นิสัยของพระโพธิสัตว์ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

ใช่ถูกต้องเลยครับคุณรณ จักร ผมเคยอ่านของท่าน เมื่อ ๒๐ กว่าปีก่อนโน้นแต่จำแทบไม่ได้แล้ว ถือว่าสุดยอด ในยุคนี้เลยครับ ถ้าเปรียบในสมัยครั้งพุทธกาล สายท่าน เดินตามแนว พระมหากัสปะเถระ เลิศในด้านธุดงค์ ผมอ่านท่านพูดกับลิงบ้างฟังนก เอี้ยงมันคุยกันบ้าง เทพเทวดา มาฟังธรรมจากท่าน พระรดับนี้ ท่าเทียบเคียง ที่ทำได้ ผมว่า ท่านต้องได้จบกิจ พระอรหันต์รดับปฏิสัมภิทาญาณแน่นอนครับ มีรดับนี้เท่านั้น ที่พูดภาษาสัตว์ได้ พูดภาษาคนได้ทุกภาษา ฟังเสียงเทวดาพรหม คุยได้หมด แสดงธรรมหัวข้อเดียว ขยายให้กว้าง ได้อย่างอัสจรรย์ แสดงกว้างๆให้เหลือข้อเดียวได้ครับขอบคุณครับ

 

อย่าทะเลาะกันเลย เชื่อพระพุทธเจ้าที่เป็นจอมอรหันต์ดีที่สุด

ธรรมวินัยที่ตถาคตตรัสไว้ดีแล้ว จักเป็นศาสดาของท่านสืบไปเมื่อตถาคตได้ล่วงไปแล้ว

ครูบาอาจารย์ไม่ว่าระดับไหนก็ตาม พึงฟังได้ แต่อย่าพึ่งรีบเชื่อ ให้ตรวจสอบให้ดีก่อนว่าสอดคล้องกับพระพุทธพจน์หรือไม่

ถ้าสอดคล้องหรือปฏิบัติแล้วได้ผลดีจึงค่อยเชื่อ

ยิ่งพระโสดาบันนั้น พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า มีศีลบริบูรณ์ แต่มี สมาธิและ ปัญญาเล็กน้อย (ขนาดพระโสดาบัน ยังปัญญาเล็กน้อย แล้วปุถุชนนี่จะขนาดไหน) คือท่านไม่โกหกอยู่แล้ว แต่ยังเข้าใจไม่แจ่มแจ้งซึ่งอาจอธิบายผิดจากความจริงขั้นสูงได้ คือ ท่านแจ้งแก่ใจแล้วว่า สิ่งใดเกิดขึ้นสิ่งนั้นดับ แต่ยังยึดติดในกายใจนี้อยู่ว่าเป็นของดี ยังนำสุขมาให้ได้บ้าง ซึ่งยังถือว่าเรียนไม่จบหลักสูตรการพ้นทุกข์ ต้องเรียนรู้ต่อไปจนเห็นว่า กายและใจไม่ใช่ของดีเป็นทุกข์ล้วนๆ แปรปรวนตลอดเวลา ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สิ่งที่ดี ที่ควบคุมได้ เมื่อนั้นจิตใจจะเบื่อหน่าย และคลายความยึดถือ กายใจซึ่งเป็นก้อนแห่งทุกข์นี้ และไม่หลงยึดกายใจตลอดไป เมื่อนั้นแหละก็จะเห็นสิ่งที่ไม่เกิดไม่ดับคือพระนิพพานอย่างแจ่มแจ้ง นี่ จึงจะเรียกว่ามีปัญญาบริบูรณ์จบหลักสูตรเป็นพระอรหันต์ พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด อันเป็นแดนแห่งทุกข์ได้

หลวงพ่อพุธเคยกล่าวไว้ว่า ถึงแม้ผู้ที่ได้เป็นพระอรหันต์แล้วก็ตามถ้าไม่ได้เคยบำเพ็ญบารมีมาเพื่อสอนสัตว์โลก บางทีรู้ธรรมชัดแจ้งเต็มภูมิอรหันต์ ก็ไม่อาจสอนผู้อื่นให้เข้าใจตามได้ง่ายๆ เพราะไม่รู้จะเรียบเรียงหรือเรียกชื่อสภาวธรรมยังไงดีเพื่อใช้สอนให้เข้าใจง่าย บางทีท่านพูดตามที่ท่านเข้าใจ แต่คนฟังตีความไปอีกอย่างเป็นต้น เปรียบเหมือนไปกินอาหารรสอร่อย แล้วให้อธิบายรสเป็นคำพูดก็ยากเช่นกัน ถ้าไม่เก่งจริงๆก็ทำได้ยาก

ต่างจากพระพุทธเจ้าที่บำเพ็ญบารมีมาอย่างต่ำ 4 อสงไขยกับหนึ่งแสนมหากัป ซึ่งท่านผ่านมาทุกรูปแบบจึงมีประสบการณ์ในการสอนได้อย่างถูกต้องเชื่อถือได้แน่นอน

ส่วนการทำบุญด้วยสิ่งที่เหมาะสมนั้นเป็นความดีในตัวอยู่แล้ว ขอให้ได้ทำเป็นดีทั้งนั้น

 

ท่านเล่าว่า เป็นปฏิสัมภิทานุสาสน์ คือ มีส่วนแห่งปฏิสัมภิทาทั้ง 4 อย่างละนิดหน่อยเท่านั้น ไม่เป็นปฏิสัมภิทาอย่างเต็มภูมิ เพราะท่าน (หลวงปู่มั่น) พึ่งจะเริ่มปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้า ในสมัยพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันนี้เท่านั้น และบำเพ็ญบารมีอย่างเต็มที่เพื่อพระโพธิญาณมาแค่ 2 พันกว่าปีเท่านั้น แล่วท่านก็เปลี่ยนมาเป็นสาวกภูมิ จึงทำให้บารมีไม่มากพอที่จะได้ ปฏิสัมภิทา 4 อย่างเต็มภูมิ
(ในฝันตอนท่านบวชใหม่ๆ ท่านฝันว่าได้ขี่ม้าขาวควบไป ถึงสถานที่หนึ่งเห็นตู้พระไตรปิฎกแต่ไม่ได้เปิดอ่าน ก็ตื่นเสียก่อน ท่านแปลนิมิตว่า เห็นตู้คือพอจะได้บ้าง แต่ไม่ได้เต็มภูมิเหมือนเปิดตู้)

ขนาดไม่เต็มภูมิ ท่านยังมีอานุภาพขนาดนี้ ถ้าเต็มภูมิจริงๆ แบบพระอรหันต์สมัยพุทธกาลจะขนาดไหน และพระพุทธเจ้าผู้ซึ่งเป็นบรมครูของพระอรหันตสาวกทั้งปวงจะมากกว่านี้ขนาดไหน

 

g,njv8noz, ขอบคุณครับ ถูกต้องเลยครับ เมื่อคืนกับจากขนของมาวัด เลยตอบไม่ได้ เน็ตหลุด ตก ๑๐ เที่ยว มาตอบตอนเย็น การเรียนการพูด ใครก็ฝึกได้ แต่การทำนั้น ยากมากครับ แค่พระโสดาบัน มันคำนวนกำลังใจไม่ได้ครับ ถึงจะเข้าถึง ตอบมีเหตุผลเข้าใจง่ายดีครับ

 

ขอบคุณครับที่นำมาเล่าให้ฟังอีกครั้ง แต่ระดับเดียวกัน ความฉลาดสามารถ ย่อมไม่เท่ากันครับ แต่ผมก็อ่านอีกหลายท่าน ตัวอย่างหลวงปู่แหวน หลวงปู่หลุย ล้วนแล้วสุดยอดครับ แม้ประวัติ หลวงปู่มหาบัว อย่างที่เคยกล่าวมานานแล้ว ไม่ว่าลูกศิษย์ ของไหน มันก็มีทั้งดีและเลว แม้ลูกศิษย์ หลวงพ่อ ฤาษี ที่สัมผัสมา มีทั้งเสือสิงห์ กระทิงแรด มีทุกรดับ ฉนั้นจึงต้องแยะแยะครับ

ไม่ว่าสายไหน ที่บวชยังไม่เข้าถึงธรรม ย่อม เดินทางผิดก็ เป็นธรรมดา ถ้าผิดมาก เราก็ถอยออก ไม่ไปสมาคมด้วย ถ้าเข้าถึงธรรมแล้ว จะสายไหน ก้ยอมรับ โดยดุษดี แม้คำสอนพระพุทธเจ้า ถึงทำไม่ถึง ท่านก็จะเข้าถึงกันเสมอมา ถือว่าเป็นลูกตถาคต พ่อเดียวกัน ไม่แบ่งสายหรือพวกไหน นี่คือลูกพระตถาคตอย่างแท้จริง ขอให้เจริญในธรรม

 

ขอเล่าประวัติในการทำความดีควบคู่ กันไปครับ ในเมื่อพระสงฆ์สาวก นำมาสอน ซึ่งเป็นคำสอนของพระพุทธองค์ เราจะเดินรอยตามพระพุทธองค์ และเดินรอยตามพระเจ้าอยู่หัว พระโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลาย พระปัจเจกะพุทธเจ้า พระอริยสงฆ์ และพระสมมุติสงฆ์ที่ดี ถึงจะไม่ถึงเศษเสิ้ยวละอองของทุกๆพระองค์ก็ตาม ของพระองค์ก็ตาม


พ.ศ.๓๕-๓๖ ผมได้บอกบุญ นำของไปแจก เมืองกาญ อุทัย สุพรรณ หลายวาระ มีเสื้อผ้า ขนม แปรงยาสีฟัน ของกิน แท๊งน้ำ ตุ่มน้ำ นำกฐินผ้าป่า ไปทอดอิสาน เหนือ ภาคกลาง ไปเป็นขบวน ผมมีโอกาศ ได้สนอง แผ่นดินเกิด ได้บำรุง พระศาสนา ถือว่าทั้งชาติ ศาสนา พระมหากษัษย์ ถึงไม่ได้ ไปถึงตัวของพระองค์ก็ตาม ถือว่าได้รับใช้ ใต้ละอองทุลีพระบาท ของพระองค์แล้ว ผมได้ยินพระองค์ท่านตรัส ทางทีวี ท่านกล่าวว่าไม่จำเป็นต้อง ปิดทองหน้าพระ ถ้ามีคนปิดทองหน้าพระอย่างเดียวมันจะเต็มองค์ไม่ได้ ฉนั้นมันต้องมีคนปิดทองหลังพระบ้าง ถึงจะปิดทองเต็มองค์ และการที่มีประเทศชาติ เราทุกคนต้องช่วยกันไม่ใช่ บุคคลใดบุคคลหนึ่ง เพราะทุกคน เป็นคนไทย เป็นเจ้าของประเทศทุกคน


ในปี ๓๗ ผมได้สร้างกุฏิสงฆ์ ขึ้น ๔ หลัง นำช่างมาจากนครปฐม โดยเอาช่างไปทิ้งไว้ ที่ตะเพินคี่ อ.ด่านช้าง ใกล้ห้วยขาแข้ง ผมไม่เคยไปดู เมื่อสั่งงานเสร็จ ก็ลงมาดำเนินงาน สร้าง พระอุโบสถต่อ ที่วัดบ้านกล้วย ต.วังยาว อ.ด่านช้าง แล้วเตรียมงาน พิธีวางศิลาฤกษ์ เดือนมีนาคน ซึ่งผมไม่เคยจัด ไม่รู้เรื่องเลยว่างั้นเถอะ ทำอย่างไรไม่รู้สักอย่าง จึง ดำเนินการ ศึกษา จากผู้รู้ทันที หลายคนหลายที่ หาความรู้ ผู้คนต่างๆ เมื่อเตรียมการดีแล้ว เพราะตกลงกับเจ้าอาวาสในสมัยนั้น กับชาวบ้าน เมื่อผมสร้างแล้ว ห้ามยุ่ง เกี่ยวกับการเงิน จะสร้างโบสถอย่างเดียว ถ้าผมหาเงินมาได้ การบอกบุญจับเสือมือเปล่าทั้งๆไม่เคยมีเงิน ในกระเป๋ยเลย นอกจาก มีไม่กี่ร้อยบาทส่วนตัว

ขอเล่าลัดๆ ผมให้เจ้าอาวาสดำเนินงานในการขอ วิสุงคามสีมา ติดต่อ ขออนุญาติ สร้างโบสถ กึ่งปูนกึ่งไม้ ต่อไป ลูก หลานจะไม่มีไม้โบสถให้ดูกันแล้ว เมื่อเจ้าอาวาส ขออนุญาติ กันภายในเสร็จ เรียบร้อยแล้ว ท่านได้ เดินทางไปนาสวน อ.ศรีสวัส ได้นำช้างมาชักลากไม้ ได้เสาร์ โบสถ แค่ ๑๒ -๑๓ ต้นเท่านั้น ขอเอ่ยถอยหลังนิดครับ คือเมื่อผมไปบอกผู้ใจบุญ ว่าจะสร้างโบสถ ท่านอยู่สัตหีบ ท่านรับทันที ได้ให้ผมไป เปิดบัญชี แล้วโอนเงินมาให้ ๑๐๐,๐๐๐ แสนบาท หนึ่งแสนบาท เป็นเบื้องต้น ผมใจชื้นทันที เริมดำเนินงานทุกด้าน

 

การเตรียมงานนั้น ช่างเหมะเจาะลงตัว นึกว่างานจะไปได้ดี ได้มีอิทธิพลท้องถิ่น ไปแจ้เจ้าหน้าที่ของ จ.อุทัยธานีมาจับไม้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ มากันเยอะมาก เรือบินฮอร์คอ๊ปเตอร์ บินว่อน นักข่าวสื่อออกทางทีวี หนังสือพิม จริงๆ เจ้าหน้าที่ ขออนุญาติกันแล้วภายใน แต่พวกมันเล่นเอา เจ้าหน้าที่ทางอุทัยมาเล่นงาน จับช้างไปทาง อ.ลานสัก ขนไม้ขึ้นรถ ไป ส.พ. ๒ เอาไปไหนไม่รู้อีกเลยครับพี่น้อง เดือดร้อนกันไปทั่ว มึนตึบ เมื่อเป็นเช่นนี้ ยิ่งทำให้เราใจตก มากพอควร ผมเลยสั่ง เจ้าวาสดำเนินการต่อ ให้เจ้าอาวาส จัดการหาหนทางไปเอาช้างคืน ให้เจ้าของเดิม ท่านก็ติดต่อท่านผู้ใหญ่หลายๆที่


ผมไม่ย่อท้อ โทรบอกท่านที่เกี่ยวข้องในการสร้างอุโบสถ เปลี่ยนแปลงทันที ไม่ต้องรังเล ในการทำงาน เมื่อพวกมันแกล้งทำไม่ได้เลยหาวิธี เป็นโบสถ ตึกทั้งหมด ผมเข้าจังหวัด นครปฐม ไปโรงท่อ รุ่งโรชน์ เพราะน้องเขยทำงานที่นั่น จึงให้ติดต่อให้ ผมเข้าไปคุย โดยที่ยังไม่ได้กินข้าวเช้า แล้ว นั่นก็จะ ใกล้ ๕ โมงเช้าแล้ว เมื่อเล่าเสร็จ และสั่งท่อ ที่จะมาสร้างโบสถ เป็นเงินเกือบแสนบาท เจ้าของโรงงานบอก ท่านครับ ผมขอถวายท่านทั้งหมดเลยครับ พร้อม คนงาน รถสิบล้อ ไปส่งถึงที่ ท่านทั้งหลายคิดดูครับ เราก็ยังมิได้กินข้าวเช้า เจ้าของโรงงานนำข้าวมาให้ฉัน มันฉันไม่ลงคอ

ความที่ปลื้มปิติยินดีดีใจ สุดเหลือกำลัง อย่างแรงเกิด นึกไม่ถึง เจ้าของโรงงาน จะเกิดศรัทธาถึงเพียงนี้ และไปส่งให้ด้วย หลังจากนั้ง เจ้าของท่อ สั่งขน ท่อ ทุกขนาดครบ คนงานขนขึ้นรถสิบล้อ พร้อมไปส่ง ที่ อ.ด่านช้างทันที เดือนมีนาคนเป็นเดือนที่แห้งแล้ง อยู่ในหน้าแล้ง เมื่อไปถึงบ้านกล้วย ฝนก็ตกรับไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยครับ เมื่อขนของลงเสร็จ ก็ไปวางแผนต่อ ว่าจะเอาอย่างไร สั่งรถมาดันที่ เตรียมวางงาน วางศิลาฤกษ์ ไปกราบหลวงพ่อสังวาลย์ วัดทุ่งสามัคคีธรรม เล่าเรื่องจะสร้างโบสถให้ท่านฟัง ท่านบอก สร้างจริงก็เสร็จจริง สร้างไม่จริงก็เสร็จไม่จริงครับ


หลวงพ่อท่านไม่แข็งแรง และไม่รับนิมนต์เลยไปนิมนต์หลวงพ่อสุบิน วัดหัวเขา และเลยไปนิมนต์ หลวงพ่อพยุง วัดบรรลัง ไม่ไกลจากหลวงพ่อสังวาลย์นัก ท่านก็พูดเหมือน หลวงพ่อสังวาลย์เลยครับ ทำจริงเสร้จจริง เหมือนคำพูดเดียวกันเลย ผมเลยนิมนต์ท่าน ท่านตอบรับทันที ไปเป็นประธานในการ วางศิลาฤกษ์ และหล่อพระ จัดงาน ๒ วัน เรียกว่าทุกวัน ผมออก ทุกวัน กลับถึงวัด หลายทุ่ม แทบจะไม่อยู่ติดวัดเลย หาเจ้าภาพ ประธานหล่อพระ ได้ ๔ ท่าน หล่อ สมเด็จ องค์ สมเด็จองค์ปฐม หน้าตัก ๓ ศอก ทรงชินราช องค์ปัจจุบัน ทรงสุโขทัย ๒ ศอก พระโมคคันลาสารีบุตรสูงเท่าคน รวม ๔ องค์ ไปติดต่อช่าง นครปฐมดรงงานหล่อพระ ไปหลายที่กรุงเทพ พยุหะ บ้านโป่ง นครชัยศรี มีแต่เรียก แพงๆทั้งนั้นเลย พอดีกับมานครปฐมอีก มีช่างชื่อตี๋ เปิดโรงงานใหม่ ๔ องค์เรียกแสนเก้า หมื่น ที่อื่นเรียกหลายแสน เฉพาะองค์เดียว สามสี่แสน บาท แต่ที่นี่ ถูกสุดๆเลย

เขาเอารูปแบบให้ดู จึงกลับ วัด ให้ประชุมชาวบ้าน เตียมวางงาน ทันที โชคเข้าข้าง ไปที่ไหน มีคนรับเป็นเจ้าภาพ ง่ายเหลือเกิน จากร้ายการเป็นดี หาเจ้าภาพซ้อน จึงปรึกษาเจ้าภาพเดิมดีไหม ท่านตอบน่าชื่นใจ ได้เลยท่านดีซิ ได้เงินเยอะดี จะได้สร้างเสร็จเร็วๆ ประมาณ ๔ เจ้าภาพ ในการหล่อพระ ใจชื้น ตื่นตันใจมากเลย มีคนมาสนับหนุน อย่างนี้ ซึ่งที่นี่ เงินเข้าวัดไม่เคยได้ เงินแสนเลย สักปีเดียวครับ เต็มที่ แปดหมื่นปีเดียวเท่านั้นในสมัยนั้นนะครับ เดี๋ยวมาเล่าต่อครับพักผ่อนก่อนครับ

 

พระพุทธเจ้าบำเพ็ญบารมีมา ๔ อสงไขย กำไลยแสนมหากัป ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ มากมายนัก ทรงกระทำพระบารมีทุกประเภท ไม่ย่อท้อ แม้พระเทวทัต ปราถนามาด้วยกัน ยังอิจฉาริษยา พระพุทธองค์ การบำเพ็ญของท่าน ได้แค่พระปัจเจ กะพุทธเจ้า มีคติแน่นอนแล้ว ในส่วนของพระโพธิสัตว์ ท่านต้องขยันเกิดขยันตาย ในระหว่างคนกับสัตว์ เท่านั้น ในการสร้างบารมี ไปเกิดเป็นพรหม เทวดา เขาไม่คิดให้ พุทธภูมิทำไม่ได้ ต้องเกิดทำบารมี คนกับสัตว์เท่านั้น ส่วนสาวก ไปเกิด เป็นเทวดา พรหม สร้างบารมีได้ พุทธภูมิไปเป็นครูเขา มันจึงเกิดมาก ตัวอย่าง ฝึกทิพยจักษุญาณ ต้องได้ เป็นแสนชาติขึ้นไป กรรมฐาน ๔๐ มหาสติปัฏฐาน ๔ ต้องได้หมด และต้องคล่อง นับแสนชาติขึ้นไป อารมย์ พระอริยะต้องเรียนรู้ อารมย์ พระโสดาบัน สกิทาคา อนาคามี ถึงพระอรหันต์ แต่ไม่ได้ตรัสรู้ ถ้าไม่ลาพุทธภูมิ

ต้องเกิด แต่ละอย่าง ไม่ใช่เฉพาะชาติเดียว ตัวอย่างเกิดเป็นช้าง ก็ไม่รู้กี่ภพกี่ชาติแล้ว พระโพธิสัตว์ เกิดเล็กไม่เกินนกกระจาบ นกกระจอก ใหญ่ไม่เกินกว่าช้าง ถ้าเกิดเป็นคน ตั้งแต่คนจนที่สุด จนถึง แม่ทัพ นายกอง พ่อค้า ชาวนา พระเจ้าแผ่นดิน ถึงพระเจ้าจักพรรดิ์ราช นี่แค่เอ่ยตัวอย่างนิดหน่อยเท่านั้น และชาติสุดท้ายต้องบริจาค ลูกเมียให้เป็นทาน ไม่งั้นไม่มีสิทธิได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า มันเป็นกฎ ของพุทธภูมิในการสร้างบารมี ถ้าหันไปเปราถนา เป็นพระปัจเจ พระสาวกได้ครับ หรือลานั่นแหละ


ถ้าท่านทำได้สำเร้จ รอคิวมาตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้า ต้องประชุมชาดก ตถาคตเคย เกิดเป็นนก เป็น เป็นพยาเหี้ย นกพิราบ นกเขา เอี้ยง กวางเก้ง ม้าช้าง ชื่นนั้นชื่อนี้ นี่ยกตัวอย่าง มันยกตัวอย่าง มาไม่หวัดไม่ไหว ประชุมชาดก ๕๐๐ ชาติ เล่าถึง ตอนบำเพ็ญ บารมี พระเจ้า ๑๐ ชาติ เอาแค่ ตอนท่านบำเพ็ญ เป็นพระมหาชนก ก็ ๕๐๐ ชาติแล้ว ตกน้ำ มา ๕๐๐ ชาติ เป็นกษัตย์ทุกชาติ แค่หนึ่งใน ๑๐ ชาติ ท่านยังเกิดถึงเพียงนี้ กัปเดียว เกิดไม่รู้กี่ร้อยกี่พันชาติแล้ว ถ้ากำไลยแสนมหากัป จะขนาดไหนหนอ รวมยอด แล้วอีก ๔ อสงไขย อีกกำไลยแสนมหากัป ๑ อสงไขย นับไม่ได้ คำนวนไม่ได้เรียกว่า ๑ อสงฆ์ไขย

การเรียนได้แค่รู้ แต่มันต้องทำด้วย ปฏิบัติ ด้วยมันถึงจะรู้จริง ตำราเปรียบเหมือนดิน เป็นแนวทางเดิน ของการปฏิบัติ เรียน ด้วยปฏิบัติด้วย พวกนี้เก่งครับ แค่ถ้าเรียนรู้แค่นำไปปฏิบัติ จะรู้เฉพาะ บางทีอาจเรียกชื่อไม่ถูก ไม่เหมือนในตำรา เรียกคนละอย่างก็มี การปกิบัติ เปรียบเหมือนฟ้า มันไม่เหมือนการเรียนครับ จึงใช้ศัพไม่ค่อยเหมือนกัน เปรียบเสมือน ภาษาบ้านนอก กับภาษาในกรุง ในเมือง ผมไม่ได้พูด อย่างเดียว นำไปประพิติปฏิบัติ ถึงยังไม่ได้อะไร แต่ก็ไม่คิด จะไปทำร้ายใครก่อน เพียงแต่ พูดเสริม แล้วมาต่อ ให้สูงขึ้น ถ้าไม่รู้ จริงก็จะไม่พูดเหมือนกัน และได้ขออภัยไว้ ด้วยเสมอมา ถ้าพูดผิด หรือไม่ละเอียดพอ

 

มาว่าต่อที่ค้างไว้เมื่อคืน ตก ๒๐ ปีแล้ว เล่าเข่าๆ ผู้ใหญ่บ้านมาถามว่า ได้ขออนุญาติ หรือยังผมตอบ เรียบร้อยหมดทุกอย่างแล้ว แล้วใครออกแบบผมบอก ออกเอง คุยกับช่าง เอาตามใจนึกในสมัยนั้นครับ ช่างมาหา ๑๐ กว่าช่าง ไม่มีใคร เข้าใจเลย แม้บางคน เอาภาพ ที่ก่อสร้างโบสถมาให้ดู ยังไม่เข้าใจ มีอยู่ช่างหนึ่งจำชื่อไม่ได้ เอาภาพมาให้ดู ๓๐๐ถึง๔๐๐ ภาพ แต่บอกจะสร้างแบบนี้แต่ไม่เข้าใจ ผมเลยไม่เอาครับ พอไปเจอ หลวงพี่ อ๋า อยู่สุโขทัย ท่านจบกรมศิลปากร ได้มโนมยิทธิด้วย เล่าปุ๊บ แกวาดรูป พ๊บๆเลย เสร็จท่านบอก โบสถหลังนี้ ตามที่ผมบอก ต้องมี ศิลปะ ๔ ภาคของไทยใส่เข้าไป ถึงจะครบสูตร แต่ถึงเวลาจริงๆ ลดไปเยอะครับ

อุโบสถหลังนี้ไปทำอะไร เกี่ยวกับที่สร้างโบสถ ฝนจะตกรับตลอดครับ เป็นเรื่องที่แปลกมากๆครับ ไม่ว่าเอารถไถไปดัน ซื้อของมาไว้ และถึลเวลา ในวันวางศิลาฤกษ์ มีพระมามากมายทั้งพระไทย และพระไทยกระเหรียง ชาวบ้านหลายหมู่บ้าน ผมได้ ทำ แผ่นเวลาวางศิลาฤกษ์ หลวงพ่อสุบินให้ฤกษ์ มา ท่านมาไม่ทันถึงตก ๕ โมงเย็น มาถึง แต่ฤกษ์ บ่ายโมงกว่า ก่อนจะเที่ยง มีเมฆครึ้ม ท้องฟ้า คุมบริเวณหมด ฝนเริ่มตก แม่ชี วัด ใหม่ฉายหิรัญ ( วัด ก.ม. ๘ ) ตะโกนมา ให้เอาของเทวดานี่แหละ ทั้งเจ้าอาวาส พระที่เป็นประธาน ก้เลยนิมนตืแม่ร่วมด้วย ฝนตกหนักจริงๆ วางศิลาฤกษ์ ได้พักหนึ่งฝน


ตกมาประมาณ เกือบชั่วโมงแรงมากๆ สะใจจริงๆ เอาฤกษ์ ของเทวดานี่ชุ่มฉ่ำไปหมด เดือนมีนาคม ๒๕๓๗ การถ่ายรูป ของชาวบ้านธรรมดา มีเหตุภาพอัศจรรย์มากมายติดที่ในรูป จึงไปอัดเก็บไว้ เป็นร้อยภาพแจกไปก็มี วางศิลาฤกษ์ ผ่านไป บวงสรวงบายศรีชุนี้ หมื่นไม่อยู่ หลวงพี่อ๋ากับฆาราวาสที่ จ.สุโขทัยมาทำให้ วันที่ ๒ วันหล่อพระ คณแม่ท่านสงเคราะ ที่โคราช อ.ปักธงชัย มาทำให้ บายศรี ๙ ชั้น วันหล่อพระนี้ ท้องฟ้าครึ้ม จึงนำรูป ไปบูชาบอกพระ พรหม เทวดา เจ้าที่เจ้าทางเจ้าป่าเจ้า เขา ขออย่าให้ฝนตกเลย ให้หล่อพระให้เสร็จก่อนค่อยตก อากาศดีมากๆครับฝนก็ไม่ตกด้วย ใกล้เพล หลวงพ่อพยุงเดินทางมาถึง ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญมาก่อน แล้วลูกสิษย์ หลวงพ่อมุ่ยวัดดอนไร่ ด้วยครับ แต่ หลวงพ่อสังวาลย์ หลวงพ่อพยุง และหลวงพ่อสุบิน เป็นศิษย์ หลวงพ่อวัดปากน้ำ รุ่นเดียวกัน ท่านเคยเล่าให้ฟังครับ มาต่อเรื่องสร้างหล่อพระต่อครับ

วันนั้นมีคนถวายปัจจัยพอสมควร ถวายทองคำหล่อพระหลายสิบบาท จึงให้หลวงพ่อพยุง เทใส่เบ้าที่หลวม การหล่อพระดำเนินไปด้วยดีครับ ฝนตกเป็นฝอยๆ แค่รับรู้ แสดงให้ปรากฎ เมื่องานเสร็จ ตกกลางคืน ลิเกกับลำวงไม่ทันเลิก ทั้งลมทั้งฝนตกกระหน่ำมาลืมหูลืมตาไม่ขึ้น เหล็กเต๊น พัง งอ ลาบพนาสูน ดีจริงๆกวาดเรียบวุฒิ สอาดตา และมีคนมารายงานว่า ฝนน่ะที่ตกบ่อยๆนี้ ตก เป็นระยะแค่ ๑๐ กว่ากิโลเท่านั้นที่อื่น ยังแห้งแล้งเหมือนเดิม นี่คือ สิ่งอัศจรรย์ ตั้งแต่มีการทำการสร้างโบสถหลังนี้เป็นต้นมา เทพเทวดา พรหม พระท่านสงเคราะแท้ๆ ลำพังเรา คงสร้างไม่ได้แน่นอน และบรรดาชาวบ้านทั้งหลาย ช่วยกัน โดยเฉพาะ พวกและคณะเจ้าภาพ กำลังใจท่านดีจริงๆครับ

 

ขนาดอยู่ใกล้ป่าใกล้เขา ก็อุตส่าต์มาช่วยกัน โดยเฉพาะกำลังใหญ่ ชาวตลาดด่านช้าง และชาวสัตหีบ ชลบุรี และอีกหลายที่ เมื่อเสร้จงาน ผมให้ คณะด่านช้าง และชาวบ้าน เป็นกรรมการฝายการเงิน ตอนเบิกจ่ายสร้างวัด ให้เป็นขั้นตอน มีผมเจ้าอาวาส ผู้เบิกจ่ายสร้างโบสถ และให้เซ็นให้ สองฝ่ายถึงจะเบิกได้ครับ ทำบัญชีรายรับและรายจ่าย ฝ่ายละเล่ม หลวงพี่อ๋าไม่รับสร้างเพราะมีงานเยอะ ท่านบอกถ้าท่านทำ ปีเดียวเสร็จ ฉลองให้ด้วย


ด้วยหาช่างหลายที่ไม่อาจ เข้าใจ ในการออกแบบของผม จึงเข้ามาติดต่อช่างเชียรลูกช่างชิด ที่วัดท่าซุง บอกปุ๊บ เขาวาด ภาพให้เราเลยครับ แล้วเขารับ ในสมัยนั้นค่าแรงช่าง วันละไม่ถึงร้อยบาท ผมบอก ให้ช่างเชียรไปคุม และทำ ให้วันละ ๓๐๐ บาท เมีย ๑๕๐ บาทต่อวัน ๒ คนผัวเมีย วันละ ๔๕๐ บาท ผมเรียกรับสมัคงาน ชาวบ้านที่ไม่เป็นช่างมาฝึกและทำงาน วันละ ๕๐ บาท ได้เงินได้บุญด้วยครับ วันหนึ่งมีชาวบ้านมาทำงานหนุ่มสาว ก็เกือบ ๒๐ คนถึงตก ๓๐ คน เดือนหนึ่งค่าแรงสมัยนั้น ตกเดือนละ เกือบ ๓ หมื่นบาทครับ วางศิลาฤกษ์ทิ้งไว้มาสร้างตอนเข้าพรรษา ปี ๓๗ จึงลงมือสร้างโดยไม่หยุด ลุดหน้าไปด้วยลวดเร็ว ทำไปคิดกันไป ช่างเชียร สร้างโบสถหลังนี้ เป็นหลังแรกของเขา ไม่เคยรับงานที่ไหน เคยสร้างวิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร ร่วมกับพ่อเขา และมณฑป ผมบอกสบายมาก

สร้างมณฑปได้ โบสถเรื่องเล็ก ช่างหลายที่มาดูกันเยอะ เพราะไม่เคยเห็นแบบ โบสถหลังนี้มีเสาร์หาร เป็นรายเรียง ใหญ่กว่าโบสถ ๒ หลัง ความยาวนะ ด้านในก็ใหญ่กว่าโบสถ ทั่วไป เล็กน้อย ของด่านช้างแล้ว อย่างน้อย ก็ ๒ ศอกแหละครับ ด้านยาวนะ เมื่อทำถึงวางโครง ชั้นแรก เทคาน ผมให้ก่อ ด้านข้าง ตอนฐานบัว บอกช่าง ถ้าเราใช้ ก่ออิฐบล๊อก ๒ ก้อนขนาบ ปล่อยช่องตรงกลางสัก ๓ นิ้ว แล้วเทปูนลงไป จะดีไหม ช่างบอก ได้ครับหลวงพี่เณร อิฐบล๊อก ไม่แข้งแรง แต่ไอ้เราที่เทปูนตรงกลาง จะแข็งแรงกว่า อิฐ ใครมาเห็นเข้าบอก ไม่เคยพบเคยเห็นสร้างโบสถแบบนี ใช้อิฐบล๊อก

ผมตอบไม่เคยเห็นก็เห็นซ่ะ แล้วอธิบายให้เขาฟัง ก็เห็นดีด้วย มันแข็งแรงตรงกลางไงครับพี่น้อง เรื่องอัศจรรย์เกี่ยวกับสร้างโบสถหลังนี้มากมาย ฝนตกรับหลายสิบครั้งครับไม่น่าเชื่อเลย

 

ผมคิดมาหลายสิบปีไม่คิดที่จะอวดใครครับ แม้หลวงพี่วิรัช วัดธรรมยานมาหา ให้เขียน ลูกศิษย์บันทึก เหมือนหลายๆท่าน ของหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง ในความอัศจรรย์ของท่าน และประสพการณ์ ต่างๆ ผมไม่เอาตราบใด เรายังไม่ ไม่ได้อะไร หรือมีคุณธรรมอะไร จะไม่เขียนเป็นอันขาด เพราะผมจำคำสอนของ ท่าน ว่า จะช่วยเหลือคนอื่น ต้องช่วยเหลือตนเองก่อน จะสอนคนอื่น ต้อง สอนตัวเองก่อน ผมตัดสินใจ ไม่เขียน ทั้งๆมีประสพการณ์ เยอะแยะ เรื่องจริงด้วย เขียนหนังสือ ๕ เล่มใหญ่ๆยังไม่พอเลย

จึงปล่อยมา ๒๐ ปี เมื่อคนไปถาม ผมในเว็ป บางคนมาหาเรื่อง หรือเอาความ รู้ ที่เรียนมาเบ่ง มาข่มก็มี พีเอ็มมาถาม ว่าตัวเองอวดเก่ง ตอนหลังผมถามการเข้าเน็ตให้บอกผม โทรถามครับ แต่ยังทำไม่ได้อีกเยอะ ผมไม่เป็นภาษาอังกฤษ ไม่ได้เรียนมา ผมเรียนมาแค่ ป.๔ เท่านั้น ผมอาศัยประศพการณ์จริง ตำราเป็นส่วนน้อยครับ และความรู้ที่ไปกราบครูบาอาจารย์ หลายสิบพระองค์ เข้าไปดู ในกระทู้ต่างๆ ตอนในพรรษานี้ จึงเข้าไปตอบ แต่ละกระทู้ ส่วนใหญ่ จะเรียนมา บวกกับความคิดตนเอง เลยตอบไปทั่ว มั่วเยอะ ปีนี้ ที่ผมเข้าไป ก็เป็นร้อยๆกระทู้แล้ว ที่ผมมาคิดมุมกลับ เพราะคนเอาตำรามา มาเบ่งบ้าง มาข่มบ้าง มาแกล้งกันบ้าง ว่ามีความรู้ เลยทำให้ผมเข้าไปตอบ


ในส่วนต่างๆ ที่มีประสพการณ์จริง ไม่ได้อิงนิยาย และโต้ตอบหลายที่ ถ้าไม่ชอบก็ต้องขออภัยด้วย ผมโดนเยอะพอ สมควร ทั้ง นักบวช ผมเรียกไอ้ เสือเหลือง บางตัว มันร้ายยิ่งกว่าฆราวาส อีกนะจะบอกให้ อาศัยผ้าเหลืองหากิน ไอ้เสื้อลาย บางคนก้ไม่เบานะ ที่ผมโดนมา เล่า ป็นวันก็ไม่หมด หลีกได้ ผมก็หลีก หลีกไม่ได้ ก้ต้องพูดกันหน่อยครับ เฮ้อ ออกนอกเรื่องไปแล้ว

 

โมทนาสาธุที่นำภาพท่านมาให้อ่านและกราบ มีคนรัก ก็ย่อมมีคนเกลียดเป็นธรรมดา ไม่มีใคร ในโลกนี้ มีรัก และเกลียดหมดทุกคนหรอกครับ แต่จะ ไปในด้านไหนมากกว่ากันเท่านั้นเอง แม้องค์สมเด็จพระบรมครู ยังมีคน กลั่นแกล้ง คิดฆ่า และหาเรื่องตลอด แม้พระองค์จะสิ้นกิเลสแล้วก้ตาม ยังมีเดียรถีมากมาย ที่มา ทำร้ายพระองค์ พระสาวกก็เหมือนกัน หลวงปู่หลวงพ่อ ในปัจจุบัน ก็เช่นเดียวกัน แต่เราแค่คนธรรมดา จะไม่มีเทียวหรือ

เอาปัจจุบัน หลวงปู่หลวงพ่อ ต่างๆ ในทุกภาคของประเทศไทยเรา ไม่ว่าจะเป็นสายหลวงปู่มั่น ทุกๆพระองค์ ที่มีคุณอันประเสริฐ แก่ ชาติ สาสนา พระมหากษัษย์ ที่ในหลวงท่าน ไปกราบ เห็นในทีวี ออกบ่อยๆ หลวงพ่อสด และศิษย์ในสาย ภาคเหนือภาคใต้ อิสาน ออกตก เห็นพ่อหลวง ท่านไปกราบสนนาธรรม แม้หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง องค์พ่อหลวงเคยนิมนต์เข้าวัง เพื่อสนทนาธรรม เดือนละครั้ง สมัยเมื่อท่านมีชีวิตอยู่ เราเจริญรอยตามพระองค์ท่าน แค่เศษ ละอองพระบาท ก็มิได้ แต่เราจะเจริญรอย ตามพระองค์ท่าน


พระองค์ตรัสออกข่าวให้เราเห็นแทบทุกวัน และ วันเกิด ของพระองค์ท่าน จำมาได้ นิดหน่อยเอง แม้แต่พระองค์ ทำความดีถึงขนาดนั้น ก็ยังมี คน ไม่ดี คอย ทำลายท่าน และบรรดา เหล่าเชื้อพระวงค์ และเหล่านักการเมือง บางคน คอย จ่วงจาบเสมอๆ เอาท่านมาเป็นของเล่น บางทีมันกัดกันเหมือนหมา ก็ไม่ปราณ และแก่งแย่ง อำนาจ ฆ่ากัน ตายไม่เว้นแต่ละวันในการ เลือกตั้ง แต่ละครั้ง เดี๋ยวนี้ แม้เลือกตั้ง ผู้ใหญ่บ้าน มันซื้อกัน หลายพันบาท แค่หัวโขนนิดเดียว มันคงนึกว่าพวกมันคงไม่ตาย สิท่า

 

คิดถึงหลวงตาจังเลย

 

ขอสารภาพบาป ผมเห็นท่าน ตอนที่ทำผ้าป่าช่วยชาติ เห็นเงินเห็นทองเยอะแยะ ในใจพาลคิดไปว่า ท่านจะเป็นเหมือนองค์อื่นหรือเปล่าที่พอมีเงินมีทองเยอะก็เปลี่ยนไป แน่นอนทองแท้ยังไงก็ย่อมเป็นทอง ท่านนำเงินทองออกมาช่วยชาติ และเป็นนักพัฒนา ก่อสร้าง บูรณะหลายสิ่งหลายอย่าง
ลูกขอกราบอภัยท่านที่จิตใจของลูกหยาบช้า ขอท่านโปรดให้อภัยลูกด้วยเถิด

 

สาธุ เมื่อใดมีเรื่องไม่สบายใจแค่เห็นรูปหลวงตา เห็นวีดีโอ ฟังเทศน์ทุกอย่างที่เป็นทุกข์ก็บรรเทาเบาบางลงอย่างเห้นได้ชัดเลยครับ

 

กราบนมัสการหลวงตามหาบัว เจ้าค่ะ

อนุโมทนา สาธุค่ะ

 

สาธุครับ

นับว่าเป็นบุญครับ ที่ได้กลับเข้ามาสู่ทางที่ถูกต้อง