ปฏิบัติธรรมโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย เมเฆนทร์, 25 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. pichak

    pichak Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +69
    สาธุ สาธุ
    หลักหนึ่งที่ผู้เดินทางธรรมได้ถูกแล้วจะ

    คิดร้าย ไม่เป็น มิได้เป็นจิตวิทยา ให้มองโลกในแง่ดี การมองโลกในแง่ดี อันนั้นเป็นภายนอก กล่อมเกลาจิตใจให้คิดดี แต่ถ้าปฎิบัติ(ขออนุญาิตใช้คำว่าปฎิบัิติ)ธรรมจุดหนึ่งจะพบว่า มีการเห็นธรรม เข้าใจธรรม ธรรมเปิดออกมาเอง ให้รู้ ใ้ห้เห็น เข้าไปสัมผัส แล้วเข้าใจ มิได้เกิดจากการอ่าน อย่างเดียว แล้ว ส่วนที่ได้คือ คิดร้ายไม่เป็น
    ถ้าโลภะ โทษะ โมหะ ทำลายลงได้ในระดับหนึ่ง ก็จะเป็นเช่นนั้น เช่นนั้นเอง
     
  2. อวตาร.

    อวตาร. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +633
    ไม่ใช่นิทานหลอกเด็กแล้วละครับท่าน
    ยังงี้น่าจะเข้าข่าย จอมลวงโลก นะครับ ท่านอโศ
     
  3. pichak

    pichak Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +69
    สาธุ สาธุ
    - ลงชื่อกันหน่อยครับ สำหรับท่านที่ไม่เห็นด้วยกับคำว่า ปฎิบัติธรรม แล้ว คิดร้ายไม่เป็น
     
  4. ลุงไชย

    ลุงไชย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +2,436
    สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม

    กรรมย่อมให้ผลเสมอ จะเร็ว หรือช้า เท่านั้น

    ไม่มีใครหลีกพ้นกรรม และวิบากของกรรมได้

    กรรมที่ทำกับศาสนา จะหนักหน่วง รุนแรง

    และให้ผลเร็วกว่ากรรมทั่วๆไป

    อนุโมทนา..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 พฤศจิกายน 2011
  5. ลุงไชย

    ลุงไชย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +2,436
    พระแปลก"ไว้หนวด-ไม่สวดมนต์-ไม่บิณฯ"เทศน์โลกแตก ทำชาวบ้านตื่นหนีขึ้นเขา

    ลือกระหึ่มชาวบ้านแตกตื่นหลงเชื่อพระนักเทศน์ ว่า โลกใกล้วิบัติ กรุงเทพฯ น้ำจะท่วมสูง พาครอบครัว ย้ายไปปักหลักสร้างบ้านพักบริเวณวัดกลางป่าเขา ผู้สื่อข่าวบุกพิสูจน์พบจะจะ กำลังก่อสร้างบ้านหรูคล้ายรีสอร์ต สร้างเสร็จไปแล้ว 300 หลัง และกำลังสร้างเพิ่ม ส่วนพื้นที่วัดขยายไปกว่า 800 ไร่ และจะขยายเพิ่มให้ถึง 1,000 ไร่ เพราะไม่เพียงพอกับความต้องการของศิษยานุศิษย์ ขณะที่พระในวัดมีวัตรปฏิบัติสุดแหวกแนวไว้ผมไว้หนวดไว้เครา ไม่บิณฑบาต ไม่สวดมนต์นั่งสมาธิ อ้างเป็นแค่เปลือกกระพี้อย่าไปยึดติด...</O:p

    จากที่มีเสียงร่ำลือในหมู่ศิษยานุศิษย์เกี่ยวกับคำสอนของหลวงพ่อสมชาย หรือหลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต พระนักเทศน์ดังแห่งวัดร่มโพธิธรรม อ.หนองหิน จ.เลย ได้แสดงธรรมต่อเนื่องมานานหลายปี โดยเฉพาะสั่งสอนให้คล้อยตามความเชื่อว่าโลกจะแตกในเร็ววัน ตามพุทธทำนายที่มีมาแต่ครั้งพุทธกาล ประกอบกับในปี 2554 ได้เกิดภัยพิบัติร้ายแรงขึ้นมาหลายครั้ง ทั้งแผ่นดินไหว ที่เมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ ตามด้วยแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิ ถล่มประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งภัยพิบัติที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ส่งผลทำให้ศิษยานุศิษย์ที่เลื่อมใสศรัทธา เกิดแตกตื่นขนข้าวของอพยพครอบครัวเข้าไปอาศัยอยู่ในบริเวณวัดดังกล่าวซึ่งเป็นที่สูงชันอย่างต่อเนื่อง

    เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพิสูจน์ความจริงที่วัดร่มโพธิธรรม อ.หนองหิน โดยเดินทางไปตามถนนหนองหิน-ภูกระดึง ถึงบริเวณหลัก กม.ที่ 160 หมู่บ้านร้อยหกสิบ ต.หนองหิน แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปอีกประมาณ 500 เมตร ห่างจากหมู่บ้าน 2-3 กิโลเมตร พบพื้นที่วัดเป็นบริเวณโล่งกว้างบนที่สูง กำลังมีการก่อสร้างที่พักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ที่สร้างเสร็จแล้วประมาณ 300 หลัง ลักษณะคล้ายรีสอร์ต ทำด้วยไม้และวัสดุราคาแพง และยังกำลังก่อสร้างอีกเป็นจำนวนมาก

    ผู้ที่อยู่อาศัยภายในบริเวณวัดเปิดเผยว่า วัดแห่งนี้มีผู้อพยพเข้ามาอยู่อาศัยถาวร ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก นับพันคน ส่วนพระสงฆ์มีจำพรรษาอยู่ประมาณ 150 รูป แต่ใครจะเข้าอยู่โดยพลการไม่ได้ ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าอาวาสก่อน โดยจะชี้จุดให้เข้าไปสร้างได้ โดยผู้ที่มาอาศัยต้องจ่ายค่าก่อสร้างเอง ส่วนค่าที่ดินก็แล้วแต่ว่าจะบริจาคให้วัด ส่วนใหญ่ผู้ที่เข้ามาสร้างที่พักอาศัยเป็นคนมีฐานะ เป็นข้าราชการระดับสูง เป็นนายแพทย์ และเจ้าของบริษัท ขณะนี้พื้นที่วัดมีประมาณ 800 ไร่เศษ ทราบว่าเดิมเป็นพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม บ้างก็เป็นพื้นที่ สปก. ที่ทางวัดอ้างว่ามีชาวบ้านนำมาขายให้ และกำลังขยายพื้นที่ออกไปให้ได้ถึง 1,000 ไร่ โดยทางวัดอ้างว่า เป็นไปตามความต้องการของศิษยานุศิษย์ที่สั่งจองขอเข้ามาอาศัยด้วยอีกเป็นจำนวนมาก

    ขณะที่กิจวัตรประจำวันภายในวัด จะเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 06.30 น. พระจะไม่ออกไปบิณฑบาต จากการสังเกตพบว่า การแต่งกายจะผิดแผกไปจากพระทั่วไป บ้างสวมใส่กางเกง บ้างใส่เสื้อแขนยาว บ้างไว้ผมยาว หนวดเครารุงรัง แต่ที่ดูรู้ว่าเป็นพระ เพราะยังสวมใส่อังสะสีน้ำตาลเข้ม หรือสีกรัก โดยทั้งหมดจะไปรวมกับชาวบ้านที่ศาลาฉัน เพื่อฟังหลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะเทศน์ให้ฟังทุกเช้า

    สำหรับคำสอนที่ได้รับฟัง แม้จะเน้นถึงเรื่องการดับทุกข์ การปล่อยวาง แต่ก็ผิดเพี้ยนไปจากพระธรรมวินัยอย่างสิ้นเชิง เช่น ชี้ว่าการนั่งสมาธินานๆ หากทำให้ตัวเองเกิดทุกข์ ปวดเมื่อย ก็ให้หยุดทำเสีย ถือว่าเป็นการปล่อยวาง ไม่เป็นทุกข์อีกต่อไป และยังเป็นหนทางไปสู่พระอรหันต์ได้ นอกจากนี้ เรื่องการฉันของพระ ก็ให้ถือตามอัธยาศัย ชี้ว่าความหิวนั้นก็เป็นทุกข์เช่นกัน ดังนั้น จะฉันอาหารกี่มื้อก็ได้ถือว่าไม่ผิด ตรงกันข้ามกับพระธรรมวินัยที่บัญญัติไว้โดยสิ้นเชิงเช่นกัน

    ต่อมาผู้สื่อข่าวเข้าพบหลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ พระนักเทศน์เจ้าของคำสอนผิดเพี้ยน โดยถามถึงเรื่องที่พระในวัดไว้ผมยาว ไว้หนวดไว้เครา ทำไมไม่มีการสวดมนต์ นั่งสมาธิ หลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะกล่าวว่า การที่สวดมนต์สวดพรมันสำหรับผู้ที่ชอบขอชอบอ้อนวอน การกราบไหว้ก็เป็นความเคารพอยู่แล้ว คุณจะสวดก็เรื่องของคุณ คุณไม่สวดก็เรื่องของคุณ ส่วนการนั่งสมาธิ อยากถามคุณนั่งสมาธิคุณเอาอะไร เอาความสงบ เอาง่ายๆ คุณไม่ต้องนั่ง คุณอยู่ในบทยืนนั่งนอนเคลื่อนไหวตามอิริยาบถลืมตาอ้าปากจิตใจคุณวุ่นวายก็ช่างมัน ต้องดูตัวช่างมันแล้วมันจะเบา คือเราไม่ต้องคิดอะไรไม่ต้องทะเลาะกับความวุ่นวาย ตัวช่างมัน มันจะตัดไปเอง แล้วเราก็เบากายเบาใจ ไม่จำเป็นต้องนั่งสมาธิ ใครจะนั่งก็นั่งไปแต่ที่นี้นั่งฟังธรรมไปเขาก็สงบไปเอง

    สำหรับพระที่นี่ไว้ผมยาวหนวดยาวได้ ที่เห็นมันเป็นแค่เปลือกกระพี้ก็อย่าไปมองมัน พร้อมยืนยันคำสอนที่เทศน์ให้ลูกศิษย์ฟังถึงเรื่องโลกจะถึงกาลวิบัติมานาน 4-5 ปี สรุปได้ว่า จะเกิดขึ้นจริงทุกอย่างในไม่ช้า เอาเป็นว่ากรุงเทพฯ ก็ไวๆนี้ ขอเตือนกันแค่นี้ หลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ กล่าวในที่สุด

    อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามชาวบ้าน ต.หนองหิน ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับวัด ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า รับทราบถึงพฤติกรรมนอกรีตนี้มานานหลายปี แต่เนื่อง จากเป็นชาวพุทธ เห็นเป็นเรื่องของพระ จึงไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย กลัวจะเป็นบาปติดตัว โดยเฉพาะพฤติกรรมไม่เคยออกจากวัดมาบิณฑบาต ผิดพระธรรมวินัยที่บัญญัติไว้ นอกจากนี้ ยังมีผู้ไปพบเห็นอยู่ร่วมกับฆราวาสกันอย่างเสรี ไม่แบ่งเขตพระสงฆ์ เขตฆราวาสให้ชัดเจนเหมือนกับวัดอื่นๆ แถมยังไม่ออกมาคบหาชาวบ้าน โดยเฉพาะคนยากจน จะพูดคุยก็แต่กับคนมีฐานะเท่านั้น หลายปีที่ผ่านมา แม้จะมีพฤติกรรมน่าสงสัย ซึ่งอาจเป็นการหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อ แต่ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปตรวจสอบความถูกต้องภายในวัดแต่อย่างใด
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ที่มา http://www.thairath.co.th
     
  6. ลุงไชย

    ลุงไชย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +2,436
    <O:p</O:p
    ....จากกรณีวัดร่มโพธิธรรม อ.หนองหิน จ.เลย ได้บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูค้อ-กระแต จำนวน 796 กว่าไร่นั้น ทางสำนักการจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6(อุดรธานี)ได้มอบหมายให้นายชัยรัตน์ แก้ววงษา นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ ทำหน้าที่หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า ลย.14 เข้าแจ้งความดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรตำบลหนองหิน และได้สอบปากคำแล้วเสร็จ นำสำนวนส่งอัยการจังหวัดเลยเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยแยกฟ้องเฉพาะบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติและทำการปลูกสร้างอาคารถาวรเป็นจำนวนมากในเขตป่าพื้นที่ 411 ไร่ 3 งาน 77 ตารางวา

    ล่าสุดวันที่ 9 ส.ค. ทางสำนักอัยการจังหวัดได้สั่งฟ้องวัดร่มโพธิธรรม ในข้อหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ โดยมีผู้ต้องหา 3 คน คือนายบุญคุ้ม คงสถิตย์ นายโชคอำนวย กนกสังแคลนพรหม มรรคนายกวัด และพระไพศาล พุทธวโร เจ้าอาวาสวัดร่มโพธิธรรม ส่วนประธานสงฆ์ พระสมชาย เขมรโต พระนักเทศน์พิลึกอยู่ระหว่างการเชื่อมหาหลักฐานการซื้อขายที่ดินป่าสงวนฯที่ได้ลงนามซื้อขายที่ดินป่าสงวนฯกับชาวบ้าน โดยทางเบื้องต้นสำนักงานอัยการจังหวัดเลยได้นัด

    ให้ผู้ต้องหาทั้งหมดมาขึ้นศาลนัดแรก วันที่ 16 ส.ค. 2554 เวลา 10.00 น.

    ส่วนที่วัดร่มโพธิธรรมได้บุกรุกเขตปฏิรูป จำนวน 342 ไร่ 1 งาน 80 ตารางวา สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดเลยได้ยึดคืนเป็นของรัฐทั้งหมดแล้วและห้ามเข้าไปบุกรุกและทำการก่อสร้างและสิ่งปลูกสร้างที่สร้างไปแล้วให้รื้อถอนออกไปจากเขตปฏิรูปที่ดินทั้งหมด

    9 สค. 2554 14:07 น.
     

แชร์หน้านี้

Loading...