ทหารพระองค์ดำรายงานตัวหน่อยครับ

โอ้ย กระทู้วิ่งเร็วเหลือหลาย เห็นวิ่งไปทีหละหน้าสองหน้าก็ขี้เกียจอ่าน วันนี้เลยต้องมาเสียเวลานั่งอ่านไปครึ่งวันเพื่อจะเก็บรวดเดียว 10 หน้า

อิจฉาเรื่องที่ไปเที่ยวกันจัง ฟังเรื่องเล่าแล้วน่าสนุกจริงๆ

 

ในโอกาสนี้ผมก็ขอฝากข้อความถึงคุณทางสายธาตุนึดนึงนะครับว่า ในฐานะที่ผมเป็นเจ้าของกระทู้ และกระทู้ผมอยู่อย่างเป็นปกติสุขมาช้านานแล้ว อีกอย่างสมาชิกในกระทู้ก็รักกันดี เป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน ก็ขอให้คุณทางสายธาตุอย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาทำให้บรรยากาศเสียเลยครับ

ผมไม่รู้เรื่องราวในอดีตของคุณกับพี่พิซซ่า แต่จากที่อ่านๆจากที่คุณโพสเอาไว้ ก็ดูเหมือนว่าคุณเพียงต้องการให้เขาเชื่อว่าคุณไม่ได้เป็นคนที่โทรไปวีนใส่เขา เรื่องนี้พี่พิซซ่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เป็นสิทธิ์ของเขา คุณไปเปลี่ยนอะไรไม่ได้ แต่ที่สำคัญที่สุดเรื่องของกรรมที่มีต่อกันซึ่งผมก็เห็นแล้วว่าเขาอโหสิกรรมให้กันไปหมดแล้ว ผมเลยยิ่งไม่เข้าใจใหญ่เลยว่าคุณจะมาตามตื้อเอาอะไรกันอีก

ผมมีข้อธรรมข้อนึงที่ผมได้มาจากการเล่นเกมส์มือถือจนติดงอมแงมแล้วไปนั่งสมาธิ ชื่อเกมส์ชื่อ Bejeweled2 ครับ หลักของเกมส์คือเอาเพชรมาเรียงกันเป็นแถวให้ได้อย่างน้อย 3 ตัว เล่นไปมันก็ผ่าน level ไปเรื่อยๆ ข้อคิดที่ผมได้มาคือการเกิดขึ้นมาเป็นคนชาตินึงก็เหมือนเข้าไปเล่นเกมส์ทีนึง บางชาติก็ทำได้ดี ได้ level สูงมากๆ บางชาติก็ได้ level ต่ำมากๆ ช่วงเบื่อแล้วหยุดเล่นก็เหมือนมาพักยกอยู่บนสวรรค์ ความรู้ที่ผมได้มาจากการนั่งสมาธิคือ สิ่งสำคัญที่สุดไม่ได้อยู่ที่การได้ level สูงๆ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเลิกเล่นแล้วลบเกมส์นั้นออกไปจากมือถือ (เหมือนการเข้านิพพาน)

สิ่งที่คุณทางสายธาตุทำอยู่คือการที่มัวแต่ไปสนใจกับเกมส์ชีวิตที่แล้ว ทำแล้วมันได้อะไรขึ้นมาเหรอครับ ??? หรือไม่ก็เหมือนกับการที่มาคุยให้เพื่อนฟังว่าเคยเล่นได้ถึง level 50 (ประมาณว่าสามัญชนเล่นได้แค่ level 15 ก็ตายแล้ว) มาคุยกันไปก็เท่านั้นครับ คนที่เขาเชื่อเขาก็เชื่อ คนที่ไม่เชื่อเขาก็ว่าคุณขี้โม้ ที่สำคัญที่สุดคือตอนนี้ทุกคนก็มาเล่นอยู่ Level 1 กันใหม่ทั่วหน้า ตอนนี้มาหยุดเล่นแล้วลบเกมส์ออกจากมือถือกันดีกว่าครับ

 

จบจากห้องประชุมแล้วค่ะ จะค่อยๆตอบนะคะ อาจใช้หลายความเห็นเพื่อตอบเป็นประเด็นๆไป

ที่มาของการรื้อกระทู้ของสุรสีห์มาอ่านมีดังนี้

เปิดอกคุยเลยนะคะ ใครว่าทางสายธาตุมัน ส.ใส่เกือกจริงๆ ก็น้อมรับค่ะ เพราะตอนนั้นกำลังอยากรู้ มันเกิดแรงพลักดันให้อยากตามให้รู้ เพราะว่าไปวัดวรเชษฐ์ครั้งแรกในชีวิต วันที่ 11 มกราคม 2552 ไปวัดแล้วก็มีอาการปวดหัวมาก เพื่อนกับญาติที่ไปด้วยบอกว่าต้องทำบุญให้เจ้ากรรมนายเวรมากๆนะ เพราะเขาอาจจะอยู่กันที่นี่แหละ ก็เลยไปบ่อย บ่อยจนได้ข่าวว่ากุฏิพระอาจารย์สิงห์ทนถูกไฟไหม้ พี่ทางสายธาตุเห็นว่ากระทู้ของน้องกำลังพูดถึงสมเด็จพระนเรศวรอยู่ น่าจะเป็นที่ๆเหมาะที่จะแจ้งข่าว ประกอบกับพี่อ่านเจอคุณอบ คุณชานนคนไทย อีกสักสองสามคน ไปวัดวรเชษฐ์กันอยู่แล้วจึงคิดว่ากระทู้นี้คงสามารถโพสได้ เพราะศรัทธาวัดวรเชษฐ์ก่อนเราเสียอีก แต่พอมาเจอเหตุการณ์ที่โพสเรื่องกุฏิพระถูกไฟเผา คนทำมันต้องตกนรกแน่เลย เขียนแรงเหมือนกันเนอะ แต่คิดว่าที่นี่ศรัทธาวัดวรเชษฐ์คงเข้าใจ แต่ไม่ใช่เช่นนั้น

สิ่งที่ทำให้พี่มีมานะตามหากระทู้ของน้องเก่าๆ เพราะมีครั้งนั้นพี่โพสเรื่องกุฏิพระอาจารย์สิงห์ทนถูกไฟไหม้ มีคุณปืนไฟบอกว่าจะให้ช่วยออกบริจาคเงินแล้วให้ท่านออกไปจากวัดวรเชษฐ์หล่ะจะช่วยแต่จะให้บริจาคซ่อมคงไม่ทำ แล้วที่เมียเก็บเมียซ่อนมันมันมีด้วยหรือ <O</O
<O</O

อีกความเห็นหนึ่งคือ ตอนที่ ปืนไฟ visut และล็อกอินผู้หญิงอีกคนไม่แน่ใจแต่เห็นหน้า (ทั้งสามคนไปวัดวรเชษฐ์ไม่ชวนและไม่บอกน้องป๊อดส์ก่อน)

กล่าวถึงว่าไปพบพระอาจารย์สิงห์ทนมาแล้ว พระอาจารย์ถามว่ารู้ไหม วัดนี้วัดอะไรแล้ว

น้องvisut มาเล่าในกระทู้ว่าวิ่งลงมาหัวเราะข้างล่าง เพราะคุณปืนไฟตอบพระอาจารย์สิงห์ทนไปว่าวัดวรเชษฐ์ครับ

วันวิสาหขบูชาปีที่แล้ว พี่ทางสายธาตุไปถือศีลอุโบสถหนึ่งคือ เช้าวันวิสาขบูชาจึงเดินขึ้นไปลาศีลกับพระอาจารย์สิงห์ทน กำลังเตรียมตัวจะไปวัดชุมพลฯต่อ คุณปืนไฟเดินมาถามดิฉันว่า พระอาจารย์สิงห์ทนอยู่บนนี้ใช่ไหมแล้วชี้ขึ้นไปหอสวดมนต์นเรศวร

พี่ตอบคุณปืนไฟไปว่าใช่ค่ะ ทำไมพี่จึงรู้จัก น้องเคยเอารูปที่ไปเที่ยววัดแถวดอนเจดีย์ วัดที่มีพระบรมรูปของทั้งสามพระองค์ อยู่ใกล้ๆดอนเจดีย์สุพรรณหน่ะ ให้นึกเร็วๆจำชื่อวัดไม่ได้ พี่เลยรู้จักทันที่ที่เห็นหน้าที่วัด
<O</O
มีอีกล็อคอินหนึ่งบอกว่าจะต้องปราบดิฉันให้ออกไปจากกระทู้ให้ได้ มีการเข้าใจอะไรพี่ทางสายธาตุผิดแน่ๆ แต่มันคือเรื่องอะไรไม่รู้ แค่สับสนว่า ตัวฉันนี้มาอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งอะไรของใครกันหล่ะนี่

แล้วทำไมต้องไม่ค่อยชอบพระอาจารย์สิงห์ทนด้วยนะ แล้วมันเป็นยังไงกันแน่นี่เพิ่งจะเข้าเวปมาได้สักสามเดือนหรือสี่เดือนเอง อยาก ส ใส่ เกือก เรื่องของชาวบ้านว่า ขัดแย้งอะไรกับใครหว่า เกี่ยวกับพระอาจารย์ด้วยหรือไม่ เป็นที่มา ของการตามหาข้อมูลกระทู้ สุรสีห์ และ IP address



ชื่อสุรสีห์ และโชว์ IP address พี่ตามเรื่องของน้องจากสิ่งนี้ พี่อ่านแล้วก็ตกใจเรื่องที่น้องเขียนเกี่ยวกับการอยู่กิน ไม่พูดยาวแล้วกันเรื่องนี้ตั้งแต่นั้นข้อความของพี่มีพิมพ์ไม่สมบูรณ์ เขียนไม่รู้เรื่อง หรือผ่านไปหลายๆเดือนแล้วพี่สำนึกได้ว่าพี่เข้าใจตัวเองผิดไป ต้องขอโทษขอโพยและขอแก้ไขคำพูดในกระทู้ของพี่จงรักภักดี พี่พิมพ์ขอโทษไปสองครั้งเพราะความที่เข้าใจตัวเองผิดไป เมื่อเข้าใจผิดหรือพิมพ์ผิด จะทิ้งไว้อย่างนั้นไม่ได้ ก็ต้องแก้ไข นี่คือสิ่งที่พี่ทางสายธาตุทำ ทั้งแก้คำที่พิมพ์ผิด แก้คำที่เข้าใจผิดค่ะ


เอ่ยถึงชื่อล็อคอินอื่นๆเพิ่มเติมอาจทำให้ท่านเคืองทางสายธาตุได้ แต่เมื่อต้องเคลียร์เรื่องราว จึงจะขอให้ท่านอโหสิกรรมแก่ทางสายธาตุในการอ้างถึงท่านในครั้งนี้มา ณ ที่นี้นะคะ เมื่ออ้างถึงก็ต้องขอโทษด้วยค่ะ

ตอบยาวเพราะพิมพ์สัมผัส กลัวจะเบื่ออ่านหรือไม่อยากอ่านบ้าง อดทนหน่อยนะคะ จะค่อยๆตอบไปทีละประเด็นๆค่ะ

<O</O

 

ถ้าเปลี่ยนให้พิซซ่าเชื่อว่าพี่ไม่ใช่คนที่โทรไปวีนจริงๆ ก็น่าเสียใจค่ะ เพราะทางสายธาตุไม่ได้ทำจริงๆ

ไม่มีเรื่องราวในอดีตค่ะน้อง ไม่มีจริงๆ

 

ชีวิตและภพชาติมันจบไปเป็น level ๆ อย่างน้องว่านั่นแหละ ไม่กลับไปเล่น level เก่าแล้ว ที่ทำอยู่คือจะพยายามช่วยพระอาจารย์สิงห์ทน โดยไปทำบุญบ้าง บอกกล่าวเรื่องราวของวัดป่าแก้วบ้าง เรื่องราวงานบุญบ้าง พี่เชื่อว่าถ้าได้บูชาบรรพบุรุษ เมืองไทยจะสงบกว่านี้ พี่ไปวัดเพราะเหตุผลที่สีเสื้อชุมนุมกันจนประเทศชาติเสียหาย ต้องการพึ่งพระบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คือ พระสยามเทวาธิราช เพื่อนข้างบ้านพี่เขาบอกว่าต้องไปไหว้พระนเรศวรนะเธอ ท่านเป็นพระสยามเทวาธิราชแล้ว ตอนนั้นหลังเสื้อหนึ่งปิดสนามบิน พี่ก็ว่าทำเกินไปแม้จะเคยเชียร์ๆกันอยู่ ก็ว่าบ้านเมืองมันจะฉิบหายได้ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่าง

อะไรสักอย่างที่คนธรรมดาสามัญอย่างพี่ทางสายธาตุทำได้คือ การไปพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงนัดกับญาติและเพื่อนข้างบ้านคนนี้ไปด้วยกันเป็นครั้งแรกในวันที่ 11 มกราคม 2552 เพื่อนข้างบ้านคนนี้เขาไปเป็นสิบๆครั้งแล้วตั้งแต่ปี 2541 เขาผูกพันธ์กับที่นี่มานานแล้ว เขาจึงบอกให้พี่ไปไหว้พระสยามเทวาธิราชที่นี่ค่ะเพื่อให้บ้านเมืองสงบ คนธรรมดาๆอย่างเราจะได้ทำมาหากินได้ไม่ต้องได้รับผลกระทบจากการเมือง

พิมพ์ยาวอีกแล้วขออภัย

 

กลับบ้านก่อนนะคะ กำลังได้ i Phone ปลอมมาให้เล่น เลยสนใจสองเรื่องพร้อมๆกันตอนี้ คือตอบกระทู้นี้ กับเล่น i Phone ปลอมจากจีนว่ามันจะดีพอใช้ได้ไหม แต่ตอนนี้ของกลับบ้านก่อนนะคะ แล้วจะตอบต่อจบแน่นอนค่ะคืนนี้

สวัสดียามเย็นค่ะทุกคน

 

จริงๆ ที่โพสไปนั้น..ก็ไม่ได้โกรธใครหรอกนะ เพียงแต่เสียดายเวลาแห่งชีวิตที่มันเหลือน้อย แล้วก็อุตส่าห์มาเป็นผู้ปฏิบัติธรรมกันแล้ว..ก็อยากจะบอกว่า อดีตมันไม่ได้มีความสำคัญหรอก รู้แล้วจริงหรือไม่จริงมันก็แค่นั้น ไปค้นคว้าหามันมา แล้วสุดท้ายก็ต้องเป็นทุกข์ ต้องก่อวิบากขีึ้น มันไม่ได้คุ้มค่ากับเวลา กับลมหายใจที่สูญเสียไปเลยแม้แต่น้อย

คนที่ควรดูแลให้ดีก็คือ ตัวของตัวเอง ตัวเป็นๆ ในปัจจุบันนี่แหละ...สุดท้ายแล้ว แม้จะเคยเป็นใครมาก็ตาม ยิ่งใหญ่ขนาดไหนก็ตาม อนาคตต้องเสวยกรรมดำที่ตนเองก่อขึ้นในปัจจุบันนี่ แล้วมันจะคุ้มตรงไหนกันล่ะ

อยู่กับปัจจุบัน..ทำในปัจจุบัน..รู้ในปัจจุบัน...การปฏิบัติธรรมนั้นมีเท่านี้แหละ

ไม่เห็นด้วยเลยที่คุณทางสายธาตุจะนำกระทู้เก่าๆ ในไทยฟิล์มมาโพสอีก มันเหมือนจงใจจะประจานกันมากกว่าคิดทำความเข้าใจกัน คิดว่าการยุติแต่เพียงเท่านี้นั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะขณะนี้ ถ้าพูดในทางโลกแล้ว..การที่คุณเข้ามาโพสที่นี่ มันมีแต่เข้าเนื้อคุณเองมากขึ้นทุกที ไม่มีประโยชน์โภชน์ผลอันใดเลย..

เห็นด้วยนะ...อยากได้ความสงบสุขกลับคืนมาบนพื้นที่เล็กๆ แห่งนี้เหมือนกัน

 

สวัสดีค่ะคุณเต้าเจี้ยว พิษณุวางเฉยจนเกินเฉยไปแล้ว แต่อีกคนยังไม่จบก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร

มีคนเคยบอกนางฟ้าว่า ถ้ามีคนมาหาเรื่องอธิบายแล้วก็ยังไม่เข้าใจยังจะคอยหากระดูกในไข่จะต้องทำดังนี้
(1) เดินหนี
ถ้าเขายังเดินตามมาด่า
(2) ให้ทน
ถ้าเขายังไม่เลิกรา
(3) ให้สู้

พิษณุมาที่นี่จากที่นางฟ้้าเริ่มอ่านที่กระทู้แรก ก็ไม่เคยเห็นพิษณุจะพูดถึงเรื่อง ท้าว สนม กรมใน ในช่วงสี่ร้อยกว่าปีก่อนเลย มีแต่คุยกันเรื่องทหาร ความเป็นอยู่วัฒนธรรมความรู้สึกนึกคิด ศีลธรรมของคนสมัยนั้น ตบท้ายทุกครั้งพิษณุจะมีข้อคิดดีๆ ให้เราได้คิด ซึ่งพี่ๆ และน้องๆ ที่จำเรื่องราวในสมัยนั้นได้ ไม่ว่าจะด้วยทางใด ทุกคนก็ช่วยกันเล่าให้ฟัง และมักจะลงแง่คิดดีๆ เอาไว้เสมอ ถึงทุกคนจะมาจากต่างถิ่นต่างที่แต่สิ่งที่ทุกคนมีเหมือนกันคือกัลยาณจิตที่ดีต่อกัน จนกลายเป็นกัลยาณมิตร

ใครที่ออกไปจากกระทู้โดยหายไปเฉยๆ แล้วมาบอกว่าที่ออกเพราะอย่างนั้นอย่างนี้น่ะ อยากรู้เหมือนกันใครใจร้ายไล่ออกไป เท่าที่จำได้ ไม่เคยมีใครไล่ใครแน่นอน

เรื่องของเรื่องตั้งแต่ทีแรกน่ะ ถ้าคุณทางสายธาตุไม่นำอะไรๆๆ ที่ไทยฟีล์มมาน่ะ ไม่มีใครว่าอะไรคุณหรอก ทีแรกก็ขอความเข้าใจ อโหสิกรรมไปแล้ว แต่ยังตามมาตอแยเหมือนเด็กเล่นไม่เลิก ไม่รู้เหมือนกันว่าตกลงแล้วใครผิดนะ

อ้อ.. ที่คุณบอกว่าคุณไม่ใช่ใครต่อใครในไทยฟีล์มน่ะ นางฟ้าเคยบอกไปแล้วนะว่าคนกลุ่มนั้นเขารู้ตัวกันไปแล้วว่าใครคือใคร แล้วเรื่องมันก็จบกันไปตั้งนานแล้ว คุณยังเอามาเป็นประเด็นอีกเหรอ แสดงว่าคุณไม่สนใจคำเขียนของใครเลย คุณจะเอาแต่ข้อเขียนที่คุณต้องการเท่านั้น...


ปล. PM คุณ เราก็ได้รับ แล้วที่คุณเขียนถึงเรากับอีกสามสี่คนว่าขอชี้แจงเฉพาะกับคนที่อยู่ในหน้าสุดท้ายเท่านั้น เรารับฟัง เราเข้าใจแต่เราไม่ได้ตอบออกไป แต่สงสัยมากว่า ทำไมสุดท้าย คนรับกลายเป็นสิบกว่าคนได้เราก็งงเหมือนกันนะ

 

นางฟ้าคิดว่าถ้าเจ้าของกระทู้มาขออย่างนี้แล้วคุณทางสายธาตุยังไม่หยุดก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว

ใครก็บังคับกันไม่ไ่ด้นะ

 

เหตเกิดจากเรื่องนี้แหละ พี่ใบไม้รอจูอธิบายจบก่อนเพราะต้องการตอบน้องเขาให้จบนะพี่นะ

ต่อ

พี่ไม่ใช่แม่อิน ไม่ใชเจ้าขรัวมณีจันทร์นะน้อง เชื่อได้เลยค่ะ ไม่มีแววจะใช่เลยค่ะน้อง

พี่ไม่ใช่คนที่น้องรู้จักเมื่อ 4-5 ปีก่อนด้วย เราสองคนรู้จักกันผ่านตัวหนังสือนะน้องตั้งแต่ต้นปี 2552 นั่นเอง และที่น้องบอกว่าพี่โทรไปวีนน้อง ไม่ใช่จริงๆ จ๊ะ

ไม่ต้องไปอ่านแล้ว เพียงแต่พี่ไม่ได้เขียนหนังสือที่น้องแก้วเอามาโพสมาส่วนนั้นจริงๆ พี่ไม่ได้ลอกหนังสือมาเขียน ไม่ได้อยากให้เชื่ออย่างที่เราเชื่อ แต่ที่พี่เชื่อมากๆตอนนี้คือ วัดวรเชษฐ์เป็นวัดป่าแก้วแห่งกรุงศรีอยุธยา ตามประวัติที่ตามมา ดูจากลายเซ็นต์พี่ได้ อ่านหลักฐานต่างๆแล้วก็มั่นใจตามนั้นจริงๆ ยังไงๆก็คงไปช่วยพระอาจารย์ที่วัดวรเชษฐ์ต่อไป พระท่านอาจจะอยู่ลำบากแล้วถอนตัวได้ ต้องไปบำรุงท่านหน่อย ถึงท่านถอนตัวไป วัดนั้นก็ยังเป็นวัดป่าแก้วแห่งกรุงศรีอยุธยาอยู่ดี พี่ก็จะไปเรื่อยๆรณรงค์ไปจนกว่าความจริงจะปรากฏต่อสังคม อันนี้เป็นเป้าหมายส่วนตัวในการไปบำรุงรักษาสถานที่แห่งนั้น

 

ไม่มีการสนทนาเรื่องของน้องใน FB พี่แน่นอน ยกเว้นหาเพลงต่างๆมาลองฟังดู คนอื่นเข้าไม่เข้าใจแน่นอน ขืนพูดเรื่องของน้อง เพื่อนๆพี่จะได้งงตายมีคุยกับคนอีกคนเดียวที่มาจากเวปนี้เหมือนกัน

อันนี้พี่ทางสายธาตุไม่ได้แกล้งไม่เข้าใจนะ แต่ไม่เข้าใจจริงๆ หมายถึงอะไร งงงง

เรื่องลบกระทู้นั้น น้องพิษณุลบเองนะเพราะเป็นกระทู้ของน้อง น้องลบไปแล้วทั้งกระทู้ อีกอย่าง พี่ไม่ใช่หรอกคิดไปคิดมา คนเตือนสติก็มาก ไม่ใช่ท่านเจ้าขรัวฯหน่ะดีแล้ว พี่ไม่ใช่ท่านหน่ะดีแล้ว ดีมากๆไม่งั้นเดี๋ยวจะทำมาหากินไม่ขึ้น เพราะคิดผิดๆว่าตัวเองใช่ ก็ต้องปรับความคิดความอ่านให้ถูกต้อง แรกๆสัมผัสอาจจะคิดว่าใช่ แต่เมื่อรุ้ตัวแล้วว่าไม่ใช่ก็ต้องปรับสภาวะจิต การพูดต้องสำรวมไม่ใช่จะตะบี้ตะบันจะเป็นท่านให้ได้ อันนั้นจะทำให้หลงทางไปไม่ถึงไหน

น้องโปรดเรียกครูของน้องว่า ท่าน หรือสมเด็จฯ เถิด อย่าเรียกเขาหรือพี่ฮีโร่อีก แต่คิดว่าน้องเปลี่ยนแล้วเรื่องนี้ เรื่องนี้พี่ขอโทษเพราะถือว่าน้องเปลี่ยนแล้ว

เรื่องนี้ไม่ได้พูดแน่นอน แค่บอกว่าให้คุณนารถฯไปตามคุณไก่ฯในกระทู้พี่จงรักภักดีคิดว่าคุณกับคุณไก่ฯคงเป็นกลุ่มเพื่อนเดียวกัน ก็เดาว่าเป็นเพื่อนกันเท่านี้

 

ก็เพราะพี่ไม่ใช่คู่กรณีของน้องพี่ต้องการให้น้องเชื่อ น้องก็ยังไม่เคยบอกว่าเชื่อแล้ว ว่าไม่ใช่ แต่บอกว่าไม่อยากเกี่ยวข้องด้วย อ้าว พี่ไม่ใช่คนนั้นไง ถ้าเข้าใจแล้วเราอาจจะเกี่ยวข้องกันรู้จักกันได้ก็ได้นะ

ไม่เคืองไม่เคือง ประวัติศาสตร์ยังดิ้นได้อีกแล้วแต่การตีความ พี่ก็หาไปใช่หรือไม่ใช่ยังฟันธงไม่ได้ เอาเท่าที่หาหลักฐานได้ก็ตามไป ตามแบบนักประวัติศาสตร์สมัครเล่นหน่ะน้อง

 

แปลกแฮะ เหมือนคุณทางสายธาตุเขาจะไม่เข้าใจความต้องการของเรา เอาเป็นว่าผมก็ขอไม่อ่านข้อความของคุณทางสายธาตุให้เสียจิตอีกหนึ่งคน เรากลับมาสู้บ้านอันสงบอีกรอบดีกว่า ถ้ามันวุ่นวายมากนักเดี๋ยวผมก็จะลบกระทู้มันซะเลย

อีกเรื่องที่ผมลืมบอกคุณทางสายธาตุเรื่องวัดวรเชษฐ์ ผมจะบอกว่าผมก็ไปไหว้ที่วัดนี้ทุกครั้งที่ไปเที่ยวอยุธยา แต่ผมไม่ได้ไปด้วยเหตุผลที่ว่าที่นี่คือวัดป่าแก้ว เพราะผมก็รู้มาว่ามันไม่ใช่ แล้วก็ไม่ได้ไปไหว้พระบรมอัฐิของพระองค์ดำด้วย เพราะผมก็ว่ามาว่ามันไม่ใช่อีกนั้นแหละ แล้วถ้าคิดจะไหว้สมเด็จพระพนรัตน์??? ผมก็ไม่ไปที่นั่นอีกนั้นแหละ ผมไปไหว้ด้วยเหตุผลอื่นแต่ผมขอไม่บอกใคร

 

จบก็จบนะน้อง น้องไม่อ่านพี่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีก


เอาเป็นว่าพี่ไม่ใช่คนที่เคยโทรไปทำร้ายจิตใจน้อง เรื่องที่น้องกล่าวว่าพี่เสียๆหายๆ พี่ขอไม่รับนะ กองไว้ในกระทู้นี้ เพราะพี่ไม่ได้วีนไม่ได้โทร ไม่ได้ห้ามน้องเรื่องการนับถือสมเด็จ น้องไม่ฟังก็ไม่เป็นไร พี่อโหสิกรรมให้

ถือว่าเราจบกัน แค่นี้อโหสิกรรมต่อกันล่ะนะ

และพี่จะลบโพสที่เกี่ยวข้องกับ เนื้อหาอันนำมาจาก thai film และ thai misc ทั้งหมด ส่วนที่ถามตอบน้องก็ขอไว้อย่างนี้นะ

จบแล้วก็ดี พี่จะไปเล่น iphone ปลอมของพี่ต่อ เดี๋ยวตามไปลบให้ ขอโทษที่โพสไว้ พี่อยากให้รู้ว่าข้อมูลพวกนี้มันหาได้ไม่ยาก มีใครอีกหลายคนที่เขาอ่านเข้าไปแล้ว จึงจำเป็นที่จะต้องรักษาภาษาไทยที่ใช้ให้สละสลวยพี่จึงพยายามทำให้ดีที่สุดในการเขียนกระทู้

สวัสดีค่ะ

 

โอม นริสสะ ภูมิราชราชา สยามเทวา เกียรติ์ก้อง
อายาปี กสิณตา ยุทธหัตถีลือชา ทั่วเขตขาม
สักกะพันตา นารายะ นะมะ ศิวา อะอุ พรหมา
ทั่วภูมิเทวโลก สรรญเสริญ แซ่ซ้อง เทวราชนเรศวร

....การให้อภัยแก่กันและการอโหสิกรรม...เป็นทานอันประเสริฐสุด...

 

ตลอดเวลา 3-4 วันที่ผ่านมาปราญฯเข้ามาป้วนเปี้ยนอยู่ในกระทู้นี้เพราะดีใจที่ได้มาอ่านเรื่องราวที่พี่ๆไปเที่ยวเชียงใหม่ ไปทำบุญกันมา

ทุกๆข้อความที่ได้อ่านทำให้ปราญฯรู้สึกปีติ นึกอนุโมทนาตาม เหมือนเราได้อยู่ร่วมในคณะการเดินทางนั้น
พี่ๆที่มาเล่าแต่ละคนก็มาเล่าให้ได้อ่านด้วยจิตใจที่เป็นกุศลทั้งหมดทั้งมวล
ปราญฯมีความสุขมากๆค่ะ ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา
ทุกครั้งที่กดปุ่มอนุโมทนา ปราญฯกดด้วยใจที่อยากอนุโมทนาจริงๆทุกครั้ง

ปราญฯขอบคุณอย่างที่สุดสำหรับพี่อินฯ พี่นางฟ้า พี่ลูลู่ พี่พิซซ่า พี่กรอง ที่ได้มาเล่าเรื่องราว เอารูปมาลงให้ดูด้วยความตั้งใจ อ้อ แล้วก็พี่ใบไม้สำหรับเพลงประกอบเพราะๆ

ส่วนข้อความใดที่ปราญฯรู้สึกว่าอาจจะก่อให้เกิดอกุศลทางใจ เช่น อ่านแล้วไม่สบายใจ อ่านแล้วรู้สึกสับสน อ่านแล้วไม่ปลอดโปร่งในใจ ปราญฯเลือกที่จะมองข้าม ไม่อ่าน ปล่อยผ่านและไม่สนใจ

ไม่ใช่เพราะปราญฯจะกล่าวตำหนิผู้ที่นำข้อความมาลงนะคะ ปราญฯรู้ว่าทุกคนย่อมมีความคิดส่วนตัว ความเห็นส่วนตัว ความเข้าใจส่วนตัวซึ่งแต่ละคนย่อมมีพื้นฐานเหล่านี้ที่แตกต่างกัน แต่ที่ปราญฯเลือกจะไม่อ่าน เพราะภูมิจิตภูมิธรรมของปราญฯยังด้อยนัก หากปัญญาที่ปราญฯมีเปรียบเสมือนน้ำฝนบริสุทธิ์ ปราญฯก็มีอยู่เพียงไม่ถึงขัน แทบจะไม่พอประทังความกระหาย สิ่งใดที่รับมาแล้วอาจทำให้เกิดการปนเปื้อน ไม่ว่าจะดีหรือไม่ก็ตามปราญฯจึงเลือกที่จะปฏิเสธ เพราะปราญฯยังไม่มีปัญญามากพอที่จะแยกแยะว่าสิ่งใดคือน้ำฝน สิ่งใดคือน้ำประปาค่ะ

ป.ล. พี่พิซซ่า พี่นางฟ้า พี่ลูลู่ ยังมีอะไรที่ลืมเล่าป่ะคะ น้องปราญฯยังมาปูเสื่อรอฟังอยู่น๊า

 

สวัสดีค่ะ คุณเต้าเจี้ยว ใจ ส่ง ถึงใจ จริงๆๆเลยเนอะ คิด จะทักก่อน แต่ อินเตอร์เน็ต ไม่เป็นใจ มันแฮงค์อะ คิดถึงเสมอๆๆ:'(
ป.ล รู้จักกะน้องปราญชลีด้วยเหรอ ว้าว กลับไปหวัง ว่าจะได้ เจอกันซักทีนะคะ

 

จัดไป ให้ไว้อย่าได้เสีย หุหุ

เบื้องหลังการถ่ายทำงานนี้นางฟ้าไม่ค่อยจะมีอะไรมาเล่าให้ฟังอ่ะค่ะ ^^" เพราะช่วงเวลาที่อยู่พิษณุโลกเชียงใหม่มันน้อยเหลือเกิน

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่จะเล่าให้ฟังกันแบบขำขำ
จริงๆเรื่องนี้มันนานปีโขแล้วไหนๆ ป้าลู่ฟื้นตะเข็บไว้เมื่อสามสี่วันก่อน
เราจะเอามาเล่าล่ะ
อิอิ ป้าลู่อย่าว่ากันนะ

เมื่อครั้งแรกที่ได้ไปทริปกับคณะ เราไปค้างที่รีสอร์ทแห่งนึงในจังหวัดกาญฯ
ห้องพักที่อยู่นั้น เราได้ห้องข้างป้าลู่เป็นแว่บแรกที่เปิดเข้าไป
แอ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด
เหม็นอับ... คงเนื่องมาจากไม่มีคนพักนาน มองซ้ายมองขวา
อือม์... บรรยากาศพอนอนได้ เราก็ออกมาเตรียมตัวไปทานข้าวกัน

พอทานข้าวกลับมาอิ่มๆ อาบน้ำ อาบท่า เตรียมตัวคิดว่าจะนอน
พอออกจากห้องน้ำ.... ทำไมบรรยากาศห้องเปลี่ยนไป ฮิฮิ

เกิดอาการใจไม่ดี (เอาแล้วความกลัวเริ่มแล่นเข้าจับร่าง)
ไปเคาะห้องป้าลู่ขนอุปกรณ์นอนไปด้วย
ในที่สุดก็ต้องง้อป้าลู่ ทีแรกบอกซะแข็งขันว่าจะนอนคนเดียว TT^TT
ป้าลู่ก็แสนใจให้นอนด้วย ตกดึกเกิดอาการตาค้างนอนไม่หลับ
ไม่สิเรียกว่าหลับไม่สนิทซะมากกว่า

ระหว่างนอนพลิกไปพลิกมาด้วยอากาศก็ระอุๆ อยู่ดีๆ ป้าลู่ก็มีอาการ...

 

ป้าลู่พึมพำๆ อะไรซักอย่าง เล่นเอาเราหันกลับไปมองด้วยความหวาดระแวงว่า
เฮ่ย..มันยังไม่หลับเหรอ

ปรากฎว่า ป้าแกละเมอ - -"
พอซักพัก็แกก็เงียบ ได้ยินเสียงกรน ฟี้เบาพอน่ารัก ไอ่เราก็จะหลับตาเพื่อนอนบ้าง
เพราะวันรุ่งจะต้องแปลงกายเป็นพลขับอีก
ซักพัก รู้สึกป้าแกรจะขยับร่างอันอวบอิ่ม

เราก็หันไป เห็นแกยกมือขวาขึ้น
ป้าแกรเป็นคนที่แขนยาว (อวบอิ่ม) นิ้วยาวสวย
ถ้ายกธรรมดาคงไม่ตกใจ ดันยกมือแล้วทำมือจีบๆ อะไรซักอย่างด้วยเนี่ยซิ

เล่นเอาเรากำพระแน่น - -"

แกยังคงแสดงความเฮี้ยนต่อด้วยการพึมพำๆๆ อะไรซักอย่าง..
โห่ๆๆ ป้าลู่แค่ยกมือหัวใจเดี๊ยนก็ตกตาตุ่มไปแล้ว

เล่นพึมพำๆ อะไรด้วยเนี่ย ไม่ไหวนะ T^T

ก็เป็นอยู่อย่างนี้ประมาณ สองรอบ (รอบสองมีวนมือด้วย ฮือๆ )
แล้วแกก็นิทราสบายอารมณ์ ปล่อยคนมองประสาทค้างต่อไป

พอเริ่มปรับอารมณ์ได้แล้ว จะเข้าแดนง่วงกะเขามั่ง
ก็ได้ยินเสียง กรอบแกรบๆ อีก - -"
เอ่อ.. จะแกรบทีเกรงใจกันบ้างก็ได้นะคะ
สุดท้าย... มาหลับเอาตอนตีสี่ นอนไปได้สามชม.
ก็ตื่นขึ้นมาเป็นพลขับแบบงัวเงียต่อไป

 

ครั้งนี้ขึ้นพิดโลก จึงตัดสินใจว่าเป็นตายยังไงก็จะไม่นอนกะป้าลู่เด็ดขาด

แต่.. สุดท้ายเนื่องด้วยโทรศัพท์เจ้ากรรมม่องเท่ง
แผนล่อเสืออกจากถ้ำจึงต้องงัดออกมาใช้

แล้วก็ข้ามไปอ้อนป้าลู่มานอนด้วย
ป้าก็ใจง่ายข้ามมานอนอย่างง่ายดาย
คงเห็นเพื่อนกำลังใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
ไม่งั้นชีคงเล่นตัวน่าดู

จริงๆ จะมาเฉลยว่า ห้องป้าลู่น่ะไม่ได้มีอะไรหรอก
แต่ห้องที่เรานอนกัน สองคืนน่ะมันมี "ซัมติง" ด้วย


คริคริคริ