ผมไม่รู้ว่าจะทำยังดีแล้วครับ

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย tadayoshi, 12 มีนาคม 2014.

  1. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    โพสต์ซ้ำขอโทษค่ะ คิดว่าเนตหลุดค่ะ
     
  2. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    น้องอ่านที่พี่กะคุณ ddman วิจารย์แล้ว อย่าเคืองนะค่ะ เตือนด้วยความหวังดีจริงๆ
    -บางโพสต์เห็นเลยว่าอารมณ์ร่าเริง
    -บางโพสต์หงุดหงิดในสิ่งที่อาจจะไม่ได้รับ

    ไม่มีใครได้แต่สิ่งดีๆค่ะ เคยได้ยินโลกธรรมทั้งแปดหรือเปล่าคะ


    ท่องไว้สั้นๆ
    ลาภ/ยศ/สรรเสริญ/สุข เสื่อมลาภ/เสื่อมยศ/นินทา/ทุกข์

    แล้วน้องจะไม่รู้สึกกลับไปกลับมาแบบนี้ค่ะ
     
  3. tadayoshi

    tadayoshi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +59
    ผมไม่คิดจะมาอ่าคอมเม้นอีกหลังจากที่ตัวเองคิดไว้ว่าจะไม่เถียงกับแม่ แต่ก็ต้องยอมรับครับว่าหลายอย่างมันเปลี่ยนไป เพราะเรื่องล่าสุดที่เกิดขึ้นมันเป็นอะไรที่จี้แผลในใจผมเอามากๆ

    ที่ห่างหายไป ในเวลาที่ผ่านมา สิ่งที่ผมทำคือ หางานแล้วทำงานในบ้านเกิดของผม เรื่องหนังสือไม่ได้แต่ซักเท่าไหร่เพราะงานอยู่ในช่วงทดลองงาน พอผมหลังจากมีหนี้จากการมีผ่อนตึก 2 คูหาติดกันเพื่อใช้สร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับครอบครัว เค้าเลยเริ่มพูดกับผมหลังจากที่ผมหางานได้ว่า รถเค้าคงผ่อนให้ไม่ได้แล้วในเวลานี้ ที่พอจะทำให้ผมได้คือดาวน์ให้แล้วให้ผมผ่อนเองในระดับที่ผมรับไหว ผมก็ตั้งใจไว้แล้วกับรถึันนี้ว่าจะผ่อนหมดก่อนหรือจะสอบศาลได้ก่อน รถคันนี้คงจะมาเดือนธันวาคม ในวันเกิดผมพอดี แต่พ่อเึค้าให้ของทดแทนมา เป็นเงิน ห้าหมื่นให้ผมเอาไว้ใช้ลงทุนในหุ้น พ่อบอกว่าพ่อให้เบ็ดกับวิธีตกแล้ว ลูกใช้มันหาปลานะ นี่เป็นสิ่งแรกที่ผมได้ก่อนน้องๆทุกคนจากพ่อ หลังจากที่พ่อให้มาผมก็เล่าให้แม่ฟังด้วยความตื่นเต้น พ่อให้เงินมาช่วงเดือนพฤษภาคม จนถึงตอนนี้เรื่องที่ทำให้ผมรู้สึกแย่เกิดช่วงปลายกรกฎาคม
    เรื่องที่ว่าก็คือ วันที่ผมมีนัดสัมภาษณ์งานในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการแผนกของบริษัท บริษัทนึง แม่ผมส่งข้อความเข้ามาในมือถือ ว่า ยังไงหลังสอบเสร็จแล้วโทรกลับแม่หน่อยนะลูก
    ผมรอการสัมภาษณ์นานมากจนทนไม่ไหว โทรไปถามแม่ว่านี่เกิดเรื่องอะไรขึ้น แม่พูดตะกุกตะกักบอกว่าขอยืมเงินหน่อยหมื่นนึง เอาไปรังวัดทีีดิน
    สภาพผมในตอนนั้นงานยังหาไม่ได้ อาศัยเงินที่พ่อให้ไว้กินไว้ใช้เดือนละ 7 พัน ซึ่งก็แบ่งให้แม่ทุกเดือน เดือนละสามพัน ค่าใช้จ่าค่า้รียนน้องพ่อก็เป็นคนออกให้ ผม้ลยไม่คิดว่าจำเป็นต้องให้มากกว่านี้ ลำพังเงินแค่ 4 พันนี่ก็ลำบากแล้วที่จะใช้แบบให้พอต่อเดือน แต่ที่แม่ขอคือเงินหมื่นนึง กับลูกที่ไม่รู้ว่าจะได้งานมั้ยในวันสัมภาษณ์งาน ซ้ำร้ายขอผมเป็นจำนวนมากซึ่งผมไม้รู้จะไปหามาจากไหนนอกจากพอร์ทหุ้น แม่ก็คงรู้ดีว่าถ้าจะให้ผมต้องเอาเงินนั้นออกมา เงิน ห้าหมื่นนั่นบอกตรงๆว่าผมไม่เคยถอนออกมาใช้เลยใช้หากำไรหุ้นได้เดือนละประมาณ 2-3พัน ถึงจพน้อยแต่ผมก็ทำด้วยตัวเอง แต่แม่ผมกลับมาขอเงินจำนวนมากขนาดนี้กับผมที่ยังไม่มีอะไรในชีวิต ช่วงอายุ 24 ย่าง 25 สำหรับผมแล้วแม่ทำกับผมเกินไปมาก ผมกดเงินออกมาให้แล้วบอกแม่ว่านั่นจะเป็นครั้งแรกแล้วก็ครั้งสุดท้ายที่ผมจะเอาเงินในหุ้นมาให้เค้า แม่ก็รับปาก ผลสรุปผมได้งานครับทำได้จนถึงกันยายน แต่คนประเมิณเค้ามีอคติดับอายุที่น้อยเกินไปของผม กับตำแหน่งงานนี้ ผมเลยต้องหางานใหม่ ไปได้ผู้จัดการทั่วไปอีกที่นึง เริ่มงานวันที่ 16 ตุลา ทำไปได้ไม่กี่วันมอเตอร์ไซค์ผมล้ม ผม้จ็บตัวนิดหน่อยแต่ก็ไปทำงานไม่ได้เป็นอาทิตย์หลังจากเริ่มงายไปได้ไม่กี่วันก็เลยตั้งใจจะๆปเขียนใบลาออก เรื่องที่ทำให้ผมต้องมาเข้าบอร์ดนี้อีกครั้ง มันเริ่มในช่วงที่ผมนอนซมเจ็บแผลอยู่บ้าน แม่เลิกงานกลับบ้านเดินเข้ามาพูดจาไม่อยู่กับร่องกับรอย สุดท้ายโทรศัพท์หาใครไม่รู้ซึ่งปกติ แม่จะไม่คุยโทรศัพท์กับคนข้างนอกต่อหน้าผม ผมที่เจ็บตัวอยู่ถามแม่ที่วางสายแล้วว่าคุยกับใคร แม่บอกว่าคุยกับทนาย แล้วถามผมว่าจำได้มั้ยที่เค้าให้เงินเรา 2 หมื่น ตอนรอขายบ้านครั้งนั้น ผมจำได้อยู่แล้วเพราะผมเป็นคนขอยืมเค้า 5 หมื่น แต่เค้าบอกว่าให้มาเลย 2 หมื่นนิ แม่เลยบอกผมว่าเมียเค้ามาทวงเงินเพราะครอบครัวเค้าลำบากอยู่ แม่เลยอยากจะขอยืมเงินอีก 2 หมื่น คราวนี้ผมจะพิมเป็นบทสนทนาแล้วกันครับ เพราะเรื่องผ่านไปไม่กี่วันผมยังพอจำได้
    ผม: ไม่ให้
    แม่ : แค่ยืมน่ะลูกเดี๋ยวขายบ้านหลังนี้ได้แม่จะคืน
    ผม: เคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าครั้งนั้จะเป็นคีั้งาุดท้ายที่เอาเงินหุ้นออกมา ผมไม่ให้แล้ว
    แม่ไม่พูดมองหน้าผมด้วยสายตาผิดหวัง หรือหาเรื่องผมก็ไม่แน่ใจ รู้แต่ผมรู้สึกขัดตามากกับท่าทางแบบนี้
    ผม: แม่มองทำไม
    แม่ : ไม่มีอะไร แค่อยากให้เราพูดความในใจออกมา
    ผม: ความในใจอะไร
    หลังจากนั้นผมก็พูดจริงๆ ผมเริ่มไปตั้งแต่เค้าบอกว่าเป็นหนี้ไม่มีเงินเหลือ แล้วผมต้องไปทำงานได้มาวันลพ 160 ส่งเงินให้เค้าทุกบาทเพื่อให้น้องมีข้าวกิน พร้อมกับขอคำสัญญาจากเค้าว่า ไม่ต้องดูผมแล้วก็ได้แต่เอาน้องกับตัวเองให้รอดได้มั้ย ดค้ารับปากแล้วเค้าก็ทำไม่ได้ ทั้งๆที่ในช่วงที่ผมืำงานตั้งแต่ได้งานใหม่ก็ส่งให้เค้าตลอด แต่ส่งไปเท่าไหร่ก็ไม่พอ ถมไปเท่าไหร่มันก็ไม่เต็ม ข้าวของในบ้านหายไปทีละชิ้นตอนแรกเค้าบอกคนอื่นยืม จนมายอมรับกับผมว่าเอาไปจำนำในวันที่เกิดเรื่องนี้ ผมไม่อยากด่าเค้า ไม่อยากโทษในความลำบากที่แล้วมา แต่กับเรื่องนี้มันบอกผมได้ชัดว่าแม่จัดการอะไรกับชีวิตตัวเองไม่ได้เลย เหตุผลของเค้าผมไม่เชื่อเพราะทนายคนนี้ให้คือให้ แล้วเค้ายังมีส่วนแบ่งในคดีที่ยังไม่จบอยู่แสนกว่า ผม้ชื่อว่าแม่หลอกผมเอาเงินไปใช้สุรุ่ยสุร่ายแบบไม่ประมาณตัว ความรู้สึกที่ผมมีกับแม่ในตอนนี้ ผมไม่เหลือ ความเชื่อ ศรัทธา ไว้ใจในตัวแม่อีกแล้ว ผมแทบจะไม่อยากอยู่บ้านเดียวกับแม่ ทั้งที่ผมพยายามเต็มที่เพื่อจะได้อยู่กับเค้า หางานทำที่นี่ ส่งเงินให้ อยู่กับเค้า แต่เค้ากลับทำในสิ่งที่ลดความรู้สึกของผมที่มีต่อแม่ลงเรื่อยๆ สุดท้ายที่อยู่ผมคงจะไม่มีแล้ว คงต้องไปอาศัยตึกของพ่ออยู่ เหมือนผมสร้างขึ้นแล้วแม่ทำลาย ผมพยายามทำให้ดีขึ้น แต่แม่ทำให้มันแย่ลงไปเรื่อยๆ
    เงิน 2 หมื่นนั่นผมจะไปถอนออกมาให้เค้าพรุ่งนี้พร้อมกับความรู้สึกดีๆทั้งหมดที่เคยทำร่วมกันมา แม่คงไม่อาจเป็นแรงบรรดาลใจให้ผมสู้ในเรื่องใดๆได้ต่อไปแล้ว เพราะทุกครั้งที่ผมพูดหรือแม้แต่พิม มันมีแต่เรื่องที่ทำให้ผมเสียใจ

    พิมในมือถือครับ ถ้าคำผิดเยอะไปก็ขอโทษด้วย
     
  4. tadayoshi

    tadayoshi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +59
    ผมถามแม่ในวันที่เกิดเรื่องนั่นเลย ผมว่าผมก็ไม่ได้ทำอะไรพลาดไม่ได้มีลูกมีเมียตอนที่ตัวเิงยังไม่พร้อมจะได้ต้องมาเจออะไรหนักๆแบบนี้ แม่ก็พูดขึ้นมาว่า อืม อย่ามีเลยลูกแม่เองเลือกได้ก็ไม่อยากมี ผม้ลยตอบไปว่าสำหรับคนที่ยังไม่มีเค้าสามารถพูดได้ เพราะนั่นอยู่ในทางเลือกของเค้า แต่สำหรับคนที่เป็นพ่อแม่คนแล้วมาพูดแบบนี้มันคือการไม่รับผิดชอบ ตอนที่แม่หย่ากับพ่อมาไม่มีอะไรซักอย่างแม้แต่งานกับเงิน ตัวเองยังอยู่ลำบาก ทำไมถึงคิดเลี้ยงลูกไว้ทั้งสามคน แม่ไม่ได้คิดเลยใช่มั้ย ลูกจะกินอะไร เอาเงินที่ไหนเรียน จะเรียนได้ถึงปริญญามั้ย เอาเงินที่ไหนใช้ ไม่ได้วางแผนก่อนมีลูกเลยเหรอ แม่ก็บอกว่า อืม ไม่ได้คิดอะไรเลย การลำบากมากับแม่ทีสู้หัวชนฝา ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกแย่ แต่เพราะเค้าไม่สํ้ชีวิต หนีปัญหา ทำอะไรไม่คิดถึงความก้าวหน้าของตัวเอง คนที่ไม่คิดถึงตัวเอง ไม่มีทางคิดถึงคนอื่นได้ จนสุดท้ายไม่มีอะไรที่เหลือเลยแม้แต่ที่อยู่ สิ่งที่เค้าจะทำต่อไปหลังจากขายบ้านได้ก็ไม่ใช่ธุรกิจ แต่จะออกจากงานมาใช้เงินที่เหลือจนกว่าจะหมดแล้วค่อยไปอยู่วัดอาศัยข้าวกินประทังชีวิต นี่คือสิ่งที่เค้าบแกผม สำหรับผม แม่รู้สึกขอโทษ ถ้าแม่ไม่เลือกรั้งผมเอาไว้ให้ไปอยู่กับพ่อแต่แรกชีวิตคงสมบูรณ์กว่านี้ ผมก็เห็นด้วยจริง สิ่งที่พลาดที่สุดในชีวิตผมในตอนที่สามารถตัดสินใจเองได้ตอน 7 ขวบ คือเลือกอยู่กับแม่นี่แหละครับ

    จนมาถึงตอนนี้คงไม่มีอะไรที่ผมแก้ได้ ได้แต่คิดว่าลูกที่เกิดจากผม จะไม่ให้เค้าต้องเจอสิ่งเหล่านี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2014
  5. tadayoshi

    tadayoshi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +59
    ผมใจร้อนเกินไปทั้งทีปัญหานี้จบลงง่ายๆด้วยการกอดกันแค่ครั้งเดียว ผมไม่ได้รู้สึกโอเคเท่าไหร่ที่ต้องให้ในครั้งนี้ แต่เค้าเป็นแม่ผม ผมทนดูเค้าตายไม่ได้ แต่จริงๆเกิดเป็นลูกเค้านี่เหนื่อยเป็นบ้าเลยครับ = =
     

แชร์หน้านี้

Loading...