ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    จุดดำบนดวงอาทิตย์ ลมสุริยะ และสนามแม่เหล็กโลก
    (คัดลอกมาจาก เว็บไซต์ลีซ่า (LESA หรือ www.lesaproject.com)

    [​IMG]
    จุดบนดวงอาทิตย์ แกรนูล บนชั้นโฟโตสเฟียร์

    จุดบนดวงอาทิตย์

    เมื่อดูดวงอาทิตย์ด้วยกล้องโทรทรรศน์ติดตั้งแผ่นกรองแสง เราจะมองเห็นจุดสีคล้ำบนโฟโตสเฟียร์ซึ่งเรียกว่า จุดบนดวงอาทิตย์ (Sunspots) มีมากมายหลายจุด มากบ้าง น้อยบ้าง เปลี่ยนแปลงไป บางครั้งก็เกิดขึ้นนานนับเดือน จุดเหล่านี้มีขนาดประมาณโลกของเราหรือใหญ่กว่า จุดเหล่านี้มิได้มืด แต่มีความสว่างประมาณ 10 เท่าของดวงจันทร์เต็มดวง มีอุณหภูมิประมาณ 4,500 เคลวิน
    [​IMG]
    การหมุนรอบตัวเองด้วยความเร็วที่แตกต่าง ทำให้เกิดจุดบนดวงอาทิตย์

    จุดบนดวงอาทิตย์เกิดจากการที่สนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์บิดเบือน เนื่องจากดวงอาทิตย์มีสถานะเป็นก๊าซ แต่ละส่วนหมุนรอบตัวเองด้วยความเร็วไม่เท่ากัน (Differential rotation) กล่าวคือ ในการหมุนหนึ่งรอบ บริเวณใกล้เส้นศูนย์สูตรจะใช้เวลา 25 วัน ในขณะที่บริเวณใกล้ขั้วทั้งสองใช้เวลานานถึง 36 วัน ความแตกต่างในการหมุนรอบตัวเองเช่นนี้ มีผลทำให้สนามแม่เหล็กบิดเบือน ในบริเวณที่สนามแม่เหล็กมีกำลังสูง เส้นแรงแม่เหล็กจะกักอนุภาคก๊าซร้อนที่พุ่งขึ้นมาไว้ มิให้ออกนอกเขตของเส้นแรง เมื่อก๊าซร้อนเย็นตัวลงก็จะจมลง ณ ตำแหน่งเดิม ทำให้เรามองเห็นเป็นสีคล้ำ เพราะบริเวณนั้นจะมีอุณหภูมิต่ำกว่าบริเวณโดยรอบ
    [​IMG]
    ภาพที่ 5 กราฟแสดงวัฎจักรของจุดดวงอาทิตย์ทุกๆ 11 ปี

    จุดบนดวงอาทิตย์มักปรากฏให้เห็นในบริเวณละติจูดที่ 30 องศาเหนือและใต้ และมักปรากฏให้เห็นเป็นคู่เช่นเดียวกับขั้วแม่เหล็ก จุดดวงอาทิตย์มีปรากฏให้เห็นมากเป็นวัฏจักรทุกๆ 11 ปี ดังที่แสดงในกราฟในภาพที่ 5

    พวยก๊าซ และการประทุจ้า

    ก๊าซร้อนบนดวงอาทิตย์พุ่งตัวสูงเหนือชั้นโฟโตสเฟียร์ขึ้นมาหลายหมื่นกิโลเมตร เรียกว่า พวยก๊าซ (Prominences) มันเคลื่อนที่เข้าสู่อวกาศด้วยความเร็ว 1,000 กิโลเมตร/วินาที หรือ 3.6 ล้านกิโลเมตรต่อชั่วโมง ในบางครั้งมีการระเบิดใหญ่กว่าเรียกว่า การประทุจ้า (Solar flare) ทำให้เกิดประจุอนุภาค (ion) พลังงานสูง แผ่รังสีเอ็กซ์ และอุลตราไวโอเล็ต ซึ่งเรียกว่า พายุสุริยะ เข้าสู่บรรยากาศชั้นบนของโลก และทำความเสียหายให้แก่ระบบโทรคมนาคม เช่น การสื่อสารผ่านดาวเทียม

    โครโมสเฟียร์

    โคโมสเฟียร์ (Chromosphere) เป็นบรรยากาศชั้นกลางของดวงอาทิตย์ โคโมสเฟียร์แปลว่า ทรงกลมสี เพราะเราสามารถมองเห็นมันได้เป็นสีแดงตามขอบของดวงอาทิตย์ ขณะที่เกิดสุริยุปราคาเต็มดวง หรือมองดูด้วยกล้องโทรทรรศน์ติดตั้งแผ่นกรองแสงไฮโดรเจน-อัลฟา โครโมสเฟียร์มีความหนาประมาณ 2,000 กิโลเมตรและมีอุณหภูมิเกือบ 25,000 เคลวิน
    [​IMG]
    ภาพที่ 6 การประทุจ้า (มุมบนซ้าย) พวยก๊าซ เหนือชั้นโครโมสเฟียร์ [ที่มา: NASA]
    คอโรนา

    คอโรนา (Corona) เป็นบรรยากาศชั้นบนสุด สามารถมองเห็นได้เป็นแสงสีขาว เฉพาะเวลาที่เกิดสุริยุปราคาเต็มดวงมาก โดยมีรูปทรงสอดคล้องกับสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์ คอโรนามีอุณหภูมิสูงกว่า 1 ล้านเคลวิน ทำให้อะตอมเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงมาก อย่างไรก็ตามบริเวณคอโรนามิได้มีความร้อนสูง เนื่องจากมีก๊าซอยู่เบาบางมาก
    [​IMG]
    ภาพที่ 7 โคโรนา
    ลมสุริยะ

    ลมสุริยะ (Solar wind) มิใช่เป็นลมซึ่งเกิดจากการเคลื่อนที่ของมวลอากาศดังเช่น บนโลกของเรา หากแต่เป็นอนุภาคพลังงานสูง ซึ่งเกิดจากสูญเสียก๊าซร้อนของดวงอาทิตย์สู่ห้วงอวกาศ ในรูปของโปรตรอน อิเล็กตรอน และอนุภาคอื่นๆ ซึ่งเคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณ 450 กิโลเมตร/วินาที ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางถึงโลกประมาณ 4 วัน อนุภาคพลังงานสูงพวกนี้ บางครั้งทำความเสียหายให้แก่ ยานอวกาศ ดาวเทียม และระบบโทรคมนาคม ดังนั้นการเฝ้าสังเกตจุดบนดวงอาทิตย์ พวยก๊าซ และการประทุจ้าบนดวงอาทิตย์ จึงเป็นการพยากรณ์สภาพอวกาศ (space weather) และแจ้งเตือนล่วงหน้าได้
    [​IMG]
    ภาพที่ 7 แกนแม่เหล็กโลก

    สนามแม่เหล็กโลก

    โครงสร้างของโลกประกอบขึ้นเป็นชั้นหลายชั้น บางชั้นที่มีสถานะเป็นของแข็ง และบางชั้นมีสถานะเป็นของเหลว แก่นใจกลางของโลกมี 2 ชั้น คือ แก่นชั้นในและแก่นชั้นนอก แก่นชั้นใน (Inner core) เป็นของแข็งมีองค์ประกอบเป็นเหล็ก นิเกิล มีอุณหภูมิ 6,500 เคลวิน แก่นชั้นนอก (Outer core) มีอุณหภูมิต่ำกว่าและมีสถานะเป็นของเหลวหนืด ดังนั้นพลังงานความร้อนถูกถ่ายเทขึ้นสู่แก่นชั้นนอก (Outer core) ด้วยการพาความร้อน โดยโลหะหลอมละลายที่หมุนวนไปอย่างช้าๆ การเคลื่อนตัวเช่นนี้ก่อให้เกิดการเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้า และเหนี่ยวนำให้เกิดสนามแม่เหล็ก (The Earths magnetic field)
    [​IMG]
    ภาพที่ 8 สนามแม่เหล็กโลก

    แกนแม่เหล็กของโลกมีขั้วเหนือ-ใต้ เอียงทำมุม 12 องศา กับแกนเหนือ-ใต้ทางภูมิศาสตร์ซึ่งโลกหมุนรอบตัวเอง สนามแม่เหล็กของโลกมิได้มีลักษณะเป็นทรงกลมสมมาตร เนื่องจากอิทธิพลของลมสุริยะ (Solar wind) ซึ่งประกอบด้วยอนุภาคโปรตอน อิเล็กตรอน และอนุภาคชนิดอื่น เคลื่อนที่จากดวงอาทิตย์เข้าหาโลกด้วยความเร็ว 450 กิโลเมตร/ชั่วโมง อนุภาคเหล่านี้มีความเร็วเหนือเสียง เมื่อกระทบเข้ากับสนามแม่เหล็กโลก ก็จะเกิดช็อคเวฟ (Shock wave) และลดความเร็วลง การปะทะกันเช่นนี้ทำให้เกิดการไหลเวียนของอนุภาคตามเส้นแรงแม่เหล็กซึ่งล้อมรอบโลก (Magnetosphere) อนุภาคบางส่วนถูกกักขังไว้ในเส้นแรงแม่เหล็ก ใน แถบ ฟาน อัลเลน (Van Allen belts) สองชั้นซึ่งอยู่สูงเหนือพื้นผิวโลกประมาณ 2,000 ? 5,000 กิโลเมตร และ 13,000 ? 19,000 กิโลเมตร แถบชั้นในเต็มไปด้วยอนุภาคโปรตอนพลังงานสูง ส่วนแถบชั้นนอกเป็นอนุภาคโปรตอนและอิเล็กตรอนพลังงานต่ำ ลมสุริยะมีคุณสมบัติเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดีเยี่ยม เมื่อมันเคลื่อนที่ผ่านสนามแม่เหล็กโลก จะทำให้เกิดอนุภาคโปรตอนและอิเล็กตรอนความเร็วสูง เคลื่อนที่ในแนวเหนือ-ใต้ และเมื่ออนุภาคเหล่านี้พุ่งชนบรรยากาศชั้นบนของโลก อะตอมของก๊าซจะปลดปล่อยแสงสว่างออกมา เกิดเป็น แสงเหนือ หรือ แสงใต้ (Aurora) ในบริเวณรอบขั้วแม่เหล็กโลก
    [​IMG]
    ภาพที่ 9 ออโรรา [ที่มา: University of Alaska]

    สนามแม่เหล็กโลกไม่ใช่สิ่งคงที่ แต่มีการเปลี่ยนแปลงความเข้มของสนามแม่เหล็ก และสลับขั้วเหนือ-ใต้ ทุกๆ หนึ่งหมื่นปี ในปัจจุบันสนามแม่เหล็กโลกอยู่ในช่วงที่มีกำลังอ่อน สนามแม่เหล็กโลกเป็นสิ่งที่จำเป็นที่เอื้ออำนวยในการดำรงชีวิต หากปราศจากสนามแม่เหล็กโลกแล้ว อนุภาคพลังงานสูงจะพุ่งชนพื้นผิวโลก สิ่งมีชีวิตจะไม่สามารถดำรงอยู่ได้ นอกจากนั้นสิ่งมีชีวิตบางประเภท เช่น นก ยังใช้สนามแม่เหล็กโลก ในระบบการหาทิศทาง

    เกร็ดความรู้: ทิศเหนือที่อ่านได้จากเข็มทิศแม่เหล็ก อาจจะไม่ตรงกับทิศเหนือจริง ด้วยเหตุผล 2 ประการคือ ขั้วแม่เหล็กโลก และขั้วโลก มิใช่จุดเดียวกัน ในบางพื้นที่ของโลก เส้นแรงแม่เหล็กมีความเบี่ยงเบน (Deviation) มิได้ขนานกับเส้นลองจิจูด (เส้นแวง) ทางภูมิศาสตร์ แต่โชคดีที่บริเวณประเทศไทย มีค่าความเบี่ยงเบน = 0 ดังนั้นจึงถือว่า ทิศเหนือแม่เหล็ก เป็นทิศเหนือจริงได้

    ที่มา http://www.lesa.in.th/energy/solar_energy/solar_energy/energy.htm
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    สาเหตุแห่งภัยพิบัติในประเทศอเมริกา
    (ข้อความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ)
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>​
    24 ก.ย.48 บีบีซีนิวส์/เอเอฟพี - เฮอริเคนริตาที่มีกำลังลมแรงได้เข้าถล่มพื้นที่ชายฝั่งระหว่างมลรัฐเทกซัสและลุยเซียนา ด้วยความเร็วลมเกือบ 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง พร้อมกับฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก

    ความคิดเห็นที่ 38

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=left>- USA ไม่มีประเทศไหนในโลกที่จะสามารถทำลายล้างคุณได้โดยคุณจะไม่ตอบโต้เขา และคุณจะถูกเสมอ

    -บัดนี้ สิ่งที่สามารถทำลายล้างคุณได้ โดยคุณไม่สามารถจะตอบโต้และหาคนผิดมาชดใช้ได้เลย นั่นคือ

    -ธรรมชาติ ที่มันมาทำร้ายคุณเอง และ มันจะมีมาเรื่อย ๆ คุณจงระวังไว้ให้ดี เวรกรรมมันมีจริง และใครทำอะไรไว้ สิ่งนั้นมันก็ย้อนกับมาสนองคุณเอง เป็น 100 เท่า พันทวี

    -โชคดีนะ อเมริกา

    เจี๊ยบหวาน

    ความคิดเห็นที่ 39

    พายุเข้ามนุษย์เดือดร้อน ก็สงสารอยู่ แต่ผู้นำประเทศ และอดีตของชนผิวขาว อเมริกา ส่วนหนึ่งโหดสุด ๆ คือ

    1 . อเมริกาฆ่าคนพื้นเมืองตายไป ประมาณ 60 ล้านคน
    2. ปัจจุบัน ฆ่าคนมุสลิม เป็นหมื่นเป็นแสนคน

    ดวงวิญญาณของพวกเขารวมพลังกันกลายเป็นพายุ เฮอริแคน และ ทอร์นาโด อันน่าสะพึงกลัว ประเทศ อเมริกาเป็นเมืองที่ถูกสาบแช่งจากผู้พัดพรากจากชีวิต

    เทวดาฟ้าดินจึงอนุมัติให้ลงโทษได้ โดยการดลบันดาลให้โลกร้อนขึ้น และเป็นภัยธรรมชาติ นี่เป็น New Theory นะครับ

    ผู้รักความเป็นธรรม

    ความคิดเห็นที่ 52

    เป็นผลมาจาก สนามแม่เหล็กโลก เกิดการเปลี่ยนแปลง เป็นอย่างไรละ วันชาติตัวเองแท้ๆ ส่งยานอวกาศไปยิงดาวหาง มันก็เกิดการเปลี่ยนทิศทางการโคจรของ จักรวาลที่มีโลกเป็นบริวาร เส้นแรงแม่เหล็กของโลก ก็เลยผิดเพี้ยนไปด้วย ถ้าจะโทษต้องโทษ นาซ่า ซึ่งซ่าเหลือเกินในการวิเคราะห์การเดินทาง ของอุกาบาต การฟุ้งกระจายของเศษเสี้ยว ชิ้นส่วนทำให้โมเลกุล แพร่กระจายเป็นหลายล้านเท่า ในการรวมตัวของโมเลกุลหนึ่งในล้านเท่านั้นเป็นต้นกำเนิดของพายุ และกระแสพายุร้อน ซึ่งจะเกิดมาตามหลังเฮอริเคน ไม่เชื่อคอยดู ซึ่งผลกระทบนี้จะกระทบไปทั่วโลก เตรียมตัวรับมือภัยธรรมชาติตัวนี้ให้ดี ไม่มีใครหนีภัยธรรมชาติตัวนี้พ้น ต้องโทษต้นตอความโง่เขลาของอเมริกาที่คิดว่าตัวเองฉลาดกว่าทุกชาติในโลก

    ต่างดาว

    ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9480000130989

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,705
    ค่าพลัง:
    +51,934
    *** สัจจะ **** เป็นปฏิหาริย์ที่ยิ่งใหญ่ เป็นผู้นำทางชีวิตให้กับตัวเรา กำหนด "สัจจะ" เป็นประจำ ทำความดีวันละอย่างให้ได้จริง สิ่งที่ทำได้ไม่สูญสลาย จะติดตามตัวเราเหมือนเงาไปตลอด และจะจัดสรรให้รอดปลอดภัยจาก "สรรพภัยทั้งปวงกึ่งพุทธกาล" - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ฮือฮา!! ไทยพบภูเขาไฟ 4 ลูก ใต้ทะเลใกล้ภูเก็ต
    (สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม)

    [​IMG]
    วานนี้ (11 ธ.ค.) นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผอ. ศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยการเปลี่ยนแปลงและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะหัวหน้าโครงการศึกษาเสถียรภาพของชั้นตะกอน การเกิดแผ่นดินถล่มใต้ ทะเลบริเวณขอบทวีปในทะเลอันดามัน เปิดเผยว่า ช่วงกลางเดือน พ.ย.-วันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทีมนักวิจัยไทยร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันทางธรณีวิทยาทางทะเลแห่งชาติ เมืองคีธ สหพันธรัฐเยอรมนี ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.)

    ได้ออกสำรวจใต้ท้องทะเลลึกของไทยเป็นครั้งแรก ที่ระดับความลึกตั้งแต่ 1,000 - 2,800 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่เรียกว่าสะดือทะเล บริเวณแถบไหล่ทวีปมะริด ห่างจากภูเก็ตราว 200 กม. ครอบคลุมพื้นที่ศึกษา 1,500 เมตร โดยใช้เวลาลงทะเล 16 วัน เพื่อเก็บตะกอนไหล่ทวีปมาศึกษาหาความเสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินถล่มใต้น้ำหลังเหตุการณ์สึนามิเมื่อ 26 ธ.ค. 47 ได้พบข้อมูลที่น่าตื่นเต้น คือ พบโคลนภูเขาไฟใต้ทะเล (Mud Volcano) กระจายอยู่ในจุดที่สำรวจรวม 4 ลูก

    ผอ.ศูนย์เครือข่ายฯ กล่าวต่อว่า ลูกแรก มีฐานความกว้างถึง 1 กม. สูง 100 เมตร มีลักษณะเหมือนรูปเจดีย์คว่ำเจอที่ความลึก 650 เมตร ห่างจากภูเก็ต 200 กม. ลูกที่ 2 นั้นอยู่ห่างจากจุดแรกไปทางตะวันตก อีก 50 กม. ที่ระดับความลึก 1,000 เมตร ลูกที่ 3 และ 4 ห่างจากจุดที่ 2 ราว 60 กม. ไปทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ มีฐานกว้างประมาณ 500 เมตร สูง 60 - 70 เมตร ที่ระดับความลึก 700 - 800 เมตร

    การค้นพบครั้งนี้มั่นใจว่าเป็นภูเขาไฟใต้น้ำ เบื้องต้นสันนิษฐานเป็นตะกอนที่มาจากแม่น้ำอิระวดีและสาละวินจากแถบพม่า นอกจากนี้ พบว่าอุณหภูมิของน้ำทะเลตรงภูเขาไฟจะสูงถึง 100 องศาเซลเซียส แต่ข้างๆ วัดอุณหภูมิได้แค่ 5 องศาเซลเซียสเท่านั้น

    อย่างไรก็ตามไม่อยากให้คนไทยตื่นตระหนก โดยเฉพาะข้อกังวลที่ว่าอาจเป็นภูเขาไฟที่จะปะทุในอนาคต และเป็นสาเหตุของคลื่นสึนามิ หากมองในแง่ดีค่อนข้างมั่นใจว่า บริเวณนั้นเป็นแหล่งที่มีศักยภาพของแอ่งน้ำมันเหมือนกับอ่าวเม็กซิโก อาจเป็นแหล่งชุมนุมของสัตว์ทะเลแปลกๆ

    ข้อมูลจาก
    [​IMG]
    ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
    ที่มา http://hilight.kapook.com/view.php?id=5160
     
  5. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,705
    ค่าพลัง:
    +51,934
    *** ผู้ที่เชื่อและทำได้ ย่อมมีผลตอบแทน **** ชาวภูเก็ต...ที่เชื่อใน "สัจจะ" ว่า "สัจจะมีผลตอบแทน" เป็นคนที่ตั้งใจและทำได้จริง จะได้พบ "หลักสัจจะธรรม" และ "หลักโลกุตตระธรรม" ต่อไป เมื่อสรรพภัยทั้งปวงผ่านพ้นไป...ดินแดนแห่งไหนมีผู้คนเบียดเบียนกันมาก ย่อมไม่ปลอดภัย - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  6. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    1. อเมริกาก่อกรรมฆ่าชาวอินเดียนแดงล้างเผ่า แย่งชิงประเทศ เอาชนผิวดำมาเป็นทาส
    2. จีน ฆ่าพระ ทำลายพระศาสนาหมดสิ้น ห้ามคนนับถือศาสนา ให้นับถือคอมมิวนิสตร์แทน
    3. ญี่ปุ่น ก่อสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธ์คนจีนจำนวนมาก สงครามโลกครั้งที่สองคร่าชีวิตคนจำนวนมาก


    บอกแค่นี้ละครับ
     
  7. *44*

    *44* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    528
    ค่าพลัง:
    +1,808
    *44*

    แล้วพวกอาหรับ เยอรมัน อังกฤษ เนเธอร์แลน์ด พวกนี้ก็ก่อกรรม เหมือนกันนะ
    อาหรับ หัวรุนแรง ฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยม วางระเบิด พลี้ชีพ อย่างนี้ป็นต้น
    เยอรมัน ก็ฆ่ายิวไปเป็นล้าน ๆ
    อังกฤษ เนเธอแลน์ด ฝรั่งเศส ก็แสวงหาเมืองขึ้น ในสมัยก่อน โหดเหมือนกัน
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    โหราศาสตร์กับดวงเมืองไทย
    [​IMG]
    ดวงเมืองไทย ปีหมู 2550 สุดวิปโยค

    โหรดังทำนายดวงเมืองไทยปีหน้า 2550 สุดวิปโยค
    วินาศกรรม กรุงเทพฯ (ม.ค.)
    วินาศกรรมสนามบินสุวรรณภูมิ (ก.พ.)

    คนจนลุกฮือ จับอาวุธ ก่อจลาจล
    จะมี รัฐประหาร นองเลือด
    เลือดไทยไหลรินมากสุด นับแต่มีกรุงเทพฯ
    โจรใต้ระอุ

    โจรผู้ร้ายชุกชุม ยาเสพติดระบาดหนัก
    เศรษฐกิจตกต่ำ
    ส่งออกทรุด ค่าเงินบาทตก
    โรงงานปิด ระเนระนาด
    ธนาคารใหญ่ล้ม
    สหประชาชาติแทรกแซง

    โหรโสรัจจะ นวลอยู่
    สำนักพิมพ์ มติชนะ


    ที่มา http://www.prachatai.com/05web/th/board/showboard.php?QID=43786&TID=4

    ประเทศไทยก่อนการเลือกตั้ง
    โดยลุงพุฒ
    มีคำถามถามว่า ประเทศไทย จะเป็นอย่างไรในช่วงนี้ก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งก็เป็นคำถามที่ครอบคลุมปี พ.ศ. 2550 ตลอดทั้งปีเลยนะครับ

    โดยรวมๆ ลุงพุฒเห็นว่า ปี พ.ศ. 2550 เป็นปีที่หนักที่สุดของรัฐบาล ลุงพุฒขอยกดาวบนท้องฟ้าในวันที่ 7 กุมภาัพันธุ์เอามาให้ดูนะครับ แต่จริงๆแล้วบนท้องฟ้ามีเหตุการณ์ทางโหราศาสตร์มาก่อนวันที่ลุงพุฒยกมาให้ดูนะครับ
    ปัจจุบัน ดาวเนปจูนจร (น) อยู่ในเรือนกัมมะของดวงเมือง และมีเส้นสีแดงกดไปที่ลัคนาของดวงเมือง บ่งบอกว่า สถานการณ์ทางการเมืองไม่นิ่ง มีการชิงไหวชิงพริบกันตลอดเวลา ดังนั้นไม่น่าแปลกใจ ที่การข่าวทางการทหารระบุว่า มีคลื่นใต้น้ำ และไม่น่าแปลกใจ ที่สื่อยักษ์ใหญ่บางฉบับพยายามชี้ให้เห็นว่า เป็นข่าวโคมลอยที่ทางการทหารกุขึ้น เพื่อการสืบทอดอำนาจ (โดยการคงกฎอัยการศึกเอาไว้) ดาวเนปจูนจะอยู่จุดนี้ไปอีกนานหลายเดือน กว่าจะเคลื่อนหลุดออกจากจุดที่ส่งอิทธิพลรุนแรงไปยังดวงเมือง

    ดาวพฤหัสบดีจร (5) เคลื่อนเข้าเรือนมรณะของดวงเมืองในวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.2549 (แต่เข้ามาในราศีพิจิกตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2549 แล้วครับ) บ่งบอกว่า เสถียรภาพของรัฐบาล จะยิ่งแย่ลงกว่าเดิม ความมั่นคงจะสั่นคลอน และระบบเศรษฐกิจจะเสื่อมถอย แต่ปรากฎการณ์ตรงนี้จะยังไม่มีความชัดเจนจนกระทั่งรู้สึกได้หรอกนะครับ เพียงแต่เหตุการณ์จะค่อยๆบีบรัดเข้าไปในทิศทางนั้น ซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่ 9 ธันวาคม เป็นต้นไป และจะมีการบีบรัดมาขึ้นในวันที่ 19 ธันวาคม เพราะดาวพฤหัสบดี (5) เข้าสู่จุดเคราะห์ของดวงเมือง แต่ลุงพุฒคิดว่า ประชาชนอย่างเราๆอาจไม่รู้สึกหรือไม่รู้เรื่อง เพราะภาพลักษณ์ของรัฐบาลยังดีอยู่ ก็ดาวราหูจร (8) ยังอยู่ในเรือนลาภะ และส่งรัศมีสีเขียวถึงลัคนาของดวงเมืองนี่ครับ

    ดาวเสาร์จร (7) จรมาส่งรัศมีสีแดงถึงดาวเสาร์เดิมในดวงเมืองวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2550 และส่งรัศมีสีแดงถึงดาวพฤหัสบดีเดิม (5) ในดวงเมืองในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2550 และดาวพฤหัสบดีจร (5) ซึ่งอยู่ในเรือนมรณะ ส่งรัศมีกดไปยังลัคนา (ล) ของดวงเมืองในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2550 บ่งบอกว่า เดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนแห่งความอันตรายเดือนหนึ่งเลยทีเดียว มีความเป็นไปได้ว่าจะมีเหตุการณ์ที่จะทำให้รัฐบาลเกิดความวุ่นวาย และอาจส่งผลกระทบกระเทือนความมั่นคงของรัฐบาลอย่างชัดเจน เดือนนี้เป็นเดือนที่สาหัสสากรรจ์ของรัฐบาลทีเดียวครับ แต่ใช่ว่าจะเป็นจุดชี้ขาดหรือแตกหัก ตราบใดที่รัฐบาลยังคงมีความคุณธรรม อำนวยความยุติธรรม ดำรงค์ไว้ซึ่งความเป็นธรรม รัฐบาลก็ยังรักษาตนให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

    ถ้าหากจะถามว่า มีช่วงใดที่น่าเป็นห่วง ลุงพุฒก็ขอบอกว่า ช่วงที่น่าเป็นห่วงจริงๆน่าจะอยู่ในช่วงวันที่ 14 พฤศจิกายน, 10 ธันวาคม และ 21 ธันวาคม ลุงพุฒขอนำดาวบนท้องฟ้าในวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2550 มาให้ดูกัน

    ดาวบนท้องฟ้า มีดาวอาทิตย์จร (1) กุมดาวพฤหัสบดี เดิม (5) และดาวเสาร์เดิม (7) และมีดาวอื่นๆร่วมกุมด้วย ได้แก่ ดาวพุธจร (4) ดาวพหัสบดีจร (5) และดาวพลูโตจร (พ) ในขณะเพราะในช่วงนั้นเป็นช่วงที่รัฐบาลจะขาดเสถียรภาพมากที่สุด เศรฐกิจจะย่ำแย่ที่สุด และประเทศไทยมีโอกาสที่จะพบกับความวิบัติรุนแรงมาก หรือพบกับความเศร้าเสียใจอย่างสุดซึ้ง อย่างใดอย่างหนึ่ง อาจเสียผู้ใหญ่ในบ้านเมือง และหากวางแผนรับมือไว้ไม่ดีพอ จะเกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรงจนอาจเกิดการประท้วงยืดเยื้อ รุนแรง สิ่งที่ลุงพุฒหวั่นเกรงมากๆก็คือ หากเรายังอุดช่องโหว่ไม่ได้ ไม่มีการป้องกันทางเศรษฐกิจที่ดีพอ อาจถูกโจมตีได้อีกเช่นกัน ประกอบกับดาวราหูจร (8) และดาวเนปจูนจร (น) ส่งแรงกดดันไปที่ดาวเกตุเดิม (9) และจุดกัมมะ (ง) บ่งบอกว่า เกิดความขัดแย้งกับมวลชน ให้ระมัดระวังอาจมีการก่อหวอดประท้วงกันอย่างหนักได้

    ก่อนหน้าเหตุการณ์ในเดือน พฤศจิกายน - ธันวาคม ก็ยังมีเหตุการณ์ให้ระทึกเป็นระยะๆ แต่เหตุการณ์ในช่วง 2 เดือนนี้นั้น เป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงเอามากๆ และแม้ว่าเหตุการณ์ที่พูดถึงยังห่างจากห้วงเวลานี้ไปอีกประมาณปีกับอีก 1 เดือน ซึ่งเป็นเวลาที่อาจจะดูไกลตัว แต่เอาเข้าจริงๆแล้วมีไม่มากนักหรอกครับ ที่จะวางแผนป้องกันและรับมือกับปัญหาที่จะถาโถมเข้าใส่ประเทศไทย ถ้าไม่ประมาท ก็แก้ไขได้ แต่ถ้าประมาทก็จะเกิดเหตุการณ์ลุกลามใหญ่โตแน่ๆ ลุงพุฒก็หวังว่า เสียงเตือนเสียงเล็กๆนี้จะดังไปถึงผู้ใหญ่ในบ้านเมือง และวางแผนป้องกันเอาไว้ให้ดีครับ และหากเรามีการเลือกตั้งในเวลานั้น เราคงจะได้รัฐบาลที่ห่วยเอามากๆ คงจะมีความวุ่นวาย ยุ่งเหยิง และไร้ประสิทธิภาพเป็นที่สุด แต่ถ้าเราอดทนและผ่านห้วงเวลานี้ไปได้ ไปมีการเลือกตั้งในวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2551 เราจะได้รัฐบาลที่ดี และจะมีความเข้มแข็ง มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ตั้ง แต่ลุงพุฒเกรงว่า เราจะไปไม่ถึงการเลือกตั้งในวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2551 หากแต่จะมีการกดดัน ทวงสัญญา และเร่งเร้าให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม พ.ศ. 2550 เสียมากกว่า

    ทั้งนี้เราจะได้รัฐบาลที่ดีหรือไม่ดี ก็แล้วแต่เวรกรรมของคนในชาติที่ต่างคนต่างได้ทำกันมา ทั้งในอดีตชาติ ในและปัจจุบันชาติ จะผลักดันให้เกิดการเลือกตั้งเมื่อใด หากกรรมดีส่งผลร่วมกัน เราก็คงจะได้เลือกตั้ง เลือกรัฐบาลในจังหวะที่ดี แต่หากกรรมไม่ดีส่งผลมาพร้อมๆกัน เราก็คงได้เลือกตั้ง เลือกรัฐบาลในจังหวะที่ไม่ดี ก็แล้วแต่เวรแต่กรรมจริงๆครับ

    <!-- InstanceEndEditable -->
    ลุงพุฒ </SPAN>
    <!-- InstanceBeginEditable name="date" -->7 พฤศจิกายน พ.ศ.2549

    <!-- InstanceEndEditable --><SCRIPT language=JavaScript><!--var stb_domain = "gmail.com"var stb_user = "nakamole.talk"var stb_recipient = stb_user + "@" + stb_domainvar stb_url = "mailto:" + stb_recipientdocument.write(stb_recipient.link(stb_url));// --></SCRIPT>nakamole.talk@gmail.com

    ที่มา http://www.nakamole.com/talk/talk.2006-11-07.html
     
  9. sacrifar

    sacrifar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    551
    ค่าพลัง:
    +3,221

    สรุปแล้วเป็นเพียงเนินตะกอนโคลนธรรมดาครับ เรื่องที่มีหวังว่าจะได้บ่อน้ำมันเป็นอันอกหักไป
     
  10. บุพนิมิต

    บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    ถ้ามองเรื่องการเมือง....การแก่งแย่งชิงอำนาจ มักใหญ่ใฝ่สูง ทั้งหัวโจกและพวกพ้องที่ติดตาม มันก้อไม่ได้แตกต่างกับส่วนอื่นๆของโลกสักเท่าไหร่ คนในชาติที่ขาดความสามัคคี คนต่างชาติที่ต้องการมีอิทธิพล ขยายอำนาจทางเศรษฐกิจ ประเทศไทยดำเนินไปตามกลไกโลก ไม่ต่างจากที่บางประเทศประสบปัญหากันอยู่ขณะนี้

    มองในแง่การดำรงชีวิต.....คนมีปัญญาปรับชีวิตตัวเองเข้าสู่เส้นทาง"พอเพียง" ส่วน..คนด้อยปัญญาก้อหลงอยู่ในวังวนของคนโลภที่สรรหาสิ่งล่อใจให้หาเงินมาจับจ่ายใช้สอย ตกเป็นทาสเศรษฐกิจเฟื่องฟู ที่รัฐบาลผู้นำประเทศต้องการความเติบโตทางเศรษฐกิจที่ผิดทาง

    ประเทศไทยจะนองเลือด....ก้อเฉพาะทาสการเมืองที่อุดมการณ์สูงแต่ด้อยปัญญา "คนตายไม่เคยได้เป็นผู้นำ คนที่ได้เป็นผู้นำก้อไม่เคยได้อยู่กลางสนามแห่งความตาย" น่าสงสารจริงๆ
     
  11. ก๋วยเจ๋ง

    ก๋วยเจ๋ง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +44
    ไม่อยากให้เมืองไทยเกิดเหตุการณ์ร้่ายๆเลย สงสารในหลวง
    เพราะคนสมัยนี้ไม่ค่อยมีน้ำใจไม่ค่อยจริงใจชิงดีชิงเด่นกัน
    ปัญหาเยอะแยะมากมายเหลือเกินทุกวันนี้ ตำรวจน่าจะเข้มงวด
    ผู้ปกครองต้องใส่ใจเด็กมากๆ โจรทำใครไว้ยังไงก้ต้องได้รับผลกรรมนั้น
    อนุโมทนาสาธุ
    ขอบคุณทุกท่านสำหรับความรู้ดีๆ
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    คำเตือนจากคุณ 108 Man


    ที่ผมเคยบอกเรื่องภูเขาไฟใต้ทะเล ตอนนี้เจอกันแล้ว ต่อไป ...

    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ 108man [​IMG]

    เอาตรง ๆ เลย สึนามิ ท่านทั้งหลาย ไปช่วยกันเยอะแยะทั้งเทพทั้งพระ บางท่านเป็นมนุษย์ไปทั้ง ๆ กายเนื้อ ที่ต้องมาบอกก็ เพราะว่า ก็ผมรู้มาจริง ๆ ครับ สรุปคือช่วยกันแล้วได้เท่านี้ .... ไม่งั้น ภูเก็ตหมดทั้งเกาะ เชื่อหรือเปล่า งั้นเอาตอนนี้ แล้วกัน ระวังกันแต่ภูเขาไฟบนดินนะ รู้หรือเปล่า ท่านทั้งหลายลงไปอุดไปยั้งภูเขาไฟในทะเลไม่ให้ระเบิดก็ยังทำกันอยู่จนทุกวันนี้ ถ้าอยากรู้ใครไปดูได้ก็ลงไปดูในทะเลแล้วเอามาเล่าให้ฟังบ้าง..... พวกเราไม่เห็นก็คิดว่าไม่มีแต่บนดินมันระเบิดก็คิดว่ามีแค่นั้น ที่บอกคือตอนนี้สงสารท่านและรู้สึกหดหู่ใจ ทั้งที่ ๆ ทั้งหลายสละตัวเองเพื่อช่วยมนุษย์ บางท่านไปด้วยกายเนื้อรางกายก็โทรม ถูกเผาทุกวัน คิดูลำบากแค่ไหน .... อยากให้ท่านทั้งหลายส่งใจไปให้ท่าน ๆ เหล่านั้นบ้าง แม้ไม่เชื่อก็ตาม .. ก็บอกได้แค่นี้อยากเล่ามากกว่านี้ใจจะขาดแต่ทำไม่ได้ โดนลงโทษหนักบารมีไม่พอ หน้าที่ไม่ใช่ ทำเกินนอกเหนือหน้าที่อยู่ในร่างมนุษย์ก็ถูกลงโทษได้ .....

    บางครั้งมนุษย์ก็ต้องช่วยเหลือตัวเองด้วยการทำความดี ..... และเห็นใจท่านเหล่านั้นบ้าง

    สวัสดี


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เป็นการยืนยันว่าในสิ่งที่ผมรับรู้เป็นเรื่องจริง ตอนนี้เราเจอภูเขาไฟใต้ทะเลตามที่เคยบอกไว้แล้ว แต่ยังตีความกันไปหลาย ๆ ทาง เป็นห่วงจริง ๆ ว่า จะตีความว่าไม่เป็นอันตรายแล้วประมาท ก็ขอให้ยึดมั่น ในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

    สวัสดี
    ที่มา http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=41873&page=3

    คำเตือนจาก อ.คนเมืองบัว

    คำถามจากคุณ ผู้ไม่รู้
    <TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>

    มีท่านผู้รู้ท่านหนึ่งบอกกับผมว่า ปลายปี พ.ศ.2548 นี้ จะเริ่มเกิดสงครามครั้งยิ่งใหญ่ของโลก ..........ก่อนเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ (ระยะ 2 ) จะมีลางบอกเหตุดังนี้
    1. ท้องฟ้ามืดมิดผิดปกติ
    2. ใบไม้จะพลิกคว่ำพลิกหงายแลดูหดหู่
    3. สัตว์ทั้งหลายจะไม่ออกมาปรากฏกายให้เห็น แต่ถ้ามีสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้านจะแลเห็นมันวิ่งลุกลี้ลุกลนผิดปกติ หรือบางตัวจะนอนนิ่งมีน้ำตาซึม

    คำตอบจาก อ.คนเมืองบัว


    ../...ภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ไม่หนักหนาเท่าคำทำนายหรอก ไม่ต้องตกใจถึงขนาดนั้นเพราะว่าภัยพิบัติขนาดนั้นจะเกิดเมื่อหลังพุทธกาลแล้วเมื่ออายุมนุษย์สูงสุดที่ ๑๐ ปีต้องตาย ถึงตอนนั้น พวกเราคงไม่ประมาทกันแล้ว ไปอยู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์กันหมดแล้ว ส่วนที่เหลือเวียนตายเวียนเกิดก็คือมนุษย์ที่ประมาทในช่วงกึ่งพุทธกาล นี้ ไม่ได้มาพบกับศาสนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันและได้ปฏิบัติต่อ ส่วนภัยที่น่าจะสะพรึงกลัวใหม่ๆ ได้แก่

    ๑. ภูเขาไฟระเบิดใต้น้ำ ในรอยแตกเดิม ที่มีความเหลื่อมล้ำของพื้นดินถึง ๔๐ เมตร ปากหลุมกว้าง ๑ กิโลเมตร ยาวเป็นพันเมตร ภูเขาไฟใหม่นี้อาจจะระเบิดต่อเนื่องเจ็ดวันเจ็ดคืนจึงดับ ทรัพยากรทางน้ำจะเสียหายมาก อิสลามกับคริสต์อาจจะตายเพิ่มขึ้นอีก เป็นล้านคน

    ๒. จะเกิดภัยสงครามมากขึ้นทั่วโลกแน่นอน ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่หลวงพ่อราชพรหมยานได้บอกไว้แล้วขอบเขตเท่านั้น คริสต์และอิสลามจะตายอย่างละครึ่ง ที่เหลือกลัวความตาย รอดได้ด้วยพุทธานุภาพหรือบุคคลที่เคยประกอบบุญกุศลเนื่องด้วยพุทธศาสนาส่วนใหญ่จะเป็นบริวารของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ ที่หลงเหลืออยู่ จะได้แนวทาง แห่งมโนมยิทธิ สายวัดท่าซุงเป็นแนวทางหลักในการปฏิบัติ ลูกหลานของหลวงพ่อที่ได้มโนฯ จะช่วยกันเผยแพร่งานพระศาสนาอย่างยิ่งยวดไม่มีวันหยุดไม่เหน็ดไม่เหนื่อย พระพุทธศาสนา จึงจะรุ่งเรือง ถึงขีดสุด

    ส่วนสายปฏิบัติธรรมอื่นๆ นั้นก็ได้ช่วยกันบ้างพอสมควร แต่เนื่องด้วยว่าหลักคำสอนแต่ละสำนักนั้นได้ให้ข้อธรรมที่วกวนขาดประเด็นสำคัญในการปฏิบัติ สิ่งใดอธิบายได้ให้เข้าใจง่าย ๆ ก็อธิบายให้วกวนยากเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่ทันการ ต่อการตัดสินใจ เฉพาะหน้า จึงเป็นเหตุให้ ท่านเหล่านั้นปรับสภาพไม่ค่อยทันแก่เหตุการณ์นั่นเอง ส่วนลัทธิต่างๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ๆ อ้างถึงพระศรีอาริยเมตไตรยเมื่อถึงที่สุดแล้วก็จะถึงทางตันที่ไม่สามารถแก้ไขให้พ้นทุกข์ไปได้ ทุกคนก็จะหันมาฝึกมโนมยิทธิสายวัดท่าซุงจนหมดสิ้น เพราะเห็น เข้าใจ ในเหตุ และผล ตลอดสายตั้งแต่ต้น กลาง ปลาย ส่วนการวางแนวทาง ในการปฏิบัตินั้นต้องอาศัยศิษย์วัดท่าซุงในประเทศไทยเป็นหลักในการเผยแพร่ส่วนความเพ้อฝันของบางคนที่ว่าจะเป็นคนมีเชื้อสายชาวต่างประเทศที่เป็นคนยุโรปนั้นอย่าได้หวังว่าจะมีปัญญาได้ถึงขนาดนั้น เพราะขาดการฝึกปรือ



    </TD></TR><TR align=right><TD>จากคุณ คนเมืองบัว เมื่อวันที่ 11/5/2548 0:51:37 </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา http://www.konmeungbua.com/webboard/aspboard_Question.asp?GID=4540
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2006
  13. alskling

    alskling เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2006
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +450
    น่ากัวจังเลยค่ะ

    อ่านแล้วน่ากัวมากๆเลยค้ะ
     
  14. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,705
    ค่าพลัง:
    +51,934
    *** โลกุตตระ มาปรากฏ พระไตรปิฎก มาสอนธรรม **** ในช่วงเวลากึ่งพุทธกาล พระไตรปิฎกคำสอนของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ได้ลงมาปรากฎมาในร่างมนุษย์ผู้หนึ่งที่รู้เรื่องราวทั้งหมดในจักรวาล ท่านลงมาส่งมอบประทาน "หลักสัจจะธรรม" ให้กับมนุษย์ผู้หนึ่งที่ท่านเลี้ยงดูอบรมมาแต่เด็ก เพื่อให้รับและนำไปปฏิบัติสั่งสอนต่อไป นั้นคือ "หลักโลกุตตระ" ได้ปรากฏแล้ว ดินฟ้าอากาศเป็นพยาน สิ่งสำคัญที่เป็นแก่นสารในศาสนาก็คือ "สัจจะ"....เมื่อ "โลกุตตระ" มาปรากฏเป็นเวลานานหลายปี แต่หามีผู้ใดไปต้อนรับ ทุกคนเหมือนนอนหลับ ทุกสถาบันไม่รู้ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ลงมาปรากฏในประเทศไทยแล้ว พระแม่ธรณีสงสารและเห็นใจยิ่งนัก จึงเชิญท่านกลับ คือเชิญให้ "โลกุตตระ"กลับ เมื่อถึงเวลาที่ "โลกุตตระ" จะละสังขารจากไปท่านสอนจนลมหายใจสุดท้าย สิ่งที่ท่านสอนคือคำสอนหนทางปฏิบัติ หนทางหลุดพ้น มีทั้งที่เป็นภาษาโบราณเก่าแก่ดั้งเดิม และมีคาถาที่ท่านให้ไว้ด้วยความเมตตาต่อมนุษย์เรียกว่า "พระคาถาป้องกันสรรพภัยทั้งปวงกึ่งพุทธกาล"...เนื่องจากศาสนศาสตร์ในโลกนี้มีเพียงหนึ่งเดียว เมื่อถึงเวลาสิ่งใดที่มิใช่คำสอนจาก "โลกุตตระ" มิใช่ "โลกุตตระธรรม" ก็จะหมดไป โลกจะแสดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ ความจริง สัจจะธรรม...ผู้ที่ทำได้ ผู้ที่เชื่อใน "สัจจะ" และทำได้จริงจะคงอยู่รอดอย่างน่าปฏิหาริย์ คำสั่งสอนอื่นที่สอนให้มนุษย์ทำความดี สุดท้ายจะต้องมาจบลงที่ "หลักโลกุตตระ"....ผู้ที่ไม่เชื่อใน "สัจจะ หลักสัจจะธรรม" โลกจึงไม่ปล่อยไว้แน่นอน เพราะคือ ผู้ต่อต้านธรรม นั้นเอง....จึงขอให้เชื่อ "สัจจะมีผลตอบแทน" นำ"สัจจะ" มาปฏิบัติเป็น "ประจำวัน" เพื่อสะสมการกระทำ ตัวกระทำ ความดีเป็นเงาตามติดตัวเราตลอดไป...เวลาให้ทำความดีเหลือไม่มากนัก....อย่าดูถูก ดูหมิ่น "สัจจะ" ว่าเป็นลัทธิ !!! - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2006
  15. narakna_toon

    narakna_toon สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +5
    จากที่ท่านทั้งหลายได้อ่านดิฉันก็เคยได้ยินคำทำนายเรื่องนี้อยู่เหมือนกันเมื่อตอนยังเด็กๆคนแก่สมัยนั้นเค้าบอกว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับมวลมนุษย์ในอนาคตที่จะมาถึงในไม่ช้านี้แล้วเค้าบอกว่าผู้คนจะล้มตายบ้านเมืองจะลุกเป็นไฟผลาญแม่พระธรณีจะมีน้ำตาท่านก็บอกสิ่งที่เหลือจะมีเพียง "สามใบโพธ์" ท่านก็บอกว่าให้ทำแต่ความดีเอาไว้ให้มากๆตอนนั้นดิฉันยังเด็กก็เลยได้แต่ฟังแล้วก็ไม่ได้เก็บมาคิดอะไรแต่พอมาถึงตอนนี้เหตุการณ์หลายๆเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ดิฉันนึกถึงคำที่ยายแก่คนนั้นบอกซึ่งมันมีส่วนคล้ายกับคำทำนายนั้นแล้ว"สามใบโพธิ์"คืออะไรคะ
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    "สามใบโพธิ์" หรือ "สามร่มโพธิ์ศรี" หมายถึง พระโพธิสัตว์สามพระองค์ที่จะจุติลงมาจากสวรรค์เพื่อช่วยเหลือมวลมนุษย์ ที่เหลือรอดจากภัยพิบัติในช่วงกึ่งพุทธกาลนี้ เพื่อสร้างโลกใหม่ที่ดีงาม และเพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนาของพระสมณะโคดมให้มีอายุยืนยาวไปจนครบ 5,000 ปีครับ

    "ยุคสามร่มโพธิ์ศรี" จากคุณอัญญาสิทธิ์

    <TABLE class=tborder id=post121026 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1 id=td_post_121026>ถึงคุณ เกษม เรื่อง "สามร่มโพธิ์ศรี" นั้นที่จริงคือเรื่องของพระจักรพรรดิ์ ที่พระศรีฯ จะลงมายกยอพระศาสนา ที่พระศรีฯท่านมาเป็นพระยาธรรมิกราช ปกครองโลก พระโพธิสัตว์อีกองค์หนึ่งทำหน้าที่เป็นคล้ายพระสังฆราชของโลก และพระโพธิสัตว์อีกองค์หนึ่งทำหน้าที่คล้ายนายกของโลก โดยมีเหล่า อัญญาสิทธิ์ และ อัญญาธรรม ซึ่งเป็นผู้ที่ลงมาทำหน้าที่ต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ปฎิบัติรอพระจักรพรรดิ์ กันทั้งนั้นและมักอยู่ในที่ลี้ลับ แต่ถ้าปฏิบัติจิตถึงก็สื่อกันได้

    รายละเอียดเรื่องสามร่มโพธิ์ศรี ผมกำลังรวบรวมจากคนในคณะหลายๆคน เพราะฟังมา ต่างวาระกัน แล้วจะนำมาเล่าสู่กันฟังทีหลังครับ

    ที่สำคัญก็คือกาลของยุคพระจักรพรรดิ์ ใกล้เข้ามามากแล้ว ครูบาอาจารย์ ท่านมาบอกบ่อยๆให้เร่งปฏิบัติกัน พระศรีฯใกล้จะลงมาทำหน้าที่พระจักรพรรดิ์ แล้ว คำว่า "ใกล้" นี้ ในโลกภายในนั้นหากเป็น 5-10 ปีมนุษย์นั้น ถือว่าน้อยมาก

    ที่ผมกำลังกังวลก็คือ กาลของพระจักรพรรดิ์ จะมาเร็วกว่าที่คิดมาก ครูบาอาจารย์ท่านสั่งให้ทำหลายสิ่งหลายอย่าง ผมยังทำไม่เสร็จอีกมาก ครูบาอาจารย์ท่านบอกไว้ว่าเมื่อกาลของพระจักรพรรดิ์ใกล้เข้ามา หายนะจะเกิดขึ้นกับโลก เทวดาเขาจะทำฤทธิ์ โลกจะปั่นป่วนเท่าที่จำได้ ท่านบอกว่า "ประเทศอเมริกาจะเป็นเกาะเป็นแก่ง" ยุโรปต่อไปก็จะหายนะอยู่ไม่ได้ ต้องมาพึ่งแผ่นดินไทย (ต่อไป ไทยกับลาวจะกลับมารวมกัน) ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น หายไป ฯลฯ และประเทศไทยจะดีได้ ก็ต่อเมื่อ "เกิดเหตุใหญ่" เสียก่อน การเมืองไทยคนจะฆ่ากันตายเป็นเบือ แต่ที่เป็นอยู่ทางภาคใต้ตอนนี้คิดว่ายังไม่ใช่เหตุการณ์ที่ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวไว้ เคยถามท่านว่า "ไม่ให้เกิดไม่ได้หรือ" ท่านว่า "ปู่ยีเว่าไว้แล้ว ปานพระเจ้าเว่า เปลี่ยนแปลงไม่ได้"

    หากใครสังเกตดีๆ ลมพายุนั้นคล้ายจักรหมุน หากใครเคยขี่จักรภายในจะเข้าใจว่าเป็นยังไง เท่าที่เห็นตอนนี้คือภายใน ปราบภายใน ก็ล้นออกมาภายนอก ใครมีกรรม เป็นเชื้อสายของพวกที่เขาปราบภายในก็จะได้รับผลกระทบ ถ้าจะไล่ลำดับ ก็ต้องไปตั้งต้นศึกษาระบบจิตวิญญาณที่หมุนเวียนอยู่บนโลกตั้งแต่ยุครามเกียรติ์แหละ

    เอาเป็นว่าพวกอิสลามคือเชื้อยักษ์พวกนึง ฝรั่งก็เชื้อยักษ์อีกพวกนึง ทางเอเชียก็เป็นพวกเทวดา นาค ฯลฯ รวมทั้งลูกผสมเชื้อยักษ์ก็มีเช่นกัน ศาสตร์วิชาการที่มนุษย์ใช้อยู่บนโลกปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นวิชาของพวกเชื้อยักษ์เป็นคนคิด (ยิวกับยักษ์ เป็นภาษาลัญญลักษณ์) สุดท้ายศาสตร์วิชาการที่มนุษย์เอามาใช้ก็จะทำลายเบียดเบียนมนุษย์กันเอง
    <!-- / message -->

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2006
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    การเมืองปีหมูไฟ พ.ศ. 2550

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD height=5></TD></TR><TR><TD>
    [​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <O:p

    ในปี พ.ศ. 2550 ยังจะมีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นเป็นระลอกโดยเฉพาะในเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2550 ให้จับตามองเป็นพิเศษ เพราะจะมีคลื่นมนุษย์ออกมาชุมนุมต่อต้านท้าทายอำนาจ คมช. ถึงแม้ว่าในกรุงเทพฯ จะยกเลิกกฎอัยการศึกไปแล้วก็ตาม คิดว่า คมช. ต้องกลับมาใช้กฎอัยการศึกอีกครั้ง ความปั่นป่วนทางการเมืองจะกระทบไปถึงเศรษฐกิจในปี พ.ศ. 2550 อย่างรุนแรง โล่ห์มนุษย์จะออกมาจำนวนมาก หาก คมช.ไม่เตรียมป้องกันและรับมือให้ดีความรุนแรงอาจจะเกิดขึ้นได้อย่างคาดไม่ถึง จะมีหลายกลุ่มหลายฝ่ายพร้อมที่จะให้จับกุมอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย


    การเปลี่ยนแปลงในคณะรัฐมนตรีบางกระทรวงก็จะเกิดขึ้น อาจจะมีรัฐมนตรีบางท่านได้รับเกียรติให้ลาออก อาจจะมีเหตุอ้างว่าเพราะสุขภาพหรือชราภาพซึ่งเป็นสิ่งที่สมควรที่จะปรับเปลี่ยนเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีรัฐมนตรีหลายกระทรวงที่ทำงานไม่ได้ตามเป้าหมายและไม่ทันใจประชาชน จึงทำให้ประชาชนเกิดความเบื่อหน่าย ความเสื่อมศรัทธาคณะรัฐบาลชุดปัจจุบันจะค่อยๆปรากฏขึ้น ในขณะเดียวกันภายในองค์กรบางองค์กรยังมีสายสัมพันธ์อันแนบแน่นกับผู้มีอำนาจเก่าซึ่งพร้อมที่จะรอคอยและต้อนรับการกลับมาของอดีตผู้นำ แต่ในปีพ.ศ. 2550 ถึงปี พ.ศ. 2551 อดีตผู้นำยังไม่สามารถที่จะสานฝันได้สำเร็จจะทำได้ก็เพียงแต่สร้างสถานการณ์ความปั่นป่วนทางการเมืองและเศรษฐกิจให้กับประเทศ ขอให้ท่านนายกสุรยุทธ์ จุลานนท์รีบจัดคณะรัฐมนตรีที่เข้าถึง เข้าใจประชาชนและการทำงานควรจะเร่งรีบให้มากขึ้น


    แม้กระทั่งพลเอกสนธิ บุญยรัตกลินก็อย่าประมาทเพราะคณะ คมช. ไม่ได้เป็นผู้นำและไม่ทันเกมส์ของฝ่ายตรงข้าม กลับเป็นฝ่ายไล่ตามแต่ไม่สามารถที่จะตามทันเกมส์ของอีกฝ่ายหนึ่งได้ ควรจะปรับกลยุทธ์หรือหาวิธีการให้เข้มงวดและเข้มแข็งมากกว่านี้ หาไม่แล้วประเทศชาติจะเสียหายทั้งทางเศรษฐกิจและชื่อเสียง ถึงแม้ว่าจะผ่านพ้นเดือนกุมภาพันธ์และเดือนมีนาคมไปแล้วก็อย่าคิดว่าความสงบจะกลับคืนมาง่ายๆ ยังต้องระวังช่วงกลางปีอีกครั้งหนึ่งอาจจะเกิดภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว ซึ่งหากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นจะอยู่ในช่วงกลางปี หรือปลายปี 2550 และเป็นภัยพิบัติที่แรงกว่าทุกครั้ง

    ภัยธรรมชาติที่มองข้ามไม่ได้ คือ ภัยจากน้ำที่จะสร้างความเสียหายกับชาวเกษตรกรและย่อมกระทบถึงเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภัยธรรมชาติที่กล่าวมานี้ให้เฝ้าติดตามและหาทางป้องกันไว้แต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะท่านอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่ากทม. ควรจะเร่งลอกท่อระบายน้ำทุกจุด ตั้งแต่กลางปีเป็นต้นไปอย่าช้ากว่านี้เพราะจะไม่ทันการ ปัญหาน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพฯ จะเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2550

    <O:p</O:p
    การเลือกตั้งที่คาดหมายกันว่าจะมีภายในปีพ.ศ. 2550 นี้ ผมคิดว่าจะไม่มีการเลือกตั้งภายในปี พ.ศ. 2550 แต่การเลือกตั้งจะมีขึ้นได้ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ มีนาคม หรืออย่างช้าไม่เกินเดือนเมษายน พ.ศ. 2551 ถึงแม้ว่าใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งมาจากการเลือกตั้งก็ตามก็คงหลีกหนีไม่พ้นกับการประท้วงชุมนุมเป็นระลอกๆ เศรษฐกิจประเทศไทยจะตกยาวไปถึงปี พ.ศ. 2552 ใครก็ตามที่มาเป็นผู้นำ นับตั้งแต่ปีนี้ไปถึงปี พ.ศ. 2552 ต้องเหนื่อยกับการกู้เศรษฐกิจที่ทรุดตัวมาแล้วจากรัฐบาลชุดก่อน ขอเรียกว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2006
  18. หลับตา

    หลับตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    716
    ค่าพลัง:
    +3,151
    คุณเกษมว่า 1 ปีที่ผ่านมาเนี้ย มีคำทำนายไหนบ้างที่ทายเรื่องภัยน้ำท่วมในปีนี้ถูกบ้างครับ ผมเหมือนคุ้นๆนะว่ามีใครทายเน้นแต่เรื่องน้ำท่วมไว้ ที่จริงปีนี้ภัยต่างๆก็ร้ายแรงนะ ทั้งน้ำท่วม ทั้งการเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ ภาคใต้ แต่ยุคนี้ในเมืองต่างคนต่างอยู่ต่างคนต่างทุกข์
     
  19. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    ถ้าได้นายกรัฐมนตรีที่ไม่มีศีลไม่มีคุณธรรมต่อให้เก่งกาจอย่างท่านนายกคนก่อนก็ไปไม่รอดหรอกครับเพราะเบื้องบนกำลังคัดสรรคนที่จะอยู่รอดจากภัยพิบัติต่างๆนั้นต้องมีศีลมีคุณธรรมครับผม สังคมจะต้องถูกปรับเปลี่ยนเป็นสังคมอุดมธรรม ที่เรียกกันว่าระบบธรรมาภิบาล ไม่ใช่ระบบนิยมทุนเหมือนท่านนายกคนเก่า ผมถึงไม่เชื่อในคำทำนายของหมอนิด(คุณกิจจา) ผมเชื่อในสิ่งที่พระเกจิอาจารย์ดังๆพูดเตือนไว้ครับ
     
  20. ืีnumq

    ืีnumq เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    392
    ค่าพลัง:
    +343
    33
     

แชร์หน้านี้

Loading...