บังเอิญคล้ายๆเหตุการณ์ช่วงนี้ ดูที่หน้า 11 (จากกระทู้เตือนภัยพิบัติเดือนมิถุนายน 2554)

จากที่มีท่านผู้ตั้งกระทู้ อนาคตังสญาณ เพื่อการแจ้งเตือนภัยพิบัติในประเทศไทย

ท่านได้มีเมตตาเตือนว่าอาจจะมีภัยพิบัติครั้งใหญ่ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2554 นั้น
ผมขอแจ้งว่า...จากข้อมูลของผมนั้น 'ท่านผู้เตือน' ได้บอกว่าภัยพิบัติดังกล่าวนั้น
ท่านไม่เห็นภาพว่าจะเกิดขึ้นใน วันที่ 5 พฤษภาคม 2554
(พูดง่าย ๆ คือ ภัยพิบัติจะไม่ได้เกิดในวันดังกล่าวตามที่ท่านแจ้งว่าเป็นวันที่ 5 พฤษภาคม)
แต่ภัยพิบัติจะเกิดขึ้นในวันที่ 18 มิถุนายน 2554 (โดยเริ่มเกิดตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน เป็นต้นไป)

การแจ้งครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อการขัดแย้งหรือเพื่อยกตัวว่าใครจะแน่กว่ากัน
ด้วยผู้เขียนมีกุศลเจตนาเป็นที่ตั้ง ขอแจ้งไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการอ้างอิงต่อไปว่าได้มีความเห็นคัดค้านในเรื่องนี้อยู่

อันตรายจักมี หากคำเตือนในวันที่ 5 พฤษภาคม มีความคลาดเคลื่อน
แม้บางคนอาจโล่งใจ แต่อาจมีบางคนคอยจับผิดและจ้องซ้ำเติมอยู่
นอกจากนี้คนบางส่วนอาจประมาทคิดว่าคำเตือนในวันที่ 18 มิถุนายนก็คงคลาดเคลื่อนเช่นเดียวกัน

ดังนั้นจึงขอบันทึกไว้เป็นหลักฐานว่า
หากวันที่ 5 พฤษภาคมเกิดภัยพิบัติขึ้นจริง
ก็ถือว่าข้อมูลจาก 'ท่านผู้เตือน' ของผู้เขียนนี้ผิดพลาด

แต่หากวันที่ 5 พฤษภาคมไม่ได้มีภัยพิบัติเกิดขึ้น
ก็ให้ถือว่ายังไม่พ้นเขตอันตราย เพราะยังอาจมีภัยพิบัติในวันที่ 18 มิถุนายน

ขอชี้แจงว่านี่เป็นข้อมูล ณ วันที่ 24 เมษายน 2554
ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต หากอยู่ในวิสัยที่ทำได้ก็จะมีการแจ้งล่วงหน้า

อย่างไรก็ตามหากผู้เขียนซึ่งคอยเตือนทุกคนว่าอย่าประมาท
แต่กลับจะมาประกาศว่าวันที่ 5 พฤษภาคม ปลอดภัยแน่นอน ย่อมเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง

ดังนั้นขอเตือนทุกท่านว่าควรตั้งอยู่ในความไม่ประมาท


ขอเรียนท่านเจ้าของกระทู้ อนาคตังสญาณ เพื่อการแจ้งเตือนภัยพิบัติในประเทศไทย
ว่าผู้เขียนนี้มิได้มีเจตนาขัดแย้งหรือล่วงเกินท่านเลย ตรงกันข้ามกับรู้สึกขอบพระคุณ
ทั้งยังมีความสนใจและติดตามการพิสูจน์นิมิตรจากการแจ้งข่าวอุบัติเหตุของท่าน
ขอเป็นกำลังใจและเอาใจช่วยในการทำประโยชน์ของท่าน

ทั้งนี้ทั้งนั้นผมเชื่อว่า...
ทั้งท่า่น อริยะบุญ เจ้าของกระทู้ อนาคตังสญาณ เพื่อการแจ้งเตือนภัยพิบัติในประเทศไทย และผม
เราต่างก็มีความต้องการที่เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือ
พวกเราต้องการให้เราผิดพลาดทั้งคู่ เพราะนั่นหมายความว่าไม่มีภัยพิบัติใด ๆ เกิดขึ้น

 

ดีครับช่วยกันหลาย ๆทาง คนที่มาทางนี้จริงๆ ผมว่าเขาไม่มีมาซ้ำเติมกันอย่างแน่นอนเพราะ ทุกอย่างล้วนมีเหตุปัจจัย

 

พอดีนึกถึงคำทำนายของ อ.จตุพร เรื่องน้ำท่วมกรุงเทพ และเรื่องดวงอาทิตย์ 2 ดวง

เลยเอามาลงซ้ำอีกที



[ame="http://www.youtube.com/watch?v=6mWyMmvXFqg&feature=autoplay&list=ULcustqnonyT0&index=3&playnext=1"]YouTube - Two suns or Nibiru at Bangkok(2)[/ame]



คำทำนาย ในกรุงเทพมหานคร

วันนั้นฟ้าจะเปลียน พระอาทิตย์จะปรากฎให้เห็นเป็น 2 ดวง ทางทิศตะวันตกในเวลาเดียวกัน ท้องฟ้าจะเป็นสีแสด อากาศผิดปกติ เป็นแบบนี้ไม่กี่วัน "คนมีบุญจะรวมกลุ่มกันหนี คนบาปจะอยู่กับบ้าน" เข้ายามราตรี ฝนจะตก ฟ้าจะร้อง พายุขนาดใหญ่จะมา

ไฟจะดับ น้ำจะเริ่มท่วม รถยนต์จะเริ่มลอย เสาไฟจะล้ม คลื่นยักษ์สูง 50 เมตร จะมากวาดทุกอย่างไปในพริบตา "คนมีบุญที่หนีได้ทัน จะไปอยู่บนยอดตึก บุญจะส่งให้เขามีเหตุให้ต้องไปอยู่บนยอดตึกในเวลานั้น" ตกเช้าน้ำจะไป ทิ้งไว้แต่โคลนสีส้มไปทั่วเมือง "กรุงเทพฯ ไม่เหมาะที่จะสร้างเป็นเมืองหลวงอีกต่อไป" ส่วนต่างจังหวัดอื่นๆ จะเกิดหนักเหมือนกัน แต่น้ำจะไปไม่เท่ากัน

 

ข้อความนี้ยกมาจากกระทู้ แจ้งข่าวภัยพิบัติที่จะมาถึงในเดือน พฤษภาคม 2554
ซึ่งท่านแจ้งว่าจะเกิดภัยพิบัติในวันที่ 22 พฤษภาคม 2554

เหตุการณ์ตามที่เน้นสีแดงไว้นั้น
คล้ายกับเหตุการณ์ที่ 'ท่านผู้เตือน' บอก เพียงแต่เป็นคนละวันกัน

 

ปรากฏการณ์พระอาทิตย์ 2-3 ดวง อาจเกิดจากธรรมชาติที่เรียกว่า "sundog" ซึ่งเกิดจากการหักเหของแสงจากละอองผลึกน้ำแข็งในชั้นบรรยากาศ

I took this picture this afternoon on South Beach, Tenby. Evidently, the 2nd “sun”, parhelion , or “sundog” is caused when the sunlight bends through ice crystals in the atmosphere at a particular angle. Whatever the cause it was incredible to see!

This landscape will never cease to amaze me!

ที่มา Linda Norris Studio Blog

 

เขียนเมื่อ 25 เมษายน 2554


[FONT=&quot]ข้อความต่อไปนี้ผู้เขียนได้รับต่อมาอีกทีจาก [/FONT][FONT=&quot]‘ท่านผู้เตือน’
ข้อความดังกล่าวได้รับการเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อย เช่น คำสรรพนามที่ใช้เรียกแทนตัว และอื่น ๆ แต่เนื้อหาใจความสำคัญยังคงอยู่
ข้อความบางอันที่ไม่เกี่ยวข้องกับคนส่วนใหญ่เพราะเป็นเรื่องที่เตือนเฉพาะบุคคลก็ได้ถูกตัดออกด้วย[/FONT]

ข้อความบางส่วนอาจซ้ำซ้อนกัน เพราะเป็นการกล่าวในต่างวาระกัน
แต่ผู้เขียนนำมารวมไว้ที่เดียวกัน โดยเปลี่ยนแปลงถ้อยคำต่าง ๆ ให้น้อยที่สุด

[FONT=&quot]ข้อความมีดังนี้[/FONT]

---------------------------------------------------------------------------------- [FONT=&quot]
[/FONT]
[FONT=&quot]วันที่เกิดภัยพิบัติ วันนั้นท้องฟ้าจะเป็นสีแดงดังเลือด
ลมก็จะแรง แรงมากจนบ้านเรือนพัง ทุกคนจะอยู่ในที่ของตัวเอง[/FONT]
[FONT=&quot]ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น จงมีสติ วันนั้นจะมีคนเสียขวัญมากมาย
คนมีสติจงเป็นกำลังใจให้คนอื่น ๆ ผู้เป็นผู้นำอย่าเสียใจให้คนอื่นเห็น พวกที่รอดจะได้เอาเป็นแบบอย่าง
หลังท้องฟ้าเปิดทุกสิ่งจะเปลี่ยนหมด ความดีจะปรากฎ
จงเตรียมพร้อม เวลาที่เกิดเป็นเวลากลางคืน ของวันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน 2554 เวลาตี 3 [/FONT]

[FONT=&quot]วันนั้นจะเกิดลมพายุตีเข้ามาอย่างแรงทุกทิศทุกทางของจังหวัดอุตรดิษถ์
ตีขึ้นมาจนถึงกรุงเทพ หลังจากนั้น 3 วันน้ำจะเริ่มลด
มีความสูญเสียของมนุษย์ ผู้คนบาดเจ็บล้มตายมากมาย[/FONT]

[FONT=&quot]นับจากวันนี้จงเตรียมพร้อมรับกับภัยพิบัติเพราะมันอาจมาเร็วกว่านั้น
วันที่เกิดนั้นท้องฟ้าจะเปลี่ยนสีและจะมีลมแรงตลอดเวลา
ท้องฟ้าแดงดังสีเลือด ฝนจะตกหนักติดต่อกัน บ้านเรือนจะเริ่มพัง
น้ำจะเริ่มเข้ามาจนทำให้น้ำท่วมเต็มถนนหนทาง จะได้เห็นถึงการเปลี่ยนของท้องฟ้า
หลังจากนั้นรอบตัวของผู้ที่รอดจะมีแต่น้ำและผู้ที่บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิตมากมาย
พอน้ำเริ่มลดถนนหนทางที่ขาดอันเนื่องจากภัยพิบัติกว่าจะกลับมาใช้งานได้ดังเดิมก็หลายวัน
หลายคนที่รอดไม่สามารถไปทำงานได้เพราะสถานที่มีความเสียหาย [/FONT]

[FONT=&quot]ในวันนั้นบางคนอาจกำลังเดินทาง ออกไปทำธุระข้างนอก
เมื่อมีลมพายุฝนก็อาจเสียหายทั้งรถทั้งคน[/FONT]
[FONT=&quot]ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายนเป็นต้นไปถนนอาจจะเริ่มขาดเสียหายแล้วบางส่วน[/FONT]

[FONT=&quot]วันที่จะเกิดภัยพิบัตินั้นเป็นวันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน ตอนเที่ยงคืน [/FONT]

[FONT=&quot]คืนนั้นจะมีบางสิ่งเข้ามา มันอาจเป็นสิ่งที่มนุษย์คิดไม่ถึงว่าจะเป็นไปได้เลยทีเดียว
คืนนั้นจะมีน้ำตีเข้ามาจากทางเหนือ เข้าด้วยความเร็วสูง
ถึงจะมีการเตรียมการอย่างไรก็ยังมีการสูญเสีย
ความแรงของน้ำจะนำเอาบ้านเรือนติดตามมาด้วย
ความเสียหายจะมากมายทั้งทรัพย์สินเงินทองและชีวิต
ถนนหนทางจะพังพินาศ แถวสีลมจะมีการทรุดตัวของตึกสูง พื้นแผ่นดินจะมีการขยับตัว
ถ้ามีตึกหนึ่งเท อีกตึกหนึ่งก็พากันล้มตามกันเป็นแถว [/FONT]
[FONT=&quot]ลมนั้นจะเรียกว่าพายุก็ได้ ถนนเส้นสาทรก็มีผลเช่นกัน
สองฝั่งถนนจะมีแต่ผู้คนหนีตายทั้งน้ำทั้งลมรวมถึงฟ้า
ถ้าใครอยู่ในเหตุการณ์จะต้องคิดว่าตนต้องตายแน่นอน[/FONT]
[FONT=&quot]ผู้ที่กลัวขอให้ตั้งสติ ขอพึ่งบารมีคุณพระศรีอาริยเมตไตรย์[/FONT]

[FONT=&quot]ฝนฟ้าจะเปลี่ยนกันเป็นระยะ เช่นวันนี้ร้อนจัด อีกวันฝนตกหนัก อีกวันหนาวจัด
ถ้าเป็นแบบนี้ เตรียมได้เลย เกิดภัยพิบัติแน่ ๆ
ก่อนหน้าที่จะเกิดภัยพิบัตินั้นจะมีฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานานหลายวัน จนน้ำในกรุงเทพเริ่มท่วมตามถนน [/FONT]

[FONT=&quot]วันที่ 5 พ.ค. จะยังไม่เกิด แต่อาจมีพายุเข้าเท่านั้น[/FONT]

[FONT=&quot]ไม่ว่าจะเห็นหรือได้ยินอะไรจงมีสติและระลึกถึงพระศรีอาริยเมตไตรย์ [/FONT]

----------------------------------------------------------------------------------


ถ้าท่านสังเกต จะพบว่าในปฏิทินวันที่ 18 มิถุนายน ไม่ใช่วันอาทิตย์
เรื่องนี้ผู้เขียนจะเข้ามาอธิบายอีกที อาจเป็นวันนี้ตอนเย็นหรืออาจเป็นวันพรุ่งนี้

 

ตายเพราะภัยธรรมชาติ ยังดีกว่าตายเพราะคนไทยเข่นฆ่ากัน

 

ผมสงสัยอยู่นิดนึงครับว่าทำไมต้องระลึกถึงคุณพระศรีอริยะเมตไตย ไม่ได้ป่วนหรือกวนทีนน่ะครับ คืออยากทราบเหตุผลหรือคำอธิบายอะไรก็ได้ว่าทำไมไม่ระลึกถึงพระรัตนไตรหรือพระสมณโคดม หรือพระอริยสงฆ์หรือฯลฯ ว่าจะไม่ถามแต่ห้ามใจไม่อยู่

 

[FONT=&quot]ท่านย้ำว่า [/FONT][FONT=&quot]วันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน ตอนเที่ยงคืน [/FONT][FONT=&quot]
แต่ดูตามปฏิทินวันที่ 18 เป็นวันเสาร์[/FONT]<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0in 5.4pt 0in 5.4pt; mso-para-margin:0in; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->[FONT=&quot]

เราคาดว่าตามความหมายของท่านนั้น ท่านหมายถึง
เที่ยงคืนของวันที่ 18 ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อที่เปลี่ยนจากวันเสาร์เข้าไปสู่วันอาทิตย์
(ไม่ใช่เที่ยงคืนที่เป็นรอยต่อจากวันศุกร์เปลี่ยนไปเป็นวันเสาร์)
[/FONT]

 

ขอบคุณสำหรับคำเตือนค่ะ
เป็นประโยชน์มาก ๆ เลย เวลาเหลือน้อยลงทุกที ๆ แล้ว

 

ผมคิดว่า ระลึกถึงพระรัตนไตรหรือพระสมณโคดม หรือพระอริยสงฆ์ ก็คงได้เหมือนกันน่ะครับ

เพียงแต่ว่าท่านที่มาเตือนหรือมาบอกข่าวนี้
ท่านมีความเกี่ยวพันหรืออยู่ในสายการปฏิบัติของพระศรีอาริยเมตไตรย์

ถ้าเชื่อเรื่องลึกลับอะไรทำนองนี้นะครับ ว่ากันว่าในยามมีภัยพิบัตินั้น
จะมีหลายหน่วยงานหรือหลายสายการปฏิบัติที่ทำงานช่วยเหลือมนุษย์
แล้วแต่ว่าใครมีบุญสัมพันธ์กับครูบาอาจารย์สายไหน

 

อ้างอิง:
<table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ joyprueksa
หากเลี่ยงภัยพิบัติทางน้ำไม่ได้ ควรทำประกันภัยน้ำท่วมด้วยก็ดีนะครับ เพราะเท่าที่ทราบมาประกันภัยบ้านโดยทั่วไปจะไม่รวมภัยน้ำท่วมจากภัยธรรมชาติ เข้าไปด้วย

ลองพิจารณาทำประกันเผื่อไว้ เท่าที่ทราบคือ

ทีเอ็มบี ประกันทรัพย์ในบ้าน ชัวร์ 100% - ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) มาให้ โดยสามารถเข้าไปดูได้ตามลิงค์ด้านล่าง
ทีเอ็มบี ประกันทรัพย์ในบ้าน ชัวร์ 100% - ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)


หมายเหตุ ผมเองไม่ใช่พนักงานของบริษัท และไม่มีส่วนได้เสียกับการให้ข้อมูลครั้งนี้
</td> </tr> </tbody></table>
อ้างอิง:
<table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ vijit_j
แล้วบริษัทประกันภัย ได้ทำประกันภัยไว้หรือเปล่า
</td> </tr> </tbody></table>
อ้างอิง:
<table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Pehda
ถ้ามันท่วมมิดกรุงเทพ
บริษัทก็จะบอกว่า เอกสารลอยหายไปกับน้ำหมดแล้ว
</td> </tr> </tbody></table>
ผมว่าถ้าพอมีกำลังทรัพย์ ทำประกันไว้บ้างก็ดีนะครับ
ผมดูแล้วค่าเบี้ยประกันไม่สูง
ถ้าเป็นประกันภัย คือจ่ายแล้วไม่ได้เงินคืน ยกเว้นจะได้เงินค่าชดเชยกรณีที่ประสบภัย
ทำประกันแล้วเราต้องเก็บกรมธรรม์ไว้ดี ๆ เพื่อยืนยัน

ในช่วงแรกที่เป็นภัยพิบัติย่อย ๆ น่าจะยังได้รับการชดเชยอยู่


บริการประกันภัย
ประกันภัย

• ทีเอ็มบี ประกันอุบัติเหตุ คุ้มครอง ชัวร์ 100%
• ทีเอ็มบี ประกันทรัพย์ในบ้าน ชัวร์ 100%
• ทีเอ็มบี คุ้มสิน
• ทีเอ็มบี ประกันสุขภาพ คุ้มครองชัวร์ 100%

คลิกที่นี่...การประกันภัยในยุคภัยพิบัติ

 

อัพเดท 26 เมษายน 2554

[FONT=&quot]เขียนเมื่อ 26 เมษายน 2554[/FONT]
[FONT=&quot]
[/FONT]
[FONT=&quot]ข้อความต่อไปนี้ผู้เขียนได้รับต่อมาอีกทีจาก [/FONT][FONT=&quot]‘ท่านผู้เตือน’
ข้อความดังกล่าวได้รับการเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อย
เช่น คำสรรพนามที่ใช้เรียกแทนตัว และอื่น ๆ แต่เนื้อหาใจความสำคัญยังคงอยู่[/FONT]

[FONT=&quot]1. สำหรับประชาชนทั่วไป ในวันที่มีภัยพิบัติควรทำอย่างไร
หาก[/FONT][FONT=&quot]นึกถึงบารมีของพระศรีอาริยเมตไตรย์จะช่วยได้ไหม[/FONT]
[FONT=&quot]การที่มนุษย์มีความเดือดร้อนไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็สามารถขอพึ่งบารมีต่อพระองค์ได้
คนดีทำด้วยจิตใจโดยแท้นั้นคิดสิ่งใดหวังสิ่งใดก็จะสำเร็จ[/FONT]

[FONT=&quot]2. สำหรับประชาชนทั่วไปที่เชื่อคำเตือน หากในวันที่ 16 มิถุนายน เริ่มเกิดความผิดปกติของธรรมชาติ
หรือเริ่มเกิดภัยพิบัติ ควรให้ประชาชนที่เชื่อถือไปอยู่ในสถานที่แห่งใด [/FONT]
[FONT=&quot]ตอนนี้ยังไม่เห็นเลย รอก่อน หากเห็นว่าจะมีที่ใดเป็นที่กันภัยจะบอกให้อีกที[/FONT]

[FONT=&quot]3. เราพอจะนัดแนะสถานที่บอกเขาไว้ก่อนได้หรือไม่ว่าให้ไปในสถานที่ใด
และเราพอจะเตรียมสถานที่ไว้รองรับเขาเหล่านั้นที่เชื่อเราได้หรือไม่
พอจะมีสถานที่ใดที่ใหญ่ ๆ เช่น วัด โรงเรียน ที่พอเป็นที่พักได้บ้าง
เห็นข่าวสึนามิที่ญี่ปุ่น คนที่ญี่ปุ่นต้องไปพักและรักษาพยาบาลกันในสนามกีฬา
ในกรุงเทพพอจะมีสถานที่แบบนั้นหรือไม่ [/FONT][FONT=&quot]
(สมมติว่ามีคนเชื่อเราสัก 100 – 200 คน จะรวมคนกลุ่มนี้ไว้อย่างไร จะช่วยเขาได้หรือไม่)[/FONT]
[FONT=&quot]ตอนนี้ยังไม่เห็นเลย [/FONT]

[FONT=&quot]4. หลังจากภัยพิบัติแล้วพอครบสามวันน้ำก็ลดลงหมดเลยทีเดียว หรือน้ำจะค่อย ๆ ลดลง [/FONT]
[FONT=&quot]น้ำที่เข้ามามีจำนวนมหาศาลจึงจำเป็นต้องใช้เวลาหลายวันจนอาจเป็นเดือน
เพราะถึงตอนนั้นทุกที่จะมีแต่น้ำ มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่สถานที่[/FONT]

[FONT=&quot]5. ต้องเตรียมอาหารและน้ำสำหรับกี่วัน [/FONT]
[FONT=&quot]การจัดเตรียมอาหารต้องมากหน่อย เพราะการเดินทางไปไหนมาไหนมันยากลำบากมาก
จัดเตรียมให้มากหน่อย อาจจะต้องติดอยู่หลายวัน[/FONT]

[FONT=&quot]6. หลังจากภัยพิบัติเกิดแล้ว จะนัดแนะล่วงหน้าไว้ได้หรือไม่ว่าจะให้ประชาชนที่รอดชีวิตมารวมตัวกัน
หรือเดินทางมารับความช่วยเหลือได้ที่ไหน[/FONT]
[FONT=&quot]การมีผู้คนบาดเจ็บล้มตายเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อถึงวันนั้นการเดินทางเป็นเรื่องยากลำบาก
การจะระบุว่าให้ไปรวมตัวกันที่ไหนเป็นเรื่องยาก
เมื่อถึงวันนั้นจะมีผู้ทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือผู้รอดชีวิต [/FONT]

[FONT=&quot]7. การที่จะช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นจะต้องทำอย่างไร เตรียมการอย่างไร
จะรวบรวมคนมาช่วยได้อย่างไร จะรวมกลุ่มกันทำงานช่วยเหลือคนได้หรือไม่[/FONT]
[FONT=&quot]การที่มีจิตคิดช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์นั้นเป็นเรื่องดีและถูกต้องที่สุดแล้ว
แต่การรวมตัวกันในสถานการณ์เช่นนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก[/FONT]

[FONT=&quot]8. จะสามารถนัดแนะกลุ่มคนที่รอดชีวิตมารวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างไร
เพราะหากไม่นัดแนะไว้ก่อน กลัวว่าถึงเวลาจะติดต่อกันไม่ได้
เพราะการสื่อสารต่าง ๆ อาจเสียหาย โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ตใช้การไม่ได้ [/FONT]
[FONT=&quot]การนัดหมายให้ทำเมื่อวันสุดท้ายของการเตือนภัย มิฉะนั้นจะมีปัญหาตามมามากมาย
จะมีผู้มาสร้างปัญหาให้วุ่นวาย แต่ถ้าแจ้งวันสุดท้ายพวกเขาจะจำได้ดี [/FONT]

[FONT=&quot]9. ต้องเตรียมเรือไว้ช่วยคนหรือไม่[/FONT]
[FONT=&quot]ในสถานการณ์เช่นนั้นเรือมีความจำเป็น ถ้าคนมีกำลังพอจะเตรียมไว้ก็ดีและได้ใช้แน่นอน[/FONT]

[FONT=&quot]10. ทำอย่างไรจะช่วยเหลือผู้บาดเจ็บได้มากที่สุด[/FONT]
[FONT=&quot]การจะช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนหรือได้รับบาดเจ็บนั้นจำเป็นต้องมีเครื่องมือในการขนย้าย
ลำพังมนุษย์ด้วยกันจะทำได้ไม่เต็มที่ คนที่เชื่อในคำเตือนมีมากอยู่
แต่หลังจากเกิดภัยพิบัติแล้วทุกคนมีการสูญเสียกัน
ทุกคนจึงไม่มีจิตใจที่จะไปช่วยใคร บางทีตัวเองยังเอาไม่อยู่เลย[/FONT]

[FONT=&quot]11. ในวันนั้นระบบการสื่อสาร เช่น โทรศัพท์ อินเทอร์เน็ตจะยังใช้เพื่อแจ้งข่าวได้หรือไม่
ในวันที่ 16 [/FONT][FONT=&quot]– 18 มิถุนายน ยังใช้แจ้งข่าวหรือติดต่อกันได้หรือไม่ [/FONT]
[FONT=&quot]ก่อนภัยจะมาทุกส่งเริ่มมีปัญหาแล้ว น่าจะใช้การไม่ได้แล้ว[/FONT]

[FONT=&quot]12. วิทยุสื่อสาร [/FONT][FONT=&quot](วอ หรือวิทยุเครื่องสีแดง ๆ แบบที่ รปภ.ใช้) จะยังใช้การได้หรือไม่ในเวลาเกิดภัยพิบัติ
หากเตรียมไว้จะมีประโยชน์หรือไม่[/FONT]
[FONT=&quot]ไม่มีประโยชน์[/FONT] [FONT=&quot](ผู้เขียน : แต่อาจมีประโยชน์หลังภัยพิบัติ ?)[/FONT]

[FONT=&quot]13. จังหวัดที่เกิดภัยพิบัตินั้น มีจังหวัดอะไรบ้าง หรือเฉพาะกรุงเทพ
ภัยพิบัติครั้งนี้เกิดทั่วโลก หรือเกิดเฉพาะในประเทศไทย[/FONT]
[FONT=&quot]ภัยพิบัติครั้งนี้มิใช่เกิดขึ้นทั้งโลก เป็นเพียงประเทศไทย
แต่อาจมีอะไรเปลี่ยนแปลงได้ ต้องดูตอนใกล้ ๆ อีกที
ภัยครั้งนี้อาจเกิดโดยทั่วกันหลายจังหวัด มากน้อยอยู่ที่ผู้ปฏิบัติดีหรือชั่ว
ถ้าดีก็เสียหายน้อย ถ้าชั่วก็เสียหากยมาก[/FONT]

[FONT=&quot]14. เมื่อเกิดภัยพิบัติแล้วจะฟื้นฟูระบบต่าง ๆ กลับมาได้ทัน ก่อนที่จะมีภัยพิบัติครั้งต่อไปหรือไม่ [/FONT]
[FONT=&quot]การสื่อสารต่าง ๆ จะกลับมาใช้งานได้ทัน เพราะสิ่งเหล่านี้มีความจำเป็นสำหรับมนุษย์มาก
อาจจะกลับมาใช้งานได้เร็วกว่าการช่วยชีวิตคนเสียอีก
แม้สถานที่ทำงาน[/FONT][FONT=&quot]บางที่[/FONT][FONT=&quot]จะเกิดความเสียหายแต่ก็ไม่มาก แต่อาจจะต้องหยุดงานกันเป็นเดือน [/FONT][FONT=&quot]
(ผู้เขียน : แสดงว่ากรุงเทพยังคงไม่สูญสิ้น ถ้ารอดตายยังต้องกลับมาทำงานอีก)

[/FONT] [FONT=&quot] 15. ในหลวงจะทรงปลอดภัยหรือไม่
ในหลวงท่านจะเสด็จย้ายไปต่างจังหวัดหรือจะยังอยู่ในกรุงเทพ[/FONT]
[FONT=&quot]ในหลวงท่านเป็นผู้มีบุญบารมีมาก พระองค์ท่านจะไม่ยอมไปไหนทั้งสิ้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
พระองค์ทรงอยู่เพื่อประชาชนของพระองค์
ท่านรู้ทุกสิ่งแม้แต่ภัยพิบัติ ท่านอยู่เพื่อประชาชนของท่าน
[/FONT][FONT=&quot](ผู้เขียน : แต่อาจมีคนอื่นที่หวังดีพาท่านเสด็จไปที่อื่นหรือไม่ ?)[/FONT]

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=5K_AkC9jIkU]YouTube - ดร.สมิทธ กล่าวถึงในหลวง[/ame]

 

<table width="100%"><tbody><tr><td align="right">

​

​

ถ้าประชาชนไม่ทิ้งข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะทิ้งประชาชนได้อย่างไร

</td> <td width="75">


</td> </tr> </tbody></table>
...ในตอนเย็นวันเสด็จฯกลับประเทศสวิส ในระหว่างนี้เองที่พระองค์ได้เห็นน้ำใจประชาชนที่หลั่งไหลกันมาเฝ้าส่ง เสด็จฯ ทำให้ทรงแน่ในพระราชหฤทัยว่า ความรักของประชาชนเท่านั้นเป็นเสมือนหลักอันมั่นคงที่จะให้ทรงมีพระทัยอยู่ ได้ในระหว่างความทุกข์อันใหญ่หลวงนี้

เมื่อถวายบังคมพระบรมศพแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จลงจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ประชาชนพากันแห่ห้อมรุมล้อมพระองค์ จนแทบจะเสด็จพระราชดำเนินไม่ได้ ราชองครักษ์ผู้ใหญ่กราบบังคมทูลคัดค้านไม่อยากให้เสด็จฯ ต่อไป เพราะผู้คนมากมายไม่รู้ว่าอันตรายจะมาทางด้านไหน การสูญเสียพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๘ ไปหยกๆ ทำให้ทุกคนพากันหวาดเสียวและห่วงใยไม่หาย

แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลฯ ไม่ทรงพระวิตก ทรงทราบดีว่าพระองค์ทรงปลอดภัยเสมอ ตราบใดที่ได้ทรงอยู่ใกล้ชิดกับพสกนิกรเหมือนดังที่สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์เคยทรงสอนพระองค์ว่า พระเจ้าแผ่นดินไม่เป็นภัยแก่ประชาชน และประชาชนก็ไม่เป็นภัยแก่พระเจ้าแผ่นดิน เดิมทีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตั้งพระราชหฤทัยไว้ว่า พระองค์จะทรงครองราชสมบัติเพียงชั่วระยะเวลาจัดงานพระบรมศพให้งดงามสมพระ เกียรติเท่านั้น เพราะพระชนมายุเพียง ๑๘ พรรษา ไม่ทำให้ทรงรู้สึกว่า มีกำลังพระทัยเป็นพระเจ้าแผ่นดินไปได้ตลอด การสูญเสียสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราชที่ทรงรักและใกล้ชิดสนิทสนมกันมาตลอดเวลา อย่างกระทันหัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลฯ ไม่เคยทรงเตรียมพระราชหฤทัยและกำลังพระวรกายสำหรับรับหน้าที่นี้เลย

แต่แล้วก็มีเหตุการณ์หลายครั้งหลายคราวที่ประชาชนแสดงความจงรักภักดีต่อพระองค์ ดังเช่นในวันที่เสด็จพระราชดำเนินกลับประเทศสวิส ขณะที่ประทับรถพระที่นั่งไปสู่สนามบินดอนเมือง ทรงได้ยินเสียงตะโกนดังๆ ว่า

“ในหลวง อย่าทิ้งประชาชนนะ”

ทำให้ทรงนึกตอบบุคคลผู้นั้นในพระราชหฤทัยว่า

“ถ้าประชาชนไม่ทิ้งข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะทิ้งประชาชนอย่างไรได้”

เป็นที่น่าประหลาดว่าต่อมาอีกประมาณ ๒๐ ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพบชายที่ร้องตะโกนทูลพระองค์ไม่ให้ทิ้ง ประชาชนนั้นเป็นพลทหาร
และในปัจจุบันเขาออกไปทำนาอยู่ในต่างจังหวัด เขากราบบังคบทูลสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ไม่ทรงทิ้งราษฎร เขาทูลว่าตอนที่เขาร้องไปนั้นเขารู้สึกว้าเหว่และใจหาย ที่เห็นพระเจ้าแผ่นดินจะเสด็จไปจากเมืองไทยกลัวจะไม่เสด็จกลับมาอีก เพราะคงจะทรงเข็ดเมืองไทย เห็นเป็นเมืองที่น่ากลัวน่าสยดสยอง เขาดีใจมากที่ได้เฝ้าฯ อีก กราบบังคมทูลถามว่า

“ท่านคงจำผมไม่ได้ ผมเป็นคนที่ร้องไม่ให้ท่านทิ้งประชาชน”

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งถามว่า

“เราน่ะรึที่ร้อง?”

“ใช่ครับ ตอนนั้นเห็นหน้าท่านเศร้ามากกลัวจะไม่กลับมา จึงร้องไปเหมือนคนบ้า”

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตอบ

“นั่นแหละ ทำให้เรานึกถึงหน้าที่จึงต้องกลับมา ตอนนี้ทำมาหากินอะไรล่ะ?”

“ทำนาครับ”


ที่มา :สมุดพระบรมฉายาลักษณ์ ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โปรดเกล้าฯ จัดทำขึ้น
ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

***************************************
​

..... มีอยู่ครั้งหนึ่ง เสด็จฯ ไปที่เซ็นทรัล วันที่มีประชุมรัฐสภาโลก วันนั้นผมจำได้ ผมติดอยู่บนท้องถนน ฝนตก ผมก็มีวิทยุ เลยได้ยินรับสั่งมากับตำรวจมาเลย
"วันนี้ไม่ต้องกั้นรถ"
ทรงเข้าใจความทุกข์ของราษฎรอยู่ตลอดเวลา วันนี้เป็นวันฝนตก รถติดกันอย่างมหาศาล ถ้าขืนต้องไปติดขบวนอีก สร้างความทุกข์ให้กับประชาชน ทรงวิทยุบอกตำรวจว่า
"ขบวนจะแล่นไปพร้อมกับรถของประชาชน ไม่ต้องกั้น เคลื่อนไปพร้อมกัน"

***************************************

​

.....วันหนึ่งเสด็จฯ เขาค้อเปิดอนุสาวรีย์ พอเปิดอนุสาวรีย์เสร็จ พระองค์ท่านก็ขอกลับไปที่พระตำหนักเพื่อจะทรงเปลี่ยนฉลองพระบาท เพราะเดี๋ยวจะไปดูงานในป่าในดง...

.....เราก็ไม่ได้ทานข้าว ไม่มีใครทานข้าว ตอนนั้นบ่ายสองโมงแล้ว ก่อนจะเปลี่ยนฉลองพระบาทสักยี่สิบนาที น่าจะพุ้ยข้าวกันทัน ก็รีบวิ่งไปที่ห้องอาหารที่เตรียมไว้ ปรากฏว่าพวกที่ไม่ได้ตามเสด็จฯ เขาทานกันหมดแล้ว ในนั้นจึงเหลือข้าวผัดติดก้นกระบะ กับมีไข่ดาวทิ้งแห้งไว้อยู่ ๓ - ๔ ใบ เราก็ตัก เห็นมีข้าวอยู่จานหนึ่งวางไว้ มีข้าวผัดเหมือนอย่างเรา ไข่ดาวโปะใบหนึ่ง มีน้ำปลาถ้วยหนึ่งวางอยู่ เพื่อนผมก็จะไปหยิบมา มหาดเล็กบอกว่า
"ไม่ได้ๆ ของพระเจ้าอยู่หัว ท่านรับสั่งให้มาตัก"
ดูสิครับ ตักมาจากก้นกระบะเลย ผมนี่แทบน้ำตาไหลเลย ท่านเสวยเหมือนๆ กันกับเรา...

ที่มา : บทสัมภาษณ์ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล คอลัมน์ "ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท

ข้อมูลจาก
http://palungjit.org/threads/เบื้อง...้าแล้ว-ข้าพเจ้าจะทิ้งประชาชนอย่างไรได้.42677/

 

[FONT=&quot](ลงซ้ำอีกครั้ง)


เขียนเมื่อ 26 เมษายน 2554[/FONT]
[FONT=&quot]
[/FONT]
[FONT=&quot]ข้อความต่อไปนี้ผู้เขียนได้รับต่อมาอีกทีจาก [/FONT][FONT=&quot]‘ท่านผู้เตือน’
ข้อความดังกล่าวได้รับการเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อย
เช่น คำสรรพนามที่ใช้เรียกแทนตัว และอื่น ๆ แต่เนื้อหาใจความสำคัญยังคงอยู่[/FONT]

[FONT=&quot]1. สำหรับประชาชนทั่วไป ในวันที่มีภัยพิบัติควรทำอย่างไร
หาก[/FONT][FONT=&quot]นึกถึงบารมีของพระศรีอาริยเมตไตรย์จะช่วยได้ไหม[/FONT]
[FONT=&quot]การที่มนุษย์มีความเดือดร้อนไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็สามารถขอพึ่งบารมีต่อพระองค์ได้
คนดีทำด้วยจิตใจโดยแท้นั้นคิดสิ่งใดหวังสิ่งใดก็จะสำเร็จ[/FONT]

[FONT=&quot]2. สำหรับประชาชนทั่วไปที่เชื่อคำเตือน หากในวันที่ 16 มิถุนายน เริ่มเกิดความผิดปกติของธรรมชาติ
หรือเริ่มเกิดภัยพิบัติ ควรให้ประชาชนที่เชื่อถือไปอยู่ในสถานที่แห่งใด [/FONT]
[FONT=&quot]ตอนนี้ยังไม่เห็นเลย รอก่อน หากเห็นว่าจะมีที่ใดเป็นที่กันภัยจะบอกให้อีกที[/FONT]

[FONT=&quot]3. เราพอจะนัดแนะสถานที่บอกเขาไว้ก่อนได้หรือไม่ว่าให้ไปในสถานที่ใด
และเราพอจะเตรียมสถานที่ไว้รองรับเขาเหล่านั้นที่เชื่อเราได้หรือไม่
พอจะมีสถานที่ใดที่ใหญ่ ๆ เช่น วัด โรงเรียน ที่พอเป็นที่พักได้บ้าง
เห็นข่าวสึนามิที่ญี่ปุ่น คนที่ญี่ปุ่นต้องไปพักและรักษาพยาบาลกันในสนามกีฬา
ในกรุงเทพพอจะมีสถานที่แบบนั้นหรือไม่ [/FONT][FONT=&quot]
(สมมติว่ามีคนเชื่อเราสัก 100 – 200 คน จะรวมคนกลุ่มนี้ไว้อย่างไร จะช่วยเขาได้หรือไม่)[/FONT]
[FONT=&quot]ตอนนี้ยังไม่เห็นเลย [/FONT]

[FONT=&quot]4. หลังจากภัยพิบัติแล้วพอครบสามวันน้ำก็ลดลงหมดเลยทีเดียว หรือน้ำจะค่อย ๆ ลดลง [/FONT]
[FONT=&quot]น้ำที่เข้ามามีจำนวนมหาศาลจึงจำเป็นต้องใช้เวลาหลายวันจนอาจเป็นเดือน
เพราะถึงตอนนั้นทุกที่จะมีแต่น้ำ มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่สถานที่[/FONT]

[FONT=&quot]5. ต้องเตรียมอาหารและน้ำสำหรับกี่วัน [/FONT]
[FONT=&quot]การจัดเตรียมอาหารต้องมากหน่อย เพราะการเดินทางไปไหนมาไหนมันยากลำบากมาก
จัดเตรียมให้มากหน่อย อาจจะต้องติดอยู่หลายวัน[/FONT]

[FONT=&quot]6. หลังจากภัยพิบัติเกิดแล้ว จะนัดแนะล่วงหน้าไว้ได้หรือไม่ว่าจะให้ประชาชนที่รอดชีวิตมารวมตัวกัน
หรือเดินทางมารับความช่วยเหลือได้ที่ไหน[/FONT]
[FONT=&quot]การมีผู้คนบาดเจ็บล้มตายเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อถึงวันนั้นการเดินทางเป็นเรื่องยากลำบาก
การจะระบุว่าให้ไปรวมตัวกันที่ไหนเป็นเรื่องยาก
เมื่อถึงวันนั้นจะมีผู้ทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือผู้รอดชีวิต [/FONT]

[FONT=&quot]7. การที่จะช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นจะต้องทำอย่างไร เตรียมการอย่างไร
จะรวบรวมคนมาช่วยได้อย่างไร จะรวมกลุ่มกันทำงานช่วยเหลือคนได้หรือไม่[/FONT]
[FONT=&quot]การที่มีจิตคิดช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์นั้นเป็นเรื่องดีและถูกต้องที่สุดแล้ว
แต่การรวมตัวกันในสถานการณ์เช่นนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก[/FONT]

[FONT=&quot]8. จะสามารถนัดแนะกลุ่มคนที่รอดชีวิตมารวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างไร
เพราะหากไม่นัดแนะไว้ก่อน กลัวว่าถึงเวลาจะติดต่อกันไม่ได้
เพราะการสื่อสารต่าง ๆ อาจเสียหาย โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ตใช้การไม่ได้ [/FONT]
[FONT=&quot]การนัดหมายให้ทำเมื่อวันสุดท้ายของการเตือนภัย มิฉะนั้นจะมีปัญหาตามมามากมาย
จะมีผู้มาสร้างปัญหาให้วุ่นวาย แต่ถ้าแจ้งวันสุดท้ายพวกเขาจะจำได้ดี [/FONT]

[FONT=&quot]9. ต้องเตรียมเรือไว้ช่วยคนหรือไม่[/FONT]
[FONT=&quot]ในสถานการณ์เช่นนั้นเรือมีความจำเป็น ถ้าคนมีกำลังพอจะเตรียมไว้ก็ดีและได้ใช้แน่นอน[/FONT]

[FONT=&quot]10. ทำอย่างไรจะช่วยเหลือผู้บาดเจ็บได้มากที่สุด[/FONT]
[FONT=&quot]การจะช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนหรือได้รับบาดเจ็บนั้นจำเป็นต้องมีเครื่องมือในการขนย้าย
ลำพังมนุษย์ด้วยกันจะทำได้ไม่เต็มที่ คนที่เชื่อในคำเตือนมีมากอยู่
แต่หลังจากเกิดภัยพิบัติแล้วทุกคนมีการสูญเสียกัน
ทุกคนจึงไม่มีจิตใจที่จะไปช่วยใคร บางทีตัวเองยังเอาไม่อยู่เลย[/FONT]

[FONT=&quot]11. ในวันนั้นระบบการสื่อสาร เช่น โทรศัพท์ อินเทอร์เน็ตจะยังใช้เพื่อแจ้งข่าวได้หรือไม่
ในวันที่ 16 [/FONT][FONT=&quot]– 18 มิถุนายน ยังใช้แจ้งข่าวหรือติดต่อกันได้หรือไม่ [/FONT]
[FONT=&quot]ก่อนภัยจะมาทุกส่งเริ่มมีปัญหาแล้ว น่าจะใช้การไม่ได้แล้ว[/FONT]

[FONT=&quot]12. วิทยุสื่อสาร [/FONT][FONT=&quot](วอ หรือวิทยุเครื่องสีแดง ๆ แบบที่ รปภ.ใช้) จะยังใช้การได้หรือไม่ในเวลาเกิดภัยพิบัติ
หากเตรียมไว้จะมีประโยชน์หรือไม่[/FONT]
[FONT=&quot]ไม่มีประโยชน์[/FONT] [FONT=&quot](ผู้เขียน : แต่อาจมีประโยชน์หลังภัยพิบัติ ?)[/FONT]

[FONT=&quot]13. จังหวัดที่เกิดภัยพิบัตินั้น มีจังหวัดอะไรบ้าง หรือเฉพาะกรุงเทพ
ภัยพิบัติครั้งนี้เกิดทั่วโลก หรือเกิดเฉพาะในประเทศไทย[/FONT]
[FONT=&quot]ภัยพิบัติครั้งนี้มิใช่เกิดขึ้นทั้งโลก เป็นเพียงประเทศไทย
แต่อาจมีอะไรเปลี่ยนแปลงได้ ต้องดูตอนใกล้ ๆ อีกที
ภัยครั้งนี้อาจเกิดโดยทั่วกันหลายจังหวัด มากน้อยอยู่ที่ผู้ปฏิบัติดีหรือชั่ว
ถ้าดีก็เสียหายน้อย ถ้าชั่วก็เสียหากยมาก[/FONT]

[FONT=&quot]14. เมื่อเกิดภัยพิบัติแล้วจะฟื้นฟูระบบต่าง ๆ กลับมาได้ทัน ก่อนที่จะมีภัยพิบัติครั้งต่อไปหรือไม่ [/FONT]
[FONT=&quot]การสื่อสารต่าง ๆ จะกลับมาใช้งานได้ทัน เพราะสิ่งเหล่านี้มีความจำเป็นสำหรับมนุษย์มาก
อาจจะกลับมาใช้งานได้เร็วกว่าการช่วยชีวิตคนเสียอีก
แม้สถานที่ทำงาน[/FONT][FONT=&quot]บางที่[/FONT][FONT=&quot]จะเกิดความเสียหายแต่ก็ไม่มาก แต่อาจจะต้องหยุดงานกันเป็นเดือน [/FONT][FONT=&quot]
(ผู้เขียน : แสดงว่ากรุงเทพยังคงไม่สูญสิ้น ถ้ารอดตายยังต้องกลับมาทำงานอีก)

[/FONT] [FONT=&quot] 15. ในหลวงจะทรงปลอดภัยหรือไม่
ในหลวงท่านจะเสด็จย้ายไปต่างจังหวัดหรือจะยังอยู่ในกรุงเทพ[/FONT]
[FONT=&quot]ในหลวงท่านเป็นผู้มีบุญบารมีมาก พระองค์ท่านจะไม่ยอมไปไหนทั้งสิ้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
พระองค์ทรงอยู่เพื่อประชาชนของพระองค์
ท่านรู้ทุกสิ่งแม้แต่ภัยพิบัติ ท่านอยู่เพื่อประชาชนของท่าน
[/FONT][FONT=&quot](ผู้เขียน : แต่อาจมีคนอื่นที่หวังดีพาท่านเสด็จไปที่อื่นหรือไม่ ?)


[ame="http://www.youtube.com/watch?v=OnldKwo5DFs&feature=player_embedded#at=20"]YouTube - ??????????????????? ?????????.[/ame]
[/FONT]

 

"ที่ของข้าพเจ้าในโลกนี้คือ การที่ได้อยู่ท่ามกลางประชาชนของข้าพเจ้า นั่นคือคนไทยทั้งปวง"

พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช (รัชการที่ ๙)
​

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=swIygAKiwPk&feature=related"]YouTube - พ่อ..มองเห็นเราเสมอ[/ame]


[ame="http://www.youtube.com/watch?v=aHvKWxfEVGY"]YouTube - In Your Heart[/ame]


[ame="http://www.youtube.com/watch?v=G_VCspibLDY&feature=related"]YouTube - ?????????[/ame]

 

ไม่อยากให้เกิด แต่เมื่อมันเกิดต้องตั้งรับให้สติกลับมาเร็วที่สุด

 

รวมลิ้งเกี่ยวกับพระมหาชนก

เตรียมกายและใจให้พร้อมรับมือกับภัยพิบัติ เหมือนดั่งพระมหาชนก

ถอดรหัส ส.ค.ส.พระราชทาน ๒๕๔๗

เหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองใน"พระมหาชนก"

“พระมหาชนก”มหากาพย์แห่งการฟื้นฟูแผ่นดินสยาม

ตามรอย "พระมหาชนก"

 

ข้อคิดดี ๆ จากคุณเกษม....ขอบพระคุณครับ



กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

ถาม : การที่มีอุเบกขามากไป ทำให้เป็นคนไม่ยอมคนหรือเปล่าครับ ?

ตอบ : มันต้องดู คนที่เข้าถึงธรรมจริง ๆ ไม่ใช่เป็นคนไม่ทุกข์ไม่ร้อน แต่เขารู้ว่าอะไรมันเหมาะมันควรกับวาระกับเวลาอย่างไร โบราณเรียกว่า กาลเทศะ เรื่องที่ดิ้นรนไปแล้วไร้ประโยชน์ เขาก็นอน มันเสียเวลาไปดิ้นทำไม รถชนกันตูมพังกระจาย จะเสียเวลาไปเข็นรถหรือ ก็โทรเรียกประกันมาแล้วก็นอนรอมันสิ

อุเบกขา เป็นอุเบกขาที่ประกอบไปด้วยปัญญา ไม่ใช่ปล่อยวางแบบลูกศิษย์หลวงพ่อชา ลูกศิษย์หลวงพ่อชา เป็นพระด้วยนะ โดนลมตีหลังคากุฏิเปิดไป หลังคามุงด้วยแฝก ท่านเองท่านก็ปล่อยมันไปเรื่อยแหละ ฝนจะตกแดดจะออกก็ช่าง กูจะนั่งกรรมฐานของกู หลวงพ่อชาทนไม่ได้ ไปถึงก็บอก คุณซ่อมหลังคาสักหน่อยสิ ท่านบอกผมปล่อยวางซะแล้วครับ หลวงพ่อชาบอกว่า ปล่อยวางแบบนี้มันปล่อยวางแบบควาย ...(หัวเราะ)...ควายมันตากแดดตากฝนทนกว่าคุณอีก

คนเรามีปัญญามันต้องแก้ไข แก้ไขให้สิ้นกำลังตัวเอง สิ้นกำลังปัญญา สิ้นกำลังคน สิ้นกำลังทรัพย์ ถ้าแก้ไขไม่ได้ แล้วค่อยยอมรับว่ามันเป็นกฎของกรรม ถ้ายังมีช่องทางให้ดิ้นรนแม้แต่นิดเดียว ก็ต้องทำก่อน ปล่อยวางแบบนั้นนะควายอึดกว่าเราเยอะเลย

สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๓

ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=1072