เพื่อการกุศล " พระลีลาแพร่บุญ " โครงการสร้างพระเนื้อตะกั่วเพื่อบรรจุกรุ ฯ ครั้งที่ ๖ ......หมดเขตร่วมบุญแล้ว

ข้อมูลใบฏีกา และแผ่นพับโครงการสร้างพระเนื้อตะกั่วเพื่อบรรจุกรุ ครั้งที่ ๖ นะครับ รวม ๒๑ ภาพ ( ๓ )

เผื่อมีท่านใดจะช่วยประสัมพันธ์งานสร้างพระบรรจุกรุ นี้โดยการแชร์ไปในเฟชบุ๊ค หรือแชร์ไลน์ (ขนาดค่อนข้างใหญ่นะครับเลยไม่ขยายให้ดูกัน แต่ทดสอบแล้วแชร์ไลน์ ภาพไม่แตกครับ )

ขอขอบพระคุณและขอโมทนากับทุกๆท่านที่ช่วยประชาสัมพันธ์ครับผม

 

หรือหากว่าท่านใดมีความประสงค์จะรับซองและแผ่นพับไปช่วยประชาสัมพันธ์แจ้งความต้องการเข้ามาได้นะครับ ผมกลับจากเหนือแล้วจะจัดส่งให้ครับผม

 

ร่วมบุญด้วย 3 กอง ครับ..

 

รับทราบครับ

ร่วมสร้างพระบรรจุกรุ จำนวน ๓ ชุด ๔๕๐ บาท

ขอโมทนากับคุณสิ้นภพด้วยครับผม

 

สำหรับการนำพระลีลาแพร่บุญขึ้นไปขอให้พระคณาจารย์ภาคเหนือท่านอธิฐานจิตเดี่ยวในครั้งนี้ เข้าไปหลายวัดมากครับแต่ได้เสกเพียงสามองค์เท่านั้นนะครับ กลับมาถึงบ้านเที่ยงคืนกว่าแล้วเลยนอนพักผ่อนก่อนดีกว่า เพราะวันจันทร์ต้องเข้าเวรนายทหารเวรด้วย กะว่าเสร็จธุระอะไรหมดแล้วสักสี่ทุ่มจะโพสให้อ่านกันปรากฏว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์แหกโค้งไปชนเสาไฟฟ้าก่อนถึงหน่วยจนเสาขาดไฟดับอยู่นานก็เลยไม่ได้โพสอีก สรุปแล้วครั้งนี้ได้เสกเดี่ยวสามองค์ตามนี้ครับ

วันเสาร์ที่ ๗ พ.ย.๕๘
- หลวงปู่ครูบาสิงห์ทอง วัดป่าบุก อ.ป่าซาง จ.ลำพูน

วันอาทิตย์ที่ ๘ พ.ย.๕๘
- หลวงพ่อเสนาะ วัดปงท่าข้าม อ.สูงเม่น จ.แพร่
- หลวงพ่ออุดร วัดหมอนไม้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์

ส่วนรายละเอียดของทริปนี้ผมพิมพ์ไว้แล้วบางส่วนนะครับ แต่ยังไม่ครบเท่าไหร่หลังจากเรียบเรียงเหตุการณ์ดีแล้วจะนำลงให้อ่านกันนะครับ

 

สรุปแล้วในขณะนี้ พระลีลาแพร่บุญได้นำเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกและอธิฐานจิตเดี่ยวแล้ว ดังนี้ครับ


พิธีพุทธาภิเษก “ พระลีลาแพร่บุญ ” ครั้งที่ ๑

วันเสาร์ที่ ๑๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๘ ตรงกับขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๑๑

ณ วัดพระญาติการาม ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

เป็นการพุทธาภิเษกเดี่ยวโดยหลวงพ่อเฉลิม เขมทัสสี มีพระมหานาคสวดพิธีกรรมพุทธาภิเษกแบบมอญ จากวัดชนะสงครามราชวรวิหาร



พิธีพุทธาภิเษก “ พระลีลาแพร่บุญ ” ครั้งที่ ๒

วันศุกร์ที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๘ ตรงกับขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๑๑

ณ วัดทองแท่งนิสยาราม ต.บางขันหมาก อ.เมือง จ.ลพบุรี

มีรายนามพระคณาจารย์ ที่ผมนำ “พระลีลาแพร่บุญ” ไปเข้าร่วมพิธีฯ มาดังนี้ครับ

ลป.แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ จ.พิษณุโลก

ลพ.แม้น วัดหน้าต่างนอก จ.อยุธยา

ลพ.ศักดิ์ วัดทองแท่ง จ.ลพบุรี

ลพ.กำจัด วัดป่าสัก จ.ชัยนาท

ลพ.หล่อ วัดพรหมรังสี จ.ลพบุรี

ลพ.สารันต์ วัดดงน้อย จ.ลพบุรี

ลพ.เพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี

ลพ.เพิ่ม วัดป้อมแก้ว จ.อยุธยา

ลพ.ชาญ วัดทอง จ.สิงห์บุรี



การอธิฐานจิตเดี่ยว ครั้งที่ ๑ วันอังคารที่ ๒๗ ต.ค.๕๘

- หลวงพ่อนภดล สนส.มะอึกแรด อ.บ่อไร่ จ.ตราด

การอธิฐานจิตเดี่ยว ครั้งที่ ๒ วันเสาร์ที่ ๓๑ ต.ค. ถึงวันจันทร์ที่ ๓ พ.ย.๕๘

- หลวงพ่อสาท วัดขนอนเหนือ อ.บางปะอิน จ.อยุธยา

การอธิฐานจิตเดี่ยว ครั้งที่ ๓ วันเสาร์ที่ ๗ พ.ย.๕๘

- หลวงปู่ครูบาสิงห์ทอง วัดป่าบุก อ.ป่าซาง จ.ลำพูน

การอธิฐานจิตเดี่ยว ครั้งที่ ๔ วันอาทิตย์ที่ ๘ พ.ย.๕๘

- หลวงพ่อเสนาะ วัดปงท่าข้าม อ.สูงเม่น จ.แพร่

การอธิฐานจิตเดี่ยว ครั้งที่ ๕ วันอาทิตย์ที่ ๘ พ.ย.๕๘

- หลวงพ่ออุดร วัดหมอนไม้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์

 

ช่วงนี้งานผมยังยุ่งอยู่มากนะครับ วันศกรุ์ที่ ๑๓ พ.ย.นี้ เจ้ากรมฯ จะมาตรวจเยี่ยมหน่วยต้องเตรียมการในงานที่ผมรับผิดชอบมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้ว วันนี้ก็ซ้อมย่อย วันพรุ่งนี้จะเป็นการซ้อมใหญ่ ผมจะพยายามเอารายละเอียดการนำพระลีลาแพร่บุญไปเสกมาให้อ่านกันเร็วที่สุดนะครับ ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามอ่าน ขอโมทนากับทุกๆท่านที่ร่วมบุญสร้างพระด้วยกันครับผม

 

นำที่ค้างไว้มาลงให้อ่านกันนะครับ

ครั้งนี้เดินทางกันสามคนนะครับ เริ่มจากเมื่อบ่ายวันศุกร์ช่วงขาขึ้นไปเหนือตั้งใจเข้าไปหาหลวงพ่อเดช วัดสังฆมณฑล อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ก่อนตอนเข้าไปถึงวัดนั้นเกือบห้าโมงเย็นแล้วเข้าไปเรียนให้ท่านทราบท่านก็ว่าเรื่องเสกไม่มีปัญหาแต่ต้องเอาพระฝากค้างคืนไว้แล้ววันรุ่งขึ้นมารับกลับ เพราะช่วงกลางวันท่านต้องต้อนรับญาติโยมตลอด ส่วนใหญ่ท่านจะเสกให้ช่วงเช้ามืด เลยเรียนท่านไว้ว่าจะหาวันว่างขึ้นไปหาท่านอีกครั้งในภายหลังแล้วก็ลาท่านกลับ ออกมาเตรียมเดินทางต่อคืนนั้นกว่าจะถึงที่พักคือบ้านเพื่อนที่ อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูนก็เที่ยงคืนกว่าแล้ว

รุ่งเช้าวันเสาร์ ( ๗ พ.ย.๕๘ ) ผมเอารายชื่อพระเถราจารย์ทางเหนือที่ตั้งใจไว้ เกือบยี่สิบองค์ (คัดมาจากรายชื่อท่านที่เคยจารแผ่นชนวนให้กับทางโครงการฯ ) ในพื้นที่สามจังหวัดคือเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ออกมาสอบถามเพื่อนเพื่อวางแผนการเดินทางแบบขาเดียวคือกะว่าเสร็จแล้วก็เดินทางกลับมานอนค้างที่จ.แพร่ต่อเลย

หลังจากวางแผนลงตัวแล้วก็เริ่มออกเดินทางวันนี้เหลือผมกับคุณเอ บางพระแค่สองคน เพราะว่าเพื่อนอีกคนแยกขึ้นไปธุระที่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่แล้วจะกลับเองในภายหลัง องค์แรกไปเริ่มต้นที่ ครูบาสุข วัดอรัญญาวาส อ.ดอยหล่อ เชียงใหม่ เข้าไปถึงวัดสอบถามเณรที่กำลังช่วยทำความสะอาดวัดอยู่ ว่ากุฏิท่านอยู่ตรงไหน เณรทำหน้างงๆ คุยไปคุยมาปรากฏว่าท่านมรณภาพไปแล้ว ก็เลยเปลี่ยนมาเป็นลำดับสองคือหลวงปู่ครูบาตั๋น สนส.ม่อนปู่อิ่น ที่อยู่ อ.ดอยหล่อ เหมือนกันตั้ง GPSไปกว่าจะถึงวัดก็ถอยเข้าถอยออกหลายรอบเพราะสัญญาณไม่มี เลยต้องสอบถามทางเข้าจากชาวบ้านอีก พอไปถึงวัดปรากฏว่าท่านมรณะภาพไปแล้วอีกเหมือนกัน เลยเปลี่ยนมาเป็นอันดับสาม ครูบาอินตา วัดศาลา อ.หางดง ระหว่างทางก่อนจะถึงวัดก็คุยกับคุณเอ ว่าหากไปถึงวัดศาลาแล้วท่านไม่อยู่ก็จะเสียเวลาย้อนกลับมาอีกแต่ถ้าเลื่อนไปเป็นลำดับสี่คือครูบาอุ่น วัดโรงวัว ต.แม่ก๊า อ.สันป่าตอง แทนเลยถ้าหากว่าท่านไม่อยู่วัดเหมือนกันก็ยังเลื่อนไปเป็นวัดกอโชคที่อยู่ใกล้เคียงกันได้ ก็เลยตั้งเป้าเป็นครูบาอุ่น เข้าไปถึงวัดโรงวัวประมาณบ่ายโมงเกือบครึ่งแล้ว ปรากฏว่าวันนั้นมีการทอดกฐินพอดี เลยได้แต่เข้าไปกราบท่านแล้วก็ลากลับ เลื่อนมาเป็นลำดับห้าที่วางแผนไว้ ครูบาฝั้น วัดกอโชค อยู่ ต.แม่ก๊า เหมือนกัน เข้าไปถึงวัดท่านไม่อยู่อีกเพราะรับนิมนต์ไปเชียงรายออกเดินทางไปตั้งแต่เช้าแล้ว

ดูเวลาก็จะบ่ายสองแล้วเลยเปลี่ยนมาเป็นพระเถระสาย จ.ลำพูนบ้างเริ่มที่หลวงปู่ครูบาสิงห์ทอง วัดป่าบุก ต.แม่แรง อ.ป่าซาง ตั้ง GPS ไปที่วัดป่าบุกแล้วก็เริ่มเดินทาง พอไปจนสุดปลายทางที่GPS ระบุกลับกลายเป็นวัดป่าแดด ต.แม่แรง ไปซะอีก ต้องสอบถามทางไปวัดป่าบุกจากชาวบ้านแทน พอเข้าไปถึงวัดป่าบุกซึ่งห่างกันประมาณสี่กิโล เข้าไปพูดคุยกับหลวงพี่ที่วัดท่านก็บอกว่ามีแต่คนบ่นว่าขับรถมาตาม GPS แล้วพาเข้าไปวัดป่าแดดหลายคนแล้ว สอบถามถึงหลวงปู่ครูบาสิงห์ทอง ว่าอยู่วัดหรือไม่ หลวงพี่ท่านก็ว่าหลวงปู่อยู่ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยสบายพักผ่อนอยู่ในกุฏิ คุณเอก็เข้าไปประสาน แล้วก็ออกมาบอกว่าหลวงปู่ท่านจะอธิฐานจิตให้ ใช้เวลาอยู่ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงก็เสร็จพิธี นับเป็นองค์แรกของการขึ้นเหนือในครั้งนี้ หลังจากช่วยกันยกกล่องเหล็กขึ้นรถเสร็จก็มุ่งหน้าเข้าบ้านวังฟ่อน อ.สอง จ.แพร่ ซึ่งใช้เป็นที่พักในคืนนั้น กว่าจะถึงก็สักสองทุ่มครึ่งแล้ว ฯลฯ

สำหรับภาพการนำพระลีลาแพร่บุญขึ้นมาเสกเดี่ยวในครั้งนี้คงต้องติดค้างไว้ก่อนนะครับ เพราะแต่ละองค์ที่ท่านเสกนั้นผมถ่ายภาพไว้องค์ละเกินสิบภาพทั้งนั้น ต้องมาคัดภาพและลดขนาดก่อน ผมจะเล่ารายละเอียดคร่าวๆไปจนครบทั้งสามองค์ก่อนครับ

 

พอดีช่วงเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาไปทำธุระที่ จ.ระยองมาน่ะครับ เลยไม่มีเวลาจะพิมพ์ให้อ่านกัน ขากลับช่วงก่อนเข้า อ.บ้านบึง ชลบุรี เห็นมีร้านขายไหอยู่ข้างทางเลยแวะเข้าไปซื้อไหสำหรับบรรจุพระในครั้งนี้ใหม่อีกชุดนึง อันที่จริงไหของเก่าก็ยังมีอยู่แต่ว่าเป็นขนาดใกล้เคียงกับทุกครั้งที่ผ่านมาที่เป็นพิมพ์นั่ง แต่เนื่องจากในครั้งนี้เป็นพิมพ์ยืนผมได้ลองทดสอบแล้วใส่ได้ไหละประมาณห้าร้อยองค์เท่านั้น ไปลองเดินๆดูในร้านก็ไม่แน่ใจว่าจะใส่ได้ไหละ ๘๔๐ องค์ รึป่าวเลยต้องขอเจ้าของร้านทดสอบเอาน้ำใส่ไหที่ติดรถไปด้วย เทใส่ไหในร้านที่คิดว่าน่าจะใส่พระได้ ปรากฏว่ารับน้ำได้สองไหพอดีซึ่งก็น่าจะใกล้เคียงสำหรับบรรจุพระจำนวน ๘๔๐ องค์ได้ ราคาค่อนข้างสูงไปนิดแต่ก็ยังดีกว่าไปซื้อถึงราชบุรีที่เป็นแหล่งผลิต / มาอ่านที่ผมติดค้างไว้กันต่อนะครับ

รุ่งเช้าวันอาทิตย์ ( ๘ พ.ย.๕๘ ) ผมออกจากที่บ้านเพื่อนที่วังฟ่อนประมาณ ๐๗๓๐ น.เดินทางมาวัดป่าแดงใต้ เพราะประสานกับทางพี่มนัสที่เป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ ๓ บ้านวังแดงใต้ไว้ว่าช่วงเวลาประมาณสองโมงเช้าจะเอาแผ่นพับกับป้ายไวนิลที่เตรียมไปมอบให้ไว้ติดในที่หน้าชุมชนและในหมู่บ้านเพื่อประชาสัมพันธ์งานบุญสร้างพระในครั้งนี้ ผมเข้าไปถึงวัดก่อนแปดโมงเช้าเล็กน้อย เจอเจ้าอาวาสท่านกำลังเดินอยู่หน้ากุฏิพอดีก็เข้าไปนมัสการท่านๆก็ชวนออกมาเดินพูดคุยกันอยู่บริเวณเจดีย์ที่จะใช้บรรจุพระ คุยได้สักพักทางพี่มนัสก็ขับรถเข้ามาในวัดตามมาด้วยคณะกรรมการวัดคนอื่นๆอีกหลายท่าน ก็เข้าไปพูดคุยเอาแผ่นพับกับซองมาให้แล้วก็หยิบตัวอย่างพระลีลาแพร่บุญที่บรรจุลงกล่องแล้วให้ดู ซึ่งกรรมการหลาย ๆ ก็พูดกันเป็นเสียงเดียวว่าพระครั้งนี้งดงามมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องเตรียมงานวันบรรจุพระและเรื่องอื่นอยู่อีกพักใหญ่ ทางพี่มนัสก็ขอตัวเข้าสวนพี่มนัสนี้นอกจากเป็นผู้ใหญ่บ้านแล้วก็ยังทำสวนผสมผสานแบบเศรษฐกิจพอเพียงด้วย ช่วงเช้าวันนั้นผมใช้เวลาอยู่ที่วัดประมาณ สองชั่วโมงกว่าได้ครับ ก็มาลาเจ้าอาวาสท่านกลับ เตรียมตัวออกเดินทางพาพระลีลาแพร่บุญ ไปอธิฐานจิตเสกเดี่ยวเพิ่มเติม

 

ผมมุ่งหน้าเข้า อ.สูงเม่น ตั้งใจเข้าไปหาหลวงพ่อเสนาะ วัดปงท่าข้าม ต.บ้านปง อ.สูงเม่น จ.แพร่ ที่ห่างออกมาอีกประมาณ ๕๐ กิโล ใช้เวลาอีกเกือบชั่วโมงเพราะช่วงก่อนถึงวัดเป็นทางค่อนข้างเล็กวิ่งผ่านหลายหมู่บ้านที่ทำความเร็วมากไม่ได้ เข้าไปถึงวัดเห็นท่านกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่พอดี ก็ถือรูปกับแผ่นพับเข้าไปหาหลังจากกราบท่านแล้วก็อธิบายให้ท่านฟังเรื่องโครงการสร้างพระบรรจุกรุฯ ที่ผ่านมา แล้วก็ว่าครั้งที่ ๖ ของภาคเหนือนี้จะเป็นการนำมาบรรจุที่ จ.แพร่ จะมาขอความเมตตาท่านช่วยอธิฐานจิตพระชุดนี้ ท่านก็ว่าแล้วพระอยู่ไหน ก็เรียนท่านไปว่าพระอยู่ท้ายรถ ท่านก็ว่างั้นยกไปวางตรงหน้าห้องเลย ก็มาช่วยกันกับคุณเอ ยกกล่องเหล็กที่บรรจุพระไปจัดเรียงบนผ้าขาวในระหว่างนั้นผมเปิดกล่องเหล็กนำพระลีลาแพร่บุญไปให้ท่านดูเป็นตัวอย่างหนึ่งองค์ท่านก็ชมว่าพิมพ์สวยมากๆ พอจัดวางครบแล้ว ผูกโยงสายสิญจน์เสร็จ ท่านก็เดินมานั่งแล้วเอาพระลีลาแพร่บุญองค์ที่ให้ท่านดูวางไว้บนกล่องเหล็กด้านหน้าท่าน ๆ ก็เริ่มพิธีบอกกล่าวครูบาอาจารย์ของท่านอยู่ครู่หนึ่ง ท่านใช้เวลารวมประมาณครึ่งชั่วโมง พรมน้ำมนต์ปิดท้ายจนทั่วก็เสร็จพิธี เมื่อเสร็จแล้วผมได้เรียนสอบถามท่านว่าพระลีลาแพร่บุญ ชุดนี้เป็นอย่างไรบ้างท่านบอกว่าสร้างด้วยเนื้อตะกั่วแบบนี้เสกเข้าง่ายและอยู่ได้นานหลายร้อยปีแน่ๆ พอถามว่าดีด้านใดบ้างท่านว่า พระชุดนี้ดีตั้งแต่เจตนาแล้ว มวลสารก็ดี ครูบาอาจารย์เก่งๆเยอะแยะที่จารแผ่นชนวนให้ แต่เด่นด้านเมตตา ค้าขาย ท่านว่าองค์เดียวไปได้ทุกที่เพราะเดินไปข้างหน้าตลอด ก็เลยถวายองค์ตัวอย่างให้กับท่านไปท่านก็ว่าดีเลยจะได้ให้ลูกศิษย์เอาไปเลี่ยมเงินจะได้มาเหน็บติดกระเป๋าอังสะไว้ด้วย

เมื่อช่วยกันยกกล่องเหล็กขึ้นรถหมดแล้วผมกับคุณเอได้มานั่งพูดคุยกับท่านอีกเกือบครึ่งชั่วโมง ก็ได้สอบถามเรื่องพระเกจิในภาพที่นิมนต์มาในงานพุทธาภิเษกของทางวัดปงท่าข้าม ซึ่งเป็นพระเกจิทางภาคกลางหลายองค์ ซึ่งผมก็จะได้ตามเข้าไปขอแผ่นจารท่านมาเป็นชนวนมวลสารการสร้างในครั้งต่อๆไป เมื่อสอบถามพระเกจิทางเหนือ ที่อยู่ในเส้นทางขากลับลพบุรี ท่านก็แนะนำว่า ถ้าจะกลับทางตาก ก็คงเป็นหลวงพ่อสาย วัดท่าไม้แดง แต่ถ้ากลับทางอุตรดิตถ์ ท่านแนะนำหลวงพ่ออุดร วัดหมอนไม้ อ.เมือง เมื่อได้ข้อมูลแล้ว ก่อนกราบลาท่านกลับ ได้ถวายปัจจัยในนามของโครงการสร้างพระเนื้อตะกั่วเพื่อบรรจุกรุ ฯ เพื่อร่วมสร้างเจดีย์กับวัดปงท่าข้ามที่ยังไม่แล้วเสร็จ เป็นเงิน ๑,๐๐๐ บาท ขอเชิญร่วมโมทนาด้วยกันครับผม

 

เพื่อนคุณมาโนชญ์ ชุนงาม ร่วมสร้างพระบรรจกรุ จำนวน ๕ ชุด ๗๕๐ บาท

ขอโมทนาบุญด้วยครับผม

 

ตอนออกจากวัดปงท่าข้ามนั้นดูเวลาก็บ่ายโมงกว่าแล้ว เลยจอดรถที่หน้าวัดแล้วลองตรวจสอบเส้นทางจาก GPS ปรึกษากับคุณเอว่าถ้าจะไปวัดท่าไม้แดง ก็มีสามเส้นทาง แต่เส้นทางที่ใกล้สุดคือ ๒๔๓ กิโล ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๓ ชั่วโมง ๓๐ นาที กว่าจะไปถึงวัดก็ประมาณห้าโมงเย็น แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าท่านอยู่วัดหรือไม่ แล้วจากวัดท่าไม้แดงกลับลพบุรีเส้นที่ใกล้สุดก็คือ ๒๘๙ กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๓ ชั่วโมง ๔๕ นาที รวมแล้วก็ ๕๓๒ กม. พอลองดูระยะทางจากวัดปงท่าข้ามไปวัดหมอนไม้แค่ ๖๗ กม. จากวัดหมอนไม้กลับลพบุรี มีสองเส้นทางต่างกันแค่สิบกิโล คือถ้าเข้าตัวนครสวรรค์ก็ ๓๖๙ กม. แต่ถ้าเข้าเส้นตากฟ้า ก็ ๓๕๙ กม. รวมแล้วก็ประมาณ ๔๓๖ กม. ระยะทางก็ยังต่างกันอีกเกือบร้อยกิโลเลยตกลงใจกันว่าจะไปวัดหมอนไม้ เพราะว่า พอจ.เสนาะท่านก็ยังให้เบอร์สำหรับติดต่อหลวงพ่ออุดรมาด้วย

พอขับรถเข้าเขตอุตรดิตถ์คุณเอก็ลองโทร.สอบถามว่าท่านอยู่วัดหรือไม่ ท่านก็ว่าอยู่ให้เข้ามาได้เลย ไปถึงวัดหมอนไม้ประมาณบ่ายสามแล้วไปวนรถสอบถามว่ากุฏิท่านอยู่ตรงไหนแล้วก็ไปจอดรถที่หน้ากุฏิท่านหยิบกรอบพระกับแผ่นพับลงไปหาท่าน คนในกุฏิบอกว่าท่านออกไปดูงานก่อสร้างศาลาการเปรียญที่อยู่ตรงข้ามก็เลยเดินเข้าไปหาท่านที่ศาลาเอากรอบภาพพระลีลาแพร่บุญกับแผ่นพับเข้าไปอธิบายให้ท่านฟังอยู่ครู่หนึ่งแล้วท่านก็ถามว่าโยมอยู่ที่ไหน เลยเรียนให้ท่านทราบว่าอยู่ลพบุรีแต่ช่วงนี้นำพระขึ้นมาตะเวนหาพระเกจิเขตภาคเหนืออธิฐานจิตแล้วก็บอกกับท่านว่าช่วงเช้าเข้าไปหาหลวงพ่อเสนาะ ที่แพร่มาแล้ว ๆ ท่านก็แนะนำให้มาหาที่นี่ ลพ.อุดรท่านก็ว่างั้นไปที่กุฏิ

ผมกับคุณเอก็มาช่วยกันยกกล่องเหล็กบรรจุพระเข้าไปวางบนผ้าขาวด้านหน้าพระพุทธในกุฏิท่าน ระหว่างนั้นหลวงพ่ออุดรท่านก็ไปครองผ้าใหม่ แล้วมายืนรอผมอยู่ครู่หนึ่งช่วงผูกโยงสายสิญจน์จากพระพุทธมาวนรอบกล่องเหล็กหลังจากเสร็จแล้ว ท่านก็เริ่มจากจุดธูปที่หน้าโต๊ะหมู่บูชา แล้วก็มาบอกกล่าวอัญเชิญชุมนุมเทวดาและครูบาอาจารย์ท่านอยู่ครู่หนึ่ง ถึงเริ่มการอธิฐานจิตให้ใช้เวลารวมประมาณครึ่งชั่วโมงก็เป็นอันเสร็จพิธี หลังจากนั้นผมได้นำแผ่นตะกั่วมาขอให้ท่านจารยันต์เพื่อนำไปเป็นชนวนมวลสารในการสร้างพระบรรจุกรุ ครั้งที่ ๗ อีกหนึ่งแผ่นครับ

 

ในช่วงที่หลวงพ่ออุดรท่านนั่งอธิฐานจิตอยู่นั้นก็ได้มีโอกาสคุยกับคุณอาท่านหนึ่งที่เห็นตั้งแต่ผมกับคุณเอช่วยกันยกกล่องเหล็กเข้ามาจัดวางเพื่อให้ ลพ.อุดรท่านอธิฐานจิตแล้ว ก็เข้ามาสอบถามผมก็เลยเอาแผ่นพับให้ดูรายละเอียดของโครงการสร้างพระบรรจุกรุฯ เลยถือโอกาสสอบถามขอคำแนะนำพระเกจิในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งคุณอาท่านนี้ก็บอกรายชื่อมาให้หลายองค์ แต่ที่น่าสนใจคือพื้นที่พิษณุโลกเพราะเป็นเส้นทางกลับอยู่แล้ว คุณอาท่านถามผมว่าเคยได้ยินชื่อหลวงพ่อพันธ์ วัดบางสะพานรึเปล่า ผมก็บอกเคยได้ยินครับ คุณอาท่านนี้บอกว่านี้แหละเป็นลูกศิษย์องค์สุดท้ายของหลวงพ่อพันธ์ วัดบางสะพาน พระเกจิดังในอดีตของพิษณุโลก ชื่อหลวงพ่อสนอง วัดหัวร้อง อ.นครไทย อายุประมาณ ๘๐ ปี แล้ว

เมื่อผมกับคุณเอช่วยกันยกกล่องเหล็กบรรจุพระใส่รถเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะลา ลพ.อุดร ท่านกลับผมได้ถวายปัจจัยในนามของโครงการสร้างพระเนื้อตะกั่วเพื่อบรรจุกรุ ฯ ครั้งที่ ๖ (ภาคเหนือ ) จำนวน ๑,๐๐๐ บาท เพื่อรวมสร้างศาลาการเปรียญกับทางวัดหมอนไม้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ที่ยังไม่แล้วเสร็จ ขอเชิญทุกๆท่านร่วมโมทนาบุญในครั้งนี้ด้วยกันครับผม

 

จ.ส.อ.ทรัพย์มงคล ปันทะจันทร์ และคุณธัญพร ถมยางกูล

ร่วมสร้างพระบรรจุกรุ จำนวน ๖ ชุด ๙๐๐ บาท ร่วมบริจาคเงินเข้าโครงการสร้างพระฯ ๑๐๐ บาท รวมเป็นเงิน ๑,๐๐๐ บาท

ขอโมทนาบุญกับทั้งสองท่านด้วยครับผม

 

เพิ่งจะกลับถึงบ้านเมื่อสักครู่นี้นะครับ วันนี้( ๒๕ พ.ย.๕๘ )ช่วงบ่ายผมนำพระลีลาแพร่บุญไปเข้าร่วมพิธีอธิฐานจิตเสกเดี่ยวพิมพ์พระอุปคุต โดยพระครูปลัดมานิตย์ สุทธิญาโณ วัดเงิน เขตตลิ่งชัน กทม. มานะครับเป็นการทำพิธีใน " คืนเพ็ญพุธ " ( วันพุธขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ) ที่ในรอบหลายๆปีจะมีสักครั้งหนึ่ง

นับเป็นพระคณาจารย์ลำดับที่ ๖ ในการอธิฐานจิตเดี่ยวพระลีลาแพร่บุญนะครับ รายละเอียดอื่นๆ จะทยอยลงให้อ่านกันไปตามลำดับ ตอนนี้ขอตัวพักผ่อนก่อนครับผม

 

พอออกจากกุฏิท่านแล้ว ก็มาจอดรถอยู่ตรงลานวัดมาลองเช็คเส้นทางจากวัดหมอนไม้ ไปวัดนครไทย มีสามเส้นทาง ใกล้สุดคือ ๑๒๐ กม. ใช้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมง ๔๐ นาที ดูเวลาตอนนั้นก็ประมาณสี่โมงเย็นกว่าๆแล้ว ถ้าไปวัดนครไทยก็คงถึงประมาณสักหกโมงเย็น แต่ถ้าไม่ไปวัดนครไทยจากวัดหมอนไม้ตีรถกลับลพบุรีก็ ๓๖๙ กม. พักรถพักคนบ้างก็ประมาณห้าชั่วโมงกว่าๆคงถึงบ้านสักสามสี่ทุ่ม ลองเช็คเส้นทางจากวัดนครไทยกลับลพบุรี ใกล้สุดก็ ๓๓๑ กม. บวกระยะจากวัดหมอนไม้ไปอีก ๑๒๐ กิโล รวมแล้ว ๔๕๑ กิโลเมตร ก็ปรึกษากับคุณเออยู่ครู่หนึ่ง ก็ตกลงกันว่าไปวัดนครไทยด้วยเลยเพราะเป็นทางกลับอยู่แล้วเพียงแต่ออกนอกเส้นทางขากลับอีกประมาณแปดสิบกว่ากิโล

จากนั้นตั้ง GPS มุ่งหน้าไปวัดนครไทย เส้นทางก็ขับผ่าน อ.ตรอน อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ อ.วัดโบสถ์ เส้นทางผ่านขึ้นเขาลงเนินหลายช่วงครับก่อนเข้า อ.ชาติตะการ สักสามสิบกิโลเกิดฝนหนักขนาดเปิดที่ปัดน้ำฝนแรงสุดแล้วก็ยังมองแทบไม่เห็นทางเลยต้องขับช้าลงไปอีกเพราะเพิ่งจะเคยขับเส้นทางนี้ครั้งแรก ยังไม่ทันจะพ้นเขตอ.ชาติตะการดีเลย แก๊สก็ส่งสัญญาณเตือนว่าหมดอีก เลยต้องวิ่งด้วยน้ำมันแทนขับไปสายตาก็ดูปั๊มแก๊สด้วย มองหาปั๊มแก๊สไม่เจอเลยในระยะหลายสิบกิโลจนก่อนเข้าตลาดนครไทย มีป้ายเล็กด้านซ้ายเขียนไว้ LPG. ๔ กม. ก็ต้องขับผ่านตัวตลาดออกไปพอเริ่มออกนอกเส้นทาง GPS ก็ส่งเสียงให้กลับรถอยู่ตลอด พอได้เติมแก๊สแล้ว คราวนี้เพื่อความแน่ใจต้องเช็คเส้นทางจากปั๊มไปวัดนครไทยอีกรอบ

พอเข้าไปถึงวัดนครไทย ดูเวลาหกโมงเย็นครึ่งแล้ว เข้าไปวนรถเจอตึกมูลนิธิพระครูนครบุราณานุรักษ์ (สนอง อตฺตทโม) เลยจอดรถอยู่ที่หน้าตึก คุณเอลงไปสอบถามกับหลวงพี่ที่พักอยู่กุฏิใกล้ ๆหลวงพี่ท่านก็เดินออกคุยด้วย ก็เอาแผ่นพับกับกรอบภาพพระให้ท่านดูแล้วบอกกับท่านว่านำพระมาขอให้หลวงพ่อสนองท่านอธิฐานจิต หลวงพี่ท่านก็บอกว่าปกติหลวงปู่จะรับแขกแค่หกโมงเย็น แต่จะลองไปเรียกให้ก่อน ครู่หนึ่งท่านก็กลับมาบอกว่าท่านดับไฟไปแล้ว โยมมาช้าไปหน่อย ต้องมาหาใหม่วันหลัง ก็บอกท่านว่าไม่ได้หรอกครับคงต้องกลับลพบุรีคืนนี้แล้ว หลวงพี่ท่านก็ถามว่ารู้จักหลวงปู่ได้อย่างไร ก็เล่าให้หลวงพี่ท่านฟังตั้งแต่เริ่มนำพระขึ้นมาตะเวนหาพระคณาจารย์เพื่อเสกในครั้งนี้ แล้วมีคนที่วัดหมอนไม้ อ.เมือง อุตรดิตถ์แนะนำมา ส่วนที่ช้าเพราะช่วงก่อนเข้ามาวัดนครไทยนี้ไปโดนฝนอยู่แถวอำเภอชาติตระการแล้วมาวนหาปั๊มแก๊สอีกด้วย หลวงพี่ท่านก็มาเสริมว่าเรื่องเสกพระนั้นหลวงปู่สุดยอดมาก นึกขึ้นมาได้เลยสอบถามกับหลวงพี่ว่าถ้าจะขอให้ท่านจารแผ่นชนวนเพื่อเป็นชนวนในการสร้างพระครั้งต่อไป แล้วจะรบกวนฝากค่าจัดส่งไว้กับหลวงพี่ จะได้หรือไม่หลวงพี่ท่านก็ว่าไม่น่ามีปัญหาเพราะวัตถุประสงค์โครงการสร้างพระของโยมทำเพื่อศาสนาอยู่แล้ว เลยฝากแผ่นตะกั่วและปัจจัยค่าจัดส่งกับที่อยู่ผมให้ท่านไว้ ซึ่งอีกสองวันต่อมาก็ได้รับแผ่นจารที่หลวงพ่อสนองท่านเมตตาจารให้เป็นชนวนในการสร้างครั้งต่อไป ท่านยังเมตตาให้เหรียญรูปเหมือนของท่านกับรูปถ่ายท่านมาอีกด้วย กราบขอบพระคุณในความเมตตาของหลวงพ่อสนองในครั้งนี้กับหลวงพี่ฟลุ๊ค ที่เป็นธุระช่วยจัดส่งพัสดุให้ด้วยครับผม

ขากลับต้องพึ่ง GPS อีกเหมือนเดิมจากวัดนครไทยกลับลพบุรี มีสามเส้นทางแต่มาเลือกใช้สายเอเซียผ่านตัวนครสวรรค์เพราะคุ้นเส้นนี้มากกว่า คืนนั้นพักรถบ้างพักคนบ้างก็ถึงบ้านเกือบตีหนึ่งแล้ว รวมแล้วครั้งนี้ขับรถไปกลับประมาณพันห้าร้อยกิโลเมตรได้ครับ ขอบพระคุณทุก ๆ ท่านที่ติดตามและขอโมทนากับทุกท่านที่ได้ร่วมบุญสร้างพระบรรจุกรุด้วยกันครับผม

ช่วงกลางคืนจะลงภาพการอธิฐานจิตเดี่ยวครั้งที่ ๑ ที่ติดค้างไว้ให้ชมกันครับ

 

การอธิฐานจิตเสกเดี่ยว ครั้งที่ ๑ “ พระลีลาแพร่บุญ ”

วันอังคารที่ ๒๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๘ ตรงกับขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑

หลวงพ่อนพดล วรธฺมโม

สำนักสงฆ์มะอึกแรด ต.หนองบอน อ.บ่อไร่ จ.ตราด

สำหรับการนำพระลีลาแพร่บุญไปขอให้หลวงพ่อนพดลท่านอธิฐานจิต สืบเนื่องจากเมื่อวันปั๊มนำฤกษ์นั้นผมได้นิมนต์ท่านมาเป็นองค์อธิฐานจิตขณะปั๊มนำฤกษ์ และช่วงนั้นมีธุระที่ระยองด้วยก็เลยตั้งใจนำพระชุดนี้ขึ้นไปให้ท่านอธิฐานจิตทั้งหมดอีกครั้งหนึ่ง

ผมเดินทางไปถึง สนส.มะอึกแรดช่วงหัวค่ำของวันที่ ๒๖ ต.ค.๕๘ และนอนค้างคืน รุ่งเช้าหลังจากที่เสร็จสิ้นเรื่องทำบุญวันออกพรรษากันแล้ว ครู่ใหญ่ท่านก็ให้พระกับเณรช่วยกันยกโต๊ะมาเพื่อเตรียมจัดวางกล่องบรรจุพระหลังจากที่คลุมผ้าขาวและผูกโยงสายสิญจน์เรียบร้อยแล้ว ท่านก็บอกให้พระกับเณรไปครองผ้าแล้วมานั่งภาวนาอยู่รอบๆโต๊ะ จากนั้นท่านจุดธูปบอกกล่าวขอบารมีพระอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงเริ่มอธิฐานจิตอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง เมื่อเสร็จแล้วได้พรมน้ำมนต์และเจิมแป้งบนผ้าขาวทุกทิศและที่กรอบพระอีกครั้งหนึ่งก็เป็นอันว่าเสร็จพิธีครับ

ก่อนลาท่านกลับได้ถวายปัจจัยในนามของโครงการสร้างพระเนื้อตะกั่วเพื่อบรรจุกรุฯ เพื่อร่วมสร้างอาคารปฏิบัติธรรมของทางสำนักสงฆ์ที่ยังไม่แล้วเสร็จ จำนวน ๑,๐๐๐ บาท ขอเชิญทุกท่านร่วมโมทนาด้วยกันครับผม

 

การอธิฐานจิตเสกเดี่ยว ครั้งที่ ๒ “ พระลีลาแพร่บุญ ”

วันเสาร์ที่ ๓๑ ตุลาคม ถึงวันจันทร์ที่ ๓ พฤศิกายน พ.ศ.๒๕๕๘

พระอาจารย์สาท ธรรมโชติ

วัดขนอนเหนือ ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

เมื่อวันเสาร์ที่ ๓๑ ต.ค. นั้น ผมเข้าไปถึงวัดประมาณบ่ายสาม เพราะว่าก่อนหน้านี้ประมาณหนึ่งสัปดาห์ได้เข้าไปกราบท่านและได้พูดคุยกับท่านว่าได้ทำโครงการสร้างพระเนื้อตะกั่วเพื่อบรรจุกรุ ฯ ขึ้นมา ฯลฯ และอยากจะนำพระลีลาแพร่บุญมาขอให้ท่านเสกได้หรือไม่ ท่านก็ว่าได้และพูดต่อว่าโยมจะให้ฉันเสกแบบไหนล่ะ ก็เรียนไปว่าก็จะนำมาให้ท่านเสกแล้วรอรับกลับเลย ท่านก็ว่าไม่ได้หรอก ถ้าจะเอามาให้เสกที่วัดก็ต้องเอามาไว้จะสามวันเจ็ดวันก็แล้วแต่โยม ก็เลยนัดกับท่านไว้ว่าเป็นวันนี้ ท่านก็บอกให้มาถึงวัดช่วงสักบ่ายสาม

เมื่อเข้าไปกราบท่านแล้ว ท่านถามว่าโยมมีธุระอะไร ก็ท้าวความว่าที่เคยมาติดต่อท่านไว้ว่าจะเอาพระมาให้เสกท่านก็ว่าจำได้แล้ว ๆ ท่านก็ถามต่อว่าพระอยู่ที่ไหน เรียนท่านไปว่าอยู่ท้ายรถครับ ท่านก็ว่าไปยกขึ้นมา ก็มาช่วยกันสองคนกับเพื่อน ยกขึ้นมาที่ชั้นบนของกุฏิ ท่านก็เดินไปเปิดอีกห้องหนึ่งให้ตามในภาพครับ บอกว่าให้จัดวางกล่องพระไว้ที่ด้านหน้าของพระพุทธนี้ เมื่อจัดวางและผูกโยงสายสิญจน์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็มาเรียนท่านว่าจะฝากท่านเสกสักสามวัน ท่านพยักหน้ารับรู้แล้วก็ลาท่านกลับ

สำหรับพระอาจารย์สาท นี้ท่านเป็นทั้งหลานชายและลูกศิษย์ผู้สืบทอดสายวิชาจากหลวงพ่อพรหม ติสเทโว แห่งวัดขนอนเหนือนะครับ

วันจันทร์ที่ ๒ พ.ย. ผมเข้าไปถึงวัดเกือบสี่โมงเย็นครึ่งแล้ว พอเข้าไปกราบท่านๆ ก็ว่ามาคนเดียวจะยกไหวเหรอกล่องตั้งเยอะแยะ ก็เรียนท่านไปว่าส่วนใหญ่ก็ยกคนเดียวจนชินแล้วครับ หลังจากที่ยกขึ้นรถจนหมดแล้ว ได้เข้าพูดคุยกับท่านอยู่ครู่ใหญ่และได้ขอให้ท่านจารแผ่นตะกั่วเพื่อเป็นมวลสารในการสร้างครั้งต่อไปอีกหนึ่งแผ่น ก่อนลาท่านกลับได้ถวายปัจจัยในนามของโครงการสร้างพระเนื้อตะกั่วเพื่อบรรจุกรุ รวม ๘๔,๐๐๐ องค์ จำนวน ๑,๐๐๐ บาทเพื่อร่วมสร้างมณฑปเก็บร่างของหลวงพ่อพรหม ติสเทโว ซึ่งมรณภาพตั้งแต่วันที่ ๒๗ มกราคม พ.ศ.๒๕๓๔ แต่ร่างของท่านไม่เน่าเปื่อย ขอเชิญร่วมโมทนาบุญด้วยกันครับผม

ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพพระอาจารย์สาทและข้อมูลด้วยนะครับ

 

การอธิฐานจิตเสกเดี่ยว ครั้งที่ ๓ “ พระลีลาแพร่บุญ ”

วันเสาร์ที่ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๘

พระครูสีหสุวรรณวงศ์(หลวงปู่ครูบาสิงห์ทอง อินทวํโส)

วัดป่าบุก ต.แม่แรง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน

อายุ ๘๓ ปี พรรษา ๖๓

วันนั้นผมกับคุณเอ บางพระเข้าไปถึงวัดเกือบบ่ายสองโมงครึ่งแล้ว เมื่อเข้าไปถึงวัด คุณเอลงจากรถเข้าไปสอบถามกับหลวงพี่ที่อยู่ในวัดว่าหลวงปู่ท่านอยู่หรือไม่หลวงพี่ท่านก็ว่าหลวงปู่อยู่ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยสบายพักผ่อนอยู่ในกุฏิ คุณเอก็เข้าไปประสานงาน แล้วก็ออกมาบอกว่าหลวงปู่ท่านจะอธิฐานจิตให้ ก็มาช่วยกันยกกล่องเหล็กเข้าไปจัดวางที่ด้านหน้าพระพุทธในห้องหลวงปู่ เมื่อผูกโยงสายสิญจน์เสร็จแล้วท่านก็เริ่มบอกกล่าวตามพิธีของท่านอยู่ครูหนึ่งก่อนเริ่มอธิฐานจิตให้ใช้เวลาอยู่ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง แล้วท่านก็พรมน้ำมนต์ปิดท้ายให้จนทั่วทุกกล่องก็เป็นอันว่าเสร็จพิธีครับ

ก่อนลาท่านกลับได้ถวายปัจจัยในนามของโครงการสร้างพระเนื้อตะกั่วเพื่อบรรจุกรุ รวม ๘๔,๐๐๐ องค์ เพื่อไว้ทะนุบำรุงวัด จำนวน ๑,๐๐๐ บาท ขอเชิญร่วมโมทนาบุญด้วยกันครับผม


หมายเหตุ ...... สำหรับหลวงปู่ครูบาสิงห์ทอง ท่านเคยเมตตาจารแผ่นชนวนให้กับทางโครงการสร้างพระเนื้อตะกั่วเพื่อบรรจุกรุ ฯ มาแล้วเมื่อ ๒๙ ก.ค.๕๕ จำนวน ๑ แผ่น ( ดูเพิ่มเติมที่ หน้า 30 # 588 ) ซึ่งนับเป็นพระคณาจารย์ลำดับที่ ๑๔๑ ( ดูเพิ่มเติมที่หน้า 141 # 2808 ) ต้องขอขอบคุณ คุณยันต์ครูที่ช่วยดำเนินการด้วยนะครับ

 

คุณศุภชัย อินทชาติ ร่วมสร้างพระบรรจุกรุ จำนวน ๓ ชุด ๔๕๐ บาท ร่วมบุญมารวม ๕๐๐ บาท

ขอโมทนาบุญทั้งหมดทั้งปวงกับคุณศุภชัยด้วยครับผม