เพื่อการกุศล นิ่มป่าแดง...ตามอ่านประสบการณ์จริง

ดูชันษรจรปีอายุเต็ม 46ขวบปี ตกภพอริ

เจ้าชะตามีเรื่องให้อริ(เจ็บไข้ได้ป่วย/เรื่องยุ่งยากเดือดร้อน)แก่ตัวเอง
ในความเป็นอรินั้น เป็นเหตุให้ต้องมรณะ(สูญเสีย/จากไกล)
ความเป็นอรินั้น ทำให้เจ้าชะตายุ่งยากเดือดร้อนลำบาก
ความเป็นมรณะนั้น สร้างความเดือดร้อนยุ่งยาก
มีเหตุเกิดขึ้นกระทันหัน ไม่ใช่เรื่องดี
*** ถ้าดาว๕ หมายถึงโรงพยาบาล ก็อาจได้ใช้บริการ

ช่วงประมาณเมษายน ศกนี้
1ทับ๑เดิม overload อีกแล้ว มีเรื่องให้รุ่มร้อน
1ทับ๗ รับบทพระเอกหนังบู๊
1ทับ๘ มีเรื่องให้เสื่อมเสีย
ดาว๐มฤตยูทับลัคน์ มีเรื่องผลิกผันปัจจุบันทันด่วน

4ทับ๔ 6ทับ๖ overload ในภพวินาสน์
เดินทางใช้ยวดยานพาหนะให้ระมัดระวัง

ผมกังวลมฤตยูเดิมเล็งมฤตยูจรนี่แหละ
ดาวเกตุจรทับตนุลัคน์ในเรือนอริ เสริมแรงดีเหลือเกิน

ถ้าประคับประคองรักษาเนื้อรักษาตัวรักษาจิตใจไว้ได้ กลางปีดาว5 จะเป็นอุจจ์
หน้าที่การงานและตัวเจ้าชะตาเองจะกลายเป็นคนมีเกียรติขึ้นมากมากโขอยู่

หลังวันเกิด ดาว๔ เป็นศรี อาจจะพอลดความร้ายกาจของดาว๐เดิมที่เล็งลัคน์อยู่ได้บ้าง

 

แกะให้หน่อยเถอะครับ
เสียงผมเวลาจับไมค์ก็เพราะอยู่ แต่พออัดลงเทปแล้วเหมือนเป็ดเจ็บต่อมทอมซิล

 

ดวงคุณrave22 ก็อีกคน ปีนี้ประมาทไม่ได้เลยเหมือนกัน
ก่อนถึงหน้าร้อนเดือนเมษา หาอะไรเย็นๆทำก่อนดีกว่าไหม?

 

วันนี้ 7/3/2557 โอนเงินสมทบทุนวางศิลาฤกษ์วิหารสามเณรฤดูร้อนวัดป่าแดง 1,668 บาท ขอโมทนาบุญกับทุกท่านครับ สาธุ ที่อยู่แจ้งทาง pm ครับ

 

พระปิดตาจตุพิธพรชัย(ปิดตาปั้น) **รุ่นที่เสกนานที่สุดของพี่นิ่มในขณะนี้

สมทบทุนจัดสร้างที่พักสามเณรฤดูร้อน
วางศิลาฤกษ์ วันที่ 16 เมษายน 2557

โดยทางวัดป่าแดง จะตั้งราคาไว้ที่ 1,000 บาท มอบตอบแทนผู้มีจิตศรัทธา ในงานก่อสร้างที่พำนักภิกษุสามเณรฤดูร้อน

แต่ผมต้องกตัญญูกับเพื่อนสมาชิกบ้าง รายชื่อ 106 ท่านแรกที่จองพระปิดตาทรงเมตตากับผมไว้ ผมให้สิทธิ์จองพระปิดตาปั้น(จตุพิธพรชัย) องค์ละ 500 บาท ท่านละ 1 องค์

เกินกว่านี้ โปรดรับไว้ที่องค์ละ 800 บาท จำนวนจำกัดเฉพาะในกระทู้นี้เท่านั้น




ตรวจสอบรายชื่อกรรมการกิตติมศักดิ์ ที่ข้อความที่ #10094


โปรดตรวจสอบความถูกต้องและทักท้วงได้ทันทีครับ

***ท่านที่เคยบริจาคน้ำมัน๙ทัพ โปรดระบุสิทธิ์เป็นกรรมการฯด้วยกันนะครับ

.......................


ปัจจัยเที่ยวนี้ ผมแบ่งใส่ซองให้พี่นิ่ม แล้วแต่พี่นิ่มจะแยกถวายวัดในเหตุปัจจัยใดบ้าง โดยมีหลักอยู่ที่ศาลาที่พักสามเณร ฯลฯ

จึงจะรบกวนเพื่อนสมาชิก
โดยขอปัจจัยจากเพื่อนสมาชิก ภายในวันที่ 4 เมษายน 2557 เพื่อความสะดวกของผมนะครับ



***ผมเห็นว่า ตัวเองอัพเดทตกหล่นไปหลายท่าน ดังนั้นท่านใดเห็นตารางไม่ถูกต้อง แค่โพสทักท้วง ผมจะรับผิดชอบตรวจแก้ให้โดยทันทีครับ ขออภัยที่ทำให้ยุ่งยากใจ

 

ผมใช้มาตรฐานดาวมาตลอด เรื่องกำลังดาวไม่เคยใช้เลย
ขอความรู้หรือตัวอย่างหน่อยครับ

รุ่นพี่ถามมา ว่าคู่บ่าวสาวนี้เป็นอย่างไรบ้าง
ผมสนใจเรื่องจะได้คู่หรือจะได้แต่ง เลยยกมาให้วิเคราะห์คนจะได้แต่งกัน


ดวงเจ้าบ่าวเจ้าสาวนี้ ดูง่ายๆไว้ก่อนเลยว่า อะไรที่เจ้าบ่าวชอบ เจ้าสาวไม่ชอบ.... จะยืดไหมเนี้ยะ....

 

เจ้าบ่าว เกิดวันศุกร์ ตอนนี้ใกล้จะครบ40ปีเต็ม

เจ้าสาว เกิดวันพฤหัสฯ อายุย่าง 28ขวบปี

เจ้าบ่าวเป็นน้องชายคุณคนวิเศษ
ถ้าใช้ชีวิตเรียบง่าย ลดความคาดหวัง-เอาชนะ จะมีชีวิตที่มีเกียรติ และปลอดภัยมาก

ส่วนว่าที่เจ้าสาว ฐานะการเงินไม่ธรรมดาเลย....

คำถามคือ
สองคนนี้ จะใช้ชีวิตคู่ได้ราบรื่นแค่ไหน?

 

..........

 

ที่ประเทศสาระขัณฑ์
หนุ่มทิพย์เติบโตจากสายความมั่นคง ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการฯ
จนก้าวขึ้นมาเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ สปปปด (สาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนป่าแดง)

วันดีคืนดี ก็มีคนมาชวนให้ทิ้งตำแหน่ง ไปรับตำแหน่งที่ปรึกษา นายกนิ่ม
ตำแหน่งเก่ายกให้ท้าวพันตา ทั้งๆที่ท้าวพันตากำลังจะได้ตำแหน่งพระยาพันวัง
แต่ท้าวพันตาก็ยินยอม เพราะนายกฯ อยากให้ตำแหน่งพระยาพันวัง เป็นของท้าวชาละวัน
วาระซ่อนเร้นนี้ หนุ่มทิพย์รู้ดี จากปากชู้รักวิมาลา
แต่เพื่อความเหมาะสม(ตรงไหนว่ะ) ......ยอม.....

ตั้งแต่ท่านนิ่ม เรียกเราให้ไปเป็นที่ปรึกษา
2ปีกว่าผ่านไป ไม่เคยเข้ามาขอคำปรึกษาเลย....วันๆนั่งเล่นเวปฯกับเฟซบุ๊ค
มีความรู้สึกว่า เราอยู่กินภาษีประชาชนไปเปล่าๆ
ถ้าเราเป็นคนของพระราชา การอยู่โดยไม่ออกมาพูด ก็อายพระราชาที่ทรงงานจนดึกดื่นและให้โอวาทอยู่เสมอ
ว่า "ข้าราชการที่ดี ต้องออกมาส่งเสริมคนดี ให้คนดีปกครองบ้านเมือง อย่าให้คนไม่ดีเข้ามามีอำนาจ..."

ว่าแล้วก็วิ่งไปฟ้องศาลปกครอง เอาพวงมาลัย ดอกไม้และป๊อปคอนไปถวายศาลด้วย

ลิ้นไม่มีกระดูกในโลกมนุษย์ เชื่อถือไม่ได้
แต่ในโลกของจิตวิญญาณ ไม่มีใครใช้ลิ้น พูดผ่านจิตล้วนๆ โกหกไม่ได้
เป็นสัจจะ เป็นความจริง
หนุ่มทิพย์จึงกลับมาเป็นพระยาเลขาธิการ สปปปด เหมือนเดิม

จ้าวพ่อที่ศาล เตือนนายกฯว่า
"แม้การใช้คนไปทำงานที่ไหน ย่อมเป็นอำนาจของผู้บังคับบัญชา แต่ต้องอยู่ภายใต้ระบบคุณธรรม..."

เช้าวันรุ่งขึ้นหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ป่าแดงโพส พาดหัวข่าว
"การต่อสู้ของข้าราชการประจำ..."
..........................

สมัยพี่ดุ๊คเป็นเด็กรุ่นๆ ไปขอหนุมานกับหลวงพ่อกวย วัดบ้านแค
หลวงพ่อฯบอกให้ไปทำตัวให้ชาก่อน....

คนสักก็เลยจับกรอกเหล้าขาว พอตัวชาแล้วก็เอามานอนคว่ำ สักหลัง
เพี๊ยง..ฉึกๆๆๆๆ เจ็บจนน้ำตาเล็ด สงสัยยังชาไม่พอ ถาม น้าๆ ใกล้เสร็จยัง
"จวนแล้ว"

เพี๊ยง..ฉึกๆๆๆ น้ำตาไหลเป็นทางเลย น้าๆใกล้เสร็จยัง
"จวนแล้ว"

เพี๊ยง..ฉึกๆๆๆ ไม่ไหวแล้วน้า ขอดูหน่อย
น้าหยิบกระจกมาส่องให้ดูข้างหลัง ว่า"จวนแล้ว" ยังเหลืออีกแค่ไหน

เห็นจากกระจก ได้แต่ตัวกับหัว แขนขายังไม่ได้เลย.... ปิติจนน้ำตาไหลไม่หยุด......


..............................



ขอสันติ จงมีแด่ท่าน......

 

คุณทิพย์ครับ
จากตารางชื่อผมตกไปครับ ขอบคุณครับ

 

เรื่องเล่า : รำลึกถึงความยากแค้นแสนเข็ญของชาวนาฯ

ตอน : มันมาจาก...ตื่นเช้าขึ้นมา ลูกคุณจะกินอะไรก็ได้ แต่ลูกฉันไม่มีอะไรจะกินฯ(ตอน 2 ต่อ)

ตั้งใจว่าจะย่นย่อเล่าเอาให้จบใน 3 ตอน ตอนแรกจะเอาช่วงไถ-หว่าน ตอน 2 จะเอาช่วงดูแลตั้งแต่ดายนาจนถึงเกี่ยวข้าวเบา ตอน 3 ก็ตอน

เกี่ยวข้าวนวดข้าวเอาข้าวขึ้นยุ้ง ก็ไม่รู้ว่าจะนึกเรื่องไปได้แค่ไหน เหตุที่เขียนจริงๆ ก็เอามาจากความทุกข์ความเศร้าของชาวนา แต่ผมเขียนๆ ไป

จะออกไปทางบันเทิงเสียละกระมัง เมื่อวานแวบออกไปทางวรรณคดีไปสะกิดให้หนุมานคิดถึงพ่อ ตามแบบฉบับไทยๆ ไม่ใช่ของแขกบาง

ประเทศ ที่เป็น version การกรีดเลือดนางมณโฑฯ ผมไม่ค่อยสนุกกับการอ่านนิยายปลอมตำนานอย่างเรื่องผู้ชนะสิบทิศ หรือมหากาพย์/และ

รามเกียรติ์ เพราะสังคมมักยกย่องพระเอกนางเอกของเขาดีกว่าของเรา เช่น จเด็จมีเมียตั้งเยอะ ตะละแม่จันทรา,ตะละแม่กุสุมา,นางตองสา,

อเทตยา,แม่นางเชงสอบู,ตะละแม่มินบู จนถึงตะแม่เมืองยะไข่ ฯลฯ ไม่กล่าวหาว่าเจ้าชู้ในสังคมไทย ขุนแผนมีเมียน้อยกว่าดันมากล่าวหาว่าเจ้า

ชู้ กล่าวหาจนเอาไปสร้างพระขุนแผน นางวันทองสองใจ ก็เอามาว่าเสียๆ หายๆ เปรียบเปรยเป็นนางดอกไม้ ทีนางมณโฑมีตั้ง 4 (หน่วยเรียก

ไม่ถูก) คือ 2 ตัว กับอีก 2 ตน ไม่มีใครว่าอะไร เลยไม่อยากเขียนถึง มาต่อเรื่องของชาวนากันดีกว่า ว่ามันลำบากขนาดไหน? พระตามวัดสมัย

ก่อนถึงพร่ำสอนเด็กวัดว่า ข้าวแต่ละเม็ดกว่าจะได้มาคนทำนาเขาเหน็ดเหนื่อยกันตั้ง 3-4 เดือน มีการทำโทษเด็กๆให้แบกข้าวสุกที่กินหกที

ละเม็ดเอาไปทิ้งที่ศาลาน้ำหน้าวัด พร้อมทั้งตะโกนว่า"ตูม"จนหมดเม็ดข้าวที่กินหก นี่ก็เป็นประโยชน์ของการเขียนเล่าถึงชาวนา เพราะการลง

โทษเด็กแบบคนโบราณ เป็นการสอนเด็กให้มีระเบียบวินัย รู้คุณเม็ดข้าวและชาวนา ไม่เหมือนเด็ก/ผู้ใหญ่สมัยนี้/ที่ทั้งโทษ/ทั้งโกรธไม้เรียว

ทั้งว่าและเปรียบเปรยอย่างเสียหาย โดยที่คนๆ นั้นมันไม่เคยโดนไม้เรียวเลย การทำนาที่เล่ามาถึงตอนที่แล้ว คือประเพณีการทำขวัญข้าวทำ

ขวัญแม่โพสพ ก็เป็นการแสดงออกถึงความกตัญญู อาจจะดูคร่ำครึแต่ก็แฝงคำสอน เช่น ให้เด็กที่ตามไปได้รับรู้คำอธิบายจากปู่ย่าตายายว่า ต้น

ข้าวตั้งท้องเราก็ให้การรับรองเหมือนพ่อแม่ที่ต้องเตรียมเข้าของเอาไว้ตอนที่เราอยู่ในท้อง เมื่อคลอดออกมาจะได้ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง

(บางอย่างที่เขาห้ามเตรียมก่อนคลอด ผู้ใหญ่ก็จะสอนเอาไว้) เด็กก็รับรู้ไว้ระดับหนึ่ง พอโตขึ้นจะได้มีการเตรียมการเวลาจะทำงานต่างๆ และที่

สำคัญผู้ใหญ่จะเน้นเรื่องบุญคุณของแม่โพสพ ก็ว่ากันไปตามกุศโลบายของแต่ละพื้นที่ ต้นข้าวแถวภาคกลางสมัยก่อนการสร้างเขื่อนจะยาวมาก

ยาวไปตามความลึกของน้ำ ถ้าน้ำขึ้นวันละประมาณ 1 ฝ่ามือ ต้นข้าวจะโตทันไม่จมน้ำ เดือน 11 น้ำยังขึ้นอยู่เรื่อยๆ พอเดือน 12 จะขึ้นน้อยมาก

และจะขึ้นไปหยุดสูงสุดที่กลางเดือน 12 คือขึ้น 15 ค่ำ เป็นอย่างนี้ทั้งโลกใบนี้(ยกเว้นมีความไม่ปกติ เช่น มีไต้ฝุ่นหรือ ทอนาโด หรือ สึนามิฯ)

เดือน 12 นี้ จะเริ่มมีการเก็บเกี่ยวบ้างแล้ว.....ส่วนใหญ่จะเป็นข้าวเบากับข้าวเหนียว...........หลังเที่ยงคืนของคืนวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 น้ำ

จะยุบตัวลง เข้าสู่หน้าน้ำลง พวกที่ไปเที่ยวงานลอยกระทงตามวัดต่างๆ จะรีบกลับบ้าน และออกหาปลาทอดแหในคืนนั้น เพราะปลาจำนวนมาก

มายจะพากันว่ายออกจากท้องทุ่งนา ว่ายออกจากหนองน้ำ,ลำประโดง,ลำคลอง เพื่อเดินทางไปสู่แม่น้ำใหญ่ จำนวนปลาที่ออกมาจากท้องนา

เป็นล้านๆ ไร่ จะแน่นและแออัดทำให้จับได้ คำพูดที่ว่า ทอดแหไปไม่มีจมเป็นเรื่องจริง ตอนเป็นเด็กเคยถามแม่ว่าทำไมมันต้องเป็นอย่างนี้ทุกๆ

ปี แม่บอกว่า...พอเดือนตรงหัวเราแล้วน้ำมันขึ้นเต็มที่ แต่พอเดือนคล้อยไปทางตะวันตก...น้ำก็จะเริ่มลดลงทันที ปลาที่อยู่กลางทุ่งกลางนาหรือ

ตามหนองน้ำมันตกใจ มันกลัวน้ำแห้งจึงรีบออกไปสู่แม่น้ำ แถวบ้านผมเขาเรียกว่า...หน้าปลาออก(พอรุ่งเช้าหรือวันแรม 1 ค่ำ เดือน 12 ไปดู

คราบน้ำที่บันไดบ้านหรือเสาเรือนก็จะเห็นชัดเจนว่าน้ำลงจริงๆ) แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว มันเริ่มลดน้อยลงตั้งแต่มียาฆ่าหญ้า ยาฉีดนาชนิดต่างๆ และ

เกิดจากการทำเขื่อนแล้วใช้คลองส่งน้ำเพื่อให้มีการทำนาปีละหลายๆ ครั้ง ปลาถูกจำกัดที่ให้วางไข่ และหนีเอาตัวรอดยาก จึงตายก่อนที่จะโต

เต็มวัย ได้อย่าง...แต่ว่ามันเสียไปหลายอย่าง..........!!!???

การทำนาในที่ราบลุ่มสมัยก่อน ข้าวหนักก็จะปลูกในที่ราบลุ่มปลายนา ส่วนต้นนาหรือที่ดอนก็จะปลูกข้าวเบาหรือข้าวเหนียว ข้าวเบากับข้าเหนียว

จะสุกก่อนและทำการเก็บเกี่ยวก่อน แต่จะมีจำนวนไม่มากนัก เพราะที่ดอนก็จะอยู่แถวใกล้ๆ คันแม่น้ำลำคลอง บางทีก็อยู่แค่หลังบ้าน แต่นั่นก็

เป็นตำนานของชาวท้องไร่ท้องนาเพราะการที่ข้าวเหนียวเริ่มจะสุก หรือเมล็ดเริ่มมีสีเขียวอมเหลือง จะได้เวลาตำข้าวเม่า ส่วนใหญ่ข้าวเม่าจะใช้

ข้าวเปลือกเหนียวมาตำ เด็กๆ ก็สนุก หนุ่มสาวก็หาทางจับคู่กะหนุงกะหนิง แต่ก็อยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ มันเกิดทั้งความรักความสามัคคี มีความ

กลมเกลียวเอื้ออาทรแก่กันและกัน คนไม่มีนาทำก็ตำข้าวเม่าได้ เพียงแค่ตะโกนว่า"ขอข้าวเหนียวเอาไปตำข้าวเม่าให้ลูกกินหน่อยนะหน่อยนะ"

ก็จะได้รับคำตอบว่า"เอาไปเห้อะ" พอตำเสร็จก็กินกัน เอาไปแจกกัน ล้อมวงคุยกัน สมัยนั้น

เงินหายากแต่"น้ำใจหาง่าย".......................



ในภาพคงเป็นการสาธิต จะเห็นว่าด้านถัดจากครกออกไป เป็นการเอาข้าวเปลือกที่ผ่านการนวดแล้ว คือใช้เท้าย่ำให้เมล็ดข้าวหลุดออก

จากรวงข้าว เอามาคั่วพอสุก แล้วก็เอามาใส่ครก คนตำก็รีบตำจนเมล็ดข้าวแยกตัวออกจากเปลือก และแบนแบบที่เราเห็นเขาเอามาวางขาย

เห็นสากไหมครับ สากแบบนี้แหละที่"ตาธูปหนุ่ย"เจ้าของปลิงทองแดงโดนทุบจนหัวหนุ่ย และที่ขี้เมาเอาไปตีหัวชีจนคอหักแล้วเอาทรัพย์สิน

ในคอแม่ชีไป หนุ่มสาวก็กะหนุงกะหนิงหยอกล้อกันทั้งที่หน้าเตาและข้างครก แต่งกันไปเพราะตำข้าวเม่าก็มากมาย......หลายคู่........




ที่บริเวณที่ตำข้าวเม่า พอรุ่งช้าวจะมีเป็ดไก่มากินแกลบกินรำกันเป็นฝูง ดูแล้วเพลินตา....เพลินตาดีกว่าดู concert

ในภาพนี้เป็นการฝัดข้าวเม่าที่ตำแล้ว เพื่อเอาแกลบออกให้เหลือแต่ข้าวเม่า ท่าทางเด็กคนนี้คงจะฝัดทิ้งเสียหมดเป็นแน่ ทุกๆ อย่างต้องมี

การฝึกปรือ เดี๋ยวนี้มีเครื่องทำได้แล้ว การที่เด็กๆ จะถูกฝึกให้รู้จักความอดทน ความเพียรมันเหลือน้อยลง พอได้ข้าวเม่าออกมาแล้วก็จะแบ่ง

กันกิน แจกกันไป กินกับน้ำตาลสีรำ เดี๋ยวนี้เด็กส่วนใหญ่ไม่รู้จักน้ำตาลสีรำ คิดว่าน้ำตาลทรายแดงที่บรรจุถุงในห้างเป็นน้ำตาลสีรำ ส่วนคน

แก่บางคนอยากให้กรอบก็เอาข้าวเม่าไปใส่กระทะคั่วอีกรอบ แถวบ้านผมเขาเรียกรางข้าวเม่า มีคนที่ไม่ถูกกันเพราะเคยทะเลาะกัน ไม่พูดกัน

มาแรมปีก็มาดีกันเพราะตำข้าวเม่าก็มากมาย อะไรดีๆ มีในคนทำไร่ไถนาอีกมากมาย ขอขอบคุณมากครับ...สวัสดีครับ

 

ถ้ามีชื่อ ก็ใช้สิทธิ์เถิดครับ พี่นิ่มนำพระฯถวายวัดฯเมื่อใด ผมอาจต้องปิดการให้สิทธิ์

ใช้สิทธ์1องค์ ในฐานะกรรมการฯ กับอีก1องค์ ในฐานะสมาชิกประจำกระทู้นะครับ ยืนยันมา ผมจะได้เอาลงตารางให้ ลำดับที่ 58 ขอใช้สิทธิ์จองพระปิดตาปั้น(จตุพิธพรชัย) องค์ละ 500 บาท 1 องค์และ 800 บาทอีก 1 องค์
คุณทิพย์ครับ
จากตารางชื่อผมตกไปครับ ขอบคุณครับ

 

ไม่มีชื่อแต่ขอจอง 2 องค์ครับ

 

ผมไปอ่านบทความ อ.วรกุล จากในเว็ป horathai มา เห็นด้วยในหลักการหลายอย่าง
เลยต้องมาฝึกอ่านพื้นฐานกันใหม่ ในเรื่องมาตรฐานดาว ยังใช้อยู่แต่ต้องมองให้รอบคอบขึ้น
ในเบื้องต้นเวลาหัดอ่านพื้นดวง มาตรฐานดาว ท่านให้ใช้แค่นี้

"อ่าน เกษตร - มีเรื่อยๆ ประ - ไม่ค่อยมี อุจ - เด่นขึ้นมา นิจ - ด้อยลงไป เพียงสี่ตำแหน่งนี้เท่านั้น ตำแหน่งมาตรฐานอื่นไม่ต้องอ่านให้พักเก็บเอาไว้"

เรื่องกำลังดาวอธิบายยากผมอ่านทั้งบทความกว่าจะเริ่มเข้าใจบ้าง(เล็กน้อย)
จะลองยกตัวอย่างในบทความที่ท่านอธิบายเรื่องกำลังดาวในดวงเมืองมาให้ลองอ่านครับ

[FONT=Angsana New, serif]

[/FONT]

ต้องลองไปอ่านบทความดูครับ ผมยังไม่ค่อยเข้าใจดีเหมือนกันอธิบายเองเดี๋ยวจะยิ่ง"งง"

ส่วนเรื่องคู่มีอยู่หลายแบบตามความเข้าใจของผม หลักๆ ก็ดูดวงของทั้งสองฝ่าย
ดูดวงชายก็ต้องเห็นความเป็นไปลักษณะของฝ่ายหญิงในดวงอยู่แล้ว ดูดวงหญิงก็เช่นกันต้องมีฝ่ายชายให้อ่านพบ
ช่วงเวลาแต่งงาน ในดวงทั้งสองฝ่ายต้องอ่านได้ทั้งคู่ว่า จะได้แต่งงานในเวลาช่วงนั้น
เนื่องจากคู่มีหลากหลาย ทั้งคู่กรรมคู่เวร คู่ปัตนิทั่วไป คู่แท้ สารพัดแบบ
ผมก็ยังแยกไม่ค่อยออกเหมือนกันว่าแบบไหนเป็นยังไงแน่ แต่ถ้าในดวงอ่านเห็นอีกฝ่ายได้ชัดเจน
และพื้นดวงเรื่องคู่และครอบครัวไปในทิศทางเดียวกัน เกณฑ์แต่งพร้อมกัน ก็ควรจะได้แต่งกันครับ
กรณีตัวอย่าง ผมก็ไม่กล้าฟันธงเหมือนกันครับ กำลังหัดดูอยู่เหมือนกัน(ฮา)

 

เป็นคำถามที่หนุ่มโสดอย่างผมตอบยากจริงๆ ถามเรื่องชีวิตคู่หนะ
ขอไม่ตอบดีกว่า แต่จะลองฝึกอ่านดูกำลังดาวแทน
ฝ่ายชายลัคนาราศีเมษ ๑และ๔ รับพลังงานจากลัคนาและลัคนาโลก
สองดาวนี้มีกำลังดาวดี จึงให้คุณมาก เป็นผู้มีไหวพริบดี รักเกียรติ คิดการใหญ่ กล้าลงมือทำ
ราหูเป็นอุจจ์ ย่อมทำให้เรือนเกษตรอังคารมีกำลังเพิ่มขึ้น แต่ราหูอุจจ์นี้กำลังน้อยเพราะตกมุมอับแก่ลัคนา
ได้กำลังจากจันทร์ช่วยไว้บ้าง จึงเป็นอุจจ์ที่กำลังต่ำ ให้คุณไม่มาก
ดูไปเรื่องคู่เลย ปัตนิเป็นศุกร์พอดี ดูรวบปัตนิกับดาวความรักไปเลย
๖ ปัตนิ-ลาภะ-มรณะ คู่ครองเป็นผู้ประสพความสำเร็จทางโลกมีสมบัติเก่าพอสมควร(ราหูอุจจ์กำลังน้อย)
๒ อุจจ์ในเรือนศุกร์ ทำให้กำลังศุกร์เพิ่ม แสดงว่าคู่ครองของฝ่ายชาย ไม่ใช่ประสบความสำเร็จธรรมดา
แต่เป็นผู้มีฐานะดี สำเร็จในกิจการของตัวเอง ๖+๕(๘) เป็นผู้เข้าใจโลก ทำธุรกิจน่าจะไปได้ดี
๒ จตุโกณ ๖ ฐานะทางครอบครัวของคู่เป็นผู้ที่ฐานะดี เศรษฐีย่อมๆเลย (ถ้าจันทร์กำลังดีกว่านี้ก็เศรษฐีใหญ่เลย)
ดวงฝ่ายชายแต่งงานช้าหน่อยแต่ดาวคู่และครอบครัวไม่เสีย ได้แต่งแน่ยกเว้นไม่อยากแต่งเอง
ดาวปัตนิ+ศุภะ/วินาสน์ ดวงนี้แต่งงานมีครอบครัวแล้วจะรวย ด้วยเหตุผลทางกำลังดาวข้างต้น
ถ้ายังไม่แต่งยังไม่รวยเท่าไหร่ เพราะวัยยังไม่ส่งผล ถ้าแต่งแล้ววัยปัตนิจะทำงาน
แบบนี้เป็นต้น อันนีั้เฉพาะฝ่ายชายครับ ลองดูฝ่ายหญิงประกอบดูนะครับ

 

เป็นคำถามที่หนุ่มขายดีอย่างผมตอบง่ายนะ...555
ขอดูเฉพาะที่ถนัดคือมาตรฐานดาว

ดูพื้นดวงเจ้าบ่าว เป็นคนเคลื่อนไหวเร็วคล่องตัว หากคิดการใดจะให้สำเร็จก็จะเร่งโหมมุมานะ แต่บทจะขี้เกียจก็ไม่ทำเลยเหมือนกัน และเป็นคนไว้ตัวทีเดียว
การไว้ตัวและเป็นคนกล้าพูด อาจทำให้เจ้าชะตาต้องยุ่งยากอยู่เหมือนกัน

๑ได้ตำแหน่งอุจจ์ในภพลัคน์ ทำให้เจ้าชะตาเป็นคนที่ได้รับความนิยมนับถือและได้รับเกียรติจากบริวาร(มาจากเรือนปุตตะ)

ดูจากตนุเศษ เจ้าชะตาชอบสาวห้าว กล้าแสดงออก และสามารถเป็นผู้นำได้
ดังนั้นแล้วเจ้าชะตาจึงรักคู่ครองมาก (ดูจากตนุเศษกุมปัตนิ)

คู่ครองเป็นคนที่ร่าเริง(๖) รู้จักเอาใจ(๒) ใฝ่ดี(๕) และฉลาดรู้ทัน(๘)
คู่ครองไม่ได้ยิ่งใหญ่(๖ได้แค่อุจจาวิลาศ) แต่ครอบครัวมีฐานะ(๒ได้อุจจ์) และมีหน้าที่การงานดี(๘ได้อุจจ์)

วรยุทธ์ฝ่ายชาย
เพลงทวนพอใช้ได้(๖อุจจาวิลาส) ให้ความนิยม(๘อุจจ์) แต่รู้จักอดออม(๕)
ปรับเปลี่ยนท่วงท่าได้แคล่วคล่อง(๕+๖)

ดูเจ้าสาว
ตอนเป็นเด็กก็ไม่เท่าไร โตขึ้นมาแล้วจึงมั่นคงขึ้น
ดูศุภะคือคุณพ่อ(บางตำราว่า ศุภะของสาวคือแม่ ถ้าคุณghostlinuxมีความคิดเห็นตรงนี้ก็ขอให้แชร์หน่อย) ๓ ได้ตำแหน่งอุจจ์ สลับเรือนกับ๗ อาจจะทายว่าอยู่ๆพอคุณพ่อตั้งตัวได้ ชีวิตครอบครัวฝ่ายหญิงก็ดีขึ้นทันตาเห็น

เจ้าชะตาขยันกว่าเจ้าบ่าว แต่รู้จักเอาใจและมีลูกล่อ(๒)ลูกชน(๘)
ดูจากตนุเศษ เจ้าชะตาชอบหนุ่มอ่อนโยน รู้จักเอาใจ
คู่ครองเป็นคนรู้จักปรับตัว(๔) มั่นคงในรัก(๖เกษตร) และแสดงความรักบ้าง(๑นิจ)

วรยุทธ์ฝ่ายหญิง
มั่นคงในท่ารับ(๖เกษตร) พริ้วไหวตามท่วงท่า(๔)
มีกำลัง(๑+๖) มีเสน่ห์(๔+๖) มีไหวพริบ(๑+๔)
มีอ๊อกซิเจน(๖) มีเชื้อเพลิง(๔) มีประกายไฟ(๑) จุดเมื่อไหร่ก็ติด

......
ดูจากตนุเศษ

เจ้าสาวชอบให้เอาใจ เจ้าบ่าวไม่ชอบเอาใจ
เจ้าบ่าวชอบห้าว เจ้าสาวเฉยๆ
เจ้าบ่าวมองเจ้าสาวเป็นกดุมภะ
เจ้าสาวมองเจ้าบ่าวเป็นพันธุ

ถ้าเอาอารมณ์ ก็ไม่ลงกันเท่าไหร่
ถ้าเอาผลตอบแทนแก่กัน ก็เป็นคู่กันได้ดี

ผมเองก็หัดอ่าน ผิดถูกรับผิดชอบไม่ได้ .......

แต่ยินดีรับฟังความคิดเห็นของทุกท่านครับ

 

เรื่องพันธุ-ศุภะ ผมใช้ "พันธุ = แม่" "ศุภะ = พ่อ" เป็นพื้น
แล้วก็ดู อาทิตย์แทนพ่อ จันทร์แทนแม่ เรื่องเรือนเอาไว้ดูแบบเป็นโครงเรื่องกว้างๆพอ
ดาวเป็นตัวระบุรายละเอียดอีกทีครับ ต้องผสมเรือนกับดาวก่อนว่า น่าจะหมายถึงใคร

 

มาดูดวงคนจะได้ผัวได้เมียกัน

ท่านฯว่า เมื่อศรีถึงปัตนิ ต่อให้ขังบนปราสาท ก็หาทางเอากันจนได้ มาดูว่าจริงรึเปล่า

ดวงว่าที่เจ้าบ่าว อายุกำลังจะย่าง41ขวบปี เกิดวันศุกร์ ศรีจรคือ๕
๕เดิมกุม๖ปัตนิหนึ่ง
5จรทับตนุลัคน์สอง
5จรทับ๗เดิม 7จรเล็งลัคน์สาม

..................

ดวงว่าที่เจ้าสาว
อายุย่าง28ขวบปี ศรีคือ1(๑)
๔เดิมกุมปัตนิหนึ่ง
1จรเป็นอุจจ์ในเรือน๓ 3จรมาเล็งลัคน์ น่าจะแรงพอส่งผล สอง
1จรเป็นอุจจ์โยคหน้า๕ตนุลัคน์เดิม โยคหลัง5จร ไม่รู้ว่าแรงพอไหม แต่นับเป็นสาม

ใครอยากมีคู่กะเขาเสียที ก็ลองดูว่าจะได้ดังนี้หรือไม่ .... หนุ่มทิพย์เจอบ่อยจนเซ็งเลยอ่ะ.....

(ดวงจร เลือกเอาวันที่8 พ.ค.57 โดยไม่ตั้งใจ แต่งานแต่งมีประมาณมิ.ย.-พ.ค. เห็นว่าดาวเรียงกันได้ตำแหน่งดี เด็กเกิดวันนี้ จะมีปมเด่นชัดเจน)

 

คุณทิพย์ครับ ตารางตกการชำระของผมครับ(โพสท์ที่ 10380)

 

อ้อ...ลืมถาม
คนที่โดนผีฝรั่งเข้า พูดอังกฤษหรือเว้าอีสาน.....

....................