ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เพลิงไหม้ที่พักโรงเรียนปอเนาะปัตตานีวอด 20 หลัง </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>20 กันยายน 2552 21:55 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ปัตตานี – เพลิงไหม้ที่พักนักศึกษาสถาบันอิสลามศึกษาวิทยาวอดร่วม 20 หลัง จากทั้งหมดที่มีอยู่ร่วมร้อยหลัง โดยขณะเกิดเหตุนักศึกษาได้เดินทางกลับบ้าน ส่วนสาเหตุกำลังอยู่ระหว่าการสอบสวน

    วันนี้ (20 ก.ย.) เมื่อเวลา 15.50 น.พ.ต.อ.พูนศักดิ์ ประเสริฐเมฆ ผกก.สภ.ยะรัง รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่สถาบันการศึกษา สถาบันอิสลามศึกษาวิทยา (ปอเนาะแนบาแด) ซึ่งตั้งอยู่ที่ 1/3ม.5 บ้านแนบาแด ต.ยะรัง อ.ยะรัง หลังรับแจ้งจึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลยะรัง จำนวน2 คัน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

    เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าเพลิงไฟกำลังลุกไหม้ปอเนาะซึ่งเป็นที่พักนักศึกษาจำนวนหลายหลัง ที่อยู่บริเวณด้านหลังของปอเนาะการเข้าไปดับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากรถดับเพลิงไม่สามารถเข้าได้ เพราะมีต้นไม้ขวางทางเข้า เจ้าหน้าจึงต้องทุบกำแพงปอเนาะออก

    หลังจากนั้นจึงได้ช่วยกันฉีดน้ำดับไฟไม่ให้ลุกลามขยายวงกว้างขึ้น เนื่องจากมีที่พักจำนวนมากอยู่ติดกันเกือบ 100 กว่าหลัง เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงสกัดเพลิงไฟได้ ตรวจสอบพบว่ามีที่พักจำนวน 20 กว่าหลังรวมทั้งเครื่องใช้ หนังสือเรียนของนักศึกษาได้รับความเสียหายทั้งหมด

    สอบสวนทราบว่าช่วงเกิดเหตุไม่มีใครพักอยู่ เนื่องจากนักศึกษาได้ลากลับบ้านกันหมดเพื่อฉลองเทศกาลวันรายอ จึงไม่มีใครพบเห็น อยู่ๆชาวบ้านเห็นควันไฟลุกไหม้มากแล้วจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ สำหรับประเด็นสาเหตุยังอยู่ระหว่างการสอบสวน

    ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000109990
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ทหาร-ตำรวจรือเสาะรวบ 4 ผู้ต้องสงสัยพัวพันลอบวางระเบิดรถทหาร

    [​IMG]

    นราธิวาส 20 ก.ย.- ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดขบวนรถจีเอ็มซีของเจ้าหน้าที่ทหารชุด เฉพาะกิจนราธิวาสที่ 37 จำนวน 6 คัน ที่บริเวณหัวสะพานคลองโต๊ะกูลี บ้านสาเมาะนอก หมู่ 3 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ขณะสับเปลี่ยนกำลังพล

    ล่าสุดวันนี้ (20 ก.ย.) พ.ท.ธวัชชัย ตั้งพิทักษ์กุล ผบ.ฉก.นราธิวาสที่ 30 พ.ต.อ.ปิยวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้กำกับการ สภ.รือเสาะ สนธิกำลังกันกว่า 100 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นที่ขนำ หลังหมู่บ้านตันหยงมุสลิม หมู่ 3 ตำบลสุวารี อำเภอรือเสาะ ยึดของกลางได้จำนวนมาก ประกอบด้วย ระเบิดแสวงเครื่องพร้อมใช้งาน 1 ลูก กระสุนปืน .45 ปุ๋ยยูเรียนผสม 1 ถุง ตะปูตัดเป็นท่อนขนาด 2 นิ้ว จำนวนมาก มีด พร้า เสียม สายไฟฟ้า และชุดลายพรางทหาร และยังควบคุมผู้ต้องสงสัยได้อีก 4 ราย คือ นายอับดุลฮากี มะสาแมง อายุ 22 ปี นายมะรอสดี มะสาแมง อายุ 46 ปี นายตัรมีซี เจ๊ะเต๊ะ อายุ 21 ปี และ นายยา มะสาแมง อายุ 42 ปี ไปสอบสวนขยายผลที่ชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 30 เบื้องต้นผู้ต้องสงสัยยังคงให้การปฏิเสธ.- สำนักข่าวไทย

    2009-09-20 13:43:13

    เรือล่มเขื่อนลำปาวเสียชีวิต 5 ราย

    [​IMG]

    กาฬสินธุ์ 20 ก.ย.- เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (20 ก.ย.) เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ และชาวบ้านช่วยกันงมหาร่างผู้ประสบอุบัติเหตุ 5 คน จากเรือพลิกคว่ำในเขื่อนลำปาว บริเวณบ้านท่าเรือ ต.นาเชือก อ.ยางตลาด

    ทั้งนี้ พบผู้เสียชีวิตและนำขึ้นฝั่งแล้ว 3 ราย คือ น.ส.ภาวรินทร์ โพธิ์ไพร อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 ด.ญ.กุลธิดา โพธิ์ไพร อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 ด.ช.อัธยา โพธิ์ไพร อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป.4 ซึ่งทั้ง 3 เป็นลูกของ นายสุวิทย์ และ นางธิติมา โพธิ์ไพร อยู่ที่หมู่ 16 ตำบลโสน อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ส่วนอีก 2 ราย เสียชีวิตแล้วเช่นกันอยู่ระหว่างนำขึ้นฝั่ง ซึ่งเป็นหลานของนายสุวิทย์ คือ ด.ญ.อุไรวรรณ นาครินทร์ อายุ 7 ปี ด.ช.สุขสรร ศักดิ์ดา อายุ 5 ปี

    เบื้องต้นทราบว่า นายสุวิทย์ พาครอบครัวและหลานมาเยี่ยมญาติที่บ้านท่าเรือ จ.ศรีสะเกษ และก่อนเดินทางกลับ จึงแวะนั่งเรือหางยาวเที่ยวชมเขื่อนลำปาว ทั้งหมด 8 คน รวมถึงคนขับเรือทราบเพียงชื่อเล่นว่า นายแมว ขณะแล่นผ่านหน้าสันเขื่อน ห่างจากหมู่บ้านท่าเรือประมาณ 500 เมตร เรือเกิดพลิกคว่ำบริเวณจุดน้ำลึก หลังเกิดเหตุ นายแมว หลบหนีไป.- สำนักข่าวไทย

    2009-09-20 16:38:13

    ศพผู้เสียชีวิตจากโรคไข้กาฬหลังแอ่นนำไปบำเพ็ญกุศลที่พิษณุโลกแล้ว

    [​IMG]

    พิษณุโลก 20 ก.ย.-ญาติผู้เสียชีวิตจากโรคไข้กาฬหลังแอ่นได้นำศพไปบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดพิษณุโลกแล้ว โดยแพทย์ได้ห่อศพอย่างมิดชิด และกำชับญาติห้ามเปิดดูศพ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ ขณะทีมแพทย์เร่งตรวจสอบโรคและเฝ้าระวังอาการของญาติและผู้ใกล้ชิด

    ผู้สื่อข่าวรายงานจากวัดบึงบอน หมู่ที่ 6 ตำบลหนองกุลา อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ว่า ญาติได้นำศพนายวรวุธ คงแรต อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดพิษณุโลก ที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อโรคไข้กาฬหลังแอ่นชนิดรุนแรง หลังเดินทางกลับจากประเทศแอฟริกาใต้ ไปบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางความเศร้าโศกของญาติพี่น้อง โดยเฉพาะบิดา และมารดาผู้เสียชีวิต ต่างไม่คาดคิดมาก่อนว่า บุตรชายจะเสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อในกระแสเลือดชนิดรุนแรง

    นางผิว คงแรต มารดาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ก่อนนำศพมา แพทย์ได้ทำความสะอาดศพ พร้อมนำศพใส่ถุงพลาสติกถึง 2 ชั้น และห่อด้วยผ้าขาว พร้อมกำชับไม่ให้เปิดดู เพราะเกรงการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ซึ่งตนก็ปฏิบัติตาม โดยระหว่างแพทย์ทำความสะอาดศพ เห็นใบหน้าบุตรชาย มีรอยจ้ำเลือดที่ใบหน้าจำนวนมาก จนถึงขณะนี้ตนยัง ไม่สามารถทำใจได้ เนื่องจากนายวรวุธ เป็นบุตรชายคนโต ซึ่งเป็นกำลังหลักของครอบครัว และเป็นคนดี ไม่เกเร นิสัยร่าเริง ไม่เคยทำให้พ่อแม่ทุกข์ใจ โดยนายวรวุธมีครอบครัวแล้ว มีบุตรชายอายุ 1 ขวบ 1 คน ขณะที่ช่วงเช้าวันนี้ (20 ก.ย.) ทีมแพทย์จากสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ได้ไปตรวจสอบโรค พร้อมกำชับห้ามดื่มน้ำจากแก้วใบ เดียวกัน ห้ามใช้สิ่งของเครื่องใช้ร่วมกัน โดยบอกว่าโรคนี้ติดต่อกันทางสารคัดหลั่ง น้ำมูก น้ำลาย และเสมหะ ซึ่ง ตนเอง และครอบครัวก็จะระมัดระวังเป็นพิเศษ

    ขณะที่นายอาเขต มาขาว อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นญาตินายวรวุธ และได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศแอฟริกาใต้ร่วมกับผู้เสียชีวิตและเดินทางกลับประเทศไทยพร้อมกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการกักตัวอยู่ในห้องปลอดเชื้อที่สถาบันบำราศนราดูร เพื่อเฝ้าดูอาการการติดเชื้อจากทีมแพทย์ โดยได้โทรศัพท์มาแจ้งให้นางผิวทราบว่า หากไม่มีอาการข้างเคียงใด ๆ แพทย์จะอนุญาตให้มาร่วมฌาปนกิจศพนายวรวุธ ในเวลา 16.00 น. ของวันที่ 22 กันยายนนี้.- สำนักข่าวไทย

    2009-09-20 17:12:07

    สุโขทัยติดอันดับ 3 พบผู้เสียชีวิตไข้หวัด 2009

    [​IMG]

    สุโขทัย 20 ก.ย.- นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มอบนโยบายการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในจังหวัดสุโขทัย วันนี้ (20 ก.ย.) ที่โรงพยาบาลสุโขทัย หลังจากพบว่าช่วงวันที่ 1 ก.ค.-12 ก.ย. จำนวนผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวทั่วประเทศ 153 ราย

    เป็นผู้ป่วยใน จ.สุโขทัย 8 ราย ติดอยู่ในอันดับ 3 ของประเทศ รองจาก กทม. และราชบุรี โดยพื้นที่พบผู้ป่วยเสียชีวิตมาก คือ อ.บ้านด่านลานหอย จำนวน 3 ราย ล่าสุดยังคงพบผู้ป่วยติดเชื้ออีก 6 รายที่ยังคงรักษาตัวอยู่ในขณะนี้ สำหรับสาเหตุที่เสียชีวิต เพราะผู้ป่วยส่วนใหญ่มาพบแพทย์ช้า และมีโรคประจำตัวร่วมด้วย เช่น เบาหวาน ความดันสูง โรคหัวใจ และโรคทางเดินหายใจ ดังนั้น หน่วยงานสาธารณสุขจังหวัด รวมทั้งสถานพยาบาลจะต้องดำเนินการตรวจคัดกรองโรคอย่างเข้มข้น เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคและเฝ้าระวังอาการป่วยที่น่าสงสัย.- สำนักข่าวไทย

    2009-09-20 14:27:54

    แก๊งปาหินโผล่พัทยาปารถนักท่องเที่ยว

    [​IMG]

    ชลบุรี 20 ก.ย.-วัยรุ่นเมืองพัทยาซิ่งรถจักรยานยนต์สวนเลน จนเกือบถูกนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษขับรถชน แต่กลับไม่พอใจขี่รถตามประกบแล้วปาก้อนหินใส่

    ช่วงค่ำที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายปาก้อนหินใส่รถยนต์ของชาวต่างชาติ บริเวณปากซอยก่อไผ่ ถนนพัทยาใต้ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เมื่อไปตรวจสอบพบรถยนต์ฮอนด้า แจ๊สสีดำ ของนางแพททริค อัลเลน วอร์ด ชาวอังกฤษวัย 38 ปี อยู่ในสภาพกระจกด้านซ้ายข้างคนขับ ถูกปาเป็นรู และแตกร้าวทั้งบาน โดยนายแพททริคให้การว่าขณะกำลังขับรถกลับบ้าน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ มีชายวัยรุ่น 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ก่อนที่คนนั่งซ้อนท้ายจะปาก้อนหินขนาดเท่ากำปั้นมือเข้าใส่ทางกระจกประตูข้างคนขับ แต่โชคดีที่ตนไม่ได้รับบาดเจ็บ

    คาดว่าอาจเป็นกลุ่มวัยรุ่นรถซิ่งที่ขี่รถจักรยานยนต์สวนเลน จนเกือบถูกตนขับรถชนก่อนหน้านี้จึงไม่พอใจตามมาปาหินใส่ ด้านตำรวจจะเร่งติดตามคนร้ายทั้งสองคนมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เพราะเป็นการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของประเทศไทยในสายตานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ .-สำนักข่าวไทย

    2009-09-20 23:06:33

    ทหารลดกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานฯเขาพระวิหารหลังเหตุการณ์สู่ภาวะปกติ

    [​IMG]


    ศรีสะเกษ 20 ก.ย.-กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และชาวบ้านในพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกันวานนี้ (19 ก.ย.) ต่างเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับอีกฝ่าย ขณะที่ทหารลดกำลังเจ้าหน้าที่บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารหลังเหตุการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก นายวีระ สมความคิด แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้นำตัวแทนของกลุ่มพันธมิตรฯ จำนวน 33 คน เดินทางขึ้นไปอ่านแถลงการณ์บริเวณหน้าผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ประกาศเจตนารมณ์ทวงคืนดินแดนไทย ก็ได้เดินทางไปที่ สภ.บึงมะลู อำเภอกันทรลักษ์ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ในข้อหา ทำร้ายร่างกายและทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย จากกรณีเกิดเหตุปะทะกันวานนี้

    ด้านนายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนันตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ ซึ่งเป็นแกนนำชาวบ้านที่ต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า ในส่วนของชาวบ้านที่ต่อต้านและได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้ 4 ราย รวมทั้งทรัพย์สินได้รับความเสียหายหลายรายการ ซึ่งตนจะนำกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บไปแจ้งความที่ สภ.บึงมะลู ในวันนี้ เพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯ เช่นกัน

    ส่วนที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์ พล.ต.ชวลิต ชุณประสาร ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ได้เป็นผู้แทนของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก นำเอากระเช้าผลไม้ไปเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกันระหว่างกลุ่มพันธมิตรฯ กับชาวบ้าน ซึ่งผู้บาดเจ็บจำนวน 6 ราย พร้อมกล่าวว่า การตั้งด่านทหารสกัดบริเวณหน้าด่านอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารนั้น เนื่องจากเหตุการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว จึงสั่งการให้ลดกำลังทหารลงบางส่วน และให้ทหารที่ปรับลดกำลังลงไปปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจเดิมต่อไป.- สำนักข่าวไทย

    2009-09-20 17:25:57

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2009
  3. k_isara

    k_isara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +119
    21 ก.ย. 52

    ชีพจรลงเท้า

    เช้านี้ได้ไปซื้อตั๋วล่วงหน้า ที่ขนส่งรังสิต เพื่อที่จะขึ้นไปซื้อที่ดินที่เชียงคาน ในคืนวันพุธที่ 23 ก.ย. 52 ถึงเชียงคานเช้าประมาณ 7.00น. กลุ่มผมไปกัน 3 คน มีผม ลูกสาวคนโตและน้าสาวของลูก ส่วนอีกกลุ่มจะขับรถขึ้นไปเอง จำนวนไร่ที่จะซื้อที่แน่นอนคือ 2ไร่ ส่วนผู้ติดตามไป จะไปดูพื้นที่ ถ้าถูกใจก็จะซื้อตาม

    เมื่อซื้อขายเรียบร้อย ผมจะเริ่มจ้างคนพื้นบ้านขุดบ่อเก็บมูล ตอนแรกคิดว่าจะขุดสัก 12 บ่อ แต่ถ้ามีผู้ซื้อที่ดินเพิ่มก็จะขยายจำนวนบ่อเพิ่มขึ้น แล้วซื้อโอ่งยักษ์ตั้งเรียง ทำหลังคาค่อมเพื่อที่จะรองรับน้ำฝน ขังน้ำไว้เพื่อทำความสะอาดโอ่งแล้วจึงเดินท่อน้ำประปาหมู่บ้านเข้าเก็บน้ำไว้ใช้ โอ่งน้ำผมจะแยกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกจะเก็บกักน้ำฝน กลุ่มสองจะเก็บกักน้ำประปา

    งานทั้งหมดจะเริ่มทำเมื่อขึ้นไปทำบุญทอดกฐินที่วัด ในวันที่ 24 ตุลาคม 52 ส่วนจำนวนโอ่งน้ำ ผมจะให้ผู้ที่ตามผมไป ซื้อครอบครัวละ 4 ใบ ส่วนราคาโอ่ง จะไปต่อรองราคาเพราะจะซื้อจำนวนมาก แต่ค่อยๆทยอยซื้อ เที่ยวนี้ขึ้นไปจะไปซื้อส่วนหนึ่ง (สั่งจองไว้) ให้ส่งช่วงขึ้นทำบุญ จะได้อยู่ทำงานบนนั้นเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2009
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    เตือนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเจ้าพระยาในไทยเสี่ยงจมน้ำทะเล

    [​IMG]
    ปากแม่น้ำเจ้าพระยา

    ปารีส 21 ก.ย.- ผลการศึกษาจากภาพถ่ายดาวเทียมเตือนว่า 2 ใน 3 ของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำใหญ่ทั่วโลกเสี่ยงจมน้ำ หนึ่งในนั้นมีสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเจ้าพระยาของไทยที่ทรุดลงปีละ 2-6 นิ้ว เพราะการสูบน้ำบาดาล

    เจมส์ ซิวิตสกี จากสถาบันวิจัยขั้วโลกเหนือและเทือกเขาแอลป์ มหาวิทยาลัยโคโลราโดในสหรัฐและคณะเผยผลการศึกษาในวารสารเนเจอร์จีโอไซเอินซ์ว่า ร้อยละ 85 ของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำใหญ่ 33 แห่งทั่วโลกเคยถูกน้ำท่วมหนักในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา กินพื้นที่เสียหาย 260,000 ตารางกิโลเมตร มีผู้เดือดร้อนเกือบ 500 ล้านคน พื้นที่เสี่ยงอาจเพิ่มขึ้นอีกครึ่งหนึ่งภายในศตวรรษนี้หากระดับน้ำทะเลสูงขึ้นอันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เอเชียจะเป็นภูมิภาคที่เดือดร้อนหนักที่สุด อย่างไรก็ดี สามเหลี่ยมปากแม่น้ำทุกทวีปที่มีคนอาศัยหนาแน่นและทำการเกษตรล้วนเสี่ยงอันตราย ยกเว้นออสเตรเลียและขั้วโลกใต้

    สามเหลี่ยมปากแม่น้ำที่เสี่ยงจมน้ำมากที่สุดมีทั้งหมด 11 แห่ง เช่น เจ้าพระยาในไทย ไนล์ในอียิปต์ โรห์ในฝรั่งเศส หวงเหอ (แม่น้ำเหลือง) ในจีน แยงซีในจีน แม่น้ำเพิร์ลในจีน สามเหลี่ยมปากแม่น้ำที่เสี่ยงรองลงมามี 7 แห่ง เช่น คงคาในบังกลาเทศ อิรวดีในพม่า โขงในเวียดนาม มิสซิสซิปปีในสหรัฐ ผลการศึกษาระบุว่า สามเหลี่ยมปากแม่น้ำจะมีตะกอนมาสะสมตามธรรมชาติเมื่อน้ำในแม่น้ำเอ่อล้นแล้วท่วมกินพื้นที่กว้าง แต่มนุษย์มีส่วนทำให้สามเหลี่ยมปากแม่น้ำหลายแห่งจมจากการทำเขื่อนกั้นต้นน้ำและเปลี่ยนเส้นทางไหลของน้ำ ทำให้ตะกอนไม่ไหลลงมาสะสม นอกจากนี้การทำเหมืองใต้ดินและการสูบน้ำบาดาลก็มีส่วนทำให้สามเหลี่ยมปากแม่น้ำจมด้วยเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

    2009-09-21 10:40:04

    ที่มา http://news.mcot.net/international/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    เมื่อวาน 20 ก.ย.

    ไปให้อาหารปลาที่วัดมะขาม ปทุมธานี อีกครั้ง

    แม่น้ำเจ้าพระยา ไหลลงไปทะเล เป็นปกติ เวลา ประมาณ 14.00 น.

    แต่เห็นเพื่อนว่า ถ้าเย็นๆ ก็จะไหลย้อนขึ้นอีกครั้ง
     
  6. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    คุณก้องอยู่แถวนี้หรอครับ หรือชอบแวะมาเที่ยวแถวนี้

    ผมอยู่ใกล้ๆ แถววัดมะขามแหละครับ ไปกินก๊วยเตี๋ยวบ่อย
     
  7. doodee1

    doodee1 คนละพวก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6871 ข่าวสดรายวัน


    ยันใช่ศพนักวาดการ์ตูนชินจัง ตกเขาตาย



    [​IMG] เมื่อ 20 ก.ย. เกียวโดรายงานว่า เจ้าหน้าที่แจ้งผลพิสูจน์ศพชายที่พบบนภูเขา ว่าใช่นายโยชิโตะ อุซุย นักเขียนการ์ตูนคนดังของญี่ปุ่นวัย 51 ปี เจ้าของผลงาน "ชินจังจอมแก่น" ที่หายตัวไประหว่างไปท่องเที่ยวปีนเขาตั้งแต่วันที่ 11 ก.ย. และตำรวจระดมกำลังออกค้นหาตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. ซึ่งจุดที่พบศพอยู่ในบริเวณที่นักเขียนคนดังหายตัวไป สภาพศพเสียชีวิตเพราะอาการบาดเจ็บจากการตกเขา <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    ภูเขาที่เกิดเหตุ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ก่อนหน้านี้ ครอบครัวของนักเขียนแจ้งว่า นายโยชิโตะเดินทางจากบ้านพักแถวชานกรุงโตเกียวทางเหนือ ตั้งใจไปปีนเขาอาระฟุนะ ตรงพรมแดนจังหวัดกุนมะกับจังหวัดนางาโน่ ความสูง 1,422 เมตร สัญญาณที่ติดต่อกันได้ครั้งสุดท้ายทางโทรศัพท์มือถือ นักเขียนคนดังอยู่ในเมืองคารุอิซาวะ จังหวัดนางาโน่ ในระยะห่างจากบ้าน 100 กิโลเมตร กระทั่งมีผู้พบศพที่อาจใช่นายโยชิโตะที่ภูเขา

    ด้านสำนักพิมพ์ฟูตะบาฉะ ผู้พิมพ์หนังสือการ์ตูนชินจังแจ้งว่า จะตีพิมพ์ต้นฉบับที่โยชิโตะส่งไว้ล่วงหน้าได้ถึงเดือนธันวาคมปีนี้ โดยโยชิโตะมาพบกองบรรณาธิการครั้งสุดท้ายวันที่ 7 ก.ย. และโทร.มาอีกในวันที่ 9 ก.ย.

    สำหรับโยชิโตะ อุซุย เข้าวงการการตูนในปี 2530 โด่งดังตั้งแต่ปี 2533 เมื่อการ์ตูนเครยอน ชินจัง ได้รับความนิยมอย่างสูง จากบุคลิกตัวการ์ตูนเด็กชายจอมทะเล้น เป็นที่ชื่นชอบทั้งในรูปแบบหนังสือการ์ตูน และการ์ตูนทางโทรทัศน์ เดิมกำหนดไว้ว่าในปีหน้าจะมีงานฉลองชินจังครบ 20 ปี

    "สื่อเพื่อนบ้าน"วิพากษ์ สังคมไทยถึงจุดล่มสลาย!?

    สกู๊ปพิเศษ

    ปารณีย์ จันทรกุล / รายงาน



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>นับตั้งแต่เหตุรัฐประหารปี 2549 เป็นต้นมา การเมืองไทยยังคงวุ่นวายไม่เลิก

    ไม่ว่าการชุมนุมประท้วงหลากสี คนเสื้อเหลืองปิดสนามบิน เหตุจลาจลเดือนเมษาฯ ม็อบแดง-น้ำเงินล่มการประชุมอาเซียนที่พัทยา ฯลฯ

    สถานการณ์เหล่านี้ล้วนอยู่ในสายตาของ "สี่อมวลชนเพื่อนบ้าน" ที่มีความใกล้ชิดกับไทย ซึ่งน่าสนใจว่าเพื่อนบ้านมองเราอย่างไร?

    สถาบันเอเชียศึกษาและสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงทำวิจัยเก็บข้อมูลจากรายงานข่าวผ่านสื่อต่างๆ ของประเทศเพื่อนบ้าน และเผยแพร่ผลงานวิจัยผ่านวงเสวนาเรื่อง "ภาพความขัดแย้งทางการเมืองของไทยในทัศนะของสื่อเอเชีย : กัมพูชา เวียดนาม จีน และพม่า" เมื่อไม่นานมานี้



    อาจารย์วัชรินทร์ ยงศิริ เริ่มต้นยกกรณี "ปราสาทพระวิหาร" ที่สื่อกัมพูชาเสนอข่าวอย่างต่อเนื่องและชี้ให้ผู้อ่านเห็นว่า

    การที่ไทยหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นประเด็นทางการเมืองภายในของไทยอาจนำไปสู่การทำลายความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา พร้อมกับอ้างคำสัมภาษณ์นายฮอร์ นัมฮง รมว. ต่างประเทศกัมพูชาว่า การขึ้นทะเบียนปรา- สาทพระวิหารเป็นมรดกโลกไม่กระทบกับเขตแดน แต่การคัดค้านของไทยเป็นการก่อกวนอย่างหนึ่ง

    นอกจากนั้น นายฮอร์ยังแสดงความผิดหวังที่นักการเมืองไทยนำเรื่องปราสาทพระวิหารมาเป็นข้ออ้างในการปลดนักการเมืองบางคน และสร้างความอับอายให้นักการเมืองที่ถูกอ้างว่ายกแผ่นดินให้กัมพูชา

    สำหรับกรณีปิดสนามบินทั้งสองแห่งกระทบต่อการท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้หลักของกัมพูชา หลังปิดสนามบินทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ากัมพูชาไม่ถึง 500 คนต่อวัน และกระทบต่อชาวกัมพูชามุสลิมที่จะไปประกอบพิธีฮัจญ์ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ส่วนกรณีการเลื่อนประชุมสุดยอดอาเซียนจากความวุ่นวายของม็อบเสื้อแดง ผู้นำกัมพูชาหวังว่าจะจัดประชุมได้โดยเร็ว หากไม่สามารถทำได้ก็ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของประเทศอื่น อีกทั้งรายงานว่า "ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา" ยุครัฐบาลประชาธิปัตย์ย่ำแย่ลงเพราะคำพูดของนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ซึ่งนายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวว่า แม้สิ่งที่นายกษิตพูดจะเปลี่ยนคำพูดและยกโทษให้ แต่ตนก็คิดว่าไม่สามารถจับมือกับนายกษิตได้ คงทำได้แค่ทักทาย

    นอกจากนี้ สื่อกัมพูชายังโจมตีสื่อไทยฉบับหนึ่งที่อ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีอยู่ในกัมพูชาว่า เป็นข่าวโคมลอย พยายามดึงความขัดแย้งการเมืองภายในของไทยมาเป็นความขัดแย้งทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ



    ส่วนการตรวจสอบข้อมูลจากสื่อพม่า นายณัฐพล ตันตระกูลทรัพย์ หนึ่งในทีมวิจัย พบว่า

    สื่อรัฐบาลอย่าง "นิว ไลต์ ออฟ เมียน มาร์" หลีกเลี่ยงการนำเสนอเหตุการณ์รัฐประหารในไทย โดยเสนอเพียงพื้นที่เล็กๆ และนำเสนอในแง่การเปลี่ยนรัฐบาลโดยไม่มีความรุนแรง

    ยิ่งช่วงที่ไทยมีการเคลื่อนไหวทั้งม็อบเสื้อเหลือง เสื้อแดง รัฐบาลสั่งห้ามนำเสนอเด็ดขาด เนื่องจากการประท้วงทางการเมืองเป็นเรื่องอ่อนไหวของพม่า <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ยกเว้นกรณีปิดสนามบินที่ปล่อยให้มีการรายงานข่าว เพราะต้องชี้แจงสาเหตุการยกเลิกเที่ยวบินพม่าต่อประชาชน

    อย่างไรก็ตาม เมื่อรัฐบาลพม่าต้องการตอบโต้ไทย เช่น กรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีโจมตีพม่าเรื่องสิทธิมนุษชน รัฐบาลก็ใช้สื่อเป็นกระบอกเสียงได้ทันที

    ฝ่าย "สื่อต่อต้านรัฐบาลพม่า" ได้แก่ อิระวดี มิซซิมา และดีวีบี นำเสนอข่าวทั้งการประท้วง การรัฐประหารเพื่อนำไปโจมตีความอ่อนแอของรัฐบาลพม่า

    การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทยจึงเป็น "วิกฤต" ของรัฐบาลพม่าที่ไม่สามารถใช้ประ โยชน์จากเหตุรุนแรงในไทยได้

    แต่เป็น "โอกาส" ของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลที่ใช้ประเด็นเดียวกันเพื่อโจมตีรัฐบาลได้



    ด้านสื่อเวียดนาม ผศ.ดร. มนธิรา ราโท วิเคราะห์หนังสือพิมพ์ต๋วยแจ๋ หนังสือ พิมพ์เวียดนามนิวส์ หนังสือ พิมพ์เญินเซิน กระบอกเสียงของรัฐบาล และหนังสือพิมพ์แทง เนียน ซึ่งมีนักข่าวประจำกรุงเทพฯ พบว่า สื่อเวียดนามค่อนข้างเห็นอกเห็นใจ "กลุ่มคนเสื้อแดง" เพราะประวัติ ศาสตร์เวียดนามนั้นการต่อสู้มาจากคนชนบท

    สื่อเวียดนามให้ภาพของคนเสื้อแดงว่าเป็น กลุ่มชาวนายากจน ต่อต้านเสื้อเหลืองและปก ป้องพ.ต.ท.ทักษิณ

    ส่วนกลุ่ม "คนเสื้อเหลือง" ให้คำนิยามว่า มาจากชนชั้นสูงและชนชั้นกลางที่ได้รับการสนับ สนุนจากทหารกลุ่มอนุรักษนิยม

    ขณะที่กลุ่ม "คนเสื้อน้ำเงิน" ประกอบด้วย "คนในเครื่องแบบ" ใกล้ชิดกับลูกชายประธานรัฐสภาไทยและมีแนวโน้มเข้าข้างรัฐบาล

    ประเด็นการปิดสนามบิน สื่อเวียดนามเห็นว่ากระทบต่อสายการบินของเวียดนามและมีนักท่องเที่ยวเวียดนามตกค้างในไทย อีกทั้งตำหนิการใช้ผู้โดยสารเป็นตัวประกัน แต่ในขณะเดียวกันก็มองในแง่บวกว่าคงไม่กระทบกับการท่องเที่ยวโดยรวม

    ส่วนกรณีที่ต้องเลื่อนการประชุมอาเซียน สื่อเวียดนามตั้งคำถามกับโฆษกรัฐบาลไทยว่าจะมอบตำแหน่งประธานอาเซียนให้ประเทศอื่นหรือไม่ (เวียดนามจะเป็นประธานอาเซียนต่อจากไทย) ซึ่งเวียดนามตั้งความหวังไว้มากกับการประชุมสุดยอดอาเซียนเพราะจะช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจในภูมิภาคได้



    ปิดท้ายที่สื่อยักษ์ใหญ่ของจีน ดวงใจ เด่นเกศินีล้ำ วิเคราะห์ผ่านสำนักข่าวซินหัว สื่อหลักของรัฐบาลและพรรคคอมมิวนิสต์จีน พบว่า

    เสนอภาพความขัดแย้งในไทยอย่างเป็นกลาง

    เพราะรัฐบาลปักกิ่งดำ เนินนโยบายไม่แทรกแซงกิจ การภายในของประเทศอื่น

    ในขณะที่สำนักข่าวจงซินและสำนักข่าวเฟิงหวง ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็นชาวจีนโพ้นทะเลนำเสนอเหตุการณ์วุ่นวายในไทยอย่างมีสีสันและวิพากษ์วิจารณ์ได้ถึงแก่น ถึงกับตั้งคำถามแบบไม่อ้อมค้อมถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่า

    เป็นการป่วยไข้ของประชาธิปไตยชั่วครั้งชั่วคราว หรือร้ายแรงเข้าขั้นเป็นความล้มเหลวล่มสลายของระบอบประชาธิปไตยในสังคมไทยกันแน่!!

    "เนื้องอก-มะเร็ง".. เพื่อนรักโทรศัพท์มือถือ??

    หมุนก่อนโลก

    วิทยา ผาสุก wittayapasuk.wordpress.com



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>เพิ่งอ่านข่าวผ่านเว็บไซต์นิตยสาร "Science News" ของสหรัฐ บังเอิญพบข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับ "มือถือ" จึงขอย่อยมาเล่าต่อสั้นๆ

    ทุกวันนี้เจ้าเครื่องมือสื่อสารอิเล็กทรอ นิกส์ขนาดจิ๋ว ที่เรียกว่า "มือถือ" นั้นนับวันยิ่งกลายเป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้ของมนุษย์ยุคดิจิตอล

    ประเด็นหลักของข่าวดังกล่าวก็คือ ต้องการเตือนถึงพิษภัยจากการใช้ "มือถือ" มากเกินไป

    เพราะเชื่อว่า "คลื่น-รังสี" ของมันเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิด "เนื้องอก-มะเร็ง" ในมนุษย์...

    โดยเฉพาะโรคเนื้องอกบริเวณต่อมน้ำลายใต้หู

    หรือ Parotid-gland tumors!

    อันที่จริงคำเตือนเรื่องนี้มีให้เห็นเป็นระยะๆ ในหน้าข่าววิทยา ศาสตร์ และฝ่ายเจ้าของธุรกิจมือถือปฏิเสธมาโดยตลอด

    อย่างไรก็ตามเพื่อความไม่ประมาท ขณะนี้วุฒิสภาสหรัฐได้ตั้ง "อนุกรรมการ" ขึ้นมาแล้ว 1 ชุด

    คอยทำหน้าที่เรียก "นักวิทยาศาสตร์" กับ "ตัวแทนกิจการมือถือ" เข้าให้ข้อมูลโดยละเอียด เพื่อจะได้พิจารณามาตรการป้องกันภัยมือถือในอนาคตอย่างเหมาะสม

    ในเบื้องต้น ความต้องการของฝ่ายนักวิทยาศาสตร์นั้นอยากให้ทางการออกนโยบายคุ้มครองผู้บริโภคด้วยการติดสติ๊กเกอร์ หรือป้าย "คำเตือน" ติดไว้กับมือถือด้วย ว่า

    ถ้าใช้แล้วอาจ "เพิ่มความเสี่ยง" เจ็บป่วยด้วยโรคอะไรบ้าง?

    แนวคิดนี้ว่าไปแล้วก็เหมือนวิธีพิมพ์คำเตือนโรคร้ายที่อาจเกิดขึ้นลงบนบรรจุภัณฑ์บุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั่นเอง

    ถ้าผู้บริโภคเห็นแล้วไม่สนใจ พร้อมเอาสุขภาพตัวเองเข้าเสี่ยง ย่อมเป็นเรื่อง "ส่วนบุคคล" ตัวใครตัวมันห้ามกันไม่ได้...

    แต่อย่างน้อยที่สุด "ภาครัฐ" ซึ่งมีภารกิจดูแลสุขภาพประชาชนก็ยังพอพูดเต็มปากเต็มคำเวลาปัญหาบานปลาย ว่า

    "เราเตือนท่านแล้ว แต่ท่านไม่ฟังเอง!"

    สำหรับบ้านเรา...ในเมื่อยังไม่มีหน่วยงานไหนอาสาดูแลสุขภาพคนใช้มือถือก็คงต้องเริ่มป้องกันตัวกันเอง แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องเลิกใช้เด็ดขาด

    เพียงแค่อย่าใช้นานเกินไป หรือใช้ระบบแฮนด์ฟรีแทน เนื่องจากมีงานวิจัยหลายสำนักระบุว่า ช่วยลดความเสี่ยงเกิดเนื้องอกและมะเร็งได้มากทีเดียว

    หลวงปู่กาหลง ศิษย์เอก 5 พระเกจิดัง

    คอลัมน์ อริยะโลกที่6



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>"หลวงปู่กาหลง เตชวัณโณ" วัดเขาแหลม อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ลูกศิษย์ลูกหามักเรียกขานท่านว่า "หลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว" พระเถราจารย์หนึ่งเดียวที่มีเขี้ยวแก้วกลางเพดานปาก ซึ่งคนโบราณเชื่อว่าเป็นผู้มีบุญญาธิการสูง

    ชาติภูมิของหลวงปู่กาหลง เกิดในสกุล นงนุช เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2461 ปีมะแม เป็นชาวเมืองเพชรบุรีโดยกำเนิด ก่อนที่ครอบ ครัวจะย้ายมาอยู่ที่จ.ปทุมธานี

    มีเรื่องเล่าตอนท่านถือกำเนิดว่า มีชายคนหนึ่งชื่อ ลุงบาง อาชีพหาปลา มีอยู่คืนหนึ่ง ขณะที่ลุงบางออกหาปลา ได้เห็นดวงไฟลอยมายังหน้าบ้านของหลวงปู่ จึงตามดวงไฟดังกล่าวเพื่อดูให้รู้ว่าคือดวงไฟอะไร พอตามไปแกก็เห็นพระฤๅษีตนหนึ่งจูงเด็กน้อยเข้าไปในบ้านของหลวงปู่

    เมื่อลุงบางเห็นดังนั้น จึงยกมือขึ้นไหว้ด้วยความศรัทธา แล้วตั้งจิตอธิษฐานว่าหากสิ่งที่เห็นเป็นเรื่องจริง เด็กที่เกิดในบ้านต้องเป็นเด็กชาย และหากเป็นจริง จะเลิกอาชีพหาปลา หันมาเข้าวัดฟังธรรม

    ไม่นานโยมแม่ของหลวงปู่คลอดลูกออกมาเป็นเด็กชาย และให้ชื่อว่า กาหลง ส่วนลุงบางเมื่อพบว่าสิ่งที่ตนเห็นเป็นจริง ก็เลิกหาปลาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทที่พัทธสีมา วัดนาบุญ จ.ปทุมธานี โดยมีหลวงพ่อช้าง วัดเขียนเขต จ.ปทุม ธานี เป็นพระอุปัชฌาย์

    ทั้งนี้ หลวงปู่กาหลงได้ร่ำเรียนวิทยาคมจากพระเกจิชื่อดังมากมาย อาทิ หลวงพ่อเนียม วัดนาบุญ, หลวงปู่ทา วัดพะเนียงแตก จ.นครปฐม, หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จ.พระนคร ศรีอยุธยา, หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง จ.เพชรบุรี, พระราชมงคลมุนี (สนธิ์) วัดสุทัศน์ กทม. และศึกษาวิชาสายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าอีกด้วย

    ส่วนวัตถุมงคลที่ท่านสร้าง อาทิ ผ้ายันต์นารายณ์ทรงครุฑ พระผงรูปเหมือนนั่งเสือ พระปิดตาหลวงปู่กาหลง เหรียญหนุมานขี่สิงห์ปี 2547 เหรียญเสมารูปเหมือนหลวงปู่กาหลง เป็นต้น

    หลวงปู่กาหลงนับเป็นพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่า ที่เคยเข้าร่วมพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลครั้งยิ่งใหญ่ พิธี 25 พุทธศตวรรษ ณ สนามหลวงและพระวิหารหลวงวัดสุทัศน์ เป็นพระภิกษุสงฆ์ที่ประพฤติดีปฏิบัติชอบ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    หลวงปู่กาหลงเป็นพระเถราจารย์ผู้มีฤทธิ์อำนาจวาจาประกาศิต ด้วยเขี้ยวแก้วกลางเพดานปาก มีวัตรปฏิบัติเคร่งครัด คือ 1 ปี สรงน้ำ 1 ครั้ง

    ลูกศิษย์ใกล้ชิดต่างรู้กันทั่วไป หลวงปู่กาหลง ชอบสันโดษ รักษาธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด มีเมตตากรุณาจนเป็นที่นับถือแก่บุคคลทั่วไป ท่านได้อุปถัมภ์วัดหลายแห่งที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อใช้ประกอบศาสนกิจของพระภิกษุ-สามเณร สืบทอดพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง

    แต่ด้วยสังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยงแท้ หลวงปู่กาหลงมรณภาพอย่างสงบ ด้วยโรคมะเร็งที่ลำคอและปอด เมื่อเวลา 01.09 น. กลางดึกคืนวันที่ 13 ก.ย. 2552 ที่โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ สิริอายุ 92 ปี พรรษา 72

    ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2552 หลวงปู่กาหลงได้เดินทางมาพักรักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล ด้วยอาการแน่นหน้าอกและไอ แต่เป็นๆ หายๆ มานาน ต้องเดินทางไปมาระหว่างกรุงเทพฯ กับ จ.สระแก้ว เป็นประจำ

    ภายหลังคณะแพทย์ตรวจพบอาการมะเร็งในลำคอ จึงขอให้หลวงปู่กาหลงงดภารกิจและพักผ่อนมากๆ แต่ท่านยังปฏิบัติศาสนกิจดังเดิม

    วันศุกร์ที่ 11 กันยายน 2552 หลวงปู่เกิดอาการอ่อนเพลีย คณะศิษย์ได้พาหลวงปู่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเปาโลฯ ทันที แต่อาการหลวงปู่กาหลงยิ่งทรุดหนักลง ประกอบกับร่างกายของท่านไม่แข็งแรง ด้วยอายุมากแล้ว ยิ่งทำให้อาการทรุดหนักลงตามลำดับ แม้คณะแพทย์ได้พยายามรักษาท่านอย่างสุดความสามารถ แต่ไม่สามารถยื้ออาการไว้ได้ จึงมรณ ภาพในที่สุด ท่ามกลางความเศร้าสลดของคณะศิษยานุศิษย์

    สำหรับศพหลวงปู่กาหลงได้เคลื่อนย้ายออกจากโรงพยาบาลเปาโลฯ เมื่อเช้าวันที่ 13 ก.ย. ไปตั้ง ณ ศาลาอเนกประสงค์ วัดเขาแหลม และเปิดให้ประชาชนผู้ที่นับถือหลวงปู่ ได้เข้าไปรดน้ำศพแสดงความอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย

    คณะศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่กาหลงกับคณะสงฆ์วัดเขาแหลม ได้ตกลงว่าจะประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลและสวดพระอภิธรรมศพเป็นเวลา 100 วัน ก่อนดำเนินเรื่องเพื่อขอรับพระราชทานเพลิงศพต่อไป

    เสียงพยาบาล-หมอ ภารกิจกลางไฟใต้



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>เหตุการณ์รุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน ให้แก่ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ที่ยังต้องใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ หลายคนอพยพหนีภัยความรุนแรง แต่ก็มีอีกหลายชีวิตที่ไม่คิดจะขยับหนีไปไหน

    ไม่ใช่เพราะไม่มีที่ไป หากแต่ผืนแผ่นดินนี้เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเขานั่นเอง

    กันทิมา อันอิดรุส เป็นผู้หนึ่งที่เลือกใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ นอกจากเป็นถิ่นเกิดของเธอแล้ว แต่ในฐานะหัวหน้าพยาบาล โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช อ.ยะหา จ.ยะลา ทำให้ต้องมีหน้าที่ดูแลชีวิตของผู้ที่ต้องเผชิญอันตรายในสถานการณ์รุนแรงที่ไม่มีทีท่าจะยุติง่ายๆ

    "ตั้งแต่เกิดสถานการณ์ขึ้น ตอนนั้นคุณแม่เพิ่งเสีย คุณพ่อก็เลยเป็นห่วงให้เราย้ายออกจากพื้นที่ไป เราก็เลยคิดว่าจะหาตำแหน่งใหม่ พอดีกับมีตำแหน่งของกรมอนามัยว่าง มีโอกาสจะได้ย้ายไปอยู่ในเมือง ตอนนั้นตัดสินว่าจะต้องออกไปจากพื้นที่อันตราย ก็เลยไปบอกน้องๆ พยาบาลด้วยกัน"

    "แต่เมื่อได้คุยกับทุกคน ซึ่งหลายคนยังไม่อยากให้เราไป และบอกว่าถ้าเราไปเขาก็จะย้ายตามไปด้วย ตอนนั้นนอกจากที่จะรู้ว่าที่นั่นยังมีคนรักเราอยู่แล้ว ยังคิดว่าถ้าทุกคนออกไปหมด ใครจะช่วยดูแลคนไข้ สุดท้ายจึงตัดสินใจไม่ไป และขอคืนตำแหน่งนั้นไป" กันทิมาเล่าถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญในเวทีสานจิตรรเสวนา มหกรรมความรู้การพัฒนาจิต ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    จัดโดย มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ และกำลังใจสู่ผู้ที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากในการทำงานเช่นเดียวกับเธอ

    กันทิมายังเล่าถึงประสบการณ์ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บว่า เมื่อปีพ.ศ.2547 เกิดเหตุยิงกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ทำให้ทหารถูกยิงบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวมารักษา และอีก 15 นาที คนร้ายที่ยิงสู้กับเจ้าหน้าที่คนนั้นก็ถูกส่งมานอนเรียงในห้องฉุกเฉินเดียวกันอีก 2 เตียง

    ในระหว่างนั้นมีเสียงกระซิบขึ้นว่า "ผู้ร้ายนะ" เหมือนกับจะบอกว่าไม่ต้องช่วยเต็มที่ แต่ด้วยจิตวิญญาณของพยาบาลที่จะต้องช่วยทุกคนอย่างเสมอภาค ทำให้ทุกคนพยายามช่วยชีวิตผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างดีที่สุด และสุดท้ายผู้ที่ส่งมาที่หลังก็มีชีวิตรอด ขณะที่ทหารผู้มาก่อนหน้าอาการหนักเกินไปเสียชีวิตในเวลาต่อมา

    "แม้จะรู้สึกเสียใจ แต่ในฐานะพยาบาล เราจะมองแต่อาการบาดเจ็บเพื่อรักษาชีวิตเท่านั้น ไม่ไปดูเบื้องหลังว่าใครเป็นใคร" กันทิมากล่าว

    "มีอยู่ครั้งหนึ่งตำรวจชุดคุ้มครองครูถูกระเบิด มีผู้เสียชีวิต 1 นาย และขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ ปรากฏว่ามีโทรศัพท์ในกระเป๋าของผู้เสียชีวิตดังขึ้น เป็นเสียงของความเป็นห่วงจากแม่ที่โทร.มา 13 ครั้ง ครั้งแรกเราก็ไม่กล้ารับ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจรับและบอกข่าวร้ายนี้กับทางญาติเอง" <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    "จากนั้นจึงกลับมาถอดเสื้อทำความสะอาดศพ ภาพที่ได้เห็นและทำให้ดิฉันต้องเสียน้ำตาก็คือที่คอของตำรวจท่านนั้นมีชายผ้าถุงของแม่ห้อยคอไว้เหมือนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และกำลังใจคุ้มครองเขาที่ต้องเสี่ยงชีวิตนั่นเอง" กันทิมากล่าวถึงเหตุสะเทือนใจ

    ด้าน น.พ.เดชา แซ่หลี ผอ.โรงพยาบาลกระพ้อ จ.ปัตตานี แม้ไม่ใช่คนในพื้นที่ แต่หมอหนุ่มท่านนี้เลือกจะลงมาทำงานในพื้นที่เสี่ยง

    "ตอนนั้นผมได้มีโอกาสเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลแล้ว และเราทุกคนหมายถึงเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ก็พยายามพัฒนาโรงพยาบาลให้เป็นที่พึ่งของชาวบ้าน จนกระทั่งสถานการณ์เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ครอบครัวของผม โดยเฉพาะคุณพ่อ คุณแม่ อยากให้ย้ายออกไปที่อื่น เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย"

    "ตอนนั้นผมก็คิดเหมือนกัน แต่ต่อมามีระเบิดเกิดขึ้นกลางเมืองหาดใหญ่ เป็นบ้านของผม ผมจึงบอกกับครอบครัวว่า ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็เสี่ยงเหมือนกัน ดังนั้น ผมขออยู่ที่นี่เพื่อช่วยเหลือคนไข้ และทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ที่ตั้งใจจะอยู่ช่วยเหลือชาวบ้านในที่นี้ด้วยกัน" หมอเดชา กล่าวพร้อมทั้งเล่าถึงเหตุการณ์ระทึก

    "มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้พวกเรา แพทย์และพยาบาลจะต้องร่วมใจกันเป็นอย่างมาก เพราะมีโทรศัพท์มาบอกว่า จะจัดการกับโรงพยาบาล คืนนี้หมอและพยาบาลตายแน่ ก่อนหน้านั้นมีการวางระเบิดโรงพักและที่ว่าการอำเภอมาแล้ว ตอนนั้นถึงจะรู้สึกหวั่นไหวและกลัว แต่ด้วยความเป็นผู้บริหารก็ต้องนิ่ง และพยายามมีสติเพื่อหาทางว่าจะต้องทำอย่างไร"

    "ผมก็ติดต่อประสานไปยังทหารและตำรวจ เข้ามาตั้งจุดในโรงพยาบาลและ ซักซ้อมกับพยาบาล เพราะก่อนหน้านี้เคยมีแผนเตรียมการไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว ส่วนคนไข้หนักก็ติดต่อส่งไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง ในขณะที่คนไข้ที่สามารถกลับบ้านได้ก็ขอให้กลับไป และพวกเราก็มารวมตัวกันอยู่ที่ตึกโรงพยาบาล หาห้องที่คิดว่าถ้ามีการระดมยิงแล้วจะไม่ได้รับอันตราย"

    "ทุกคนกลัว แต่ก็ต้องอยู่ที่นั่นและตัดสินใจว่าจะไม่ทิ้งโรงพยาบาลไป เพราะคิดว่าถ้าอพยพออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว หากเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นมาก็จะไม่มีแพทย์และพยาบาลคอยดูแลผู้ป่วยที่อาจจะได้รับอันตรายจากสถานการณ์ต่อๆ มาเป็นแน่"

    ปัจจุบัน ทั้ง น.พ.เดชา และกันทิมา ยังคงปฏิบัติหน้าที่แพทย์และพยาบาลอยู่ในโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง พร้อมกับเจ้าหน้าที่ผู้เสียสละอีกจำนวนมาก โดยหวังว่าวันหนึ่งเหตุ การณ์ความรุนแรงจะยุติลง เพื่อความสงบสุขจะได้กลับมาอีกครั้ง

    ]
     
  8. doodee1

    doodee1 คนละพวก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6870 ข่าวสดรายวัน


    ให้อาหารสัตว์ป่า ภัยร้ายฆ่าธรรมชาติ

    มนตรี จิรพรพนิต



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>ธรรมชาติป่าเขาลำเนาไพร เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่คนในสังคมเมืองมักไปท่องเที่ยวเสพสุข หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการตรากตรำทำงานหนัก และเพื่อต้องการหลีกหนีจากความสับสนวุ่นวายของสังคมเมืองชั่วคราว โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลต่างๆ

    ผืนป่าที่คงความอุดมสมบูรณ์ล้วนอยู่ในการดูแลรักษาของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และอุทยานแห่งชาติ กระจัดกระจายกันอยู่ทั่วประเทศ ในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

    โดยเฉพาะพื้นที่อุทยานแห่งชาติที่เปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว จำนวนผู้คนที่เข้าไปจึงมีมากในแต่ละปี ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ตามธรรมชาติของบรรดาสัตว์ป่าอย่างคาดไม่ถึง

    เมื่อมีคนเข้าไปมาก ก็ย่อมตามมาด้วยเสียงดังรบกวนความเป็นอยู่ของสัตว์ หรือจะเป็นความมักง่าย ทิ้งขยะพลาสติกไว้กลาดเกลื่อน

    แต่สิ่งที่กลับส่งผลกระทบมากที่สุด คือ ความใจดีที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ของบรรดานักท่องเที่ยวที่ชอบให้อาหารสัตว์ป่า

    ส่งผลให้เกิดความเคยชินของสัตว์ที่จะเข้าไปรอคอยรับอาหารจากนักท่องเที่ยวเกือบตลอดเวลา โดยเฉพาะ "ลิง" สัตว์ป่าที่นักท่องเที่ยวนิยมให้อาหารมากที่สุด จากความน่ารักน่าชัง ความซุกซนที่น่าเอ็นดู ทำให้คนรู้สึกรักและต้องการมอบของกินดีๆ ให้บรรดาลิงเหล่านั้น <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    แต่การให้อาหารสัตว์ป่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้นจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ และพฤติกรรมของสัตว์ไปอย่างสิ้นเชิง

    สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นแล้วที่ "เขาใหญ่" อุทยานแห่งชาติยอดฮิต เนื่องจากอยู่ไม่ไกลมากนักจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว

    อํานวย อินทรักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกอบรมที่ 2 (เขาใหญ่) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ระบุว่า การที่นักท่องเที่ยวให้อาหารลิง ไม่เพียงเป็นการไปเปลี่ยนพฤติกรรมการหาอาหารของลิงเท่านั้น แต่ส่งผลกระทบเป็นห่วงโซ่ไปถึงพฤติกรรมการหาอาหารของสัตว์อื่น เพราะธรรมชาติสร้างความสัมพันธ์ให้พืชและสัตว์ต้องอยู่ร่วมกัน และพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน

    ก่อนหน้านี้ ศ.ดร.พิไล พูลสวัสดิ์ นักวิชาการด้านสัตว์ป่าและนักอนุรักษ์ เคยทำงานวิจัยชิ้นหนึ่งถึงพฤติกรรมการหากินของลิง โดยระบุว่า นิสัยการหากินของลิงจะหากินเป็นฝูงใหญ่ เมื่อปีนขึ้นไปกินลูกไม้จะไม่ได้หยิบกินจนหมดแล้วจากไป แต่ด้วยนิสัยที่ซุกซนจะหักลูกไม้มาทั้งกิ่ง ไล่ขว้างกัน ไล่ตีกัน โหนเขย่าต้นไม้ด้วยความคึกคะนอง หรือหยิบลูกไม้มากัดคำหนึ่งแล้วโยนทิ้งไป ทำให้บริเวณรอบโคนต้นไม้มีลูกไม้ร่วงอยู่เป็นจำนวนมาก <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ลูกไม้ที่ร่วงลงดินเหล่านั้นจึงเป็นแหล่งวิตามินชั้นดีของบรรดาสัตว์ป่าชนิดอื่น ที่ไม่สามารถปีนต้นไม้ได้ เช่น เก้ง กวาง เม่น เป็นต้น จะสังเกตได้ว่า แหล่งไหนที่มีลิงอยู่มากจะพบรอยสัตว์ชนิดอื่นอยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน

    แต่เมื่อไหร่ที่ลิงเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ยอมขึ้นต้นไม้ไปกินลูกไม้ แต่มานั่งรอขอเศษอาหารเศษขนมจากนักท่องเที่ยวอยู่ข้างถนน จะส่งผลให้ความสมดุลของธรรมชาติเสียไป

    "ไม่ได้หมายความว่า เมื่อลิงไม่ขึ้นต้นไม้ไปแล้วสัตว์อื่นจะไม่ได้กินวิตามิน มันยังมีวิธีหาวิตามินจากทางอื่นได้ แต่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมตามธรรมชาติไป และวิตามินบางตัวที่สัตว์เหล่านั้นต้องการมีเฉพาะผลไม้ที่สุกกำลังพอดีเท่านั้น ดังนั้น การให้อาหารสัตว์ป่าด้วยความใจดีของนักท่องเที่ยวจะค่อยๆ ส่งผลกระทบออกไปในวงกว้างอย่างละเอียดอ่อน จนคนไม่รู้สึกถึงผลเสียที่จะตามมา แต่เป็นการทำลายธรรมชาติอย่างเลือดเย็นที่สุด" นายอำนวยกล่าว

    นอกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการหาอาหารของสัตว์ป่าแล้ว ผอ.อำนวยให้ข้อมูลอีกว่า ขยะพลาสติกที่นักท่องเที่ยวทิ้งไว้ ยังเป็นตัวการฆ่าสัตว์ป่าอย่างโหดเหี้ยมที่สุดเช่นกัน

    โดยเฉพาะถุงขนมขบเคี้ยว เพราะจะเหลือเศษเกลือและน้ำตาลเกาะติดก้นถุงอยู่ กลายเป็นโป่งเทียมเคลื่อนที่ชั้นดีของบรรดาสัตวป่าประเภทเท้ากีบที่ต้องการเกลือในการดำรงชีพ

    แต่บรรดาสัตว์เหล่านั้นยังไม่มีพัฒนาการมากเท่ากับลิง ที่เลือกจะหยิบกินเฉพาะขนมและทิ้งถุงไป สัตว์เท้ากีบไม่ได้แค่เลียถุงขนม แต่เคี้ยวและกลืนลงท้องไป ถุงขนมที่สัตว์กลืนเข้าไปจะไม่ย่อย แต่อัดแน่นอยู่ในกระเพาะอาหาร ก่อนไปอุดตันระบบขับถ่าย จนเป็นสาเหตุให้สัตว์ล้มตายอย่างทรมานในที่สุด

    "เมื่อ 4 ปีก่อน เคยพบแม่กวางท้องอ่อนนอนตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ไม่มีบาดแผลถูกสัตว์อื่นทำร้าย เมื่อผ่าท้องออกมาเห็นถุงขนมกรุบกรอบยี่ห้อต่างๆ อัดแน่นเป็นก้อนอยู่น้ำหนักเป็นกิโล"

    ผอ.อำนวย ย้ำว่า หากทุกคนรักสัตว์ป่าอย่างที่พูดกันจริง ขอให้เปลี่ยนความคิด เปลี่ยนพฤติกรรม เลิกให้อาหารสัตว์ป่า เพราะสัตว์เหล่านี้มีความสามารถในการหาอาหารเองอยู่แล้วตามธรรมชาติ

    ความมักง่ายและความใจดีโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของนักท่องเที่ยวเป็นการทำลายธรรมชาติ และฆ่าสัตว์ป่าอย่างเลือดเย็น

    กระบวนการยุติธรรม คดีสิ่งแวดล้อม

    สุจิต เมืองสุข



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>การทำลายสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติก่อให้เกิดธรรมชาติเสียสมดุล นำมาซึ่งมลพิษ ซ้ำร้ายยังก่อให้เกิดความแตกแยกในชุมนุม และทำลายวิถีชีวิต

    โดยเฉพาะต้นตอของปัญหาที่เกิดจากน้ำมือของกลุ่มบริษัทเอกชน หรือหน่วยงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันสิ่งแวดล้อม

    ดังจะเห็นอยู่บ่อยๆ ในระยะหลังที่ชาวบ้านต้องหันมาพึ่งกระบวนการทางศาล เรียกร้องความยุติธรรม เพื่อปกป้องชุมชนและวิถีชีวิตของพวกเขา

    จากปัญหาเหล่านี้ ศาลปกครองจัดการบรรยายทางวิชาการในหัวข้อ "กระบวน การยุติธรรมทางคดีที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายสิ่งแวดล้อม" โดยเชิญนักกฎหมายที่มีประสบการณ์จากประเทศญี่ปุ่น มาร่วมบรรยายเสริมความรู้กับนักกฎหมายของไทย โดยเฉพาะข้อมูลทางวิชาการเกี่ยวข้องผู้มีสิทธิในการฟ้องคดี ภาระในการพิสูจน์ และการชดเชยค่าเสียหายของกลุ่มคดีมลพิษ และกลุ่มคดีทรัพยากรธรรมชาติ

    นายอัครวิทย์ สุมาวงศ์ รองประธานศาลปกครองสูงสุด เปิดการบรรยายโดยให้แนวทางว่า การพึ่งพากระบวนการยุติธรรมเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม เป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ การกำหนดมาตรการในเชิงป้องกันเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งประชาชนคือองค์ประกอบที่สำคัญ รวมถึงองค์กรภาครัฐและเอกชน ในการร่วมใจพิทักษ์รักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีในปัจจุบันและอนาคต <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ขณะที่ความเห็นของนักวิชาการด้านกฎหมาย โดย ผศ.ดร.คนึงนิจ ศรีบัวเอี่ยม อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุในเชิงนิติศาสตร์ควบคู่กับเศรษฐศาสตร์แบบเข้าใจง่ายว่า การพิจารณาคดีความโดยใช้หลักเศรษฐศาสตร์จะพบว่ามีข้อทับซ้อนในคดีมาก แต่หากใช้หลักนิติศาสตร์ คือผู้ใดก่อผู้นั้นต้องรับผิดชอบ น่าจะทำให้คดียุติลงได้โดยง่าย

    "คดีทางสิ่งแวดล้อมที่มีประเด็นละเอียดมากมีหลายคดี อาทิ มาบตาพุด แม่เมาะ ห้วยคลิตี้ สารโคบอลต์ 60 ซึ่งศาลต้องวินิจฉัย ดังนั้น หากเนื้อหาไม่ชัดเจน กระบวนการจะสับสนมาก ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ไม่ได้เป็นแค่กระบวนการยุติธรรมเท่านั้น ยังมีกระบวนการ บริหารจัดการและการบูรณาการ หากทำได้จริงจะทำให้เหลือข้อขัดแย้งในทางคดีน้อยลง" ผศ.ดร.คนึงนิจกล่าว

    ด้าน น.ส.ฮิเดโกะ ทาเคมิยะ นักกฎหมายจากประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในคณะกรรมการไกล่เกลี่ยคดีทางมลพิษ ซึ่งถือเป็นขั้นตอนก่อนขึ้นสู่ศาลของประเทศญี่ปุ่น นำประสบการณ์ในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในคดีทางมลพิษของญี่ปุ่นมาถ่ายทอด <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    โดยระบุว่า คดีทางมลพิษของประเทศญี่ปุ่น ที่ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลมีไม่มาก ทั้งที่จำนวนที่ร้องเข้ามาต่อปีมีจำนวน 90,000-100,000 เรื่อง แต่ที่จำนวนคดีขึ้นสู่ศาลน้อยเนื่องจากถูกจัดการไกล่เกลี่ยให้คลี่คลายลงโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก่อนซึ่งได้ผล

    ผู้ชำนาญการในการไกล่เกลี่ยคดีทางมลพิษแนะวิธีการคลี่คลายปัญหา เพื่อให้คดีลดจำนวนลงก่อนถึงศาลด้วยว่า ในประเทศญี่ปุ่นใช้วิธีคลี่คลายรวม 4 วิธี คือ การประนอมความ การไกล่เกลี่ย การใช้อนุญาโตตุลาการ และการพิจารณาความคล้ายการใช้กระบวนการทางศาล

    การใช้การประนอมความ และการไกล่เกลี่ย จะเป็นการตกลงกันระหว่างคู่ความ ส่วนการใช้อนุญาโตตุลาการเข้ามานั้น คู่ความจะไม่ขอนำคดีขึ้นสู่ศาล แต่จะขอให้มีคนกลางเข้ามาตัดสินคดี แต่ทั้งหมดมีจุดมุ่งหมายให้คดีคลี่คลายโดยเร็ว ไม่สิ้นเปลืองเวลาและค่าใช้จ่าย

    น.ส.ฮิเดโกะยังเห็นด้วยว่า การใช้วิธีคลี่คลายคดีก่อนถึงศาล 4 วิธีดังกล่าว จะเป็นระบบที่คลี่คลายข้อพิพาทที่มีประสิทธิภาพที่ดี ซึ่งในญี่ปุ่นเองมีการจัดการเช่นนี้ ทั้งในระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และระดับจังหวัด

    ส่วน ดร.ประพจน์ คล้ายสุบรรณ ตุลา การศาลปกครองกลาง ร่วมให้ความเห็นว่า กฎหมายที่ควบคุมสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยมีจำนวนมากมายหลายฉบับ แต่ในรายละเอียดของข้อกฎหมายอาจใหม่สำหรับนักกฎหมายไทย เนื่องจากมีความเกี่ยวพันกันหลายมิติ คือ กฎหมายทรัพยากรธรรมชาติ กฎหมายมลพิษ และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ในกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับศิลปวัฒนธรรม ภูมิทัศน์ หรือแม้กระทั่งกฎหมายผังเมือง

    ดร.ประพจน์ กล่าวว่า ประเด็นการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ Environmental Impact Assessment (EIA) และประเด็นการประเมินผลกระทบสุขภาพ หรือ Health Impact Assessment (HIA) เป็นสิทธิในสิ่งแวดล้อมที่ดี โดยเฉพาะ HIA ถือเป็นหลักการใหม่ ซึ่งหลังการบังคับใช้ที่ผ่านมายังไม่พบว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแสดงความเห็นในเรื่องนี้แต่อย่างใด

    โดยสรุปจากเวทีบรรยายครั้งนี้ทั้งผู้ชำนาญการของญี่ปุ่นและไทย พบว่าจำนวนคดีที่ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลจะมากหรือน้อย ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ

    แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่ระบบการคลี่คลายคดีที่ควรจัดระบบในวงขนาดเล็กให้ได้ผลก่อน และจะทำให้ผลในทางคดี ข้อพิพาท และความขัดแย้งที่เกิดขึ้นลดจำนวนและบรรเทาลง


    ขอโทษที่ข่าวย้อนหลังเห็นว่ามีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมนะเอ๋ย นะเอ๋ย นะเอ๋ย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2009
  9. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ไม่ได้อยู่แถวนั้นครับ

    ผมชอบไปให้อาหารปลาบ่อยๆ ทำทีเป็นกระสอบ แต่ไม่รู้ว่าจะไปให้ที่ไหนดี มีเพื่อนแนะนำที่นี่มาครับ ก็เลยไปทำที่นี่เป็นประจำครับ

    บรรยากาศตอนเย็นๆ ที่นั่นก็ดี ด้วยครับ เงียบดี มีที่พักผ่อน
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    เกิดแผ่นดินไหว 6.1 ริกเตอร์ที่ภูฏานและตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย

    [​IMG]

    อินเดีย 21 ก.ย.-ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 6.1 ริกเตอร์ที่ประเทศภูฏาน ซึ่งสามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียและบังกลาเทศ แต่ยังไม่ชัดเจนว่ามีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหรือไม่

    ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากกรุงทิมพู นครหลวงของภูฏานไปทางทิศตะวันออก 180 กิโลเมตร และอยู่ลึกลงไปใต้ดินประมาณ 7.2 กิโลเมตร แรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงสามารถรับรู้ได้ไกลถึงเมืองกูวาฮาติ เมืองเอกของรัฐอัสสัม ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไป 125 กิโลเมตร.-สำนักข่าวไทย

    2009-09-21 16:55:03

    มีผู้เสียชีวิต 7 คน จากแผ่นดินไหวในภูฏาน
    [​IMG]

    กูวาฮาติ 21 ก.ย. – เจ้าหน้าที่และหนังสือพิมพ์ในภูฏาน รายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 7 คน นอกจากนี้ ยังมีวัดและอาคารหลายหลังได้รับความเสียหาย จากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.3 ริกเตอร์ ในวันนี้

    สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ในเขตพรมแดนของภูฏานติดต่อกับอินเดีย โดยอยู่ห่างจากกรุงทิมพูไปทางตะวันออก 180 กม. และอยู่ลึกลงไป 7.2 กม. รายงานระบุว่า ผู้เสียชีวิตอยู่ในเขตมุงการ์ ใกล้กับบริเวณศูนย์กลางแผ่นดินไหว ซึ่งมีอาคารและวัดได้รับความเสียหายด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยได้ระดมกำลังออกประเมินความเสียหายแล้ว

    แผ่นดินไหวครั้งนี้ รู้สึกได้ถึงในกรุงธากา นครหลวงของบังกลาเทศ เมืองลาซา เมืองเอกของทิเบต และเมืองกูวาฮาติ ในรัฐอัสสัมของอินเดีย ซึ่งมีรายงานประชาชนวิ่งหนีออกมาที่ถนน นอกจากนี้ ยังพบรอยร้าวในอาคารหลายหลัง แต่ไม่เสียหายมากนัก.- สำนักข่าวไทย

    2009-09-21 19:50:35

    อิสราเอลให้สัญญารัสเซียจะไม่โจมตีอิหร่านก่อน

    [​IMG]

    มอสโก 21 ก.ย.-ประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ ผู้นำรัสเซีย ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น ซึ่งจะนำเทปออกอากาศในวันอังคาร ระบุว่า อิสราเอลให้สัญญาจะไม่โจมตีอิหร่าน

    ประธานาธิบดีเมดเวเดฟ ปฏิเสธการสนับสนุนอิหร่าน แต่รัสเซียก็มีสิทธิขายอาวุธที่ใช้ป้องกันตนเองให้แก่อิหร่าน เขาแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยในการใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน เพราะวิธีนี้มักไม่มีประสิทธิภาพ จึงควรใช้เป็นทางเลือกสุดท้ายหลังจากใช้ทางเลือกอื่น ๆ ที่มีความเป็นไปได้อย่างเต็มที่ ผู้นำรัสเซียบอกด้วยว่า การโจมตีอิหร่านจะนำไปสู่หายนะภัยต่อมวลมนุษยชาติ จะเกิดการอพยพของผู้คนจำนวนมหาศาล และอิหร่านจะหาทางแก้แค้นไม่เพียงอิสราเอล แต่กับประเทศอื่นด้วย

    ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้พบปะหารือกับประธานาธิบดีชิมอน เปเรซ แห่งอิสราเอล ที่เมืองตากอากาศโซชิ เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งนายเปเรซ ให้สัญญาว่าจะไม่โจมตีอิหร่าน และบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้นำของรัสเซียสัญญาว่าจะทบทวนสัญญาขายจรวดต่อสู้อากาศยานเอส-300 ให้แก่อิหร่าน ส่วนความสัมพันธ์กับสหรัฐนั้น ประธานาธิบดีเมดเวเดฟ หวังว่าจะดีขึ้นในสมัยของประธานาธิบดีบารัค โอบามา และเชื่อว่ามีโอกาสที่ทั้งสองประเทศจะบรรลุข้อตกลงสนธิสัญญาฉบับใหม่เพื่อลดจำนวนอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ก่อนสิ้นปี

    คำแถลงของผู้นำรัสเซีย มีขึ้นหลังจากอิสราเอล กล่าวเป็นนัยว่าจะทำให้อิหร่าน ล้มเลิกการสร้างระเบิดปรมาณู ถ้าอิหร่านไม่พักโครงการเสริมประสิทธิภาพแร่ยูเรเนียม นอกจากนี้ อิสราเอลวิพากษ์วิจารณ์รัสเซียที่ตกลงขายอาวุธต่อสู้อากาศยาน เอส-300 ให้แก่อิหร่าน.-สำนักข่าวไทย

    2009-09-21 14:13:15

    ผู้บัญชาการทหารสหรัฐในอัฟกานิสถานเรียกร้องเพิ่มกำลังทหาร

    [​IMG]

    วอชิงตัน 21 ก.ย. - หนังสือพิมพ์เดอะ วอชิงตัน โพสต์ รายงานว่า พล.อ.สแตนลีย์ แมคคริสตอล ผู้บัญชาการกองกำลังนาโตและสหรัฐในอัฟกานิสถาน กล่าวในรายงานลับว่า หากไม่เพิ่มกำลังทหารในอัฟกานิสถาน ก็จะทำให้การทำสงครามต่อต้านก่อการร้ายประสบกับความล้มเหลว

    พล.อ.แมคคริสตอล กล่าวในบทสรุปว่า แม้ความพยายามต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายที่ผ่านมามีความคืบหน้าไปบ้าง แต่ก็มีสิ่งบ่งชี้ว่า ความพยายามโดยรวมกำลังเสื่อมถอยลง รายงานชิ้นนี้ได้ส่งไปถึงนายโรเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ เมื่อเดือน ส.ค. และขณะนี้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กำลังทบทวนว่าจะส่งทหารสหรัฐเข้าไปเพิ่มในอัฟกานิสถานหรือไม่

    พล.อ.แมคคริสตอล ระบุว่า การเพิ่มกำลังทหารคือความจำเป็นเร่งด่วนในการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ของสหรัฐ สหรัฐจำเป็นต้องมีปฏิสัมพันธ์กับประชาชนชาวอัฟกันมากขึ้น และการจัดการที่ดีขึ้นกับชาติพันธมิตรนาโต อย่างไรก็ดี กระทรวงกลาโหมและทำเนียบขาวกำลังรอคอยรายงานฉบับอื่น และรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเพิ่มกำลังทหารและทรัพยากรเข้าไปในอัฟกานิสถาน. - สำนักข่าวไทย

    2009-09-21 14:37:46

    เตือนมุสลิมทั่วโลกระวังติดไข้หวัดใหญ่ 2009 ช่วงฉลองอิฎิ้ลฟิตริ

    [​IMG]

    ไคโร 20 ก.ย.- ทางการหลายประเทศเตือนชาวมุสลิมระวังไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ระบาดในช่วงฉลองวันตรุษอิฎิ้ลฟิตริ สิ้นสุดการถือศีลอด เนื่องจากจะมีการชุมนุมตามสถานที่ต่าง ๆ และผู้แสวงบุญจำนวนมากจะเดินทางกลับจากนครเมกกะของซาอุดีอาระเบีย

    ทางการอียิปต์ แนะประชาชนฉลองอิฎิ้ลฟิตริที่บ้านแทนการไปมัสยิดที่มีผู้คนหนาแน่น และยังคงตรวจหาอาการติดเชื้อกับผู้เดินทางเข้าออกท่าอากาศยาน เนื่องจากจะมีผู้แสวงบุญจำนวนมากเดินทางกลับจากนครเมกกะ ปัจจุบันอียิปต์มีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ 2 คน ติดเชื้ออีกเกือบ 900 คน ส่วนรัฐบาลจอร์แดนประกาศคำสั่งทางศาสนาหรือฟัตวา แนะประชาชนเลี่ยงการแนบแก้มและเปลี่ยนไปจับมือแทน ขณะที่ทางการอินโดนีเซียตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิประชาชนที่มาเข้าแถวหน้าทำเนียบรอแสดงความเคารพประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุดโดโยโน

    ส่วนที่อิรัก ชาวมุสลิมชีอะห์ที่นับถืออยาตอลเลาะห์ อาลี ฮุสเซนี อัล ซิสตานี นักสอนศาสนาคนสำคัญที่สุดของนิกายชีอะห์ในอิรัก ยังคงถือศีลอดในวันนี้ เพราะยังไม่เห็นดวงจันทร์ แต่ชาวชีอะท์ที่นับถือมอกตาดา อัล ซาดร์ นักสอนศาสนาที่ต่อต้านสหรัฐสิ้นสุดการถือศีลอดแล้วช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่ชาวสุหนี่สิ้นสุดการถือศีลอดเมื่อวันเสาร์.-สำนักข่าวไทย

    2009-09-20 19:29:21

    องค์การอนามัยโลกจะเน้นรับมือหวัดใหญ่ 2009 ในประเทศยากจนฝั่งตะวันตกของแปซิฟิก

    [​IMG]

    ฮ่องกง 20 ก.ย.- ที่ประชุมองค์การอนามัยโลกประจำภาคพื้นตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก ที่ฮ่องกง ในสัปดาห์นี้ จะให้ความสำคัญเป็นหลักเรื่องการรับมือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ระบาดในประเทศยากจนของภูมิภาคนี้

    คณะกรรมการวิทยาศาสตร์ว่าด้วยโรคอุบัติใหม่ของทางการฮ่องกงชี้ว่า ประเทศกำลังพัฒนาจะยังไม่ได้รับวัคซีนในระยะนี้แม้ว่าสหรัฐและอีก 8 ประเทศรับปากเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าจะแบ่งปันวัคซีน 1 ใน 10 ให้แก่ประเทศที่จำเป็นต้องใช้ ดังนั้นองค์การอนามัยโลกจะต้องหาทางสร้างความเท่าเทียมในเรื่องนี้

    ด้านนายชิน ยังซู ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภาคพื้นตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก กล่าวว่า ภูมิภาคนี้นอกจากไม่สามารถผลิตวัคซีนเองแล้วยังเสี่ยงติดเชื้อเอช1 เอ็น1 เพราะมีคนประมาณ 1 ล้านคนที่ยากจน สภาพความเป็นอยู่ย่ำแย่และไม่ได้รับบริการสาธารณสุข จึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง องค์การอนามัยโลกและสหประชาชาติกำลังระดมเงินเพื่อซื้อวัคซีนให้แก่ประเทศเหล่านี้ ประมาณว่าคนในฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกจะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ราวร้อยละ 20-30 ประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในภูมิภาคจนถึงขณะนี้คือ ออสเตรเลีย 171 คน ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตทั่วโลกอยู่ที่ 3,486 คน เพิ่มขึ้น 281 คนจากสัปดาห์ก่อน.- สำนักข่าวไทย

    2009-09-20 17:39:22

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2009
  11. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    มุทิตาหลวงปู่สุภา-อายุ115ปี

    รายงานข่าวจากวัดสีลสุภาราม ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต แจ้งว่า ทางวัดกำหนดจัดงานมุทิตาสักการะอายุวัฒนมงคล 115 ปี พระมงคลวิสุทธิ หรือ หลวงปู่สุภา กันตะสีโล วัดสีลสุภาราม ซึ่งท่านเป็นศิษย์สายตรงหลวงปู่สีทัตต์ แห่งประเทศลาว และหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ได้ถ่ายทอดวิทยาคมให้หลวงปู่สุภาอย่างไม่ปิดบัง เมื่อสิ้นหลวงปู่ศุขแล้ว หลวงปู่สุภาได้ธุดงค์แสวงหาวิชาอาคมจากครูบาอาจารย์ต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศมากมาย อีกทั้งยังได้สร้างวัดเพื่อสืบสานพุทธศาสนาถึง 30 กว่าวัดและวัดสีลสุภารามเป็นวัดล่าสุด

    นอกจากนี้จะจัดพิธีสวดภาณยักษ์และสวดนพเคราะห์ปล่อยนก 119 ตัว กำหนดการ ( 17กันยา )
    วันพุธที่ 16 ก.ย.2552
    เวลา 16.00 น.พิธีสวดมหาสมัยสูตร โดยพระสงฆ์สมณศักดิ์จากวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์
    เวลา 17.30 น.พิธีสวดธัมมจักกัปปวัตนสูตร
    เวลา 19.00 น.พิธีสวดภาณยักษ์และสวดนพเคราะห์โดยพระสงฆ์สมณศักดิ์
    เสร็จพิธี แจก รูปเหมือน หลวงปู่สุภา ลอยองค์ เนื้อชานหมาก และ ทางธนาคารกสิกรไทย ใด้จัดน้ำขวดเฉพาะกิจ มีสติกเกอร์ รูปหลวงปู่ เป็น น้ำมนต์หลวงปู่สุภา 115 ปี แจก สาธุชน ศิษยานุศิษย์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2009
  12. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    มุทิตาหลวงปู่สุภา-อายุ115ปี
    วันที่ 17 ก.ย.
    เวลา 06.09 น.พิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    เวลา 08.19 น.พิธีบายศรีสู่ขวัญถวายหลวงปู่สุภา
    เวลา 09.00 น.พระสงฆ์แสดงพระธรรมเทศนา โดย พระเทพปริยัติเมธี เจ้าคณะภาค 17 เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์

    เวลา 09.30 น.พระสงฆ์สมณศักดิ์ 9 รูปเจริญพระพุทธมนต์
    เวลา 10.00 น.หลวงปู่สุภาปล่อยนก 119 ตัว
    เวลาประมาณ 10.00 หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ ท่านแสดงมุทิตา หลวงปู่สุภา อัญเชิญพัดยศจำลอง

    พิธีรับพระราชทานเสาเสมาธรรมจักรจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระสงฆ์แสดงมุทิตาสักการะ
    ท่านผู่ว่าราชการภูเก็ต อัญเชิญ เสาเสมาธรรมจักร ทองคำ ...
    ท่านเจ้าคุณ พระเทพปริยัติเมธี เจ้าคณะภาค 17 เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ รับ มอบ จากนั้น ถวาย แด่ หลวงปู่สุภา ลำดับต่อไป

    เวลา 11.00 น.ถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์-สามเณร 200 รูป
    เวลา 12.00 น.หลวงปู่สุภามอบเงินที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จำนวน 100,000 บาท เพื่อใช้ในกิจการตึกสงฆ์อาพาธโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต

    เวลา 13.00 น.มอบทุนการศึกษานักเรียนจำนวน 139 ทุน เวลา
    14.00 น.ศิษยานุศิษย์มุทิตาสักการะหลวงปู่สุภา แจก เหรียญเนื้อว่าน หลวงปู่สุภา ด้านหลัง แมงมุมมหาลาภ (จากปี 2551 )
    ท้ายสุด หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ ท่านเมตตา สวดสะเดาะเคราะห์ แก่ ศิษยานุศิยษ์ และ แจก วัตถุมงคล....
    (บายศรี ปี นี้ 2552 จัดน้อยพอสมควร )
    เป็นอันเสร็จพิธี

    สำหรับท่านเจ้าคุณพระมงคลวิสุทธิ หรือที่ทุกท่านรู้จักกันเป็นอย่างดียิ่งในนาม หลวงปู่สุภา ได้เจริญอายุยั่งยืนนานมาถึง 115 ปี นับได้ว่า หลวงปู่สุภา ท่านเป็นคณาจารย์อาวุโส ที่มีอายุยืนที่สุดองค์หนึ่งในยุคนี้เลย

    ***มีเรื่องเล่า ***
    เวลา 10.00 น.หลวงปู่สุภาปล่อยนก 119 ตัว นก(น่าจะ )ตัวสุดท้าย ตัวที่ 119 เธอ กลับบิน หันกลับ เข้าสู่ ในศาลา สวดมนต์ และ หลบหลีก พัดลมเพดาน จากนั้น เจ้านก ตัวนี้ บิน มาเกาะ ที่หลวงปู่สุภา นาน นับประมาณ ชั่วโมง จน หลวงปู่สุภา ท่าน เมตตา เป่า.....นกเลยบิน จากไปโดยสวัสดิภาพ ***เป็นเรื่อง ที่ฮือฮา กันมาก ในวันที่ 17 กันยา หลายคน มุงถ่ายภาพ กันสุดๆๆ

    ความตอนหนึ่ง ที่ ท่านเจ้าคุณ พระเทพปริยัติเมธี เจ้าคณะภาค 17 เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ ท่านปรารถ...

    ให้ทุกคน มี จิต รัก ชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ อย่างอื่น ไม่พูดถึง ให้ใช้ ปัญญา คิด ในสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อ ชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ ( ถ้า ข้อความโพสส์ ใด อันอาจจะปรามาส พระรัตนตรัย ผม ขอขมากรรม นั้นๆ ครับ ขอรับ ,น้ำมนต์หลวงปู่สุภา ในห้องพระที่บ้าน ข้างๆ ดวงแก้วสารพัดนึก หลวงปู่สุภา ท่านเมตตา อธิฐานจิต เดี่ยวดวงแก้ว ให้ ผม นาคา )

    ขอโมทนา ในกุศลจิต ทุกท่าน ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2009
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    สาเหตุของความขัดแย้งระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล

    [​IMG]
    ประธานาธิปดีของอิหร่านกับประธานาธิปดีของอิสราเอล

    องค์กรลับแห่งยุค Freemason (ฟรีเมสัน)

    ฟรีเมสันเป็นองค์กรลับของพวกยิวที่มาตั้งแต่ยุคสมัยโรมันองค์กรนี้ก่อตั้งขึ้น ในเยรูซาเล็มเมื่อเฮโรด อากริปปาได้เป็นกษัตริย์ของพวกยิวระหว่าง ค.ศ.37-44 กษัตริย์ผู้นี้เป็นหลานของกษัตริย์ เฮโรดมหาราชฆาตกรสังหารเด็กๆของชาวเมืองเบธเลเฮมเพราะกลัวการมาปรากฏตัวของ พระเยซูซึ่งเขาเชื่อว่าจะมาเป็นผู้ทำลายอาณาจักรของเขา

    [​IMG]

    เป้าหมาย แรกของพวกฟรีเมสันคือการต่อสู้กับศาสนาคริสต์ หลังจากนั้น เป้าหมายของพวกนี้ก็เปลี่ยนมาเป็นการต่อสู้กับทุกศาสนา เพื่อสถาปนาอิสราเอลขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่งและเพื่อกลับไปสู่ปาเลสไตน์ ใน ค.ศ.1717 พวกฟรีเมสันได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งหนึ่งภายใต้ชื่อใหม่ว่า"สมาคมฟรีมาโซนิค หรือฟรีเมสัน" เพื่อต่อต้านศาสนาอย่างเปิดเผย นอกจากนั้นแล้ว พวกนี้ยังได้ใช้เครื่องหมายใหม่เป็นรูปสามเหลี่ยมและวงเวียนปลายแหลมสองด้าน เป็นสัญลักษณ์อีกด้วย แหล่งพบปะหรือที่เรียกกันว่า “ลอดจ์” (lodge) แห่งแรกของคนพวกนี้ถูกตั้งขึ้นในอังกฤษโดยใช้คำขวัญใหม่ว่า “เสรีภาพ ภราดรภาพและเสมอภาค”ต่อไปนี้เป็นข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มมาโซนิคและสโมสรต่างๆ ที่กล่าวไว้ข้างต้น หลังจากนั้น คนพวกนี้ก็ตัดสินใจประกาศเป้าหมายที่แท้จริงของตนดังต่อไปนี้ คือ

    1) เพื่อรักษาศาสนายูดาย
    2) เพื่อต่อสู้ศาสนาต่างๆโดยเฉพาะนิกายแคธอลิก
    3) เพื่อเผยแพร่การไม่เชื่อในพระเจ้าและลัทธิเสรีนิยม

    หลังจากนั้น แหล่งพบปะใหม่ๆ ของพวกฟรีเมสันก็ถูกตั้งขึ้นในสหรัฐฯ มีมุสลิมหลายคนหลงเชื่อไปกับคำขวัญของคนพวกนี้และได้ไปเข้าร่วมเป็นสมาชิก ด้วย แต่เมื่อรู้ถึงเป้าหมายที่แท้จริงของคนพวกนี้แล้ว มุสลิมเหล่านี้ก็ถอนตัวออกมาแต่ไม่กล้าเปิดเผยความลับของคนพวกนี้โดยกลัวว่าจะถูกฆ่า


    งานศึกษาหลายชิ้นโดยนักเขียนชาวตะวันตกตลอดจน แถลงการณ์ของพวกยิวและการศึกษาค้นคว้าเป็นการเฉพาะได้พิสูจน์ให้เห็นว่าพวก ยิวกำลังวางแผนที่จะทำให้โลกเสื่อมทรามลงโดยคำขวัญที่สวยหรูต่างๆซึ่งมุสลิม จะต้องระวังไว้ให้ดี คนพวกนี้มีคำขวัญว่า “ศาสนานำไปสู่การแตกแยกในขณะที่ฟรีเมสันนำเราไปสู่ความเป็นอันหนึ่งอันเดียว กัน”

    มีรายงานในสารานุกรมมาโซนิคที่ออกในฟิลาเดลเฟียเมื่อปี ค.ศ.1906 ว่าแหล่งพบปะทุกแห่งของพวกมาโซนิคจะต้องเป็นสัญลักษณ์ของวิหารชาวยิวและครู ทุกคนจะต้องเป็นตัวแทนของกษัตริย์ยิวและองค์การฟรีเมสันทุกแห่งจะต้องรวบรวม ผู้ทำงานชาวยิวไว้ ในแถลงการณ์ของพวกมาโซนิคที่ ออกในลอนดอนในค.ศ.1935 กล่าวว่า : “ความปรารถนาของเราก็เพื่อที่จะก่อตั้งลัทธิความเชื่อที่สมาชิกของลัทธิใช้ วิธีการมีความสัมพันธ์ทางเพศ” ดังนั้น จึงได้มีการตั้งสโมสรต่างๆสำหรับคนชอบเปลือยกายขึ้นและพยายามอย่างเต็มที่ใน การทำลายคุณค่าทางศีลธรรม

    เพื่อบรรลุถึงเป้าหมายของตน พวกฟรีเมสันได้ใช้ชื่อต่างๆกัน เช่น “ลูกหลานแห่งพันธสัญญา” (Children of covenant) “คิวานี”(Kiwani) “ไลออนเนส” (Lioness) “ยะฮ์เวห์ เพรสเซนส์” (Yahweh Presence) “เอ็กซเชนจ์” (Exchange) “สโมสรโรตารี” (Rotary Club) และอื่นๆ ชาร์ลส มาร์ไดน์ (Charles Mardine) ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ในหนังสือเรื่อง Rotary and The Like ของเขาซึ่งตีพิมพ์ใน ค.ศ.1936

    1) ลูกหลานแห่งพันธสัญญา (Children of covenant) พวกมาโซนิคกลุ่มนี้เกิดขึ้นในนิวยอร์คใน ค.ศ.1843 โดยมีสมาชิกเป็นชาวยิวโดยเฉพาะ หลังจากนั้น กลุ่มนี้ก็มีสาขาหลายแห่งทั่วโลก ในการประชุมครั้งหนึ่งซึ่งคนกลุ่มนี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 3/5/1966 นายฟอร์สเตอร์ ดัลลัส ได้กล่าวในที่ประชุมว่า :

    “อารยธรรมตะวันตกวางพื้นฐานอยู่บนความเชื่อของยิว ประเทศตะวันตกทั้งหมดจะต้องป้องกันฐานที่มั่นของอารยธรรมของตน นั่นคือ อิสราเอล”

    2) “กลุ่มคิวานี” กลุ่มนี้มีคำขวัญว่า “รู้ด้วยตัวเองก็แล้วกันว่าจะทำให้เสียงของพวกท่านเป็นที่รับฟังได้อย่างไร” กลุ่มนี้ถูกจัดตั้งขึ้นใน ค.ศ.1915 ในเมืองดีทรอยต์ สหรัฐฯ

    3) “ไลออเนสส์” สาขานี้ปรากฏขึ้นในชิคาโกมาตุภูมิของสโมสรโรตารี ตามหนังสือพิมพ์อัล-อะฮ์รอมฉบับวันที่ 2/12/1985 รัฐมนตรีหญิงได้ไปเปิดสโมสรไลออเนสส์แห่งแรกที่โรงแรมเชอราตันไคโร รายชื่อสมาชิกของกลุ่มนี้มีอยู่ในหนังสือพิมพ์ด้วย

    4) “เอ็กซเชนจ์” ถูกก่อตั้งขึ้นในเมืองดีทรอยต์ในสหรัฐฯเมื่อวันที่ 27/3/1916 โดยชาร์ลส เบอร์คี ซึ่งเป็นพ่อค้าอัญมณีคนหนึ่ง กลุ่มนี้จัดประชุมครั้งแรกขึ้นใน ค.ศ.1917

    5) “ยะฮ์เวห์ เพรสเซนส์” เป็นมูลนิธิของพวกยิวในชื่อคริสเตียน ยะฮ์เวห์เป็นนามของพระผู้เป็นเจ้า (พันธสัญญาเก่า) ถูกตั้งขึ้นในเพนซิลวาเนีย สหรัฐฯหลังจากนั้นก็ย้ายไปอยู่ที่นิวยอร์คในค.ศ.1909 ผู้ปฏิบัติงานของมูลนิธินี้จะออกไปเยี่ยมเยียนผู้คนที่บ้านเพื่อส่งเสริม หลักการที่วางพื้นฐานอยู่บนคัมภีร์โตราห์ (ซึ่งคนพวกนี้ได้บิดเบือนแล้ว) กลุ่มนี้เป็นสมาคมยิวที่อันตรายที่สุดกลุ่มหนึ่งทั้งนี้เนื่องจากมันหลอกลวง ชาวคริสเตียนและสร้างเรื่องเท็จต่างๆขึ้นมาเกี่ยวกับศาสดา เช่น การพยากรณ์ถึงดินแดนแห่งพันธสัญญา

    ใน ค.ศ.1951 ความลับของพวกฟรีเมสันก็แดงขึ้นในวารสารของกองทัพโดยนายทหารคนหนึ่งซึ่งเข้า ไปร่วมกันคนพวกนี้และหลังจากนั้นได้ออกมาเปิดเผยความลับของคนพวกนี้ นอกจากนี้แล้ว นายทหารคนหนึ่งยังได้เปิดเผยความลับของคนพวกนี้ในหนังสือเรื่อง “The World is the Doll of Israel” (โลกนี้คือตุ๊กตาของอิสราเอล) ซึ่งได้ถูกแปลเป็นภาษาอาหรับ นอกจากนี้แล้วก็ยังมีหนังสือบางเล่มเกี่ยวกับเรื่องฟรีเมสันที่เป็นประโยชน์ และสมควรที่จะกล่าวถึงในที่นี้ เช่น “Freemasonry Open Air” และ “Pawns on the Chase”โดย ดร.มุฮัมมัด อะลี อัซ-ซุบี, นอกจากนี้ ดร.มุฮัมมัดเคยเป็นพวกมาโซนิคคนสำคัญคนหนึ่งในเลบานอน แต่หลังจากนั้น เขาสำนึกผิดและได้กลับมาสู่อิสลามและได้ถูกพวกฟรีเมสันฆ่า

    ต่อไปนี้เป็นกฎระเบียบของชะรีอ๊ะฮ เกี่ยวกับเรื่องฟรีเมสันและสมาชิกขององค์กร นี้ซึ่งสภานิติศาสตร์อิสลามได้ประกาศออกมาในการประชุมที่จัดขึ้นในมักก๊ะฮ์ เมื่อวันที่ 10/8/ฮ.ศ.1398 ซึ่งตรงกับวันที่ 15/7/1978 ค.ศ.1978 “หลังจากที่ได้ศึกษาและตรวจสอบทุกสิ่งที่ได้ถูกเขียนและตีพิพม์เกี่ยวกับ เรื่องนี้แล้ว สภาขอกล่าวว่า:

    1) ฟรีเมสันเป็นลัทธิความเชื่อที่มีหลักการและเป้าหมายลึกลับ ไม่มีใครรู้ความลับของคนพวกนี้แม้แต่สมาชิกส่วนใหญ่ยกเว้นคนที่มีตำแหน่ง สูงๆซึ่งบางครั้งทำงานอยู่ในหมู่ประชาชน

    2) องค์กรของลัทธิความเชื่อนี้สร้างความสัมพันธ์ในหมู่สมาชิกของตนออกไปทั่วโลก โดยอาศัยข้ออ้างความเป็นพี่น้องแบบหลอกลวงเพื่อที่จะปกปิดเป้าหมายของตนไว้ เป็นความลับ สมาชิกขององค์กรนี้ประกอบด้วยคนจากทุกศาสนาและความเชื่อ

    3) องค์กรของลัทธิความเชื่อนี้ดึงดูดผู้คนโดยการตอบสนองผลประโยชน์ส่วนบุคคล ทั้งนี้เนื่องจากฟรีเมสันทุกคนจะต้องรับใช้พี่น้องของตนทั่วโลก นั่นคือ เพื่อส่งเสริมสมาชิกให้ประสบความสำเร็จตามที่ใฝ่ฝันไว้ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ ตามและเพื่อช่วยแก้ปัญหาต่างๆให้แก่สมาชิกในการที่จะบรรลุถึงเป้าหมายนั้น คนพวกนี้จะทำงานร่วมกันทั้งในเรื่องความดีและความชั่ว ความยุติธรรมและความไม่ยุติธรรม แต่โดยหน้าฉากแล้ว คนพวกนี้จะทำงานให้ปรากฏเหมือนกับว่าพวกเขาเป็นผู้ช่วยเหลือกันในสิ่งที่ดี พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ พวกฟรีเมสันจะทำงานเพื่อให้สมาชิกของพวกตนเข้าไปดำรงตำแหน่งสำคัญในสังคมและ นี่คือสิ่งดึงดูดคนให้เข้าไปเป็นสมาชิก และสมาชิกเหล่านี้เองที่มีส่วนร่วมอย่างสำคัญต่อการทำงานขององค์กร

    4) การเข้าร่วมองค์กรนี้เริ่มต้นด้วยพิธีกรรมที่แสดงให้เห็นถึงการกระทำที่น่า สะพรึงกลัวเพื่อข่มขู่ให้สมาชิกกลัวถ้าหากเขาหรือเธอฝ่าฝืนคำสอนหรือคำสั่ง ขององค์กร

    5) สมาชิกที่ไม่ประสีประสาจะได้รับอนุญาตให้ปฏิบัติพีธีทางศาสนาของพวกตน แต่คนพวกนี้จะได้รับคำสั่งให้ทำงานบางอย่างตามความสามารถและจะถูกเตรียมตัว ให้เป็นผู้ปฏิเสธพระเจ้าและดำรงตำแหน่งตามลักษณะของงานที่จะนำไปสู่เป้าหมาย และแผนการที่ชั่วร้ายขององค์กร

    6) ฟรีเมสันมีเป้าหมายทางการเมืองและมีบทบาทสำคัญในการรัฐประหารส่วนใหญ่ทั่วโลก

    7) โดยพื้นฐานแล้ว องค์กรฟรีเมสันเป็นองค์กรความเชื่อลึกลับของพวกยิวและไซออนิสต์ ในเป้าหมายอันลึกลับนั้น องค์กรนี้เป็นศัตรูต่อทุกศาสนาโดยเฉพาะอิสลาม

    9) พวกฟรีเมสันเลือกสมาชิกของตนจากหมู่คนที่มีสติปัญญา ฐานะร่ำรวย นักวิทยาศาสตร์และบุคคลผู้มีอิทธิพลต่ประชาชนทั้งนี้เพื่อใช้บุคคลเหล่านี้ ทำงานเพื่อเป้าหมายของตนและสมาชิก

    10) องค์กรนี้ใช้ชื่อและลักษณะต่างๆและทำกิจกรรมที่หลากหลายในที่ที่มีการต่อ ต้านพวกตนเกิดขึ้นในสังคม ในจำนวนชื่อเหล่านี้ได้แก่ โรตารี, ไลออนเนส และสโมสรไลออนส์ เป็นต้น

    เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าฟรีเมสันมีสาย สัมพันธ์ที่ช่วยให้องค์กรของตนควบคุมและชี้นำบุคคลต่างๆทั่วโลกที่มีอำนาจ หน้าที่เกี่ยวกับเรื่องปาเลสไตน์และแสวงหาผลประโยชน์จากสถานการณ์ดังกล่าว จากความจริงดังกล่าวเกี่ยวกับเป้าหมายและวิธีการอันชั่วร้ายที่พวกฟรีเมสัน ใช้ดังกล่าวข้างต้นนั้น สภานิติศาสตร์เชื่อว่าองค์กรลัทธิความเชื่อดังกล่าวเป็นองค์กรอันตรายที่ ทำลายอิสลามและมุสลิม และใครที่เข้าไปร่วมองค์กรนี้ถือว่าเป็นผู้ปฏิเสธความศรัทธาในอิสลาม”

    (เพิ่มเติม จากคุณ kheeds)ในทฤษฎีสมคบคิด (Conspiracy Theory) ว่ากันว่า องค์กรนี้ อยู่เบื้องหลังในเหตุการณ์สำคัญหลายๆ อย่างครับ เช่น การปฏิวัติฝรั่งเศส การประกาศอิสรภาพของอเมริกา หรือ แม้แต่ การปฏิวัติ 2475 ในประเทศไทยเอง กล่าวกันว่า คนระดับคีย์แมนของ คณะราษฎร บางคนเองก้เป็นพวกที่ได้รับการล้างสมองมาจากองค์กรนี้ ปัจจุบันมีหลายองค์กรณ์ที่ถูกเชื่อว่าเป็นหน่วยย่อยของ ฟรีเมสัน

    ญะซากุมุลลอฮุคอยร็อน อันนิสาอฺ

    ที่มา http://www.jihadforjannah.com/bp5/node/235

    ประธานาธิบดีอาหมัดดีนจัดแห่งอิหร่านประกาศว่า จะลบอิสราเอลออกจากแผนที่โลกให้ได้

    กวาดสายตาไปทั่วโลกในสัปดาห์ก่อน สายตาของนักวิเคราะห์ทั่วโลกคงมาสะดุดอยู่ที่ “จุดร้อน” ระหว่าง อิหร่านกับอิสราเอล เมื่ออิหร่านทดลองยิงขีปนาวุธระยะใกล้และไกล 9 ลูกในวันที่ 9-10 กรกฎาคม สองวันติดต่อกัน พร้อมกับเผยแพร่ข่าวการทดลองไปทั่วโลก พร้อมกับขู่ว่า จรวดที่ทดลองบางลูกมีวิสัยไกลไปถึงอิสราเอล

    เป็นที่ทราบกันดีว่า การทดลองยิงจรวดขีปนาวุธดังกล่าวเป็นการตอบโต้อิสราเอลโดยตรง หลังจากมีข่าวว่า อิสราเอลมีการทดลองโจมตีทางอากาศโดยมีเป้าหมายอยู่ที่โรงงานซึ่งสงสัยว่าจะผลิตอาวุธนิวเคลียในอิหร่าน เท่ากับเป็นการส่งสัญญานไปยังผู้นำอิสราเอลโดยตรงทำนองว่า หากคิดจะโจมตีอิหร่าน ก็ควรคิดทบทวนให้ดีเพราะอิหร่านพร้อมที่จะตอบโต้อิสราเอลอย่างถึงที่สุด ซ้ำยังประกาศว่า หากสหรัฐให้การสนับสนุนอิสราเอล อิหร่านก็จะปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางาขนส่งหลักของน้ำมันจากตะวันออกกลางสู่ส่วนต่าง ๆ ของโลกถึงร้อยละ 40 ซ้ำจะโจมตีเป้าหมายทางทหารของสหรัฐในตะวันออกกลางด้วย

    บางคนวิจารณ์ว่า การทดลองยิงขีปนาวุธครั้งนี้ซึ่งมีทั้งจรวดจากอากาศสู่อากาศ จากฝั่งสู่ทะเล จากพื้นสู่พื้น จากทะเลสู่อากาศรวม 9 ลูก เป็นเพียง “การแสดง” แต่ก็ยอมรับว่า จรวดชีฮับ-3 มีวิสัยไกล 2,00 ก.ม.ไปถึงอิสราเอลจริง แต่ยังมีปัญหาเรื่องความแม่นยำ นักวิเคราะห์บางคนบอกว่า อย่าเพิ่งวิตกเกินไปว่าสถานการณ์จะนำไปสู่ความเลวร้าย เพราะอาจเป็นการทำสงครามจิตวิทยาระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลก็ได้

    ช่วงก่อนหน้านี้ ทั้งอิสราเอลและอิหร่านต่างก็มีการซ้อมรบ แต่ละฝ่ายอ้างว่าเพื่อปกป้องอธิปไตยของตนเอง กองทัพอากาศของอิสราเอลมีการซ้อมโจมตีทางอากาศเหนือทะเลเมดิเตอเรเนียน ซึ่งถูกตีความว่า เป็นการซ้อมโจมตีเป้าหมายโรงงานนิวเคลียของอิหร่าน ขณะเดียวกัน สหรัฐก็ช่วยติดตั้งจรวดต่อต่อต้านจรวด “แพตตริออต” ให้กับอิสราเอล ซึ่งจรวดชุดนี้เคยมีชื่อเสียงมาแล้วในการสู้กับจรวดจากอิรักระหว่างสงครามเปอร์เซีย

    อีกด้านหนึ่ง สหรัฐซึ่งเป็นลูกพี่ของอิสราเอลประกาศว่าพร้อมจะปกป้องผลประโยชน์ของตนและของพันธมิตร ซึ่งหมายถึงอิสราเอล และได้ส่งเรือบันทุกเครื่องบินรวม 3 ลำไปประจำอยู่ในอ่าวเปอร์เซีย คุมช่องแคบฮอร์มุซ สำหรับอิสราเอลนั้น รัฐมนตรีกลาโหมยิวประกาศว่าอิสราเอลพร้อมที่จะตอบโต้การโจมตีของอิหร่านโดยทันที

    สำหรับอิสราเอลนั้น อย่าไปดูถูกเป็นอันขาดเพราะอิสราเอลมีทางเลือกเพียงสองทางเท่านั้น คือ “อยู่” หรือ “ ตาย” ที่คนยิวตั้งแต่เกิดจนตายต้องอยู่กับสภาวะสงคราม กองทัพอิสราเอลมีหลักนิยมคือ การโจมตีก่อนเพื่อป้องกันตนเอง ดังนั้น หากมีภัยคุกคามและชัดแจ้งต่อ “ผลประโยชน์สำคัญยิ่งของชาติ” แล้ว อิสราเอลจะไม่ลังเลใจในการ “เข้าโจมตีก่อน”

    ก่อนหน้านี้ อิสราเอลเคยส่งเครื่องบินไปโจมตีเป้าหมายที่สงสัยว่าเป็นแหล่งผลิตอาวุธนิวเคลียของอิรักมาแล้ว สำหรับเป้าหมายอิหร่านนั้น มีข่าวว่า เมื่อต้นปี 2549 อิสราเอลมีแผนโจมตีโรงงานสกัดแร่ยูเรเนียมของอิหร่านที่เมืองนาธานซ์ เพราะถ้าหากปล่อยไป อิหร่านอาจผลิตอาวุธนิวเคลียได้ภายใน 2-4 ปี ซึ่งถือว่าเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่ออิสราเอล ตามแผน เครื่องบินรบอิสรเอลจะยิงจรวดนำวิถีด้วยแสงเลเซอร์ อานุภาพประมาณ 1 ใน 5 ของระเบิดปรมาณูที่ใช้ถล่มเมืองฮิโรจิมาของญี่ปุ่นเป็นการเปิดทางทะลวงบังเกอร์อุโมงค์ จากนั้น จะยิงระเบิด “นิวเคลียจิ๋ว” ตามเข้าไปทำลายห้องทำงานลึกลงไปใต้ดิน เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่กระจายของสารกัมมันตภาพรังสี

    อย่างไรก็ดี แม้อิสราเอลจะมีอำนาจในการตัดสินเพราะเป็นเรื่องความเป็นความตายของตน แต่ก็ต้องปรึกษาหารือกับสหรัฐซึ่งเป็นลูกพี่ใหญ่ก่อน แต่หากอิสราเอลตัดสินใจจริงๆ แล้ว สหรัฐก็ไม่อาจสะกัดกั้นได้ เพราะถ้าข่าวกรองอิสราเอลยืนยันได้ว่า อิหร่านกำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียจริงๆ และประเทศมหาอำนาจอื่นไม่สามารถสะกัดกั้นได้ อิสราเอลพร้อมที่จะโจมตีก่อนทันที เพราะถ้าปล่อยให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียเมื่อไร อธิปไตยของอิสราเอลจะถูกคุกคาม อีกทั้งดุลอำนาจในภูมิภาคจะเปลี่ยนไป

    ประธานาธิบดีอาหมัดดีนจัดแห่งอิหร่านเคยประกาศว่า จะลบอิสราเอลออกจากแผนที่โลกให้ได้ ประธานาธิบดีซีมอน เปเรซของอิสราเอล ให้สัมภาษณ์ตอบโต้ว่า อิหร่านก็มีสิทธิโดนลบออกจากแผนที่โลกได้เช่นกัน ที่สำคัญคือ อิสราเอลมี “ขีดความสามารถ” ที่จะทำได้อย่างที่คุย

    อย่าไปดูถูกอิสราเอล เพราะอิสราเอลได้ทำอะไรหลายอย่างที่โลกคาดไม่ถึงมาแล้ว และทำได้ประสบความสำเร็จอยางดียิ่ง

    บทวิเคราะห์ข่าวจากหนังสือพิมพ์ ไทยนิวส์
    http://www.the-thainews.com/analized/inter/int010851_4.htm
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2009
  14. โชตนา

    โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773
    คนที่อยู่ริมแม่น้ำบอกว่าเป็นปกติน้ำขึ้นน้ำลง เป็นอย่างนี้ทุกวันแหละ


    คนที่อยู่ริมแม่น้ำบอกว่าเป็นปกติน้ำขึ้นน้ำลง เป็นอย่างนี้ทุกวันแหละ
     
  15. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ลงมาแถวพม่าแล้ว

    <table border="0" cellpadding="1" cellspacing="1"><tbody><tr><th> </th> <th align="center">MAG </th> <th align="center">UTC DATE-TIME
    y/m/d h:m:s
    </th> <th align="center">LAT
    deg
    </th> <th align="center">LON
    deg
    </th> <th align="center">DEPTH
    km
    </th> <th> Region</th> </tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 5.6 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2009/09/21 19:38:42 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 20.395 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 94.803 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 82.3 </td><td valign="top"> MYANMAR</td></tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 6.1 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2009/09/21 08:53:06 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 27.351 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 91.425 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 10.0 </td><td valign="top"> BHUTAN</td></tr></tbody></table>
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เพลิงไหม้ชุมชนเกาะกลางคลองพระโขนง วอด 30 หลังคาเรือน!</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ทีมข่าวอาชญากรรม</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>22 กันยายน 2552 07:15 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    เกิดเหตุเพลิงไหม้ชุมชนเกาะกลางคลองพระโขนง เจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิง 50 คัน ใช้เวลา 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ พบบ้านเรือนปชช.ถูกเพลิงเผาผลาญไปกว่า 30 หลังคาเรือน โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

    วันนี้(22 ก.ย.)เมื่อเวลา 03.30 น. พ.ต.ท.วีรวุฒิ มโนรส พนักงานสอบสวน(สบ 2) สน.พระโขนง รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในชุมชนเกาะกลางคลองพระโขนง ซอยสุขุมวิท 50 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. จึงประสานรถดับเพลิงจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย นายบัณฑิต วินิจฉัยกุล ผู้อำนวยการเขตพระโขนง

    ที่เกิดเหตุเป็นชุมชนแออัด มีบ้านเรือนประชาชนซึ่งส่วนใหญ่ปลูกสร้างด้วยไม้ปลูกอยู่ติดกันอย่างหนาแน่นกว่า 100 หลังคาเรือน โดยชุมชนตั้งอยู่บนเกาะกลางคลองพระโขนง ติดกับโรงสูบน้ำพระโขนง มีเปลวเพลิงรวมถึงกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาอย่างหนาแน่น ซึ่งเพลิงได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่ชาวบ้านต่างวิ่งหอบข้าวของ บ้างก็อุ้มลูกจูงหลาน หนีตายกันอย่างอลหม่าน

    เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ระดมรถน้ำกว่า 50 คัน โดยได้ระดมฉีดน้ำจากบนทางด่วน และด้านล่างเพื่อสกัดเปลวเพลิง แต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากทางเข้าชุมชนดังกล่าวเป็นซอยคับแคบ และชุมชุมอยู่กลางน้ำทำให้รถน้ำเข้าไปไม่ถึง อย่างไรก็ตามหลังใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องฉีดน้ำเลี้ยงไว้ เนื่องจากเกรงว่าเพลิงจะปะทุขึ้นมาอีก

    จากการตรวจสอบพบว่าเพลิงได้เผาผลาญบ้านเรือนประชาชนไปกว่า 30 หลังคาเรือน แต่โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบหาบ้านต้นเพลิง รวมถึงสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ อย่างไรก็ตามในช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ต่อไป

    ที่มา http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9520000110628

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เวียดนามเปิดทีวีช่องใหม่เตือนภัยพายุล่วงหน้าโดยเฉพาะ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 กันยายน 2552 17:10 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    สถานีโทรทัศน์ VTC เปิดช่องถ่ายทอดรายการเตือนภัยพิบัติและพยากรณ์อากาศ

    เวียดนามเน็ต - เวียดนามเตรียมเปิดสถานีโทรทัศน์ช่องใหม่เพื่อเป็นช่องทางในการช่วยเหลือป้องกันภัยพิบัติจากธรรมชาติ โดยจะเริ่มออกอากาศในต้นปี 2553 นี้

    สถานีโทรทัศน์ช่องใหม่ VTC14 จะนำเสนอเนื้อหาเชิงสารคดีที่ช่วยเพิ่มการเฝ้าระวังภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งการพยากรณ์ภัยธรรมชาติล่วงหน้า เพื่อให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องและประชาชนได้เตรียมการป้องกันภัยได้ดียิ่งขึ้น

    เวียดนามเป็นประเทศเขตร้อน มีลมมรสุมตลอดทั้งปี และยังอยุ่ในเขตเส้นทางพายุในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ดังนั้นเวียดนามจึงได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติโดยเฉพาะน้ำท่วมจากพายุฝนตลอดทั้งปี

    แต่ละปีจะมีไต้ฝุ่น หรือพายุโซนร้อนพัดกระหน่ำเข้าเวียดนาม 8-10 ลูก ทำให้เกิดพายุลมแรง ฝนตกหนัก เกิดดินถล่มหรือดินเลื่อน สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินแก่ราษฎรในเขตภัยพิบัติ

    ตามรายงานของนักวิทยาศาสตร์นานาชาติ เวียดนามเป็นหนึ่งในสิบประเทศในโลกที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น พายุ น้ำท่วม ดินถล่ม และภัยแล้ง

    ตามรายงานจากกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทระบุว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีประชาชน กว่า 750 คน เสียชีวิตหรือสูญหายไปทุกปีจากภัยธรรมชาติ รวมทั้งความสูญเสียในทรัพย์สินในแต่ละปีเป็นมูลค่าร้อยละ 1.5 ของ GDP ของประเทศ

    ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมเตือนว่า จากภาวะโลกร้อนจะยิ่งทำให้เวียดนามได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติที่ยาวนานขึ้น มีจำนวนมากขึ้น และรุนแรงมากขึ้น.

    ที่มา http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9520000110325
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2009
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    แผ่นดินไหวลงมาแถวพม่าแล้ว

    [​IMG]


    รัฐบาลทหารพม่ายังคงข่มขู่คุกคามพระสงฆ์

    [​IMG]

    กรุงเทพฯ 21 ก.ย. - กลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า รัฐบาลทหารพม่าตัดสินจำคุกและข่มขู่คุกคามพระสงฆ์ หลังจากเหตุการณ์พระสงฆ์นำการประท้วงต่อต้านรัฐบาลผ่านมาได้ 2 ปี ​

    รายงานของกลุ่ม Human Rights Watch (HRW) ระบุว่า พระสงฆ์ประมาณ 240 รูป ถูกจองจำในคุก และอีกหลายพันรูปถูกจับสึก หรือไม่ก็ถูกเฝ้าจับตามองอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่แสดงบทบาทเป็นผู้นำการประท้วงเมื่อปี 2550 ซึ่งนอกจากการจับกุมคุมขังพระสงฆ์แล้ว รัฐบาลทหารพม่ายังได้สั่งปิดโครงการบริการทางสังคมและสุขภาพประชาชนที่ดำเนินการโดยกลุ่มพระสงฆ์ในท้องถิ่นทั่วประเทศ พร้อมกับเฝ้าจับตามองความเคลื่อนไหวของพระสงฆ์เหล่านั้นอย่างใกล้ชิด ส่งผลให้พระสงฆ์จำนวนมากที่ถูกรัฐบาลกดดันต้องลาสิกขา เพื่อกลับไปเป็นฆราวาสในหมู่บ้าน หรือลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ

    ขณะเดียวกัน กลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชนได้กล่าวหารัฐบาลทหารพม่าว่า ใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือสร้างความชอบธรรมทางการเมือง โดยใช้การบริจาคทรัพย์สินที่หรูหราฟุ่มเฟือยให้กับวัดและพระสงฆ์ระดับอาวุโสที่ผ่านการคัดเลือกมาแล้ว ดังนั้น คงไม่ใช่เรื่องน่าประหลาด หากจะเห็นพระสงฆ์ออกมาประท้วงบนท้องถนนอีกครั้ง ถ้าความคับข้องใจทางสังคมยังไม่ได้รับการแก้ไข. - สำนักข่าวไทย

    2009-09-21 18:53:59 ​

    กลุ่มผู้คัดค้านเตือนพม่ายุติปราบชนกลุ่มน้อย

    [​IMG]

    พม่า 21 ก.ย.-กลุ่มผู้คัดค้านรัฐบาลทหารพม่า เรียกร้องให้รัฐบาลหยุดใช้ความรุนแรงต่อชนกลุ่มน้อย เตือนนโยบายดังกล่าวจะยิ่งทำให้จำนวนผู้ลี้ภัยเพิ่มมากขึ้น​

    กลุ่มผู้คัดค้านรัฐบาลทหารพม่า เผยว่ารัฐบาลทหารพม่าเพิ่มความรุนแรงในการต่อต้านชนกลุ่มน้อย ซึ่งมีการดำเนินการมาหลายสิบปี และได้ใช้ความรุนแรงปราบปรามชนกลุ่มน้อยชาวจีนทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศในเดือนที่ผ่านมา

    นักวิเคราะห์กล่าวว่ารัฐบาลทหารพม่าต้องการกำจัดชนกลุ่มน้อย ก่อนการเลือกตั้งในปีหน้า และเตือนว่าหากยังเดินหน้าปราบปรามชนกลุ่มน้อยต่อไป จะนำไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชน และทำให้มีผู้ลี้ภัยจำนวนมากขึ้น นอกจากนี้ กลุ่มผู้คัดค้านยังได้เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เข้าแทรกแซงเพื่อยุติการใช้ความรุนแรงของรัฐบาลทหารพม่า และให้รัฐบาลทหารพม่าเริ่มเปิดเจรจากับผู้แทนของชนกลุ่มน้อยต่างๆ และผู้แทนจากพรรคสันนิบาติแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ NLD ซึ่งมีนางออง ซาน ซู จีเป็นหัวหน้าพรรค.-สำนักข่าวไทย

    2009-09-21 23:04:35

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2009
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ผู้นำอิหร่านขู่ตอบโต้หากถูกโจมตี

    [​IMG]

    เตหะราน 22 ก.ย. - ประธานาธิบดีมาห์มูด อาห์มาดิเนจัด ของอิหร่าน กล่าวปราศรัยในพิธีสวนสนามของกองทัพ ที่กรุงเตหะราน ว่า อิหร่านจะชิงตัดมือของผู้ใดก็ตามที่คิดโจมตีอิหร่านก่อน

    ถ้อยแถลงของผู้นำอิหร่านในพิธีสวนสนามที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ในโอกาสครบรอบสงครามอิรัก-อิหร่าน เดือนกันยายน ปี 2523 ระบุว่า กองทัพอิหร่านจะชิงเล่นงานผู้โจมตีประเทศก่อน และว่าไม่มีใครกล้าโจมตีอิหร่าน เพราะอิหร่านมีประสบการณ์และอำนาจมากกว่าที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า มูลเหตุของความขัดแย้งทั้งหมดในภูมิภาค เป็นเพราะกองกำลังต่างชาติประจำการอยู่

    ทั้งนี้ สหรัฐและอิสราเอลไม่ปฏิเสธทางเลือกที่จะใช้กำลังทหารจัดการกับอิหร่าน กรณีความขัดแย้งเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน. - สำนักข่าวไทย

    2009-09-22 15:18:38

    น้ำท่วมฉับพลันทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐ ทำคนตายแล้ว 4

    [​IMG]

    แอตแลนตา 22 ก.ย. - ทางการสหรัฐแจ้งว่า น้ำท่วมฉับพลันจากฝนตกหนักในรัฐจอร์เจีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 คน

    รัฐจอร์เจียประกาศภาวะฉุกเฉินใน 17 เขต หลังเกิดฝนตกหนักในเมือง
    แอตแลนตา เมื่อวันอาทิตย์และวันจันทร์ วัดปริมาณน้ำฝนได้สูงเกือบ 2 ฟุต ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ เจ้าหน้าที่เร่งออกช่วยเหลือผู้ประสบภัยและหาทางบรรเทาความเสียหาย

    เด็กวัย 2 ขวบคนหนึ่งถูกน้ำที่ทะลักเข้าบ้านเคลื่อนที่ซัดหายไปต่อหน้าต่อตาบิดามารดา ขณะที่สตรีคนหนึ่งขับรถลุยน้ำท่วมแล้วถูกกระแสน้ำพัดตกถนน จมน้ำเสียชีวิต เจ้าหน้าที่เตือนว่า ห้ามขับรถลุยถนนที่มีน้ำท่วมเป็นอันขาด และย้ำว่าน้ำท่วมฉับพลันเป็นสาเหตุเกี่ยวกับสภาพอากาศที่คร่าชีวิตชาวอเมริกันมากเป็นอันดับ 1. - สำนักข่าวไทย

    2009-09-22 16:00:03

    รัฐจอร์เจียของสหรัฐจมอยู่ใต้น้ำ

    [​IMG]

    สหรัฐฯ 22 ก.ย. - รัฐจอร์เจียของสหรัฐต้องจมอยู่ใต้น้ำ หลังพายุฝนฟ้าคะนองเข้าปกคลุมพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐ

    พายุฝนที่ตกลงมาอย่างหนักบริเวณพื้นที่ด้านตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐ ตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ได้ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ บางแห่งระดับน้ำสูงถึง 50 เซนติเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่ทางตอนเหนือของรัฐจอร์เจีย มีปริมาณน้ำฝนมากที่สุดในรอบ 100 ปี

    ขณะนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 6 คน ในจำนวนนี้มีเด็กชายวัย 2 ขวบ รวมอยู่ด้วย ผู้คนกว่า 1,500 คน ต้องอพยพจากบ้านเรือนไปยังที่ปลอดภัย เจ้าหน้าที่ของกาชาดต้องเร่งจัดหาที่พักชั่วคราวให้กับผู้ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

    2009-09-22 11:29:40

    จีนเผยการให้วัคซีนหวัดใหญ่ 2009 รอบแรกได้ผลดี

    [​IMG]

    ปักกิ่ง 22 ก.ย.- เจ้าหน้าที่จีนเผยวันนี้ว่า การให้วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รอบแรกได้ผลเป็นอย่างดี หลังประชาชนกลุ่มแรกที่ได้รับวัคซีนรายงานว่า ไม่มีผลข้างเคียงร้ายแรงจากวัคซีน

    จีนเริ่มโครงการให้วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่แก่ประชาชนเมื่อวานนี้ โดยเบื้องต้นจะให้วัคซีนแก่เด็กนักเรียนในกรุงปักกิ่งราว 100,000 คน สื่อทางการจีนรายงานว่า เด็กกลุ่มนี้เป็นคนกลุ่มใหญ่ที่ได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่กลุ่มแรกของโลก

    นายจ้าว เถา หัวหน้าสำนักงานควบคุมโรคกลุ่มปักกิ่ง ระบุว่า ขณะนี้มีนักเรียนได้รับวัคซีนแล้ว 10,400 คน ทั้งหมดจะเข้าร่วมในงานฉลอง 60 ปีการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน วันที่ 1 ต.ค.นี้ โดยวัคซีนที่ให้ไปได้ผลดี และยังไม่มีรายงานการเกิดผลข้างเคียง หรือความผิดปกติรุนแรงใดๆ อย่างไรก็ดี แม้วัคซีนจะได้รับการรับรองความปลอดภัย และประสิทธิภาพระหว่างการทดลองในมนุษย์ แต่ก็อาจส่งผลให้เกิดอาการบางอย่าง เช่น การอักเสบ และมีไข้ แต่นั่นก็เป็นอาการที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

    กระทรวงสาธารณสุขจีนรายงานยอดผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 จำนวน 13,262 คน ในจำนวนนั้น 8,805 หายป่วยแล้ว และยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากไวรัสชนิดนี้ ขณะที่รัฐมนตรีสาธารณสุขเคยเตือนว่า จีนอาจเผชิญปัญหาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ระบาดอย่างรุนแรง เนื่องจากโรงเรียนเริ่มเปิดทำการเรียนการสอนอีกครั้ง และยอดผู้ติดเชื้อก็พุ่งสูงขึ้น แต่รัฐบาลจีนมีแผนจะจัดหาวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ให้เพียงพอสำหรับประชาชนร้อยละ 5 ของประชากรทั่วประเทศ 1,300 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้.-สำนักข่าวไทย

    2009-09-22 15:55:36

    หนุ่มมนุษย์วานรเข้ารับการผ่าตัด หลังจากไม่ได้แสดงละครโทรทัศน์

    [​IMG]

    จีน 22 ก.ย.-หยู เจิ้งหวน หนุ่มวัย 32 ปี ซึ่งตามร่างกายเต็มไปด้วยเส้นขนปกคลุมคล้ายวานร ได้เข้ารับการผ่าตัดทำศัลยกรรมพลาสติก หลังจากพลาดหวังไม่ได้เข้าร่วมแสดงละครโทรทัศน์

    ร่างกายนายหยู มีเส้นผมสีดำหนาขึ้นปกคลุมถึงร้อยละ 96 เขามั่นใจว่าตัวเองมีความโดดเด่นจะได้แสดงเป็นหงอคง ดารานำในละครโทรทัศน์เรื่องไซอิ๋ว เพราะนอกจากร่างกายของเขาคล้ายลิงแล้ว ยังมีชื่อเล่นว่ามนุษย์วานรอีกด้วย

    นายหยู มุมานะอ่านหนังสือไซอิ๋ว และไปหาช่างแต่งผมมืออาชีพเพื่อทำให้เขาเป็นเหมือนมนุษย์วานรจริง ๆ แต่ผู้กำกับกลับไม่เลือกเขาเป็นนักแสดงเพราะยังดูไม่ดีพอ นายหยู จึงต้องการผ่าตัดเพื่อกำจัดขนและทำศัลยกรรมพลาสติกที่ใบหน้าเพื่อให้ตัวเองดูดีเป็นเหมือนลิงที่น่ารัก ผู้กำกับจะได้เสียใจที่ไม่ตัดสินใจเลือกเขาเป็นดารา

    ประธานโรงพยาบาลที่รับตัวนายหยูไว้รักษา บอกว่า นายหยูอาจเป็นโรคขนดก ซึ่งเป็นโรคชนิดหนึ่งที่เกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย และคาดว่าจะต้องใช้การผ่าตัด 3-5 ครั้งเพื่อนำขนออกไปจากร่างกาย หลังจากนั้นจะทำศัลยกรรมพลาสติกเพื่อทำให้ดวงตาโตขึ้น ลดขนาดของจมูกและทำให้ริมฝีปากบางลง

    ความจริงแล้ว นายหยู เคยเป็นดาราภาพยนตร์เมื่ออายุ 7 ขวบ โดยรับบทเป็นเด็กวานรในป่าซาฟารี เขาบอกว่ารักอาชีพการแสดง แต่คนจำนวนมากมองว่าเขาประสบความสำเร็จได้ไม่ใช่เพราะฝีมือการแสดงแต่เพราะความผิดปกติในร่างกายของเขา เขาจึงต้องการพิสูจน์ตัวเองว่ามีความสามารถ โดยไม่ต้องพึ่งขน .-สำนักข่าวไทย

    2009-09-22 15:54:10

    แมวจอมอึดถูกยิง 13 นัดที่ศีรษะแต่ไม่ตาย

    [​IMG]

    เมลเบิร์น 22 ก.ย.-“สโมคกี้” แมววัย 9 ปีจอมอึด ถูกปืนลมยิง 13 นัดที่ศีรษะ แต่ยังรอดชีวิตและซมซานหาทางกลับบ้านที่รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย ได้อย่างน่ามหัศจรรย์

    ตำรวจบอกว่ากรณี “สโมคกี้” เป็นการทารุณสัตว์ที่น่าตกใจที่สุด เขาบอกว่า เจ้าของพบสโมคกี้ที่หายออกจากบ้าน 3 วัน อยู่ที่หน้าประตูบ้านโดยที่ศีรษะอาบไปด้วยเลือด

    สัตว์แพทย์ กล่าวว่า พบกระสุนปืนลม 13 นัดฝังอยู่ที่ศีรษะและใบหน้าของสโมคกี้ แต่น่าประหลาดใจมากที่สโมคกี้ยังสามารถกลับบ้านได้ทั้งที่อาการสาหัส แพทย์ผ่าตัดนำกระสุนปืนลมออกมาได้แล้ว 11 นัด และได้แต่ภาวนาว่าสโมคกี้จะหายเป็นปกติ

    นักพิทักษ์สัตว์ กล่าวว่า ผู้ที่กระทำต่อสโมคกี้สมควรถูกจำคุกเพราะเป็นการกระทำที่น่าละอายอย่างยิ่งต่อสัตว์ คาดว่าผู้ที่ทำเป็นคนหนุ่มที่คึกคะนอง อายุประมาณ 18-20 ปี.- สำนักข่าวไทย

    2009-09-22 16:00:07

    จับหมึกยักษ์ยาว 6 เมตรได้ที่อ่าวเม็กซิโก

    [​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

    วอชิงตัน 22 ก.ย. - กระทรวงมหาดไทยสหรัฐ เผยนักวิทยาศาสตร์จับหมึกยักษ์ความยาว 5.9 เมตรได้โดยบังเอิญ ขณะลากอวนอยู่ใต้น้ำลึกในอ่าวเม็กซิโก นอกชายฝั่งรัฐลุยเซียนา แต่หมึกยักษ์ปรับตัวไม่ได้เมื่อถูกลากขึ้นมายังผิวน้ำ ทำให้ตายในเวลาต่อมา

    หมึกยักษ์น้ำหนัก 46.7 กก.ตัวนี้ ถูกจับได้โดยบังเอิญเมื่อวันที่ 30 ก.ค. ขณะที่สำนักงานมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติ ร่วมกับสำนักงานจัดการทรัพยากรแร่ กระทรวงมหาดไทย ออกเรือสำรวจเรื่องอาหารของวาฬหัวทุย โดยได้ลากอวนใต้ทะเลระดับความลึกกว่า 1,500 เมตร เมื่อนำอวนขึ้น จึงได้เห็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ติดอยู่ในอวน แต่หมึกยักษ์ตายลงในเวลาต่อมา เนื่องจากไม่สามารถปรับตัวเมื่อถูกนำขึ้นจากน้ำลึก คณะนักวิทยาศาสตร์รักษาซากของมัน ก่อนส่งต่อไปยังพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งชาติของสถาบันสมิธโซเนียน เพื่อศึกษาวิจัยต่อไป

    นับเป็นครั้งแรกที่พบหมึกยักษ์ในอ่าวเม็กซิโก หลังจากพบครั้งหลังสุดเมื่อปี 2497 ครั้งนั้นเป็นซากหมึกยักษ์ลอยนอกสามเหลี่ยมปากแม่น้ำมิสซิสซิปปี การพบครั้งใหม่มีความสำคัญต่อวงการวิจัย เพราะหมึกยักษ์เป็นสัตว์จับยาก ต้องศึกษาเกี่ยวกับพวกมันอีกมาก นอกจากนี้ ยังสะท้อนว่า นักวิทยาศาสตร์มีความรู้น้อยมากเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตในท้องทะเลลึกของอ่าวเม็กซิโก ปกติแล้วมักพบหมึกยักษ์ในเขตประมงน้ำลึก เช่น นอกชายฝั่งสเปนและนิวซีแลนด์ แต่จากการพบซากตกค้างในท้องสัตว์นักล่าตามอ่าวเม็กซิโก ทะเลแคริบเบียน และหมู่เกาะฟลอริดาคีย์ ทำให้แน่ใจได้ว่ามีหมึกยักษ์อยู่ในบริเวณนี้. - สำนักข่าวไทย

    2009-09-22 15:33:32

    คำสั่งห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะช่วยลดผู้ป่วยโรคหัวใจสหรัฐอย่างเห็นผล

    [​IMG]

    ชิคาโก 22 ก.ย.- ผลการวิจัย 2 ชิ้นในสหรัฐชี้ว่า คำสั่งห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะช่วยลดจำนวนผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายลงอย่างเห็นผลสำคัญ

    ผลการศึกษาชิ้นแรกเป็นของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานฟรานซิสโก ลงพิมพ์ในวารสารเซอร์คูเลชั่นว่า คำสั่งห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะในสหรัฐ แคนาดาและยุโรป ช่วยลดจำนวนผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจตายลงร้อยละ 17 ในช่วงปีแรกหลังการบังคับใช้ และลดลงร้อยละ 36 ในช่วง 3 ปี หลังการบังคับใช้

    ผลการศึกษาชิ้นที่ 2 เป็นของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแคนซัส ลงพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยหัวใจวิทยาอเมริกันว่า คำสั่งนี้ช่วยลดจำนวนผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจตายลงได้ร้อยละ 26 ต่อปี หากบังคับใช้ทั่วสหรัฐจะลดจำนวนผู้ป่วยลงได้มากถึง 154,000 รายต่อปี ปัจจุบันมีเพียง 32 รัฐจากทั้งหมด 50 รัฐที่ห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ นอกจากนี้ ยังน่าจะช่วยลดจำนวนผู้ป่วยมะเร็งปอดและถุงลมโป่งพองซึ่งเป็นโรคที่ใช้เวลาในการปรากฏอาการนานกว่ากล้ามเนื้อหัวใจตาย นักวิจัยระบุด้วยว่า สตรีและวัยรุ่นไม่สูบบุหรี่เป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์มากที่สุดจากคำสั่งห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะเพราะมักอยู่ในสถานที่ที่มีการสูบบุหรี่มาก การสูดดมควันบุหรี่แม้เพียงปริมาณน้อยก็เพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย

    ข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (ซีดีซี) ชี้ว่า การสูดดมควันบุหรี่ของผู้อื่นหรือที่เรียกว่าผู้สูบบุหรี่มือสองเป็นเวลานานอาจทำให้ผู้ใหญ่ไม่สูบบุหรี่เป็นโรคหัวใจเพิ่มขึ้นร้อยละ 25-30 เฉพาะสหรัฐประเทศเดียวมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจเพราะสูบบุหรี่มือสองมากถึง 46,000 คนต่อปี.-สำนักข่าวไทย

    2009-09-22 11:44:56

    พบสาหร่ายชนิดหนึ่งช่วยลดมลพิษ นำไปผลิตอาหาร น้ำมัน และพลาสติกได้

    [​IMG]

    ออสเตรเลีย 22 ก.ย. - นักวิทยาศาสตร์ในออสเตรเลียค้นพบคุณสมบัติของสาหร่ายชนิดหนึ่งที่ดูดซับคาร์บอนได้สองเท่าของน้ำหนักตัวของมันและเปลี่ยนคาร์บอนให้กลายเป็นน้ำตาล โปรตีน และน้ำมัน ซึ่งน้ำมันนี้นำไปผลิตน้ำมันไบโอดีเซลและพลาสติกได้ .-สำนักข่าวไทย

    ชมวีดิโอคลิ๊ปได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ

    เพาะสาหร่ายลดมลพิษ
    2009-09-22 | 13:02:21

    ที่มา http://news.mcot.net/international/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2009
  19. โนอาร์

    โนอาร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +82
    ....................................................................................
    เมื่อ 2 วันก่อนนั่งสมาธิ เห็นภาพ กลุ่ม เสื้อเหลืองรวมกัน เห็นภาพ พระภิกษุจำนวนหนึ่งรวมตัวกันเดินกันไปไหนไม่ทราบ เหมือนออกจากป่า . ผมไม่ขอแปลความหมายเพราะกลัวผิดพลาด แค่เล่าให้ฟัง เฉยๆครับ
    ......................................................................................
    ความสงสัยจาการสังเกต ( โปรดใช้วิจารณญาณ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล)
    ......................................................................................
    1. ปีนี้ เป็นปีที่เกิดแผ่นดินไหว มากที่สุดในรอบ 100 ปี หรือเปล่า (ไม่แน่ใจ) แต่บ่อยมาก
    2. ปีนี้ เป็นปีที่เกิดภัยพิบัติมากที่สุด หรือเปล่า (ไม่แน่ใจ แฮะ ) แต่บ่อยมากเหมือนกัน
    3. ปี้นี้ มีคนติดเชื้อโรค ต่างๆ มากมาย และรวดเร็วมาก
    4. ปีนี้ พระเกจิอาจารย์ ดังๆ อาพาตหลายรูป ไม่ใช่แค่เกจิอาจารย์ ในหลวงของเรายังทรงพระประชวร
    5. ปีนี้ มีคนพบสัตว์ประหลาด ต้นไม้ประหลาด และอื่นๆ ประหลาดๆ อีกมากที่สุด (ไม่แน่ใจว่ามากหรือเปล่า แต่จากการดูข่าว เยอะมาก)
    พบสัตว์ประหลาดคล้ายเอเลี่ยนครับ ที่ปานามา
    คลิปวีดีโอเอเลี่ยนบุกโลก พบสัตว์ประหลาดคล้าย เอเลี่ยน ที่ปานามา

    6. ปีนี้ ภูมิอากาศจะย่ำแย่และเลวร้ายกว่าทุกปี ( ต้องคอยดู)
    7. ฯลฯ

    ........................................................................................

    สรุป
    ........................................................................................

    ฤ จะเป็นลางบอกเหตุอะไรแก่มวลมนุษย์ ให้รีบเตรียมตัวเตรีมใจรับวิบากกรรมในอนาคตอันใกล้ โดยส่วนตัวผมเตรียมตัวเตรีมใจแล้วครับ...ขอให้ทุกท่าน สะสมบุญ เพื่อเป็นสะเบียงไปยังโลกหน้านะครับ
    ปล. ผิพลาดประการใดขออภัย นะครับ
    ........................................................................................

    :boo:
     
  20. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ปีนี้ไม่ใช่ที่สุดหรอกนะคะ ปีนี้แค่เริ่มต้น
    ที่สุดอยู่ตรงไหน ก็โปรดติดตามกันต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2009

แชร์หน้านี้

Loading...