พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย HMMAmulet296, 4 กุมภาพันธ์ 2022.

  1. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,577
    ค่าพลัง:
    +463
    2254.พระผงชินราชหลังธรรมจักร จัมโบ้ หลวงปู่แว่น ธนปาโล ปี2523 เนื้อผงพุทธคุณพระธาตุพนมและผสมผงแร่เหล็กไหล ปิดรายการครับ



    upload_2023-10-11_13-43-39.png

    upload_2023-10-11_13-45-57.png

    แจกทหารผ่านศึกครูบาแก้วได้นำเข้าไปเก็บไว้ในคลังที่วัดถ้ำพระสบายในส่วนที่หลวงปู่แว่นท่านนำกลับมาจากวัดป่าสุทธวาสที่สกลนครแล้วนำออกมาให้บูชากันในวัตถุมงคลรุ่นมหามงคลไตรมาสปี38 ครับตามคำบอกเล่าของลูกศิษย์หลวงปู่แว่นผ่านพิธีปลุกเสกมาหลายครั้ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2023
  2. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,577
    ค่าพลัง:
    +463
    2255.พระกรุเก่า น่าบูชา พระรอด ดินเผา กรุวัดโปรดเกษฯ นนทบุรี ให้บูชา 2750 บาท



    upload_2023-10-11_14-43-31.png

    วัดโปรดเกษฯสร้างขึ้นสมัยสมเด็จฯพระเจ้าตากสินมหาราชสันนิษฐานว่า พระเครื่องเนื้อโลหะ ดินเผา และ เนื้อแก้ว...เป็นพระที่ขนย้ายมาจากกรุงศรีอยุธยา แล้วนำมาบรรจุในเจดีย์ วัดโปรดเกษฯต่อมาเมื่อปี ๒๕๑๘ คนร้ายได้แอบขุดเจาะเจดีย์ ได้พระทองคำ พระโลหะ พระแก้วน้ำประสาน ไปจำนวนมาก ทางวัดจึงทำการเปิดกรุอย่างเป็นทางการ
    กรุเก่าๆของเมืองนนท์อายุเก่าแก่ถึงยุครัตนโกสินทร์ ตอนต้นๆ ถึงกลางมีไม่ต่ำกว่า ๑๕๐ ปีขึ้นไปครับที่พบในกรุ มีทั้งพระบูชา เล็ก-ใหญ่..พระเครื่องเนื้อดินเผาพระเครื่องเนื้อโลหะเนื้อแก้วใสน้ำประสาน
    พระกรุนี้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง เป็นมาตรฐานวงการครับพระเครื่องเนื้อดินเผา จะมีสภาพต่างกันไป แล้วแต่ความสมบูรณ์...ส่วนมากพบไม่มีหน้าตา องค์เล็กๆ กดตื้นๆ ไม่คมและ มักพบเป็นพิมพ์คล้ายพระรอดลำพูนเป็นส่วนใหญ่เนื้อหาดินกรุ แห้ง มีแร่กรวดในเนื้อ ออกสีส้ม มีรารักดำกระจายบางๆ ด้วยธรรมชาติความร้อนชื้นภายในกรุด้านหลังอูม
     
  3. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,577
    ค่าพลัง:
    +463
    2256. รูปถ่ายศักดิ์สิทธิ์ รูปอธิษฐานจิต หลวงพ่อกวย หลังยันต์แปดทิศ ปี52 ปิดรายการครับ




    upload_2023-10-11_16-54-52.png

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2024
  4. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,577
    ค่าพลัง:
    +463

    upload_2023-10-12_16-12-46.png
     
  5. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,577
    ค่าพลัง:
    +463
    2257. พระกลีบบัวกรุบางสะแกนอก แตกกรุออกมาเมื่อปี พ.ศ. 2511 ปิดรายการครับ


    upload_2023-10-12_17-18-11.png
    หลวงพ่อเม้งหนึ่งในศิษย์เอกหลวงปู่ศุขวัดมะขามเฒ่านำมาฝากกรุไว้ หลวงพ่อเม้งท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดบางสะแกในบริเวณใกล้คียงกันในเขตตลาดพลู ฝั่งธนบุรี เชื่อกันว่าหลวงปู่ศุขได้ปลุกเสกพระชุดนี้ด้วย จากการเปรียบเทียบปี พ.ศ. ระยะกาลเวลา พระชุดนี้หลวงปู่ศุขปลุกเสกแน่นอน แรกเริ่มหลังแตกกรุออกมา พระชุดนี้ไม่ได้รับความนิยมมากนัก เพราะอายุการสร้างยังไม่มาก (ประมาณ100ปี ในสมัยราชการที่6) อีกอย่างคือพระกรุอื่นๆในยุคนั้นยังมีอีกมากให้เก็บหาบูชากันได้ แต่สิบปีหลังจากแตกกรุออกมา
    พระชุดนี้มีประสบการณ์สูงมาก ทั้งแคล้วคลาด เมตตา มหานิยม และคงกะพัน แก่ผู้ที่นำไปบูชาขึ้นคอ จึงทำให้พระชุดนี้ ค่อยๆ หายไป

    องค์พระ..ลักษณะเป็นพระเนื้อดิน พิมพ์กลีบบัว มีสีต่างๆตามธรรมชาติการเผาของพระเนื้อดิน พิมพ์นี้โดยมากจะกดพิมพ์มีปีกด้านข้าง และจะมีรอยบิ่นมากบ้างน้อยบ้างในแต่ละองค์ พระกรุอายุเป็นร้อยปี มีรอยบิ่นแบบนี้ไม่แปลกครับ ที่สำคัญหลายๆองค์จะมีรารัก(ราที่เกิดบนผิวพระเนื้อดิน) นำไปเป็นศึกษาพระกรุเนื้อดินกรุอื่นๆได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2023
  6. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,577
    ค่าพลัง:
    +463
    2258. พระเก่าที่น่าบูชา จิ๋วแจ๋ว เล็กพริกขี้หนู พระนาคปรกพิมพ์จิ๋ว(คะแนน) วัดเปาโลหิต พระเก่ายุคปี ๒๔๖๖ ปิดรายการครับ


    upload_2023-10-12_21-48-28.png

    วัดเปาโรหิตย์ เดิมชื่อว่า วัดเกาะ เนื่องจากโดยรอบวัดมีลำคลองและคูน้ำล้อมรอบบรรจบกันทำให้วัดมีลักษณะคล้ายเกาะ ประวัติการสร้างวัดไม่ปรากฏแน่ชัดว่าสร้างในสมัยใด แต่ในหนังสือ “ประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร เล่ม ๓” กล่าวว่า วัดนี้สร้างขึ้นเมื่อประมาณปีพุทธศักราช ๒๓๖๗ ในรัชกาลที่ ๓ และได้รับการพระราชทานวิสุงคามสีมาประมาณปีพุทธศักราช ๒๓๖๗ พร้อมกับการสร้างวัด เขตวิสุงคามสีมากว้าง ๑๙.๒๙เมตร ยาว ๒๖/๖๕ เมตร
    สันนิษฐานว่าผู้สร้างวัดคงจะเป็นต้นตระกูลเปาโรหิตย์ คือ พระยามหราชครูปุโรหิตาจารย์ (บุญรอด เปาโรหิตย์) จากหลักฐานทางด้านสถาปัตยกรรมและจิตรกรรม สามารถเปรียบเทียบและกำหนดอายุได้ในราว สมัยรัชกาลที่ ๓ - ๔ จริง วัดนี้ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์จากบุตรหลานตระกูลเปาโรหิตย์มาโดยตลอด
    จากหลักฐานเท่าที่พบ คือ มีการสร้างเจดีย์บรรจุอัฐิพระยามหาราชครูปุโรหิตาจารย์ (บุญรอด เปาโรหิตย์) ในราวๆรัชกาลที่ 3-4 มีการสร้างเจดีย์ทรงปรางค์หมายเลข ๓ ในปีพุทธศักราช ๒๔๕๖ คือช่วงราวๆรัชกาลที่ ๖ ต่อมา ท่านน้อย เปาโรหิตย์ ได้มาบูรณะปฏิสังขรณ์ และท่านเจ้าพระยามุขมนตรี (อวบ เปาโรหิตย์) ได้บูรณะปฏิสังขรณ์ในราวปีพุทธศักราช ๒๔๗๒ - ๒๔๗๓ ตลอดจนบุตรหลานรุ่นหลัง ๆ ได้ทำนุบำรุงวัดต่อมาจนถึงทุกวันนี้

    วัดเกาะ ได้รับการอุปถัมภ์จากตระกูล “เปาโรหิตย์” มาโดยตลอด ทางคณะสงฆ์จึงได้ประกาศเปลี่ยนนามวัดเสียใหม่ เป็น “วัดเปาโรหิตย์” เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๑ ประวัติของตระกูลเปาโรหิตย์ ตระกูลเปาโรหิตย์ สืบทอดเชื่อสายมาจากพระมหาราชครูปุโรหิตย์ (บุญรอด) ซึ่งเป็นบุตรของหลวงทิพย์มณเฑียร ข้าราชการสำนักในกรุงศรีอยุธยา
    เป็นพระเก่าที่มีเกจิย์อาจารย์ดังร่วมในพิธีหลายองค์
    ๑. สมเด็จพุทธาจารย์ (เจริญ) วัดเทพศิรินทร์
    ๒. พระวิมลธรรม (นาค) วัดอรุณราชวราราม
    ๓. พระปลัดเกลี้ยง วัดยวด อยุธยา
    ๔. พระครูธรรมานุกูล ลป.ภู วัดอินทรวิหาร กทม
    ๕. หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว
    ๖. หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก
    ๗. เจ้าคุณทักษิณคณิศร วัดอินทราราม กทม
    ๘. หลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่
    ๙. พระสังวรา (ชุ่ม) วัดพลับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2024
  7. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,577
    ค่าพลัง:
    +463
  8. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,577
    ค่าพลัง:
    +463

    upload_2023-10-13_14-17-42.png
     
  9. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,577
    ค่าพลัง:
    +463
    2259. พระดีที่น่าบูชา พระสมเด็จปรกโพธิ์รุ่นแรก เนื้อว่าน 108 ผสมแร่ พิมพ์เล็ก เลื่ยมพร้อมใช้ ปิดรายการครับ


    upload_2023-10-13_17-43-48.png

    upload_2023-10-13_17-44-0.png

    upload_2023-10-13_17-45-35.png

    upload_2023-10-13_17-49-46.png

    ประวัติหลวงพ่อทองสุข ลทุธเมโธ วัดหนองฆ้อ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง

    หลวงพ่อทองสุข ลทฺธเมโธ วัดหนองฆ้อ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง
    หลวงพ่อทองสุข ลทฺธเมโธ วัดหนองฆ้อ อายุ 82-83ปี 62 พรรษา (ณ ปี พ.ศ.2562) เจ้าอาวาสวัดหนองฆ้อ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่แก้วเกสาโร พระผู้ทรงพุทธาคมแห่งวัดหนองพะวา ผู้คนเริ่มรู้จักท่านเมื่อครั้งพิธีปลุกเสกสีผึ้งพรายแม่ส้มที่วัดระหารไร่ เมื่อครั้งหลวงพ่อทองสุข นั่งอธิฐานจิตปลุกเสกในขณะที่นั่งอยู่นั้นได้เกิดปรากฏการน้ำมนต์เดือด และสายสิญจน์ที่ท่านปลุกเสกอยู่นั้นไม่ไหม้ไฟ ปรากฏการนี้ทำให้หลายคนถึงกับตกตลึงว่าเกจิรูปนี้คือใคร มาจากไหน และหลานคนคนคิดว่าลูกศิษย์หลวงปู่ทิมหลวงปู่แก้ว มีหลวงพ่อสิน หลวงพ่อสาคร เท่านั้นหรือแล้วหลวงพ่อทองสุขท่านมาจากไหน ต้องบอกเลยว่าลูกศิษย์หลวงปู่ทิม หลวงปู่แก้ว ไม่ได้มีเพียงหลวงพ่อสิน หลวงพ่อสาคร เท่านั้นหลวงปู่ทิมท่านยังมีลูกศิษย์ อีกหลายท่านหลายรูปที่เรายังไม่รู้จักทั้งมีชีวิตอยู่และมรณภาพไปแล้วเช่นหลวงปู่โทน วัดเขาคีรีน้อย หลวงปู่ทิมรับเป็นศิษย์เมื่อครั้งจำพรรษาที่วัดนามะตูม อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี หลวงพ่อบาง วัดหนองกาน้ำ หลวงพ่อทวน วัดแม่น้ำคู้ อ.ปลวกแดง หลวงปู่เย็นวัดหัวชวด ที่กล่าวมาก็เป็นที่พอรู้จักกันบ้าง และมีบางรูปท่านหลายท่านไม่รู้จักเลย หลวงพ่อทองสุข ลทฺธเมโธ วัดหนองฆ้อ ถือว่าเป็นศิษย์หลวงปู่ทิมหลวงปู่แก้วที่คนรู้จักน้อยมาก เพราะท่านรักความสงบเรียบง่ายสมถะเก็บตัวเงียบ ไม่ค่อยได้เปิดเผยตัวเองท่านไม่ชอบความวุ่นวายและอยู่แบบนี้เรื่อยมา
    หลวงพ่อทองสุข ลทฺธเมโธ เจ้าอาวาสวัดหนองฆ้อ นามเดิม ทองสุข นามสกุล ขอบอรัญ เกิดเมื่อวันศุกร์ ที่ 22 พฤษภาคม 2479 ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 7 ปี ชวด ท่านเป็นบุตรของโยมพ่ออ่ำ และโยมแม่อวบบ้านเกิดหนองคอกหมู หมู่ที่ 3 ตำบลตาขัน อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง เป็นหมู่บ้านใกล้บ้านค่าย มีหลวงพ่อวงษ์ (อดีต)เจ้าอาวาสวัดหนองฆ้อ หลวงพ่อจะตามโยมบิดา มารดาไปทำบุญที่วัดบ้านค่ายอยู่เป็นประจำ ได้และเห็นจริยาวัตรอันงดงามเห็นการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบของพระภิกษุสงฆ์ทำให้เกิดความเลื่อมใสในพระพุทธ หลวงปู่สุขท่านมีนิสัยรักความสงบชอบศึกษาเรื่องราวเกี่ยวธรรมมะประกอบกับมีอุปนิสัยรักสันโดษ และท่านยังชอบเรียนรู้สิ่งต่างไม่ทางตำราว่านยา สมุนไพร เรื่องราวเกี่ยวกับลี้ลับต่างตั้งแต่สมัยท่านอายุยังไม่ครบบวช จึงไม่แปลกใจที่ท่านมีความรู้เรื่องราวต่างมากมาย ครั้นเมื่ออายุครบ 21 ปีอายุครบบวชท่านตั้งใจว่า วันหนึ่งเราจะบวชแบบหลวงพ่อวงษ์และศิษย์ของท่าน เมื่อถึงเวลาท่านได้ให้โยมบิดา โยมมารดาพาไปฝากวัดและอุปสมบทเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2500 โดยมีพระครูวิจิตรธรรมนุวัติ (หลวงพ่อลัด )วัดหนองกระบอกเป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระสวัสดิ์ กิตฺตวณฺโณ วัดกระบกขึ้นผึ่งเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการสร้อย ถริธมฺโม วัดหวายกรองเป็นอนุสาวนาจารย์ ได้ ฉายา “ลทฺธเมโธ” หลังได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์แล้วท่านได้กลับไปจำพรรษาที่วัดหนองพะวา สลับไปปฏิบัติกับพระอุปัชฌาย์ของท่าน (หลวงพ่อลัด)ที่วัดหนองกระบอกได้เรียนรู้สรรพวิชาต่างหลวงพ่อลัดไม่ว่าจะธรรมบาลี ฝึกหัดเรียนอักขระตัวธรรม หัดท่องบทสวดมนต์ พระคาถาต่าง ซึ่งเป็นพื้นฐาน หลวงพ่อทองสุขท่านมีไหวพริบดี สามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและยังอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่เคยโอ้อวดใครและมั่นฝึกฝนตนเองอยู่เสมอระหว่างที่ไปสลับไปมา ระหว่างวัดหนองพะวะและหนองกระบอกท่านก็ได้เรียนรู้การฝึกวิปัสสนา ฝึกกรรมฐาน นั่งสมาธิภาวนาอยู่ตลอดเวลาและได้เรียนวิชาต่าง และท่านได้เรียนวิชาจากหลวงปู่แก้ว เกสาโร ไม่ว่าจะวิชาตั้งธาตุ 4 นะ มะ พะ ธะ ดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งเป็นพื้นฐานผู้ที่จะเรียน กสินต่างๆหลวงพ่อทองสุขได้เรียนวิชาหลวงปู่แก้ว ไม่ว่าจะเป็นวิชาสักยันต์ ว่านยาดูฤกษ์ยาม ต่าง การเขียนอักขระเลขยันต์หลวงปู่แก้วได้ถ่ายทอดให้พลวงพ่อทองสุข ยันต์ที่หลวงปู่แก้ว ได้หัดให้หลวงพ่อทองสุขคือยันต์ อิติปิโสแปดทิศ หลวงพ่อทองสุขได้เริ่มหัดเขียนยันต์นี้เป็นยันต์แรกใช้เวลาหลายวันหลวงปู่แก้วจะให้ท่องพระคาถาไปด้วยในขณะที่เขียนยันต์ เพื่อให้เกิดสมาธิและเพื่อให้เกิดพุทธคุณเมื่อหลวงปู่แก้วท่านเห็นว่าผ่านแล้วท่านจึงสอนยันต์ถัดไปหลวงปู่แก้วท่าเคร่งมากหากยังไม่ชำนาญท่านจะยังไม่สอนต่อและระหว่างที่เรียนท่านจะทดสอบอยู่เสมอเมื่อหลวงพ่อทองสุขได้เรียนรู้เกี่ยวกับอักขระเลขยันต์จนชำนาญแล้วหลวงปู่แก้วจึ่งเริ่มหัดให้ท่านสักยันต์ ให้ ยันต์ที่หลวงปู่แก้วสักให้หลวงพ่อทองสุข มีหลายยันต์ เช่นยันต์อิติปิโสแปด ยันต์พุทธเจ้าห้าพระองค์ ยันต์หนุมาน ยันต์สาม การที่หลวงปู่แก้วท่านสักยันต์ให้หลวงพ่อทองสุขนั้นเป็นเครื่องหมายว่ายอมรับการเป็นศิษย์อย่างสมบูรณ์ หลักจากได้รับการสักยันต์จากหลวงปู่แก้วแล้วหลวงพ่อทองสุข ก็เริ่มสักให้ญาติโยมแทนหลวงปู่แก้วในการสักแต่ละครั้งต้องดูฤกษ์ยามอันเป็นมงคลที่สุดแล้วค่อยทำการสักยันต์ ในสมัยนั้นจะมีการสักอยู่สองแบบคือสักหมึกและสักน้ำมันว่าน เมื่อสักเสร็จแล้วหลวงปู่แก้วท่านก็จะมาบรรจุคาถาอาคมให้เป็นอันเสร็จพิธี หลวงพ่อทองสุขท่านอยู่จำพรรษาที่วัดหนองพะวาถึง 5 พรรษา ก่อนที่จะเดินทางไปที่วัดหวายกองและอยู่จำพรรษา 1 พรรษา หลังจากพรรษาหลวงพ่อทองสุขเดินไปที่พักสงฆ์ดอนจันทร์ สมัยก่อนต้องเดินทางด้วยเท้าไม่ค่อยถนนหนทางมีแต่ป่าไม้จำทำให้เดินไปไหนมาไหนไม่ค่อยสะดวกหนักเมื่อท่านถึงพักสงฆ์ดอนจันทร์ วัดดอนจันทร์ เดิมในสมัยโบราณชาวชาวบ้านเรียกว่า วัดเนินจันทร์ เพราะเป็นเนินเตี้ยๆสภาพพื้นที่เป็นดินทรายละเอียดและมีไม้จันทร์หอมต้นใหญ่อยู่แถวที่บริเวณสร้างวัด ชาวบ้านจึงเรียกกันว่าวัดเนินนสมัยก่อนนั้นไม่มีรถและถนนหนทางก็ไม่สะดวกสบายเหมือนปัจจุบันนี้ ต่างคนก็คิดเห็นความบากจึงตกลงกันสร้างวัดในระยะเริ่มแรกสร้างเป็นกุฎีหลังเล็กๆขึ้นหนึ่งหลังพอเป็นที่พักของพระภิกษุสงฆ์ และได้อาราธนาพระภิกษุมาจากวัดต่างๆรวมทั้งหมด 7 รูป เมื่อเป็นวัดถูกต้องตามระเบียบของทางการแล้ว พระทองสุข ลทฺธเมโธ ได้รับการแต่งตั้งเจ้าอาวาสรูปแรกเมื่อพ.ศ.2531 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส

    ในระหว่างที่หลวงพ่อทองสุขท่านจำพรรษาที่วัดดอนจันทร์ได้ก็ได้ถือโอกาสไปศึกษาเล่าเรียนวิชาจากหลวงปู่ทิมเป็นเวลาหลายพรรษาระหว่างที่ศึกษาวิชากับหลวงปู่ทิมนั้นท่านก็จะได้เรียนจากจากหลวงปู่แก้วอีกด้วยเพราะหลวงปู่แก้วท่านมาวัดละหารไร่อยู่เป็นประจำ วิชาที่ได้เรียนจากหลวงปู่ทิมคือการทำน้ำมนต์ ตำราการปลุกเสก วิชาอักขระเลขยันต์ วิชาแพทย์หลวงพ่อทองสุขท่านชอบศึกษาวิชาด่านสมุนไพรว่านยา ท่านจึงได้รับการถ่ายทอดมามาจากหลวงปู่ทิมและโยมฆาราวาสน นอกจากท่านไปมากับวัดอยู่พระหากท่านติดขัดเรื่องไหนเมื่อถามหลวงปู่ทิม หลวงปู่ทิมก็จะบอกว่าให้ไปหาหลวงปู่แก้วให้หลวงปู่แก้วบอกสอนแทนท่าน ดั้งนั้นหลวงพ่อทองสุข ท่านจะได้เรียนวิชาจากหลวงปู่แก้วมากกว่าหลวงปู่ทิมเพราะหลวงปู่ทิมท่านมีลูกศิษย์หลายท่านประกอบด้วยท่านมีกิจนิมนต์มากมาขอศึกษาเล่าเรียนวิชาจากท่านในยุคนั้น หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับท่านก็ไปมาที่วัดละหารไร่อยู่เป็นประจำ เพื่อมาศึกษาเล่าเรียนเวทย์มนต์คาถา ตำราต่างๆ จากหลวงปู่ทิม นอกจากได้พบเกจิหลายท่านเช่นหลวงพ่อสินวัดละหารใหญ่ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้กันอยู่เสมอ หลวงพ่อทองสุข ท่านคอยติดตามหลวงปู่แก้ว ตลอดเวลาไม่ว่าหลวงปู่แก้วจะเดินทางไปไหนท่านก็ติดตามไปทุกที่เช่นเมื่อครั้งหลวงปู่ทิม หลวงปู่แก้วไปจำพรรษาที่วัดแม้น้ำคู้ ท่านก็ติดตามหลวงปู่แก้ว หลวงพ่อทองสุขท่านมีความจำดีมากในเขต บ้านค่ายจะรู้จักท่านดีเพราะท่านเป็นพระคู่สวดปาฏิโมก ในสมัยนั้นเส้นทางสันจรยังลำบากจะเดินทางไปไหนต้องใช้เวลานานมากถ้าเดินทางไหนไกลๆต้องค้างคืนที่วัดนั้น

    ประสบการณ์ด้านวัตถุมงคลของหลวงพ่อทองสุข นั้นมีมากมายทั้งทางด้านเมตตาแคล้วคลาดและคงกระพันชาตรีชาวบ้านในพื้นที่อำเภอบ้านค่ายต่างรู้จักท่านลูกศิษย์ท่านมีมากมาย และยังเป็นครูอาจารย์ของหลายเกจิ เช่นหลวงพ่อรัตน์ วัดป่าหวาย หลวงพ่อนพ วราโภ สำนักปฏิบัติธรรมสวนขนุน ชึ่งได้เล่าเรียนวิชาจากหลวงพ่อทองสุข ล้วนแต่มีประสบการณ์ วัตถุมงคลของท่านนั้น เริ่มสร้างตั้ง ปี 2517 เมื่อครั้งท่านยังจำพรรษาที่วัดดอนจันทร์ ท่านได้จัดสร้างพระสมเด็จเนื้อกระยาสารท รุ่นแรกท่านกดพิมพ์ ด้วยมือท่านเองที่ละองค์และสร้างจำนวนน้อย และได้แจกลูกศิษย์ชาวดอนจันทร์ ไว้บูชาติดตัวสมัยก่อนคนในพื้นที่ศรัทธาท่านมาก และลูกศิษย์ท่านมีหลายกลุ่ม ทั้งวัยรุ่น และโดยนิสัยของวัยรุ่นก็มีความคึกคะนองโดยปกติ เมื่อมีงานวัดก็ไปเที่ยวและเกิดการทะเลาะวิวาทเป็นธรรมดา เมื่อเกิดเรื่องก่อมีการยิงต่อสู้ ระหว่างวัยรุ่น ดอนจันทร์และวัยรุ่นเจ้าถิ่น วัยรุ่นดอนจันทร์นั้นพกพระสมเด็จของหลวงพ่อทองสุข เมื่อวัยรุ่นเจ้าถิ่น ชักปืนยิง 3 นัดแต่กระสุนไม่ออก ทำให้วัยรุ่นเจ้าถิ่นตกใจ ถึงกลับวิ่งหนี ไปตั้งหลัก ในหมู่บ้าน และสืบทราบคู่อริที่ยิงนั้นเป็นชาวหนอกละลอก หลวงพ่อทองสุขนั้นในช่วงต้นปี18 ท่านก็ไปมาระหว่างวัดดอนจันทร์ และวัดละหารไร่ ตลอดและได้มีโอกาสได้เรียนรู้ วิชาเพิ่มเติมจากหลวงปู่ทิม ท่านได้เดินทางไปพร้อมลุงเนา ในช่วงกลางคืนทุกวัน ไม่แปลกใจที่วัตถุมงคลจึงมีพุทธคุณครบทุกด้าน ทั้งเมตตาและแคล้วคลาด และท่านยังได้ติดตามหลวงปู่แก้ว ไปอยู่ที่วัดแม่น้ำคู้ เมื่อครั้งหลวงปู่แก้ว ปลุกเสกเหรียญ ปิดตาหลวงพ่อทองสุขท่านก็อยู่ในพิธีด้วย ท่านจึงเป็นเกจิอีกรูปหนึ่งที่วัตถุมงคลด้านคงกระพันชาตรี หลวงพ่อทองสุข ท่านไม่ชอบถ่ายรูปจึงไม่คอยมีรูปท่านเพราะท่านมีนิสัยรักสันโดษ และชอบศึกษาความรู้อยู่เป็นประจำ ยิ่งได้ใกล้ชิดครูอาจารย์ อย่างหลวงปู่แก้ว เกสาโร ท่านจึงได้รับการถ่ายทอดวิชาทั้งหมดที่มี ให้และเป็นศิษย์หลวงปู่แก้วไว้ใจ ในทุกเรื่อง ทั้งการสักยันต์ การทำน้ำมนต์หลวงปู่แก้วท่านได้สอนให้หลวงพ่อทองสุข ครบทุกอย่าง และหลวงพ่อนาค วัดหนองพะวา ผู้เป็นศิษย์น้อง หากทางวัดหนองพะวา จัดสร้างวัตถุมงคล เกจิที่ขาดไม่ได้คือหลวงพ่อทองสุข ที่หลวงพ่อนาคต้องนิมนต์ท่านมานั่งปรกอธิฐานจิต เพราะว่าด้วยวิชาอาคม หลวงพ่อทองสุข ท่านเก่งทุกด้าน เรื่องราวศักดิ์สิทธิ์ ของท่านไม่ใช่แค่วัตถุมงคลของท่าน น้ำมนต์ของท่านก็ศักดิ์สิทธิ์ ไม่แพ้กัน เมื่อครั้งท่านได้มาที่หนองฆ้อ เริ่มจัดตั้ง สำนักสงฆ์ ชาวบ้านมีการเจ็บป่วยโดยไม่รู้สาเหตุ สามวันดี สี่วันหายและได้หาท่านว่าผีท่านได้ไปเอาขันน้ำมนต์ มาพรมให้อาการผิดปกติก็เริ่มดีขั้น ในช่วงที่ท่านมาอยู่ที่วัดหนองฆ้อ ท่านก็เริ่มจัดสร้างวัตถุมงคลหลายรุ่น เช่นพระผงสมเด็จ พระผงสมเด็จปรกโพธิ์ และเครื่องราง เช่นตระกรุด เป็นต้น
    ชาวบ้านในพื้นที่ต่างพากันบูชาวัตถุมงคลของท่านเป็นจำนวนมาก และมีประสบการณ์อย่าง คุณอ้น ชาวบ้านหนองฆ้อมีอาชีพขับรถ ส่งของ ต่างจังหวัดอยู่เป็นประจำ วันหนึ่งได้เดินทางไปส่งสินค้าที่จังหวัด จันทบุรี พร้อมเพื่อนอีกสามคน อีกคนชื่องา ปัจจุบันบวชเป็นภิกษุที่วัดหนองฆ้อ ในขณะเดินทางเกิดฝนตกหนัก ทำให้มองไม่เป็นถนนรถได้เกิดอุบัติเหตุ พลิกควัมลงข้างทางทำให้รถพังเสียหายเป็นอย่างมาก ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์คิดว่าคนที่อยู่ในรถ ตายการหมดเพราะสภาพรถเสียหายมากแต่พอสักพักทั้งสามคนออกมาจากรถไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย ชึ่งทำให้ชาวตกใจไม่มีใครเป็นที่อัจรรย์ใจให้ผู้พบเห็นเหตุการณ์ และมีอีกหนึ่งเหตุการณ์ ป้าคร ลูกศิษย์หลวงพ่อทองสุข ได้ขับรถไปทำธุระได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักลงข้างทาง แต่ไม่รับอันตรายใดเลยในรถของป้าคร มีพระผงรูปเหมือนหลวงพ่อทองสุข และเหรียญ ฝังพัทธสีมา ติดตัวอยู่ นอกจากนี้ชาวบ้านส่วนมากมีอาชีพทำสวนมักจะถูกงูกัดอยู่เป็นประจำและสัตว์มีพิษ หลวงพ่อทองสุข จึงได้จัดสร้างพระผงสมเด็จปรกโพธิ์ เนื้อว่าน ผสมว่านกันงู เมื่อชาวบ้านนำไปบูชาติดตัว ไม่มีใครโดนงูกัดอีกเลย ทำให้วัตถุมงคลของท่านหายากเพิ่มมากขึ้น ในการสร้างวัตถุมงคลของท่าน ท่าจะเน้นเรื่องมวลสารมาก เพราะมวลสารทุกอย่างล้วนมีพลังพุทธคุณอยู่ในตัวอยู่แล้วท่านจึงพยายามหามวลสารมาให้ครบตามตำราที่ท่านได้เรียนมา นอกนี้สีผึ่งของท่านยังสิ่งที่ลูกศิษย์หลายคนนำไปบูชา เพราะหลายคนมีอาชีพค้าขาย ก็จะบูชา พุทธคุณนั้นเมตตา เหมือนมนต์นะจัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2024
  10. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,577
    ค่าพลัง:
    +463
    2260. สุดยอดพระดี แดนใต้ครับ พระปิดตา ท่านพ่อกล่อม หรือ หลวงพ่อกล่อม วัดหูแร่ จ.สงขลา ปี14 เจ้าของฉายา ขูดผงต้องรับเลี้ยง ให้บูชา 599 บาท ประสบการณ์ดีมาก ด้านเมตตา โภคทรัพย์


    upload_2023-10-13_19-37-11.png

    โดยพระอาจารย์กล่อม ชื่อเต็ม " พระภควันเพชรหลีก" มวลสารนอกจากผงวิเศษแล้ว ยังมีเกสรดอกไม้,ว่านอีกหลายชนิด ที่สำคัญคือผสมผงเถ้าถ่านของการเผาแบงค์หลายชนิดของธนาคารชาติ สาขาภาคใต้หาดใหญ่ จนได้รับฉายา" พระปิดตาเงินล้านแห่งแดนทักษิณ พระปิดตาวัดหูแร่ หลวงพ่อกล่อม โกวิโท หาดใหญ่ สงขลา ๒๕๑๔ เนื้อผงผสมเถ้าธนบัตรเป็นพระเครื่องที่ "..คนใต้นิยมขูดผงใส่ของให้สาวกินคับ..."

    พระปิดตา"พระภควันเพชรหลีก"ที่พระอาจารย์กล่อม โกวิโท จัดสร้างไว้เมื่อปี๒๕๑๔ เป็นพระปิดตาที่มวลสารมาจากคัมภีร์ขอมโบราณ มวลสารที่นำมาสร้างนอกจากผงวิเศษดังกล่าวแล้ว ก็ยังมีเกสรดอกไม้และว่านอีกหลายชนิดเช่น ว่านเสน่ห์จันทร์ ว่านสาวหลง ว่านดอกทอง ว่านลูกไก่ทอง ว่านช้างประสมโขลง ว่านนางกวัก ว่านหลงรัง ว่านขุนแผน ว่านมหาลาภ ฯลฯ นอกจากนี้หลวงพ่อกล่อมยังให้ลูกศิษย์ไปขอผงเถ้าถ่านจากการเผาแบงก์ของธนาคาร มาผสมอีกด้วย เพื่อเป็นการถือเคล็ดทางโชคลาภและโภคทรัพย์ มีสร้าง ๓ พิมพ์คือพิมพ์ใหญ่,พิมพ์กลางกับพิมพ์เล็ก เนื้อผงใบลานผสมผงธนบัตรซึ่งได้ได้มาจากธนาคารแห่งประเทศไทยสาขาหาดใหญ่ ท่านก็ปลุกเสกแบบบินเดี่ยวโดยท่านลำพังผู้เดียว จากนั้นก็แจกให้ชาวบ้านไปใช้กันคนละองค์ แรกๆ ยังไม่ค่อยมีใครสนใจกันเท่าไหร่ แต่พอพระมีประสบการณ์มากขึ้น จึงมีคนมาขอพระปิดตากันจนหมดจากวัดไม่เหลือแม้แต่องค์เดียว พระปิดตารุ่นนี้นอกจากจะดีทางโชคลาภและโภคทรัพย์แล้ว ทางเมตตามหานิยม ก็เยี่ยมสุดเหมือนกัน ตอนแรกเลยนั้นมีหนุ่มคนหนึ่งเอาพระปิดตาไปขูดผงใส่อาหารให้ผู้หญิงกิน ผู้หญิงเกิดหลงจนได้อยู่เป็นสามี-ภรรยากัน พอหนุ่มคนอื่นๆรู้ข่าวก็ทำตามบ้าง และสำเร็จผลกันหลายคน แต่มีบางคนเมื่อได้ผู้หญิงเป็นภรรยาแล้ว กลับทิ้งๆ ขว้างๆ เสียกลางคัน พ่อแม่ฝ่ายหญิงจึงเอาเรื่องนี้ไปฟ้องเล่าให้หลวงพ่อกล่อมฟังพอทราบท่านจึง สั่งไม่ให้ใครทำอีก ถ้าทำแล้วต้องรับเลี้ยงตลอดจนตายไปกันข้างใดข้างหนึ่ง ห้ามทิ้งกลางคันเด็ดขาด ถ้าผิดจากที่สั่งท่านแช่งเอาไว้ ว่าทำอะไรก็ไม่เจริญขึ้นหลังจากนั้นจึงไม่ค่อยมีใครแอบขูดผงพระปิดตาใส่ อาหารให้ผู้หญิงกินอีก เพราะกลัวว่าหากเกิดเบื่อแล้วทิ้งๆ ขว้างๆ จะทำกินไม่ขึ้นเหมือนท่านแช่งไว้ พระปิดตาสำนักนี้เลยมีสร้อยห้อยท้ายเรียกกันว่า… ขูดผงต้องรับเลี้ยง

    พระปิดตา วัดหูแร่นี้สร้างรุ่นเดียวในปี ๒๕๑๔ สร้างและแจกไปประมาณ ๑,๐๐๐ องค์ แบ่งบรรจุไหฝังกรุไว้ประมาณ ๘,๐๐๐-๑๐,๐๐๐ องค์ แตกกรุในปี ๒๕๕๑ มีพระแตกหักเสียหายอยู่ในไหไม่ใช่น้อย พระที่เราพบจึงมีทั้งแบบลงกรุ และไม่ลงกรุรวมกันแล้วจะมีพระทั้งหมดน่าจะไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ องค์ พระไม่ลงกรุจะสวยงามกว่าผิวใสสะอาด แห้งมีคราบน้ำว่านพอประมาณ ส่วนที่ลงกรุจะมีคราบกรุติดมาด้วย มากบ้างน้อยบ้าง พระรุ่นนี้มี ๓ พิมพ์ ๒ เนื้อ คือ เป็นเนื้อเทา กับเนื้อสีเทาเข้มจนเกือบดำ บางคนบอกผสมผงใบลาน แต่ท่านอาจจะใส่เถ้าธนบัตรจากธนาคารแห่งประเทศไทยมากเป็นพิเศษ ผิวจึงออกดำมากกว่า มีน้อยหายากประมาณว่าเนื้อเทา ๑๐๐ องค์จะมีเนื้อแก่ธนบัตรนี้เพียงองค์เดียว ส่วนที่ว่ามี ๓ พิมพ์ คือพิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง และพิมพ์เล็กนั้น ประกอบด้วยพิมพ์ใหญ่ บ้างก็เรียกพิมพ์กรรมการมีมือสามคู่ หรือหกมือ หาชมยาก ส่วนพิมพ์กลางเป็นพิมพ์ที่พบเห็นกันมากที่สุด และพิมพ์เล็ก ๆ ประมาณเหรียญห้าสิบตังเท่านั้น พระปิดตารุ่นนี้มีชื่อว่า "พระภควันเพชรหลีก" แจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านจำนวนหนึ่ง จนเป็นที่เรียกกันว่าพระปิดตาวัดหูแร่ มีพุทธคุณในทางแคล้วคลาดเป็นอย่างมาก และในเรื่องโชคลากโดยเฉพาะการเสี่ยงโชค ทำให้เป็นที่ต้องการของประชาชนมาก แต่พระรุ่นนี้ได้หายไปจากวัดและวงการพระเมื่อประมาณ ๓๐ ปีที่ผ่านมาโดยไม่มีผู้ใดพบเห็นอีกเลยเป็นพระในดวงใจคนใต้เลยครับ เพราะส่วนใหญ่สายใต้จะเน้นด้านบู้คือพวกคงกระพัน มหาอุด แต่พระหลวงพ่อกล่อมโดดเด่นมากด้านเมตตามหานิยม โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง แบบไม่แพ้ขุนแผนเลยครับ ผมเคยถามคนใต้หลายคนแล้วว่าหลวงพ่ออะไรเก่งเรื่องเมตตาที่สุด ทุกคนจะตอบไปทางเดียวกันว่ามี ๒ รูป คือ หลวงพ่อจันทร์ วัดโฉลกหลำ กับหลวงพ่อกล่อมวัดหูแร่ นี่แหละครับ

    พระครูมนูญ ธรรมานุวัตร เจ้าอาวาสวัดหูแร่ (๑๔ ม.ค.๕๒) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากวัดหูแร่เป็นวัดภายในชุมชนสร้างมานานกว่า ๑๐๐ ปีแล้ว สิ่งก่อสร้างภายในวัดโดยเฉพาะพระอุโบสถของวัดหูแร่ที่สร้างด้วยไม้ใช้มือฝื มือช่างไม้โบราณแบบการตอกลิ่ม ได้ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ดังนั้น ทางวัดและคณะกรรมการของวัดหูแร่ เห็นพ้องกันว่าจะจัดงานทอดกฐินและทอดผ้าป่า เพื่อหาทุนทรัพย์ในการบูรณะซ่อมแซมพระอุโบสถ แต่ช่างได้มาประเมินราคาซ่อมแซมให้คงสภาพเดิม ต้องใช้ทุนทรัพย์กว่า ๕ ล้านบาท และปรากฏว่าหลังจากงานทอดกฐิน และทอดผ้าป่าปีนั้นแล้วได้ทุนทรัพย์มาเพียงแค่ ๑ ล้านบาทเศษๆ เท่านั้น ไม่เพียงพอต่อการบูรณะพระอุโบสถดังกล่าว แต่ด้วยบารมีของบูรพคณาจารย์ ทำให้ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง พระครูมนูญได้นิมิตรว่า อดีตเจ้าอาวาสท่านนึง บอกให้ไปขุดค้นบริเวณหน้าสถูปของอดีตเจ้าอาวาสองค์ที่ ๒ แล้วจะพบพระของเก่าให้นำมาหาทุนบูรณะโบสถ์ ท่านเจ้าอาวาสและคณะกรรมการวัด จึงได้หาฤกษ์มงคลทำการขุดค้นตามนิมิตร ปรากฏว่าพบไหผักกาดดองใบใหญ่ ๒ ไห ฝั่งอยู่ใต้ดินบริเวณหน้าสถูปนั้นจริงๆ เมื่อเปิดออกดูพบพระปิดตาเพชรหลีกที่พระอาจารย์กล่อม โกวิโท จัดสร้างไว้ต้งแต่ปี ๒๕๑๔ เป็นพระปิดตาที่พระอาจารย์กล่อมกดพิมพ์เองและทำการปลุกเสกแต่เพียงลำพัง ท่านตั้งชื่อไว้ว่า "พระภควันเพชรหลีก" แจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านจำนวนหนึ่ง จนเป็นที่เรียกกันว่าพระปิดตาวัดหูแร่ มีพุทธคุณในทางแคล้วคลาดเป็นอย่างมาก และในเรื่องโชคลากโดยเฉพาะการเสี่ยงโชค ทำให้เป็นที่ต้องการของประชาชนมาก แต่ท่านแจกไปไม่มากทำให้พระรุ่นนี้ได้หายไปจากวัดและวงการพระกว่า ๓๐ ปีที่ผ่านมาโดยไม่มีผู้ใดพบเห็นอีกเลย จนกระทั่งทางวัดไปขุดค้นพบฝั่งอยู่อีกสองไห มีพระปิดตาภควัมเพชรหลีกอยู่ ๓ พิมพ์คือ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง และพิมพ์เล็ก คะเนดูว่าน่าจะมีพระอยู่ประมาณเกือบหมื่นองค์ แต่บางส่วนชำรุดไปตามกาลเวลา หากองค์ไหนยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ก็ได้นำออกมาให้ประชาชนที่สนใจเช่าบูชา โดยทางวัดเปิดให้เช่าเองตั้งแต่วันที่๑๓-๑๔ มกราคม ๒๕๕๑ ปัจจุบันพระปิดตาหูแร่ได้หมดไปจากวัดแล้ว พระปิดตา"เพชรหลีก"หลวงพ่อกล่อม โกวิโท วัดหูแร่....เป็นอีกหนึ่งสุดยอดพระปิดตามหาลาภจากดินแดนทักษิณ........... โดดเด่นอย่างเอกอุทางโชคลาภค้าขาย.............สร้างน้อย หายาก ของแท้นั้นแข้งและเข่าพระต้องหนาสูงชัน ขอบพระจะบางคม หลังกระดานไม่มีรอยปาด แต่เหมือนกดลงกับแผ่นกระดานเรียบๆ ใต้ฐานมีรูไม้แบน เสียบแคะพระออกจากแม่พิมพ์ เนื้อค่อนข้างแห้ง กรอบ ขึ้นไขว่าน สร้างจากธนบัตรที่แบงค์ชาตินำมาเป็นส่วนผสมเพื่อเอาเคล็ด ทำให้เด่นทางด้านการเงินโดยเฉพาะ ลองซะให้ได้ แล้วจะติดใจ..... คิก ๆ พระอาจารย์กล่อม โกวิโท จัดสร้างไว้เมื่อปี ๒๕๑๔ เป็นพระปิดตาที่มวลสารมาจากคัมภีร์ขอมโบราณ ธนบัตรชำรุด และคาถาพุทธคุณหลายชนิดที่พระอาจารย์กล่อม เขียนขึ้นเองและผงพุทธคุณจากพระอาจารย์บุญ ชินวาโร อดีตเจ้าอาวาสที่เก็บรักษาไว้ เป็นมวลสารในการจัดสร้าง พระอาจารย์กล่อมทำการปลุกเสกและกดพิมพ์เอง โดยพระปิดตารุ่นนี้มีชื่อว่า พระภควันเพชรหลีก แจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านจำนวนหนึ่ง จนเป็นที่เรียกกันว่าพระปิดตาวัดหูแร่ มีพุทธคุณในทางแคล้วคลาดเป็นอย่างมาก และในเรื่องโชคลากโดยเฉพาะการเสี่ยงโชค ทำให้เป็นที่ต้องการของประชาชนมาก เป็นพระในดวงใจคนใต้เลยครับ เมตตาอันดับสอง รองจาก หลวงพ่อจันทร์ เกาะโฉลกหลำ เป็นพระปิดตาที่เป็นที่สุดทางด้านมหาเสน่ห์ เมตตา โชคลาภและค้าขาย เพราะพระของท่านมีส่วนผสมของว่าน ๑๐๙ ครบถ้วน เถ้าจากการเผาทำลายธนบัตรเก่าๆ ที่ชำรุด ได้รับบริจาคจากกรมธนารักษ์ สาขาหาดใหญ่นำมาผสมผสาน และผงพุทธคุณล้วนๆ จัดว่าเป็นพระปิดตาที่ขึ้นชื่อเปรียบประดุจดั่งพระของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ก็ไม่ปาน (ตำราระบุไว้อย่างนั้น) ถ้านำผงที่ขูดจากพระปิดตาวัดหูแร่ ไปผสมหรือใส่น้ำให้ผู้หญิงรับประทานก็ไม่ต่างกับเสน่ห์ยาแฝด(ในหนังสือพระ เครื่องเมืองใต้ฉบับโบราณระบุไว้ไว้อย่างนี้ ไม่มีเสริมไม่มีแต่ง หรือจะบดทำเป็นยารักษาโรคได้สารพัดชนิดโดยเฉพาะแมลง หรือ อสรพิษกัดต่อย ใช้ดีมากๆ พระของท่านจึงเหลือน้อย) ส่วนใหญ่ผู้ที่ทราบกิติคุณจะนำไปขูดใช้กัน ลองดูไม่ลองแล้วจะรู้จะทราบว่าจริงเท็จประการใด แต่ถ้าทำแล้วช่วยรายงานถึงผล..ด้วยนะครับ จักขอบพระคุณเป็นอย่างสูงจ้า พุทธคุณตามชื่อครับ '''สาวหลง''' เป็นที่ประจักชัดเจน เคยมีคนลองของขูดเอาผง ไปป้ายสาวก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ "ถึงกับต้องมีวลีต่อท้ายกันเลย หลังจากที่หลวงพ่อกล่อมท่านได้กำชับไว้ คือขูดผงแล้วต้องรับเลี้ยง" พระปิดตารุ่นนี้คนหาดใหญ่หวงมาก เพื่อนๆมีหลายคนแต่ผมบุกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมปล่อยกัน จึงได้มาแบ่งให้ท่านพี่น้องแค่องค์เดียวครับ พระปิดตารุ่นนี้มวลสารที่ใช้สร้างน่าสนใจมาก เช่นธนบัตรเก่า ว่านที่คุณวิเศษอีกหลายชนิดฯลฯ มีประสบการณ์มากมาย ยังเป็นของดีภาคใต้ หากจะเปรียบให้ท่านเข้าใจง่ายๆก็คือ หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ของชาวชลบุรี หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ของชาวเมืองกาญจน์ หลวงพ่อกล่อม วัดหูแร่ ของชาวหาดใหญ่ ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2024
  11. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,577
    ค่าพลัง:
    +463
    2261.พระผงว่านนาคปรกพิมพ์เล็ก องค์พระธาตุพนม ปี๒๕๑๘ พิธีปลุกเสกใหญ่ อาจาย์ฝั้น, หลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพฯ ปิดรายการครับ




    upload_2023-10-13_21-53-17.png

    พระนาคปรก เนื้อผงผสมว่าน พระธาตุพนม ปี2518 จัดสร้างเป็นที่ระลึกในงานพระราชพิธีสมโภชพระบรมสารีริกธ าตุ เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2518 มีส่วนผสมของดินพระธาตุพนมที่ล้ม ลงและมวลสารศักดิ์สิทธิ์จากที่ต่างๆทั่วประเทศด้วย พิธีมหาพุท ธาภิเษกที่ดีและยิ่งใหญ่มาก โดยพระคณาจารย์สายพระป่ากรรมฐานหลายรูป เช่น
    พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร,
    หลวงปู่จันทร์ เขมิโย วัดศรีเทพฯ นครพนม,
    หลวงปู่คําพันธ์ วัดธาตุมหาชัย,
    หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม วัดป่าอรัญญวิเวก
    และคณาจารย์จากทั่วประเทศ จำนวนกว่า 100 รูป
    พระราชพิธีหลวงโดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระราชินีนาถเสด็จ ได้ทรงพระราชดำเนินในพระราชพิธีคราวนี้ด้วยครับ พระรุ่นนี้ออกให้ประชาชนเช่าบูชาพร้อมกับเหรียญพระธาตุพนม ปี 2518 เพื่อนำปัจจัยมาทำการบูรณะพระธาตุพนม และได้สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2522 รุ่นนี้มีประสบการณ์ดีมาก โดยเฉพาะทางด้านเมตตามหานิยม โชคลาภและแคล้วคาด คงกะพันชาตรี เป็นที่นิยมกันมากในหมู่ทหาร ตำรวจ และ หน่วยปฏิบัติการตามลำน้ำโขง (นปข.)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2023
  12. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,577
    ค่าพลัง:
    +463
    2262. พระกลีบบัว หลวงพ่อคูณ (รุ่นคูณลาภ) วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา ปี 2517 ปิดรายการครับ




    upload_2023-10-13_21-55-48.png

    พระกลีบบัว หลวงพ่อคูณ (รุ่นคูณลาภ) วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา ปี 2517 พระเครื่องที่สร้างขึ้นในวาระนี้ มี ๕ พิมพ์ด้วยกัน ได้แก่ พระสมเด็จฯกลีบบัวคูณลาภ.. พระนางพญาคูณลาภ.. พระผงพิจิตร.. พระปิดตาคูณลาภ.. และ พระหลวงพ่อเงิน บางคลาน คูณลาภ
    .. พระปิดตาคูณลาภ พุทธลักษณะ เป็นพระปิดตามหาลาภ ปางสมาธิเพชรในรูปใบโพธิ์ มีกรอบป็นแบบกลีบบัว องค์พระอ้วนท้วมสมบูรณ์ รายละเอียดต่าง ๆ ชัดเจน ด้านหลังอูมเล็กน้อย ตัวอักษร “คูณลาภ” กดลึกลงในเนื้อพระ ขนาด กว้าง ๑.๙ เซนติเมตร สูง ๒.๔ เซนติเมตร .. เนื้อหามีทั้งเนื้อผงผสมว่าน(โทนสีขาวขุ่น) และ เนื้อแก่ผงบึงพระยาสุเรนทร์(โทนสีเขียวเทา) ... วรรณะ -เนื้อผงผสมว่านจะออกสีขาวขุ่น ลักษณะคล้ายพระผงแก่น้ำมัน เนื้อพระละเอียดผิวตึง มีมวลสารเม็ดเล็กๆ สีขาว ดำ และ แดง กระจายทั่วองค์พระ -ส่วนเนื้อแก่ผงบึงพระยาสุเรนทร์ จะเป็นสีเขียวแบบหินลับมีด มีมวลสารเม็ดสีขาวและดำกระจายทั่วองค์พระ
    .. มวลสารที่ผสมในเนื้อหาได้แก่ ผงพระสมเด็จฯวัดระฆังฯ, ผงเสากุฎิของสมเด็จพระพุฒาจารย์ฯ(โต) วัดระฆังฯ, ผงสมเด็จพระสังฆราชฯ(ป๋า) วัดโพธิ์, ผงสมเด็จพระญาณสังวรฯ, ผงสมเด็จจิตรลดา, ผงไตรมาสหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ, ผงหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, ผงหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ, ผงหลวงพ่อโสธร, ผงพระสมเด็จปิลันทน์, ผงพระบึงพระยาสุเรนทร์ , ผงพระวัดสามปลื้ม, ผงสมเด็จพระสังฆราชฯ (แพ), ดินพระกำแพงสรรค์, ผงนางพญางิ้วดำ, ผงใบเงินใบทองทำน้ำพุทธมนต์ในพิธีพุทธาภิเษกของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ, ผงลูกอมหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก, ผงลูกอมหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่, เกศาหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ และว่าน ๑๐๘
    .. หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ท่านอธิฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวที่วัดสระแก้ว จังหวัดนครราชสีมา ในวันที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๗ เวลาประมาณ ๕ ทุ่ม พร้อมกับพระปรกใบมะขามรุ่นแรกที่คุณเชิดศักดิ์ ภูมิสวัสดิ์ เป็นผู้จัดสร้าง... “ช่วงก่อนพิธี หลวงพ่อคูณ ได้เข้าจำวัดตั้งแต่หนึ่งทุ่ม พอถึงห้าทุ่มท่านก็ลุกขึ้นมาทำพิธีด้วยการสวดมนต์ และ นั่งบริกรรมปลุกเสกโดยได้ดับไฟทั้งหมด จะมีก็แต่เทียนที่ใช้ในการปลุกเสกเท่านั้น พอถึงเวลาประมาณตีสองครึ่งเศษๆผู้นั่งสังเกตการณ์อยู่นอกกุฏิก็ต้องตื่นเต้นประหลาดเมื่อมีแสงสว่างเจิดจ้าติดต่อกันเป็นระยะถึง ๕ ครั้งด้วยกัน
    .. พระรุ่นนี้น่าจะเป็นรุ่นที่พิธีเยี่ยมยอดที่สุดรุ่นหนึ่งของหลวงพ่อคูณ เนื่องด้วยท่านปลุกเสกชนวนมวลสารถึงขนาดลงมือตำผง ผสมผงเอง ขณะตำผงมวลสารท่านยังกลับสากเอาด้านแหลมตำและกล่าวว่า จะเป็น "ยอดทุกทาง" เมตตามหานิยม แคล้วคลาดนิรันตราย และโชคลาภ
    .. พอสร้างเสร็จหลวงพ่อคูณท่านให้ลูกศิษย์ทำลายแม่พิมพ์ โดยเอาตะไบถูแล้วโยนลงสระที่วัด จากนั้นนำพระมาแจกจ่ายให้ผู้ร่วมทำบุญทอดกฐินทอดผ้าป่าที่วัดสระแก้วจนหมด นับเป็นของดีที่ถูกมองข้าม (ปัจจุบันนี้ลูกศิษย์ลูกหา รวมทั้งผู้ที่นับถือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ต่างเสาะหาของดีราคาเบายุคต้นๆนี้ไว้เป็นที่พึ่งทางใจกันเพิ่มมากขึ้น)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2023
  13. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,577
    ค่าพลัง:
    +463
    2263. ตำนานการสร้างผงอิทธิเจมวลสำคัญ13พิมพ์แรก สมเด็จคู่พระโมคคลานะพระสารีบุตร วัดนางชี หลวงปู่โต๊ะ อธิษฐานจิตไตรมาส พ.ศ.2509 ปิดรายการครับ


    upload_2023-10-14_7-30-58.png


    สุดยอดมวลสาร หลวงปู่โต๊ะ อธิษฐานจิตไตรมาส วัดนางชี กทม. ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2509 โดยท่านพระครูปราสาทสมาธิคุณ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ใช้ระยะเวลาการจัดสร้างนานถึง 9เดือนเศษ เนื้อหามวลสารผงวิเศษมากมาย มวลสารผงวิเศษต่างๆที่ใช้จัดสร้าง - ผงทำพระของขวัญ ผสมเส้นเกศาหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ - ผงเรียนคำภีร์ของหลวงพ่อสดทำถวายพระอาจารย์ผึ่ง วัดสองพี่น้อง สุพรรณบุรี - ผงมหาราชของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ทำถวายพระครูวิริยะกิตติ (หลวงปู่โต๊ะ) รวมผงพระคำภีร์ที่หลวงปู่โต๊ะทำเองด้วย - ผงทำพระของหลวงพ่อโหน่ง วัดอัมพวัน สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นพระกรรมวาจาจารย์และพระวิปัสสนาจารย์ของหลวงพ่อวัดปากน้ำ - ผงพระคัมภีร์ต่างๆเช่น ปัฐมัง อิทธิเจ มหาราช สุกิติมาพาหุงฯลฯ ครบสิบคำภีร์ - ผงพระกรุเก่ามี ว่าน, ดิน, ชิน, ผง, สัมฤทธิ์จาก สุพรรณบุรี กำแพงเพชร สุโขทัย เป็นต้น - คุณโรมรา ผงหลวงปู่เฒ่า วัดหนัง - ท่านเจ้าคุฯโพธิวรคุณ วัดโพธิ์นิมิตร มอบผงที่ท่านทำเอง - พระครูวิริยะกิตติ ( หลวงปู่โต๊ะ ) วัดประดู่ฉิมพลี มอบผงที่ท่านทำเอง - พระครูสมุห์อำพล วัดประสาทมอบผงว่าน 108 - คุณชลอ เปรมสวัสดิ์ มอบผงหลวงปู่ชู วัดนาคปรก - พระผงขุนแผนหักและ ดอกมะลีที่ถวายหลวงพ่อทิพย์วารี เป็นต้น วาระพิธีพุทธาภิเษก
    วาระที่1 : หลังจากทำการพิมพ์พระได้ตามจำนวนแล้วเสร็จ ได้ถวายให้ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพรี เมตตาปลุกเสกตลอดไตรมาส 3เดือน
    วาระที่2 : ทางวัดนางชี ได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณ 9 รูป ทำพิธีพุทธาภิเษก ซึ่งก็เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงทั้งสิ้น
    นามพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณที่ร่วมพุทธาภิเษก
    1.หลวงปู่นาค วัดระฆัง
    2.เจ้าคุณผล วัดหนัง
    3.หลวงพ่อไพฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิต
    4.หลวงพ่อผิน วัดพระเชตุพนฯ
    5.หลวงปู่เทียน วัดโบส
    6.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่
    7.หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ
    8.หลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก
    9.หลวงพ่อนวล วัดไก่เตี้ย
    วาระที่3 : พระที่เข้าอยู่ปริวาสปฏิบัติธุดงค์ 50 รูปร่วมกันปลุกเสก 15 วัน ณ.วัดพายทอง จังหวัดอ่างทอง
    วาระที่4 : นำเข้าพิธีมหาพุทธาภิเษก โดย108 พระคณาจารย์ที่วัดป่าเลไลย์ จังหวัดสุพรรณบุรี
    วาระที่5 : เข้าร่วมพุทธาภิเษก วัดอื่นๆ ทั้งในกรุงเทพ ฯ และต่างจังหวัดอีกหลายวัดอาทิ วัดกัลยาณมิตร , วัดสุทัศน์,,วัดราชสิทธาราม ,วัดประดู่,วัดเศวตฉัตร, วัดระฆัง, วัดใหญ่ศรีสุพรรณ เป็นต้น
    วิธีอารธนาดังนี้ "พุทธังอาราธนัง ธัมมังอาราธนัง สังฆังอาราธนัง พุทโธภะคะวา ธะนะโภคา สัมมาอาราหัง" ถ้าภาวนาทำสมาธิว่า "สัมมาอะระหัง" คำอธิฐานขอ "ขอเดชะ คุณพระพุทะเจ้า คุณพระธรรมเจ้า คุณพระสงฆ์เจ้า คุณครูอาจารย์ คุณบิดามารดา ทั้งห้าประการนี้ กับบุญบารมีที่ข้าพระเจ้ากระทำไว้แล้ว มีมากน้อยเท่าใด จงมารวมกันเป็นพลังอภินิหารบรรดารให้ ข้าพเจ้าและครอบครัวบริวาร จงปราศจากทุกข์ภัยอันตราย มีความสุขพบความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ พระเครื่องเนื้อผงรุ่นนี้นับได้ว่ามีอายุการสร้างที่ไม่น้อยและก็มีจำนวนจำกัด เมื่อแล้วเสร็จพิธีพุทธาภิเษก พระส่วนใหญ่ได้บรรจุอยู่ในพระปรางค์วัดนางชี ที่เหลืออีกส่วนหนึ่งบรรจุอยู่ในหอประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุหลังเก่า ซึ่งทรุดโทรมมากแล้ว

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ตุลาคม 2023
  14. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,577
    ค่าพลัง:
    +463
    2264. "หนังไม่เหนียว อย่าเที่ยววัดโข"วลีเด็ดที่คนปากเกร็ดต่างพูดกัน เหรียญธรรมมาสพิมพ์ใหญ่ ปี พ.ศ.๒๕๑๔ หลวงปู่เผือก วัดสาลีโขภิตาราม ให้บูชา 1850 บาท



    upload_2023-10-14_7-49-45.png

    พระครูธรรมกิจโกศล หรือหลวงปู่เผือก เป็นพระเถระในสมัยอยุธยาตอนปลาย ท่านอพยพภัยสงครามมาอยู่นนทบุรี หัวเมืองสมัยอดีตพร้อมพกพากฤษฎาภินิหารจากจิตทรงอภิญญามาสงเคราะห์สาธุชนด้วยสติปัญญาอันเลิศในการเรียนพระไตรปิฎก ด้วยปาฏิหาริย์แสดงได้ไม่จำกัดในคราวจำเป็น ทำให้หลวงปู่เผือกเป็นที่เคารพรักศรัทธาใน พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ยิ่งนัก
    จึงโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้เป็นพระครูสัญญาบัตรพิเศษตำแหน่งสังฆปาโมกข์ แขวงสระบุรี – เจ้าคณะเมืองนนทบุรี ที่ “พระธรรมโกศล” และท่านก็ถึงแก่มรณภาพในรัชสมัยของล้นเกล้ารัชกาลที่ 4 เมื่อปี พ.ศ.2405 สิริอายุได้ 106 ปี
    “หลวงพ่อสาลีโข” เป็นนามที่ศิษย์ขานถวายโดยเคารพเฉกเช่น หลวงพ่อวัดปากน้ำ ซึ่งเมื่อเอ่ยย่อมแน่ใจได้ว่าคือ หลวงพ่อสด จันทสโร
    หลวงพ่อสาลีโข ชื่อแท้ท่านคือ หลวงพ่อสมภพ เตชปุญโญ อดีตพระลูกวัดสาลีโขภิตาราม ที่ถูกหลวงปู่เผือกในสภาวะวิญญาณ ซึ่งทรงอานุภาพดวงหนึ่ง เปลี่ยนชะตาชีวิต หน้ามือเป็นหลังมือในคืนวันขึ้น 15 ค่ำ ของปี พ.ศ.2502 ขณะที่ ท่านบวชได้เพียงพรรษาเดียว
    ดวงวิญญาณที่ไร้รูปแต่เต็มปรี่ด้วยทิพยอำนาจอันยากหยั่งถึง ได้พร่ำสอนถ่ายทอดความรู้นานาให้พระสมภพโดยไม่รู้เหน็ดเหนื่อย นับแต่เรื่องเล็กน้อย เช่น คาถาอาคมจนถึงเรื่องใจ คือ สมาธิ
    และยังบรรจุพระเวทย์สารพัดประดามีให้พระสมภพหมดสิ้น กระทั่งพาพระหนุ่มผู้อ่อนโลกออกธุดงค์ในป่าลึกเพื่อฝึกฝนจิตตานุภาพ เพื่อทบทวนวิชาที่ให้ไป และเพื่อทดสอบอำนาจจิตอภิญญาของพระสมภพ
    จากไปหลายปี กลับมาอีกทีก็มิใช่พระสมภพองค์เดิม หากเป็นพระอาจารย์สมภพที่เพียบพร้อมด้วยคุณลักษณะแห่ง “คุรุ” ทางไสยเวทย์ความแตกฉาน และอภินิหารของพระอาจารย์สมภพ เป็นสิ่งที่ผู้ไปพบจะทราบดี
    ราวปี พ.ศ.2515 หนังสือพิมพ์ “บางกอกไทม” ลงข่าวหน้าหนึ่งครึกโครมว่า สตรีนางหนึ่งนาม น.ส. แป๋ว มีอาการเจ็บป่วยอย่างหนักหาสาเหตุไม่ได้ ครั้นญาติมั่นใจว่าเห็นทีจะถูกคุณไสยเข้า ก็หอบหิ้วกันมาพบพระอาจารย์ ท่านเริ่มรักษาตามกระบวนการที่หลวงปู่เผือกสั่งสอนมา ผู้ป่วยก็เกิดขยอกขย้อนจะอาเจียน
    เมื่อนำกระโถนใบใหญ่วางลงตรงหน้า น.ส.แป๋ว ก็อาเจียนโอ้กใหญ่ กลิ่นคาวปนเน่าคละคลุ้ง ในภาชนะนั้นไม่เพียงมีของเหลวสีคล้ำช้ำเลือดช้ำหนอง หากปรากฎซากงูเน่า จนเห็นกระดูกโพลนทั้งตัวนอนอยู่ก้นกระโถนอย่างน่าตกตะลึง
    ท่านพระอาจารย์อธิบายว่า มีบางคนประสงค์ให้ น.ส.แป๋ว ตายอย่างทรมานจึงใช้เดรัจฉานวิชาชั้นสูงปล่อยงูเป็นๆ เข้าท้อง หากแก้ไม่ตกย่อมถึงตาย นี่งูก็เน่าจวนหมดตัวแล้ว ถ้าปล่อยทิ้งไว้ในท้องอีกไม่นาน น.ส.แป๋ว ไม่รอดสมใจฝ่ายตรงข้ามแน่นอน
    ข่าวนี้เป็นดุจเชื้ออย่างดีที่โหมศรัทธามหาชนให้ลุกโชน คนนับพันนับหมื่นหลั่งไหลไปวัดสาลีโข เพื่อพึ่งใบบุญแห่งหลวงปู่เผือกและพระอาจารย์สมภพผู้เป็นตัวแทน ทุกคนได้รับความเมตตาจากพระอาจารย์ อย่างไม่เลือกชั้นวรรณะ และทุกคนร่ำร้องหาความสงเคราะห์จากหลวงปู่เผือก ดวงวิญญาณอมตะของท่านก็ยังแผ่บารมีครอบคลุมทั่วถึงอย่างไม่เลือกรักเลือกชัง
    ลุถึงปี พ.ศ.2514 หลวงปู่เผือก พระปรมาจารย์แห่งวัดสาลีโขภิตาราม ได้คำนวณฤกษ์เห็นควรประกอบมหาพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งยวด สืบเนื่องมาแต่ “มหาฤกษ์” ที่ยากจะเกิดขึ้นในแต่ละคราว นั่นคือ "ฤกษ์มหาจักรจตุรงคสันนิบาต”
    อันได้แก่ ดาวจันทร์ ดาวพฤหัส ดาวเสาร์ และดาวราหู ต่างเคลื่อนเข้าสถิตอยู่ในองค์เกณท์ราศีอันเป็น “มหาจักร” แห่งตน และจะปรากฎถึง 4 วาระด้วยกันตลอดไตรมาสพรรษาปี 2514 ซึ่งเหตุการณ์นี้ ทุก 200 ปีจะเกิดมีขึ้นครั้งหนึ่ง
    วาระมหามงคลที่จะถึงนั้น บรรดาผู้รู้ทั้งหลายไม่อาจปล่อยให้หลุดลอยได้ หลวงพ่อสาลีโขจึงกำหนดการจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นเป็นจำนวนมาก เพื่อให้สมเวลาที่รอคอย ทั้งยังปรารถนาให้เป็น “ครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต” ของท่านทีเดียว
    การสร้างอิทธิวัตถุของหลวงพ่อสาลีโขนั้นไม่เลยแม้สักครั้งเดียวที่จะใช้โลหะเปล่า ท่านเพียรพยายามยิ่งในการจารอักขระเลขยันต์สำคัญครอบคลุมสรรพวิชาทั้งมวลลงในแผ่นโลหะ เน้นหนักในทุกๆสายวิชาทั้งคงกระพัน มหาอุด ชาตรี กำบังตน มหาลาภ มหานิยม เมตตา แคล้วคลาด กันภัยกันคุณไสย กันภูตผี
    วิชาเหล่านี้ท่านเพียรจารเสกเป่า แต่ละอักขระแต่ละพระยันต์ ท่านจะบรรจงเขียนอย่างสวยงาม ปลุกเสกและลงถม นำไปหลอมเอามาลงใหม่ ซับซ้อนเช่นนี้อย่างน้อย ถึง 3 วาระด้วยกัน กระทั่งคราวหลอมเพื่อรีดปั๊มเหรียญ ช่างถึงกับตะลึงเมื่อแผ่นทองวิ่งวนอยู่ในเบ้าหลอม ไม่ยอมละลาย ได้ตักเก็บไว้เป็นหลักฐานจำนวนหลายสิบแผ่น
    แผ่นทองชนวนนับสิบกิโล แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริง และวิริยะอุตสาหะ อันหาได้ยากในพระอาจารย์สมัยปัจจุบัน ไม่ควรแปลกใจเลยที่บังเกิดปาฏิหาริย์แผ่นทองไม่ละลายเพราะ“ปราณ” ที่ท่านเป่าประจุย่อมสถิตแนบแน่นอยู่ในทุกอณูแผ่นทอง จนโลหะธาตุธรรมชาติทั้งมวลถูกแปรสภาพเป็น “ธาตุสำเร็จ” จากการตั้งธาตุ ปรุงธาตุ และหนุนธาตุทั้ง 4 ขึ้นมาจากจิตที่ทรงอภิญญา
    เฉพาะ “เตโชกสิณ” นั้น ท่านเชี่ยวชาญถึงขีดสุด
    มงคลวัตถุที่สร้างประกอบด้วย พระพุทธรูปสุโขทัย หน้านาง ขนาด 9 , 5 นิ้ว , พระพุทธนาคปรก ขนาด 9, 5 นิ้ว, พระสังกัจจายน์ ขนาด 9 นิ้ว, รูปหล่อหลวงปู่เผือก ขนาด 9 , 5 นิ้ว , พระนาคปรกแขวนคอ, รูปหล่อหลวงปู่เผือกขนาดแขวนคอ, เหรียญหลวงปู่เผือก รุ่น 2 พิมพ์ใหญ่ – เล็ก, เหรียญรูปเหมือนหลวงพ่อสาลีโข รุ่น 2
    ชนวนมวลสารทั้งหมดถูกนำมาประกอบพิธีปลุกเสกในวันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2514 เวลา 18.00 น. โดยพระคณาจารย์มากมาย มีหลวงปู่เผือกประทับทรง หลวงพ่อสาลีโขเป็นประธาน เมื่อแล้วเสร็จได้จุณเจิมสรรพวัสดุด้วยกระแจะหอม และสวดหนุนด้วยพระพุทธมนต์พิเศษ คือ บทยานี , บทภาณวาร , บทคาถาพัน และอิติปิโสรัตนมาลา ก่อนจะนำแผ่นโลหะทั้งปวงมาหล่อหลอมเป็นชนวนสัมฤทธิ์เพื่อนำไปสร้างเป็นองค์พระต่อไป
    วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2514 เวลา 10.08 น. เป็นกำหนดจุดเทียนชัยในพิธีเททอง และเริ่มทำพิธีพุทธาภิเษก วันนี้หลวงพ่อสาลีโขถือเป็นวันสำคัญที่สุดของงาน เพราะเป็นการเชิญชนวนสัมฤทธิ์เข้าสู่เบ้าหลอมหล่อรวมกับโลหะมงคลอื่นๆ แล้วเททองลงหุ่นให้สำเร็จเป็นองค์พระ จากนั้นจึงประพรมน้ำพระพุทธมนต์ยังเบ้าหลอม
    ครั้นทุบหุ่นดินออกก็อัญเชิญพระปฏิมาลงชุบน้ำศักดิ์สิทธ์จากสถานที่สำคัญเช่น น้ำสรงพระบรมธาตุ , น้ำเมืองเพชร, น้ำสระแก้ว, น้ำบ้านบางปืน ฯลฯ แล้วอัญเชิญขึ้นประดิษฐานในพานเชิงใบใหญ่เคล้าคละประโปรบด้วยเครื่องหอมกระแจะจันทน์ พร้อมด้วยการเรียกสูตรตั้งนามให้เป็นสิริ ท่ามกลางพิธีมหาพุทธปรมาภิเษก พระมหานาคทั้งสี่เจริญบทมหาจักรพรรดิราช และบทพุทธาภิเษก โดยมีรายนามพระมหาเถระผู้ทรงรัตตัญญู ภาพเข้าร่วมพิธี ดังนี้
    1. พระภัทรมุกมุนี (ชิต) วัดเขาเต่า ประจวบคีรีขันธ์
    2. หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย สุพรรณบุรี
    3. หลวงพ่อกุหลาบ วัดใหญ่สว่างอารมณ์ นนทบุรี
    4. หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ธนบุรี
    5. หลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ เพชรบุรี
    6. พระครูประกาศสมาธิคุณ วัดมหาธาตุ พระนคร
    7. หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ลพบุรี
    8. หลวงพ่อโอด วัดจันเสน นครสวรรค์
    9. หลวงปู่ผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต ขอนแก่น
    10. หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช พระนครศรีอยุธยา
    11. หลวงพ่อมิ วัดสิงห์ ธนบุรี
    12. หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จันทบุรี
    13. หลวงพ่อปี้ วัดด่านลานหอย สุโขทัย
    14. หลวงพ่อวัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท
    15. หลวงพ่อทบ วัดชนแดน เพชรบูรณ์
    16. หลวงพ่อชื่น วัดตำหนักเหนือ นนทบุรี
    17. พระครูเมธีวรานุวัตร วัดมหาธาตุ พระนคร
    18. หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี
    19. หลวงพ่อจัน วัดสระเกษ พระนคร
    20. หลวงพ่อสั้น วัดท่าอิฐ นนทบุรี
    21. หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ พระนครศรีอยุธยา
    22. หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี สมุทรสงคราม
    23. หลวงพ่อจันทร์ วัดโสธรวราราม ฉะเชิงเทรา
    24. หลวงปู่เส็ง วัดกัลยาณมิตร ธนบุรี
    25. หลวงพ่อทองสุข วัดสะพานสูง นนทบุรี
    วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2514 เวลา 16.00 น. พิธีมหามงคลสรงองค์พระให้สำเร็จเป็น “พระเครื่อง” โดยบริสุทธิ์บริบูรณ์ ปราศจากมลทินโทษใดๆ พระคณาจารย์ในงานเจริญบทมงคลจักรวาล , ชัยมงคลคาถา และทิพยมนต์
    วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ.2514 เวลา 09.00 น. ตรงกับวันมหาจักรจตุรงคสันนิบาตวันสุดท้าย เป็นวาระนัดผู้สั่งจองอิทธิวัตถุให้มารับการประสิทธิเมจากมือหลวงพ่อสาลีโขด้วยตนเองจนถ้วนทั่วทุกตัวคน
     
  15. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,577
    ค่าพลัง:
    +463
    2265. พระสมเด็จคะแนนหูบายศรี หลวงปู่นาค วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ มวลสารผสมผงเก่า ปี 2500 ให้บูชา 799 บาท



    upload_2023-10-14_13-13-34.png

    หลวงปู่นาค โสภโณ วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ พระเนื้อผงรุ่นแรก สร้างปี 2485 ประกอบด้วยพิมพ์ทรงเทวดาอกตัน-อกร่อง เทวดาขัดเพชร และพิมพ์สามเหลี่ยม
    พระเนื้อผงรุ่นสอง สร้างปี 2495 ประกอบด้วยพิมพ์สมเด็จโต นั่งบริกรรม พิมพ์ปรกโพธิ์ ฝังและไม่ฝังตะกรุด พิมพ์พระประธาน ฝังและไม่ฝังตะกรุด นางพญา คะแนนฐานสิงห์ รูปหล่อ เหรียญโล่ และเหรียญข้าวหลามตัด นอกจากนี้ยังมีอีกหลายรุ่น สร้างในปี พ.ศ.2499,2500,2504,2507,2509 และรุ่นสุดท้ายคือรุ่นแซยิด 7 รอบ ปี 2511 พุทธคุณที่เล่าสืบทอดกันมา คือเด่นในเรื่องเมตตามหานิยม แคล้วคลาด
     
  16. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,577
    ค่าพลัง:
    +463
    2266. หน่อเนื้อสายสมเด็จ พระสมเด็จพิมพ์เจดีย์หลวงปู่หิน วัดระฆัง ปี2497แช่น้ำมนต์ ให้บูชา 899 บาท


    upload_2023-10-14_13-42-12.png



    การสร้างพระผงต่างๆ ของหลวงปู่ หิน แห่งวัดระฆังนั้น หลวงปู่มีความศรัทธา ต่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต มาก ๆ หลวงปู่ท่านพยายามเสาะแสวงหา พระสมเด็จมาสะสมไว้ ทั้งที่ แตกหักและชำรุด จนมีจำนวนมากพอแก่ความต้องการ ท่านจึงนำมาโขลกเป็นผง นอกจากนี้แล้วท่านยังได้ยัดผงปิลันทร์จากกรุ มุมพระอุโบสถ ด้านทิศใต้ ผงจากกรุ วัดสามปลื้ม ผงสุริบาตร และผงตรีนิสิงเห ที่ขาดมิได้
    การสร้างพระพิมพ์ของหลวงปู่ นั้น เริ่มตั้งแต่ พศ. 2482-2515 มี อาจารย์ขวัญ วิสิฎโฐ ( คุ้มประยูร) เป็นผู้ช่วยเหลือโดยใกล้ชิด พระรุ่นแรกอายุประมาณ 70 ปี สร้างเวลาใกล้เคียงกับหลวงปู่นาค ปี 84 แต่
    หลวงปู่หิน สร้างในปี 2482 เป็นจำนวนมาก เพราะท่านทำผงไว้ได้ประมาณ 5-6 กระถางมังกร ได้พระประมาณหลายหมื่นองค์และหลวงปู่หิน ได้มอบผงบางส่วนให้หลวงปู่นาค ไว้สร้างพระด้วย พระสมเด็จของหลวงปู่หินจะแก่ปูน บางองค์จะเนื้อออกคล้ายฟองเต้าหู้คล้ายผิวของพระกรุบางขุนพรหมในองค์ที่ลงกรุหรือองค์ที่ท่านแช่น้ำมนต์หรือ บางครั้งท่านสรงน้ำท่านจะเสกน้ำมนต์ แล้วรดราดใส่กองพระที่วางกองไว้ใต้ต้นไม้ที่อยู่หลังกุฏิพระแล้วใช้ใบไม้แห้งมาปิดทับไว้ ตามแบบพระเกจิอาจารย์รุ่นก่อนๆ เนื้อบางองค์จึงใกล้เคียงกับพระกรุบางขุนพรหม ส่วนพระของหลวงปู่นาคจะผสมมวลสารของท่านเพิ่มและน้ำมันและกล้วย พระของหลวงปู่นาคจึงคล้ายพระสมเด็จโตมากในองค์ที่ผสมผงมาก ส่วนของหลวงปู่หินจะแกร่งปูนบางองค์มีฟองเต้าหู้ จะคล้ายพระกรุบางขุนพรหมครับ
    พระสมเด็จหลวงปู่หิน วัดระฆัง มีพุทธคุณสูงส่งมากทาง ด้านเมตตามหานิยม และแคล้วคลาด แม้แต่ทางด้านคงกระพันก็มีเจอมาหลายรายเช่นกัน นอกจากนี้พระสมเด็จของท่านยังใช้อาราธนาทำน้ำมนต์ได้ศักดิ์สิทธิ์เป็นยิ่งนัก ใช้รักษาทางโรคคุณไสย หรือ ภูตผีปีศาจเข้าสิงได้เหมือนท่านรดน้ำมนต์เอง ชื่อเสียงทางด้านน้ำมนต์ของดังมาก วันๆมีคนมาให้ท่านรดน้ำมนต์มากมาย ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 พระสมเด็จหลวงปู่หินก็ปรากฏชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายอย่างมาก ซึ่งพระสมเด็จของท่านก็ใช่ว่าจะรู้จักแต่คนไทยสมัยเก่าเท่านั้น แม้แต่คนต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ หรือฮ่องกงหรือ ประเทศมาเลยเชีย หรืออินโดนีเซียเขาก็รู้จักและนิยม พระของหลวงปู่ท่านมานาน

     
  17. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,577
    ค่าพลัง:
    +463
    2267. พระผงพิมพ์ขุนแผน รุ่นแรก พิมพ์ใหญ่ หลวงปู่หลอด ปโมทิโต วัดสิริกมลาวาส (วัดใหม่เสนานิคม) ลาดพร้าว กรุงเทพฯ ให้บูชา 799 บาท




    upload_2023-10-14_15-45-11.png

    พระขุนแผนแสนเสน่ห์ พิมพ์แขนอ่อน พิมพ์ทรงห้าเหลี่ยม ด้านหน้าพระพุทธปางมารวิชัย ประทับบนบัลลังก์ ภายในซุ้มเรือนแก้วด้านหลังยันต์ทศบารมี หรือ บารมีสิบทัศ ในรูปองค์ยันต์แปดทิศสิบสองมุม ถอดพระอักขระได้ดังนี้ เตชะสุเนมะภูจะนาวิเว เสติ (บารมีสิบชาติสุดท้ายก่อนจะมาเป็นพระพุทธเจ้า) ตรงกลางเป็นยันต์นะจตุโร (บังเกิดโภคทรัพย์) สำเร็จด้วยยันต์เฑาะว์ขัดสมาธิจตุทิศ ความหมายของยันต์ทศบารมี คือการนำพระบารมีทั้ง ๑๐ พระชาติก่อนของพระพุทธเจ้า มาเป็นเกราะคุ้มป้องกันภัยจากภายนอก นะจตุโรคุ้มครองตรงกลางหัวใจ เฑาะว์ขัดสมาธิคุ้มครองธาตุทั้ง ๔ พระขุนแผน ลป.หลอด ปโมทิโต เด่นทางคุ้มรองป้องกันภัยอันตรายต่างๆ จากการกระทำทางคุณไสยใฝ่ต่ำต่างๆ สัมภเวสีผีเร่ร่อนทั้งหลายที่จะมารังควาน ดังนั้นอย่าได้นำไปใช้ในทางชู้สาว ประพฤติผิดในศีลข้อกาเมฯ เป็นสำคัญ พระขุนแผน ลป.หลอด นี้สร้างด้วยขนาดกำลังเหมาะใช้ได้ทั้งชายหญิง กว้าง ๒.๓๐ ซ.ม. สูง ๔.๓๐ ซ.ม. มวลสารในการสร้างพระขุนแผนแสนเสน่ห์ พิมพ์แขนอ่อน จากการบันทึกของ คุณสุรินทร์ ตั้งสันติภาพ มวลสารที่นำมาจัดสร้างได้รับความเมตตาจากหลวงพี่เขียว พระอุปัฏฐากรับใช้หลวงปู่หลอด และมวลสารสำคัญส่วนหนึ่งที่คุณสุรินทร์ เก็บรักษาไว้ ดังนี้
    ๑.พระอังคุลีธาตุ (ข้อนิ้ว) ของพระพุทธเจ้า
    ๒.ดินจากสี่สังเวชนียสถาน ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน
    ๓.ดินจากมูลคันธกุฏี ที่ประทับของพระพุทธเจ้า
    ๔.ดินจากสถานที่พระพุทธเจ้าแสดงยมกปาฏิหาริย์
    ๕.ดินจากสถานที่บ้านอนาถบิณฑิกเศรษฐี
    ๖.ใบโพธิ์จากต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้
    มวลสารทั้ง ๖ นี้ ลป.หลอด มอบให้มาเป็นส่วนผสมหลักของพระขุนแผนแสนเสน่ห์ พิมพ์แขนอ่อนนี้
    ๗.ผ้าจีวร เกศาธาตุ โลมาธาตุ ชานหมาก ผงที่เหลือจากการสร้างวัตถุมงคล ปี ๓๙-๔๐
    ๘.ผงที่เหลือจากการสร้างพระสมเด็จปรกโพธิ์ รุ่นแรก
    ๙.ผงพรายกุมาร หลวงทิม อิสริโก วัดระหารไร่ ระยอง
    ๑๐.ผงพระสมเด็จ พระขุนแผน ลป.ปรง สาสโน วัดธรรมเจดีย์ สิงห์บุรี
    ๑๑.แร่กายสิทธิ์ต่างๆ พลอย-หินขวานฟ้า
    ๑๒.ว่าน ๑๐๘ ของหลวงปู่เสรี พระวิปัสสนาจารย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
    ๑๓.ผงพระแตกหักชำรุดต่างๆ เช่น พระวัดสามปลื้ม พระนาดูน พระบางขุนพรหม พระวัดประสาท ฯลฯ
    ๑๔.ธนบัตรเก่าที่ชำรุด
    ๑๕.ผงยาจินดามณี ตำรับวัดกลางบางแก้ว หลวงปู่เจือ ปิยสีโล
    ฯลฯ
    นอกจากนี้ยังมีว่านสำคัญเป็นมวลสาร เช่นว่านเสน่ห์ขุนแผน ว่านขุนแผนสะกดทัพ ว่านกุมารทอง ว่านม้าสีหมอก ว่านทางเมตตามหานิยม คงกระพันชาตรีอีก ส่วนหนึ่งซึ่งเกินจะกล่าว พระชุดนี้กดพิมพ์ภายในวัดใหม่เสนาทุกขั้นตอน
    ในการกดพิมพ์พระ ลป.หลอด เป็นองค์ปฐมฤกษ์ขณะผสมมวลสารพึงภาวนาว่า อะสังวิสุโลปุสะพุภะ เมื่อปั้นเป็นก้อนกลมภาวนา สุนะโมโล เมื่อกดปั้มเป็นองค์พระภาวนา อะสังวิสุโลปุสะพุภะ สัตถุโน พุทโธ เมื่อหยิบองค์พระออกจากบล็อกแม่พิมพ์ ภาวนา นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ นะมะอะอุ เมื่อกดพิมพ์สำเร็จแล้วนำองค์พระไปผึ่งลมจนแห้งได้ที่ ก่อนนำไปเข้าพิธีปลุกเสกอีกครั้ง โดยมีฆราวาสผู้สำรวมอินทรีย์จิตภาวนาเป็นผู้นำไปเก็บรักษาและเจริญพระคาถาหัวใจพระไตรปิฏก ได้แก่ อาปามะจูปะฯ ทีมะสังอังธุฯ สังวิธาปุกะยะปะฯ ข้าพเจ้าขอตั้งสัจจะอธิษฐานขอรูปพิมพ์พระขุนแผนนี้ จงมีความขลังความศักดิ์สิทธิ์ ด้วยพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ ด้วยอำนาจพระเดช คือ คุณธรรม เมตตาธรรม กรุณาธรรม เมื่อเก็บรักษาองค์พระเรียบร้อยแล้ว หลวงปู่หลอด ปโมทิโต จะอธิษฐานจิตภาวนาเบิกพระเนตรให้เสร็จเป็นองค์พระในทีเดียวก่อนบริกรรมพระคาถาเฉพาะ... นอกจากองค์หลวงปู่หลอดเมตตาจิตเดี่ยวตลอดพรรษา ยังได้รับความเมตตาอธิษฐานจิตจากหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หลวงปู่ศรี มหาวีโร เป็นกรณีพิเศษอีกด้วย นับเป็นองค์พระควรค่าแก่การสะสม....
     
  18. sunmk

    sunmk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +868
    จอง2261
     
  19. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,577
    ค่าพลัง:
    +463
    2268.พระผงว่านนาคปรกพิมพ์เล็ก องค์พระธาตุพนม ปี๒๕๑๘ พิธีปลุกเสกใหญ่ อาจาย์ฝั้น, หลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพฯ ให้บูชา 500 บาท




    upload_2023-10-14_20-46-14.png

    พระนาคปรก เนื้อผงผสมว่าน พระธาตุพนม ปี2518 จัดสร้างเป็นที่ระลึกในงานพระราชพิธีสมโภชพระบรมสารีริกธ าตุ เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2518 มีส่วนผสมของดินพระธาตุพนมที่ล้ม ลงและมวลสารศักดิ์สิทธิ์จากที่ต่างๆทั่วประเทศด้วย พิธีมหาพุท ธาภิเษกที่ดีและยิ่งใหญ่มาก โดยพระคณาจารย์สายพระป่ากรรมฐานหลายรูป เช่น
    พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร,
    หลวงปู่จันทร์ เขมิโย วัดศรีเทพฯ นครพนม,
    หลวงปู่คําพันธ์ วัดธาตุมหาชัย,
    หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม วัดป่าอรัญญวิเวก
    และคณาจารย์จากทั่วประเทศ จำนวนกว่า 100 รูป
    พระราชพิธีหลวงโดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระราชินีนาถเสด็จ ได้ทรงพระราชดำเนินในพระราชพิธีคราวนี้ด้วยครับ พระรุ่นนี้ออกให้ประชาชนเช่าบูชาพร้อมกับเหรียญพระธาตุพนม ปี 2518 เพื่อนำปัจจัยมาทำการบูรณะพระธาตุพนม และได้สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2522 รุ่นนี้มีประสบการณ์ดีมาก โดยเฉพาะทางด้านเมตตามหานิยม โชคลาภและแคล้วคาด คงกะพันชาตรี เป็นที่นิยมกันมากในหมู่ทหาร ตำรวจ และ หน่วยปฏิบัติการตามลำน้ำโขง (นปข.)
     
  20. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,577
    ค่าพลัง:
    +463
    สวัสดีเช้าวัยหยุดสุดสัปดาห์ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...