เรื่องเด่น ประมวลภาพพลังจิตธรรมสัญจร 55

ระหว่างที่เดินก็มองยอดภูอีกด้านตลอดเพราะถ้าฝนเทลงมาตอนนี้เป็นเรื่องแน่ๆทั้งกล้อง และอุปกรณ์อื่นๆอีก











ช่องทางที่เดินไปและสะพานไม้เป็นช่วงๆ​

 

ยิ่งมองเมฆก็คล้อยลงต่ำทุกที



เจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ เห็นอยู่ลิบๆ อีกด้านหนึ่งของภูลังกา












พอดีกับธรรมชาติจัดสรรให้กระผมพอดี เลยได้ภาพชุดนี้มาครับ ขณะที่เมฆลอยมาปกคลุม ที่พระธาตุเจดีย์ จึงเกิดความงดงามเช่นนี้
​

 

อย่างนี้แกะรอยไม่อยากครับเพราะเห็นเป็นทางอย่างนี้คือใช้เป็นประจำ






มาถึงจุดนี้ หายครับ ถ้าใครไม่เคยเรียนรู้การแกะรอย ต้อง งงแน่ๆเพราะทางหาย



นี่ครับเพื่อนสมาชิกเรา ทำสัญญาลักษณ์ไว้ตรงนี้ที่ปลายไม้​

 

​

บางช่วงต้อง ไต่ลงตามก้อนหิน ใครที่ขาไม่ค่อยดีน่ะครับ ไม่ควรขึ้นมาเพราะแต่ล่ะที่สูงพอสมควร แต่ใครคิดจะมาต้องซ้อมครับมีตึกสูงๆก็ขึ้นลงบันไดทุกวันไม่ต้องใช้ลิลฟ์ในการเดินทาง ฮิ...ฮิ...​

​

นี่ก็อีกเครื่องหมาย ตรงไป​

​

​

ยอดแหลมๆ เป็นเจดีย์ พระอาจารย์วัง ครับ​

​

​

 

​

เจดีย์ พระอาจารย์เสาร์ เห็นอยู่ลิบๆ​

​

​

เจดีย์ พระอาจารย์วัง มองเห็นมีความเคลื่อนไหวอยู่ด้านบน ใช้เลนส์ซูมเขามา เป็นสมาชิกเราขึ้นไปกราบไหว้ พระอาจารย์วังข้างบน​

​

พื้นหินลวดลายเหมือนดอกจอก ​

​

ด้านนี้เสมือนหลังคา​

​

บันไดปูนไต่ลงไปอีกด้านหนึ่งเส้นทางมุ่งสู่เจดีย์พระอาจารย์เสาร์ พระอาจารย์วัง​

 

​

แหล่งน้ำที่อยู่ด้านบน ภูครับ ช่วงนี้ เมฆหมอก เริ่ม พัดเข้ามาปกคลุมเกือบทั่วพื้นที่​

​

​

ป้ายบอกทางไปถ้ำอาจารย์วัง และเจดีย์ พระอาจารย์เสาร์​

​

​

​

น้ำไหลกัดเซาะ หินทรายกลายเป็นลำธาร​

 

​

​

​

นี่ครับ ป้ายเฉพาะกิจ แสดงว่าเราแกะร่องรอยถูก ​

​

​

เดินมาซักพักใหญ่ๆก็จะพบ เจดีย์พระอาจารย์เสาร์ กลางสายหมอก​

​

 

​

รูปปั้นพระอาจารย์เสาร์ (ขอบคุณน้องๆที่ถ่ายไว้) เพราะเมื่อไปถึงหมอกจัดมากๆ ​

​

คณะกำลังสนธนากับท่านครูบาอยู่พอดี​

​

​

​

​

น้องอาร์ตถ่ายไว้ตอนที่หมอกยังไม่ลงดูว่าสูงขนาดไหน​

 

เป็นชะงอนผาครับ ซึ่งด้านล่างสายหมอกลงทำให้ไม่เห็นอะไรเลย









ภาพหมู่ที่น้องถ่ายไว้ ที่ชะงอนผาก่อนที่หมอกจะลง



​

 

​

​

มาเจอ แหล่งน้ำซึ่งเป็นยอดเขาน้ำนี้เป็นน้ำฝนมาจากเจดีย์พระอาจารย์วัง​

​

​

​

​

 

​

 

แต่ล่ะท่านบอกว่าเมื่อครู่กับเดียวนี้คนล่ะ บรรยากาศเลย คล้ายๆกับอยู่อีกโลกหนึ่งเลย ครับ​

 

น้องสองคนยังเดินอย่ที่หุบเบื้องล่าง ช่วงนี้กระผมให้ชมอิริยาบทแต่ล่ะท่าน ครับ


​

 

คุณหญิงด้วยความเป็นห่วงลูกทีม ยืนรอสองหนุ่ม เนื่องจากเมฆฝนกำลังปกคลุม








ไม้ดอกและไม้ใบ กำลัง ชูความสวยงามของธรรมชาติอยู่ยอดภู​

 

ช่วงนี้ค่อยๆไต่ลง เป็นทิวแถว​

 

ช่วงไต่ลงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเนื่องจาก ลื่นครับ ลื่นมากๆ เหล็กถูกน้ำแถมดินที่ติดที่รองเท้าอีก ต้องจับให้มั่นคงแล้วค่อยๆก้าวเดิน ​

 

​

 

ช่วงนี้ไม่ต้องบรรยาย มีแต่ไต่และไต่อย่างเดียว
​

 

มอสและเฟริน์เกาะหน้าผาเต็มไปหมดแสดงความชุ่มชื้นของพื้นที่















แยกองค์พระที่ ท่านครูบาบอกว่าถึงครึ่งทางแล้ว ประมาณ700 ขั้น

​

 

มาถึงครึ่งทาง มองขึ้นไปอ้าว สองหนุ่ม หนึ่งสาว ยังอยู่ด้านบนนี่เอง















ซอกหลืบถ้ำ บริเวณทางเดิน​