ประวัติ วัดไชโย-วัดระฆัง (ฉบับวัดระฆังถวายในหลวง พ.ศ.๒๕๐๔)....

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย pmorn3339, 26 เมษายน 2016.

  1. pmorn3339

    pmorn3339 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,342
    ค่าพลัง:
    +2,467
    เพื่อให้เกิดนิยายเรื่อง "ชีวะประวัติสมเด็จโต"
    ตอน "กำเนิดสมเด็จโต"
    ม.ล.พระมหาสว่าง ถึงกับ "บิดเบือนพงศาวดาร" กันเลยที่เดียว
    (บิดเบือนประวัติศาสตร์กันเลย)

    พงศวดาร ตอน พม่าตีได้เมืองพิษณุโลก

    1. เรียบเรียงโดย สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    หรือ จาก

    [​IMG]

    สรุป คือ

    1.เจ้าพระยาจักรี กับเจ้าพระยาสุรสีห์ เห็นพร้อมกันว่าเหลือกำลังที่จะรักษาเมืองพิษณุโลกต่อไปได้ จึงทิ้งเมืองพิษณุโลก หนีไปตั้งทัพอยู่เมืองเพชรบูรณ์
    พม่าจึงเข้ายึดเมืองพิษณุโลกไว้ได้
    (สมเด็จเจ้าพระยาทั้งสองไม่ได้ตีทัพพม่าแตก แต่เป็นคนตีฝ่าวงล้อมกองทัพพม่าหนีออกจากเมืองพิษณุโลก ถูกพม่าไล่ล่าต้องหนีข้ามภูเขาไปถึงเมืองเพชรบูรณ์)
    2.ตอนพระเจ้ากรุงธนบุรีจัดทัพเพื่อเข้าตีเมืองกำแพงเพชร นั้น ทั้งเจ้าพระยาจักรี และ เจ้าพระยาสุรสีห์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในกองทัพเลย

    2. พระมหาสว่าง บิดเบือนประวัติศาสตร์ แต่งนิยาย เพื่อให้ประวัติศาสตร์เข้าหา "ชีวะประวัติสมเด็จโต" ตอนจุดกำเนิดกุมาร ดังนี้

    [​IMG] [​IMG]

    สรุป คือ
    เจ้าพระยาจักรี ตีกองทัพพม่าแตกจากเมืองพิษณุโลก แล้วไล่ล่าพม่ามาตั้งทัพอยู่เมืองกำแพงเพชร ออกลาดตะเวนกระทั่งไปเจอหญิงสาวชาวบ้าน แล้วได้แต่งงานกัน
    กำเนิดกุมาร "สมเด็จโต"

    ซึ่ง ม.ล.พระมหาสว่าง แต่งนิยายขึ้น บิดเบือนประวัติศาสตร์ ทั้งหมด
    เพียงเพื่อลากจูงประวัติศาสตร์ให้เข้าสู่จุดหมายที่วางไว้

    ท่านคงไม่คาดคิดว่า กรมพระยาดำรงฯ ท่านจะรวบรวมพงศวดารเขียนประวัติศาสตร์ตรงนี้ไว้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 กรกฎาคม 2016
  2. pmorn3339

    pmorn3339 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,342
    ค่าพลัง:
    +2,467
    ด้วยความเห็นส่วนตัว

    บันทึกประวัติของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ฉบับของมหาอำมาตย์ตรีพระยาทิพยโกษา
    ซึ่งเป็นฉบับที่รวบรวมโดย ม.ล.พระมหาสว่าง เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา ได้รวบรวมขึ้นปี พ.ศ. ๒๔๗๓

    ฉบับนี้ จึงไม่มีความน่าเชื่อถือ ด้วยประการทั้งปวง

    [​IMG]

    รอฟังความคิดเห็นของ พสมช ด้วยนะครับ

    ผมเห็นว่า นิยายหลอกขายพระสมเด็จวังหน้า ยังแต่งได้ เนียนกว่านี้ เยอะเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 กรกฎาคม 2016
  3. pmorn3339

    pmorn3339 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,342
    ค่าพลัง:
    +2,467
    :boo:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 กรกฎาคม 2016
  4. pmorn3339

    pmorn3339 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,342
    ค่าพลัง:
    +2,467
    หรือจากพงศาวดาร


    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    สรุป คือ

    1.เจ้าพระยาจักรี กับเจ้าพระยาสุรสีห์ ทิ้งเมืองพิษณุโลก โดยตีฝ่าวงล้อมกองทัพพม่าหนีออกจากเมืองพิษณุโลก ถูกพม่าไล่ล่าต้องหนีข้ามภูเขาไปถึงเมืองเพชรบูรณ์ ปล่อยทิ้งราษฎรที่หนีไม่ทันไว้ในเมือง ให้พม่าเข้าไปกวาดต้อนและเผาเมือง
    (ไม่ใช่ตีพม่าได้ชัยชนะเหนือเมืองพิษณุโลก แล้วตามไล่ล่าพม่าจนถึงเมืองกำแพงเพชร เหมือนในนิยายของ พระมหาสว่าง)

    2. เจ้าพระยาจักรี กับเจ้าพระยาสุรสีห์ ยกทัพหนีจากเมืองเพชรบูรณ์ลงมาจนถึงสระบุรี แต่ครั้นพอรู้ว่าพม่าถูกเรียกกลับกรุงอังวะออกไปจากเมืองพิษณุโลกแล้ว เจ้าพระยาจักรี กับเจ้าพระยาสุรสีห์ จึงค่อยยกกองทัพตามไล่ล่าพม่าไปทางสุโขทัย
    (เจ้าพระยาจักรี ไม่ได้ไล่ล่าพม่าแล้วไปตั้งทัพที่เมืองกำแพงเพชร แล้วออกลาดตะเวนจนกระทั่งเจอหญิงสาวชาวบ้านเหมือนในนิยายของ พระมหาสว่าง)

    3.ตอนพระเจ้ากรุงธนบุรีจัดทัพเพื่อเข้าตีเมืองกำแพงเพชร นั้น ทั้งเจ้าพระยาจักรี และ เจ้าพระยาสุรสีห์ ก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเข้าตีเมืองกำแพงเพชรเลย
    (การที่พระยาจักรีไปได้สาวชาวบ้านเมืองกำแพงเพชร จึงเป็นเรื่องนิยายที่ พระมหาสว่าง นั่งทางในเขียนขึ้นเอง เพื่อจะได้มีแหล่งกำเนิดทารกชื่อ โต)

    แต่งนิยายเข้า อิงประวัติศาสตร์ แต่ "บิดเบือน" ประวัติศาสตร์ไปทั้งหมด
    จึงเป็น ชีวะประวัติสมเด็จโต ที่ ไม่มีความน่าเชื่อถือ ด้วยประการทั้งปวง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 กรกฎาคม 2016
  5. thachapol

    thachapol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,138
    ค่าพลัง:
    +1,903
    ตอนเจ้าพระยาจักีรไปทำศึกกับทัพพม่าที่เมืองกำแพงเพชร แล้ววันหนึ่งขี่ม้าตรวจค่ายไปพบนางงุดแล้วเกิดรักใคร่ร่วมเป็นผัวเมีย ม.ล.พระมหาสว่างเอาพงศวดารมาใส่เพื่อให้สอดคล้องกับความเชื่อที่ว่าท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯเป็นลูกรัชกาลที่๑ ข้อความในพงศวดารตอนนี้จิงๆก็ไม่มีนักประวัติศาสตร์ยอมรับหรอกครับ มีที่ใหนแม่ทัพอีกฝ่ายขอดูตัวแม่ทัพอีกฝ่าย ซ้ำยังกล่าวชมเชยยกย่องบอกถึงอนาคตจะได้เป็นใหญ่เป็นโต แต่งเติมเสริมขึ้นเพื่อให้เห็นบารมีของรัชกาลที่๑ เท่านั้น. ผมอ่านตอนแรกไม่เข้าใจงงมาก รัชกาลที่๑ เป็นพระยาจักีรในแผ่นดินพระเจ้าตากสิน กรุงธนบุรีช่วงปี ๒๓๑๘--๒๑ พระยาจักีรกับนางงุดแต่งงานกัน พระยาจักีรเลิกทัพกลับกรุงธนบุรี นางงุดท้องแล้วอพยพลงมาอยู่บ้านบางขุนพรหมกรุงเทพฯ นางงุดคลอดบุตร(ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ)ในปี ๒๓๑๙..แต่ข้อมูลจากที่อื่นจะระบุว่าท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯเกิดในปี ๒๓๓๑ ซึ่งผมก็เขื่อว่าข้อมูลนี้น่าจะถูกต้องกว่า นี่เอาเฉพาะแค่ต้นเรื่องน่ะครับ ยังมีบันทึกเรื่องอภินิหารเรื่องทำตัวแปลกประหลาดของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯเรื่องลุกหนีไม่รับสมณศักดิ์ เรื่องไม่ชอบรัชกาลที่3 เรื่องเทศน์เรื่องแหล่กัณหาชาลีและชาดกอื่นๆ เรื่องท่านฯชอบไปทำโน่นสร้างนี่เยอะแยะมากมาย ถ้าอ่านโดยไม่เข้าใจว่านี่มันเป็นเรื่องเล่าของชาวบ้านที่ ม.ล พระมหาสว่างเอามาลงใส่ไว้ในบันทึกฉบับนี้ อย่างที่ผมเคยบอกไว้ก่อนหน้าว่า บันทึกฉบับนี้ ม.ล พระมหาสว่างเทียบเคียงพงศวดาร พระราชประวัติ และเรื่องเล่าจากปากชาวบ้านเป็นข้อมูลบรรยายประกอบ โดยมีภาพเขียนเประวัติของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯป็นแกนหลักของเรื่อง ที่จิงส่วนที่เป็นประวัติชีวิตของท่านเจ้าประคุณสมเด็จมีไม่กี่ตอนกี่ฉากครับ เช่นท่านฯเกิดที่บางขุนพรหม แล้วย้ายขึ้นไปอยู่เมืองพิจิตร บวชเรียนหนังสือที่เมืองพิจิตร และเมืองไชยนาทบุรี แล้วย้ายลงมาเรียนในกรุงเทพฯกับพระอาจารย์แก้ว วัดบางลำพูบน และสำนักพระโหราฯกรมราชบัณฑิต พระโหราฯพาเข้าเฝ้าสมเด็จเจ้าฟ้าฯกรมหลวงอิศรสุนทรฯ เป็นเณรหลวงย้ายมาอยู่วัดมหาธาตุฯกับสมเด็จพระสังฆราช ถึงปี ๒๓๕๑ โปรดให้ขึ้นไปบวชนาคที่่วัดตะไกร เมืองพิษณุโลก ลงมาอยู่วัดมหาธาตุ ข้ามไปเรียนในสำนักพระอุปัชฌาย์ สมเด็จพระพนรัตน (นาค) วัดระฆังฯ อยู่วัดมหาธาตุจนถึงปี ๒๓๙๕ ได้รับโปรดเกล้าสถาปนาเป็นพระเทพกวี โปรดให้เป็นเจ้าอาวาสวัดระฆังฯ. ประวัติท่านฯหลักๆมีแค่นี้ครับ นอกจากนั้นก็เป็นเรื่องเล่าของชาวบ้านครับ......:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 กรกฎาคม 2016

แชร์หน้านี้

Loading...