ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    การเป็นความกับเพื่อนบ้านจะยืดเยื้อ ผูกกรรมนำไปสู่ศึก

    บัดนี้ยังไม่เข้าวิกฤติเต็มขั้น หากยอมถอยร่น คนละก้าว

    ละซึ่งโมหะและอัตตา รอมชอมกรณีพิพาท

    ที่จะหนักภายหน้า ยังแก้ไขได้ การวินาศจะไม่อุบัติ

    กลแก้ศึก คือรัฐศาสตร์การฑูต มากกว่าอื่น





     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 มิถุนายน 2008
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ชาว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2008
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    รายงานข่าวภายในประเทศ(ภาคใต้)

    จ่อยิง จนท.รถไฟเสียชีวิต 4 ศพ

    [​IMG]

    นราธิวาส 21 มิ.ย.-โจรใต้แฝงตัวเป็นผู้โดยสาร ลอบยิงเจ้าหน้าที่ถึงบนขบวนรถไฟเสียชีวิต 4 คน ทั้งยังขโมยปืนไปด้วย 3 กระบอก

    ตำรวจเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุบนขบวนรถไฟสายสุไหงโก-ลก-นครศรีธรรมราช หลังเกิดเหตุลอบยิงเจ้าหน้าที่การรถไฟเสียชีวิตถึง 4 คน บริเวณสถานีรถไฟมะรือโบตก บ้านกาแดะ ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ประกอบด้วย นายวิชาญ ฉายามนตรี นายสถานีรถไฟเจาะไอร้อง นายพิพัฒน์ กล่อมจิต ผู้รักษาการรถไฟ นายวัชระศักดิ์ จันทร์หนูนก และดาบตำรวจสมพร ยี่สุ่นดนตรี เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ

    จากการสอบปากคำทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ คนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 5 คนทำทีเป็นผู้โดยสารขึ้นมาบนขบวนรถไฟที่สถานีรถไฟบ้านกาแดะ มุ่งหน้าไปยังสถานีมะรือโบตก เมื่อวิ่งมาได้ระยะหนึ่ง คนร้ายก็เดินไปยังโบกี้ที่พักของเจ้าหน้าที่รถไฟ เมื่อสบโอกาสจึงใช้ปืนอาก้า 11 มม. และ 9 มม. จ่อยิงที่หัวของเจ้าหน้าที่ ขณะกำลังนั่งพักผ่อนบนเก้าอี้จนเสียชีวิต ก่อนจะบังคับให้เจ้าหน้าที่ขับรถไฟหยุดรถ และกระโดดหลบหนีไป โดยคว้าปืน M.16, 11 มม. และ 9 มม. ของเจ้าหน้าที่หลบหนีไปด้วย.-สำนักข่าวไทย

    2008-06-22 01:02:31

    ศพ ฮ.ตกถูกส่งกลับภูมิลำเนา

    [​IMG]

    ลพบุรี, นครศรีฯ 21 มิ.ย. - ศพของเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ กอ.รมน. ตกที่ จ.ยะลา เมื่อวานนี้ ถูกส่งกลับไปบำเพ็ญกุศลยังภูมิลำเนาแล้ว

    ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อวานนี้ มาถึงสนามบินกองพลบินที่ 2 ฐานบินโคกกระเทียม จ.ลพบุรี ทหารกองเกียรติยศตั้งแถวรับศพอย่างสมเกียรติ โดยมีญาติและเพื่อนร่วมงานมาร่วมพิธีรับศพเป็นจำนวนมาก ก่อนเคลื่อนศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเสาธงทอง เขตเทศบาลเมืองลพบุรี

    ส่วนศพของ ร.ต.อ.วรพงษ์ พุฒินิล และ น.ส.มณีรัตน์ บรรเทา เจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ ส่งไปที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ จ.นนทบุรี

    ขณะที่ศพของทหารอีก 3 นาย ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์เดียวกัน ถูกส่งโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช

    ส่วนศพของ ร.ต.ต.กฤติกุล บุญลือ ผู้บังคับหมวดกองร้อยรบพิเศษ ค่ายนเรศวร จ.เพชรบุรี ซึ่งเสียชีวิตจากการปะทะกับคนร้าย ถูกส่งกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมารดา เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้เป็นวันเกิดของ ร.ต.ต.กฤติกุล ซึ่งเป็นวันเดียวกับวันเกิดของตน ก่อนเสียชีวิต ร.ต.ต.กฤติกุล ส่งเอสเอ็มเอสมาอวยพรให้มารดาสุขภาพแข็งแรง โดยไม่นึกว่าจะเป็นข้อความสุดท้ายที่ได้รับ. - สำนักข่าวไทย

    2008-06-21 20:22:37

    ระเบิดรถทหาร ฉก.25 เจ็บ 4 นาย

    [​IMG]

    ปัตตานี 21 มิ.ย. - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.30 น.ที่ผ่านมา คนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนได้ลอบวางระเบิด บนถนนสายปาลัส
     
  4. whitenaga

    whitenaga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    796
    ค่าพลัง:
    +2,752
    วันพระที่ผ่านมาประมาณวันที่ 18 ไปเจอ นักปฏิบัติธรรมที่เคารพ ท่านบอกว่าก่อนหน้านี้ประมาณหนึ่งเดือนนิมิตเห็นช้างตัวใหญ่มาก (คราวมีนากีส ท่านก็นิมิตเห็นช้างแบบนี้ แต่ดุมากฆ่าคนตาย) แต่คราวนี้ท่านนิมิตเห็นตัวใหญ่กว่า ส่งเสียงร้องเปรี้ยงปร้าง

    จากนั้นท่านก็เห็นลูกแก้วด้วยตาเปล่า(โพสเล่าไปแล้ว) ทำให้เชื่อว่าจะเกิดภัยพิบัติจริง

    สัปดาห์นี้ท่านเล่าว่า ฝันติดต่อกันมาสองสามคืน ว่าน้ำท่วม ท่วมจากด้านล่าง เร็วมากท่านบอกว่า เรียกร้องให้คนระวังภัย แต่ไม่ทัน น้ำท่วมมิด ทุกอย่างเหมือนทะเล เราก็ถามว่าแล้วคนหล่ะ ท่านก็บอกว่าลอยไปตามน้ำ

    ก็เลยคิดในใจว่าต้องเอามาโพสเล่า (ขออนุญาติท่านแล้ว) จะเกิดที่ไหนเมื่อไหร่ไม่รู้ เอามาเล่าก็พิจารณากันนะค่ะ

    ขอให้เจริญในธรรมค่ะ
     
  5. whitenaga

    whitenaga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    796
    ค่าพลัง:
    +2,752
    รู้แต่ว่า สงสัยปีนี้ภัยเกี่ยวกับน้ำ ลม ฝน จะเยอะนะ
     
  6. จักรพนธ์

    จักรพนธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    374
    ค่าพลัง:
    +4,622
    เหตุผลใดไทย จึงแพ้คดีปราสาทพระวิหาร




    [​IMG]



    บทความโดย ประสิทธิ์ ปิวาวัฒนพานิช คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


    ...คนไทยไม่ค่อยรู้ความเป็นมาเป็นไปในคดีปราสาทพระวิหารอาจเป็นเพราะว่า ประเทศไทยแพ้คดีนี้ให้กับประเทศเพื่อนบ้านคือกัมพูชา จนทำให้สังคมไทยไม่อยากกล่าวถึงคดีนี้มากนัก...

    ประเด็นเรื่องปราสาทพระวิหารกลายเป็นหัวข้อที่สาธารณชนให้ความสนใจอีกครั้ง เมื่อประเทศกัมพูชายื่นเรื่องการขอเสนอให้ปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกตาม อนุสัญญา Convention Concerning the Protection of the World Cultural and Natural Heritage โดยที่ประเทศไทยคัดค้านการยื่นฝ่ายเดียวของกัมพูชา โดยอ้างเรื่องความสมบูรณ์ทางวิชาการด้านโบราณคดีและการที่ทั้งสองประเทศยัง ตกลงกันไม่ได้เกี่ยวกับเขตแดน ​

    แม้คดีนี้จะผ่านความรับรู้ของคนไทยมายาวนานแล้วก็ตามแต่ปรากฏว่ามีคนไทยน้อยมากที่รู้ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในเรื่องนี้ ​

    เหตุผลที่คนไทยไม่ค่อยรู้ความเป็นมาเป็นไปในคดีปราสาทพระวิหารอาจเป็น เพราะว่าประเทศไทยแพ้คดีนี้ให้กับประเทศเพื่อนบ้านคือกัมพูชา จนทำให้สังคมไทยไม่อยากกล่าวถึงคดีนี้มากนัก ​

    และด้วยเหตุที่คนไทยรู้จักกับคดีนี้น้อย จึงอาจมีการบิดเบือนข้อมูลได้ง่าย เนื่องจากคดีนี้มีสองประเด็นใหญ่ที่ต้องพิจารณาคือ ประเด็นเรื่องการยอมรับเขตอำนาจศาลและการพิจารณาขั้นเนื้อหา จึงขอแยกอธิบาย ดังนี้ ​

    [​IMG] ประเด็นเรื่องเขตอำนาจศาลโลก

    ประชาชนคนไทยมักจะสงสัยอยู่เสมอว่า ทำไมประเทศไทยต้องไปขึ้นต่อสู้คดีต่อศาลโลกที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ทั้งๆ ที่ประเทศไทยมีอธิปไตย มีเอกราช การขึ้นต่อสู้คดีของประเทศไทยมิเท่ากับเป็นการเสียเอกราชหรือ ​

    ประเด็นนี้ เป็นประเด็นข้อกฎหมายที่สลับซับซ้อน หากใช้ความรู้สึกชาตินิยมหรือสามัญสำนึกย่อมไม่เข้าใจว่าทำไมประเทศไทยต้อง ขึ้นศาลโลก ผู้เขียนจะขออธิบายช่องทางการยอมรับเขตอำนาจศาลโลกเสียก่อนว่ามีวิธีการใด บ้าง การยอมรับเขตอำนาจศาลโลกนั้นทำได้อยู่สามประการคือ ​

    [​IMG] ประการแรกการยอมรับเขตอำนาจการพิจารณาคดีโดยการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาใดอนุสัญญาหนึ่ง ซึ่งกำหนดว่า หากมีปัญหาในการตีความสนธิสัญญา ให้ศาลโลกเป็นผู้พิจารณา ​

    [​IMG] ประการที่สอง ประเทศคู่พิพาทตกลงทำความตกลงยอมรับเขตอำนาจศาลโลกเป็นเฉพาะกรณีๆ ไป กล่าวคือ เมื่อเกิดข้อพิพาทขึ้นมาแล้ว รัฐคู่พิพาทได้ทำสนธิสัญญายอมรับเขตอำนาจศาลเฉพาะข้อพิพาทนั้น และ ​

    [​IMG] ประการที่สามรัฐได้ทำคำประกาศฝ่ายเดียวยอมรับเขตอำนาจศาล ทั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไขที่รัฐกำหนดไว้ ​

    ประเด็นเรื่องการยอมรับเขตอำนาจศาลโลก (ทั้งศาลโลกเก่าและใหม่) ของประเทศไทยนั้นเป็นประเด็นที่คนไทยไม่ใคร่ได้กล่าวถึง อาจเป็นเพราะว่าเป็นประเด็นข้อกฎหมายมากเกินไปประชาชนทั่วไปจึงไม่ค่อยได้ สนใจ ​

    อีกทั้งทางการก็มิได้ชี้แจงประเด็นนี้ต่อสาธารณชน มากนักทั้งๆ ที่ประเด็นนี้มีความสำคัญอย่างมาก และเป็นประเด็นที่หากมีการกล่าวถึงในวงกว้างแล้วก็อาจมีผลกระทบต่อผู้ เกี่ยวข้องได้ แต่เนื่องจากประเด็นนี้สำคัญ ผู้เขียนจึงมิอาจหลีกเลี่ยงที่จะข้ามไปได้จึงขอกล่าวถึง ดังนี้ ​

    ประเทศไทยได้ทำคำประกาศยอมรับเขตอำนาจของศาลโลก ทั้งหมด 3 ฉบับ ดังนี้ ​

    [​IMG] ฉบับแรกทำเมื่อวันที่ 20 กันยายน ค.ศ.1929 และเริ่มมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ในปี ค.ศ.1930 โดยคำประกาศยอมรับเขตอำนาจศาลโลกเก่าซึ่งชื่ออย่างเป็นทางการคือ "ศาลประจำยุติธรรมระหว่างประเทศ" (Permanent Court of International Justice : PCIJ) เป็นเวลา 10 ปี ​

    [​IMG] ฉบับที่สอง รัฐบาลไทยทำคำประกาศโดยมิวัตถุประสงค์เพื่อ "ต่ออายุ" (renew) เขตอำนาจศาลโลกเก่า โดยคำประกาศฉบับที่สองนี้ทำเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ.1940 โดยคำประกาศที่สองนี้เริ่มมีผลใช้บังคับวันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ.1940 ​

    [​IMG] ฉบับที่สาม รัฐบาลไทยทำเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ค.ศ.1950 ซึ่งหลังจากที่คำประกาศฉบับที่สอง (ที่ต่ออายุคำประกาศฉบับแรก) หมดอายุเป็นเวลา 14 วัน ​

    มีข้อสังเกตที่น่าสนใจและเป็นประเด็นข้อกฎหมายที่ฝ่ายไทยนำมาอ้างก็คือ ศาลโลกเก่านั้นได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 19 เมษายน ค.ศ.1946 และตามธรรมนูญของศาลโลกใหม่ที่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า "ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ" (International Court of Justice : ICJ) นั้นมาตรา 36 วรรค 5 ได้กำหนดว่า ให้การยอมรับเขตอำนาจ "ศาลโลกเก่า" โอนถ่ายไปยัง "ศาลโลกใหม่" หากว่า คำประกาศนั้นยังมีผลใช้บังคับอยู่หรือกล่าวง่ายๆ คือ ยังไม่ขาดอายุนั่นเอง ​

    ข้อต่อสู้เกี่ยวกับการคัดค้านเขตอำนาจศาลโลกใหม่ที่ทนายความฝ่ายไทยต่อ สู้ในชั้นของการคัดค้านเขตอำนาจของศาลโลกใหม่นั้นมีว่า คำประกาศยอมรับเขตอำนาจศาลโลกเก่าได้ยุติลงอันเป็นผลมาจากการสิ้นสุดของศาล โลกเก่า ดังนั้น คำประกาศต่ออายุเขตอำนาจศาลโลกเก่าเมื่อวันที่ 20 เมษายน ค.ศ.1950 จึงไม่มีผลใช้บังคับอีกต่อไป ​

    อีกทั้งคำประกาศดังกล่าวมิใช่คำประกาศยอมรับเขตอำนาจศาลโลกใหม่ ดังนั้น ศาลโลกใหม่จึงไม่มีเขตอำนาจ ​

    แต่ข้อต่อสู้นี้อ่อนมาก ศาลโลกเห็นว่า คำประกาศยอมรับเขตอำนาจศาลฉบับที่สามที่รัฐบาลไทยทำเมื่อวันที่ 20 เมษายน ค.ศ.1950 นั้น ไม่สามารถใช้เป็นเหตุผลในการต่ออายุยอมรับเขตอำนาจศาลโลกเก่าได้ เพราะว่า คำประกาศฉบับที่สามนี้ ทำหลังจากที่คำประกาศฉบับที่สองหมดอายุแล้วสองอาทิตย์ ​

    ศาลโลกเห็นว่า สิ่งที่จะต่ออายุได้นั้น สิ่งนั้นต้องเป็นสิ่งที่ยังมีอยู่ มิใช่เป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้ว อีกทั้งรัฐบาลไทยก็รู้ดีว่าขณะที่ทำคำประกาศฉบับที่สามนั้นทำหลังจากที่ศาล โลกเก่าได้สิ้นสุดลงแล้วกว่าสี่ปี (ศาลโลกเก่าสลายตัวเมื่อปี ค.ศ.1946 แต่คำประกาศฉบับที่สามทำเมื่อปี ค.ศ.1950) ข้ออ้างของประเทศไทยจึงฟังไม่ขึ้น ​

    ประเด็นต่อไปมีว่า ในเมื่อคำประกาศฉบับที่สามฟังไม่ได้ว่าเป็นคำประกาศต่ออายุยอมรับเขตอำนาจ ศาลโลกเก่าแล้ว ผลในทางกฎหมายของคำประกาศฉบับที่สามคืออะไร ศาลโลกเห็นว่า คำประกาศยอมรับเขตอำนาจศาลฉบับที่สามเป็นคำประกาศใหม่ ที่แยกเป็นเอกเทศออกจากคำประกาศฉบับแรกและฉบับที่สอง ​

    และหากพิจารณาเนื้อหาของคำประกาศที่สามแล้ว ศาลโลกเห็นว่า เป็นการประกาศยอมรับเขตอำนาจศาลโลกใหม่ โดยอิงเงื่อนไขจากคำประกาศฉบับแรก ​

    ดังนั้น ศาลโลกจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ศาลโลกมีเขตอำนาจพิจารณาข้อพิพาทที่รัฐบาลกัมพูชาฟ้องรัฐบาลไทย ข้อต่อสู้ทางกฎหมายของฝ่ายไทยฟังไม่ขึ้น




    [​IMG]



    [​IMG] ประเด็นเรื่องเนื้อหาของข้อพิพาท

    คําร้องของกัมพูชาที่สำคัญที่ให้ศาลโลกวินิจฉัยคือประเด็นที่ว่า กัมพูชามีอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนอันเป็นที่ตั้งของปราสาทพระวิหาร การนำเสนอพยานหลักฐานของทั้งสองฝ่ายนั้นมีดังนี้ ​

    ฝ่ายไทยเสนอว่า หากพิจารณาตามสนธิสัญญาที่สยามทำกับประเทศฝรั่งเศส (ขณะนั้นประเทศฝรั่งเศสปกครองกัมพูชา) เมื่อปี ค.ศ.1904 ซึ่งตามสนธิสัญญาจะใช้ "สันปันน้ำ" (watershed) ปราสาทพระวิหารจะอยู่ฝั่งไทย แต่หากพิจารณาตามแผนที่ ปราสาทพระวิหารจะอยู่ฝั่งกัมพูชา

    ขออธิบายตรงนี้เลยว่าหลังจากที่มีการทำสนธิสัญญาทวิภาคีในปี ค.ศ.1904 ทั้งสองฝ่ายได้ตั้งคณะกรรมการผสมขึ้น และไม่นานนัก คณะกรรมการชุดนี้ก็มิได้ทำงานอีกต่อไป ต่อมา ฝ่ายไทยได้ร้องขอให้ประเทศฝรั่งเศสจัดทำแผนที่ขึ้น ข้อสังเกตเกี่ยวกับแผนที่เจ้าปัญหาฉบับนี้ มีดังนี้ ​

    [​IMG] ประการแรกแผนที่นี้เป็นการร้องขอจากฝ่ายไทยให้ประเทศฝรั่งเศสทำขึ้น แผนที่นี้ทำขึ้นที่กรุงปารีส การที่ประเทศร้องขอให้ประเทศฝรั่งเศสทำขึ้นนั้นเป็นเพราะว่าในขณะนั้น ประเทศไทยยังขาดผู้เชี่ยวชาญในการทำแผนที่ ​

    [​IMG] ประการที่สอง การปักปันเขตแดนแล้วลงมาตราส่วนลงในแผนที่เป็นการกระทำฝ่ายเดียวของประเทศฝรั่งเศส โดยที่ฝ่ายไทยไม่มีส่วนร่วมเลย ​

    [​IMG] ประการที่สาม การทำแผนที่นี้ไม่เกี่ยวกับคณะกรรมการผสมแต่อย่างใด ในประเด็นนี้ผู้พิพากษาฟิสต์มอริสซึ่งเป็นหนึ่งในองค์คณะกล่าวว่า คณะกรรมการผสมไม่เคยแม้แต่จะ "เห็น" แผนที่นี้ อย่าว่าแต่ "รับรอง" เลย เป็นการร้องขอฝ่ายเดียวจากรัฐบาลไทย ​

    [​IMG] ประการที่สี่เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดและเป็นเหตุผลสำคัญที่ศาลโลกวินิจฉัยให้ประเทศไทยแพ้ก็คือ แม้ประเทศไทยจะไม่มีส่วนในการทำแผนที่ แต่ประเทศไทยก็ไม่เคยคัดค้านหรือประท้วงเกี่ยวกับความถูกต้องของแผนที่ ทั้งๆ ที่ประเทศไทยมีโอกาสอยู่หลายครั้งที่จะทักท้วงหรือประท้วงถึงความคลาด เคลื่อนหรือความผิดพลาดของแผนที่

    โอกาสที่จะประท้วงความไม่ถูกต้องของแผนที่ เช่น กรณีการเจรจาทำสนธิสัญญาทางไมตรี พาณิชย์และการเดินเรือกับประเทศฝรั่งเศสที่ทำขึ้นในปี ค.ศ.1925-1937 แต่ไทยก็มิได้ทักท้วง ​

    ซึ่งศาลโลกเห็นว่า การนิ่งเฉยของประเทศไทยเป็นเวลานานเท่ากับเป็นการยอมรับความถูกต้องของแผนที่แล้ว จะมาปฏิเสธในภายหลังนั้น ไม่อาจกระทำได้ เป็นการปิดปากประเทศไทยว่าจะมาปฏิเสธความผิดพลาดของแผนที่ไม่ได้ ​

    ยิ่งไปกว่านั้น ทางการของไทยเองยังได้ทำแผนที่ใช้ขึ้นเองอีกด้วยในปี ค.ศ.1937 โดยแผนที่ที่เจ้าหน้าที่ของไทยเป็นผู้จัดทำ ได้แสดงว่าปราสาทพระวิหารตั้งอยู่ในดินแดนของกัมพูชา ประเด็นนี้ไทยอ้างว่า แผนที่ที่ไทยทำขึ้นเองฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการทหารเป็นการภายในเท่านั้น แต่ศาลโลกไม่เห็นด้วยกับข้ออ้างของไทยในประเด็นนี้

    เหตุผลประการหนึ่งที่ศาลโลกเห็นว่า ประเทศไทยยอมรับอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาเหนือที่ตั้งปราสาทพระวิหารก็คือ การที่กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ไปเยือนกึ่งเป็นทางการที่ปราสาทพระวิหาร ในครั้งนั้น กองทหารฝรั่งเศสได้ตั้งกองทหารเกียรติยศรับการเสด็จอย่างเต็มที่ และยังชักธงชาติของประเทศฝรั่งเศสด้วย ​

    ซึ่งศาลโลกเห็นว่า เท่ากับประเทศไทยยอมรับอำนาจอธิปไตยเหนือปราสาทพระวิหารว่าเป็นของกัมพูชา (ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส) อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ ผู้พิพากษาศาลโลกท่านหนึ่งคือ ท่านเวลลิงตัน คู ซึ่งเป็นตุลาการเสียงข้างน้อยได้ทำความเห็นแย้งว่า ในเวลานั้นกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยแล้ว แต่ดำรงตำแหน่งนายกราชบัณฑิตยสถานแห่งประเทศไทย อีกทั้งพระองค์ยังตรัสว่า การมาเยือนปราสาทพระวิหารนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง ​

    นอกจากนี้ สาเหตุอีกประการหนึ่งที่ไทยแพ้คดีอาจเป็นผลมาจากการตั้งรูปคดีที่ผิดพลาดมา ตั้งแต่ต้น แทนที่ประเทศไทยจะปฏิเสธความผิดพลาดของแผนที่ ควรรับประเด็นเรื่องแผนที่ แล้วยกข้อต่อสู้ว่า ในกรณีที่ข้อความในสนธิสัญญาที่ให้ใช้ "สันปันน้ำ" แย้งกับ "แผนที่" ในกรณีนี้ให้ถือว่าข้อความในสนธิสัญญามีค่าบังคับเหนือกว่า ​

    ซึ่งอนุสัญญาแวร์ซายส์ มาตรา 29 ก็มีข้อความทำนองนี้ อีกทั้งก็มีคดีที่ศาลตัดสินให้ความน่าเชื่อถือของสนธิสัญญายิ่งกว่าแผนที่ ​

    จริงหรือที่ "การนิ่งเฉย" หรือ "กฎหมายปิดปาก" มิใช่เป็นหลักกฎหมาย

    หลังจากที่ไทยแพ้คดี นายถนัด คอมันตร์ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเวลานั้นกล่าวทำนองว่าศาลโลกนำหลักกฎหมายที่ไม่ชัดเจนมาตัดสินคดี ที่น่าคิดก็คือ ทำไมทนายฝ่ายไทยไม่ทราบ หรือว่า "หลักกฎหมายปิดปาก" หรือ "การนิ่งเฉย" นั้น ศาลโลกหรืออนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศเคยนำมาใช้หลายคดีแล้ว

    อีกทั้งนักกฎหมายระหว่างประเทศก็ยังได้เขียนบทความเรื่อง "หลักกฎหมายปิดปากที่ใช้ในศาลระหว่างประเทศและความสัมพันธ์ของหลักกฎหมาย ดังกล่าวกับการนิ่งเฉย" (Estoppel before Internationals and Its Relation to Acquiescence) เขียนโดยนักกฎหมายระหว่างประเทศชื่อ Bowett ลงในวารสาร British Yearbook of International Law ปี ค.ศ.1957 และบทความชื่อ "หลักกฎหมายปิดปากในกฎหมายระหว่างประเทศ" โดย Mcgibborn ในวารสาร International and Comparative Law Quarterly ปี 1958 ซึ่งตีพิมพ์ก่อนที่ศาลโลกจะตัดสินประมาณ 3-4 ปี ​

    ไม่อาจคาดการณ์ได้แน่ชัดว่าฝ่ายไทยได้เคยอ่านบทความนี้หรือไม่ แต่ไม่ว่าฝ่ายไทยจะได้เคยอ่านบทความนี้หรือไม่ก็ตาม ประเด็นที่น่าคิดก็คือ ทนายความของฝ่ายไทยน่าจะย่อมรู้ถึงหลักกฎหมายปิดปากเป็นอย่างดี ​

    เพราะหลักว่าด้วย "การถูกการตัดสิทธิ" (Preclusion) หรือ "การนิ่งเฉย" อาจเทียบได้หรือมีผลเท่ากันกับ "หลักกฎหมายปิดปาก" อันเป็นหลักกฎหมายอังกฤษ หรือแองโกลแซกซอน ​

    [​IMG] บทส่งท้าย

    สรุปเหตุผลที่แท้จริงที่ประเทศไทยเสียปราสาทพระวิหารคือ การยอมรับความคลาดเคลื่อนของแผนที่อันเป็นผลมาจากการทำแผนที่ฝ่ายเดียวของ เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศส ซึ่งศาลโลกเห็นว่า หลังจากที่ทำสนธิสัญญาประเทศสยามอยู่ในฐานะที่จะคัดค้านความไม่ถูกต้องของ แผนที่ได้หลายครั้ง แต่ก็มิได้คัดค้าน จึงปิดปากประเทศสยามว่าต่อมาจะปฏิเสธความไม่ถูกต้องของแผนที่ไม่ได้

    หากประเทศไทยจะเสียดินแดนอีกครั้งคงไม่ใช่เพราะนำข้อมูลการต่อสู้ทาง กฎหมายคดีความเอาไปขายให้กับประเทศเพื่อนบ้านหรือเกิดจากความไม่รักชาติ ไม่สามัคคีอย่างที่คนไทยหลายคนเข้าใจกัน (ซึ่งรวมถึง พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ด้วย) แต่เกิดจากความไม่รอบคอบ ความประมาท และไม่รู้จักหน้าที่ของตนเองมากกว่า เหมือนกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสามจังหวัดภาคใต้ของเรา


    ข่าวที่เกี่ยวข้อง



     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ amakig [​IMG]
    ขอโทษนะครับผมสังเกตุเห็นหลายครั้งแล้วว่า สัจจะ....สัจจะ มันคืออะไรครับ ขยายความด้วยครับ ไม่ได้กวนนะครับ คนที่ไม่รู้เหมือนข้าพเจ้าจะได้รู้
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    สัจจกิริยคาถา ตอนที่ ๑

    [​IMG]
    เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาพระมงคลเทพมุนี
    เมื่อวันที่ 01 มกราคม พ.ศ. 2493

    ณ.บัดนี้จักได้แสดงธรรมิกถา แก้ด้วยสัจจกิริยคาถา วาจาเครื่องกล่าวในกาลกระทำสัจเรียกว่าสัจจกิริยาคาถา วาจาเครื่องกล่าวในกาลกระทำสัจนั้น สัจจะต้องแสวงหาความจริง หญิงก็ดีชายก็ดีถ้าว่าเป็นคนจริงอยู่แล้ว ก็ได้ชื่อว่าเป็นคนมีสาระแก่นสาร หรือภิกษุสามเณรก็ดี ถ้าว่าเป็นภิกษุสามเณรที่จริงอยู่แล้ว ก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีสาระแก่นสารจริง นี่แหละเป็นที่มั่นหมายของพระศาสดาจารย์ทุกๆพระองค์ ที่ล่วงไปแล้วมากน้อยเท่าใด สำเร็จด้วยความจริงทั้งนั้น ที่จะมาในอนาคตกาลภายภาคหน้าเท่าใด ก็สำเร็จด้วยความจริง ซึ่งปรากฏอยู่ในบัดนี้ก็สำเร็จด้วยความจริง

    ความจริงอันนี้แหละ หญิงชายคฤหัสถ์บรรพชิตทุกทั่วหน้า ควรให้มีในสันดาน ของอาตมาถ้ามีความจริงอยู่แล้ว ถึงจะแก่เฒ่าชราสักเท่าใดก็ตามเถิด ได้ชื่อว่าเป็นคนมีแก่นสาร ถึงจะตั้งอยู่ในปานกลางก็ได้ชื่อว่าเป็นคนมีแก่นสาร ถึงจะตั้งอยู่ในวัยเป็นเด็ก ก็ได้ชื่อว่าเป็นคนมีแก่นสาร ความจริงอันนี้เป็นบารมีของพระพุทธเจ้า ที่ได้สั่งสมอบรมมาทุกๆพระองค์ จะเว้นเสียสักพระองค์หนึ่งไม่ได้เลย เว้นความจริงแล้ว เป็นอันไม่สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าทีเดียวอย่างแน่นอน

    สัจจกิริยคาถาคืออะไร

    คำว่า สัจจะ ที่โดยทั่วไปเรามักจะแปลกันว่า ความจริง ซึ่งหมายถึงเรื่องจริงต่างๆ ที่มีเกิดขึ้นในโลก เช่นการ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นความจริงที่ใครๆ ก็(ยัง) หลีกเลี่ยงไม่ได้

    ความหมายประการที่ ๒ สัจจะหมายถึงความจริงใจ

    จริงใจ คืออาการของใจที่ไม่กลับกลอกโลเล ไม่เหยาะแหยะ ไม่มีลับลมคมใน ไม่มีคดในข้องอในกระดูก มีแต่ความทุ่มเทจริงจัง เปิดเผยและตรงไปตรงมา
    ในขณะที่ คิด พูด ทำ ซึ่งเป็นผลให้ผู้มีสัจจะ ไม่ว่าจะลงมือทำอะไร จะตั้งใจทำสุดฝีมือเพื่อให้ผลออกมาดีที่สุด ไม่มีทำเล่นๆเลย เช่นเมื่อจะแปรงฟันก็จะแปรงฟันให้สะอาดที่สุด เมื่อจะนั่งลงก็จะนั่งในท่าที่ถูกสุขลักษณะมากที่สุด เมื่อจะลุกขึ้นยืน ก็จะยืนในท่าที่ทะมัดทะแมงที่สุด และแม้กระทั่งเมื่อจะนอนก็จะต้องนอนในท่าที่ถูกต้อง ผ่อนคลายที่สุดทุกอิริยาบถ จะอยู่ในความควบคุมอย่างรอบคอบ ละเอียดลออทรงประสิทธิภาพสูงสุด แต่ไม่เครียดไม่เกร็ง ตรงกันข้ามกลับสบายๆ เหมือนดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ เมื่อถึงเวลาก็ขึ้น - ก็ลง แต่ทรงฤทธานุภาพสูงสุดตลอดเวลา

    ความหมายประการที่ ๓ สัจจะหมายถึงการพูดเฉพาะคำจริง และเมื่อพูดแล้วก็ตามรักษาคำพูดนั้นๆเราเรียกว่าสัจจวาจา

    คนมีสัจจวาจา ก็คือคนที่พูดอย่างไรก็ทำอย่างนั้น ทำอย่างไรก็พูดอย่างนั้น เป็นคนพูดจริงและทำจริงไปด้วยในตัว

    ไม่ว่ามีอะไรเข้ามาถึงเขา หรือเขาต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับอะไร เขาก็มีความจริงจังจริงใจ ที่จะทำสิ่งนั้นๆให้มันดีที่สุด ไม่ทำอะไรเหลาะๆแหละๆ โลๆเลๆ ครึ่งๆกลางๆ

    เมื่อทำจนสุดฝีมือแล้ว ผลที่ออกมามันจะได้เท่าไร จะเข้าเป้าหรือไม่เข้าเป้าอย่างไร เขาก็รายงานผลนั้นตรงๆ ไม่อ้อมค้อมไม่มีเหลี่ยมไม่มีคู พร้อมจะตีแผ่เปิดเผยออกมาให้โลกรู้ ดีก็บอกว่าดี ไม่ดีก็บอกว่าไม่ดี พร้อมที่จะแก้ไขปรับปรุงให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป

    เมื่อมีนิสัยรักสัจจะอย่างนี้ มีขึ้นมาแล้วในตัว คือพูดจริงทำจริง ในที่สุดเขาจะถูกเพาะนิสัยอีกประการหนึ่งขึ้นมาในตัวด้วย คือเพาะนิสัยเป็นคนมีเหตุมีผล ชอบทั้งค้นทั้งคว้าทั้งหาเหตุผล เจาะลึกเพื่อมาตอบตัวเองให้ได้ ว่าจะทำอย่างไรให้สิ่งที่เข้าไปเกี่ยวข้อง เกิดผลออกมาดีที่สุด

    เนื่องจากเมื่อเขาทำอะไร ผู้มีสัจจะก็ตั้งใจทำให้มันดีสุดฝีมือ จึงถูกบังคับให้ต้องค้นคว้าหาความจริง ตามธรรมชาติของสิ่งนั้นว่า ดีที่สุดของสิ่งนั้นๆมันเป็นอย่างไร อยู่ที่ไหน ทำอย่างไรจึงจะได้มา

    คือถ้าเขาต้องการจะใช้สิ่งของสักชิ้น มาทำอะไร เขาก็จะพยายามค้นคว้าให้ได้ว่า สิ่งของดีที่สุดตามที่เขาต้องการนั้น มีคุณสมบัติอย่างไร ทราบแล้วก็พยายามตามให้เจอ เมื่อเจอแล้วจึงค่อยนำมาทำงานนั้น ด้วยความระมัดระวังตั้งใจ เพื่อให้ผลงานออกมาดีที่สุด

    เมื่อค้นคว้าหาความจริงของสรรพสิ่ง ตามธรรมชาติมากเข้าๆ เขาก็จะเข้าใจธรรมชาติของคน ธรรมชาติของสังคม ธรรมชาติของโลก แต่ในที่สุดก็จะไปตันตรงที่ว่า แล้วความจริงของชีวิตเป็นอย่างไร ทำอย่างไรจึงจะใช้ชีวิตให้มีค่าสูงสุด เมื่อนิสัยการค้นคว้าหาความจริง ถูกเพาะจนเข้าไปถึงจุดนั้นแล้ว ก็จะนำไปสู่การแสวงหาอริยสัจ ตามที่พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ทรงกระทำ

    อย่างที่เราได้ศึกษาพุทธประวัติกันมาแล้ว ว่าก่อนจะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เจ้าชายสิทธัตถะทรงตั้งพระทัยว่า จะออกบวชเพื่อค้นคว้าหาความจริงของชีวิตให้พบ และมั่นพระทัยด้วยว่าจะต้องพบ เพราะพระองค์ได้ทรงค้นพบธรรมชาติของโลกแล้วว่า มันมีธรรมชาติที่แก้กันได้อยู่ เช่นเมื่อมีมืดได้ก็มีสว่างได้ มีดวงอาทิตย์ตก- ก็มีดวงอาทิตย์ขึ้นได้ มีพระจันทร์ข้างแรมก็มีพระจันทร์ข้างขึ้นได้ มีน้ำขึ้นก็มีน้ำลงได้ เพราะฉะนั้นเมื่อชีวิตมีทุกข์ได้ก็ต้องมีสุขได้ แล้วทำอย่างไรชีวิตจึงจะมีสุขนิรันดร์ ไม่ต้องเกิดไม่ต้องแก่ ไม่ต้องเจ็บ ไม่ต้องตายกันอีกต่อไป

    ด้วยพระนิสัยที่พระองค์ทรงฝึกตัวเอง ในเรื่องความมีสัจจะ ความจริงจัง จริงใจมานับอสงไขยภพ อสงไขยชาติไม่ถ้วน ทำให้ทรงสามารถยกระดับการค้นคว้าความจริงแบบสามัญของพระองค์ ก้าวไปสู่การค้นคว้าในขั้นหาความจริงสูงสุดของชีวิต นั่นคือค้นหา อริยสัจ

    นี่คือทำไมพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ จึงบอกว่าพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ หรือพระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีต ก็ทรงสำเร็จด้วยความจริง แม้พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันที่ท่านตรัสรู้ได้ ก็เพราะทรงค้นคว้าหาความจริงอันสูงสุดของชีวิต และแม้การจะบังเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้าในอนาคต ก็ต้องทรงสำเร็จด้วยความจริงอย่างนี้

    นิสัยมีสัจจะ รักความจริงจังจริงใจนั้น โดยทั่วไปมักเริ่มต้นจากพ่อแม่ มีพ่อแม่เป็นผู้เพาะให้เพาะอย่างไร? ก็เพาะจากเรื่องใกล้ๆตัว ที่ต้องทำในชีวิตประจำวันเช่นถ้ามอบงานอะไรให้ลูกทำ แล้วก็ต้องคอยดูแลเอาใจใส่สั่งสอนให้ลูกทำงานอย่างดีที่สุด เริ่มตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาก็หัดลูกให้พับผ้าปูที่นอน เก็บที่นอนให้ดี หัดพับเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อย ล้างหน้าแปรงฟันให้สะอาดหมดจด หลังรับประทานอาหารแล้วต้องสอนให้ล้างถ้วยล้างจานให้สะอาดที่สุด ถึงเวลาเขียนก็ต้องฝึกลายมือให้งามที่สุด ถึงเวลาอ่านก็ต้องชัดถ้อยชัดคำที่สุด จับประเด็นให้ถูกต้องรัดกุมที่สุดฯลฯ

    เมื่อใครคนใดคนหนึ่ง ถูกเพาะนิสัยให้รักษาสัจจะ คือรักค้นคว้าหาความจริงว่าดีที่สุดของสิ่งนั้นๆอยู่ตรงไหน ตั้งแต่เป็นเด็กก่อนเข้าอนุบาลมาตามลำดับๆ เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ ถึงเวลาที่เขาจะต้องเขาไปรับผิดชอบหน้าที่การงานต่างๆ ผลงานประเภทมักง่ายจะไม่มีทางเกิดขึ้นจากเขาเด็ดขาด แต่เขาจะทำอย่างสุดฝีมือเพราะนิสัยของเขามันเป็นอย่างนั้น คือมันรักสัจจะ มีความจริงจังจริงใจต่อหน้าที่การงานอยู่ตลอดเวลา

    เพราะมีสัจจะรักความจริง มีความจริงจังจริงใจอย่างนี้ เขาย่อมเป็นที่ไว้วางใจจากผู้ใหญ่และมีโอกาสได้รับมอบหมายงานสำคัญๆ อยู่เสมอเพราะใครๆก็รู้ว่างานอะไรก็ตาม ที่ตกมาถึงมือของคนมีสัจจะเช่นเขา จะต้องได้ผลดีที่สุด บุคคลมีสัจจะเช่นเขา เมื่อลงมือทำอะไรไปแล้ว จะไม่ยอมให้ต้องย้อนมาตำหนิตัวเองในภายหลังได้ เพราะฉะนั้นคนมีสัจจะ ไม่ว่าย่างก้าวไปที่ไหนเหยียบไปถิ่นที่ใด ย่อมได้รับการต้อนรับเชื้อเชิญไว้วางใจตลอดไป ถึงนั่นและประสบความสำเร็จเป็นอัศจรรย์ ไม่ว่าจะประกอบกิจการงานใดๆ

    เมื่อเพาะนิสัยมีสัจจะ จริงจังจริงใจต่อการงานต่อหน้าที่ ต่อการพูดต่อการคิดมาตลอด ก็จะเพาะนิสัยมีสัจจะจริงจังต่อคุณธรรมความดีทุกอย่างโดยอัตโนมัติ และเมื่อฝึกนิสัยมีสัจจะต่อคุณงามความดี จนเข้มข้นเข้าไปในใจหนักเข้าๆ นิสัยมีสัจจะต่อบุคคลอื่น คือจริงจังจริงใจต่อทุกคนที่เข้าไปคบค้าสมาคม ก็จะเกิดขึ้นด้วยอำนาจของความจริงใจ ต่อทุกคนที่เข้าไปคบค้าสมาคมนั่นแหละ จึงได้ทำให้เขาเป็นที่รักของคนดีทุกๆคน เมื่อเป็นที่รักของทุกๆคน บรรดาความดีทั้งหลายที่ใครๆมีอยู่ในตัว ก็อยากถ่ายทอดให้โดยไม่หวงแหนแม้แต่น้อย คนมีสัจจะก็จะได้รับความดีเยอะแยะมากมายเข้ามาในตัว แล้วก็พร้อมที่จะถ่ายทอดให้คนอื่นต่อไปอีกด้วย นี่เป็นฤทธิ์ของสัจจะคนรักความจริง

    เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ จะทรงเพาะนิสัยมีสัจจะ รักความจริงอย่างนี้ขึ้นมาในพระองค์เองก่อน ตั้งแต่สมัยยังเป็นพระโพธิสัตว์ เป็นต้นทางให้ความดีทั้งหลายบรรดามีในโลก หลั่งไหลมาสู่พระองค์ท่านเหมือนดั่งกับมหาสมุทร ที่เป็นที่ประชุมรวมกันของแม่น้ำทุกสายในโลก

    แต่กว่าใครจะมีคุณสมบัติดีๆได้อย่างนี้ ไม่ใช่ฝึกตัวเองมาแค่ชาติเดียว ต้องเพาะนิสัยมีความจริงใจ จนกระทั่งคุ้นกับความดีตลอดเวลา จนกระทั่งความดีความจริงจังจริงใจนั้น รวมเป็นเนื้อเดียวกันกับใจเขาเลย พูดง่ายๆ สัจจะรวมเป็นเนื้อเดียวกับใจของเขาเลย เป็นเนื้อเดียวเหมือนอย่างกับรสเปรี้ยวที่อยู่ในมะนาว รสหวานที่อยู่ในน้ำผึ้ง

    เมื่อความจริงกับความดีก็กลายเป็นเนื้อเดียวกัน ทั้งเนื้อทั้งตัวอย่างแยกไม่ออกแล้ว คุณค่าในตัวของคนมีสัจจะ จึงยิ่งกว่าเพชร เพราะว่าใจมันใสยิ่งกว่าเพชร ทั้งแกร่งทั้งใสทั้งสว่าง แต่เป็นเพชรเป็นรัตนะเป็นๆมีชีวิตอยู่ในตัว ไม่ใช่รัตนะตายๆอย่างก้อนเพชรก้อนมรกต

    คนมีสัจจะย่อมไม่สะเพร่า ไม่มักง่ายจะต้องรอบคอบ เขาจะต้องคิดกว้างคิดไกลคิดลึกคิดรอบ จะทำอะไรสักอย่างเป็นต้องคิดรอบตัวว่า มันจะได้อย่างนั้น มันจะเสียอย่างนี้ เมื่ออุดช่องเสียได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาจะตัดสินใจเปรี้ยงลงมือทำทันที ไม่มีลังเลรีรอ ไม่มีเงื้อง่าราคาแพง ผลงานที่ออกมาจึงดีเยี่ยมเสมอ

    คนมีสัจจะ ย่อมมีกำลังใจทับทวีขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เหมือนคลื่นในทะเลซึ้งไม่เคยสร่างซา เพราะเมื่อเพียงย้อนระลึกถึงความดีที่ทุ่มเททำมา ด้วยความจริงจังจริงใจ ทั้งต่อหน้าที่ทั้งต่อการงาน ทั้งต่อคำพูด ทั้งต่อการแสวงหาความจริงของชีวิต ทั้งความจริงใจที่ให้ต่อทุกผู้ทุก คนภาพแห่งความดี ความจริงจังจริงใจในเรื่องเหล่านั้น จะผุดขึ้นมาให้เห็นชัดเจน เหมือนดูโทรทัศน์ ทำให้ชุ่มหัวอกหัวใจเกิดกำลังใจขึ้นมาเองอย่างต่อเนื่อง มหาศาลทรงพลังไม่มีที่สิ้นสุดไม่มีประมาณ คนมีสัจจะเมื่อลืมตามองดูโลก จะไม่มองลำพังเฉพาะคนใดคนหนึ่ง แต่มองดูคนทั้งโลก และสามารถเห็นทะลุปรุโปร่งเป็นขั้นเป็นตอนไปหมดเลยทีเดียว เขาเห็นชัดเพราะใจของคนอย่างนี้ เขาไม่มีเหลี่ยมไม่มีคู ไม่มีคดในข้องอในกระดูก

    ที่มา http://www.dhammakaya.or.th/teaching_quick_th.php?id=178</SPAN>
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "ท่วมจากด้านล่าง" ช่วยอธิบายเพิ่มให้หน่อยนะครับ ว่าท่วมทางภาคใต้ขึ้นมาภาคกลาง เพราะคลื่นสึนามิ หรือเกิดเพราะพายุใหญ่เข้ามาทางอ่าวไทย แบบเดียวกับพายุนาร์กีสที่พัดถล่มพม่าใช่ไหมครับ เพื่อนๆจะได้เตรียมตัวรับมือกันได้ทันเวลา
     
  9. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** สัจจะ ทำความดีวันละข้อ ****

    วันนี้...
    ท่านมีสัจจะ ทำสิ่งที่ดีให้กับชีวิตตัวเอง หรือยัง ????

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เมื่อคุณหล่อลากดินเลือกที่จะเป็นมาร ขัดขวางความดีของคนอื่นๆแล้ว ดังนั้นนับแต่นี้เป็นต้นไป ผมจะไม่ขอยุ่งเกี่ยว และจะไม่ตอบคำถามใดๆ ของคุณหล่อลากดินอีกต่อไปครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2008
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เรือเฟอร์รีปินส์ล่มหลังเผชิญฤทธิ์ไต้ฝุ่น ผู้โดยสารกว่า 700 ชีวิตยังไม่รู้ชะตากรรม!</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>22 มิถุนายน 2551 14:25 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ญาติๆ เฝ้ารอข่าวอย่างจดจ่อ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี
     
  12. พุทธานุสติ

    พุทธานุสติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +448

    ก่อนพายุจะเข้าพม่า ฝันเหมือนนิมิตที่คุณเล่ามาเลย...แต่ไม่ได้สนใจ
    ฝันเห็นช้างยักษ์สีดำทมึน นัยน์ตาแดงก่ำเหมือนปีศาจช้างอสูรเลย วิ่งไล่ฆ่าคนท่ามกลางพายุ ...และเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าเต็มพิกัด...

    อ่านข้อความที่คุณโพสต์มาเลยนึกขึ้นได้ค่ะ.....
     
  13. aries

    aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211
    ภัยจากพายุใหญ่ระดับพายุไต้ฝุ่นน่ากลัวครับ เท่าที่ดูใน VCD คนตายส่วนใหญ่ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์นั้นตายเพราะน้ำท่วมที่มาจากคลื่นยักษ์ซัดฝั่งจากอิทธิพลของพายุที่สามารถทำให้มีคลื่นสูงได้มากตามความรุนแรงของพายุและสามารถทำให้น้ำเอ่อท่วมทะลักเข้าไปได้ลึกมากและนานกว่าสึนามิ กรณีพายุเฮอริเคนแคทริน่านั้นทำให้เกิดน้ำท่วมลึกเข้าไปได้ถึง 80 กิโลเมตรทีเดียว ถ้าในไทยเจอแรงๆแบบแคทริน่าคงท่วมลึกทะลุกรุงเทพฯและปริมณฑลไปถึงเขตอยุธยาได้เลย ผลกระทบอาจรุนแรงกว่าสึนามิที่เราเคยโดนกัน คนที่หนีไม่ทันก็คงถูกคลื่นซัดจมน้ำตาย ที่พม่าตายกันมากมายหลายหมื่นคนคงเป็นเพราะส่วนใหญ่จะหนีคลื่นพายุซัดฝั่งไม่ทันครับ ถ้ามีบ้านเรือนอยู่ไม่ไกลจากชายทะเลผมแนะนำว่าควรอพยพหนีไว้ก่อน ทางการคงเตือนได้ล่วงหน้าประมาณ 48 ชั่วโมงครับ
     
  14. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    ตำนาน เจ้าหลวงคำแดง ท่านปกเมืองเชียงดาว

    มี นาคราชสถิตย์ ปล่องถ้ำ

    ทอดยาว ไกลหนักหนา ทะลุยังเมืองอื่น

    ดอยสูงเหนืออ่างสลุง มีธาตุศักดิ์สิทธิ์

    ด้าน สังขารโลก เป็นธรรมดามีป่วยไข้

    ไม่ต่างสังขารมนุษย์ คือ อนิจจัง

    สามวันดี สี่วันล้มหมอน อาการปรากฏเป็นระยะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 มิถุนายน 2008
  15. OLDMAN AND A CAR

    OLDMAN AND A CAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    824
    ค่าพลัง:
    +2,752
    ...ขอขอบคุณที่ กรุณาร่วมแสดงความคิดเห็น....แต่ยังไม่ตรงครับ
    คำตอบที่ได้จะต้องเป็นสิ่งที่ท่านรับรู้ได้โดยตรง ...ไม่ใช่ตำราหรือเอกสารใดๆ...มิได้หมายความว่าตำราหรือเอกสารนั้นไม่จริง...แต่คำตอบนี้จะยืนยันความจริงความน่าเชื่อถือของตำราและตำนานต่างๆ ที่มีมาแต่โบราณ....

    ผมกำลังคิดที่จะย้ายหรือตั้งกระทู้ใหม่..เพื่อความเหมาะสมกว่า....

    ขอขอบคุณอีกครั้ง.....
     
  16. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat>คน Online อยู่บนบอร์ดในขณะนี้</TD><TD class=tcat>ผู้ดูแลระบบ</TD></TR><TR><TD class=thead>แสดงกระทู้ 1 ถึง 50 จากทั้งหมด 1017 กระทู้</TD><TD class=thead>375 (18 สมาชิก & 357 บุคคลทั่วไป)</TD><TD class=thead>ผู้ดูแลระบบ : 1</TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt1><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR vAlign=bottom><TD class=smallfont style="PADDING-RIGHT: 6px"><LABEL for=sel_sort>เรียงแบบ</LABEL>
    <SELECT id=sel_sort name=sort> <OPTION value=title>ชื่อกระทู้</OPTION> <OPTION value=lastpost selected>เวลาของคำตอบครั้งล่าสุด</OPTION> <OPTION value=dateline>เวลาของการตั้งกระทู้</OPTION> <OPTION value=replycount>จำนวนคำตอบ</OPTION> <OPTION value=views>จำนวนการอ่าน</OPTION> <OPTION value=postusername>ผู้ตั้งกระทู้</OPTION> <OPTION value=voteavg>คะแนนกระทู้</OPTION></SELECT> </TD><TD class=smallfont style="PADDING-RIGHT: 6px"><LABEL for=sel_order>จัดเรียง:</LABEL>
    <SELECT id=sel_order name=order> <OPTION value=asc>จากน้อยไปมาก</OPTION> <OPTION value=desc selected>จากมากไปน้อย</OPTION></SELECT> </TD><TD class=smallfont><LABEL for=sel_daysprune>ระยะเวลา</LABEL>
    <SELECT id=sel_daysprune name=daysprune> <OPTION value=1>Last Day</OPTION> <OPTION value=2>Last 2 Days</OPTION> <OPTION value=7>Last Week</OPTION> <OPTION value=10>Last 10 Days</OPTION> <OPTION value=14>Last 2 Weeks</OPTION> <OPTION value=30>Last Month</OPTION> <OPTION value=45>Last 45 Days</OPTION> <OPTION value=60>Last 2 Months</OPTION> <OPTION value=75>Last 75 Days</OPTION> <OPTION value=100>Last 100 Days</OPTION> <OPTION value=365>Last Year</OPTION> <OPTION value=-1 selected>ตั้งแต่เริ่มต้น</OPTION></SELECT> </TD></TR><TR vAlign=bottom><TD class=smallfont colSpan=2> </TD><TD class=smallfont style="PADDING-TOP: 6px" align=right><INPUT class=button type=submit value=แสดงกระทู้> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD class=alt1>kananun, ยาล้างตา, aries, เกษม, dupong1, สาวปีใหม่, GoonS, OLDMAN AND A CAR, peerakitk, Pew Pew, คีตรมุณี, ชวภณ, ทามปายได้, ปรสุ, พรหมประกาศิต, พัฒนาตน+
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    สมาชิกเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าครับ

    หวังว่าความรู้ข้อมูลหลายอย่างในห้องนี้จะช่วยชีวิตคุณ ครอบครัวคุณและคนที่คุณรักได้ครับ

    ด้วยความปรารถนาดีจากชาวพลังจิตพิชิตภัยพิบัติทุกๆคนครับ
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ในความคิดส่วนตัวของผม คิดว่าถ้ำเชียงดาวปลอดภัยที่สุดครับ เพราะมีตำนานกล่าวเอาไว้ว่า ฤาษีตนหนึ่งกับพระอินทร์ได้ร่วมกันอธิษฐาน เนรมิตของวิเศษ ๗ อย่างเอาไว้ในถ้ำเชียงดาวแห่งนี้ เพื่อรอพญาธัมมิกราชโพธิสัตว์(พระศรีอาริย์) ได้เอาไว้ใช้ในตอนที่จะมาปกครองโลกนี้ครับ ถ้ำเชียงดาวแห่งนี้จึงถือได้ว่าเป็นที่หลบภัยของพญาธัมมิกราชด้วยครับ

    ตำนานถ้ำเชียงดาวโดยย่อ

    ประวัติเดิมของถ้ำหลวงเชียงดาว ในสมัยแรกนั้นมีฤาษีรูปหนึ่งนามว่า พรหมฤาษี เป็นผู้วิเศษด้วยฌานอันแก่กล้า ได้ประชุมเทวดา อินทร์ , พรหม , ยักษา , อสูร และนาคราช ฯลฯ แล้วพากันเนรมิตสิ่งต่างๆ ขึ้นไว้หลายอย่างเช่น

    1. พระพุทธรูปทองคำ
    2. เจดีย์ทองคำ
    3. ต้นโพธิ์ทองคำ
    4. ช้างวิเศษ
    5. ดาบวิเศษ
    6. ผ้าทิพย์
    7. อาหารทิพย์
    8. ม้าวิเศษ
    ม้าวิเศษนี้มิได้อยู่ในถ้ำเชียงดาว นัยว่าเอาไปไว้ในถ้ำอำเภอฝาง แต่ไม่ทราบว่าถ้ำใดแน่ เคยออกมา ๓-๔ ครั้งแล้ว สิ่งวิเศษเหล่านี้ นัยว่ามีไว้สำหรับ พระเจ้าทรงธรรม (ธรรมมิกราช) อันจะมาปราบอธรรมในวันข้างหน้า ในเมื่อมนุษย์ปราบไม่ไหวแล้ว แต่ไม่ใช่มาแย่งมนุษย์ปราบศาสนา ศิลธรรมจะร้างจากโลกเมื่อไร ก็นั้นแหละกองทัพของพระเบื้องบนจึงจะลงมาปราบโลก ในระหว่างนี้ได้มีเทวดาผู้จดรายนามฝูงมนุษย์ ผู้กระทำความดีและความชั่วถึง ๔ แสนองค์แล้ว เพื่อนำรายนามของมนุษย์ขึ้นเสนอพระผู้เป็นเจ้า(พระอินทร์) ในวันตัดสินโลก

    ถ้ำหลวงเชียงดาวนี้ ตำนานได้กล่าวไว้ว่า พระผู้เป็นเจ้าได้ปกาสิตให้เทวยักษ์ตนหนึ่งมีนามว่า ​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2008
  18. Jackstar

    Jackstar สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +0

    ดูASTVแล้วได้ข้อมูลสดกว่ากันเยอะครับ
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ทอร์นาโดถล่มจีนบ้านเรือนหลายร้อยหลังพังราบ

    [​IMG]

    ปักกิ่ง 22 มิ.ย.-สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า เกิดพายุทอร์นาโดพัดถล่มบ้านเรือน 650 หลังพังราบและอีกเกือบ 1,000 หลังได้รับความเสียหายภายในเวลาเพียง 5 นาที ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิต 1 คน

    รายงานแจ้งว่า ทอร์นาโดเกิดขึ้นที่เมืองหลิงปี้ ในมณฑลอานฮุยทางตะวันออกของจีน สร้างความเสียหายคิดเป็นมูลค่า 2.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประชาชน 45 คนได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ในจำนวนนี้มี 8 คนบาดเจ็บสาหัส และมี 1 คนวัย 76 ปีเสียชีวิตขณะนำตัวส่งโรงพยาบาล ทอร์นาโดลูกนี้ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านกว่า 20,000 คน และมี 950 คนต้องย้ายถิ่นฐาน.-สำนักข่าวไทย

    2008-06-22 09:51:32

    เดินหน้าช่วยเหยื่อน้ำท่วมในจีน

    [​IMG]

    จีน 22 มิ.ย.-ทางการจีนยังคงเดินหน้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดค้างอยู่ตามพื้นที่ประสบอุทกภัย ซึ่งตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา กระแสน้ำได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 60 คน

    สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีนนำภาพการเข้าไปช่วยชีวิตชาวบ้านที่หมู่บ้านเหวินตู ในมณฑลกวางตุ้ง ออกมาเผยแพร่ ขณะที่ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 63 คน กระทรวงกิจการพลเรือนระบุว่า ตั้งแต่ฤดูฝนในปีนี้เริ่มขึ้น พบผู้เสียชีวิตแล้วทั้งหมด 176 คน ขณะที่ยังมีผู้สูญหายไปอีก 52 คน พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 6 ล้านไร่ บ้านเรือนพังทลายราว 67,000 หลัง มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 14,000 พันล้านหยวน หรือกว่า 69 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

    2008-06-22 07:18:23

    ไต้ฝุ่นฟงเฉินคร่าชีวิตชาวฟิลิปปินส์แล้ว 155 คน

    [​IMG]

    มะนิลา 22 มิ.ย.- กาชาดฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า ไต้ฝุ่นฟงเฉินซึ่งพัดเข้าสู่ตอนกลางของประเทศฟิลิปปินส์ ตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ คร่าชีวิตประชาชนไปแล้ว155 คน จากน้ำท่วมฉับพลันและแผ่นดินถล่ม

    ริชาร์ด กอร์ดอน ผู้อำนวยการองค์การกาชาดฟิลิปปินส์ กล่าวผ่านวิทยุท้องถิ่นว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากพายุไต้ฝุ่นฟงเฉินเพิ่มขึ้นจากที่ในตอนแรก มีราว 85 คน และคาดว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นมากหลังจากเกิดเหตุเรือโดยสารพร้อมลูกเรือและผู้โดยสาร กว่า 700 คน อัปปางกลางทะเล ซึ่งขณะนี้พบผู้รอดชีวิตเพียง 3 คน.- สำนักข่าวไทย

    2008-06-22 16:25:20

    เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 3 ระลอกที่กรีซ

    [​IMG]

    เอเธนส์ 22 มิ.ย.- ศูนย์แผ่นดินไหวเอเธนส์ของกรีซ รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 3 ครั้งห่างไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงเอเธนส์ราว 270 กิโลเมตร แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือทรัพย์สินเสียหายมากนัก

    แผ่นดินไหวครั้งแรกระดับ 5.4 ริกเตอร์ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.57 น.วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ตามมาด้วยครั้งที่ 2 ระดับ 5.9 ริกเตอร์ เมื่อเวลา 14.36 น. และแผ่นดินไหวครั้งที่ 3 มีขนาด 5.0 ริกเตอร์ เวลา 16.45 น. โดยมีศูนย์กลางอยู่ในบริเวณเดียวกันทางตะวันตกเฉียงใต้สุดของคาบสมุทรเพโลพอนนีส ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงมาแล้วหลายครั้ง.-สำนักข่าวไทย

    2008-06-22 09:33:45

    อิสราเอลซุ่มฝึกซ้อมถล่มโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน

    [​IMG]

    เทลอาวีฟ 22 มิ.ย.-หนังสือพิมพ์นิว ยอร์ก ไทมส์ รายงานอ้างเจ้าหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐเปิดเผยว่าเครื่องบินรบอิสราเอลทำการฝึกซ้อมเป็นเวลานานหลายปี เพื่อเตรียมถล่มโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน อย่างไรก็ตาม กองทัพอากาศอิสราเอลอาจเล็กเกินไปที่จะปฏิบัติการให้สำเร็จโดยลำพัง

    เจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐระบุว่าในเดือนนี้อิสราเอลใช้เครื่องบินเอฟ-16 และเอฟ-15 กว่า 100 เครื่องบินฝึกซ้อมเป็นระยะทางไกลในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้เชื่อว่าอิสราเอลกำลังเตรียมการเพื่อโจมตีอิหร่าน แม้อิสราเอลไม่ออกมายืนยันรายงานนี้แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวว่าการฝึกซ้อมเกิดขึ้นเป็นประจำโดยเริ่มตั้งแต่ปี 2548 เป็นอย่างน้อย

    แม้อิสราเอลเตรียมการฝึกซ้อมเป็นเวลานาน แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐเชื่อว่ากองทัพอากาศอิสราเอลยังไม่สามารถที่จะโจมตีทางอากาศต่อโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านมากกว่า 1 ระลอก ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าอาจต้องใช้เครื่องบินโจมตีถึง 1,000 เที่ยว จึงจะสามารถทำลายได้อย่างสิ้นซาก

    อดีตนายทหารของกองทัพอากาศสหรัฐซึ่งรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาหน่วยงานหลายแห่งในรัฐบาลสหรัฐกล่าวว่าโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านตั้งอยู่ไกลจากอิสราเอลมาก อีกทั้งมีหลายโรงและมีระบบป้องกันที่ยากต่ออิสราเอลในการโจมตีโดยลำพัง สหรัฐประเมินว่าต้องใช้การโจมตีถึง 1,000 เที่ยวจึงจะทำลายได้หมด ซึ่งหากน้อยกว่านี้ก็เพียงทำให้หยุดชะงักไปเพียงชั่วคราว

    อิสราเอลเคยโจมตีระยะทางไกลเพื่อทำลายโรงงานนิวเคลียร์ของอิรักในปี 2524 และเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน อิสราเอลส่งเครื่องบินโจมตีโรงงานในซีเรียซึ่งสหรัฐเชื่อว่าเป็นโรงงานนิวเคลียร์ลับที่สร้างโดยเกาหลีเหนือ แต่รัฐบาลซีเรียปฏิเสธ.-สำนักข่าวไทย

    2008-06-22 10:21:49

    อิหร่านยืนยันไม่ล้มเลิกการสกัดยูเรเนี่ยมเข้มข้นแม้จะถูกกดดัน

    [​IMG]

    อิหร่าน 22 มิ.ย. - อิหร่านยืนกรานจะไม่ล้มเลิกการสกัดยูเรเนี่ยมเข้มข้นแม้จะถูกกดดัน และโจมตีอิสราเอลว่าทำตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อความสงบสุขของโลก

    อิหร่านยังคงยืนยันว่า จะไม่ล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์ โดยอ้างว่าเป็นการผลิตกระแสไฟฟ้าเท่านั้น ในขณะที่สหรัฐระบุ จะพยายามมุ่งเน้นวิถีทางการทูตแก้ปัญหานิวเคลียร์อิหร่านต่อไป แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธการใช้กำลังทหารในการแก้ปัญหาขัดแย้ง ซึ่งผู้อำนวยการทบวงพลังงานปรมาณูแห่งสหประชาชาติ เตือนว่า การใช้กำลังจัดการกับอิหร่านจะทำให้ตะวันออกกลางลุกเป็นไฟ เช่นเดียวกับรัสเซียที่ไม่เห็นด้วย หลังหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สของสหรัฐ รายงานว่า อิสราเอลได้จัดการซ้อมรบครั้งใหญ่ขึ้น

    ด้านโฆษกรัฐบาลอิหร่านก็ตอบโต้ท่าทีของอิสราเอลว่า เป็นการแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลอิสราเอลเป็นรัฐบาลที่อันตราย และ ทำตัวเป็นอุปสรรคต่อสันติภาพและความสงบสุขทั้งในภูมิภาคและของโลก. -สำนักข่าวไทย

    2008-06-22 13:07:25

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. whitenaga

    whitenaga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    796
    ค่าพลัง:
    +2,752
    ด้านล่างตามความเข้าใจหมายถึง พื้นดินอ่ะค่ะ (เข้าใจตามที่ฟังมานะค่ะ) ส่วนจะมาจากทิศใต้ เหนือ หรือเปล่านี้ ไม่ทราบค่ะ

    โดยส่วนตัวเข้าใจว่าจะเป็นลักษณะการท่วมขึ้นมาจากพื้นดินด้านล่างอย่างรวดเร็ว อ่ะค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...