พบปะ พูดคุย ประสาเพื่อนพ้องน้องพี่ แบบกันเอง

วันนี้ยอมแพ้แล้วครับ หมดรูปแล้วครับ

 

ผมขอจัดหลวงปู่หมุนบ้างนะครับพี่ภณ.... ^__^

 

กำลังชมเพลินเลย หมดรูปแล้วหรือครับ

ผมไม่มีของหลวงปู่หมุนเลยครับ รอชมต่อนะครับ

 

โอ้ววววววววว.....ผมขอรีบเก็บที่โพสไปตะกี้ลงด่วนเลยอ่ะครับ....เห็นองค์นี้แล้วอายเลย แหะๆ ^__^

 

หลวงปู่หมุนศักดิ์สิทธิ์มากครับ ผมก็นับถือท่านมากครับพี่คนรักพระ

 

เซ็ตนี้ของพี่ภณนาวิน ถึงจะมาทีหลัง แต่สำหรับผมแล้ว นำโด่งมาเป็นที่1 ในใจของผมเลยครับ เกินบรรยาย

 

สุดยอดแล้วครับคุณนอร์ พระผงดวงเศรษฐี ประสบการณ์มากมายครับ ของหลวงปู่หมุน ท่านทำไว้ดีทุกด้านทุกอย่างครับ

 

ขอตัวทุกท่านนะครับ ราตรีสวัสดิ์

 

งั้นเอาเหรียญหลังหนุมานอีกเหรียญครับ ตอนนี้หมดแล้วครับพี่ อย่างอื่นฝากในเซฟแม่ ขอเอามาถ่ายรูป โดนด่าแน่ครับ แหะๆ

 

คั่นเวลานะคะ มาเล่าต่อ....จากคราวที่แล้ว...
มีองค์หรือมีเทพ ?

คนทรงเจ้ากันอยู่ทั่วๆ ไปนั้นมีอยู่ 3 ประเภท คือ
1. เทพ เทวดา คนธรรพ์ วิทยาธร และวิญญาณที่บุญยังไม่ถึงพอ มาเข้าทรง

เทวดาและวิญญาณเหล่านี้ บางกลุ่มที่เป็นอมนุษย์ จะมีศัพท์เรียกกันว่า "วิทยาธร"
โดยวิทยาธรนี้ จะมีวิชาอาคมเหาะเหินเดินอากาศมีความสามารถในการรักษาโรค ปรุงว่านยา บีบนวดตามแผนโบราณ ทำนายดวงชะตาสามารถจำแลงตัวมาเข้าสิงมนุษย์ เป็นการมาเพื่อโปรดมนุษย์ เพื่อสั่งสมบุญของวิทยาธรเองให้มีมากพอ แล้วก้าวต่อไปยังภาคหน้า ร่างทรงประเภทนี้ส่วนใหญ่เป็นคนดี มีความเอื้ออาทรต้องการให้คนอื่นพ้นทุกข์
ร่างทรงที่แท้จริงจะไม่สามารถเรียกเทพ เทวดาและวิทยาธรมาได้เอง แต่วิทยาธรจะเป็นผู้เลือกเองว่าจะประทับทรงที่ใคร คนผู้นั้นมีจิตใจดีงามและมีเมตตาหรือไม่ มีการสั่งสมบุญบารมีมากพอหรือเปล่า ร่างทรงประเภทนี้จะไม่เรียกร้องเอาทรัพย์สินใดๆ ไม่เรียกร้องให้ผู้คนมาเชื่อ ไม่มีการอวดอิทธิฤทธิ์บารมี จะมีการรวมกลุ่มกันเพื่อทำบุญ ไหว้ครู หรือรักษาโรคตามตำราโบราณ มีการช่วยเหลือผู้ที่ถูกไสยศาสตร์ โดยเน้นเป็นที่การช่วยเหลือเพื่อสาธารณประโยชน์

ร่างทรงแบบนี้มีอยู่จำนวนน้อยมากๆ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุที่มีจิตใจเมตตา อาศัยอยู่ตามชนบทและร่างทรงประเภทนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องกับมหาเทพ มหาเทวี ในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูเลยแม้แต่น้อย...

 

รวยโชคเป็นเศรษฐี สุดยอดครับ เสี่ยนอในอนาคต อิอิ

 

หลวงปู่หมุนเนื้อว่านงดงามค่ะ
ดูแบบเป็นเหรียญสักองค์นะคะ ได้รับจากเพื่อนสมาชิกค่ะ เป็นเหรียญหลวงปู่หมุนเหรียญแรกค่ะ....
(จากคุณ pei มอบให้...)

 

มีรูปเก่าๆพอดีครับ แหวนปลอกมีดนิ้วเพชรพระอิศวร หลวงปู่หมุนครับ

 

อันนี้สุดยอดครับพี่นวล

 

2. ประเภทโดนผีสางเข้าสิง
พวกที่โดนผีสางเข้าสิงแล้วแอบอ้างว่าเป็นการทรงของมหาเทพมหาเทวี หรือเป็นเทพเจ้าระดับสูง แบบนี้จะพบเห็นได้ตามตำหนักทั่วประเทศ ร่างทรงเหล่านี้เกิดจากการเล่นของ ทำไสยศาสตร์ บางครั้งตัวคนที่เป็นร่างทรงเอง ก็จะถูกแอบอ้างจากพวกผีสาง มาร หรือวิญญาณที่มาทรง มาโกหกว่า ข้าคือพระศิวะข้าคือพระพรหม ข้านี้คือพระแม่ ข้าคือเทพและเจ้าจะต้องเป็นร่างทรงของข้าเพื่อโปรดมนุษย์ โดยมทั้งแอบอ้างเป็นเทพฮินดู เทพจีน และเทพของไทย

จากนั้นก็จะแสดงบารมีระดับต่ำ ทำการเล่นของ ทำไสยศาสตร์ ทำเสน่ห์ ทำเสนียด ฯลฯ ซึ่งคนที่เป็นร่างทรงของผีสาง ก็จะเข้าใจผิดว่าตนเองนั้นเป็นร่างทรงของมหาเทพ หรือเทพเจ้าชั้นผู้ใหญ่ คิดว่าตนนั้นมีบุญบารมีมาก เกิดความหยิ่งยโส
ยกตนขึ้นข่มผู้อื่น

แต่แท้ที่จริงก็คือตนเองนั้น จิตใจอ่อนแอเกินไป ไม่มีความเข้มแข็งผีสางเลยเข้าสิง เมื่อร่างทรงโดนผีมาหลอก ร่างทรงก็ไปหลอกลวงผู้อื่นต่อเป็นทอดๆ กิเลสเข้าครอบงำก็ไม่รู้จักหยุด บรรดาลูกศิษย์ที่หัวอ่อนหรือจิตใจอ่อน ก็จะกรูกันเข้าตำหนัก ทำให้ชักชวนกันทำบาปเข้าไปอีก โดยการแกล้งแสดงอิทธิปาฎิหาริย์ระดับต่ำๆ ซึ่งเป็นเครื่องบ่งบอกอยู่แล้วว่านี่มิใช่การกระทำของเทพ หรือเทวดาเลยแม้แต่น้อย

 

ขอบคุณค่ะ...น้องภณ มีเหรียญเดียวค่ะที่เข้ากรอบเงิน
(ค่ากรอบหลายบาทค่ะ)

 

พี่ของข้าพเจ้าให้ มาพร้อมเลี่ยมกรอบทอง ๓ บาท แต่ร้อนเงินเลยแกะทองไปขายเรียบร้อยแล้ว
เหลือแต่พระ ไม่ทราบว่าเป็นวัดไหน ช่วยดูให้ข้าพเจ้าที ดูไม่เป็น
หน้า หลัง ข้าง

 

พี่ของข้าพเจ้าให้ มาพร้อมเลี่ยมกรอบทอง ๓ บาท แต่ร้อนเงินเลยแกะทองไปขายเรียบร้อยแล้ว
เหลือแต่พระ ไม่ทราบว่าเป็นวัดไหน ช่วยดูให้ข้าพเจ้าที ดูไม่เป็น
หน้า หลัง ข้าง

 

3. ประเภทไม่มีอะไรทรง ไม่มีอะไรสิง แค่ทำตัวสั่นเฉยๆ
การทรงร่างแบบนี้จะพบเห้นได้ประมาณ 90% ตามตำหนักทั่วประเทศ ต่ำหนักทรงเหล่านี้มีการจัดสถานที่ให้ดูขลัง น่ากลัว ดูน่าเลื่อมใส จุดธูปให้มีกลิ่นตลบอวล มีองค์พระพุทธรูป เทวรูป มหาเทพ มหาเทวี เจ้าพ่อ เจ้าแม่ ฯลฯ อะไรต่อมิอะไรอยู่มากมาย
มีการจัดหิ้งพระโดยเอาพระพุทธรูปและเทวรูปจากหลายๆ ศาสนา หลายๆ คติมาตั้งรวมๆ กัน โดยไม่ให้เกียรติปนกันไปหมด เช่น พระพุทธเจ้า พระแม่กวนอิม พระศิวะ พระแม่กาลี เสด็จพ่อ ร.๕ แล้วก็เอามาตั้งรวมๆ กันในหิ้งเดียว แสดงให้เห็นถึงการขาดความรู้ในการจัดหิ้งพระที่ถูกต้อง
นอกจากนั้นยังมีการถวายหัวหมู เป็ดไก่ สุรา ของคาวต่างแก่เทพเจ้า ซึ่งหากเป็นผู้ที่มีความรู้ในการจัดเครื่องถวายจริงๆ ก็จะต้องรู้ว่า พระพุทธเจ้า มหาเทพ มหาเที และฤาษีนั้น ห้ามใช้เครื่องถวายที่เป็นเนื้อสัตว์โดยเด็ดขาด

เวลามีการเชิญเทพมาประทับก็จะทำแบบรวดเร็วทันใจ นึกจะเรียกให้ท่านมาเมื่อไหร่ก็เรียก ทำตัวสั่นๆ ทำหน้าบูดเบี้ยว โวยวายเสียงดัง พูดจาหยาบคายกูๆ มึง ๆ นึกจะให้ออกเมื่อไหร่ก็ออก เมื่อออกจากร่างไปแล้ว นึกจะเรียกกลับมาวันไหนก็เรียกมาอีกได้ง่ายๆ

ร่างทรงเหล่านี้เป็นผู้ที่แอบอ้าง พระนามของมหาเทพ เจ้าพ่อ เจ้าแม่ ฯลฯ แล้วทำการรีดไถ ล่อลวงเงินทองของผู้ศรัทธา บ้างก็ว่าสามารถรักษาโรคได้ บ้างก็ว่าจะช่วยให้พ้นกรรม บ้างก็ว่าโดนของและให้เอาของออก บ้างก็ว่าลูกศิษย์คนนั้นมีองค์พ่อ คนนี้มีองค์แม่และจะต้องรับขันธ์หรือของเซ่นไหว้ ล้วนแล้วแต่ยกมาอ้างเพื่อให้เสียเงิน บ้างก็ดูดวงให้ส่งเดช ถ้าดูแม่นทายถูกต้องก็จะเกิดศรัทธาเพิ่มขึ้นไปอีก ผู้ศรัทธาก็ไปชักชวนญาติสนิทมิตรสหายมาร่วมเป็นลูกศิษย์ งมงายกันไปเรื่อยๆ เกิดเป็นขบวนการ
ซึ่งร่างทรงประเภทนี้ขอให้หลีกห่างให้มากที่สุด

 

แล้วเหตุใดสิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงไม่ลงโทษคนเหล่านี้ ...

การที่ใครสักคนจะได้ชื่อว่าเป็นเทวดา องค์เทพ ตามแต่จะเรียกกันนั้น คุณสมบัติขั้นพื้นฐานที่จะต้องมีอยู่อย่างสมบูรณ์ คือ มีธรรมะที่เรียกว่า "พรหมวิหาร 4"
ประกอบด้วย เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา คุณสมบัติทั้ง 4 ประการนี้ ไม่มีข้อใหนบอกให้เราใช้อำนาจบารมีส่วนตัวของเราไปลงโทษ หรือทำให้ใครได้รับทุกขเวทนาหรือสั่งสนอผู้หนึ่งผู้ใดตามอำเภอใจ แม้คนๆ นั้นจะทำในสิ่งที่เลวร้ายหรือทำให้เราไม่พอใจอย่างใดก็ตาม สิ่งที่เราควรจะพึงกระทำต่อผูนั้นในฐานะที่เรามีธรรมรักษาและเป็นใหญ่กว่าคนผู้นั้น ก็คือ อุเบกขา หรือรู้จักวางเฉยเสีย

หากว่าใครก็ตามที่ใช้อารมณ์ส่วนตัว อันประกอบด้วย โลภ โกรธ หลง เป็นใหญ่ ใครทำอะไรให้ไม่พอใจหรือขัดกับเจนจำนง ทัศนคติหรือจริยธรรมส่วนตัวของตัวเขาเองแล้ว ก็ใช้เผลออำนาจที่เหนือกว่าลงโทษผู้อื่น หรือทำร้ายรังแกให้ได้รับความวิบัติ มีอันเป็นไปต่างๆ นั่นคือ นิสัย "อสูร" หรือ มาร เป็นพฤติกรรมของพวกปีศาล อสูรและยักษ์

ซึ่งหมายถึงว่า แม้ว่าคนผู้นั้นจะมีอิทธิฤทธิ์สูงส่งสักเพียงใด ก้ไม่อาจเป็นเทพได้จะเป็นได้ แต่สิ่งที่เทววิทยาเรียกว่า เทพอสูร หรือ เทพปีศาล คือ อสูรและปีศาลที่มีฤทธิ์เสมอขั้นเทพ

ดังนั้น เหตุใดสิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงไม่ลงโทษคนเหล่านี้ ก็เพราะเทพนั้นย่อมเป็นเทพ เทพและเทวดาทั้งหลาย ย่อมปฏิบัติต่อคนเหล่านี้ด้วยธรรมพรหมวิหาร 4 อันเป็นคุณสมบัติของท่านเอง การเป็นเทพเจ้านั้น มีแต่จะพอใจในการช่วยเหลือผู้คนให้อยู่ดีมีสุข ไม่มีความพอใจการที่จะทำร้ายรังแกผู้หนึ่งผู้ใด