ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. GoonS

    GoonS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    811
    ค่าพลัง:
    +2,682
    สหรัฐกะอิหร่านมีเรื่องกันนานเเละหลายเรื่องด้วยมะยอมทำสงครามกันซะทีเฮ้อ
     
  2. pattarawat

    pattarawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,671
    ค่าพลัง:
    +7,982
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ทั่วโลกตื่นตัว"สิ่งแวดล้อม"หันพึ่งระบบเศรษฐกิจยั่งยืน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>10 มกราคม 2551 22:42 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ทั่วโลกมีความตื่นตัวต่อปัญหาสิ่งแวดล้อม และกำลังมุ่งสู่ "เศรษฐกิจที่ยั่งยืนตื่นตัว" กลุ่มศึกษาวิจัยที่ใช้ชื่อว่า เวิลด์วอตช์ ระบุในรายงาน "สถานะของโลก" ที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ(9)

    "มีสัญญาณที่ชี้ว่า เศรษฐกิจที่ยังยืนตื่นตัวกำลังเกิดขึ้น อันเป็นผลผลิตของกระแสการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ธรรมดาและไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งเกิดขึ้นจากภาคส่วนต่างๆ เช่น เอ็นจีโอ กลุ่มผู้บริโภค และรัฐบาล และยังแพร่กระจายเข้าสู่โลกการเงินและธุรกิจด้วย" คริส เฟลวิน ประธานเวิลด์วอตช์กล่าวกับผู้สื่อข่าว

    การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นเครื่องมือลดภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจโลกที่มีมากขึ้น ซึ่งภัยคุกคามเหล่านั้น เกิดจากปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง เฟลวินกล่าวจากกรุงวอชิงตัน

    "คำถามข้อสำคัญก็คือ การเปลี่ยนแปลงนั้นเพียงพอหรือยัง?" เขาเอ่ยถาม

    แกรี การ์ดเนอร์ ประธานร่วมของคณะผู้จัดทำรายงานฉบับนี้ เปรียบเทียบช่วงเริ่มต้นเศรษฐกิจยั่งยืนทั่วโลก กับการทำไร่

    "เรากำลังมองออกไปในไร่นาตอนช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ และเริ่มเห็นการแตกหน่อ ในรูปแบบของนวัตกรรมต่างๆ" เขากล่าว

    "เราจะได้พืชผลเต็มที่ไหม เราจะมีไร่ที่สามารถเก็บเกี่ยวพืชผลได้ตอนฤดูใบไม้ร่วงหรือไม่ ไร่นาที่เราเรียกได้ว่า เศรษฐกิจแบบยั่งยืนนั่นแหละ มันเหมือนจะชัดเจนว่า ถ้าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เพิ่มขึ้นทวีคูณ โอกาสที่เราจะมีเศรษฐกิจแบบยั่งยืนนั้นสดใสมาก"
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. winny

    winny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +659
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>วัฏจักรจุดดับใหม่บนดวงอาทิตย์ก่อตัว อีก 3 ปีโลกเตรียมรับ "พายุสุริยะ"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>10 มกราคม 2551 15:33 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>จุดมืดหรือจุดดับแรกของวัฎจักร 24 ซึ่งเป็นวัฎจักร โดยนักดาราศาสตร์กำลังจับตาดูว่าวัฎจักรนี้จะทรงพลังหรือไม่ เพราะจำนวนจุดมืดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึงขึ้นที่มีจุดมืดสูงสุดนั้นอาจให้เกิดพายุสุริยะซึ่งอนุภาคมีประจุจำนวนมากจะพุ่งตรงมายังโลกและรบกวนระบบอิเล็กทรอนิกส์ </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ภาพจากโนอาแสดงจุดมืดบริเวณวัฎจักรใหม่บนดวงอาทิตย์กับวัฏจักรเดิมซึ่งอยู่ทางตอนใต้ พร้อมเปรียบขนาดดวงอาทิตย์กับโลกและดาวพฤหัสบดีตรงมุมขวาล่าง โดยเส้นที่มีซ้ายล่างแสดงความยาวที่มากกว่าเส้นผ่านศูนย์กลางโลก 10 เท่า</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ดวงอาทิตย์เมื่อวันที่ 10 ม.ค.51 (ภาพ SOHO /High Altitude Observatory in Boulder Colorado)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ดวงอาทิตย์ในย่านรังสีเอ็กซ์จากดาวเทียมฮิโนเดะ </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ไซน์เดลี/นิวไซแอนทิสต์/เอเยนซี - พบจุดดับเริ่มต้นวัฏจักรสุริยะใหม่ บนบริเวณซีกเหนือของดวงอาทิตย์ในทิศตรงข้ามกับจุดเดิม นักดาราศาสตร์คาดอาจเกิดพายุสุริยะในปี 2554 ซึ่งจะปลดปล่อยอนุภาคมีประจุสูงมายังโลก ส่งผลกระทบต่อระบบกระจายไฟฟ้า การสื่อสารและอันตรายต่อนักบินอวกาศ

    องค์การสมุทรศาสตร์และบรรยากาศสหรัฐฯ หรือโนอา (National Oceanic and Atmosphere Administration: NOAA) พบจุดมืด (sunspot) หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่าจุดดับ<SUP>* </SUP>เป็นจุดแรกในระยะเริ่มต้นใหม่ของวัฏจักรสุริยะ (solar cycle) ซึ่งมีคาบเวลาประมาณ 11 ปีบริเวณซีกเหนือของดวงอาทิตย์โดยอยู่ตรงข้ามกับวัฏจักรเดิม

    ทั้งนี้จุดมืดเป็นบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าพื้นผิวดวงอาทิตย์ แต่เป็นบริเวณที่มีสนามแม่เหล็กสูง ก่อนหน้านี้ผู้เชี่ยวชาญด้านดวงอาทิตย์ซึ่งทำงานร่วมกับโนอาคาดว่าวัฏจักรใหม่จะเริ่มต้นในเดือน มี.ค.51 นี้ โดยคลาดเคลื่อนเร็วหรือช้า 6 เดือน

    สำหรับจุดมืดที่พบนี้มีชื่อว่า #10,981 เป็นจุดมืดแรกของวัฏจักร 24 (cycle 24) ซึ่งเป็นวัฏจักรใหม่ และเป็นจุดมืดล่าสุดที่สังเกตได้นับแต่โนอาได้เริ่มต้นระบุจำนวนจุดมืดตั้งแต่ 5 ม.ค.2513

    ที่สำคัญ คาดว่าวัฏจักรใหม่จะค่อนข้างทรงพลังคือทำให้เกิดจุดมืดได้ถึง 150 จุดต่อวันในช่วงจุดมืดมากสุด (sunspot maximum) ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วง 2554 หรือ 2555 และช่วงเวลาดังกล่าวยังจะเกิดพายุสุริยะรุนแรงด้วย

    "ในกรณีนี้เป็นสัญญาณเริ่มต้นของพายุสุริยะ ซึ่งน่าจะเพิ่มสูงขึ้นในอีก 3-4 ปีข้างหน้า" ดักลาส บีเซกเกอร์ (Douglas Biesecker) นักฟิสิกส์สุริยะจากศูนย์พยากรณ์สภาพอวกาศ (Space Weather Prediction Center) ของโนอากล่าว พร้อมเปรียบเปรยว่าการจุดมืดครั้งนี้เป็นเหมือนกับการพบนกรอบินตัวแรกในฤดูใบไม้ผลิ

    ระหว่างเกิดพายุสุริยะนั้นอนุภาคที่มีประจุจำนวนมากจะถูกปลดปล่อยออกจากดวงอาทิตย์ซึ่งอาจพุ่งตรงมายังโลก และอนุภาคเหล่านั้นสามารถสร้างความเสียหายต่อระบบจ่ายไฟฟ้า รบกวนระบบสื่อสารและเป็นภัยต่อนักบินอวกาศจากรังสีอันตราย

    พายุสุริยะยังสามารถสร้างความเสียหายต่อดาวเทียมสื่อสารและจมสัญญาณระบบจีพีเอสได้ ส่งผลให้กิจวัตรประจำวันอย่างการสนทนาผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือการทำธุรกรรมจากตู้เอทีเอ็มอาจชะงักทันทีในพื้นที่ส่วนใหญ่ทั่วโลก

    ด้านเดวิด แฮธเวย์ (David Hathaway) จากศูนย์การบินอวกาศมาร์แชล (Marshall Space Flight Center) ขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) ในฮันท์วิลล์ อัลบามา กล่าวว่าดาวเทียมฮิโนเดะ (Hinode) ของญี่ปุ่นที่ช่วยนักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาความรุนแรงของพายุสุริยะนั้น อาจไวต่อรังสีและอนุภาคที่มีประจุซึ่งถูกปลดปล่อยออกมาจากดวงอาทิตย์ราวระเบิด และทำให้อุปกรณ์ของดาวเทียมเสียหายและหยุดทำงานก่อนเวลา

    "เราศึกษามามากพอที่จะตระหนักได้โดยพื้นฐานว่า สัญญาณดังกล่าวจะเป็นการปลดปล่อยมวลของชั้นโคโรนา (ชั้นบรรยากาศของดวงอาทิตย์) ซึ่งคล้ายๆ กับการทำนายการเกิดพายุทอร์นาโด ที่นักอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ได้เพียงเล็กน้อย จากการดูสัญญาณเรดาร์และลมในกลุ่มเมฆ แล้วกล่าวได้เพียงว่ามีโอกาสจะเกิดทอร์นาโด"

    "แต่สำหรับการทำนายการเกิดพายุสุริยะ เรายังไม่สามารถคาดการณ์ได้แม้แต่อย่างนั้นเลย" แฮธเวย์กล่าว พร้อมเพิ่มเติมว่าการติดตามจำนวนจุดมืดที่เกิดขึ้นตั้งแต่นี้ไป จนถึงกลางปี 2552 จะช่วยรับมือกับคำถามว่า เมื่อใดที่จะเกิดจุดมืดมากที่สุด โดยจำนวนจุดมืดในช่วงนั้นจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หากวัฏจักรใหม่ที่ค้นพบนี้เป็นวัฏจักรที่ทรงพลัง.

    *หมายเหตุ
    "ผู้จัดการวิทยาศาสตร์" ปรับเปลี่ยนการเรียก sunspot ที่เรียกกันตามความแพร่หลายว่า "จุดดับ" เป็น "จุดมืด" ตามพจนานุกรมศัพท์ดาราศาสตร์อังกฤษ-ไทย ของสมาคมดาราศาสตร์ไทย

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    คนไทยจะได้เห็นดาวอังคารสุกสว่างมากสุดในรอบ 2 ปี
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=615 border=0><TBODY><TR><TD class=default13 vAlign=top>
    [​IMG]

    กรุงเทพฯ 15 ธ.ค. - ตั้งแต่ปลายปี 2550 ถึงต้นปี 2551 คนไทยจะมีโอกาสเห็นดาวอังคารสุกสว่างชัดเจนมากที่สุดในรอบ 2 ปี เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ดาวอังคารอยู่ใกล้ตำแหน่งตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ และเป็นช่วงเวลาที่ดาวอังคารเข้าใกล้โลกมากที่สุด และมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

    สมาคมดาราศาสตร์ไทย รายงานว่า ดาวอังคารเข้าใกล้โลกโดยเฉลี่ยทุกๆ ประมาณ 2 ปี 2 เดือน ลักษณะวงโคจรที่มีความรีค่อนข้างชัดเจนทำให้ดาวอังคารอยู่ห่างจากโลกไม่เท่ากันในการเข้าใกล้แต่ละครั้ง ปีนี้ดาวอังคารก็จะเข้าใกล้โลกอีกครั้งโดยเกิดในช่วงเดือนธันวาคม 2550 แต่ไม่ใกล้มากเท่ากับการเข้าใกล้เมื่อปี 2546 ทุก 15 หรือ 17 ปี จึงจะมีโอกาสเห็นดาวอังคารสว่างและมีขนาดใหญ่ใกล้เคียงกับที่เห็นเมื่อสี่ปีที่แล้ว

    ดาวอังคารเป็นดาวเคราะห์หินเช่นเดียวกับดาวพุธ ดาวศุกร์ และโลก พื้นผิวดาวอังคารในอดีตมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากภูเขาไฟระเบิด การพุ่งชนของอุกกาบาต การเคลื่อนไหวของเปลือกดาวอังคาร และปรากฏการณ์ในบรรยากาศ เช่น พายุฝุ่น

    หนึ่งถึงสองเดือนก่อนที่ดาวอังคารจะเข้าใกล้โลกมากที่สุด ดาวอังคารขึ้นทางทิศตะวันออกหลังจากที่ดวงอาทิตย์ตกลับขอบฟ้าไปแล้ว แต่เมื่อถึงช่วงที่ดาวอังคารอยู่ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์และใกล้โลกมากที่สุด ดาวอังคารจะขึ้นทางทิศตะวันออกในเวลาไล่เลี่ยกับเวลาดวงอาทิตย์ตก อยู่สูงใกล้จุดเหนือศีรษะในเวลาเที่ยงคืน และตกลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตกในเวลาไล่เลี่ยกับเวลาดวงอาทิตย์ขึ้น จึงสามารถสังเกตดาวอังคารได้ตลอดทั้งคืน ต้นเดือนตุลาคม 2550 ดาวอังคารเคลื่อนที่เดินหน้าไปทางทิศตะวันออกขณะอยู่ในกลุ่มดาวคนคู่ สว่างด้วยโชติมาตร -0.1 ขึ้นเหนือขอบฟ้าเวลาประมาณ 5 ทุ่มเศษ จากนั้นเมื่อถึงกลางเดือนพฤศจิกายนดาวอังคารเริ่มเคลื่อนที่ถอยหลังไปทางทิศตะวันตก ขณะนั้นความสว่างเพิ่มขึ้นไปที่โชติมาตร -0.9 และขึ้นเหนือขอบฟ้าในเวลาประมาณ 3 ทุ่มเศษ

    ดาวอังคารเข้าใกล้โลกมากที่สุดในเช้าวันที่ 19 ธ.ค. 2550 ขณะมีโชติมาตร หรืออันดับความสว่าง -1.6 เส้นผ่านศูนย์กลางเชิงมุม 15.9 พิลิปดา ขึ้นเหนือขอบฟ้าในเวลาหลังจากที่ดวงอาทิตย์ตกลับขอบฟ้าไปแล้วประมาณ 20-30 นาที อีก 6 วันถัดมาดาวอังคารจะอยู่ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ ทำให้มันขึ้นเหนือขอบฟ้าพร้อมกับดวงอาทิตย์ตกและเริ่มปรากฏบนฟ้านับตั้งแต่ย่ำค่ำ และช่วงสิ้นเดือน ม.ค.-ต้นเดือน ก.พ. 2551 ความสว่างจะลดลงต่อเนื่อง.- สำนักข่าวไทย

    2007-12-15 11:47:23


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา http://news.mcot.net/technology/inside.php?value=bmlkPTg2MzkmbnR5cGU9dGV4dA==
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2008
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เรื่องของดวงดาวในทางโหราศาสตร์

    [​IMG]
    ดาวอังคาร เทพเจ้าแห่งสงคราม

    .....โหราศาสตร์ที่ใช้ดวงดาวในการทำนาย ใช้ข้อมูลจากดาราศาสตร์ เช่นการค้นพบดาวมฤตยู, เนปจูน และพลูโต ทำให้มีการศึกษาอิทธิพลของดวงดาวมากขึ้น แม้แต่การโคจรเข้าใกลัโลกของดาวอังคาร และดาวเสาร์ ก็เป็นข้อมูลจากทางดาราศาสตร์ แต่ในทางโหราศาสตร์สังเกตุสิ่งที่จะเกิดขึ้น

    .....ดาวอังคารในทางโหราศาสตร์เป็นดาวให้พลังงาน,ความรุนแรง เมื่อโคจรเข้าใกล้โลกก็ทำให้เกิดความรุนแรงบนผิวโลก ช่วงที่ดาวอังคารโคจรเข้าใกล้โลกในอดีตก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นคือสงครามอิรัก,การจราจลในเขมร,ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างไม่รู้สาเหตุและเกิดแผ่นดินไหว ,โรคระบาด

    และช่วงนี้ดาวเสาร์โคจรเข้าใกล้โลก ดาวเสาร์ให้ผลทางความยุ่งยากลำบาก ในดวงเมืองจะเกิดความยุ่งยากทางการเมืองหรือกับประเทศเพื่อนบ้าน, และดาวเสาร์สัมพันธ์ถึงดาวมฤตยูในราศีกุมภ์ สถิติของดาวคู่นี้จะทำให้อากาศเป็นพิษเกิดโรคระบาด....ซึ่งขณะนี้ก็เกิดโรคระบาดในไก่แต่จะรุกลามบานปลายแค่ไหนน่าจะขึ้นกับดาวเสาร์ว่าจะถอยออกไปเมื่อไหร่ ความจริงดาวเสาร์กับดาวมฤตยูจะเล็งกันในปี 2551 ซึ่งจะเกิดผลรุนแรงกว่าเพราะมันส่งกระแสถึงกันได้เต็มที่แต่การที่มันโคจรเข้าใกล้โลกก็ทำให้ส่งกระแสได้มากขึ้นได้เหมือนกัน​

    .....เรื่องนี้เป็นการสังเกตุผลในแง่การเกิดเหตุการณ์ จะเรียกว่างมงายหรือไม่ก็ได้.....แต่ถ้าปี 2551 มันเกิดขึ้นจริงมันก็เป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ก็คงไม่ใช่เรื่องของพระเจ้าหรือสิ่งศักด์สิทธิ์แต่เป็นปรากฎการณ์ตามธรรมชาติที่ได้จากการสังเกตุ.......ดังนั้นโหราศาสตร์ก็ใช้ฐานข้อมูลจากดาราศาสตร์นั่นเองถ้าโหราศาสตร์ผนวกดาราศาสตร์อาจจะทำนายผลได้แม่นขึ้น ซึ่งผมเห็นว่ามันเป็นการศึกษาอิทธิพลจากดวงดาวว่าจะส่งผลกระทบต่อสังคมโลกและมนุษย์อย่างไร ​

    <TABLE class=notices3 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" align=center bgColor=#93c9f6 border=0><TBODY><TR bgColor=#dcdcdc><TD width="85%" colSpan=2>จากคุณ : ไพรสณฑ์ </TD></TR><TR bgColor=#dcdcdc><TD colSpan=2>วันที่แสดงความคิดเห็น : 18 ม.ค. 47 13:35 น. </TD></TR></TBODY></TABLE>​

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2008
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ตำนานแห่งดวงดาว

    [​IMG]

    นับแต่อดีต มนุษย์ได้สังเกตดาวพระเคราะห์ต่าง ๆ ในห้วงนภากาศ ว่ามีอิทธิพลต่อสรรพชีวิตในโลก ปรากฏมีบันทึกไว้ว่าดาวใดโคจรไป ณ จุดไหน แล้วบังเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นสถิติ อันทำให้เกิดคำพยากรณ์ที่แม่นยำยิ่งนัก เมื่อมนุษย์เข้าใจถึงคุณลักษณะของดาวเคราะห์ต่างๆ ว่าเป็นเช่นไร นานวันต่อมาก็ได้จำแนกดาวเคราะห์เหล่านี้ออกเป็นสองฝ่าย คือ ดาวศุภเคราะห์ ซึ่งเป็นดาวฝ่ายดี และดาวบาปเคราะห์ อันเป็นดาวฝ่ายให้โทษ เมื่อดาวนั้นๆ โคจรเข้าสู่ราศีใด ภพใดของดวงชะตา ก็จะแสดงอิทธิพล ต่อเจ้าชะตานั้นๆ เทววิทยาจึงเป็นอีกศาสตร์หนึ่งที่เกิดขึ้นในโลกของความรู้ โดยศึกษาจากคำรจนาตำนาน ประวัติศาสตร์นิยายและคติความเชื่อที่เกี่ยวกับเทพเจ้า ซึ่งมีอิทธิพลต่อชีวิตมนุษย์ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ การเรียนรู้ลักษณะพิเศษของดาวพระเคราะห์ต่าง ๆ ที่มีเรื่องราวสืบเนื่องมาแต่โบราณกาล สามารถนำมาเปรียบเทียบได้ใกล้เคียงกันทั้งในอารยธรรมตะวันตกและตะวันออก ​

    [​IMG]
    [​IMG] พระอาทิตย์/สุริยเทพ

    [​IMG] เทพที่เป็นเอกในจักรวาล เป็นผู้ให้แสงสว่างและมีรัศมีเป็นสีแสด โชติช่วงที่สุดในหมู่มวลดารา ในคติความเชื่อ ด้านโหราศาสตร์ไทยกล่าวว่า พระอาทิตย์ทรงเป็นเจ้าแห่งราศีสิงห์ อันเสริมให้คนในกุมลัคน์นี้มีลักษณะที่องอาจ ผ่าเผย ไว้ตัว และเป็นใหญ่

    [​IMG]
    พระจันทร์[​IMG]

    [​IMG] เทพแห่งรัตติกาล พระวรกายสีนวล เป็นเสมือนดั่งความเย็น ความนุ่มนวล ในตำนานเทพกรีกและคติตันตระเห็นพ้องกันว่า สิ่งใดที่มีความนุ่มนวล ก็ย่อมมีความโหดร้ายแฝงอยู่ เฉกเช่นพระจันทร์ ที่มีทั้งข้างขึ้นและข้างแรม ในวรรณคดีมักเปรียบเทียบให้สตรีที่มีความนุ่มนวลอ่อนหวานเกิดในวันนี้

    [​IMG]
    [​IMG] พระอังคาร
    [​IMG]

    ดาวแห่งนักรบ หรือดาวสงคราม พระวรกายเป็นสีลูกหว้า มีลักษณะที่มุทะลุ ดุดัน และชอบการทะเลาะวิวาท เป็นดาวที่ถูกจัดให้อยู่ในดาวบาปเคราะห์ อันหมายถึง ดาวที่ให้โทษอย่างฉับพลัน ในทางโหราศาสตร์ผู้ที่เกิดวันอังคารเป็นผู้ ที่มีความขยันขันแข็ง แต่มักใจร้อน ใจเร็ว ฉุนเฉียวง่าย

    [​IMG]
    พระพุธ[​IMG]

    [​IMG] เทพแห่งสติสัมปชัญญะ พระวรกายสีเขียว มีคำกล่าวว่า "ดูอ่อนหวานให้ดูพุธ" แสดงถึงลักษณะ ที่เป็นคนครองสติที่ดี เป็นดาวแห่งมันสมองและการเจรจา มีความเป็นกลาง ผู้ที่เกิดในวันนี้มักเป็นคนฉลาด แต่บางครั้งก็รู้มากจนไม่กล้าตัดสินใจ เช่นเดียวกับการโคจรของดาวพุธในจักรวาลที่ไม่แน่นอน

    [​IMG]
    [​IMG] พระพฤหัสบดี

    เป็นดาวประธานฝ่ายศุภเคราะห์ที่ให้ลาภผล ความสมบูรณ์พูนสุข มีสีทองเป็นสัญลักษณ์ ได้รับฉายาว่าเป็นราชาแห่งดวงดาว ในเทพตำนานกรีกและอินเดียยกย่องให้พระพฤหัสบดีเป็นเทวดา ที่ใหญ่เหนือเทวดาทั้งหลาย ในตำนานดาวพระเคราะห์ถือว่าพระพฤหัสบดี เป็นดาวครู จึงมักไม่จัดงานมงคลในวันนี้ เพราะถือว่าเป็นวันศักดิ์สิทธิ์

    [​IMG]
    พระศุกร์[​IMG]

    [​IMG] เป็นดาวที่อำนวยความสุขทางโลกีย์แก่มนุษย์ ในคติกรีกถือว่าเป็นผู้คุ้มครองความรัก และเป็นดาวแห่งจินตนาการ หรือศิลปะ ในคติฮินดูกล่าวว่า ทรงเป็นเทพที่ทรงปัญญา และชาญฉลาด เป็นดาวที่มีฤทธิ์มาก ครองสีฟ้า หรือ น้ำเงิน เป็นดาวที่แสดงถึง ตัณหาและความทะยานอยาก ผู้ใดที่ดาวนี้กุมดวงชะตามักเป็นผู้มีเนื้อคู่มาก

    [​IMG]
    [​IMG] พระเสาร์ [​IMG]

    เป็นดาวประธานฝ่ายบาปเคราะห์ที่ให้โทษร้ายแรงมาก ดาวเสาร์มีสีดำอันหมายถึงสีแห่งความตาย ความเสื่อมสลายของสรรพสิ่ง อำนาจแห่งดาวดวงนี้มักมีผลทำให้กิจกรรมต่างๆ ที่ดำเนินอยู่ต้องเชื่องช้า มีอุปสรรคเกิดขึ้น แต่ในฝ่ายให้คุณก็มีอยู่ คือชีวิตบุคคลผู้อยู่ภายใต้ ดาวพระเคราะห์ดวงนี้จัดอยู่ในปัญจมหาบุรุษโยค ดวงชะตามีอำนาจวาสนา

    ที่มา http://sesosy.no-ip.com/starroom/star_legend/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2008
  7. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    ด้วยสมาชิกกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติได้ร่วมกันสร้าง "ปรียนันท์ธรรมสถาน" ขึ้น ณ อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อเป็นสถานปฏิบัติธรรมและเพื่อใช้เป็นสถานที่พักพิงและหลบภัยแก่ประชาชนทั่วไปเมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้น (รองรับคนได้ประมาณ 200 คน) รายละเอียดความเป็นมาและความคืบหน้าในการก่อสร้างติดตามอ่านรายละเอียดได้จากลิงค์ข้างล่างนี้


    http://palungjit.org/showthread.php?t=100889

    และ

    http://palungjit.org/showthread.php?t=81557



    เนื่องจากการสร้างสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งตัวอาคารและระบบต่างๆ อาทิ ระบบระบายอากาศ ระบบน้ำใช้และระบบพลังงานภายในตัวอาคาร จำนวนประมาณ 5 - 7 ล้านบาท แต่ยังขาดปัจจัยอยู่เป็นจำนวนมาก


    กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติจึงได้จัดทอดผ้าป่าสามัคคีขึ้นเพื่อรวบรวมปัจจัยสำหรับเป็นค่าก่อสร้าง และได้นมัสการเรียนเชิญพระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เพื่อขอบารมีของท่านในการสร้างปรียนันท์ธรรมสถานให้สำเร็จลุล่วงสมดังเจตนารมย์ที่ตั้งไว้


    กำหนดวันทอดผ้าป่าสามัคคีในวันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม 2551 ณ ปรียนันท์ธรรมสถาน อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์
    โดยกำหนดศรัทธาในการร่วมทำบุญครั้งนี้ดังนี้

    ประธานกรรมการ 2,000 บาท ขึ้นไป

    รองประธานกรรมการ 1,000 บาท ขึ้นไป

    กรรมการ 500 บาท ขึ้นไป

    และทำบุญตามศรัทธาโดยไม่จำกัดจำนวน ทำได้ตั้งแต่ 1 บาท ขึ้นไป


    ท่านที่มีจิตศรัทธาจะร่วมบุญในการสร้างปรียนันท์ธรรมสถาน ขอเชิญร่วมลงชื่อเป็นประธาน รองประธาน และกรรมการผ้าป่า พร้อมโอนเงินเข้าบัญชีข้างล่างนี้ได้เลยครับ

    ชื่อบัญชี นายณัฐพัชร จันทรสูตร และ นางสุธาทิพ ภมรประวัติ
    ธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาย่อย มธ.ศูนย์รังสิต
    เลขที่บัญชี 475 - 0 - 14569 - 6



    โดยเข้าไปโพสต์แจ้งร่วมทำบุญได้ที่กระทู้ที่ลิงค์มานี้

    http://palungjit.org/showthread.php?p=911460


    ขออานิสงส์ผลบุญที่ได้ร่วมกระทำกันในครั้งนี้ จงส่งผลให้ท่านและครอบครัวประสพความสุข ความเจริญ ในหน้าที่การงาน มีอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติทุกประการ ถ้ามาดแม้นท่านผู้ร่วมกระทำกุศลในครั้งนี้ปรารถนาซึ่งพระโพธิญาณก็ดี หรือพระโลกุตรธรรมในปัจจุบันชาติก็ดี ขออานิสงส์ผลบุญที่กระทำร่วมกันนี้จงให้ความมั่นคงเป็นพลวะปัจจัยหนุนนำให้ทุกๆท่านจงสมปรารถนาทุกประการอย่างสะดวกสบาย ไร้อุปสรรคทั้งปวง ในฉับพลันทันทีด้วยเทอญ


    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2008
  8. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    เมื่อวานนี้ไปวัดญาณมาแระ เผอิญไปตอนหลังเลิกงาน กว่าจะไปถึงก็ค่ำมาก (ทุ่มนึงได้) ไปแบบไม่รู้อะไรเลย ดุ่มๆ ไป บรรยากาศก็มืดมาก แต่ขับรถไปตามที่มีแสงไฟ เห็นศาลาหนึ่งพระท่านนานั่ั่งอยู่ เลยจอดรถแล้วเข้าไปเคาะ ถามว่าที่นี่มีพระชื่อสุขุม ไหม พระท่านก็งงๆ แล้วเผอิญพระอีกรูปเดินมา ถามว่าจะมาทำอะไรเลยบอกว่า อ๋อ ตามหาพระชื่อสุขุม อยู่ พระท่านถามว่า มีอะไรเหร๋อ บอกว่า เพื่อนให้มาจะมาถามท่านเรื่องภับพิบัติ ท่านเลยบอกว่าได้ข่าวมาจากไหน เลยเอาข้อความด้านบนจากลุงคนเชียงใหม่ที่พิมพ์ไว้ ให้ท่านอ่าน ท่านเลยบอกว่าขอเก็บไว้ได้หรือเปล่า บอกว่า ได้

    ท่านเลยบอกว่า ลพ น้อย (พระอาจารย์สุขุม) ตอนนี้ท่านอยู่เชียงใหม่ อาทิตย์นี้อาจจะกลับมาที่วัดญาณเพราะจะมีงาน พระสังฆราชจะเสด็จด้วย (ถ้าท่านมาไหว) มีทุกปี

    เลยให้เบอร์กับกระดาษที่พิมพ์ข้อความไปให้ท่าน

    ท่านบอกว่า แหม๋ มาดึกจัง ทำไมไม่มาตอนกลางวัน เลยบอกว่า พึ่งเลิกงานเลยดิ่งมาเลย ท่านบอกว่าวันหลังหาเพื่อนมาด้วยนะ มาคนเดียวไม่เหมาะ [​IMG] แ่ป่ว

    แต่เลยขอโทษท่าน ท่านบอกว่าไม่เป็นไร มีธุระจริงๆ ไม่เป็นไร

    ก็เลยไม่ได้เจอท่าน (พระอาจารย์สุขุม) แต่ก็ได้นำสาร ที่พิมพ์ออกมาฝากไว้

    แป่วๆ กลายเป็น "Falkman ผู้นำสาร" (tm-love)

    เดี๋ยวถ้าท่านติดต่อมาจะบอกเพื่อนๆ หรืออาจไปวัดอีกหนเร็วๆ นี้
     
  9. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    "Falkman ผู้นำสาร" (กลายเป็นน่าสงสารมากกว่านะ-วันหลังหาเพื่อนไปด้วยสิ เล่นเข้าวัดดึกดื่นๆ)
    (good)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2008
  10. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,612
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>จับตาสงครามนิวเคลียร์! </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย สิริอัญญา </TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>10 มกราคม 2551 15:07 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> เมืองไทยเรายังคงสาละวนอยู่ด้วยเรื่องการเมืองภายในประเทศ ซึ่งถึงวันนี้ก็ยังไม่เห็นหน้าตาของรัฐบาลใหม่ว่าจะเป็นอย่างไร ในขณะที่เบื่อหน่ายหน้าตาของรัฐบาลเก่าจนสุดแสนจะทนทาน

    เนื่องเพราะกรอบของสถานการณ์ยังคงอยู่ภายในขอบเขตซึ่งได้ปรากฏตามบทความเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว และยังไม่มีอะไรใหม่ วันนี้จึงต้องหาเรื่องที่น่าสนใจกว่ามาเล่าสู่กันฟัง

    และเห็นเหตุการณ์บางอย่างที่น่าห่วงใยยิ่ง เพราะอาจมีผลกระทบใหญ่หลวง และหากพลาดพลั้งใหญ่ขึ้นแล้วก็อาจก่อเกิดเป็นสงครามนิวเคลียร์ นั่นคือสถานการณ์ที่เป็นไปบริเวณคาบสมุทรเฮอร์มุส และสถานการณ์อาวุธนิวเคลียร์ที่มีเค้าว่าจะไม่มีเสถียรภาพในเกาหลีเหนือ

    ดูไปแล้วน่าห่วงใยจริงๆ นี่ไม่ใช่เพราะไปยึดถือคำทำนายทายทักของพวกหมอดูที่ทำนายทายทักกันในแง่ร้ายว่าจะเกิดสงครามขนาดใหญ่ขึ้นในตะวันออกกลางและจะเกิดความรุนแรงแผ่ขยายไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย แต่ดูไปตามสถานการณ์ที่เป็นอยู่เท่านั้น

    เรามาลองดูกันว่าสถานการณ์ที่ว่านั้นเป็นประการใด?

    อย่างแรก เอาที่ใกล้ตัวก่อน คือสถานการณ์อาวุธนิวเคลียร์ในประเทศเกาหลีเหนือ


    ก็รู้ๆ กันอยู่ว่าเกาหลีเหนือพยายามพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของตนให้ก้าวรุดหน้ามากขึ้น วันดีคืนดีก็ทดลองยิงจรวดติดขีปนาวุธข้ามเกาะญี่ปุ่นเล่นๆ เสียอย่างนั้นแหละ

    เป็นการแสดงศักดาให้เห็นว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นก็มีขีดความสามารถที่จะถล่มเกาะญี่ปุ่นได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดถึงการถล่มเกาหลีใต้หรือฐานทัพสหรัฐฯ บางแห่งในมหาสมุทรแปซิฟิก

    สหรัฐฯ ออกจะเป็นเจ้ากี้เจ้าการในการขัดขวางหรือหยุดยั้งไม่ให้เกาหลีเหนือพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ได้กดดันนานาประการทั้งในทางการทูตและในทางการเมืองระหว่างประเทศ มีการจัดประชุมไม่รู้กี่ฝ่ายต่อกี่ฝ่ายหลายครั้งหลายหน แต่สถานการณ์ก็เหมือนนิ่งอยู่กับที่

    ล่าสุดเกาหลีเหนือก็โวยวายว่าไม่ได้รับสิ่งของตอบแทน โดยเฉพาะพลังงานและอาหารตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ จึงต้องเดินหน้าพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ต่อไป

    เกาหลีเหนือจึงเป็นเป้าหมายหนึ่งของสหรัฐฯ ที่จะต้องหยุดยั้งการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ให้จงได้

    แน่นอนว่าย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์ของสหรัฐฯ ด้วย ของญี่ปุ่นด้วย และของเกาหลีใต้ด้วย แต่ทว่าย่อมไม่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของจีน

    และก็เป็นที่รู้ๆ กันอยู่เหมือนกันว่าสหรัฐฯ ก็มีแผนการที่จะหยุดยั้งการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ด้วยกำลังทหาร และถ้าเกิดกรณีเช่นว่านี้ก็ย่อมกระทบต่อความมั่นคงของจีน เพราะเกาหลีเหนือนั้นมีดินแดนติดกับพรมแดนจีนมาก และจีนก็มีผลประโยชน์ทั้งทางการเมือง การทูต การทหารและการค้าที่สนิทแน่นแฟ้นกับเกาหลีเหนือ

    ดังนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมาทั่วโลกจึงได้เห็นแต่ท่าทีของจีนที่ยืนข้างเกาหลีเหนือในปัญหาดังกล่าวมาโดยลำดับ แต่นั่นก็เป็นการเห็นแต่เพียงท่าทีทางการเมืองและการทูต

    ไม่มีใครรู้หรือเห็นว่าจีนจะมีท่าทีทางการทหารอย่างไร โดยเฉพาะท่าทีของจีนแบบเดียวกับที่เคยเคลื่อนกองทัพปลดแอกเข้าไปพิทักษ์เกาหลีเมื่อครั้งสงครามเกาหลีว่าจะยังคงเป็นไปได้หรือไม่

    ล่าสุดสำนักข่าวเอเอฟพีได้รายงานข่าวเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า หากเกิดความไม่มั่นคงปลอดภัยเกี่ยวกับสถานการณ์นิวเคลียร์ในเกาหลีเหนือแล้ว จีนก็มีแผนที่จะส่งทหารเข้าไปในเกาหลีเหนือเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับเกาหลีเหนือในทันที

    ที่ว่าความไม่มั่นคงปลอดภัยเกี่ยวกับสถานการณ์นิวเคลียร์นั้น เป็นภาษาทางการเมืองระหว่างประเทศที่พูดกันสวยหรูดูงาม

    แต่แท้จริงแล้วความหมายก็คือหากเกาหลีเหนือถูกโจมตีหรือถูกบุกรุกเพื่อหยุดยั้งการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ จีนก็จะส่งกำลังทหารเข้าไปในเกาหลีเหนือนั่นเอง

    แต่ก็ยังมีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่าจีนจะเข้าแทรกแซงในกรณีเช่นนี้ก็ต่อเมื่อได้ปรึกษาหารือกับองค์การสหประชาชาติแล้ว แต่ก็มีข้อยกเว้นอยู่ว่าจีนอาจลงมือปฏิบัติการได้แต่ฝ่ายเดียวอีกด้วย

    พูดง่ายๆ โดยไม่ต้องตีความกันให้ปวดหัวก็คือ จีนอาจตัดสินใจฝ่ายเดียวที่จะส่งกองทัพปลดแอกเข้าไปในเกาหลีเหนือ

    รายงานข่าวดังกล่าวระบุว่าจีนจะขอความเห็นชอบอย่างเป็นทางการจากสหประชาชาติก่อนที่จะดำเนินการเช่นนั้น
     
  11. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,612
    <TABLE width=590 align=center border=0><TBODY><TR><TD>ยูเอ็นเผยโลกเกิดภัยธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น

    นายแจน เอจแลนด์ ผู้ประสานงานสำนักงานกิจการการร่วมมือเพื่อมนุษยธรรมของสหประชาชาติเปิดเผยในวันที่ 11 ตุลาคมซึ่งตรงกับวันลดภัยธรรมชาติโลกว่า ช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้เกิดภัยธรรมชาติมากถึง 267 ครั้ง มีผู้ได้รับผลกระทบมากถึง 91 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นตลอดทศวรรษที่ผ่านมาที่ภัยธรรมชาติเกิดขึ้นเพียง 236 ครั้ง โดยนายเอจแลนด์เลือกวันดังกล่าวในการเปิดเผยถึงความสูญเสียที่เกิดจากภัยธรรมชาติ เนื่องจากต้องการให้ชาวโลกทราบว่าผลกระทบจากภัยธรรมชาติมีความแตกต่างในประเทศร่ำรวยและประเทศยากจน ต้องการให้ทุกประเทศปรับปรุงแผนการช่วยเหลือเร่งด่วน และต้องการบ่นให้ประเทศร่ำรวยได้ยินว่าให้ความช่วยเหลือประเทศยากจนน้อยเกินไป

    นายเอจแลนด์กล่าวว่า ชาวโลกจำภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นช่วงปีสองปีที่ผ่านมาได้ดี ไม่ว่าคลื่นยักษ์สึนมิที่ถล่มหลายประเทศในเอเชีย พายุเฮอร์ริเคนแคทรีนาในสหรัฐอเมริกา แผ่นดินไหว้ในอินเดียและปากีสถาน แต่ในปีนี้ภัยธรรมชาติเกิดขึ้นไม่น้อยกว่าปีสองปีที่ผ่านมา โดย 8 เดือนแรกของปีนี้ภัยธรรมชาติเกิดขึ้น 267 ครั้งมีผู้ได้รับผลกระทบมากถึง 91 ล้านคน โดย 168 ครั้งเป็นภัยน้ำท่วม ซึ่งนายเอจแลนด์กล่าวว่า ภัยธรรมชาติที่ว่านี้เกิดจาก 2 ปัจจัยคือเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและประชากรในพื้นที่มีความเสี่ยงเกิดภัยธรรมชาติเพิ่มสูงขึ้นเช่นประชากรตามชายหาดและพื้นที่เกิดแผ่นดินไหว้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

    อย่างไรก็ตาม ข่าวดีก็คือความสูญเสียจากภัยธรรมชาติโดยเฉพาะสูญเสียต่อชีวิตลดลง ทั้งนี้เป็นผลมาจากการปรับปรุงในการรับมือกับภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะในเอเชียเช่นจีนและเวียดนามที่รับมือกับภัยธรรมชาติเช่นพายุพัดถล่มดีกว่าเก่า อินเดียได้ปรับปรุงการรับมือกับน้ำท่วมที่เกิดขึ้นช่วงลมมรสุม นอกจากนี้ธนาคารโลกเข้ามาช่วยในโครงการแลกเปลี่ยนข้อมูลและในเรื่องระบบเตือนภัยล่วงหน้า (เอพี) </TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://www.raorakpar.com/webboard01/view.php?No=153
     
  12. จักรพนธ์

    จักรพนธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    373
    ค่าพลัง:
    +4,622
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=930 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=625><!-- Start Detail -->
    [​IMG]
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=615 border=0><TBODY><TR><TD class=default13 vAlign=top>หิมะตกเป็นครั้งแรกในกรุงแบกแดด
    [​IMG] แบกแดด 11 ม.ค. - เกิดเหตุหิมะตกในกรุงแบกแดด เป็นครั้งแรก ทำให้ประชาชนร่วมกันสวดมนต์ขอพรให้เกิดสันติภาพ ชาวกรุงแบกแดด วัย 60 ปี กล่าวว่า ที่ผ่านมา เคยแต่เห็นฝนลูกเห็บ แต่ไม่เคยเห็นหิมะมาก่อน
    ชาวกรุงแบกแดด กล่าวว่า หิมะเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ เป็นสัญญาณของความหวัง เขาหวังว่าหิมะจะช่วยชำระล้างจิตใจของชาวอิรักให้ใสบริสุทธิ์ และช่วยให้นักการเมืองทำหน้าที่เพื่อสร้างความรุ่งเรืองให้กับชาวอิรักทุกคน
    ท้องถนนส่วนใหญ่ในกรุงแบกแดด ในเช้าวันนี้ ซึ่งเป็นวันหยุดว่างเปล่าไร้ยวดยานพาหนะ เนื่องจากหิมะทำให้เกิดน้ำแข็งขนาดใหญ่และหนา บางแห่งที่หิมะละลายกลายเป็นแอ่งน้ำขนาดเล็ก และอุณหภูมิในนครหลวงเข้าใกล้จุดเยือกแข็ง.- สำนักข่าวไทย


    อัพเดตเมื่อ 2008-01-11 14:43:15

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=930 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=625><!-- Start Detail -->
    [​IMG]
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=615 border=0><TBODY><TR><TD class=default13 vAlign=top>สหรัฐส่งเครื่องบินขับไล่ประจำการในเกาหลีใต้
    [​IMG] โซล 11 ม.ค.-กองทัพสหรัฐส่งเครื่องบินขับไล่จำนวน 1 ฝูงบิน ประมาณ 20 เครื่องเดินทางมาประจำการชั่วคราวที่ฐานทัพในเกาหลีใต้เป็นเวลา 4 เดือน เพื่อประเมินความพร้อมรบของกองทัพสหรัฐหากเกิดสงครามขึ้นในภูมิภาคนี้
    ฝูงบินขับไล่เอฟ-16 พร้อมเจ้าหน้าที่ 300 คนจากฐานทัพอากาศชอว์ในรัฐเซาท์ แคโรไลนา ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองบินขับไล่ที่ 8 ของสหรัฐ จะเดินทางมาที่ฐานทัพอากาศในเมืองกุนซาน ห่างจากกรุงโซลไปทางทิศใต้ 270 กิโลเมตรในสัปดาห์หน้า การส่งเครื่องบินมาประจำการครั้งนี้แสดงถึงสหรัฐยังมีพันธกิจรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคนี้
    ขณะนี้สหรัฐมีทหารประจำการในเกาหลีใต้ 28,000 นายเพื่อป้องปรามความก้าวร้าวของเกาหลีเหนือ แต่มีแผนจะลดกำลังทหารลงเหลือ 25,000 นายภายในเดือนธันวาคมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการปรับเปลี่ยนกำลังทหารของสหรัฐที่ประจำการทั่วโลก สหรัฐจะลดกำลังพลทหารราบโดยจะนำอาวุธที่ทันสมัยเข้าประจำการแทน.-สำนักข่าวไทย

    อัพเดตเมื่อ 2008-01-11 15:23:47
    http://news.mcot.net/international

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <!-- End Detail --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. pattarawat

    pattarawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,671
    ค่าพลัง:
    +7,982
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รัฐบาลหมดทางเยียวยา ค่าครองชีพพุ่ง - คนไทยรับกรรม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการรายสัปดาห์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>10 มกราคม 2551 09:13 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ราคาน้ำมันขึ้นไม่หยุด กระทรวงพลังงานใจแข็งไม่ลดเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง รัฐบาลขิงแก่เมินความเดือดร้อนประชาชน ปล่อยลอยแพ นักวิชาการชี้รัฐลดราคาน้ำมันได้แต่ไม่ทำ ด้านนักเศรษฐศาสตร์แนะคนไทยก้มหน้ารับกรรม เงินเดือนขึ้นแค่ 4% ไม่พอค่าครองชีพปัจจุบัน

    ย่างเข้าปีใหม่ได้เพียง 8 วัน ราคาน้ำมันในประเทศไทย ปรับขึ้นไป 2 ครั้ง ครั้งละ 40 สตางค์ ส่งผลให้ราคาน้ำมันเบนซิน 95 อยู่ที่ลิตรละ 33.69 บาท เบนซิน 91 ลิตรละ 32.39 บาท แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 29.69 บาท แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 28.89 บาท ยกเว้นน้ำมันดีเซลราคายังคงเดิมลิตรละ 29.74 บาท

    ตามมาด้วยกรมการค้าภายในที่เตรียมอนุญาตให้น้ำมันถั่วเหลืองและน้ำมันปาล์มปรับราคาขึ้นอีกลิตรละไม่ต่ำกว่า 5.50 บาท รวมถึงเตรียมให้ปลากระป๋องปรับเพิ่มขึ้นอีก 1-2 บาทต่อกระป๋อง โดยบ๊ะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้รับอนุญาตให้ปรับขึ้นอีกซองละ 1 บาท

    สิ่งที่จะตามมาในอีกไม่ช้านั่นคือราคาสินค้าโดยรวมย่อมต้องปรับขึ้นอีก เช่น ข้าวแกงที่บางแห่งปรับราคาขึ้นอีก 5 บาทต่อจาน

    ขณะที่ค่าโดยสารรถ ขสมก.ที่ตรึงราคาไว้ 3 เดือนจะครบกำหนดในวันที่ 15 มกราคมนี้ แม้เจ้ากระทรวงคมนาคมจะส่งสัญญาณให้ตรึงราคาต่อ แต่จะทำได้หรือไม่คงต้องรอมติกันอีกครั้ง โดยที่ราคาน้ำมันดีเซลวันนี้เฉียด 30 บาทต่อลิตร จากการที่ผู้ประกอบการพยายามตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้

    ในส่วนของรถร่วมบริการ ขสมก.ก็เตรียมขอปรับราคาค่าโดยสารขึ้นเช่นกันอีก 50 สตางค์เป็น 9 บาท รถร่วมปรับอากาศขอปรับอีกช่วงละ 1 บาท หากราคาน้ำมันดีเซลเกิน 30 บาท รถร่วมจะขอปรับค่าโดยสารเป็น 10 บาทและรถร่วมปรับอากาศจะขอปรับขึ้นอีกระยะละ 2 บาท ส่วนรถร่วม บขส.เตรียมขอปรับเพิ่มอีกกิโลเมตรละ 9 สตางค์

    นี่เป็นรายจ่ายรอบใหม่ของคนไทยที่จะต้องแบกภาระค่าครองชีพมากขึ้นกว่าเดิม หลังจากที่ปลายปี 2550 ราคาสินค้าหลายตัวได้ปรับขึ้นไปบ้างแล้วรวมถึงการก๊าซหุงต้ม และการขึ้นราคาน้ำมันอีก 2 ครั้งในเดือนธันวาคมเมื่อวันที่ 5 และ 26 นอกจากนี้ยังมีสินค้าอีกหลายรายการที่เตรียมจ่อคิวปรับราคา

    รัฐบีบใช้พลังงานทดแทน

    นักวิชาการรายหนึ่งกล่าวว่า ผู้ที่ควรจะเข้ามาแก้ไขโดยตรงคือรัฐบาล แม้จะอยู่ในช่วงรักษาการเพื่อรอรัฐบาลชุดใหม่ แต่นี่คือความเดือดร้อนเฉพาะหน้าที่คนทั้งประเทศต้องแบกรับ เงินที่เก็บเพื่อใช้หนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงหมดตั้งแต่ก่อนสิ้นปี แต่กระทรวงพลังงานยังไม่ลดอัตราการจัดเก็บเข้ากองทุนน้ำมันในอัตราปกติเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

    จากข้อมูลเมื่อ 3 มกราคม 2551 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจัดเก็บเงินเข้ากองทุน โดยเบนซิน 95 ยังเก็บที่ 4 บาทต่อลิตรและเบนซิน 91 ที่ 3.30 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซลลดลงมาที่ 70 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งสถานะของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อ 2 มกราคม 2551 มีสถานะเป็นบวกโดยมีเงินสดสุทธิ 13,518 ล้านบาท

    จากข้อมูลโครงสร้างราคาน้ำมันเมื่อ 8 มกราคม 2551 พบว่าราคาน้ำมันเบนซิน 95 จริง ๆ อยู่ที่ 22.4319 บาทต่อลิตร บวกด้วยภาษีสรรพสามิต 3.685 บาท เงินในกองทุนน้ำมันฯ 4 บาทและภาษีอื่นๆ เบ็ดเสร็จจึงทำให้ราคาขายเป็น 33.69 บาท หรือน้ำมันเบนซิน 91 ราคาจริงอยู่ที่ 21.9233 บาท ภาษีที่ 3.685 บาทและเงินเก็บเข้ากองทุนน้ำมัน 3.3 บาทและภาษีอื่นๆ ทำให้ราคาขายเป็น 32.39 บาท

    หากปรับลดลงระดับหนึ่งก็จะทำให้อัตราเร่งในการขอขึ้นราคาสินค้าของผู้ประกอบการลดลง เมื่อราคาสินค้าปรับขึ้นด้วยเหตุจากราคาน้ำมันที่เป็นต้นทุนการผลิตที่สำคัญ แม้ราคาน้ำมันปรับลดลงอยู่ในภาวะปกติแล้วก็ตาม แต่ราคาสินค้ามักจะไม่ปรับลดลง เรื่องนี้ทุกคนก็ทราบดี แต่กลับไม่ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง

    ที่แปลกไปกว่านั้นก็คือ รถร่วมบริการ ขสมก. ที่ขอปรับขึ้นค่าโดยสารโดยอ้างเรื่องราคาน้ำมันดีเซลแพงนั้น ภาครัฐควรต้องไปสำรวจดูว่าปัจจุบันนี้ผู้ประกอบการเหล่านี้ได้ปรับมาใช้เป็นก๊าซเอ็นจีวีกันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 8.50 บาท ซึ่งปตท.ไม่ได้ปรับราคาขึ้นแต่อย่างใด ดังนั้นผู้ประกอบการรถร่วม ขสมก.ย่อมมีส่วนต่างของรายได้สูงกว่าเดิมหากเทียบกับรถที่ใช้น้ำมันดีเซล เช่นเดียวกับรถตู้โดยสารที่หลายคันปรับมาใช้ก๊าซแอลพีจีเป็นเชื้อเพลิงแทนน้ำมัน

    เราเข้าใจว่ารัฐต้องการใช้ราคาน้ำมันที่สูงอยู่ในเวลานี้ เพื่อจูงใจให้คนไทยหันมาใช้พลังงานทดแทนที่มีอยู่ วิธีการดังกล่าวแม้จะเป็นเรื่องที่ดีแต่รัฐต้องพิจารณาถึงองค์ประกอบอื่น ๆ ด้วยเพราะส่วนหนึ่งไม่ใช่ที่ส่วนต่างราคาเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องความมั่นใจของเจ้าของรถที่รู้สึกว่ากำลังกลายเป็นหนูทดลอง เอารถราคาหลายแสนบาทที่เก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิต มาเสี่ยงกับพลังงานทดแทนที่แม้แต่รัฐบาลเองก็ยังไม่กล้ารับรองแบบเต็มปากเต็มคำ

    นโยบายพลังงานของประเทศไทย ปรับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ที่เดิมใช้กันแต่น้ำมันเบนซิน 95 ต่อมาก็รณรงค์ให้ใช้เบนซิน 91 จากนั้นก็ออกแก๊สโซฮอล์ 95 ออกมาตามมาด้วยแก๊สโซฮอล์ 91 ล่าสุดคืออี 20 สำหรับปี 2008 เป็นต้นไป หรือการส่งเสริมให้ใช้ก๊าซเอ็นจีวีที่ก็ยังมีปัญหาในเรื่องต้นทุนในการติดตั้ง น้ำหนักของถังที่มีน้ำหนักมากและจุได้น้อย สถานีบริการก็ยังไม่ครอบคลุมทั้งประเทศ หากรถยนต์ที่เปลี่ยนมาใช้พลังงานทดแทนเหล่านี้เสียหายไปรัฐเข้ามารับผิดชอบหรือไม่

    หากต้องการลดการใช้พลังงานของคนไทยที่ให้ได้อย่างจริงจังก็ต้องดำเนินการอย่างครบวงจร ทั้งการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้อย่างแท้จริงไม่ใช่แค่คำโฆษณาทางโทรทัศน์หรือใช้กลไกของราคามาเป็นตัวเร่งเท่านั้น รวมถึงต้องหาทางให้คนใช้รถยนต์ส่วนตัวให้น้อยลง ด้วยระบบคมนาคมที่ต้องทำให้ทั่วถึงและปลอดภัย

    โยนระเบิดรัฐบาลใหม่

    ปัญหาเรื่องค่าครองชีพในปี 2551 ที่สูงลิ่วในเวลานี้จะถูกส่งมอบจากรัฐบาลของพลเอกสุรยุทธ์ จุลลานนท์ ผ่านไปยังรัฐบาลใหม่ ดังนั้นไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นแกนนำรัฐบาลใหม่ปัญหานี้จะกลายเป็นปัญหาหลักที่ต้องเข้ามาแก้ไขอย่างเร่งด่วน

    แต่การที่รัฐบาลใหม่จะออกมาตรการใด ๆ ออกมาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจของประชาชนนั้น คงไม่สามารถทำได้ง่ายนัก เนื่องจากมีข้อจำกัดในหลายด้าน เช่น หากต้องการลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิงลงด้วยการลดการจัดเก็บภาษีสรรพาสามิตตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแนะนำนั้น คงไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายเนื่องจากจะกระทบฐานรายได้ในการจัดเก็บของกระทรวงการคลัง ที่จะส่งผลต่องบประมาณประจำปี

    อีกประการหนึ่งคือนโยบายดอกเบี้ยนั้น อำนาจไปตกอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เน้นควบคุมเงินเฟ้อด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากปล่อยให้แบงก์ชาติดำเนินการแก้ปัญหาเงินเฟ้อด้วยการขึ้นดอกเบี้ยในประเทศก็จะส่งผลกระทบต่อความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่มีภาระเงินกู้ รวมไปถึงภาคธุรกิจที่ต้องใช้เงินหมุนเวียนอาจจะประสบปัญหา

    ที่แก้ไขยากที่สุดคือเรื่องความมั่นใจของผู้บริโภค เมื่อสถานการณ์เป็นอย่างนี้ย่อมกระทบต่ออำนาจซื้อของประชาชน ซึ่งภาวะที่ดังกล่าวการที่จะกระตุ้นกำลังซื้อของประชาชนได้จะต้องทำให้อัตราดอกเบี้ยในประเทศต่ำ แต่ถ้าเงินเฟ้อขึ้นไปอยู่ที่ราว 4% คงไม่สามารถใช้อัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศได้ เนื่องจากจะไปขัดกับทิศทางดอกเบี้ยที่แบงก์ชาติดูแลอยู่ ดังนั้นผู้ที่เข้ามาเป็นรัฐบาลใหม่คงจัดการเรื่องนี้ได้ไม่ง่ายนัก

    เงินเดือนขึ้นน้อยกว่าค่าครองชีพ

    นักเศรษฐศาสตร์มหภาคของสำนักวิจัยแห่งหนึ่งกล่าวว่า โดยภาพรวมของการขึ้นเงินเดือนทั้งประเทศน่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ราว 4% เอาแค่ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นมา 80 สตางค์ในรอบ 8 วันก็ขึ้นมา 2.53% เข้าไปแล้ว ไม่นับรวมสินค้าและบริการที่จะปรับเพิ่มขึ้นอีก ยกตัวอย่างแค่ราคาข้าวแกงเพิ่มขึ้นจาก 30 บาทเป็น 35 บาทต่อจาน เท่ากับแพงขึ้น 16.67% ต่อมื้อเข้าไปแล้ว ดังนั้นรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วคงไม่เพียงพอต่อค่าครองชีพที่สูงขึ้นในปีนี้อย่างแน่นอน

    สิ่งเหล่านี้จะทำให้อัตราเงินเฟ้อในประเทศเพิ่มขึ้น คาดว่าเฉลี่ยทั้งปีน่าจะอยู่ที่ 4% หากเทียบเงินเฟ้อกับเงินเดือนที่ปรับขึ้นแล้วก็เท่ากับเงินเดือนไม่ได้ปรับขึ้น แถมต้องมาแบกรับกับค่าครองชีพที่พุ่งขึ้นอย่างมากในปีนี้ ย่อมจะกระทบกับภาพรวมต่อเศรษฐกิจของประเทศ

    ผลที่ตามมาจากภาวะเงินเฟ้อนั่นคือธนาคารแห่งประเทศไทยจะต้องเข้ามาหาทางสกัดเงินเฟ้อด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทุกวันนี้อัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร 1 วันอยู่ที่ 3.25% อาจจะมีการปรับขึ้นได้อีก 0.25-0.5% ในปีนี้ นั่นหมายถึงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและดอกเบี้ยเงินกู้ก็มีโอกาสปรับขึ้นได้อีก 0.25-0.5% เช่นกัน

    ในด้านเงินฝากคงเป็นเรื่องดีที่ได้ผลตอบแทนสูงขึ้น แต่ในฝั่งของผู้ที่มีภาระในการผ่อนชำระเช่นบ้านที่อิงกับอัตราดอกเบี้ยลอยตัวคงต้องแบกภาระเพิ่ม ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสัญญาของแต่ละราย หากเลือกผ่อนชำระช่วง 15-20 ปี อาจจะผ่อนชำระต่อเดือนเท่าเดิม แต่ตัดเงินต้นน้อยลง จ่ายดอกเบี้ยมากขึ้นกว่าเดิม ส่วนผู้ขอกู้ที่เลือกผ่อนชำระนานที่สุดไว้เช่น 25 ปีหรือ 30 ปี ยอดการผ่อนชำระต่องวดอาจมีการปรับขึ้น

    ค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นทุกด้านนับว่าเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะที่รัฐบาลยังคงปล่อยให้สถานการณ์ราคาน้ำมันเป็นอย่างนี้โดยไม่ได้ออกมาตรการใด ๆ เพื่อบรรเท่า ดังนั้นในภาคบุคคลคงต้องหาทางปรับตัวเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพลง ใช้จ่ายอย่างประหยัดมากยิ่งขึ้น เพราะเท่าที่พิจารณาทางออกในขณะนี้มีน้อยมาก

    หลายคนอาจจะมองถึงอาชีพเสริมอื่น ๆ เพื่อช่วยสร้างรายได้ แต่ต้องประเมินภาพรวมด้วยว่าเมื่อทุกคนต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นกันทุกคนนั้น กำลังซื้อก็ย่อมต้องลดลงตามไปด้วย หากจะหวังว่าอาชีพเสริมที่ทำนั้นจะช่วยสร้างรายได้ที่ดีควรจะต้องพิจารณาให้รอบคอบ

    “สิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งนั่นคือการก่อหนี้ใหม่ หรือการซื้อสินค้าใหม่ที่ไม่มีความจำเป็นเพราะนั่นหมายถึงการนำเงินออมที่มีอยู่ออกมาใช้โดยไม่เกิดประโยชน์ หากค่าครองชีพสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ อาจทำให้เกิดปัญหาทางการเงินขึ้นมาได้”
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. ตำสั่วปู ปลาร้า

    ตำสั่วปู ปลาร้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +462
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]





    [​IMG]
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE class=tborder id=post911046 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>watasit<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_911046", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 04:47 AM
    วันที่สมัคร: Nov 2007
    ข้อความ: 176 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 674 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 726 ครั้ง ใน 130 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 91 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_911046 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->พุทธานุภาพ..สิ่งที่ซึนามิ...ทำลายมิได้
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message --><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=left bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=left bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=left bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=left bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=left bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=left bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=left bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ว่ามั๊ย</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=108462
     
  16. จักรพนธ์

    จักรพนธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    373
    ค่าพลัง:
    +4,622
    เมื่อสองวันที่แล้วฝันเกี่ยวกับภัยพิบัติ ในฝัน ภัยพิบัติมีสองระลอก ระลอกแรกคนตายไปเกือบครึ่ง มีพระรูปหนึ่งบอกว่า อีก6นาที จะเกิดภัยพิบัติใหญ่อีกระลอกสอง(ครั้งสุดท้าย แต่งงว่าทำไมต้อง6นาที ไม่เรวไปหรือ)
    ในฝันผม ยืนริมแม่น้ำ ใต้ต้นไม้ใหญ่เหมือนต้นโพธ์หรือต้นไทร ซึ่งภัยพิบัติครั้งที่สองยังไม่เกิดและจะเกิดเรวๆนี้ ตอนนั้นผมไม่รุ้จะหนีไปไหน เพราะอีกแค่ 6นาทีคงหนีไม่ทัน เลยนึกถึงพระพุทธเจ้า ว่า พระพุทธเจ้าช่วยข้าพเจ้าด้วย
    ทันทีที่นึก ก็มีเสียงพระพุทธเจ้าช่วยข้าพเจ้าด้วยดังกระหึ่มรอบๆกายผม
    หันไปทางต้นไม้ มีคนมาจากไหนไม่รู้โผล่มาเต็มเลย ทุกคนมีจิตยึดในพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งทั้งนั้น สักพักภาพแม่น้ำก็เปลี่ยนเป็นภาพรถคันใหญ่ เหมือนจะขนคนกลุ่มนี้ให้รอดพ้นจากภัยพิบัติ ...เสร็จแล้วก็ตื่นจากฝัน

    เลยเดาๆเอาว่าคนที่รอดจากภัยพิบัติส่วนมากยึดในพระพุทธเจ้าเป็นสรณะแม้ในเวลาสุดท้ายของชีวิต
     
  17. จักรพนธ์

    จักรพนธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    373
    ค่าพลัง:
    +4,622
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=930 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=625><!-- Start Detail -->
    [​IMG]
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=615 border=0><TBODY><TR><TD class=default13 vAlign=top>สหรัฐระบุเหตุการณ์ในช่องแคบฮอร์มุซชี้อิหร่านเป็นภัยคุกคาม
    [​IMG] วอชิงตัน 12 ม.ค. - นายทหารระดับสูงของสหรัฐกล่าวว่า เหตุเผชิญหน้ากันระหว่างเรือของกองทัพเรือสหรัฐและเรือของอิหร่านในน่านน้ำบริเวณช่องแคบฮอร์มุซเป็นการแสดงให้เห็นว่า อิหร่านเป็นภัยคุกคามและสหรัฐพร้อมที่จะตอบโต้ในทันที
    พลเรือเอกไมค์ มูลเลน ประธานเสนาธิการทหารสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับภัยคุกคามดังกล่าว โดยจะปกป้องตนเองและเรือ รวมถึงพร้อมจะใช้กำลังในกรณีจำเป็น สหรัฐระบุว่า เรือเร็วอิหร่าน 5 ลำเข้าประชิดเรือรบของสหรัฐ 3 ลำในบริเวณช่องแคบฮอร์มุซเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และยังได้รับคำขู่ว่าจะโจมตีด้วยระเบิด กระทรวงกลาโหมสหรัฐได้นำวิดีโอที่ยังไม่ได้ตัดต่อความยาว 36 นาทีออกเปิดเผย พร้อมกับแสดงความไม่พอใจ แต่อิหร่านอ้างว่าการเผชิญหน้าดังกล่าวเป็นเรื่องปกติ
    เหตุการณ์ในช่องแคบฮอร์มุซนับเป็นการส่งสัญญานแสดงถึงความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน นอกเหนือจากความขัดแย้งอื่นๆ รวมทั้งโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน และบทบาทในอิรัก. - สำนักข่าวไทย

    อัพเดตเมื่อ 2008-01-12 10:11:59 </TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://news.mcot.net/international/
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    [​IMG]

    งานที่พระท่านสั่งมาให้ทำ โดยคุณ Kananun

    สำหรับผมเอง วันแรกๆที่ได้มโนมยิทธิ พระท่านก็พาผมไปดูภาพเหตุการณ์ของสงครามนิวเคลียร์ครับ แล้วก็มาทิ้งท้ายว่า เราเองมีหน้าที่ ที่จะต้องช่วยคนจากภัยพิบัติ

    ไอ้ครั้งแรกที่รู้เราก็โวยก่อนเลยว่า เอาภาระอะไรมาให้เรา เราจะทำได้หรือ งานมันไม่ใช่หมูๆนะ แล้วคนตั้งกี่คนให้ช่วย เราตัวคนเดียวจะทำได้อย่างไร

    เอาเป็นว่าตอนนั้นทั้ง งอแง ทั้งดื้อ ทั้งโวยวาย แต่ก็เชื่อพระท่าน แล้วก็มีแต่เรื่องบังเอิญมาในชีวิตให้พบ กลุ่มนั้น ไปเรียนวิชชาจากท่านผู้นี้ ไปฝึกวิชชาในป่าถ้ำวัวแดง ไปเจอประสบการณ์ต่างๆ สารพัด

    จนมานั่งนึกดูกับเพื่อนที่ไปผจญภัยด้วยกันว่าเอาไปเขียนเป็นนิยายเล่นคงจะสนุกดี จนในที่สุดก็มาเจอเว็บพลังจิตโดยบังเอิญ โดยลิ้งค์มาจากเว็บไทยเอ็มทีบี มาเจอกระทู้เรื่องภัยพิบัติ ที่พี่เกษมโพสต์อยู่ ในใจลึกๆ ก็รู้ทันทีโดยหน้าที่ว่า ต้องได้เวลารวมตัวผู้มีหน้าที่ทางด้านนี้แล้ว

    จากนั้นไม่ว่าอย่างไร ก็ปรึกษาพระท่านตลอด ว่าอะไรควร ไม่ควร ท่านสั่งอะไร สิ่งใดสำคัญ เราก็ทำตามท่าน

    จนในที่สุดก็ปรากฏเนื้องาน อย่างที่เห็นจากความร่วมแรง ร่วมใจ ทำให้ส่วนรวม ของทุกๆคนครับ สรุปแล้วป็นแรงผลักดันจากภายในของเราครับที่ทำให้ อยู่ในห้องภัยพิบัตินี้
    <!-- / message --><!-- sig -->
    ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=108588
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มกราคม 2008
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ฝันประหลาด
    โดยคุณrosey<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_912715", true); </SCRIPT> สมาชิก

    [​IMG]
    ฝัน.. ฝันประหลาด ..
    ฝันว่าได้พบพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    ทรงเสด็จไปถวายพระเพลิงพระพี่นาง..
    แต่สมเด็จท่านสามารถแยกกายไปทรงงานต่อได้อีก..
    ภาพตัดไปที่ คล้ายน้ำตกหรือฝายกั้นน้ำที่ไหนซักแห่ง แตก ..
    พระองค์ยืนประทับบริเวณฝายน้ำที่แตก ยืนทรงงานด้วยพระองค์เอง
    ภาพตัดไปที่ ข้าพเจ้ายืนอยู่ข้างพระองค์
    พระองค์ตรัสกับชายชราที่ท้อแท้คนหนึ่ง
    ชายชราที่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องโชค และการอธิษฐานที่มีจริง..
    ได้ยินท่านตรัสว่า จุดธูป 2 ดอก อธิษฐานเรื่องโชคจะสำเร็จ
    (เราก็ไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน) ชายชรายังคงเหม่อและเฉย..
    อยู่ ๆ ในมือข้าพเจ้าก็มีธูปที่จุดไว้แล้ว ข้าพเจ้ายื่นธูปให้ชายชราอธิษฐาน ชายชราถามข้าพเจ้าว่า มันจะเป็นได้ผลจริงหรือ..
    ข้าพเจ้าบอกเพียงให้ตั้งใจอธิษฐาน อธิษฐานถึงสิ่งที่ดีที่สุด..
    ตอนนี้ข้าพเจ้าไม่พบสมเด็จแล้ว.. ข้าพเจ้ายกธูปขึ้นฟ้ายังไม่ทันนึกอะไร
    พระอาทิตย์ตอนกลางวัน เป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวสีดำ คล้ายราหู
    ค่อย ๆเคลื่อนกินพระอาทิตย์เรื่อย ๆ เรื่อย ๆ จนเป็นพระอาทิตย์เสี้ยว
    พระอาทิตย์ดับ.. เป็นสีดำจานบินสีดำ หลุดออกมาจากพระอาทิตย์ บินชนตึกกลางเมืองหลวง.. ล้มไม่เป็นแนว.. ถล่มไม่มีชิ้นดี..
    ข้าพเจ้าไม่ว่าแน่ใจ ว่าจานบินเกิดอุบัติเหตุขึ้นหรือมีเจตนาใด..
    แต่ตึกธุรกิจย่านกลางเมืองหลวงพังไม่มีชิ้นดี.. ผู้คนหนีตายอลหม่าน
    ข้าพเจ้านึกว่าฝัน.. แต่มีเศษหินเล็ก ๆ ร่วงกระทบแขน..
    มันเป็นเศษหินจริง ๆ ข้าพเจ้าวิ่งไปหลบได้ทันไม่มีอันตราย
    แต่เกิดมาพึ่งเคยฝันเห็นจานบิน.. พึ่งเคยฝันเห็นตึกถล่ม..
    ฝันบอกเหตุอะไรหนอ.. วานท่านผู้รู้ช่วยวิเคราะห์ด้วยค่ะ..

    ปลายเดือนธันวา 50 ก็ฝันอีก..
    ฝันเห็นพระอาทิตย์ดับ.. ดับไปต่อหน้าต่อตาอีก
    เราร้องเรียกให้คนมาดูพระอาทิตย์ดับ..
    ก็แปลก เหมือนโดนมนต์สะกดอะไรไม่รู้
    สลบหลับไหลกันไปหมด ไม่มีใครฝืนตื่นได้
    เราเห็นพระอาทิตย์ดับอยู่คนเดียว..
    มองดูบริเวณโดยรอบดูมืดมนหมองหม่น น่าหวาดกลัว..
    เหมือนมนต์อะไรก็ไม่รู้ แฝงเร้นไปทุกหย่อมหญ้า
    แต่ว่า.. หลังจากนั้นไม่นาน..
    พระอาทิตย์ก็กลับมาฉายแสงอีกครั้ง..
    ค่อย ๆ ทอแสงสว่างทีละน้อยๆ เป็นแสงสีทองอ่อน ๆ
    บรรยากาศรอบข้างดูสะอาด เหมือนอากาศสวย สะอาดบอกไม่ถูก
    อากาศสีทองทอประกายสว่างขึ้น เป็น2เท่า.. สวยจริง ๆ
    สวยสะอาด บริสุทธิ์ สวย..
    หลังจากนั้นทุก ๆ คนที่หลับรอบข้างข้าพเจ้าก็ตื่นขึ้น..
    ข้าพเจ้าได้แต่ยืนมองเพื่อนที่ตื่น.. และยืนทบทวนเหตุการณ์ต่าง ๆ
    จบ
    ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=79471&page=48
    <!-- / message -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • _copy47.jpg
      _copy47.jpg
      ขนาดไฟล์:
      27.3 KB
      เปิดดู:
      1,151
  20. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    โอ้โห..ฝันเข้าล๊อก เป๊ะๆ เลย
    ดวงอาทิตย์มืดมิด 49 วัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...