บันทึกของพระคุณลุงคนเชียงใหม่ถึงหลานๆ เรื่องภัยพิบัติ

เรียนคุณ Noraphat,
ไม่ทราบว่ารวมกลุ่มกันอย่างไรตั้งหลักกันที่ไหน อาจจะขอร่วมด้วยครับ

 

ช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมา ตาพอนพร้อม100% แต่น้ำมาเยี่ยมจิ๊บๆ ถูกลูกหลานบ่นขรมไปหมด เรื่องข้าวที่ตุนไว้โดนมอดโจมตีต้องทิ้งไปเยอะมากแถมสั่งห้ามตาพอนกักตุนข้าวอีกต่างหาก เอายังไงกันดีเรื่องมอด

 

จำกระทู้ไม่ได้แล้วค่ะ พูดเรื่องเตรียมเสบียง แต่จำเนื้อหาได้คร่าวๆว่า
ท่านนึง แนะให้เก็บใส่ขวดน้ำดื่มขนาด 5 ลิตร แล้วปิดฝาให้แน่น
จมน้ำ น้ำก็ไม่เข้าค่ะ

แล้วอีกท่านนึง ให้นำช้อนสังกะสี สั้นๆที่เป็นช้อนตักกับข้าว ใส่ลงไปใน
ภาชนะที่บรรจุข้าวสาร กันการเกิดมอด และหากมีมอดแล้วมอดก็จะหนี
ออกมาค่ะ

เพื่อเจ้าของเนื้อหาแวะมา ช่วยตรวจแก้อีกรอบนะคะ จำมาได้แค่นี้ค่ะ

 

น่าจะอยู่ในกระทู้ข้าวฮาง

 

แบ่งไว้ 3 แนวทางครับ
1.กรณี px มีจริงและมา จำเป็นต้องหาที่ป้องกันรังสีจากอวกาศ เราเลือกถังเก็บน้ำใต้ดินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอวังน้ำเขียวเป็นที่มั่นครับ(แผนหนึ่ง ) ในกรณีที่มีข้อมูลว่ารับมือกับรังสีเหล่านี้ไม่ไหวจริงจะย้ายไปถ้ำแห่งหนึ่ง แถบปากช่องเขาใหญ่(แผนสอง) ถ้าไปไม่ทัน ..บริเวณค่ายทหารแห่งหนึ่งมีถังน้ำใต้ดินหลายถังกว้างใหญ่มาก ตอนเด็กๆเคยลงไปเล่นบ่อยๆ ถ้าไปไม่ทัน ...เอาตรงนี้แหละ
2.ในกรณีที่เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ และสึนามิ เบื้องต้นดูสถานะการณ์ ถ้าไม่ดีและเลวร้ายลง เราจะย้ายไปหลบอยู่ ณ.สวนของเพื่อนบริเวณเนินเขา ในอำเภอสีคิ้ว นครราชสีมา ปลูกทุกอย่างครบถ้วน อาหารการกิน น้ำท่าดี มีบ้านพัก อยู่แบบพอเพียงสบายครับ
3.รอดูสถานะการณ์ ถ้าไม่เลวร้ายอย่างที่คาดตั้งมั่นที่บ้านของผมก่อนเพราะทั่วบริเวณมีแต่ญาติๆกันทั้งนั้น พื้นที่กว้างพอ ปลูกพืชได้ ถ้าเลวร้ายมากถึงมากที่สุด ปล้นฆ่า แย้งชิงหนัก เจ้าหน้าที่รัฐมีอาวุธกลายเป็นโจร หรือกลุ่มโจร หนีขึ้นเหนือ ไปที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นศูนย์กลางของระบบ.... ครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ตลอด ตามเหตุผลและสถานะการณ์ครับ ไม่อยากสร้างเป็นที่เป็นทาง เพราะไม่มีเงินครับและมีข้อจำกัดเยอะ คิดว่าถ้าเหตุการณ์เลวร้ายจริงๆ เมื่อเรารู้สึกไม่ปลอดภัย เราก็ต้องย้ายไปเรื่อยๆ จึงแก้ข้อด้อยเรื่องนี้ด้วยการรวมตัวกันกับเพื่อนที่สนิท เพื่อชดเชยเรื่องฐานที่มั่นที่มั่นคง เป็นการป้องกันที่รัดกุมแทน

จนกว่าจะเจอที่ที่เหมาะสมจริงๆทุกด้าน สำหรับตั้งถิ่นฐาน สิ่งที่เตรียมไปนอกจากข้าวปลาอาหารแล้ว ก็เมล็ดพันธ์พืช และความรู้ เพราะไม่ต้องแบกหาม ละครับ แต่เมืองไทยคงไม่ลำบากมากเพราะตามต่างจังหวัด บ้านไหนพอมีพื้นที่เขาก็ปลูกกันทุกบ้านอยู่แล้วครับ

เป็นแนวทางของกลุ่มผมครับ....เรื่องเข้าร่วม ผมต้องคุยกับเพื่อนด้วยครับ..

 

ผมเห็นตัวอย่างจากต่างประเทศ คือการสร้างระบบไว้รองรับ
**************************************
“บริการหลุมหลบภัย” ที่แพงระยับ เลิศหรูดูดีมีชาติตระกูล
Vivos ครับ เขาเคลมว่าสามารถป้องกันภัยได้ 13 อย่าง คือ

• การระเบิดที่สร้างแรงดัน 45 psi (3 เท่าของความดันบรรยากาศ)
• แผ่นดินไหวความแรง 10 ริกเตอร์
• ลมพายุความเร็ว 450 ไมล์/ชม (720 กม/ชม)
• ระเบิดนิวเคลียร์ขนาด 50 เมกะตัน ระเบิดในอากาศที่ห่างออกไป 10 ไมล์​ (16 กม)
• การลุกจ้าของดวงอาทิตย์​ (solar flare) ซึ่งมีพลังงานเกินล้านโวลท์​ — ตรงนี้ผมว่าคำทำเว็บมั่วครับ หน่วยน่าจะเป็น MeV (mega electronvolt) ซึ่งถ้าตัวเลขที่เคลมคือ 1 MeV ก็จะน้อยไป ส่วนถ้าเป็นล้าน MeV ก็จะเว่อร์มากไปสำหรับ solar flare — แต่ถ้าเป็นรังสีคอสมิคขนาดพลังงาน ล้าน MeV หรือ 10<SUP>12</SUP> eV ก็ยังไม่ใช่ระดับปลอดภัยอยู่ดี
• การจมจากน้ำท่วม
• ไฟ(ป่า)ภายนอกซึ่งมีอุณหภูมิ 1,250°F (680°C ซึ่งสูงกว่าจุดหลอมเหลวของอลูมิเนียม)
• ขั้วแม่เหล็กโลกเปลี่ยน
• อาวุธรังสี เคมี หรืออาวุธชีวภาพ
• การโจมตีโดยอาวุธต่อที่หลบภัย เพื่อบุกเข้ามาในที่หลบภัย
• หิมะหรือน้ำฝนถล่มหนัก
• ลูกเห็บหนัก 100 ปอนด์​ตกลงมาที่ความเร็ว 100 ไมล์/ชม (ลูกเห็บหนัก 45 กก ตกด้วยความเร็ว 160 กม/ชม)
• กลายเป็นป้อมเพื่อป้องกันอนารยชนบุกเข้ามา ในกรณีที่โครงสร้างของสังคมถูกทำลายไปหมด

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=Lc7SOzjmJJ8&feature=player_embedded]Vivos Underground Catastrophe Shelter Network - YouTube[/ame]

ดีสำหรับคนที่มีกำลังทรัพย์
แต่ถ้าบ้านเรานำความคิดนี้มาใช้ก็ไม่เลวนะครับ
เพราะการสร้างต่อหน่วยนั้นถ้ามีการสร้างรวมกันแล้วราคาก็จะต่ำลง
และก็ไม่ต้องต่างคนต่างแสวงหาความรู้ใหม่เพิ่มเติม
คือมีมาตราฐานหลังจากสร้างมาแล้วก็สามารถกำหนดว่าสามารถรองรับภัยพิบัติในระดับใหนได้

 

ใช้ต้นตะไคร้หอมสด สับ หยาบๆ แล้วคลุกเค้ลาไห้ทั่ว มอดหนีหมดครับ

 

โดยส่วนตัวผมยึดแนวทางตามรูปที่แนบมานี้ หลังเสร็จสภาพคงคล้ายๆแบบนี้ครับ

การดำเนินการคือเอาดินที่คลุมตู้คอนเทนเนอร์
วัตถุประสงค์เป็นที่ซับอะไรก็ตามที่ตกมาจากฟ้า
และตัวดินเองจะช่วยลดแรงกระแทกจากแสงเสียง และฉนวนอุณหภูมิร้อนเย็นทั้งหลายได้
โดยมีลักษณะการคลุมชั้นในจะบรรจุดินในถุงดำและหุ้มด้วยตะแกรงลวด(ธรรมดา)
เป็นหน่วยๆและผูกยึดติดกันด้วยลวดสลิง เพื่อป้องกันการเกลื่อนกระจายไปหมด
กรณีเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงมากๆวางทับรอบตู้คอนเทนเนอร์ที่วางบนพื้นทรายที่
มีหลักป้องกันการไถลกรณีแผ่นดินไหวแนวราบรุนแรง
แล้วทั้งหมดก็จัดการคลุมด้วยผ้าพลาสติกดำเพื่อป้องกันน้ำซึมลงมา จากฝนหรืออะไรก็ตาม
และลงทับด้วยดินหนาประมาณ 30-50 Cmโดยคำนวณแรงกดที่ไม่อันตรายต่อตู้คอนเทนเนอร์ อีกชั้น

ตอนนี้กำลังลงหญ้าแฝกและบำรุงปุ๋ยน้ำอยางเต็มที่
หวังว่าคงโตและรากเดินทัน เพื่อช่วยยึดอีกรอบหนึ่ง
เหตุผลที่ต้องเอาตาข่ายลวดมาคลุมรอบๆอีกครั้งนั้น
เพราะกรณีมีกระแสไฟฟ้าในบรรยากาศมากๆ
ตัวนี้จะเป็นตัวที่เกิดกรงป้องกันไฟก่อนถึงตัวตู้คอนเทนเนอร์อีกชั้นครับ
(ประมาณ"กรงฟาราเดย์" หรือ "Faraday Cage" )ตาดว่านะ55
ที่ยังไม่ถ่ายรูปมาให้ดูเพราะยังไม่เสร็จดีครับ

งบประมาณตอนนี้ใช้ไปแล้วทั้งหมด(ไม่นับค่าแรงตัวเองนะครับ) ประมาณ 179,275 บาทครับ
แบ่งเป็นค่าตู้ 47,500
ที่เหลือเป็น
-ค่าซ่อมปรับปรุงตู้
-การสร้างระบบรองรับห้องน้ำภายใน
-ค่าซื้อเหล็กมาเชื่อมเสริมความแข็งแรง
-ค่าทรายที่มาถมหลุมที่ขุดขึ้นแล้วเองทรายมารองพื้นแทน
-ค่าถังปูนขนาดใหญ่ 4 ถัง
-ค่าฝ้าพลาสติกดำแบบใช้ปูพื้นบ่อปลา
-ค่าลวดตาข่าย
-ค่าถุงดำหนาอย่างดี
-ค่าจุกๆจิก อีก แต่ดูแล้วไม่หนักมากครับ
ตอนนี้อยู้ในบ้านหลังอื่นๆร้อนตายชัก
แต่ในบ้านคลุมด้วยดินผม เย็นสบายดีครับ
เงียบสงบเหมาะสำหรับทำสมาธิด้วยครับ
ตอนนี้เหลือระบบไฟฟ้า แบตเตอรี่สำรอง ต่างๆยังไม่ได้รวมเข้าไปนะครับ
และอาหารยากำลังรอของที่สั่งไปอยู่
แต่คาดว่ามทั้งหมดผมMaxไว้ที่ 250,000 ครับ
รอให้เสร็จแล้วจะชวนพี่ๆไป ดูงานที่บ้าน
ชวนกันปั่นจักรยานไปไหว้หุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่แหวนที่วัดดอยแม่ปั๋งไกล้ๆบ้านครับ

 

ไม่รู้ว่าบ้านไทยนาโน จะเวิร์คหรือเปล่า 500,000 บาท เมื่อเทียบกับตู้คอนเทนเนอร์อ่ะค่ะ

 

...........................................................
ดูโปรเจ็คที่คุณต้น....กำลังทำอยู่นี้คงจะหลายกะตังค์....ทุ่มขนาดนี้ขยายความได้ไหมค่ะว่า...ตอนนี้งบอยู่ที่เท่าไหร่แล้ว...ขออภัยที่ละลาบละล้วง...;aa2

 

เอาแบบบ้านมาฝากครับ (มีหลายแบบลองศึกษาดูครับ)


http://www.thainanohouse.com/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A1+1230/index.html



<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="0"><tbody><tr><td class="course_middle2"> บ้านโดมเฮ้าส์ 1230

</td> </tr> <tr> <td class="course_bottom2">
</td> </tr> </tbody></table> <table class="course" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="topleft"></td> <td class="middlelinetop" width="100%">
</td> <td class="topright"></td> </tr> <tr> <td class="vlineleft"></td> <td>

​

บ้านโดม เฮ้าส์ (Dome House) 1230 แบบบ้านสำเร็จรูป รุ่นสร้างบนที่ดิน (Onsite) เส้นผ่าศูนย์กลาง 12.30 เมตร รูปทรงโดม น่ารัก ให้ความรู้สึกอบอุ่น สามารถเลือกปรับเปลี่ยนตำแหน่งประตู หน้าต่างได้ตามความต้องการลูกค้า เหมาะสำหรับ บ้านพักอาศัย บ้านพักตากอากาศ สำนักงานขนาดเล็ก ร้านค้า SME

ก่อสร้างด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัย เป็นโครงสร้างอาคารเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก (Reinforced Concrete) ประเภทโครงสร้างเปลือกบาง (Thin Shell Structure) ซึ่งเป็นการถ่ายแรง 2 ทาง และไม่มีมุมอาคาร ทำให้อาคารมีความแข็งแรง และทนทานเป็นพิเศษ สามารถต้านทานภัยพิบัติได้เป็นอย่างดี เช่น แผ่นดินไหว พายุ สึนามิ เพลิงไหม้ พร้อมกับ ฉีดพียูโฟม (Polyurethane Foam) หนา 2.5 นิ้ว เป็นฉนวนหุ้มกันความร้อนภายนอกอาคาร (EIFS) ประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดี ซึ่งอาคารนั้นควบคุมอุณหภูมิค่อนข้างคงที่ ทำให้ผู้อยู่อาศัยมีความรู้สึกที่เย็นสบายในฤดูร้อน และอบอุ่นในฤดูหนาว

บ้าน โดม เฮ้าส์ 1230 บ้านประหยัดพลังงาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Building) แข็งแรง ทนทาน ราคาประหยัด ก่อสร้างรวดเร็ว ลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาอาคาร




<table border="0" cellpadding="1" cellspacing="1" height="29" width="129"> <tbody> <tr> <td align="left">
</td> <td align="left">
</td> <td>
</td> <td>
</td> </tr> </tbody> </table>
บริษัท ไทย นาโน เฮ้าส์ จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด © พศ. 2553 ห้ามลอกก๊อปปี๊ ปลอมแปลง หรือทำเลียนแบบในทุกรูปแบบ </td> <td class="vlineright"></td> </tr> <tr> <td class="topleft"></td> <td></td> <td class="topright"></td> </tr> </tbody></table>

• รายละเอียด
• แบบแปลน
• เหมาะสำหรับ
• การรับประกัน

รายละเอียดอาคาร


<table style="WIDTH: 459px; HEIGHT: 129px" border="0" cellpadding="1" cellspacing="1" width="459"> <tbody> <tr> <td>ชื่อแบบบ้าน
</td> <td>: บ้านโดมเฮ้าส์ 1230
</td> </tr> <tr> <td>รหัส</td> <td>: TNHO-02E </td> </tr> <tr> <td>Version</td> <td>: 1.0</td> </tr> <tr> <td>พื้นที่ทั้งหมด</td> <td>: 113.10 ตารางเมตร
</td> </tr> <tr> <td>ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง
</td> <td>: 12.30 เมตร</td> </tr> <tr> <td> ความสูงทั้งหมด
</td> <td>: 3.00 เมตร</td> </tr> </tbody> </table>

อาคาร ประกอบด้วย :

1. งานสถาปัตยกรรม วิศวกรรมโครงสร้าง
   
2. งานไฟฟ้า
   
3. งานท่อสุขาภิบาล

เงื่อนไขและหมายเหตุ :

1. ระยะที่แสดงเป็นระยะภายนอกอาคาร ***
   
2. ขนาดความกว้าง ยาว และความสูง ที่ระบุข้างบน เป็นระยะโดยประมาณเท่านั้น เนื่องจากเป็นการใช้การเป่าลมในผ้าใบเป็นไม้แบบ
3. ไม่รวมถึงงานถมดิน ปรับระดับ

 

ผมพิมพ์รายละเอียดเพิ่มเต็มเข้าไปในข้อความเดิมแล้วครับ

 

เอกสาร

การพัฒนาเมืองเพื่อต้านภัยพิบัติ


http://www.google.co.th/url?sa=t&rct=j&q=%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4&source=web&cd=1&ved=0CCMQFjAA&url=http%3A%2F%2Fjica.nha.co.th%2Fknowledge%2Fexperience%2F%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2592%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B2%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B7%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2587%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B7%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2595%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25A0%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B4.pdf&ei=4EujT5HUE8XZrQe6hM3TDQ&usg=AFQjCNFqlQGlMb6Qq1jUl6uNrwY7EuCxWA&cad=rja



.

 

<table border="1" cellpadding="0" cellspacing="10" width="750"> <tbody><tr> <td colspan="2" height="16" valign="top"></td> </tr> <tr> <td colspan="2" height="632" valign="top">

สาร
อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ​

จากภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ได้ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมากทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน
ของผู้ประสบภัย กรมโยธาธิการและผังเมืองซึ่งมีภารกิจหลักประการหนึ่งคือการให้บริการแบบบ้าน เพื่อประชาชนที่มีอยู่อย่างหลากหลาย
รูปแบบในระดับราคาต่างๆ กัน ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของบ้านที่จะสามารถป้องกันภัยดังกล่าวได้ จึงได้เริ่มทำการศึกษาเพื่อการออกแบบ
จากแหล่งต่างๆ ทั้งจากในและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บ้านท่าขนอน อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งยังมีบ้านลอยน้ำ
ภูมิปัญญาชาวบ้าน ได้รับการอนุรักษ์ไว้ในพื้นที่

27 กันยายน พ.ศ. 2550 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จมายังกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อทรง
เปิดพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เมื่อได้ทอดพระเนตรนิทรรศการแบบบ้านเพื่อประชาชน
ของกรมฯ แล้วได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับ “บ้านลอยน้ำ”

กรมโยธาธิการและผังเมืองจึงได้ออกแบบบ้านหลังนี้ขึ้นโดยปรับใช้ แนวคิดจาก “บ้านลอยน้ำท่าขนอน” และเรือนแพของชาวบ้าน
ในอดีต นำมาประยุกต์ใช้กับสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน ซึ่งในฤดูแล้งตัวบ้านจะตั้งอยู่บนพื้นดินตามปกติ แต่เมื่อมีน้ำท่วมก็จะลอยขึ้น
ตามระดับน้ำได้ โดยจะมีการยึดตัวบ้านไว้กับเสาหลักทั้งที่มุมเพื่อป้องกันการโคลงตัวหรือลอย ไปตามกระแสน้ำ และเมื่อระดับน้ำลดลง
ตัวบ้านก็จะกลับมาตั้งอยู่บนพื้นดินตามเดิม

ขนาดของบ้านลอยน้ำที่ได้ออกแบบขึ้นนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของขนาด วัสดุสำเร็จรูปที่มีขายอยู่ทั่วไปในท้องตลาด เพื่อให้เป็นการใช้
วัสดุที่คุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะทำได้ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้และทำการก่อสร้าง ได้ง่าย เนื่องจากมีระบบวิศวกรรมโครงสร้างเป็นรูปแบบอย่างง่าย
ชาวบ้านที่มีความรู้ด้านช่างในระดับทั่วไปก็จะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้เอง

บ้านหลังนี้มีขนาดพื้นที่รวมประมาณ 60 ตารางเมตร ซึ่งเป็นขนาดที่ไม่ใหญ่มาก เพื่อความสะดวกในการก่อสร้างและการลอยน้ำ
แต่หากมีความต้องการพื้นที่เพิ่มขึ้นก็อาจเชื่อมต่อหลายหลังเข้าด้วยกัน โดยใช้สะพานทางเช ื่อมพาดระหว่างชานรอบตัวบ้าน

สำหรับราคาค่าก่อสร้างประมาณการได้ว่ากรณีดำเนินการก่อสร้างเองจะมีราคาประมาณหลังละ 719,000 บาท หากจ้างเหมา
ราคาประมาณหลังละ 915,000 บาทเนื่องจากต้องมีการคิดค่าดำเนินการ กำไรและภาษีด้วย

แบบบ้านลอยน้ำของกรมโยธาธิการและผังเมืองนี้ น่าจะเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้อง
อยู่อาศัยในพื้นที่ที่อาจต้องประสบภัยน้ำท่วมตามฤดูกาลได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้อยู่อาศัยในบริเวณเที่เป็นที่ลุ่ม โดยอาจปรับปรุง
เปลี่ยนแปลงรูปแบบและพื้นที่ใช้สอยให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องตามความต้องการที่แท้จริงของตนเองต่อไป

​

</td> </tr> <tr> <td rowspan="4" valign="top" width="300">

ทัศนียภาพกลุ่มอาคาร

รูปด้านหลัง

รูปด้านซ้าย

รูปด้านขวา
​

</td> <td bgcolor="#E9E9E9" height="309" valign="top" width="420">แนวคิด ออกแบบขึ้นโดยแนวคิดเพื่อป้องกันความเสียหายจากอุทกภัย
ตามฤดูกาล และตั้งอยู่บนพื้นดินในภาวะปกติ โดยให้บ้านทั้งหลัง
สามารถลอยสูงขึ้นได้ตามระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างไรก็ตามบ้านลอยน้ำ
นี้ไม่เหมาะกับพื้นที่ที่มีน้ำไหลเชี่ยวกรากรุนแรง

ขนาดพื้นที่ ประมาณ 60 ตารางเมตรประกอบด้วยพื้นที่อยู่อาศัย 23
ตารางเมตร ส่วนทำอาหารห้องน้ำและซักล้าง รวม 37 ตารางเมตร

ราคาค่าก่อสร้าง โดยประมาณ 719,000 บาท (กรณีปลูกสร้างเอง)
ไม่ต้องใช้ผู้รับจ้างเหมาและประมาณ 915,000 บาท (กรณีมีผู้รับจ้างเหมา)

วัสดุก่อสร้าง ใช้วัสดุก่อสร้างพื้นฐานทั่วไปที่สามารถหาได้ง่ายในท้องตลาด
ซึ่งสามารถดัดแปลงได้ตามความเหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ ทุ่นลอยเป็นถังน้ำมัน
ขนาด 200 ลิตร หรือถังไฟเบอร์กลาสกรณีต้องการความทนทานเพิ่มขึ้น

ระบบสุขาภิบาล ใช้ระบบการย่อยสลายโดยมีถังบรรจุจุลินทรีย์ EM
ติดตั้งอยู่ใต้ห้องน้ำเพื่อย่อยสลายและเร่งการตกตะกอนของสิ่งปฎิกูล


</td> </tr> <tr> <td height="198" valign="top">

รูปด้านหน้า​

</td> </tr> <tr> <td height="198" valign="top">

รูปด้านใน​

</td> </tr> <tr> <td height="199" valign="top">

รูปด้านล่าง​

</td> </tr> </tbody></table>

 

เอกสาร

แบบแปลนบ้านลอยน้ำ


1. แบบสถาปัตยกรรม

http://www.dpt.go.th/download/PW/floating_house/images/plan/planscan1.pdf


2. แบบวิศวกรรมโครงสร้าง

http://www.dpt.go.th/download/PW/floating_house/images/plan/planscan2.pdf


3. แบบงานระบบไฟฟ้า

http://www.dpt.go.th/download/PW/floating_house/images/plan/planscan3.pdf


4. แบบงานสุขาภิบาล

http://www.dpt.go.th/download/PW/floating_house/images/plan/planscan4.pdf


5. ประเมินราคาค่าก่อสร้าง

http://www.dpt.go.th/download/PW/floating_house/images/plan/price.pdf


.

 

พลังงาน (ใช้งานได้จริง)


1. พลังลม

http://palungjit.org/threads/%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%87-%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%B3-%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%A1-%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%99.132807/

2. พลังงานแสงอาิทิตย์ (บ้านชีวาทิตย์)

"บ้านชีวาทิตย์” เป็นบ้านที่ได้รับการออกแบบให้เป็นต้นแบบของการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน และเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศในเขตร้อนชื้นเป็นหลังแรกในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ประสิทธิภาพการใช้งานจากพลังงานแสงอาทิตย์สูงสุด

http://www.rrcap.unep.org/ecohouse/4_Presentation by prof.soontorn.pdf

http://home.kku.ac.th/msura/bio_solar_house/bio_solar_house.htm

3. สูบน้ำไม่ใช้ไฟฟ้า (ตะบันน้ำ)

http://www.are101.org/forum/index.php?topic=36.0

http://www.lifewater.ca/ndexram.htm





.

 

ขอบคุณ.. ข้อมูลของคุณหมอมากๆครับ..
ไอเดียสุดยอดในการป้องกันภัย.. โดยเฉพาะสิ่งที่ตกลงมาจากฟ้า

ของคุณต้น.. ก็โอเคดีเลยครับ.. ไปหลบอยู่ใต้ดินเสียเลย
น่าจะง่าย และราคาเบาๆลงมาหน่อยน่ะครับ..

รบกวน.. คุณหมอและคุณต้น ลงภาพและข้อมูลอีกนะครับ... ขอบคุณครับ..

ผมเอง.. เคยไปดูอุโมงค์ "กู๋จี่" ของเวียดนามใต้
ที่ขุดไว้ทั้งใช้รบและหลบภัย..จากไอ้กันในยุคนั้น
สุดยอดการออกแบบ.. และอุตสาหะจริงๆ..

ทางพม่า.. ก็เห็นภาพข่าวการขุดอุโมงค์ใต้ภูเขาหิน เป็นที่หลบภัยเช่นกันครับ..

 

รอให้เสร็จแล้วจะชวนพี่ๆไป ดูงานที่บ้าน
ชวนกันปั่นจักรยานไปไหว้หุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่แหวนที่วัดดอยแม่ปั๋งไกล้ๆบ้านครับ<!-- google_ad_section_end -->
ส่วนกระผมที่คาดว่าจะเร่งให้เสร็จอาทิตย์หน้าต้องรองดูซักตั้งครับ
ผมอยากจะเรียนให้ทราบว่าผมไม่ได้รวยครับ อุปกรณ์ทุกชิ้นเก็บตัง ซื้อครับ
ต้องวางแผนเองเป็นปีๆ ศึกษาเองเป็นปีๆแล้วมันก็ออกมาให้ทุกท่านได้เห็นแบบเกือบเสร็จแล้ว รู้ไหมผมไม่ได้นั่งดูเวปไซด์ศึกษานะครับ ส่วนใหญ่อ่านตำราที่ห้องสมุด AIT ครับมีมันทุกอย่าง ไม่เข้าใจก็ถาม นศ.ที่นั้น พวกแขกปากีเก่งๆเยอะพูดอังกฤษกันรู้เรื่องต้องฟังสำเนียงแขกก็พอได้ครับ ผมอ่านหนังสือที่นั่นมานานเป็นสิบปี ตั้งแต่เรียนแพทย์ที่ศิริราช
ก็ขับรถไปบ้าง นั่งรถเมล์บ้างสุดสาย39 จากท่าพระจันทร์ครับ แล้วรู้ไหมครับอ่านวันละ๖-๘ ชม. ถึงจะได้ความเข้าใจของเราจริงๆ โทษทีที่นั่นเขาอ่านกันจริงๆแบบไม่ลุกกันเลยยกเว้นเข้าห้องน้ำกับกินข้าว ปกติเขาปิด๔ทุ่ม และลงชื่อข้างหน้าเข้าฟรีครับเชิญชวนท่านไปใช้บริการ
ที่ผมถ่ายรูปหยาบๆมาให้ดูมันยังไม่ถึงร้อยละ ๗๐ ของแผนครับ โปรดรอ เพื่อจะได้โมเดลอีกรูปแบบ ไว้ให้ศึกษากัน ผมบอกไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าจะถ่ายรูปแบบละเอียดทุกมุมและนำเสนออุปกรณ์และเหตุผลครับ ทั้งนี้เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ทุกท่าน ผลบุญที่เกิดขอน้อมอุทิศแด่พระคุณลุงคนเชียงใหม่ผู้ซึ่งจุดประกายผม
อนึ่ง ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้มาอธิฐานไว้เมื่อถึงเวลาผมจะแจ้งและเปิดการสื่อสารรอรับพวกท่านทั้งหลายที่บำเพ็ญเพียรปฏิบัติครับ

 

อยากให้กระทู้นี้เป็นกระทู้ติดหมุดมั่งจัง

เพราะเป็นกระทู้ที่มีเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์มากเลย

และจะได้เข้ามาอ่านได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ

chearrchearrchearrchearrchearrchearrchearrchearrchearr

 

ขอบคุณครับ.. ที่ช่วยแนะนำแหล่งหาหนังสืออ่าน.. AIT ไม่ไกลบ้านผมซะด้วยสิ... อิอิ
แต่.. ผมจะหาเวลาไปนั่งอ่านได้มั๊ยละครับนี่ ???

ทุกวันนี้.. แค่ที่ต้องอ่านเพื่อใช้ทำงานประจำ.. ก็มีให้อ่านไม่หวัดไหว... เฮ้อ !!!
คงอาจจะต้องใช้วิธีรัดเอาสักนิดนึงครับ.. คือขอไปเรียนรู้จากคนที่เขามีความรู้อยู่แล้ว.. คนที่เขาอ่านหนังสือเหล่านั้นจนเข้าใจ.. แล้วมาเล่าให้ฟังน่ะครับ..

ยิ่งตอนนี้.. กำลังปลูกบ้านไว้เตรียมลี้ภัย เป็นที่ซื้อไว้นานแล้วครับ
อยู่ที่ปากช่อง... ไกลจากตัวเมืองพอสมควร..
ที่ของผมสูงจากระดับน้ำทะเล 535 เมตรครับ.. By Garmin GPS เช่นกันครับ...

ก็เก็บสตางค์ปลูกบ้านไปเรื่อยๆอยู่เช่นกันครับ..
หมุนเงินสนุกดีจริงๆครับ... เฮ้อ !!!

ดูเสาปูนของคุณหมอแล้ว...
เสาปูนของผม.. strength แค่ 240 เองครับ..

กะว่าเดี่ยวฝนมาเต็มๆจะเริ่มลงพวกพืชอาหารและพวกผลไม้ เพราะว่ามันสามารถกินได้โดยไม่ต้องปรุงหุ่งต้มน่ะครับ.. พวกกล้วย, มะละกอ เป็นต้น รวมทั้งตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์ด้วย จะได้อบผลไม้เวลาที่มันออกมาเยอะจนทานไม่หมด จะได้เก็บไว้ทานยมฉุกเฉิน...

ตอนนี้..ผมก็พยายามชักชวนคนในกลุ่มที่ไปปลูกบ้านอยู่ในย่านนั้น
ให้เริ่มเตรียมตัวกัน.. ก็คงต้องอาศัยพวกภัยเล็กที่จะเกิดนำร่องมาก่อน ให้พวกเขาได้เห็นภาพกันก่อนว่า.. ของใหญ่กำลังจะมา... !!!

เพราะผมเองก็เชื่อว่า.. เรามี..ท่ามกลางเหล่าคนที่ไม่มี.. เราก็อยู่ลำบากแน่ๆ..
เลยต้อง ปจว. ให้พวกเขามีคล้ายๆแบบที่เรามีด้วยเช่นกัน.. ก็ต้องพยามยามชักจูงให้ได้ไม่มากก็น้อยล่ะครับ...

ปล. Solar cell ผมเคยลองติดต่อแบบที่เขาทำสำเร็จรูปมาขาย.. watt ละ 60 บาทเองครับ..
ตอนนี้เลยรวบรวมจำนวนเข้าไปคุยเป้นในนาม Project อยู่..เพื่อให้ได้ราคาเบาๆลงมาหน่อยนะครับ..

เครื่องปั่นไฟฟ้า Honda ของคุณหมอนั้น น่าใช้ดีจริงๆ.. ผมก็เล็งๆเอาไว้เช่นกัน แต่ราคาก็แรงตามคุณภาพของมันจริงๆ..

แต่ของผมจะให้น้ำหนักไปเป็นเครื่องยนต์ Diesel มากกว่าเพราะว่า..
ในยามที่โรงกลั่นน้ำมันพินาศกันหมดแล้วนั้น..

เศษน้ำมันพืช.. น้ำมันปาล์ม.. ล่าสุดน้ำมันจากกระจี๊ยบ.. ก็สามารถเอามาใช้เครื่องยนต์ดีเซลให้มันหมุนใช้งานบางอย่างได้ครับ..