ่ง​

    การทำบุญด้วยรัดประคด​

    ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายรัดประคดแด่พระสงฆ์ จะเป็นผู้ที่ได้รับอานิสงส์ในเรื่องของความมั่นคงทั้งทางจิตใจ ที่ไม่หลงในทางผิดและร่างกายที่พร้อมด้วยฐานะที่เจริญรุ่งเรือง
    จะเป็นผู้ที่มีความน่าเชื่อถือ คำพูดมีความศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนพร้อมที่จะยอมรับคำแนะนำต่างๆ นอกจากนี้จะมีความสมบูรณ์ในเรื่องของญาติมิตร และบริวารที่เป็นคนดี และอยู่กันด้วยความซื่อสัตย์และจริงใจต่อกัน
    ในเรื่องของสติปัญญา จะเป็นผู้ที่มีสมาธิดีมาก และไหวพริบปฏิภาณเหนือผู้อื่น อนาคตจะได้เป็นใหญ่เป็นโต มั่งคั่งด้วยเกียรติและศักดิ์ศรี​


    การทำบุญด้วยการสนับสนุนศึกษาพระธรรม​

    ผู้ที่ทำบุญด้วยการสนับสนุนศึกษาพระธรรม จะได้รับอานิสงส์อันยิ่งใหญ่ ส่งเสริมให้การศึกษาหาความรู้ไร้อุปสรรค ได้รับการสนับสนุนจากคนรอบข้างในทุกๆ ทาง และจะประสบความสำเร็จอย่างมากหากมีความตั้งใจจริง
    เป็นคนที่ทำความดีขึ้น และเห็นผลทันตา คนรอบข้างไม่กล้าคิดร้าย
    อานิสงส์นี้จะส่งผลให้สุขภาพแข็งแรง ไม่ป่วยเป็นโรคร้าย มีชีวิตยามแก่ที่สุขสบาย เพราะจะมีบุตรหลานบริวารที่รักใคร่รายล้อมและไม่เจอกับปัญหาให้ต้องวิตก​


    การทำบุญด้วยการปิดทององค์พระ​

    ผู้ที่ทำบุญด้วยการปิดทององค์พระ จะเป็นผู้ที่ได้รับอานิสงส์ผลบุญทางด้านทรัพย์ ถือได้ว่าจะมีความมั่งคั่ง รวยทรัพย์ หยิบจับอะไรก็ทำให้เป็นเงินเป็นทองได้อย่างง่ายดาย
    อานิสงส์นี้จะทำให้เป็นที่ยกย่องของบุคคลรอบข้าง เจ้านายก็รักใคร่ชื่นชอบ ทำอะไรจะดูดีไปทุกๆ ด้านเหมือนแสงทองอันรุ่งโรจน์
    จะมีรูปงาม สวยสะดุดตา เป็นที่น่านับถือและรักใคร่ ดูมีสง่าราศี
    ในชาติหน้าก็จะเป็นใหญ่เป็นโต ไม่พบเจอผู้ที่คิดร้ายด้วย​


    การทำบุญด้วยการถวายบาตร​

    ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายบาตรแด่พระสงฆ์ จะได้รับอานิสงส์อันแรงกล้า กล่าวคือความเป็นอยู่จะมั่งคั่ง มีชีวิตสมบูรณ์พูนสุข ปรารถนาสิ่งใดก็จะได้โดยไม่ต้องลงแรงมาก
    ยามที่พบกับอุปสรรค ก็จะพบกับทางแก้ หรือมีที่พึ่งเข้ามาอยู่เสมอ อันตรายไม่มากล้ำกราย
    คิดทำสิ่งใดมีความหนักแน่น และมีความพยายามมากทำให้การนั้นๆ ส่งผลในทุกครา ไม่ค่อยพบกับความผิดหวังเท่าใด ตัดสินใจสิ่งใดจะมีแต่คนให้คำปรึกษาที่ดีอยู่เสมอ​


    ทำบุญด้วยการถวายผ้าปูลาด​

    ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายผ้าปูลาดแด่พระสงฆ์ ผู้นั้นก็จะได้รับอานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่ ทั้งลาภยศและชื่อเสียง ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งหรือฐานะใดก็จะเป็นที่นับหน้าถือตา มีบารมีเป็นที่ยำเกรงของบริวารและคนรอบข้าง
    มักเป็นที่พึ่งให้กับผู้อื่นได้ เพราะจะเป็นคนที่มีพื้นฐานความคิดอ่านดี และมีความรอบคอบ
    ผู้ที่ได้รับอานิสงส์นี้จะไม่ตกต่ำ แม้เกิดมาอย่างไม่มีทรัพย์สมบัติ ก็จะสร้างขึ้นได้เองไม่ยากนัก​


    การทำบุญด้วยเข็มเย็บผ้า​

    ผู้ที่ทำบุญด้วยเข็มเย็บผ้า จะได้รับอานิสงส์ผลบุญส่งให้คุณเป็นผู้ที่มีปัญญาเฉียบแหลม คิดจะทำการใดก็สัมฤทธิ์ผลเป็นอย่างดี
    แม้ในยามเกิดอุปสรรคก็จะมีผู้ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ประกอบกับปัญญาที่เหนือผู้อื่น จึงสามารถผ่านพ้นอุปสรรคได้อย่างง่ายดาย ใครก็ตามที่คิดจะทำร้ายจะได้รับผลกรรมอันเจ็บปวด แต่ด้วยความที่เป็นคนมีจิตใจดี จึงมักจะรู้จักให้อภัย และได้มิตรเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา​


    การทำบุญด้วยสายโยก​

    ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายสายโยกแด่พระสงฆ์ จะได้รับอานิสงส์ผลบุญในเรื่องของการเป็นผู้มีสติตั้งมั่นไม่หวั่นไหวไปกับสิ่งต่างๆ รอบตัว ทำสิ่งใดก็ตามจะไม่ประมาท แล้วจะรู้จักพิจารณาไตร่ตรองอย่างละเอียดถี่ถ้วน จึงเป็นไปได้ยากที่จะเกิดการผิดพลาด
    นอกจากนี้ยังได้รับการรักใคร่เอ็นดูจากญาติมิตรทั้งหลายอย่างจริงใจ และสามารถพึ่งพาอาศัยกันได้เป็นอย่างดี​


    การทำบุญด้วยน้ำยาดับกลิ่นปาก​

    การทำบุญด้วยน้ำยาดับกลิ่นปาก จะได้รับอานิสงส์ผลบุญในส่วนของการมีสุขภาพฟันที่แข็งแรง ไม่มีทางที่จะมีปัญหาในช่องปาก
    นอกจากนี้ยังมีพรสวรรค์ในเรื่องของการใช้คำพูด จะมีวาจาที่ไพเราะน่าฟังอย่างยิ่ง พูดจามักจะน่าเชื่อถือ และหากจะเอาดีในเรื่องของอาชีพที่เกี่ยวกับการพูดก็จะยิ่งดีมาก เช่น นักการทูต หรือการค้าขายต่างๆ จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
    ชื่อเสียงต่างๆ ก็จะเป็นที่รู้จักโด่งดัง มีแต่คนรัก และอยากรู้จักเป็นมิตรด้วยทั้งสิ้น การทำบุญด้วยสิ่งนี้จะเป็นการสร้างเสน่ห์ให้กับชีวิตโดยตรง​


    การทำบุญด้วยกระดาษทราย​

    อานิสงส์ของการทำบุญด้วยกระดาษทรายนั้น จะน้อมนำให้ชีวิตของผู้ทำบุญยั่งยืน อยู่เป็นมิ่งขวัญของลูกหลานและวงศ์ตระกูลไปนานแสนนาน เรื่องโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ก็ไม่มาเบียดเบียน สุขภาพสมบูรณ์ทั้งกายและใจ
    หากใครคิดจะทำร้ายก็จะแพ้ภัยไปเอง เพราะคุณจะเป็นคนที่มีจิตใจบริสุทธิ์ปราศจากกิเลสตัณหาทั้งปวง และมักจะเป็นผู้คิดดีทำดีอยู่เสมอ​

    การทำบุญด้วยการสร้างพระไตรปิฎก​

    ผู้ที่ทำบุญด้วยการสร้างพระไตรปิฎกแด่พระสงฆ์ จะได้รับอานิสงส์ผลบุญทั้งในชาตินี้และชาติหน้า จะเป็นผู้มีสติปัญญาดี เป็นผู้นำให้กับบุคคลอื่นอยู่เสมอ คิดอ่านสิ่งใดก็ไม่ค่อยผิดพลาด ความจำดี
    ด้านการงาน ก็จะเป็นที่นับหน้าถือตา เป็นเจ้าคนนายคน ถึงพร้อมด้วยบริวารรายล้อมรอบกาย
    ถึงแม้จะเป็นหญิงก็จะได้เป็นใหญ่ ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายพระไตรปิฎกนี้ มักเป็นนักวิชาการหรือเกี่ยวข้องกับงานใหญ่
    หากเจออุปสรรค ก็จะเห็นทางออกอยู่เบื้องหน้า ไม่ต้องนั่งกลุ้มหรือไปปรึกษาใคร​

    การทำบุญด้วยการถวายผ้าคลุมองค์พระ​

    ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายผ้าคลุมองค์พระแด่พระสงฆ์ จะได้รับอานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่ในด้านความเป็นอยู่ จะพรั่งพร้อมไปด้วยอาภรณ์เครื่องประดับ มีเครื่องใช้ไม้สอยสะดวกสบาย
    สุขภาพร่างกายแข็งแรง มีผิวพรรณงามสะดุดตา เป็นที่ต้องตาต้องใจของผู้ที่พบเห็น จะเป็นที่รักใคร่ของเจ้านาย ผู้บังคับบัญชา
    บุตรหลานบริวารจะเกรงใจ เป็นที่นับหน้าถือตาของคนในสังคม อานิสงส์ผลบุญนี้จะส่งผลให้มีชีวิตที่สุขสบาย​

    การทำบุญด้วยการถวายเสา​

    ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายเสาแด่พระสงฆ์ จะได้รับอานิสงส์ผลบุญที่ยิ่งใหญ่ กล่าวคือในด้านความเป็นอยู่ก็จะสุขสบายถึงขนาดเป็นที่พึ่งให้กับผู้อื่นได้ มีเงินทองมากมายไม่ขาดมือ อาชีพการงานก็มั่นคง ไม่ว่าจะหยิบจับหรือคิดเริ่มการใดก็ไม่ค่อยพบกับอุปสรรค เพราะมีรากฐานที่มั่นคง
    สุขภาพร่างกาย ถึงจะเจ็บไข้ก็จะหายพลัน และจะเจ็บป่วยได้ยากกว่าผู้อื่น
    ด้านความคิดอ่าน ก็จะเป็นคนมีสติ ไม่ว่าจะตัดสินใจอะไรก็จะทำได้อย่างรอบคอบ มีความหนักแน่นและมั่นคง​

    การทำบุญด้วยการถวายยารักษาโรค​

    ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายยารักษาโรคแด่พระสงฆ์ จะได้รับอานิสงส์ในเรื่องของสุขภาพอย่างมาก จะเป็นผู้ที่ไม่ต้องประสบกับโรคร้าย เจ็บไข้เล็กน้อยก็จะไม่กล้ำกราย จะมีอายุยืน
    การเดินทางจะไร้อุปสรรค หากพบพานความติดขัดก็จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เพราะจะมีที่พึ่งเข้ามาอยู่เสมอ อันตรายมักจะหนีหาย
    สำหรับผู้ที่ทำบุญด้วยการถวายยารักษาโรค ทำสิ่งใดก็จะได้รับความเมตตาจากคนรอบข้าง หากไปไหว้วานขอความช่วยเหลือจากใคร เขาก็จะเต็มใจช่วยเหลือเป็นอย่างยิ่ง​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2009
  14. พรหมประกาศิต

    พรหมประกาศิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +13,541
    เรียน ท่านประธาน Sithiphong รบกวนช่วยประชาสัมพันธ์งานบุญนี้ให้ด้วยนะครับ

    http://palungjit.org/posts/2274071

    โมทนาสาธุครับท่าน
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เมื่อไหร่จะแก้ไขกันได้ซะทีน๊า คงต้องรอชาติโน้น ตอนเย็นๆ แน่ๆ

    เพราะ การศึกษาของประเทศไทย ไปเน้นแต่เรื่องของการเรียนวิทยาศาสตร์ , ภาษาอังกฤษ , คณิตศาสตร์ หรือสายอาชีพ

    แต่ไม่เคยนำเรื่อง ศาสนา และ จริยธรรม มาสอน และ เป็นวิชาบังคับที่ต้องเรียนและใช้ในการสอบเข้าในทุกระดับชั้น (ตั้งแต่อนุบาล) กันเลย
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สองแถวตีนผีซิ่ง ตะบึงชนครู จูงคนแก่ข้ามถนน



    สองแถวตีนผีซิ่ง ตะบึงชนครู จูงคนแก่ข้ามถนน (ไทยรัฐ)

    เมื่อเวลา 21.00น. วันที่ 22 สิงหาคม ร.ต.ท.สุริยา แป้นเกิด ร้อยเวร สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกรถชนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่หน้าวัดประดู่พัฒนาราม ถ.ราชดำเนิน ต.ท่าวัง อ.เมือง นครศรีธรรมราช จึงพร้อมแพทย์เวร รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิใต้เต็กตึ้งรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบศพนางวันดี ศานติทานนท์ อายุ 47 ปี ทำงานเป็นครูสอนอยู่ที่โรงเรียนศรีธรรมราชศึกษา อยู่บ้านเลขที่ 38/64 ถ.ราชดำเนิน ต.ท่าวัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช นอนตายจมเลือดอยู่บนถนนในสภาพคว่ำหน้า มีบาดแผลกะโหลกแตก คอหัก แขนซ้ายหัก ซี่โครงซ้ายหักทั้งแถบ ขาซ้ายหัก และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย ได้รับการช่วยเหลือนำส่ง รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ก่อนหน้าที่ตำรวจจะไปถึง ทราบชื่อคือนางผ่องศรี แซ่ลิ้ม อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ถนนราชดำเนิน ต.ท่าวัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช

    จากการสอบสวนทราบว่านางวันดี ผู้ตายนอกจากเป็นครูแล้ว ยังเป็นประธานชมรมผู้ปฏิบัติธรรมของวัดประดู่พัฒนารามด้วย ก่อนเกิดเหตุนางวันดีเดินทางมาปฏิบัติธรรมและฟังเทศน์ที่วัดประดู่พัฒนาราม หลังพระเทศน์เสร็จได้เดินออกจากวัดเพื่อจะกลับบ้าน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดมากนัก ขณะเดินมาถึงหน้าวัด เห็นนางผ่องศรีซึ่งเป็นผู้สูงอายุมีบ้านอยู่เยื้องกับวัดและมาฟังเทศน์ที่วัดด้วย พยายามที่จะข้ามถนนหลายครั้งเพื่อจะกลับบ้าน แต่ไม่สามารถข้ามได้เนื่องจากมีรถขับผ่านไปมามาก นางวันดีเห็นดังนั้นจึงไปช่วยจูงนางผ่องศรีข้ามถนน แต่ระหว่างที่กำลังจูงนางผ่องศรีข้ามถนน ได้มีรถยนต์สองแถวรับจ้างสายสนามกีฬากลาง – หัวถนนสาขามีชัย เป็นรถปิกอัพตอนเดียว ยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า ทะเบียน 10-2916 นครศรีธรรมราช ติดหลังคาแบบรถสองแถวทั่วไป ขับมาด้วยความเร็วสูง เพื่อมุ่งหน้าไปทางสี่แยกหัวถนนศาลามีชัย ต.ในเมือง พุ่งชนทั้ง 2 อย่างจัง จนกระเด็น เป็นเหตุให้นางวันดีเสียชีวิตคาที่ ส่วนนางผ่องศรีได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังเกิดเหตุรถยนต์คันดังกล่าวได้ขับหลบหนีไป

    ทั้งนี้ หลังทราบรายละเอียดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุสกัดจับรถคันดังกล่าวได้ ขณะที่คนขับกำลังขับรถหลบหนีบริเวณชุมชนจำปาขอม ถนนศรีธรรมโศก ต.ในเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช ตำรวจจึงควบคุมตัวคนขับรถไปสอบสวนที่โรงพัก ทราบชื่อคนขับรถคือนายนิพัฒน์ ชุมพงษ์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 175 หมู่ 3 ต.จันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช สอบสวนนายนิพัฒน์ให้การว่ามีอาชีพขับรถสองแถวรับจ้าง ได้ขับรถชนคนเจ็บ และคนตายจริง เนื่องจากขับรถมาด้วยความเร็วสูงเบรกไม่ทัน หลังเกิดเหตุตกใจจึงขับรถหนี ตำรวจได้ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย



    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
    [​IMG]

    http://hilight.kapook.com/view/40629
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2009
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    แก้ไม่ตก ปัญหาแท็กซี่ พูดไม่สุภาพ-ขับอ้อม


    �����赡 �ѭ����硫�� �ٴ������Ҿ-�Ѻ����


    [​IMG]


    สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม

    วานนี้ (22 สิงหาคม) นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมการขนส่งทางบก ได้จัดโครงการพัฒนาคุณภาพการให้บริการของพนักงานขับรถแท็กซี่ เพื่อปลูกฝังจิตสำนึก การให้บริการด้วยใจ ลดปัญหาการร้องเรียน และจูงใจประชาชนให้หันมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น กำหนดจัดอบรมกำหนดจัดอบรม จำนวน 2 รุ่น รุ่นละ 100 คน โดยรุ่นที่ 1 จัดขึ้นแล้ววานนี้ ที่กรมการขนส่งทางบก

    อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มว่า รถยนต์รับจ้างแท็กซี่ เป็นบริการสาธารณะที่มีประชาชนใช้บริการจำนวนมาก เนื่องจากสะดวกสบายและค่าโดยสารไม่สูงมากนัก ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ขับรถแท็กซี่ เก็บทรัพย์สินมีค่าส่งคืนเจ้าของหลายราย สร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่ผู้ขับรถโดยสารสาธารณะ

    แต่ขณะเดียวกัน ก็มีผู้โดยสารร้องเรียนการให้บริการของรถแท็กซี่ผ่าน "ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ" หมายเลข 1584 เป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน โดยในเดือนกรกฎาคม มีประชาชนร้องเรียนการให้บริการของรถแท็กซี่จำนวนทั้งสิ้น 869 ราย ความผิดส่วนใหญ่ ได้แก่ ใช้กิริยาวาจาไม่สุภาพ ปฏิเสธผู้โดยสาร และพาไปในเส้นทางที่อ้อมเกินควร ซึ่งคาดว่าการฝึกอบรมในครั้งนี้ จะช่วยปลูกฝังจิตสำนึกการบริการด้วยใจแก่ผู้ขับรถ ทำให้ผู้ขับรถแท็กซี่ตระหนักในหน้าที่ของการให้บริการสาธารณะ สร้างความประทับใจแก่ผู้โดยสาร และลดปัญหาการร้องเรียนจากประชาชนลงได้

    สำหรับการอบรมในรุ่นที่ 2 นายชัยรัตน์ กล่าวต่อว่า จะจัดขึ้นในวันที่ 19 กันยายนนี้ ผู้ขับรถแท็กซี่ที่สนใจ สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยผู้ที่ผ่านการอบรมจะได้รับประกาศนียบัตร จากกรมการขนส่งทางบกด้วย


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    [​IMG]
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ปอ.ซิ่งนรก! ไล่ทับจักรยานยนต์ดับคาล้อ

    ��ͧ! ˹�����觨ѡ��ҹ¹�� �Ѻ�����ö��.


    [​IMG]


    ปอ.ซิ่งนรก ไล่ทับจักรยานยนต์ดับคาล้อ (ข่าวสด)

    เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 22 สิงหาคม พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ บัณฑิต พงส. (สบ3) สน.บุคคโล รับแจ้งเหตุรถประจำทางทับคนเสียชีวิต บริเวณปากซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 30 ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กทม. จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

    ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลนช่วงใต้วงแหวนทางขึ้นสะพานกรุงเทพ 2 พบรถประจำทางยูโรปรับอากาศ ขสมก. สาย 76 สีส้ม หมายเลขทะเบียน 13-1744 กทม. เลขข้างรถ 5-67215 วิ่งระหว่างแสมดำ-ประตูน้ำ จอดนิ่งสนิทอยู่บริเวณถนนช่องวิ่งที่ 2 โดยล้อหลังด้านขวาทับศพนายสราวุธ นะวันทุ อายุ 23 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ ติดอยู่ในสภาพนอนตะแคงคว่ำหน้าจมกองเลือด สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทาคลุมทับด้วยเสื้อช็อปสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงยีนส์ กะโหลกศีรษะมีบาดแผลแตก แขนทั้งสองข้างถูกทับจนแบนลีบ ส่วนหมวกนิรภัยครึ่งใบสีขาว ถูกล้อรถทับจนแตกละเอียด เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดไว้เป็นหลักฐาน

    ห่างไปทางด้านหลังรถประจำทางประมาณ 10 เมตร บนช่องทางที่ 3 พบรถจักรยานยนต์คาวาซากิ รุ่นจีทีโอ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ยทต 63 กทม. ของผู้ตายพลิกคว่ำอยู่ในสภาพ ติดอยู่ใต้ท้องรถกระบะโตโยต้าสี่ประตู สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ษจ 6127 กทม. เบื้องต้นเจ้าหน้าที่บันทึกภาพรถทุกคันเอาไว้เป็นหลักฐาน ก่อนควบคุมตัวคนขับรถคู่กรณีทั้ง 2 คันไว้สอบสวน จากนั้นให้หน่วยกู้ภัยใช้อุปกรณ์ตัดถ่างยกล้อรถประจำทางขึ้น เพื่อนำศพผู้ตายออกมาให้แพทย์ชันสูตรก่อนแยกย้ายรถทั้ง 3 คันออกจากเส้นทางการจราจร

    จากการสอบสวน นายบุญฮวย ประสมหงษ์ อายุ 54 ปี โชเฟอร์รถประจำทาง ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถออกมาจากอู่ย่านแสมดำมุ่งหน้าไปประตูน้ำ ในช่วงที่ขับผ่านแยกมไหสวรรย์นั้น มีผู้โดยสารอยู่เต็มคันประมาณ 30 คน จังหวะที่เห็นสัญญาณไฟเขียวก็ขับรถมุ่งหน้ามาทางถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ฝั่งขาเข้าเรื่อยๆ พอเลยแยกมาได้ 100 เมตร ได้ยินเสียงคล้ายรถเฉี่ยวชนกัน พอเหลือบไปดูกระจกมองข้างด้านขวาพบว่ามี รถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ โดยที่ร่างของคนขับ รถจักรยานยนต์กระเด็นหลุดเข้าไปที่ล้อหลังรถตน จึงรีบจอดรถลงมาดูแล้วโทรศัพท์แจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบ

    ขณะที่นายสมคิด ศิริสุข อายุ 62 ปี อดีตพนักงานการไฟฟ้านครหลวง ผู้ขับรถปิกอัพสี่ประตู ให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้ขับรถชนผู้ตายแต่อย่างใด แต่ระหว่างที่ขับรถเลยแยกมไหสวรรย์ออกมานั้น ได้ยินเสียงรถประจำทางคันดังกล่าวบีบแตรไล่รถจักรยานยนต์ของผู้ตายดังสนั่น หลายครั้งจากทางด้านหลัง ผู้ตายพยายามเร่งเครื่องหนีจนกระทั่งรถจักรยานยนต์แล่นมาอยู่ระหว่างกลาง ของรถตนกับรถประจำทาง จากนั้นรถจักรยานยนต์ก็ล้ม โดยร่างผู้ตายมุดเข้าไปอยู่ที่ล้อหลังรถประจำทาง ส่วนรถจักรยานยนต์ของผู้ตายพลิกคว่ำมาขวางหน้ารถตนจนต้องเบรกแบบตัวโก่ง

    ด้านพ.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าผู้ตายทำงานที่ไหน แต่กำลังพยายามติดต่อญาติเพื่อแจ้งรายละเอียดให้ทราบ ขณะนี้ยังไม่แจ้งข้อหากับใคร หลังจากนี้ต้องเชิญคนขับรถทั้ง 2 คัน ไปสอบปากคำอย่างละเอียดเสียก่อน รวมทั้งติดตามพยานแวดล้อมที่เห็นเหตุการณ์มาสอบสวนด้วย เพื่อหาตัวคนผิดที่แท้จริงก่อนดำเนินการตามกฎหมาย เนื่องจากทั้งสองยังให้การซัดทอดกันไปมา


    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
    [​IMG]
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    นิทรรศการศิลปะทวารวดี ต้นกำเนิดพุทธศิลป์ในสยาม

    ˹ѧ��;��������ʴ�͹�Ź� : �ú�ء�� ʴ�ء����ͧ==

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ได้จัดงานแสดงนิทรรศการพิเศษ "ศิลปะทวารวดี : ต้นกำเนิดพุทธศิลป์ในประเทศไทย" (Davaravati Art : The Early Buddhist Art of Thailand)

    เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา นายธีระ สลักเพชร รมว. วัฒนธรรม และ นายญันน์ ปราโด อุปทูตฯ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย ให้เกียรติร่วมเป็นประธานเปิดงานแสดงนิทรรศการพิเศษ ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

    การจัดนิทรรศการในครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการลงนามในอนุสนธิระหว่างกรมศิลปากรและสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำประเทศไทย เรื่อง ความร่วมมือด้านการพัฒนาพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในประเทศไทย เมื่อพุทธศักราช 2545

    มีผลให้เกิดความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญ การสนับสนุนทุนศึกษาดูงาน และศึกษาต่อเพื่อพัฒนาบุคลากร การจัดสัมมนาทางวิชาการ หรือประชุมเชิงปฏิบัติการ และแลกเปลี่ยนนิทรรศการระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง

    ในปีพุทธศักราช 2550 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ศิลปะเอเชียกีเมต์ กรุงปารีส ได้รับทุนสนับสนุนจากสมาพันธ์พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ฝรั่งเศส ในการจัดแสดงนิทรรศการพิเศษ เรื่อง ทวารวดีต้นกำเนิดพุทธศิลป์ในประเทศไทย (Dvaravati : aux sources du bouddhism en Thailande) โดยมีสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยเป็นผู้ประสานกับสำนักพิพิธภัณฑ สถานแห่งชาติ ในการขอยืมโบราณวัตถุศิลปะทวารวดีจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในประเทศไทย ทั้งจากส่วนกลางและส่วนภูมิภาค 12 แห่ง เพื่อนำไปจัดแสดงในนิทรรศการดังกล่าว จำนวนทั้งสิ้น 149 รายการ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ซึ่งได้มีพิธีเปิดนิทรรศการอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2552 และเปิดให้สาธารณชนเข้าชมตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ ถึง 20 มิถุนายน 2552 ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ศิลปะเอเชียกีเมต์ กรุงปารีส ในระหว่างการจัดแสดงนั้น ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการเสด็จฯ ทอดพระเนตร เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2552 ที่ผ่านมาด้วย

    กรมศิลปากรและสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำประเทศไทยได้พิจารณาร่วมกัน เห็นควรที่จะนำนิทรรศการครั้งนี้มาจัดแสดงในประเทศไทย เพื่อเป็นการแสดงถึงสัมพันธภาพความร่วมมืออันดีทางด้านวัฒนธรรมระหว่างไทยและฝรั่งเศส ตลอดจนเผยแพร่ความรู้ทางด้านศิลปะและโบราณคดีแก่สาธารณชนชาวไทย จึงได้มอบหมายให้สำนักพิพิธภัณฑ สถานแห่งชาติเป็นผู้ดำเนินการจัดนิทรรศการ เรื่อง "ศิลปะทวารวดี : ต้นกำเนิดพุทธศิลป์ในประเทศไทย" ณ พระที่นั่งอิสราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โดยเปิดให้ประชาชนเข้าชม ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม ถึง 9 ตุลาคม พ.ศ. 2552 นิทรรศการครั้งนี้ นับเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเนื่องในเทศกาลวัฒนธรรมฝรั่งเศส-ไทย ครั้งที่ 6 ประจำปี พ.ศ. 2552 <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อารยธรรมทวารวดี เป็นวัฒนธรรมที่สำคัญในบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ภาคกลางของประเทศไทย ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 11-16 อาจมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองโบราณนครปฐม อู่ทอง หรือลพบุรี สำหรับขอบเขตของวัฒนธรรมทวารวดีที่แพร่กระจายไปยังทุกภูมิภาคของประเทศนั้น พบว่า ทิศเหนือขึ้นไปถึงอาณาจักรหริภุญไชย จังหวัดลำพูน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่นที่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ เป็นต้น ภาคตะวันออก เช่นที่ ปราจีนบุรี ชลบุรี จันทบุรี เป็นต้น ภาคใต้พบอิทธิพลอารยธรรมทวารวดีลงไปถึงปัตตานี บรรดาโบราณวัตถุ และโบราณสถาน ส่วนใหญ่ล้วนสร้างขึ้นเนื่องในพุทธศาสนาลัทธิหินยาน (เถรวาท) หากแต่ยังปรากฏหลักฐานการนับถือศาสนาพุทธลัทธิมหายานและฮินดู (พราหมณ์) รวมอยู่ด้วย ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า "ต้นกำเนิดพุทธศิลป์ในสยามประเทศ"

    โบราณวัตถุที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ศิลปะเอเชียกีเมต์ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศสขอยืมไปจัดแสดง จำนวน 149 รายการ ได้คัดเลือกนำมาจัดแสดงในนิทรรศการครั้งนี้ 107 รายการ และคัดเลือกโบราณวัตถุชิ้นเยี่ยมของสมัยทวารวดีเพิ่มเติมอีก จำนวน 60 รายการ ซึ่งบางรายการเป็นโบราณวัตถุชิ้นสำคัญที่กรมศิลปากรไม่อนุญาตให้ยืมและห้ามนำออกนอกราชอาณาจักรมาจัดแสดงเพิ่มเติม และยังมีจารึกชิ้นสำคัญที่เก็บรักษาไว้ที่หอสมุดแห่งชาติอีก 1 รายการ รวมวัตถุที่จัดแสดงทั้งสิ้น 167 รายการ

    นิทรรศการ "ศิลปะทวารวดี : ต้นกำเนิดพุทธศิลป์ในประเทศไทย" พร้อมเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ทุกวันพุธ-วันอาทิตย์ ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม ถึงวันที่ 9 ตุลาคม 2552 ระหว่างเวลา 09.30-16.00 น.

    ในระหว่างการจัดนิทรรศการนั้นจะมีการบรรยายและนำชมพิเศษ 2 ครั้ง โดยผู้เชี่ยวชาญ ภัณฑารักษ์ และนักวิชาการ ในวันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม 2552 เวลา 08.30-17.30 น. ณ ห้องประชุมอาคารดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

    สนใจเข้าชมและฟังได้โดยสำรองที่นั่งได้ที่ฝ่ายวิชาการ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ โทร. 0-2224-1333 โดยเสียค่าเข้าชมตามปกติเพียงเท่านั้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...