###พระกริ่ง vs หลวงพ่อทวด นารายณ์รุ่งเรือง .....เสกครบตำนาน###

ต้องอดใจรอจริงๆนะครับ

 

เบี้ยเเก้ vs เบี้ยโภคทรัพย์

เบี้ยจั่นเงินปลีกสมัยโบราณ​

วันนี้ไปเดินตลาดนัดจตุจักรเพื่อไปเดินเล่นเดินหลงไปหลงมาไปเจอร้านต้นไม้ร้านหนึ่งอยู่ๆพบก็นึกถึงเบี้ยเเก้ว่าหอยชนิดนี้น่าจะมีขายที่ตลาดนัดจตุจักร คิดอย่างนั้นเเล้วผมเลยถามเขาดูพบว่ามีหอยเบี้ยเเบบโบราณขายจึงซื้อเขามาหลังจากนั้นเดินไปเจออีกร้านเขาบอกว่าหอยอันเเรกที่เราซื้อไม่ใช่เบี้ยเเก้เเต่เขาเรียกว่าเบี้ยเเก้ว เเละเขาบอกว่าจะว่าไปเเล้วหอยเบี้ยทุกชนิดก็คือเงิน มีเงินอะไรบ้างที่ไม่ดี เบี้ยจึงเป็นของดีทั้งหมด เป็นมงคล ดังนั้นจึงซื้ออีกสองเบี้ยจากร้านที่สองคือ เบี้ยภควจั่น เเละเบี้ยเเก้

ดังนั้นจึงมีการซื้อครบทั้งสามเบี้ยเล่นเอาหิ้วกันเเขนเอียงไปเลยทีเดียว เเละเบี้ยยังมีดินค้างอยู่เหมือนกันต้องนำมาล้างน้ำหลายๆรอบเเละทำความสะอาดเเละรอทำพิธีต่อไป

วิธีทำเบี้ยเเก้ตามตำรับหลวงปู่บุญ วัดกลางบางเเก้วท่านใช้ปรอท เหมือนกับ หลวงปู่รอด วัดนายโรง เเต่เป็นปรอทเรียกจากธรรมชาติ ส่วนเบี้ยเเก้ของสำนักอื่นส่วนใหญ่บรรจุปรอททั้งนั้น จริงเเล้ววิชชาเบี้ยเเก้เเต่เดิมนั้นไม่น่าจะมีเป็นเเบบเเผนเสียเท่าไรเบี้ยเเก้มักใช้กับคนเดินป่าหรือชาวบ้านที่มักหาของป่า ส่วนภายหลัง ทางหลวงพ่อบุญท่านทรงวิทยาคมจากครูบาอาจารย์เเละตำราของทางอยุธยาที่ตกทอดมาภายในวัดกลางบางเเก้วท่านจึงเเตกฉานเป็นอันมาก

เเม้เเต่พระยันต์พุทธซ้อนที่เจ้าคุณศรีสนธิ์ใช้ก็มีที่มามาจาก หลวงปู่บุญสมัยที่ท่านเป็นสามเณร

ส่วนการทำเบี้ยเเก้ที่จะทำขึ้นนั้นไม่ได้บรรจุปรอท เพราะปรอทโดยธรรมชาติจะกินเงิน กินทอง ผมเองคิดว่าปรอทเป็นสารที่ให้คุณให้โทษมากเเละอันตรายปัจจุบันเเทบจะไม่มีการดักปรอทไข่เน่าจากน้ำเเล้ว เเม้เเต่สมัยหลวงพ่อเพิ่ม วัดกลางบางเเก้วก็ใช้ปรอทวิทยาศาสตร์เช่นกันดังนั้นการบรรจุปรอทหากรั่วขึ้นมาเป็นอันเบี้ยนั้นเสีย

เบี้ยนั้นคติเดิมใช้สำหรับกันไข้ป่าเเละคุณไสยสะส่วนใหญ่
ส่วนปัจจุบันโลกเปลี่ยนไปมากต้องเน้นด้านเมตตามหานิยมโภคทรัพย์เบี้ยเเก้เป็นเครื่องรางเพศเเม่ ซึ่งความรักของเเม่นั้นเป็นเมตตาชั้นสูงเเละเเรงมากอาศัยจากคตินี้จึงกลายมาเป็นเบี้ยโภคทรัพย์

การบรรจุเเละทำพิธีเบี้ยเเก้นั้นตำรับของผมจะต้องนำเบี้ยมาล้างน้ำเปล่าธรรมดาหลายๆรอบให้สะอาดก่อนหลังจากนั้นนำเบี้ยทั้งหมดมาเเช่น้ำพระพุทธมนต์ซึ่งเป็นน้ำที่เเช่ปฐวีธาตุของเจ้าคุณนรรัตนเเละเเร่กายสิทธิ์ของหลวงพ่อองค์เก่าเเก่ หลังจากนั้นนำเบี้ยเปล่ามาเสกเสียก่อน

หลังจากเสกเเล้วจะนำมาบรรจุอุดผงวิเศษต่างๆ

เเละต้องนำมาเสกอีกครั้ง

 

ผมเองศึกษาตำราการทำเบี้ยเเก้จากศิษย์หลวงพ่อเพิ่ม วัดกลางบางเเก้วสมัยเมื่ออาจารย์เจือมีชีวิตอาจารย์ท่านนี้จะให้ผมเองไปรับการครอบจากอาจารย์เจือเเต่ผมไม่เอาศึกษาจากอาจารย์ท่านนี้คนเดียวก็เพียงพอเเล้วเเละไม่ต้องการอยากจะไปทำเเข่งกับใครเเละถ้าตามตำราจริงๆจะต้องนำเบี้ย ปรอท ชันโรง มาเองเเละไม่สามารถออกให้ทำบุญหรือซื้อขายกันได้

เเต่ปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนไปเกือบหมดดังนั้นการทำเบี้ยเเก้เเบบเดิมจึงหายไปแล้วเเละปัจจุบันก็ไม่ได้นับครบ32ซี่เเบบเดิม

 

จะนำเบี้ยเเก้มาบรรจุผงดังนี้
1 ผงยอดพระเจดีย์ วัดดีหลวง
2 ผงยอดพระเจดีย์ วัดพะโค๊ะ
3 ผงพระยอดขุนพลเเตกหัก
4 ผงว่าน108 ของอาจารย์ทิม วัดช้างให้ปี2505
5 ผงเเร่ดีบุกวังลานสะกาของพระเจ้าศรีธรรมโศกราช
6 ผงนารายณ์รุ่งเรือง
7 ขนหมี เคล็ดมหาอำนาจ ของหลวงพ่อเดิม
8 ผงรัตนมาลาที่ขุดได้จากวัดสัมฤทธิ์ ลพบุรี
9 ผงพระพุทธคุณหลวงพ่อถม วัดเชิงท่า เเละผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม

 

พระยอดขุนพลไชยบุรีฟ้าลั่นตอนนี้มีคนทำบุญเหลือน้อยเเล้วนะครับ7องค์เท่านั้น

 

พระยอดขุนพลไชยบุรีฟ้าลั่นจวนหมดเเล้วนะครับ

 

สืบตำนาน...!เบี้ยแก้ หลวงปู่รอด วัดนายโรงหนึ่งในห้า เบญจภาคีเครื่องรางสุดยอด

สืบตำนาน...!เบี้ยแก้ หลวงปู่รอด วัดนายโรงหนึ่งในห้า เบญจภาคีเครื่องรางสุดยอด...เครื่องรางมหานิยม กันเสนียดจัญไร ...ดับอาถรรพณ์คุณไสย!!! “เซียน” ชี้ความเชื่อ...พกติดตัวสยบภัย...!!!

“เบี้ยแก้ เป็นเครื่องรางของขลังเป็นของเก่าแก่มาแต่ครั้งโบราณ จากนำหอยเบี้ยมาติดตัวเด็กเป็นเครื่องรางด้านโชคลาภ และคุ้มกันสรรพอันตรายต่างๆ เบี้ยแก้ ทำจากเบี้ยพลู และเบี้ยจั่น โดยเกจิอาจารย์นำปรอทธาตุศักดิ์สิทธิ์บรรจุในตัวหอยเบี้ย อุดชันโรงใต้ดินแล้วลงอักขระเลขยันต์แล้วปลุกเสกอีกครั้ง เบี้ยแก้มีการสร้างขึ้นมาสืบทอดต่อกันมา และสร้างกันหลายสายตามแต่ตำราของสำนักใครคือแต่ละสำนักนั้นจะมีวิธีบรรจุปรอทและวิธีอุดแตกต่างกันออกไป”

ก่อนที่จะเข้าเรื่องเครื่องรางของขลังที่จัดอันดับว่าเป็นหนึ่งในห้าของเบญจภาคีเครื่องราง เรามาทำความรู้จักกับเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในการสร้าง “เบี้ยแก้” ท่านมีนามว่า “หลวงปู่รอด” เจ้าอาวาสวัดนายโรง (วัดสัมมัชผล) เป็นพระภิกษุที่มีผู้เคารพนับถือ และมีลูกศิษย์มากมาย ท่านยังมีความชำนาญด้านวิปัสสนากัมฐาน เก่งในด้านพุทธานุคมและเวทย์วิทยาคมในการทำเบี้ยแก้และลูกอมชานหมาก เบี้ยแก้ เป็นเครื่องรางที่ หลวงปู่รอด ท่านสืบทอดมากจาก หลวงปู่แขก เจ้าอาวาสวัดบางบำหรุ ซึ่งเป็นพระอาจรย์ของท่าน

เบี้ยแก้ เป็นหอยชนิดหนึ่งมีลักษณะหลังนูนท้องแบน เปลือกแข็ง ผิวมัน ช่องปากยาวแคบ หอยชนิดนี้ในสมัยก่อนได้นำมาเป็นอัตราของเงินเพื่อใช้แลกเปลี่ยนซื้อขาย เบี้ยนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด มี เบี้ยจั่น เบี้ยแก้ว เบี้ยนาง ส่วนใหญ่ที่พระเกจิอาจารย์มักจะใช้ “เบี้ยจั่น” นำมาสร้างเป็นเครื่องรางที่เรียกกันว่า “เบี้ยแก้” โดยประกอบพิธีปลุกเสกด้วยพุทธานุคม และเวทวิทยาคม ตามกรรมวิธี เบี้ยแก้นั้นเป็นเครื่องรางที่มีความศักดิ์สิทธิ์ช่วยให้ผู้ถือครอบครองนำไปใช้ป้องกันตัว หรือแก้ไขอันตรายต่างๆจากคุณไสย และภูตผีปีศาจตามความเชื่อ

หลวงปู่รอด ท่านจะสร้าง เบี้ยแก้อย่างง่ายๆไม่มีพิธีกรรมอะไรมากมาย แต่แฝงด้วยความขลังและศักดิ์สิทธิ์ คือลูกศิษย์คนใดต้องการให้หลวงปู่ทำเบี้ยแก้ให้ หลวงปู่ท่านก็จะสั่งให้หาวัสดุมาให้และใส่พานครูพร้อมดอกไมเทียนธูป แล้วเขียนชื่อว่าของใครจากนั้นวันรุ่งขึ้นหลังจากฉันเพลให้มารับ สิ่งที่ต้องเตรียมมามี 4 อย่างคือ หอยเบี้ย ปรอท แผ่นตะกั่วนม ชันโรงใต้ดิน

หลวงปู่ท่านจะนำปรอทที่หุงและปลุกเสกแล้วนำมาบบรรจุใส่เข้าไปในตัวหอยเบี้ย จากนั้นก็อุดด้วยชันโรงที่ปากเบี้ยไม่ให้ปรอทรั่วหรือไหลออกมานำผ้าแดงที่ลงอักขระเลขยันต์และบริกรรมคาถาสัมทับลงอีกครั้ง หรือใช้แผ่นตะกั่วนมพอกตัวหอยเบี้ยแล้วลงอักขระเลขยันต์นำด้ายสายมงคล (สายสิญจน์) ถักหุ้มลงรักใช้ลวดทองแดงขดเป็นห่วงสำหรับคล้องคอหรือคาดเอวติดตัว

ปรอทที่ใส่ในตัวเบี้ยเรียกว่า “ปรอทเป็น” เนื่องจากเวลาเขย่าจะมีเสียง ขลุกๆ ดังชัดบ้างไม่ดังชัดบ้างเนื่องจากขึ้นอยู่กับปริมาณที่ของปรอทที่ขังอยู่ในเบี้ย และอุณหภูมิของฤดูกาลเนื่องจากการขยายตัวของปรอทที่ปรับสภาพนั่นเอง เบี้ยแก้ที่ท่านทำออกมานั้นทุกขั้นตอนท่านจะทำเองจะไม่ให้ผู้ใดยุ่ง

เบี้ยแก้ ของหลวงปู่รอด วัดนายโรง เป็นอิทธิวัตถุที่ใจให้เราสดุ้งกลัวต่อเพศภัยที่เรามองไม่เห็นตัว ผู้ใดมีติดตัวแล้วย่อมป้องกันภยันอันตรายได้ทั้งปวง เป็นเมตตามหานิยม แคล้วคลาดทุกประการ คุ้มกันเสนียดจัญไรคุฯไสย แคล้วคลาด มหาอุตม์ คงกระพันทุกประการ ยาสั่งและการกระทำย่ำยีทั้งหลายทั้งปวงได้ชงัด

 

พระผงยอดขุนพลไชยบุรีฟ้าลั่นนี้มีครูบาอาจารย์บอกว่าเทวดารักษาเยอะ

 

วันนี้จะนำตัวอย่างเหรียญไหว้ครูของชมรมคนรักหลวงปู่ทวด
ออกเเบบโดย คนวังหน้า

เหรียญที่จะเเจกเเก่ศิษย์หลวงพ่อทวดทุกท่านในวันไหว้ครูปีหน้า


ด้านหน้าเป็นหลวงพ่อทวด เพียวๆไม่ได้เขียนอักษรอะไร



ด้านหลังเป็นพระยันต์ครูองค์พระของหลวงพ่อศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท หนึ่งในตำราพุทธคุณ อิ ที่สืบทอดกันมา
เเละพระยันต์อื่นๆรอบๆยันต์ครูหลายสำนัก

 

เหรียญหลวงพ่อทวด หลังยันต์ครูองค์พระของหลวงพ่อศุข นี้เป็นเหรียญรุ่นเเรกของผมที่ออกเเบบให้มีพระยันต์ครูไว้เพื่อให้คนที่บูชาเป็นศิริเเละมงคล
เพื่อไม่ให้พระยันต์นี้สูญไปโดยไม่มีใครรู้จักเป็นการอนุรักษ์ยันต์นี้สืบต่อไปเเละเหรียญนี้ไม่มีการจำหน่ายเเต่เเจกให้ผู้เข้าร่วมพิธีไหว้ครูของชมรมคนรักหลวงปู่ทวดปีหน้า

 

เรื่องไม่ลับกับ.........ยันต์ครูองค์พระ

ยันต์ครูองค์พระลายมือพระเดชพระคุณหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า ชัยนาท เเท้ๆ<!-- google_ad_section_end -->


จากความประทับใจเมื่อได้เห็นยันต์องค์พระซึ่งมีความสวยงามเเละความหมายในตัวทำให้ผมได้เเสวงหาที่มาของยันต์องค์พระ ที่เเท้เเล้วยันต์องค์พระไม่ได้เป็นยันต์ที่เขียนขึ้นมาเดี่ยวๆเเต่ที่จริงกลับเป็นพระยันต์เพียงพระยันต์ในการลบผงของหลวงพ่อศุขวัดมะขามเฒ่า ครูโบราณที่สอนต่อๆกันมาบอกว่าตำราการลบผงพระพุทธคุณ คือการลบพระยันต์องค์พระนั่นเอง ของหลวงพ่อโตเเละ หลวงพ่อศุขจะเหมือนกัน นี่คือคำกล่าวของหลวงพ่อมหาโพธิ์ นั่นเอง
ยันต์องค์พระที่เผยเเพร่กันอยู่ที่เห็นๆมีด้วยกันสี่องค์ที่เรียกว่าพระเจ้าเข้านิโรธ บ้าง ยันต์ครูองค์พระบ้าง ทีนี้ ยันต์องค์พระจริงๆของหลวงพ่อศุขในตำราการลบผงของท่านกลับมีมากกว่าสี่องค์ ทั้งของพระใบฏีกาบุญยัง เเละ พระสมุห์กลับ ก็ไม่เหมือนกันอีก เเละยังไม่นับ ยันต์องค์พระที่มีในการลบผงนะโมพุทธายะใหญ่อีก

ในตำราของหลวงพ่อศุขมีคัมภีร์ อิ ติ ปิ โส ซึ่งเป็นวิชชารัตนมาลา เป็นหลัก มีข้อปลีกย่อยมากมาย ที่หลวงพ่อศุข ท่านใช้มากสุดคือ คัมภีร์อิ ในตำรา ให้ตั้งต้นการลบผงด้วย อิ สี่ตัว ลบไปเป็น นะมะพะทะ ลบเป็น อิ สวา สุ ลบเป็นอิกะวิติ ลบเป็นนะ...ลบไปเรื่อย... ยันต์ข่ายเพชร ยันต์ดาวดาดฟ้า ยันต์มหาโปรยมหาปราย สุดท้ายเป็นยันต์องค์พระโดย องค์สุดท้าย เป็นองค์พระนิพพาน

อักขระที่ยันต์องค์พระจะมีซ้ำๆคล้ายๆกันอันได้เเก่ จะภะกะสะ นะมะพะทะ นะโมพุทธายุ พระเจ้าสิบหกพระองค์ มงกุฏพระพุทธเจ้า
อิติปิโส พระอรหัง วนไปเวียนมาอยู่อย่างนี้

สุดท้ายนิพพานังปรมังสุขขัง...... <!-- google_ad_section_end --><!-- / message --><!-- edit note -->

 

เเต่ละอย่างที่สร้างเป็นที่ระลึกงานไหว้ครูมีความสวยงามเเบบโบราณทำเพื่อเเจกเสียส่วนใหญ่เพราะเป็นการบูชาครู ซึ่งมีทั้งครูพระ ครูฆราวาส ครูพักลักจำ ครูเทวดา อีก

 

พระยอดขุนพล ไชยบุรี ฟ้าลั่น พระชุดนี้เก่าเก็บจริงๆอีกหน่อยหายากมากๆ

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 11 คน ( เป็นสมาชิก 8 คน และ บุคคลทั่วไป 3 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>คนวังหน้า, atha, jpw, noppornl, tana0844, tit21, วต, อสูรเทวะ </TD></TR></TBODY></TABLE>


อนุโมทนานะครับสาธุๆๆ

เหรียญไหว้ครูจะปั้มเสร็จทันพิธีเสกเดี่ยวโดยพ่อท่านหวาน วัดสะบ้าย้อย
ที่บ้านคนวังหน้า วันพ่อนี้ครับเเต่เเจกปีหน้า เเจกฟรีวันเดียวเท่านั้น ไม่มีให้บูชา

 

งานไหว้ครูครั้งเเรกของชมรมคนรักหลวงปู่ทวด
ไหว้ที่บ้านคุณสุพจน์ รอดพล

งานไหว้ครูครั้งที่สองไหว้ที่ วัดเทพศิรินทราวาส

งานไหว้ครูครั้งที่สามไหว้ที่วัดบวรสถานสุทธาวาสที่วังหน้า

งานไหว้ครูครั้งที่สี่ยังไม่กำหนดสถานที่เเต่ที่เเน่ๆพระที่จะสร้างคือเหรียญหลวงพ่อทวดหลังยันต์ครูองค์พระ เสกที่บ้านคนวังหน้า


ปล.ทุกครั้งมีพ่อท่านหวาน วัดสะบ้าย้อยเป็นประธาน

 

พระกริ่งนารายณ์รุ่งเรืองรับช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้พร้อมหลวงพ่อทวดนะครับห้ามลืมนะครับ

 

ปีนี่วันพ่อน่าจะเป็นปีพิเศษนะครับ

 

-ตามเข้ามาชม มหาโมทนากับกุศลจิต ขอให้สำเร็จตามที่ปรารถนาครับ

สาธุ

 

ภาพหลวงพ่อทวดหน้าเหรียญสวยมากครับ เสนอให้คุณหมอทำล็อกเก็ตอุดผงแล้วปิดด้วยแผ่นยันต์ครูองค์พระ

 

ไม่เเน่ใจว่าจะทำหรือเปล่าเเต่เหรียญทำเเน่ๆ