พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรื่องการอธิษฐานนั้น แล้วแต่บุคคลครับ อธิษฐานแต่สิ่งที่ดีๆ แต่เวลาที่ผมไปไหว้พระนั้น ผมจะใช้แค่บทพระพุทธคุณ บทพระธรรมคุณและบทพระสังฆคุณ (อิติปิโส) เท่านั้นเองครับ

    ส่วนเรื่องการไปกราบพระสงฆ์หรือพระอริยสงฆ์นั้น ผมจะเข้าไปกราบพระพุทธรูปก่อนเสมอครับ เรื่องนี้แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละบุคคลครับ

    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://www.tv5.co.th/service/mod/heritage/king/rama4/letter4.html

    <CENTER>[​IMG]</CENTER>

    <CENTER>[SIZE=+2]พระราชนิพนธ์ ว่าด้วยลักษณะการเคารพพระรัตนไตรย[/SIZE]
    [SIZE=+1]พุทฺธํ ธมฺมญฺจ สฆญฺจ อจฺ เจตํ รตนตฺตยํ[/SIZE]
    [SIZE=+1]...........................[/SIZE]
    [SIZE=+1]ปุญญญฺ จ อภิวฑฺเฒยฺย ทิฏฐ ธมฺ เม จ มงฺคลํ ฯ[/SIZE]</CENTER>
    • [SIZE=+1] ข้าพระพุทธเจ้าสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฏ พระจอมเกล้าเจ้ากรุงสยาม เปนพระเจ้าแผ่นดินใหญ่ ที่สี่ในพระราชวงศ์ซึ่งตั้งกรุงเทพ ฯ ขอถวายอภิวันท์นอบน้อมนมัสการด้วยไตรทวาร นบนอบเคารพ แด่พระรัตนไตรยประชุมสิ่งประเสริฐสามประการนี้ คือพระพุทธผู้ตรัสรู้ หนึ่ง พระธรรม หนึ่ง พระสงฆ์หมู่เนื่องกัน หนึ่ง พระรัตนไตรยทั้งสามนี้แม้นต่าง ๆ โดยวัตถุก็ย่อมเปนอันหนึ่งอันเดียวกันโดยเนื้อความ..... จึงจะขอกล่าววิธีต่าง ๆ โดยสมควรในกิจการนมัสการ แด่พระผู้มีพระภาคย์พุทธเจ้านั้น ในที่ระฦกถึงพระองค์นั้น มีพระเจดีย์เปนต้น ด้วย ภาสาสยามพากยภาสา เปนแต่ว่าจะแสดงวิธีในคำสำหรับเปนที่ตั้งความทำในใจระฦก แลสวด สาธยาย แลประกาศอุทิศส่วนกุศลแก่เทวดาเปนต้น ด้วยมาคธิตาภาสาที่เรียกกันโดยมากว่า ภาสาบาฬี เพราะว่าภาสานั้นเปนประมาณ คือ ภาสากลางในพระพุทธศาสนธรรม เพื่อจะให้เปนแบบแผนตำราสำหรับพระเจ้าแผ่นดินฤาผู้รับสั่งพระเจ้าแผ่นดิน.....[/SIZE]
      [SIZE=+1] ในภาคย์เบื้องต้นนี้ จะขอกล่าวลักษณะเคารพ นมัสการ กราบไห้ว คำนับน้อม แลลักษณะทำสักการะบูชา นับถือในพระรัตนไตรยนั้น ให้เข้าใจถนัดก่อน[/SIZE]
      [SIZE=+1] อันการอ่อนน้อมคำนับในโลกย์นี้ มีกิริยาทำต่าง ๆ กัน ในประเทศต่าง ๆ อย่างนั้น ๆ ไม่ต้องกัน ไม่เหมือนกัน จนถึงขัดขวางกัน ดังหนึ่งข้างจีนถือว่า เมื่อจะคำนับไห้วพระไห้วเจ้า แลจะเข้าไปหานายต้องสอดสวมเครื่องแต่งตัว หมวก เสื้อ รองเท้า เข้าให้ครบ จึงจะไห้วเจ้าไห้วนายได้ ถ้าไม่มีเครื่องแต่งตัวเต็ม ไม่สวมหมวกสอดรองเท้าแล้วก็ว่าไม่เคารพ ฝ่ายข้างชาวยุโรป แลอเมริกา ถือว่าถ้าสวมหมวกอยู่ เป็นไม่คำนับต้องถอดออกถือออกโบก แต่งเครื่องแต่งตัวคือเสื้อชั้นนอก ที่ไม่ได้สวมอยู่โดยปรกติ แลรองเท้าแลเครื่องอื่น ๆ ตามยศ จนถึงกระบี่ซึ่งเปนเครื่องติดอยู่กับเครื่องคาดเอว ต้องแต่งเข้าพร้อมจึงเปนอันเคารพ ฯ ฝ่ายลัทธิในการเคารพของพวกชาวบ้านเมืองถือพระพุทธสาสนา แลถือข้างพราหมณ์ มักถือว่าไม่สวมหมวก ไม่โพกผ้าเปนเคารพ รองเท้าแลอาวุธห้ามเปนอันขาด ไม่ให้สอดสวม ไม่ให้คาดแต่ไกลที่เดียว จึงเปนเคารพ ฝ่ายผ้าห่มนั้นต้องให้มีจึงเปนเคารพ ถึงกระนั้นในที่เคารพ ก็บังคับให้ลดเปิดบ่าข้างขวาออก แลในชาวสยามผู้ชายเมื่อเคารพผู้มีบันดาศักดิ์ ต้องเอาผ้าห่มลงเกี้ยวพุงไว้ การเปนต่าง ๆ ขัดกันไม่ต้องกันดังนี้แล อนึ่งในกิริยาอิริยาบท ก็ถือไม่ต้องกัน ในเมืองอื่น ๆ ถือว่าผู้ซึ่งยืนเปนอันคำนับผู้ซึ่งนั่ง ถ้าผู้มีบันดาศักดิ์นั่งอยู่ ผู้มีบันดาศักดิ์น้อยต้องยืนอยู่ ต่อผู้มีบันดาศักดิ์ใหญ่ บังคับยอมให้นั่ง จึงนั่งลงได้ ถ้าผู้มีบันดาศักดิ์ยืนขึ้นแล้ว ผู้มีบันดาศักดิ์น้อยนั่งอยู่ไม่ได้เลย ต้องยืนขึ้นไม่ต้องบังคับว่าให้ยืนเลย ถึงในพระวินัยบัญญัติในพระพุทธศาสนา ก็มีบังคับว่า เมื่อผู้จะสำแดงธรรมจะยืนสำแดงธรรมให้คนที่นั่งอยู่มิได้ป่วยไข้ไม่ได้ ต้องให้คนฟังยืนขึ้นฟังธรรม แต่ในเมืองไทย เมืองเขมร เมืองลาว เหล่านี้ ถือกิริยาต่ำแก่ผู้มีบันดาศักดิ์สูง คนต่ำบันดาศักดิ์ต้องไว้กิริยาต่ำแก่ผู้มีบันดาศักดิ์สูง ถ้าผู้บันดาศักดิ์ยืนก็ต้องนั่ง ถ้านั่งก็ต้องหมอบคลาน การอย่างนี้ได้ยินว่าในลังกาเก่า แลเมืองทมิลก็ถือ เมื่อเจ้าแผ่นดินเสด็จออกไปที่ใด ๆ นอกเมืองนอกวัง ราษฎรที่พบเสด็จต้องพังพาบก้มศีศะราบกับแผ่นดิน เงยหน้าขึ้นไม่ได้ เปนแต่พนมมือยกขึ้นไว้บนศีศะ กว่าเจ้าแผ่นดินจะเสด็จล่วงไป ถ้าจะว่าถึงกิริยาต่าง ๆ ในการคำนับที่มีชื่อเรียกต่าง ๆ คือ กราบพั้งพาบทั้งตัวดังว่านั้นเรียกว่า กราบสุงสุมารนิบาต แปลว่าล้มลงเปนจรเข้ แลเบญจางคประดิษฐ์ กราบวางองค์ห้าลงดินทั้งมือสอง เท้าสอง ศีศะหนึ่ง แลกราบสามลา แลกุยอย่างญวนแลจีนคุกเข่าคำนับอย่างชาวยุโรป แลอื่น ๆ แล้ว ก็มากมายหลายอย่าง[/SIZE]
      [SIZE=+1] ที่นี้จะว่าการตามที่ว่าไว้ในหนังสือที่มีในพระพุทธศาสนา ในพระบาฬี มีอยู่สี่อย่างตามชื่อ คือ อภิวาทวันทนาการนิปัจจนาการอัญชลีกรรม ๑ เปนสำแดงกิริยาคำนับต่อหน้าผู้มีตัวประจักษ์เฉพาะ ยังอิกสองอย่างคือ นมการนมัศการ ๑ สองอย่างนี้ว่าด้วยการนับถือเปนพระที่ยิ่ง แลแสดงความน้อมไปแด่พระนั้นด้วยไตรยทวาร คือ กาย วาจาจิตร จะหาที่ชี้อุทาหรณ์เยี่ยงอย่างของคำที่สำแดงชื่อ ๖ อย่าง คือ อภิวาท วันทนาการ นิปัจจนาการ อัญชลีกรรม แลนมการ นมัศการนั้นก็ได้เห็นอยู่ชุกชุม คือ "ภควนฺ ตํ อภิวาทเทตนา" ในที่นั้น ๆ แล "อภิวาททนสีลิสฺส" ที่เปนคาถาแลอื่น ๆ เปนอุทาหรณ์ของอภิวาท "ภควุโต ปาเท สิรสา วนฺทหิ" ฤา "วนฺทติ" ในพระวินัยเรียกชื่อ "อวนฺทิโย ปุคฺคโล วนฺทิโย ปุคฺคโล" แลอื่น ๆ เปนอุทาหรณ์ของวันทนาการ ในพระบาฬีว่า "ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา" แล "นิปฺปการํ กโรมิ" เปนอุทาหรณ์ของนิปัจจนาการ "เยน ภควา เตนญฺ ชลิมฺปณา เมตฺวา" ฤา "อญฺชลิปคยฺห" ฤา อญฺชลิโก "อฏาฐาสิ" แลในบทสวดมนต์ว่า "อญฺชลี กรณีโย" เหล่านี้เปน อุทาหรณ์ของอัญชลีกรรม "นโม ตสฺส ภควโต นมตฺถุ นโม เต ปุริสาชญฺญ" แลอื่น ๆ เปนอุทาหรณ์ของนมการ "นมสฺสนฺติ โคตมํ นมสฺสมาโน สมฺ พุทธํ แลอื่น ๆ เปนอุทาหรณ์ของนมัศการ ก็ในชื่ออาการ ๖ อย่างที่มาในบาฬีนี้ คนทำอย่างไร จะเรียกว่าชื่อไรก็ไม่ได้ความชัด อภิวาทนั้นเห็นที่มาเปนกิริยาที่เขาใช้ต่อหน้า แลทำกับผู้สูงศักดิ์ คือพระพุทธเจ้าแลพระสาวกผู้ใหญ่ แลพระเจ้าแผ่นดิน แลมหาพราหมณ์ มีคำอรรถกถาบางอันแก้ว่า "อภิวาเทตวา สุขี โหถีติ วทาเปตฺวา" ก็มีบ้าง แต่ที่แก้ว่า อภิวาทนั้นก็คือ วันทนกิริยานั้นเองโดยมาก ถึงกระนั้น เห็นที่มาในบาฬีอภิวาทดูดี เปนการอย่างสูงแลการต่อหน้า วันนาการเปนการต่ำลงมา แลมักมีในคำสั่งฝากไว้คำนับไปอภิวาท แลสงฆ์แลคณะก็ไม่ไคร่จะมี มีแต่วันทนาการ แลอัญชลีกรรม จะชักอุทาหรณ์มาว่าให้เห็นได้ แต่จะเพ้อมากนักไป ฯ อัญชลีนั้น อรรถกถาแก้ว่า "ทสนขสโมธานํ" ฯ[/SIZE] <CENTER>[SIZE=+1]หมดฉบับเพียงเท่านี้[/SIZE]
      </CENTER>
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://www.tv5.co.th/service/mod/her...4/letter4.html


    [SIZE=+2]พระราชหัตถเลขา ถึงพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว[/SIZE]
    [SIZE=+1]ปีมะเมีย พ.ศ. ๒๔๐๑[/SIZE]
    [SIZE=+1]ฉบับหมายเลข ๙๔[/SIZE]
    [SIZE=+1]ลงวันที่ ๒๐ มิถุนายน ค,ศ, ๑๘๕๘[/SIZE][SIZE=+1] ฉันขึ้นไปกรุงเก่า ได้นมัสการพระแสนเมืองเชียงแตงแล้ว รูปพรรณเปนของเก่าโบราณหนักหนา แต่เหนชัดว่าอย่างเดียวกับ พระแสนมืองมหาชัยแน่แล้ว ของโบราณจะนับถือว่า พระแสนสององค์นี้ องค์ใดองค์หนึ่งจะเปนเทวดาสร้าง ฤาว่าเหมือนพระพุทธเจ้าแท้ แล้วจึงถ่ายกันข้างหนึ่งเปนแน่แล้ว แต่เมื่อดูสีทองแลชั้นเชิงลเอียดไปดูที เหนว่าพระแสนเมืองเชียงแตงจะเปนของเก่ากว่า สีทองที่พระเศียรและพระพักตร์ เปนสีนากนวโลหะ เช่นกับพระอุมาภควดีเก่าในเทวสถาน ตมูกฤาพระนาสิกก็ดูบวมมากเหมือนกันทีเดียว ที่พระองค์ พระหัตถ์ พระบาทนั้นสีทองเปนอย่างหนึ่ง ติดจะเจือทองเหลืองมากไป ที่ผ้าพาดนั้น เปนแผ่นเงินฝังทาบทับลง แต่ดูน่นหนาอยู่[/SIZE]
    [SIZE=+1] พระแสนองค์นี้ฉันถวายแล้ว โปรดทรงพระดำริห์ดูเถิด จะให้ไปเชิญลงมาเมื่อไร อย่างไรก็ตามแต่จะโปรด[/SIZE]
    [SIZE=+1] ยังมีพระที่มีชื่อ เอามาแต่เมืองเวียงจันทร์อิกสองพระองค์ พระอินทร์แปลง น่าตัก ๒ ศอกเศษ พระอรุณ น่าตักศอกเศษ พระสององค์นี้องค์ที่ออกชื่อก่อน ฉันจะรับประทานไปไว้เปนพระประธานในพระอุโบสถวัดมหาพฤฒาราม วัดตะเคียนที่ให้ไปสร้างขึ้นไว้ใหม่[/SIZE]
    [SIZE=+1] พระอรุณนั้นฉันคิดว่าจะเชิญลงมาไว้ในพระวิหารวัดอรุณ เพราะชื่อวัดกับชื่อพระต้องกัน สมแต่จะให้จัดแจงที่ฐานให้เสร็จก่อน แล้วจึงเชิญมาต่อน่าน้ำ[/SIZE]
    [SIZE=+1] ยังมีพระไม่มีชื่ออิกหลายพระองค์ องค์หนึ่งน่าตัก ๒ ศอก หย่อน แต่รูปพรรรนั้นเห็นชัดว่า ทำเอาอย่างพระแสนเมืองมหาชัยไม่สู้ผิดนัก ทั้งลาดเลาพระพักตร์แลส่วนพระหัตถ์ พระบาททุกอย่างพระองค์นี้ฉันคิดว่า จะเชิญไปไว้ที่ในพระวิหารหลวงที่พระพุทธบาท พระขัดสมาธิเพ็ชรใหญ่องค์หนึ่งฐานมีรูปสัตว์ต่าง ๆ ฉันคิดว่าจะเชิญมาไว้ในอุโบสถ วัดเขมาภิรตาราม ยังอิกองค์หนึ่งน่าตักศอกเศษ คล้ายพระแสน แต่ไม่สู้ชัดนัก ฉันคิดว่าจะเชิญไปไว้ในพระอุโบสถวัดชัยพฤกษ์มาลา[/SIZE]
    [SIZE=+1] พระแสนเมืองเชียงแตงนั้น ตามแต่จะโปรดเถิด ถ้าจะเชิญไปประดิษฐานไว้ที่วัดหงษ์ก็ดีอยู่ จะได้เปนคู่กับพระอรุณที่วัดอรุณ เหมือนดัง ๒ องค์ ที่จะเชิญลงไปที่วัดชัยพฤกษ์มาลา แลวัดเขมาภิรตารามนั้น เปนพระเกียรติยศแลส่วนพระราชกุศล ถวายทูลกระหม่อม แลสมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์[/SIZE]
    [SIZE=+1] แต่ถ้าจะโปรดเอาพระแสนเชียงแตงไว้ในวังแล้ว ฉันจะถวายอิกองค์หนึ่ง น่าตักศอกเศษ เปนทองสองสี เพื่อจะได้ไปไว้ที่วัดหงษ์แทน ตามแต่จะโปรด[/SIZE]
    [SIZE=+1] เรือสติมเมอร "มีดีออร์" ขึ้นไปก็ไม่ถึงกรุงเก่า ไปค้างติดตื้นอยู่ที่คลองตะเคียน ต่อเวลา ๘ ทุ่ม (๒ A.M.) น้ำขึ้นมากจึงจะกลับมาได้ ต้องหยั่งน้ำหาร่องมา พึ่งมาถึงเมื่อ ๙ โอคล็อก ๒๐ A.M. ฯ[/SIZE]
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    เรื่องของดี ที่ชาวพุทธมองข้าม ถ้าเป็นตัวอักษรสีแดง จะเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ ถ้าจะพิมพ์ อยากให้พิมพ์ของดั้งเดิมน่าจะดีที่สุดครับ

    .
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จากกระทู้ เชิญร่วมทำบุญซื้อเครื่องสูบน้ำ ขุดเจาะน้ำ โรงครัว ค่าแรงขุดเจาะ เครื่องสูบน้ำให้วัดป่าทุรกันดาร อุบลราชธานี

    http://larndham.net/index.php?showtopic=23122&st=0

    <TABLE width="100%" bgColor=#e4f3f3 border=0><TBODY><TR><TD>เนื้อความ : (nina)</TD><TD></TD><TR><TD colSpan=2>
    ขอเรียนเชิญเพื่อนสมาชิกชาวลานธรรมและท่านผู้ใจบุญทุกท่านร่วมสมทบทุน
    ซื้อ เครื่องสูบน้ำ ท่อน้ำ ค่าแรงขุดเจาะน้ำบาดาล และ สร้างโรงครัวถวายแด่วัดภูเหล่าเงินฮาง หมู่บ้านศรีสมบูรณ์ ต.หนองทันน้ำ อ.กุดข้าวปุ้น จ.อบลราชธานี

    งบประมาณ 100,000 บาท โดยประมาณโครงการละ 50,000 บาท

    และถ้าเหลือจากนั้นจะใช้สำหรับสร้างแท๊งก์น้ำหรือเครื่องกรองน้ำสำหรับเป็นน้ำดื่ม สำหรับพระภิกษุสงฆ์ และอุบาสกอุบาสิกาต่อไปค่ะ


    ได้สอบถามทางพระอาจารย์สาทำให้ทราบว่าตอนนี้วัดมีอยากจะได้แหล่งน้ำโดยจะขุดเจาะน้ำบาดาล แต่ยังไม่มีปัจจัยเพียงพอในค่าแรง ค่าซื้อเครื่องสูบน้ำ และท่อน้ำ ปัจจุบันน้ำดื่มใช้เป็นน้ำที่เป็นขวดที่ทางวัดต้องซื้อและอีกส่วนได้จากผู้จิตศรัทธาบริจาคให้ค่ะ
    ถ้ามีงบมาขุดเจาะน้ำบาดาลได้ ท่านก็จะนำดินนั้นมาถมสร้างโรงครัว เพราะพื้นวัดเป็นหินส่วนใหญ่ ถ้ามีโรงครัว ชาวบ้านก็สามารถมาหุงข้าวทำกับข้าวให้พระฉันได้ค่ะ

    ท่านที่มีจิตศรัทธาอยากร่วมทำบุญกับวัดป่าพระป่าก็สามารถร่วมทำได้โดยโอนเงินปัจจัยไปที่ท่านเจ้าอาวาสโดยตรงค่ะ นอกจากนี้ ถ้ามีปัจจัยพอจะนำไปสร้างแทงค์น้ำถวาย เพื่อจะได้แก้ปัญหาน้ำดื่มถาวรค่ะ


    ชื่อบัญชี พระอ่อนสา ฐิติคุโณ
    ธนาคาร กรุงเทพฯ จำกัด
    สาขา กิโลศูนย์
    เลขบัญชี 340-4-11629-9
    เบอร์โทรพระอาจารย์สา 089-578-9600
    เบอร์ฆารวาส อนุชา 01-966-5710 ( กรุงเทพ )

    โปรดแจ้งนาม หรือนามแฝงของท่านเพื่อนำรายชื่อกราบถวายพระอาจารย์
    ในกระทู้นี้ หรือแจ้งได้ที่ liusasitorn@yahoo.com

    โครงการนี้จะมีคุณอนุชาเป็นผู้ประสานงานที่กรุงเทพค่ะ

    รูปภาพในเบื้องต้นนี้สามารถเข้าไปชมได้ค่ะที่เว็บล่างนี้ ซึ่งคุณอนุชาจะนำมาโพสอัพเดทให้อีกเป็นระยะค่ะ
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=43806 รูปภาพและเรื่องราวได้รับการขออนุญาตจากพระคุณเจ้าและคุณอนุชา ซึ่งเพื่อนเพื่อนสามารถอ่านข้อมูลเริ่มต้นในการร่วมกันสร้างวัดนี้ให้เป็นวัดเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาค่ะ


    วัดนี้ยังจัดเป็นวัดที่ทุรกันดารอยู่มาก แม้ว่าจะทำบุญทอดกฐินผ่านไป ปัจจัยที่ได้ได้นำไปใช้ในการสร้างพระองค์ปฐม กุฏิพระ หนังสือธรรมะและติดตั้งไฟให้วัดได้มีไฟใช้ ซึ่งตอนนี้กำลังติดตั้งให้เสร็จสมบูรณ์ ตอนนี้ก็มีเรื่องน้ำและโรงครัวที่รอปัจจัยอยู่ค่ะ ขอเรียนเชิญทุกท่านมาร่วมด้วยช่วยกันให้พระภิกษุสงฆ์ และอุบาสกอุบาสิกาได้มีน้ำดื่ม น้ำใช้ และอาหารได้ฉันทุกมื้อค่ะ


    ขออนุโมทนาทุกท่านค่ะ <!--emo&:09:-->[​IMG]<!--endemo-->



    </TD></TR></TBODY></TABLE>



    ท่านผู้ที่มีความประสงค์ร่วมงานบุญนี้ ให้แจ้งที่เว็บลานธรรมตามลิงค์นะครับ หรือลิงค์ตามลายเซ็นผม เชิญร่วมทำบุญซื้อเครื่องสูบน้ำ ขุดเจาะน้ำ โรงครัว ครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    การร่วมบุญกับวัดบ่อเงินบ่อทอง

    พระพิมพ์ยังคงมีให้บูชาอยู่นะครับ โดยท่านที่บูชา จะประสงค์ที่จะร่วมทำบุญการสร้างกุฎิดิน หรือค่าน้ำ ค่าไฟของวัดบ่อเงินบ่อทอง ก็แล้วแต่ท่าน โดยให้แจ้งด้วยครับว่าประสงค์ทำบุญสร้างกุฎิดิน หรือค่าน้ำ ค่าไฟครับ

    *************************************************



    2. พระพิมพ์สมเด็จวังหน้า เนื้อพระธาตุ อายุประมาณ 130 กว่าปี ขนาดประมาณ 2.4 x 3.7 ซม มวลสารผสมกับเครื่องหอมอย่างดี ทำให้ยังมีกลิ่นหอม
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
    พระสมเด็จเนื้อพระธาตุนั้น นอกจากมีพระธาตุพระสาวก(ซึ่งมีฤทธิ์พอๆกับพระโมคลานะในพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) ในพระพุทธเจ้าองค์ที่ 2 ของกัปล์นี้

    ซึ่งพระพุทธเจ้าในกัล์ปปัจจุบันมี 5 พระองค์คือ
    1. พระกกุสันธะ
    2. โกนาคมนะ
    3. กัสสปะ
    4. โคตมะ(องค์ปัจจุบัน)
    5. อาริยเมตไตรยะ(องค์ต่อไป)

    ยังมีพระธาตุของสาวกองค์อื่นๆด้วยแต่ไม่ทราบว่าพระสาวกท่านชื่ออะไร เพราะท่านไม่บอกชื่อครับ

    ข้อควรระวัง
    1.ให้ระวังพระธาตุหลุดจากองค์พระแล้วหล่นลงพื้น ผู้ที่ทำหล่นแล้วไม่ทราบว่าทำหล่น เกิดมีผู้ไปเหยียบ ผู้ที่ทำหล่นและผู้เหยียบ จะเป็นกรรมหนักนะครับ
    2.ห้ามเข้าสถานที่อโคจรโดยเด็ดขาด

    ในพระสมเด็จเนื้อพระธาตุนั้น หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร) ท่านมาเสกให้ด้วยครับ



    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    [​IMG]
    องค์ละ 2,500 บาท
    (บริจาคโดย คุณ sithiphong จำนวน 20 องค์)





    3. พระพิมพ์สมเด็จวังหน้าเนื้อผงยาวาสนา อายุประมาณ 130 กว่าปี ขนาดประมาณ 2.4 x 3.7 ซม มวลสารเป็นผงยาวาสนาทั้งองค์ คราบสีขาวเกิดจากตัวยาในเนื้อพระคลายตัวออกมา


    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ พันวฤทธิ์
    ถีงคุณสิทธิพงษ์ และพี่น้องบ่อเงินบ่อทอง
    ช่วยเก็บพระเนื้อผงยาสีน้ำตาลที่คุณสิทธิพงษ์นำออกมาให้บูชา ไว้ให้เป็นสมบัติของลูกหลานด้วย นำพระของ อ.ประถมให้ฌาณลาภีบุคคลท่านนึงตรวจเรียงความแรงได้ดังนี้ (กระแสความแรงจากน้อยไปมาก)
    1.พระเนื้อกระเบื้องสีน้ำตาลที่มอบให้วัดบ่อเงินบ่อทอง
    2.พระวัดระฆัง เพดานโบสถ์วัดพระแก้ว
    3.พระเนื้อผงยา

    โดยผู้ตรวจ เมื่อตรวจพระองค์ที่ 3 ถึงกับสะดุ้ง อุทานว่า พระอะไรแรงยังงี้ วางที่ฝ่ามือ กระแสวิ่งปรู๊ด ถึงหน้าผากทันที เมื่อตรวจ กระแส พบว่าเป็นสี ม่วง คราม น้ำเงิน แดง ทอง ครบ แต่องค์ที่ 1 สีแดงอย่างเดียวแต่มีแรงกระแสต่อเนื่องมาเหมือนเข็มทิ่มมือตลอด (สงสัยต้องไปเอาที่ท่าน อ.แผนเพิ่มสำหรับแจกหลานๆ อีกหลายองค์) องค์ที่ 2 ก็ยังแปลกใจว่าทำไมรังสีเป็นสีทอง ทำไมไม่เป็นสีแดง เพราะองค์ผู้เสกคือเจ้าประคุณสมเด็จฯ องค์เดียว สงสัยถ้าเจอ อ.ประถมคราวนี้ ต้องถามว่าพระสกุลบุนนาคชุดนี้ หลวงปู่องค์ที่ 1 ได้ร่วมเสกหรือเปล่า เพระเป็นรังสีสีทอง กลบสีแดงหมด ส่วนเนื้อผงยา ต้องถามคุณสิทธิพงษ์ว่า น่าจะเสกครบทั้ง 5 องค์มั๊ง เพราะคนตรวจยืนยันว่า รังสีครบ (ตอนตรวจ ผมนั่งเฉย ขอฟังอย่างเดียว กับตรวจรังสีได้ตรงกับรังสีประจำตัวของหลวงปู่ และเจ้าประคุณสมเด็จฯ จริงแฮะ หรือคุณสิทธิพงษ์ ว่าไงครับ)



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
    พระสมเด็จเนื้อยงยาวาสนานั้น ชุดที่ผมนำมาให้ร่วมทำบุญนั้น หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 องค์ (1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร) 4.หลวงปู่พระณาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน) ร่วมกันเสกครับ



    </TD></TR></TBODY></TABLE>




    [​IMG]
    องค์ละ 2,000 บาท
    (บริจาคโดย คุณ sithiphong 5 องค์, คุณ guawn 15 องค์, นักเดินทาง 10 องค์)


    <เพิ่มเติม 30 ส.ค. 49>

    4. พระพิมพ์สมเด็จวังหน้าเนื้อผงยาวาสนาคะแนนร้อยแบบธรรมดา คำว่าคะแนนร้อยหมายความว่าองค์ที่ 100 คือเมื่อช่างกดพิมพ์ถึงองค์ที่ 100 จะใช้พิมพ์ที่ด้านบนมน เพื่อใช้ในการนับจำนวนพระ นั่นก็คือพระคะแนนจะมีน้อยกว่าแบบธรรมดา 1:99 อย่างอื่นเหมือนพิมพ์ธรรมดาทุกประการ
    [​IMG]
    องค์ละ 2,200 บาท

    5. พระพิมพ์สมเด็จวังหน้าเนื้อผงยาวาสนาคะแนนร้อยแบบขอบชิดซุ้ม คำว่าคะแนนร้อยหมายความว่าองค์ที่ 100 คือเมื่อช่างกดพิมพ์ถึงองค์ที่ 100 จะใช้พิมพ์ที่ด้านบนมน เพื่อใช้ในการนับจำนวนพระ นั่นก็คือพระคะแนนจะมีน้อยกว่าแบบธรรมดา 1:99 อย่างอื่นเหมือนพิมพ์ธรรมดาทุกประการ
    [​IMG]
    องค์ละ 2,200 บาท



    การบริจาค
    บริจาคโดยโอนเงินเข้าบัญชีต่อไปนี้

    หมายเลขบัญชีเพื่อรับบริจาค
    พระมหาแผน ฐิติธัมโม 01-9408541
    สำนักสงฆ์บ่อเงินบ่อทอง
    ประเภทบัญชี : ออมทรัพย์
    หมายเลขบัญชี : 203-0-06304-5
    ธ.กรุงไทย สาขาพนมสารคาม
    ชื่อบัญชี : ร.ร.ปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทอง



    เมื่อโอนเงินแล้ว กรุณา msg ข้อความส่วนตัว แจ้งชื่อที่อยู่ให้กับคุณนักเดินทาง(หรือผม)เพื่อให้คุณนักเดินทางเป็นผู้จัดส่งวัตถุมงคลให้กับผู้ที่ร่วมบุญบริจาค ขอโมทนาสาธุกับท่านผู้ใจบุญ ที่คอยเมตตาช่วยเหลือพระภิกษุ-สามเณร วัดบ่อเงินบ่อทอง เสมอมา ขอให้ท่านทั้งหลายจงประสบแต่ความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม


    .
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จากกระทู้ "ให้ร่วมกันสร้าง เราจะมาโปรดสัตว์ไม่ให้สร้างคนเดียว"
    http://www.palungjit.org/board/showt...t=57546&page=7

    <TABLE class=tborder id=post381486 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">17-11-2006, 04:39 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#183 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>toe<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_381486", true); </SCRIPT>
    สมาชิก GOLD
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 09:16 AM
    วันที่สมัคร: Nov 2005
    สถานที่: //////////////
    ข้อความ: 1,495 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 3,017 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 10,207 ครั้ง ใน 1,369 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 1280 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_381486 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ผู้ที่บริจาก1000บาทขึ้นไป ทางคณะผู้จัดสร้างพระแม่จะมอบ"ถุงมงคล" ให้หนึ่งใบ เป็นถุงผ้าต่วนปักอย่างสวยงาม ข้างในถุงมงคลจะมีของมงคลมากมายจากทั้งในและต่างประเทศดังนี้:
    1.โหงวจี่(ถั่วงา-ข้าวสารเสกจาก9วัดใหญ่ในและต่างประเทศ)*หมายถึงความเจริญรุ่งเรือง*


    2.ผงธูปอธิฐานจาก 7วัดใหญ่ในประเทศไทยและผงธูปจาก"องค์ไต๋ฮงกง"(อากงปอเต๊กตึ้งประเทศจีน)ผงธูปจากองค์"ตั่วเหล่าเอี้ย"(เจ้าพ่อเสือที่มีชื่อเสียงจากประเทศจีน)*หมายถึงพระญานของพระ-เทพเจ้าทั้งหลาย*


    3.ผ้ายันต์ขององค์พระแม่กวนอิม(พระอวโลกิเตศวร)ได้รับความอนุเคราะจากยาติผู้ใหญ่ที่นับถือเมื่อทราบข่าวในการบุญครั้งนี้จึงได้ให้ผ้ายันต์"กวนอิม"ที่เก็บมากว่า30ปีแล้ว 1 กล่องใหญ่*หมายถึงการปกปักรักษาคุ้มครอง*


    4.ไข่มุกเจ้าแม่กวนอิมจากวัด"เล่ง เร่ย ยี่(วัดมังกร เยาวราช)*หมายถึงความมั่งมีศรีสุขที่แปลว่า"ไฉจู"*


    5. ยันต์ขององค์"ไต้ ฮง กง"(หลวงปู่ปอเต๊กตึ้ง)*กันสิ่งอัปมงคล
    เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ท่านและครอบครัว*


    6.ทรายเสกหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(ฤาษีลึงดำ)


    7.ทรายเสกคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติมหลาย10ปีมาแล้ว "ของหายากไม่มีอีกแล้ว"


    8.ทรายเสกหลวงพ่อใหญ่(หลวงปู่สังวาล เขมโก)สุพรรณบุรี (หาไม่ได้ที่ไหนอีกแล้วเพราะท่านทำให้คุณแม่เท่านั้น)

    9.แป้งเสกของ"หลวงปู่บุดดา" (หาไม่ได้อีกแล้วของเก่าของคุณแม่)
    ของมงคลทั้งหมดนี้ได้มาจากความอนุเคราะจาก"คุณแม่" "ญาติผู้ใหญ่"และ"ท่านผู้ใหญ่"ที่เคารพ เมื่อท่านทราบว่าจะทำบุญใหญ่ครั้งนี้จึงนำเอาของมงคลทั้งหลายมาให้เพื่อจัดสร้างองค์พระแม่กวนอิม ข้าพเจ้า(โต)ขอกราบขอบพระคุณท่านผู้มีพระคุณทุกๆท่านที่เมตตาในครั้งนี้....กราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง สาธุ สาธุ สาธุ


    จะมีพิธีสวดมนต์ใหญ่จากคณะ(บ้านบึง)ในงาน"ถวาย"พระแม่กวนอิม ของมงคลทุกอย่างจะเข้าร่วมพิธีด้วยเพื่อขอบรามีพระแม่กวนอิมให้ทุกๆท่านและครอบครัวมีแต่ความสุขความเจริญยึ่งๆขึ้นไป ...สาธุ สาธุ สาธุ
    <!-- / message --><!-- sig -->__________________
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จากกระทู้ "ให้ร่วมกันสร้าง เราจะมาโปรดสัตว์ไม่ให้สร้างคนเดียว"

    <TABLE class=tborder id=post393584 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 08:56 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#286 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>MOUNTAIN<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_393584", true); </SCRIPT>
    สมาชิก GOLD
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 04:38 PM
    วันที่สมัคร: Dec 2005
    ข้อความ: 2,319 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 7,609 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 11,871 ครั้ง ใน 2,074 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 1453 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_393584 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->
    ผมจะนำรายชื่อผู้บริจาคทั้งหมดจารึกลงบนแผ่นโลหะ
    แล้วใส่ไว้ในถ้วยกังไสที่มีพระคาถา ไต่ปุ่ยจิว เขียนด้วยตัวหนังสือสีทอง
    รอบถ้วย เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ทุกท่านและครอบครัว สืบไปตราบนานเท่านาน และจะนำไปวางไว้หน้าแท่นบูชาพระแม่ฯวันประดิษฐาน ตลอดไป
    [​IMG]


    นอกจากนี้ ทุกรายชื่อ จะนำมาจับสลากเสี่ยงทาย ต่อหน้าองค์พระแม่
    เพื่อมอบสิ่งมงคลศักดิ์สิทธิ์ ให้กับผู้โชคดี จัดเป็นชุด(จำนวน 8 ชุด) ซึ่งอาจไม่เหมือนกันในแต่ละชุด
    ถือว่าเป็นสื่อแห่งความเมตตาของพระโพธิสัตว์กวนอิมที่จะมอบให้ นะครับ


    รางวัล สำหรับเสี่ยงทายจับสลาก ต่อหน้าองค์พระแม่ฯ
    เพื่อมอบให้กับผู้ร่วมทำบุญ ที่มีโชค
    ดังนี้-

    พระพุทธรูปบูชา ขนาด 3 นิ้ว แกะจากหินที่ประทับ
    ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประเทศอินเดีย
    ที่เขาคิชกูฏ

    พระพุทธรูปหินแกะ จากสถานที่พระพุทธองค์เสด็จประทับ
    เมืองอะไรจำไม่ได้แล้ว โดนน้ำแล้วจะกลายเป็นสีดำ ขนาด 2-3 นิ้ว

    พระพุทธรูปหินพระธาตุแกะสีขาว จากเขาสามร้อยยอด

    หินหยกแกะเป็นพระแม่กวนอิน ขนาดห้อยคอ

    ถ้วยใส่น้ำมีฝาปิด พานรองรูปบัว มีพระคาถาสีทอง
    มนต์มหากรุณาธารณีสีทอง รอบถ้วย จำนวน 8 ชุด
    ภายในถ้วยจะมีของมงคลใส่ไว้ให้อีกด้วย
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    ฯลฯ

    งานนี้จะพยายาม จัดให้ได้มากชุด เท่าที่จะจัดได้
    และคงเป็นงานที่ผมจะทุ่มเทของที่ผมเก็บสะสมมานาน
    มอบให้กับผู้ร่วมทำบุญ ด้วยวิธีเสี่ยงทายจับสลาก
    ท่านหนึ่งจะทำบุญเท่าไรก็ได้ ถือว่าได้ 1 สิทธิ์


    ขอให้ทุกท่านมีดวงตาเห็นธรรม นำพาชีวิตสู่บรมสุข และถึงซึ่ง
    พระนิพพานเป็นที่สุด สาธุ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จากกระทู้จากกระทู้ เชิญร่วมทำบุญซื้อเครื่องสูบน้ำ ขุดเจาะน้ำ โรงครัว ค่าแรงขุดเจาะ เครื่องสูบน้ำให้วัดป่าทุรกันดาร อุบลราชธานี
    http://larndham.net/index.php?showtopic=23122&st=0

    หรือกระทู้ สโมสรนักบุญภูเหล่าเงินฮาง ร่วมสร้างสรรกับ คณะเบิกบาน บันเทิงบุญ
    http://www.palungjit.org/board/showt...=43806&page=68


    ผมได้ฝากพระพิมพ์สมเด็จเนื้อผงยาจินดามณี(สีดำ) ซึ่งเป็นพิมพ์พระคะแนนร้อยให้กับคุณนักเดินทาง เพื่อมอบให้กับผู้ที่ทำบุญกับวัดภูเหล่าเงินฮาง องค์ละ 2,200 บาท
    ขออนุโมทนาในบุญกุศลด้วยครับ


    <TABLE class=tborder id=post310544 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal">วันนี้, 05:37 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal" align=right>#666 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 width=175>นักเดินทาง<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_310544", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 06:38 AM
    วันที่สมัคร: Jul 2005
    อายุ: 38
    ข้อความ: 785 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    Thanks: 2,343
    Thanked 3,612 Times in 633 Posts <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 554[​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]




    </TD><TD class=alt1 id=td_post_310544><!-- message -->พระพิมพ์สมเด็จวังหน้าเนื้อผงยาจินดามณีคะแนนร้อยแบบขอบชิดซุ้ม คำว่าคะแนนร้อยหมายความว่าองค์ที่ 100 คือเมื่อช่างกดพิมพ์ถึงองค์ที่ 100 จะใช้พิมพ์ที่ด้านบนมน เพื่อใช้ในการนับจำนวนพระ นั่นก็คือพระคะแนนจะมีน้อยกว่าแบบธรรมดา 1:99 อย่างอื่นเหมือนพิมพ์ธรรมดาทุกประการ เสกโดยบรมครูพระเทพโลกอุดรทั้ง 5 องค์

    [​IMG]
    องค์ละ 2,200 บาท


    บูชาโดยการบริจาคให้วัดภูเหล่าเงินฮาง
    พระอ่อนสา ฐิติคุโณ
    ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด สาขากิโลศูนย์
    เลขบัญชี 340-4-11629-9
    เบอร์โทรพระอาจารย์สา 0895789600

    บริจาคแล้วแจ้งชื่อ-ที่อยู่มาที่คุณนักเดินทางผ่านทางข้อความส่วนตัว คุณนักเดินทางจะเป็นผู้จัดส่งพระพิมพ์ให้
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    ยินดีด้วยครับ ที่มีพระของหลวงปู่กรุเก่าซะด้วย 2 องค์แรก เป็นพิมพ์ปิดตาเอกลักษณ์ (มีอักษรขอมที่ฐาน อ่านว่า อุ หมายถึงโลกอุดร) องค์ที่ 3 เป็นพิมพ์รูปเหมือน(มี 3 ขนาด) ดูแล้วน่าจะเป็นพิมพ์กลาง เพราะเล็กกว่าของผมนิดนึง องค์ที่ 4 น่าจะเป็นอรหันต์กลาง อ.ประถมเคยบอกผมเองว่า แขวนอรหันต์กลางแล้วเจ้าชู้ชะมัด ถ้ายังไม่มีแม่บ้านละคราวนี้ไม่รอด ถ้ามีแล้วก็ระวัง สาวจะให้พาไปเลี้ยง (ทุกวันนี้มีอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ได้แขวนครับ กั๊วกัวจริงๆ กลัวไอ้ที่ติดจะไม่ใช่สาว กลัวเป็นเจ้าหนี้มาทวงเงินแทน) ขอแสดงความยินดีอีกครั้งครับ แถมขออิจฉานิดๆ แหมหลวงปุ่อยู่กุฎิทองซะด้วย
     
  12. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    เหนื่อยงานนักพักผ่อนจิต ให้รางวัลกับชีวิต ด้วยความสงบ แห่งวิถีจิต อันเปรียบเสมือนเรือใหญ่ สำหรับพายข้ามวังวนแห่งความเกิด และความดับนี้
    เหมือนเสบียงที่เลี้ยงตัวก่อนเดินทางถึงจุดหมาย..............





    <CENTER><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=5 width="100%" bgColor=#ffa600 border=3><TBODY><TR><TD borderColor=#000000 width="90%" background=นิโรธสัญญา_files/bgthai1.gif>


    <CENTER><TABLE borderColor=#0000ff cellSpacing=2 cellPadding=2 width="90%" border=1><TBODY><TR><TD align=middle>[SIZE=+1]นิโรธสัญญา (โดย ท่านพระคุณเจ้าหลวงพ่อดาบส สุมโน อาศรมไผ่มรกต เชียงราย)[/SIZE]</TD></TR><TR><TD align=left>นิโรธ แปลว่า ดับความทุกข์ ความชั่ว บาป ดับรูปกาย นามซึ่งมีในกายดับจากวัตถุธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า นิพพาน ดับหรือว่างจากทุกสิ่งทุกอย่างในโลก นรก สวรรค์ พรหม ไม่เหลือการเวียนว่ายตายเกิด ซึ่งเป็นสาเหตุของความทุกข์ยากลำบากอีกต่อไป
    สัญญา แปลว่า ความจดจำ หมายจำเอาไว้หรือจำได้
    นิโรธสัญญา จึงแปลว่า ความจำได้หมายรู้ในการดับความทุกข์ยากลำบากทั้งปวง ดับธาตุทั้งหมด ดิน น้ำ ลม ไฟ ให้เหลือแต่ความว่างเปล่า การปฏิบัตินิโรธสัญญานี้เป็นทางลัด รวดเร็ว ทำง่ายมาก เป็นการปฎิบัติได้ผลรวดเร็วไม่ยากนัก เพียรเฝ้าทำจิตให้ว่างจากสิ่งที่เป็นของหนักคือ ร่างกายเราเขาหรือขันธ์ ๕ ขจัดสิ่งวุ่นวายวิตกกังวลเรื่องต่างๆออกจากจิตเท่านั้น
    ทางปฎิบัตินิโรธสัญญา ก็เริ่มด้วยตัดจิตให้มีเมตตาไปยังสรรพสัตว์ทั่ว ๓ โลก นรกโลก เทวโลก รักษาศีล ๕ ให้ครบถ้วน การเฝ้ากำจัดความคิดที่ไม่ดีไร้สาระออกจากจิตก็เป็นสมาธิอย่างหนึ่ง การเฝ้าพิจารณาทุกสิ่งทุกอย่างในโลกในที่สุดก็แตกสูญสลายกลายเป็น ดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นอากาศ แยกกระจายจากอนูเป็นอะตอมเล็กๆละเอียด เป็นธาตุว่างคือวิปัสสนาญาณ
    ผู้มีศีลเจริญสมาธิภาวนานิดเดียวตั้งจิตทำเพื่อจิตเข้าสู่ความสุขอย่างยิ่งคือ พระนิพพาน ก็เข้าถึงเมืองแก้วพระนิพพานได้ง่าย พระนิพพานนั้นไม่ใช่ไกลเกินเอื้อมออกไป อยู่ในจิตในใจเรานี่เอง เรียกว่า สอุปาทิเสสนิพพาน ทั้งที่ขันธ์ ๕ กายยังไม่แตกสลาย ถ้าร่างกายตายจิตสะอาดหมดความยึดติดในขันธ์ ๕ จิตก็จะเคลื่อนเข้าเสวยความสุขยอดเยี่ยมแดนทิพยนิพพาน เรียกว่า อนุปาทิเสสนิพพาน
    นิโรธสัญญา คือการเพียรพยายามทำจิตให้ว่างจากสิ่งที่เป็นของสมมุติทั้งปวงในโลก รวมถึงชีวิต คนและสัตว์ ทรัพย์สิ่งของเป็นของสมมุติเป็นของชั่งคราวทั้งสิ้นเป็นของปลอม พระนิพพานธาตุ พุทธิธาตุ ภูตะธาตุ อสังขธาตุ ทั้งหมดนี้เป็นของจริง เป็นธาตุอะตอมไม่ตายไม่สูญสลายเหมือนธาตุของโลก ถึงตาจะมองไม่เห็นแต่มีอยู่จริง เป็นธาตุบริสุทธิ์มีอยู่แล้วโดยธรรมชาติ ไม่มีใครสร้าง เปรียบธาตุนิพพานอมตะนี้ก็เหมือนเมืองหรือฝั่งข้างโน้นที่เราจะข้ามไป จิตเป็นนามธรรม อาศัยอยู่ในกายในขันธ์ ๕ ที่เป็นของสมมุติชั่วคราว จิตเป็นธาตุบริสุทธิ์ โดยธรรมจากในจิตนั้น มีธรรมกายหรือพุทธิกาย หรือนามกายทิพย์ นิพพานกายอยู่ มีตา หู จมูก ลิ้น กายทิพย์ จิตทิพย์ ไม่ต้องทำขึ้น มีอยู่แล้ว ไม่ตายเป็นอมตะ ในกายทิพย์นิพพานไม่มีประสาท ไม่มีอวัยวะภายใน โปร่งใสเบา เย็นสบายเป็นจิตรู้ฉลาดสะอาดบริสุทธิ์ อิสระจากกฎทั้งปวงอยู่เหนือกฎของกรรมหรือกฎของธรรมชาติ หรือเรียกอีกอย่างว่า จิตของพระอรหันต์ จิตของพระขีณาสพ ผู้หมดกิเลสอวิชชาตัณหาอุปาทานบาปทั้งปวง
    รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส อารมณ์ดีร้ายทั้ง 6 นี้ เป็นผู้มาทีหลัง เป็นของผ่านไปมา เป็นของสมมุติ เป็นของปลอม ไม่ใช่ของจริง เป็นของร้อนเป็นของหนัก ถ้าจิตเราไปคิดเอาเป็นจริงก็ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ผิดหวังเป็นทุกข์ใจมิได้หยุดหย่อน รูปเสียง กลิ่น รส สัมผัส อารมณ์ทั้งหลายเป็นของสกปรกของชั่วคราวเป็นฝ่ายดำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องรู้เท่าทัน และกำจัดออกจากจิตทันที คือให้ว่างเปล่าจากของที่เป็นทุกข์เป็นโทษ จิตจะอยู่ว่างเปล่าเฉยๆ ไม่ชินก็นึกถึงพระคุณความดีขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า นึกถึงฝั่งแดนทิพยนิพพานเป็นสุขเลิศล้ำ นึกถึงร่างกายสมมุตินี้ตายโดนเผาทิ้งแน่นอน แบบนี้จิตจะว่างจากของหนัก ว่างจากความเครียด ความฟุ้งซ่าน ความวุ่นวายหรือปลอดภัยจากอันตรายได้ เพราะจิตว่างสะอาด ปราศจาก โลภ โกรธ หลง เพราะมีแต่พระรัตนตรัย พระนิพพานเต็มเปี่ยมอยู่ในจิต แถมอีกนิดมีเมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้ง ๓ โลก ต้องการให้ทุกผู้ทุกคนพ้นทุกข์ได้เหมือนเรา
    วิธีปฏิบัตินิโรธสัญญา หรือ ทำจิตให้ว่างจากกิเลส ตัณหา อุปาทาน บาปกรรม มี ๓ อย่าง
    1) โน้มใจเข้าหาความว่าง ด้วยการนึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพระมหาเมตตา มีพระปัญญาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ นำสัตว์ชี้ทางเข้าสู่พระนิพพาน เริ่มระลึกถึงความว่างเปล่าไม่มีอะไร ทั้งโลกอากาศว่างเปล่า ธาตุว่างอยู่รอบตัวเราเอิบอาบไปทั่ว เป็นธาตุอะตอม โอบอุ้มทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นธาตุเบา ธาตุเย็น ธาตุสงบ ธาตุพอเพียง ธาตุแท้จริง
    2) ทำจิตว่างด้วยสลัดขจัดทิ้งความคิดไม่ดีไร้สาระออกจากจิต หรือปล่อยวางอารมณ์ดีชั่วทั้งปวงออกจากจิตให้มีเพียงแต่คำว่ารู้ แต่ไม่นำเอามาคิดปรุงแต่งเป็นตัวเราตัวเขา เป็นแต่เพียงธาตุของโลก จิตเป็นธาตุเบาไม่เอาไปปนกับธาตุหนักๆของโลก กายก็เป็นธาตุของโลกไม่ใช่ของจิต แต่จิตก็เพียงให้รู้ว่าจิตมาอาศัยอยู่ในกายบ้านสมมุติชั่วคราว ไม่เอามาปนกับจิต จิตส่วนจิต กายส่วนกาย ไม่ใช่อันเดียวกัน มีกายแล้วจิตก็ทำเป็นว่าไม่มี เพราะไม่ช้ากายก็ตายสูญสลาย ไม่มีกายอีก เป็นของว่างๆ เพียรคิดสลัดกาย อารมณ์ทั้งหลายออกจากจิต จิตจะสว่างสะอาดจากกิเลสเฝ้าผูกพันยึดมั่นกายเรากายเขา แต่ก็ยังคงทำหน้าที่การงาน สังคมครบถ้วน จิตใจสะอาดผ่องใส ร่างกายก็ไม่มีโรคหรือโรคน้อย จิตก็จะแปรสภาพจากหนักเป็นเบา โปร่งสบาย จิตหยาบก็จะกลายเป็นจิตละเอียดสะอาดผ่องใส ไม่มีความวุ่นวายจิตสงบนิ่งมีปัญญาดี
    3) วิธีทำจิตให้สะอาดว่างจากกิเลสแบบให้สังเกตหรือจับดูอารมณ์ตามความเป็นจริง แต่มิใช่ให้จับแบบยึดมั่นถือมั่น คือจิตมันชอบคิดเรื่องต่างๆอยู่เสมอ มันคิดอะไรก็เอาเรื่องนั้นแหละมาพิจารณาดูให้ลึกและไกลออกไป ให้เห็นความไม่คงที่ จะเป็นไปในทางที่ดีหรือไม่ดีก็เท่ากันไม่มีอะไรเป็นจริงเป็นจัง เป็นแก่นสารย่อมถึงความแปรผันดับสูญเสมอกัน
    เงาในกระจกหรือเงาในน้ำมิใช่ของจริงฉันใด สรรพสังขาราทั้งหมดก็ไม่ใช่ของจริงฉันนั้น หรือจะมองชีวิตทั้งหมดนี้เหมือนความฝันก็ได้ เพราะจุดจบของชีวิตคือความตาย ความตายของชีวิตร่างกายของคนนี่แหละ คือการตื่นจากความฝัน คือจิตออกจากร่างไปหาที่อยู่ใหม่ ที่อยู่ใหม่ของเราท่านเที่ยงแท้แน่นอนไม่ยอมแปรผันอีกต่อไปคือ แดนอมตะทิพยนิพพาน
    เมื่อมาพิจารณารู้ความจริงของชีวิตร่างกายทุกผู้ทุกนามแล้ว ก็จะเห็นได้ว่าสิ่งที่มีอยู่เป็นอยู่ทั้งคน สัตว์ สิ่งของ มีก็เท่ากับไม่มี คือว่างเปล่านั่นเอง เพราะสูญสลายไม่ช้าก็เร็ว
    เมื่อกำหนดจิตเห็นทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเป็นของว่างเปล่า จิตก็จะเข้าถึงความว่าง ธาตุว่างจากทุกสิ่งทุกอย่างในโลก เมื่อพิจารณาทบทวนถึงความไม่มีในร่างกายเรากายเขา ขันธ์ ๕ เรา ขันธ์ ๕ เขา มันมีแล้วก็เหมือนกับไม่มี เพราะแปรปรวนไม่เที่ยงแท้แน่นอน ไม่จริง เป็นของปลอมของสมมุติ หาตัวตนตัวเราตัวเขาไม่ได้ เพราะทุกอย่างมีแต่เดินทางหาความทรุดโทรม ผุพังสลายตายกันในที่สุด จิตก็จะหลุดจากกิเลสคือว่างจากความทุกข์ยาก จิตจะเป็นอิสระเสรีไม่ยึดเกาะในสิ่งของจอมปลอมอีกต่อไป ถึงแม้จิตจะยังอาศัยอยู่ในกาย แต่จิตไม่หลงรักว่าเป็นอันเดียวกับจิต อย่าเอาจิตไปนึกว่ามันมี รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ปล่อยไปเพียงแต่ผ่านมาผ่านไปเท่านั้น ถ้าทรงอารมณ์อยู่จิตไม่สนใจขันธ์ ๕ ของใครวางเฉยไม่ทุกข์ร้อน ทำงานทุกอย่างตามหน้าที่ อารมณ์เฉยเป็นเอกัคตารมณ์ เห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีสำหรับเรา เราไม่มีสำหรับกาย จิตจะสะอาดเบิกบานผ่องใสพ้นจากความยึดมั่นในของปลอมของทุกข์ของร้อนพระท่านเรียกว่า จิตของพระอรหันต์
    วิธีทำจิตให้ว่างจากกายเรากายเขาแบบนี้ เป็นวิธีลัดแบบง่าย มีแต่พรหมวิหาร ๔ ไม่ยึดถืออารมณ์ใดๆมาไว้ในจิตมีความจำได้หมายรู้ก็เหมือนไม่มีความจำ เพราะความจำอยู่ได้ไม่นานไม่ช้าก็ลืม ประสาทสมองลืมง่าย ความคิดความจำ ความฟุ้งซ่าน วิตกกังวลเป็นเรื่องของกายให้สลัดทิ้ง ให้จิตเต็มไปด้วยพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่มี คนเกิดมาเท่าไรก็ตายหมดสลายหมดเท่านั้น ทุกอย่างไม่เที่ยงแท้ค่อย ๆ ทำแบบสบายอย่าเร่งรัด คอยเป็นค่อยไป จิตให้มีความรู้สึกอยู่เสมอว่ากายเป็นของไม่จริง ของชั่วคราว พังสลายในที่สุด จิตเป็นของจริงของเบาของบริสุทธิ์สะอาด จิตอันนี้เราจะตามรอยพระพุทธบาทพระศาสดาเข้าพระนิพพานเมื่อร่างกายพังนี้แตกสลาย
    ผู้เพียรทำจิตให้ว่างจากร่างกาย หรืออารมณ์ต่างๆแบบนี้เป็นแบบของพระอริยเจ้า เป็นสมาธิเป็นวิปัสนาญาณอยู่ด้วยกัน ทำได้ทุกเวลา ทุกอิริยาบถ นั่ง นอน ยืน เดิน ทำได้ทั้งที่อยู่คนเดียวและอยู่แบบหมู่คณะ เป็นทางหลุดพ้นทุกข์ได้อย่างแน่นอน เป็นทางลัดตรงไปถึงจุดหมายปลายทางคือพระนิพพานได้รวดเร็ว
    อันจิตเรา ๆ ท่าน ๆ นี้เป็นจิตอมตะ เป็นจิตที่ไม่มีวันแก่ จิตไม่มีวันเจ็บ จิตไม่มีวันสูญสลายตาย เป็นธรรมชาติวิเศษยอดเยี่ยม เป็นธาตุกายสิทธิ์ สมควรที่เราท่านควรให้ความสนใจรักษาจิตให้สะอาดสดใสเป็นพิเศษอยู่ตลอดเวลา จิตนี้ถ้ารู้สิ่งใดก็ถึงสิ่งนั้นได้ทันที รู้ว่าพระนิพพานมีอยู่ พระนิพพานเป็นความดับทุกข์ ดับขันธ์ 5 ดับรูป นาม ที่เป็นของปลอม จิตเป็นของจริง นิพพานมีอยู่ทั่วไป แม้ยังไม่ตายจิตก็มีสภาวะพระนิพพานได้ ด้วยการทำจิตแยกจิตออกจากขันธ์ 5 กำหนดความไม่มีในขันธ์ 5 เข้าไว้ จิตจะเลิกยึดถือกับร่างกายขันธ์ 5 ตนเองได้ง่าย ๆ เพราะความชิน คิดว่าไม่มีจนชิน เราไม่เอาขันธ์ 5 เพื่อว่าเราต้องการไปดินแดนที่เป็นสุขจริงตลอดกาล คือ นิพพาน ไม่มีภพ ภูมิใด ๆ เสมอเหมือน ไม่ใช่เทวโลก ไม่ใช่พรหมโลก ไม่ใช่มนุษย์โลก นิพพานเป็นเมืองทิพย์เป็นเพชรที่มีแสงสว่างเป็นที่ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง อันตรายที่น่ากลัวที่สุดคือ อันตรายจากการเวียนว่ายตายเกิดไม่จบไม่สิ้น
    รูปฌาน คือ จิตกำหนดเอารูปร่างกาย เป็นสมาธิภาวนา เช่น ดูลมหายใจเข้าออก เพ่งภาพพระพุทธรูปก็เป็นรูปฌาน
    อรูปฌาน คือ จิตกำหนดเอาอากาศ วิญญาณ ความไม่มีอะไรทั้งหมดในโลก ความไม่มีความจำได้หมายรู้เป็นสมาธิ ภาวนา
    นิพพานธาตุ คือ นิโรธธาตุ อันเดียวกัน มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง แม้ในจิตเราท่านที่อยู่ในร่างกายที่สกปรกนี้ ทำจิตให้เข้าถึงพระนิพพานได้ทันทีทั้งๆที่ยังไม่ตาย นิพพานไม่ใช่มนุษย์โลก เทวโลก พรหมโลก แต่อยู่เหนือโลกทั้งสิ้น มีอยู่ทั่วไปถ้าจิตจิตดับทุกข์ดับขันธ์ ๕ ว่างจากกิเลส รู้สภาวะพระนิพพานทันที
    นิโรธสัญญาเป็นทั้งสมถะภาวนา และวิปัสสนาภาวนา คือทำใจว่างไม่มีอารมณ์ใดๆทั้งปวงคือเฉยๆ จิตจะสะอาดปล่อยวางจากทุกสิ่งทุกอย่างในโลก รวมทั้ง รูป รส กลิ่น เสียง ก็ไม่ให้มีในจิตใจเราเพื่อที่จะนำจิตใจไปสู่ธาตุแท้ ธาตุบริสุทธิ์ แจ่มใสเบิกบาน เป็นจิตพุทธะดั้งเดิม เป็นจิตประภัสสร ดั้งเดิม ตามที่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าได้โปรดเทศนาสั่งสอนเอาไว้
    นิโรธสัญญา ทำจิตให้ว่างจากพันธะใดๆในโลก จะทำวิชชาให้สำเร็จด้วยฤทธิ์ก็ย่อมทำได้ เพราะจิตสงบทรงตัว สามารถใช้งานมีพลังจิตมหาศาล แต่ผู้ที่เจริญความว่างทางจิตแบบนี้แล้ว ท่านก็ไม่ต้องการอิทธิฤทธิ์ ความรู้พิเศษใดๆอีก ทั้งสิ้น เพราะจิตท่านอิ่มด้วยความสุข สงบ สบาย สว่างสดใส ไม่ต้องการอะไรอีกต่อไป เป็นความสุขยอดเยี่ยม ไม่สามารถบรรยายเป็นตัวหนังสือได้


    </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
    อ่านจบ หลับตาลงช้าๆ นิดนึง แล้วภาวนา พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ทำจิตให้เบิกบาน เสมือนหนึ่งเข้าเฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต่อหน้าเบื้องพระพักตร์ โน้มจิตที่เป็นปีติ ส่งบุญให้กายทิพย์ของพ่อแม่ผุ้ให้กำเนิดเราผุ้เป็นลูก ให้สะเทือนเลื่อนลั่น อธิษฐานขอให้ท่าน อย่าได้เจ็บ อย่าได้ไข้ ขอให้พบแต่สิ่งที่ดีมีแต่ความสุข และเป็นกำลังใจให้แก่เราผุ้เป็นลูกตลอดไป..........
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2006
  13. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    ผมอ่านข้อความของคุณอู๊ดลาดพร้าว แล้ว ให้รู้สึกสังเวชใจพวกเหลือบในวงการพระพุทธศาสนา พวกนี้เขาทำกันเป็นทีม เริ่มจากตีพิมพ์ลงโฆษณา
    ทั้งจากหนังสือพิมพ์ และวารสารพระเครื่อง เพื่อกระตุ้นความต้องการของผู้คน
    ให้เกิดศรัทธา ทั้งๆที่เมื่อก่อนหน้าที่จะมีโฆษณา ก็แทบหาคนสนใจไม่ได้มากนัก พอเข้าจังหวะ ก็พากันฉวยโอกาส ขึ้นราคาพระกันเป็นทอดๆ
    กินกันเป็นทีม แต่ก็ช่างเถอะ สังคมเขาทำให้คนเป็นอย่างนี้ ปล่อยเขาไป
    บาปกรรมมีจริง ถึงเวลาก็รับการชดใช้กันไป

    ขอให้กำลังใจคุณอู๊ดลาดพร้าว ไม่ต้องคิดอะไรมาก (ผมคิดไปแล้ว )
    ถือว่าได้เลี้ยงดูผู้ตกทุกข์ได้ยาก ให้เขาได้มีกินอย่างสุขสบาย ด้วยปัจจัยของเรา ก็แล้วกันนะครับ สาธุ
     
  14. Baramee

    Baramee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +1,032
    คุณพันวฤทธิ์
    ของคุณก็งามมากเช่นกัน

    ผมเคยไปพบอาจารย์ประถมเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว
    ไปคุยกับท่าน 5-6 ครั้งได้
    ไม่ทราบท่านยังชอบเลี้ยงสุนัขในบ้านอยู่หรือไม่

    ผู้มีพระของหลวงปู่และปฏิบัติธรรม
    ย่อมได้พบกับหลวงปู่แน่นอน เพราะมีสื่อที่จะส่งถึงท่านได้

    หลวงปู่ท่านเน้นที่สติและการรักษาอารมณ์ของจิตครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. kaicp

    kaicp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +1,190
    คุณสิทธิพงษ์และคุณนักเดินทางครับ

    ได้รับพระแล้วครับ เมื่อ 29/11/49

    ขอบคุณมากครับ
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรื่องน่ารู้ต้องอ่าน และควรบอกต่อ
    เพียงแค่สลิป ATM ที่ไม่มีค่าก็สามารถทำให้เงินของท่านหายไปได้
    คอลัมน์
    "รู้ไว้ให้ระวัง"ในสัปดาห์นี้อยากจะเตือนท่านทั้งหลายที่ใช้ตู้เอทีเอ็มว่า
    สลิปที่ท่านทิ้งนั่นแหละที่เป็นสาเหตุให้ท่านต้องสูญเสียเงินในบัญชีไปได้
    ใครที่กำลังจะกดเงินจากตู้เอทีเอ็มขอเตือนไว้ว่าหากไม่ระวังตัว
    เงินฝากในบัญชีคุณอาจจะหายได้ในพริบตา

    ก็เพราะเดี๋ยวนี้เหล่ามิจฉาชีพเขาพัฒนาวิธีการฉกเงินของเราแบบไม่ต้องเหนื่อยและให้เมื่อยแรง
    เพราะเขาจะรู้เทคนิคการจำรหัสจากการกดปุ่มบนหน้าจอและถ้าโจรรายไหนหูดี
    ก็อาศัยจำเสียง ติ๊ด ตี๊ด เวลากดรหัส 4 ตัว
    และเมื่อกดเงินแล้วเราก็มักจะทิ้งสลิปนี้แหละคือตัวอันตราย

    เพราะพวกเขาจะเก็บสลิปของเราไปจากนั้นก็จะโทรเข้าไปโอนเงินจากธนาคาร
    (ใช้บริการธนาคารทางโทรศัพท์)ซึ่งจะบอกให้ใส่เลขที่บัญชี 10 หลัก
    จากนั้นก็จะให้ใส่รหัสประจำตัวลงไปด้วย
    แค่นี้ละค่ะเขาก็โอนเงินเข้าบัญชีของเขาได้อย่างสบายๆ

    <O:p</O:p
    โดยเฉพาะถ้าโอนทางโทรศัพท์จะสามารถโอนเงินได้ถึง 5 แสนบาทต่อครั้ง
    นี่คือภัยใกล้ตัวที่เรามองข้ามกันไป
    รู้อย่างนี้แล้วจะกดเงินทั้งทีก็ให้ระวังหน้าระวังหลังให้ดีๆแล้วก็เก็บสลิปไว้กับตัว
    เอาไปทิ้งที่บ้านดีกว่า

    <O:p</O:p
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร (บางส่วน)
    ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ผู้เขียน
    ลิขสิทธิ์ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร


    บรมครูพระเทพโลกอุดรโปรดทหาร<O:p</O:p

    <O:p</O:p

    ครั้งสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา ได้มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้น ถึงกับมีข่าวปรากฏในหน้าหนังสือ-พิมพ์รายวันฉบับหนึ่ง จำไม่ได้เพราะนานมาแล้ว สมัยนั้นหนังสือนิตยสาร วารสาร ยังไม่มีการนิยมและเรื่องนี้ไม่มีผู้ใดทราบว่าเป็นอภินิหารของบรมครูพระเทพโลกอุดร คงเข้าใจว่าเป็นพระสำเร็จรูปใดรูปหนึ่ง หรือพระธุดงค์กรรมฐานที่แก่กล้าทางจิต เรื่องเล่าโดยนายทหาร ซึ่งไปราชการสงครามในครั้งนั้น เห็นว่าเป็นเรื่องประหลาดก็นำมาเล่าสู่กันฟัง เรื่องมีอยู่ว่าวันหนึ่ง ได้นำทหารในกองร้อยออกติดตามโจรตีข้าศึกฝ่ายตรงข้ามเกิดพลัดกับหน่วยรบ ซึ่งอยู่ในความควบคุมบังคับบัญชา เหลือทหารติดตามยศสิบเอกเพียงคนเดียวตกอยู่ในสภาวะหลงป่า กลับฐานที่ตั้งไม่ถูก มิทราบจะทำประการใด ทั้งเป็นเวลาเย็นมากแล้วตะวันรอนอ่อนแสงจะลาลับทิวไม้ใกล้ค่ำลงทุกนาที กลางป่าดงพงไพรเช่นนี้ไหนจะหาที่ซุกกายได้เหมาะสม บ้านคนก็ไม่มี กระท่อมทับหรือห้างยิงสัตว์ก็ไม่มี หากจะพักในถ้ำที่อึมครึมปะเหมาะเจออสรพิษหรือหมีเข้ายิ่งจะไปกันใหญ่ ความหวาดระแวงสำหรับคนและสัตว์ป่าต่างมีสัญชาติญาณคล้ายคลึงกันมิยิ่งหย่อนกว่ากัน ต่างนึกว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นศัตรูไว้ก่อน จะเอาอย่างไรกันแน่มืดลงทุกทีแล้ว ไฟฉายเดินทางก็ไม่มี เสบียงก็หมด ชีวิตยังไม่สิ้นก็ดิ้นไป เดินไปเรื่อย ๆ เสี่ยงดวงเอายงดีกว่านั่งจับเจ่า เดินไปได้ไม่นานก็แลเห็นถ้ำกลางป่าแห่งหนึ่ง ทั้งสองจึงขึ้นลำปืนเล็กยาวและปลดเซฟเตรียมพร้อมทุกขณะ อะไรเกิดขึ้นขอยิงก่อนละ คิดแล้วก็พากันเสี่ยงดายเดินเข้าสู่ถ้ำทันที พลันสายตาเหลือบแลไปพบพระภิกษุชรารูปหนึ่งกำลังเจริญสมาธิอยู่ภายในถ้ำอันสงบ รู้สึกค่อนข้างมีกำลังใจขึ้นมาก จึงพากันเข้าไปนมัสการพระภิกษุกชรารูปนั้น โดยพร้อมเพรียงกัน พระภิกษุชราลืมตาขึ้นทักทายว่า
     
  18. nnn

    nnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2005
    โพสต์:
    307
    ค่าพลัง:
    +1,298
    ขออนุโมทนากับคุณสิทธิพงษ์ ที่ได้นำบทความและเรื่องราวดี ๆ แบบนี้มาเผยแพร่ให้ได้รับรู้กัน และผมต้องขออนุญาตจากคุณสิทธิพงษ์ โดยผ่านถึงท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร เกี่ยวกับการขออนุญาตนำบทความต่าง ๆ ในกระทู้นี้ไปลงยังอีกเวปหนึ่ง ดังลิงค์ข้างล่างนี้ จึงขออนุญาตและขอขอบคุณ มา ณ ที่นี้ด้วยครับ...

    http://www.thaidoweb.com/freeboard/show.php?Category=mahakanesraksa&forum=1&No=1822&picfolder=AmErz0123&PHPSESSID=e2b650f37a76dc7687d994f4388cf16f#top
     
  19. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097

    ขอโทษด้วยจริงๆ รูปแทนเป็นรูปที่ดึงมาจากเวบ pralokudon (ถ้าจำไม่ผิด) ส่วนของผมจะเหมือนของคุณ คือจะมีพิมพ์สังกัจจายน้อย ปิดตาเศียรบาตร ปิดตาเอกลักษณ์ อรหันต์กลาง พิมพ์รูปเหมือนพิมพ์ใหญ่ ซึ่งเป็นกรุเก่า อย่างละองค์ ส่วนกรุใหม่นั้นเก็บไว้นิดเดียว เดิมเก็บไว้เกือบ 20 องค์ ตรวจบวชอยุ่ที่ระยอง ในปี 2540 พอทราบว่า ท่านอาจารย์ใหญ่ ท่านตรวจเป็น ถวายท่านตรวจๆ พร้อมกับรองอาจารย์ใหญ่ (ทั้ง 2 องค์ ตรวจได้ทั้งความแรง และรังสี) ตอนตรวจพระเณรอยู่กันหลายคน คราวนี้ละเรื่องแตกเลย องค์รองบอก พระอะไรเสกทะลุฟ้าทะลุดิน ใช้พลังสุริยันจันทราเสก จะหาใครทำได้ เลยโดนขอตั้งแต่คนขับรถวัด พระ เณร เหลือกลับบ้านมา 2 องค์ ตอนหลังท่านจึงมาโปรดเพิ่มอีกเลยได้เพิ่มอีกหลายองค์ (ตามเก็บพระมาตั้งแต่ปี 2533)จนกระทั่งมาเจอคุณสิทธิพงษ์ในเวบ ก็เลยอยู่ในก๊วนเดียวกัน รับรองได้อย่างหนึ่งน๊ะ "มีงมีกูไว้ไม่จน" จริงๆ ส่วนพระอีกชุดนึงที่อยากให้เก็บคือ พระมงคลมหาลาภของวัดสัมพันธวงศ์ กทม. ตามมาพร้อมกัน วัดฯ เพิ่งนำออกให้บูชาในปีนี้เอง ตอนแรก บูชา 500.- ตอนนี้ทราบว่าปรับ เป็น 1000 แล้ว พระองค์นี้ อ.ประถมยืนยันเทียบได้กับพระของหลวงปู่ เพราะเชิญพรหมทุกชั้นลงมาเสก รวมถึงท่านฤาษีนารอท ผู้สร้างพระรอดลำพูน เสกร่วมกันกับพ่อแม่ครูอาจารย์สายท่านอาจารย์มั่น รวมถึงพลังอภิญญาของคุณแม่บุญเรือน เคยให้อาจารย์ตรวจพบว่า รังสีเป็นสีทองเป็นจุดๆ พรายเต็มไปหมด อาจารย์ผู้ตรวจบอกแปลกไม่เคยเจอ ก็เลยบอกไปว่าก็พรหม 16 ชั้นฟ้าลงมาทั้งหมด ท่านเลยรับรองว่างั้นคงจะจริงเพราะรังสีสีทองพรายกระจ่างฟ้าเลยทีเดียว ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง ช่วยเก็บท่านไว้ด้วยครับ ทางวัดมีใบอนุโมทนาให้ด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2006
  20. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    สมาชิกท่านใดที่ได้ไปงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ทางจิต 8-11 ธ.ค.2549 นี้
    อย่าลืมแวะทักทายเพื่อนสมาชิกด้วยกันนะครับ เท่าที่ทราบก็มี
    -ทีมงานสมิงเหล็ก โดยคุณ ประเสริฐ(ประเสริฐพร)
    -ตาที่สาม อ.อาชวิน

    <!-- / message --><!-- sig -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...