เพื่อการกุศล " พระลีลาแพร่บุญ " โครงการสร้างพระเนื้อตะกั่วเพื่อบรรจุกรุ ฯ ครั้งที่ ๖ ......หมดเขตร่วมบุญแล้ว

โมทนาบุญกับพี่นริญด้วยนะครับ

รอโบชัวจากพี่ผาแดงส่งให้บ้านรับรองว่าร้อยชุดไม่พอแน่นอน อิอ้

 

อธิฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว ครั้งที่ ๒

วันจันทร์ที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖

พระครูไพบูลย์สิกขการ (พ่อท่านหวาน อภโย ) วัดสะบ้าย้อย ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา อายุ ๙๕ ปี


เมื่อออกจากวัดห้วยเงาะมานั้นตั้งใจจะเข้าวัดนาประดู่ก่อน เพื่อขอให้พ่อท่านพล ท่านเสกพระชุดนี้ให้ แต่พอเข้าไปติดต่อ ปรากฏว่าท่านติดกิจนิมนต์ที่ยะลา ก็เลยประสานกับหลวงพี่ในวัดไว้ว่าวันพุธจะเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง คุณนวลเลยบอกถ้าอย่างนั้นไปหาพ่อท่านหวาน ที่สะบ้าย้อยก่อนดีกว่า พอดีพระในวัดท่านได้ยินว่าจะไปสะบ้าย้อย ก็เลยแนะนำเส้นทางให้ว่าให้ออกทาง วัดทรายขาว ผ่านช้างให้ตก จะใกล้กว่าไปออกทาง โคกโพธิ์ เกือบยี่สิบกิโล ก็เลยตัดสินใจลองใช้เส้นทางนี้โดยผมขับรถของผมนำหน้าแล้วคุณนวลขับตามหลัง มาถึงวัดสะบ้าย้อยประมาณบ่ายสามครึ่งน่าจะได้

จอดรถเสร็จลงเดินเข้าไปที่กุฏิท่านปิดแลดูเงียบๆอยู่ ยืนหันรีหันขวางอยู่ครู่ใหญ่ คุณนวลก็ลองโทร.หารุ่นน้องที่เป็นลูกศิษย์ท่านเพื่อสอบถามว่าท่านรับกิจนิมนต์ไปที่ไหนหรือไม่ รุ่นน้องคุณนวลก็บอกว่าเดี๋ยวจะมาหา ให้รอก่อน ยืนรอกันอยู่ครู่หนึ่ง น้องเขาก็มา พาเข้าไปเปิดประตูกุฏิเข้าไปกราบพ่อท่านหวาน และเรียนให้ท่านทราบว่าจะขอให้ท่านอธิฐานพระชุดนี้เพื่อนำไปบรรจุกรุ ที่ จ.ตรัง ท่านก็ว่าได้และให้ยกพระไปเตรียมวางที่หน้าโต๊ะหมู่บูชาตรงศาลา ก็เลยไปถอยรถมาข้างๆศาลาแล้วทยอยยกกล่องเหล็กลงมาวางลงบนโต๊ะกลาง เมื่อยกมาวางหมดแล้วก็เริ่มโยงสายสิญจน์จากองค์พระพุทธรูป มาที่กล่องเหล็กเมื่อวนสายสิญจน์ครบสามรอบแล้วก็เตรียมส่งม้วนสายสิญจน์ให้พ่อท่านหวาน ที่นั่งมองภาพพระที่ใส่กรอบไว้อยู่นานแล้ว ท่านก็ว่าขอดูพระหน่อย ก็เลยมาเปิดกล่องเหล็กแล้วส่งพระให้ท่านดูองค์หนึ่ง ท่านก็ว่าพิมพ์สวยดี ขนาดก็ไม่ใหญ่มาก แล้วก็ส่งคืนพระมาให้ผมก็รับไปวางบนกล่องเหล็กแล้วท่านก็ว่าให้ผมไปจุดเทียนธูปที่หน้าโต๊ะหมู่บูชาก่อน เมื่อกราบพระเสร็จแล้วก็ส่งสายสิญจน์ให้ท่านอีกครั้ง พ่อท่านหวานท่านรับไปแล้ว ก็ถือไว้ในมือเริ่มสวดมนต์ กล่าวสัคเคเพื่อเชิญเทวดาและครูบาอาจารย์ตามพิธีของท่านอยู่ประมาณสิบห้านาที

จากนั้นท่านก็เริ่มนั่งอธิฐานจิตให้อีกนานประมาณสามสิบห้านาที แล้วท่านก็สวดอิติปิโสให้อีกครั้งหนึ่งเป็นเสร็จพิธี และครั้งนี้ก็ได้นำแผ่นตะกั่วไปขอให้พ่อท่านหวานจารเพิ่มเติมเพื่อเป็นชนวนมวลสารในการจัดสร้างพระบรรจุกรุ ครั้งที่ ๔ (ภาคตะวันออก) ด้วยอีก ๑ แผ่น เมื่อท่านจารเสร็จได้เรียนสอบถามท่านถึงพระชุดนี้ว่าเป็นอย่างไรบ้างท่านว่ามีครบทุกอย่างทั้งเมตตา โชคลาภ แคล้วคลาด ท่านยังว่าขอพระชุดนี้ไว้บ้างก็ได้ถวายท่านไปพร้อมด้วยปัจจัยจำนวน ๑,๐๐๐ บาท ในนามของโครงการสร้างพระเนื้อตะกั่วเพื่อบรรจุกรุ รวม ๘๔,๐๐๐ องค์ ครั้งที่ ๓ (ภาคใต้ ) จำนวน ๘,๔๐๐ องค์ขอเชิญทุกท่านโมทนาบุญร่วมกันครับ จากนั้นก็กราบลาท่านกลับเป็นอันว่าเสร็จสิ้นสำหรับวัดสะบ้าย้อยครับ

 

ชมภาพการอธิฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวของพ่อท่านหวานกันต่อครับ

 

คุณญาณี พัฒนคูหะ ร่วมบุญสร้างพระบรรจุกรุ ครั้งที่ ๓ จำนวน ๒ ชุด ๓๐๐ บาท

คุณสมจิตร อริยะโคตร ร่วมบุญสร้างพระบรรจุกรุ ครั้งที่ ๓ จำนวน ๒ ชุด ๓๐๐ บาท

คุณ พนม คุณสุนีย์ ทิพวรรณ ร่วมบุญสร้างพระบรรจุกรุ ครั้งที่ ๓ จำนวน ๒ ชุด ๓๐๐ บาทและร่วมบริจาคเงินเข้าโครงการสร้างพระบรรจุกรุ ฯ อีก ๑๐๐ บาท

ขอโมทนากับทุกๆท่านด้วยครับผม

 

วันนี้เพิ่งจะกลับจากไปรับวัตถุมงคล รุ่นสมโภช ๑๐๐ ปี อุโบสถ ของวัดสำราญ ที่สั่งทำไว้กับทางเทวชัย ที่พนัสนิคม มานะครับ พรุ่งนี้น่าจะได้ลงรายละเอียดการปลุกเสกเดี่ยว ของพระบรรจุกรุให้อ่านกันต่อครับ

และวันนี้ก็ได้รับเงินของ อ.เทียนชัย ทรงบัณฑิตย์ ที่ได้ร่วมจองสร้างพระบรรจุกรุ รายการพิเศษ ๑ จำนวน ๑ กอง ๑,๕๐๐ บาท และร่วมบริจาคเงินเข้าโครงการสร้างพระบรรจุกรุ ฯ อีก ๕๐๐ บาท มาแล้ว จำนวน ๒,๐๐๐ บาท

คุณอาทิ ร่วมบริจาคเงินเข้าโครงการสร้างพระบรรจุกรุ ฯ จำนวน ๑๐๐ บาท

คุณเสนอ ร่วมบริจาคเงินเข้าโครงการสร้างพระบรรจุกรุ ฯ จำนวน ๑๐๐ บาท

ขอโมทนากับทุกๆท่านด้วยครับผม

 

ช่วงนี้ก็ยังช่วยงานของวัดสำราญเรื่องวัตถุมงคลของทางวัดอยู่นะครับ เพราะใกล้งานซึ่งจะพุทธาภิเษกในวันที่ ๒๗ ต.ค.นี้ ซึ่งก็ใกล้วันเข้ามาแล้ว มาชมภาพและรายละเอียดของการอธิฐานจิตเสกเดี่ยวกันต่อครับ

อธิฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว ครั้งที่ ๓

วันอังคารที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖

พระครูประสูตโสภณ (พ่อท่านเกลื่อน คุณกาโม) วัดประดู่หมู่ ต.ฉาง อ.นาทวี จ. สงขลา อายุ ๑๐๖ ปี พรรษา ๘๔

วันนั้นผมนัดเจอกับคุณนวลที่วัดประดู่หมู่ประมาณสามโมงเช้า ออกจากที่พักในค่ายอิง ฯประมาณเจ็ดโมงเช้ากว่าๆ สอบถามเส้นทางกับรุ่นน้องแล้วเขาบอกว่าให้เข้าทางเทพา จะใกล้กว่าเข้าทางจะนะ เลยขับมาตามเส้นทางที่น้องเขาบอก ปรากฏว่าไกลกว่าที่ขับเข้าทางจะนะเสียอีก เพราะที่ตั้งวัดอยู่ค่อนมาทางด้านจะนะมากกว่า

ขับรถมาถึงวัดนั่งคอยอยู่ครู่หนึ่งคุณนวลก็ขับรถมาถึง ก็เข้าไปติดต่อให้เพราะว่าเคยมากราบพ่อท่านเกลื่อนหลายครั้งแล้ว สักพักก็เดินมาบอกว่าพ่อท่านให้ยกพระเข้าไปในกุฏิได้ ก็เดินมาที่รถขับถอยเข้าไปจอดที่หน้ากุฎิท่าน หยิบผ้าขาวกับภาพถ่ายเข้าไปก่อน ปูผ้าขาวเสร็จก็ออกมายกกล่องเหล็กเข้าไปวางพอวางครบทุกกล่องเตรียมจะโยงสายสิญจน์ท่านก็ส่งม้วนสายสิญจน์ของท่านมาให้บอกว่าให้ใช้ม้วนนี้เลยเอาม้วนที่เตรียมไว้วางบนกล่องแทน หลังจากโยงสายสิญจน์รอบกล่องเสร็จก็ส่งให้พ่อท่านๆก็รับไปวางในพานข้างโต๊ะหมู่ แล้วบอกให้ผมเตรียมจุดธูปเก้าดอกเพื่อบูชาพระ เมื่อไหว้พระบอกกล่าวขอบารมีพระท่านมาช่วยสงเคราะห์พระบรรจุกรุครั้งนี้ กราบครบสามครั้งเสร็จแล้ว พ่อท่านเกลื่อน ท่านก็หันไปบอกพระลูกศิษย์ท่านที่นั่งอยู่ข้างๆให้สวดอิติปิโสไปเรื่อยๆ แล้วท่านก็เริ่มเบิกปากก่อนที่จะบอกกล่าวครูบาอาจารย์ตามพิธีของท่าน ซึ่งพูดสำเนียงใต้ เท่าที่จับใจความได้ก็ พูดว่าท่านชื่ออะไร พ่อแม่ชื่ออะไร อุปัชฌาย์ชื่ออะไร ครูบาอาจารย์ชื่ออะไร วันนี้จะขอทำการปลุกเสกพระ ฯลฯ เมื่อบอกกล่าวตามพิธีท่านเสร็จแล้ว ท่านก็หยิบสายสิญจน์มาถือและเริ่มอธิฐานจิตเสกให้นานประมาณยี่สิบนาที

หลังจากท่านเสกให้เสร็จแล้ว ท่านก็พูดสำเนียงใต้ว่า "พระชุดนี้ขลังมาก" อยู่สองสามครั้ง ผมก็ได้ถวายท่านไปหนึ่งองค์ ท่านก็รับไปแล้วนำไปแปะไว้ที่หน้าผากของท่าน แล้วก็ยกมาพนมมือไหว้อีกหนึ่งครั้งก่อนที่นำไปไปวางที่โต๊ะหมู่หน้าหัวนอนท่านแล้วก็พูดว่า "เก็บไว้บูชาเป็นสิริมงคล " แล้วก็บอกว่าขอให้ลูกศิษย์ท่านอีกองค์ ก็ถวายท่านไป พอเอาแผ่นตะกั่วไปขอให้ท่านจารเพื่อไว้เป็นชนวนมวลสารในการสร้างพระบรรจุกรุ ครั้งที่ ๔ (ภาคตะวันออก) เสร็จท่านก็ว่าพระชุดนี้ทำมาเยอะหรือเปล่า ก็เรียนท่านว่าเป็นพระสำหรับบรรจุกรุ ๘,๔๐๐ องค์ และพระที่ระลึกสำหรับผู้ร่วมบุญอีก ๘๔๐ องค์ แต่ก็มีพระนำฤกษ์และพระที่โรงงานปั๊มเผื่อเสียมาให้อีกจำนวนหนึ่ง ท่านก็ว่า " ของดีอยากจะได้ไว้อีกสักหน่อย " ก็ได้ถวายท่านเพิ่มเติมไปอีก ท่านก็ได้เมตตาลงกระหม่อมมาให้ด้วย

หลังจากนั้นได้ถวายปัจจัยจำนวน ๑,๐๐๐ บาท ให้กับพ่อท่านเกลื่อน ในนามของโครงการสร้างพระเนื้อตะกั่วเพื่อบรรจุกรุ รวม ๘๔,๐๐๐ องค์ ครั้งที่ ๓ (ภาคใต้ ) จำนวน ๘,๔๐๐ องค์ ท่านก็ได้โมทนากับการสร้างพระมาด้วย

 

เมื่อช่วงพักเที่ยงนำพระ "เสมาแก้ว" ไปฝากไว้ที่วัดเกริ่นกฐิน อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี มานะครับ เพื่อขอให้หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน ท่านเสกประมาณหนึ่งสัปดาห์ วันศุกร์หน้าจะไปขอรับคืนกลับมาเพื่อมาเข้าพิธีพุทธาภิเษกรุ่น " สมโภช ๑๐๐ ปี อุโบสถ" ของวัดสำราญ ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมือง จ.ลพบุรี ในวันอาทิตย์ที่ ๒๗ ต.ค.๕๖ นี้

ซึ่งก็สรุปรายนามพระคณาจารย์ชื่อดังของสายใต้และภาคกลาง ที่เมตตาอธิฐานจิตเสกเดี่ยว พระพิมพ์ "เสมาแก้ว" ของโครงการสร้างพระเนื้อตะกั่วเพื่อบรรจุกรุ รวม ๘๔,๐๐๐ องค์ ครั้งที่ ๓ (ภาคใต้ ) จำนวน ๘,๔๐๐ องค์ ดังนี้ครับ

๑. วันที่ ๗ ต.ค.๕๖ พ่อท่านเขียว กิติคุโณ วัดห้วยเงาะ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี

๒. วันที่ ๗ ต.ค.๕๖ พ่อท่านหวาน อภโย วัดสะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา

๓. วันที่ ๘ ต.ค.๕๖ พ่อท่านเกลื่อน คุณกาโม วัดประดู่หมู่ อ.นาทวี จ. สงขลา

๔. วันที่ ๘ ต.ค.๕๖ พระอาจารย์ปิติพงษ์ ฐิตเปโม สำนักสงฆ์เวียงป่าโป อ.เมือง จ.สงขลา

๕. วันที่ ๘ ต.ค.๕๖ พ่อท่านแสง อาภาธโร วัดศิลาลอย อ.สทิงพระ จ. สงขลา

๖. วันที่ ๙ ต.ค.๕๖ พ่อท่านพล อาสโก วัดนาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี

๗. วันที่ ๙ ต.ค.๕๖ พ่อท่านพรหม ธัมมฺธโร วัดพลานุภาพ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี

๘. วันที่ ๙ ต.ค.๕๖ พ่อท่านฉิ้น โชติโก วัดเมืองยะลา อ.เมือง จ.ยะลา

๙. วันที่ ๑๐ ต.ค.๕๖ หลวงพ่อเอียด ครุธัมโม วัดโคกแย้ม อ.เมือง จ.พัทลุง

๑๐. วันที่ ๑๑ ต.ค.๕๖ พระอาจารย์ประสูติ ปิยธมฺโม วัดถ้ำพระพุทธโกสีย์ (ในเตา) อ.ห้วยยอด จ.ตรัง

๑๑. วันที่ ๑๑ ต.ค.๕๖ พ่อท่านเหิม วัดศรีรัตนราม(หนองช้างแล่น ) อ.ห้วยยอด จ.ตรัง

๑๒. วันที่ ๑๑ ต.ค.๕๖ พ่อท่านลาภ สนฺตวณฺโณ วัดเขากอบ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง

๑๓. วันที่ ๑๑ ต.ค.๕๖ พ่อท่านหวล ขันติโก วัดโคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง

๑๔. วันที่ ๑๘ - ๒๕ ต.ค.๕๖หลวงพ่อเพี้ยน อคฺคธมฺโม วัดเกริ่นกฐิน อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี

๑๕. วันที่ ๙ พ.ย.๕๖ ท่านเจ้าคุณสงัด ปญฺญาวุโธ วัดกระพังสุรินทร์ อ.เมือง จ.ตรัง (จะเสกปิดเป็นองค์สุดท้าย หลังจากพิธีสวดธรรมจักรในช่วงเย็น ก่อนที่จะทำพิธีบรรจุกรุ ในวันที่ ๑๐ พ.ย.๕๖ )


และพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลรุ่น "สมโภช ๑๐๐ ปี อุโบสถ" วัดสำราญ อ.เมือง จ.ลพบุรี ในวันที่ ๒๗ ต.ค.๕๖ โดยพระคณาจารย์ชื่อดังจำนวน ๙ องค์ ( รายนามจะเรียงตามอาวุโส ) ดังนี้




๑. หลวงปู่ยวง สุภัทโท วัดหน้าต่างใน ต.หน้าไม้ อ.บางไทร จ.อยุธยา อายุ ๘๕ ปี

๒. พระครูโสภณสิริธรรม (ลป.สม สุชีโว) วัดโพธิ์ทอง ต.คำหยาด อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง อายุ ๘๔ ปี พรรษา ๖๐

๓. พระครูอุปกิตสารคุณ (ลพ.เสน่ห์ กตปุญฺโญ) วัดพันสี ต.ท่าโพ อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี อายุ ๘๒ ปี พรรษา ๖๒

๔. พระครูสุทธิวราภรณ์(หลวงปู่สรวง วรสุทโธ) วัดถ้ำพรหมสวัสดิ์ ต.ช่องสาริกา อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี อายุ ๘๐ ปี พรรษา ๕๖

๕. พระครูปัญญาวิมล(หลวงพ่อแป๋ว อนุตตโร ) วัดดาวเรือง ต.ไม้ดัด อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี อายุ ๗๘ ปี พรรษา ๕๘

๖. พระครูไพบูลย์รัตนาภรณ์ (ลพ.สมบูรณ์ รตนญาโณ)เจ้าคณะ ๔ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กทม.

๗. พระครูวิมลญาณอุดม (พระอาจารย์ติ๋ว ฐิตวฑฺฒโน) วัดมณีชลขัณฑ์ ต.พรหมาสตร์ อ.เมือง จ.ลพบุรี อายุ ๕๔ ปี พรรษา ๓๔

๘. พระครูประภาสธรรมทัต (พระอาจารย์ป้อม ประภาสโย) วัดหนองม่วง ต.วังเย็น อ.บางแพ จ.ราชบุรี อายุ ๕๐ ปี พรรษา ๒๙

๙. พระครูปลัดสุริยัน จันทวัณโณ วัดป่าฉัพพรรณรังสี ต.หนองโดน อ.จตุรัส จ.ชัยภูมิ

 

แจ้งการโอนเงินครับ

บริจาค 2 ชุด 300 บาทครับ เวลา 21.01 น. วันที่ 18/10/2556
ว่าที่ ร.ต.ต.พิทักษ์พงษ์ สำเนียงล้ำ ฝอ.10 บก.อก.
กองบัญชาการตำรวจนครบาล 323 ถ.ศรีอยุธยา แขวงดุสิต เขตดุสิต กทม. 10300 ปล.เพิ่งสอบได้นายตำรวจครับ ทำมาทุกครั้ง ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าเข้านิพพานชาติปัจจุบันนี้หากข้าพเจ้ามิได้ถึงซึ่งพระนิพพานเพียงใดขอให้ข้าพเจ้าเกิดทันยุคพระศรีอริยเมตไตรยประกาศพระพุทธศาสนาแล้วได้ฟังธรรมเทศนาแล้วบรรลุพระพระอรหันต์ สาธุ สาธุ สาธุ

 

รับทราบครับ

ร่วมบุญสร้างพระบรรจุกรุ จำนวน ๒ ชุด

ยินดีกับผู้หมวดใหม่ด้วยครับ ร่วมบุญสร้างพระบรรจุกรุ ครั้งที่ ๒ ยังเป็นผู้หมู่อยู่เลย ครั้งนี้เป็นหมวดแล้ว ขอโมทนาด้วยครับผม

 

อธิฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว ครั้งที่ ๔

วันอังคารที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖

พระอาจารย์ปิติพงษ์ ฐิตเปโม สำนักสงฆ์เวียงป่าโป ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา

เมื่อออกจากวัดประดู่หมู่ ที่ อ.นาทวี แล้วคุณนวลก็รีบขับรถนำไปเข้าสงขลาเลยเพราะได้โทร.ประสานกับพระอาจารย์ปิติพงษ์ไว้ให้แล้วว่าจะนำพระบรรจุกรุ ครั้งที่ ๓ (ภาคใต้ ) นี้ ไปขอให้ท่านเสกให้ และจะเข้าไปถึงสำนักสงฆ์ประมาณบ่ายโมง แต่ระหว่างทางฝนก็ตกเกือบตลอดเลยทำความเร็วไม่ได้มากเท่าไหร่

พอถึงทางเข้าบ้านศรัทธา คุณนวลก็เลี้ยวรถนำเข้าไปจอดพักไว้ที่หน้าห้องสมุดก่อน เพราะว่าเป็นรถเก๋ง แล้วเปลี่ยนมาใช้รถผมที่เป็นกระบะ ขับขึ้นไปบนสำนักสงฆ์เวียงป่าโปแทน เพราะจะต้องขับขึ้นเขาไปอีกเป็นระยะทางถึง ๒.๕ กม. ตลอดทางก็มีลุ้นเหมือนกันเพราะไม่เคยเส้นทางแถมฝนก็เพิ่งจะหยุดตกพื้นถนนก็ยังค่อนข้างลื่นอยู่ ขึ้นมาด้านบนแล้วเห็นวิวตัวเมืองสงขลาได้เกือบหมด

พอมาถึงที่จอดรถคุณนวลก็โทร.แจ้งกับพระอาจารย์ปิติพงษ์ว่ามาถึงแล้วท่านก็ว่าให้คอยก่อนจะให้คนงานที่กำลังก่อสร้างวิหารอยู่ขึ้นมาช่วยกันยกพระ เพราะจะต้องเดินลงเขาไปตามบันไดอีก ๑๗๕ ขั้น ก็เตรียมยกกล่องเหล็กออกจากลังไม้มาคอยอยู่ครู่หนึ่ง คนที่มาช่วยยกก็เดินขึ้นมาถึงรถ ก็ช่วยกันทั้งหิ้วทั้งแบก เดินลงไปที่ตัวกุฎิพระอาจารย์ปิติพงษ์ ต้องเดินอย่างระมัดระวังครับ เนื่องจากฝนก็เพิ่งจะหยุดตก ทางก็ค่อนข้างลื่น กล่องเหล็กก็หนัก ต้องหยุดพักระหว่างทางกันเป็นระยะๆ



ทางเข้าบ้านศรัทธา



ทางไปสำนักสงฆ์เวียงป่าโป อีก ๒.๕ กม.



เมื่อขึ้นมาด้านบนมองเห็นวิวตัวเมืองสงขลาได้เกือบทั่ว



ช่วยกันทั้งยกทั้งแบก



เดินลงไปตามทาง

 

ลงมาถึงกุฎิท่านก็มาเจอกับคณะของชาวมาเลย์ที่มากราบท่านเป็นกลุ่มใหญ่เกือบยี่สิบคน จากการสอบถามจากไกด์ชาวไทยที่ทำหน้าที่รับส่งชาวมาเลย์อยู่บ่อยครั้ง ว่าชาวมาเลย์กลุ่มนี้และคณะอื่นก็ยังมีอีกจะนับถือท่านมาก บางคนบางบางกลุ่มจะเข้ามากราบท่านเดือนนึงสองสามครั้งก็มี เพราะว่ามาไหว้พ่อปู่ขาวเพื่อขอพรและรับของดีจากท่านไปแล้วค้าขายดีมาก ขนาดมีอยู่คนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในการค้าขายถึงกับออกค่าใช้จ่ายในการสร้างบันไดทางลงจำนวน ๑๗๕ ขั้นนี้ถวายท่านแต่เพียงผู้เดียวเลย ก็ได้สอบถามไกด์เพิ่มเติมเรื่องประวัติความเป็นมาของรูปเคารพพ่อปู่ขาว ว่าเป็นมาอย่างไร พี่ไกด์เล่าให้ฟังว่าพ่อปู่ขาวแต่เดิมก็เป็นเพียงแท่งหินที่โผล่พ้นพื้นสูงกว่าคนพอสมควร ต่อมาท่านได้นิมิตจากพ่อปู่ขาวว่าให้มาจำวัดที่นี่ จึงมาสร้างเป็นสำนักสงฆ์ขึ้น ด้วยจริยานุวัตรของท่านก็ได้รับความเคารพนับถือจากชาวบ้านละแวกนั้น ต่อมาท่านได้สั่งให้ทุบแท่งหินนี้(คล้ายกับทุบในส่วนที่ไม่ค่อยแข็งออก: ความคิดของผมเอง) ก็จึงปรากฏเป็นรูปร่างของพ่อปู่ขาวอย่างที่เห็นกันในปัจจุบัน ซึ่งถ้าดูจากทองที่มีผู้คนศรัทธาปิดกันมากถึงขนาดนี้ นับได้ว่าท่านเป็นที่เคารพนับถือกันอย่างมากอีกองค์หนึ่ง



ภาพในอดีตก่อนที่จะมีการก่อสร้างวิหารครอบ (ขอขอบคุณท่านเจ้าของภาพด้วยนะครับ)









ภาพปัจจุบันที่กำลังสร้างวิหาร มีชาวไทยและชาวมาเลย์ที่ศรัทธาเข้ามากราบไหว้ขอพระพ่อปู่ขาวอยู่เป็นประจำ

 

รออยู่สักครู่นึงคณะแรกที่เข้าพบท่านใกล้เสร็จธุระแล้ว ก็ถึงคิวที่เข้าไปกราบพระอาจารย์ปิติพงษ์ ก็ช่วยกันยกกล่องเหล็กทั้งหมดเข้าไปในที่รับแขกของท่านและเล่าความเป็นของโครงการสร้างพระฯ ให้ท่านฟังพร้อมกับเท้าความว่าได้เคยขอให้คุณนวลมาขอแผ่นจารจากท่านไปเป็นมวลสารในการสร้างพระตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว ท่านก็ซักถามอยู่ครู่หนึ่งก็ให้ยกมาวางที่ด้านหน้าท่าน ก็จัดแจงเอาผ้าขาวปูแล้วยกกล่องเหล็กไปจัดวางทั้งหมด เมื่อเรียบร้อยแล้วท่านก็สั่งให้จุดเทียนปักที่กล่องเหล็กหนึ่งเล่ม แล้วท่านก็เริ่มทำพิธีให้รวมแล้วนานประมาณยี่สิบนาทีได้ หลังจากนั้นก็ได้ถวายปัจจัยในนามของโครงการสร้างเนื้อตะกั่วพระบรรจุกรุ ฯ จำนวน ๑,๐๐๐ บาท เพื่อไว้ใช้ในการก่อสร้างสำนักสงฆ์ที่กำลังดำเนิน การอยู่ ยังไม่ทันได้กราบลาท่านกลับฝนก็เริ่มตกลงมา เลยช่วยกันยกกล่องเหล็กใส่พระทั้งหมดออกมาที่ด้านนอกก่อนเพื่อคอยเวลากลับ

ระหว่างนั้นชาวมาเลย์อีกกลุ่มหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มต้น ที่ช่วยกันทั้งยกทั้งแบกกล่องเหล็กใส่พระเข้ามาให้อาจารย์ปิติพงษ์ท่านเสกก็เข้ามาสอบถามว่าเป็นพระอะไร ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณพี่ไกด์ชาวไทยด้วยครับที่เป็นล่ามช่วยอธิบายถึงวัตถุประสงค์ของโครงการสร้างพระเนื้อตะกั่วเพื่อบรรจุกรุ ฯ นี้ให้กับชาวมาเลย์กลุ่มนี้ฟังจนบางท่านมีศรัทธาร่วมบุญสร้างพระมาด้วยอีกสี่ท่าน จากนั้นก็นั่งคอยกันอีกเป็นชั่วโมงกว่าฝนจะหยุดตก พอฝนหยุดตกก็เลยเข้าไปกราบลาพระอาจารย์ปิติพงษ์ท่านกลับ ท่านก็ว่าไปเรียกคนงานมาเลยจะได้ช่วยกันยกพระขึ้นไปที่รถ ขาขึ้นนี้ล่ะครับ กล่องเหล็กใบนึงประมาณ๑๗-๑๘ กิโล หิ้วขึ้นบันได ๑๗๕ ขั้น เล่นเอาหัวเข่าร้อนเลยครับ พักสามสี่ครั้งกว่าจะถึงรถ ทดสอบกำลังใจกันจริงๆเลยสำหรับการเสกเดี่ยวครั้งนี้

ขอขอบคุณพี่ๆคนงานที่ช่วยกันยกกล่องเหล็กใส่พระทั้งลงทั้งขึ้นในครั้งนี้ด้วยขอโมทนาครับผม

ภาพทิวทัศน์เมื่อยืนอยู่ที่วิหารสร้างใหม่



พระอาจารย์ปิติพงษ์ กำลังเริ่มพิธีเสกเดี่ยว



กำลังอธิฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว



ทั้งหิ้วทั้งแบกครับ เดินขึ้นบันไดอีก ๑๗๕ ขั้นเพื่อกลับมาที่รถ

 

อธิฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว ครั้งที่ ๕

วันอังคารที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖

พระครูโอภาสธรรมรัตน์ (พ่อท่านแสง อาภาธโร ) วัดศิลาลอย ต.ชุมพล อ.สทิงพระ จ. สงขลา อายุ ๙๑ ปี

เมื่อออกจากสำนักสงฆ์เวียงป่าโป คุณนวลก็ขับรถนำหน้ามุ่งสู่ อ.สทิงพระ ซึ่งห่างออกไปเกือบห้าสิบกิโล ถึงวัดสี่โมงเย็นกว่าแล้ว ผิดเวลาที่คุณนวลแจ้งไว้กับทางพ่อท่านแสง ว่าจะมาถึงประมาณบ่ายสาม เพราะติดฝนอยู่บนสำนักสงฆ์เวียงป่าโปเป็นชั่วโมง เมื่อเข้าไปถึงในวัดคุณนวลก็พานำเข้าไปจอดที่ข้างวิหาร แล้วพาเข้าไปกราบพ่อท่านแสง ที่คอยอยู่ในกุฎิ ท่านก็ยังว่า นึกว่าไม่มาเพราะเห็นเย็นแล้ว จากนั้นท่านก็ให้ถอยรถไปใกล้ประตูวิหารหลวงพ่อศิลาลอยเลย จะได้ไม่ต้องยกไกล

จากนั้นก็มายกกล่องเหล็กลงจากรถเข้าไปในวิหาร ท่านชี้มือบอกว่าให้ไปวางบนเสื่อที่ปูรอไว้เลย ก็จัดแจงปูผ้าขาวยกกล่องเหล็กวางให้เข้าที่เสร็จแล้ว หยิบม้วนสายสิญจน์ออกมาจากกระเป๋าสะพายท่านก็บอกว่าให้ไปเริ่มจากองค์หลวงพ่อศิลาลอย( องค์ขวามือสุดที่หันข้าง )ก่อนเพราะท่านศักดิ์สิทธิ์มาก แล้ววนมาวางหน้าตักพระพุทธให้ครบทุกองค์แล้วค่อยมาที่กล่องเหล็ก เมื่อวนรอบกล่องจนครบสามรอบแล้วท่านก็รับสายสิญจน์ไปเริ่มบอกกล่าวครูอาจารย์ตามสายวิชาท่าน และอธิฐานจิตเสกให้นานประมาณยี่สิบนาทีน่าจะได้ครับ

เมื่อท่านส่งม้วนสายสิญจน์คืนให้ ก็ได้ถือโอกาสนี้ขอให้ท่านจารแผ่นชนวนตะกั่วเพิ่มเติม เพื่อไว้เป็นมวลสารในการสร้างพระบรรจุกรุ ครั้งที่ ๔ (ภาคตะวันออก)ด้วยอีกหนึ่งแผ่น และถวายปัจจัยจำนวน ๑,๐๐๐ บาท ในนามของโครงการสร้างพระเนื้อตะกั่วเพื่อบรรจุกรุ ฯ ได้นั่งพูดคุยกับท่านอีกครู่ใหญ่ๆ ท่านเมตตามากครับเหมือนญาติผู้ใหญ่เลย ได้ถามผมว่าหลังจากนี้จะไปวัดไหนอีกก็เรียนท่านไปว่าเป็นพ่อท่านพล วัดนาประดู่ที่ปัตตานีในวันรุ่งขึ้นครับเพราะได้ประสานไว้แล้ว ท่านก็ถามต่อว่าแล้วคืนนี้จะไปนอนไหนก็เรียนท่านไปว่าจะตีรถย้อนกลับไปนอนที่ปัตตานี ท่านก็ว่า นึกว่าจะนอนค้างที่นี่ จะได้ให้นอนในวิหารนี่เลยจะได้คุยกันบ้าง ก็เรียนท่านไปว่าไม่ค่อยสะดวกเพราะทางคุณนวลต้องย้อนกลับไปบ้านที่หาดใหญ่ด้วย ท่านก็ว่าวันหลังถ้าผ่านมาทางนี้ก็แวะมาคุยกันบ้าง สักพักก็กราบลาท่านกลับครับ

ขอกราบขอบพระคุณ พ่อท่านแสงที่กรุณาอนุญาตให้นำพระบรรจุกรุ ครั้งที่ ๓ (ภาคใต้) นี้ เข้าเสกในวิหารหลวงพ่อศิลาลอยได้ ขอบพระคุณคุณนวลพรรณ จากกระทู้หลวงปู่ทวดฯ ที่กรุณาประสาน งานกับทางวัดในวันนี้ถึงสามวัดคือพ่อท่านเกลื่อน วัดประดู่หมู่ อ.นาทวี, พระอาจารย์ปิติพงษ์ สำนักสงฆ์เวียงป่าโป อ.เมืองและพ่อท่านแสง วัดศิลาลอย อ.สทิงพระ แถมขับรถย้อนไปย้อนมาน่าจะถึงสองร้อยกิโลกว่าจะได้เข้าบ้านที่หาดใหญ่อีกรอบนึง ขอโมทนาด้วยครับผม

 

จากหลักฐานการบันทึกการสร้าง ปลุกเสกปรากฏนามพระอุปัชฌาย์ดำ ติสสโร วัดศิลาลอย เจ้าอาวาสวัดศิลาลอย (กระ) ต.ชุมพล อ.สทิงพระ สงขลาปฐมบทแห่งเถราจารย์ขลังแห่งต้นสายวิชชาอาถรรพณ์พระเวทย์โบราณของพ่อ ท่านแสง อาภาธโร ประวัดศิลาลอย(กระ) ประวัติวัดศิลาลอยตั้งอยู่เลขที่ 16 หมู่ที่ 4 บ้านวัดเกาะ ต.ชุมพล อ.สทิงพระ จ.สงขลา 90190 สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ 10 ไร่ 2 งาน 88 ตารางวา



วัดศิลาลอยได้สร้างขึ้นเป็นวัดเมื่อประมาณพ.ศ. 1300 สมัยพระเจ้าดูมัญญราช แห่งอาณาจักรหริภุญชัย เดิมมีนามว่าวัดยางงาม ต่อมามีพระพุทธรูปสร้างด้วยหินปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 60 นิ้ว ถูกคลื่นซัดขึ้นมาจากทะเลอ่าวไทย ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นพระพุทธรูปที่มาจากเกาะกระ ชาวบ้านและคณะศรัทธาต่างเตรียมอาราธนาอัญเชิญท่านเพื่อไปประดิษฐานที่วัดดีหลวง ก็เกิดเหตุการณ์ให้ประจักษ์แก่สายตาชาวบ้านเชือกขนาดใหญ่ที่ใช้ในการลากเกิด ขาดขึ้นมาหลายครั้งหลายคราและเมื่อเห็นเป็นเช่นนั้นชาวบ้านก็พร้อมใจกัน อาราธนาอัญเชิญท่านเพื่อไปประดิษฐานที่วัดนางเหล้าซึ่งอยู่ใกล้เคียงกันก็ เกิดเหตุการณ์เฉกเช่นเดียวกันอยู่หลายครั้งหลายครา เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวคณะศรัทธาและชาวบ้านจึงบอกกล่าวอาราธนาอัญเชิญ ท่านเพื่อมาประดิษฐานยังวัดยางงาม เป็นเหตุอัศจรรย์หรือความบังเอิญก็สุดคาดเดาการอัญเชิญท่านมาวัดยางงามไร้ซึ่งอุปสรรคใดๆ เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจแก่ชาวบ้านยิ่งนักและชาวบ้านได้เรียกนามวัดใหม่ว่าวัด กระ ตามที่มาของพระพุทธรูปศิลาที่ท่านมาจากเกาะกระ ครั้นต่อมาวัดกระได้ว่างเว้นพระสงฆ์จำพรรษากลายเป็นวัดร้างไปในที่สุดจนถึง ปีพ.ศ.2462 ชาวบ้านวัดกระ ได้เดินทางไปนิมนต์พระดำ ติสสโร วัดดีหลวง ให้มาปกครองวัดและท่านก็ได้รับนิมนต์เดินทางมาจำพรรษาที่วัดกระ และท่านก็ได้ทำการบูรณะพัฒนาวัดพร้อมกับได้บูรณะพระพุทธรูปศิลาและถวายนาม ว่าพระศิลาลอย ในโอกาสนี้ได้เปลี่ยนนามวัดเป็นวัดศิลาลอยตั้งแต่นั้นมา,,,,,

ขอบพระคุณท่านเจ้าของข้อมูลด้วยครับผม

 

อธิฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว ครั้งที่ ๖

วันพุธที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖

พระครูอาทรศุภการ (พ่อท่านพล อาสโก) วัดนาประดู่ ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี

เช้าวันนั้นตั้งใจไว้ว่าจะออกจากที่พักในค่ายอิงคยุทธฯ สักแปดโมงครึ่ง หลังจากเตรียมตัวเสร็จเดินมาที่รถ ปรากฏว่ายางหน้าด้านขวามารั่วซะอีก ไม่รู้ไปเหยียบอะไรมาเลยต้องมาเสียเวลาถอดออกแล้วเอายางอะหลั่ยใส่แทนอีกพักใหญ่ๆ กว่าจะมาถึงวัดนาประดู่ที่ห่างจากค่ายอิงฯประมาณยี่สิบกิโล ก็เกือบจะสี่โมงเช้าแล้ว พอเลี้ยวรถเข้าไปจอดในวัดเสร็จ ก็หยิบภาพพระเสมาแก้วที่ใส่กรอบไว้เดินไปหาหลวงพี่ที่ติดต่อไว้ก่อนตั้งแต่วันจันทร์ว่าวันนี้จะพระบรรจุกรุฯ เข้ามาขอให้พ่อท่านพล ท่านเสก หลวงพี่ท่านก็ชี้มือไปที่พ่อท่านพลที่นั่งเก้าอี้อยู่ใต้ต้นไม้ ว่าให้เข้าไปหาท่านได้เลย ได้บอกให้ไว้แล้ว ก็เข้าไปกราบท่านพร้อมกับนำภาพพระเสมาแก้วให้ท่านดูและอธิบายถึงวัตถุประสงค์ของโครงการสร้างพระเนื้อตะกั่วเพื่อบรรจุกรุ ฯให้ท่านทราบอย่างย่อๆ ท่านพยักหน้ารับรู้แล้วก็บอกว่าให้ยกพระไปที่ศาลาได้เลยจะเสกให้ที่นั่น

ก็มาถอยรถไปที่ศาลายกกล่องเหล็กออกจากลังไม้ท้ายรถ แล้วก็หยิบเอาภาพพระกับผ้าขาวเข้าไปในศาลาก่อนเป็นอย่างแรก เห็นพระท่านกำลังปูพรมแดงผืนใหญ่อยู่พอดีเลยวางของช่วยพระท่านปูพรมก่อน พ่อท่านพลที่ยืนดูอยู่ท่านก็บอกว่าให้นำพระไปวางบนเสื่อ ก็จัดแจงปูผ้าขาวไปบนเสื่อแล้วก็ออก มายกกล่องเหล็กที่ท้ายรถ เดินเข้าเดินออกอยู่ห้าเที่ยวครับกว่าจะครบ พอเรียงกล่องเหล็กเข้าที่เสร็จพ่อท่านพลท่านก็บอกพระให้ช่วยหาสายสิญจน์ให้โยมเขาหน่อยก็เรียนท่านว่าเตรียมมาด้วยแล้วครับ ท่านก็บอกว่าให้ไปเริ่มต้นผูกสายสิญจน์จากองค์หลวงปู่ทวดก่อนแล้ววนมาที่รูปหล่ออดีตเจ้าอาวาสแล้วค่อยมาที่กล่องพระ พอผูกโยงสายสิญจน์เสร็จ ก็ถวายม้วนสายสิญจน์ส่งให้พ่อท่านพลที่นั่งประจำที่คอยอยู่แล้ว ท่านไปรับไปแล้วก็คลี่ม้วนสายสิญจน์ออกมาวางไว้ จับแต่สายสิญจน์ไว้ในมือ บอกให้ผมไปจุดเทียนธูปบูชาพระก่อน ก็เหมือนทุกครั้งครับกราบขอบารมีพระฯและบารมีหลวงปู่ทวด อธิฐานขอให้พระเสมาแก้วชุดนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ครบในทุกๆด้าน

จากนั้นพ่อท่านพลก็เริ่มบอกกล่าวครูบาอาจารย์และอธิฐานจิตให้ตามสายวิชาที่ท่านได้ร่ำเรียนมาใช้เวลาประมาณยี่สิบนาที แล้วท่านก็เมตตาสวดยัตติ์ปิดท้ายให้เป็นเสร็จพิธีครับ เมื่อส่งม้วนสายสิญจน์คืนกลับมาให้ก็ได้นำแผ่นตะกั่วที่เตรียมไปด้วยขอความเมตตาพ่อท่านพล ท่านจารเพื่อเก็บไว้เป็นชนวนมวลสารในการจัดสร้างพระบรรจุกรุ ครั้งที่ ๔ (ภาคตะวันออก) อีกหนึ่งแผ่น และได้ถวายปัจจัยในนามของโครงการสร้างพระเนื้อตะกั่วเพื่อบรรจุกรุ ฯเพื่อไว้ใช้บำรุงวัด จำนวน ๑,๐๐๐ บาท แล้วก็พูดคุยกับท่านอยู่อีกครู่หนึ่งระหว่างนั้นก็สอบถามท่านว่าพระชุดนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ ท่านก็บอกดีมาก จะขอไว้แจกพระในวัดก็ได้ถวายท่านไว้จำนวน ๑๙ องค์ สักพักก็กราบลาท่านกลับครับ ยกกล่องเหล็กหิ้วกลับไปที่รถเก็บใส่ลังไม้เหมือนเดิม เตรียมออกไปวัดพลานุภาพต่อ



เริ่มบอกกล่าวครูบาอาจารย์ตามสายวิชาของท่าน









พ่อท่านพลสวดยัตต์ปิดท้ายให้

 

โครงการสร้างพระเนื้อตะกั่วเพื่อบรรจุกรุ รวม ๘๔,๐๐๐ องค์

ขอเชิญ

ร่วมสร้างพระเนื้อตะกั่วบรรจุกรุ ครั้งที่ ๓ ( ภาคใต้ ) จำนวน ๘,๔๐๐ องค์ ​

ณ วัดกระพังสุรินทร์ ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง

ในวันอาทิตย์ที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๖ เวลา ๑๐.๑๙ น.​

วัตถุประสงค์

๑. เพื่อเป็นพุทธบูชาและพุทธานุสสติ

๒. เพื่อเป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา

๓. เพื่อไว้ใช้เป็นทุนในการบูรณะหรือซ่อมแซม ศาสนวัตถุ เช่น โบสถ์, ศาลา ฯลฯ ของวัดที่ได้รับพระที่ร่วมกันจัดสร้างขึ้นมานี้ไปบรรจุไว้ในอีกอย่างน้อย ๓๐ ปีข้างหน้า

๔. เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าบรมราชินีนาถ, ดวงพระวิญญาณอดีตองค์บูรพกษัตริย์ไทยและเพื่ออุทิศส่วนกุศลนี้ให้ดวงวิญญาณบรรพบุรุษนักรบไทยทุกๆท่านที่ได้ร่วมปกป้องแผ่นดินไทยนับแต่อดีตถึงปัจจุบัน


นับตั้งแต่อดีตหลายร้อยปีที่ผ่านมา การสร้างพระเพื่อบรรจุกรุนิยมกระทำกันมาโดยตลอด นับเนื่องแต่สูงสุดคือองค์มหากษัตริย์ เชื้อพระวงศ์ เหล่าขุนนาง คหบดี หรือแม้แต่พระสงฆ์ , ฤาษี ที่เป็นผู้นำในการจัดสร้างพระเพื่อบรรจุกรุ โดยอาจเป็นไปตามเชื่อคตินิยมว่าเป็นการสืบทอดอายุของพระพุทธศาสนาให้ครบ ๕,๐๐๐ ปี ตามที่องค์พระสมณโคดมได้ทรงกล่าวไว้ และเพื่อเป็นการสะสมทุนบุญให้กับตนเองและหมู่คณะหรือสร้างเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับบิดามารดา ครูบาอาจารย์หรือผู้มีพระคุณก็ตาม

ในบรรดาพระกรุที่มีการขุดพบกันหลายสิบหลายร้อยกรุ ดังที่เราๆท่านๆ ได้มีโอกาสรู้จักพบเห็นหรือได้ครอบครองมาบูชากันนั้น นิยมจัดสร้างด้วยวัสดุหลากหลายประเภท เช่น เนื้อดิน เนื้อผง เนื้อโลหะ เป็นต้น โดยในการสร้างพระเนื้อโลหะเองนั้น ก็ยังมีการแยกเป็นหลายประเภท ตามฐานะของผู้มีศรัทธาจัดสร้างตั้งแต่เนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อนาค เนื้อชินเงิน เนื้อตะกั่ว เป็นต้น

ในจำนวนพระกรุที่ผ่านกาลเวลามานานแสนนานนั้นโดยที่บางกรุอาจมีอายุหลายร้อยถึงเกือบพันปีนั้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเนื้อวัสดุที่สร้างจากเนื้อตะกั่วนั้น จะสามารถทนทานต่อสภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเนื้อตะกั่วเองนั้น จากประสบการณ์ของผู้มีความรู้ส่วนใหญ่ได้อธิบายไว้ว่าเป็นวัสดุที่เมื่อนำมาสร้างเป็นองค์พระแล้วเสกได้ดี คือเต็มเร็ว และอยู่ได้นาน แถมตัววัสดุเองก็มีราคาไม่สูงมากนัก จึงเป็นวัสดุประเภท “ ดี ทน ถูก ”

ดังที่กล่าวมาแล้วในข้างต้นคือเหตุผลที่ทางโครงการฯ ได้เลือกใช้เนื้อตะกั่วในการจัดสร้างพระบรรจุกรุในครั้งนี้

 

รูปแบบการดำเนินงาน

โครงการสร้างพระเนื้อตะกั่วเพื่อบรรจุกรุรวม ๘๔,๐๐๐ องค์ ได้แบ่งโครงการฯ นี้ออกเป็นทั้งหมด ๑๐ ครั้งย่อยๆ โดยในแต่ละครั้งจะทำการสร้างพระครั้งละ ๘,๔๐๐ องค์ เพื่อนำไปบรรจุตามวัดต่างๆทั้ง ๕ ภาค คือ

๑. ภาคกลาง จำนวน ๒ วัดๆ ละ ๘,๔๐๐ องค์ (บรรจุแล้ว ๑ ครั้ง จ.ลพบุรี ๒๒ พ.ย.๕๕)

๒. ภาคเหนือ จำนวน ๒ วัดๆ ละ ๘,๔๐๐ องค์ (บรรจุแล้ว ๑ ครั้ง จ.เชียงใหม่ ๑๒ พ.ค.๕๖)

๓. ภาคใต้ จำนวน ๒ วัดๆ ละ ๘,๔๐๐ องค์

๔. ภาคตะวันออก จำนวน ๒ วัดๆ ละ ๘,๔๐๐ องค์

๕. ภาคตะวันตก จำนวน ๒ วัดๆ ละ ๘,๔๐๐ องค์

วัดที่ได้รับพระที่ร่วมกันจัดสร้างขึ้นมานี้ไปบรรจุกรุไว้ จะต้องเก็บรักษาพระนี้ไว้เป็นเวลาอย่างน้อย ๓๐ ปีและหากเมื่อใดที่มีศาสนวัตถุภายในวัดชำรุดทรุดโทรมและขาดซึ่งปัจจัย ทางวัดสามารถทำการเปิดกรุนำพระที่บรรจุไว้นี้ออกมาให้ประชาชนเช่าบูชา แล้วนำปัจจัยที่ได้มาไว้ใช้เป็นทุนในการบูรณะซ่อมแซมต่อไป

เพื่อให้การสร้างพระบรรจุกรุในครั้งนี้ถูกต้องตามแบบโบราณกาลคือให้ทั้งดีในและดีนอก

ดีในคือ ดีนับตั้งแต่เนื้อวัสดุที่ใช้ในการสร้าง จึงต้องมีการลงอักขระเลขยันต์ในแผ่นชนวนจากภิกษุผู้ทรงคุณหลายๆท่านหรือได้ผ่านการอธิษฐานจิตจากท่านมาแล้ว

ซึ่งก่อนที่จะทำการจัดสร้างพระบรรจุกรุในครั้งที่ ๑ (ภาคกลาง จ.ลพบุรี ) ที่ผ่านมาแล้วนั้นได้ดำเนินการเรื่องแผ่นชนวนจารอักขระจากพระเถราจารย์ทั่วประเทศจำนวน ๑๖๖ องค์ แผ่นจารจากอาจารย์ฆราวาสและวัตถุมงคลเนื้อตะกั่วที่มีเพื่อนสมาชิกร่วมบริจาคมาอีกประมาณ ๑๐๐ ชิ้น

และเมื่อได้แผ่นชนวนทั้งหมดมาแล้ว ได้นำไปขอความเมตตาจากพระครูโสภณสิริธรรม (ลป.สม สุชีโว ) วัดโพธิ์ทอง อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ท่านเสกชนวนมวลสารเมื่อ ๒๑ มิ.ย.๕๕ ก่อนที่จะนำไปหลอมรวมกันเมื่อวันที่ ๒๓ มิ.ย.๕๕ โดยท่านพระครูโสภณสิริธรรม (ลป.สม สุชีโว ) วัดโพธิ์ทอง ท่านเมตตาเป็นประธานในการหลอมชนวน เมื่อหลอมชนวนมวลสารทั้งหมดน้ำหนักรวมกันแล้วกว่า ๑๘๐ กิโลกรัม และได้แบ่งออกเป็นสิบส่วน เพื่อนำมาใช้เป็นชนวนหัวเชื้อในการสร้างพระทั้ง ๑๐ ครั้งต่อไป

ต่อมาเมื่อมีการจัดสร้างพระบรรจุกรุ ครั้งที่ ๒ ( ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ ) ก็ยังได้แผ่นจารจากพระคณาจารย์มาเป็นชนวนมวลสารเพิ่มเติมอีก รวมทั้งสิ้นจำนวน ๒๐๙ องค์ และวัตถุมงคลเนื้อตะกั่วอีกหลายรายการ

สำหรับครั้งที่ ๓ (ภาคใต้ จ.ตรัง ) มีแผ่นจารจากพระคณาจารย์ทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นรวมทั้งสิ้น ๒๔๓ องค์

ดีนอกเมื่อจัดสร้างเป็นองค์พระเสร็จเรียบร้อยจะให้มีการเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษก อย่างน้อย ๓ พิธี และอธิษฐานจิตเดี่ยวอย่างน้อย ๙ องค์ ก่อนที่จะมีพิธีการบรรจุลงกรุต่อไป

 

ด้านหน้า

- เป็นรูปพระพุทธปางมารวิชัย ประทับนั่งในพระอิริยาบถขัดสมาธิไขว้พระชงฆ์ หงายฝ่าพระบาททั้งสองข้าง พระหัตถ์ซ้ายหงายวางบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาวางคว่ำลงที่พระชานุแบบเข่านอก

- ประทับบนฐานบัวบานจำนวน ๒ ชั้นๆละ ๗ กลีบ ภายใต้โค้งก้านดอกบัวซ้ายขวาและมีรูปธรรมจักรที่ยอดบนสุด

- ฐานใบเสมามีอักขระขอม คำว่า นะ มะ อะ อุ เป็น แก้ว ๔ ดวง ใช้สำหรับหนุนธาตุ

นะ แก้วมณีโชติ หนุน ธาตุน้ำ

มะ แก้วไพฑูรย์ หนุน ธาตุดิน

อะ แก้ววิเชียร หนุน ธาตุไฟ

อุ แก้วปัทมราช หนุน ธาตุลม

 

ด้านหลัง

มีตัวอักขระแบบจม พระคาถาเป็นอักษรขอม ประกอบกับยันต์เฑาะว์ , อุณาโลม และชื่อรุ่น “ เสมาแก้ว ” เป็นอักษรขอม ดังนี้

นะ โม พุท ธา ยะ นะ มะ พะ ทะ จะ ภะ กะ สะ

นะ โม พุท ธา ยะ เป็นพระนามย่อของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์ ในภัทรกัปนี้ ดังพระคาถานมัสการพระเจ้า ๕ พระองค์ ดังนี้

นะ กาโรกุกกุสันโธ

โม กาโรโกนาคะมะโน

พุท กาโรกัสสะโปพุทโธ

ธา กาโรโคตะโมพุทโธ

ยะ กาโรอะริยะเมตตรัยโย ปัญจะพุทธา นะมามิหัง ฯl

นะ มะ พะ ทะ เป็นธาตุทั้ง ๔

นะ คือ ธาตุน้ำ

มะ คือ ธาตุดิน

พะ คือ ธาตุไฟ

ทะ คือ ธาตุลม

จะ ภะ กะ สะ เป็น ธาตุกรณีย์

จะ คือ ธาตุน้ำ

ภะ คือ ธาตุดิน

กะ คือ ธาตุไฟ

สะ คือ ธาตุลม





เปรียบขนาดของ " เสมาแก้ว " กับเหรียญ ๑ บาท ครับ

 

การร่วมบุญกับโครงการสร้างพระ ฯ

๑. ร่วมบริจาคปัจจัย โดยโอนเข้า บ/ช. ตามรายละเอียดด้านล่าง

๒. ร่วมทำบุญกับโครงการฯ ชุดละ ๑๕๐ บาทโดยมีรายละเอียดดังนี้

โครงการสร้างพระเนื้อตะกั่วเพื่อบรรจุกรุ รวม ๘๔,๐๐๐ องค์

ขอเชิญ

ร่วมสร้างพระเนื้อตะกั่วบรรจุกรุ ครั้งที่ ๓ ( ภาคใต้ ) จำนวน ๘,๔๐๐ องค์ ​

ณ วัดกระพังสุรินทร์ ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง

ในวันอาทิตย์ที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๖ เวลา ๑๐.๑๙ น.​

พระจำนวน ๘,๔๐๐ องค์ จะทำการแบ่งออกเป็น ๘๔๐ ชุดเพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมบุญกัน โดยร่วมทำบุญชุดละ ๑๕๐ บาท (รวมค่าจัดส่ง) รายได้ทั้งหมดเพื่อใช้เป็นทุนในการดำเนินโครงการฯ ต่อไป


รายละเอียดของการร่วมทำบุญต่อชุด

โดยในการร่วมทำบุญ ๑ ชุด จะประกอบด้วยพระจำนวน ๑๑ องค์

พระจำนวน ๑๐ องค์ จะร่วมสมทบเข้าโครงการสร้างพระบรรจุกรุฯ

พระจำนวน ๑ องค์ มอบให้เป็นที่ระลึกในการบริจาคเงินร่วมทำบุญกับโครงการสร้างพระบรรจุกรุฯ

(เนื้อเดียวกันกับพระที่บรรจุกรุและจะจัดส่งให้กับผู้ร่วมทำบุญต่อเมื่อผ่านพิธีพุทธาภิเษกและอธิฐานจิตเดี่ยวเสร็จเรียบร้อยแล้ว)

ในวันบรรจุกรุพระจะมีการร่วมถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ รวมถึงตั้งกองผ้าป่าสามัคคีถวายให้กับวัดนั้นๆด้วย


ชื่อบัญชี จ.ส.อ.ราเชนทร์ โต๊ะกลม

ธ.กรุงไทย สาขา เขาพระงาม

ประเภท ออมทรัพย์

135-0-21916-9

สามารถร่วมบุญได้ถึง วันที่ ๑๑ พ.ย.๕๖

ท่านที่ไม่ได้เป็นสมาชิกเวปพลังจิต โทร. 086 133 7341 เวลา 0900 - 2200 น.