ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

ผมว่าได้นะครับพี่ กระทู้อื่น ๆ ส่วนใหญ่ ในพระเครื่อง - วัตถุมงคล ไม่อยากจะพูดถึง จะแฝงการค้า พุทธพาณิชย์เอาไว้ พอคนรู้ทันก็ร้อนตัว มีให้เห็นเยอะครับ ส่วนกระทู้ของพี่ นั้น เนื้อหาสาระ เพียบ แถมเป็นกระทู้ที่ให้ความรู้เป็นวิทยาทาน ซึ่งกลั่นออกมาจากความทรงจำ ผมว่าเหมาะสมครับพี่ ส่วนกระทู้อื่น ๆ ที่ดีก็มี ผมอาจจะยังไม่ได้เข้าไปติดตาม เพราะเวลาผมไม่ค่อยมากครับ ต้องขออภัยเจ้าของกระทู้อื่น ๆ ด้วย

 

...................................................
..ก็ขอบคุณในความหวังดีของน้องกำธร..ด้วยอีกคน..ที่ให้กำลังใจผม..ก็ต้องถือ..ว่าเป็นไม้ค้ำคุณภาพของกระทู้ไปในตัว..แต่ไม่ต้องห่วงครับ..ผมเป็นคนรับผิดชอบในสิ่งที่ผม..ทำอยู่แล้ว..และเคยสัญญาไว้อยู่แล้ว..ไม่ตกลงไปกว่านี้..และ..ไม่ดีไปกว่านี้..ครับ..

 

สวัสดีครับคุณลุง modpong ยังติดตามอ่านแถวหน้าต้นๆ อยู่เลยครับผมๆ..จะรีบตามมาให้เร็วที่สุดครับ

 

".................................................
....ขอบคุณ..และยินดีต้อนรับ..ครับ.......
.....อย่าครับ..อย่าทำแบบนั้น..ผมไม่ยากให้ใคร.."รีบ"อ่าน..กระทู้ของผม..เพราะควรอ่านด้วยความเข้าใจ..ตีความ..จึงจะได้ประโยชน์เต็มที่..ค่อยๆอ่านไปครับ..ไม่นานเดี๋ยวก็ทัน..กระทู้ผมไม่ได้อ่านเอาเพลิดเพลิน..อย่างเดียว..อยากให้รับ..สาระไปให้ได้มากๆ........................

 

ขอขอบคุณ..ทุกๆท่านที่
Post..มาให้กำลังใจ..ชม..ติดตาม..และทักทาย

...........................................................สวัสดีทุกท่าน..................................................
............กุรข่า...นักรบเลือดดุ.......................................................................................
...................Bhan(ขอเรียกนี้..พอ..ชื่อ..ยาวจริงๆ)..ก็ได้คุม..หน่วยขนาดเล็ก(หมู่ย่อย)..ได้
ไม่นาน..ก็ได้รับมอบหมาย..ให้บุกเข้าหลังแนวป้องกันของกองพลที่ ๓๓ ของญี่ปุ่น..พร้อมๆกับ
หน่วยอื่น..ในระหว่างการต่อสู้..ซึ่งหลังการรบ..เขาก็ยืนหยัดต่อสู้อย่างห้าวหาญ...จากผลงาน
ดังกล่าว….Bhanก็..ได้รับการเลื่อนยศ..อีกขั้น..กลายเป็นสิบโท...ด้วยวัยที่ถือว่า..เด็กมาก..แต่
ภาคภูมิใจอยู่ไม่นาน..ก็เกิดเรื่อง..
............มันเป็นความซวย..ที่ไม่ได้เกิด..เพราะตัวเองคนเดียว..เพราะ..หมวดที่..เขาสังกัดได้รับ
คำสั่ง..ให้ไปยึดเนินๆหนึ่งไว้..โดยการสั่งการมาจาก..ผบ.หมวด..ซึ่งเป็น..กุรข่าด้วยกัน..ซึ่งก็
ได้สั่งการไปยังเนิน..ดังกล่าว..เขาก็นำหน่วยย่อยของเขา..ไป..ตามตำแหน่งดังกล่าว..ก็เหมือน
ไม่มีอะไร..ทางBhan..ก็วิทยุรายงาน..ว่าขณะนี้ได้ไปประจำตำแหน่งที่เนินหมายเลข---นั้นเรียบ
ร้อยแล้วไปทางกองพัน(ผบ.พัน..เป็นอังกฤษ)..ปรากฏว่าเนินหมายเลข---นั้น(ทางทหาร..จะ..
เรียกชื่อ..เนิน..ตามระดับความสูง..ตามแผนที่ทหาร(มาตราส่วน ๑:๕๐,๐๐๐)ไม่ได้ใช้ชื่อสามัญ)
มัน..ไม่ใช่ครับ..(คือทางผบ.หมวด..ผิดพลาดเอง..บอกชื่อเนิน..กับเขา..ผิด..)..ตัวผบ.หมวดซึ่ง
อยู่กับ..ผบ.พันด้วย..ก็กลัวความผิด..ไม่ได้สารภาพความจริง..จึงเงียบ..ปรากฏว่า..ผบ.พันยัวะ
มาก..เพราะเนิน..ที่ต้องการ..กลับไม่ถูกยึดและจะเป็นจุดอ่อน..เมื่อ..ญี่ปุ่นบุก..ก็เลยด่า..Bhan
ทำนองว่า..ทำผิดพลาดอย่างนี้ได้ยังไง...เขาก็คงแค้นเหมือนกัน..จึงตอบแบบ..แรงกลับไปว่า..
..ผมได้รับคำสั่งให้มายึดเนินนี้..ผมก็ทำตามคำสั่ง..ผมไม่ได้ผิด...หลังกลับมาที่หน่วย..ผบ.พัน
ที่แค้นมาก..เพราะเถียง..ผิดระเบียบทหาร..เลยทำการลดยศ..กลับไปเป็น..สิบตรีอย่างเดิม..
..แล้วโดน..ย้ายไปอยู่อีกกองร้อยนึง..ซึ่งBhanก็ไม่ได้ว่าอะไร..และก็ไม่โทษพาดพิงไปที่..ผู้
หมวดที่เป็นกุรข่า..ด้วยกัน...ความที่เป็นคนจริง..ของเขา..ไม่ได้ยี่หระอะไร..กับ..สิ่งที่เกิด....
........นี่คือการพลิกผัน..ของวีรบุรุษคนนี้..เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ.......
......................หลังจากนั้น..ในการรบครั้งหนึ่ง...Bhanก็แสดงความ..เป็นวีรบุรุษที่แท้จริงออก
มาให้ประจักษ์อีก..ในการปะทะกับ..กองกำลังญี่ปู่นในป่าทึบ..และถูกกดดันอย่างหนัก..ทำให้
ทหารกุรข่า..ที่อยู่ใกล้ๆเขา..โดนยิงจนบาดเจ็บสาหัส..เมื่อฝ่านอังกฤษ..ต้องถอนตัวออกมา..
Bhan..ก็แสดงธาตุแท้ลูกผู้ชาย..ด้วยการเอาเพื่อนทหารผู้นั้น..แบกขึ้นบ่า..นอกจากตัวเองจะ
ต้องสะพายปืนยาวตัวเอง..ยังจะต้องรับน้ำหนักเพื่อนที่ตัวเท่าๆกันรวมทั้งอาวุธ..วิ่งลัดเลาะเข้าไป
ในป่าทึบ..กลับไปยังฐานกองร้อย..ซึ่งมีระยะทางถึง...๕ กิโลเมตร..อีกต่างหาก..และเพื่อนเขา
ก็ปลอดภัย..เพราะถ้าเดิน..๕..กิโลเมตรในป่าทึบ..ก็คงตายตั้งแต่..ยังไม่ถึง...ผมจึงว่า..เขาผู้นี้
เพียบพร้อมจริง..ไม่ใช่..แบบดุ..บ้าเลือด..อย่างเดียว..แต่พร้อมด้วย..ความเสียสละ..เมตตา..
กรุณา..และห้าวหาญ.....แต่นี่..แค่..เริ่มต้นของเขา..บทบาท..ของ..แรมโบ้ตัวจริง..จะมาตอน
หน้า.......................................................................................................





ทหารกุรข่า..กำลังสาธิตการ..สังหาร..ศัตรูด้วย..คูครี..ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒

..............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................พลังที่ฝากไว้..............................................................
..........ผมมาสังเกต..อีกอย่างว่า..หลวงพ่อท่าน...ปล่อยให้เหตุการณ์..เป็นไปตาม..ครรลอง..
ตามที่ท่านได้เห็น..แต่ก็ไม่ให้ลำบากเกินไป..และได้ประโยชน์..และบุญเหมือนที่ตั้งใจ..ต้งแต่
บอกให้ชาวบ้านใกล้วัดมากันในวันพรุ่งนี้..พวกในเมืองเขาจะเอาอาหารมา...รถบรรทุกของพวก
แม่ผม..ก็เสียอยู่อย่างนั้น..แต่ท่านก็ให้ชาวบ้านหาบของมาให้..สร้างความงุนงงให้ทั้งชาวบ้าน
ที่ท่านใช้มา..และพวกแม่ผม..เพราะต่างคนต่างไม่เห็นกัน(มีแต่หลวงพ่อ..เห็นองค์เดียว)..พวก
แม่ผม..ก็ไม่อดข้าวกลางวัน..แถมบอกว่า..กินข้าวเสร็จ..เดี๋ยวรถก็ใช้ได้..ก็เป็นไปอย่างที่ท่าน
พูดทุกอย่าง..อาหารที่พวกแม่ผม..เตรียมมา..กว่าจะถึง..วัด..ก็เลยเพล..แต่ท่านก็ช่วยให้ไม่เสีย
วัตถุประสงค์เท่าใด..เพียงแต่เปลียนไปหน่อย..คือ..อาหารได้เอามาทำบุญเลี้ยงข้าวกลางวันชาว
บ้านที่ยากจน..แทน...ท่านจะเห็นว่า..เรื่องมันต่อเนื่องกันไปหมดยืดยาว..ทั้งวัน..คิดดูว่า..ถ้าท่าน
ไม่แบ่งจิตไป..มาเสียเวลาใช้..ตาทิพย์ดู..คงเสียเวลาเรื่องอื่นเยอะแยะ..อย่างที่ผมพูดถึง..เวลาที่
เต็มไปด้วยภาระกิจของท่าน............อย่างหลายอาจารย์เช่นกัน..ผมก็ไม่อยากอ้างชื่อ(..ความ
จริง...จำไม่ได้..แต่มีแน่)..พูดคุยกับญาติโยม..อยู่ดีๆ..ก็สั่งไปให้เตรียมโน่นเตรียมนี่..เดี๋ยว...
หลวงพ่อ..เพื่อนท่านจะมาหา..ทั้งๆที่ไม่ได้..มานั่งหลับตาอะไร..แสดงให้เห็นว่า..สามารถแบ่งจิต
..ได้..โดยใช้จิตหยั่งรู้..แสกน..อยู่ตลอดเวลา...อย่างองค์หนึ่งก็แน่นอนมาก..คือ..หลวงพ่อดำ
วัดตุยง..ปัตตานี..อาจารย์ของในหลวงอีกท่าน..ที่สมัยก่อนทุกครั้ง..ที่เสด็จตำหนักทักษิณ..ตั้ง
แต่วัดยังไม่มีโทรศัพท์..ท่านก็จะทราบ..และห่มจีวร..รอ..สักพัก..รถหลวงจากตำหนักทักษิณ..ก็
จะมารับ..ท่านไปตำหนักทักษิณ..เรียกว่า..พวกชาวบ้านถ้า..เห็นหลวงพ่อเตรียมตัวแบบนี้..ก็จะ
รู้ได้เอง..ว่าในหลวงเสด็จมาประทับที่ตำหนักทักษิณแล้ว...หลวงพ่อดำ..ท่านก็แทบไม่ต่างจาก
หลวงพ่อศุข..คือ..ภาระกิจท่านมากมาย..แถมท่านยังเป็นพระผู้ใหญ่ที่ต้องมีภาระด้านปกครอง
อีกต่างหาก...............................................................
..................ที่ผมยกตัวอย่างมาซะยาว..ก็เพียงให้เข้าใจว่า..พลังจิต..พลังฌาน..ที่เกิดจากการ
ฝึกฝน..โดยใช้แนวทางของพุทธศาสนา..นั้น..เหนือกว่า..พลังจิต..ที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ
แน่นอน............................................................
.........เมื่อย้อนกลับไปที่ตอนที่แล้ว..จึงสามารถอธิบาย..แบบหลักการได้ว่า..กรณีที่พระอาจารย์
สามารถปลุกเสกของขลัง..โดย..ที่อยู่อีกแห่งแบบที่ไม่เคยไป..หรือเคยเห็นมาก่อน...ผมคิดว่า
ถ้า..อาจารย์ที่เป็นแหล่งพลังงาน..แบ่งส่วนพลังงานหยั่งรู้ในรูปแบบของการscan..ไปอย่างสม
มุติ..ว่า..จังหวัดที่มีการปลุกเสกอยู่ทางเหนือ..อาจารย์ท่านก็scanไปทางเหนือ..ด้วยคลื่นพลัง
ที่สามารถ..ทะลุผ่านทุกโมเลกุลได้..และการเดินทางของจิต..ท่านก็ทราบดีว่า..ไวเท่าหรือมาก
กว่าแสง..ก็ย่อมพบแหล่งที่จัดงานได้ไม่ยาก(ชื่อวัด..ก็รู้อยู่)..ตอนนี้ก็แค่ส่งพลังที่จะประจุไปหา
วัตถุเป้าหมาย..ก็เช่นกันเพราะเป็นคลื่นพลัง..ทะลุทะลวงได้เช่นกัน...ถ้าอย่างนี้..ก็พอ..จะใช้
เหตุผลมาอธิบายเป็นหลักการได้.........แต่บางท่านบอก..ว่าแค่คิดชื่อ..ว่าวัดอะไร..จิตก็ไปถึงได้
เอง...อันนี้ผมก็ไม่มีปัญญามาอธิบาย..ว่าไปถูกได้ยังไง..เพราะสูงส่งเกินที่ผมจะทราบ....
.................ตอนหน้า..ผมจะมาว่าถึง.....การย้ายสสาร..ของหลวงพ่อต่างๆกันต่อ...........

......................................................สวัสดี..................................................................

 

เรื่องกำลังเข้มข้นทั้งสองตอนเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณ ลุง ค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

ถ้าต้องโหวตกันจริงๆ ผมขอโหวตให้กระทู้ของคุณลุงนี้เป็น The Best of Year 2010 ด้วยคนครับ..(^_^)..

 

อ่านเรื่องหลวงอาดี และหลวงพ่อทองศุข หลวงพ่อจันทร์จบแล้ว
คุณอาเอามารวมไว้ในกระทู้นี้กระทู้เดียวก็ดีนะคับ คนไม่รู้ว่ามีจะได้อ่านด้วย

 

....................................................
...ขอบคุณในความปรารถนาดีครับ.....
.....วัน..สอง..วันนี่..นั่งอึ..รู้สึก..ก้นจะไม่ติด..ฝารองโถชักโครก..เลย.....
.....เขียนชมกัน..อย่างนี้หลายคน..สงสัยปีหน้า..จะไม่ยอมให้ผมเลิกเขียน..แน่ๆ

 

..................................................
...ขอบคุณครับ..ไม่เป็นไรครับ..เพราะถ้าอ่าน..กระทู้เรื่องนี้ีตลอด..ก็ต้อง..เจอLINK ไปที่..ทั้ง..๒ กระทู้เองครับ..ไม่เป็นไร..ขอบคุณมากๆในความหวังดี
http://palungjit.org/posts/3069517

http://palungjit.org/threads/พระครูสมุห์ทองดี-วัดบางด้วนนอก.233742/

 

ทั้งคม และฮา จริงๆนะครับ คุณอา แต่ผมก็เห็นด้วยกับ หลายๆท่านนะครับ

 

สวัสดีครับคุณลุง มาเป็นกำลังใจให้น่ะครับ เรื่องกำลังสนุกเลยครับ

 

ดีครับผมก็ได้เรื่องราวสาระน่ารู้ ไปอีกนาน

 

.................................................
...ขอบคุณ..และ..ยินดีต้อนรับครับ.....

 

ขอขอบคุณ..ทุกๆท่านที่
Postมา..ให้กำลังใจ..ชม..ติดตาม..และทักทาย

......................................................สวัสดีทุกท่าน.......................................................
.........กุรข่า..นักรบเลือดดุ...........................................................................................
............................................ต่อไปนี้เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่อง..นำให้เขาสร้างวีรกรรมสูงสุด
จนได้รับมา...ซึ่งเหรียญกล้าหาญสูงสุด..มันเป็นเหตุการณ์เมื่อ...กรมทหาราบเบากุรข่าที่๒..เข้า
ร่วมกับ..กองพลที่ ๒๕ ของอินเดีย..ที่ยกพลขึ้นชายฝั่งพม่า(ด้านใกล้กับบังคลาเทศ)..เพื่อจะ
หันเหความสนใจของญี่ปุ่นต่อ..การบุกของของ..นายพล..เซอร์วิลเลี่ยม สลิม..ที่มุ่งหน้าเข้าสู่..
มัณฑะเลย์.....ในเดือน กุมภาพันธ์ คศ.๑๙๔๕....กองพล๒๕..มุ่งหน้าเข้าสู่แม่น้ำอิระวดี..โดย
ต้องผ่านบริเวณช่องเขาซึ่งก็ได้รับการเข้ามาบุกเพื่อยันไว้โดย..กองพลที่๕๔..ของญี่ปุ่น...ซึ่ง
กระจายอยู่ตามเขาบริเวณนั้น..และกองพันที่๓..กรมทหาราบเบากุรข่าที่๒..ต้องเข้ายึดเนินเขา
..ที่มีรหัสว่า”..สโนดอน อีสต์”..ซึ่งกุรข่า..ก็ยึดได้และยืนหยัดต้านกองกำลังญี่ปุ่น..อยู่ ๒วัน๒คืน
ด้วยความทรหด..แต่ถ้าปราศจากวีรกรรมจาก หมู่ Bbanbhagta Gurungเหตุการณ์ชัยชนะใน
การยึดเนินนี้..อาจเปลี่ยนกลับ..เป็นฝ่ายญี่ปุ่นก็ได้...ฝรั่งเขาว่ากันอย่างนั้น.............
.................กองพันรถถัง..สนับสนุนการยิงอยู่บริเวณเชิงเขา..ต้องหยุดการยิง..เมื่อทหารกุรข่า
ต้องถอยลงมา..พาผู้บาดเจ็บ..และศพ..จากการระดมยิง..ประสานอย่างหนาแน่น..ของทหาร
ญี่ปุ่น..บนเขา..โดยทหารญี่ปุ่น..จะใช้วิธี..ขุดหลุมกำบัง..กระจายอยู่บนยอดเขา..แต่ละหลุม..ก็
จะมีทหารลงไปอยู่ตั้งแต่ ๒-๔ คน..ถ้ามีแต่ปืนยาว..ก็อาจจะมี ๒ คน..ถ้าหลุมที่มีรังปืนกล..ก็จะมี
ถึง ๔ คน..หลุมเหล่านี้..จะลึกและค่อนข้างแคบ..เรียกว่าโผล่มาเฉพาะปืนเลย..และเอาไม้มาขัด
เป็น..หลังคาแล้วเอาใบไม้เสียบๆพราง..ซึ่งแม้แต่..เครื่องบินตรวจการณ์..ก็หาไม่พบ..ความที่
ขนาด..และ..รูปทรงมันคล้าย..โพรงของหมาจิ้งจอกที่มันขุดไว้..เพื่อคลอดลูกและเลี้ยงลูก..
..พวกฝรั่ง..ก็เลยเรียกว่า..FOX HOLE..ผมมีรูปมาให้ดูด้วยเดี๋ยวจะนึกไม่ออก...
.............หมู่เล็กๆ(๔-๕คน)..ของเขา..โดนตรึง..ด้วย..การประสานการยิง..ของปืนกล..กับ..
พลแม่นปืน(SNIPER)..ที่ท่านก็คงจะคุ้นในหนังสงคราม..ซึ่งพวกนี้ส่วนใหญ่..ปืนที่ใช้จะเป็น..
ตระกูลของ..ไรเฟิล(ปืนยาวที่..ต้องขึ้นลูกเลื่อนยิง..ทุกครั้ง)กำลังสูง..ระยะหว้งผล..ตั้งแต่..
เกือบ ๘๐๐...ถึง..๗๐๐ เมตร..ลงมา.......ติดกล้องเล็ง..และฝึกเฉพาะแบบ(ยิงทั้งวัน)..ทำงาน
ค่อนข้างอิสสระ..คือ..ไปหาตำแหน่งเหมาะเพื่อพราง..และ..ห่างจากแนว..จะเริ่มทำการยิงไม่
น้อยกว่า ๓๐๐-๔๐๐ เมตร..เพื่อให้ศัตรูเมื่อถูกยิง..ตรวจจับที่ตั้งได้ยาก..พกกระสุนแต่ละครั้งไม่
น้อยกว่าร้อยนัด..เนื่องจากหมู่ของBhan..เป็นหน่วยหน้าสุด..เลยไปตกอยู่ที่จุดอันตราย..ขณะที่
หมู่ใกล้ๆกัน..โดนไอ้พลแม่นปืนญี่ปุ่น..สอยไปทีละคน..จนหมดรวมถึง..บางส่วนก็ตายจากปืนกล
ที่ยิงคลุมประสานกัน..สภาพของเขาและลูกหมู่เลย..กลายเป็นโดดเดี่ยว..แบบที่ไปไหนไม่ได้..
(เรียกว่า..โงหัวไม่ขึ้น..นั่นแหละครับ).....................................
......................ตอนหน้า..มาดูว่าผู้หมู่..เลือดดุ..ของเราจะทำยังไง...........................



fox hole หรือ บังเก้อร์..บนที่ราบ..ทหารกุรข่าเข้าตรวจและกวาดล้าง





fox hole เช่นกัน..แต่อยู่บนลาดเขา..ผลงานของกรมทหารราบเบากุรข่าที่๑๐..ทั้งสองภาพ

.................................................................................................................................
................................................................................................................................
...........................................พลังที่ฝากไว้..................................................................
................ผมว่าคนที่อายุ ๔๐ ขึ้นไป..และชอบดูหนังไซ-ไฟ(SCIence-Fiction)..และชอบดู
ละครชุดของฝรั่ง..ต้องเคยดูเรื่อง STAR TREK..แน่..ที่พระเอกแกชื่อ กัปตันเคิร์ก..ในสมัยนั้น
..สิ่งที่แปลกใหม่..ไม่เหมือนใคร..เวลาที่ยานเอ็นเทอไพรส์..จะส่ง..ลูกเรือ..ลงไปที่ผิวดวงดาวนั้น
..เจ้าหน้าที่..จะกำหนดพิกัด..และคำนวณระยะทางไว้..แล้วให้ลูกเรือ..ไปยืนบนเครื่องส่งแล้ว
เปิดเครื่อง..เครื่องจะทำการ..ย้ายสสาร(หรือมวลสาร..หรือ..อะไรก็ได้ที่อยู่บนแป้นเครื่อง)..จาก
ที่เครื่อง..ไปยังผิวดาวที่กำหนุดจุด..และระยะไว้.........ไอ้ที่ผมเอามาเล่านี่..เพราะจะให้เห็นว่า
ฝรั่ง..นักวิทยาศาสตร์..เขาได้ทำการค้นคว้าเรื่องนี้..มานานแล้ว..จนกลายมาเป็น..ไอเดียของ
หนังเรื่องดังกล่าว...จากข้อมูลที่ผมค้นคว้าไว้..เรียกว่า..ตั้งแต่..หลังสงครามโลกครั้งที่๒..ไม่
นาน..ก็เริ่มมีการศึกษา..เป็นโปรเจคท์มาแล้ว..ทั้ง..รัสเซีย..และ..อเมริกา...ซึ่งต้องใช้ความรู้
..ความเข้าใจ..ใน..ควอนตั้ม ฟิสิกส์(Quantum Physics)..อย่างสูง..ซึ่งแม้เวลาผ่านมา...
มากกว่า ๕๐ ปี..ก็ยังไม่สำเร็จ..และยังไม่มีการ..ล้มเลิกโปรเจ็คท์..แต่อย่างใด...เพราะเหล่านัก
วิทยาศาสตร์ฝรั่งบอกว่า..มันเป็นไปได้..แต่ตอนนี้..มันเพียง..เรายังเดินอยู่ในเขาวงกต(MAZE)
..ยังหาทางที่ถูกต้องไม่เจอ..แต่สักวัน..เราต้องเจอทางออกแน่..บางคนบอกว่า..เครื่องย้ายมวล
สารต้นแบบ..ที่เราต้องทำความเข้าใจให้ได้คือ..”หลุมดำ”(BLACK HOLE)..ที่กลืนมวลสารเข้า
ไป..ไม่เหลือหลอ..คือหายไปเลย..แต่หลายคนยังเชื่อว่า..ความจริง..หลุมดำ..ไม่ได้กลืนหาย..
แต่..มวลสารทั้งหลาย..ที่เข้าไปในหลุมดำ..ถูกย้ายเอาไปอยู่ที่อื่น..............
....................แต่ไม่ว่ายังไง...ก็..ตาม..........ในเมืองไทย...เรื่องย้ายมวลสาร..กลายเป็นเรื่อง
ไม่แปลก..เพราะท่านอาจารย์ผู้เข้มขลังในอดีต(ในปัจจุบัน..มีใครทำได้จริงๆรึเปล่า..ผมก็ไม่
ทราบ..เพราะไม่ได้ติดตาม..แต่ผมก็เชื่อว่า..ยังมีอาจารย์ปัจจุบันอีกหลายท่านที่ทำได้)..ทำให้
เกิดเป็นที่ประจักษ์..กันหลายท่าน..เช่น
..................หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม..ท่านเป่าทองคำเปลวที่อยู่ในกระดาษ..ในระยะห่างมาก
กว่าคืบ..เข้าไปที่หน้าผาก..ผู้ที่มาขอลงนะหน้าทอง...กระดาษอยู่แต่ทองคำ..ย้ายที่ไปแล้ว...
..................หลวงปู่โต๊ะ..ส่งยันต์ที่ท่านเขียนด้วยกระแจะ(ดินสอพอผสมน้ำหมาดๆ)..จากข้าง
ล่าง..บนโต๊ะ..ตบเปรี้ยงเดียว..ย้ายขึ้นไปอยู่บน..ป้ายร้านค้าที่อยู่สูงแบบต้องต่อกระได..แบบ
ไม่ต้อง..กระเย้อ..กระแหย่งปีนบนเก้าอี้..ให้เมื่อย
...................หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์..เอาสีดำทาเท้า..ครั้งเดียว..เพราะท่านคิดแล้วคงเมื่อย
แน่..ถ้าจะเหยียบทีละผืน..สู้เอาเรียงซ้อนกัน..หนา..สามสิบ..สี่สิบแผ่น..ประทับรอยเท้าผ้าอัน
บน..ครั้งเดียว..นอกจากจะย้ายมวลสารแล้ว...ยังทำสำเนามวลสารนั้น..ส่งไปยังผ้าทุกแผ่น..
..ทำให้..ไม่เปลืองหมึก..เพราะติด..ดำ..หนาเท่ากันทุกผืน....ต่อหน้าลูกศิษย์..หลายสิบคน..

...................................................ต่อตอนหน้าครับ...............................................
.......................................................สวัสดี.............................................................

 

เข้ามาอ่านกี่ครั้งก็ยังเข้มข้น มีสาระปนเฮฮาทุกทีไป ไม่ปวดหัวไม่ต้องคิดเยอะ คุณลุง modpong มีลีลาในการถ่ายทอดเรื่องราว ออกมาดีแบบที่หาตัวจับได้ยากจริงๆ โดยเฉพาะข่วงนี้เป็นเรื่องของพลังจิต ผมชอบมากๆเลยครับ ขอบคุณ คุณลุงมากๆเลยครับที่สละเวลามาถ่ายทอดความรู้ให้หลานๆได้อ่านกัน

 

สวัสดียามเช้าครับคุณลุงModpong
และเพื่อนสมาชิกทุกๆท่านนะครับ

 

เข้ามาอ่านตั้งนานแล้ว วันนี้ถือโอกาสขอบคุณ คุณลุง ที่นำเรื่องราวดีๆที่คนรุ่นหลังไม่ค่อยได้รู้มาเผยแพร่เป็นวิทยาทาน และสนุกสนานตามแบบฉบับของคุณลุง วางพล็อตเรื่องได้เร้าใจมากครับ

 

สวัสดียามเช้าทุึกท่านครับ และขอบคุณมากๆครับเรื่องราวที่คุณอานำมาเล่าให้ฟัง ต้องใช้เวลามากมายที่จะทำได้อย่างนี้ครับ....

 

...................................................
...ขอบคุณ..และ..ยินดึต้อนรับครับ......
...อาจเป็นเพราะ..ผมชอบดูหนังประเภท.ตื่นเต้น..เขย่าขวัญ..สยองขวัญ..มั๊งครับ...หลายๆอย่าง..มันก็เลยซึมซับ..เข้าสมอง...ไปเอง..ครับ