ฝึกลมปราณ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Saber, 31 มีนาคม 2013.

  1. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    อธิบายเป็นภาษาพูดมันค่อนข้างยากครับ
    เอาไว้ถ้ามีโอกาสได้เจอตัวกันเป็นๆ
    จะย้ายเส้นเอ็นให้ดูซักที่หนึ่งส่วนไหน
    ของร่างกายก็ได้ให้ดูซักเส้นนะครับ
    ผมว่าง่ายกว่าการมาคอยจะต้องอธิบาย
    อะไรให้ฟังครับ
    และจะไล่ลำดับทั้งพลังงานภายนอก
    ปรานและกสิณที่ใช้งาน. สำหรับการย้าย
    เส้นเอนให้ดูว่ามันเป็นอย่างไรนะครับ
    แล้วค่อยถึงมาสรุป ว่าปรานแบบของคุณ
    แบบของผมมันอย่างไรนะครับ ดีไหม
    ตอนนี้ก็ถือว่าฟังๆไปก่อนแล้วกันครับ
    อย่าพึ่งด่วนสรุปเข้าใจที่พูดเนาะ

    ปล.ไม่ต้องกลัวอันตรายคับ
    ผมทำได้โดยไม่ต้องถูกเนื้อต้องตัวครับ
     
  2. ปราบปลิง

    ปราบปลิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +180
    มีประโยชน์มากครับ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าตำ่กว่าจุดศูนย์ คืออะไร
     
  3. hitman

    hitman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +439
    อยากทราบ ว่าวิธฝึกของผมถูกต้องไหมครับ

    เวลาหายใจเข้าออก รู้สึกมีกระแสพลังงานหนึ่งขึ้นมาถึงคอเหมือนถูกแทง

    เวลาหายใจเข้าก็พยายามกดแรงกำลังนั้นลงไปที่ท้องน้อย

    เมื่อหายใจออก กำหนดจิตให้พลังงานนั้น ไหลขึ้นไปตามกระดูกสันหลัง

    (เห็นกระแสพลังนั้นสีขาว) ขึ้นที่ท้ายทอย และขึ้รไปถึงศีรษะบริเวณ กระหม่อม

    เมื่อหายใจเข้า กำหนดพลังงานนั้นจากกระหม่อม ไหลผ่านหน้าผาก

    ใบหน้า คอหอย หน้าอก ลงไปถึงท้องน้อย

    ทำไปเรื่อยๆ ถ้าคล่องแล้ว ช่วงระยะเวลาอึดใจหนึ่ง หรือ แค่หายใจเข้า

    และออกรอบหนึ่ง กระแสพลังนี้ จะเคลื่อนที่ได้หลายๆรอบ

    ผมอ่านมา แล้วทำตามนี้ครับ ผม ก็ไม่รุ้ว่าถูกต้องรึเปล่า

    วานผู้รู้ตอบให้หน่อยครับ
     
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ขออนุญาตเล่าให้ฟังอย่างนี้นะครับ..
    ที่คุณ hitman พูดกิริยาถือว่าถูกต้องครับ
    ส่วนตัวเรียกว่า ปราณภายในครับ..
    ต้องถามก่อนว่า ตั้งเจตนาไว้ว่าจะพัฒนาไประดับไหนครับ
    หรือเอาแค่ที่ถามครับ.แต่ถ้าจะพัฒนาต่อจากนี้...
    ก็คือการไล่เปิดจักระทีละจุด ทีละจุดให้ได้ก่อนและต่อมา
    ให้มันเปิดพร้อมกันทีเดียว เพื่อเอาพลังงานภายนอก
    เข้ามารวมกับปราณภายในแบบที่เล่าให้ฟังมา..
    แต่ประเด็นสำคัญก็คือ ต้องเปิดจักระตรงกระโหลกศรีษะ
    ของเราให้สามารถเชื่อมกับกระแสพระพุทธฯ หรือครูบาร์
    อาจารย์ข้างบนให้ได้ก่อนครับ..ไม่งั้นถ้าไปไล่เปิดจากล่างขึ้นบน
    เลย จะมีผลเสียมากกว่าผลดี เพราะว่าตัวจิตจะไม่เครื่องช่วย
    ในการแยกแยกกระแสพลังงานภายนอกที่ไม่ดี..
    ซึ่งถ้าฝึกไปแล้วจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี
    เพราะเห็นมาหลายรายแล้ว ที่ไม่เชื่อมข้างบนก่อน คือจิตไม่ได้ยึดใน
    พระรัตนตรัยได้จริงๆแล้วอยากไปฝึกอะไรทำนองนี้ มีโอกาสเพี้ยนได้
    สูงมากและหลงตัวเองได้อย่างไม่รู้ตัว บางท่านก็สัญญาวิปลาส
    คล้ายๆคนจิตใจไม่ปกติเหมือนตามโรงพญาบาลครับ..
    แต่ถ้าเอาไว้รักษาตนเองเฉยๆ หรือใช้ประโยชน์อะไรไม่มาก
    ก็ฟังๆไว้พอฮาๆขำๆก็พอครับ..หรือถ้าจะไปแบบใช้ประโยชน์
    ได้มากกว่าทั่วไป จำเป็นต้องมีกสิณยืนพื้นเช่นกันครับ
    และก็ค่อยมาจัดระบบพลังงาน ทั้งปราณ ทั้งพลังงานภายนอก
    และพลังงานภายในและพลังงานจากกสิณต่างๆให้เป็นระบบเดียวกัน
    แล้วค่อยนำไปใช้งาน
    ปล.ประมาณนี้หละครับ..
     
  5. hitman

    hitman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +439
    ขอบคุณมากครับ

    ผมต้องการพัฒนา ความสามารถขึ้นไปอีกครับถ้าหาก ได้ระดับ ทิพยจักษุญาณ หรือ ระดับพลังจิต ได้ก็ดีครับ

    เพราะผมก็มีฝึกพลังจิตอยู่บ้าง ในส่วนของกสิณ ไม่ได้เก่งอะไร ฝึกตามหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ครับ



    หมายเหตุ

    เรื่องลมปราณนี้ ผมได้ นำความรู้มาจากหนังสือ เรื่อง การฝึกพลังภายในจีน ( จำชื่อไม่ได้ หลายปีแล้ว )

    หนังสือพบได้ที่ห้องสมุด เขียนวิธีฝึกนิดเดียว ผมจำมาแล้วนำมาปฏิบัติครับ ปฏิบัติได้เท่าที่เล่ามาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2015
  6. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010

    ครับส่วนตัวมองว่าปราณมีให้อ่านในตำราเยอะครับ..
    และบางทีเราแค่อ่านครั้งเดียวก็ทำได้แล้วครับ..ไม่ยากเท่าไร
    แต่ถ้าตั้งเป้าว่าจะให้ได้ทิพยจักขุนั้น..
    ก็จะบอกไว้ก่อนว่า หลักการที่จะแนะนำ มันจะเป็นทิพยจักขุแบบลืมตานะครับ
    ไม่ใช่ว่าต้องหลับตาตั้งท่าอะไรนะครับ.
    และถ้าสนใจให้เปิดจักระจากศรีษะให้ได้ก่อนนะครับ
    เพื่อเป็นอุบายให้กระแสจิตเราเชื่อมกับกระแสพลังงานของ
    ท่านเอาไว้ครับ(ท่านในนี้คงรู้นะครับว่าคือท่านใด).. อย่างน้อยก็ถือว่ามีท่าน
    คอยคุมให้ และก็จะเป็นอุบายให้จิตเราเข้าถึงพระรัตนตรัยอีกด้วย
    และตามด้วยให้เปิดแต่ละจุดจนกระทั้งมันเหมือนมีพลังงานลมหมุนวนขวา
    ให้ได้ก่อน และที่สำคัญก็คือ หมุนขยายออกไปภายนอก
    หลังจากนั้นก็ค่อยๆไล่ลงมาทีละจุดให้ครบ ไม่ต้องรีบร้อน
    ค่อยๆเปิดให้ได้ทีละจุดจนลมมันหมุนได้เร็ว.
    และจนเราจะบังคับเมื่อไรก็เหมือนมีกระแสลมหมุน
    ขยายออกไปจากตัวเราไปภายนอกให้ได้ ณ เวลานั้น
    และการเปิดจากข้างบนก่อน
    นอกจากจะประกันว่าเราจะไม่ถูกพลังงานภายนอกไม่ดีครอบงำแล้ว
    จักระจุดต่างๆที่เปิดก็จะไม่ปิด เหมือนการเริ่มต้นเปิดจากจักระตรง
    ช่วงอวัยะเพศครับแถมเผลอๆ ถ้าไปเปิดตรงอวัยะเพศก่อน
    นั้นมันจะทำให้เรากลายเป็นพวกหื่นกาม
    หรือหมกหมุ่นแต่เรื่องรักๆไคร่ๆได้ด้วยครับ..
    และต่อมาค่อยมาฝึกให้มันหมุนวนทางด้านซ้าย มันอาจจะไม่ราบรื่น
    และไม่กลมๆง่ายๆเหมือนตอนหมุนทางด้านขวาถือว่าเป็นเรื่องปกติ
    เพราะว่า เราต้องใช้กำลังจิตบวกกับกำลังสมาธิเพื่อให้มันหมุน
    การฝึกให้มันหมุนซ้าย ก็จะเป็นการฝึกสมาธิและฝึกการใช้จิต
    ของเราไปในตัวด้วยครับ.. ซึ่งก็ไม่ต้องรีบร้อนนะครับ.อาจเป็นหลักเดือน..
    พอทำตรงนี้ได้แล้ว..ต่อไปก่อนที่เราจะทำอะไรเราก็เชื่อมกับท่านก่อน
    หลังจากนั้นค่อยไล่เปิดจักระแต่ละจุดให้หมด..
    และขั้นต่อไป เราค่อยมาฝึกรวมให้มันเป็นหนึ่งเดียวกันครับ..
    ซึ่งในขั้นตอนการรวมทั้งภายในและภายนอกให้เป็นหนึ่ง
    ก่อนที่จะใช้งานได้นั้น มันมีอีก ๒ ถึง ๓ ขั้นตอนครับ..
    ถ้าทำอย่างที่เล่าให้ฟังได้แล้ว คือ ขวาคล่อง ซ้ายคล่อง เปิดทีละจุด
    ได้เร็วและเปิดได้หมดทีเดียวแล้ว..
    ลองมาถามต่อได้ครับ จะเล่าในขั้นตอนการรวมพลังงานเพื่อ
    การนำไปใช้งานให้ฟังต่อไปในอนาคตครับ..
    ส่วนเรื่องสายตา มันจะเริ่มมาตอนที่เราไล่เปิดจักระนั่นหละครับ
    ขึ้นอยู่กับว่า ตาเราจะเห็นเส้นสาย หรือ เห็นสี หรือเห็นทั้งเส้นสาย
    และสีพร้อมกันครับ..
    ปล.ประมาณนี้ครับ.
     
  7. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    จะเป็นหลวงจีนกันเหรอฝึกลมปราน
     
  8. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    ผมรู้สึกว่าคุณเคยบอกว่าเป็นปุถุชนใช่มั้ยครับ. ผมพอเข้าใจนะ. ความอดทนคุณมันน้อยเหรอเกินกับเรื่องอดทนที่จะอ่านอะไรไม่ค่อยได้. ที่จำได้คุณยังไม่ได้ขออภัยแบบใจจริงกับผมนะตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่ขากถุยใส่ผมซึ่งผมเองก็ไม่ยากติดใจอะไรคุณหรอกเพราะเข้าใจ. ความเป็นปุถุชน. กิเลสยังเยอะอยู่. ผมเห็นคุณด่าคนได้ยาวเป็นหน้าๆ. ใครจะกล้าฝึกในสิ่งที่คุณบอกกลัวจะเป็นแบบคุณ. คุณลองไปหาข้อมูลผมซิที่ด่าคน. มีมั้ย. แล้วนี่ก็เห็นพวกหลวงจีนเขาทำกันนี่. ก็ทำกันไปซิ. ก็แค่ถามก็แค่ตอบมาเท่านั้น. คำถามไปกระทบต่อมอะไรเหรอปิ๊ดแตก. คนอื่นเขาดูเฉยๆกันนะ. แต่ท่านอาจารย์ปี๊ดแตก. ลูกศิษย์ไม่ย้ายสำนักกันหมดเหรอ. เห็นสอนเขาไปทั่ว. ได้สมาธิขั้นสูง. ความอดกั้นอดทนไม่ค่อยมีเลยนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2015
  9. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    ก็เห็นเข้าไปสอนเขาตลอดนะ. เอาอย่างนี้นะคุณกับผมไม่รู้จักกันคุณมาว่าผมก่อนจริงมั้ยครับ. ผมถามว่าคุณมาว่าผมทำไม. ตอบมาซิคุณมีสิทธิ์อะไรมาด่าผม ที่ผมจะคุยกับใครในเรื่องการเป็นอริยะบุคคลที่จะต้องวางอะไรได้บ้าง. ผมมีชีวิตเกิดขึ้นมาผมมีสิทธิ์ที่จะเลือกศึกษาธรรมะจากตำราที่เก่าแก่ที่สุด. ผมมีสิทธิ์ที่จะไม่เคารพใคร มีสิทธิ์ที่จะไม่เชื่อใครจริงหรือไม.

    แต่ผมเป็นคนที่ศึกษาพระธรรมผมจึงไม่มีจิตใจที่ไม่ไปด่าใครๆไปว่าใครๆถึงแม้ผมจะไม่ชอบเพราะท่านเหล่านั้นผมก็ไม่เคยรู้ไม่เคยสัมผัส. คุณอาจจะเคารพนั้นมันก็เป็นเรื่องของคุณ. แต่การสนทนาที่ผมสนทนากับคนอื่นผมสนทนาตามบทพยัญชนะของตำราที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่ประเทศเราจะมีมา. พระองค์ก็แสดงเป็นพระสูตรชัดเจน เอาล่ะคุณก็เชื่อของคุณผมก็เชื่อของผม. ผมยึดตำราต่างคนก็ต่างมีที่ตนเองยึด. ทีนี้เรื่องมันมีอยู่ว่าผมไม่ได้สนทนากับคุณ.

    คุณมาขากถุยใส่ผมนี่มาด่าผมก่อน ผมผิดอะไรที่สนทนากับเขาเพียงแต่มันไม่ตรงใจคุณคุณก็แสดงความกักขะของคุณออกมาแบบนี้เขาเรียกว่าคนดีเขาทำกันเหรอ. มีอะไรก็สนทนาด้วยเหตุและผลซิ. และสิ่งที่คุณบอกมาวิชาอะไรของคุณ. บอกตรงไม่กล้าน้อมใจไปฝึก. เพราะไม่กล้าเสี่ยงชีวิตเกิดมาเป็นมนุษย์แสนยาก. และสิ่งที่คุณทำอยู่มันไม่มีในตำราซะด้วยเลยไม่กล้า.

    ความเป็นคนผมก็เป็นเหมือนคุณ มันก็ต้องมีความอยากบางครั้งบอกตรงๆนะเคยอ่านเจอเรื่องฤทธิ์อะไรแบบนี้ก็มีแว๊บๆนะที่อยากจะมี. แต่ด้วยยิ่งศึกษาในตำราพระองค์ก็กล่าวว่ารังเกียจขยะแขยง. และมาเห็นพฤติกรรมของคุณด้วยแล้วยิ่งไม่เอาเลยกลัวจิตใจจะตกตำ่ไปด่าคนอีก เพราะผมของเก่ายิ่งไม่ค่อยดี. ตอนนี้เริ่มดีขึ้นมาบ้างรู้จักทำทาน. รักษาศิล. ภาวนา. ส่วนที่บอกว่าทำอะไรได้บ้าง. ผมก็ทำทาน. รักษาศิล. ได้. ส่วนการภาวนาก็ทำทุกวันก็เห็นแต่ความไม่ใช่ตัวตนของเรามันก็แค่นั้น. มากกว่านี้คุณทำได้มั้นล่ะ. ทำให้เป็นตัวตนได้มั้ย. ป่วยก็ไปหาหมอ. ลมหัวเข่าแตกก็ใส่ย่า. หรือคุณลมหัวเข่าไม่แตก. ไม่ป่วย. ไม่ตาย. บอกตรงๆนะเวลาผมสทนาแล้วทำให้คุณดูไม่ดีผมกลับมานึกทีไรผมรู้สึกสงสารคุณจริงๆอันนี้จากใจผมไม่ยากทำคนอื่นให้ดูไม่ดีหรอก.

    แต่ทำอย่างไรได้คุณเริ่มกับผมก่อนแล้วใส่ผมแรงมากด้วย. ผมสวนกลับก็เพื่อให้คุณได้รู้สึกตัว. ว่าสิ่งที่คุณมีคุณเป็นอยู่นั้นมันไม่ได้สำคัญอะไรกับผม. ผมชีวิตนี้ไม่ใช่ไม่เคยทำอะไรแบบนั้นทำหมด รดน้ำมนต์. หมอที่เล่นของ. แควนของขลังทำทุกอย่างเต็มคอวุ่นวายไปหมด อะไรกันนักหนาชีวิต ใครเป็นคนสอนมาตั้งแต่ตนสิ่งเหล่านี้คืออะไร ทุกอย่างก็พระทั่งนั้นที่กระทำ. ที่นี้มาดูตามตำราเอ๊ะทำไมมี พระพุทธเจ้าตรัสห้ามไว้ทำไมทำสิ่งที่พระองค์ห้าม ทีนี้ปฎิบัติธรรมไปๆพระองค์สอนให้มีตนมีธรรมเป็นที่พึ่ง. เราก็เริ่มเข้าใจ. ตัดทิ้งให้หมดเลย.

    อุ้ย! ชีวิตสบายใจที่สุดพึ่งตนเองไม่ต้องไปพึ่งสิ่งที่นอกกายพึ่งได้หรือเปล่าก็หาคำตอบไม่ได้. แต่พึ่งตนเองพึ่งได้แน่ๆลองทำดูซิ. หิวก็หยิบน้ำมากิน. อยากได้เงินก็ออกไปทำงาน. ร้อนก็เปิดพัดลม. หัวเขาแตกก็หายามาทา. ป่วยก็ไปหาหมอ. มีตนมีธรรมเป็นที่พึ่งจริง. ตอนนี้ทิ้งหมดเรื่องภายนอกได้ฝึกใจตนเองผ่านความกลัวที่ไรเหตุผลสบายใจสุดๆเหมือนกับเราหลุดพ้นจากทุกสิ่งทุกอย่างไม่ยึดติดธรรมะพระองค์นี้สุดยอด. แทบไม่มีอะไรมาเป็นทุกข์. เพราะเข้าใจเหตุผลเรื่องของกรรมนี่ก็ได้จากตำราทั้งนั้น. อะไรอะไรก็ไม่ควรยึดติดเพราะ. มันไม่ตัวตนเราเขา. นั่งภาวนาก็ได้แค่นี้ สูงสุดที่ทำได้โลกทั้งโลกก็ดับไปเหลือแต่ความว่างคงไม่มีอะไรเหนือกว่าความว่างแล้วล่ะนะ. พระองค์บอกไว้แค่นี้. อนิจจัง. ทุกขัง. อนัตตาปัญญาที่พระองค์ตรัสรู้ก็แค่นี้.

    และไม่ต้องมาท้าอะไรผมนะ. ผมทำไม่ได้แบบคุณหรอกเพราะไม่ได้เรียนมา. ผมเรียนแต่ที่พระองค์บอกคือทาน. ศิล. ภาวนา. ผมได้ได้แค่นี้ล่ะครับ. พอเข้าใจนะ. ส่วนเรื่องบริจาคเงินผมจะเล่าให้ฟัง. อยู่ๆแฟนผมก็มาบอกผมว่าอยากทำบุญ50000 ผมสงสัยทำไม่ถึงอยากทำเยอะจังทั้งๆที่เงินก็ไม่มีมีอยู่แค่นั้นไหนหน้าที่จะส่งลูกเรียนอีก. แฟนผมบอกว่าเดียวเราก็มีเงินเดือนงั้นก็ไม่ว่ากัน. เพราะเราได้เรียนจากตำราว่า การห้ามคนให้ทานนั้นไม่ใช่มิตร. (พุทธวจน)

    สรุปก็ตกลงทำทานพอสรุปเรื่องพอรู้เรื่องกัน. ก็ไปหาวัดที่คิดว่าน่าจะเกิดประโยชน์สูงสุด. เราต่างคนต่างดีใจมากที่ได้กระทำทานในครั้งนั้นถึงแม้เราจะไม่เหลือเงินเก็บเลย. ไม่เคยมีครั้งไหนที่ทำทานแล้วรู้สึกถึงการสละจริงๆโลกสดใส่สว่างไสวจริงบอกไม่ถูก. และเวลาผ่านมาไม่นานผมเดินไปเจอคนเขากำลังสร้างบ้านเล็กๆดูแล้วคิดถึงอยากถวายวัด. ก็กลับไปบอกแฟนว่าเรามีตังเก็บมั้ย. แฟนบอกว่ามีอยู่เป็นสลากออมสินห้าหมื่น. ผมก็บอกว่าอยากถวายกุฎิ. เราสองคนก็ไปถอนเงินมาแล้วไปซื้อบ้านไปถวายวัด.

    ก็ทำได้เท่านี้นะก็เล่าให้ฟังว่าคิดได้ถึงความรู้สึกที่มีคนถวายผ้าชิ้นสุดท้านนั้นสุดยอดเลย. เรายังไม่ถึงขนาดนั้นแค่ถวายเท่าที่เรามีตอนนั้นพึงรู้ถึงการให้ทานโดยไม่หวังอะไร. ใจมันสว่างไสวแบบไม่เคยเกิดมาก่อนนี่แหล่ะครับที่ผมได้จากการศึกษาจากตำราเรื่องการให้ทาน

    ที่นี้มาดูคำกล่าวคุณว่าคุณสามารถรู้มีวิธีรู้ว่าใครเป็นอริยะ. อันนี้ลองดูตามตำราพระองค์กล่าวว่าพระองค์กับผู้เสมอพระองค์เท่านั้นที่รู้. คุณบอกว่าตนเองเป็นปุถุชนแท้ๆ. คุณจะรู้ได้อย่างไร. เรื่องแบบนี้ผู้อ่านลองพิจารณาดูนะครับ

    และที่ผมกล่าวว่าเป็นสกิทาคามีนั้นมีที่มาไปเพราะการที่ผมประจักษ์สภาวะโลกทั้งโลกดับไปอายตนะทั้งหมดดับไปถึงสองครั้งแต่ละครั้งห่างกันหลายปี. ผมจึงกล่าวเพื่อมีเรื่องให้สนทนาว่าใครมีความเห็นอย่างไรเฉพาะในเวบเท่านั้นเพราะตรงนี้ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรทั้งนั้นเพราะไม่มีใครรู้จักใคร. ในชีวิตจริงไม่เคยพูดกับใครว่าเป็นอะไร. ก็แค่นั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2015
  10. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    แถอีกแระตามสไตล์สาวกลัทธิตัดต่อสร้างภาพ ตรูดีที่สุด ครูบาร์อาจารย์ท่านอื่นๆไม่ดี
    อย่างนั้นอย่างนี้ ๕๕๕๕๕ ต้องแบบตรูนี่หละ ฟังจากพระพุทธเจ้าโดยตรง๕๕๕
    พูดบอกแล้วบอกอีก ว่า เกิดทันไหม ๕๕๕ มีความสามารถเข้าถึง
    เหมือนครูบาร์อาจารย์ท่านอื่นๆที่ไปด่าเค้าไหม อุบาทว์เอ้ย
    และก็พูดสร้างภาพให้ตนดูดี ๕๕๕๕ พูดมากเหมือนกันนะไอ้บิ๊กตู่
    คุณมันก็แถทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นไปตาม
    ที่ตนคิดนั้นหละ พูดสร้างภาพ แก้ตัวอยู่หละ หัดอายเด็กๆมาก
    เกือบๆทุกประเด็นมี สมาชิกพูดกับคุณไปหมดแล้ว ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม
    ก็ยังเจือกแถๆ โง่ๆไปเรื่อย ถามจริงๆ รู้ตัวเองบางไหม
    เรื่อง ความสามารถนะ ไอ้กระบือ จะบอกอะไรให้ มันเรื่องญานวิสัย
    มันไม่สามารถที่คิด วิเคาระห์เอาได้ ยกเว้นว่าจะปฏิบัติได้เข้าถึง
    และคนที่เค้าทำได้จริงๆ ไม่ค่อยพูดมากหรอก ทำเป็นอ้าง พระพุทธเจ้า
    ขยะแขยงเรื่องฤิทธิ์ ถามหน่อย บรรพบรุษคุณเกิดทันท่านไหม
    เจ้าลัทธิคุณ ทำได้ไหม และที่สำคัญคุณทำได้ไหม ไม่ต้องทำเป็นพูดหรอก
    ปัญญาอ่อนฉิบหาย อาจารย์ ท่านที่ ๒ ของผู้เป็นเลิศ
    ท่านสำเร็จระดับจิตธาตุ ท่านแรก
    สำเร็จระดับวิญญานธาตุ แต่เห็นว่ายังไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ เอาแค่คนที่สำเร็จ
    ระดับ วิญญานธาตุ ถ้าเค้าเลวๆ จะเอาเส้นเลือดในสมองโง่ๆคุณ ให้แตกยังได้
    เลย ไม่ต้องถึงระดับจิตธาตุ ที่เค้าจะสามารถหักกระดูกควายๆ
    อย่างคุณได้ด้วยจิตหรอกครับหัดสำเหนียกสะบ้างนะครับ
    ว่าทำไมเค้าไม่ทำคุณ.....

    เพราะฉนั้น คนที่เค้ามาทางนี้จริงๆ สภาวะจิตจะต้องดีจริงๆและดีพอตัว
    แต่ไม่มีใครหรอกนะที่จะบอกว่าตัวเองเป็นระดับโน้นนี่
    เหมือนลัทธิตัดต่อ ๕๕๕๕๕๕๕ อ่านแล้วขำแถบฟังล่วง
    ไม่ต้องทำเป็นพูดว่ารู้ได้อย่างไร
    รู้จากการปฏิบัตินะ ไอ้กระบือ ไม่ได้อ่านตำราตัดแปะมาอ่าน
    จากเจ้าลัทธิไร้ความสามารถทางจิต
    และลูกศิษย์กินหญ้าอย่างคุณหรอก อยากจะสมเพศ พูดอะไร ไม่คิด
    จะดิสเครดิสคนอื่นๆ ก็หัดดูตาม้าตาเรือบ้างนะ ทำเป็น
    แก้ตัวไปเรื่อย ก็บอกแล้วว่าคุณ ความสามารทางจิตคุณมันไม่มี
    ความเข้าใจทางนามธรรมก็ไม่มี เพราะฉนั้นอย่าเสร่อ ทำเป็นพูด
    อยู่เงียบๆอยู่แบบกระบือๆ หลงตัวเองไปซะแบบเดิม
    นะดีแล้วจะได้ไม่โดนด่าไปมากกว่านี้

    ผมไม่เคยตั้งกระทู้เลยในห้องนี้เลยนะครับ ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
    ผมเข้าไปตอบเพราะมีเจ้าของกระทู้ตั้งกระทู้ และตอบเพราะมีคนถาม
    ไม่ใช่ เสนอหน้าไปแสดงความโง่อย่างคุณหรอก หรือไปพูดเหมือนตนเองบรรลุ
    ให้คนเค้าด่าเล่น แปลกนะ คุณถือว่าหน้าด้านมาก ถ้ามีคนด่าผมอย่างคุณ
    ส่วนตัวผมคงย้ายไปอยู่ดาวอังคารแล้วหละครับ ๕๕๕๕๕
    กระทู้นี้ เป็นสาธารณะนะครับ ถ้าไม่อยากให้มีใครด่าก็ไปตั้งเวบของตัวเองซิครับ
    ใครจะเข้าไปเขียนอะไรก็สิทธิของบุคคล
    ให้อยู่ภายใต้กฏกิติกา ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วนะครับ ไม่น่าฉลาดพูดออก
    มาแนวๆนี้เลยนะ ๕๕๕๕
    ถามหน่อยนะ ว่ามีประเด็นไหนที่ผมด่าคุณไปแล้วมันไม่ใช่ครับ ๕๕๕๕๕๕๕๕
    อ้างแต่พระพุทธฯ(ทำยังกลับเกิดทันและมีความสามารถเข้าถึง)
    อ้างแต่ตำราตัดแปะ(ที่ต่างประเทศขำกันกลิ้ง เค้าด่ากันทั้งประเทศ) ถึงได้เพี้ยนจนทุกวันนี้ยังไม่รู้ตัวอีก
    บอกแล้วไปหลายรอบ หลายคนมาก ก็ยังไม่เข้าใจ นี่หละเค้าเรียกว่าเพี้ยน
    คนจะดีหรือไม่ดี เค้าดูที่จิตนะ..ถ้าไม่มีความสามารถตรงนี้ กรุณาเงียบๆ
    ไปเหอะ คนเค้าจะไม่ด่าว่า ไม่ฉลาด และอย่ามาเดาเรื่องญานวิถีในแบบที่
    ตนเองไม่มีความสามารถทำได้ เพราะความเข้าใจทางด้านนามธรรมคุณ
    ไม่มี ความสามารถทางจิตไม่มี จะบอกให้ พูดอะไรทำนองนี้ก็ผิดหมดนั่นหละ
    ถึงได้ไปเผลอปรามาสพระราชพรหมยานอยู่ในใจลึกๆ เพียงแค่เรื่องทำน้ำมนต์
    ที่ลูกศิษย์ถาม แต่เจ้าลัทธิคุณ ตอบไม่ได้ และแถๆเหมือนคุณ
    เรียกว่า ได้วิชาสืบเนื่องกันมาโดยตรง สำเร็จ วิชาแถสญาน ๕๕๕๕๕๕๕
    ทำไมหรือตั้งไปหลายกะทู้ยอดไลท์น้อยหรือถึงมาสนใจประเด็นที่ผมไปแนะ
    นำคนอื่นๆครับ แค่นี้ยังไม่รู้ตัวอีกเนาะคุณ.
    คิดว่าคนอ่านเค้ากินหญ้าเหมือนคุณหรือครับ ๕๕๕
    ปล. ไม่ต้องพยายามดิสเครดิสกันหรอกนะครับ
    และ ณ ปัจจุบันนี้ผมยังสงสัยว่า
    มีประเด็นไหนที่ผมว่าคุณแล้วไม่จริงบ้างครับ ๕๕๕๕
    อยู่ดีๆไม่ชอบไปใชว์โง่ในกระทู้อริยะแบบโง่ๆนะดีแล้ว
    เข้ามาเจือกอะไรไม่รู้ในกระทู้ที่ต้องใช้ความสามารถจากการปฏิบัติ
    เพื่อแนะนำที่ไม่มีตัวเองให้โดนด่าเล่นๆอายขายขี้หน้าเล่นทำไม
    ..เชื่อเค้าเลย. ๕๕๕
     
  11. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    ถามจริงๆเถอะคุณเคยเห็นผมว่าใครมั้ยใครอยากจะทำอะไรก็ทำกันไปซิ. ผมสนทนาตามตำราที่มีคนที่สนทนาเขาก็จะได้รับข้อมูลที่จริงในตำราส่วนใครเขาจะเชื่อหรือไม่เชื่อหรือไม่เชื่อจะนำไปปฎิบัติหรือไม่ใครจะห้ามใครได้ในเรื่องแบบนี้
    แล้วมันเรื่องอะไรของคุณที่มาด่ามาว่าผม

    คนที่สนทนากับผมก็ชอบยกตัวอย่างเอาท่านนั้นท่านนี้มาบอกว่าท่านนั้นท่านนี้เขาทำอย่างนี้นะพยามจะให้ผมเชื่อในสิ่งที่ท่านนั้นท่านนี้ทำ. ผมไม่เชื่อจะให้ทำอย่างไร. ใครเป็นคนทำให้ครูอาจารย์ที่ท่านเคารพเสียหายกันแน่. เพียงผมไม่เชื่อก็กล่าวหาต่อว่าผมปรามาสท่านอีกนี้ผมนี้ดูเลวเลยเนาะ. แถมด่าผมต่ออีกมากมาย. ตกลงคุณเชื่อของคุณก็เชื่อไปผมไม่เชื่อในเรื่องนั้นจะทำให้ผมหลุดพ้นได้. ผมศึกษาธรรมะไม่ได้ปราถนาในสิ่งนั้นผมจะต้องสนใจทำไม

    เรื่องของเรื่องมันก็มีอยู่แค่นี้. อะไรของคุณผมไม่ได้จะคุยกับคุณ. ผมตั้งกระทู้คุณก็อดทนไม่ได้เข้ามาว่าผม. เนี่ยนะสิ่งที่คุณเรียนรู้มา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2015
  12. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    เอาเถอะคุณนพการ. สงสัยเรามันต่างกันจริงๆอย่างที่คุณบอกมานะครับ. บุญใดที่ข้าพเจ้าได้มีโอกาสทำมาทั้งอดีตชาติและทั้งปัจจุบัน. ข้าพเจ้าขอแบ่งปันบุญนั้นให้คุณเพื่อหนุนนำให้คุณได้พบกับแสวงสว่างอันแท้จริงด้วยนะครับ ขอให้พบกับความหลุดพ้น. ขอให้พบธรรมะที่แท้จริงเถิดขอให้คุณจงหลุดพ้นเถิด จงหลุดพ้นเถิด.
     
  13. Prasit5000

    Prasit5000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +228
    - สุดท้ายก็ทะเลาะกัน
    - การต่อว่ากันมีสองอย่าง คือ 1. ต่อว่าเกี่ยวกับเนื้อหาที่โพส 2. ต่อว่าเกี่ยวกับตัวบุคคลที่โพส

    - ถ้าเป็นการต่อว่าหรือวิจารณ์เนื้อหาที่โพส ผมสนับสนุนเต็มที่ ตอบโต้กันในเนื้อหาที่โพส ว่าทำไมหลักการนี้ถูก หรือหลักการนี้ผิด คนอ่านก็จะตัดสินในใจเองว่าเหตุผลใครดีกว่ากัน

    - แต่ถ้า ต่อว่า เกี่ยวกับตัวบุคคลที่โพส เข่นคุณมีคนไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ เหมือนการเล่นตระก้อข้ามเน็ต กรรมการเขาห้ามชี้หน้าเย้ยคู่ต่อสู้ให้เน้นการเล่นลูกอย่างเดียวเพราะผิดกติการมารยาท การต่อว่าเน้นที่คนโพสมันทำให้คนนอกศาสนา เห็นพวกเรา กระจอก ผมขอหยุด พฤติกรรมนี้ด้วย มันผิดกติกามารยาทเหมือนกัน

    - คนที่ถูกว่า แล้วตอบโต้ ก็เป็นสิทธิ์ของท่าน แต่คนต่อว่าคนอื่นก่อนต้องแก้ไขครับ เราก็เป็นพุทธ ด้วยกัน

    - ที่โพสเช่นนี้ไม่ได้สอน หรือต่อว่าใคร เพราะผมก็โดนแบบที่ ที่โดนนั้นแหละครับ ไม่สนุกเลยไม่ร่าเริงในธรรมเลย
     
  14. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    .
    เขียน ๒๑.๕๕

    ท่านนพ จะเอา "ไม้สั้นไปรันขี้" ทำไมครับ
    เลอะเทอะไปหมดแล้ว เหม็นด้วย ขอบอก ๕๕๕

    ด่ามันแค่สองสามบรรทัด พอให้หายอยาก ก็พอแล้วล่ะมั้ง นะ หึหึหึ

    "มือหนึ่งในแต่ละสายงาน" อย่างท่าน ไม่น่ามาเจ๊าะแจ๊ะกะมันแยะๆ
    เสียเวลา เสียอารมณ์ เสียเซลล์สมอง เสียบุคลิก เสียกิริยา เสียภาพพจน์ บลาๆๆๆ

    ว่ากันเฉพาะเรื่องหลักวิชาดีกว่ามั้ง
    เรื่องลมปราณนี่ เราก็มีเคล็ดวิชาเยอะแยะ
    แต่พักนี้ไม่ค่อยมีอารมณ์จะปล่อยของเลยอ่ะ รอก่อนละกันนะ เนอะ


    กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง

    .
     
  15. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    ขอให้ท่านพบธรรมะที่แท้จริง
     
  16. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ๕๕๕. พอเข้าใจ
     
  17. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    และที่ผมกล่าวว่าเป็นสกิทาคามีนั้นมีที่มาไปเพราะการที่ผมประจักษ์สภาวะโลก ทั้งโลกดับไปอายตนะทั้งหมดดับไปถึงสองครั้งแต่ละครั้งห่างกันหลายปี. ผมจึงกล่าวเพื่อมีเรื่องให้สนทนาว่าใครมีความเห็นอย่างไร


    มีความเห็นว่า คิดเองเออเอง หลงตัวเองว่าตัวเองบรรลุอริยเจ้า มีคนอื่นบอกเตือนไปแล้ว ก็ยังหลงแบบนี้ ทั้งๆที่แค่ สมาธิพื้นๆ ยังไม่รู้แบบนี้ อย่างอื่นไม่ต้องไปพูดถึง

    ว่างๆฟังคำเทศน์สอนครูบาอาจารย์ที่รู้จริงบ้างนะครับ



    พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

    ถาม-ตอบ ปัญหาธรรม วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
    ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

    คำ ว่าดับนะ ดับอายตนะ ดับตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจไม่ดับ แม้แต่เรานั่งอยู่นี่ เรานั่งอยู่ของเรา จิตนี่มันไม่รับรู้ว่าเราเลย มันไม่รับรู้เรื่องร่างกายนี้เลย มันอยู่ของมันสักแต่ว่ารู้ เขาไม่ใช่ว่าความรู้ ถ้ารู้ความรู้สึกนี้มันออกรับรู้โดยธรรมชาติของมัน สักแต่ว่ารู้คือว่ามันรู้ในตัวมันเอง แต่มันไม่รับรู้เรื่องร่างกายนี้ แม้แต่ร่างกายนี้มันยังไม่รับรู้เลย
    ฉะนั้น ในภาคปฏิบัติเขาถึงบอกว่า ถ้าบอกว่าเราละกายได้ ละกายได้ สมาธิก็ละได้ สมาธิละได้ตรงนี้ไง ละได้ตรงจิตที่มันปล่อยหมด ปล่อยจากตัวมันเอง ปล่อยร่างกายนี้หมดเลย แล้วจิตมันมีอยู่ใช่ไหมมันปล่อยทุกอย่างหมด คือปล่อยอาการรับรู้ทั้งหมดมันเป็นตัวของมัน ฉะนั้น พอตัวของมัน มันก็ปล่อยกายมาเป็นตัวของมัน นี่อัปปนาสมาธิ
    ...
    อัปปนาสมาธิเกิดปัญญาไม่ได้ อัปปนาสมาธิวิปัสสนาไม่ได้ ไม่ได้หรอก ในเมื่อมันไม่รับรู้อะไร มันไม่รับรู้ออกมามันเป็นสักแต่ว่ามันจะใช้ปัญญาอย่างไร? ถ้ามันใช้ปัญญาไม่ได้
    .



    .
     
  18. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448

    เนี่ยไม่น่ารักชอบเอาครูอาจารย์ที่ตนเองนับถือมาอ้าง. คำกล่าวของแต่ล่ะท่านมีค่าเท่ากันนะครับ. แต่ท่านใดจะถูกผิด. คุณจะทราบได้อย่างไรผมก็ปฎิบัติ. ทุกคนปฎิบัติ. แล้วถ้าไม่ตรงกันแล้วใครถูกล่ะขอถาม. ตัวคุณเองก็ไม่รู้
     
  19. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ปฏิบัติแล้วถ้ายังไม่รู้ว่าผิด หรือที่ตัวเองปฏิบัติถูกต้องตามกรรมฐาน40 เที่ยวค้านคำเทศน์สอนพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ก็ปล่อยไปตามกรรม ^^

    เพราะคงไม่มีปัญญาที่จะเข้าใจธรรมใดๆได้อย่างนี้ก็คงเป็นเพราะกฏแห่งกรรม ที่ตัวเองสร้างไว้เอง
    .
     
  20. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    เนี่ยก็ไม่น่ารักอีกแบบ. ผมยกตัวอย่างให้ดูถ้าการปฎิบัติมันไม่ตรงกันแล้วคุณว่าใครถูกใครผิดคุณก็ตอบไม่ได้. แล้วก็บอกว่าพระปฎิบัติดีปฎิบัติชอบไม่เชื่อก็ปล่อยไปตามกรรม. มาเที่ยวนี้ดีหน่อยไม่ว่าปรามาส. ถ้าผมมีอาจารย์ของผมแล้วผมยกตัวอย่างมาแล้วไม่ตรงกับท่านที่ยกตัวอย่างมาแล้วทำกันอย่างไร. มันต้องมีใครถูกใช่ป่าวหรือไมก็ผิดทั้งคู่แล้วทำไงตอบได้มั้ย. อย่าบอกว่าปล่อยไปตามกรรมนะครับ. เพียงเรากลับมาที่ตำรากลับมาที่คำของพระพุทธเจ้ากลับมาตรวจสอบ. ในธรรมในวินัยนามหลักมหาปเทสไงล่ะครับมันถึงจะถูกหลักการนี่คุณเล่นตีขุมไปแนวนั้นเมื่อไหร่คนจะพบความจริง
     

แชร์หน้านี้

Loading...