ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

..................
..หวัดดี..สวนพลู..เดินตามพระ..กำธรน้องรัก..หลานเฉียวฟง..พลศิริน้องรัก
..หลานลิน..และ..น้องรุ่ง
...............................
..ต่อจากตอนที่แล้ว...
............................
...........................................................
........ที่ว่า..เหมือนกัน..ในทุกเนื้อนะครับ...เพราะตอนช่วงที่กดพิมพ์..
..เอาพระไปตากให้แห้ง...ความยืดหยุ่น..ของเนื้อจะเหมือนกัน...เว้นแต่เพียงหลังจากเผาแล้ว..
...ที่ต่างกัน..เพราะใครๆก็ทราบว่า..พระตระกูลลำพูนยุคพระนางจามเทวี(กรุเก่า..นั่นเอง)..มีเนื้อ
..ที่แยกหลักๆได้....๒ เนื้อ..คือ..เนื้อดินเผาธรรมดา..สีเหลือง..สีแดง..สีหม่น.....
....กับ..เนื้อหิน....ที่ออก..สีในโทนเขียว..อาจจะเข้ม..หรือ..จะจางก็แล้วแต่.......
.......บางคนเคยได้ยิน..แต่ไม่เคยสัมผัส..บางคนได้สัมผัส..ก็มีทั้ง..ปลอม..และ..ของจริง...
...เพราะของเก๊..เขาก็ปลอม..เป็นเนื้อหิน..ก็มีแต่มีน้อย...คนปลอมพระ..เขาก็รู้ว่า..การทำเนื้อหิน
..ทำยังไง.....ตอนนี้..ก็ไม่ค่อยเกี่ยวกับเรื่องเท่าไหร่..แต่เอาไว้ประดับ..ความรู้จะได้ไม่โง่....
...และ..เวลาไปเจอรุ่นใหญ่เขาคุยกันเรื่องนี้..เราจะได้เข้าใจ..แถมอาจมีสอดแทรก..ความเห็น..
..หรือ..แม้กระทั่งโต้แย้งได้...เพราะส่วนใหญ่..ประเภทจำรุ่นก่อนๆมาพูดอย่างเดียว..แต่ไม่รู้ว่า..
...จริงๆมันเป็นยังไง...ทำไมถึงเป็น..เนื้อหิน.....
.......ผมเคยบอกแล้วว่า..การแสดงภูมิเล็กๆน้อยๆ...ขึ้นมา..แล้วเกิดความน่าสนใจ..คนอื่นที่..ได้ฟัง
..หรือ..ถูกโต้แย้ง..ถามต่อแล้วเรา..สามารถอธิบายได้...นั่นเป็นเป็นการยกระดับ..ชั้นในสังคม..
ขึ้นโดยอัตโนมัติ..จาก..เหมือนเด็ก..ที่คอยฟังผู้ใหญ่พูดอย่างเดียว..ผู้ใหญ่..หรือ..คนอื่นๆในวง..
..ไม่เคยสนใจ..หรือ..อาจไม่รู้จักด้วยซ้ำ...มันจะเปลี่ยนไป..
.........ปัจจัย..ของเนื้อหิน..ทีทำให้มันแข็งขนาดนั้นได้...ก็คือ..ธาตุ SILICA..ที่ผสมอยู่ในเนื้อ...
...ที่ผสมปะปน..อยู่ในเนื้อดินที่เราเอามาทำ...เมื่อถูกความร้อนสูง..และ..เวลาเผาที่นานพอ...
....มันจะทำให้..มันเปลี่ยนสภาพ..กลายเป็น..ลักษณะแก้ว...ปริมาณที่มากพอที่ผสมอยู่..จะทำให้
...เนื้อดินนั้น..ทั้งหมดแข็งแกร่ง...จนเป็นที่มาของ..เนื้อหิน.....
..............SILICA...ในธรรมชาติส่วนใหญ่..จะอยู่ในรูปของ SILICON DIOXIDE...(การจับตัวกับ
อ็อกซิเจนนั้นอยู่ในรูปอื่นก็มี)..หรือ..มันไปจับตัวกับธาตุอื่นรวมกับอ็อกซิเจนด้วย...ทั้ง..โปแตสเซียม
..แคลเซียม..ฯลฯ..ในรูปแบบของ..SILICATEอาจอยู่ใน...อยู่ทั้ง..ในดิน..หิน..และ..พืช...มากน้อยต่างกัน
.....คนโบราณเป็นพันปีทราบมานานแล้ว..ว่าวิธี..ทำให้ภาชนะดินเผาแกร่ง..นั้น..นอกจากไฟที่แรงพอ
..จะต้อง..ผสม..บางอย่างเข้าไปด้วย..เพียงแต่ไม่ทราบว่า..ตัวKeyมันคือ..อะไร.....
.......หิน..ที่มี..ซิลิก้ามาก...ก็เช่น..หินฟันม้า.....ผสมลงไป..ก็..ทำให้กลายเป็น STONEWARE
..หรือ..ภาชนะเนื้อหิน..ได้..
......ดินที่มี..ซิลิก้ามาก..ก็คือ..ดินขาว (..ซึ่งกลายมาเป็นภาชนะแกร่งขาว..ที่เรียกว่า..เนื้อกระเบื้อง
ที่เรียกกันเป็น เซรามิค..CHINA....)
.....ขี้เถ้าของ..พืช..เช่นขี้เถ้าต้นรกฟ้า..ขี้เถ้าแกลบ..ขี้เถ้าชานอ้อย(..ในขี้เถ้าไม้ทั้งหมด..แกลบ..จะมี
ปริมาณ ซิลิก้า มากที่สุด(ตั้งแต่ ๗๐-๙๐ เปอร์เซนต์)....
....ผลพลอยได้ของมัน..ที่มีหลากหลายนั้น..ถ้านำมาเป็นน้ำเคลือบ..ทาก่อนเข้าเผา..สีจะได้ต่างกัน
ด้วย......
......ดินในท้องนา..ที่มีส่วนผสมของ..การเผาตอซังข้าว(หรือ..อาจเป็นเพราะเผาไล่วัชพืชด้วย)..
..เนื่องจากตัวต้นข้าวเอง..ก็มีปริมาณซิลิก้าอยู่พอสมควร..เมื่อเผาไปแล้วขี้เถ้าตอซังข้าวก็จะมี
ซิลิก้าเข้มข้นขึ้น..และ..เมื่อ..ไถดินแต่ละครั้ง..มันก็จะคลุกเคล้าไปในเนื้อดินด้วย....
....ทำให้ดิน..ในท้องนา..จะมีปริมาณซิลิก้าปะปนอยู่ไม่น้อย..ถ้านำเอาไปผสม..ทำเครื่องถ้วย
หรือ...พระ..ถ้าปริมาณมีมาก..ก็จะทำให้เนื้อแกร่งเป็นหินได้....
.......นักปลอมพระ..ก็ต้องลองผิดลองถูกไป..ว่า..ดินแบบไหน..ผงหินฟันม้า..หรือขี้เถ้าพืช..แบบ
ไหน..หรือ..ผสมกัน..เมื่อเผาออกมาแล้ว..เนื้อแกร่ง..และสีออกโทนเขียว..ใกล้เคียงของจริง..ได้
มากที่สุด
.....เช่นกันในการปลอมขุนแผนเคลือบ..ก็ต้องลองผิดถูก..เช่นกัน..เพื่อหาสูตรน้ำยาเคลือบ..ที่ทำ
มาได้ใกล้เคียง...นี่ละครับ..ประโยชน์ของ..ซิลิก้า..ที่อยู่ในธรรมชาติ..ที่คนโบราณ..เรียนรู้..และ
เอามาดัดแปลงใช้..ในการ..ทำพระลำพูนเนื้อหิน......
...........................ต่อตอนหน้า..........................

 

สวัสดีค่ะ คุณลุง และพี่ๆสมาชิกทุกๆท่านค่ะ หินฟันม้าพึ่งจะเคยได้ยินเลยค่ะ ลองหาข้อมูลดู ในเนื้อหินมีแร่ผลมเนื้อแข็ง นำมาแกะสลักได้แถมมาทำเซรามิกได้อีก เป็นกำลังใจให้คุณลุงและคุณสวนพลูทุกวันค่ะ

 

สวัสดีคุณอา modpong คุณสวนพลู.และพี่ๆ.เพื่อนสมาชิกทุกท่านด้วยครับ.มาติดตามอ่านต่อครับ..พรุ่งนี้ร่วมถวายพระพรในหลวงพร้อมกันครับ.

 

***อย่างนี้ ต้อง จินตนาการตามขั้นตอน ที่ พี่ บอกครับ
รอตอนต่อไปครับพี่***

 

....................
....ฑีฆายุโก...โหตุ...มหาราชา...........
..........................................
..หวัดดี..หลานลิน..เดินตามพระ..และ..น้องรุ่ง....
........................................
.....ต่อจากตอนที่แล้ว.....
.................................
...........................................................................
.....ความแข็งของพระลำพูนเนื้อหินนี่..ก็คล้ายกับ..เครื่องถ้วยSTONE WARE ..เคยมีผู้อวุโส..นักเลง
พระรุ่นเก่า..เล่าให้ฟังว่า..เขาเคยทดลอง..กับพระคงเนื้อหินองค์หนึ่ง..คือ..เอาถ้วยกาแฟเซรามิค..
วางที่พื้นสนามหญ้า..(..อย่าแปลกใจนะครับ..ว่าทำไมกล้า..นี่มันเหตุการณ์..ก่อนผมเกิดอีกมั้ง..
..และตัวคนลองเองก็แน่ใจว่าทำได้)..แล้วเอาพระคง..ขว้างใส่..ปรากฎว่า..ถ้วยกาแฟเซรามิค..
แตกกระจาย..พระคงเอง..ไม่มีร่องรอยอะไรเลย......
.......ผมเองก็ว่า..น่าจะจริง..เพราะส่องดูแล้ว...เนื้อก็เกือบเหมือน..เครื่องถ้วยแบบSTONE WARE..
จริงๆ...คงไม่แปลก...อีกอย่างพระคงมีรูปทรงที่..ค่อนข้างมน..ก็คงเหมือนก้อนหิน..ดีๆนี่เอง..
....และหลายท่านไม่ทราบ..พระลำพูนเนื้อหินนี่..ขูดแก้ว..เป็นรอยนะครับ....
......กลับมาที่พระรอด..อีกที..พระรอดเนื้อหิน..ก็เช่นกัน..จะหนักกว่าเนื้อปกติ..แบบสังเกตจาก
ชั่งจากฝ่ามือ..ทั้งสองข้างได้เลย..ก็เป็นข้อสังเกตง่ายๆได้เลย..ถ้าใครเอาพระรอดเนื้อหิน..มาปล่อย
..แล้วปรากฎว่า..เบา..นั่นแสดงว่า..ปลอม..คือ..ใช้วิธีตบแต่งเคลือบผิวเอา....ถามว่า..แล้วทำไม..
ต้องปลอมเป็นเนื้อหินละ...อ๋อ..ตอบง่ายมาก..เพราะ..สีสันของ..พระรอดเนื้อหิน..ไม่สวย..
..กระดำกระด่าง..หน่อยๆ..ถ้า..เอาแว่นส่องเนื้อ..คุณจะเห็น..ผงขี้เถ้าเป็นจุดเล็กๆดำๆ..อยู่ในเนื้อ
..นั่นก็คือ..ส่วนขี้เถ้าบางส่วน..ที่ไม่สลายเป็นเนื้อแก้ว.....(มาเรื่องนี้..ก็โยกไปรู้ไว้ใช่ว่า...
......อีกเรื่องคือ...การดู..เครื่องเคลือบสังคโลก...และ..เครื่องเคลือบเวียงกาหลง.....
......คือ..ถ้า..ไม่เห็นจุดดำเล็กๆ..กระจายอยู่ห่าง..อยู่ใต้ผิวเคลือบ...นั่นก็คือ..เก๊แน่นอน.....
........ทำนองเดียวกันครับ..เพียงแต่อันนี้..จุดดำที่เกิดจากขี้เถ้า(ถ่าน)นั้น..มาจาก..น้ำยาเคลือบ..เป็น
ส่วนใหญ่...มันแปรสภาพเป็นเนื้อแก้ว..ไม่หมด....สำหรับ..ของยุคนี้..ไม่มีแล้วครับ..จุดดำๆนี่..
....เครื่องเคลือบศิลาดล..ยุคนี้...เนียน....)
..........ก็เลยไม่สวยเหมือนเนื้อธรรมดา..ราคาก็ถูกจึงถูกกว่า...ของที่ถูกกว่า..มันย่อมปล่อยง่ายกว่า
..เป็นธรรมดา.....
..............นี่ผมแค่..เพียงเกริ่น..เรื่องเนื้อพระมานิดหน่อย....แต่ไม่ใช่ประเด็นจริงๆ..ของบทความนี้
....ประเด็นอยู่ที่ขั้นตอน..การทำมากกว่า..เพราะขั้นตอนการทำ..มันมาส่งผลให้รูปทรงของพระ...
.......ใหสังเกตไว้ได้เลยว่า..พระกรุรุ่นเก่าๆ..ทั้งหลาย..แทบจะไม่มีที่..แม่พิมพ์..จะแกะ..จากไม้....
...เพราะ..ไม้..เป็นธรรมชาติ..ที่จะมีเสี้ยน..แล้วเสี้ยน..นี้จะสึกง่าย..และ..ผุพังเร็ว..จึงจะมีผลกับ...
พระที่มีรายละเอียด..(พระแบบที่เรียกว่า..ไม่มีรายละเอียดคือ..พระสมเด็จ....ไม่มีหู..ไม่มีตา...
ไม่มีจมูก..ปาก..)...แม่พิมพ์พระรอดจึงแน่นอนว่า..เป็น..แม่พิมพ์หิน..(ข้อเสีย..แม่พิมพ์ไม้..อีกอย่าง
คือ..มันจะดูดน้ำ..ออกจากเนื้อพระ..เมื่อถอดพิมพ์ออก..น้ำในดินที่ถูกคั้น..จากการกดพิมพ์..ที่ตก
มาอยู่ที่ผิวพระ..จะถูกน้ำดูดไป..แม้แรกๆอาจทาไขหรือ..น้ำมันไว้..พอกดพระ..หลายๆครั้ง..
น้ำมันหรือไข..จะติดไปกับ..พระองค์ก่อนหน้า..พอทำมากๆเข้าถ้าดนกดไม่สังเกต...พระองค์หลังๆ
..ก็จะผิวแห้ง...ไม่เนียน...และ..ก็จะทำให้ส่วนคมเล็กๆของพิมพ์พระจะหายไป..เพราะเนื้อถูกดูด
ติดไปที่พิมพ์.................
..................................ต่อตอนหน้า..............................

 

สวัสดีครับคุณอา modpong พี่ๆ.และเพื่อนสมาชิกทุกท่านด้วยครับวันนี้ปลื้มปิติกันทั่วหน้านะครับ.ที่เห็นในหลวงของเรามีสุขภาพพลานามัยแข็งแรงน้ำตาคลอจุกที่คอหอย.ทุกครั้งที่เห็นพี่น้องชาวไทย.กล่าวถึงพระองค์ท่าน.
ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ..

 

มารอชมครับ

 

***มารอชมเหมือนกันครับ พี่ ***

 

ได้ความรู้มากมายเลยครับ น้า

รบกวนถามคำถาม น้าหน่อยครับ ในขี้เถ้าปกติจะมีความเป็นด่างสูงมันจะมีผลกับเผาองค์พระไหมครับ

 

สวัสดีค่ะ คุณลุง และพี่ๆสมาชิกทุกๆท่านค่ะ รายละเอียดปลีกย่อยเยอะจังเลยนะคะ ถ้าไม่ใช้คนชอบสังเกตุวิเคราะห์จะมองไม่ทราบเลยค่ะ ขอบคุณคุณลุงที่นำสาระมาแบ่งปันค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณลุงและคุณสวนพลูทุกวันค่ะ

 

........
...ตอบแบบคนโบราณ..ก็คงต้องมี..แต่ก็ต้องผิดลองถูกจดบันทึกไป..ว่า..เติมโน่นเท่าไหร่..เติมนี่เท่าไหร่..เผานานเท่าไหร่..ก็ลองไปเรื่อยๆ..จนมันออกมาดี....สมัยตอนที่ผมทำพระดินเผา..แล้วเอามาสอนในผม..พระ..ผมก็..ไม่เคยใส่ขี้เถ้าหรอก..เพราะผม..ต้องการแค่พระดินเผา..ถ้าผมทำอาชีพนี้..จริงๆ..รับรองผมตอบให้แน่...เพราะผมชอบค้นคว้าอยู่แล้ว..ไอ้แค่เอาทฤษฎีเคมี..ฟืสิคส์..มาตอบ..คงไม่ตอบให้หรอก..ต้องลองจริงซะก่อน..เพราะมันมีPARAMETER..หลายอย่าง..

 

.................
...หวัดดี..หลานลิน..เดินตามพระ...น้องรุ่ง..Teera..และ..กำธรน้องรัก...
............................
......................................................................................
....น้ำในดินที่ถูกคั้นจาก..การกด..นี่เป็นสิ่งสำคัญ..ในการพิจารณา..ธรรมชาติพระกรุเนื้อดิน..สมัย
โบราณ...แม้แต่ในพระเนื้อค่อนข้างหยาบ..อย่างขุนแผน..วัดบ้านกร่าง...นั้น...ถ้าในซอกแขน...
หรือ..ซอกไหนก็ได้..ที่ลึก..และค่อนข้างแคบ..ไม่มีละก็มีสิทธิ์เก๊สูง..เว้นแต่จะมีการขัดทำความ
สะอาด...อย่างเมามัน..จนผิวลอกหมด...ซึ่งผมถามว่าจะมีไอ้บ้าแบบนี้ซักกี่คน..ที่ทำกับพระยอดนิยม
...ขนาดนี้.....
......อย่างที่ผมบอกไปตอนที่แล้ว..เรื่องน้ำดินที่ออกมา...น้ำส่วนนี้..ซึ่งประกอบไปด้วย..น้ำส่วนหนึ่ง
กับ..มวลดินขนาดเล็กสุด..เทียบได้กับผงแป้ง..เมื่อน้ำถูกเค้นออกมาจากเนื้อดิน..น้ำก็จะนำเอามวล
ละเอียดอย่างแป้งนี้ออกมาด้วย...และ..น้ำดิน..ที่ออกจากเนื้อไปก็จะไปคั่นอยู่ระหว่าง..แบบพิมพ์..
กับเนื้อดิน...เมื่อเราถอดพระออกจากแบบ...น้ำดิน..ก็จะหุ้มผิวดินไว้....บางๆทั่วทั้งด้านหน้า....
...ที่เกิดจากการกดพิมพ์...เมื่อ..ถูกตากไว้จนแห้ง...น้ำระเหยออกไป...เหลือแต่..มวลละเอียดที่เป็น
ผิว...ในกรณีอย่างพระเนื้อค่อนข้างหยาบนี่..ถ้าด้านหลังเกิดจากการปาดธรรมดา..น้ำดินก็จะถูกขับ
ออกมาบ้าง..แต่ไม่มาก...แต่ต่างกับด้านหน้าอย่างชัดเจน...อย่างในกรณี..ขุนแผนบ้านกร่างเป็นต้น..
...........สำหรับ..บางท่านที่ไม่คุ้น..อาจสงสัยว่า..เฮ้ยก็เห็นมันหยาบไปหมดนี่หว่า.....
...ขอโทษ..ถ้าท่านไปเห็นวัดบ้านกร่างขนาดแชมป์..พระไม่ช้ำ..แล้วได้ไปส่อง..แล้วจะถึงบางอ้อ..
...มันจะมีแค่..ปลายยอดของ..แร่..เม็ดทราย..หรือ..ควอรต์..เท่านั้นที่โผล่ออกมานอกส่วนผิวที่หุ้มอยู่
......เมื่อ..เทียบกับสมัยโบราณที่ที่ห้อยเปิดหน้าหลัง(เรื่องปกติ)..ผิวน้ำดิน..ที่อยู่รอบมวลหยาบ
..เหล่านั้น..จะหลุดไปก่อนเพื่อน..เพราะมันนูนขึ้นไป..และมันบาง..พวกควอร์ต..แร่ก็จะโผล่..
ชัดเจน......
..........ผมได้ทำการเปรียบเทียบ...ทั้ง..พระกรุลำพูน...กรุทุ่งเศรษฐี(กำแพงเพชร)..และ..กรุวัดบ้าน
กร่าง..ทีเป็นของผมเอง..มาแล้วจึงสามารถพูดถึง..สิ่งนี้ได้...รวมถึง..ได้ประสพการณ์จากการ
ทำพระดินเผาเองด้วย...เลยวิเคราะห์ได้ถนัด.............
................แต่น้ำดินนี้..กลับมีน้อยมาก..ในกรณีของ..พระผงสุพรรณ...อาจเป็นเพราะ..สภาพเนื้อ..
ของพระเอง..ทีไม่ใช่..พระดินเผาธรรมดา..มีส่วนผสมแร่ว่านนานาชนิด...อาจทำให้น้ำถูกกักไว้
..บางส่วน...ทำให้มวลละเอียดเลยออกมาที่ผิวน้อย......................
..เพราะเราจะสังเกตได้ว่า...ตามซอกเช่นวงแขน..ผิวพระ..จะออกทางย่นเหี่ยว..ไปแทน
ที่..จะเหมือน..พระเนื้อดินอื่น..ที่คราบมวลละเอียดเคลือบอยู่ทำให้ผิวเนียน..แทน
....................ต่อตอนหน้า..........................

 

สวัสดีครับคุณอา modpong คุณสวนพลู.พี่ๆเพื่อนสมาชิกทุกท่านด้วยครับ.เข้ามาติดตามอ่านข้อมุลดีมีประโยชน์ต่อครับ.ได้ความรุ้เพิ่มเติมอีกเยอะครับ.ขอขอบคุณสำหรับบทความดีๆอย่างนี้ด้วยครับ..

 

.........
...หวัดดี..เดินตามพระ..........
................................
...ต่อจากตอนที่แล้ว....
...........................
.........................................................................
......ผิวที่มีผงมวลละเอียดเคลือบไว้..อันเกิดจากการกดพิมพ์นี่แหละครับ..ที่ทำให้...
ขุนแผนวัดบ้านกร่างองค์TOPๆ..ที่ไม่ค่อยช้ำ..เวลาถ่ายรูปขยายใหญ่..ยิ่งเป็นพระรุ่นเก่าที่เลี่ยมไว้
เดิม ๓๐-๔๐ ปีขึ้นไป..ผิวที่พื้นพระ..และที่นูนบางส่วน..มันแผล็บ..เด้งแสงไฟ..เลย....
......เพราะคนสมัยก่อน..รู้วิธี..ก่อนจะเลี่ยมพระ..เขาจะเอาสำลีมาปัดเบาๆเอง(เขาไม่ให้ช่างทำกรอบ
มาแตะผิวหน้าพระเค้าเด็ดขาด..เค้าทำเค้าเอง)...ไม่กี่ทีมันแผล็บเพราะ..สำลีปัดที่มวลละเอียดเหมือน
แป้ง..มันเลยขึ้นเงาง่าย...ผิดกับ..พระที่ช้ำใช้จนสึก...ผิวสึกหมด..มวลละเอียดไม่มี..ปัดยังไง..ก็ไม่มี
ทางมันเท่า..........
..............เช่นกันครับ..พระรอดที่เลี่ยมไว้รุ่นเก่านี่..ผิวพระมันแผล็บเลย..สำหรับองค์ที่ไม่ช้ำ......
....ถึงแม้จะเป็นพระเนื้อละเอียด..แต่ที่ผิวหน้ายังไงก็ละเอียดกว่า...ไปส่องเทียบได้..ด้านหน้า..กับ
หลัง...สามารถแยกแยะได้..สาเหตุง่ายๆ..น้ำที่ถูกเค้น..มันติดมาที่..นิ้วคนที่กดพระซะเยอะ....
...ผงมวลละเอียดที่ออกมาด้วย..ก็ติดนิ้วไปด้วยเป็นส่วนใหญ่..นั่นเอง.....
.........ลักษณะของพิมพ์..และ..วิธีการจะคล้ายกับ..พระถ้ำเสือ..เนื่องจากรูปแบบ..จะเป็นลักษณะ
โบราณ..คือ..ยุคกว่า พันปี...มีแต่แม่พิมพ์ด้านหน้า..ความหนาพระ..ขึ้นกับความชำนาญ....
ความแน่นอน...ของคนกดพิมพ์...โดยที่เมื่อกดพิมพ์จนได้ที่..จะมีเนื้อดิน..ล้นออกมานอกพิมพ์
..และ..ด้านหลัง..จะอูม..มากน้อยก็แล้วแต่.....
..............แต่ที่สำคัญ...คนกดพิมพ์ต้องแน่ใจว่า..เนื้อพระจะต้องอมหุ้มกรอบของพิมพ์จนหมด
เพื่อความแน่ใจว่า..พิมพ์พระด้านหน้า..จะต้องติดทั้งหมด..นั่คือ..เหตุผลที่มีเนื้อเกินออกมา
รอบๆ..กรอบพิมพ์(แนวด้านนอกสุด..ที่ทำการแกะขุดลงไปเป็นพิมพ์)......
....เรามาเรียกกันว่า..ปีกพระ.....
....แต่สำหรับบางพิมพ์..ของกรุลำพูน..อาจมองแทบไม่เห็นเลยนึกว่าไม่มี..เพราะพระหลังอูม
มาก..ปีกแคบ..แต่หลังหนา...เช่นพระคง...แต่ก็มีครับ....................
............ต่อตอนหน้า...................

 

สวัสดีครับคุณอา modpong มาติดตามอ่านข้อมูลดีมีประโยชน์ต่อครับ.พอดีมีพระพิมพ์บ้านกร่างอยู่พอดี..ไม่ทราบว่าดีรึเปล่า..ได้ประโยชน์จากกระทู้นี้จะได้นำมาเปรียบเทียบดู
เพราะไปให้หลายคนดูบางคนบอกดี.บางคนบอกไม่ดี.คดีคืบหน้ายังไงจะมาแจ้งให้ทราบครับ..ขอบคุณมากครับ..

 

เรื่องขุนแผนบ้านกร่าง มีประโยชน์มากครับ เพราะตอนนี้ของเก๊แบบบาดมือเซียน มีให้เห็นเยอะครับ ขอบคุณมากครับพี่

 

"แค่เอาทฤษฎีเคมี..ฟืสิคส์..มาตอบ..คงไม่ตอบให้หรอก..ต้องลองจริงซะก่อน..เพราะมันมีPARAMETER..หลายอย่าง"

 

***มารอตอนต่อไปครับ พี่***

 

สวัสดีครับคุณอา modpong มาติดตามอ่านข้อมูลดีมีประโยชน์ต่อครับ.พอดีมีพระพิมพ์บ้านกร่างอยู่พอดี..ไม่ทราบว่าดีรึเปล่า..ได้ประโยชน์จากกระทู้นี้จะได้นำมาเปรียบเทียบดู
เพราะไปให้หลายคนดูบางคนบอกดี.บางคนบอกไม่ดี.คดีคืบหน้ายังไงจะมาแจ้งให้ทราบครับ..ขอบคุณมากครับ..
.................................................................................
.................................................................................
เรื่องขุนแผนบ้านกร่าง มีประโยชน์มากครับ เพราะตอนนี้ของเก๊แบบบาดมือเซียน มีให้เห็นเยอะครับ ขอบคุณมากครับพี่
............................................................................

............
....เรื่อง..กรุวัดบ้านกร่างนี่...ถ้าจำได้..จะเห็นว่า..ผมคอยแทรกให้ตลอด...
...เพราะเห็นตั้งแต่ก่อน..เลิกเล่นพระ..แล้ว..ว่ามาแรงมาก...
...ราคาพุ่งขึ้นทุกปี..พระเก็ก็ใกล้เคียงมาก..ก็เลยพยายามนำเสนอไว้..
.....อย่างเช่น..เรื่อง..รอยว่านหลุด...ก็เคยนำเสนอมาสองครั้ง..ครั้งล่าสุดก็
....ในเรื่อง..ของพระถ้ำเสือ...การยุบตัวของผิวหน้า..เนื่องจาก..น้ำที่ระเหย
..ออกไป..ดินก็ลงไปอัดตัวกัน..แต่ว่าน..แร่..ควอรตซ์..มันไม่ยุบตาม..
..มันเลย..โด่..พอถูกสัมผัส..ไปมาเข้า..ไอ้ที่โด่..เลยหลุด...นี่ก็เคย..
พูดไปแล้ว....
......ไอ้ที่ไม่ได้พูดอีก..ก็หลายเรื่อง...เอาจริงๆ...๒๐ ตอนยังไม่จบเลย..
...แต่นั่นแหละคือ..เหตุผล..เพราะขี้เกียจเขียน..และ..อีกอย่าง..ไม่ชอบ
ให้มันยืดเยื้อมาก...เอาไว้คอยแทรกตาม..หัวข้อต่างๆ..อย่างงี้ดีแล้ว...
.......แน่นอน..ตอนนี้..พระปลอมใกล้เคียง...การดูพระ..จากตาเซียนเอง
..มันย่อมไม่เหมือนกัน.......เพราะมาตรฐานต่างกัน.....
........................................................................
.....แต่ผู้ทีมี..ขุนแผนวัดบ้านกร่าง..แล้วไม่แน่ใจว่า..ปลอมหรือจริง....
....ลงทุน..นั่งรถ..หรือ..ขับรถ..ไปสุพรรณบุรี....
....ไปสำนักพิมพ์..หนังสือพิมพ์เสียงสุพรรณ....
.....ตามหา..อาจารย์มนัส โอภากุล..เจ้าของ....
....กราบท่านให้ท่านช่วยดูให้..ดูฟรี..และ..แน่นอน..
.....ฟันธงได้เลย...ไม่ต้องให้เซียนไหนมาดูอีกต่อไป.....
.....ท่านเป็นผู้อวุโส..และ..เป็นผู้ใหญ่ใจดี..เป็นปูชนียบุคคล..
.....ไม่ต้อง..ไปง้อ..ไอ้เซียนเมื่อวานซืน..แถมต้องไปทนกริยาไม่ดี..
.......ไอ้ที่ร้ายกว่านั้น.........รู้ไม่จริง............

 

......
..ไอ้ที่ผมบอกไปนี่นะมันเรื่องจริง....ไอ้พวกนักทฤษฎีทั้งหลาย..ที่มาเล่นพระ..ผมไม่เห็นมันได้เรื่องซักราย...คนสมัยก่อนเขาไม่สน..ไม่รู้ด้วย..รู้แต่ว่า..
ใส่ไอ้นี่..มากไปไม่ดี..ถ้าใช้แบบนี้..ต้องเอาอีกตัวมาแก้..แล้วก็จดบันทึกไว้..หรือ..จำไว้..สอนลูกหลานกันต่อไป..ทุกอย่างมันเกิดจากการ..TRIAL & ERROR..ทั้งนั้น...
......ถ้าเอาแค่..ทฤษฎีมันหมู..จะตาย..ด่าง pH สูง..อยากให้มันออกมากลางๆ..เอาเอาพวกpH ต่ำ..ใส่ลงไป..อะไรละ..ก็พวกที่ออกฤทธิ์เป็นกรดไง..อะไรก็ได้ในธรรมชาติ..แต่ทำจริงๆ..มันไม่จบ..เพราะองค์ประกอบอื่นเยอะแยะ..บางทีไม่ต้องใส่..ปรับอุณหภูมิ..เวลา..หรือองค์ประกอบอื่นเอา..ก็ได้..ดังนั้น..มันไม่มีอะไรสู้กับ..ทำจริง..เพราะจะทราบว่า..มันมีปัญหาเรื่องอื่นให้แก่อีกเยอะ..เหมือนตอนที่ผมทำ..พระดินเผาเอง..แล้วเอามาสอนวิธีทำให้ในนี้..แต่ละคน..ก็มีวิธีการแก้ปัญหาของตนเอง.....
.....นั่นแหละครับ....คือเหตุผล