พระกรุ พระเกจิอาจารย์ เครื่องรางของขลัง ลูกอมผงมหาจินดามณีมนต์ตรา พระปลัดปาน วัดตุ๊กตา

ลูกอมผงมหาจินดามณีมนต์ตรา พระปลัดปาน วัดตุ๊กตา

สุดยอดอันดับหนึ่งของ เบญจภาคีลูกอมของไทย ขนาดกำลังแขวน เลี่ยมขึ้นคอ โดยลูกอมมีขนาด ประมาณปลายนิ้วชี้

ลูกอมพระปลัดปาน วัดตุ๊กตา จ.นครปฐม เป็นลูกอมเนื้อผงมหาจินดามณีมนตรา ที่มีพระพุทธคุณสุดยอด..ในเรื่องเมตตามหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม โชคลาภ แก้วแหวนเงินทอง สมดั่งชื่อลูกอมผงมหาจินดามณี ลูกนี้เป็นเนื้อก้นครก ซึ่งเนื้อหาจะจัดกว่าเนื้อธรรมดาเพราะว่ามวลสาร และแร่วิเศษสำคัญๆเมื่อถูกตำถูกโขลกไปนานๆ จะตกจมนอนรวมกันอยู่ที่ก้นครก เนื้อของลูกอมจึงค่อนข้างจัดจ้าน ทำให้ดูง่ายมากยิ่งขึ้น

พระปลัดปาน วัดตุ๊กตา พระเกจิอาจารย์ยุคโบราณของเมืองนครปฐม ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ เป็นพระอาจารย์ใหญ่ของ ลป.บุญ วัดกลางบางแก้ว ท่านเป็นผู้อบรมสั่งสอนประสิทธิ์ประสาท วิชาการทำผงยาวาสนาจินดามณีให้แก่ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ศิษย์เอกของท่านจนมีชื่อเสียงโด่งดัง ลูกอมของท่านพระปลัดปาน สร้างจากผงมหามณีมนต์ตราคม ซึ่งท่านเป็นต้นตำหรับเจ้าของวิชานี้ ที่ลูกอมเป็นสีชมพูเป็นเพราะท่านใส่ว่านสบู่เลือดผสมลงไปในเนื้อลูกอม ใส่มากสีจะออกชมพูเข้ม ใส่พอประมาณจะเป็นสีชมพูอมม่วงเล็กน้อย ใส่น้อยจะเป็นสีขาวอมชมพู โดยประมาณ

ลูกอม เนื้อผงมหามณีจินดามนตรา ของท่านพระปลัดปาน วัดตุ๊กตา ผมเก็บสะสมมา 30 กว่าปี ก็เก็บไว้ใด้น่าจะประมาณ 10 กว่าลูก พอมาทำห้องพระในเว็บพลังจิต ก็แบ่งให็พี่ๆน้องๆในห้องนี้ไปจนไม่เหลือ แม้แต่ของตัวเองที่ใช้แขวน ลูกสุดท้ายออกไปเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ผมก็นึกว่าแบ่งปันให้เพื่อนสมาชิกไปก่อน เดี๋ยวหาเอาใหม่ก็ใด้ กว่าจะเจออีกลูกหนึ่ง กาลเวลาก็หมุนเวียนเปลี่ยนไป เกือบจะ 3 ปี จึงจะใด้พบเห็นอีกครั้งหนึ่ง

คนรุ่นเก่าๆเล่าสืบต่อกันมาว่า วิชามนตราจินดามณีของท่านนั้น สามารถเรียกนกจากฟ้าให้บินลงมาหา เรียกปลาจากน้ำให้ขึ้นมาว่ายบนบกได้ ด้วยเหตุนี้ผู้คนจึงกล่าวขานถึงลูกอมผงมหาจินดามณี ของท่านมานานนักหนาตั้งแต่ครั้งโบราณเมื่อหนึ่งร้อยกว่าปีที่แล้ว จนถึงปัจุบันยังไม่เสื่อมคลายมนต์ขลัง..แม้แต่น้อย ลูกอมมหาจินดามณีมนตรา ของท่านจึงเป็นอันดับหนึ่ง ในบรรดาเบญจภาคีลูกอม..ของไทย

ลูกอมมหาจินดามณี ของท่านพระปลัดปาน วัดตุ๊กตา เด่นในเรื่องเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ โชคลาภ เงินทอง เสริมดวงค้ำคูณชะตาวาสนา ของผู้เป็นเจ้าของให้สูง เจรจาการงานสำคัญต่างๆ ดียิ่งนักแล ด้วยเหตุนี้ลูกอมมหาจินดามณีของท่าน จึงเป็นที่แสาะแสวงหามาแต่ครั้งโบราณ ผ่านกาลเวลามาร้อยกว่าปี ถ้าพระพุทธคุณไม่เข้มขลัง จริงผู้คนคงลืมเลือน ละเลย...ลูกอมมหาจินดามณีมนตราคม ของท่านไปนานแล้ว

บูชาลูกละ 4000 บาทครับ

ลดสุดๆ ใด้เท่านี้จริงๆครับผม

ประกันความแท้ ตามกฎเว็บพลังจิต
โทร 08 6454 0353
LINE ID : prathai9
ธ.กสิกรไทย 705 2027 515
ชื่อบัญชี : กิติศักดิ์ ขำเพ็ง

 

เบี้ยแก้เปลือย หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน อ่างทอง

ปรอทยังอยูเต็ม ไม่ใด้รั่ว หรือหนีหายไปไหนครับ

หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน จ.อ่างทอง ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์อีกองค์หนึ่งของอ่างทอง ที่สร้างเบี้ยแก้ใด้เข้มขลัง ซึ่งในการสร้างนั้นมีกรรมวิธีที่สลับซับซ้อน ท้ายที่สุดแล้วแล้วจะเป็นการใช้หญ้าคาวางพาดให้ปรอทวิ่งเข้าสู่ในตัวเบี้ย หลังจากนั้นจึงปิดทับด้วยแผ่นทองแดง และอุดปิดทับด้วยชันนะโรงอีกชั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้ปรอทหนีออกจากตัวเบี้ย ผู้ที่ใด้รับบางคนที่มีฐานะดีก็นำเบี้ยแก้ไปเลียมเงิน เลี่ยมนาก ส่วนชาวบ้านหาเช้ากินค่ำบางท่านที่มีฝีมือทางจักสานก็ถักเชือกหุ้ม บางท่านก็ไม่ใด้เลี่ยม ไม่ใด้ถักใส่พานพุ่มบูชากันเปลือยๆอย่างนั้น อันเป็นที่มาของเบี้ยแก้เปลือย เนื่องจากหลวงพ่อนุ่มท่านทำเบี้ยแก้เสร็จแล้วก็แจกจ่ายญาติโยมไปเลยเปลือยๆ ไม่มีการถักเชือกลงรักหุ้มเบี้ยเหมือนกับเบี้ยแก้สายหลวงปู่รอดวัดนายโรง หรือเบี้ยแก้ของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว

พระอุปัชฌาย์นุ่ม ธมฺมาราโม ท่านเกิดเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ.2426 อ่อนกว่าหลวงพ่อพัก 1 ปี โยมบิดาของท่านชื่อสอน โยมมารดาชื่อแจ่ม นามสกุลศรแก้วดารา หลวงพ่อนุ่มเกิดที่บ้านสามจุ่น ตำบลวังน้ำชัย อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี ตอนที่ท่านอายุได้ 10 ขวบได้ศึกษาภาษาไทยและภาษาขอมกับพระอธิการพ่วง ผู้เป็นพระพี่ชายที่วัดสามจุ่น ซึ่งอยู่ใกล้บ้านของท่าน และเมื่ออายุท่านครบ 20 ปี จึงได้อุปสมบทที่วัดปลายนา ตำบลปลายนา อำเภอศรีประจันต์ สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2446

โดยมีพระครูธรรมสารรักษา (อ้น) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดดี วัดปู่เจ้า เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการช้าง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และจำพรรษาอยู่ที่วัดสามจุ่น ศึกษาพระธรรมวินัยและพระปริยัติธรรม พรรษาที่ 8 ท่านได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดหลวง ตำบลศาลเจ้าโรงทอ เพื่อสะดวกในการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ไปช่วยก่อสร้างอุโบสถวัดสามจุ่น ประชาชนในท้องที่นั้นเคารพศรัทธาเลื่อมใสช่วยสละปัจจัยในการก่อสร้างพระอุโบสถวัดสามจุ่นจึงสำเร็จด้วยดี เมื่อสร้างพระอุโบสถเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านก็ได้กลับไปจำพรรษาอยู่ที่วัดสามจุ่นตามเดิม

พอถึงปี พ.ศ.2459 ท่านก็ย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดหลวงอีก 10 ปี ต่อมาจึงได้ย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดนางในธัมมิการาม ตำบลศาลเจ้าโรงทอ อำเภอวิเศษชัยชาญ ในปี พ.ศ.2469 ในสมัยนั้นวัดนางในชำรุดทรุดโทรมมาก ท่านจึงเริ่มบูรณปฏิสังขรณ์วัดนางใน จนเป็นวัดที่พร้อมด้วยเสนาสนะอันสวยงาม เจริญรุ่งเรืองมาจนทุกวันนี้ ถึงปี พ.ศ.2477 ท่านจึงได้รับตราตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ ผลงานต่างๆ ของหลวงพ่อมีมากมายหลายสิ่งหลายอย่าง ทั้งในวัดนางในและนอกวัด หลวงพ่อนุ่มปกครองวัดนางในเป็นเวลา 30 ปี จนกระทั่งเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ.2479 ท่านจึงมรณภาพ สิริอายุได้ 71 ปี พรรษาที่ 51 ขอขอบคุณ คุณแทน ท่าพระจันทร์ เจ้าของข้อมูลประวัติหลวงพ่อนุ่ม

เบี้ยแก้ คือ เครื่องรางชนิดหนึ่ง ซึ่งมีอุปเท่ห์การใช้มากมายหลายอย่าง ทั้งกันและแก้สิ่งชั่วร้ายเสนียดจัญไร คุณไสย คุณคน คุณผี ยาเบื่อ ยาเมา ทั้งหลาย ลมเพลมพัด คุณไสย คุณผี คุณคนทั้งปวง อุบาทว์เหตุ อุบาทว์ภัยทั้งปวง มัวเมายาพิษ ยาสั่งทั้งหลาย ไข้ป่า ไข้ป้าง ไข่ผีป่า ผีโป่ง ผีปอบ ต้องกระทำจากภูตผี ผีพราย ผีตายโหง กองกอย วิกลจริต จิตวิกลวิกาล วิญญาณอุปาทานวิกลเหมือนผีเข้าเจ้าสิงสู่ ปราศจากสิ้นแล

เบี้ยแก้ ก็ตรงกับชื่อคือ สารพัดแก้ สารพัดกัน โดยมีอุปเท่ห์การในการใช้แก้ และป้องกัน แก้คุณไสยมนต์ดำ ยาพิษ ยาสั่ง ยาเสน่ห์ กันเขี้ยวงา หรือแม้กระทั่งกันผี เช่น จิตหลอน แก้อำนาจภูตผีปีศาจ ป้องกันภูตผีปีศาจอาถรรพณ์เวท ลมเพลมพัด แก้ไขและป้องกันอุบาท เสนียดอัปปรีย์จัญไร ให้ห่างไกลจากตัวเรา ทั้งสิ้นทั้งปวงเป็นความเชื่อ ในพลังอำนาจของเบี้ยแก้ มาแต่ครั้งโบราณนานนับร้อยปีมาแล้วครับ

ประกันความแท้ ตามกฎเว็บพลังจิต
โทร 08 6454 0353
LINE ID : prathai9
ธ.กสิกรไทย 705 2027 515
ชื่อบัญชี : กิติศักดิ์ ขำเพ็ง

 

ขอบคุณมากครับ ผมจองให้แล้วครับ

 

พระปรกโพธิ์เชียงแสน ใบหอก กรุเก่าเชียงแสน

องค์พระกว้าง 2.5 ซ.ม สูง 5.6 ซ.ม อายุการสร้างกว่า 700 ปี

ชื่อขององค์พระ..อาจจะเรียกไม่เหมือนกัน บางท่านเรียกพระปรกโพธิ์เชียงแสนใบหอก แต่..บางท่านเรียกพระปรกโพธิ์เชียงแสนใบข้าว แต่องค์เดียวกันแหล่ะครับคือพระปรกโพธิ์เนื้อดิน ที่สร้างในยุคสมัยของอาณาจักรเชียงแสน เชียงราย อาณาจักรโยนกเชียงแสน (พุทธศตวรรษที่ 12 - 16) ต่อมาสายหนึ่งตั้งอาจักรสุโขทัย และอีกสายหนึงลงมาตั้งอาณาจักรอู่ทอง แล้วย้ายมาตั้งเมืองใหม่ ที่ตำบลหนองโสน หรือพระนครศรีอยุธยา ที่เรารู้จักกันดี นั่นเองครับ

ดังนั้นพระเครื่อง พระบูชายุคสมัยเชียงแสน จึงมีอายุเก่ากว่ายุคสุโขทัย อยู่หนึ่งยุคสมัย หรือมีอายุมากกว่า 700 ปีขึ้นไป ยุคปลายของอาณาจักรเชียงแสนจึงชนกับยุคต้นของอาณาจักรสุโขไทย อาณาจักรเชียงแสน อยู่ทางดินแดนตอนเหนือของอาณาจักรล้านนาไทย

ดูจากศิลป์พระเครื่องเนื้อดินเผา พระปรกโพธิ์เนื้อตะกั่วสนิมแดงองค์เล็กๆ พระบูชาองค์ใหญ่ยุคเชียงแสน พอคาดเดาใด้ว่า ชาวเชียงแสนรักความสงบสุข มีความดีงามอ่อนโยนทางจิตใจมากพอสมควร ศิลปของชาวเชียงแสน อย่างเช่นพระเครื่อง พระบูชาจึงดูมีความสวยงามคลาสิค ดูแล้วสบายตาสบายใจ

บูชาองค์ละ 1500 บาท

ประกันความแท้ ตามกฎเว็บพลังจิต
โทร 08 6454 0353
LINE ID : prathai9
ธ.กสิกรไทย 705 2027 515
ชื่อบัญชี : กิติศักดิ์ ขำเพ็ง

 

พระสังกัจจายน์ เชียงแสน เนื้อตะกั่วสนิมแดง

พระสังกัจจายน์ ศิลป์เชียงแสน หน้าตักกว้าง 1 นิ้ว 2 หุน สูง 2 นิ้ว ซึ่งถ้านำมาห้อยคอก็มีขนาดใหญ่เกินไปนิด ทั้งมีน้ำหนักค่อนข้างมาก จึงเหมาะที่จะตั้งเป็นพระบูชาบนโต๊ะหมู่บูชาขนาดเล็ก หรือตั้งไว้บนหิ้งพระหัวนอนเป็นอย่างยิ่ง

เป็นพระสังกัจจายน์ ศิลป์เชียงแสน เป็นเนื้อตะกั่วสนิมแดง เก่าจนเนื้อตะกั่วหมดยางแล้ว พระสังกัจจายน์พิมพ์นี้ แตกกรุทางภาคเหนือพบหลายที่ เช่น เชียงแสน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา อายุการสร้างน่าจะประมาณ 500 กว่าปีขึ้นไปเป็นอย่างน้อยครับ

เรื่องพระพุทธคุณนั้น มีความเชื่อมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาลว่า การบูชาพระในยุคสมัยเชียงแสน การบูชาพระสังกัจจายน์ พระอรหันต์ ผู้ที่ได้ชื่อว่า เป็นเลิศทางด้านโชคลาภ ลาภสักการะ ยิ่งกว่าพระพุทธเจ้า..จะทำให้ผู้ที่เคารพกราบไหว้ บูชาสักการะ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยโชคลาภ ชื่อเสียงเงินทอง ทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรือง

ประกันความแท้ ตามกฎเว็บพลังจิต
โทร 08 6454 0353
LINE ID : prathai9
ธ.กสิกรไทย 705 2027 515
ชื่อบัญชี : กิติศักดิ์ ขำเพ็ง

 

พระไม้มงคลแกะ ปิดทองล่องชาด ศิลป์เชียงแสน

หน้าตักกว้าง 2 นิ้ว สูง 7 นิ้วกว่าๆ

พระไม้แกะ ทางล้านนาของไทย ส่วนใหญ่จะแกะจากไม้ที่มีชื่อเป็นมงคล เช่น ไม้สัก=จะได้มียศถาบรรดาศักดิ์ ไม้ขนุน=จะได้คอยเกื้อหนุนชีวิตไม่ให้ตกต่ำ ไม้พยุง= คอยค้ำจุนพยุงฐานะทางครอบครัวทางการเงิน ไม้คูน= แก้วแหวนเงินทองทวีคูณ ไม้มะยม=มีคนนิยมชมชอบ พระไม้มงคลแกะสลักองค์นี้ เป็นศิลป์ช่างเชียงแสน น่าจะเป็นฝีมือช่างชาวบ้านที่มีแดนดินถิ่นฐานอยู่ทางย่านล้านนาไทย เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน อุตรดิตถ์ แกะเสร็จแล้ว ทำการปิดทองล่องชาด อายุการสร้าง 200 ~ 300 ปี โดยประมาณครับ